คลังเรื่องเด่น
-
ถวายสังฆทานให้พระองค์เดียวได้ไหม : หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
#หลวงพ่อตอบปัญหาธรรมเรื่องอานิสงส์ของการถวายสังฆทาน
ผู้ถาม :- "หลวงพ่อคะ ถวายสังฆทานให้พระองค์เดียวได้ไหมคะ.?"
หลวงพ่อ :- "ได้ แต่พระไปกินองค์เดียวพระองค์นั้นลงนรก นี่เรื่องจริงนะ อย่างฉันรับนี่ฉันรับองค์เดียว แต่ว่าองค์เดียวนี่ถือว่าเป็นผู้แทนคณะสงฆ์นะ อย่าไปกินไปใช้แต่ผู้เดียว นี่ไม่ได้ ของเขาย่อมมีอานิสงส์สมบูรณ์แบบ พระองค์เดียวหรือพระ ๓ องค์ ถือว่าเป็นผู้แทนสงฆ์ พระ ๓ องค์ก็แบ่งไปใช้แค่ ๓ องค์ไม่ได้ จะต้องไปรวมทั้งคณะ คำว่า สังฆทานสังฆะ เขาแปลว่า หมู่"
ผู้ถาม :- "ลูกเป็นคนยากจนมีเงินน้อย อยากจะได้อานิสงส์มาก ๆ จะทำบุญอย่างไรดีคะ...?"
หลวงพ่อ :- "คืออานิสงส์จริง ๆ ต้องทำบุญให้มากที่สุดเท่าที่จะพึงทำได้ สมมุติว่าเรามีเงินอยู่ ๑๐ บาท จะไปมาที่นี่เสียค่ารถ ๖ บาท กินก๋วยเตี๋ยว ๓ บาท ได้ครึ่งชามแล้ว หมดไป ๙ บาท เหลือ ๑ บาท เขียนที่หน้าซองเลยว่า เงินนี้ถวายสังฆทาน วิหารทาน และธรรมทาน อันนี้อานิสงส์มากเหลือเกิน จำนวนเงินเขาไม่จำกัด เขาจำกัดกำลังใจ ถ้ากำลังใจมุ่งด้านดีนะ
การทำบุญมากๆ คำว่า ทำมาก หมายความว่า ทำบ่อยๆ แต่คำว่า บ่อย ไม่ต้องทุกวันก็ได้นะ คำว่า มาก หมายความว่า... -
ข้ามขีดจำกัดของการสื่อสาร!! "สมเด็จพระญาณสังวรฯ" ทรงใช้ "โทรจิต" นิมนต์คณะพระเถระอีสานที่อยู่กระจัดกระจายในป่าให้มารวมกัน ณ จุดนัดพบ!!
ข้ามขีดจำกัดของการสื่อสาร!! "สมเด็จพระญาณสังวรฯ" ทรงใช้ "โทรจิต" นิมนต์คณะพระเถระอีสานที่อยู่กระจัดกระจายในป่าให้มารวมกัน ณ จุดนัดพบ!!
"สมเด็จพระญาณสังวรฯ" นั้น คนจำนวนมากอาจไม่รู้หรือไม่ทราบว่าทรงมีบารมีธรรมในด้านปาฏิหาริย์ กระทั่งเข้าใจว่าทรงเป็นแค่พระสงฆ์ธรรมดาที่ปกครองคณะสงฆ์และปฏิบัติธรรมวินัยไปตามปกติ แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่
สมเด็จพระญาณสังวรฯ ทรงเป็นผู้ทรงอิทธิปาฏิหาริย์ตามภูมิธรรมอันสูงที่พระองค์ทรงบรรลุแล้ว อิทธิปาฏิหาริย์นี้ก็คือการกระทำความมหัศจรรย์เหนือกว่าความสามารถของมนุษย์ธรรมดา ซึ่งเคยมีผู้เห็นประจักษ์หลายครั้ง ดังที่จะยกมาเป็นตัวอย่างต่อไปนี้
สมเด็จพระญาณสังวรฯ
เมื่อครั้งที่ยังมีสงครามระหว่างรัฐบาลกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ทรงรับสั่งให้นิมนต์พระมหาเถระทางภาคอีสานหลายรูปซึ่งเป็นพระป่า ไม่อยู่เป็นที่เป็นทาง แต่มีภูมิธรรมขั้นสูง ทว่าเนื่องด้วยข้อจำกัดของการคมนาคมและการสื่อสารในสมัยนั้น ตลอดจนอุปสรรคในด้านความปลอดภัย เจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถติดต่อนิมนต์พระมหาเถระเหล่านั้นได้
เวลาต่อมา พลตรีอมรรัตน์ จินตกานนท์... -
ผีกัด...อย่ากัดตอบ!! สุดสยอง...เมื่อ "ผีกองกอย" ในป่าดิบเขตลาวพยายามจะเอาชีวิตหลวงปู่แหวน ... แต่สุดท้ายต้องยอมสยบให้กับ "พลานุภาพแห่งความสงบ"!!
ผีกัด...อย่ากัดตอบ!! สุดสยอง...เมื่อ "ผีกองกอย" ในป่าดิบเขตลาวพยายามจะเอาชีวิตหลวงปู่แหวน ... แต่สุดท้ายต้องยอมสยบให้กับ "พลานุภาพแห่งความสงบ"!!
"หลวงปู่แหวน สุจิณโณ" อดีตเจ้าอาวาสวัดดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่ เคยเล่าว่า เมื่อครั้งที่ท่านไปธุดงค์ในป่าดิบทึบในเขตคำม่วน ประเทศลาว พร้อมกับ "หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม" นั้น ท่านทั้งสองได้ผจญภัยกับ "ฝูงผีกองกอย" (ข้อมูลบางแห่งเรียกว่า "อสุรกาย") ในเวลากลางคืนด้วย ลักษณะของมันเหมือนเด็กอายุประมาณ ๑๓-๑๔ ปี รูปร่างผอม แต่พุงป่อง ผิวคล้ำ ผมเผ้ารุงรัง จมูกบี้แบน ในมือถืออาวุธคล้ายหน้าไม้หรือธนูอันเล็กๆ ส่งเสียงร้อง "ก๋อย...ก๋อย...ก๋อย"
ผีกองกอยพยายามจะเข้ามาทำร้ายหลวงปู่ทั้งสอง แต่ท่านก็รับมือกับพวกมันด้วยการนั่งสมาธิ และด้วยพลานุภาพของสมาธิจิต พวกมันจึงไม่อาจทำอะไรท่านได้
จวบจนกระทั่งรุ่งเช้า ผีกองกอยก็ยอมแพ้ ขอขมาต่อหลวงปู่ทั้งสอง และได้นิมนต์ท่านไปยังที่อยู่อาศัยของพวกมัน ท่านจึงพบว่า แท้จริงแล้ว ผีกองกอยฝูงนี้ก็คือ "คนป่าเผ่าข่าระแด" ซึ่งมีพฤติกรรมล่าและฆ่ามนุษย์ที่ล่วงล้ำเข้ามาในถิ่นของพวกมัน แล้วเอาเนื้อมากิน!!
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ... -
"ในหลวง ร.๑๐" พระราชทานภาพวาดฝีพระหัตถ์ พร้อมคำอำนวยพร จำหน่ายนำรายได้ทูลเกล้าฯเป็นพระราชกุศล "รัชกาลที่ ๙" ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้
"ในหลวง ร.๑๐" พระราชทานภาพวาดฝีพระหัตถ์ พร้อมคำอำนวยพร จำหน่ายนำรายได้ทูลเกล้าฯเป็นพระราชกุศล "รัชกาลที่ ๙" ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานภาพวาดฝีพระหัตถ์ เพื่อจัดทำ บัตรอวยพร ปี 2560 รวม 4 แบบ เพื่อนำรายได้จากการจำหน่ายทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายเป็นพระราชกุศลใน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมทบทุน ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ โดยได้ทรงวาดภาพ และทรงเขียนคำอำนวยพร และหลักปรัชญาในการปฏิบัติตนเพื่อให้เกิดความสุข ซึ่งภาพวาดฝีพระหัตถ์ทุกภาพ จะมีภาพบ้าน ต้นคริสต์มาส ตุ๊กตาหิมะ กล่องของขวัญ คนที่กำลังมีความสุข และสุนัข
โดยบัตรอวยพรแบบแรก ยังมีภาพพระพุทธรูป และคนที่กำลังสักการะ พร้อมข้อความ "ดับทุกข์ ดับโศก ดับโรค ดับภัย ด้วยใจ หนักแน่น มีจิตและศีลสังวร สมาธิแนบแน่น สงบ และเจริญปัญญา ความสุขมีแน่ ค่อยเป็นค่อยไป" ส่วนที่ด้านข้างมีข้อความ "ส.ค.ส. ส่ง ความสุข ด้วยใจรัก หวังดีต่อกัน คิดดี ๆ สุขใจจริง ๆ" พร้อมภาพเทวดา มีดาว และโทรศัพท์" ที่ด้านล่างมีข้อความ "ส่งความสุข เพิ่มพูนสติ สร้างปัญญา มุ่งเดินหน้า ด้วยคิดดี เมตตา และรอบคอบ... -
อานุภาพพระบรมสารีริกธาตุ
อานุภาพพระบรมสารีริกธาตุ
พระธรรมคำสอน "สมเด็จองค์ปฐม"
“เรื่องพระธาตุรวมตัว ที่พระ...ท่านสัมผัสได้ว่า
แต่ละองค์มีรัศมีป้องกันเขตพื้นที่ไปในระยะ
๑๐ กิโลเมตรนั้น เป็นความจริง และสมควรที่จัก
ได้กระจัดกระจายไปตามวัด และสถานที่ต่าง ๆ
ตามที่สมควร อย่าพะวงว่าเขาทำไม่ได้ทุกอย่าง
เป็นไปได้ตามที่พระธาตุเหล่านั้นได้เสด็จมา
ตามจุดประสงค์เพื่อรักษาเขตประเทศไทย
ในยามเกิดสงครามใหญ่โดยเฉพาะ”
“แต่อย่าคิดเชียวนะว่า ผู้มีพระธาตุบูชาจักไม่ตาย
เพราะที่สุดในโลกนี้ไม่มีอะไรเหลือ คนหรือสัตว์
วัตถุธาตุพังหมด จักมายึดว่ามีพระธาตุบูชา แล้ว
จักพ้นความตายไปนั้นไม่ได้
ท่านเพียงแต่ป้องกันอันตรายจากภัยสงคราม
ชีวิตหรือทรัพย์สิน หากไม่พ้นกฎของกรรม
ท่านก็ช่วยได้เท่านั้น แต่ถ้าหากจักต้องชดใช้
กฎของกรรม ท่านก็ช่วยไม่ได้เหมือนกัน”
“ภิกษุใด นักบวชใด ที่ไม่เชื่อในพุทธคุณ
จงอย่าให้ เพราะเขาไม่เชื่อหรอกว่าเป็นพระธาตุ
พวกนี้อวดว่าตนเองมีความรู้ดี ทั้ง ๆ ที่สังโยชน์ ๑๐
ยังอยู่ครบ จะเป็นเหตุให้เขาต้องโทษปรามาส
พระรัตนตรัยได้โดยไม่รู้ตัว”
“สำหรับฆราวาสที่เชื่อถือในพุทธคุณ ก็ให้เขา
ไปบูชาได้ บอกว่ามีอานุภาพป้องกันภัยสงคราม... -
ตะลึง! ยอดคนดูล้านกว่าคน! เพียงวันเศษ " ศพไม่มีญาติเผาให้ฟรี คนอยากบวชบวชให้ฟรี" ที่วัดบางมดโสธราราม
ที่แฟนเพจ ของเรา พลังจิต Palungjit.org พุทธศาสนาและธรรมะ
ได้โพสรูปด้านล่าง ทั้งสมาชิกและชาว Facebook แห่กันกดไลค์กดแชร์
เพียงวันเศษๆ ยอดคนเข้าดู 1ล้านกว่าคน
วัดบางมดโสธราราม
ศพไม่มีญาติ ทำพิธีเผาให้ฟรี
คนอยากบวช
แต่ยากจนไม่มีเงิน
บวชให้ฟรี
ติดต่อ พระครูพิศุทธิ์จันทรังษี
เจ้าอาวาธวัดบางมดโสธราราม
โทร 099 413 3323 -
หากันจนเจอ!! เมื่อ "สมเด็จโต" ถูกประกาศตามตัวข้ามแผ่นดิน ... ทำไมถึงหนีรัชกาลที่ ๓ พ้น แต่หนีรัชกาลที่ ๔ ไม่พ้น?!!
หากันจนเจอ!! เมื่อ "สมเด็จโต" ถูกประกาศตามตัวข้ามแผ่นดิน ... ทำไมถึงหนีรัชกาลที่ ๓ พ้น แต่หนีรัชกาลที่ ๔ ไม่พ้น?!!
"สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)" วัดระฆังโฆสิตาราม เป็นอริยสงฆ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ผู้แตกฉานยิ่งในพระปริยัติธรรม เป็นพหูสูต รอบรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม มีความเจนจบทั้งพุทธศาสตร์และไสยศาสตร์ สันนิษฐานว่า ท่านเป็นบุคคลที่สันโดษมักน้อยจริงๆ และไม่ยินดีในเกียรติยศชื่อเสียง การศึกษาของท่านเป็นไปเพื่อต้องการความรู้เท่านั้น จึงไม่นิยมสอบเปรียญธรรมนัก
สมเด็จโตเป็นนักเทศน์ที่หาตัวจับยากในยุคต้นรัตนโกสินทร์ ท่านได้แสดงความเป็นอัจฉริยะตั้งแต่เยาว์วัย ทั้งเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าแผ่นดินและประชาชนคนเดินดินทั่วไป คุณวิเศษสำคัญประการหนึ่งของท่านคือ สามารถเทศน์ให้หัวเราะก็ได้ ให้ร้องไห้ก็ได้ ให้คนเทกระเป๋าทำบุญก็ได้ นอกจากนี้ ท่านยังเป็นนักโหราศาสตร์ ทำนายดวงชะตาได้แม่นยำ และยังเป็นนักใบ้หวยที่โด่งดังอีกด้วย
ในการเรียนของสมเด็จโตนั้น กล่าวกันว่า ท่านเรียนจนไม่มีอาจารย์ เมื่อไม่มีผู้ใดสอนให้แล้ว ในที่สุดท่านจึงไปเรียนกับพระพุทธรูปในโบสถ์ เมื่อเห็นว่าพอสมควรแล้วก็หยุด... -
หลุดมาจากวรรณคดี!! เมื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เนรมิต "พระนางมัทรี" มาช่วย "หลวงปู่ชอบ" ให้พ้นจากกุฏิมรณะ...ก่อนต้นไม้ใหญ่จะโค่นทับจนแหลกเป็นจุณ!!
หลุดมาจากวรรณคดี!! เมื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เนรมิต "พระนางมัทรี" มาช่วย "หลวงปู่ชอบ" ให้พ้นจากกุฏิมรณะ...ก่อนต้นไม้ใหญ่จะโค่นทับจนแหลกเป็นจุณ!!
ระหว่างที่ "หลวงปู่ชอบ ฐานสโม" จำพรรษาอยู่ ณ วัดป่าหนองวัวซอ อุดรธานี ได้มีเหตุการณ์อัศจรรย์อย่างหนึ่งเกิดขึ้น คือ
เวลากลางวันของวันหนึ่ง หลังจากที่หลวงปู่ชอบได้ทำความเพียรอย่างเต็มที่แล้ว ท่านก็พักจำวัดอยู่ในกุฏิ เผอิญวันนั้นโยมมารดาของท่านที่บวชเป็นชีได้มาเยี่ยมท่านที่วัด
หลวงปู่ชอบเล่าว่า กำลังจำวัดอยู่เพลิน ๆ เพราะเพิ่งจะพักจากการทำความเพียร และอากาศก็เป็นใจด้วยฝนที่กำลังตกอยู่ ก็ต้องตกใจตื่นด้วยเสียงโยมแม่ที่มาเรียกท่าน
"เร็ว ๆ เข้า ... รีบไปศาลาโดยด่วนเถอะคุณลูก นิมนต์ไปศาลา พระนางมัทรีมาอยู่ที่ศาลาแน่ะ!"
"เร็วเถอะท่าน ... พระนางมัทรีมา!" โยมมารดาเร่ง
หลวงปู่ชอบตื่นขึ้นด้วยเสียงเรียกของโยมมารดา ทั้งเร่งเร้า ทั้งทุบประตูกุฏิ ท่านจึงรีบครองผ้าแล้วก็ลงจากกุฏิมาทันที โดยไม่ทันคิดว่าเป็นใคร... มาทำไม... มีธุระอะไร
"พระนางมัทรีมาที่ศาลา!"
โยมแม่กล่าวย้ำเมื่อเห็นท่านลงมาจากกุฏิแล้ว
หลวงปู่ชอบเล่าว่า ท่านยังไม่ทันจะคิดอะไรหรือสงสัยว่า... -
สารภาพตามตรง!! คำตอบที่รู้แล้วจะอึ้ง ... เมื่อเทวดาองค์หนึ่งเปิดใจกับหลวงปู่มั่นว่ารู้สึกอย่างไรกับมนุษย์!!
สารภาพตามตรง!! คำตอบที่รู้แล้วจะอึ้ง ... เมื่อเทวดาองค์หนึ่งเปิดใจกับหลวงปู่มั่นว่ารู้สึกอย่างไรกับมนุษย์!!
ครั้งหนึ่ง เมื่อพวกเทวดามาเยี่ยม "หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต" เพื่อฟังเทศน์ หัวหน้าเทวดาองค์หนึ่งพูดกับท่านว่า
"ท่านมาพักอยู่ที่นี่ทำให้พวกเทวดาสบายใจไปทั่วกัน เทวดามีความสุขมากผิดปกติเพราะกระแสเมตตาธรรมท่านแผ่กระจายครอบท้องฟ้าอากาศและแผ่นดินไปหมด กระแสเมตตาธรรมของท่านเป็นกระแสที่บอกไม่ถูกและอัศจรรย์มาก ไม่มีอะไรเหมือนเลย"
หัวหน้าเทวดาพูดต่อไปว่า
"ฉะนั้น ท่านพักอยู่ที่ไหน พวกเทวดาต้องทราบกันจากกระแสธรรมที่แผ่ออกจากองค์ท่านไปทุกทิศทุกทาง แม้เวลาท่านแสดงธรรมแก่พระเณรและประชาชน กระแสเสียงของท่านก็สะเทือนไปหมดทั้งเบื้องบนเบื้องล่าง ไม่มีขอบเขต ใครอยู่ที่ไหนก็ได้เห็นได้ยิน นอกจากคนตายแล้วเท่านั้นที่จะไม่ได้ยิน"
ตอนนี้...จะได้เชิญอาราธนาคำพูดสนทนากันระหว่าง "หลวงปู่มั่น" กับ "หัวหน้าเทวดา" มาลงอีกเล็กน้อย ส่วนจะจริงหรือเท็จก็เขียนตามที่ได้ยินได้ฟังมา
หลวงปู่มั่นย้อนถามหัวหน้าเทวดาบ้างว่า
"ก็มนุษย์ไม่เห็นได้ยินกันบ้าง...ถ้าว่าเสียงเทศน์สะเทือนไปไกลดังที่ว่านั้น"... -
เคล็ดอาราธนาพระกริ่งทำนำมนต์สะเดาะเคราห์เสริมดวง(ตำรับสมเด็จสังฆราชแพ)
เคล็ดอาราธนาพระกริ่งทำนำมนต์สะเดาะเคราห์เสริมดวง(ตำรับสมเด็จสังฆราชแพ)
เมื่อเวลาเรารู้สึกดวงไม่ดี มีเคราะห์ หรือเจ็บป่วย หากท่านใดมีพระกริ่ง(องค์แทนพระพุทธเจ้าไภษัชยคุรุไวฑูรย์ประภาสพุทธเจ้า)ก็สามารถอาราธนาบารมีของพระองค์ท่านทำน้ำพระพุทธมนต์ ดื่ม รด อาบ กินเพื่อความสวัสดี มีชัยปราศจากเคราะห์ได้นะครับ วิธีการมีดังนี้
วิธีทำ ให้นำน้ำมาใส่ขันหรือภาชนะใดๆๆก็ได้ หน้าองค์พระประธาน โยงสายสิญจน์จากมือพระประธานแล้ววนมายังน้ำมนต์ ส่วนหนึ่งมาไว้กับเราแบบเวลาพระสงฆ์ทำน้ำมนต์ แล้วจุดธูปเทียน บูชาพระรัตนตรัย
ตั้งนโมสามจบแล้วกล่าวว่า
พุทธัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ,อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสสะธัมมะสาระถิ สัตถาเทวะมนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ.
ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ ,สวากขาโต ภะคะวา ธัมโม
สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญู.ฮี.ติ.
สังฆัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ,สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อุชุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปฎิปันโน... -
ตำนาน เรื่องเล่า ครูบาศรีวิชัยและตักบาตรพระอุปคุตวันเป็งปุ๊ด
ตำนานที่เกี่ยวกับพระอุปคุตและพระครูบาศรีวิชัย
ตามความเชื่อแบบล้านนาว่าในคืนวันเพ็ญ
ซึ่งตรงกับวันพระและจะเป็นวันพุธเท่านั้น
พระอุปคุตเถระจะเหาะขึ้นมาจากใต้สะดือทะเล
ซึ่งชาวเหนือเรียกว่า ในคืน วันเป็งปุ๊ด
ในอตีดมีเรื่องเล่าของชาวเหนือเล่าต่อๆกันมาว่า
ในคืนวันเป็งปุ๊ด ช่วงเวลาเที่ยงคืน มักจะพบเห็นพระสงฆ์
รูปหนึ่งออกมาเดินบิณฑบาตรในช่วงเวลาเที่ยงคืน
โดยมีสามเณรรูปหนึ่ง ได้นำอาหารมาใส่บาตร
พร้อมทั้งถามว่าทำไมหลวงพ่อถึงออกมาเดินบิณฑบาตร
ในช่วงเวลายามวิกาลเช่นนี้ แล้วจะมีใครลุกขึ้นมาใส่บาตรให้
พระสงฆ์รูปนั้นจึงตอบว่า สามเณรเจ้าต้องการสิ่งใด
ดังความปารถนาของเจ้า สามเณรรูปนั้นจึงตอบว่า
กระผมไม่ต้องการสิ่งใดเพียงแค่ต้องการศึกษา
อยู่ในใต้ร่มกาสาวภัตร์เพื่อช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนา
ให้มีคนเลื่อมใสศรัทธาเท่านั้น เมื่อฟังจบพระสงฆ์รูปนั้น
ก็เดินหายไป และสามเณรรูปนั้นก็ คือ ครูบาศรีวิชัย
พระเถรานุเถระ ผู้ซึ่งเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวเหนือ
มาจนถึงทุกวันนี้
cr. https://www.facebook.com/BuddhaSattha/ -
เรามีหนี้สงฆ์หรือไม่...หนี้สงฆ์คืออะไร ??? ย้ำกรรมหนัก !!!
"มาชำระหนี้สงฆ์ ตัดกรรม ความยากจนเรื้อรังกันเถอะ คนที่ลำบากยากจน ไม่มีสภาพคล่องทางการเงิน มีปัญหาการงาน การเงิน ที่ไม่สามารถปลดเปลื้องได้ แม้จะปิดนรกขุม 2 ไปแล้ว ลองมาทบทวนดูสิว่า เรามีหนี้สงฆ์หรือไม่ หนี้สงฆ์คืออะไร"
หนี้สงฆ์ คือ
1. การลักทรัพย์ในเขตวัด เขตบุญ สถานที่สาธารณะ
2. ไม่ได้ลัก แต่นำมาโดยไม่รู้ว่า เป็นบาป เช่น นำอาหารวัดกลับบ้าน นำอาหารที่ตนนำไปทำบุญ แต่พระไม่ฉัน กลับบ้าน หรือ ยักยอกอาหารพระ ผู้ทรงศีล ผู้ประพฤติธรรม
3. ใช้อุบายนำอาหารท่านมากินมาใช้ โดยท่านไม่ได้อนุญาต ด้วยความเต็มใจ หรือ แม้แต่เจ้าอาวาสให้ แต่สิ่งนั้นไม่ใช่ทรัพย์ส่วนตัวเจ้าอาวาส แต่เป็นทรัพย์ของสงฆ์ คือสงฆ์ทั้งคณะต้องมีฉันทามติยกให้ด้วยความเต็มใจ ไม่ใช้อุบายให้ท่านยกให้ จึงจะไม่เป็นบาป
4. แม้แต่ข้าวพระพุทธ อาหารพระพุทธ ก็ไม่อาจนำมาทานต่อได้ เพราะ เราไม่มีสิทธิ์สถาปนาตัวเองเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้าแต่ประการใด (หลวงพ่อฤาษีลิงดำสอนไว้ในหนังสือตอบปัญหาธรรม)
5. หรือแม้แต่ผัก ผลไม้ในวัด ของใช้ ของสังฆทาน นำมาใช้ส่วนตัว นำกลับบ้าน คิดว่าวัดหรือเขตบุญนั้นไม่ใช้ นำมาใช้หรือขาย
6. เงินเรี่ยไร ผ้าป่ากฐิน... -
เผชิญดวงไฟประหลาด แสงสีเลือด!!
ครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวผมเอง จากการที่ได้เดินทางไปค้างแรมยังป่าโปร่งแห่งหนึ่ง ของจังหวัดตาก (ขออนุญาตสงวนนามสถานที่..) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบไม่คาดฝัน ต่อหน้าวงสนทนาในยามค่ำคืน จนนำไปสู่การหวนกลับมาเยือน...เพื่อการพิสูจน์อีกครั้ง....
ป่า...ขึ้นชื่อว่า...ป่า...ไม่ว่าจะเป็น..ป่าดงดิบ ป่าทึบ หรือป่าโปร่ง...ล้วนแต่มีอาถรรพ์ หรือพลังแห่งธรรมชาติแอบแฝงซ่อนเร้นอยู่ เช่นเดียวกับตัวผม ที่ได้เผชิญอาถรรพ์แห่ง...ป่าโปร่ง...ครั้งนี้
ต้นเดือนมกราคม ๒๕๕๘ ช่วงแห่งเทศกาลการเดินทางท่องเที่ยว กับการหลบลี้หนีผู้คน เนื่องจากในสถานที่แหล่งท่องเที่ยวหลักของหลายๆอุทยาน ล้วนคราคร่ำไปด้วยผู้คน เต็นท์เล็ก เต็นท์ใหญ่ สะท้อนแสงหลากสีละลานตา กับผู้คนมาจากหลากหลายทิศทาง ผมกับสหายผู้รู้ใจรวมสองคน จึงตกลงกันไปหาพักค้างคืนยังสถานที่ ที่เราไม่เคยไปเยือนเลย ซึ่งเป็นหน่วยพิทักษ์ป่า หน่วยย่อยของอุทยานแห่งชาติแห่งหนึ่งของจังหวัดตาก
เส้นทางจากถนนหลักสายตาก - แม่สอด เราเลี้ยวซ้ายเข้าไปยังที่หมาย ไปตามถนนลูกรังฝุ่น บางช่วงของเส้นทางเป็นหลุมเป็นบ่อ ผ่านไร่สตรอเบอรี่... -
เมื่อศิษย์หลวงปู่ดู่ ไปกราบหลวงปู่ดูลย์
หลวงปู่ดูลย์ อตุโล พระเถระ ลูกศิษย์อาจารย์มั่น พระปรมาจารย์สายกรรมฐาน
อาจารย์ ศุภรัตน์ ( ศิษย์หลวงปู่ดู่ )ได้รับฟังข่าวคราวจากทางหนังสือพระเครื่อง เกี่ยวกับรูปถ่ายที่ช่างภาพถ่ายรูปท่านในท่านั่งห้อยขา แต่พอล้างฟิล์มออกมากลับมีรูปซ้อนเป็นภาพนั่งสมาธิ โดยท่านไม่ได้เปลี่ยนอิริยาบถ ซึ่งเขาเรียกว่าเป็นกายทิพย์ที่ท่านแสดง ขณะนั้นอาจารย์ทำงานเป็นพนักงานสินเชื่อ หัวหน้าหน่วยแม่สอด - แม่ระมาด ไปนมัสการท่าน ความตั้งใจตอนนั้นเพียงเพื่อไปขอวัตถุมงคลและมีความเชื่อลึกๆในใจว่า ท่านเป็นพระอรหันต์ เมื่อหยุดพักร้อนจึงเดินทางไปหาเพื่อนซึ่งจบ มช รุ่นเดียวกันรับราชการที่ สุรินทร์เพื่อนถามว่าทำไมอยากมากราบหลวงปู่ อาจารย์ตอบว่า เขาว่าท่านเป็นพระอรหันต์เลยอยากมาขอเหรียญที่ท่านปลุกเสก " ขณะนั้นไม่ปรารถนาธรรมอะไร จากท่านเพราะอยู่ในช่วง เป็นนักล่าวัตถุมงคล
เมื่อไปถึงวัดหลวงปู่กำลังตื่นจากจำวัดพอดี ขณะนั้นท่านอายุมากแล้วจำเป็นต้องพักผ่อนเมื่อทางอุปัฏฐาก อนุญาตให้เข้าพบ อาจารย์ได้เข้าไปกราบท่านและได้ถวายปัจจัย หลวงปู่พูดขึ้นว่า... -
เคล็ดการบูชาพระราหูสะเดาะห์เคราะห์และรับโชค(ตำรับหลวงปู่เงิน กตสาโร วัดเกาะแก้ว)
เคล็ดการบูชาพระราหูสะเดาะห์เคราะห์และรับโชค(ตำรับหลวงปู่เงิน กตสาโร วัดเกาะแก้ว)
พระราหูเป็นบรมครูโหราจารย์ในภาคเทวดา มีหน้าที่ควบคุมเวลา คือ อายุ มนุษย์ สัตว์โลก และเทวดาทั้ง ๗ องค์ ที่ประจำทักษาและตรวจตราเยี่ยมเยือนเทวดาทั้ง ๗ นั้นอยู่เสมอ และมีอำนาจสั่งให้ลงโทษ มนุษย์ผู้มีมิจฉาอาชีวะ สนับสนุนพิทักษ์รักษามนุษย์ผู้ประกอบสัมมาอาชีวะ และผู้ตั้งอยู่ ในธรรมห้าประการดังกล่าวแล้ว ผู้ใดจะบูชาพระราหู คือ พระโพธิสัตว์ผู้มุ่งสร้างบารมี เพื่อการ ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นองค์ที่ห้า นับจากพระศรีอาริยะเมตตรัย นั้นผู้บูชาจะต้องมีศีลมีธรรมและมีความดี มีคุณธรรมสูง และทำบุญกุศลอยู่เสมอ ความร่ำรวยหรือโชคลาภใหญ่ก็จะเกิดขึ้นได้ เคราะห์ร้ายก็จะหายไปด้วยอำนาจบารมีแห่งพระโพธิสัตว์ราหู
เนื่องจากในปีนี้(๒๕๖๐) ใครที่เกิดในราศีกรกฎ (17 ก.ค. - 16 ส.ค.) ผู้ที่เกิดในวันดังต่อไปนี้ควรไปบูชาองค์พระโพธิสัตว์ราหู
วิธีบูชาก็ไม่ยากครับ เตรียมเทียนสีผึ้งอย่างดี ๑๒ดอก ธูปหอมอย่างดี ๑๒ดอก ดอกไม้อะไรก็ได้เว้นดอกกุหลาบ ดอกเบญจมาศ (ดอกบัวดีที่สุด)๑๒ดอก เงิน๑๒บาท
ไปยังสถานที่ที่มีพระราหุประดิษฐานอยู่... -
คลิปหาดูยากมาก! ภาพและเสียงหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ให้พรญาติโยม (ภาพและเสียงสมัยท่านยังไม่ละสังขาร)
คลิปหาดูยากมาก! ภาพและเสียงหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ให้พรญาติโยม (ภาพและเสียงสมัยท่านยังไม่ละสังขาร)
หลวงตาม้าบอกว่า เวลาหลวงปู่เวลาให้พรท่านจะให้พรยาวมาก ท่านจะรวมบารมีกำลังทั้งหมดทั้งมวลมารวมกันที่ท่านและแผ่ออกไปให้กับทุกๆคน ผู้เกี่ยวพันเกี่ยวข้อง ผู้ที่ขอความช่วยเหลือและภพภูมิต่างๆ ทั้งสามแดนโลกธาตุ เป็นบุญตา ได้เห็นภาพหลวงปู่ดู่ พระพรหมปัญโญ สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ กราบสาธุ
คำอธิษฐานจิตที่ดีมาก หลังทำบุญสวดเสร็จ อธิษฐานดีเห็นผลรวดเร็ว !
https://www.pageqq.com/en/content/view/page/cntth1/0-1106348.html
Cr. www.youtube.com Chanel ตามรอยหลวงปู่ดู่หลวงตาม้า พระโพธิสัตว์ผู้สร้างบารมี และ ช่องของ khunphan1976
------------------------------------
ที่มา
https://www.pageqq.com/en/content/view/page/cntth1/0-1163355.html -
สุจริต ๓ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต)
สุจริต ๓
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต)*
วัดญาณเวศกวัน จ.นครปฐม
• สุจริต ตามหลักคำสอนในพุทธศาสนาคือ
การประพฤติดี ประพฤติชอบ ๓ ประการ ได้แก่
๑. ก า ย สุ จ ริ ต ๓
คือ ความสุจริตทางกาย ทำสิ่งที่ดีงามถูกต้องทางกาย ๓ อย่าง
เรียกว่า กายสุจริต ๓ ได้แก่
o ๑.๑ ละเว้นจากการทำลายชีวิต (รักษาศีล ๕ ข้อที่ ๑)
o ๑.๒ ละเว้นจากการลักทรัพย์ แย่งชิงลักขโมย
เอารัดเอาเปรียบ เบียดเบียนทรัพย์สิ่งของ ของผู้อื่นมาเป็นของตน
(รักษาศีล ๕ ข้อที่ ๒)
o ๑.๓ ละเว้น การประพฤติผิดล่วงละเมิดในของรักของหวงแหนของผู้อื่น
ไม่ข่มเหงจิตใจ ข่มขืนกระทำชำเรา
หรือทำลายลบหลู่เกียรติและวงศ์ตระกูลของกัน
(รักษาศีล ๕ ข้อที่ ๓)
๒.ว า จ า สุ จ ริ ต ๔
คือ ความสุจริตทางวาจา พูดสิ่งที่ดีงามถูกต้อง
ประพฤติชอบด้วย วาจาหรือการพูด ๔ ประการ ได้แก่
o ๒.๑ ละเว้นการพูดเท็จ โกหกหลอกลวง หรือพูดให้ผิดจากความเป็นจริง
o ๒.๒ ละเว้นจากการพูดส่อเสียด ยุยง สร้างความแตกแยก
พูดแต่คำที่สมานและส่งเสริมความสามัคคี
o ๒.๓ ละเว้นจากการพูดคำหยาบคาย สกปรกเสียหาย
พูดแต่คำสุภาพนุ่มนวลควรฟัง
o ๒.๔ ละเว้นการพูดเหลวไหลเพ้อเจ้อ ไร้สาระ เลื่อนลอย
ไม่มีเหตุผล... -
เคล็ดบูชาพระบรมสารีริกธาตุ วัดสระเกศ ในยามที่ดวงตก
สวัสดีครับพี่น้องชาว พุทธคุณ นานๆๆจะมาสักทีนะครับ เหตุจากเคล็ดบางเคล็ดของเว็บพุทธคุณนั้น มันมาจากประสบการณ์จริงเป็นเคล็ดที่นำไปใช้ได้จริงจากผู้รู้ที่ท่านบอกมา บางอย่างก็ต้องใช้จำเอาแล้วค่อยมาเขียนเป็นเคล็ด จึงทำให้ทางผมนานๆๆจะมีเคล็ดเด็ดๆๆมาฝากสักที บวกกับการที่ผมเป็นคนที่พิมพ์อะไร ช้ามาก จึงทำให้นานๆจะมาทีแต่มาแล้วก็ต้องมีเคล็ดดีๆๆมาฝากกันครับ เคล็ดนี้หลวงปู่เงิน กตสาโร ท่านได้แนะนำให้ครอบครัวผมไปทำแล้วเกิดผลชัยมงคลอย่างมากจึงนำมาบอกกันครับ
สำหรับ ปีไก่ นี้ใครที่รู้สึกว่าการงานไม่ดี ติดขัด เกิดโรคภัยไข้เจ็บบ่อย หรือว่าไม่มีกำลังใจในการทำงาน ผมอยากจะแนะนำให้ไปไหว้ วัดสระเกศโดยเฉพาะ ภูเขาทองครับ ซึ่งภูเขาทองนี้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ของสมเด็จพระศรีศากยมุนีพุทธเจ้าของเราครับ ผู้ถึงซึ่งพระพุทธเจ้าเป็นสรณะย่อมกำตัดภัยได้ครับ แน่นอนว่าไปไหว้แบบธรรมดาไม่ใช่วิธีของพุทธคุณอยู่แล้วแต่ต้องเป็นเคล็ดดีๆ ที่น่ารู้ที่จะนำมาฝากทุกท่านครับ
สำหรับเคล็ดนี้จะเป็นการนำท่านไปไหว้พระบรมสารีริกธาตุบนภูเขาทอง ขอพรในเรื่องเวลาที่ท่านมีอุปสรรคต่างๆๆในชีวิตครับ
สิ่งของที่ต้องเตรียม
1. ดอกบัว... -
สวยงาม ยิ่งใหญ่ !! "พระพุทธรูป" แกะสลักกลางหน้าผา สร้างขึ้นหลังพบว่ามีผู้คนเสียชีวิตบ่อย
สวยงาม ยิ่งใหญ่ !! "พระพุทธรูป" แกะสลักกลางหน้าผา สร้างขึ้นหลังพบว่ามีผู้คนเสียชีวิตบ่อย
"พระพุทธรูปเล่อชาน" เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในภูเขาเล่อ (เล่อชาน) เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกร่วมกับภูเขาเอ๋อเหมย์เมื่อปี พ.ศ. 2539 "พระพุทธรูปเล่อชาน" เป็นพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผา และภูเขาเอ๋อเหมย (峨嵋山) หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า “ภูเขาง้อไบ๊” สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 713-803) เริ่มต้นโดยมีพระชื่อไห่ทงเดินทางมาถึงเสฉวน และพบว่าเขาเล่อชานตั้งอยู่บนทางผ่านของแม่น้ำสามสาย จึงมักเกิดอุบัติเหตุเรือล่มทำให้มีผู้คนเสียชีวิตบ่อย ๆ พระไห่ทงจึงตั้งใจสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ขึ้นตรงจุดนี้เพื่อให้พระคุ้มครองแก่ผู้เดินทาง
ต่อมา มีชาวพุทธผู้มีจิตศรัทธาใช้ความพยายามและใช้เวลาอีก 90 ปี สร้างพระพุทธรูปองค์นี้จนสำเร็จ พุทธศาสนิกชนจากท้องที่ต่างๆพากันมานมัสการเพื่อความสงบสุขแห่งจิตใจ
ขนาดของพระพุทธรูปมีความสูงกว่า 70 เมตร ไหล่กว้างกว่า 200 เมตร พระเศียรสูงเท่าภูเขา พระบาทวางอยู่ริมแม่น้ำ พระหัตถ์วางบนเข่า พระพักตร์อิ่มเอิบสงบ
เรียบเรียง สิรวีณ์ team... -
"อาตมารู้สึกอยู่ลึกๆว่า อาตมาเคยอยู่ที่นี่มาก่อนและอาตมาจะอยู่ที่นี่ตลอดไป" เปิดคำสัมภาษณ์ "พระจูเลียน" จากแคนาดาสู่ใต้ร่มพุทธศาสนา ในไทย
โลกออนไลน์แห่ชื่นชม!! "พระจูเลียน" ปฏิบัติธรรมในป่าเขานาน 17 ปี เผย สัปดาห์หนึ่งออกบิณฑบาตรเพียงไม่กี่ครั้ง เหตุเกรงใจญาติโยม
วันนี้(17ม.ค.) โลกออนไลน์ได้ร่วมกันแชร์ภาพของ "พระจูเลียน" พระผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัย โดยปฏิบัติธรรมมาอย่างยาวนานเกือบ 20 ปี อยู่ในพื้นที่ป่าเขาสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยสัปดาห์หนึ่ง ออกบิณฑบาตรแค่ไม่กี่ครั้ง เหตุเกรงว่าจะไปรบกวนชาวบ้านเลยใช้วิธีหาผักผลไม้ในป่าฉันเป็นอาหารแทน
สำหรับเรื่องราวดีๆดังกล่าวทางด้านเฟซบุ๊คของคุณ "จิมมี่ ป้อมสุวรรณ" ได้นำมาบอกต่อลงในโลกออนไลน์ โดยระบุว่า "ท่านออกบิณฑบาตรอาทิตย์ละประมาณสามสี่ครั้ง เนื่องด้วยเห็นว่าชาวบ้านก็อยู่อย่างลำบากจึงไม่อยากรบกวนมากเกินไป"
"ท่านใช้ชีวิตในป่าเขามาอย่างยาวนาน 17 ปีด้วยความสมถะ โดยกินแต่ผักผลไม้ เคร่งครัดในพระธรรมวินัย พระจูเลียน หมู่บ้านปูทา หมู่ 1 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน กราบสาธุ ครับ"
ทั้งนี้หลังเรื่องราวและภาพของพระจูเลียนถูกเผยแพร่ออกไปได้มีชาวสังคมออนไลน์จำนวนมากต่างชื่นชมและร่วมอนุโมทนาบุญกันเป็นจำนวนมาก
ที่มาเฟซบุ๊ค จิมมี่ ป้อมสุวรรณ... -
"พระศรีอาริย์พบพระมาลัยที่จุฬามณี"
ตามปรกติพระศรีอาริย์จะเสด็จมาไหว้พระจุฬามณีในวัน 8 ค่ำ และ 15 ค่ำ คราหนึ่งเป็นวันพระ 8 ค่ำ ได้พบปะกับพระมาลัยเถระที่นำดอกบัว 8 ดอกมาถวายบูชาพระจุฬามณี เมื่อเสร็จการบูชา พระศรีอาริย์ได้เสด็จมานมัสการพระมาลัยเถระแล้วถามว่า
“ ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ชาวชมพูทวีปเขาทำบุญให้ทาน เขาตั้งความปรารถนาเป็นประการใด”
“ ขอถวายพระพร เขาตั้งปณิธานมีความปรารถนาจะขอพบพระองค์ เมื่อจะได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้า” พระมาลัยตอบ
“ ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ฝูงคนทั้งปวงแต่บรรดาที่ปรารถนาจะพบกับข้าพเจ้านั้น ขอให้อุตสาหะสดับตรับฟังพระสัทธรรมเทศนาพระเวสสันดรชาดกให้จบในวันเดียว พึงบูชาด้วยประทีปพันหนึ่ง ฉัตรพันหนึ่ง ธงพันหนึ่ง ดอกบัวหลวง ดอกอุบลเขียว ดอกผักตบ สิ่งละพัน เมื่อกระทำตามนี้ก็จะได้พบกับโยม”
“ ขอถวายพระพร อีกนานสักเพียงใด พระองค์จึงจะได้ตรัส” พระมาลัยถาม
“ ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ในกาลเมื่อถ้วนห้าพันพระวัสสา สิ้นศาสนาพระโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว สัตว์ทั้งปวงจะมืดมนนักไม่กระทำกุศลเลย มีแต่จะกระทำกรรมอันเป็นบาปหยาบช้า หาหิริโอตตัปปะมิได้ ดุจหนึ่งว่าไก่แลสุนัข ลูกกับแม่ก็จะอยู่กินเป็นสามีภรรยาแห่งกัน... -
อ่านแล้วขนลุก! เผยรายชื่อเมืองที่จะจมอยู่ใต้น้ำอภิมหาภัยพิบัติทำลายโลก ในอีก 4 ปี ข้างหน้า !!!
เมื่อสถาบันระดับโลก !! ออกมาเตือน 160 ประเทศ จมอยู่ใต้น้ำแน่ในปี 2563 ที่สำคัญรวมเมืองกรุงของเราติดโผด้วยด้วย!!
กลายเป็นเรื่องที่ทำให้ชาวโซเชี่ยลให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก เมื่อสถาบันระดับโลกอย่างสถาบันเวิลด์วอท ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร ทำการศึกษาวิจัยสภาพแวดล้อมจากทั่วโลก พบว่า เมืองที่ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลทั่วโลกกำลังเผชิญกับอันตรายจากระดับน้ำ ทะเลที่สูงขึ้นและพิบัติภัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก พบว่า เมืองชายฝั่ง 21 แห่ง จากทั้งหมด 33 นั่นมีกรุงเทพมหานครรวมอยู่ด้วย
สอดคล้องกับโครงการวิจัยร่วมไทย-ยุโรป GEO2TECDI (Geodetic Earth Observation Technologies for Thailand : Environmental Change Detection and Investigation) ซึ่งเป็นโครงการวิจัยร่วมระหว่างประเทศไทยและสหภาพยุ ออกมาเปิดเผยผลวิจัย ว่า ประเทศไทยโดยรวมจะมีการทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ระดับน้ำทะเลในอ่าวไทยกลับเพิ่มขึ้น ส่วนแผ่นดินกรุงเทพฯ จะทรุดลงปีละ 15 มม.
ด้าน รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ กรรมการภูมิศาสตร์โลก และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยภัยธรรมชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต... -
การไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ไฉ่ซิ่งเอี้ย ตรุษจีนปี 2560 (ปีระกา ธาตุทอง บางตำราให้เป็น ปีระกา ธาตุไฟ)
การไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ไฉ่ซิ่งเอี้ย ตรุษจีนปี 2560 (ปีระกา ธาตุทอง บางตำราให้เป็น ปีระกา ธาตุไฟ)
องค์ไท้ส่วย ประจำปี 2560 นี้ ทรงนามว่า "องค์ถั่งแช้ไต่เจียงกุง" ซึ่งองค์ไท้ส่วย หรือเทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา นี้เป็นเทพผู้ศักดิ์สิทธิ์ ที่คอยดูแลชะตาชีวิตของผู้คนในแต่ละปี
ซึ่งในรอบ 60 ปี จะมีเทพเจ้า องค์ไท้ส่วยประจำอยู่ในแต่ละปี รวมทั้งสิ้น 60 องค์ ซึ่งทำหน้าที่รักษาและคุ้มครองดวงปี หรือเฝ้าปี อยู่ ซึ่งแต่ละองค์จะมีอำนาจให้คุณ ดลบันดาลความสุข โชคเคราะห์ ทุกข์ภัย หรือให้โทษแก่ผู้ใด ก็ขึ้นอยู่กับพระเมตตาของท่าน โดยเฉพาะท่านที่มีเคราะห์ หรือพื้นดวงชะตาตก ทำอะไรก็ติดขัดไม่ราบรื่น สมหวัง ท่านก็จะช่วยปัดเป่า เคราะห์ภัย บังเกิดแต่ความเป็นศิริมงคล มาสู่ตัวท่านและครอบครัว
ประเพณีการไหว้ฝากดวงชะตาต่อองค์ไท้ส่วย ในช่วงเริ่มต้นปีใหม่ของจีน(ตรุษจีน) ของทุกๆปี ก็เพื่อให้ท่านที่มีพื้นดวงดีอยู่แล้ว ให้ดียิ่งๆขึ้นไป ส่วนใครที่มีพื้นดวงไม่ค่อยดี ก็จะช่วยขจัดปัดเป่า ผ่อนหนักเป็นเบา แก้ร้ายเป็นดี และโดยเฉพาะท่านที่มีปีเกิดไปชงหรือทับกับองค์ไท้ส่วย ซึ่งในแต่ละปีจะแตกต่างกันออกไป... -
"ทำไม? จึงมีวิญญาณติดตาม!!!"
บางคนอาจจะเคยเจอมาบ้างแล้ว...และบางคนอาจจะไม่รู้ตัวว่าโดนตาม..ที่แน่ๆร้อยทั้งร้อยต้องโดนตามแน่ๆต่างกันที่..รู้ตัว..หรือ..ไม่รู้ตัว
การที่เราไปต่างสถานที่..อย่างที่เรารู้กันดีว่ามันไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่นักกับเรื่องผีๆ อย่าว่าแต่ต่างสถานที่เลย..บางเคสแค่หน้าบ้านตัวเองก็โดนแล้ว
ถามว่า:ทำไมเราถึงโดนตาม
คำตอบ:...เคสที่1.มาขอส่วนบุญ(คำตอบยอดฮิต)
...............เคสที่2.เกิดถูกชะตา(ถูกสเป๊ค)เลยตามมา
...............เคสที่3.ให้ช่วยเพราะถ้าผีรู้ว่าใครที่มองเห็นเค้า..ก็จะตามมากันเป็นพรวน
*ยกตัวอย่างว่า..."ผีก็เหมือนขอทาน"..ที่นั่งขอโดยที่ไม่มีใครสนใจ..(เพราะคนธรรมดาๆจะมองไม่เห็น)
แต่ถ้าวันนึงคุณไม่ธรรมดา..ดันมองเห็นผี..และมองจ้องไปที่เค้า(อาจจะด้วยความสงสัย) ผีก็จะรู้ทันทีว่าคุณน่ะเห็นเค้า..ช่วยเค้าได้..ก็เลยตาม
.............เคสที่4.อาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรกันมา..พอเราผ่านไปแถวๆที่เค้าอยู่..เค้าจำเราได้ก็เลยเกาะติดมา
............เคสที่5.ปากเราเอง...ระวังการเรียกใครกลับบ้านรึไปไหน... -
เล่าเรื่องเมืองโลกทิพย์
คนเราเกิดมาอาจจะแตกต่างกัน บางคนสัมผัสอะไรไม่ได้เลย แต่บางคนอาจจะสัมผัสได้ รับรู้ได้ การรับรู้เรื่องราวที่สัมผัสได้นั้น คนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเล่าให้คนอื่นๆได้ฟัง ได้รับรู้
ด้วยเหตุผลนานานับประการ เรื่องนี้ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับสถานที่สำคัญในพุทธศาสนา ก็เป็นสิ่งที่ผู้เล่าอยากสื่อให้กับบุคคลทั่วไป ที่สัมผัสไม่ได้ อาจจะประโยชน์
เพราะการรู้บ้าง ย่อมดีกว่าไม่รู้อะไรเลย -
ทำไมต้องสวดมนต์ ? สวดแล้วได้อะไร ?
หลายคนคงสงสัยว่าทำไมเราต้องสวดมนต์ใช่ไหม...วันนี้ มีคำตอบ...
สิ่งที่ได้แน่ๆจากการสวดมนต์ คือ บุญ เป็นบุญที่เราทำได้ง่ายๆทุกวัน ไม่ต้องเสียเงินมากมายเพื่อที่จะได้บุญมา เพียงแค่ท่านแบ่งเวลาในแต่ละวัน เช่น ก่อนนอน เพียง5-10นาที ท่านก็จะได้บุญเเละได้รับสิ่งดีๆจากการสวดมนต์มากมายเเล้ว
หลายคนอ้างว่าไม่มีเวลาสวดบ้างละ ไม่จำเป็นบ้างละ หรือแม้แต่เสียเวลาบ้างละ
แต่! ทำไมท่านไม่ลองคิดบ้างละว่า คนเราเกิดมาเพื่อสร้างบุญ แล้วการงานที่ทำในแต่ละวัน ที่ท่านใช้ชิวิตอยู่นั้น ท่านได้สร้างบุญบ้างหรือยัง? ในแต่ละวันท่านมีเวลาทำสิ่งต่างๆมากมาย ที่มีประโยชน์บ้าง ไร้สาระบ้าง ท่านมีเวลาทำสิ่งเหล่านี้ แล้วทำไมท่านจะสละเวลาเพียงน้อยนิดเพื่อมาสร้างสิ่งดีๆ สิ่งที่คนเราเกิดมาเพื่อมาสร้างบุญ แค่การสวดมนต์ไม่ได้ล่ะ เราไม่รู้ว่าเราจะจากโลกนี้ไปเมื่อไร แล้ววันนี้ท่านมีบุญสะสมไว้มากพอหรือยัง ถ้าหากท่านรอจะทำบุญเมื่อตอนที่ท่านรวย แล้วเมื่อไหร่ท่านจะได้ทำ ทำไมท่านไม่หมั่นสร้างบุญสะสมบุญด้วยการสวดมนต์ ทุกวันๆ ทั้งๆที่ การสวดมนต์นั้นจะทำให้ท่านได้รับสิ่งดีๆเหล่านี้.....
1.... -
สองอย่างที่ควรรีบทำในโลก
สองอย่างที่ควรรีบทำในโลก
๑.ความกตัญญู ควรรีบทำต่อพ่อแม่ขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่
๒.ความดี ควรรีบทำวันนี้ เพราะวันพรุ่งนี้ เราอาจไม่มีโอกาสได้ทำ
***************************
ธรรมะจากภาพจีน
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=30384&sid=e0aaba368c59fcdba7d5cb52edbb5e80 -
วรธรรมคติ (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
ความคิดเอาเอง กับ ความเห็นจริงเพราะมีสติพิจารณาด้วยปัญญา ไม่เหมือนกัน
ความคิดเอาเองแม้บางทีอาจจะถูกต้องได้ แต่เป็นการบังเอิญ
แต่ความเห็นจริงเพราะมีสติพิจารณาด้วยปัญญาจะถูกต้องเสมอ ไม่เป็นการบังเอิญ
พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนให้ใช้สติ ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นความจริงทุกอย่าง ไม่ได้สอนให้คิดเอาเอง
พุทธศาสนิกผู้เครพในพระพุทธองค์ จึงควรต้องเคารพปฏิบัติตามที่ทรงสอนนี้ด้วย
สิ่งที่มีค่ากว่าเงินทอง พระนิพนธ์ สมเด็จพระญาณสังวรฯ
ขอบคุณบทความจาก แสงธรรมส่องใจ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=35413 -
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๑๕๕ เดือนมกราคม ๒๕๖๐
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๑๕๕
เดือนมกราคม ๒๕๖๐
โดยพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
วัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
เล่มอื่น ๆ ตามไปอ่านได้ที่ http://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=60 -
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๑๕๔ เดือนธันวาคม ๒๕๕๙
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๑๕๔
เดือนธันวาคม ๒๕๕๙
โดยพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
วัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
เล่มอื่น ๆ ตามไปอ่านได้ที่ http://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=60
หน้า 404 ของ 418