ให้บูชาวัตถุมงคลประจำปี ๒๕๖๗

รายการที่ ๑๒๕
รายการฝาก
ตะกรุดมหากันหรือมหาระงับ ของ หลวงปู่ม่วง วัดยางงาม ราชบุรี ยาวประมาณ 7 นิ้วโดยประมาณ ครับ ( ดอกใหญ่ ) พอกผงยาวาสนาจินดามณีและมีเม็ดแร่ และเกศา จีวร รวมทั้งหนังเสือโคร่ง ท่านจารตะกรุดเองทุกดอก ปิดทอง ตอกโค้ตตรงฝาหลอด

ตะกรุดมหากันหรือมหาระงับของหลวงปู่ม่วงนี้ ถือว่าเป็นเอกอุและสร้างชื่อให้กับท่านมากทั้งกันและระงับสิ่งที่ไม่ดีต่าง ๆ ท่านเรียนมาจากหลวงปู่ใจ วัดเสด็จซึ่งเป็นสายเดียวกันกับตะกรุดมหาระงับของหลวงปู่คง วัดบางกะพัอม ที่หายากและราคาแพง(เพราะหลวงปู่ใจ วัดเสด็จกับหลวงปู่คง วัดบางกะพ้อม ท่านเรียนวิชามาจากหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว กาญจนบุรีครับ)ว่ากันว่าถ้าหาของหลวงปู่คง ไม่ได้ ก็อาราธนาของหลวงปู่ม่วงแทนได้ มีประสบการณ์กันมาก จึงทำให้คนต้องการ และถือว่าเป็นวัตถุมงคลที่สร้างชื่อให้กับท่านอย่างนึง เสริมความเป็นสิริมงคลต่อผู้ครอบครองด้วยจีวรของหลวงปู่ม่วง ที่สำคัญสูงสุดก็คือ ตะกรุดนี้มีเกศาของหลวงปู่ม่วงวัดยางงาม ท่านมรณภาพแล้วศพไม่เน่าเปื่อยครับ

ตะกรุดนี้รวบมวลสารครบครันครับ

สำหรับหลวงปู่ม่วงนั้นท่านเป็นศิษย์ร่วมสำนักกับหลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญครับ เป็นศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกันคือ หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ

ตะกรุดนี้หลวงปู่ม่วงท่านตั้งใจทำครับ มวลสารหรือการเสกท่านพิถึพิถันทุกขั้นตอนครับ

สำหรับหลวงปู่ม่วงนั้น พระอาจารย์ที่อินทร์บุรี บอกว่าเก่งและดังเงียบครับท่านบอกว่าของหลวงปู่ม่วงเก็บได้ทุกรุ่น สรีระของหลวงปู่ม่วงบ่งบอกถึงคุณธรรมของท่านได้เป็นอย่างดี
สำหรับสายของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ถึงหลวงปู่ใจ วัดเสด็จจนมาถึงหลวงปู่ม่วง ทางสายตะกรุดมหาระงับนั้นไม่ยิ่งหย่อนกว่าสายอยุธยาเลยครับเพราะรากฐานก็คือสายเดียวกัน หลายๆท่านถึงบูชาไปต่างทราบพุทธคุณของตะกรุดได้เป็นอย่างดี

ตะกรุดมหาระงับนอกจากระงับสิ่งที่ไม่ดีทุดอย่างแล้วยังเป็นมหาอำนาจด้วยครับ เพราะมีหนังเสือที่ท่านเสกบรรจุลงไปอีกด้วย
สายแม่กลองสร้างตะกรุดมหาระงับไม่แพ้สายอยุธยา วัดประดู่ครับ เพราะมาจากที่เดียวกันแต่แตกแขนงไปครับ พระอาจารย์บ๊ะที่อินทร์บุรีเคยบอกว่าดีทั้งสองสายครับ และท่านได้บอกว่า ถ้าเป็นของปู่ม่วง กูเก็บหมด และมีคนกล่าวว่า ตะกรุด1 ดอกคุ้มถึงสามหลังคาบ้านครับ
และยังมีพระอาจารย์อีกองค์หนึ่งท่านได้นำตะกรุดมหาระงับของหลวงปู่ม่วงแขวนไว้ในสถานที่ที่ท่านสอนในการปฏิบัติธรรมด้วยครับ
ให้บูชา ดอกละ 1700 ค่าจัดส่ง 60 จองได้สามวันครับ
มีพระสังกัจจายน์เนื้อผงที่ปลุกเสกหมู่มีหลวงปู่ม่วง วัดยางงาม หลวงปู่ทิม วัดพระขาว หลวงพ่อลำใย วัดทุ่งลาดหญ้า และย่ามหาเศรษฐี ผ้ายันต์ท้าวเวสสุวรรณ ทั้งหมดนี้หลวงปู่ม่วงปลุกเสกให้ไปทั้งชุด
มีประสบการณ์ครับ ผมขออนุญาตเจ้าของข้อความแล้ว แต่ขอเบลอชื่อครับ

 

รับทราบการจองรายการที่ ๑๒๕ เหรียญรัชกาลที่ ๕ เนื้อชินตะกั่ว ขอบพระคุณมากครับ

 

รายการฝาก
รายการที่ ๑๒๖
ให้บูชาเหรียญพญาเต่ามังกรเงินล้านเนื้อทองแดงรมมันปูพิมพ์ซุ้มเศรษฐี วัดท่าขนุน รุ่นเปิดโลกพลิกชีวิต พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน เข้ากรรมฐาน ๓ วัน
องค์นี้หมายเลข ๙๐๐ ครับ
สำหรับข้อมูลของรุ่นนี้ ผมได้รวบรวมมาจากเก็บตกบ้านเติมบุญครับ
พระอาจารย์กล่าวว่า "ไม่รู้ว่าอีกกี่ชาติถึงจะได้รับการสงเคราะห์จากพระท่านแบบนี้อีก อาตมาก็เลยขนวัตถุมงคลทุกอย่างที่มีเข้าพิธีใหม่หมดเลย เพราะฉะนั้น...จะใหม่จะเก่าก็มี อานุภาพเท่ากัน ยกเว้นเนื้อพิเศษอย่างทองคำ นาก หรือว่าเงิน ที่พระท่านทำให้เป็นมหาสะท้อนด้วย หมายถึงว่าวัสดุเต็มชิ้น ไม่ใช่ประเภทแค่ส่วนเดียว ถ้าอย่างเหรียญพญาเต่ามังกรเงินล้านฯ หน้ากากเงินอย่างนี้ หน้ากากเงินมีอยู่แค่นิดเดียว จะให้เป็นมหาสะท้อน ก็ย่อมจะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว"
ถ้าเป็นวัตถุมงคลทั้งหมด ที่เข้าพิธีช่วงกรรมฐาน ๓ วัน ก่อนหล่อพระ ปรกติอราธนาด้วยถาคา อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่ มะอะอุ นี้เถิด หรือถ้าต้องการความคล่องตัว ในหน้าที่การงาน ในเรื่องการเงิน ก็ให้ภาวนาพระคาถาเงินล้าน วันละ ๑๐๘ จบ
วัตถุมงคลทั้งหมด ที่เข้าพิธีช่วงกรรมฐาน ๓ วัน ๓ คืน
๑.อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่ มะอะอุ นี้เถิด
๒.ภาวนาพระคาถาเงินล้าน วันละ ๑๐๘ จบ
พระอาจารย์เล่าว่า “ช่วงเข้ากรรมฐานสามวัน ก่อนที่จะออกมารับบาตรเทโวและรับกฐิน นอกจากครูบาอาจารย์ที่ท่านมาสงเคราะห์แล้ว วันสุดท้ายขณะที่ส่งกำลังใจตามการทำวัตรเย็นของพระวัดท่าขนุน พระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ท่านก็เสด็จมาสงเคราะห์

เป็นครั้งแรกในชีวิตที่พบท่านพร้อมกัน ๒๘ พระองค์ ตอนแรกที่พระองค์ท่านเสด็จมา ก็ยังคิดว่าใจตัวเราเอง "เฝือ" หรือเปล่า ? เพราะว่าพระองค์ท่านเสด็จมาถึง ก็ประทับนั่งบนเตียงที่วางวัตถุมงคลเอาไว้เสกตลอดสามวัน แถวแรก ๑, ๒ ,๓, ๔ พระองค์ แถวสองก็ ๑, ๒ ,๓, ๔ พระองค์ คราวนี้ด้วยความที่อดข้าวมาสามวันแล้ว ร่างกายเพลียมาก สมองคิดไม่ทัน ได้แต่รอดูว่าแถวสุดท้ายมีเศษเหลือกี่องค์ ? ปรากฏว่าเต็มพอดี ก็เลยมานึกได้ว่าพระองค์ท่านประทับนั่งทีละ ๔ พระองค์ ทั้งหมด ๗ แถว ๔ X ๗ = ๒๘ ครบ ๒๘ พระองค์พอดี ต้องบอกว่าพอร่างกายแย่มาก ๆ สมองก็ไม่อยากทำงาน”

“คราวนี้พระองค์ท่านเสด็จมาสงเคราะห์ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่พิเศษมาก โดยเฉพาะวัตถุมงคลที่เอาเข้าพิธี ต้องบอกว่ายังไม่เคยเจอในสภาพนี้มาก่อนเลย ตั้งแต่ก่อนบวชและบวชมาแล้ว

คราวนี้ด้วยความที่อาตมาสั่งสร้างเหรียญพญาเต่ามังกรเงินล้านเปิดโลกพลิกชีวิตให้กับทางวัดสี่แยกเจริญพร ก็เลยกราบขอบารมีทุก ๆ พระองค์ช่วยสงเคราะห์ตอนพุทธาภิเษกด้วย พระองค์ท่านตรัสว่า ถ้าจะเอาอย่างนั้นก็เข้ากรรมฐานอีกสามวัน..! เจอไปสามวันแรกน้ำหนักหายไป ๔ กิโลกรัมแล้ว เจออีกสามวันไม่รู้เหมือนกันว่าน้ำหนักจะหายไปอีกกี่กิโลกรัม ? แต่ด้วยความที่ดีใจมากที่พระองค์ท่านรับปากว่าจะมาสงเคราะห์ ก็เลยพร้อมที่จะอดข้าวอีกสามวัน

ตอนแรกก็หาวันเวลาไม่ได้ เพราะว่ามีงานปลุกเสกวัตถุมงคลของวัดบางปลาหมอที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาคั่นอยู่ ท้ายสุดก็เลยตัดสินใจเลื่อนงานบวชพระวันลอยกระทงออกไป เพื่อที่จะให้มีเวลาเข้ากรรมฐานครบสามวันตามที่พระองค์ต้องการ

ให้บูชาเหรียญละ 450 ค่าจัดส่ง 40 (รายการนี้จองได้ 1วันเนื่องจากเจ้าของต้องการปัจจัยครับ)

 

ขอจองรายการที่ 123 ครับ

 

รับทราบการจองรายการที่ ๑๒๓ เหรียญเสริมปัญญาครับ ขอบพระคุณมากครับ

 

รายการที่ ๑๒๗
ให้บูชาชุด เชือกทั้งสามแบบ ของ พระอาจารย์เอ บ้านสุมโน ประกอบด้วย เชือกแดงจาตุเทวะ,เชือกเขียวหายโศก,เชือกทองมงคล
สำหรับเชือกแดงจาตุเทวะ มีข้อมูลดังนี้
สำหรับพิธีเสกเชือกแดงและรายละเอียดมีดังนี้(จากเกษมธรรมบำเพ็ญบุญ)
วัตถุมงคลที่เป็นหัวใจหลักอีกหนึ่งรายการของพิธีพุทธาภิเษก เสาร์ ๕ ไตรโลกา คือ เชือกแดงจาตุเทวะ หลวงพ่อเอ ท่านมักจะพูดเสมอว่า ท่านพยายามหลีกเลี่ยงการทำเชือกเเดง มาโดยตลอด เพราะพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงได้ทำไว้เเล้ว ที่สำคัญท่านควั่นปมเชือกด้วยสมาบัติ ๘ เลยทีเดียว…แต่สุดท้ายหลวงพ่อเอก็หนีไม่รอด มีคำสั่งฟ้าผ่าลงมาก่อนวันงานพุทธาภิเษกเเค่ ๑ วันเท่านั้น ว่าให้หาเชือกเเดงมาเข้าพิธีเเล้ว ท้าวมหาราชจะเสกให้…ตรงส่วนนี้จะเห็นว่า เชือกแดงจาตุเทวะนี้เป็นคนละอย่างกับเชือกเเดงสมาบัติของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงอย่างชัดเจน…
นับเป็นเรื่องที่ไม่ได้มีการเตรียมตัวมาก่อนล่วงหน้า เเต่ด้วยความเชื่อมั่นว่า ถ้าเป็นคำสั่งจากเบื้องบน จะต้องหาเเละทำออกมาจนสำเร็จได้อย่างเเน่นอน
แล้วก็จริงตามนั้น สามารถหาเชือกเเดงมาได้จำนวนหนึ่ง แต่ก็มีจำนวนไม่มาก
เชือกเเดงจาตุเทวะ สามารถนำมาตัดตามขนาดที่ต้องการ ไม่ว่าจะทำเป็นสร้อยคล้องคอ สร้อยข้อมือ หรือ จะใส่หลอดเป็นตะกรุดก็ได้ แล้วเเต่สะดวก…
เมื่อหลวงพ่อเอเสกในวาระเเรก ท่านเล่าให้ฟังถึงนิมิตที่เกิดขึ้นว่า ท่านพ่อท้าวมหาราชทั้ง ๔ องค์ ยืนเรียงกันเครื่องทรงเต็มยศ ระยิบระยับเเพรวพราวไปหมด ร่วมด้วยช่วยกันอัดเสก ลงกองวัตถุมงคล โดยท่านสั่งให้หลวงพ่อ ท่องชื่อโรคไข้ให้ฟัง หลวงพ่อเอก็ท่องไปเรื่อยๆ เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้โค… ไข้เลือดออก ไข้คอตีบ ไข้กาฬหลังเเอ่น ฯลฯ ท่านพ่อท้าวเวสสุวรรณจึงบอกว่า นึกชื่อไข้ได้เเค่ไหนก็จะคุ้มครองให้เท่านั้น เเต่ด้วยความรอบคอบเเละปฏิภาณไหวพริบของหลวงพ่อเอ ท่านจึงรีบขอพรต่อทันทีว่า ขึ้นชื่อว่าไข้ใดๆทั้งที่นึกได้ก็ดี นึกไม่ได้ก็ดี ที่อยู่บนโลกนี้ ขอความเมตตาคุ้มครองให้ลูกหลานด้วยนะครับ… เป็นความเมตตาของหลวงพ่อเอที่มีต่อลูกศิษย์จริงๆ
ในระหว่างพิธี ท้าวมหาราชทั้ง ๔ ก็ยังคงอัดเสกอย่างต่อเนื่อง อานุภาพของอาวุธประจำกายเมื่อเเผ่ลงยังกองวัตถุมงคล ส่งผลให้เกิดเป็นเปลวไฟเเก้วลุกโชน สว่างไปทั่วบริเวณ นับว่าเป็นเรื่องเเปลก ในวันนั้นทั่วพื้นที่ของกรุงเทพฯ เเละปริมณฑลมีเมฆครึ้ม ฝนตกเเทบจะทุกพื้นที่ เเต่บริเวณรัศมี ๑ กิโลเมตรรอบบ้านสุมโน กลับสว่างและมีเเสงแดดอ่อนเป็นช่องอยู่หย่อมเดียว ได้ยินหลวงพ่อท่านว่า งานนี้เป็นการเสกวัตถุมงคล ด้านป้องกัน จึงทำให้ต้องใช้กระเเสความร้อนเเละเเสงสว่าง จะมีฝนไม่ได้เด็ดขาด มิฉะนั้นจะไม่เป็นไปตามนิมิต…
ขณะที่ท่านพ่อท้าวมหาราชกำลังใช้อาวุธประจำกายเสกลงกองวัตถุมงคลท่านได้บอกถึงนัยยะสำคัญของเชือกเเดงจาตุเทวะ ว่า
จักรของพ่อท้าววิรูปักษ์ จะช่วยป้องกันโรคที่มาทางน้ำ
พระขรรค์ของพ่อท้าวธตรฐ จะช่วยป้องกันโรคที่มาทางอากาศ
พลองสั้นของพ่อท้าววิรุฬหก จะช่วยป้องกันโรคที่มากับสัตว์
กระบองยาวของพ่อท้าวเวสสุวรรณ จะช่วยป้องกันภูติผี วิญญาณร้าย คุณผี คุณคน ไสยศาสตร์ มนต์ดำทั้งหลาย
หลวงพ่อเอรู้สึกประหลาดใจว่า โรคในอนาคตจะ ระบาด ทวีความรุนเเรงซ้ำเติม มวลมนุษย์หนักขึ้นถึงเพียงนี้เชียวหรือ…?
และท่านยังให้พรต่อไปอีกว่า หากที่บ้านมีเด็กที่เลี้ยงยาก เช่น ร้องไห้กระจองอเเงอย่างไม่มีเหตุผล (ซึ่งตรงนี้คนละความหมายกับเด็กดื้อ) ก็นำเชือกเเดงจาตุเทวะให้เค้าพกติดตัวซะ นอกจากนั้นเชือกเเดงจาตุเทวะ ยังมีอำนาจช่วยป้องกันสัตว์ร้าย สัตว์มีพิษที่เป็นอันตรายได้อีกด้วย
งานนี้ท่านพ่อท้าวมหาราชได้สั่งการให้เทวดาชั้นจาตุมหาราช ซึ่งเป็นบริวารของท่านโดยตรง เเละเป็นเทวดาที่อยู่ใกล้ชิดกับโลกมนุษย์มากที่สุด กำกับดูเเลเชือกเเดงนี้ทุกเส้น จึงเป็นที่มาของชื่อ เชือกแดงจาตุเทวะ นั่นเอง

และข้อมูลของพระอาจารย์เอท่านได้กล่าวถึงเชือกแดงว่า(นำข้อความบางช่วงบางตอนที่ท่านได้กล่าวถึงเชือกแดง)
หลังจากนั้น ท่านท้าวมหาราชได้ย้ายกำลังมาในส่วนของเชือกแดง คราวนี้ ท่านเรียกประชุมบริวารของท่านทั้งหมด มาทุกหมวดหมู่ เพื่อเข้ากำกับดูแลวัตถุมงคลแต่ละชิ้น
ขณะที่จะเสกเชือกแดงนั้น ท่านยืนเปลี่ยนตำแหน่ง โดยยืนเรียงกันตามอาวุโส มีอาวุธครบมืออยู่ แล้วเปล่งรัศมีทั้งหมดทุกองค์พร้อมกัน ใสเป็นแก้วปนทอง ลงกองวัตถุมงคลไม่ยั้ง ทุกอณูของเชือกถูกอัดเสกอย่างเต็มกำลัง ได้ยินเสียงของท่านพ่อเวสสุวรรณถามว่า ท่านจำชื่อไข้อะไรได้บ้าง ช่วยท่องให้ฟังหน่อย เอาล่ะสิ...คราวนี้เลยต้องนึกกันยกใหญ่ เคยเรียนอะไรมาบ้างก็ท่องเรื่อยไป ตั้งแต่ ไข้เลือดออก ไข้หวัดใหญ่ ไข้รากสาดน้อย ไข้รากสาดใหญ่ ไข้อหิวาตกโรค ไข้คอตีบ ไข้กาฬหลังแอ่น ไข้ทรพิษ ไข้พิษสุนัขบ้า ไข้โค.... และอีกสารพัดไข้ แม้ไม่รู้จะใช่ไข้หรือเปล่า ก็เหมาว่าเป็นไข้ให้หมด นั่งนึกจนหมดไส้หมดพุงแล้ว ท่านว่า นึกได้แค่ไหน ก็คุ้มครองให้แค่นั้น เอ้า เอ้า เอาแล้วไง คราวนี้เลยนึกต่อทันทีว่า อะไรที่ขึ้นชื่อว่าไข้ จะเคยเกิดขึ้นแล้ว หรือที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ ก็ขอให้คุ้มครองทั้งหมดด้วยนะครับ ท่านยิ้มแต่ไม่พูดอะไร เสียท่า... อุตส่าห์นั่งท่องตั้งนาน เลยไม่รู้ว่าท่านเมตตาให้ระดับไหน แต่เชื่อมั่นว่า ท่านมีความเมตตาสูง ย่อมคุ้มครองบุคคลผู้มีความเคารพอย่างแน่นอน ท่านว่า นึกไว้ให้ครอบคลุมก็ดีแล้ว โรคที่เคยหายไปก็อาจกลับมาได้ แต่จะมาในรูปแบบใหม่...
เมื่อท้าวมหาราชต่างส่งกำลังลงที่กองเชือกแดง จนเชือกกลายเป็นแก้วประกายแดงใสๆ ท้าวเวสสุวรรณจึงพูดว่า ฉันจะสงเคราะห์เกี่ยวกับอันตรายที่มองไม่เห็น จะเป็นภูตผีปิศาจ คุณไสยมนต์ดำ สิ่งชั่วร้ายต่างๆ และภัยต่างๆให้ ท้าวธตรฐ จะสงเคราะห์ โรคภัยที่มาทางอากาศให้ ท้าววิรุฬหก จะสงเคราะห์โรคภัยที่มาจากสัตว์ให้ ท้าววิรูปักษ์ จะสงเคราะห์โรคภัยที่มากับน้ำให้
อาตมากราบขอบพระคุณท่านในความเมตตาอย่างยิ่ง แต่ในใจกลับนึกเองว่า ภายภาคหน้ามันจะน่ากลัวขนาดนั้นเชียวหรือ..? ท่านถึงต้องทำให้ขนาดนี้
ช่วงเวลานั้น อาตมาเห็นท่านปู่ท่านย่า มาพร้อมบริวารที่เกี่ยวเนื่องกันทั้งหมด อยู่ด้านหลังออกไปอีก แต่ยังคงนิ่งอยู่ ตอนนี้เชือกทั้งหมดได้รับการอัดเสกอย่างเต็มที่แล้ว สวยงามดีทีเดียว ไม่เว้นแม้แต่เชือกที่ผูกกระดิ่งลมไว้ด้วยเช่นกัน
ลำดับต่อไป เป็นเรื่องของเทียนขี้ผึ้งแท้ ที่ผสมด้วยลูกอมพิชัยมงคล คราวนี้เห็นท้าวมหาราช หลีกออก ไปยืนด้านข้าง ท่านปู่ท่านย่า เคลื่อนเข้ามาใกล้พร้อมบริวาร สิ่งที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ คือ กองทัพเทวดา นางฟ้า มีท่านปู่ท่านย่าเป็นประธาน ท่านปู่ท่านย่า รวมกับท้าวมหาราช สว่างขึ้นพร้อมกัน น่าเกรงขามยิ่งนัก พลังงานลุกโชนขึ้นอีกครั้งคลุมเหล่าบริวารทั้งหมดด้วย แสงสว่างนั้นได้พุ่งลงที่เทียนรวมถึงวัตถุมงคลทั้งหมดในกอง ในนิมิตอาตมาเห็นกระดิ่งเขย่าส่งเสียงดังทุกใบ เชือกแดงขยับได้ เทียนทุกต้นถูกจุดไฟและตั้งขึ้น เสมือนของทุกอย่างมีชีวิตขึ้นมาอย่างนั้น ช่วงเวลานี้เป็นช่วงโหมกระหน่ำของรัศมีแสงสีต่างๆ หนักบ้างเบาบ้างสลับกันไป
แต่สิ่งที่อาตมารู้สึกแปลกใจคือ ทำไมจักรวาลทั้งหมดจึงสว่างไปด้วย ไม่มีตรงไหนมืดเลย กำลังของเทียนที่เสกนี้ สว่างถึงเพียงนี้เชียวหรือ..? มองไปดีๆ เห็นพลังงานบางอย่างที่ลงมาจากพรหม ผ่านพรหมขึ้นไป ไกลออกไป พลังงานแบบนี้ เป็นพลังงานที่คุ้นเคยเหลือเกิน ได้ถูกส่งลงมาจากที่ไกลกว่านั้น มาอย่างต่อเนื่องนุ่มนวลไม่ขาดสาย เหมือนสายน้ำที่อ่อนโยน แต่แข็งแกร่ง พลังงานที่หลั่งไหลลงมานี้ ผสมผสานกลมกลืนอย่างละมุนละไม เข้ากับแสงสว่างของเหล่าเทวดาทั้งหลาย เมื่อมองให้ดีๆ พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง พร้อมกับท่านแม่ทั้ง ๓ พระองค์นั่นเอง เบื้องหลังคือพระพุทธเจ้า และครูบาอาจารย์ทั้งหมดบนพระนิพพาน เมื่อเห็นดังนี้จึงเข้าใจ เสียงท่านแม่พูดว่า วันนี้ยังไม่ใช่วันของฉัน จึงได้แต่เพียงช่วยสนับสนุนการเสกของวันนี้ให้เรียบร้อยราบรื่น เป็นไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น วันนี้ให้แกทูลขออาราธนาพระพุทธเจ้าเป็นต้น เป็นประธานสำหรับงานในวันพรุ่งนี้ได้เลย เมื่อถึงเวลา พระองค์ท่าน รวมทั้งพ่อและฉัน ตลอดจนครูบาอาจารย์ทุกพระองค์บนนี้ จะช่วยพุทธาภิเษกให้อีกครั้ง อาตมารีบทำตามที่ท่านแม่สั่ง
ตอนนี้วัตถุมงคลทั้งหมด ส่งนิมิตทั้งแสงและเสียง กระดิ่งลมก็ดี เชือกแดงก็ดี ต้นเทียนพิชัยมงคลก็ดี สว่างไสวสวยงาม ช่วงท้ายท่านได้สั่งให้เดินบริกรรมพระปริตรตามบทที่ท่านกำหนดให้ชัดๆ เพื่อกำกับวัตถุมงคลทั้งกอง อาตมาทำตามจนครบ เหล่าเทวดาทั้งหลายมีท่านปู่ท่านย่าเป็นต้น ได้ผ่อนกำลังรัศมีลงให้เป็นไปตามปกติ ได้ยินท่านปู่ท่านย่าสั่งกำชับบรรดาบริวารทั้งหมดให้เข้าดูแลวัตถุมงคลทุกชิ้น ตลอดจนท้าวมหาราช ก็ได้สั่งลูกน้องของท่าน เข้ารักษาวัตถุมงคลเฉพาะทางเช่นกัน เมื่อทุกอย่างสำเร็จเรียบร้อยดี อาตมาจึงได้กราบขอบพระคุณทุกพระองค์อีกครั้ง ก่อนจะถอนสมาธิออกมา แล้วรีบไปหาคุณหมอฟัน เพื่อให้คุณหมอทำการผ่าฟันแยกเหงือกเป็นลำดับต่อไป
เมื่อถึงวันเสาร์ ๕ อาตมาเริ่มบวงสรวงเวลา ๘.๓๐ น. เสร็จจากขั้นตอนบวงสรวง จึงเริ่มเข้าสมาธิ คราวนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่โดยรอบ สว่างจ้ามาก ไม่เห็นกำแพง ประตูหน้าต่างไม่มี สว่างโล่งไปหมด พระนิพพานเปิดแจ่มใสชัดเจน เบื้องหน้าที่เห็นคือ พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงและท่านแม่ทั้ง ๓ พระองค์มาครบ ยังมีพระอรหันตสาวกและครูบาอาจารย์อีกมากที่รออยู่ เบื้องหลังคือ พระเจ้า ๕ พระองค์ ช่างสวยงาม สงบนิ่ง และทรงพลังเกินบรรยาย บรรดาเทวดาทั้งหลายที่ได้รับปากและมีหน้าที่ดูแลวัตถุมงคลทั้งหมด ยืนประจำการเหนือกองวัตถุมงคล ไม่นานรัศมีแห่งฉัพพรรณรังสีของพระพุทธเจ้าก็สาดส่องพุ่งตรงเข้าสู่กองวัตถุมงคล รวมถึงบ้านสุมโนทั้งหลัง ส่วนใหญ่อาตมามักจะเห็นรัศมีของพระองค์มาทีละสี แต่คราวนี้มาพร้อมกันทุกสี อาบคลุมทุกภพภูมิ ตั้งแต่อายตนะนิพพานกระทั่ง พรหม เทวดาทั้งหมด ตลอดจนบ้านสุมโนและกองวัตถุมงคลในวันนั้น
ได้ยินหลวงพ่อวัดท่าซุงว่าของมีการเสกไว้แล้ว ทุกอย่างมีหน้าที่เฉพาะแล้ว วันนี้ต้องขอให้เป็นความเมตตาของพระท่านแล้วกัน ส่วนแก ให้ตั้งธาตุทั้ง ๔ ขึ้น เพื่อหนุนธาตุของวัตถุมงคลให้สมบูรณ์ที่สุด เมื่อท่านพูดจบ อาตมากำหนดใจทำตาม เห็นเพชรจักรพรรดิปรากฏข้างหน้า ขยายตัวออกห่อหุ้มกองวัตถุมงคลไว้ภายใน เพชรนั้นสวยงามแพรวพราว หมุนวนไปอย่างช้าๆ ช่างสวยจับจิตจับใจเหลือเกิน ท่านได้สอนถึงวิธีการบางอย่างในการตั้งธาตุทั้ง ๔ ให้ครบนิมิตในคราวเดียวด้วยเพชรจักรพรรดิ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่พระท่านเมตตาเสกให้อยู่ แม้อาตมาเองก็โดนสั่งให้ตั้งธาตุทั้ง ๔ เพื่อหนุนวัตถุมงคลและเข้าสมาธิให้ลึกที่สุด ดังนั้น อาตมาจึงเหมือนคนที่ดิ่งหายไปพักหนึ่ง ไม่รู้ว่าพระท่านเสกอย่างไรให้ ไม่รู้ว่าใช้เวลานานเท่าไร ได้แต่ทำหน้าที่ของตัวเองไปจนสมาธิคลายตัวออกมา
ภาพที่เห็นข้างหน้า คือกองวัตถุมงคลเป็นประกายพรึกไปหมด ทุกพระองค์ยังคงประทับเบื้องหน้า นะ โม พุท ธา ยะ บริสุทธิ์แจ่มใส เป็นประธานอันยิ่งใหญ่ ทุกพระองค์เสกเสร็จแล้ว เห็นท่านแม่เข้ามาใกล้แล้วพูดว่า พระเสกให้ครบทั้งหมดแล้ว ทุกอย่างจะเป็นไปอย่างที่ตั้งใจไว้ จากนั้นท่านแม่ได้อธิบายถึงวัตถุมงคลต่างๆให้ฟังว่า
เชือกแดงนั้น ให้ชื่อว่า เชือกแดง จาตุเทวะ เนื่องจากพ่อคุณท้าวมหาราชและบรรดาลูกน้องของท่านต่างช่วยกันสงเคราะห์ดูแล คุ้มครองป้องกันให้ทั้งหมด เชือกแดงนี้จะไม่เหมือนเชือกแดงของพ่อนะ คนละอย่างกัน ตรงนี้จะเน้นหนักไปในด้านการป้องกันโรคต่างๆ โดยเฉพาะพวกไข้ทั้งหลาย และป้องกันภัยได้แม้แต่สัตว์เลื้อยคลานที่มีพิษ ถ้ามีเด็กที่เลี้ยงยาก ให้เอาเชือกแดงติดตัวเด็กไว้จะช่วยได้.... อนุญาตให้ตัดเป็นท่อนๆได้ตามขนาดที่ต้องการไม่จำกัด อานุภาพยังคงเดิม

เชือกเขียวหายโศก ได้เข้าพิธีหายโศก ที่พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุนเป็นองค์ประธานอธิษฐานจิต ที่วัดท่ามะขาม
สำหรับข้อมูลของรุ่นนี้มีดังนี้
ก่อนหน้านี้เชือกแดงจาตุเทวะ ได้สร้างความตื่นตะลึงมาเเล้ว จากประสบการณ์ของคนที่พกติดตัว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการ คุ้มครองป้องกัน
ส่วนเชือกเขียวหายโศกนี้ จะมีความต่างจากเชือกเเดงดังกล่าว เรื่องที่ยืนยันได้คือ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตัดเชือกเขียว เกิดความรู้สึกเเตกต่างจากเชือกเเดงจาตุเทวะที่สัมผัสได้ถึงความร้อนเเรง บีบอัด เหมือนโดนพลังงานบางอย่างกดทับลงมาอย่างชัดเจน
แต่กระเเสของเชือกเขียว กลับสัมผัสได้ถึงความเย็น นุ่มนวลเเต่หนักเเน่น พลังค่อยๆไหลมาอย่างมั่นคงต่อเนื่องไม่หยุด และทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ จัดเป็นเมตตามหาอำนาจก็ว่าได้ เรียกได้ว่า ถ้าเชือกเเดงจาตุเทวะเป็นสายบู๊ เชือกเขียวหายโศก ก็เป็นสายบุ๋น ซึ่งหากอยู่คู่กันเเล้ว คงจะมีอานุภาพแบบไร้ขีดจำกัด…
ช่วงก่อนวันบวงสรวงไหว้ครูเเละบวงสรวงเเม่ ๕ ธาตุที่บ้านสุมโนไม่กี่วัน หลวงพ่อเอสั่งให้หาเชือกเขียวมาเข้าพิธีด้วย ซึ่งเหมือนกับตอนเชือกเเดงจาตุเทวะไม่มีผิด ถ้ามีคำสั่งเร่งด่วนเช่นนี้ จากประสบการณ์ของเเอด วัตถุมงคลนั้นๆจะเป็นการฝืนกรรมอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อหาเชือกเขียวได้เเล้ว จึงนำเข้าพิธีบวงสรวงไหว้ครู เเละบวงสรวงเเม่ ๕ ธาตุไปพร้อมกัน ซึ่งได้รับความเมตตาจากท่านเเม่กวนอิม สงเคราะห์มายังกองวัตถุมงคล เเอดได้ยินหลวงพ่อท่านเล่าหลังพุทธาภิเษกเสร็จว่า ตอนที่ท่านนั่งหลับตาเข้าสมาธิอยู่นั้น ท่านได้ยินเสียงว่า แคล้วคลาด ดังก้องอยู่ในโสตประสาท ดังนั้นเเอดจึงคิดต่อได้เลยว่า ท่านคงทราบถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตของพวกเราในทุกรูปแบบ วัตถุมงคลที่อยู่ในพิธี จะต้องสงเคราะห์ให้คนที่พก เเคล้วคลาดจากภยันตรายต่างๆไปได้อย่างเเน่นอน...
ต่อด้วย พิธีหายโศก ที่หลวงพ่อเล็กเป็นองค์ประธานอธิษฐานจิต ที่วัดท่ามะขาม ซึ่งท่านได้ขอบารมีพระสงเคราะห์ทุกเรื่อง ให้เหมาะสมกับยุคสมัยในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นด้าน ป้องกันทั้งโรคและภัย รวมถึงความคล่องตัวทุกด้านทุกประการ หากการเสกหลวงพ่อหายโศกมีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์เพียงใด เชือกเขียวหายโศกก็ได้อานิสงส์เพียงนั้น..
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา พระ พรหมเทพ เทวดา พ่อเเม่ครูอาจารย์ ท่านมักจะสงเคราะห์วัตถุมงคลให้เหมาะสมกับยุคสมัย กับสถานการณ์ฉุกเฉินในช่วงนั้นๆเสมอ เพื่อให้คนที่ยึดมั่นในพระรัตนตรัย และมีศีลธรรมประจำใจ รอดพ้นจนฝ่าวิกฤติต่างๆไปได้ หากเป็นกฏเเห่งกรรมที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็จะผ่อนหนักให้เป็นเบา ซึ่งหลายคนอาจนึกไม่ออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ส่วนใหญ่จะได้คำเฉลย ก็ต่อเมื่อของออกให้บูชาหมดไปเเล้ว...
ดังนั้น เชือกเขียวหายโศกจึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องรางที่ไม่ควรพลาด

เชือกทองมงคล จักรพรรดิ
สำหรับข้อมูลของรุ่นนี้มีดังนี้ (จากเกษมธรรมบำเพ็ญบุญ)
มาถึงวัตถุมงคลพิธีจักรพรรดิ ที่ต่อคิวรอมานานหลายเดือน ตอนนี้ถึงเวลาที่เเอดได้รับคำสั่งให้เปิดบูชาเสียที ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ วัตถุมงคลประเภทเชือก ที่หลวงพ่อบ้านสุมโนจัดสร้างขึ้น จะมีมาเเล้วถึงสองรุ่น ไม่ว่าจะเป็น เชือกเเดงจาตุเทวะ หรือ เชือกเขียวหายโศกก็ตาม ซึ่งเเต่ละรุ่นนั้นเรียกได้ว่ามีประสบการณ์ให้เห็นมาเเล้วทั้งสิ้น โดยเฉพาะเชือกเเดงจาตุเทวะ ที่จัดสร้างขึ้นในช่วงโรคระบาดรุนแรงพอดี โดยหลวงพ่อบ้านสุมโนเอง ยังโดนสั่งให้พกเชือกเเดงติดตัวไว้ตลอด เพื่อป้องกันอันตรายจากโรคติดต่อที่รุนแรงอยู่ในขณะนั้น ซึ่งท่านเองได้พูดว่า ตั้งแต่พกเชือกแดงที่ตัวทำเอง ก็รู้สึกไม่ติดไข้ง่ายเหมือนแต่ก่อน
ส่วนเชือกเขียวหายโศกนั้น ใครที่ได้พกใช้ต่างค่อยๆ เเก้ปัญหาชีวิตที่เคยติดขัด อับจนหนทางได้อย่างลงตัว มีทางออกใหม่ๆ คลายทุกข์คลายโศกอย่างคาดไม่ถึง ชีวิตจึงคล่องตัวกันมากขึ้น…
สำหรับเชือกรุ่นนี้ มีความพิเศษกว่ารุ่นก่อนๆตรงที่ เป็นเชือกแห่งจักรพรรดิโดยตรง ความเป็นจักรพรรดิจะศักดิ์สิทธิ์เช่นใด เชือกนี้ก็เช่นนั้น ย่อมคล้องความเป็นจักรพรรดิ และความเป็นมงคลทุกประการเข้าด้วยกัน พร้อมผลักดันสิ่งเลวร้ายให้ไกลออกไป
จะผูกห้อยวัตถุมงคลก็ดี ของมงคลต่างๆก็ดี ย่ิงเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้วัตถุเหล่านั้น เป็นมงคลยิ่งๆขึ้นโดยอัตโนมัติ จะไว้ในรถ ในบ้าน ในที่เก็บของมีค่า หรือจะนำไปผูกข้อมือ ทำเป็นสร้อยคอ หรือทำเป็นสายสิญจน์สู่ขวัญ ขจัดปัดเป่าเภทภัย และสิ่งอัปมงคลทั้งหลายก็ได้ ผูกข้อมือเด็กๆไว้เพื่อความสบายใจของผู้ปกครองก็ดี เพราะในปัจจุบันนี้ทั้งภัยมืดและภัยสว่าง ต่างถาโถมเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง จนเราแทบตั้งสติไม่ทัน โดยเฉพาะภัยที่เกิดขึ้นอย่างปุบปับฉับพลันไม่ทันตั้งตัว...
เนื่องจากในพิธีนี้ หลวงพ่อเอได้นำลูกแก้วที่เป็นสื่อตรงหลวงปู่ทวดเข้าประสิทธิ์เชือกนี้ด้วยเช่นกัน ก็คงไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆอีกแล้วล่ะครับ
ด้วยเหตุนานาประการ สีของเชือกจึงถูกกำหนดลงมาให้เป็นสีทอง เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นมงคลสูงสุด ดั่งสมญานามแห่งเชือกทองมงคลจักรพรรดินี้
แม้นำเชือกทองมงคลจักรพรรดิ ผูกไว้บริเวณหน้าบ้าน ก็สามารถดึงดูดความเป็นมงคล มั่งมี ศรีสุข คลายทุกข์ คลายโศก ปรับสมดุลพลังงานด้านลบให้กลายเป็นบวก ยิ่งบ้านไหนมีการสวดมนต์ เจริญจิตภาวนาเป็นปกติ ยิ่งเห็นผลได้อย่างรวดเร็วและชัดเจน
ถ้าผูกไว้ในรถ จะเดินทางไปไหนก็แคล้วคลาดปลอดภัย ทำมาหากินก็คล่องตัว เจริญรุ่งเรืองดี
มีความบังเอิญอีกเรื่องหนึ่งคือ วันที่หลวงพ่อบ้านสุมโน ท่านสั่งให้เเอดนำเชือกทองมงคลจักรพรรดิออกให้บูชาในคราวต่อไป ช่วงค่ำๆวันเดียวกันนั้น มีลูกศิษย์กราบเรียนถามหลวงพ่อว่า เชือกที่ผูกกระดิ่งลมรัตนะขาดแล้ว เลยยังไม่รู้จะใช้เชือกอะไรมาผูกแทนดี...
จะเรียกว่าพอดีก็คงไม่ผิด อย่างน้อยก็เป็นนิมิตเล็กๆเพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่า ถึงเวลาและวาระอันเหมาะสมเเล้วจริงๆ กับการออกให้ร่วมบุญบูชา เชือกทองมงคลจักรพรรดิ
และเท่าที่เเอดสังเกตมาโดยตลอด หากมีนิมิตเชื่อมโยงที่พอดีลักษณะนี้ ก็มักจะมีเหตุการณ์บางอย่างที่สนับสนุนกันเกิดขึ้น โดยที่วัตถุมงคลที่ได้รับคำสั่งให้เปิดบูชาขณะนั้น จะสงเคราะห์ในด้านนั้นๆพอดี…

ให้บูชาชุดนี้ 700 บาท ปิดรายการ จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ

 

รายการที่ ๑๒๘
ให้บูชาสมเด็จพระมหาจักรพรรดิรัตนานุภาพ ขนาดห้อยคอ เนื้อสัมฤทธิ์ (รุ่นเบ้าระเบิด) รุ่นนี้พระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิลังการ์
ปลุกเสก 1 ปีเต็ม, 8 พิธีวาระใหญ่
สำหรับข้อมูลของรุ่นนี้มีดังนี้
รุ่นนี้พระท่านสงเคราะห์ตั้งแต่ก่อนจะจัดสร้าง และก็มาขั้นตอนการสร้างแบบ หล่อองค์พระ และ พุทธาภิเษก….ปลุกเสก ๑ ปี
วัตถุประสงค์
ด้วยความตั้งใจ และ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงน้อมขอเมตตาจากองค์หลวงพุทธาภิเษกเนื่องในฤกษ์สำคัญของพระพุทธศาสนาทั้งหมด เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระคุณอันหาที่สุดไม่ได้….
เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงคุณพระศรีรัตนตรัย และเป็นการบูชาคุณความดีของ พระพุทธ พระธรรม และ พระอริยสงฆ์ จึงได้กราบอาราธนาขอเมตตาองค์หลวงพ่อบวงสรวงบูชาคุณพระรัตนตรัยและพุทธาภิเษก ในฤกษ์วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ประกอบไปด้วย วิสาขบูชา อาสาฬหบูชา เทโวโรหณะ มาฆบูชา และ มหาจักรพรรดิฤกษ์ ขึ้น ซึ่งใช้เวลาตั้งแต่จัดสร้าง จนครบทุกพิธี ราวๆ เกือบ 1 ปีเต็ม ซึ่งถือเป็นวาระที่ดีมากเนื่องจากปีที่จัดสร้าง มหาจักรพรรดิฤกษ์ มีถึง 2 พิธี และ บังเอิญตรงกับที่ หลวงพ่อท่านกล่าวไว้ว่า การจะจัดสร้างพระมหาจักรพรรดินั้น ต้องพุทธาภิเษกในมหาจักรพรรดิฤกษ์ก่อนเป็นครั้งแรก แล้วจึงค่อยพุทธาภิเษกในวาระสำคัญทางพระพุทธศาสนาต่อไป

ลำดับพิธีการบูชาคุณพระรัตนตรัย สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ รัตนานุภาพ เพื่อน้อมระลึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระธรรม และคุณพระสงฆ์ เนื่องในวาระวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาต่างๆดังนี้

พิธีแรก
วันที่ 3 มิถุนายน 2566 เวลา 07.30 น. ประกอบไปด้วย วิสาขบูชาฤกษ์ ตัวแทนกลุ่มพระเมตตาแห่งอินทร์บุรีทำการบวงสรวงขอพุทธานุญาตหล่อสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ รัตนานุภาพ หน้าตัก 29 นิ้ว จำนวน ราว 1 องค์ ( ปัจจุบันอยู่ที่ วัดโพธิลังการ์
เนื้อทองเหลืองมวลสาร หน้าตัก 9 นิ้ว จำนวน ราวๆ 80 องค์
เนื้อสำริด หน้าตัก 5 นิ้ว จำนวน 16 องค์ ( สำหรับคณะทำงาน )
ขนาดห้อยคอ เนื้อสำริด จำนวน 5000 องค์รวมถึงกดพระผงมหาจักรพรรดื รัตนานุภาพ แบบมวลสารพิเศษ

เกิดปรากฏการณ์เบ้าชนวนเนื้อสำริด ระเบิดถึง 3 วาระ ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนสำหรับโรงงานที่จัดสร้างวัตถุมงคลมานาน

พิธีที่ 2
วันพฤหัสบดีที่ 6 ก.ค 2566 เวลา 19.31 น. ประกอบไปด้วย มหาจักรพรรดิฤกษ์ และ เพชรฤกษ์
หลวงพ่อเมตตา บวงสรวงบูชาพระรัตนตรัย และ พุทธาภิเษก สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ รัตนานุภาพ และวัตถุมงคลอื่นๆ ณ วัดโพธิลังการ์ ในวาระแรก

พิธีที่ 3
วันที่ 31 ก.ค 2566 เป็นมหามงคลฤกษ์ ประกอบไปด้วยอาสาฬหบูชาฤกษ์ หลวงพ่อเมตตาประกอบพิธีบวงสรวงบูชาคุณพระรัตนตรัย เนื่องในมงคลฤกษ์ ดวงแก้วสามประการอุบัติเกิดขึ้นบนโลก นั่นคือการมี พระพุทธรัตนะ พระธรรมรัตนะ และ พระสังฆรัตนะ ครบถ้วนปรากฏขึ้นบนโลก …

พิธีที่ 4
วันที่ 3 สิงหาคม 2566 เวลา 13.03 น. หลวงพ่อเมตตาบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัย และ พุทธาภิเษก ในมหาจักรพรรดิฤกษ์

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้ง 3 พระองค์เมตตาเสด็จมาพุทธาภิเษกและยังมี หลวงปู่โต วัดระฆังที่เมตตามาสงเคราะห์ในงานนี้ ( พิธีนี้ หลวงพ่อท่านดึงกำลังมหาจักรพรรดิมาใส่ให้ผู้ที่มาร่วมงานด้วย )

พิธีที่ 5
วันที่ 29 ตุลาคม 2566 ประกอบไปด้วย เทโวโรหณะฤกษ์ หลวงพ่อเมตตาประกอบพิธีพุทธาภิเษก รายการดังนี้

1 พระมหาจักรพรรดิ รัตนานุภาพ
2 เหรียญ และ กงล้อแก้ว แห่งดวงดาว
3 เหรียญ และ ศรนารายณ์
4 จิ้งจกมหาเสน่ห์ หนุนดวง
5 ปลาช่อนมหาลาภ
5 หนานไห่กวนอิม แบบนำฤกษ์
และอื่นๆ

พิธีที่ 6
วันที่ 23 ก.พ 2567 ประกอบไปด้วย มาฆบูชาฤกษ์ หลวงพ่อเมตตาบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัย และพุทธาภิเษกวัตถุมงคล

โยมในพิธี : หลวงพ่อครับ พิธีนี้เป็นยังไงบ้างครับ

หลวงพ่อใจดี : ดีมากกกกกก … กูเชิญ พระทุกพระองค์ ศาสดา เจ้าลัทธิ เทพเจ้า ทุกลัทธิมาหมด แม้กระทั้ง อักขระยันต์ต่างๆ ไม่ว่าจากชาติใด อยู่ที่ไหน กูไปเอามารวมกันหมด ( ยิ้ม )…

โยมในพิธี : ( อุทานแบบไม่มีเสียง ) …..อื้อหื้อ !!!!

หลวงพ่อใจดีเมตตาบอกว่า ท่านดึงเอาอักขระทุกตัวที่อยู่บนโลกและอนัตจักรวาลลงมา นั่นรวมไปถึง อักขระและเลขยันต์ทุกตัวลงมา ยันต์มหาสะท้อน หรือแม้แต่มหาระงับ พิชัยสงคราม ก็คืออักขระเลขยันต์นั้นด้วย แม้กระทั่งรูนส์เองก็เช่นกัน
#ไปคิดกันเอาเองนะครับ ว่ากำลังจะมหาศาลแค่ไหน….

พิธีที่ 7
วันที่ 13 เมษายน 2567 เป็นวันเสาร์ 5 ตรีวัน หลวงพ่อเมตตาบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัย และ พุทธาภิเษกวัตถุมงคล
ซึ่งวัตถุมงคลที่ปลุกเสกในฤกษ์นี้จะแรงเป็น
3 เท่า แรง x 3 เลยทีเดียว

พิธีสุดท้าย
วันที่ 21 พฤษภาคม 2567 ประกอบไปด้วย วิสาขบูชาฤกษ์ หลวงพ่อเมตตาบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัย และ พุทธาภิเษกวัตถุมงคล รวมไปถึงระฆังพระกษิติครรภ์ด้วย ในวันนี้เป็นมงคลอย่างสูงเพราะพระอาทิตย์ทรงกลดในช่วงเช้า และ พระจันทร์ทรงกลดในช่วงค่ำ ก่อนเริ่มงานฝนตกอย่างหนัก แต่พอเริ่มจะเตรียมงาน ฝนก็หยุดลงทันที เหลือไว้แต่ความชุ่มเย็น…

มีเพียง 2 องค์ เหลือองค์ที่ 1 ให้บูชาองค์ละ 500 จัดส่ง 50 จองได้สามวันครับ

 

รับทราบการจองรายการที่ ๑๒๘ องค์ที่ 2 ครับ ขอบพระคุณมากครับ

 

รายการที่ ๑๒๙
ให้บูชาศิลาน้ำอธิษฐาน รุ่นย้อนยุค ของวัดอาวุธ หลวงปู่มหาศิลา จ.กาฬสินธิ์อธิษฐานจิตเดี่ยววันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา
รายละเอียดมีดังนี้
ศิลา น้ำอธิษฐาน นี้ ตั้งแต่ คุณแม่บุญเรือน ปลงสรีรสังขาร ไม่ได้จัดสร้างอีกเลย
มาวาระมงคลพิเศษ ที่มีพระเถระผู้ทรงวิทยาคุณที่มีเมตตาแผ่ไพศาลปรากฏทั่วประเทศ คือ หลวงปู่ศิลา (พระราชวัชรธรรมโสภณ) จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งนามของท่านเป็นมงคลยิ่งและตรงกันกับนามมงคลวัตถุของคุณแม่บุญเรือน คือ ศิลา (น้ำอธิษฐาน)
ในวาระวันวิสาขบูชา 2567 และ เป็นวาระรำลึกครบ 130 ปี แห่งชาตกาล (และ ครบ 60 ปี แห่งการปลงสรีรสังขาร) คุณแม่บุญเรือน ทางวัดอาวุธฯ จึงจัดสร้าง ศิลาน้ำอธิษฐาน คุณแม่บุญเรือนเป็นพิเศษขึ้น ในจำนวน 9,999 ก้อน โดยมียันต์ พุทโธ ประทับกำกับทุกก้อน
ในการนี้ ได้รับประกอบพิธีอธิษฐานจิต โดย หลวงปู่ศิลา ณ วัดอาวุธฯ ในวันวิสาขบูชา ตรงกับวันพุธ ที่ 22 พฤษภาคม 2567 เวลา 19.09 น.
หมายเหตุ ศิลา ที่นำมาอธิษฐานนี้ เป็นศิลากรวดแม่น้ำโขง และ ศิลาบาหลี อินโด ประด้วยสี ขาว สี ดำ และ เหลืองน้ำผึ้ง
ประชาชนไปร่วมงานเพื่อบูชาศิลาน้ำนี้ในวันงานเป็นจำนวนหลักพันครับเพื่อบูชาศิลาน้ำ อีกหน่อยน่าจะต้องการกันครับ
ผมมีให้บูชาแค่ 3 ก้อน ปิดทุกรายการ บูชาก้อนละ 300 บาทครับ จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ

 

-ขอจอง1 ก้อน (ก้อนกลาง) ครับ

 

รายการที่ ๑๓๐
ให้บูชาภาพหลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา ด้านหลังปั๊มยันต์ตุ๊กตา ขนาด 6x8 นิ้ว หลวงปู่ดู่เสกประมาณปี 31 เป็นภาพหลวงปู่นั่งสมาธิเต็มองค์ ผมได้นำภาพไปเคลือบกันภาพเสียหายเรียบร้อยแล้วครับ
มีอยู่ 2 ภาพ ให้บูชาภาพละ 1000 จัดส่ง 50 รายการนี้จองได้สามวันครับ( ถ้าเทียบกับราคาภาพอื่น ๆ ของหลวงปู่ดู่ ถือว่าราคาเบากว่าครับ)

 

รายการที่ ๑๓๑
ให้บูชาพระพุทธสิริสัมปันโนรุ่น 2 ที่ระลึกผู้ร่วมบุญกฐินสำนักสงฆ์เกาะพระฤาษี หลังยันต์พุทธนิมิตมหามงคล เข้าพุทธาภิเษก ณ วัดท่าขนุน พิธีเหรียญพุทธบารมี (รุ่น ๒)

มวลสารสำคัญ คือ ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่, ลูกอมชานหมาก หลวงปู่ทิม วัดพระขาว
ผงจักรพรรดิ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก, ดินมวลสารจอมปลวกในวิหารหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ เป็นต้น
ที่เห็นเป็นเม็ดสีดำกระจายทั่วองค์พระนั่นคือมวลสารนะครับ
ให้บูชาองค์ละ 330 ติดจอง จัดส่ง 40 จองได้สามวัน

 

ขอจองครับ

 

รับทราบการจองรายการที่ ๑๓๑ พระพุทธสิริสัมปันโนครับ ขอบพระคุณมากครับ

 

รายการที่ ๑๓๒
ให้บูชา สร้อยข้อมือหยกรู (หยกกระซิบเทพ) รุ่นนี้พระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังกา อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรีและพระอาจารย์อ๊อด มูลนิธิพระมหาจักรพรรดิโพธิสัตว์กวนอิมเสก
สำหรับหยกรูนั้นในยุคจีนโบราณนิยมใช้หยกที่มีรูตรงกลาง เพื่อไว้ขอพรแจ้งความประสงค์กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
โดยบอกกล่าวผ่านช่องรูของหยกนั้น หยกรู เป็นหินมงคล หากเราต้องการขอพร ให้นำหยกรู มาไว้ใกล้ปากเเล้วกระซิบ เรื่องที่เราปรารถนาผ่านรูหยก
เข้าพิธีจันทร์เพ็ญ วันจันทร์ที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ (จันทร์ซ้อนจันทร์) อธิษฐานจิตปลุกเสก โดย พระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิลังการ์
เข้าพิธีวันเพ็ญลอยกระทง วันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ อธิษฐานจิตปลุกเสก โดย พระอาจารย์อ๊อด วัดหน้าพระเมรุฯ เสกลูกแก้วปรับธาตุ วาระสาม ที่มูลนิธิพระมหาจักรพรรดิโพธิสัตว์กวนอิม

ผมมีอยู่เส้นเดียว ให้บูชา 220 จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ

 

รายการที่ ๑๓๓
ให้บูชาถุงผ้าเงินล้าน ด้านหน้าเขียนพระคาถาเงินล้าน เป็นอักษรขอม (เขียนด้วยมือ) รุ่นนี้ผ่านการเข้าพิธีสวดพระคาถาเงินล้านที่วัดท่าขนุน ๒๗ ก.พ.๖๕ (ผมบูชามาจากเว็บวัดท่าขนุนมาครับ และหมดไปแล้ว) จะใส่เงินก็ได้ หรือใส่วัตถุมงคลก็ได้ เป็นมงคลทุกอย่าง เด่นด้านลาภมาก จะใส่เงินก็เป็นเงินขวัญถุง ใช้ควบกับพระคาถาเงินล้านก็มีแต่ความคล่องตัว เนื่องจากเขียนด้วยมือจึงมีจำนวนไม่มากครับ ขนาด 6x8 นิ้ว โดยประมาณ
ให้บูชาถุงละ 300 บาท ปิดรายการ จัดส่ง 30 จองได้สามวันครับ

 

ปิดรายการนี้ครับ

 

รับทราบการจองรายการที่ ๑๓๓ ถุงผ้าเงินล้านครับ ขอบพระคุณมากครับ

 

รายการที่ ๑๓๔
ให้บูชาชุด เซียนแปะโรงสี ประกอบด้วย 3 อย่าง (แต่ต่างพิธีกัน)
รายการแรกคือ ผ้ายันต์ฟ้าประทาน ผืนเล็กขนาดพกพา ซึ่งผ้ายันต์ชุดนี้ปลุกเสกโดยพระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังกา หลวงพ่อใจ วัดพระยาญาติ หลวงพ่ออุดม วัดพิชัย(อยุธยา) พระอาจารย์อ๊อด มูลนิธิมหาจักพรรดิ์โพธิ์สัตว์กวนอิม ซึ่งจัดสร้างปี ๒๕๖๑ โดยที่พระอาจารย์อ๊อดท่านกำหนดฤกษ์ด้วยวิชาขงเบ้งชั้นสูง(ฉีเหมินจักรพรรดิ์)
มีเรื่องเล่าว่า ในงานนั้นเมื่อเสร็จพิธีพระอาจารย์บ๊ะไม่ยอมลงจากแท่นพิธีนั่งอยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมงมีลูกศิษย์แอบถามท่าน ท่านบอกว่าเทพ3องค์ซำกวนไต่เต่ลงมาพร้อมเต่าดำลงมาในพิธียังไม่เสด็จกลับสวรรค์ท่านเลยยังไม่ลุกออกจากพิธี ขลังปังมากๆ ฟังที่พระอาจารย์พูดแล้วขนลุก

รายการที่สอง เป็นภาพขนาดพกพา รูปเซียนแปะโรงสีในอิริยาบถขณะที่องค์ปึงเถ่ากง(เจ้าน้อยมหาพรหม)ลงประทับร่างเซียนแปะโรงสี เพื่อช่วยเหลือเหล่าปราบปรามสิ่งชั่วร้าย และให้พรต่อเหล่าศิษย์และผู้ที่เคารพนับถือในตัวท่าน สำหรับรุ่นนี้จำพิธีเสกไม่ได้ครับ แต่มีการเสกแน่ๆครับ

รายการที่สามเป็นการ์ดโลหะยันต์อาแปะโรงสีด้านหน้าเป็นรูปอาแปะฉากฟ้าด้านหลังเป็นยันต์ฟ้าประทานเข้าเสกร่วมพิธีวันฟ้าอภัย(เสกลูกแก้ว)และพิธีเสกแก้วน้ำท้าวเวสสุวรรณ พระอาจารย์บ๊ะกับพระอาจารย์อ๊อดร่วมเสก
สำหรับเซียนแปะเป็นที่เคารพของคนจีนแถวเยาวราชมากยันต์ฟ้าประทานเป็นที่เลื่องลือเป็นอย่างยิ่งในด้านค้าขายโชคลาภเหรียญรุ่นแรกที่เซียนแปะเสกเล่นกันหลักแสนบาท ถ้าไม่ดีจริงราคาจะไม่เป็นหลักแสนทุกวันนี้ที่ศาลเจ้าของท่านมีคนไปไหว้ขอพรอยู่ทุกวันเคล็ดลับคือให้ขอห้ามบน
ชุดนี้บูชาติดตัวได้เลยครับ

ชุดนี้ให้บูชา 200 ติดจอง ส่ง 30จองได้ 3 วัน