เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ขอบคุณค่ะ คุณพี คุณช้าง ข่าวจากที่นี่ไม่มีอะไรมากค่ะตอนนี้ มีแต่หนาวผิดปกติกว่าทุกปี หมอกคลุมไปหมดแทบจะมองไม่เห็นทางเวลาขับรถ เป็นมาหลายวันแล้วค่ะ

คุณช้างเขียนแต่ละทีเหมือนตาเห็นเลยนะคะ

โมทนาบุญกับทุกๆ ท่านค่ะ

 

ตาเขาดี ขับรถเวลามีหมอกนี่เป็นอะไรที่ปกติมากสำหรับ ต่างประเทศ มีไฟตัดหมอก ขับไม่เร็ว สติดี ยางด เบรคดี ไปเรื่อยๆ สบายใจครับ

ที่ประเทศไทย แดนสยามเมืองยิ้ม รอยยิ้มยังพอมี อากาศเริ่มหนาวที่นนท์ ลมหนาวเริ่มพัดมา

อากาศเย็นสดชื่น ถือว่าเป็นการเริ่มวันที่ดี แต่คนที่อยู่ทางเหนือ ทางอีสาน คงหนาวมาก ผมไม่อยากจินตนาการว่าหิมะจะตก แต่เรื่องเย็นเป็นน้ำแข็งนั้น ผมเจอมาตั้งแต่อยู่เมืองฝาง ถ้าจะตกก็แสดงว่าธรรมชาติเริ่มแปรปรวน ไปตามที่คาดการณ์

ภูเขาน้ำแข็งแถวอเมริกาใต้กำลังละลายตัวอย่างรวดเร็ว ผมนั่งฟังข่าว ก็ถึงบางอ้อว่า เริ่มมาตั้งแต่ ศษตวรรษที่ ๑๘ แต่ สามสิบปีหลังนี่เริ่มละลายอย่างรวดเร็ว แสดงว่าที่เย็นก็เย็นน้อยลง ที่ร้อนก็ร้อนมากขึ้น น้ำจะมากขึ้น ยืนยันชัดเจนว่าเปลี่ยนแน่นอน และฝนจะตกหนักบางที่ แล้งในบางที่

 

วันนี้ก็จะยุ่งๆอีกวัน

ตอนนี้มีคนโทรมาถามผมเรื่อง พระเครื่อง เครื่องรางของหลวงปู่เยอะ บอกตามตรง ผมก็มีเยอะ และเห็นมาเยอะ เพราะชอบเก็บสะสม พระเครื่องรางมานาน โดยเฉพาะยิ่งมาเจอ พระแบบหลวงปู่ แต่ผมไม่เขียนเองแหละครับ กั้กไว้ก่อน ให้เขาเอามาขายกัน ถึงเวลาผมจะโชว์ของผม และ เขียนไปตามความจริง

แต่ท่านที่สะสม อะไรว่าใช่ ท่านพิจารณาด้วยปัญญาซ่ะก่อน ให้เขารับรองก่อนซื้อ

คนที่ทันหลวงปู่ รู้เห็น ทราบ มี เขายังไม่พูด แต่คนขายน่ะ ดูๆแล้ว ไม่ทันหลวงปู่( ไม่เคยเห็น ) ไม่รู้เห็น ไม่ทราบ แต่เขียนเรื่องราวเป็นตุ เป็นตะ เหมือน ยุคหลวงพ่อทรง

แต่ผมยืนยันได้อย่างหนึ่ง ของทั้งหลาย มาจากหลวงปู่จะฟรี ที่เอามาขาย หลักๆน่าจะมีพวกผมนี่แหละ

และของทั้งหลาย มีสรรพคุณ ดีกว่า ของหลักแสน หลักล้าน บนคอเขาซ่ะอีก

 

กราบหลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง หลวงปู่อั๊บ

สวัสดีพี่พี พี่ช้าง พี่สันสิริ และ พี่ๆ เพื่อนๆ สมาชิกทุกท่านค่ะ

 

กราบนมัสการหลวงพ่อทรง และหลวงปู่บุญศรีครับ

สวัสดีครับพี่พี พี่ช้าง และทุกๆท่าน

ช่วงนี้อากาศดีมากครับ และผมสบายใจยังไงบอกไม่ถูก

ตอนนี้ผมเหลือแค่ไปรับกริ่งแพโบสถ์น้ำที่ฝากป้าอี๊ดดูแลไว้ ได้มาจะเลี่ยมขึ้นคอเลย ตอนนี้แขวนชัยวัฒน์อยู่ครับ และผมคงจะหาบูชาของๆหลวงปู่ตามกำลัง เอาไว้ให้ญาติๆหรือคนใกล้ชิด ไม่สะสม แต่เห็นพี่ๆ น้องๆ เอามาโชว์ทีก็น้ำลายไหลที ไว้ผมมีโอกาสจะหาผ้ายันต์ท่านมาเข้ากรอบสักผืน แค่นี้ก็พอใจแล้วครับ

ขอให้พี่ น้อง บ้านเหรียญบินทุกท่านสุขภาพแข็งแรง มีความสุข และร่ำรวยครับ

 

ขอโมทนา สาธุ บุญกุศลด้วยครับ [www.marateebook.com] <O> </O>
<O> </O>

 

ขอโมทนา สาธุ บุญกุศลด้วยครับ [www.marateebook.com]

 

วันนี้มามืดหน่อย รถติดเพียบ

กทม กลับสู่ชีวิตปกติ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง ครับ
สวัสดีครับทุกๆท่าน หนาวแล้ว ลมแรง รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง หลวงปู่บุญศรีครับ

ขอบารมีหลวงปู่คุ้มครองครับ

 

ผมไปเขียนไว้ในกระทู้หนึ่ง อาจจะตรง อาจจะแรงไปนิด แต่ มานั่งคิดดู น่าจะเผยแพร่แนวคิดของผมตามที่ศึกษาตอน บวชมา ผมบวชเพราะอยากบวช ไม่มีใครบังคับ หรือ หนีใคร ผมบวชเพราะเคารพในธรรม เบื่อคน เบื่อโลก มองแล้วเครียด บวชแล้วค่อยๆทิ้งทุกอย่าง ไม่ได้มีเจตนาบวชแสวงหาทรัพย์หรือสิน อย่างอื่น ยกเว้นอริยทรัพย์

แต่กรรมมาดึงให้สึก สึกมาเป็นฆราวาสก็วนเวีนนกับเรื่องเก่าๆ วงจรเก่าๆ ครูบาอาจารย์ดีๆ ที่เหมาะกับจริตเรา มีบุพกรรมกันมา ก็หายากขึ้นทุกที ที่อยากจะไปพบไปเจอ ก็แก่มาก หรือ ไกลมาก ไปไม่ไหวเหมือนเดิม เพราะภาระ ห่วงพันธนาการที่หาไว้คล้องคอตัวเอง และ บ่วงมารที่มองไม่เห็น ท่านอ่านและ ใช้ปัญญาพิจารณาเอาเอง อย่าเชื่อทุกคำที่ผมจะพูดในเรื่องแบบนี้ แต่เชื่อในสติของท่าน ใช้สติปํญญามองดูดีๆ


หลวงปู่พระครูบุญศรีสอนผมว่า ดูคนดูนานๆ

Quote

ด้วยความเคารพในธรรมและความเป็นผู้ใหญ่ของท่านสมาชิกทุกท่าน ผมเองดูมาตลอดและนึก มีความผิดเหมือนกันที่ไม่ได้พูดอะไร หรือ เตือนใคร แต่บอกตามตรง ในเวลานั้น ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร กับมิตรในเน็ตที่แปลกหน้า ไม่แน่ใจในวิธีว่าจะเตือนอย่างไร และ ไม่แน่ใจในผลถ้าเตือน

ผมขอกราบเรียนบอกวิธี ปฏิบัติ ในการที่คนไกล ไปพบ พระ คนนุ่งเหลือง ต่างแดน ต่างถิ่น เราไม่รู้จักคุ้นเคยมาเป็นการส่วนตัว ไม่รู้จักคุ้นเคย สถานที่ ไม่รู้จักคุ้นเคยผู้คน ที่ท่านจะต้องทำเพื่อให้มั่นใจ ว่า เงินของท่าน ทานของท่าน ได้สัมฤทธิ์ผล ได้ ทำบุญ ได้ของดี ของวิเศษ ได้เจอคนดีๆ พระดีๆ ตามที่เราปราถนา

โปรดเสียเวลานิดเดียว หลักๆมีดังนี้

๑) เมื่อไปวัดไหน สำนักไหน คุยกับคนข้างวัดให้ได้ คนข้างวัดจะเห็นพฤติกรรมของวัดมาตลอด อาจจะเป็นพวกเดียวกันก็ได้ หรือ คนล่ะพวก แต่เราจะทราบข้อมูล มาเทียบความแตกต่างของเนื้อเรื่อง เป็นการแก้เรื่องไม่คุ้นเคย โดยทำตัวให้คุ้นเคยกับพื้นที่ กับคนพื้นที่โดยเร็ว

เมื่อได้ข้อมูลของคนข้างวัด ก็คุยไปเรื่อยๆ ร้านขายของ พ่อ ค้า แม่ค้า ใครที่เจอและพอคุยได้ เมื่อได้ข้อมูล อาจจะแตกต่างกัน ขัดแย้งกัน ให้ท่านพิจารณาขอมูลแบบมีสติ ไม่ใช่พิจารณาแบบมีศรัทธา

เสพข้อมูลแบบ บุคคลที่สาม ใช้ปัญญาของท่านเป็นตัวตัดสิน

ของจริงย่อมจริง ทองดีย่อมไม่หมอง ไม่ดำ

ของไม่จริง ทำอย่างไรก็ไม่จริง เป็นทองย้อม หมองและดำ

๒) คุยกัยพระวัดใกล้ๆ พระจะมองพระด้วยกันออก เพราะพระจะไม่ใช่คนธรรมดาน่ะครับ พระมีศีล ๒๒๗ ข้อ จะทำตัวเป็นคนธรรมดาไม่ได้ ศีลเป็นเรื่องยาว ถ้าจะมาเขียนกัน แต่ศีลจะทำให้พระที่ดี กระดิกตัว ออกนอกทางมิได้ เป็นเจตนาที่องค์บรมครูบัญญัติไว้ เมิ่อมีพระภิกษุ ต้นบัญญัติ ทำการผิด ฝ่าฝืนจิตอันบริสุทธิ์ ข้อนี้ผมจะแจงต่อไป แต่พระด้วยกันจะมองพระด้วยกันออกมากกว่าเรามอง เฉกเดียวกับทหาร จะมองทหารด้วยกันออก ด้วยทหารมีวินัย ไปเจอทหารที่ไม่มีวินัย พอเห็นการแต่งตัว ท่าทางการเดินเหิน และเริ่มพูดคุยก็จะมองกันออก

เจ้านายเดิมผู้ล่วงลับของผมสอนไว้ว่า ไปหน่วยทหารไหน ไปถึงให้เข้าห้องน้ำ เห็นห้องน้ำ จะบอกได้เลยว่าหน่วยนั้นมีวินัยอย่างไร

วิธีนี้ อมตะ ใช้ได้ผลทุกที่ ใช้กับวัดก็ได้

ตำรวจด้วยกันก็มองตำรวจด้วยกันออก เพราะพูดจาภาษาเดียวกัน
ให้เลือกพระที่มีอายุพรรษา ยิ่งเป็นเจ้าคณะตำบล พระที่ดี ท่านไม่โกหก แต่อาจจะเลี่ยง ไม่พูด เราก็ดูท่าทางเอา เรียกว่าพูดโดยท่าทาง

๓) คุยกับตำรวจในพื้นที่ หาเรื่องถามทางเลย ตำรวจนี่ก็จะไม่ใช่คนธรรมดา จะมีไหวพริบกว่าชาวบ้าน และตำรวจบ้านนอกจะมีน้ำใจกว่าตำรวจในเมือง ที่มองเรื่อง เวลา เร็ว ช้า เสียเวลา แต่ตำรวจบ้านนอกบางท่าน จะ นำเที่ยวเลย บอกว่าที่ไหนอย่างไร และตำรวจจะรู้ลึกกว่าชาวบ้าน ในบางเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่ผิดๆ ไม่ถูกไม่ต้อง

๔) คุยกับครูโรงเรียนใกล้ๆ หาครูพื้นที่ ที่สอนมานานๆ ฟังดูว่ายาก แต่จริงๆไม่ยากเลย หาเบอร์โทรตามเน็ตก็ยังได้ ชวยคุยเรื่องบุญ เรื่องการพัฒนาวัด ใกล้โรงเรียน ครูบ้านนอกเป็นคนมีน้ำใจ ครูจะพูดเก่งแทบทุกคน ท่านจะทราบอะไรดีๆ ได้เรื่องมาต่อยอดมากมาย

หลักเอาแค่นี้ ยังมีปลีกย่อย แต่ท่านเสียเวลา เสียน้ำมัน ขับรถไปตั้งนาน แค่ หาคนคุยด้วยก่อน ไม่น่ายากครับ ดีกว่าไปเสียเงิน เสียทอง ไปกราบไหว้ สิ่งที่ไม่ควรแม้แต่จะชายตามอง

ขอผมแจงเรื่อ ศีลของพระ หน่อยเดียว

พระพุทธองค์ ปรับหนัก เรื่อง ขโมยของที่มีค่ามากกว่า ๕ มาสก คำว่า ๕ มาสก นี้ตีความกันมา ว่าเท่าไหร่ เรื่อมันยาว ผมจะไม่เข้าประเด็น เอาว่าไม่น่าจะมาก แต่เราดูที่เจตนาของการกระทำดีกว่า ไม่ใช่มามองว่าเท่าไหร่

๑) ถ้าพระภิกษุ นั้นขโมย ( คำว่าขโมยคือคำจำกัดความอันหนึ่งของการเบียดเบียนทรัพย์โดยมิชอบ ) โดยมีจิต คิดอยากได้ ของที่ไม่ใช่ของตน ทำให้จิตไม่บริสุทธ์ อันนี้ผิด คิดผิด

๒) ทรัพย์นั้นมีเจ้าของ เจ้านั้น อาจจะมองไม่เห็นก็ได้ จะรู้หรือมิรู้ ว่ามีเจ้าของ

๓) มีการขโมยเกิดขึ้น คือ มีการพยายาม มีวาจา มีกำลังกาย ที่เบียดเบียนทรัพย์ โดยเจตนาตามข้อหนึ่ง มีมูคค่าเท่ากับ ๕ มาสก ( น่าจะเล็กน้อยในยุคนั้น ไม่มาก บางท่านว่า ๑ บาท บางท่านว่า เท่ากับทองคำ ๒๐ เมล็ดข้าว)

๔) การขโมย หรือ เบียดเบียนทรัพย์นั้น ทำสำเร็จ ได้ของมาครอบครอง

สรุปว่า คิดไม่ดี ทำไม่ดี และทำสำเร็จ ของมีเจ้าของ

พระองค์นั้น จะต้องอาบัติ ปาราชิก และ ขาดจากความเป็นพระทันทีในที่นั้น แต่งพระก็ไม่ใช่พระอีกต่อไป และไม่สามารถบวชได้อีกต่อไป ทางเดียวคือนรก และเมื่อรับโทษไป กว่าจะมาเป็นพระได้อีก ก็อีกนานมาก

ปาราชิกมี หลักๆดังนี้ครับ

๑) เสพกาม แม้กับสัตว์

๒) ถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ให้ ( หลอกเขา ) จากบ้าน หรือ จากป่า ( เอามาจากป่าก็ไม่ได้ครับ พระวินัยว่าไว้ )

๓) พรากชีวิต ฆ่าคน แสวงหา สะสม ศาสตราที่เอาไปฆ่าคน โดยเจตนา

๔) อวดอุตตริมนุสสธัมม์ ไม่รู้จริง แต่อวดความสามารถ

ทำสำเร็จ จะขาดจากความเป็นพระทันที่ พระทุกองค์ที่บวชมา พระอุปัชฌาย์ จะบอกไว้ชัดเจน ในศีล สี่ข้อนี้ ทุกองค์

ยังมีศีล โทษกลางๆอีก ๑๓ ข้อ สังฆาทิเสส ที่จะทำให้พระไม่บริสุทธิ์

ขอให้ หาที่อาจารย์กูเกิ้ลน่ะครับ ว่าอะไรคือ สังฆาฯ ท่านจะตาสว่าง แต่ ผมจะอธิบายแค่ว่า ศีล ๑๓ ข้อนี้ พระไม่สามารถ ปลงอาบัติได้ ต้องไปรับโทษ เข้ากรรมฐานภายใต้การดูและ พฤติกรรมของหมู่พระ อาวุโส รับกรรม เท่ากับจำนวนวันที่ปกปิดไว้ และพอหมู่พระ ครธสงฆ์ ท่าน อนุญาต เห็นว่าสำนึก ว่าพ้น จึงจะพ้นอาบัตินั้น ไม่อย่างนั้นติดตัวไปทุกภพชาติ

แต่พอจะเห็นได้ว่า พระไม่ใช่คนธรรมดาที่จะทำอะไรแบบฆราวาสได้ แต่ท่านอาจจะสงสัย ว่า พระแบบนั้นจะมีเหรอ

มีครับ สำหรับพระท่านที่ตั้งใจมาบวชจริงๆ มีเยอะซ่ะด้วย ไม่งั้นพังไปนานแล้วครับ

แต่สำหรับท่านที่ไม่ได้ตั้งใจมาบวช เพื่อธรรม เกรงว่าก็มีเยอะ มากกว่าพระที่อยากบวชจริงๆ เยอะมากครับ

เมื่อท่านเข้าใจหลักสักนิด ศึกษาไป จะเห็นเอง เพราะรายละเอียดปลีกย่อยที่ ใช่ หรือ ไม่ใช่ มันมีเยอะ ไม่สามารถจะมาเขียนได้ในหน้าสองหน้า แต่ผมอยากจะสรุปว่า

๑) คนมีเมีย มีลูก

๒) คนเล่นไสยศาสตร์ แนวภูติผี เดรัจฉานวิชา และ ใช้ทำงาน แสวงหาทรัพย์ ทำในวงกว้าง

๓) คนหลอกลวงเบียดเบียน ขโมยทรัพย์คนอื่น

๔) คนเมาสุรา ประจำ

เอาหลักๆแค่นี้แหละครับ คนเหล่านั้น ไม่ใช่พระครับ เป็นอะไร ผมไม่ทราบ ไม่เคยคิดจะไปเหยียบ อาราม แบบนั้น ผมกลัว...แหะๆ

unquote

ขอต่อว่า กว่าท่านจะไปทำบุญ ทำทาน ไปเรียนวิชา ไปหาของดีกับคนเหล่านั้น คนเหล่านั้นเมื่อมาบวช ตั้งแต่ไม่บริสุทธิ์มา เป็นปาราชิก เป็น สังฆาทิเสส หรือ อาบัติเล็กน้อย เป็นนิจ ทำประจำ คิดว่าปลงอาบัติก็หมด ไม่หลีกเลี่ยงอาบัติ

การเป็นพระเจออะไรที่ผิดพระธรรมวินัย มากน้อย ต้องหนี และ หลีกเลี่ยง เลี้ยงใจให้บริสุทธิ์ และเมื่อมาบวช ต้องศึกษาพระวินัย เพราะศีลของพระ ไม่เหมือนศีลของฆราวาส ศีลของพระต้องถือศีลด้วยชีวิต ถือไว้ด้วยใจ ถ้าไม่มีศีลก็ไม่ใช่พระ เพราะพระไม่ต้องมา สมาทานศีลใหม่ บวชแล้วได้ ๒๒๗ข้อโดยอัตโนมัติ แต่ต้องรักษาด้วยชีวิต ถ้าต้องปาราชิก ขาดแล้ว ไปเลย ถ้าขาด สังฆา ฯ ต้องสอบใหม่ ถ้าขาด เบากว่านั่น เป็นนิสสัยคิย เรื่องเก็บสิ่งของ เรื่องปาจิตตีย์ ฯลฯ ยังมาปลงกับพระอาวุโสได้ แล้วตั้งใจใหม่จะไม่ให้ขาด


แต่สำหรับคนที่ ไม่ได้มาแสวงหาธรรม คนเหล่านี้มีความเป็นไปได้สูง ที่เมื่อเขามาในวัดก็เบียดเบียนของวัด เมื่อทำแบบนั้นก็ปาราชิกมาตั้งแต่ก่อนมาเจอท่าน ซ่ะอีก


ที่ท่านไปเจอๆกัน เป็นสมี มีลูกเมีย มีบ้าน มีทรัพย์สมบัติ กินข้าวเย็น กินเหล้าสุราฮะกึ้นเหมือนเรานี่แหละครับ ไม่ใช่พระ ถ้าเป็นแบบนั้น ท่านคิดว่าเงินทองที่ท่านสละไป จะได้บุญไหม?


เรื่องแบบนี้ ฟังแล้วอย่าท้อ แต่ให้ฟังแล้วมีสติ พระดีๆ แม้จะตัวดำ ร่างกาย ไม่แข็งแรง งกๆเงิ่นๆบ้างตามวัย แต่จะมี สติดี มีวรรณผ่องใส เพราะใจใส มีสายตา กล้า เมตตา ไม่อายโลก ไม่อายธรรม สังเกตุหน่อยน่ะครับ


พระไม่จำเป็นต้องหล่อ หน้าใส ผมเห็นพระหน้าใสๆในช่องทีวี ดาวเทียม พอเห็นผมล่ะเสียว กลัวท่านจะ ขัดหน้า ทาครีม ทำให้หน้าเด้ง...แหะๆ


ผมเคยพาหลวงพ่อบุญจันทร์ จันทวโร ไปหาหมอ ท่านเป็นอัมพฤต ที่แถวพงษ์เพชร พอหมอให้ท่านถอดจีวรออก หมอตกใจ ตัวท่านเต็มไปด้วยบาดแผลเป็น ที่สีข้าง ที่หลัง ที่หน้า ที่หัวแม่มือ พอถอดจีวร หมอร้องโอ้โฮ หมอถาม ตรงนี้ ท่านไปโดนอะไรมา ท่านบอกไปธุดงค์มา แบบตอบซื่อๆ หมอถามอีก ตรงนี้ล่ะครับ ท่านก็ตอบแบบเดียวกัน ไปธุดงค์มา ถามกี่ที่ คำตอบก็แบบเดียว ท่าทีหมอเปลี่ยนไปเยอะ ทั้งอาการและสายตาเมื่อมาเจอตัวจริง คนจริง ไปที่ไหน ก็จริงวันยังค่ำ


หมอ มาบอกผมทีหลัง พระองค์นี้ออกศึกมาเยอะ ...เหอๆๆ


เป็นพระตัวไม่ต้องหล่อ หน้าไม่ต้องหล่อ แต่ใจต้องหล่อ น่ะครับ พวกหลวงน้า หลวงพ่อ ผมเป็นห่วง


องค์สมเด็จพระทศพล บรมครู ท่านเป็นลูกกษัตริย์น่ะครับ เป็นโดยสายเลือด หลักการนี้ถ่ายทอดมาถึง พระภิกษุครับ โดยพระวินัยของพระ ทำให้พระเป็นเหมือน ลูกกษัตริย์ ศากยะวงค์ เป็นลูกของ อดีตเจ้าชายสิทธัตถะ กริยา มารยาท วาจา สมณรูปจะเรียบร้อย


พระเคร่งๆโดยธรรมชาติ นางงาม สู้ไม่ได้ครับ


ตัวอย่างนี้ ชัดเจนคือหลวงปู่พระครูบุญศรี จะเดิน เหิน พูดจา จะมีสติ ไม่มีหลุด ไม่มีคำสบถ คำด่า คำหยาบ จะกิน จะนอน จะแต่งกาย จะเรียบร้อย จะเข้าห้องน้ำห้องท่า มีสติ กริยาเรียบร้อย


นางงาม ให้มีตำแหน่ง กริยามารยาท ก็สู้หลวงปู่ผมได้ เพราะท่านทำตัวโดยธรรมชาติ ไม่ต้องตั้งท่า สรรแต่งให้ใครดู เป็นศากยะบุตร ตามตำนานที่เล่าขานกันมาครับ ว่าพระสมัยพุทธกาล อ้อเป็นแบบนี้นี่เอง

 

กราบหลวงปู่
กราบหลวงพ่อ
ติดตามอยู่ตลอดครับแต่ไม่ได้โพสท์ครับ

 

ขอโมทนาสาธุ ด้วยครับ ยังอุตส่าห์ติดตาม[www.marateebook.com][/SIZE][/COLOR]
หลวงปู่สี

 

ถ้าไม่รังเกียจ ขอเชิญไปเที่ยวชม ที่ เหรียญบิน -แพโบสถ์น้ำ หลวงพ่อทรง-หลวงปู่บุญศรี ของท่าน พี เสาวภา มีประวัติอย่างละเอียด สีผึ้งยังมีอยู่ที่สำนักแม่ชีประทุม โชติอนันต์ ปากช่อง-หนองสาหร่าย ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ด้วยความเคารพ[www.marateebook.com][/[/SIZE]

 

ผมขอเอา PM นี้ไปโพสท์น่ะครับ

ตามหลักพระพุทธ ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ต้องเอารูปพระพุทธครับ ไปยืมวัดมากHได้ครับ เสร็จก็นิมนต์กลับ พระพุทธ ต้องมาก่อนครับ แต่ ถ้าไม่มีองค์ใหญ่ ใช้ พระเครื่องครับ ได้เหมือนกัน องค์เล็กใหญ่ไม่สำคัญ หรือ รูปถ่ายครับ เอามาเป็นประธาน รูปพระพุทธชินราช พระแก้วมรกต หลวงพ่อโสธร ดีๆ ทั้งสิ้น

ส่วนรูปพระสงฆ์ พระพรหม ได้ครับ แต่ใจผมเลือกพระพุทธ เอาอย่างอื่นมาวางเป็นบริวารครับ

๒) เรื่องยันต์นี่ยาว ของผมเป็นยันต์จินดามณี ของหลวงปู่ผม ยันต์หลวงพ่อเจ้าคุณถาวร และยันต์นะ ฉัพพัณณรังสีของหลวงปู่เมี้ยน พระอุปัชฌาย์องค์แรกของผม ใส่กรอบติดไว้ที่เสาเอก เชิญ เทพ เทวดามาสถิตย์

พระอุปัชาฌ์ องค์ที่สองของผมท่านไม่ใช่พระเกจิฯ แต่เป็นพระนักเทศ

คนโบราณจะเอายันต์ กันฟ้า กันไฟ ติดไว้ที่ขื่อบ้าน หรือ เสาเอก เรื่องเสาเอกนี่ก็มีประเด็นนะครับ เป็นคติพราหมณ์ เป็นเรื่องของเทวดา ที่มาประจำ บ้าน ควรหายันต์ด้านคุ้มครอง โภคทรัพย์ เย็นๆ ร่มเย็นเป็นสุข เลี่ยงยันต์ ด้าน บู้ๆ ร้อนๆ

ถ้าเป็นผม แบบประหยัด ผมเอายันต์

๑) ยันต์ หลวงปู่ของผมก่อน ได้อะไร มา เอาอันนั้น ติดไว้ที่เสาเอกเลยครับ อธิษฐานให้หลวงปู่เชิญ เทพ เทวดามาสถิตย์

๒) ยันต์ จินดามณี แบบที่หลวงปู่ลงให้ ไปหาอาจารย์ลงให้น่ะครับ ถ้าไปไม่ถูก โทรมา ผมจะแอบบอก

๓) หายันต์ แนว โภคทรัพย์ เรียกโชคลาภ หรือ แนวมนต์ พระสังข์เรียกเนื้อ อันนี้ไม่ทราบโทรมาจะแอบบอก

๔) เอายันต์ของครูบาอาจารย์ที่ท่านเคารพ ของพระอุปัชฌาย์ ที่ท่านไปบวชมา ขอท่านแบบ แนวที่ท่านถนัด บอกจะเอาไปติด บ้าน หน้าบ้าน เสาเอก หรือ ขื่อบ้าน

เดี๋ยวผมไปเล่าต่อในเน็ต

 

กราบหลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง หลวงปู่อั๊บ

สวัสดีพี่พี พี่ช้าง พี่สันสิริ และพี่ๆ เพื่อนๆ สมาชิกทุกท่านค่ะ

พี่พี...พอจะมีรูปหลวงปู่ยิ้มน้อย แบบทีตั้งไว้หน้าโลงแก้วไม๊คะ....นึกถึงภาพนั้นทีไรแล้วอยากเห็นอีกค่ะ

 

ไปตอบกระทู้คนอื่นเขามาก็เลยมาให้อ่าน เ่ล่น ๆ

สรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่เกิดมาแล้วล้วนแล้วถูกกำหนดโดย “กรรม” คือการกระทำในอดีตชาติ ทั้งกรรมดี ทั้งกรรมไม่ดี ปรับ ปรุง แต่ง ว่าสัตว์ตัวนั้น จะได้รับโปรแกรม แต่ง เติม เสริมต่อ อย่างไร ว่าจะได้รับผลกรรมอย่างใดบ้าง เริ่มแต่รูปพรรณ ผิวพรรณ รูปร่าง หน้าตา พรสวรรค์ สติ ปัญญา เริ่มแต่ก่อตัวอยู่ในครรภ์มารดา โปรแกรมก็เริ่มทำงานแล้ว มารดาบางคนยากจนค้นแค้น แม้ตั้งครรภ์อยู่ก็ต้องออกไปรับจ้างแบกหาม เพื่อหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง อดบ้าง อิ่มบ้าง กรรมของมารดาย่อมมีผลกระทบต่อเด็กในครรภ์มารดา มารดาบางคนมีฐานะดีก็เพียงนั่งกิน นอนกิน ไม่ต้องทำอะไรมีผู้รับใช้อยู่รอบกาย เมื่อถือกำเนิดเกิดมาอีกคนหนึ่งยากจนเรียนโรงเรียนวัด แต่อีกคนหนึ่งเรียนโรงเรียนสาธิต เพียงเท่านี้ก็ย่อมเห็นความแตกต่าง ของผู้จะมาเกิด
โปรแกรมของกรรมจะเริ่มแต่อยู่ในท้องจนตาย ตายแล้วโปรแกรมก็ยังทำงานของมันต่อ หมุนเวียนเช่นนี้ไม่มีที่สิ้นสุด พระพุทธเจ้าท่านได้พบสัจจะธรรม จึงได้สอนให้ผู้มีปัญญาว่า “กรรมชั่ว อย่าทำเลย เสียดีกว่า” หรือ “กรรมใดทำแล้ว ใจเป็นทุกข์ อย่าทำเสียดีกว่า” หรือถ้าอยากพ้นทุกข์ก็จงหยุดการเวียนว่าย ตายเกิด แล้วไปนิพพาน แต่สัตว์ที่เรียกว่า “มนุษย์” อาจจะโชคดีหน่อยที่สามารถเปลี่ยน แปลง โปรแกรม นั้นได้ ขึ้นอยู่ว่า มนุษย์ผู้นั้นมีความเข้าใจ คำสอนของศาสนาที่ตนนับถืออยู่หรือไม่ ว่าแก่นแท้ ศาสดาของตน “สอนอะไร” เมื่อได้ศึกษาแล้ว เกิด ปัญญาเห็นแจ้งตามคำสอนหรือไม่ สามารถทนต่อกิเลส ตัณหาของท่านพญามาร ที่มาคอยหลอก คอยล่อ คอยลวง คอยชักจูงอยู่ข้างกายได้หรือไม่ หากมีโอกาสไม่ว่าดี หรือไม่ว่าร้ายมาอยู่ต่อหน้าจะฉวยโอกาสนั้น หรือไม่ หากรู้เท่าทัน หากเกิดสติ โปรแกรม อาจถูกเปลี่ยนแปลง ได้ชั่วพริบตา ในขณะนั้น และเวลานั้น ขึ้นอยู่กับสติ ปัญญาจริง ๆ และต้องตัดสินใจ เดี๋ยวนั้น เวลานั้น แต่เครื่องมือของพญามารท่านก็ร้ายแรงมาก นั่นคือ “ความโกรธ โมโห ความเครียด “ ครูบา อาจารย์จึงได้เน้นมากในการป้องกันอาวุธของท่านพญามาร คือต้องมีสติ ตัวรู้ ต้องมี อุเบกขา ตัววางเฉย หรือบางท่านก็สอนแบบง่าย ๆ ให้นับ ๑ – ๑๐ นับสั้น ๆ แต่หลายตลบ เพื่อเรียก สติ กลับคืนมาก่อนตัดสินใจ
ตัวอย่างเรื่องจริง มีอยู่ว่า นายตำรวจใหญ่ท่านหนึ่งแต่งกายนอกเครื่องแบบ มีลูกมี ๒ คน น่ารัก มีภรรยาทีดีเพรียบพร้อม ในด้านการทำงาน ขับรถอยู่ในซอยเล็ก ค่อนข้างจะแคบ แต่หากค่อย ๆ ขยับ ก็สามารถส่วนกันได้ ในขณะนั้นก็มีรถอีกคันหนึ่งวิ่งสวนมา เป็นผู้พิพากษา ลูกพ่อค้ามีฐานะ มีภรรยา และลูกที่กำลังมีอนาคต ก็แต่งกายแบบชาวบ้านธรรมดา ทั้งสองฝ่ายต่างก็ถือทิฐิ นึกว่าตัวเองนั้น ยศใหญ่ ตำแหน่งใหญ่ ย่อมมีความเป็นมนุษย์สูงกว่า ผู้ที่มียศน้อย ตำแหน่งน้อย หรือพวกไม่มีตำแหน่งอย่างชาวบ้าน วางอำนาจเข้าใส่กัน กูต้องใหญ่กว่ามึง มึงต้องหลบให้กู อีกฝ่ายก็คิดไม่แตกต่างกัน เริ่มจาก ถก เถียง ด่า ทอ จนท่านพญามารเห็นเช่นนั้น เป็นโอกาส ท่านไปกระซิบข้างหูทั้งสองคนนั้นว่าปืนที่มีอยู่ในรถเอาวางไว้เฉย ๆ ทำไม เอาออกมายิงมันเลย ยอมมันทำไมเราใหญ่กว่ามัน มันต้องก้มหัวให้เรา จนสองฝ่าย ผู้ที่กำลังเกิดความโกรธ ความโมโห ความเครียด ขาดสติ ปัญญา การรู้เท่าทัน ในอารมณ์ ได้หยิบอาวุธมายิงใส่กัน แต่นายตำรวจใหญ่ ยิงแม่นกว่า ผู้พิพากษาตาย ในที่เกิดเหตุ นายตำรวจใหญ่บาดเจ็บพิการ และติดคุก ๒๕ ปี
หากสามารถย้อนเวลาหาอดีตได้ ข้าพเจ้าเชื่อว่าท่านทั้งสองจะต้องเลือกหนทางของการเอื้อเฟื้อเผื่อแพร่ พึ่งพาอาศัยกัน ยิ้มแย้ม แจ่มใส
กล่าวขอโทษ แม้จะเป็นฝ่ายถูก แล้ววันนั้นทั้งสองฝ่ายก็คงไปนั่งทานอาหาร ดูทีวีกับครอบครัวอย่างมีความสุข สุดท้ายนี้ขอยกพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาวิสัชชนา “กรรมใดทำแล้ว เป็นทุกข์อย่าทำเลยเสียดีกว่า โดยเฉพาะ อย่าทำบาปทำกรรม เพราะเห็นแก่กิน” เอวังกิ่ม [www.marateebook.com]

 

อยากได้สิ่งใด หากไม่้เกินวาสนา บารมี ย่อมได้เสมอสำหรับผู้มีจิตเป็นบุญ เป็นกุศล[www.marateebook.com]

 

กราบหลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง หลวงปู่อั๊บ

สวัสดีพี่พี และพี่ๆน้องๆชาวสมาชิกบ้านเหรียญบินทุกๆท่าน
พี่พีถ่ายรูปมาให้ดูครับ