เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    มาแตะมือก่อน ปาดหน้าก่อน ได้เปรียบ อิอิ

    คือ กรณีเรื่องความเชื่อ สิ่งที่ต้องทบทวนคือ การพิจารณามันอย่างถ่องแท้
    บางครั้ง เราก็หลงวนอยู่ในความคิด ติดกับดับมันไป อย่างไม่รู้ตัว
    ด้วยความที่ คิด แต่ไม่พิจารณา อย่างเป็นกลาง เอาอคติเข้าแฝง
    ทำให้เรา เห็นในสิ่งที่เราอยากเห็น หรือไม่อยากเห็นเท่านั้น
    จึงเกิดความรู้สึกทั้ง แง่ลบ และบวก

    แม่บอกมาว่า...การพิจารณาความเชื่อ ให้พิจารณาอย่างมีสติ
    อย่าเข้าข้าง หรือไม่เข้าข้าง มองมันทั้งหมดเป็นองค์รวม
    แล้วเราก็จะเจอสิ่งที่มันหลบซ่อนอยู่ ทั้งหมดทั้งสิ้น

    การพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยใช้อารมณ์และความรู้สึก
    จะเป็นช่องทางที่เปิดสุดๆ ขออย่างเดียว ไว้ใจจิตวิญญาณตัวเองหน่อย

    ไม่มีอะไรหลุดรอดจากความเชื่อของเราไปได้ แต่บางทีเราเผลอมองข้ามมันไป
    ทำให้เราแก้ปัญหาไม่ค่อยตกซักกะทีนึง...
    แล้ว...มันก็ดึงดูด สิ่งต่างๆนี้เข้ามา ในชีวิตเราจนได้ ยังงัยละท่าน....rabbit_
     
  2. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ช่วงนี้ไม่ค่อยได้โพสกระทู้เลย เพราะง่วนอยู่กับการทำต้นแบบหล่อเรซิน+ไฟเบอร์ครับ
    เคยคิดจะทำงานไฟเบอร์มานานมาก ก็เพิ่งจะสบโอกาสคราวนี้เองล่ะครับ

    มีเพื่อนที่โรงน้ำปลามาชวนทำถ้าออกมาดีก็จะทำเป็นธุระกิจเลย
    ก็เป็นงานอดิเรกที่กำลังเพลิดเพลินมาก เพิ่งจะมีโอกาสได้ทำจริงจังนี่ล่ะครับ

    เคยนึกจะไปเข้าคอร์ทเรียนทำไฟเบอร์...แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้ไปเรียนสักที
    อาศัยดูเทคนิคจากอินเตอร์เนท และสอบถามจากเพื่อนที่โรงหล่อพระใกล้ๆเอา อิอิ
    โดนกฎของแรงดึงดูดเล่นงานเข้าอย่างอย่างจังครับ...
     
  3. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    โอ้โห เรื่องผลของการจดจ่อกำลังมาแรง งั้นเอาความฝันเมื่อคืนมาฝาก เพราะเป็นคำสอนที่ดีเยี่ยมสำหรับจินตวดีเลย

    เห็นผู้หญิงหนึ่งคนเหมือนละครเลย เธอเข้าไปค้นพบความลับ ความท้าทายบางอย่างเข้า และเธอก็ตามรู้ ตามเห็นมันหมดโดยตลอด แล้วแถมยังจะเข้าไปขัดขวางด้วยนะ เรื่องดำเนินไปอย่างเข้มข้น แต่ปรากฏว่าตอนจบ เธอหายไป

    ปรากฏเป็นฝาแฝดเธออีกคนมาปรากฏตัวแล้วพูดกับจินตวดีว่า "เรามาแทนที่เขา แล้วเราก็ดีใจที่ได้พบกับท่าน คนที่เราสามารถพูดจากันได้อย่างเข้าใจ รู้เรื่อง" เราก็เลยถามเขาถึงฝาแฝดอีกคนหายไปไหน เธอบอกว่า " เขาจดจ่อแต่สิ่งที่เป็นในทางใด เขาก็เป็นอย่างนั้น" แต่จินตวดีตอนนั้นตระหนักได้อย่างทันทีในความฝันตอนนั้นเลยว่า เธอคิดในทางร้ายเธอก็ประสบเหตุในทางร้าย แล้วจิตก็พูดกับตัวเองว่า ในอินเตอร์เน็ตมีเรื่องราวที่เป็นไปในทางดี และ ทางร้ายอย่างมากมาย ถ้าเราเอาใจจดจ่อมันในทางร้าย เราจะได้ผลลัพท์ในทางนั้นไม่วันใดก็ว้นหนึ่ง เหมือนคนเลือกเดินไปทางใด ปลายทางนั้นย่อมรออยู่ แล้วจิตก็บอกมาอีกว่า ถึงแม้เรื่องที่เราอ่านพบเจอจะมี่ประจุลบหรือเป็นไปในแง่ลบ แต่ถ้าเราคิดแต่สิ่งที่ดี ๆ และ ก็ใส่แต่สิ่งดี ๆ ลงไป เราจะไม่มีวันรับผลของประจุลบร้าย ๆ นั้นเลย แต่เราจะได้รับผลดีจากสิ่งดี ๆ ที่เราคิด และเราใส่ลงไปต่างหาก อันนี้คิดถึงคำ ๆนี้ขึ้นมาทันทีเลย " จดจ่อสิ่งใด ได้สิ่งนั้น ไม่มีกฏเกณฑ์อื่น" แล้วจิตก็บอกมาอีกว่า ในอินเตอร์เน็ตก็เช่นกัน เราในฝัน ก็ อ๋อ เข้าใจล่ะ เราจะทำตาม ขอบคุณที่มาสอนเรา แล้วก็เป็นเรื่องเหตุบังเอิญไม่มีในโลกเช่นเดียวกัน เพราะคุณเซลล์ก็เพิ่งให้แง่คิดเรามาเช่นกัน อันนี้จะเทียบได้กับห้องน้ำ ตักครั้งหนึ่งสะเทือนทั้งห้องได้ไหม ตอนนี้ห้องนี้กำลังสั่นสะเทือนอยู่ด้วยคลื่นแห่งความ รัก ซะ แล้ว


    เพิ่งนึกได้เมื่อตะกี๊เอง เรามองเห็นเส้นทางความเป็นไปได้ของเราสองทางน่ะเอง เขาสอนเราแล้วในเรื่องการคิด โอ้โห สุดยอด เรามองเห็นทางเลือกเราสองสายเลยนะเนี่ย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2009
  4. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310

    ความคิด ความรู้สึก ของเรา ทรงพลังจริงๆนะครับ
    คำว่าบวก หรือ ลบ ก็เกิดจากการตีความของเราอีก ซึ่งไม่ตรงกันในแต่ละคน
    จึงต้องเห็นเอง แก้เอง จึงจะตรงจุด
    ผมก็เผลอประจำ อิอิ..
    เจ้าความเชื่อนี้ มันร้ายจริงๆ ปลอมปนซะจนเนียน แยกไม่ออก
    แล้วเราจะรู้ได้ยังไง ว่าความคิดในแง่ลบ มันเกาะกินเข้ามาซะแล้ว
    ก็ต้องดูจากผลสะท้อน ในชีวิตประจำวัน ว่าสะท้อนออกมาอย่างไร
    ถ้ารู้สึกว่ายังไม่เห็นผล ยังไม่เวิร์ค นั่นก็เพราะเราติดกับความเชื่อเข้าให้แล้ว

    ใช้ได้กับทุกเรื่องในชีวิตเลยนะครับ ทั้งเรื่องสุขภาพ การงาน การเิงิน ความสัมพันธ์

    เช่น มุมมองของการเงิน
    เราทราบดีว่า การจดจ่อในเส้นทางที่ดี การจดจ่อจินตนาการว่า เรามีอย่างเหลือเฟือเพียงพอที่จะแจกจ่ายให้คนอื่นๆ ไม่ติดขัดปัญหาการเงินใดๆ ฯลฯ
    แต่ก็รู้สึกว่า มันยังไม่เวิร์คเท่าที่ควร
    แล้วเราก็รู้มาอีกว่า พอรู้สึกว่ามันยังไม่เวิร์ค เราก็ต้องไม่คิดถึงมัน ไม่เอา ไม่คิด ไม่รู้สึก
    แต่ผลออกมา ก็ยังไม่เวิร์คอีก
    หมดกระบวนท่าแล้ว ทำยังไงดี ดูท่าปัญหานี้จะแก้ไม่ตกซะแล้ว :)
    ......
    นั่นเป็นเพราะอะไร เพราะอาจจจะลืมมองความเชื่อของเรา ที่หลบซ่อนอยู่อย่างเนียนๆ ที่ลึกลงไปมากกว่านั้นรึเปล่า

    เช่น มุมมองที่เรามองเรื่องเงินเป็นยังไง เป็นสิ่งไม่ดีในความรู้สึกหรือไม่ รู้สึกว่ามีเยอะไป ไม่ดีหรือไม่ รู้สึกว่าถ้ามีเยอะ จะทำให้ไปยึดติดหรือไม่ รู้สึกว่ามีเยอะ จะทำให้กลายเป็นคนวัตถุนิยม หรือ ไม่เพียงพอหรือไม่ รู้สึกว่าการที่จะได้รับเงิน จากการทำสิ่งดีๆ เป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ เป็นต้น

    ตราบใดที่เรายังรู้สึกไม่อิ่ม ไม่เต็ม ไม่พอ แล้วเราบอกกับตัวเองว่า เราพอ เราอิ่ม เราเต็มแล้ว

    อย่างไรเสีย มันก็จะขัดแย้งอยู่ข้างในอยู่ร่ำไป

    ยกตัวอย่างจากการมองภาพรวมนะครับ
    (เพิ่งเก๊ทเมื่อไม่นานนี้หละครับ จากโพสของเพื่อนๆ ขอบคุณจิตวิญญาณต่างร่างร่วมวัตถุประสงค์ทั้งหลาย ที่คอยช่วยเหลือเกื้อกูลอยู่เสมอครับ :))





    ความฝันคุณจินต์ ช่วยให้เห็นภาพได้แจ่มขึ้นเลยนะครับ
    (ซึ่งจริงๆผมก็เชื่อเช่นนั้นว่า เรามีตัวตนของเราอยู่ในทุกๆเส้นทางความเป็นไปได้)
    ทำให้นึกถึง การ์ตูนของฟูจิโอะ ที่คุณซิป นำมาเสนอเลยครับ :)


    ปล.ทำตุ๊กตาล้ำอนาคตแบบแจ่มๆเสร็จ อย่าลืมเอามาให้เพื่อนๆห้องวิทย์ได้ชมด้วยนะครับ หัวหน้า mead ;k02
     
  5. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ว่าแล้ว..กระบวนท่าคุณเซลล์ไม่ธรรมดาจริงๆด้วย
    ต้องมองให้เห็นภาพรวมไปจนถึงผลสะท้อนกลับของความเชื่อที่เรามองข้ามซะก่อน
    ความคิดที่เราว่าเป็นแง่บวกนั้นก็อาจกลายเป็นความคิดในแง่ลบของอีกคนนึงก็ได้
    ตัวชี้วัด ที่แท้มันก็ขึ้นอยู่กับ"ความเชื่อ"ของแต่ละบุคคลจริงๆด้วยครับ

    การจดจ่อความคิดนั้นๆอย่างมีสติและเป็นกลางที่พี่นักเขียนพูดถึง
    เหมือนเรามองทะลุความคิดจนเห็น"คุณสมบัติ"ของมันเพียวๆไม่ถูกหลอกด้วยความเชื่อที่พรางตาเราอยู่นะครับ
    คล้ายๆตอนทำสมาธิไปแล้วอยู่ๆก็ไม่รู้ว่าปลายจมูกกับปลายนิ้วเท้าน่ะมันแตกต่างกันตรงไหน (อิอิ)
    เรื่องนี้มีประโยชน์และนำไปใช้ได้จริงๆครับคุณเดรด

    คิดว่าสิ่งสำคัญในเรื่องนี้นอกจากการมีสติและมองภาพต่างๆอย่างเป็นกลางแล้ว
    การเข้าถึงคุณสมบัติหรือการสั่นสะเทือนทางด้านบวกก็สำมะคัญไม่ใช่น้อยเลยครับ
    จะช่วยให้เราสามารถแยะแยะกรองข้อมูลผ่านจิตวิญญาณได้ง่ายขึ้น..

    เชื่อว่าผู้ที่ฝึกสมาธิเป็นประจำก็มักรู้สึกคุ้นเคยกับสภาวะจิตแง่บวกในระดับสูงอยู่แล้ว เมื่อไหร่ก็ตามที่อยากได้ช่วงเวลาที่ให้ความรู้สึกที่ดีๆ ก็เพียงนึกถึงบางสิ่งบางอย่างในสภาวะนั้น..ก็จะรู้สึกดีๆอย่างอัตโนมัติและเป็นธรรมชาตินะครับ

    นอกจากทำสมาธิแล้วเราก็สามารถเข้าถึงพลังงานในแง่บวกได้อีกมากมาย
    โดยคิดแต่เรื่องเล็กๆง่ายๆ...จดจ่อมันอย่างอ่อนโยน...เพื่อที่เราจะเข้าถึงพลังงานในแง่บวกได้ง่ายขึ้นครับ
    ที่ใช้ประจำคือการนึกถึงสัตว์เลี้ยงที่เราเลี้ยงไว้ เพราะสัตว์เหล่านี้มีความรักให้โดยไม่มีเงื่อนไขแม้แต่น้อย และเค้าก็เป็นต้นกำเนิดที่ดีกับความคิดในแง่บวกได้เสมอๆ มองหาความคิดอะไรก็ได้ที่ทำให้เรารู้สึกดีเวลาคิดถึง หรือคิดถึงใครก็ตามที่ทำให้เรารู้สึกดีๆ ไปจนถึงการเดินทางท่องเที่ยว trip ต่างๆในสภาวะอากาศที่ดีเยี่ยมที่ทำให้เรากระปรี๊กระเปร่า หรืออะไรก็ได้ที่เรารู้สึกประทับใจ ลองหามุมเงียบๆตามลำพังนึกถึงเรื่องดีๆวันละ 10-15 นาทีก็เพียงพอแล้วครับ


    ส่วนเจ้าตุ๊กตา BLD นั่น ว่าจะทำใหม่...เอาให้เนี๊ยบๆ..เผื่อจะหล่อเรซินมาให้ดูกันใหม่ครับคุณเซลล์
    ตอนนี้ปล่อยให้เค้านอนพักยาวๆไปก่อน

    ช่วงนี้ไม่อยู่หลายวัน..คุยกันไปก่อนนะครับ


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • nou.jpg
      nou.jpg
      ขนาดไฟล์:
      693 bytes
      เปิดดู:
      264
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2009
  6. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    เรื่องที่ท่านต้องอ่าน


    เมื่อวันก่อนได้โทรคุยกับพี่นักเขียนอีกครั้ง คุยหลายเรื่องเลยล่ะ แต่มีเรื่องหนึ่งไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะพี่นักเขียนฝันว่าอาจารย์อนาลัยมาสอนพี่นักเขียนในฝันเรื่องรหัสตัวเลข พี่นักเขียนท่านบอกว่า ท่านมั่นใจว่าจะต้องมีใครสักคนโทรมาเอาคำตอบนี้ และก็เป็นจินตวดีนั่นเอง
    <O:p
    อาจารย์อนาลัยท่านเมตตาบอกว่า สัญลักษณ์ หรือ รหัสตัวเลขต่าง ๆ เป็นสัญลักษณ์ที่ตัวตนทางกายภาพทั้งหลายใช้เพื่อเป็นการคอนเฟิร์มข้อมูลที่ตัวตนทางกายภาพนั้น ๆ ได้รับมาว่าข้อมูลนั้นถูกต้อง เพราะมนุษย์หรือตัวตนทางกายภาพส่วนใหญ่ยังคงมีความเชื่อทางด้าน สถิติ ข้อมูล ที่สามารถอ้างอิงได้ ฉะนั้นรหัสต่าง ๆ หรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ จึงถูกใช้เพื่อเป็นหลักอ้างอิง หรือ สนับสนุนข้อมูลนั้น และอาจารย์อนาลัยบอกว่า ถึงกระนั้น สัญลักษณ์หรือ รหัสต่าง ๆ นั้น อาจเปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลาเช่นกัน ซึ่งจะต่างจากข้อมูลที่ได้รับจากระดับจิตวิญญาณ สู่จิตวิญญาณ เป็นข้อมูลที่ได้รับโดยธรรมชาติของจิตวิญญาณ จึงปราศจากการบิดเบือน
    <O:p></O:p>
    จินตวดีก็รู้สึกอะเมซซิ่งอีกครั้งในความเมตตาของอาจารย์อนาลัยมาก เพราะความฝันในทุกค่ำคืนของจินตวดีเต็มไปด้วยความรู้ และคำสอนจากตัวตนหลากหลายของจินตวดีเอง ไอ้ที่เราคิดว่าตัวเราเองเคยเปลี่ยนแปลงมันกลับเปลี่ยนแปลงไปอีกซึ่งเป็นสิ่งที่ตื่นเต้น และท้าทายที่สุด
    <O:p></O:p>
    ความฝันเมื่อคืนของจินตวดี บอกให้ทราบถึงเป้าหมายของการมาใช้ชีวิตของตัวตนนี้ เราฝันว่าเราได้พบมารดาอีกครั้ง มารดาแสดงความรักและเมตตาเรามาก พร้อมบอกว่าจะพาจินตวดีไปพบเพื่อนทางหนึ่ง ซี่งเพื่อนท่านนี้จะสามารถช่วยจินตวดีให้ไปถึงเป้าหมายสุดท้ายที่ตั้งความหวังเอาไว้ (ตอนนั้นยังไม่ทราบว่าว่าเป้าหมายอะไร) พอไปถึงสถานที่นั้น เหลือแต่ความรู้สึกที่บอกว่าได้พบท่านที่ไม่เห็นตัวตน แต่ความรู้สึกข้างในบอกว่า นี่คือความรู้ด้านจินตนาการ เราต้องมาฝึกการใช้จินตนาการที่นี่ และนี่เป็นวิชาสุดท้ายที่เราจะเรียน จากนั้นเราจะเดินทางไปสู่เป้าหมายที่เราต้องการ ความรู้สึกเราถามกลับว่าเราจะได้ไปนิพพานใช่ไหม คำตอบปรากฏเป็นภาพของเราที่ศรีษะค่อย ๆ เปล่งแสงเรืองรองออกมา เรามีความรู้สึกยินดีมาก แสดงว่าทุกตัวตนของเราเรียนรู้พร้อม ๆ กัน และเราเป็นตัวตนที่ถูกกำหนดให้มาเรียนเรื่องนี้จริง ๆ และเรารู้สึกประหลาดใจอีกครั้ง เพราะเราจำได้ว่าในหนังสือชุดนี้ โดยเฉพาะเล่มแรก ธรรมชาติชาติภพ ได้มีประโยคหนึ่งว่า “และเธอคือตัวตนที่จำเป็นจะต้องมาศึกษาเรื่องนี้”

    หลังจากการเรียนรู้จากการตีความและสัญลักษณ์ในความฝันแล้ว จินตวดีเริ่มมองเห็นความหมายและ ความรู้ที่ถูกถ่ายทอดผ่านจิตวิญญาณสู่จิตวิญญาณ ทุกอย่างล้วนเต็มไปด้วยความรู้ ชี้แนะให้เราเห็นถึงปัญหาที่ตัวเองประสบ และวิธีการแก้ปัญหาจริง ๆ

    <O:p
    และตัวเรายินดีเป็นอย่างมากว่าในที่สุดทุกอย่างที่เราพยายามทำ ในที่สุดมันก็ได้ดึงดูดเส้นทางความเป็นไปได้ที่ตัวตนอีกตัวตนหนึ่งในเส้นทางที่คิดบวกและมีความสุข มาสู่ในชีวิตจริง ๆได้ อันนี้เราต้องขอบคุณเพื่อน ๆ ต่างมิติ (ถ้ายึดเรื่องการเวลา เขาคือตัวตนในอนาคตของเราในเส้นทางอันเป็นบวกนี้) ที่ได้ให้ข้อความชี้แนะเรามาโดยตลอด และโชคดีที่เราก็ได้เดินทางตามที่เขาชี้แนะนั้น มิฉะนั้น เราคงต้องมืดมน และต้องเป็นแฝดคนแรกที่ต้องจบชีวิตลงในแนวทางร้ายอย่างความฝันเมื่อคืนวันก่อนแน่นอน

    ตัวอย่างของจินตวดีนี้ สามารถชี้นำบางท่านให้เห็นจริงได้ว่า การติดต่อผ่านตัวตนทั้งหลายมีความเป็นไปได้จริงและเราสามารถได้กำไรจากมันได้อย่างแน่นอนเช่นกัน แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับเราในปัจจุบันว่าเลือกที่จะเป็นอย่างไร<O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2009
  7. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    จินตวดี มีตัวตนอนาคตในเส้นทางความเป็นไปได้ทั้งดี (บวก) และ ไม่ดี (ลบ) อยู่พร้อมกันทั้งหมด ถ้าคุณอ่านเล่มธรรมชาติ ชาติภพและคุณจะเข้าใจ ทุกตัวตนล้วนแต่มีอยู่เป็นอยู่อย่างพร้อมกันทั้งหมดทุกเส้นทาง จินตวดีเป็นตัวตนที่รับข้อมูลได้จากทุกตัวตนทั้งดี และไม่ดี ทุกตัวตนต่างก็พยายามติดต่อเราเรียกร้องเราให้เดินทางตามเส้นทางที่ตัวเขามีอยู่ และ เป็นอยู่ มันขึ้นอยู่กับจินตวดีเองว่าจะประพฤติตนให้สอดคล้อง หรือจดจ่อให้เป็นไปในทิศทางใด จึงเปรียบเสมือนว่า เราคือตัวตนที่มีอำนาจในปัจจุบันที่จะเลือก เพราะทุกตัวตนต่างเหมือนกับยื่นข้อเสนอให้ทั้งนั้น ดังนั้นความฝันติดกันหลาย ๆ คืนเกี่ยวกับความตายของตัวตนหนึ่งของจินตวดี (จินตวดีใช้วิธีสังเกตุจากสัญลักษณ์ชื่อคนทั้งหลายที่ปรากฏในความฝันที่ผ่านมาโดยตลอด ขอใช้สถิตินิดหนึ่ง) จับความรู้สึกของตัวเองว่ารู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับความตายนั้น ปรากฏว่า เห็นเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเห็นว่ายังเหลืออีกหลายตัวตนที่ทดแทนตัวตนอีกหลาย ๆ เส้นทางที่ยังเหลืออยู่

    เรามีความฝันเราอยากจะเติมเต็มความฝันเช่นกัน เป้าหมายที่เราเลือกไว้ระดับจิตวิญญาณ ยังคงมีอยู่ ดำเนินอยู่ ต่อไป พร้อมกับที่เราเลือกที่จะเติมเต็มทุกเส้นทาง ทุกสายความรู้ ก่อนที่เราจะเดินทางไปถึงเป้าหมายที่เราเลือกไว้ เพราะเราได้ตระหนักแล้วว่า การเดินทางไปสู่เป้าหมายสูงสุดในทางตรงโดยปราศจากความรู้จากสิ่งต่าง ๆที่รายรอบล้วนเป็นการขาดทุน เราอาจต้องเสียเวลาหน่อยแต่จินตวดีรู้สึกว่ามันเป็นความคุ้มค่าเพราะข้างในลึก ๆยังคงบอกตลอดเวลาว่า เราต้องการรู้ทุกเรื่อง และทุกมิติ ทุกจักรวาล และความลับของจักรวาลก่อนที่เราจะเดินทางสู่เป้าหมายสูงสุดนั้น

    อันนี้พอไปดูสมุดบันทึกความฝัน พบได้ว่า หลายช่วงที่อยู่ในช่วงจินตภาพคือไม่มีสัญลักษณ์ปรากฏมีแต่ความรู้สึกล้วน มันเป็นการสื่อสารกับสิ่งที่ไม่ปรากฏภาพ (ระหว่างจิตวิญญาณกับจิตวิญญาณ) ที่มีการแจ้งไว้แล้วว่าเราต้องอยู่เรียนรู้บางสิ่งบางอย่างก่อน ก่อนที่จะไปที่ไหนสักแห่ง จำได้ว่าทุกครั้งเราใช้สติของกายภาพถามเขาว่า "แล้วเราจะไม่ไปถึงเป้าหมายสายเกินไปหรือ" จำได้ว่าถามคำถามนี้หลาย ๆ ครั้งมากเกือบทุกครั้งที่ฝันแนวนี้ พอมาถึงตอนนี้ก็ อ๋อว่า "เออ ก็กาลเวลาไม่มีในระดับมิติ แล้วมันจะสายได้อย่างไร พูดไปก็หัวเราะ คำว่า "เวลายาวนานทั้งชีวิตของตัวตนหนึ่ง มันก็แค่ชั่วแว่บเดียวของตัวตนรวมเท่านั้น" ผุดขึ้นมาทันที
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2009
  8. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    เดอะแมน แอนด์ เดอะพัพเพ็ต (คนเชิดหุ่นกระบอก)

    ความบังเอิญไม่มีในโลก พี่นักเขียนเคยฝันเห็นตัวตนจินตวดีอุปมาอุปมัยเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ภาพที่เคยปรากฏให้เราเห็นในตาเนื้อ กลับมาอีกครั้ง เรามองเห็นอีกตัวตนต่างมิติของเราที่ ถูกตัดสินโดยสภาจักรวาล (ความรู้สึกมันเป็นเช่นนั้น และระบุถึงคำนี้) ให้ถูกลงโทษโดยการบีบอัดใส่กระจกจักรวาลให้ลงมาเรียนรู้ที่โลกใบนี้ เราเห็นภาพก่อนที่เขาจะถูกตัดสิน เราเห็นตัวตนนั้นเป็นผู้ที่ใช้อารมณ์ตัวเองเป็นที่ตั้ง เราไม่แน่ใจว่าเพราะด้วยเหตุผลนั้นหรือไม่ที่ทำให้ต้องถูกส่งมาที่นี่ ซึ่งบุคลิคนี้เราสังเกตุเห็นในบางชาติภพที่มาปรากฏในความฝันเช่นในยุคโรมันที่เป็นผู้นำทัพที่ต้องเสียชีวิตจากการตัดสินใจผิดโดยยึดอารมณ์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง แม้กระทั่งตัวตนในปัจจุบันนี้เช่นกัน หลังจากนั้นเรามองเห็นเขาอีกหลายครั้ง ในรูปตัวตนที่ถูกครอบงำโดยความมืด แต่ถึงกระนั้นเรายังเห็นเขาพยายามต่อสู้กับมารในความมืดนั้นอย่างเต็มที่ เรายังต้องท่อง "พุทธังสรณัง คัจฉามิ" ช่วยเลย จินตวดีก็เลยมองเห็นตัวตนทุกส่วนของตัวเองที่พยายามอย่างเต็มที่ที่จะดิ้นรนให้หลุดพ้นจากอำนาจนั้น จากการเป็นหุ่นเชิดที่ถูกเชิดด้วย ความรู้สึกทางด้านลบทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นความ อิจฉา ริษยา เกลียดชัง คั่งแค้น การแก่งแย่งชิงดี ที่ต้องดิ้นรนไปตามโลกเคหะวัตถุทั้งหลาย เราเคยนึกเกลียดเขาด้วยซ้ำ แม้แต่ในบางความฝันที่เกลียดแบบว่าอยากให้เขาตายจากเราไปด้วยซ้ำ แต่เมื่อเราเห็นหน้าเขาที่แสดงถึงความอ้างว้าง เศร้าสร้อย ภาพที่เขาแสดงให้เห็นว่าเขาก็มีคนรัก และครอบครัวที่รอเขาอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง เราหวังว่าเมื่อเราได้เรียนรู้กระบวนการที่จะทำให้เกิดความคิดในแง่บวกเกิดขึ้นในใจเราแล้ว เมื่อกายภาพนี้จบสิ้นลง ความรู้ระด้บจิตวิญญาณที่ส่งผ่านถึงกันได้ จะทำให้เขาได้ยกระดับความสั่นสะเทือนภาวะจิตจากด้านใน และสามารถนำพาให้เขากลับไปสู่มิติเดิมที่เขาจากมาได้ เราหวังเช่นนั้นจริง ๆ
     
  9. Jack5115

    Jack5115 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +1
    Jack

    ชอบการโพสท์ของคุณจินตวดีจังครับ จะขอปรึกษายังไงดีเอ่ย มีอีเมล์ป่าวคับ อีเมล์ผม Jack5115@hotmail.com นะครับ
     
  10. Jack5115

    Jack5115 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +1
    Jack

    รบกวนแอดผมหน่อยนะค๊าบ ขอบคุณค๊าบ
     
  11. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ขอบคุณน้องแจ็คที่ให้ความสนใจในโพสต์ของพี่จินต์ เพราะเป้าหมายของพี่คือให้ใครก็ได้ที่อ่านสามารถรับรู้ข้อมูลที่พี่ตั้งใจถ่ายทอดทุกตัวอักษร เพราะมันเป็นข้อมูลที่เป็นความรู้และเป็นความจริงอย่างที่ไม่อาจปฏิเสธได้

    แต่ถึงกระนั้น เจ้าของความรู้และข้อมูลไม่ใช่พี่ และพี่เองก็เป็นเพียงแค่นักเรียนแห่งห้องความฝันนี้เท่านั้น ซึ่งยังคงมี่นักเรียนเพื่อนร่วมห้องอันเก่งฉกาจอีกหลายท่านที่น้องสามารถปรึกษาได้ และที่สุดคือพี่นักเขียน ผู้ใช้ชื่อล้อคอินว่า โนวาอนาลัยซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดข้อมูลโดยตรงจากท่านอนาลัย

    ทุกคำถามของน้องสามารถนำมาลงที่ห้องนี้ได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด ๆ ทุก ๆท่านที่นี่น่ารักทุกคน และพร้อมที่จะให้คำปรึกษาให้กับน้องอย่างเป็นกันเอง

    เราทุกคนที่ห้องนี้ยินดีต้อนรับน้องด้วยความรักอย่างจริงใจ ใช่ไหมคะ ทุกท่านในห้อง
     
  12. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    อิอิ มาหาคุณเดรดนัดกันมาปั่นหุ้น เอ้ย! ปั่นกระทู้กลายเป็นสงบมาก่อน เนื่องจากคอมเดี้ยงไปหลายวันเลยไม่ได้มาโพสค่ะ ความจริง เรื่องการไม่มีนี่แปลกดีนะค่ะ เหมือนบางสิ่งบางอย่างมันขาดหายไป ทำให้เราจัดลำดับความคิดเรื่องสิ่งของที่ขาดหายไปได้ ตอนเรามีมันอยู่ก็เฉยๆถึงเวลาก็ใช้มัน ใช้มันเข้าไป 55 แต่พอไม่มีเนี่ย เราก็ก็คิดถึงมัน ไปใช้ที่อื่นไงก็ไม่เหมือนเครื่องที่เราเคยใช้ ลองไปใช้บริการที่ร้านเนตทีไรมึนทุกทีซินะ แถมยังต้องอ่านเว็บพลังจิต แบบเป็นบุคคลทั่วไปอีกต่างหาก พยายาม ล็อคอินยังไงก็เข้าไม่ได้แปลกดีค่ะ
    แถมช่วงที่เข้าเว็บไม่ได้ ยังมีคนที่ห้องนี้ไปเข้าฝันสงบอีกหนอ เหอเหอ อืม ...เลยทำอะไรไม่ได้เลย แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ได้รู้ได้ดูจิตตัวเองอีกหลายกรณีก็พยายามกันไป สงสัยสงบจะอยู่ในช่วงสอบรอบตัดเชือก ไม่รู้จะผ่านไหมหนอ สงบเองอาจไม่ก้าวล้ำนำหน้า การโพสอาจไม่ปรานีตกระจ่างชัดเหมือนเพื่อนๆอีกหลายคนในห้องนี้ที่โพสได้ปรานีตมากค่ะ แต่ก็จะพยายามยังไงเสียก็ขอเล่าแบบตรงไปตรงมา กับพี่นักเขียนสงบคงเป็นศิษย์ที่สอบไม่ค่อยผ่าน ว่าจะอ่านที่พี่นักเขียนเขียนไว้ยังไงก็ยังไม่จบเสียที แต่ไม่เป็นไรค่ะ พยายามเหมือนเดิม
    วันก่อนลูกสาวไม่สบายเป็นไข้ตัวร้อนมากตอนตี2 ต้องคอยเช็ดตัวจนเช้า แต่พอตอนกลางวันวิ่งเล่นปรกติ พอตกกลางคืนก็เป็นเหมือนเดิมตัวร้อนปวดศีรษะเวลาเดิมตี2 แต่ตั้งใจไว้แล้วว่า ยังไงก็จะรักษาลูกด้วยตัวเองให้หายจะไม่ให้เป็นโรคไข้หวัดยอดฮิตราคาสูงลิบลิ่วเด็ดขาด และอีกอย่างรพ.ช่วงนี้ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าได้เข้าไปเลย เป็นแหล่งรวมและเพาะเชื้อโรค ก็เลยหายเป็นปรกติด้วยการเช็ดตัวอย่างตั้งจิต(ขณะเช็ดสวดมนต์ไปด้วยมีจิตจดจ่ออยู่กับไอของความร้อนที่อยู่ตามตัว) แล้วตั้งจิตนึกภาพใช้ผ้ากอบโกยเอาความร้อนที่มีออกจากตัวลูก ไข้ลดรวดเร็วมาก และหายเป็นปรกติดีค่ะ โดยไม่ได้รับประทานยาใดๆเลย มีรับประทานเห็ดหลินจือเพื่อบำรุงร่างกายเล็กน้อย ใช้มือขวาวางบริเวณหน้าผากสวดมนต์และส่งพลังแห่งความรักความเมตตาให้ลูกเป็นระยะ นี่ถ้าเป็นสมัยก่อน สงบก็คิดถึงแต่รพ.-หมอ-ยา ขอขอบคุณท่านโนวา อนาลัย พี่นักเขียน และเพื่อนๆทุกท่านที่พร่ำสนทนาถึงความรู้หลากหลายที่ทำให้เกิดการพัฒนาในทุกๆด้าน ขอบคุณจริงๆ
    รอคุณเดรดค่ะ อิอิ มาเลยค่ะ
     
  13. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ใช่แล้ว ยินดีค่ะ...

    การพูดคุยในห้องนี้ เป็นการแลกเปลี่ยน และแบ่งปัน
    ประสบการณ์ จากการฝึกฝน การเรียนรู้ และ การทดลองต่างๆ ฯลฯ
    ผ่านการ ตีความตามความเชื่อ ที่เป็นเอกลักษณ์ ของแต่ละท่าน
    เข้ามาแลกเปลี่ยนกันเถอะค่ะ ในที่แห่งนี้
    มีแต่เพียง คนที่ไปไกล มาก ไกลน้อย เท่านั้น....แต่ยังไง ก็ถึงเหมือนกันค่ะ:z5
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2009
  14. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    เชิญพวกเราไปฟังรายการสำนึกรักแผ่นดินกันครับ
    เรื่อง"มนุษย์กับสงครามเชื้อโรค" ไช้หวัด 2009 รวมถึงเรื่องมนุษย์ต่างดาวและอื่นๆ
    โดยอาจารย์ปริญญา ตันสกุล ฟังสดๆได้ทุกวันจันทร์ (เวลานี้เลยครับ 18.00 น)

    สถานีสุวรรณภูมิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2009
  15. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    แจ่มมากค่ะ...
    ประสบการณ์ตรงแบบนี้ คง...ม่ายต้องมีคำบรรยายใดๆ ซักคำที่ลึกซึ้ง
    ใครจะมาบอกอะไร อย่างไร ก็ไม่เท่าพิสูจน์ด้วยตัวเอง ใช่มะ..

    การศึกษาข้อมูลของพี่นักเขียน ทุกวันนี้เดรดก็ยังอ่านอยู่เลย
    อยากเสนอว่า ขอให้พยายามอ่าน ธรรมชาติของชาติภพให้จบก่อน
    แล้วคุณหงบ จะFlow กว่านี้ เพราะเล่มนั้น ครอบคลุมทุกประเด็น
    ส่วนเล่มอื่นๆ แตกเป็นปลีกย่อยๆ เพิ่ม และเสริม ขยายให้ละเอียดขึ้น

    เรื่องมึน ไม่เก็ท ไม่เข้าใจ...วางไว้ก่อนค่ะ(เดรดก็เป็น) ไม่ต้องกังวล
    ขอให้วางความเชื่อทั้งหมดลงก่อน และเปิดใจรับ ให้กว้างที่สุด เท่าที่จะทำได้
    ครั้งแรกมึน ครั้งต่อๆมา ยังมึนอยู่ ก็ไม่เป็นไร อ่านไปเรื่อยๆ จะเริ่มอิ่มตัว
    (มึนจนอิ่ม..แบบ มันจะซึมซาบอะ )

    ภาษา ถ้อยคำมิอาจสื่อสารอะไรได้ชัดเจนชัดแจ้ง มากมาย
    เรามักติดอยู่กับ ถ้อยคำ ลองปล่อยให้มันผ่านไปค่ะ ลองดู

    เชียร์อัพ คุณหงบ สู้ๆ คุณหงบสู้ตาย คุณหงบไว้ลาย สู้ตายสู้ๆ ...
    เอ้า...ฮุย เล ฮุย!!


    B_with_U
     
  16. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ สงบระงับ [​IMG]
    อิอิ มาหาคุณเดรดนัดกันมาปั่นหุ้น เอ้ย! ปั่นกระทู้กลายเป็นสงบมาก่อน เนื่องจากคอมเดี้ยงไปหลายวันเลยไม่ได้มาโพสค่ะ ความจริง เรื่องการไม่มีนี่แปลกดีนะค่ะ เหมือนบางสิ่งบางอย่างมันขาดหายไป ทำให้เราจัดลำดับความคิดเรื่องสิ่งของที่ขาดหายไปได้ ตอนเรามีมันอยู่ก็เฉยๆถึงเวลาก็ใช้มัน ใช้มันเข้าไป 55 แต่พอไม่มีเนี่ย เราก็ก็คิดถึงมัน ไปใช้ที่อื่นไงก็ไม่เหมือนเครื่องที่เราเคยใช้ ลองไปใช้บริการที่ร้านเนตทีไรมึนทุกทีซินะ แถมยังต้องอ่านเว็บพลังจิต แบบเป็นบุคคลทั่วไปอีกต่างหาก พยายาม ล็อคอินยังไงก็เข้าไม่ได้แปลกดีค่ะ
    แถมช่วงที่เข้าเว็บไม่ได้ ยังมีคนที่ห้องนี้ไปเข้าฝันสงบอีกหนอ เหอเหอ อืม ...เลยทำอะไรไม่ได้เลย แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ได้รู้ได้ดูจิตตัวเองอีกหลายกรณีก็พยายามกันไป สงสัยสงบจะอยู่ในช่วงสอบรอบตัดเชือก ไม่รู้จะผ่านไหมหนอ สงบเองอาจไม่ก้าวล้ำนำหน้า การโพสอาจไม่ปรานีตกระจ่างชัดเหมือนเพื่อนๆอีกหลายคนในห้องนี้ที่โพสได้ปรานีตมากค่ะ แต่ก็จะพยายามยังไงเสียก็ขอเล่าแบบตรงไปตรงมา กับพี่นักเขียนสงบคงเป็นศิษย์ที่สอบไม่ค่อยผ่าน ว่าจะอ่านที่พี่นักเขียนเขียนไว้ยังไงก็ยังไม่จบเสียที แต่ไม่เป็นไรค่ะ พยายามเหมือนเดิม
    วันก่อนลูกสาวไม่สบายเป็นไข้ตัวร้อนมากตอนตี2 ต้องคอยเช็ดตัวจนเช้า แต่พอตอนกลางวันวิ่งเล่นปรกติ พอตกกลางคืนก็เป็นเหมือนเดิมตัวร้อนปวดศีรษะเวลาเดิมตี2 แต่ตั้งใจไว้แล้วว่า ยังไงก็จะรักษาลูกด้วยตัวเองให้หายจะไม่ให้เป็นโรคไข้หวัดยอดฮิตราคาสูงลิบลิ่วเด็ดขาด และอีกอย่างรพ.ช่วงนี้ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าได้เข้าไปเลย เป็นแหล่งรวมและเพาะเชื้อโรค ก็เลยหายเป็นปรกติด้วยการเช็ดตัวอย่างตั้งจิต(ขณะเช็ดสวดมนต์ไปด้วยมีจิตจดจ่ออยู่กับไอของความร้อนที่อยู่ตามตัว) แล้วตั้งจิตนึกภาพใช้ผ้ากอบโกยเอาความร้อนที่มีออกจากตัวลูก ไข้ลดรวดเร็วมาก และหายเป็นปรกติดีค่ะ โดยไม่ได้รับประทานยาใดๆเลย มีรับประทานเห็ดหลินจือเพื่อบำรุงร่างกายเล็กน้อย ใช้มือขวาวางบริเวณหน้าผากสวดมนต์และส่งพลังแห่งความรักความเมตตาให้ลูกเป็นระยะ นี่ถ้าเป็นสมัยก่อน สงบก็คิดถึงแต่รพ.-หมอ-ยา ขอขอบคุณท่านโนวา อนาลัย พี่นักเขียน และเพื่อนๆทุกท่านที่พร่ำสนทนาถึงความรู้หลากหลายที่ทำให้เกิดการพัฒนาในทุกๆด้าน ขอบคุณจริงๆ
    รอคุณเดรดค่ะ อิอิ มาเลยค่ะ


    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ดีใจด้วยครับที่น้องวันทาหายจากไข้กลับเป็นปกติได้อย่างรวดเร็วมาก
    คงเพราะความใส่ใจและความรักระหว่างคุณแม่กับคุณลูกที่เต็มจนล้นปรี่นี่ล่ะครับ
    ก็ขอใหร่างกาย-จิตใจ สดชื่น-แข็งแรง และไม่กลับไปป่วยอีกนะครับ..

    ช่วงนี้ก็เข้าออกโรงพยาบาลบ่อยๆ
    แต่ก็ไม่รู้สึกกลัวนะไว้เดี๋ยวค่อยมาเล่าครับ

    แล้วมีใครแอบย่องเข้าไปในฝันคุณหงบล่ะครับ อิอิ
     
  17. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    ขอบคุณคุณเดรดคนสวยมากเลยค่ะ แต่สงบก็อ่านจบแล้วนะค่ะเล่มนี้"ธรรมชาติของชาติภพ" แต่มันเป็นหนังสือ ที่เหมือนหลวงปู่หลวงพ่อท่านเขียนไว้มันมีความรู้งอกมาตลอด เหมือนหนังสือธรรมะอย่างไรก็อย่างนั้น ความมึนมันก็เลยอิ่มตัวเช่นกันค่ะคุณเดรด ท่านว่าคนมึนๆเนี่ยมักบบรรลุ อิอิ (เข้าใจคนเดียวอีกแล้ว55)
     
  18. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    ขอบคุณคุณmeadมากค่ะ ที่เข้าใจความรักของเราแม่ลูกและสำหรับคำอวยพร
    อืม... นั่นซิค่ะมาเข้าฝันซะเนี้ยนเนียน...................
    สงบเองเข้าใจถึงความรักที่มีอยู่ต่างมิติมานานมากแล้วค่ะสัมผัสได้อยู่เสมอ เป็นความรักที่ใสสะอาดเปี่ยมไปด้วยความเมตตาเต็มไปด้วยความหวังดีอย่างจริงใจ สัมผัสครั้งใดก็ได้กำลังใจมาเสียท่วมท้นทุกครั้ง มันเหนือคำบรรยายอธิบายไม่ได้ นอกจากคนที่เคยได้สัมผัสกับความรู้สึกนี้เหมือนกันเท่านั้น
    แล้วอย่าลืมมาเล่าเรื่องเข้าออกรพ.นะค่ะ ต้องมีเทคนิคดีๆแน่เลย
    ขอทักทายสมาชิกใหม่ทุกท่านนะค่ะ ยินดีต้อนรับทุกท่าน ช่วยกันโพสนะค่ะ
    ทุกถ้อยคำของท่านมีความหมายเสมอ
     
  19. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ขอต้อนรับสมาชิคใหม่ทุกท่านครับ..

    ที่ต้องเข้า-ออกโรงบาลบ่อยๆนี่ เพราะแฟนต้องไปทำเลสิคตามที่คุณหมอนัดครับคุณสงบ..ที่จุฬาฯคนเยอะมากต้องนั่งรอนับค่อนวัน ก็เทียวไปมาตั้งแต่เดือนเมษาจนเพิ่งได้ทำการยิงเลเซอร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี่เองครับ แถมก็มีญาติๆพากันป่วยอีก ทั้งผ่าตัดและอื่นๆติดๆกันจนต้องไปเยี่ยมเยียนกันบ่อยๆ..แรกๆไปโรงบาลก็เอาผ้าปิดจมูกไปแต่ทำได้ครั้งเดียว..เพราะรู้สึกชินเลยไม่ได้ใช้อีก (ที่ดีควรเตรียมหน้ากากไปหรือทาวาเป็กซ์ที่จมูกนะครับ)

    หลังๆมานี่เวลาเข้าโรงพยาบาลก็นึกถึงเทคนิคที่พี่นักเขียนเคยแนะนำครับ คือตั้งจิตและจินตนาการถึงม่านพลังงานใสๆที่เข้มข้นมาห่อหุ้มร่างกายของเรา ให้มีรัศมีราว 1-2 เมตรจรดศรีษะถึงปลายเท้าแผ่ออกไปกว้างๆ (อย่าลืมที่จะห่อหุ้มผู้ที่เราไปด้วยทุกๆคนครับ) เพื่อปกป้องการติดเชื้อโรคจากภายนอก..และต้องเชื่อมั่นในพลังแห่งความดีงามความเป็นบวกที่จะช่วยให้เราไม่ตกเป็นเหยื่อและสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุลครับ

    บางทีถูกคนป่วยในโรงบาลไอใส่พอดี..จะหลบก็ไม่ทันซะแล้ว
    รู้สึกเหมือนการทดลองทางจิตอย่างนึงที่ต้องทดสอบด้วยความจำเป็นครับ
    หลังๆรู้สึกชินและเชื่อมั่นว่าเราก็แข็งแรงพอ..กลับมาก็ไม่เป็นอะไรเลยทั้งโรงพยาบาลสัตว์โรงบาลคน..ลองนำไปใช้กันดูนะครับ...

    อ้อ..เรื่องทำเลสิคนี่ว่าไปก็ดูน่ากลัวกว่าหวัด 2009 ซะอีก..ต้องใจเด็ดมากกก มีบางคนไปทำข้างเดียวก่อน พอรู้ว่าเค้าทำอย่างไรก็ไม่กล้าทำอีกข้างก็มีครับ เพราะเค้าต้องถ่างตายิงเลเซอร์กันจนได้กลิ่นไหม้..เค้าบอกว่าเป็น 20 วินาทีที่นานที่สุดในชีวิตเลยครับ..มีใครเคยทำแล้วรึยังครับ ?..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2009
  20. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    ขอบคุณค่ะ คุณmead ที่กรุณามาแนะนำเทคนิคการป้องกันตัวเองและบุคคลใกล้ชิดเมื่อเข้าไปสัมผัสรพ. วันก่อนสงบก็ใช่วิธีนี้เช่นกัน เพราะอ่านจากคำแนะนำของคุณmead มาครั้งนึงแล้วค่ะ แต่จำหน้า ที่โพสไม่ได้ ก็บอกแล้วไงค่ะ ขอบคุณ ทุกอย่างที่เพื่อนๆพร่ำสนทนากันอยู่เสมอ สงบจกข้อมูลมาใช้ประจำ อิอิ วันก่อนเพื่อนรุ่นน้องประสบอุบัติเหตุ(ลงหน้า1ไทยรัฐด้วย)เขาโทรมาตามสงบเป็นคนแรกทันทีที่รู้สึกตัว ก็เลยไปเยี่ยมและนำของใช้ส่วนตัวไปให้เขาค่ะ เขาไม่กล้าบอกแม่เพราะกลัวแม่เป็นห่วงไม่สบายใจ ก็ว่า หายแล้วจะบอกแม่เขาค่ะ ดีที่ไม่ได้เป็นอะไรมาก นอนรพ.แค่1 คืนกับ1วัน กลับมาพักที่บ้านแล้วค่ะ แต่สงบก็ยังมีแนวเดิมๆของสงบอยู่คือพยายามอุทิศบุญให้กับทุกๆดวงจิตที่สงบได้พบเจอ แบ่งบุญให้เขา แต่ก็พยายามสร้างเกราะคุ้มกันตัวเองและผู้คนที่ไปรพ.พร้อมกับสงบ
    ขอให้ภรรยาคุณmeadหายป่วยในเร็ววันนะค่ะ แต่สงบว่าระดับภรรยาคุณmead กำลังใจสุดยอดอยู่แล้วล่ะค่ะ อิอิ ถ้ามีสิ่งใดที่สงบช่วยได้ก็บอกนะค่ะ ถ้าไม่เกินกำลังก็ยินดีอย่างยิ่งค่ะ
    เรื่องทำเลสิคนี่คุณแม่ของแฟนท่านเคยไปทำค่ะ พอดี ท่านเป็นคนที่อดทนและเข้มแข็งมาก ขนาดไปให้กำลังใจอยู่หน้าห้องท่านไม่เล่าถึงความน่ากลัวอะไรเลยค่ะ ท่านพูดแต่ว่า "แม่ไม่เจ็บหรอกลูก"หลังจากยิงแล้ว เล่าแต่ว่า หมอให้ลืมตาไว้แล้วใช้แสงยิงค่ะ
    อืม ... ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐจริงๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...