เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

eBook

ท่านอาจารย์อนาลัยได้มาเข้าฝันหลังจากหนังสือออกวางตลาดไปได้ไม่นานว่า มีงานให้พิมพ์อีก 3,125 หน้าจะทำไหม? พี่นักเขียนก็รับปากท่านว่า "ทำเจ้าค่ะ" จากนั้นก็ได้ยินหรือรับรู้ว่า "อนาลัย virtual university" ได้ยินคำนี้ก้องอยู่ในความคิดคำนึงไปตลอดวัน และสงสัยว่าจะต้องเขียนหนังสืออีกชุดหรืออย่างไร และมหาวิทยาลัย on-line เกี่ยวพันอย่างไร ?

พี่นักเขียนไม่เคยนับว่าชุด 10 เล่มนี้มีทั้งหมดกี่หน้า จนกระทั่งเวลาผ่านไปนานหลายสัปดาห์ มีคำถามจากโรงพิมพ์เกี่ยวกับจำนวนหน้าและต้นทุน จึงลงมือนับดูและทราบว่าทั้งหมด 10 เล่มรวมกันมี 3,125 หน้าพอดี

นานวันเข้าพี่นักเขียนก็ตระหนักว่า งานพิมพ์ 3,125 หน้ากับ "อนาลัย virtual university" เป็นงานเดียวกันคือ พี่นักเขียนมีหน้าที่ถ่ายทอดข้อมูลทั้งหมดจากหนังสือ 10 เล่มเป็น eBook เพื่อเป็นข้อมูลที่ผู้อ่านจะสามารถรับได้เสมอจากทุกแห่งหนและวันเวลา เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัย On-line ที่มี virtual classroom หรือห้องเรียนที่ไม่มีอยู่จริงในโลกทางกายภาพ แต่มีกระบวนการ-การเรียน-การสอนเหมือนห้องเรียนจริงๆ ที่ดำเนินไปได้ด้วยระบบ Internet

eBook จึงเป็นสิ่งแรกที่พี่นักเขียนลงมือทำ เพราะทำได้ทันทีด้วยตนเอง ตอนแรกเข้าใจว่าเพียงแต่ copy ทีละหน้าจากต้นฉบับที่เป็น file PageMaker ไป paste ใน iWeb ซึ่งเป็น application program ของเครื่อง Macintosh ที่พี่นักเขียนใช้ design web pages แม้จะใช้เวลามากแต่ทำไปเรื่อยๆก็ย่อมจะสำเร็จ แต่ปรากฏว่าพบปัญหามากมายที่ทำให้ถ่ายทอดข้อมูลได้ จาก computer laptop ที่ใช้พิมพ์หนังสือต้นฉบับทั้งหมด ไปสู่ computer desktop อีกเครื่องหนึ่งซึ่งมี system ต่าง version กันไกลมาก แต่เป็นเครื่องใหม่ที่พี่นักเขียนจะใช้ทำ web pages

เมื่อไปเล่าให้ Rebecca เพื่อนสนิท (จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ในปัจจุบัน) ที่มักจะฝันซ้อนกับพี่นักเขียนเสมอๆฟัง เขาบอกว่า "According to my dream, you won't have to type but you'll have to touch up every single sentence." ในที่สุดก็เป็นจริง เพราะมีน้องคนไทยสองคนที่เป็น Ph.D. candidate ทางด้านเทคโนโลยีการศึกษาที่มาทำเอกอยู่ที่ KU นี่ ยื่นมือมาให้ความช่วยเหลือ และทำให้การถ่ายทอดเป็นไปได้ แต่ติดปัญหาที่แก้ยังไม่ตกคือ เมื่อ copy แล้ว พอนำไป paste ตัว-ส-จะหายหมด ต้องเติมใหม่ทุกคำที่มีตัว - ส หากใครทราบวิธีแก้ปัญหานี้ รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ จะขอบคุณอย่างยิ่ง

เวลานี้พี่นักเขียนก็ทำไปเรื่อยๆค่ะด้วยความเต็มใจเท่าที่จะทำได้ด้วยวิธีนี้ เพราะทำให้ได้ทบทวนความรู้มากมายไปด้วย และแม้จะต้องเติมตัว-ส ทุกประโยค แต่ก็รู้สึกว่าดีกว่าต้องพิมพ์ใหม่หมดมากมายแล้ว ต้องขอบคุณน้องๆทั้งสองคนไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ อีกไม่นานวัน ทั้งสองคนก็จะไปเป็นอาจารย์สอนทางด้านเทคโนโลยีการศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยมีชื่อในกรุงเทพฯแล้ว

ใครเข้าไปอ่าน eBook แล้ว หากพบตัวสะกดผิด หรือมีข้อผิดพลาดอย่างไร ขอความกรุณา ส่งข่าวด้วยค่ะจะได้แก้ไขปรับปรุงให้ดีกว่าเดิม ขอบคุณค่ะ writer@novaanalai.com

ใครยังไม่ได้อ่าน
เชิญอ่าน eBook เล่ม 1 โนวา อนาลัย ขยายความธรรมชาติของชาติภพ
http://www.novaanalai.com/Book_1/BK1Cover.html(rose)
eBook เล่ม 2 ความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ
http://www.novaanalai.com/Book_2/BK2Cover.html(rose)

 

คุณ zip จับประเด็นของศรัทธาได้ถึงแก่นแท้
เพราะศรัทธาที่เราทั้งหลายจำเป็นจะต้องมีนั้น คือ ศรัทธาในตนเอง หรือที่ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวว่าให้ศรัทธาในจิตวิญญาณของตนเอง

หากเราศรัทธาในสิ่งที่อยู่ภายนอก ศรัทธานั้นจะหาความยั่งยืน มั่นคงถาวรไม่ได้ และเป็นศรัทธาที่แท้จริงไม่ได้ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่นอกตัวตนของเรา เป็นสิ่งที่เราควบคุม เปลี่ยนแปลง หรือสร้างสรรค์ใหม่ไม่ได้เสมอไป แต่เราสามารถควบคุม เปลี่ยนแปลง สร้างสรรค์ตนเองใหม่ได้ด้วยการเปลี่ยนความเชื่อ-ทุกเสี้ยววินาที เราทำได้เสมอทุกขณะจิตที่เราปรารถนา และมีความมุ่งมั่นที่จะทำ

ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ในหนังสือ ชีวิตนอกเหนือชาติภพ ว่า เทพ เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระเจ้า อยู่ในตัวมนุษย์ ดังนั้นศรัทธาใน เทพ เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระเจ้า ที่แท้จริง จึงหมายถึงศรัทธาใน เทพ เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระเจ้า ที่อยู่ในจิตวิญญาณของเรา และเป็นแก่นแท้ของเรา(rose)

 

เวลานี้ผู้อ่านที่ติดต่อมามีอายุน้อยลงเรื่อยๆค่ะ ก่อนหน้านี้เรามีน้อยมาย์ดที่ดูเหมือนจะอายุเพียง 18 ปี มาตอนนี้มีผู้อ่านที่อายุเพียง 15 หยกๆ 16 หย่อนๆ เขียน e-mail มาบอกว่า "อ่านหนังสือเล่มแรกคือ โนวา อนาลัย ขยายความธรรมชาติของชาติภพแล้วชอบมาก เพราะมีประโยชน์กับชีวิตของหนูมาก อ่านแล้วหยุดไม่ได้ ง่วงแค่ไหนก็ไม่อยากเข้านอนเลย"
ป้านักเขียนต้องขอให้คุณหนูนอนเอาแรงไว้บ้างนะคะ หากโรงเรียนปิดเทอม ก็อย่าอยู่ดึกจนลืมตื่นมาช่วยคุณแม่ทำอะไรๆในบ้านบ้างนะคะ

 

เชิญอ่านเกี่ยวกับประสาทสัมผัสภายในได้จาก eBook เล่ม 2 ความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ
บทที่ 4 ประสาทสัมผัสภายใน
http://www.novaanalai.com/Book_2/Bk2_chap4_p39.html

 

ขอบคุณมากครับ คำตอบเรื่องความเชื่อ-ความศรัทธาของพี่นักเขียนมีประโยชน์มากครับ คุณขจรวรรณคงชอบเรื่องนี้ด้วย เพราะเคยถามว่ามีอาจารย์หลายท่านแล้วมักทำให้สับสนสงสัย อะไรที่เราเชื่อครึ่ง-ไม่เชื่อครึ่ง เชื่อไม่ถึงที่สุดก็ไม่เรียกว่าความศรัทธา..แต่ถ้าศรัทธาแล้วก็จะสามารถก็ทนต่อคำพูดที่ผู้อื่นแสดงความไม่เห็นด้วยกับสิ่งนั้น โดยไม่รู้สึกหวั่นไหว โกรธ กลัวหรือเกิดความรู้สึกต่อต้านได้อีก..น่าจะเป็นเป็นคำตอบจิตวิญญาณจากภายในของเราตอบได้ดีที่สุดครับ
บ่อยครั้งที่เราคิดว่าสิ่งไม่พึงปรารถนาเข้ามาเยือนแล้วมักจะโทษไปที่อดีตชาติ หรือกรรมบันดาลเท่านั้น แต่เมื่อมองจากความรู้ใหม่จะเห็นว่าความเชื่อเหล่านั้นก็เป็นตัวดึงดูดนำพาประสบการณ์นั้นเข้ามาหาเราอย่างไม่คาดคิดเช่นกัน จากความวิตก หวาดกลัวของเรานั่นเองครับ..หากเรารู้เช่นนี้แล้วลองคิดใหม่- ทำใหม่กันดู เพื่อดึงดูดสิ่งดีๆจากความเชื่อทางด้านบวกที่เราศรัทธาดีกว่าครับ

 

คุณ Mead ขา อยากได้ profile ที่ต่อจากคุณ fidgi ทำไว้น่ะค่ะ
ไม่ทราบถึงไหนแล้วเอ่ย? ที่คุณ fidgi ทำไว้เอาไปเย็บเล่มได้ตั้ง 3 เล่มแน่ะ..
น่าอ่านดีเหมือนกันทำเป็นเล่มละ 100 หน้า ก็เป็นชีตให้อ่านได้ขนาดย่อม ๆ ทีเดียวค่ะ
จึ๋ยยย.. พรุ่งนี้จะโดนทุบรึเป่าก็ม่ายรู้ ขยันทวงดีนักยัยคนนี้..ฮี่ฮี่..(f)

 

ดีใจด้วยนะครับ ที่มีนักอ่านรุ่นเยาว์หลายๆคน เข้าถึงหนังสือและอ่านเข้าใจได้ด้วย แสดงว่ายังไม่ได้ก่อกำแพงอิฐบล็อกตัวเองไว้..เด็กๆเหล่านี้คงเหมือนแก้วน้ำว่างๆที่พร้อมจะเรียนรู้น่ะครับ น่ารักมากครับ

 

555 โดนทวงอีกแระ มีต่ออยู่ครับ แต่เป็นโปรแกรม Word ..ยังไม่ได้เอาลง Page Maker ให้งามๆเหมือนของคุณ fidgi (ตอนนี้คงงานเยอะอยู่)
อ่า..ขอดูหน่อยสิครับ ที่ว่าพิมพิ์ออกมาเป็นชีตแล้วจะน่าอ่านขนาดไหน? สงสัยจะใช้กระดาษของหลวงแน่เลย อิอิ

อันนี้เอาของคุณ fidgi ที่ ทำไว้เอามาลงไว้อีกครั้ง
ส่วนชุดใหม่ ตั้งแต่หน้า 51-100 ลงไป ลองทำเป็น pdf อยู่ชุดล่างสุดครับ

 

(f) (f) (f) (f) (f) (f) (f) (f) (f) (f) (f) (f) (f)

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Falkman
มองครั้งแรกทีไร จะเห็นทวนเข็มนาฬิกาตลอด แล้วมองๆ ไปสักพักจะเห็นหมุนตามเข็ม แล้วอีกสักพักก็ทวนอีก (สักพักคือประมาณ 20-30 วินาที)

มองด้วยหางตาก็เหมือนกัน

สนุกจัง
</TD></TR></TBODY></TABLE>
เริ่มเห็นทวนเข็มแล้วครับ..สลับไปมาได้แล้ว มองขึ้นเหนือภาพแล้วมองกลับลงมาใหม่..หรือมองทีปลายเท้า
คุณ Falkman เห็นสลับไปมาได้ด้วย Test ดูแล้วมีสัก 10 %ได้ครับที่เห็นแบบนี้
คงจะเป็นความสามารถพิเศษน่ะ เปลื่ยนความเชื่อได้เร็วมาก อัจฉริยะเลยล่ะ
รูปเดียวกันพอใส่น้ำหนักเงาเข้าไปจะมีถึงสองความหมาย

If you see this lady turning in clockwise you are using your right brain.
If you see it the other way, you are using left brain.
Some people do see both ways, but most people see it only one way.
If you try to see it the other way and if you do see, your almost a genius.
THIS IS NOT A JOKE. BOTH DIRECTIONS CAN BE SEEN.



คือ สงสัยนิดหน่อยค่ะ ก็รูปนี้เค้า หมุนไปซ้ายที ขวาที ไม่ใช่หรอค่ะ มองยังไง ก็หมุนไปทั้งสองด้านอ่ะค่ะ (หมุนตามเข็มไปได้ซักพัก ก็หมุนทวนซักพัก ก็ตามอีก)

คือ สงสัยว่าเค้าทำมาให้หมุนสองด้านสลับกัน ทำไมมีบางท่านบอกว่าหมุนข้างเดียว ค่ะ พยายามมองให้หมุนข้างเดียวแต่มันก็หมุนสองข้าง (มองแบบเต็มตาตรงๆ ไม่ได้ใช่หางตา)
<!-- / message --><!-- sig -->

 

(kiss) (kiss) (kiss) (kiss) (kiss) (kiss) (kiss) (kiss) (kiss) (one-eye)

 

<!-- currently active users --><TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 14 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 10 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>khajornwan, เด็กออม, fan., จิตต์ปภัสสร </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- currently active users -->
รู้สึกว่าช่วงนี้มีจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ของชาวห้องวิทย์ฯ มาแวะเยี่ยมเยียนห้องเรียนเราเยอะขึ้นเหมือนกันนะคะ วันก่อนเข้ามาเห็นเข้ามาดูกันตั้ง 20 กว่าคนแน่ะ แต่ไม่ได้เข้ามาคุยกับพวกเรา..

ยังงัยก็ขอเชิญชวนทุก ๆ ท่านเข้ามาเล่าประสบการณ์ทางจิตวิญญาณและความฝันของท่านมาให้เราได้ร่วมเรียนรู้บ้างนะคะ จะได้ทำให้ความรู้ของพวกเราขยายตัวออกไปอีกค่ะ..

 

Thanks a lot

ขอบคุณ คุณ Mead และคุณ fidgi มากๆ ครับ

 

ดีจายจัง
(||) (||) (||) (deejai) (deejai) (deejai)

 

หัวหน้ามาชวนพี่นักเขียนคุยกันหลังห้อง เกี่ยวกับการทำลายกำแพงความเชื่อ ซึ่งพี่นักเขียนเห็นว่าเป็นประเด็นที่น่าจะนำมาพิจารณาร่วมกัน จึงขออนุญาตนำมาคุยต่อในห้องวิทย์แทนที่จะ pm ตอบหัวหน้านะคะ

เมื่อพวกเราพยายามที่จะชักชวนให้ผู้อื่นอ่านหนังสือชุดนี้ พี่นักเขียนเข้าใจว่าบางท่านอาจมีความเชื่อหรือตั้งข้อสงสัยว่า เราจะสามารถโน้มน้าวผู้อื่นให้หันมาสนใจ หรือเชื่อในข้อมูลความรู้ที่เราสนใจ หรือเชื่อในทิศทางเดียวกับเราได้หรือไม่ ? เนื่องจากข้อมูลความรู้เหล่านี้แตกต่างไปจากข้อมูลความรู้ที่เรา-ท่านทั้งหลายได้รับจากแหล่งข้อมูลความรู้อื่นๆ และเกรงว่าจะไม่ได้รับการยอมรับ

นับตั้งแต่หนังสือออกวางตลาดไปเมื่อปลายเดือนเมษายนปีที่แล้ว พี่นักเขียนได้รับ e-mail มากมายรายวันจากผู้อ่านในประเทศไทย และเมื่อหัวหน้าได้เปิดห้องวิทย์และชวนพี่นักเขียนมาคุยกับผู้อ่าน ก็ยิ่งมีผู้อ่าน e-mail เข้ามามากขึ้นอีกหลายสิบเท่า-จากทั่วทุกมุมโลก จากหลายประเทศใน Europe, ประเทศอื่นๆทาง Asia, และจากรัฐต่างๆใน USA พี่นักเขียนต้องขอขอบคุณหัวหน้าฯ ที่เป็นผู้เปิดประตูนำเสนอหนังสือชุดนี้สู่ผู้อ่านชาวไทยทั่วโลกไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

พี่นักเขียนมักได้ e-mail จากผู้อ่านเสมอๆว่า เมื่อได้อ่านหนังสือแล้ว รู้สึกเป็นอิสระจากความคิดและความเชื่อเก่าๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นอิสระจากความกลัว เช่น ความกลัวในโรคภัยไข้เจ็บ โชคชะตา อุบัติเหตุเภทภัย สิ่งลี้ลับ และบางท่านกล่าวว่าสิ่งที่เคยกลัวที่สุดคือ - ความตาย แต่เมื่ออ่านแล้ว - เลิกกลัวตาย แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกรัก และเทิดทูนชีวิตขึ้นอีกหลายเท่า

พี่นักเขียนตระหนักดีว่า พวกเราชาวห้องวิทย์ฯ ต่างก็มีจิตปรารถนาที่จะแนะนำให้ผู้อื่นได้รับข้อมูลความรู้จากหนังสือชุดนี้ แต่บางคนยังตั้งคำถามว่า เราจะสามารถโน้มน้าวบุคคลผู้นั้นให้หันมาสนใจ หรือเชื่อในข้อมูลความรู้ที่เราสนใจหรือเชื่อในทิศทางเดียวกับเราได้หรือไม่ ? พี่นักเขียนขอให้เราสำรวจความเชื่อของเราเป็นสิ่งแรก แทนที่จะสำรวจความเชื่อของผู้อื่น หากเรามีความข้องใจว่า เราจะทำไม่สำเร็จ หรือ เชื่อว่ามีกำแพงขวางกั้นระหว่างเรา-เขา ที่จะทำให้การโน้มน้าวของเราไม่เป็นผลสำเร็จ สิ่งแรกและสิ่งเดียวที่เราควรจะทำและทำได้ คือการเปลี่ยนความเชื่อของตนเอง เพราะไม่มีผู้ใดสามารถเปลี่ยนความเชื่อของผู้อื่นได้

นับแต่วันที่พี่นักเขียนได้เขียนหนังสือชุดนี้จบลง และได้อ่านทบทวนอีกหลายสิบรอบ พี่นักเขียนมีความเชื่อมั่นว่า ข้อมูลที่ปรากฏในหนังสือเป็นข้อมูลความรู้ที่เมื่อผู้อ่านได้อ่านแล้ว จะยอมรับ เข้าใจได้ลึกซึ้ง และหากจำเป็นต้องอ่านหลายรอบจึงจะเข้าใจ เขาก็จะอ่านหลายรอบด้วยความสมัครใจ และย่อมจะเข้าใจได้ในที่สุด

พี่นักเขียนเชื่อว่าข้อมูลความรู้ทั้งหมดที่ผ่านพี่นักเขียนมาสู่ทุกท่าน เป็นข้อมูลความรู้สำหรับทุกท่าน ทุกรุ่น ทุกวัย ทุกชาติและศาสนา แม้พี่นักเขียนจะไม่ได้เขียนและตีพิมพ์หนังสือชุดนี้เป็นภาษาอังกฤษ แต่ก็มีความเชื่อตั้งแต่แรกเริ่มว่า มีผู้ที่รับและถ่ายทอดข้อมูลความรู้เหล่านี้-ทุกภาษาในโลก ในฐานะที่พี่นักเขียนเป็นชาวไทยแต่กำเนิด พี่นักเขียนจึงมีหน้าที่เขียนหนังสือชุดนี้เป็นภาษาไทย

พี่นักเขียนเชื่อว่าจิตวิญญาณของผู้อ่านทุกท่าน สามารถสัมผัสและเข้าใจข้อมูลความรู้ที่ปรากฏในหนังสือ ไม่ว่าผู้อ่านท่านนั้นจะสามารถเอ่ยเป็นคำพูดได้หรือไม่ก็ตาม หากไม่เข้าใจหรือสัมผัสไม่ได้ยามตื่น ในที่สุดก็จะเข้าใจและสัมผัสได้ในยามฝัน

ผู้ที่เชื่อว่า ผู้อื่นจะไม่สนใจอ่านหนังสือชุดนี้ หรืออ่านแล้วจะไม่เข้าใจ ย่อมดึงดูดแต่ผู้ที่ไม่สนใจ หรือไม่เข้าใจเข้ามาสู่ประสบการณ์ชีวิต เพื่อตอกย้ำความเชื่อของตนเอง

เมื่อพี่นักเขียนชักชวนให้พวกเราวาดภาพเหมือน หลายคนบอกว่าไม่เคยวาดภาพมาก่อนเลย กว่าที่เราจะทำการบัานกันเสร็จหลายยก หลายคนที่บอกว่าไม่เคยวาดหรือวาดไม่เป็น ก็กลายเป็นวาดภาพเป็น และวาดภาพเหมือนได้อย่างน่าทึ่ง

หากเราย้อนคิดถึงวันแรกที่เราจับดินสอ บางคนอาจจำได้ว่ามีความคิดที่ว่า การวาดภาพเหมือนเป็นสิ่งที่ยากมาก และเมื่อมาถึงวันส่งการบ้านครั้งสุดท้าย ความรู้สึกที่ว่าเป็นไปไม่ได้-ก็มลายหายไป เมื่อวาดภาพเหมือนได้แล้วหนึ่งภาพ ภาพต่อๆไปไม่มีคำว่า-ยาก มีแต่เพียงคำว่า-แตกต่าง คำว่า-ยาก-สลายตัวไปโดยปริยาย ผู้ที่พบว่าตนเองวาดภาพได้ดีหลายคนไปถึงจุดที่กล่าวได้ว่า ค้นพบความสามารถที่ซ่อนเร้น และไม่เคยพบมาก่อน และรู้สีกเป็นสุขกับความสามารถที่ค้นพบนี้

ความยาก ความเป็นไปไม่ได้ ปราศจากพลังอำนาจ ปราศจากตัวตนที่จะมาขวางกั้นการกระทำหรือความเป็นไปได้ แต่สิ่งที่มีพลังอำนาจและมีตัวตนแข็งแกร่งที่สามารถขวางกั้นไม่ให้เราไปสู่เป้าหมายใดๆในชีวิตได้เสมือนกำแพงอิฐ รั้วเหล็ก หรือขุนเขา คือ ความเชื่อ

เมื่อเราเชื่อว่า การบรรลุความสำเร็จใดๆเป็นไปได้ยาก หรือเป็นไปไม่ได้ เราก็ย่อมเผชิญกับความยากและความเป็นไปไม่ได้เสมอ หากเราเชื่อว่า การบรรลุความสำเร็จใดๆนั้นเป็นไปได้ง่าย หรือเป็นไปได้ เราก็ย่อมเผชิญกับความง่ายและความเป็นไปได้เสมอ

เธอทั้งหลายสร้างโลกแห่งความเป็นจริงด้วยความเชื่อของตนเอง

เธอจดจ่อกับสิ่งใด ย่อมได้สิ่งนั้น - ไม่มีกฏเกณฑ์อื่น

ข้อมูลความรู้จากหนังสือชุดนี้เป็นสิ่งที่มีค่า แต่ก็ไม่ได้เป็นเสมือนขุมทรัพย์ที่มีจำกัด และคนกลุ่มน้อยเท่านั้นที่จะมีโอกาสหรือสมควรจะได้รับ ข้อมูลความรู้เหล่านี้ไม่ได้เป็นข้อมูลความรู้สำหรับอนาคต ในทางตรงกันข้ามหนังสือชุดนี้มีข้อมูลความรู้ ที่จะเอื้อประโยชน์สุขต่อเรา-ท่านทั้งหลายอย่างเป็นปัจจุบันทันด่วน ได้มากมายพอสำหรับทุกคนอย่างไม่มีวันหมดสิ้น
เมื่อวันก่อนนี้พี่นักเขียนกล่าวถึง ศรัทธาและความเชื่อ

มาวันนี้พี่นักเขียนขอขยายความศรัทธาออกไปอีก เพราะศรัทธาเป็นความรู้สึกที่นอกจากจะมีแรงผลักดันให้เราทำในสิ่งที่เราคิดว่าเราทำไม่ได้ หรือไม่เคยทำมาก่อน แต่ในทางกลับกันศรัทธาหรือความเชื่อที่ตั้งอยู่บนเจตนาที่บิดเบือน หรือตั้งอยู่บนความเชื่ออันจำกัด อาจทำให้เราตาบอดสนิท และมองไม่เห็นว่าสิ่งที่เราคิดว่า เป็นความจริงนั้น เป็นเพียงความเชื่อเท่านั้น

ศรัทธาอันบริสุทธิ์ หมายถึง ความเชื่อที่ตั้งอยู่บนเจตนาที่มุ่งหวังประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น และ คนหมู่มาก

นับแต่วันนี้เป็นต้นไป พี่นักเขียนขอเชิญชวนพวกเราที่ปรารถนาจะแนะนำหรือถ่ายทอดข้อมูลความรู้จากหนังสือชุดนี้ให้ผู้อื่น ตั้งจิตและเปลี่ยนความเชื่อใหม่ว่า ข้อมูลความรู้เหล่านี้ - เป็นปัจจุบัน เป็นข้อมูลความรู้ที่เป็น - ของกลาง - สำหรับทุกท่าน ทุกชาติภาษา ทุกเพศ ทุกวัย และจิตวิญญาณทั้งหลายที่มาถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนังเช่นเรา-ท่านทั้งหลาย สามารถเข้าถึงข้อมูลความรู้เหล่านี้ได้เสมอเหมือนกันหมด ศรัทธาอันบริสุทธิ์ที่ปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับข้อมูลความรู้ ที่เอื้อประโยชน์สุขให้กับเขา ย่อมเป็นปัจจัยที่จะเหนี่ยวนำและดึงดูดความเป็นไปได้ทั้งหลาย ให้เข้ามาสู่โลกแห่งความเป็นจริงของเราได้ในที่สุด

พี่นักเขียนขอเชิญชวนพวกเราชาวห้องวิทย์ฯร่วมกันตั้งจิต เปลี่ยนความเชื่อ ลงมือปฏิบัติและพิสูจน์ข้อมูลความรู้จากท่านอาจารย์อนาลัยด้วยตนเอง และนำประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเรียนรู้ร่วมกันต่อไปค่ะ


We don't hope for things to happen.
We make things happen.
Quote: Bill Self,
Basketball Head Coach

University of Kansas (rose)

 

(||) ขอมีส่วนร่วมตั้งจิตเปลี่ยนความเชื่อและลงมือปฏิบัติและพิสูจน์ข้อมูลความรู้จากท่านอาจารย์อนาลัยด้วยคนครับ ตอนนี้ความเชื่อเก่าๆของผมก็หายไปเยอะแล้วเมื่อกีเพิ่งดืมอำลาตัวตนเก่าของผมเพราะเมื่อคืนฝันถึงเขาด้วย อิอิในฝันเห็นตัวตนเก่าผมเริ่มอานหนังสือของทานอาจารย์์อนาลัยด้วยคงอีกไม่นานเขาคงพัฒนาขึ้นอีกขั้น
แล้วก็ทำให้ผมพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นด้วย ดีใจจัง:boo: ตอนนี้โลกเราคงเริ่มเข้าสูยุดใหม่ตามที่ท่านอาจารย์์อนาลัยบอกเป็นยุดที่คนเข้าใจในความเป็นจริงที่ว่าเขาเป็นคนสร้าง
โลกและประสบการณ์ชีวิตทังหมดของเขาเองด้วยความเชื่อและความรู้สึกนึกคิดของแต่ละคนดูได้จากช่วงนี้มีหนังสือ
แนวนี้ออกมาเยอะเลย ผมมีอะไรขอร้องเพื่อนๆพี่น้องชาวห้องวิทย์หน่อยนะครับ ถ้าเป็นไปได้เลิกไปสนใจเรื่องของภัยพิบัติได้แล้วนะัครับถ้าไม่อยากให้ ภัยพิบัติเกิดขึ้งจริงกับโกลใบ้นี้เพราะทุกสิ้งทุกอย่างที่เกิดขึนในโกลนี้ลวนเกิดจากความเชื่อและความรู้สึกนึกคิดของแต่ละคน
ที่ร่วมกันให้เกิดภัยพิบัตินั้นขึ้นได้ ถอนตัวออกมาจากเส้นทางความเป็นไปได้นั้นเถอะนะพี่น้องถ้าไม่อยากเป็นคนหนึงที่นำภัยพิบัติมาสูโลกที่รักของเราใบ้นี้(cry)ไม่ต้องไปทำอะไรทั้งสินเกี่ยวกับภัยพิบัติปล่อยมั่นไปไกลๆไม่ต้องไปอ่านไปคิดแค่เติมความรุ้ที่ใด้จากท่านอาจารย์์อนาลัยให้กับจิตวิญญาณ
ก็เพี่ยงพอแล้วสำหรับเส้นทางสายใหม่ที่ดีกว่าของโลกใบ้นี้
ี้(sing)(ping)(||)

 

(rose)หากเธอปรารถนาให้โลกแห่งความเป็นจริงของเธอ เป็นโลกที่พึงปรารถนา เธอจะต้องเริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนความเชื่อ(rose)

 

ความคิดรวบยอดของตัวตนภายนอก คือความคิดรวบยอดของเธอ เพราะตัวตนภายนอกเป็นตัวตนที่เธอคิดว่าเป็นของเธอ-คือเธอ และมันก็เป็นส่วนหนึ่งของเธอ หากเธอจมปลักอยู่กับความคิดที่ว่า เธอตกอยู่ในอันตราย หรือมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับภัยพิบัติ หากเธอคิดถึงโลกในแง่ของการอยู่รอดทางกายภาพ และพิจารณาถึงเหตุการณ์ต่างๆที่จะต่อต้านอันตรายเหล่านั้น เธอจะพบว่า เธอมีความฝันที่รู้เห็นเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆ เช่น การปล้น การฆาตกรรม แผ่นดินไหว น้ำท่วม หรือ อุบัติเหตุเภทภัยต่างๆล่วงหน้า

ความคิดของเธอเกี่ยวกับธรรมชาติอันเต็มไปด้วยการเสี่ยงต่ออันตรายและความตาย จะมีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งตัวตนภายนอกยินยอมให้ข้อมูลเหล่านี้ปรากฏขึ้น แม้ว่ามันจะเป็นข้อมูลที่

 

อ่านที่คุณโพสผมก็เห็นด้วยนะครับ แต่ว่ามันก็อยู่ที่ส่วนรวมด้วยล่ะครับ ประมาณว่าบางทีก็เป็นการทำลายล้างอันสร้างสรรค์ ถ้าเกิดภัยพิบัติจริงๆก็อาจจะทำให้โลกเจริญขึ้นไปในทางที่ดีกว่าในอนาคตก็ได้ อาจารย์อนาลัยท่านบอกประมาณว่าเราทุกคนก็อยากจะปลดปล่อยพลังอำนาจในตัวเองกันทั้งนั้น ยิ่งถ้าเป็นคนที่เข้ามาอ่านในเว็บนี้คนส่วนใหญ่ในนี้ต่างก็มีพรสวรรค์ในอำนาจจิตกันทั้งนั้น ดังนั้นที่เชื่อก็คงเป็นเพราะว่าในส่วนลึกแล้วพวกเค้าอยากจะให้มันเกิดภัยพิบัติขึ้นจริงๆ เพื่อปลดปล่อยพลังอำนาจต้นกำเนิดในจุดนั้นของตัวเองออกมาก็เป็นได้นะครับ รวมทั้งคนอื่นๆที่ทำนายเรื่องภัยพิบัติด้วยคงเป็นเพราะเค้าเชื่อจึงมองเห็นในอนาคตและต้องการจะสร้างสรรค์การทำล้ายล้างนั้นๆขึ้น

 

เธอทั้งหลายสร้างโลกแห่งความเป็นจริงด้วยความเชื่อของตนเอง

เธอจดจ่อกับสิ่งใด ย่อมได้สิ่งนั้น - ไม่มีกฏเกณฑ์อื่น

ข้อมูลความรู้จากหนังสือชุดนี้เป็นสิ่งที่มีค่า แต่ก็ไม่ได้เป็นเสมือนขุมทรัพย์ที่มีจำกัด และคนกลุ่มน้อยเท่านั้นที่จะมีโอกาสหรือสมควรจะได้รับ ข้อมูลความรู้เหล่านี้ไม่ได้เป็นข้อมูลความรู้สำหรับอนาคต ในทางตรงกันข้ามหนังสือชุดนี้มีข้อมูลความรู้ ที่จะเอื้อประโยชน์สุขต่อเรา-ท่านทั้งหลายอย่างเป็นปัจจุบันทันด่วน ได้มากมายพอสำหรับทุกคนอย่างไม่มีวันหมดสิ้น
เมื่อวันก่อนนี้พี่นักเขียนกล่าวถึง ศรัทธาและความเชื่อ

มาวันนี้พี่นักเขียนขอขยายความศรัทธาออกไปอีก เพราะศรัทธาเป็นความรู้สึกที่นอกจากจะมีแรงผลักดันให้เราทำในสิ่งที่เราคิดว่าเราทำไม่ได้ หรือไม่เคยทำมาก่อน แต่ในทางกลับกันศรัทธาหรือความเชื่อที่ตั้งอยู่บนเจตนาที่บิดเบือน หรือตั้งอยู่บนความเชื่ออันจำกัด อาจทำให้เราตาบอดสนิท และมองไม่เห็นว่าสิ่งที่เราคิดว่า เป็นความจริงนั้น เป็นเพียงความเชื่อเท่านั้น

ศรัทธาอันบริสุทธิ์ หมายถึง ความเชื่อที่ตั้งอยู่บนเจตนาที่มุ่งหวังประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น และ คนหมู่มาก

นับแต่วันนี้เป็นต้นไป พี่นักเขียนขอเชิญชวนพวกเราที่ปรารถนาจะแนะนำหรือถ่ายทอดข้อมูลความรู้จากหนังสือชุดนี้ให้ผู้อื่น ตั้งจิตและเปลี่ยนความเชื่อใหม่ว่า ข้อมูลความรู้เหล่านี้ - เป็นปัจจุบัน เป็นข้อมูลความรู้ที่เป็น - ของกลาง - สำหรับทุกท่าน ทุกชาติภาษา ทุกเพศ ทุกวัย และจิตวิญญาณทั้งหลายที่มาถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนังเช่นเรา-ท่านทั้งหลาย สามารถเข้าถึงข้อมูลความรู้เหล่านี้ได้เสมอเหมือนกันหมด ศรัทธาอันบริสุทธิ์ที่ปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับข้อมูลความรู้ ที่เอื้อประโยชน์สุขให้กับเขา ย่อมเป็นปัจจัยที่จะเหนี่ยวนำและดึงดูดความเป็นไปได้ทั้งหลาย ให้เข้ามาสู่โลกแห่งความเป็นจริงของเราได้ในที่สุด

เอาใหม่ค่ะ ลองผิดก่อน แล้วลองถูกตามหลัง คราวนี้ต้องดีกว่าเดิม