พระสมเด็จองค์ครู ฉายา"ผ้าขาวม้าแดง" ที่สาปสูญ

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย fank lampang, 11 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    เพื่อนสมาชิกลองช่วยวิจารณ์องค์นี้หน่อยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. Tanyadol

    Tanyadol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +191
    ดูพระจากรูปภาพ ก็มีความยากอยู่แล้ว ยิ่งถ้าไม่ชัด แล้วจะดูให้เคลียร์ได้อย่างไรละท่าน
    เห็นรอยแตกลาย ก็อยากเห็นว่าแตกลายเพราะอะไร ยุบตรงไหน ย่นตรงไหน แต่ก็มองไม่เห็น เปิดกรอบหน้าออก แล้วถ่ายรูป น่าจะชัดกว่า ดีกว่านะครับ
     
  3. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    พระเกศ รูปหัวไม้ขีด
    อก รูปฟัน
    วงแขน รูปแก้วไวน์
    คราบกรุแห้ง เนื้อเหี่ยวเก่า สีเหลืองแบบวัดเกศไชโย
    แต่ไม่ใช่พิมพ์แบบที่เล่นหากันตอนนี้
    พระผมใช้เองครับ ได้มาจากแผงพระตามตลาด
     
  4. ต้องตรา

    ต้องตรา เก๊ แท้ คือ ความว่างเปล่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2016
    โพสต์:
    320
    ค่าพลัง:
    +85
    พระทาชะแลค ที่แตกนะน่าจะปูนพสาสเตอร์ จะเบากว่าพระมาตรฐานทั่วไป ที่ทำจากปูนหิน
     
  5. Tanyadol

    Tanyadol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +191
    ถ้าดูยากรูป เห็นแค่พิมพ์ ผมก็ดูพุทธศิลป ตรงปลายเกศ พระของท่าน ปลายไม่แหลมสะบัดไปแบบทื่อๆ ผมว่ายังไม่ใช่ของสมเด็จ โต ครับ
    IMG_4367.JPG IMG_4368.JPG
     
  6. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    :) ขอบคุณครับ
     
  7. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    ไม่พิจารณาธรรมชาติบ้างหรือครับว่า การยุบอาจจะทำให้เราสังเกตุผิดได้
     
  8. Tanyadol

    Tanyadol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +191
    พระวัดเกศไชโย เนื้อจะออกมันๆ ใสๆเห็นมวลสาร มีน้ำมีนวล ไม่แข็งทื่อ ครับ ถ้าดูกระด้าง ไม่ใสมัน นั้นคงไม่ใช่
    ลองหาสมเด็จวัดโพธิ์เกรียบ มาเปรียบเทียบดูครับ
     
  9. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    ลองอีกภาพหนึ่ง เผื่อจะช่วยทำให้การพิจารณาง่ายขึ้น
    เผื่อพระทาชะแลค กับ ปูนปาสเตอร์ จะดูดีขึ้นมาบ้างครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    ขอบคุณครับ เป็นไปได้ไหมครับว่า เนื้ออาจจะคนละเนื้อกัน มีเนื้อเหลือง เนื้อหินสบู่
    วิจารณ์ได้เต็มที่ครับ
     
  11. Tanyadol

    Tanyadol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +191
    เนื้อวัดเกศไชโย ครับ ถ้าด้อยกว่านี้ ก็คงจะเป็นของวัดโพธิ์เกรียบ
    IMG_4369.PNG
    IMG_4370.jpg
     
  12. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    :)ขอบคุณครับ
     
  13. Tanyadol

    Tanyadol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +191
    พิมพ์อะไรก็ตาม นิยมหรือไม่ หรือเนื้อ ส่วนผสมต่างกัน ก็ตาม ด้วยความแห้งเก่า ของอายุ เนื้อจะต้องใสมัน เห็นมวลสาร ต้องครบตามธรรมชาติ คราบกรุ ไม่เหมือนบางขุนพรหม เพราะอัตลักษณ์ ของกรุต่างกัน
    เนื้อวัดเกศจะละเอียดมาก มวลสารเล็ก ละเอียด ไม่ใหญ่เป็นก้อน ครับ
     
  14. Tanyadol

    Tanyadol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +191
    ลองส่องดูพัฒนาการของเนื้อปูนดูครับ ถ้าคล้องบูชาทุกวัน ก็จะเห็นมีเม็ดใสๆเล็กๆ แววๆ ผุดขึ้นมาบนบริเวญส่วนที่สูงของพิมพ์พระ ที่มีความฉ่ำมัน ส่วนในที่ลุ่มต่ำจะมีเม็ดปูนสีขาวขึ้นแผ่กระจาย จะมีการเกิดพัฒนาการขึ้นทุกวัน ถ้าเป็นพระแท้
    ถ้าไม่มีพัฒนาการ เกิดขึ้น เหมือนเดิมทุกวัน ก็พลาสติกแต่งผิว ครับ
     
  15. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    เนื้อพระวัดเกศไชโย จะต้องเหมือนหินสบู่ (talc)ไม่ใช่หรือครับ
    เนื้อของคุณ tanyadol ไม่น่าจะใช่นะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    ลองพิจารณา 6 ชั้นตามรูปนี้ครับ

    ที่มา: หนังสือ พระสมเด็จเกศไชโย นิตยสารไทยพระ ฉบับพิเศษ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1762.jpg
      IMG_1762.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.9 MB
      เปิดดู:
      156
  17. ต้องตรา

    ต้องตรา เก๊ แท้ คือ ความว่างเปล่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2016
    โพสต์:
    320
    ค่าพลัง:
    +85
    ที่จริงพระวัดเกศไชโยของเดิมนะมีน้อยครับ มีเกจิอาจารย์บางท่านได้ไป ต่อมาจึงได้นำไปเป็นต้นแบบการสร้าง จึงดูคล้ายกัน ในความเห็นส่วนตัวคิดว่า เหตุการณ์เป็นอย่างนี้ครับ
    ๑. สร้างพิมพ์เก้าชั้น เนื้อหนึกมาก หรือเรียกง่ายว่า เนื้อยาล้วน บรรจุไว้ที่ไหนสักแห่ง บริเวณใกล้วัดเกศไชโย ต่อมาสร้างพระโตใหญ่เสร็จ จึงนำพระไปบรรจุไว้ ต่อมาเมื่อพระโตล้ม จึงได้พบพระ เรื่องนี้มีตำนานเล่าไว้ พระส่วนใหญ่แตกหักจำนวนมาก เนื้อพระบางส่วนได้ถูกนำไปผสมสร้างพระสมเด็จพิมพ์ ๓ ชั้น โดยจะพบพระบางองค์มีเศษหักของพระอยู่ ซึ่งจะปรากฏในพิมพ์ช่างหลวงคนก่อนหลวงวิจารย์ จะมีบันทึกกล่าวเรื่อง การนำเนื้อพระที่หักไปทดลองกดพิมพ์ หรือเรียกว่าพระเนื้อกระยาสารท ในขณะทดลองกดพิมพ์พระ หลวงวิจารณ์ได้มาพบและแนะนำ การใช้ตั้งอิ๋ว สุดท้าย ตั้งอิ๋ว ก้อไม่สามารถประสานเนื้อพระได้ จึงไม่มีการใช้ตั้งอิ๋ว ในช่วงการสร้างพระวัดเกศไชโย
    ๒. การบูรณะพระโตใหญ่ มีการพิมพ์พระเพิ่ม น่าจะเป็นพิมพ์ ๗ ชั้น บรรจุกรุ การปิดกรุ น่าจะประมาณ ๒๔๐๗ ซึ่งภายหลังจากสมเด็จโตมรณะภาพไปแล้ว ๑ ปี พ.ศ.๒๔๑๖ เกิดอหิวาต์ระบาด สมเด็จโตท่านมาเข้าฝัน ร.๕ ให้เอาพระสมเด็จไปทำยา ซึ่งผมสันนิฐานว่า น่าจะมีการเปิดกรุวัดเกศในตอนนั้น อาจจะเอาพระออกไปไม่หมด หรือมีผู้แอบเก็บไว้บางส่วน ซึ่งพระส่วนใหญ่ได้ถูกนำไปแจกจ่ายให้ราษฏร ดังจะเห็นบันทึกว่า อหิวาต์ระบาดเพียง ๗ วันเท่านั้น ต่อมาคาดว่าจะมีการสร้างพระเข้าทดแทน และหลังจากนั้นอีกประมาณ ๒๐ กว่าปี มีการถล่มขององค์พระอีกครั้ง ครั้งนี้ราษฏรได้นำพระบางส่วนออกไป พระรุ่นนี้เรียกว่าเป็นกรุโพธิ์เกรียบ จึงมีการประกาศเรียกคืน เนื่องจากได้คืนน้อย จึงสร้างพระขึ้นมาอีก บรรจุกรุอีกครั้ง ซึ่งพระที่สร้างครั้งหลัง ก้อนำมาเล่นเป็นของวัดเกศไชโย
     
  18. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    เหตุการณ์น่าจะเป็นอย่างนี้ครับ
    สมเด็จพุฒาจารย์โต ท่านตั้งใจจะสร้างพระสมเด็จไว้ที่วัดเกศไชโยให้ครบ 84000 องค์ ตามบันทึกของท่าน พระยาทิพยโกษา สร้างได้ส่วนหนึ่งก็เอาไปเก็บไว้ใน พระพุทธรูปที่วัดไชโย
    การสร้างช่วงแรกท่านแกะพิมพ์เอง บ้างก็ให้ช่างสิบหมู่แกะ แต่ไม่สวยและแตกหักง่าย
    จนหลวงวิจารณ์มาแนะนำให้ใช้น้ำมันตังอิ๊ว พระยึดเกาะแน่น ไม่แตก และ แกะพิมพ์ให้ สมเด็จโตพอใจมากและให้ใช้พิมพ์ของหลวงวิจารณ์เรื่อยมา ซึ่งมีทั้งหมด 73 แบบ รวมถึง 7 ชั้นด้วย
    พิมพ์ 7 ชั้นที่วัดเกศ จึงจะต้องมีเอกลักษณ์พิมพ์ ของช่างหลวง คือ หลวงวิจารณ์เจียรนัย ด้วยเช่นกัน ไม่ใช่แบบที่เล่นหากันในปัจจุบันเท่านั้น จึงต้องพิจารณาพิมพ์ 7 ชั้นแบบศิลปะเดียวกันกับ วัดระฆังและบางขุนพรหม

    จึงสรุปได้ว่า พระสมเด็จที่หลงเหลือมาถึงปัจจุบัน ที่ไม่แตกหัก น่าจะเป็นพิมพ์จากช่างหลวงเป็นหลักครับ
     
  19. ต้องตรา

    ต้องตรา เก๊ แท้ คือ ความว่างเปล่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2016
    โพสต์:
    320
    ค่าพลัง:
    +85
    ถ้าคุณตั้งธงแม่พิมพ์ไว้ที่หลวงวิจารณ์ทั้งหมดละก้อ นั่นจะทำคุณมีโอกาสเจอพระสมเด็จจริง ๆ น้อยมาก หลวงวิจารย์เริ่มแกะพิมพ์พระน่าจะปี ๒๔๑๑ ในช่วงปลายปี นำมาใช้พิมพ์พระปี ๒๔๑๒ เป็นต้นมา แถมยังแกะพระศักดินาอีกตั้งหาก
    แม่พิมพ์สำหรับ เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน พระสมเด็จมีหู ๒ ข้าง ผ้าทิพย์ ๒ เส้น
    แม่พิมพ์สำหรับ เจ้าสัว ขุนนาง พระสมเด็จมี หู ๑ ข้าง ผ้าทิพย์ ๑ เส้น
    แม่พิมพ์สำหรับ ไพร่ ทาส พระสมเด็จ ไม่มีหู ไม่มีผ้าทิพย์
    พอแกะของพระตนเอง สร้างพระสมเด็จมีหู ๒ ข้าง ผ้าทิพย์ ๒ เส้น จึงต้องอาญา หนีหายสาบสูญ
     
  20. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    ประวัตินี้ ท่านนักชก ได้มาจากไหนหรือครับ
    แต่เอาเถอะครับ หลวงวิจารณ์ เป็นช่างหลวงสมัยรัชกาลที่ 4การแกะพิมพ์จากหลวงวิจารณ์ จึงน่าจะก่อนรัชสมัยของ ร 5 จึงไม่น่าจะเริ่มปี 2411 ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...