พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

.....ใช้เข็มเย็บผ้าเจาะรูเหรอครับ ไอ้กระผมก็นึกว่าเจาะเป็นรูใหญ่ๆเลยอ่ะครับ คืออย่างนี้ครับ ผมได้รับพระเครื่องจากพ่อและลุงของผมครับ แล้วผมสังเกตุดูพบว่าองค์พระสึกไปมาก เลยถามจากพ่อ พ่อผมบอกว่าคนเมื่อก่อนเขาจะแขวนพระโดยไม่เลี่ยม เพราะต้องการให้พระสัมผัสกับตัวเราจะได้ขลังๆ(แกว่าอย่างนั้นครับ) แต่ผมเห็นแล้วเสียดายพระครับ เลยเลี่ยมปิดหมดซะทุกองค์เลยครับ
.....ส่วนเรื่องที่พลาสติกจะปิดกั้นอำนาจจิตได้นั้น ผมขออนุญาตไม่เชื่อไว้ก่อนนะครับแต่จะพยายามฝึกฝนจิตแล้วหาคำตอบด้วยตัวเองครับพี่
.....แหะๆๆอีกอย่างนึงผมเรียนจบทางด้านรังสีวิทยาโดยตรงอ่ะครับ ผมคงต้องนำความรู้ที่เรียนมากับประสบการณ์ทางจิตของตัวเองและการสอบถามจากผู้รู้มาช่วยตัดสินใจครับ
.....ขอบคุณพี่ Sithipong มากครับที่อุตส่าห์ให้ความรู้กับผม ขอโมทนาอีกครั้งครับ

 

ดีแล้ว ถูกต้องแล้วครับ ผมเองก็เป็นคนที่เชื่ออะไรค่อนข้างยาก ต้องพิสูจน์ก่อนแล้วจึงเชื่อครับ ตามหลักกาลามสูตรของพระพุทธองค์ครับ

----------------------------------------

http://ksb.bangkok.go.th/index.php
สอบ กทม. กพ 2552


---------------------------------------------------------


กฏหมายการดำเนินคดีผู้ขายพระปลอม
มาตรา 341 ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่ สาม หรือทำให้ผู้ ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สามทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 342 ถ้าในการกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ผู้กระทำ
(1) แสดงตนเป็นคนอื่น หรือ
(2) อาศัยความเบาปัญญาของผู้ถูกหลอกลวงซึ่งเป็นเด็ก หรืออาศัยความอ่อนแอแห่งจิตของผู้ถูกหลอก ลวง
ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 343 ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 341 ได้กระทำด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชนผู้กระทำต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำความผิดดังกล่าวในวรรคแรก ต้องด้วยลักษณะดังกล่าวในมาตรา 342 อนุมาตราหนึ่ง อนุมาตราใดด้วย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท ......
มาตรา 348 ความผิดในหมวดนี้ นอกจากความผิดตามมาตรา 343 เป็นความผิดอันยอมความได้

เราจะบูชาพระเครื่องอย่างไรให้ถูกกฎหมาย
เราจะบูชาพระเครื่องอย่างไรให้ถูกกฎหมาย พระเครื่อง พระเครื่อง คำเรียกนี้ เป็นที่รู้กันในหมู่ผู้นิยมบูชาพระเครื่อง แต่ที่สำคัญพระเครื่องมีมากมายหลายอย่าง มีทั้งที่เป็นของแท้ ของปลอม กระทั่งปลอมแท้ๆ ก็ยังมี แต่ที่สำคัญเมื่อชอบใจก็ขอบูชากัน (ซื้อ-ขาย)
ในตลาดปัจจุบันนี้ มีหลักการซื้อขายเป็นที่รู้กันในตลาดพระเครื่อง ระดับผู้นิยมซื้อเก็บบูชา เซียนพระ มีหลายข้อตกลง โดยจำแนกได้ดังนี้ ซื้อขายขาดปกติ ไม่รับผิดชอบใดๆ (ตาดีได้ตาร้ายเสีย) หรือซื้อขายแบบรับประกันของแท้ 7 วัน 15 วัน อย่างนี้หมายความว่า ภายในระยะเวลาดังกล่าวสามารถนำมาคืนได้ถ้าไม่ใช่ของแท้ และอีกอย่างซื้อขายแบบรับประกันของแท้ตลอดไป ถ้าอย่างนี้รู้ภายหลังถ้าไม่ใช่ของแท้มาคืนได้
ส่วนใหญ่ในการซื้อขายมักจะให้ผู้รู้หรือเซียนพระดู และรับรองว่าแท้หรือปลอม บางทีดูว่าแท้อย่างดี ซื้อขายเสร็จก็นำไปบูชาและเก็บเข้าตู้มิดชิด วันดีคืนดีเอาออกมาจำหน่าย ปรากฎว่าป็นของปลอมไปเสียนี่ อย่างนี้ก็ต้องไปไล่เบี้ยกับคนขายและคนรับรองว่าแท้ ทีนี้เรามาว่าเรื่องการดูพระที่ถูกต้อง
ในการดูองค์พระ ควรอย่างยิ่งที่จะหลีกเลี่ยงการจับตัวองค์พระ ควรที่จับโดยมีผ้านุ่มหรือฟองน้ำรองอยู่ เพราะเหตุว่าจะไม่ทำให้ตัวองค์พระเกิดปฏิกริยาทางโลหะหรือวัสดุเกิดการ เปลี่ยนแปลง และไม่ทำให้องค์พระบิ่น แตก เสียหาย ดังนี้ในบางครั้งมีคนดูพระโดยจับองค์พระไปดู อย่างนี้นักเลงพระเห็นถึงขนาดโกรธเลยก็มี เพราะพระบางองค์ บูชา เป็นหลักหมื่น แสน ล้าน หรือหลายล้านบาท ซึ่งป็นพระเก่ามาก ถ้าจับองค์พระก็จะทำให้ วัสดุ และสีขององค์พระเปลี่ยนไปได้ ทีนี่เรามาว่าเรื่องการซื้อตามกฎหมายที่จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาภายหลังกันดี กว่า
ในการซื้อขาย (บูชา) ควรทำเป็นหนังสือสัญญาซื้อขาย ระบุ จำนวนเงินที่ซื้อ ขาย
โดยกำหนดเงื่อนไขและคำรับรองรุ่น ปี วัด และอื่นๆ ระยะเวลาประกันคืน ให้เรียบร้อย และควรมีพยานยืนยันอย่างน้อย 2 คน และใขณะเดียวกันควรถ่ายรูปใกล้ และขยายใหญ่ขนาดภาพ 10 นิ้ว หน้า หลัง ข้างซ้าย ข้างขวา ไกล ใกล้ คนขายถือองค์พระคนซื้อถือองค์พระ คนขายและคนซื้อถือองค์พระพร้อมกัน แล้วให้คนขาย คนซื้อ พยาน 2 คน ลงลายมือชื่อในสัญญา และภาพถ่าย พร้อมระบุวันที่และเวลาไว้ด้วย เท่านี้ถ้ามีปัญหาก็สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้
บทความวิชาการ:ทนายศิริ วสุสิริกุล
ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายพระแต่มาพบภายหลังว่าเป็นพระปลอมถือเป็นปัญหา ที่มักสะสมพระหรือเซียนพระมักจะเจอบ่อย ๆ และก็มักจะตั้งคำถามเสมอ ๆ ว่า ถ้าซื้อบูชามาแล้วและต่อมามารู้ภายหลังว่าเป็นพระปลอมผู้ซื้อจะมีสิทธิอย่าง ไร จะขอเรียกเงินคืนได้หรือไม่ หรือบางกรณีผู้ซื้อก็ไม่รู้และได้ขายพระองค์ดังกล่าวต่อให้บุคคลอื่นไปแล้ว และภายหลังบุคคลนั้นเอาพระมาคืนและขอเงินคืน
กรณีเหล่านี้จะทำอย่างไร เราจะมีสิทธิหน้าที่อย่างไร จากประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายพระปลอมดังกล่าวจึงได้แยกข้อเท็จ จริงที่อาจเกิดขึ้นเป็นประเด็นย่อย ๆ ดังนี้คือ ๑.๑ กรณีนาย ก. นำพระปลอมมาขายให้แก่นาย ข. ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากการที่นาย ก. นำพระปลอมมาขายให้แก่นาย ข. นั้นจะมีผลเป็นประการใดในทางกฎหมายนั้น
ต้องพิจารณาข้อเท็จจริงอื่น ๆ ประกอบกล่าวคือ ๑.๑.๑ นาย ก. (ผู้ขาย) รู้ว่าเป็นพระปลอมแต่นำมาหลอกขายให้แก่นาย ข. (ผู้ซื้อ) โดยที่นาย ข. ตัดสินใจซื้อโดยเข้าใจว่าเป็นของแท้ คำถาม สัญญาซื้อขายดังกล่าวจะมีผลเป็นอย่างไร ? คำตอบ สัญญาดังกล่าวตกเป็นโมฆียะ ทั้งนี้เพราะนาย ข. ผู้ซื้อแสดงเจตนาเข้าทำสัญญาเพราะถูกกลฉ้อฉล และหากไม่มีการหลอกลวงดังกล่าวนาย ข. คงไม่ตัดสินใจซื้อพระองค์ดังกล่าว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๙ วรรคแรก๑ และเมื่อสัญญาซื้อขายดังกล่าวตกเป็นโมฆียะ นาย ข. จึงมีสิทธิบอกล้างให้นิติกรรมดังกล่าวตกเป็นโมฆะได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ มาตรา ๑๗๕ (๓)๒ คำถาม จะขอคืนพระและเรียกเงินคืนได้หรือไม่ ? คำตอบ เมื่อสัญญาซื้อขายดังกล่าวถูกบอกล้างให้ตกเป็นโมฆะ จะส่งผลให้คู่สัญญาต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิม ดังนั้น นาย ข. ผู้ซื้อจึงสามารถส่งมอบพระคืนแก่นาย ก. และเรียกเงินคืนจากนาย ก. ได้ แต่นาย ข. ต้องใช้สิทธิเรียกร้องดังกล่าวภายในอายุความหนึ่งปีนับแต่วันบอกล้าง โมฆียกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๗๖๓ คำถาม นาย ก. มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานฉ้อโกงหรือไม่ ? คำตอบ การที่นาย ก. รู้ว่าพระที่นำมาขายเป็นของปลอม แต่ไม่ได้แจ้งให้นาย ข. ทราบกลับบอกว่าเป็นของแท้ทำให้นาย ข. ผู้ซื้อหลงเชื่อ การกระทำของนาย ก. จึงเป็นการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๔๑๔ ๑.๑.๒ ทั้งนาย ก. (ผู้ขาย) และนาย ข. (ผู้ซื้อ) ต่างไม่รู้ว่าเป็นพระปลอมทั้งสองเข้าใจว่าเป็นของแท้จึงตกลงซื้อขายกัน คำถาม สัญญาซื้อขายดังกล่าวจะมีผลเป็นอย่างไร ? คำตอบ สัญญาดังกล่าวตกเป็นโมฆียะ แม้ว่าผู้ขายจะรู้หรือไม่ก็ตามว่าพระที่ตนนำมาขายนั้นเป็นพระแท้หรือพระปลอม ทั้งนี้เพราะนาย ข. ผู้ซื้อแสดงเจตนาเข้าทำสัญญาเพราะสำคัญผิดว่าเป็นพระแท้ จึงเป็นการสำคัญผิดในคุณสมบัติของทรัพย์สินซึ่งเป็นวัตถุแห่งนิติกรรมตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๗๕ คำถาม จะขอคืนพระและเรียกเงินคืนได้หรือไม่ ? คำตอบ สัญญาซื้อขายดังกล่าวตกเป็นโมฆียะ นาย ข. จึงมีสิทธิบอกล้างใน้นิติกรรมดังกล่าวตกเป้นโมฆะได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ มาตรา ๑๗๕(๓)๖ ซึ่งจะส่งผลให้คู่สัญญาต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิม ดังนั้น นาย ข. ผู้ซื้อจึงสามารถส่งมอบพระคืนแก่นาย ก. และเรียกเงินคืนจากนาย ก. ได้ แต่นาย ข. ต้องใช้สิทธิเรียกร้องดังกล่าวภายในอายุความหนึ่งปีนับแต่วันบอกล้าง โมฆียกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๗๖ คำถาม นาย ก. มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานฉ้อโกงหรือไม่? คำตอบ การที่นาย ก. ผู้ขายไม่ทราบว่าพระที่นำมาขายเป็นของปลอมเข้าใจว่าเป็นของแท้และนาย ข. ผู้ซื้อตัดสินใจซื้อก็เพราะเชื่อเป็นของแท้ การกระทำของนาย ก. จึงไม่เป็นการหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความ จริงซึ่งควรบอกให้แจ้งและโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ ถูกหลอกลวง ดังนั้น การกระทำของนาย ก. จึงไม่เป็นการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๑ ๑.๑.๓ ทั้งนาย ก. (ผู้ขาย) และนาย ข. (ผู้ซื้อ) ต่างรู้ว่าเป็นพระปลอม แต่ก็ตกลงซื้อขายกันเป็นการซื้อขายกันตามสภาพ คำถาม สัญญาซื้อขายดังกล่าวจะมีผลเป็นอย่างไร ? คำตอบ สัญญาดังกล่าวมีผลสมบูรณ์และผูกพันคู่สัญญา ทั้งนี้เพราะทั้งสองฝ่ายต่างทราบข้อเท็จจริงดีว่าพระที่ซื้อขายกันนั้นเป็น พระปลอมและตกลงทำสัญญาซื้อขายกันตามสภาพที่เป็นอยู่ จึงเป็นการแสดงเจตนาเข้าทำสัญญาซื้อขายที่มีผลบังคับได้ตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ มาตรา ๔๕๓๗ อีกทั้งพระปลอมก็มิใช่ทรัพย์สินซึ่งมีบทบัญญัติของกฎหมายบัญญัติห้ามการซื้อ ขายไว้ ดังนั้น คู่สัญญาจึงสามารถตกลงซื้อขายพระปลอมได้ไม่เป็นการขัดกับประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ มาตรา ๑๕๐๘ คำถาม จะขอคืนพระแล้วเรียกเงินคืนได้หรือไม่ ? คำตอบ กรณีนี้จะมีผลต่างจากกรณี ๑.๑.๑ และ ๑.๑.๒ เพราะสัญญาซื้อขายดังกล่าวมีผลสมบูรณ์ ดังนั้น นาย ข. ผู้ซื้อ จึงไม่สามารถส่งมอลพระคืนแก่นาย ก. และเรียกเงินคืนจากนาย ก. ได้ เว้นแต่นาย ก. ผู้ขายจะยินยอม คลิกดูรายละเอียดเพิ่มที่นี่ครับ http://www.mongkhonthip.com/webmaster/mark_webmaster1.1.html



http://writer.dek-d.com/haru_tatsu/story/viewlongc.php…


http://www.oknation.net/…/bangkoksuvarna…/2013/11/14/entry-1

 

ดีแล้ว ถูกต้องแล้วครับ ผมเองก็เป็นคนที่เชื่ออะไรค่อนข้างยาก ต้องพิสูจน์ก่อนแล้วจึงเชื่อครับ ตามหลักกาลามสูตรของพระพุทธองค์ครับ

ในบางสิ่งบางอย่าง เป็นสิ่งที่รู้ได้เฉพาะตนเอง เท่านั้นครับ

 

พระพิมพ์ที่อยู่ใต้รูปผมในวันนี้ 21 มค49 เป็นพระพิมพ์สมเด็จเนื้อผงยาวาสนาครับ หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสกครับ

 

พระพิมพ์ไตรโลกอุดร (มีหลายสี) สร้างสมัยรัชกาลที่ 5

 

พระพิมพ์ที่ใช้แทนตัวผมในวันนี้ 25 มกราคม 2549
เป็นพระพิมพ์ โสณ อุตร เนื้อดินเผา ขุดพบที่โคกประดับอิฐ วัดคูบัว ราชบุรี ครับ

 

วันจันทร์หน้า(30 มกราคม 2549) ผมจะจัดส่งพระไปให้นะครับ
อนุโมทนากับกุศลทั้งสองท่านด้วยครับ

 

มีผู้ที่ได้รับพระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่า สอบถามผมมาว่า ได้มีผู้ที่ได้รับพระไปแล้ว นำไปตรวจสอบอิทธิคุณว่าเป็นอย่างไร

มีผู้ที่ได้รับพระไป 2 ท่าน ได้นำพระไปตรวจสอบอิทธิคุณขององค์พระ ผลปรากฎว่า พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่า มีอิทธิคุณสูงครับ และบอกผมอีกว่าเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีและหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสกครับ ซึ่งตรงกันกับท่านอาจารย์ประถมท่านเคยบอกผมไว้ครับ พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่านั้น เป็นพระที่สร้างขึ้นที่วังหน้าโดยมีช่างสิบหมู่เป็นผู้ทำพระพิมพ์ มีพิธีพุทธาภิเษกที่วัดบวรสถานมงคล(เป็นวัดประจำวังหน้า) โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี มาเป็นประธานในพิธี แต่ท่านเจ้า(กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ) ท่านเชิญหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร มาเสกให้ โดยมาในรูปของอทิสมานกายครับ (อาจารย์ของท่านกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ นั้นคือพระอุตรเถรเจ้าครับ แต่เวลาทีท่านเชิญ อาจจะเชิญองค์ใดองค์หนึ่งใน 5 องค์ซึ่งประกอบด้วย พระอุตรเถรเจ้า ,พระโสณเถรเจ้า ,พระมูนียะเถระเจ้า , พระภูริยะเถระเจ้า ,และพระฌาณียะเถระเจ้า องค์ใดองค์หนึ่งหรือหลายองค์มาเสกให้ครับ แต่ส่วนใหญ่ที่มาบ่อยที่สุดจะเป็นหลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า รองลงไปจะเป็นพระอุตรเถรเจ้ากับพระโสณเถรเจ้าครับ) แต่มีพระบางพิมพ์ เสกกันทั้ง 5 องค์ก็มีครับ

 

พระพิมพ์ที่ใช้แทนตัวผมในวันนี้ (29 มกราคม 2549) เป็นพระพิมพ์ของวัดทองนพคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านเป็นผู้เสกครับ

 

ผมขอเชิญชวนเพื่อนๆ สมาชิกพลังจิตทุกท่านและผู้ที่ผ่านเข้ามาชมในกระทู้นี้ทุกท่าน

ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพผ้าป่ามหากุศล เนื่องในวโรกาสสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงยกช่อฟ้าอุโบสถและตัดหวายฝังลูกนิมิต ณ วัดเขาทองพุทธาราม ตำบลเขาทอง อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์
งานเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ ถึงวันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ 2549

วัดเขาทองพุทธาราม เป็นวัดในธรรมยุตนิกาย มีพระครูสุวรรณภูมิเขต (เชื่อม ชุตินฺธโร) เป็นเจ้าอาวาส ผู้ซึ่งปฎิบัติธรรมตามแนวทางหลวงปู่มั่น
บัดนี้ วัดเขาทองพุทธาราม ใกล้เสร็จสมบูรณ์ในสิ่งก่อสร้างศาสนสถานที่มีอยู่เท่าที่พอจำเป็นแล้ว เหลือแต่เพียงการยกช่อฟ้าอุโบสถและตัดหวายฝังลูกนิมิตเท่านั้น

วิธีการบริจาคทำได้โดย
1.รวบรวมรายชื่อเป็นหมู่คณะ แล้วนำไปบริจาคที่วัดโดยตรง
2.ธนาณัติสั่งจ่าย วัดเขาทองพุทธาราม ต.เขาทอง อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ 60130
3.ฝากเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ บมจ.ธนาคารทหารไทย สาขาถนนเอเซีย-นครสวรรค์ บัญชีเลขที่ 442-2-05535-2 ชื่อบัญชี พระครูสุวรรณภูมิเขต

หากท่านใดไม่มีกิจธุระในช่วงดังกล่าว ผมขอเชิญชวนไปร่วมบุญกันที่วัดนะครับ ขอบคุณครับ

ผมขออนุโมทนาในกุศลทุกท่านที่ได้ทำในครั้งนี้ด้วยนะครับ

ส่วนผมได้มอบพระสมเด็จวังหน้า จำนวนประมาณ 30องค์ และพระพิมพ์ฐานผ้าทิพย์(ของวังหน้า)เนื้อผง จำนวน 12 องค์ มอบให้เพื่อนไปให้ผู้ที่สนใจทำบุญที่วัดเขาทองพุทธาราม ปรากฎว่ามีผู้ที่ทำบุญจำนวน 30,000.-บาท เพื่อนผมจึงได้มอบพระทั้งหมดให้กับผู้ทำบุญ และเงินที่ได้ก็ได้ร่วมกันเป็นเจ้ภาพมหากุศลกับวัดเขาทองพุทธารามทั้งหมด ผมขออนุโมทนาในกุศลกับผู้ที่ทำบุญ 30,000.-บาทด้วยครับ

(bb-flower [b-wai] (bb-flower

 

วัดนี้เดิมชื่อวัด โตเขาทอง ผมเคยไปอยู่ 2 ครั้ง เมื่อประมาณสิบกว่าปีมาแล้ว หลวงพ่อเชื่อม ท่านเป็นพระนักปฏิบัติ ท่านพูดน้อย แต่มีเมตตาสูง ใครได้เข้าไปกราบนั้น จะสัมผัสได้ถึงพลังแห่งความเมตตาของท่าน ครับ
ขออนุโมทนา กับทุกท่านที่ร่วมทำบุญครั้งนี้ ครับ

 

พอดีโบนัสผมจะออกพรุ่งนี้ เดี๋ยวจะบริจาคให้สภากาชาดไทยครับ
ได้อนุโมทนาบัตรแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกทีครับ

 

วันนี้ ผมได้จัดส่งพระไปให้อีก 2 ท่านนะครับ ถ้าได้รับพระแล้ว กรุณาช่วยแจ้งให้ผมทราบทางข้อความด้วยนะครับ จะได้ไม่กังวลใจว่าพระถึงมือผู้รับแล้วหรือยัง

ขออนุโมทนาในกุศลที่ทั้งสองท่านได้ทำด้วยครับ

 

หากท่านใดได้รับพระแล้ว ผมขอความกรุณาช่วยแจ้งมาให้ผมทราบทางข้อความด้วยครับ ขอบคุณครับ

 

Confirm ได้รับพระสมเด็จกรมเจ้าคุณท่าเรียบร้อยแล้วครับ

ขออนุโมทนากับคุณสิทธิพงศ์และทุกท่านที่ร่วมกันทำบุญครับ

 

ได้รับพระเรียบร้อยแล้วค่ะ
ขออนุโมทนาในบุญกุศลที่คุณสิทธิพงศ์ได้ทำตอบสนองคุณในทุกๆด้านนะคะ

 

ผมขอแจ้งหมายกำหนดการที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จไปประกอบพิธียกช่อฟ้าอุโบสถและตัดหวายลูกนิมิตครับ

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินไปในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา 14.30 น. สำหรับท่านที่ไป ต้องแต่งกายสุภาพ ผู้หญิงควรสวมกระโปรง , รองเท้าไม่ควรเป็นรองเท้าแตะครับ ผมขอเชิญชวนสำหรับผู้ที่ไม่ติดภาระกิจการงาน ไปรับเสด็จนะครับ

ผมขออนุโมทนาในบุญกุศลของทุกท่านไม่ว่าจะเป็นสมาชิกพลังจิต หรือเป็นบุคคลอื่นๆที่ทำบุญที่วัดเขาทองพุทธารามทุกท่านด้วยครับ

 

พระพิมพ์ที่ใช้แทนตัวผมในวันนี้ (3กุมภาพันธ์2549) เป็นพระพิมพ์ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านได้เสกไว้ครับ

 

พระพิมพ์ที่ใช้แทนตัวผมในวันนี้ (6 กุมภาพันธ์2549) พระพิมพ์ลีลาสีดำเป็นพระพิมพ์ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีท่านเสกไว้ กรุวัดทองนพคุณครับ

 

ผมขออนุญาติแนะนำเว็บไซด์ที่ดีมากๆ ลองเข้าไปชมดูนะครับ

http://www.thaimonarchy.com

(เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพระวังหน้านะครับ)

ท่านที่เข้าไปชม ผมคิดว่าต้องได้แนวความคิดมาเพิ่มเติมเพื่อใช้ในชีวิตของตนเองได้อย่างแน่นอน ขอบคุณครับ