พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

ขอจองครับ

 

รับทราบการจองครับ ขอบคุณมากครับ

 

3649.พระแหวกม่านดีหลวงมหาเศรษฐี สร้างปี2560 หลวงปู่ทองและ อาจารย์ปู่เม่า แย้มทับ ปลุกเสก ให้บูชา 650 บาท ปู่เม่า เก่งไม่แพ้อาจารย์ท่าน(หลวงปู่กวย)

​

ผงมวลสารวัดระฆังจากบ้านช่างหล่อ
ผงพระหลวงพ่อกวย
ผงพระหลวงพ่อถม
ผงว่านยากายสิทธิ์ต่างๆ
ผงพระเมืองสรรค์
ผงฐานพระเจดีย์จุฬามณี
ผงฐานรอยพระพุทธบาท สมัยอยุธยา
ผงพระสำคัญเมืองใต้ รวมผงทั้งหมด
หลวงปู่ทอง วัดปลดสัตว์ และ อาจารย์ปู่เม่า แย้มทับ ปลุกเสกสมัยมีชีวิต
รวมทั้งอัญเชิญพระยันต์นะเศรษฐีปู่เม่า เป็นคาถาตัวเดียวกับที่ท่านอาจารย์ปาลได้รับการถ่ายทอดผ่านจากพระอาจารย์ทองเฒ่าวัดเขาอ้อ
ขออย่างเดียวให้ห้อยแล้วจะทราบเองของดีมีจริง


สมัยก่อน ใครไปกราบหลวงพ่อกวย
ท่านก็ แนะนำลูกศิษย์ ท่านแขวน พระแหวกม่าน กับ พระปรกโพธิ์
ท่านก็บอกเช่นนั้น สำนวนเก่งของ หลวงพ่อ คือ คุ้มตัวคนได้
พระแหวกม่าน สมัยก่อน หลวงพ่อกวย ท่านแจกไม่มาก
ปัจจุบันพระองค์นึงราคาเป็นแสน

วิชาพระแหวกม่านได้รับอิทธิพลจาก พระรัศมีประภามณฑล หลวงพ่อมะขามเฒ่า นั่นเอง
ปู่เม่า แย้มทับ ศิษย์หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ ถือว่า ปู่เม่า ท่านเป็นศิษย์น้อง ของ หลวงพ่อกวยเสก เดี่ยวไว้ให้
ปู่เม่า บอกเลยว่าใช้ได้เหมือน พระหลวงพี่กวย ทุกประการ

พระหลวงพ่อกวย ปัจจุบัน แพงเป็นแสนบาท ซึ่งหาของแท้ได้ยาก พระแหวกม่านได้รับอิทธิพลจาก พระรัศมีของ หลวงพ่อมะขามเฒ่า
เพราะ สมัยนั้นหลวงพ่อกวยท่านเรียนวิชาหลวงพ่อมะขามเฒ่าผ่านหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา และ คุณตากลับ แสงเขียว ไม่แปลกที่ พระแหวกม่าน จึงได้รับอิทธิพลมาจาก สายมะขามเฒ่า รวมทั้งอัญเชิญ พระยันต์ นะเศรษฐี ที่ ปู่เม่า รู้ตัวเสกเป็น คาถา ตัวเดียวกับที่ ท่าน อาจารย์ปาลได้รับการถ่ายทอดผ่านจาก พระอาจารย์ทองเฒ่า วัดเขาอ้อ
สูตรเรียกเดียวกัน คาดเดาเอาว่า หลวงพ่อกวย เรียนมา ทางหลวงพ่ออิ่ม ซึ่งท่านได้มาศึกษาแลกเปลี่ยนจากเขาอ้อไป ปู่เม่า บอกว่าไหนมึงท่องให้กูฟังหน่อย
ปู่บอกว่า เออใช่มึงไปเรียนจากไหนมาวะ จึงบอกว่าเรียนจากอาจารย์เปลี่ยน
ปู่เม่า บอกว่าตัวเดียวกัน แต่ลายมือที่พระชุดนี้ ด้านหลังถอดลายมือหลวงพ่อกวยมา แต่ พระชุดนี้ได้รับความเมตตาสองเกจิคือ
คนเห็นนึกว่าหาพระชุดนี้เมื่อไหร่ก็ได้แต่วันนึงพระชุดนี้ไม่มีก็จะมาถามหากัน

 

สวัสดียามเช้าครับ

 

3650.พระกริ่งพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล วัดเขากง รุ่นแรก ปี2511 เนื้อเงิน ให้บูชา 3500 บาท / เนื้อสัมฤทธิ์ 1550 บาท

​

พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล เป็นการสร้างพระพุทธรูปใหญ่บนยอดเนินเขาสูงสุดในบริเวณเขากง เพื่อให้เป็นพระพุทธรูปประจำภาคใต้รวม ๑๔ จังหวัด ให้มีพระพุทธลักษณะตามอิทธิพลของสกุลศิลปะอินเดียใต้ที่แผ่นอิทธิพลมาในระยะ เดียวกันสกุลศิลปะเสนาแห่งอินเดียเหนือ ตลอดพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทยและตลอดไปจนสุดแหลมมลายูในเขตประเทศมาเลเซียปัจจุบัน
รายนามพระสงฆ์ประกอบพิธี พุทธาภิเษกพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล จังหวัดนราธิวาส
พระสงฆ์สมณศักดิ์เจริญพระพุทธมนต์
๑. สมเด็จพระสังฆราช วัดมกุฎกษัตริยาราม
๒. สมเด็จพระวันรัต วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
๓. พระธรรมปัญญาจารย์ วัดโสมนัสวิหาร
๔. พระราชวรมุนี วัดเทพธิดาราม
๕. พระเทพวิสุทธิคุณ วัดมัชฌิมาวาส
๖. พระเทพสารสุธี วัดภูผาภิมุข
๗. พระเทพญาณโมลี วัดตานีนรสโมสร
๘. พระราชปัญญาเมธี วัดพุทธภูมิ
๙. พระไพโรจน์นราธิคุณ วัดบางนรา
๑๐. พระศิริขันตยาภรณ์ วัดตุลยาราม

พระอาจารย์นั่งปรก
๑. พระราชรัตนโมลี วัดแหลมทราย
๒. พระศีลสารโสภณ วัดตันตยาภิรมย์
๓. พระครูครุกิจจานุการ วัดไชยาธาราราม
๔. พระครูประภัศร์ธรรมาภรณ์ วัดพระลอย
๕. พระครูโพธิสารประสาธน์ วัดโพธิสัมพันธ์
๖. พระครูสถาพรพุทธมนต์ วัดเวฬุนาราม
๗. พระอาจารย์บัว วัดป่าบ้านตาด
๘. พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ วัดดอนศาลา
๙. พระอาจารย์บุญคง ภัทธิโย วัดแจ้ง

พระสงฆ์สวดพิธีพุทธาภิเษก
๑. พระครูสุนทรธรรมภาณี วัดพรหมนิวาส
๒. พระปัญญาวรคุณ วัดพนาสณฑ์
๓. พระครูจันทสิริโสภณ วัดบางนรา
๔. พระครูสุวรรณนวกิจ วัดราษฎร์สโมสร
๕. พระครูวิโรจน์ธรรมธาดา วัดตันติการาม
๖. พระมหาสมพร ขนมโชโต วัดพรหมนิวาส
๗. พระฉลัด ปมุตโต วัดพรหมนิวาส
๙. พระมหาสำลี วัดบางนรา

สร้างจากชนวนวัตถุมงคลเก่าๆและตะกรุดของเกจิอาจารย์จำนวนมาก และต่อมายังเข้าปลุกเสกอีกหลายวาระ ในพิธีเททอง ขณะกำลังหลอมโลหะวัตถุดิบ ว่ากันว่าแผ่นยันต์ของพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้, พ่อท่านเส้ง วัดแหลมทราย และของอาจารย์นำ วัดดอนศาลา หลอมไม่ละลาย ทำให้ต้องตักแผ่นขึ้นมาใหม่ทำพิธีอีกจึงหลอมได้สำเร็จ
เกจิคณาจารย์ร่วมพิธี
1.พ่อท่านเส้ง วัดแหลมทราย จ.สงขลา
2.พ่อท่านแสง วัดคลองน้ำเจ็ด จ.ตรัง
3.พ่อท่านเมือง วัดท่าแหน ลำปาง
4.หลวงปู่นาค วัดระฆัง กทม.
5.พ่อท่านหมุน วัดเขาแดงตะวันออก จ.พัทลุง
6.พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ จ.ปัตตานี
7.หลวงพ่อดำ วัดตุยง จ.ปัตตานี
8.พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง
9.พ่อท่านเขียว วัดหลงบล
10.ฆราวาสสายเขาอ้อ ท่านขุนพันธุ์ฯ อาจารย์ชุม ไชยคีรี

 

........

 

3651.สมเด็จข้างยันต์รุ่นแรก หลวงพ่อวิไล วัดโพธิ์งาม จ.สมุทรสงคราม ปี23 ให้บูชา 850 บาท

สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๒๓ ลักษณะเป็นพระสมเด็จสี่เหลี่ยมเนื้อผงพุทธคุณ โดยหลวงพ่อท่านนำผงพุทธคุณที่ท่านรวบรวมไว้รวมกับผงที่ท่านลบเอง เป็นส่วนผสมในการสร้าง




​

หลวงพ่อวิไล วัดโพธิ์งาม หรือ พระครูวัตตโกศล อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิ์งาม ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ท่านเป็นพระเกจิที่มีชื่อเสียงในพื้นที่บางนกแขวกเป็นอย่างมาก พื้นเพเดิมท่านเกิดที่บ้านดอนเซ่ง ตำบลบางแพ อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ ๘ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๑ โยมบิดาชื่อนายปลอด โยมมารดาชื่อนางแป๋ว แต่เดิมผู้เป็นบิดามารดาเรียกขานนามท่านว่า "เจ๊ก" มาเปลี่ยนเป็นชื่อ "วิไล" ในภายหลัง

ในวัยเด็กได้ศึกษาเล่าเรียนวิชากับหลวงตาน้อย และหลวงพ่อแช่ม พรหมสโร วัดดอนเซ่ง ตำบลบางแพ อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี ซึ่งทั้งสองมีสายสัมพันธ์เป็นญาติกับหลวงพ่อวิไล

ซึ่งหลวงพ่อแช่ม วัดดอนเซ่งนั้นได้ชื่อในเรื่องของ "ตะกรุด" และวิชา "ต่อกระดูก" ที่ได้ใช้ในการรักษาชาวบ้านที่ประสบอุบัติเหตุแขนหัก ขาหัก โดยใช้น้ำมันมะพร้าวเคี่ยวทา พร้อมบริกรรมคาถาเสกสมานกระดูก

ส่วนเรื่องตะกรุดของหลวงพ่อแช่ม ท่านจะเดินไปริมคลองด้านหน้าวัดแล้วระเบิดน้ำลงไปม้วนตะกรุด ซึ่งท่านเคยกล่าวไว้ว่า ถึงไม่มีแม่น้ำลำคลองก็สามารถใช้ม้วนตะกรุดได้ ขอเพียงให้มีจิตสมาธิมั่นอย่างเดียวก็สำเร็จ

ส่วนหลวงตาน้อยก็ได้ชื่อในรื่องของ "น้ำมันเบิกฟ้า" หรือที่บางคนเรียกว่า "น้ำมันโป" น้ำมันนี้ถ้าทาบริเวณหนังตาแล้วจะสามารถมองเห็นลูกเต๋าในถ้วย แต่มีข้อกำหนดไว้ว่า วันนี้จะแทงกี่ครั้งก็ได้ตามที่กำหนดไว้เท่านั้น ส่วนเรื่องเมตตามหานิยม และแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี ก็ไม่บันเบาทีเดียว

ปี ๒๔๖๓ หลวงพ่อวิไล ได้เข้ารับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดดอนเซ่ง ตำบลบางแพ อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ ได้รับฉายาว่า "ปุญฺญสิริ" โดยมี

หลวงพ่อแช่ม วัดดอนเซ่ง เป็นพระอุปัชฌาย์

หลวงพ่อโต๊ะ วัดทำนบ เป็นพระกรรมวาจาจารย์

หลวงพ่ออินทร์ วัดท่าราบ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลังจากอุปสมบทได้อยู่จำพรรษาที่วัดดอนเซ่ง และได้ศึกษาวิชาเพิ่มเติมจากหลวงพ่อโต๊ะ วัดทำนบ ซึ่งมีชื่อในเรื่องคงกระพันชาตรี และหลวงพ่ออินทร์ วัดท่าราบ ที่มีชื่อในเรื่องเมตตามหานิยมอีกด้วย
หลังจากจำพรรษาที่วัดดอนเซ่งได้ระยะหนึ่งแล้ว จึงได้เดินทางไปศึกษาวิชาต่อกับหลวงพ่อเจียง วัดเจริญสุขาราม ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านคาถาอาคม เสกน้ำมนต์เดือด และสามารถปลุกเสกวัตถุมงคลเคลื่อนไหวได้ โดยอยู่ศึกษาวิชาและจำพรรษาที่วัดเจริญสุขาราม พร้อมทั้งยังช่วยเหลืองานทางวัดไม่ว่าจะเป็นเรื่องการช่วยสอนธรรมะ ช่วยเหลือในการก่อสร้างซ่อมแซมเสนาสนะต่างๆ

ปี พ.ศ. ๒๔๙๑ พระอธิการจุ้ย เจ้าอาวาสวัดโพธิ์งามได้มรณภาพลงด้วยโรคชรา ทำให้ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโพธิ์งามได้ว่างลง

ปี พ.ศ. ๒๔๙๒ หลังจากที่ชาวบ้านและคณะกรรมการวัดโพธิ์งาม ได้จัดงานศพของหลวงพ่อจุ้ยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้พากันมากราบหลวงพ่อเจียง เจ้าอาวาสวัดเจริญสุขาราม ซึ่งท่านเป็นพระเกจิที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก

เพื่อนิมนต์หลวงพ่อวิไลไปเป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์งาม ที่ขณะนั้นกำลังทรุดโทรมเป็นอันมาก และเห็นว่าหลวงพ่อวิไล มีความรู้ทางช่างพอสมควร เหมาะสมที่จะมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโพธิ์งาม

 

3652.ชุดสุดคุ้มประทับสัตว์ หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย ประกอบด้วย

1.พระพุทธเจ้าประทับสัตว์ พิมพ์ขี่ครุฑ อุดผง เนื้อดิน พิมพ์อมตะหลังลายเซ็น เสกไตรมาส
2.พระพุทธเจ้าประทับสัตว์ พิมพ์ขี่ปลา เนื้อแป้งเสก ปี 2539

***ให้บูชาชุดละ 500 บาท

​

 

3653.เหรียญพญาเต่าเรือน หลวงปู่หลิว รุ่นมหาลาภ ปี 2536 บ.นวะโลหะ ให้บูชา 2650 บาท

​

 

3654.พระสมเด็จทองทิพย์ หลวงปู่ทอง จันทศิริ วัดอโศการาม รุ่น1 ปี2555 พิเศษ โรยเกศาเน้นๆ เศษจีวร ให้บูชา 500 บาท

​

หลวงปู่ทอง จนฺทสิริ อาจาริยบูชาคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ หลวงปู่ทอง จนฺทสิริ ท่านเป็นลูกศิษย์ของท่านพ่อลี อีกทั้งท่านยังมีศักดิ์เป็นหลานแท้ ๆ ของท่านพ่อลี อีกด้วย ท่านได้ออกติดตามหลวงอา(ท่านพ่อลี) ไปบำเพ็ญสมณธรรมและอุปัฏฐากรับให้หลวงอา ในที่ต่าง ๆ จนได้ศึกษาข้อวัตร และปฏิปทาจากท่านพ่อลี มาอย่างเต็มเปี่ยม ท่านจึงเป็นทายาททางธรรมของท่านพ่อลี อย่างสมภาคภูมิ หลวงปู่ทอง จนฺทสิริ ท่านได้พัฒนาวัดและจิตใจของชาวบ้านญาติโยมอย่างต่อเนื่อง จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธา ท่านเป็นพระนักเทศน์ที่ติดรับกิจนิมนต์ตลอดเวลา และเป็นศูนย์รวมใจของชาวชุมชนโดยมิเสื่อมถอย วัดอโศการามแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอันร่มเย็น สำหรับเป็นที่พักพิงแก่มวลสรรพสัตว์ฉันใด หลวงปู่ทองก็เป็นธงธรรมให้ร่มเงาจิตใจแก่ชาวบ้านญาติโยมฉันนั้น

 

3655.รูปหล่อเพชรกลับ เนื้อทองชนวน ปี 2558 หลวงปู่พรหม จันทปัญโญ วัดช้างเผือก ให้บูชา 700 บาท ศิษย์เอกหลวงพ่อทบ วัดช้างเผือก

​

หลวงปู่พรหม ท่านได้อยู่ดูแลหลวงพ่อทบ จนถึงวินาทีสุดท้ายของหลวงพ่อทบ หลวงปู่พรหม ท่านใช้ชีวิตเช่นเฉกหลวงตาเฝ้าวัด ท่านได้รับคำสั่งจากหลวงพ่อทบผู้พระอุปัชฌาย์และอาจารย์ให้อยู่ดูแลบูรณะวัดช้างเผือก จนเป็นวัดใหญ่โตอย่างปัจจุบัน
เมื่อหลวงพ่อทบ มรณะภาพผู้คนต่างออกตามหาศิษย์หลวงพ่อทบ จากที่ต่างๆ แต่น้อยคนจะรู้ ว่าที่วัดช้างเผือกอันเป็นที่หลวงปู่ทบท่านมรณภาพ หลวงปู่ทบท่านได้ทิ้งธรรมทายาทศิษย์เอกของท่านเอาไว้เพื่อดูแลวัดช้างเผือกต่อจากท่าน เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๖ หลวงพ่อทบได้บูรณปฏิสังขรณ์วัดช้างเผือก ใช้เวลาอยู่ ๓ ปี ตัวท่านก็อาพาธและมรณภาพในวันงานศิลาฤกษ์พระอุโบสถหลังที่ ๑๗ ในช่วงบั้นปลายชีวิตที่ท่านกลับมาพัฒนาวัดช้างเผือกนั้น วันหนึ่งหลวงพ่อทบนั่งคุยกับญาติโยมท่านพูดขึ้นมาลอยๆ ว่าถ้าหลวงพ่อเสียชีวิต ขอให้นำศพไว้ที่วัดช้างเผือกไม่ต้องเผา ต่อไปวันข้างหน้าจะมีผู้มาช่วยพัฒนาวัดช้างเผือกเอง ซึ่งผู้ที่หลวงพ่อทบท่านกล่าวถึงคือหลวงปู่พรหม เจ้าอาวาสวัดช้างเผือกรูปปัจจุบัน
หลวงปู่พรหมท่านมีฐานะเป็นทั้งเครือญาติทางสายโลหิตและเป็นทั้ง ลูกศิษย์ ผู้อุปัฏฐากหลวงพ่อทบจนถึงวันละสังขาร โดยปัจจุบันท่านยังทำหน้าที่ดูแลสรีระของหลวงพ่อทบที่ไม่เน่าเปื่อยซึ่งบรรจุไว้ภายในโลงแก้วในวิหารของวัดช้างเผือก

 

3656.เหรียญ รุ่น เจริญพร หลวงปู่สอ คัมภีรปัญโญ วัดบ้านขาม จ.สุรินทร์ เนื้อตะกั่ว หน้ากากทองทิพย์ สร้าง 999 เหรียญ (no.198) ให้บูชา 350 บาท

​

ประวัติพระครูพัฒนสารคุณ (หลวงปู่สอ คัมภีรปัญโญ)

หลวงปู่สอท่านบรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดบ้านขาม เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๑ ขณะนั้นหลวงพ่อแสงได้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภออยู่ หลวงพ่อแสงท่านนี้เป็นเกจิหนึ่งในยุคนั้นที่เก่งมาก มีพุทธาคมและวิชาอาคมเป็นอย่างมาก ขนาดคนที่โดนของ แทบเป็นบ้าเป็นหลัง ท่านทำน้ำมนต์ให้อาบยังหายได้ ยิ่งคนไหนที่เดินทางมาจากแดนไกล ท่านสามารถรู้ล่วงหน้าและมายืนรอหน้าวัดโดยไม่ต้องมีใครบอก เพราะสมัยนั้นการติดต่อสื่อสาร ยากที่จะรู้ล่วงหน้า พอหลวงปู่สอ อายุครบ 20 ปี หลวงปู่แสงท่านมองอนาคตเห็นว่าองค์นี้ล่ะ จะเป็นผู้สืบทอดวิชาจากท่าน และจะเป็นตัวแทนท่านในอนาคต ท่านจึงได้สั่งให้หลวงปู่สอไปบอกโยมบิดาว่าท่านจะบวชเป็นพระให้

หลังจากนั้นท่านได้อุปสมบทเป็นพระเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๒ โดยมี

1.) พระครูศรีสัทธารมณ์ (หลวงปู่แสง สิริปัญโญ) ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านคาถาอาคมและวิปัสสนากรรมฐานเจ้าคณะอำเภอจอมพระ เป็นอุปฌาช์ผู้บวชให้

2.) พระวัง อินทวฺโส วัดสัทธารมณ์ ตำบลบุแกรง อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ เป็นพระกรรมวาจารย์,

3.) พระสารี อคฺคญาโน เป็นพระอนุสาสนาจารย์

ได้รับฉายานามว่า "คมฺภีรปญฺโญ"

หลวงปู่สอ ท่านเป็นพระผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียนในด้านวิปัสสนากรรมฐานและคาถาอาคม ท่านได้รับการถ่ายทอดและร่ำเรียนวิชาจากพระอาจารย์แสงจนหมดสิ้นทุกอย่าง

#หลวงปู่สอท่านฝากตัวกับหลวงปู่ดุลย์อตุโล ไม่มีใดเทียม เพื่อศึกษาวิชาอสุภกรรมฐานขั้นสูง หมายถึงการบำเพ็ญกรรมฐานโดยการพิจารณาอสุภะหรือพิจารณาร่างกายของตนหรือของผู้อื่นว่าเป็นของไม่งาม ไม่น่ายึดมั่นถือมั่น แต่เป็นของน่าเกลียด โสโครก เช่นพิจารณาซากศพที่นอนเปื่อยเน่า ภาวนาไปจนเกิดปัญญา จนเชี่ยวชาญ

ด้านการเรียนสรรพวิชาต่างๆ
หลวงปู่สอได้เดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงพ่อมุมอินทปัญโญวัดปราสาทเยอร์ เพื่อศึกษาวิชาการรู้วาระจิตคน และศาสตร์ต่างๆ จนสำเร็จโดยที่หลวงพ่อมุม ถ่ายทอดให้ด้วยความเต็มใจ
หลังจากได้ศึกษาวิชาจากหลวงพ่อมุมแล้ว #ท่านได้แนะนำให้หลวงปู่สอเดินทางเข้าไปในประเทศกัมพูชา
หลวงพ่อมุมท่านว่ายังมีอาจารย์ที่เก่งรอท่านอยู่ #ดังนั้นหลวงปู่สอจึงได้เดินทางธุดงค์เข้าประเทศกัมพูชา
และระหว่างทางหลวงปู่ได้ฝึกฝนวิชาที่เรียนมาทั้งพุทธคมและกรรมฐานจนเชี่ยวชาญ

​

 

3657.เหรียญเจริญพรหลวงพ่อเฉลิม เขมทัสสี วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา ปลุกเสกนาน 9 เดือน ให้บูชา 350 บาท

​

กรุงเก่าพระนครศรีอยุธยา มีพระเกจิอาจารย์เรืองนามหลายรูป พระโบราณคณิสสร หรือ หลวงพ่อเฉลิม เขมทัสสี แห่งวัดพระญาติการาม ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ก็เป็นหนึ่งในนั้น
กล่าวได้ว่าเป็นพระเกจิชั้นแนวหน้าอีกรูปของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นศิษย์เอกหลวงพ่ออั้น คันธาโร อดีตเจ้าอาวาสวัดพระญาติ
เล่าเรียนตำรับตำราในสายหลวงพ่อกลั่นจนหมดสิ้น ดังนั้น เวลามีงานพุทธาภิเษกปลุกเสกพระเครื่องรุ่นต่างๆ ส่วนใหญ่จะต้องนิมนต์หลวงพ่อเฉลิม ร่วมพิธีปลุกเสกพระเครื่องเป็นประจำอย่างขาดมิได้
หลวงพ่อเฉลิม เขมทสฺสี หรือ “เจ้าคุณพระโบราณคณิสสร” เจ้าอาวาสวัดพระญาติการาม พระเกจิที่โด่งดังอาคมขลังหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทายาทสืบสานพุทธาคมสายตรงหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ศึกษาสำนักวัดประดู่ทรงธรรม เก่งกัมมัฎฐานเป็นศิษย์เอก หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมได้ศึกษาตำรับตำราในสายหลวงพ่อกลั่น โดยเฉพาะวิชา “ชาตรี ๙ เฮ” (วิชาหินเบา)
ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระญาติการาม และเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิหลวงพ่อกลั่น-หลวงพ่ออั้น 2 อดีตพระเถระและพระเกจิชื่อดังวัดพระญาติการาม