เพื่อการกุศล ปิดประมูลรอบที่ ๕๙

จะส่งพระกริ่ง พระชัยฯ รอบที่แล้วไปเลี่ยมเงิน ผมบริการฟรี คิดค่าเลี่ยม ค่ารถทีหลัง แต่ประมาณตามราคาที่โชว์ ใครจะเข้าร่วม บอกได้น่ะครับ

 

ยังรอประมูลอยู่นะ

 

ผมกำลังคัดพระ เอาของหายากมาบ้างสวนเศรษฐกิจ ตอนนี้ราคาพระตก สวนมาเลย บริการแฟนคลับขาประมูล เช่นมีดหมอด้ามงา ลป บุญศรี รักยม หลวงพ่อจง พระพิมพ์หายาก ลป เล็ก ผงยา
รอคัดให้ครบถ่ายรูปน่ะครับ มาแน่นอนครับ

เปิดดูไฟล์ 6195300

 

เสนอตะโพนหลวงพ่อทรงครับ ขอจิ๋วๆครับพี่

 

https://www.facebook.com/groups/381418752443043

ภาพวัตถุมงคลที่จะลงประมูลรอบหน้าครับ มีตะโพนหลวงพ่อขนาด เล้ก เนื้อไม้ หายาก ทำน้อย ผมยังเหลือใบเดียว

 

ก่อนประมูลขอปูข้อมูลเบี้ยตัวสำคัญนี้ก่อนครับ

เบี้ยแก้ หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์
ยอดเบี้ยแก้สายอ่างทองน่ะครับ
สรรพคุณในการใช้ เบี้ยแก้ ก็ตรงกับชื่อคือ สารพัดแก้ กันสารพัด โดยมีอุปเท่ห์การใช้ เช่น เบี้ยแก้มีอิทธิฤทธิ์ทางด้านการป้องกันคุณไสย มนต์ดำ ยาเสน่ห์ กันเขี้ยวงา หรือแม้กระทั่งกันผี เช่น ป้องกันอัตวิบากกรรม แก้ภาพหลอน จิตหลอน ภาพอุปทาน แก้อำนาจภูตผีปีศาจ อาถรรพณ์เวท ทำให้มัวเมาขลาดกลัว ขนพองสยองเกล้า ลมเพลมพัด คุณไสย คุณผี คุณคนทั้งปวงอุบาทวเหตุ อุบาทวภัยทั้งปวง มัวเมายาพิษ ยาสั่งทั้งหลาย ไข้ป่า ไข้ป้าง ไข้ผีป่า ผีโป่ง ผีปอบ ต้องกระทำจากภูตผี ผีพราย ผีตายโหง กองกอยวิกลจริต จิตวิกลวิกาล วิญญาณ อุปาทานวิกลเหมือนผีเข้าเจ้าสิงสู่ปราศจากสิ้นแล

ให้อธิษฐานเอาน้ำมนต์ เอาดอกพุทธรักษาดอกไม้ ดอกเข็มแดงหลากสี ตั้งขันธูปเทียน ขันห้า ข้าวตอก ดอกไม้แก้บาทวพิษ บาดทะยัก อัมพาต บาดแผล ฝีมะเร็ง ฝีคุณ หัวพิษ หัวกาฬ ทรางชัก รางขนพอง สันนิบาตลูกหมา ลูกนก หลังแอ่น คางแข็ง บ้าหมู ภายนอกภายใน อาบกินด้วย ตั้งจิตหน่วงลง ในคุณพระศรีรัตนตรัยใช้ได้แล

เมื่อเข้าศึกสงคราม ให้เอาไว้ด้านหน้า สารพัดศัตรู บีทาย่ำรุกไล่ให้เอาไว้ด้านหลัง หาเจ้าฟ้ามหากษัตริย์ เจ้าขุนมูลนาย ให้เอาไว้ด้านข้างขวา เมื่อหาหญิง หานางพญาไว้ข้างซ้าย สารพัดศาสตรามิต้องข้างกายเลย ดุจฝนเสนห่า ข้าวปลาอาหารเป็นพิษ คางแข็ง เคี้ยวไม่กลืนเลยแล

เบี้ยแก้ เป็นเครื่องรางที่ทำจากหอยจั่น หรือหอยเบี้ย ซึ่งครั้งอดีตต้องนำเข้าจากเมืองจีน และสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ ปรอท, แผ่นตะกั่ว, ชันโรงใต้ดิน
คณาจารย์ผู้สร้างจะกำกับพระเวท พร้อมวัสดุที่จะทำมาให้ครบ ใส่ในพานครูพร้อมดอกไม้ธูปเทียน

วิธีการสร้างเบี้ยแก้ คือ การนำปรอทที่ปลุกเสกแล้วเข้าไปอยู่ในตัวเบี้ย แล้วหาวิธีอุดไว้ไม่ให้ปรอทหนีออกมาได้ด้วยชันโรงใต้ดิน ที่ปลุกเสกแล้ว และหุ้มด้วยผ้าแดง หรือแผ่นตะกั่วแผ่นทองแดง แล้วจึงนำมาถักเชือก หรือหุ้ม ทำห่วงไว้ให้ ผูกเอวหรือห้อยคอ

ขั้นตอนสุดท้าย คือ การปลุกเสกกำกับอีกครั้งหนึ่ง ปรอทที่นำมาทำเบี้ยแก้เรียกว่า ปรอทเป็น โดยเมื่อเขย่าตัวเบี้ยแก้แล้ว จะได้ยินเสียงดัง "ขลุกๆ" อยู่ในตัวเบี้ย

ถ้าทำเบี้ยในช่วงฤดูร้อน ปรอทจะมีการขยายตัวมาก ทำให้เวลาเขย่าในสภาวะอากาศร้อน จะไม่ค่อยได้ยินเสียง "ขลุก"

แต่ถ้าเอาเบี้ยตัวเดียวกัน มาเขย่าในช่วงอากาศหนาว ปรอทจะหดตัวลง ทำให้มีพื้นที่ว่างในตัวเบี้ยมีมาก เวลาเขย่าจะได้ยินเสียง "ขลุก" ชัดเจน

เมื่อกรอกปรอทเสร็จแล้ว จะปิดช่องด้วยชันโรงใต้ดินที่ปลุกเสกแล้ว และหุ้มด้วยผ้าแดงหรือแผ่นตะกั่วแผ่นทองแดงแล้ว จึงนำมาถักเชือกหรือหุ้มทำห่วงไว้ให้ผูกเอว หรือห้อยคอ ขั้นตอนสุดท้ายคือการปลุกเสกกำกับอีกครั้งหนึ่ง

เสียงของเบี้ยแก้ แต่ละตัวไม่เหมือนกัน บางตัวก็ดังมาก บางตัวก็ดังน้อย บางตัวบรรจุปรอทน้อยเกินไป การกระฉอกของปรอทจะดังคล่องแคล่วดี แต่ก็ขาดความหนักแน่น
บางตัวบรรจุปรอทมากไป ก็อาจจะทำให้เสียงน้อย หรือไม่ได้ยินเลยก็มี

เบี้ยแก้ ที่ผ่านการบรรจุปรอทจนกระทั่งถักหุ้มเรียบร้อยแล้ว ยังไม่ถือว่าเสร็จสิ้นขั้นตอนกรรมวิธี เพราะคณาจารย์เจ้าผู้สร้าง ท่านต้องปลุกเสกกำกับอีกครั้ง จนมั่นใจว่าใช้ได้จริงๆ แล้ว

เล่ากันว่า คณาจารย์บางรูปสามารถปลุกเสกเบี้ยแก้จนตัวเบี้ยคลานได้เหมือนหอย

จากที่กล่าวมาในข้างต้น เป็นวิธีการสร้างเบี้ยแก้ ซึ่งคณาจารย์และเกจิอาจารย์ผู้สร้างที่ได้รับการถ่ายทอดสืบต่อกันมา จึงถือเป็นเครื่องรางที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ ของเมืองไทย

หากจะกล่าวถึงเกจิอาจารย์ที่ได้รับการยอมรับ และรู้จักกันมากที่สุด คงได้แก่ สายวัดกลางบางแก้ว ของ หลวงปู่บุญ หลวงปู่เพิ่ม และ หลวงปู่เจือ

สายทางวัดนายโรง ของ หลวงปู่รอด สายนี้มีการถ่ายทอดโดย หลวงปู่ทัต วัดคฤหบดี ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงปู่รอด อีกท่านหนึ่ง และหลวงปู่ทัตได้ถ่ายทอดให้ หลวงปู่พลอย ซึ่งปัจจุบันไม่มีการจัดสร้างเบี้ยแก้แล้ว

ส่วน เบี้ยแก้ ของสาย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ และเบี้ยของ หลวงพ่อซำ วัดตลาดใหม่ และยังมีสายทางอ่างทองก็มี หลวงพ่อพักตร์ วัดโบสถ์ และสายลูกศิษย์ของหลวงพ่อพักตร์ ได้แก่ หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ และของวัดท่าช้าง เป็นต้นอีกมาก ที่ยังไม่ได้กล่าวถึง ล้วนแต่ขึ้นชื่อเรื่องพุทธานุภาพ มีสรรพคุณร้อยแปดพันเก้าประการ สุดที่ยากบรรยาย ครอบคลุมทุกด้าน ป้องกันสิ่งชั่วร้าย และแก้เหตุร้ายให้กลับกลายเป็นดี

ลอกข้อมูลของ ป๋อง สุพรรณ จาก น.ส.พ. คมชัดลึกมาให้อ่านครับ

 

พระที่จะลงประมูลอยู่ที่นี้ครับ พรุ่งนี้เริ่มรอบใหม่ครับ ขลุกขลักนิดตอนย้ายเครื่องน่ะครับ ต่อไปคงราบรื่น

https://www.facebook.com/groups/381418752443043

 

ประมูลรอบที่ ๕๙ ลป เล็ก ลป หล้า ลป เหรียญ ลป เกลี้ยง ลพ จง ลป บุญศรี ลพ ทรง ลพ อั้บ

รายการที่ ๑ พระสิวลีมหาเถระ อังการลาภมงคล ๒๕๔๙

พิธีทำอ่านในพระปิดตาน่ะครับ



เปิดราคา บาทเดียว ทุกบาทเข้ากองทุนต่อยอดพันบุญไม่มีหักค่าใช้จ่าย

พระปิดตาดิเรกลาภพิมพ์พิเศษ ฝังตะกรุดเงิน จีวร หลวงปู่เล็ก

สำหรับรายการนี้ ท่านที่ต้องการเส้นเกศาหลวงปู่เลก็ ผมแบ่งให้ได้ นิดหน่อยครับ

 

รายการที่ ๒ พระปิดตาดิเรกลาภ ๒๕๕๙

ยกคู่มาเลยครับ เหลือง และดำ เป็นพระที่มวลสารทำในพระอุโบสถ ไม่ใช่พระโรงงาน เปิดราคา ๑ บาท

ปิดตาพารวยปี ๒๕๖๖ น่ะครับ ค้าขายให้เฮงๆ ไม่เจ็บ ไม่จน คำว่าไม่มีอย่าได้บังเกิด อะไรที่ไม่น่าเห็นก็ปิดตาซ่ะ จะได้ รวย ๆ ๆ น่ะครับ
หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ ปี ๒๕๕๙
พระชุดนี้ตั้งแต่ทำมา จำหน่าย จ่ายแจก ทอดกฐิน ก็หายไปจากวงการเลย แทบไม่มีปรากฎ เหตุผลก็คือ คนรู้มวลสาร เก็บกันแน่น และเงียบ โดยเฉพาะเนื้อดำ
ประวัติกำลังตาม แต่หลักๆ มีเนื้อไพลเสกล้วน สายแม่กลอง ( ยาวาสนาสายแม่กลอง ) ใช้กินได้แบบยาวาสนา กันคุณไสย แก้ของได้
ยาเหลืองพระพิไชย นี้เป็น ในพิชัยสงคราม โบราณตำหรับนึง
ตำราโบราณ ว่า ยานี้ฝนน้ำมันหอม จุลเจิม เป็นเมตตา มหานิยมมากครับ จะออกรณรงค์สงคราม ฝนน้ำมันอธิษฐานทาตัว เป็นแคล้วคลาดคงกระพัน ครับ
ยาไพล ชุดนี้ ที่แจกไปเป็นตัวผงยา คนเอาไปกิน มีผลมากครับ ทั้งไล่คุณไสย ไล่ผี และรักษาโรคครับ
เนื้อดำเป็นเนื้อยาไพล ผสมว่าน 108 ใบลาน และมวลสารศักดิ์ต่าง ๆ
................................................
พระรุ้่นนี้คนเก็บกันเงียบจริงๆ เอามาโชว์ เอามาขายยังไม่ค่อยมี หลวงปู่เล็กเสกเดี่ยวที่ ร.พ. วิชัยยุทธ ของที่หลวงปู่เล็กเสกให้อย่างดีแล้ว ไม่ต้องเอาไปเสกที่ไหนอีก
พระรุ่นนี้ ตรงที่มือมาบรรจบกันปิดตา ช่างแกะและช่างกดพระปิดตาทำได้ สุดมหัศจรรย์ เพราะจะบุ่ม ลึกเข้าไป เป็น รอยข้อมือและฝามือ ที่ปกติพระผงที่กดพิมพ์ลงมาตรงๆจะ ทำได้ยากมากหรือแทบเป็นไปไม่ได้
ปิดทางเก๊ เพระาถ้าเก๊เอาไปถอดพิมพ์ ทำจุดนี้มไ่ด้แน่นอน จัดวว่ามีเอกลักาณ์อย่างยิ่ง
พระปิดตาดิเรกลาภ
หายไปจากวงการ หายไปจริง มีสองเนื้อ เหลืองและดำ
เนื้อเหลืองเป็นเนี้อยาไพล เหลืองสูตร สายแม่กลอง
หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ ปี ๒๕๕๙
พระชุดนี้ตั้งแต่ทำมา จำหน่าย จ่ายแจก ทอดกฐิน ก็หายไปจากวงการเลย แทบไม่มีปรากฎ เหตุผลก็คือ คนรู้มวลสาร เก็บกันแน่น และเงียบ โดยเฉพาะเนื้อดำ
ประวัติกำลังตาม แต่หลักๆ มีเนื้อไพลเสกล้วน สายแม่กลอง ( ยาวาสนาสายแม่กลอง ) ใช้กินได้แบบยาวาสนา กันคุณไสย แก้ของได้
ยาเหลืองพระพิไชย นี้เป็น ในพิชัยสงคราม โบราณตำหรับนึง
ตำราโบราณ ว่า ยานี้ฝนน้ำมันหอม จุลเจิม เป็นเมตตา มหานิยมมากครับ จะออกรณรงค์สงคราม ฝนน้ำมันอธิษฐานทาตัว เป็นแคล้วคลาดคงกระพัน ครับ
ยาไพล ชุดนี้ ที่แจกไปเป็นตัวผงยา คนเอาไปกิน มีผลมากครับ ทั้งไล่คุณไสย ไล่ผี และรักษาโรคครับ
เนื้อดำเป็นเนื้อยาไพล ผสมว่าน 108 ใบลาน และมวลสาร





พระตั้งเยอะ ๕๐๐๐ กว่าองค์ พิธีดี หลวงปุ่อนุญาต เสกให้อย่างดี กลับไม่ค่อยเห็น



ปรุงผงยาในโบสถ์โดยพระครูมานิตย์ครับ

 

เปิดรายการที่2. 500

 

รายการที่ ๓ เหรียญล้อแม็กซ์ หลวงปู่หล้า ตาทิพย์ เนื้อเงิน ปี ๒๕๓๔

สมัยผมรับราชการที่ อ. ฝางผมไปกราบ ลป หล้า หลายครั้งและท่านเมตตาทุกครั้ง ท่านเป็นพระดี มีบารมีสูงน่ะครับ วัตถุมงคลมีพุทธคุณสูง แต่เผอิญยุคที่ท่านอยู่ พระดังแบบ ทั่วประเทศ คือ หลวงปู่ แหวน และ ใต้ลงไปหน่อย คือ หลวงพ่อเกษม ดังกลบทุกท่าน นอกนั้นยังมี หลวงปู่ คำแสน ใหญ่ และ เล็ก ลป ครูบาธรรมชัย หลวงปู่ วัดพระบาทตากผ้า ลป ครูบา ชัยยวงศา หลวงปู่สิม และมีพระที่ดังท้องถิ่นแบบ ลป วัดน้ำบ่อหลวง ลป ครูบาคำเหมย ลป ครูบาสุทธิ ฝาง ฯลฯ เยอะมาก หลวงปู่หล้าท่านเลยไม่ดังแบบเปรี้ยงๆ แต่ผมคิดว่าท่านคงไม่สนใจอะไรน่ะครับ แค่เปรียบเทียบให้เห็นภาพ

(พระครูจันทสมานคุณ)

วัดป่าตึง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
พระเกจิดังแดนล้านนาอีกรูป เป็นพระห้าแผ่นดิน และเป็นศิษย์ครูบาศรีวิชัย เป็นเหรียญเนื้อหายาก มีทองคำแต่หาดูยากมาก
เหตุที่ชาวบ้านเรียกท่านหลวงปู่หล้าตาทิพย์ นั้นก็เพราะว่า ในอดีตวันหนึ่งฝนตั้งเค้าจะตกหนัก หลวงปู่หล้าบอกให้พระเณรรีบออกจากกุฏิ เพราะกุฏิเก่าและทรุดโทรมมากและมีต้นลานขนาดใหญ่อยู่ข้างกุฏิ ปรากฏว่าวันนั้นฝนตกหนักกิ่งต้นลานก็หักโค่นลงมาทับกุฏิพัง พระเณรที่อยู่ในวัดทุกคนปลอดภัยและพากันสรรเสริญว่าท่านมีตาทิพย์ นอกจากนั้นยังมีเรื่องเล่าอีกว่า เช้าวันหนึ่งเวลาประมาณตี 5 หลวงปู่หล้าให้พระเณรรีบทำความสะอาดวิหารเพราะจะมีแขกมาหาที่วัด ครั้นพอถึงเวลา 6 โมงเช้า พระศรีธรรมนิเทศ เจ้าอาวาสวัดสันป่าข่อยนำญาติโยมมาหา ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านจึงพากันเรียกท่านว่า “หลวงปู่หล้าตาทิพย์”
ซึ่งตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ท่านจะได้รับกิจนิมนต์ไปงานพุทธาภิเษก พิธีใหญ่ๆเป็นประจำ ชาวบ้านเชื่อกันว่า ได้ได้บรรลุ ทิพย์จักษุญาณ หรือว่ามีหูทิพย์ ตาทิพย์ ท่านเป็นพระเกจิอีกรูปที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จไปกราบท่าน หลายครั้ง หลังจากองค์หลวงปู่ท่านได้ละสังขารแล้วสังขารท่านไม่เน่าเปื่อย



เปิดราคา ๑ บาท ทุกบาท เข้ากองทุน ทำการกุศลทุกบาทครับ

พระปิดตาดิเรกลาภพิมพ์พิเศษ ฝังตะกรุดเงิน จีวร หลวงปู่เล็ก



สำหรับรายการนี้ ท่านที่ต้องการเส้นเกศาหลวงปู่เลก็ ผมแบ่งให้ได้ นิดหน่อยครับ

 

มีรางวัลตัดริบบิ้น ผมหาให้ครับ

 

รายการที่ ๔ ชุดพระ 9 องค์ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ รุ่นประทานพร วรลาโภ

ชุดทิ้งทวน 9 องค์ ปี 2539 มหาพุทธาภิเษกใหญ่

พิธีใหญ่มาก ครับ บูชาเก็บไว้

มีมวลสารตากพระเก่งๆหลายท่าน มหลวงปู่สิม พุทธจาโร/หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ผงเสกหลวงปู่ฝั้น อาจาโร/หลวงปู่แหวน ใบโพธิ์พุทธคยา มหาพุทธาภิเษกใหญ่ มวลสารเยี่ยม อาทิ ผงว่าน 108 เจ้าคุณนรรัตน์ฯ วัดเทพศิรินทร์ ผงอังคารธาตุ หลวงปู่สิม พุทธจาโร/ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ผงเสกหลวงปู่ฝั้น อาจาโร/หลวงปู่แหวน สุจิณโณ เกศาหลวงปู่เหรียญ/หลวงปู่เทียม วัดกษัตรา ผงพุทธคุณหลวงพ่อแพ ใบโพธิ์พุทธคยา และอื่น ๆ ไม่ผ่านใช้ พร้อมกล่องเดิม องค์เล็กที่สุดขนาด 2.5 x 3 ซ.ม. ใหญ่ที่สุด 2.5 x 3.6 ซ.ม. ขนาดกล่อง 10 x 17 ซ.ม. (ไม่มีใบฝอย)

ปลุกเสกโดยพระสุปฏิปันโน
สายอีสาน เจริญพระพุทธมนต์ และเจริญจิตภาวนาอธิษฐานจิต พระหลวงปู่เหรียญ “รุ่นประทานพร วรลาโภ” (พระชุดทิ้งทวน 9 องค์ )
วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2539 เวลา 10.59 น. ประกอบด้วย 1. พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) วัดอรัญญบรรพต จ.หนองคาย ประธานจุดเทียนชัย 2. หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา ประธานดับเทียนชัย 3. พระญาณทีปาจารย์ (หลวงปู่ท่อน ญาณธโร) วัดป่าศรีอภัยวัน จ.เลย 4. หลวงปู่จันโสม กิตติกโร วัดป่าจันทรังษี (วัดป่านาสีดา) จ.อุดรธานี 5. พระครูอุดมสังวรคุณ (อาจารย์สนธิ์) วัดบรมนิวาส กรุงเทพมหานคร 6. พระสุทธิสารมุนี (หลวงปู่รักษ์) วัดป่าสำราญนิเวช จ.อำนาจเจริญ 7. พระครูการุณยธรรมนิวาส (หลวงปู่หลวง กตปุญโญ) วัดป่าสำราญนิวาส จ.ลำปาง 8. พระครูวิเวกวัฒนาทร (หลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก) วัดป่าวิเวกธรรม จ.ขอนแก่น 9. พระครูวีรธรรมานุยุต (หลวงปู่พวง สุวีโร) วัดป่าปูลูสันติวัฒนา จ.อุดรธานี 10. พระครูอุดมธรรมสุนทร (หลวงพ่อคำแปลง สุนทโร) วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร และเกจิคณาจารย์อื่นๆ รวม 19 ท่าน รายการมวลสารและวัตถุมงคลที่ประกอบเป็นองค์พระ รุ่น “ประทานพร วรลาโภ” มีดังนี้ 1. ผงอังคารหลวงปู่สิม พุทธาจาโร 2. ผงอังคารหลวงปู่สาม อภิญจโน 3. ผงอังคารหลวงปู่บัวพา ปัญญาภาโส 4. ผงอังคารหลวงปู่หลุย จันทสาโร 5. ผงอังคารหลวงปู่ครูบาพรหมา หรหมจักโก 6. ผงอังคารหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง 7. ผงเสกหลวงปู่ฝั้น อาจาโร 8. ผงเสกหลวงปู่แหวน สุจิณโณ 9. ผงเสกหลวงปู่ครูบาธรรมชัย 10. ผงเสกหลวงปู่ชอบ ฐานสโม 11. ผงเสก แป้งเสก และเกศา หลวงปู่หลวง กตปุญโญ 12. เกศาหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ 13. เกศาหลวงปู่จันโสม กิตติกโร 14. เกศาหลวงปู่แว่น ธนปาโล 15. เกศาหลวงปู่เทียม วัดกษัตราฯ อยุธยา 16. ผงว่าน 108 เจ้าคุณนรรัตน์ฯ วัดเทพศิรินทร์ 17. ผงใบลานไตรมาส หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี 18. แป้งเสก หลวงปู่สิม พุทธาจาโร 19. แป้งเสก หลวงปู่ชอบ ฐานสโม 20. ผงพระกรุวัดป่านาดุน ขอนแก่น 21. เกสรดอกพิกุล,ดอกจำปา,ดอกจำปี,ดอกมะลิ,สาระภี,ดอกบัว,บุนนาค,ดอกคำไทย,ดอกกระดังงา 22. ผงพุทธคุณ,แป้งเจิม,ทรายเสก หลวงปู่แช่ม วัดดอนยายหอม นครปฐม 23. ผงพุทธคุณ,ผงยา หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม 24. ผงพุทธคุณ หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธินิมิต 25. ผงพุทธคุณ,ผงมหาราช หลวงพ่อแคล้ว วัดยมโลก กรุงเทพฯ 26. ผงพุทธคุณ วัดเลา กรุงเทพฯ 27. ผงกระเบี้องพระอุโบสถ วัดระฆังฯ วัดกัลยา กรุงเทพฯ 28. ผงพระรุ่นต่าง ๆ วัดโพธิคุณ จ.ตาก 29. ผงพุทธคุณ หลวงพ่อแพวัดพิกุลทอง สิงห์บุรี 30. ใบโพธิ์พุทธคยา เสกวัดอินทรวิหาร กรุงเทพฯ 31. ผงใบพลูดับเทียนชัยพิธีพุทธาภิเษก 17 พิธี 32. ผงดอกบัวในอ่างน้ำพระพุทธมนต์ พิธีพุทธาภิเษก 49 พิธี 33. ผงพุทธคุณ หลวงพ่อคูร วัดบ้านไร่ 34. แป้งเสก หลวงปู่บุดดา ถาวโร 35. ผงพระครั่งพุทธาหลวงพ่อแผ่ว วัดโตนดหลวง เพชรบุรี 36. ผงวัดปากน้ำรุ่น 5 , 6 ชำรุด 8 องค์ 37. ผงธูปกรรมฐานพระสุปฏิปันโน 63 องค์ 38. ผงธูปจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทุกภาคของประเทศไทย 39. ผงเกสรดอกไม้ 108 ปลุกเสก 200 พิธี (ปลุกเสก 5 ปี) 40. ผงพระชำรุดแตกหักวัดใหม่อมตรส 41. ว่านกากยายักษ์ 42. ผงพุทธคุณ ผงพระชำรุด ไม่ทราบวัด จำนวนมาก

อ้างอิง
http://www.armamulet.com/.../%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%94...



เปิดราคาที่ ๑ บาท ตามนโยบายแบ่งปัน

พระปิดตาดิเรกลาภพิมพ์พิเศษ ฝังตะกรุดเงิน จีวร หลวงปู่เล็ก

สำหรับรายการนี้ ท่านที่ต้องการเส้นเกศาหลวงปู่เลก็ ผมแบ่งให้ได้ นิดหน่อยครับ

 

รายการที่ ๕ เบี้ยพระราม ๕

ไม่รู้จะเรียกเบี้ยอะไรเพราะไม่มีวัด ขอเรียกเบี้ยพระราม๕ ก็แล้วกันน่ะครับ เพราะต้นกำเหนิดมาจากที่นั่น
หลังจากมารู้จัก หลวงพ่อทรง เลยรู้จักวิธีหาและทำเบี้ย พวกอุปกรณ์ทำเบี้ย ปรอท ชันนะโรง หอยเบี้ย หอยจั่น หอยมือเสือ ที่ซื้อมาถวายท่าน ช่วยทำเบี้ยถวายท่านบ้าง แบบรู้ งูๆ ปลาๆ
จะที่สะสมเบี้ยไว้บ้างหลายร้อยตัว เช่นของหลวงพ่อทรงจะแยกกลุ่มกันใส่ถุงปลาสติกไว้ในตู้พระไว้ พวกนี้พอมาเจอ จะเห็นปรอท คายออกมาจากเบี้ย สาเหตุเพราะตอนทำเบี้ยอัดปรอทแน่น และ ปิดชันนะโรงแแน่นเกินไป อัดจนแน่น อันนี้อุทาหรณ์พวกที่ ชอบทำเบี้ยน่ะครับ ใส่ปรอทพอประมาณ ให้มีช่องว่างอุดชันโรงให้มีช่องว่างเพราะปรอท จะขยายตัวเมื่อร้อน
ถ้าอัดแน่นไป เขาจะดันออกมาจากรู ซึมรั่วออกมา แม้รูจะไม่ใหญ่ ปรอทพวกนี้ที่หนีมา ตามศัพทหลวงพ่อทรง ผมจะเก็บใส่ขวดไว้ ที่ติดกันชันะโรง ก็เอาพู่กันค่อยๆลูบๆเก็บสะสมปรอทไว้ ตั้งแต่ยุคเบี้ยของ หลวงพ่อทรง ลงมา
แต่เนื่องจากเบี้ยผมมีเบี้ยหลายร้อยตัวหลายหลวงพ่อ เพราะไปช่วยท่านทำ ช่วยสร้างวัด ค่ารักษาพยาบาลพวกท่าน เมื่อป่วย ฯลฯ ปรอทที่คายมาหรือหนีมาจะมากพอสมควรประมาณ สัก ๑ ใน ๔ ของขวดยานัตถุ์ หมอมี จะได้ ผสมๆ กันมา ถ้าเอามาใส่แบบแน่นตามวิธี ใส่ตัวใหญ่คงได้ประมาณ สอง ถึง สามตัว ตัวเล็กก็คงสัก ๕ หรือ ๖ ตัว
เบี้ยที่ปรอทคายออกมา มีหลายชุดเช่น
๑) เบี้ยหลวงพ่อทรง หลวงพ่อทรงเสก
๒) เบี้ยแสนหกก็แบบเดียวกัน ก็เอาปรอท เก็บไว้ในขวดเดียวกัน อันนี้หลักๆหลวงพ่อเสียนเสกให้
๓) เบี้ยเสาร์ ๕ หลวงปู่ดี หลักๆ หลวงปุ่ดีเสก และเอาไปเข้าพิธี หลวงพ่ออั้บ หลวงปู่เล็ก
๔) เบี้ยหลวงปู่เล็ก รวมๆกันหลายรุ่น เช่นรู่นหูอื้อ รุ่น เสาร์ ๕ ที่ได้แบ่งมา
๕) เบี้ย หลวงพ่อแม้น ชุดนี้ก็คายปรอทออกมาพอสมควร ต้องค่อยๆเปลี่ยนถุง ต่อมาใส่แยกโหลไว้ เบี้ยของหลวงพ่อแม้น มีสองรุ่น เสกทั้งพรรษาครับ
๖) เบี้ยหลวงพ่อ หยิบ วัดบ้านกลางเบี้ยเสาร์ ๕ เบี้ยข้ามปี ท่านเสกให้ทุกวันประมาณ หก เดือน ออกพรรษาข้ามมาอีกปี
๗) เบี้ยหลวงพ่อเจือ แบบขนาดใหญ่เปลือย ก็มีปรอทออกมา
๘) เบี้ยหลวงพ่ออั๊บ ชุดหุ้มตะกั่ว มีหลายขนาด ปรอทก็ดันออกมาได้
และที่สำคัญ ปรอท ๙) เชื้อจากเบี้ยหลวงพ่อภักตร์ ผมสะสมใส่ขวดไว้ เสียดายไม่ได้ถ่ายรูป ก็เก็บไว้ เอาของไปปลุกเสก ก็เอาใส่ไปด้วย หลักๆ มี หลวงปู่เล็ก หลวงพ่ออั้บ หลวงพ่อแม้น พระครูมานิตย์ หลวงพ่อใจ อันนี้ขั้นตอนเสกปรอท
พอประมาณสักปี ๕๗ หรือ ๕๘ หลังหลวงพ่ออั้บล่ะสังขารไปแล้ว เห็นว่าเก็บปรอทไว้เฉย ไม่มีประโยชน์ ยกเว้นเอาไปถวายหลวงพี่พระครูมานิตย์ซะ
เลยคิดแบบว่าทำไว้ใช้เอง เพราะรู้ว่าปรอทเสกพวกนี้หลายหลวงพ่อด้านเบี้ยเก่งๆทั้งนั้น จะเป็นเครื่องราง ประเภทของทำไว้ใช้เองมากกว่า เพราะจำนวนไม่มาก
เลยไปขอเบี้ยแก้เปล่าๆ ท่านพระครูมานิตย์มา สิบกว่าตัว ชันนะโรงก็ขอแบ่งมาหน่อยแบบนิ่มๆ ของผมที่เหลือชันนะโรงนิ่มๆ มีหน่อย และขอชันนโรงอาจารย์ก่อ แม่กลองมาหน่อย เพราะของพวกนี้เขาผ่านพิธีมาแล้วหลายครั้ง
พอได้ ฤกษ์สดวก ผมเอาปรอทมาแบ่งใส่เบี้ย ตัดตะกั่ว และเศษแร่ชนวนแต่โคตรเศรษฐีที่ทำเหรียญเต่าหลวงปู่บุญศรี ใส่ทุกตัว ตามสูตรหลวงพ่อทรง ท่านบอกว่า ปรอทจะมากินพวกตะกั่วนี่ จะไม่หนีไปหมด ปิดชันนโรงแล้ว เก็บไว้ เอาไปเข้าพิธี พิธีหลักก็พิธีไหว้ครูท่านพระครูมานิตย์ ใส่กระเป๋าไปบอกขออนญาตครูทำมาหลายปีมากหลายพิธี จนจำได้ และ เอาไปขอ หลวงปู่เล็กท่านเมตตา ฝากใส่ลังไป หลายพิธี พิธีหลักๆ ก็ ปี ๕๗ ๕๘ พิธี เจริญสุขและอีกหลายครั้ง จำไม่ได้ แต่ แทบทุกครั้งยุคแรกๆ ที่หลวงปู่เลกท่านเมตตาเสกของให้
ตกลงเป็นเบี้ยไม่มีวัด ใส่เอง แต่ไม่ได้เสก เพราะไม่รู้วิธีเสก เสกไม่เป็น ไปโหนครูบาอาจารย์ท่านดีกว่า แต่ปรอท มาจากหลายหลวงพ่อข้างต้น และ หลวงปู่เล็ก กับพระครูมานิตย์ เมตตา เสกให้ จำได้ว่ามีเอาไปฝากพระครูมานิตย์มาหนึ่งพรรษาด้วย หลวงพ่อใจ ก็อย่างน้อย ๑ พรรษา จำไม่ได้ว่าปีไหน แถวๆ ๕๗ ๕๘ ๕๙ ๖๐
เอาใส่ลังที่จำได้แน่ๆ ปี ๖๐ ไปฝากไว้กับหลวงพ่อใจ ๑ พรรษา มีแค่ สิบกว่าตัวเอง และจริงๆน่าจะหลายพรรษา ผมจำได้ที่เอาลังไปฝาก หลวงพ่อใจผ่านอาจารย์ก่อ ประมาณ สักสอง หรือ สาม พรรษา มีเหรียญพวก เจ้าพ่อ ข้อมือเหล็ก เจ้าพ่อพันท้ายฯ ด้วย สรุปว่าเสกมาหลายปีครับ
ตั้งแต่เก็บเศษปรอทมาจนวันนี้ก็ตกประมาณ ๑๕ ปี
ปรอท ใส่แบบ สูตร หลวงพ่อทรง เขย่าดังแซ็กๆ
มาเป็นเบี้ยพระราม๕ นี่แหละครับ มีหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์ด้วยคือมีเชื้อปรอทของหลวงพ่อภักตร์ผสมลงในเนื้อปรอทครับ ทองคำที่แปะเป็นทองคำเปลวที่ ลป พระครูบุญรีศเสกไว้ให้ครับ

 

รายการที่ ๖ หนุมาณหกร้อย เนื้อเงิน

เนื้อเงินทำมาน้อยมาก หลักไม่เกิน ๑๐ องค์เพราะต้นทุนสูง

๑ อุดผงวิเศษสีขาว
๒ อุดผง และ ชันโรงใต้ดินจากนครสวรรค์ อุดเบี้ยของหลวงพ่อทรง เหลือมาจากทำเบี้ยหลวงพ่อทรงอยู่หน่อย เอามาอุดเพิ่มอุดได้อีกจำนวนหนึ่ง หลวงพ่อทรงปลุกเสกมาให้แล้ว มา พ.ศ. นี้ ชันโรงแข็งตัวแล้ว อุดได้อย่างดี อย่างสวย

ทำมา หกร้อยตนเลยเรียกแบบนั้น เนื่องจากผมไปรู้จัก ผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ( อายุน้อยแต่หน้าที่ใหญ่ ) เนื่องจากสายงานด้านพลังงาน ผู้ใหญ่ท่านนี้ ท่านรู้จักกับหลวงปู่เกลี้ยง วัดเนินสุทธาวาสเป็นอย่างดีมากๆ แบบใกล้ชิด เรียกว่ารู้จักกันมาแต่รุ่น คณแม่ ท่านผู้นี้นี้ไปบวชกับหลวงปู่ หลวงปู่มาตามถึงบ้าน ให้ไปบวช ว่าพระราหูเข้าเสวยอายุ ต้องบวช ไม่งั้นแย่ อนุญาตไปทำงานได้ตอนกลางวัน ( งานเยอะ กิจการเยอะมาก ต้องดูแล แต่งพระไปนั่นแหละ ) แต่ เช้า เย็น ต้องสวดมนต์ทำวัตร เช้า เย็น กับพระท่าน แล้วจึงไปดูงาน ตรวจงานได้ เย็นแล้วต้องกลับมา มาจำวัดที่วัด
เป็นอันตกลง ท่านผู้นี้เจออภินิหารเหนือโลกของหลวงปู่หลายอย่าง ในด้านล่วงรู้วาระจิตและ รู้กาลล่วงหน้า รู้อดีตชาติของท่าน และ โยมแม่ ในตอนบวชนั้น
หลวงปู่ท่านบอกว่า โยมแม่ของท่านผู้นี้ในอดีตชาติเคยเป็นน้องสาวของท่าน มีความผูกพันกันมานาน ทำให้ท่านเอ็นดู ครอบครัวนี้เป็นพิเศษ ตระกูลมีอะไร จะมานิมนต์ท่านไปฉันที่บ้านเป็นประจำ ตั้งแต่ท่านผู้นี้ยังไม่เกิด
มีหลายเรื่องเอาว่าที่ผมได้ยิน เชื่อว่าท่านเป็นพระเหนือโลก จากผู้ที่ไม่ได้ซื้อขาย และ สนใจพระเครื่องกับเครื่องรางมาก มายน่ะครับ ไม่ได้สนใจสะสมไว้เยอะ ขนาดใกล้ชิดกับ หลวงปู่ขนาดนั้น มีจะแจกเขาแจกบริวารไปเกือบหมด หลวงปู่เสกให้ดีๆทั้งนั้น

หลวงปู่เป็นที่ทราบกันดี ในสายพระเครื่องว่า เก่ง ทางด้านหนุมาน น่ะครับ ดังแบบ สะท้านแผ่นดิน จะเล่นหนุมาน ต้องเล่นของหลวงปู่เกลี้ยง วัดเนินฯ ....แต่ต้องหาให้ดีๆน่ะครับ ...แหะๆ ว่าผ่านมือท่านจริงๆ จะเตือนไว้ก่อน

พอมีจังหวะดี ผมเลยได้โอกาส ไปเรียบๆ เคียงๆ ขอทำหนุมาน จะมาแจกมั่ง พี่เขา ก็ได้รับคำตอบว่าได้ ไปทำมาเลย เดี๋ยวพาไปพบท่านแบบถึงตัว ผมก็ไปขออาจารย์ ก่อ หล่อ หนุมานมา ๖๐๐ ตน ( มีเศษหน่อยตามนิสัยช่าง ) ด้วย ทองเหลืองและชนวนหลายชนิดของอาจารย์ก่อ อุุดผงแรงๆหลายชนิดมาก สายพระครูมานิตย์ อาจารย์ก่อ ทำมาให้อย่างดีเรียกว่าทำแบตเตอรี่ วางแผ่นธาตุมาดี เติมน้ำกลั่นมาแล้ว ผงดีๆเพียบ รอไปขอหลวงปู่เกลี้ยง เมมตา มาชาร์จไฟหนุมาน ให้เต็มเท่านั้นครับ

พอทำเสร็จ หลวงปู่เกลี้ยงท่านเกิดป่วยครับ ตอนนั้นท่านอายุ ๙๗ ปีแล้ว ครับ ท่านป่วยแบบคนแก่ เข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลอยู่เป็นระยะๆ ผมเลยไม่ได้เอาหนุมานไปเสก เนื่องจาก ท่านผู้ติดต่อบอกรอไว้ก่อน รอให้ท่านหายดี กลับวัด ว่ากันแบบนั้น

ขณะที่รอ ผมเลยนำไปถวาย
๑) หลวงปู่ เล็ก เสกให้เป็นปฐมฤกษ์ เอาใส่ลังลูกปืนไปได้พอดี เอารูปหนุมานแปะไว้หน้าลัง เอาถวายให้ท่านดู ( ท่านเพิ่งเสก หนุมานให้วัดนางในมา ) กราบเรียนท่านว่า ผมจะทำหนุมานมา ขอหลวงปู่เมตตาเสกให้ด้วยครับ ท่านพยักหน้า เอานิ้วเพชร มาจิ้มที่ลังวนๆอยู่สักพักบอกว่า พยักหน้าว่าใช้ได้ ....ถามผมจริงๆ แค่นี้ใช้ได้แล้วน่ะครับ แรงด้วย แต่ในตอนนั้นอธิษฐานบอกครูบาอาจารย์ และ หลวงปู่ ในด้านโภคทรัพย์ ผมแก่แล้ว หนุมานบู๊ ๆ เนื้อหนังถึงทนไหว แต่กระดูกมันแก่ๆ ก็จะไม่ค่อยไหวน่ะครับ เอาแคล้วคลาดโภคทรัพย์ ทำมาหากินจะเหมาะกับยุคสมัยกว่า

จากนั้นรอหลวงปู่เกลี้ยงด้านสุขภาพให้เหตุการณ์นิ่ง ขณะที่รอหลายเดือน ผมนำไปขอความเมตตา จาก

๒) พ่อท่าน ผอม ถาวโร สองครั้งบอกท่านและเอาลังลูกปืนและ รูปให้ดูเลยว่าทำหนุมาน ขอหลวงปุู่ ใส่ รูป ใส่นามให้ด้วย ท่าน เสกให้ครั้งแรก ตอนกำลังจะไปงาน พุุทธาภิเศก ให้วัดบางขุนพรหม ครั้งนี้ท่านเสกให้นานมากทีเดียว ครั้งที่สองที่สำนัก ที่ศรีราชาในขณะที่รอหลวงปู่เกลี้ยงอยู่

๓) หลวงพ่ออนันต์ เนื่องจากพาเพื่อนสิงคโปร์ ไปกราบท่านไปบูชา พญาวานร เอาตะกรุดสายคาดเอว กระดูกงูที่เขาได้มาจากเพื่อนอีกคน ไปรับกับมือหลวงพ่ออนันต์ ก่อนกลับ เลยเอาลัง หนุมาน ไปขอท่านเมตตา ท่านเมตตา และ ยินดีทำให้ เสกให้อยู่นานจนเกรงใจท่านเลยน่ะครับ ครูด้านพญาลิงท่านแรงน่ะครับ พวก คนจีน สิงคโปร์ คนต่างชาติ จะขึ้นท่านมากจริงๆ ขนาดสร้าง ศาลาพญาลิงไว้ ใหญ่โตได้ จากที่ฟังมา ประมาณว่า พญาลิงและท่านมี ความสัมพันธ์ในอดีตชาติกันมา หลวงพ่อท่านมีบารมีจะสร้างอะไร ทำอะไร ให้บอกท่านพญาลิง ท่านพญาลิงจะมาช่วย

พอได้โอกาสเปิด หลวงปู่เกลี้ยงท่าน สบายดีแล้ว กลับมาพักที่วัด พี่เขารีบโทรมาบอก นัดกัน พาเข้าไปพบหลวงปู่ ท่านนั่งพักผ่อนอยู่บน โซฟา กำลังสบายๆ ตอนขอเสกหนุมาน ผู้ที่นำไป บอกหลวงปู่ที่ข้างหู ดังๆ ว่า เอาแบบสั่งการเลยน่ะครับ ( หมายความว่าเสกแบบ ตัวหัวหน้า ) ผมจำสีหน้าหลวงปู่ท่านได้ดี พอท่านได้ยินแบบ เอาระดับ สั่งการได้ ท่านยิ้มแก้มแทบฉีก แบบ ขำๆ เอียงศรีษะท่านไปหาหลานศิษย์ คนนี้ ด้วยความเอ็นดู และ ผมมั่นใจว่า ครูท่านแรงด้านนี้เลยครับ ท่านเสกให้แบบตั้งใจมาก น่าจะแบบระดับหัวหน้าตามที่ขอ เพื่อมอบศิษย์รักแบบลูกหลานของท่าน เรียกว่าโหนเส้นเข้าไปวงในได้ครับ เจตนาและด้วยความเมตตา จะให้ เอาไปใช้กัน

ผมแบ่งไปแจกไปสามร้อยตน ให้พวกท่านๆที่ ชลบุรี ๑ ถุง ๑๐๐ ตัว พวกในกรมพลังงาน ฯ และ ราชการ ๑ ถุง ๑๐๐ ตน และ แถวๆ ตลิ่งชัน ๑ ถุง ๑๐๐ ตัว ถ้าจำไม่ผิด แจกกันออกไปฟรีๆครับ

ได้เวลา จะเอาประมูลมั้ง แถมมั่ง แจกมั่งครับ ขายมั่ง ตามอุุดมการณ์บ้านเหรียญบินฯ ครับ ของมีไม่มาก เสกมาอย่างดี ร่วม ครึ่งปี ลองเอาไปใช้ดูน่ะครับ
๓) ผมเอาไปเข้าพิธีไหว้ครู มีบายศรี ดอกไม้ เครื่องเซ่น ผลไม้ กล้วย อ้อย คาว หวาน สุรา ครบตามโบราณพิธี ของท่านพระครูมานิตย์ หลายครั้ง แต่ลืมจดไว้ว่ากี่ครั้ง ตั้งแต่ปี ๒๕๕๗ มาน่ะครับ น่าจะร่วมๆ สามปี หลายครั้ง ใส่กระเป๋าไปใบเก่งและ รูปครูผม ถือโอกาสไหว้ครูผมเอง บอกกล่าว ขออนุญาต ครูหนุมาน ครูพญาลิง และ พระครูฤาษี พระอุปัชฌาย์ อาจารย์ เทพ เทวดาประจำตัวทุกท่าน ไปพร้อมๆกัน ให้ถูกฤกษ์ ถูกยาม ไม่มาสร้างของเฉยๆ และแค่เอาไปวางเสกเอาน่ะครับ

บันทึกไว้เป็น ของนอกวัด ของหลวงปู่เล็ก หลวงปู่ผอม หลวงพ่ออนันต์ พระครูมานิตย์ อีกรุ่นหนึ่งเหมือนกันน่ะครับ แต่บนฐานหนุมานเขียนไว้เลย วัดเนินสุทธาวาส ๒๕๕๗ ครับ

ป.ล. จำนวนที่เหลืออยู่ที่ผม นำใส่ลังไปขอ หลวงพ่อใจ ประมาร ๑ พรรษา และ หลวงปู่ครูบาแก้วเมตตาด้วยน่ะครับ ตอนเสกเหรียญ แต่เลือนๆว่าตอนรุ่น ๒ หรือ รุ่นสอง ตอกโค็ด นะ ไว้ที่ฐาน กันมีมาเสริม
.......................................................

 

รายการที่ ๗ กุมารทรัพย์สมบูรณ์เนื้อเงิน เบอร์ ๓๐

เดี๋ยวดึงประวัติมาให้ชมครับ รายการนี้ใครได้ไป มีโชคก็เลี่ยมทองขึ้นคอได้ครับ หายากจริงๆ เป็นกุมารทอง รุ่นรแก และรุ่นเดียวที่ หลวงปู่เมตตาเสกให้แบบเป็นทางการ นอกนั้นท่านเสกให้พวกพยาบาลวิชัยยุทธหลายคนน่ะครับ แต่จะเป็นของส่วนตัว พวกพยาบาลที่ทราบในบารมีหลวงปู่เล็ก จะแอบไปขอบารมีกันครับ

กุมาร ทรัพย์สมบูรณ์ รุ่นแรก ปี ๒๕๕๘ หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ
มีแค่ ๑๑๕๙ ตน ไม่มีงอก ตอกโค็ด ทุกตน แจกจ่ายไปตามสายใครสายมัน ไม่มีจำหน่าย ไม่มีขายจากต้นทาง ( ส่วนใครเอาไปขายต่อ คนไม่ตามไปห้าม เพราะไม่รู้จัก )
นอกจากตนแรกที่แกะจากไม้ละมุด หลวงพ่ออั้บท่านลงไว้ให้เอามาถอดเท อีก ๑๑๕๙ ตนครับ
กุมารโชค ทรัพย์สมบูรณ์ ปี ๒๕๕๘

Gumarntong Choke Tsupsomboon

มีกุมารตนหนึ่งที่หลวงพ่ออั้บ ลงให้ผม ช่างแกะได้สวยงามมาก สรีระ สวยงามหน้าตาจิ้มลิ้ม กระจุ๋มกระจิ๋ม เป็นไม้เนื้อแข็ง คนบอกไม้ละมุด ผมเองก็ไม่แน่ใจเรื่องไม้น่ะครับ แต่เป็นไม้เนื้อแข็ง เป็นไม้แก่น
ความสวย หล่อ เท่ห์ ของกุมารโชคฯ นี้ขั้นเทพ จนไปเข้าตาช่างสิบหมู่ที่จะ หล่อพระกริ่ง พระชัย รูปหล่อโบราณ หลวงปู่เล็ก วัดทำนบเข้า จึงไปขออนุญาต หลวงปู่เล็กกัน ขอหล่อมา ๑๐๐๐ ตน เอาไปแจกกันเอง แบ่งกันใช้ ในหมู่ลูกศิษย์ ผู้ที่นับถือ หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ
ช่างขอเอาไปถอดพิมพ์ ผมทีแรกก็ลังเล เสียดายรอยจาร กลัว หมึกสีทอง จะจาง แต่ ตัดใจ หลังถอดพิมพ์มา สีทอง ที่ลงจะจางลง แต่พอเห็นเค้า ข้างหลังกุมารโชคฯ เนื้อไม้ จะเห็นรอยหมึกจางๆ แต่ตนนี้เป็นของประจำตัวครับ ไม่แลก ไม่แจก ไม่ขาย ไม่ประมูลแน่นอน เขาทำมาหากินดีครับ เลี้ยงก็ง่าย เรียกมากินด้วยกัน ตามตำหรับ ผู้เฒ่าวัดท้องไทร กุมาร พี่โชคฯ นี้ ใช้ให้ตามทวงหนี้ก็ได้ซ่ะด้วยน่ะเออ.... แต่บางรายอาจจะนานหน่อย ตามเวร ตามกรรม
หล่อเสร็จด้วยโลหะ ท่านพระครูมานิตย์ วัดเงินเป็นเจ้าพิธี ฝ่ายสงฆ์ เนื้อมีสามเนื้อ คือ เงิน, สัมฤทธ์ และ ทองแดงใส่ชนวน และ ถอดแบบมาจากตนของผมที่ชื่อโชคทรัพย์สมบูรณ์เนื้อไม้
ทรัพย์สมบูรณ์ ตัวจ่าฝูงตัวแรกเลยน่ะ พระอาจารย์แม้น ลูกศิษย์ หลวงพ่อท่านเมตตาทำให้ ช่างเดียวกันแกะให้ เป็นขนาดบูชา เอาไปจะไปคุยกันวันหน้า ว่าทรัพย์สมบูรณ์ของผมน่ะ รุ่นแรกๆ ของวัดหน้าต่างฯทีเดียว หากินเก่ง เลี้ยงง่าย ไม่งอแง แต่คงอีกนานกว่า เรื่องลายมือ หลวงพ่ออั้บจะลงหมด ใครอยากอ่านรอไปก่อนน่ะจ้ะ
พอได้ที่หล่อเสร็จ ผมเอาไปขอหลวงพ่อแม้น อธิษฐานจิตก่อน และ เอาไปเข้าพิธีเดียวกับที่ อธิษฐานจิตรูปหล่อโบราณหลวงปู่เล็ก เนื้อนวโลหะ หรือ สัมฤทธิ์ ๙ นิ้ว รุ่นแรก ปี ๒๕๕๘
ในพิธีนั้นมีหล่อหลายอย่าง
หลัง อธิษฐานจิตเสร็จกราบเรียน ถามหลวงปู่เล็กท่านว่าจะตั้งชื่ออะไร เผื่อท่านจะเปลี่ยนชื่อ ท่านหลับตาสักแป็ป แล้ว ท่านบอกว่าเขามีชื่อแล้ว ตอนนั้นยังไม่ได้กราบเรียนถามท่าน เรื่องทรัพสมบูรณ์ นึกว่าท่านตั้ง ให้ใหม่ คำว่าทรัพย์สมบูรณ์ที่ฐานเป็นคำอวยพรก็แล้วกัน
ตกลงชื่อทรัพย์สมบูรณ์ เป็นชื่อ อมตะ รวย รวย รวย
หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ เป็นพระทองคำ แห่งวิเศษชัยชาญ
หลวงปู่ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่โต๊ะ และเรียนวิชาแปลกๆ มาจากพระคณาจารย์ ยุคเก่าๆ ทั้งอ่างทอง เป็นต้นว่า วิชานิ้วเพชร ฯลฯ ท่านบอกผมเองว่า พวกวิชานี้ท่านเรียนมาหมด แต่ไม่ทำให้ใคร เดี๋ยวคนมาใช้ท่าน ทำโน่นทำนี่ วันๆไม่ต้องทำอะไร ( ที่จริงท่านใช้สรรพนามแรงกว่านั้่น ผมไม่สามารถ แปรให้สุภาพสตรีอ่านได้ ) ซึ่งไม่มีใครไปกวนจริงๆ เพราะท่านดุมาก ขนาด คน หมา แมวเดินผ่านวัด ผ่านกุฏิท่าน ที่ท่านจำวัดอยู่ ท่านยังต้องเดินเงียบๆ หายใจเบาๆ เพราะเกิดทำเสียงดัง ท่านได้ยิน หมั่นใส้เข้า จะซวยได้ครับ จะโดนด่า แล้วพอท่านด่าเอา ท่านด่าได้ย้อนไปได้ถึงบรรพบุรุษ ได้หลายรุ่น ถึง พ่อ ถึงปู่ ถึงตา เพราะเป็นลูกศิษย์ท่านทั้งบาง บวชมาให้หมด
กลัวกันทุกคน ทั้ง วิเศษฯ อ่างทอง เป็นที่เคารพ นับถือทั้งพระ ทั้งฆราวาส ทั้งอำเภอ ทั้งจังหวัด ตอนนี้เป็นพระอาวุโสสูงสุดของอ่างทองครับ ทั้งวัยวุฒิ ทั้งพรรรษา ทั้ง พระเวทย์ วิทยาการ พระคัมภีร์ เป็นตู้พระไตรปิฎก เคลื่อนที่ แม้อายุจะใกล้ร้อยปีแล้ว แต่สติ สัมปชัญญะครบถ้วน ไม่หลงเลือน เป็นพระห้าแผ่นดินของจริงๆ โดยท่านชาตะ ใน พ.ศ. ๒๔๖๒
ท่านอ่านมาจะงง เพราะมีพระตั้งสาม องค์
หลวงพ่ออั้บ ลูกศิษย์ หลวงพ่อน้อย หลวงพ่อจง
พระอาจารย์แม้น ลูกศิษย์หลวงพ่อจง
หลวงปู่เล็ก ลูกศิษย์หลวงปู่โต๊ะ
แต่กุมาร นี้เล่นเป็นกุมารทอง รุ่นแรก หลวงปู่เล็ก วัดทำนบครับ หล่อในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ หลังจากหลวงพ่ออั้บล่ะสังขารหลายปี ขออนุญาตแบบถูกต้อง ไม่ต้องอ้างหลวงพ่ออื่น เนื้อเงินคนที่ได้ไป จองตอนหล่อ อุบเเน่น ไม่มีออก เนื้อนวหรือสัมฤทธิ์ ก็เก็บกันเงียบ เนื้อทองแดง เห็นโชว์กันประปราย ไม่เห็นมีใครออกตัวครับ เพราะของเขาใช้ดีมาก เห็นชื่อก็บอกแล้ว ว่า ทรัพย์สมบูรณ์ ศักดิ์ศรีเป็นกุมารทองรุ่นแรก ของ พระเดชพระคุณ หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ เนื้อหาก็สุดยอด
เอามาเล่า เพราะจะถ่ายรูป โชคทรัพย์สมบูรณ์เนื้อไม้ โชว์ แต่ มีประวัติศาสตร์เกี่ยวพันต่อเนื่องกันมาด้วย เลยเล่าซ่ะทีเดียว ลงที่นี่ซ่ะทีเดียว
หมดเรื่องลายมือหลวงพ่ออั้บ จะเล่าเรื่องหลวงปู่ เล็กให้ฟังในบางเรื่องครับ แต่คงรออีกนานน่ะครับ
ที่โชว์มีสี่แบบ คือ เนื้อเงิน, เนื้อสัมฤทธิ์, เนื้อสัมฤทธิ์ไม่ตัดเดือย ไม่ตัดสายชนวน ไม่ขัดผิว และ เนื้อทองแดงผสมชนวนขัดผิวครับ
เนื้อเงินสร้าง ๓๐ ตน ตอกเลขที่ฐาน และ โค็ด ที่ท้อง จะดูโค็ต ตนนี้ต้องแก้ผ้าดูล่ะครับ
ผ้านุ่งเป็นผ้าขาวที่ ใช้คลุมวัตถุมงคล หลายรุ่นเช่น เหรียญ เจริญสุข ( เล็บจิก ) ใช้ผ้าขาวพับนี้คลุมมาตอนปลุกเสก ตอนหลังขอท่านมา ทำเสื้อยันต์และ ผ้ายันต์ แจกกันฟรีๆ ( ใครสนใจ ไปขอตามสายของท่านน่ะครับ ) ส่วนเศษผ้า มาทำ ผ้านุ่งของทรัพย์สมบูรณ์เขา ไม่ใช่ผ้าธรรมดาน่ะครับ
จำนวนสร้างสรุปไว้ตรงนี้
เงิน ๓๐ ตน
นวะ มีเดือย ๑๕๙ ตน ไม่ขัดผิว
นวะ ๒๐๐ ตน ไม่ขัดผิว
สำริด ( ทองแดงผสมชนวน ) ๘๐๐ ตน ขัดผิว
ประสบการณ์เขาเพียบน่ะครับ จะต้องดึงเอามาต่อท้ายนี้แหละครับ
.............................











พิธีที่หลวงปู่เล็ก เสกรูปหล่อ ๙ นิ้วรุ่นแรก มีกุมารทองตัวจ่าฝูง ตัวประธานตั้งอยู่ด้วยและกุมารบริวารอยู่ถุง อยู่ในวงสายสิญญ์ด้วย หลังเสก จึงไปขอท่านตั้งชื่อให้ ท่านกำหนดดูแล้ว ท่านบอกเขามีชื่ออยู่แล้ว

พิธีที่หลวงปู่เล็ก เสกรูปหล่อ ๙ นิ้วรุ่นแรก มีกุมารทองตัวจ่าฝูง ตัวประธานตั้งอยู่ด้วยและกุมารบริวารอยู่ถุง อยู่ในวงสายสิญญ์ด้วย หลังเสก จึงไปขอท่านตั้งชื่อให้ ท่านกำหนดดูแล้ว ท่านบอกเขามีชื่ออยู่แล้ว

เป็นกุมารทอง รุ่นแรก และรุ่นเดียวที่ หลวงปู่เมตตาเสกให้แบบเป็นทางการ ท่านมีบารมี มีวิชาด้านนี้น่ะครับ นอกนั้นท่านเสกให้พวกพยาบาลวิชัยยุทธหลายคนน่ะครับ แต่จะเป็นของส่วนตัวนำมา หรือ แจก รุ่นนี้ไป พวกพยาบาลที่ทราบในบารมีหลวงปู่เล็ก จะแอบไปขอบารมีกันครับ ส่วนใหญ่พวกนี้จะมีกุมารทองไว้คุ้มครอง บางคนมีเป็นห้อง น่าจะหลายร้อยตน

 

2. 500
5. 500

 

รายการที่ ๘ รักยม หลวงพ่อจง ปี ๒๕๐๐

รุ่นนิยมสุด ปี ที่ ๒๕๐๐ หลวงพ่อจงท่านดังสุดขีด ทำของจำหน่ายแทบไม่ทัน ตามที่ผมได้ยินมา เรือสายไหนก็ไปวัดหน้าต่างนอก ไปขอบารมี เสก เป่า ขอหวย ขอของขลัง แบบหลวงพ่อคูณยุคนี้แหละครับ เรือแน่นท่าน้ำ จากท่าน้ำไปถึงวัด ท่าน้ำเป็นที่วัดหน้าต่างนอก แต่อยู่ท้ายวัดติด วัดหน้าต่างในน่ะครับ ตลอดทางมีแผงวัตถุมงคล สนใจแบบไหนก็ซื้อเลย เอาไปถวายหลวงพ่อเป่า พ้วง พ้วงเดียวจริง ๆให้ทั้งกองก็เถอะ จบครับ ไปรบได้เลย
ในบรรดาของขลังชนิดหนึ่งที่ดังที่สุดของท่าน คือ รักยมนี่แหละครับ ตั้งแต่ผมรู้จักมา จัดว่าเป็นรักยมอันดับหนึ่งของสยามประเทศ มีประสบการณ์เพียบ จนแกะไม่ทันแหละครับ มีหลายช่าง ก็แทบไม่ทันความต้องการ ปีนี้ ที่นิยม จะเป็นการแกะแบบ รีบๆ แต่ พุทธคุณน่ะ หลวงพ่อองค์เดิมครับ

ชนิดขวดกลางๆ ( เล็กกว่านี่ก็มี ) ขวดเดิม ขวดจะหนา เดิมทุกอย่างยกเว้นจุก เพราะจุกเก่าแทบจะป่นหมดแล้ว ผมมาเติมน้ำมันจันทร์อย่างดีใหม่ อุดจุกยางอย่างดี เลี่ยมเงินปิดจุก เลเซอร์ชื่อ หลวงพ่อจง กันลืมครับ อยู่ได้อีก ๑๐๐ ปีถ้าขวดไม่แตก ( อันนี้แล้วแต่ กรรมวิธีที่เชื่อน่ะครับ สบายใจแบบไหน เชื่อไปแบบนั้นครับ )
รัก ยม หลวงพ่อจง น่าจะมีหลายยุค ๒๔๙๐ และ ๒๕๐๐ สายตรงเล่น ที่มาตรฐานเล่นกัน แต่น่าจะ ทำกันมาเรื่อยๆ แบบไปขอให้ท่านเสก ไม่ใช่ของมาตรฐาน เอามาขายก็น่าจะมีเยอะ จะดูยาก ต้องเล่นสายของวัดเลย แบบมีเอกลักษณ์ ของเขา
ยุคผมยังเด็กๆ จะมีพวกขายยามาขายของ เจอกันประจำ กลางวันเล่นกล ( กลอับดุล เด็กยุคนี้น่าจะเกิดไม่ทัน และมีแบบ งูเห่าสู้กับพังพอน แต่งูมันคงเหนื่อย หิว ตื่น ไม่ค่อยอยากสู้เท่าไหร่ จะเลื้อยหนีประจำ แค่ตั้งคอเท่านั้น เจ้าพวกขายยาก็ไม่ปล่อยให้ สู้กันจริง เด๊ี๋วจะตายไปซ่ะก่อน ไม่มีกลงู พังพอนขายต่อ ) กลางวันขายยา กลางคืนฉายหนังก็มี ขายยา ขายของไปด้วย
พวกนี้นอกจากขายยา ขายของแล้ว บางคณะ มีรักยมกุมารทอง หลวงพ่อจงขายด้วย ขวดล่ะ สิบบาท ( แพงน่ะ ) กุมารทองผมลืม เพราะไม่ได้สนใจ เด็กๆ ผมอยากได้มาก ไปขอยาย ยายกลัวไม่ยอมซื้อให้ กลัวผีเข้าสิงผม

ที่เล่าเพื่อ ให้ฟังว่ามีคนไปพึ่ง บารมีของหลวงพ่อจงเยอะ มีของไป ขอท่านเมตตา เป่าพรวดให้ เป็นรักยม กุมารทอง ตะกรุด ผ้ายันต์ ทำไปเสร็จ สำเร็จรูป ท่านเป่าพ้วงทีเดียว แต่พระเสกอย่าง เครื่องรางเสกอีกแบบ ท่านบริหารจิตของท่านได้ ท่านทรงญานอยู่ เสมอ ไว้ช่วยคน อะไรที่ท่านเป่าให้แล้ว ไปรบกับ ฝรั่งเศษยุคอินโดจีนได้เลย พวกขายยา จะเอามา ขายคนที่อยู่ไกล ขายได้ซ่ะด้วย ที่ผมเห็นน่ะ ที่วัดสัตหีบ วัดหลวงพ่ออี๋ หลวงพ่อจง คนรุมซื้อเหมือนกันหลายคน เพราะอยากได้ เคยได้ยินแต่ชื่อ ท่านมีชื่อเสียงมาก ใครก็อยากได้ของท่าน

ข้อมูลจากสายตรงที่ซื้อหา สายหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ตรงๆ
ออกจากวัด ขวด ล่ะ ๑ สลึง
เล่นกันสองยุค คือ ๒๔๙๐ และ ๒๕๐๐ ผมจะพูดแต่เฉพาะตัว รักยม
ยุค๒๔๙๐ ฝีมือแกะจะละเอียดกว่า มีมือแกะ ( น่าจะขายด้วย สามท่าน )
๑) ตาเส็ง ฝีมือจะขี้เหร่หน่อย
๓) ตาหวาน ท่านนี้แกะสวย หลักๆจะมี พิมพ์ พนมมือ กำหมัด ท้าวเอว
๓) ตาหมง ท่านนี้จ้างเขาแกะ น่าจะหลายช่าง แล้วเอามาจำหน่าย
ในยุค ปี ๒๔๙๐ จะคล้ายๆกัน ศิลป จะสูงละเอียดกว่า ปี ๒๕๐๐
ยุค ปี ๒๕๐๐ ฝีมือหยาบหน่อย เอามีดเจียรปาดๆ พอเป็นรูป เพราะทำขายไม่ทัน
ยุคนี้ หลวงพ่อจงท่านดังสุดขีด แบบ หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อคูณ วันๆ มีแต่คนรุม วัตถุมงคลทำขายไม่ทัน เลยมีพ่อค้า แม่ขาย วัตถุมงคลเพียบ ต้องบอกเลยว่าทำขาย มีของวัด และ ของเอกชน วางยาวกันมาจาก ท่าน้ำ แม่น้ำ น้อยไป ถึง กุฏิ หลวงพ่อ ยายแม้นของผม พระอาจารย์แม้น และ คนที่ทัน ( ผมก็เกิดทันโตแล้วด้วย แต่ เขาไม่ให้ไปด้วย เพราะยุคนั้นนั่งเรือนาน ไปกลับ เขาคงกลัวตกน้ำตายเพราะซนมาก พูดไม่ค่อยฟัง เลยซวยไปอด )
เล่าให้ฟังว่า มีแผง วางขายยาวตลอด จากท่าน้ำจอดเรือ จาก แม่น้ำน้อยไปริมวัดหน้าต่างใน ยาวไป ยังวัดหน้าต่างนอก สนใจจะซื้ออะไรมีคนทำขาย รักยม กุมารทอง ผ้ายันต์ เสื้อยันต์ ปลาตะเพียน ตะกรุด ใหญ่ เล็ก สาริกา ผ้ายันต์ แหวน เหรียญ เข็มกลัด เยอะไปหมด ( แต่ไม่ค่อยมีมีดหมอ น่าเสียดาย ) ใครสนใจอะไร ต่อรองราคา รับได้ เอาไปกราบหลวงพ่อ ให้ท่านเป่าพ้วงเอาไปตีกับเขาได้สบายมาก

ไม่มีตังค์ ขอลง นะ หน้าทองด้วย ลงแบงค์ ลงธนบัตร เอาแผ่นโลหะ ทำจาก หลอดยาสีฟัน หรือ แผ่น ทอง ไปขอท่านลงให้ เป่าหัว ลงกระหม่อม ( ผมยังได้เห็นเหล็กจารหลวงพ่อจง มีหลายอันใส่ขวดโหลไว้ แบบ ง่ายๆ ที่พระอาจารย์แม้นท่านเก็บไว้ ทำด้วยไม้เหลาๆ เอาตะปูตอกไว้ ตัดหัวตะปูก็มี สวยๆก็มี ) ขอหวยได้ ให้มีคนไปขอ เที่ยงคืนท่านก็ทำให้ มาเป็นร้อยๆ พัน ๆท่านก็ลงให้ ถึงดึกดื่นเที่ยงคืน ถ้าขอ ท่านไม่ปฏิเสธ จ้ะ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ยิ้มแย้ม ตลอด อันนี้หลวงพ่อฤาษีลิงดำเล่าเอง หลายครั้ง
คนที่ไม่ทราบ จะได้ทราบว่า สิ้นหลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ไปหา หลวงพ่อจงบ่อยมาก และ เป็นศิษย์ อีกท่านหนึ่งของหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ท่านสายเดียวกัน
แล้วจะเอาแบบขลังมากๆ จะเอาแบบยิงไม่ออกก็ขอได้ มีคนลองกันมาแล้ว น่ะครับ พวกนักเลงๆเขา แถวนั้นยุคเก่าๆ ดุ ซ่ะด้วย ขนาดตัดหัวตำรวจทิ้งแม่น้ำก็เคยมี กว่าจะเงียบสงบแบบนี้ ทางการเขาปราบไปแล้วหลายรุ่น เพราะคนจริงเยอะ ใจถึง พึ่งได้ ได้อาจารย์ขลังแถวนั้นมีหลายองค์อีกด้วย
........................................................



เปิดประมูลใครได้ไป เองครับ มาจากสายตรง เป็นของหายาก

 

รายการที่ ๙ มีดหลวงปู่พระครูบุญศรี

มีดเล่มนี้ร้อยเสกน่ะครับ เสกมาเพียบ ฝีมือการทำแหมเงิน สวย ละเอียด ชั้นครู เงินมีคุณภาพ ใบมีดแบบตีขึ้นรูปที่ล่ะใบแล้วตะไบด้วยมือ เนื้อไม่สุกด้วยกินเจียรและ กระดาษทราย ฝักเป็นไม้เก่า ช่างที่แกะและประกอบมีดเป็นช่างเก่าดั้งเดิมลูกหม้อของ พยุหคีรี ด้ามบรรจุเกศา ผงอิทเจ ตะกรุด มีครบ มีดลูกหม้อขนานแท้ ทุกกระเบียดนิ้ว

ลายเสมาใบโพธิ์ แข็งสิงห์ ใบไม้ไหว ใบยาว ๒.๕ นิ้ว เป็นแบบมาตราฐานมีดเล็ก เกือบๆ สาริกา พอเปิดกล่องเห็นมีดนี้ประวัติก็ไหลลงมาที่สมอง มีความชัดเจน จำได้ไม่ลืม ที่ผมจำได้ค่อนข้างชัดเจนน่าจะเป็นครั้งแรกที่มีดเล่มนี้เอาลงโชว์ใน อินเตอร์เน็ท
ประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๐ ผมซื้อแยกส่วนกันมา ต่างเวลา ต่างวาระ สะสมไว้ เมื่อเห็นถูกใจ ประวัติมาดี สวยถูกใจ
ใบมีดเป็นของช่างหนึ่งในพยุหะ เป็นช่างแบบเก่า คือ ตีขึ้นรูป ไม่ใช่มีดเจียรแบบช่างยุคใหม่ ตีขึ้นรูปที่ล่ะใบ ตอกสลักลายด้วยสิ่วและฆ้อน สวยงาม มีดเจียรผมเห็นแล้วไม่ชอบ กระโดกกระเดก ตีขึ้นใบสวยงามอ่อนช้อย แบบโบราณๆ
ด้ามที่เขาซ่อมจากมีดเก่า ดูแล้วแต่ไม่ถึงยุค พ่อเดิม รุ่นลูกศิษย์ เดาเอาก็ของหลวงพ่อกัน ผมเลยซื้อมา ที่ทำไมเขาแยก เพราะมีดใชhไป แหลกคาพกก็มี หรือเกิดอุบัติเหตุกระแทกแรงๆ ชำรุด แถวพยุหะ นั้นมีช่างซ่อม พอซ่อมแล้วเขาก็เอาด้ามใหม่ใส่ สวยกว่า แนวๆนั้น ด้ามเก่าเขาเก็บไว้ ผมเห็นสวย มีคววามเก่า ประวัติดี เลยซื้อไว้
ผมเลยไปขอลุงดิษฐ์ พยุหะ ( ล่วงลับไปแล้ว ) ประกอบมีดให้ ลุงดิษฐ์ ไม่ได้ทำมีดนานแล้ว เคยเป็นลูกมือช่างฉิมแต่ไม่ชอบตีเหล็กชอบแกะมากกว่า เลยไม่ไปทางมีด ลุงท่านคัดไม้พยุงดำแก่นๆให้ เพราะสนิทกัน แกะฝักจากไม้พยุงดำ ที่หายาก เป็นตอเก่าที่ลูงแกเก็บไว้ ฝักอันนี้เลยจะใหญ่แข็งแรงหน่อย คนทำไม่ใช่ช่างทำมีด แต่ชอบพอนับถือกัน ฝักเลยดูใหญ่แข็งแรง
ลุงดิษฐ์ ส่งไปให้ ร้านเฮงกี่ทำแฟม ร้านเฮงกี่นี่กับผมมีเรื่องเล่าเยอะ เหมือนกัน จะเฉลยหมดที่ทราบ จะทยอยเล่าบันทึกไว้ไม่่ให้สูญหาย ร้านนี้เป็นร้านเงินทำแหมมีด มาตั้งแต่รุ่นพ่อและ เจ๊ ที่ทันหลวงพ่อเดิม พอเตี่ยตายไป เจ๊ก็รับช่วงต่อมา ที่ผมเห็นมีสองคน เจ๊คนรับงาน อยู่หน้าร้าน ท่านจะเป็นคนหน้าตาย ไม่เชิงไม่รับแขก แต่ หน้าเฉยๆ เหมือนจะหยิ่งๆหน่อย ( แบบคนมีวิชาทำแหม ) ไม่ช่างพูดคุย แต่ ถามตอบตรงไม่มีกั้ก แนะนำต่อได้ด้วย ฝีมือทำแหมเงินละเอียดมาก น่าจะละเอียดที่สุดในยุคนั้น
ยุคนี้ไม่รู้แล้ว เป็นลายโบราณ เงินมีเปอร์เซนต์สูงไม่มีมั่ว เขามีชื่อ บางทีคิวยาว เร่งไมไ่ด้ ต้องใจเย็นๆ เร่งก็ได้เวลาเดิม
มาดู ปลอกมีดและแหม เก็บใส่กล่องไว้ ๒๐ ปี เงินไม่มีหมองดำ เงินเขาดีครับ คุ้มเงิน
การเข้าด้าม ข้างใน ใส่ครั่ง ผสม ผงอิทเจ เกศา หลวงปู่บุญศรี และตะกรุดทองแดงเล็ก ที่ท่านลงไว้ใส่ด้ามมีด ผมเอาไปขอท่านใส่เอาฤกษ์ ( ผมไม่รีบทำวัตถุมงคลอะไร เพราะทำไว้ใช้ เอง ทำแบบไม่รีบ เอาแน่นๆ ) ท่าน เอามาประจุ วิชาปัจจุขาดที่ด้ามมีด เสกมาให้ทีแล้ว จึงเอาไปให้ลุงดิษฐ์เข้าด้าม กับปลอกมีดและแหม
เอามาให้หลวงปู่เสกซ้ำเป็นปีๆ ผมส่องดูไม่เห็นรอยจารชัดๆ เป็นไปได้สองทางคือ ๑) ท่านใช่ปากกาเมจิกสีแดงลง ซึ่งหายไปแล้ว ๒) ท่านใช้เหล็กจารหัวเพชรที่ผมเอาไปถวายเอง เขียน ท่านจะเขียนเบามากเล่นเล็ก เหมือนมีรอยๆ ที่ ปลายใบมีดและด้าม แต่อ่านไม่ออก เพราะเบามาก นานแล้ว ลายจะจางๆไป ผมเองก็ชักเลือนๆ ท่านเคยบอกว่า รอยจารหายไม่เป็นไร ประจุเสกให้แล้ว
เสกมาตั้งก่อน พิธีแพโบสถ์น้ำ เอาใส่ลังเข้าพิธีแพโบสถ์ เอาใส่ลังเหล็กเสกมาเรื่อยจนท่านล่ะสังขาร ตามสำนวนผม น่าจะ ร่วมๆ สองร้อยครั้งขึ้นไป แน่นเอี้ยดจนครั้งสุดท้ายท่านชี้มทีไปลังหลังจากเสกมาร่วม สาม สี่ปี ว่าเยอะแล้ว ไม่ต้องเอามาเสกอีก พอแล้ว จากนั้นไม่นานท่านก็ป่วยและล่ะสังขาร
เล่าสั้นๆ ที่เล่าไปทีแล้ว การเสกของหลวงปู่ ท่านจะเสกครอบของเก่าเป็นวงๆไป ไม่ไล่ของเก่า ยิ่งเสกหลายร้อยครั้ง ยิ่งเป็นดวงครอบกันเป็นชั้นๆมา เป็นร้อยวง แล้วแต่ท่านจะลงตามจิตที่ท่านรู้ว่าใครเหมาะกับอะไร เทวดาไหน โฉลกกัน เป็นญาติในอดีตชาติกันมา
ของที่ท่านเสกท่านจะรู้ด้วยวาระจิตของท่าน ท่านจะเชฺิญตั้งแต่ ต้นทางครูสาย เช่นมีดหมอ ก็เชิญเทพ ฤาษี ครูมีด ครูดาบ ครูเตา นั้นมารับรู้ มาเสกให้ และ อาราธนาเทพ เทวดา มาประจำ มาอารักษ์ ของๆท่านทุกชนิดจะมีเทพ เทวดา ตามสายที่ท่านเชฺิญมาแล้วฝากฝังลูกศิษย์ไว้กับเทวดา คนที่นับถือท่านไว้ ว่าเป็นลูกหลานท่าน ฝากช่วยดูแลด้วย ของหลวงปู่ไปที่ไหน ทางจะเปิด เพราะเทพ เทวดา ท่านถึงกันจะเปิดทางให้ เป็นที่รู้ดีในหมู่ศิษย์ที่มี มโนมยิทธิ หรือตาใน แบบเฮียโก ว่าเทพ เทวดามาเพียบ และ มาอารักษ์ วัตถุมงคลแต่ล่ะชิ้น ด้วยบารมีของพระที่ อริยเจ้า สายเพื่อนกับพระอินทร์ ฝากฝังไว้
........................................

 

รายการที่ 9 ประมูล ๑,๐๐๐ ครับ