ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

เรื่องน้ำนี้มีคนเตือนมาก.ข่าวก็แจ้งทุกๆวันเรื่องน้ำจากภาคเหนือ แต่คนที่อยู่ด้านล่างกับประมาท เลยทำให้ทรัพย์สินเสียหายมาก คน กทม.และจว.รอบ กทม. ควรเก็บทรัพย์สินขึ้นชั้นบน (ชั้นบนควรไม่ต่ำกว่า 3 เมตร) ได้แล้ว รถควรย้ายขึ้นที่สูง น้องตุ้ย อริยะบุญ เตือนแล้ว(ขออภัยที่เอ่ยนาม) ให้อพยพออกมา ถ้าใครจะสู้เตรียมตัวให้พร้อม อย่าลืมมวลน้ำมหาศาลกำลังถูกปล่อยจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนเจ้าพระยา เร็วนี้จะต้องปล่อยจากเขื่อนป่าสักฯ และขุนด่านปราการชล(จะเพิ่มปัญหาให้กทม.ฝั่งตะวันออกอีกมาก) จะหนีหรือจะสู้คิดเอา

 

ธรรมะที่ได้จากน้ำท่วม


​

<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O></O>
สถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้ เป็นอุทกภัยครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งของประเทศไทยในรอบหลายสิบปี ในบางพื้นที่ไม่เคยมีน้ำท่วมมาก่อนเลย แต่มาปีนี้น้ำกับท่วม เขตเศรษฐกิจเช่นในเขตเทศบาล ในเขตเมือง เจ้าหน้าที่พยายามที่จะป้องกันเต็มที่ สร้างพนังกันน้ำปกป้องพื้นที่ แต่ก็ไม่สามารถจะป้องกันได้ เมื่อพนังกั้นน้ำที่ทำไว้เกิดพังขึ้นมา จึงทำให้น้ำท่วมในพื้นที่นั้นอย่างรวดเร็ว ประชาชนที่มั่นใจว่าพนังนั้นคงป้องกันน้ำไว้ได้ ก็ไม่ได้เตรียมตัวป้องกันไว้ เมื่อน้ำจำนวนมากทะลักเข้ามาอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถเก็บข้าวของได้ทัน ข้าวของจำนวนมากต้องเสียหายไปกับน้ำ

<O>สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ จึงเห็นภาพข่าวที่ชาวบ้านออกมาร้องห่มร้องไห้ และทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่องเปิดพนังปิดพนัง นับเป็นภาพที่ทั้งน่าสงสารทั้งหน้าสมเพชเวทนา
<O></O>
อีกกรณีหนึ่งคือความห่วงสมบัติ ไม่ยอมที่จะอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย โดยเฉพาะคนแก่ ๆ อายุ 70-80 ปี ไม่ยอมย้ายออกไปจากบ้านทั้ง ๆ ที่น้ำท่วมบ้านจนแทบไม่มีที่จะนั่งที่นอนอยู่แล้ว เหตุผลที่ท่านเหล่านั้นอ้างคือ “ห่วงสมบัติ” ถ้าจะตีความก็คือกลัวจะมีขโมยมาลักข้าวของ ถ้ามองอย่าผิดเผินก็อาจคิดว่าดี ท่านยังอุตสาห์ห่วงสมบัติ อยู่ดูแลสมบัติให้ลูกหลานอพยพออกไปอยู่ข้างนอก ยอมเสียสละตัวเองเพราะเห็นว่าแก่แล้วอยู่ไปอีกไม่นานก็ตาย แต่เอาเข้าจริง ๆ ขโมยมันจะเข้าไปลัก วัยขนาดนั้นจะป้องกันอะไรได้ ขโมยมันเอามือผลักเบา ๆ ก็ตกน้ำตายแล้ว
<O></O>
ด้วยมุมมองของโลก ๆ ดูดีมีเหตุผลที่ประกอบด้วยความเสียสละอย่างน่าสรรเสริญ แต่ในมุมมองของธรรมะแล้วถือว่าผิดหลัก คนที่ยิ่งรู้ว่าตัวเองใกล้ตายแล้ว สิ่งที่ต้องระลึกคือจะตายอย่างไรให้เป็นการตายดี ตายแล้วไปสู่สุขคติ (มนุษย์ เทวดา พรหม) ไม่ใช้ตายแล้วต้องไปอยู่ในทุกขคติ(นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน) ซึ่งคนแก่มีอายุมากแล้วทุกคนก็รู้ตัวว่าอีกไม่นานคงต้องตายจากโลกนี้ไป แต่คนแก่จำนวนมากยังไม่รู้วิธีว่าจะทำอย่างไรให้ตายดี
<O></O>
ในทางพุทธศาสนาได้แสดงสภาวะก่อนตายของคนไว้ 2 ประการ คือ
<O></O>
1.กรรมนิมิตอารมณ์ คือการระลึกถึงกรรมที่ตนได้กระทำไว้ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นกรรมดี (กุศลกรรม) กรรมชั่ว (อกุศลกรรม) เมื่อใกล้ตายคน ๆ นั้นถ้าระลึกถึงกุศลกรรมที่ตนเองไว้ เช่น ได้ตักบาตร ได้ทำบุญทอดกฐิน ให้ทานแก่ผู้ยากไร้ บริจาคในการกุศลต่าง ๆ เช่นได้บริจาคเงินสร้างโรงพยาบาล โรงเรียน ฯลฯ ได้รักษาศีลหรือเจริญสมาธิภาวนา ก็จะไปเกิดในสุขคติ ถ้าระลึกถึงอกุศลกรรม เช่น ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ปล้นจี้หรือทุจริตคอรัปชั่น ผิดเมียผิดผัวชาวบ้าน ดื่มเหล้า เสพยาเสพติด ก็จะไปเกิดในทุกขคติ
<O></O>
แต่โดยสภาวะจิตก่อนตายนั้นไม่สามารถบังคับให้ระลึกถึงอะไรได้ ถ้าเป็นความดีก็จะต้องทำสิ่งเหล่านั้นเป็นประจำจนเป็นนิสัยก่อนตายจึงจะนึกได้ ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ส่วนกรรมชั่วนั้นแม้ทำแค่นิดเดียวก็มักจะระลึกถึงก่อนเสมอไม่ว่าจะทำความดีมาแค่ไหนก็ตาม เช่น นางมัลลิกาผู้ถวายอสทิสทานเป็นต้น
<O></O>
2.คตินิมิตอารมณ์ คือนิมิตที่เกิดขึ้นในใจขณะจิตจะดับ คตินิมิตอารมณ์นี้คือผู้ตายนั้นจะมองเห็น เป็นเครื่องหมายแสดงถึงที่ ๆ ตนจะไปเกิด อารมณ์ที่เป็นฝ่ายกุศลเช่นเห็นวิมาน เห็นปราสาทราชวัง เห็นนางเทพอัปสร วัดวาอาราม หรือพระภิกษุสามเณรหรือเห็นครรภ์มารดา ก็เป็นที่รู้ว่าตนนั้นจะไปเกิดในสุขคติ ถ้าเห็นเหว เห็นถ้ำ เห็นเปลวไฟ เห็นปล่องที่น่ากลัว เห็นหมา เห็นแมว เห็นแร้งกาจะเข้ามาทำร้ายตน ก็จะไปเกิดในทุขคติ
<O></O>
ด้วยเหตุนี้เมื่อคนแก่ที่อายุมากแล้วอีกไม่นานก็ต้องจากโลกนี้ไป เมื่อยังห่วงทรัพย์สมบัติ ห่วงลูกห่วงหลาน ด้วยอารมณ์เหล่านี้เมื่อถึงมีอันต้องตายจากโลกนี้ไป ก็จะทำให้อารมณ์ก่อนตายนั้นถูกชักจูงด้วยสภาวะจิตนั้น อารมณ์ที่เป็น “ห่วง” จัดเป็นอกุศลกรรมจะนำให้ผู้นั้นไปเกิดในทุกขคติ ซึ่งเป็นที่ไม่พึงปรารถนาของทุก ๆ คน
<O></O>
จึงขอฝากความปรารถนาดี นำธรรมะมาเป็นข้อเตือนใจในช่วงน้ำท่วมใหญ่ซึ่งทำให้มีคนตายกว่า 200 ศพ เพื่อเป็นมรณสติแก่ทุก ๆ ท่าน
<O></O>
ขอเจริญพร

<O>Posted by Ananda ,วันเสาร์ ที่ 8 ตุลาคม 2554 เวลา 17:45:39 น.</O>
<O></O>
<O>ที่มา http://www.oknation.net/blog/plang/2011/10/08/entry-1</O>
</O>

 

อย่าเพิกเฉยกับคำเตือน ​

​

​

​

เมื่อเช้าได้ดูเรื่องเล่าเช้านี้ คุณสรยุทธ์พูดตรงใจเราเลยค่ะ เราคิดอยู่ตั้งนานแล้วว่า ทำไมคนในหมู่บ้านที่เค้าประกาศเตือนฉุกเฉิน ไม่ย้ายออกมาที่ศูนย์ช่วยเหลือที่ทางการจัดไว้ให้...

เหตุผลคือ กลัวขโมย.......แต่ถึงขนาดบางบ้านอยู่จนต้องไปอยู่บนหลังคาเนี่ย..ฝากไปถึงทางการเจ้าหน้าี่ที่ค่ะ ให้ความสำคัญกับการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอดส่องดูแลโจรขโมยให้เป็นรูปธรรม ให้ชาวบ้านเค้าเห็นค่ะ เค้าจะได้กล้าย้ายออกมา

เคยดูข่าวต่างประเทศค่ะ เวลาเค้าประกาศเตือนภัย ชาวบ้านเค้าจะให้ความสำคัญมาก มีการแพ็คของ ย้ายของ ย้ายรถต่างๆนา รวมทั้งอพยพผู้คน ชาวบ้านเค้าก็ให้ความร่วมมือ ยอมย้ายออก ทำให้ชีวิตทรัพย์สินเสียหายไม่มากนัก แต่จากที่ีดูข่าวของไทยเรา เจ้าหน้าที่เค้าประกาศเตือนตั้งแต่ตี 3 หัวรุ่ง แต่ชาวบ้านก็นิ่งนอนใจ คิดว่าคงไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ปล่อยเวลาล่วงเลย จนน้ำมาเร็วตอนเย็น เร็วมากจนเอาของออกมาไม่ทัน....

ไม่ได้อยากจะซ้ำเติมหรอกนะคะ แต่อยากให้เป็นอุทธาหรณ์ค่ะ คนที่อยู่ในจุดเสี่ยงภัย อาจจะยังเป็นแค่สีเหลืองอยู่ รีบขนของ แพ็คของเถอะคะ แล้วเตรียมตัวย้ายไปที่ศูนย์ช่วยเหลือ ที่ที่เค้ามีเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือเต็มที่ อาหาร ที่นอน หยูกยา พร้อมสรรพ ส่วนบ้านก็ล็อคให้ดี ทีวี ตู้เย็น ปล่อยไว้เถอะคะ เอาทอง เงิน สมุดธนาคาร เอกสารหลักฐานสำคัญก็พอเถอะคะ.........

เห็นจากข่าวแล้วสงสารชาวบ้านและเจ้าหน้าทีี่ค่ะ ถ้าคุณยังยืนยันที่จะอยู่บ้าน แล้วเกิดเหตุน้ำท่วมหนักขึ้นมาจริงๆ การช่วยเหลืออาจจะไม่ถึงคุณ หรือช้าไปบ้าง การทำงานของเจ้าหน้าที่็ก็จะลำบาก คิดดูเถอะ บ้านเป็นหมื่นๆหลัง พื้นที่ก็กว้าง การช่วยเหลือก็ตั้องลำบาก แต่ถ้าคุณมาอยู่ศูนย์ช่วยเหลือ กำลังเจ้าหน้าที่จะได้มุ่งมั่นไปที่การสร้างคันกั้นน้ำ ตรวจตราโจรขโมย เป็นหลัก.....

ขอเถอะค่ะ อย่าเพิกเฉยกับคำเตือน

จากคุณ alone_boo 8 ต.ค. 54 เวลา 11:30 น.

ที่มา http://pantip.com/cafe/news/topic/NE11170182/NE11170182.html<!--MsgIP=0--><!--MsgFile=0-->

 

ระวังจะติดร่างแหไปด้วย...​

<TABLE class=tborder id=post5221076 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->newwave1959<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5221076", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Dec 2010
ข้อความ: 95
พลังการให้คะแนน: 39



</TD><TD class=alt1 id=td_post_5221076 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->ขออนุโมทนา สาธุ กับคุณ อริยะบุญ และ น้องตุ้ย ด้วยครับ

....ผมได้ติดตามอ่านเรื่องราว ของคุณอริยะบุญ และน้องตุ้ย มาพอสมควร ก็ขอเอาใจช่วยและเป็นกำลังใจให้ในการสร้างมหากุศลในครั้งนี้ ขอให้อย่าหวั่นไหวกับคำวิจารณ์ที่ไม่ดีของบางคนนะครับ สู้ สู้

...ผมเองใช้วิชชาธรรมกาย เดินวิชชา18 กาย ขึ้นเฝ้าพระเบื้องบน พร้อมกับวิชชามโนมยิทธิ
ก็ทราบว่าตอนนี้ท่านที่มีญานหรือที่มีวิชาไม่ว่าสายไหน จำนวนมากมายได้ร่วมกันอธิษฐานจิตร่วมช่วยเหลือประเทศชาติบ้านเมือง ให้รอดพ้นจากภัยพิบัติในครั้งนี้กันอย่างเต็มที่ ก็คาดว่าคงช่วยได้แค่ระดับหนึ่งเท่านั้น

เพราะกรรมที่มีคนไม่ดีมาคิดร้ายต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีมากเหลือเกิน จำเป็นต้องมีการ "ล้างแผ่นดิน" ชำระสิ่งสกปรกชั่วร้ายทั้งหลายให้บรรเทาเบาบางลง และหมดไปในที่สุด แต่ถ้าคนที่คิดชั่วยังไม่สำนึก ก็จะมีมาตรการที่ 2 ตามมาอีก หนักกว่าเก่าถึงชีวิตกันเลยทีเดียว ขอบอก

แต่ขอให้ทุกท่านที่อยู่ในศีลในธรรมครบถ้วน หรือมากบ้างน้อยบ้าง ก็ขอให้ทำใจยอมรับนิดหนึ่งว่า เมื่อมีการชะล้างสิ่งที่ไม่ดีในหมู่คนจำนวนมาก ในเมื่อเราอยู่รวมกันโดยรวมคละกันไป ก็ย่อมจะต้องได้รับผลกระทบกระเทือนบ้างไม่มากก็น้อย ให้ถือว่าเป็นบุญและกรรมของแต่ละท่าน ที่ทำมาไม่เท่ากัน และเป็นการชดใช้กรรมไปบางส่วน ซึ่งพระเบื้องบนท่านจะเป็นผู้คัดกรองเอง ขอให้ทุกท่านสบายใจได้ ดังคำกล่าวที่ว่า.....

.........ธัมโม หะเว รักขะติ ธัมมะจาริง.........
ธรรมนั่นแหละ ย่อมคุ้มครองรักษา ผู้ประพฤติปฏิบัติธรรม เป็นนิจ................สาธุ

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่มา http://palungjit.org/threads/อนาคตังสญาณ-เพื่อการแจ้งเตือนภัยพิบัติในประเทศไทย.288061/page-164

 

เตรียมตัวระทึก น้ำลง...นองเลือด​

​

เตรียมตัวระทึก...ใครที่ทำธุรกิจอยู่ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กไม่ว่าจะเป็นบริษัทหรือโรงงานก็ตาม...เตรียมตัวให้ดี...ใครที่ทำงานกินเงินเดือนอยู่อย่าคิดออกจากงาน นอกจากมีงานใหม่รองรับอยู่...ใครที่คิดจะลาออกจากงาน เพื่อมาลงทุนต้องคิดให้ดีเพราะมันเสี่ยงมาก...ถึง จะเบื่อหรือเครียดกับงานที่ทำอยู่ก็ขอให้ทนทำไปก่อน เพราะพอถึงสิ้นเดือนก็ยังมีเงินค่าเครียดมาให้ใช้...ถ้าออกจากงานท่านจะยิ่งเครียดมากขึ้น... เร็วๆนี้ก็ใกล้จะมีเทศกาลทอดกฐินสามัคคี(สี่เหล่าทัพ)แล้ว?

ผมได้บอกไว้แล้วว่า คนกรุงเทพฯต้องผจญภัย ปรากฎว่าตั้งแต่วันอาทิตย์ผู้คนแห่แหนไปตามห้างซื้ออาหารกักตุนกันจ้าละหวั่น สำหรับผมท่านไม่ต้องเป็นห่วง เพราะผมได้สำรองเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว เชื่อเถอะหลังจากน้ำลดลงแล้วยังมีเรื่องให้ลุ้นให้เสียว ประชาชนยังต้องกักตุนอาหารกันอีกรอบ ไม่เชื่อคอยดู

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ชะตาดวงเมืองในปีนี้แสนสาหัส เจอทั้งน้ำท่วมจนอ่วม ชาวนาชาวไร่และเกษตกรหมดตัวไปตามๆกัน เท่านั้นยังไม่พอเศรษฐกิจปีนี้พังพินาศ เพราะโรงงานหลายแห่งถูกน้ำท่วมเสียหาย โจรผู้ร้ายชุกชุมไปทั่ว คดีจี้ปล้นระบาดทุกแห่งหน

ใครว่าจบ ผมว่าไม่ บ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ ผมก็ยังยืนยันว่า การเมืองยังไม่จบความสงบยังไม่มี คนจะตายเป็นเบือ ใครที่คิดว่าเหตุการณ์เมื่อปี 2553 ใหญ่แล้ว เห็นทีจะต้องคิดใหม่ เฮ้อ น้ำท่วมก็ต้องตุนน้ำตุนอาหาร ถ้าคราวนี้เกิดเหตุการณ์ไม่สงบในบ้านเมืองขึ้น ก็ต้องตุนอาหาร ตุนน้ำ และยังต้องตุนน้ำมันอีกด้วย เอาว่ะไหนๆก็ไหนๆจะทำอะไรก็ทำไป อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด มันจะได้จบๆกันไปเสียที

ด้วยความเคารพ
หมอนิด (กิจจา ทวีกุลกิจ)
10 ต.ค. 2554

ที่มา http://www.mornid.com/

 

ไม่จริง...แง๊ๆๆ

 

ครูบาอาจารย์ (ท่านมีปัญญาดี ตามบทสวดมนต์) แนะนำว่า ควรทำรางแม่น้ำคู่กับเจ้าพระยา วัดขนาดความกว้างและลึก เพื่อคำนวณบริมาณน้ำให้ดี เพื่อรับน้ำลงทะเล ไม่ให้น้ำท่วมที่ลุ่มภาคกลางอีก เพราะเจ้าพระยารับน้ำจากแม่น้ำ 4 สาย
ท่านว่า ถ้าป้องกันไม่ดีน้ำท่วม กทม.หนักมากกว่าปกติแน่นอน
ซึ่งมีแววเพราะ เมื่อเช้าฟังข่าว กทม.มีแต่กระสอบทรายเปล่าๆ แต่ไม่มีทราย

 

แผนที่ละเอียดพื้นที่ปลอดภัย จากตำนานสองลำสามเชียง​

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ลุงคนเชียงใหม่<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5221969", true); </SCRIPT> สมาชิก

เป็นแผนที่ ที่ผมได้รับจากพระคุณลุงหลายปีแล้วครับ เก็บไว้เพื่อวางแผนสำหรับกลุ่มในการเตรียมการมาตลอด ซึ่งตอนนี้ทางกลุ่มหมู่บ้านพุทธบุตรได้เตรียมพร้อม สำหรับเผชิญหน้ากับภัยพิบัติตามที่มีการทำนายไว้ ผมนำมาพล๊อตจุดตาม google map เพื่อให้หลายๆ่ท่าน ได้นำไปเป็นข้อมูลสำหรับนำไปวางแผนสำหรับกำหนด พื้นที่ปลอดภัยในยามเกิดภัยพิบัติ

วงที่ 1 สามจุดที่กำหนดคือ

ด้านบนคือ พระธาตุดอยตุง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย(เชียงที่1)
ฐานด้านซ้ายคือ พระธาตุดอยสุเทพ อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่(เชียงที่2)
ซานด้านขวาคือ พระธาตุลำปางหลวง อำเภอเกาะคาจังหวัดลำปาง ที่จะครอบลำพูนบางส่วนไปด้วย (สองลำ)
ส่วนเชียงที่ 3 นั้นมีข้อขัดแย้งกันระหว่างเชียงตุง กับเชียงทอง(ตอนนี้จมไปแล้วเนื่องจากอยู่ใต้น้ำหน้าเขื่อนภูมิพล)

วงที่สองคือ

บนเป็นพระธาตุหริกุญชัย อำเภอเมืองจังหวัดลำพูน
ฐานด้านซ้ายคือ พระธาตุศรีจอมทอง อำเภอจอมทองจังหวัดลำพูน
ฐานด้านขวาคือ พระธาตุลำปางหลวง อำเภอเกาะคาจังหวัดลำปาง
และเมื่อนำไปประกบกับพื้นที่ ที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้ขีดไว้ให้ในพื้นที่อำเภอลี้
ก็จะเกิดเป็น 4 เหลี่ยมคลุมในพื้นที่ลำพูน ลำปาง เชียงใหม่ และเชียงทองคือตอนใต้ของอำเภอดอยเต่า<!-- google_ad_section_end -->

วงเล็กๆอีกมากมายครับ

ผมจะทะยอยเอามาเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่กำหนดขึ้น แต่อีกวงที่น่าสนใจคือครอบคลุมหมู่บ้านพุทธบุตร และหมู่บ้านของชาวญี่ปุ่น ที่มาเตรียมการก่อนหลายปีแล้วก็คือ พื้นที่จุดบนเป็น พระพุทธบาทสี่รอย ฐานซ้ายเป็นพระธาตุห้วยส้มสุก ฐานขวาเป็น วัดป่าดาราภิรมณ์ ที่มีพระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้วบรรจุอยู่<!-- google_ad_section_end -->

สังเกตุใหมครับว่าพื้นที่ส่วนใหญ่จะถูกมาร์คด้วย เป็นพื้นที่ที่อยู่ระหว่างกลางของพระธาตุต่างๆที่ ถูกวางไว้เป็นจุดๆ ข้อมูลที่ผมได้รับก็คือ

1.ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ แต่จะน้อยกว่าพื้นที่อื่น

2.ปลอดภัยจาก อสูรภูติ สัตว์นรก อมนุษย์ต่างๆ ที่เกิดจากการเคลื่อนของมิติช่วงการเปลี่ยนแปลง

3.ผู้คนในพื้นที่นี้มีเจ้ากรรมนายเวรที่จะมาเบียดเบียน น้อยกว่าพื้นที่อื่นๆ ทำให้ได้รับผลกระทบจากกรรม ที่มาเบียดเบียนในรูปแบบต่างๆน้อยกว่า<!-- google_ad_section_end -->

****************
วิกรม หลานพระคุณลุง
****************

ที่มา http://palungjit.org/threads/แผนที่ละเอียดพื้นที่ปลอดภัย-จากตำนานสองลำสามเชียง.309448/

หมายเหตุ

ผมต้องขออนุญาตคุณวิกรม หลานพระคุณลุง นำแผนที่พี้นที่ปลอดภัยนี้ นำมาโพสต์ไว้ในกระทู้นี้ด้วยนะครับ เพราะมีสมาชิกบางส่วน ทำลิ้งค์มาเฉพาะกระทู้นี้เท่านั้น ไม่ได้เข้ามาอ่านในห้องภัยพิบัติและการเตรียมการโดยตรง จึงอาจทำให้ต้องพลาดข้อมูลสำคัญนี้ไป ผมเห็นว่าเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญมากในอนาคต จึงได้นำมาโพสต์รวมไว้ในกระทู้นี้ด้วย หากสมาชิกท่านใดต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม ก็เข้าไปดูจากลิ้งค์ข้างบนนี้ได้เลยครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

ระดับน้ำเมื่อน้ำล้น...คันกั้นน้ำ...ครับ

การอ่านข้อมูลจากภาพ

เมื่อน้ำล้นคันกั้นน้ำ...ของแม่น้ำเจ้าพระยา (สมมติว่า...คันกั้นน้ำแตก)

- ถนน วงแหวนรอบนอก...ไม่ท่วมเพราะระดับเดียวกับตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา
คือ 2.4 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (รทก.)

- ถนน เพชรเกษม............ท่วม 1.57 เมตร
- ถนน จรัลสนิทวงศ์..........ท่วม 1.13 เมตร
- ถนน อรุนอัมรินทร์.........ท่วม 0.8 เมตร
- ถนน มหาราช................ท่วม 0.9 เมตร
- ถนน ราชดำเนิน.............ท่วม 1.62 เมตร
- ถนน เพชรบุรี................ท่วม 2.34 เมตร
- ริมคลองแสนแสบ..........ท่วม 2.32 เมตร
- ถนน รามคำแหง............ท่วม 2.1 เมตร
- ถนน สุขุสวิท.................ท่วม 2.4 เมตร

 

โอ๊ะ แผ่นดินไหว

 

ดูซิใคร????

 

บริจาคเงินช่วยผู้ประสบอุทกภัยกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ พิมพ์ 10 ส่งมาที่ 91222 ครั้งละ 10 บาท หรือ พิมพ์ 100 บริจาคครั้งละ 100 บาท www.HelpLink.net

 

เรื่อง น้ำๆ ที่คนใหญ่คนโต ต้องเข้าใจ น่าห่วงคนไทยที่ยังมีคนไม่เข้าใจอีกเยอะ ฝากไปแปะไว้เฟสบุคคนดังหน่อย ปีหน้าจะได้เตรียมทันคะ


โดย Bell LoveLife เมื่อ 10 ตุลาคม 2011 เวลา 12:14 น.

โดยเฉพาะสมาชิก ที่มีบ้านเรือนในเขต กทม.และปริมลฑล ทราบ

โดยการวิเคราะห์ และเป็นความเห็นส่วนตัว จากการติดตามมวลน้ำจากภาคเหนือ
มาตลอด 2 วันนี้ ขอยืนยันว่า มีปริมาณมากมหาศาล การที่มวลน้ำจะไหลผ่าน กทม.
และปริมลฑลนั้นเชื่อว่า มีผลประทบแน่นอน แต่มากน้อยอย่างไรนั้นอาจตอบยาก
มีปัจจัยขึ้นอยู่กับ การปล่อยน้ำจากเขื่อนเป็นสำคัญ (เท่าที่ตรวจสอบขณะนี้ ทุกเขื่อน
รับน้ำไว้ เต็ม 100%) ดังนั้นจำเป็นต้องปล่อยน้ำออกมา เพื่อมิให้มีปัญหาถึงขั้นเขื่อน
แตก ซึ่งจะส่งผลน้ำท่วมขนานใหญ่ กับพื้นที่ใต้เขื่อนได้

โดยจะสังเกตได้ว่า รายงานจากทุกพื้นที่ (ในขณะนี้) มีแต่น้ำเพิ่มขึ้นและการที่มวลน้ำ
จะผ่าน กทม.ในแม่น้ำเจ้าพระยาและปริมลฑล โดยให้ไหลออกไปด้านทุ่งรังสิต ออก
สู่ด้านบางปะกง และสมุทรปราการ ถ้าไหลเพียงพอก็จะกระทบต่อ กทม.น้อย คงส่ง
ผลหนักต่อบริเวณที่น้ำผ่านในพื้นที่นั้นๆเป็นหลัก โดยมีข้อมูลว่าผู้รับผิดชอบพยายาม
แก้ปัญหาอย่างเต็มประสิทธิภาพ

สำหรับผู้ที่อยู่อาศัยใกล้ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จะมีปัญหาน้ำล้นตลิ่ง ค่อนข้างแน่นอน
อาจมากกว่าเดิมในขณะนี้ ส่วนพื้นที่ใกล้ลำคลองในเขต กทม. ชั้นในและชั้นกลาง
สามารถสังเกตเห็นได้ว่า ปริมาณน้ำเริ่มเพิ่มขึ้นบ้างแล้ว และอาจท่วมล้นขึ้นขอบทาง
หากฝนตกลงมากอีก (มีแนวโน้มฝนตก) จะเป็นปัญหามากยิ่งขึ้น

ขณะนี้จะไม่มีผู้ใดสามารถ คาดการณ์ชี้ชัดว่า มวลน้ำจะเข้าท่วมที่ใดหรือมีความสูง
ปริมาณน้ำสะสมเท่าใด ชัดเจน คงทราบเพียงแนวโน้ม จากแบบจำลองสถานการณ์
และเฝ้าระวังเท่านั้น

อนึ่งเชื่อว่าอาจมีผู้สงสัยว่า เหตุใด กทม.ชั้นในจึงถูกป้องกันน้ำท่วมไว้อย่างหนาแน่น
ส่วนหนึ่งมักจะอธิบายว่า เป็นพื้นที่เศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทั่วไปเข้าใจง่าย โดย
ข้อเท็จจริง ในต่างจังหวัดเอง มีการป้องกันไว้ตามยุทธศาสตร์น้ำ เริ่มแต่การสร้าง
เขื่อนในพื้นที่ชนบท นั้นหมายความว่า เป็นเหตุผลเพื่อป้องกันน้ำท่วมในชนบท และ
จังหวัดต่างๆโดยตรงด้วยส่วนหนึ่ง

สำหรับพื้นที่ กทม. นั้นถูกปิดล้อมไว้ด้วยทำนบกั้นน้ำตามแนวริมฝั่งเจ้าพระยา และ
ประตูน้ำในระบบคลองต่างๆ เนื่องจากส่วนหนึ่งมีพื้นที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล คล้ายแอ่ง
กระทะหลายๆใบเรียงกัน วิธีดังกล่าว จึงเป็นวิธีป้องกันน้ำท่วม และการขุดอุโมงค์
ยักษ์เปรียบการทำท่อระบายน้ำออกจากแอ่งกะทะ ด้วยการสูบออก โดยไ่ม่ต้องผ่าน
พื้นถนน (ซึ่งในญี่ปุ่นก็ใช้วิธีนี้)

ดังนั้นสมาชิก ที่มีบ้านเรือนในเขต กทม.เท่ากับว่าอยู่ในที่ราบลุ่ม (เช่นเดียวกับเมือง
ใหญ่ทั่วไปมักตั้งเมืองใกล้แม่น้ำเป็นเมืองหลวง เพื่อสะดวกต่อการคมนาคมแต่โบราณ)
จึงต้องเฝ้าระวังเป็นกรณีพิเศษ เหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพราะมีปริมาณมวลน้ำมาก อย่าง
ไม่น่าเชื่อ จากชนวนเหตุของภาวะโลกร้อน ที่สะสมจากฝนตกบนเทือกเขาแล้วไหล
สู่เมืองอย่างต่อเนื่อง โดยอาจใช้เวลาผ่านสู่ปากอ่าวลงทะเล ประมาณ 10 วัน หาก
ฝนไม่ตกซ้ำอีก

ทั้งนี้มีข้อแนะนำ เพื่อรักษาชีวิตและทรัพย์สิน

1) ในเขต กทม.ให้นำสิ่งของสำคัญ และเตรียมที่สำหรับสัตว์เลี้ยง ให้สูงขึ้นจากระดับ
ปกติ อย่างน้อย 1 เมตร (มิได้หมายความว่าน้ำสูง 1 เมตร / กรณีเขตที่เคยปรากฎน้ำ
ท่วม ในระยะ 2-3 ปี นี้ ให้บวกความสูงเดิมด้วย)
2) สำรวจช่องทางน้ำเข้า เช่นประตู ท่อระบายน้ำภายในบ้านที่เชื่อมต่อกับนอกบ้านไว้
ล่วงหน้าและเตรียมอุปกรณ์ หรือสิ่งที่อุดทางน้ำ เช่น กระสอบทราย แผ่นไม้ที่แข็งแรง
เป็นต้น
3) สำรองน้ำดื่มสะอาด ยา และอาหารแห้ง (บางกรณีไฟฟ้าอาจขัดข้อง อาหารในตู้เย็น
อาจเสีย)รวมทั้งไฟฉาย แบตเตอรี่ และให้สำรวจปลั๊กไฟที่อยู่ระดับต่ำ จุดที่น้ำจะเข้า
ถึงไว้ก่อน
4) สำหรับรถยนต์ หากยังหาที่จอดไม่ได้ ให้นึกจุดสะดวกที่จะนำไปจอดไว้ล่วงหน้า
เช่นที่จอดรถอาคารสูง เช่น ห้างสรรพสินค้า (หรืิอจำเป็น อาจต้องจอดบนสะพานใกล้
บ้าน) สำหรับรถที่จมน้ำ เมื่อน้ำแห้งห้ามสตาร์เด็ดขาด ต้องนำไปถ่ายของเหลวทุกชนิด
ออกก่อน และควรปรึกษาช่างที่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์
5) หลีกเหลี่ยงการเดินลุยน้ำ เพราะอาจมีสัตว์ร้าย เช่น งู หรือไฟฟ้ารั่ว หรือเชื้อโรค
ที่มากับน้ำ หากจำเป็นควรสวม ใส่รองเท้ายางชนิดป้องกันน้ำ และไม่ควรปล่อยเด็ก
เล็ก คนชรา ผู้ป่วย ไว้ลำพัง
6) ควรเตรียมเงินสดสำรองไว้ กรณีฉุกเฉิก / เติมน้ำมันรถไว้บ้าง อย่าให้พร่องถัง /
และก๊าซสำหรับหุงต้ม

จากประสบการณ์ ส่วนตัวเคยอยู่ในสถานการณ์ ลักษณะเดียวกันนี้ คือกรณีน้ำท่วม
ใหญ่ในกรุงเทพ (หลายสิบปีก่อน น้ำท่วมนับเดือน) และโดยเฉพาะ กรณีน้ำท่วมที่
อำเภอหาดใหญ่ และน้ำท่วมจันทบุรี (ในครั้งแรกที่เป็นครั้งใหญ่ ทั้ง 2 แห่ง) ได้เห็น
ภาพผู้คน ตั้งตัวไม่ติดขณะน้ำป่าไหลเข้าบ้านเรือนเป็นสิ่งที่น่าตกใจ ว่าเกิดขึ้นในเวลา
ไม่กี่ชั่วโมง น้ำมาเต็มเมืองไปหมด

โปรดอย่ามั่นใจว่าบ้านไม่เคยท่วมแล้วจะไม่ท่วม เพราะครั้นนี้ปริมาณน้ำมีจำนวนมาก
และกำลังเข้าโอบล้อมพื้น กทม.และปริมลฑล ทุกขณะ จากภาพข่าวที่แต่ละเมืองน้ำ
ได้ไหลผ่านลงมา ไม่มีเมืองใดปลอดภัยจากปริมาณน้ำเลย และจำนวนทั้งหมดกำลัง
ไหลรวมผ่าน กทม.และปริมลฑล จึงเป็นสิ่งน่ากังวลใจ

จึงถือโอกาศแจ้งข่าว และเล่าสู่กันฟัง โดยเชื่อว่า สมาชิก NEWS Horizon มีความ
เข้าใจ และไม่ตื่นตระหนก ต่อเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น อย่างน้อยเป็นการอธิบายสิ่งที่
เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ ที่เกิดจากท้องฟ้าอันมาจากฝน และส่งผลกระทบต่อมนุษย์

และขอย้ำอีกครั้งว่า มิใช่คำทำนายว่าน้ำจะท่วม หรือไม่ท่วมที่ใด มากน้อย อย่างไร
แต่ประสงค์ให้ระวังภัยธรรมชาติ ที่เราอาจคาดไม่ถึงจากข้อมูลที่มีอยู่น้อยนิด ต่อสิ่ง
ที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากแบบจำลองสถานการณ์ ของทางการยังอยู่ในระหว่างการดำเนิน
การวิจัย หากไม่รุนแรงเราคงไม่เสียอะไรมาก แต่หากเกิดรุนแรง เราอาจเสียใจว่าทั้งๆ
ทราบแต่ไม่เตรียมการรับมืออะไรเลย

ด้วยความปราถนาดี
ปีเตอร์ สุดธนกิจ
8 ตุลาคม 2554
บรรณาธิการ SunflowerCosmos.org
Peter Sudtanakit
Editorial staff : SunflowerCosmos
ปัจจุบันเป็นสมาชิก :
สมาคมดาราศาสตร์ แคนาดา
The Royal Astronomical Society of Canada (RASC)

สมาคมอวกาศ อเมริกา
American Astronautical Society (AAS)

สมาคมพลังงานแสงอาทิตย์ อเมริกา
American Solar Energy Society (ASES)

องค์กรนักศึกษาเพื่อการสำรวจและพัฒนาด้านอวกาศ
Students for the Exploration and Development of Space (SEDS)

งานค้นคว้าและศึกษาในขณะนี้ (เพื่อการอธิบายทางวิทยาศาสตร์)

-การตั้งถิ่นฐาน สภาพความเป็นอยู่ ของมนุษย์ใน 100 ปี ข้างหน้า
-พลังงานและการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ จากแหล่งอันไกลโพ้นที่มนุษย์ยังไม่เข้าใจ
-ระบบการดำรงชีพ ของสิ่งทรงปัญญา ในจักรวาลอื่นมีจริงหรือไม่

https://www.facebook.com/sunflowercosmos


โลกจะสันติสุขได้อย่างไร ขนาดคนไทยยังไม่รักกัน



ลิงค์ข้อมูลอ่านประกอบเพิ่มเติม


คำเตือน : น้ำจะท่วมกรุงเทพฯ จริงหรือ ?
ลิงค์ Global warming : Bangkok


แบบจำลองสถานการณ์ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก
ลิงค์ Global warming : Climate impact - 01

รายงาน ผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ
ในประเทศไทย
ลิงค์ Effect of clmate change in Thailand
อุทกภัยใหม่ จากการแตกของแผ่นน้ำแข็งขั้วโลก
ลิงค์ Global warming : Ice sheets breakup - 01
ธารน้ำแข็งที่หายไป
ลิงค์ Global warming : Ice loss from glacier - 01

 

สำหรับเพื่อนๆ พี่ๆ ในกรุงเทพมหานคร ขอให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดครับ และหากพอทำได้ ทะยอยย้ายสิ่งของจากชั้นล่างขึ้นสู่ที่สูง

สำรองอาหาร แห้งที่กินง่าย สะดวก พอสำหรับ ประมาณ 1 เดือน

น้ำดื่ม หากเตรียมเครื่องกรองน้ำชนิด ตักเท ได้ หรือ แบบเหยือก ได้จะสะดวกมากขึ้นครับ

อย่าได้ประมาทเด็ดขาดนะครับ ครั้งนี้

มีอีกประเด็นหนึ่ง ซึ่งเคยเตือนมาตลอดคือ อาหารจะเริ่มขาดแคลน หากปลูกไม้กินได้ กินใบกินยอด ไว้ตามระเบียงชั้นบน ดาดฟ้าบ้างก็จะดีไม่น้อยครับ

พื้นที่ ปลูกข้าวเสียหายไป 7.7 ล้านไร่ในประเทศไทย โดยเฉพาะพื้นที่อู่ข้าวอู่น้ำของโลก ย่านเอเชีย ประสบภัยพิบัติหมดพร้อมกันครับ

อาหาร การพึ่งพาตนเอง กระแสพระราชดำรัสในหลวงเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงคือทางรอดของแผ่นดินครับ

 

สำหรับ ขณะนี้ ทางมูลนิธิชัยพัฒนาได้เปิดศูนย์รองรับผู้อพยพ และตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่จ. อยุธยา ร่วมกับคณะสงฆ์ ที่มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย วังน้อย ตาม แนวทาง บ ว ร

เป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรทั่วประเทศ

 

10 ต.ค.54

ผีซ้ำ กรรมซัด น่าอนาถ
ทิ้งขาด ที่อยู่ อาศัย
แอบขโมย ทรัพย์สิน เอาไป
จัญไร ไม่กลัว เวรกรรม

น้ำใจ ไหลริน ไม่ขาด
บริจาค ทรัพย์สิน เรือพาย
ทราบซึ้ง ช่วยเหลือ ขอบใจ
คนไทย ไม่ทิ้ง ช่วยกัน

อังกฤษ อากาศ วิปริต
โอเว่อร์ฮีต กลับกลาย หนาวจัด
อากาศ ผิดปกติ วิปลาส
ธรรมชาติ ทำลาย ทุกสิ่ง

องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

 

<TABLE class=tborder id=post5223957 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>





</TD><TD class=alt1 id=td_post_5223957 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><CENTER><HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>

</CENTER>
<!-- google_ad_section_start -->ที่มา http://buddha-thushaveiheard.com/page_02.html<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ตุ้ยชอบดูมากครับ เลยเอามาฝากทุกๆท่าน

อริยะบุญ สมาชิก

 

Charynat Kay Thicha
ใครที่อยากออกกำลังแรงกายช่วยผู<wbr>้ประสบภัพ ใกล้ที่ไหนก็ออกมาช่วยกันเลยค่ะ
(เริ่ม 10 ต.ค.) ช่วย "ศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยน้ำท่วม<wbr>" ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต (อาคารยิมเนเซียม 2)
(10-14 ต.ค.) ช่วยสภากาชาด แพ็คถุงธารน้ำใจ ถ.อังรีดูนังต์ 9.00-16.00 น.
(11 ต.ค.) ช่วย "ประชาชนอาสา" แพ็คถุงยังชีพ ที่รร.ดุสิตธานี (เริ่ม 13:00น.)
(14 ต.ค.) ช่วย "ประชาชนอาสา" แพ็คถุงยังชีพ ที่รร.ดุสิตธานี (เริ่ม 13:00น.)
(15 ต.ค.) ช่วย แพ็คถุงยังชีพ ที่ โรงแรมไนซ์พาเลซ www.nicepalace.com โทร 02-2700514-8 รายละเอียด
(16 ต.ค.) รับอาสมัคร ลงพื้นที่ช่วยแจกของ กับทหารและ Arbtip Dheeravongkit (ลงชื่อที่นี่ http://ไม่ใช่ลิขวิดครับ/floodS<wbr>ignup)
(ถึง 26 พ.ย.) จุดบริจาค ธ.กรุงไทย สนง.ใหญ่ ฝั่งเพลินจิต ต้องการรับอาสาช่วยแพ๊คของ ติดตามรายละเอียดที่
...by อาสาสมัครฟื้นฟูประเทศไทย

 

10 ต.ค. 54

ช่วงนี้ ย้ายเครื่อง ปั่นไฟ
เตรียมไว้ หุงหา อาหาร
ไฟฟ้า ตัดขาด พิการ
ช่วยดาม เพื่อนใกล้ เรือนเคียง

อีกทั้ง ขายทราย ราคาถูก
ไม่ขูด เลือดไหล ซิบๆ
ประชา มีทุกข์ ไม่คิด
ไม่ติด ทรัพย์สิน เงินทอง

น้ำหลาก ใกล้เขต ดอนเมือง
คนเมือง เริ่มตื่น เตรียมการ
เมืองนนท์ บัวทอง เริ่มอาน
น้ำบาน เข้าท่วม แล้วเอย

องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน