ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ข่าวสั้น (7 มิ.ย.) เกิดเหตุเรือครุซเซอร์พลิกคว่ำ มีผู้โดยสารทั้งเด็กและผู้ใหญ่ 13 คน กลางทะเลสาปบิวะ จ. ชิกะ จนท. ช่วยชีวิตไว้ได้ทั้งหมด แต่มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย นำตัวส่งรพ. แล้ว

    ทุกคนกระโดดหนีลงในทะเลสาปได้ทันเวลา

    1 ในนั้นโทรแจ้งเจ้าหน้าที่

    เจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือไว้ได้ทัน

    #กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น

    びわ湖でクルーザー転覆 子ども含む13人全員救助 2人けが 大津 https://www3.nhk.or.jp/news/html/20200607/k10012461501000.html

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #มาญี่ปุ่น (7 มิ.ย.) #อัพเดต แนวทางระเบียบวิธีการเดินทางเข้าประเทศที่รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณา+ (แถม) แผนสำหรับคนญี่ปุ่นมาไทย ด้านล่าง

    ⚠️ยังเป็นแผนนะคะ รอ Final ประกาศจากรัฐบาลหลังเค้าพูดคุยกันเสร็จอีกที ⚠️

    ตามที่เคยแจ้งข่าวไปนานแล้วว่า 4 ประเทศแรกที่ได้รับการพิจารณาในการผ่อนปรนมาตรการคือ ไทย เวียดนาม ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์

    (1) ความคืบหน้าของการเจรจาพูดคุยกับรมต. ต่างประเทศของแต่ละประเทศของ รมต. กต. ญี่ปุ่น ผ่านทาง Teleconference
    1 มิถุนา เวียดนาม
    4 มิถุนา นิวซีแลนด์
    5 มิถุนา ออสเตรเลีย
    ภายในเดือนนี้ ไทย

    โดยจะพูดคุยถึงข้อกำหนดของทั้งสองประเทศ

    (2) ขั้นตอนที่พิจารณาอยู่ 

    ‍‍กลุ่มเป้าหมาย: ผู้บริหารธุรกิจ นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญ ต่าง ๆ ที่ต้องการเดินทางมาญี่ปุ่น

    (2.1) เอกสารก่อนเดินทาง -> ส่งให้สถานทูตญี่ปุ่นในไทยเพื่อขอวีซ่า
    Certificate ผลการตรวจ PCR ว่าเป็น ลบ ก่อนเดินทาง
    แผนที่พักและแผนการเดินทางและกิจกรรมระหว่างมาญี่ปุ่น

    (2.2) สถานทูตญี่ปุ่นในไทยออกวีซ่าให้
    |
    บิน ไปญี่ปุ่น

    |
    บินถึง ญี่ปุ่น

    (2.3) ตรวจ PCR อีกครั้งเมื่อมาถึงสนามบินญี่ปุ่น ถ้าผลเป็นลบ “ไม่” ต้องกักตัว 14 วัน ⚠️

    (2.4) ❌❌ แต่ในช่วงเวลา 14 วันหลังเข้าประเทศ ห้ามใช้รถสาธารณะ

    **ตอนนี้มีแผนว่าจะให้ลงโปรแกรมติดตามตัวใน smartphone ด้วย แต่มีการพูดคุยกันว่า ในญี่ปุ่นเรื่อง privacy ไม่น่าจะผ่าน***

    ช่วงเวลาที่คาดว่าจะเริ่มคือ : หน้าร้อน (ก.ค.) เป็นต้นไป

    วีซ่านักเรียน และ วีท่องเที่ยวจะเริ่มขยายหลังดูผลปฏิบัติการของส่วนนักธุรกิจก่อน (ตามข่าวเดิมที่เคยเสนอไปแล้ว)

    วีซ่าคู่สมรสไม่ได้พูดถึงเลยในข่าว แต่แอดคิดว่า คงมีมาตรการออกมาต่างหากค่ะ

    ‍‍วีทำงาน ไม่ได้พูดถึงเลยในข่าว แต่แอดคิดว่า คงมีมาตรการออกมาต่างหากเหมือนวีคู่สมรสค่ะ
    ————

    (แถม) แผนสำหรับคนญี่ปุ่นมาไทย →

    กำลังอยู่ระหว่างการตกลงกับ 4 ประเทศ แต่รัฐบาลคาดว่าน่าจะประมาณนี้ จะคล้าย ๆ กับฝั่งญี่ปุ่นนะคะ
    กลุ่มเป้าหมายอาจจะจำกัดเฉพาะนักธุรกิจเช่นกัน (ยังไม่คอนเฟิร์ม)

    ⚠️ไทยจะตกลงตามนี้ไหมยังไม่ทราบนะคะ

    (1) ก่อนเดินทางไปไทย
    ส่งผลตรวจ PCR ว่าเป็นลบ
    ✒️แอดจำได้ว่า ล่าสุดเห็นข่าวตอนนี้มีรพ. เอกชนแห่งหนึ่งตรวจให้ น่าจะครั้งละ 30,000 เยน (ไม่แน่ใจนะคะ)
    แผนการเดินทางและกิจกรรมในเมืองไทย

    |
    บิน ไปไทย

    |
    บินถึง ไทย

    (2) ตรวจ PCR อีกครั้งเมื่อมาถึงสนามบินไทย ถ้าผลเป็นลบ “ไม่” ต้องกักตัว 14 วัน ⚠️

    ⚠️ไทยจะตกลงตามนี้ไหมยังไม่ทราบนะคะ

    (3)ก่อนเดินทางกลับญี่ปุ่น
    ส่งเอกสารรายละเอียดการเดินทางและกิจกรรมในเมืองไทย
    |
    บิน ไปญี่ปุ่น

    |
    บินถึง ญี่ปุ่น

    (4) ตรวจ PCR อีกครั้งเมื่อมาถึงสนามบินญี่ปุ่น ถ้าผลเป็นลบ “ไม่” ต้องกักตัว 14 วัน ⚠️

    ———

    ✒️มีอะไรไม่เข้าใจถามได้นะคะ

    เครดิต: หนังสือพิมพ์ไมนิจิ https://mainichi.jp/articles/20200605/k00/00m/010/282000c

    #กิ๊ฟจังนั่งเล่า #โควิด #ข่าวญี่ปุ่น

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีนปรับแผนการค้าเสรีในไห่หนาน (ไหหลำ) ผ่อนปรนภาษีสินค้านำเข้า-ส่งออก นทท.ช้อปสินค้าปลอดภาษีได้ 100,000 หยวนต่อปี
    .
    เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ประเทศจีนได้ประกาศ “แผนการก่อสร้างท่าเรือการค้าเสรีไห่หนานโดยรวม” โดยออกมาตรการ 39 ประการเพื่อยกระดับทั้งด้านการค้า การลงทุน ทุนเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดน ฯลฯ ให้เป็นไปอย่างสะดวกยิ่งขึ้น
    .
    ในด้านการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้านั้น ได้กำหนดรายชื่อสินค้าที่ต้องห้ามหรือจำกัดการนำเข้าและส่งออกขึ้นมา ซึ่งสินค้าที่ไม่อยู่ในรายชื่อดังกล่าวจะสามารถนำเข้า-ส่งออกได้โดยเสรี รวมถึงได้กำหนดรายชื่อสินค้านำเข้าที่ต้องเสียภาษีนำเข้า ซึ่งสินค้าที่ไม่อยู่ในรายชื่อนี้จะได้รับการงดเว้นภาษี
    .
    สำหรับภาคบริการนั้น ได้ยกเลิกข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจด้านต่างๆ ของผู้ประกอบการด้านบริการจากต่างประเทศ เมื่อผู้ประกอบการเข้ามายังเขตการค้าเสรีนี้ก็จะสามารถลงทุนและดำเนินธุรกิจได้โดยตรง นอกจากนี้ ยังได้ปรับขยายโควต้าการซื้อสินค้าปลอดภาษีของนักท่องเที่ยวจากคนละไม่เกิน 30,000 หยวน ต่อปี เพิ่มขึ้นเป็น 100,000 หยวนต่อปี
    .
    ภาพจาก CMG
    .
    #การค้าเสรี #ไห่หนาน #ไหหลำ #เศรษฐกิจจีน #ChinaStory #เรื่องจีนจีน

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น้ำแข็งที่เคยเป็นลักษณะโดดเด่นของเทือกเขาในเอเชียใต้อย่าง หิมาลัย มาช้านาน กำลังละลายกลายเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่แห่งใหม่ๆ เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดอุทกภัยระดับทำลายล้าง

    น้ำทั้งหมดประมาณ 3,850 ลูกบาศก์กิโลเมตร หรือราว 50 เท่าของโตนเลสาบในประเทศกัมพูชาจะไหลไปที่ไหน
    ธารน้ำแข็งเป็นเหมือนรถแทรกเตอร์น้ำแข็งที่ค่อยๆไถพื้นที่ลาดเขาลงมา พร้อมกับขูดผืนดินลงไปด้วย โดยทิ้งเศษดินหินเป็น สันสูงไว้ข้างๆ ขณะที่มันแล่นไปข้างหน้า สันเหล่านั้นคือกองตะกอนธารน้ำแข็ง (moraine) และเมื่อธารน้ำแข็งละลายและหดตัวลง น้ำก็ไหลลงไปในร่องที่เหลืออยู่โดยมีกองตะกอนธารน้ำแข็งเป็นเหมือนสันเขื่อนตามธรรมชาติ
    “เริ่มจากแอ่งน้ำแข็งละลายหลายๆ แอ่ง” ไบเออร์สอธิบายและเสริมว่า “แล้วค่อยๆ เชื่อมต่อกันเป็นแอ่งเดียว กลายเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี”
    และเมื่อทะเลสาบเต็ม น้ำอาจล้นข้ามกองตะกอนธารน้ำแข็งที่กั้นน้ำเอาไว้ หรือในกรณีเลวร้ายที่สุด กองตะกอนธารน้ำแข็งอาจพังลง นักวิทยาศาสตร์เรียกเหตุการณ์นี้ว่า “น้ำท่วมทะลักจากทะเลสาบธารน้ำแข็ง” (glacial lake outburst flood: GLOF) แต่ชาวเชอร์ปาเรียกว่า ชู-กยุมฮา หรืออุทกภัยขั้นหายนะ

    https://ngthai.com/environment/28103/glacial-lakes-of-the-himalaya/
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความเข้มข้นคาร์บอนไดออกไซด์สะสมในชั้นบรรยากาศปีนี้เพิ่มขึ้นทำลายสถิติ แม้มีภาวะ Covid 19

    แม้ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกใหม่ต่อปี (new emission)จะลดลง เนื่องจากสถานการณ์ Covid 19 ที่ก่อให้เกิดการชะงักตัวของภาคอุตสาหกรรม การคมนาคม และการใช้พลังงานที่ลดลง แต่ปริมาณความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์วัดได้ที่ Mauna Loa observatory ฮาวาย กลับวัดได้ 417.2 ppm ( ปี 2019 วัดได้ 414.8 ppm) เพิ่มขึ้น 2.4 ppm

    Professor Ralph Keeling จาก Scripps Institution of Oceanography ได้ให้ความเห็นว่า ถ้าหากปีนี้ไม่มี Covid 19 คาร์บอนไดออกไซด์อาจเพิ่มขึ้นถึง 2.8 ppm จริงอยู่ถ้าคิดเป็นปริมาณการปล่อยใหม่ต่อปี ตัวเลขลดลงเมื่อเทียบกับปี 2019 ลดลงแค่ 4-7% ถือเป็นปริมาณเล็กน้อย เมื่อเทียบกับคาร์บอนไดออกไซด์ที่สะสมในชั้นบรรยากาศปริมาณมากมาเป็นเวลานาน โลกต้องลดปริมาณต่อปีให้ได้ 20-30% ถึงจะทำให้การวัดค่าความเข้นข้นสะสมลดลง

    ทุกปีนักวิทยาศาสตร์จะวัดค่าความเข้มข้นคาร์บอนไดออกไซด์ช่วงเดือนพฤษภาคม ที่ศูนย์ Mauna Loa observatory ที่ฮาวาย โดยเริ่มตั้งแต่ปี 1958 ปริมาณความเข้มข้นทะลุเกิน 400 ppm ในปี 2014 ในช่วงปี 1960 อัตราการเพิ่มเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 0.8 ppm ช่วงปี 1980 อัตราการเพิ่มกลายเป็นสองเท่าอยู่ที่ 1.6 ppm ช่วงปี 2000 อัตราการเพิ่มอยู่ที่ปีละ 2.0 ppm และทศวรรษล่าสุด อัตราการเพิ่มสูงถึงปีละ 2.4 ppm และจุดอันตรายที่นักวิทยาศาสตร์คำนวณไว้คือ 450 ppm

    เห็นได้ชัดว่า Covid 19 ไม่ได้มีผลดีแต่สิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด ก๊าซเรือนกระจกต่อปีที่ลดลงแค่ไม่กี่เดือนไม่ได้ช่วยอะไรหากโลกไม่ลงมือเปลี่ยนแปลง และใส่ใจภาวะโลกร้อนอย่างจริงจัง

    John Sauven ผู้บริหารจาก Greenpeace UK เรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษออกมาแสดงความรับผิดชอบและลงมือช่วยเหลือมากกว่าการเป็นเจ้าภาพจัดงาน COP26 ที่ล่าสุดถูกเลื่อนออกไปเป็นปี 2021 “แค่ไม่กี่เดือนที่ emission ลดลง ก็ไม่สามารถทำอะไรคาร์บอนไดออกไซด์กว่าพันล้านตัน ที่เราเผาผลาญเชื้อเพลิงฟอสซิลขึ้นสู่บรรยากาศมานานนับศตวรรษได้”

    Manu Suleiman นักรณรงค์จากกลุ่ม Friends of the Earth กล่าวว่า “ ภาวะโลกร้อนไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย และความเสียหายทางสภาวะอากาศกำลังเกิดขึ้นในช่วงชีวิตเรา และเราควรลงมือแก้ไขอย่างฉุกเฉินจริงจังเสียที”

    หลายคนอาจไม่รู้ว่าเราเหลือเวลาไม่นานมาก ในการลดภาวะโลกร้อน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยต้องพยายามคุมไม่ให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเกิน 1.5 C (ขณะนี้เพิ่มไปแล้ว 1.2 C) ภายในปี 2030 มิเช่นนั้นสภาวะอากาศจะเสียหายถาวร เกิดภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้น ปี 2050 มีพื้นที่หลายแห่งต้องเสี่ยงกับอุณหภูมิร้อนเกินอยู่อาศัย และบางพื้นที่ต้องอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล หนึ่งในนั้นรวมกรุงเทพมหานครอยู่ด้วย

    https://www.theguardian.com/environ...harply-despite-covid-19-lockdowns#maincontent

    https://www.theguardian.com/environ...trigger-dramatic-fall-global-carbon-emissions

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ขยะCovid เกลื่อนทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

    Covid ไม่ได้ดีต่อสิ่งแวดล้อมแบบที่ใครๆคิด จริงอยู่ที่การใช้เชื้อเพลิงน้ำมัน จากภาคการคมนาคมและอุตสาหกรรมลดลง ทำให้ตัวเลขก๊าซเรือนกระจกลดลง แต่ขยะใหม่ปริมาณมากมายกำลังซ้ำเติมขยะพลาสติกที่มีอยู่เดิม

    องค์กรสิ่งแวดล้อมของฝรั่งเศส Opération Mer Propre (Operation Clean Sea)ได้ทำการดำน้ำสำรวจบริเวณ French Riviera แถบ Antibes พบขยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หน้ากากหรือถุงมือพลาสติก ถ้วย กระป๋องต่างๆ ที่เป็นผลพวงจากสถานการณ์โคโรนาไวรัส เต็มท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

    Laurant Lombard หนึ่งในผู้ก่อตั้งกล่าวว่า “ขณะนี้มีหน้ากากในทะเลมากกว่าแมงกระพรุนด้วยซ้ำ”
    “หน้ากากอนามัยใช้แล้วทิ้งทำจาก Polystyrene เป็นพลาสติกที่ใช้เวลากว่า 400 ปีในการย่อยสลาย ขยะเหล่านี้ล่องลอยไปทั่วทะเล และอาจถูกกินโดยสัตว์ต่างๆ”

    องค์กรได้เรียกร้องให้ประชาชนแสดงความรับผิดชอบต่อการทิ้งขยะให้มากขึ้น เพราะถ้าพวกเขาทิ้งขยะไม่ถูกที่ เพียงแค่ขยะที่ตกหล่นตามท้องถนน จะถูกฝนชะล้างไหลลงสู่ท่อและออกสู่ทะเลในที่สุด

    ก่อนหน้านี้นักกฎหมาย Eric Paigey จาก Alpes -Maritimes ได้ยื่นข้อเสนอให้เพิ่มค่าปรับการทิ้งขยะในที่สาธารณะจากเดิม 68 ยูโร ให้สูงขึ้นเป็น 300 ยูโร

    https://observers.france24.com/en/20200602-sea-france-covid-19-pandemic-polluted-sea

    https://www.euronews.com/2020/06/01...Social&utm_source=Facebook#Echobox=1591022930

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “กาแฟดำ”
    วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน 2563

    นายกฯหลี่เสียนหลงของสิงคโปร์ฟันธง: โลกจะยุ่งเหยิงมากขึ้นเพราะโควิด-19 การค้าโลกจะหดตัว ความขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐฯจะทำให้ประเทศเล็กต้องปรับตัวครั้งใหญ่

    “สิงคโปร์จะไม่สามารถกลับไปสู่ระบบเศรษฐกิจโลกที่เปิดและเชื่อมโยงเหมือนก่อนโควิด เราต้องเตรียมการสำหรับอนาคตที่ความต้องการสินค้าหดตัวและรัฐบาลต่าง ๆ จะจำกัดการเคลื่อนไหวและไปมาหาสู่กันมากขึ้น...”

    เขายกตัวอย่างว่าคนสิงคโปร์คงไม่สามารถบินไปเที่ยวสุดสัปดาห์ที่กรุงเทพฯหรือฮ่องกงได้ง่าย ๆ เหมือนก่อน

    นายกฯหลี่ยอมรับว่าสิงคโปร์กำลังเผชิญวิกฤตร้ายแรงที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งประเทศมา

    สิงคโปร์ต้องอัดฉีดเงิน $66.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯเพื่อประคองเศรษฐกิจ เงินก้อนมโหฬารนี้เท่ากับ 20% ของจีดีพีประเทศทีเดียว

    “ประเทศต่าง ๆ จะมีส่วนร่วมระหว่างกันน้อยลง แต่จะต่อสู้เพื่อแบ่งเค้กก้อนเดิมหนักขึ้นแทนที่จะทำงานร่วมกันเพื่อขยายเค้กก้อนนั้นให้ใหญ่กว่าเดิม...มันจะโลกที่มีความเฟื่องฟูน้อยลง และจะเป็นโลกที่มีความยุ่งยากมากขึ้น...”

    หลี่เซียนหลงยอมรับว่าเศรษฐกิจของสิงคโปร์ได้รับผลกระทบหนักที่สุดเท่าที่เคยเจอมา...จีดีพีจดหดตัว 4-7% และยังไม่รู้ว่าโควิดจะหายไปเมื่อไหร่

    “เราคงต้องอยู่กับโควิดอีกหนึ่งปีหรือนานกว่านั้น และเราคงต้องทำใจว่าจะต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันอีกนานพอสมควรเหมือนที่เราเคยต้องอยู่กับวัณโรคยาวนานพอสมควร” นายกฯสิงคโปร์บอกประชาชนในคำปราศรัยวันนี้สามภาษาคืออังกฤษ, จีนและบาฮาซา

    เป็นการรายงานประชาชนถึงสถานการณ์โควิดที่เขาบอกว่าเริ่มจะนิ่ง และกำลังเข้าสู่โหมดหลุดจากมาตรการล็อกดาวน์ที่สิงคโปร์เรียก Circuit Breaker

    แต่เขาก็เตือนว่าผู้คนยังต้องระมัดระวังและรักษามาตรการล้างมือและรักษาระยะห่างอย่างจริงจังเพราะไม่ต้องการจะให้การแพร่เชื้อกลับมาอีก

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ส่งออกจีนเดือนพฤษภาหด 3.3% นำเข้าร่วง 16.7%!

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ดุสิตโพลชี้วิกฤตว่างงานมาจากโควิด-19 ศก.แย่ ก่อให้เกิดหนี้สิน จี้รัฐช่วยเหลือจ้างงาน

    วันนี้ (7 มิ.ย.) สถานการณ์ด้านแรงงานปี 2563 กรณีปัญหาการว่างงาน ตกงาน และถูกเลิกจ้าง ซึ่งคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่ม มากขึ้น ทั้งนี้สาเหตุสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อปัญหาดังกล่าว นอกจากวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจที่ตกต่ำแล้ว การแพร่ระบาด ของไวรัสโควิด-19 ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญอีกประการหนึ่งเช่นเดียวกัน เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ กรณี “ระดมความคิดแก้วิกฤตว่างงาน” จำนวนทั้งสิ้น 1,038 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 1-5 มิถุนายน 2563 สรุปผลได้ ดังนี้

    1. ประชาชนคิดว่าสาเหตุของ “วิกฤตว่างงาน” มาจากเรื่องอะไร อันดับ 1 การแพร่ระบาดโควิด-19 88.18% อันดับ 2 เศรษฐกิจไม่ดี 74.03% อันดับ 3 ปิดกิจการ 46.22% อันดับ 4 ไม่มีการจ้างงานในตลาดแรงงานเพิ่ม 45.35% อันดับ 5 เลือกงาน 21.12%

    2. ประชาชนคิดว่า “การว่างงาน” ทำให้เกิดปัญหาอะไรตามมาบ้าง อันดับ 1 หนี้สิน 88.91% อันดับ 2 ความเครียด/สุขภาพจิต 85.73% อันดับ 3 ปัญหาความยากจน 73.48% อันดับ 4 ปัญหาครอบครัว 73.29% อันดับ 5 ปล้น จี้ ชิงทรัพย์ 67.60% อันดับ 6 ฆ่าตัวตาย 60.08% อันดับ 7 การคดโกง หลอกลวง ต้มตุ๋น 52.75% อันดับ 8 ทุจริต/คอรัปชัน 42.82%

    3. กรณี “วิกฤตว่างงาน” ประชาชนอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องอะไร อันดับ 1 การจ้างงานจากภาครัฐ 71.00% อันดับ 2 มาตรการทางภาษี เช่น ลดภาษี 63.82% อันดับ 3 ให้เงินช่วยเหลือ/ค่าครองชีพ 58.58% อันดับ 4 ฝึกอาชีพ 54.22% อันดับ 5 หาแหล่งเงินทุน/เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 44.91%

    #ประเทศไทยต้องชนะ

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พาณิชย์ลุย 44 โครงการรุกตลาดจีนหลังคลายล็อกดาวน์ ดันตัวเลขบวกต่อเนื่อง สรท.ชี้ส่งออกไทยไปจีนเดือนเม.ย.โต 9% ส่งสัญญาณการค้ากลับมาเป็นปกติได้เร็วกว่าฝั่งยุโรป-อเมริกา เตรียมแผนครึ่งหลังรุกผ่านช่องออนไลน์-ออฟไลน์เต็มพิกัด

    หากไม่นับรวมกลุ่มอาเซียน ณ ปัจจุบันจีนถือเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย(สัดส่วนการค้า 16% ที่ไทยค้ากับโลก) โดยช่วง 4 เดือนแรกปี 2563 การค้าไทย-จีนมีมูลค่า 786,231ล้านบาท ลดลง 0.60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยไทยส่งออก 288,134 ล้านบาท ลดลง 0.10% และนำเข้า 498,098 ล้านบาท ลดลง 0.8% เมื่อเทียบกับช่วงดียวกันของปีก่อน จากปี 2562 ไทยส่งออกไปจีน 902,274 ล้านบาท ลดลง 7.1% เมื่อเทียบกับปี 2561 ล่าสุดสถานการณ์โควิด-19 ในจีนได้คลี่คลายลง แต่ปัจจุบันจีนยังห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ แต่อนุญาตให้ธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม การท่องเที่ยวกลับมาดำเนินธุรกิจได้แล้ว รวมทั้งอนุญาตในการจัดประชุม นิทรรศการ และงานแสดงสินค้าได้ โดยมีข้อกำหนดและกฎระเบียบในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคอย่างเคร่งครัด ช่วยสร้างบรรยากาศและโอกาสการขยายตัวทางการค้าส่งออกของไทยในจีนมากขึ้น

    นายวิทยากร มณีเนตร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า กรมเตรียมแผนบุกตลาดจีนหลังโควิด-19 คลี่คลาย จำนวน 44 โครงการ ใน 6 กลุ่มแผนงาน/กิจกรรม ประกอบด้วย การส่งเสริมสินค้าไทยผ่าน Modern Trade, ส่งเสริมสินค้าไทยผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ,ส่งเสริมร้านอาหารไทยด้วย Thai Select,การจัดกิจกรรม Thai Fruit Golden Month, นำทัพเอกชนบุกตลาดผ่านงานแสดงสินค้า(หากทางการจีนอนุญาตให้ต่างชาติเดินทางเข้าประเทศได้แล้ว) และอื่น ๆ (กราฟิกประกอบ) ล่าสุดได้ดำเนินการแล้วเสร็จไปแล้ว 4 โครงการ เช่น งาน Thai Fruit Golden Month ที่ชิงต่าวและหนานหนิง คาดมี คำสั่งซื้อภายใน 1 ปี มูลค่า 100 ล้านบาท เป็นต้น ส่วนที่อยู่ระหว่างการดำเนินการมี 5 โครงการ และรอดำเนินการตามแผนงานอีก 35 โครงการ

    “แผนงานต่าง ๆ สามารถทำได้ตามปกติแล้ว จากจีนได้ ผ่อนปรนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ยังคงเข้มงวดในการควบคุมป้องกันเชื้อโรคจากต่างประเทศ ทั้งนี้อุปสรรคที่ยังมีต่อการส่งออกของไทย เช่น ผลกระทบจากความตกลงทางการค้าสหรัฐฯ-จีนในเฟส 1 ที่จีนจะนำเข้าสินค้าประเภทเนื้อสัตว์จากสหรัฐฯมากขึ้น หรือการขนส่งสินค้าทางอากาศมีข้อจำกัดจากการหยุดให้บริการของสายการบินระหว่างประเทศ การจำกัดการเดินทางของผู้โดยสารระหว่างประเทศ ส่งผลให้ผู้ประกอบยังไม่สามารถดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจได้”

    สำหรับสินค้าไทยที่ยังมีโอกาสในตลาดจีนเช่น กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน โดยเน้นสินค้าเพื่อสุขภาพและมีความปลอดภัย (Food Safety) มากขึ้น กลุ่มสินค้าเพื่อสุขอนามัยและสุขภาพ เช่น ถุงมือยาง กลุ่มสินค้าเพื่อความบันเทิง เช่น ละครภาพยนตร์ออนไลน์ เกมออนไลน์ เป็นต้น ทั้งนี้เป้าส่งออกไทยไปตลาดจีนในปีนี้จะมีการประชุมทูตพาณิชย์เพื่อประมาณการณ์อีกครั้งในช่วงปลายปีนี้ จากสถานการณ์ต่างๆ เปลี่ยนไป

    ด้านนายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า การส่งออกของไทยไปตลาดจีนมีทิศทางที่ดีขึ้น ตัวเลขเดือนเมษายน 2563 ขยายตัว 9% (รูปดอลลาร์สหรัฐฯ)โดยกลับมาขยายตัวครั้งแรกในรอบ 3 เดือน สินค้าส่งออกสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ผลไม้สด แช่แข็งและแห้ง รถยนต์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องคอมพิวเตอร์ฯ เป็นต้น ส่งผลให้การส่งออกของไทยไปจีนช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ขยายตัว 1.8% แสดงให้เห็นว่าตลาดจีนมีโอกาสที่จะกลับมาขยายตัวเป็นปกติได้เร็วกว่าตลาดอื่นๆ โดยเฉพาะประเทศโซนยุโรปและอเมริกาที่ยังมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เห็นได้จากตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม บริการต่างๆ ของจีนได้เริ่มกลับมาดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และมีการนำเข้าสินค้าไทยเข้าไปมากขึ้น

    “ภาคเอกชนได้มีการ เตรียมความพร้อมในช่วงครึ่งปีหลัง หลังจากจีนคลายล็อกดาวน์ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในกับลูกค้าจีนในเรื่องของคุณภาพสินค้าไทย เร่งทำประชาสัมพันธ์สินค้าไทยผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ต่อเนื่อง, เร่งจัดงานแสดงสินค้าระหว่างกันมากขึ้นโดยปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงสินค้าเป็นแบบ virtual exhibition/Online Business matching เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั้งสองประเทศได้สะดวกและง่ายที่สุดในช่วงสถานการณ์ยังไม่มีความแน่นอน เป็นต้น

    ข้อมูลจาก หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,580 วันที่ 4-6 มิถุนายน พ.ศ. 2563

    #ประเทศไทยต้องชนะ

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ไปอีกหนึ่ง
    โรงแรม Shamrock เตรียมปิดตัว 14 มิย นี้
    .
    ปิดตำนาน รร อายุร่วม 70 ปีแห่งย่าน Jordan ค่ะ
    มีใครเคยมาพักที่นี่บ้างมั้ยคะ?
    .
    Source:
    https://www.scmp.com/business/artic...aunt-bruce-lees-family-shut-june-14-two-three
    .
    #eatlike852 #covid19hongkong

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “จีน” เตือนนักท่องเที่ยวและนักศึกษาจีน หลีกเลี่ยงเดินทางไปออสเตรเลีย ชี้ เหยียดผิวและคนเอเชียรุนแรงในช่วงระบาดโควิด-19
    .
    กระทรวงวัฒนธรรมและท่องเที่ยวของจีน ออกแถลงการณ์ในวันศุกร์ (5 มิ.ย.) แนะนำประชาชนหลีกเลี่ยงเดินทางไปยังออสเตรเลีย เนื่องจากมีการเลือกปฏิบัติและเหยียดผิวอย่างรุนแรง ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
    .
    “เกิดเหตุการณ์เหยียดผิวและต่อต้านคนจีน รวมถึงคนเอเชียเพิ่มขึ้น และรุนแรงเรื่อยๆในออสเตรเลีย ช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19” แถลงการณ์กระทรวงวัฒนธรรมฯจีนระบุ แต่ไม่ได้ยกตัวอย่างเหตุการณ์เฉพาะเจาะจงตามที่อ้างไว้
    .
    ทั้งนี้ ออสเตรเลียเป็นประเทศจุดหมายปลายทางยอดนิยม สำหรับนักท่องเที่ยวและนักศึกษาชาวจีน
    .
    ด้านไซมอน เบอร์มิงแฮม รัฐมนตรีการค้าออสเตรเลีย กล่าวปฏิเสธว่า มีการเลือกปฏิบัติ และข้อกล่าวหาไม่มีพื้นฐานความจริงแต่อย่างใด
    .
    อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พบว่า ชาวเอเชียต้องเผชิญกับการเหยียดผิวในประเทศต่างๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ จีนได้ออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางไปสหรัฐ หลังจากที่บางคนถูกทำร้ายในช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19
    .
    อ่านต่อได้ที่: https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/883893
    .
    .
    #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    -------------------------------
    ติดตาม "กรุงเทพธุรกิจ" ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่
    Line: https://line.me/R/ti/p/@rvb8351i
    Twitter: https://twitter.com/ktnewsonline
    Website : http://www.bangkokbiznews.com
    Youtube: https://www.youtube.com/user/KrungthepTurakij
    Blockdit : https://www.blockdit.com/bangkokbiznews
    Instagram: https://www.instagram.com/bangkokbiznews

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มาเลเซียเตรียมเปิดดำเนินการกิจกรรมทางเศรษฐกิจเกือบทั้งหมดอีกครั้ง อนุญาตให้เดินทางข้ามรัฐได้ตั้งแต่ 10 มิ.ย. ยกเลิกข้อจำกัดป้องกันไวรัสระบาดที่ประกาศเมื่อเกือบ 3 เดือนก่อน หวังพลิกฟื้นเศรษฐกิจ
    .
    นายกรัฐมนตรีมูยิดดิน ยัสซิน ของมาเลเซีย แถลงผ่านทางสถานีโทรทัศน์ว่า มาเลเซียประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หลังจากนี้จะเริ่มเข้าสู่ระยะฟื้นตัวไปจนถึงวันที่ 31 ส.ค. โดยรัฐบาลจะผ่อนคลายการควบคุมกิจกรรมทางสังคม การศึกษา และศาสนาเป็นเฟสๆ ไป ตามคู่มือสุขภาพ อนุญาตให้ภาคธุรกิจกลับมาดำเนินการตามเวลาปกติได้
    .
    พร้อมกันนั้นรัฐบาลอนุญาตให้เดินทางข้ามรัฐได้ แต่การเดินทางระหว่างประเทศยังไม่อนุญาต เช่นเดียวกับศูนย์บันเทิงอย่างสวนสนุกและไนท์คลับหรือการแข่งขันกีฬาที่ต้องสัมผัสใกล้ชิด งานที่มีคนมารวมกันเป็นจำนวนมากๆ ยังทำไม่ได้
    .
    ทั้งนี้ มาเลเซียค่อยๆ เปิดธุรกิจในช่วงเดือนที่ผ่านมาโดยกำหนดให้ต้องรักษาระยะห่างทางสังคมเอาไว้ หลังจากปิดธุรกิจที่ไม่จำเป็นทุกอย่างและปิดโรงเรียน ห้ามการรวมตัวในที่สาธารณะ ควบคุมการเดินทางมาตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. แต่ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาอัตราการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ในประเทศ ที่เคยสูงสุดประเทศหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อเดือน มี.ค. ได้ชะลอลงแล้ว
    .
    ข้อมูลเมื่อวันเสาร์ (6 มิ.ย.) ยอดผู้ติดเชื้อทางการอยู่ที่ 8,303 คน เสียชีวิตรวม 117 คน
    .
    “สถิติจากกระทรวงสาธารณสุขชี้ว่า อัตราการติดเชื้อในหมู่ประชาชนกำลังลดลงและควบคุมได้ เราจะเข้าสู่ภาวะปกติตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค. จนกระทั่งมีวัคซีน” นายกฯ มาเลเซียกล่าว
    .
    อ่านต่อได้ที่: https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/883973
    .
    .
    #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    -------------------------------
    ติดตาม "กรุงเทพธุรกิจ" ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่
    Line: https://line.me/R/ti/p/@rvb8351i
    Twitter: https://twitter.com/ktnewsonline
    Website : http://www.bangkokbiznews.com
    Youtube: https://www.youtube.com/user/KrungthepTurakij
    Blockdit : https://www.blockdit.com/bangkokbiznews
    Instagram: https://www.instagram.com/bangkokbiznews

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทุนทางการเมือง-ทุนแห่งกามตัณหา
    4 มิถุนายน 2563 | โดย ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ | คอลัมน์ อาหารสมอง

    ทำความเข้าใจ คำว่า "ทุน" ในมิติต่างๆ ที่มากกว่าความหมายเกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ เพราะในภาษาธรรมดาที่ไม่ใช่วิชาการ กินความหมายไปถึงสิ่งมีค่าที่จับต้องไม่ได้ อย่างเช่น ทุนทางสังคม ทุนทางการเมือง ทุนมนุษย์ รวมถึงทุนแห่งกามตัณหา
    “เขามีฐานะดีจึงมีต้นทุนสูง” “เขาคงไม่กล้าเสี่ยงทำอะไรที่อาจทำลายชื่อเสียงเขาหรอกเพราะเขามีต้นทุนสูง” “มีต้นทุนทางการเมืองสูงขนาดนี้ลงเลือกตั้งกี่ครั้งก็ได้” “คุณอย่ามาเสี่ยงมีเรื่องกับคนมีต้นทุนต่ำอย่างผมเลยเพราะมันไม่คุ้ม” ประโยคเหล่านี้เราได้ยินกันบ่อยๆ ในสังคมไทยแท้จริงแล้วควรใช้คำว่า “ทุน” แทน “ต้นทุน”

    ในการผลิตสินค้าและบริการมีปัจจัยการผลิตรวมอยู่ 4 ประเภท กล่าวคือ Land (ที่ดินซึ่งกินความถึงทรัพยากรธรรมชาติ เช่น อากาศ น้ำ แร่ธาตุ ฯลฯ) Labor (แรงงาน ซึ่งประกอบด้วย แรงงานทางสมองและแรงงานทางร่างกาย) Capital (ทุนซึ่งหมายถึงเงินเพื่อซื้อทรัพยากรหรือสิ่งอื่นๆ ที่จับต้องได้ ซึ่งร่วมใช้ในการผลิต เช่น อาคาร จอบเสียม เครื่องจักร อุปกรณ์ โต๊ะเก้าอี้ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ) และ Entrepreneurship (การประกอบการ คือ กิจกรรมของการนำปัจจัยทั้ง 3 มาร่วมกันผลิตอันเป็นการเพิ่มคุณค่า)

    ในเวลาต่อมาคำว่า “ทุน” ในภาษาธรรมดาที่ไม่ใช่วิชาการ กินความหมายไปถึงสิ่งมีค่าที่จับต้องไม่ได้ ซึ่งร่วมใช้ในการผลิตด้วย เช่น ฐานะในสังคมการยอมรับในสังคม การมีเครือข่าย ชื่อเสียง ฯลฯ ดังคำว่า Social Capital (ทุนทางสังคม) คำนี้มีการใช้กันตั้งแต่ ค.ศ.1890 ก่อนที่จะเป็นที่นิยมในปลายทศวรรษ 1990 โดยมักใช้อธิบายผลงานเป็นเลิศด้านการบริหารอันเกิดจากความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวกันของสังคม ผู้ทำงานให้องค์กรหรือความสามัคคีของคนในชาติ หรือการร่วมใช้ภาษาเดียวกันของคนทั้งชาติ

    “ทุนทางสังคม” สะท้อนคุณค่าอันเกิดจากความสัมพันธ์ของกลุ่มคน เช่น การมีค่านิยมร่วมกัน มีความเข้าใจร่วมกัน มีความไว้วางใจกัน มีความร่วมมือกัน ฯลฯ ตัวอย่างเช่น หมู่บ้านใดที่เป็นหนึ่งเดียวกัน มีความสามัคคี ก็เรียกว่ามีทุนทางสังคมสูงหรือมีทุนสูง เราไม่เรียกว่ามีต้นทุนสูง

    อีกคำหนึ่งได้ยินบ่อยๆ คือคำว่า Political Capital (ทุนทางการเมือง) ซึ่งสื่อความถึงการสะสมทุนและอำนาจของบุคคลหนึ่ง ซึ่งผ่านการสร้างความสัมพันธ์ความไว้วางใจและความปรารถนาดีกับนักการเมืองอื่นๆ กับพรรคอื่นๆ หรือกับผู้ลงคะแนน

    “ทุนทางการเมือง” แยกออกได้เป็น “ทุนการเมืองด้านชื่อเสียง” (Reputational Political Capital) และ “ทุนทางการเมืองด้านการเป็นตัวแทน” (Representative Political Capital) โดยอย่างแรกหมายถึง ความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจได้ของนักการเมือง ส่วนอย่างหลังได้มาจากการมีอุดมการณ์ทางการเมืองหรือการยึดนโยบายหนึ่งอย่างไม่สั่นคลอนทุนชนิดนี้ทำให้นักการเมืองผู้นั้นมีอิทธิพลในการกำหนดนโยบายซึ่งทุนนี้มาจากการมีประสบการณ์ การเคยรับตำแหน่งระดับผู้นำและมีวัยวุฒิ

    “ทุนทางการเมือง” จึงเป็นผลิตผลของความสัมพันธ์ระหว่างความประทับใจของสาธารณะ (ความเห็น) การเกิดเป็นนโยบาย (ความสำเร็จจากบทบาทในรัฐสภา) และวิจารณญาณทางการเมือง (การตัดสินใจที่ไตร่ตรองอย่างรอบคอบ) คนที่มีชื่อเสียงดีและได้รับความนิยมในทางการเมืองจึงเป็นคนมี “ทุนทางการเมือง” สูง เราไม่เรียกว่ามี “ต้นทุนทางการเมือง” สูง (เช่นเดียวกับเรียกนักการเมืองที่มีเงินแยะไว้ใช้เลือกตั้งว่ามีทุนสูงไม่ใช่มีต้นทุนสูง)

    สำหรับคำว่า “ต้นทุน” (Cost) นั้น หมายถึงทรัพยากรที่ต้องสูญเสียไปในการผลิตสินค้าและบริการ เหตุที่ไม่เน้นว่าเป็นเงินที่เสียไปก็เพราะต้นทุนไม่จำเป็นต้องเป็นเงินเสมอไป ตัวอย่างเช่นการเจ็บเข่าต้องรักษาตัวอยู่ที่บ้าน 1 วัน จนต้องเสียสละการไปท่องเที่ยวชมธรรมชาติ ดังนั้น ต้นทุนของการอยู่บ้านรักษาตัวก็คือโอกาสที่เสียไปของการไปชมธรรมชาติ

    สิ่งที่ได้รับมาในที่นี้ (สินค้าและบริการ) คือ การรักษาตัวเพื่อให้หายเจ็บเข่า และสิ่งที่ต้องจ่ายไป (ต้นทุน) คือโอกาสในการได้ไปเที่ยวชมธรรมชาติ เราไม่พูดว่าสิ่งที่เสียไปคือ “ทุน” หากต้องพูดว่า “ต้นทุน” โดยสรุปก็คือ “ทุน” คือสิ่งมีค่าที่บุคคลมีอยู่ เช่น “ทุนทางสังคม” หรือ “ทุนทางการเมือง” หรือ “ทุน” ที่ใช้เพื่อการผลิต ส่วน “ต้นทุน” คือสิ่งที่เสียไปเพื่อให้ได้สิ่งหนึ่งมา (เสียเงิน 500 บาท ในการผลิตขันทองเหลือง 1 ใบ ดังนั้นต้นทุนของขันคือ 500 บาท)

    เช็คเงินเข้าเยียวยาเกษตรกร ตรวจสอบยื่นอุทธรณ์ 'ธกส.-กระทรวงเกษตรฯ' แนะนำล่าสุด
    'CPTPP' คืออะไร ทำไมเราต้องสนใจเรื่องนี้
    'เราไม่ทิ้งกัน' วันนี้ เหลือเมนูอะไรเกี่ยวกับ 'เงินเยียวยา' บ้าง

    ปัจจุบันมีการใช้คำว่า Human Capital (ทุนมนุษย์) จนสงสัยว่าก็ human (หรือlabor) ก็เป็นคนละประเภทของปัจจัยการผลิตอยู่แล้วจะเอามารวมกันได้อย่างไร ก็คงต้องตอบว่าทุกสิ่งมีวิวัฒนาการในการทำให้งง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษา “Human Capital” หมายถึงมนุษย์ที่มีการศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบมีทักษะและความรู้มีทัศนคติและค่านิยมที่ดี ตลอดจนมีประสบการณ์การทำงาน

    หลายคนสังเกตเห็นว่าใน 20-30 ปีที่ผ่านมานี้ คนหล่อคนสวย มีบุคลิกภาพดี มีเสน่ห์ทางเพศ (Sex Appeal) มีทักษะทางสังคมและมีทักษะในการนำเสนอตนเองสูง มักได้เปรียบเหนือคนอื่นเสมอ Catherine Hakim ในหนังสือชื่อ Honey Money : The Power of Erotic Capital, 2011 เรียกคุณลักษณะโดยรวมเหล่านี้ว่า Erotic Capital (ทุนแห่งกามตัณหา)

    “ทุนแห่งกามตัณหา” รวมเอาสิ่งเหล่านี้ไว้ด้วยกัน อันได้แก่ ความสวยความงาม/ เสน่ห์ทางเพศ / ความมีชีวิตชีวา / ความสามารถพิเศษในการเลือกแต่งกายอย่างถูกกาลเทศะ / เสน่ห์และทักษะทางสังคม / การดึงดูดใจในเรื่องเพศ/ โดยเน้นเรื่อง “กามตัณหา” (ความอยากในกามหรือความมีเยื่อใยในกาม)เป็นพิเศษ ไม่ว่าเราจะชอบมันหรือไม่ก็ตามที คงปฏิเสธไม่ได้ว่าทุนชนิดนี้มีค่ายิ่งในสังคมปัจจุบัน

    ในภาษาทั่วไป “ทุน” คือสิ่งมีค่าที่อยู่ในตัวคนอุปมาเหมือนมีน้ำอยู่ในถังปริมาณหนึ่ง ณ จุดหนึ่งของเวลา (สามารถเพิ่มหรือลดได้ในเวลาต่อไปข้างหน้า) ส่วน “ต้นทุน”คือสิ่งที่ต้องยอมเสียไปเพื่อให้ได้สิ่งพึงปรารถนามา (ปริมาณวัดต่อชิ้นหรือต่อช่วงเวลา)

    เราอยากมี “ทุน” เพิ่มขึ้น เพราะมันเป็นสิ่งที่เป็นบวก แต่เราไม่อยากมี “ต้นทุน” สูงหรือเพิ่มขึ้น เพราะมันเป็นสิ่งที่เป็นลบต่อกระเป๋าของเรา

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กระแส #saveวันเฉลิม เมื่อวานมาแรง ดารา นักแสดง คนดัง หรือแม้กระทั่งคนที่อยู่ในวงการแคสเกม สตรีมเกมยังโดนลูกหลงไปด้วยเลย คนหนึ่งที่โดนมากที่สุด เห็นว่าน่าจะเป็นเคสปู ไปรยา ที่โดนเข้าไปถล่ม Instagram โดนแคป IG มาด่าต่อๆกัน (และคาดว่าคงโดน DM ไปด่าด้วย)

    ซึ่งฝ่ายที่ด่าก็อ้างเหตุผลที่ว่าคุณปู ไปรยานั้นรับหน้าที่เป็น “Goodwill Ambassador” จาก UNHCR (High Commissioner for Refugees) อันเป็นหน่วยย่อยขององค์การสหประชาชาติ แปลง่ายๆก็คือ “ทูตสันถวไมตรี” ที่สหประชาชาติเขามอบให้ดารา คนดัง ในการร่วมไดรฟ์ ผลักดันปัญหาสังคมนั่นแหละ

    เรื่องมันเกิดขึ้นมาจากกรณีที่ปู ไปรยาไปตอบ IG โดยให้ความเห็นว่าเธอมีหน้าที่ผลักดันประเด็นที่เกี่ยวกับสันติภาพ แต่จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง เพราะตัวปูนั้นเน้นทำงานด้าน “Humanitarian work” เป็นนักช่วยเหลือ นักสังคมสงเคราะห์ทำหน้าที่ขยายโอกาสให้เพื่อนมนุษย์

    ไม่ได้เป็นนักเรียกร้อง ไม่ได้เป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง (Political activist) เรื่องวันเฉลิมนี้เป็นเรื่องที่น่าเศร้า และเจ็บปวด แต่มันไม่ใช่หน้าที่ของปู ไม่ใช่เรื่องของปู ถ้าพวกคุณอยากให้ปูช่วย ปูสามารถออกตัวช่วยได้ในเรื่องที่มันเป็นประเด็นกว้างๆ ใหญ่ๆ อย่างเช่น Racism หรือการเหยียดสีผิว

    หรือหากมีใครต้องการผลักดันให้เกิดสันติภาพอะไรก็ตามปูสนับสนุนได้เต็มที่ แต่ต้องไม่ใช่เรื่องที่มีความเป็นการเมืองสูงอย่างเรื่องนี้ปูทำให้ไม่ได้ ไม่ใช่ว่าปูไม่สนใจ หรือไม่แคร์นะ ปูได้ตอบข้อความทุกข้อความไปแล้วทางช่องแชท IG แต่ต้องขอยืนยันว่าตอนนี้ปูไม่มีความรู้ หรือความเข้าใจต่อสถานการณ์มากเพียงพอ

    ปูเลยช่วยอะไรไม่ได้ มันเกินขีดจำกัดที่ปูจะช่วยได้ ที่ปูเงียบต่อเรื่องนี้ ไม่ใช่เพราะปูปลอม หรือ Fake แต่ที่ปูเงียบต่อเรื่องวันเฉลิมนี้เป็นเพราะถึงปูออกความเห็น หรือใส่อารมณ์ไปมันก็ไม่สามารถช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรได้อยู่ดี

    อันนี้คือข้อความทั้งหมดที่พอจะมีคนแคปเก็บมาได้ ก่อนคุณปูลบข้อความใน Instagram ทิ้งไป ผมว่าที่ปูพูดมาก็มีเหตุผลนะครับ ในมุมของปู คือ เวลาจะพูดอะไรทำนองนี้เราไม่ควรจะด่า หรือใส่อารมณ์ลงไปในทันทีที่เราเห็นเลย อย่างน้อยพิจารณาเหตุผลของอีกฝ่ายกันก่อน

    ประเด็นนี้ผมเห็นว่าน่าสนใจดี คือ การที่ปูอ้างว่าตัวเองทำงานด้านการสังคมสงเคราะห์ (humanitarian works) ไม่ได้ทำงานการเมือง การเมืองจึงไม่ใช่หน้าที่ของปู ก็เป็นส่วนจริงครับ ถ้าสังเกตดีๆดาราหรือผู้มีอิทธิพลในแวดวงสังคมหลายคนที่เข้ามาทำงานในด้านนี้นั้นส่วนใหญ่มักพยายามระวังตัวเองไม่เข้าไปยุ่งกับการเมืองอย่างโจ่งแจ้งมากเกินไปทั้งนั้น

    แต่ด้วยสภาพพื้นฐานของการเมืองไทยมันมีความแบ่งแยกสูง มันไม่เหมือนสหรัฐอเมริกาที่ดาราสามารถแสดงออกได้ชัดเจนตรงๆว่าชอบนักการเมืองคนไหน สนับสนุนการเมืองแบบไหน มีดาราใน Hollywood หลายคนประกาศตัวสนับสนุน Donald Trump สนับสนุนพรรค Republican โดยที่ไม่ถูกแบนในวงการบันเทิงได้

    เพราะการเมืองที่สหรัฐอเมริกามันเป็นระบบเปิด มีวัฒนธรรมที่ยอมรับต่อการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง แต่สำหรับสังคมไทย ต้องถามตัวเองก่อนว่าปกติเรายอมรับ หรือรับฟังในคนที่คิดเห็นต่างจากเรามากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะเรื่องการเมือง เราด่าอีกฝ่ายว่าเป็นควายแดง ควายส้ม อีกฝ่ายก็ด่ากลับมาว่าเป็นสลิ่ม

    โดนแปะป้าย โดนเอาตราฝักฝ่ายมาแปะ เสียฐานแฟนคลับ เสียฐานลูกค้าผู้ชมไปอีก ดาราไทยเขาหลายคนเขาเลยไม่ค่อยอยากออกตัวเรื่องการเมืองกัน เรื่องการเมืองมันเลยกลายเป็นของแสลงสำหรับบางคนไปน่ะ เพราะเขากลัวจะถูกเกลียด จากการที่สังคมมันมีภาวะการแยกฝักฝ่าย Factionalism สูง

    ถ้าเลือกได้เขาก็เลยอยากจะหลีกเลี่ยงไปเลย ผมก็เข้าใจตรงนี้ของปู ไปรยานะ ว่าทำไมเขาไม่ค่อยอยากยุ่ง อีกอย่างคุณดูสภาพสังคมไทยตอนนี้ก่อนสิ คนในวงการบันเทิงมีทัศนคติทางการเมืองเป็นอย่างไร บริบทของวงการบันเทิงไทยนั้นเป็นอย่างไร

    เคยลองสังเกตไหมว่า ชนชั้นนำในวงการบันเทิงไทย เขาเอนเอียงไปทางไหน กลุ่มนายทุนโฆษณา กลุ่มนายทุนช่อง กลุ่มผู้บริหารช่องทีวี ผู้บริหารสื่อกลุ่มต่างๆเขาเอนไปหาใคร และเขามีเครือข่ายคอนเนคชั่นผูกโยงกับใคร เอาง่ายๆลองดูดาราผู้ใหญ่หลายๆคนก็น่าจะเห็น และสะท้อนได้ดีว่าวงการบันเทิงมันเอนไปทางขั้วไหนมากกว่า

    ดาราตัวเล็กตัวน้อย ดาราที่ยังไม่มีอาวุโส ไม่มีวัยวุฒิ คุณวุฒิแก่กล้ามากพอในวงการบันเทิงก็ไม่แปลกที่เขาจะปิดปากตัวเอง หรือ เซนเซอร์ตัวเอง อย่าลืมว่าวงการบันเทิงมันมีวัฒนธรรม “เด็กดี” อยู่ ดาราคนไหนทำตัวน่ารักในสายตาผู้ใหญ่ งานก็ป้อนเข้ามาเรื่อยๆ ใครที่เรื่องมากๆหรือทำตัวไม่น่ารักในสายตา “ผู้ใหญ่” ก็อาจจะอยู่ไม่ได้

    ถ้าอ่านข่าวกอสซิปดาราบ้างก็คงเคยผ่านตานะครับ ว่ามันมีวัฒนธรรมการแบนดาราที่ทำตัวไม่น่ารักในหมู่นักข่าว ในหมู่กองถ่ายละคร กองถ่ายหนังอยู่จริงๆ ฉะนั้นดาราคนไหนที่เขาไม่เคยแสดงออกความคิดเห็นทางการเมืองเลย ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพราะเขาก็คงมองความจริงและบริบทในส่วนนี้อยู่ จึงเลือกที่จะสงวนท่าทีเอาไว้ไม่พูดไรมาก

    เขาก็ทำมาหากิน ดาราก็คนเหมือนมนุษย์ทั่วๆไปนั่นแหละ มีการรักตัวกลัวตาย ไม่ค่อยมีใครอยากจะทุบหม้อข้าวตัวเองทิ้ง วงการนี้นายทุนเป็นใหญ่ครับ ส่วนดาราคนไหนที่มั่นใจ หรือมีฐานดีๆมีลู่ทาง มีช่องทางทำมาหากินทางอื่น ก็อาจจะกล้าออกมาแสดงออกได้ แต่ต้องคำนึงถึงข้อจำกัดของแต่ละคนด้วยว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทำได้

    อีกอย่างคือ เป็นดาราเขาอยู่ในที่สว่างนะครับ เสียงที่เขาพูดออกมานั้นดังก็จริง แต่เขาก็สามารถตกเป็นเป้าในการโจมตีง่ายด้วยเช่นเดียวกัน เขาไม่ได้ใช้แอคเคาท์ปลอม บัญชีปลอมสร้าง Facebook สร้าง Twitter ใส่รูปการ์ตูนเอาไว้ด่าการเมืองเล่นๆโดยที่ไม่มีราคาที่ต้องจ่าย อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ ใครคุมอำนาจการเมืองไทยอยู่ก็น่าจะเห็น

    การจะออกมาเรียกร้อง หรือออกตัวเรื่องการเมืองเต็มตัว เรียกร้องอะไรนั้นอาจส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานและ “ชีวิต” เขาด้วย มันก็ต้องมีการลังเลกันบ้าง และถ้าเลือกได้เขาก็คงไม่อยากเอาตัวเองมาเสี่ยงให้มันเสียหาย เรื่องแบบนี้ต้องให้คนที่พร้อมจะดีกว่าครับ คนที่ไม่พร้อมก็อย่าไปบังคับ ไปบีบอะไรเขา ปัจจัยข้อจำกัดในชีวิตแต่ละคนไม่เท่ากัน

    สุดท้ายคือเรื่องตำแหน่ง UNHCR Goodwill Ambassador หรือทูตสันถวไมตรี ที่สหประชาชาติมอบให้แก่ปู ไปรยา ผมอยากจะบอกว่ามันเป็นตำแหน่ง “PR” และ PR ย่อมาจาก Public Relations หมายถึงการประชาสัมพันธ์ การเผยแพร่ การส่งต่อและกระจายข่าวสาร

    เป็นตำแหน่งที่มีฐานอยู่บนหน้าตาเหมือนระบบ Brand Ambassador ในทางการตลาดเท่านั้น ไม่ได้มีสถานะใหญ่โต เทียบเท่าคนที่เป็นทูต เป็นเอกอัครราชทูตจริงๆ มันต่างกันมาก แค่ใช้คำคำเดียวกัน อันนี้ต้องทำความเข้าใจกันใหม่นะครับ ทูตสันถวไมตรีไม่ได้มีอำนาจอะไร มีแค่อำนาจทางด้านหน้าตา และบุคลิก

    เอาไว้ใช้ในภารกิจการโฆษณา การ PR การรณรงค์ การส่งต่อสารรูปแบบต่างๆ ตามแต่องค์กรจะส่งหัวข้อ หรือธีมของงานมาให้ ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่ไม่มีอำนาจของทูตจริงๆในเชิงระบบ ไม่มีอำนาจการตั้งคณะกรรมการอะไรน่ะครับ อย่าง Angelina Jolie ที่เขาพอจะมีอำนาจขยับขยายอะไรได้ อันนั้นคือ เขาเป็นทั้ง Goodwill Ambassador

    และมีตำแหน่งเป็น Special Envoy ของสหประชาชาติด้วย อันนี้ต่างหากที่จะพอช่วยให้ Jolie เขามีอิทธิพลในเชิงระบบมากขึ้น เพราะเป็นคนกลางระหว่างคนทำงานภาคสนาม และฝ่ายการเมือง นี่ผมแจงไว้เป็นเกร็ดความรู้เฉยๆนะครับ มันเป็นเรื่องของระบบการทำงานในระดับการต่างประเทศ

    ที่สำคัญนะครับ อย่าไปคาดหวังอะไรกับสหประชาชาติ และองค์กรอย่าง UNHCR ใครที่ติดตามการเมืองระหว่างประเทศมาก็คงทราบความจริงข้อนี้ดีว่า UN เป็นองค์กรเสือกระดาษ ไม่มีอำนาจในการ Take action หรืออำนาจในการจัดการปัญหาต่างๆบนโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพจริง

    ดูอย่างองค์กรอนามัยโลก (WHO) ก็ได้ออกแถลงการณ์เตือนเรื่องไวรัส COVID-19 แบบผิดๆถูกๆไม่แน่นอน เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เอายกตัวอย่างที่ใกล้ตัวกว่านี้อีกนิดก็ได้คือเรื่องโรฮิงญา สหประชาชาติทำอะไร หรือช่วยเหลืออะไรได้หรือไม่ ล่าสุดส่งผู้ตรวจการณ์ และผู้สังเกตการณ์ลงพื้นที่ไปดูในพม่า เพื่อทำวิจัย ทำรายงาน

    ว่าพม่าทำผิดอะไรบ้าง ใครทำร้ายโรฮิงญาบ้าง สุดท้ายก็คลอดรายงานฉบับที่เรียกว่า UN Fact-Finding Report ออกมา แต่แล้วไงต่อ ก็ไม่มีอะไรต่อ ทำอะไรไม่ได้ ถ้ารัฐบาลประเทศพม่าเขาไม่เอาด้วย ใดๆก็ตามของพวกนี้ตบมือข้างเดียวไม่ดัง การที่องค์กรอย่างสหประชาชาติจะเข้าไปปฏิบัติการอะไรในประเทศเป้าหมาย

    ถ้าไม่มีประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาออกตัวหนุนหลัง หรือออกใบสั่งให้ทำ ก็แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย ในไทยยิ่งแล้วใหญ่ ถ้ารัฐบาลไทยไม่หือไม่อือด้วย ใครจะทำอะไรได้ สิ่งที่องค์กรพวกนี้ทำได้ก็แค่รณรงค์ ประชาสัมพันธ์ ผลักดัน แต่ก็ต้องดูบริบทด้วยว่ามีข้อจำกัดตรงไหนบ้าง

    การทำงานด้านสิทธิมนุษยชน การทำงานด้านการเรียกร้องสันติภาพ การทำงานด้านการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมมันไม่ได้ทำให้สำเร็จกันได้ง่ายๆครับ ต้องใช้เวลา ต้องใช้เงินทุน ต้องมีปัจจัยหลายๆอย่าง ในขณะเดียวกันก็มีข้อจำกัดระหว่างทางเกิดขึ้นด้วย

    ผมเข้าใจนะว่า การช่วยเหลือผู้ลี้ภัย งานอะไรเหล่านี้มันหลีกเลี่ยงความเป็นการเมืองได้ยาก แต่เราต้องพิจารณาเอาจากตัวแปรหลายๆชุด งานนี้มันไม่ได้หยุดแค่ที่สหประชาชาติ ถ้าคุณเป็นดารา เป็น Ambassador ด้านนี้ไปรณรงค์ที่ไหนก็ตาม หลังการรณรงค์เสร็จสิ้น คุณก็ต้องกลับบ้าน กลับฐานตัวเองอยู่ดี

    คุณอาจจะมีสิทธิพูดบนเวทีโลก เวทีต่างประเทศ แต่เมื่อกลับมาอยู่ที่ไทย บริบทมันเปลี่ยนเลยนะ เอาปัจจัย และเงื่อนไขของเวทีระหว่างประเทศมาอ้างไม่ได้ อยู่ไทยก็จะเจอบริบทสภาพแวดล้อมแบบไทย ข้อจำกัดจากสังคมไทย ซึ่งมันแตกต่างกันลิบ ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรที่ปู ไปรยาเขาจะพยายามหลีกเลี่ยงเรื่องการเมืองให้มากที่สุด

    ถามว่าปูผิดไหม ก็คงอาจจะผิดที่ไม่สามารถทำงานได้ตามชื่อตำแหน่งที่ตัวเองได้รับในฐานะ UNHCR Goodwill Ambassador คนก็เลยคาดหวังกันกับปู ไปรยาว่าจะออกมาเป็นกระบอกเสียงให้แก่ผู้ลี้ภัย แต่ถ้าหันกลับมามองในสภาพความเป็นจริงมันก็ยากอยู่นะครับ มันมีข้อจำกัดเยอะ

    พูดไปแล้วจะโดนอะไร พูดไปแล้วเสียฐานแฟนคลับไหม พูดไปแล้วต้องจ่ายค่าเสียโอกาสอะไรในชีวิตบ้าง พูดแล้วจะมีความเสียหายต่อชีวิตและหน้าที่การงานตัวเองไหม คือมันเป็นเรื่องที่ยากนะครับ การที่คนเราจะออกมาเดินงานเรื่องการเมืองด้วยตัวเองเต็มตัวแบบนักการเมือง นักเคลื่อไหวต่างๆเนี่ย

    คนไม่พร้อมเขาก็คงไม่พร้อมจริงๆ คำแนะนำของผมก็คือ อย่าไปคาดหวังอะไรกับเขามาก เขาก็คนเหมือนเรา คนธรรมดาๆที่มีรายจ่ายในชีวิตประจำวัน มีครอบครัวต้องเลี้ยงดู มีธุรกิจที่ต้องดูแล มีร้านรวงที่ต้องพึ่งพาสังคม ต้องพาฐานลูกค้านั่นแหละ

    ** พูดง่ายๆก็คือปู ไปรยาไม่ได้เป็นรับแค่ตำแหน่งทูตสันถวไมตรีแค่ตำแหน่งเดียวในชีวิตไงครับ ถอดหมวกทูตแล้ว เขาก็อาจจะไปสวมหมวกแม่ค้าขายของ เจ้าของธุรกิจ บทลูกจ้าง บทดารา นักแสดงอะไรต่างๆนานา

    อย่างไรก็ดี ผมไม่ปฏิเสธ หรือแย้งนะ ว่างานด้านสิทธิมนุษยชนมันงานที่คาบเกี่ยวกับการเมืองจริงๆ แต่ก็อย่างว่าแหละ มันก็มีปัจจัยและข้อจำกัดเรื่องราคาที่ปูต้องจ่าย แบบไหนมันคุ้ม หรือแบบไหนมันไม่คุ้มค่าก็อยู่ที่ตัวของปู ไปรยาครับ เขาก็คงเลือกทางที่ดีที่สุดให้แก่ตนเอง และเดือดร้อนตนเองน้อยที่สุด

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จากการที่มีการแชร์ข่าวประเด็น "ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากแป้งและเนื้อสัตว์หากใช้กับหม้อทอดไร้น้ำมันอาจเสี่ยงต่อมะเร็ง" จนเกิดความตื่นตระหนกจากผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก ล่าสุด แฟนเพจ @กรมการแพทย์ ได้ออกมาเผยแพร่ข้อมูลจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ยืนยัน การใช้ "หม้อทอดไร้น้ำมัน" ปรุงอาหารไม่ใช่สาเหตุของโรคมะเร็ง ชี้ไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์ใด หากใช้ความร้อนนานก็ก่อมะเร็งคล้ายปิ้งย่างได้

    นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า การทำงานของหม้อทอดไร้น้ำมันจะใช้หลักการเป่าลมร้อนดึงความชื้นออกจากอาหารเพื่อให้อาหารสุกและกรอบคล้ายกับการทอดในน้ำมัน (deep-fried) สำหรับประเด็นการเกิดสารก่อมะเร็ง เช่น สารอะคริลาไมด์ (acrylamide) จากการปรุงอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตหรืออาหารที่มีแป้งเป็นส่วนผสม หรือการเกิดสารกลุ่ม polycyclic aromatic hydrocarbons และสารกลุ่ม heterocyclic amines ที่เกิดจากการปรุงอาหารประเภทเนื้อสัตว์ นั้น ในความเป็นจริงสารเหล่านี้เกิดขึ้นจากกระบวนการทอด ปิ้ง ย่าง อบ หรือวิธีใด ๆ ที่ใช้อุณหภูมิสูงเป็นระยะเวลานาน ดังนั้น “ไม่ว่าเราจะใช้อุปกรณ์ชนิดใดปรุงอาหาร หากใช้ความร้อนสูงเป็นเวลานาน ก็อาจส่งผลให้เกิดสารก่อมะเร็งเหล่านี้ปนเปื้อนสู่อาหารได้เช่นเดียวกัน เช่น การปิ้ง ย่างเนื้อสัตว์ที่ไหม้เกรียม การอบหรือทอดมันฝรั่งหรืออาหารที่มีแป้งเป็นส่วนผสมจนกรอบและเป็นสีน้ำตาลเข้ม เป็นต้น”

    ด้าน นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เผยเพิ่มเติมว่า ข่าวที่ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวนี้เป็นข่าวปลอม ประชาชนไม่ควรตระหนกจนเกินเหตุ และแนะนำว่า ควรบริโภคอาหารที่ปรุงด้วยความร้อนระดับปานกลางและใช้ระยะเวลาสั้น ๆ ส่วนอาหารประเภทเนื้อสัตว์ก็ไม่ควรปิ้ง ย่างจนไหม้เกรียม การลวกมันฝรั่งก่อนการทอดจะช่วยลดการเกิดสารอะคริลาไมด์ได้ และสิ่งสำคัญเราควรบริโภคอาหารให้หลากหลาย โดยใช้วิธีปรุงด้วยการต้มหรือนึ่ง รวมทั้งรับประทานอาหารประเภทผักผลไม้ให้มากขึ้น จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน

    #roundtablethailand
    Roundtablethailand.com
    #หม้อทอดไร้น้ำมัน
    #airfryer

    ที่มา https://www.dailynews.co.th/regional/778488

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ยอดผู้ติดเชื้อCovidทั่วโลกทะลุ7ล้าน
    #แอบส่องวิธีแก้ปัญหาแนวใหม่ของบราซิล

    วันนี้ 7 มิถุนายน เป็นวันที่โลกต้องจารึกอีกครั้งเมื่อยอดผู้ติดเชื้อ Covid-19 ทั่วโลก ทะลุ 7 ล้านคน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตก็ผ่านหลัก 4 แสนคนในวันเดียวกัน

    ถึงแม้หลายประเทศเริ่มผ่อนปรนมาตรการล็อคดาวน์ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจกันแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ การแพร่ระบาดของ Covid-19 ในระดับโลกยังน่าเป็นห่วง และการ์ดตกไม่ได้เด็ดขาด

    แต่ทว่า หนึ่งในประเทศที่ปัญหา Covid-19 ยังติดอันดับโลก และเป็นที่จับตามองด้วยความพิศวง ในนโยบายของผู้นำประเทศ ที่เรามักจะหยิบยกขึ้นมาคุยกันด้วยความงงเล็กน้อย แต่ไม่เข้าใจหนักมาก ก็คือ บราซิล

    ณ วันนี้ บราซิลมียอดผู้ติดเชื้อรวมทั้งหมดกว่า 670,000 คน และเสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 36,000 คน และมี Active Case ที่ยังรักษาตัวอยู่มากกว่า 3 แสน ยอดติดเชื้อรายวันยังเป็นขาขึ้น ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย

    ด้วยยอดตัวเลขที่สูงขนาดนี้ ท่านประธานาธิบดีบราซิล ชาร์อี บอลโซนาโร แกก็ยังยืนยันที่จะผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ให้ได้ แม้จะต้องงัดกับเหล่าผู้ว่าการรัฐต่างๆ แกก็ไม่สน ด้วยเหตุผลที่แกเชื่อว่า ยังไงปากท้องของชาวบ้านก็สำคัญกว่า

    ซึ่งเป็นนโยบายที่ขอแทงสวน ตามมุมมองของชาวโลกทั่วไปที่คิดว่า การผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ เขาจะใช้ก็ต่อเมื่อสามารถกระทืบกราฟผู้ติดเชื้อขาขึ้น ควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้วไม่ใช่หรือ แต่นี่กราฟของบราซิลยังพุ่งทะยาน มาตรการล็อคดาวน์ยังไม่เห็นผล แกจะปลดล็อคแล้ว โดยยึดแนวเศรษฐกิจนำ Covid

    ก็เลยทำให้ Covid นำบราซิล มาติดอยู่ในอันดับ 2 ของโลก เป็นรองเพียงแค่สหรัฐอเมริกา

    มาวันนี้ ท่านประธานาธิบดี ชาร์อี แกก็มีวิธีแก้ปัญหาเรื่องไวรัสโคโรน่าในประเทศวิธีใหม่ ด้วยการปิดเว็บไซท์รายงานยอดรวมตัวเลขผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตในประเทศเสีย แล้วเปิดใหม่ รายงานเพียงตัวเลขผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตเป็นรายวันแค่นั้นพอ

    โดยท่านประธานาธิบดีชาร์อี ให้เหตุผลว่า ยอดผู้ติดเชื้อรวม มันไม่ได้สะท้อนสถานการณ์จริงในประเทศ และมีบางเมือง ที่แจ้งยอดผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตสูงเกินจริง อาจทำให้ประชาชนสับสน

    ดังนั้นประชาชนรู้ข้อมูลแค่ผู้ติดเชื้อรายวันในรอบ 24 ชั่วโมงก็พอแล้ว

    ส่วนกระทรวงสาธารณสุข ที่เคยมีคุณหมอเป็นรัฐมนตรีถึง 2 คน ในช่วงวิกฤติไวรัสโคโรน่า คนแรกโดนปลดออก คนที่ 2 ลาออก ตอนนี้ท่านประธานาธิบดีเลยส่งทหารมาคุมกระทรวงหมอแทน ชื่อ นายพล Eduardo Pazuello

    เรื่องนี้มีหลายฝ่ายออกมาคัดค้านว่า การปิดบังตัวเลขยอดรวม จะยิ่งเป็นอันตรายต่อการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาให้สถานการณ์ดีขึ้นเลย

    ปัญหายังอยู่เหมือนเดิม แค่ตัวเลขรายงานแต่ละวันมันดูน้อยลง จะได้ไม่เครียดเท่านั้นเอง

    เป็นไอเดียการแก้ปัญหาที่สมกับเป็นประธานาธิบดีสายชิลล์จริงๆ แต่ฟังแล้วเครียดแทนคนบราซิลในประเทศจริงๆนะคะ

    แหล่งข้อมูล

    https://www.france24.com/en/2020060...s-of-covid-19-data-hiding-toll-as-deaths-soar

    https://www.theguardian.com/world/2...-case-totals-from-brazils-coronavirus-updates

    https://www.aljazeera.com/news/2020...ears-400000-live-updates-200606234426549.html

    https://www.telesurenglish.net/news...razils-New-Health-Minister-20200516-0004.html

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตำรวจสัตหีบ บุกรวบพระสงฆ์-สามเณรวัดดัง จ.เชียงราย เหมารถตู้มาเช่าบ้านพักตากอากาศริมทะเลบางเสร่ สลัดผ้าเหลืองจัดปาร์ตี้ริมสระน้ำ พร้อมฆราวาสชายหญิง 21 คน อ้างเตรียมใจสึกจากความเป็นพระมาก่อนแล้ว

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000059054
    ………………………………
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทุกอย่างเป็นแค่แผนคาดการณ์ เรื่องเปิดตุลาคมเช่นกัน ตอนนี้ไม่มีข่าวว่าไต้หวันเปิดประเทศ โปรดตรวจสอบที่มาให้ชัดเจนค่ะ หรือสอบถามสถานฑูตไต้หวันชัวร์ที่สุด ‼️

    ไต้หวันแค่วางแผน3 ระดับออกมา เป็นแค่แนวทาง และคาดไว้ตุลาคมน่าจะเปิดมีการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ทุกอย่างแค่แนวทางคาดการณ์ ต้องรอประกาศทางการอีกทีนะคะ

    ถึงแม้ไต้หวันจะไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศ 55 วันติดกัน ไต้หวันก็ยังไม่ผ่อนคลายใดๆ ทุกคนยังใส่หน้ากากอนามัย และให้เที่ยวในประเทศ ไม่แนะนำให้ไปพื้นที่เสี่ยง ให้รักษาระยะห่างเหมือนเดิมถ้าทำได้ ทุกคนเข้ามาไต้หวันก็ยังคงต้องกัก14วันเช่นเดิม

    สายการบินและสนามบินในไต้หวันไม่มีการปิด เพราะยังคงนำคนไต้หวันติดค้างกลับมา เที่ยวบินเข้าออกได้ปกติ ส่วนใหญ่เป็นคาร์โก้ เพราะสายการบินเองที่เปลี่ยนจากขนส่งคนเป็นคาร์โก้ คนที่จะเข้าไต้หวันได้ปัจจุบันคือ คนไต้หวัน คนต่างชาติที่มีวีซ่าออกโดยสถานฑูตไต้หวัน คู่สมรสชาวไต้หวันที่ถือบัตรกาม่า เป็นต้น

    หากคุณไม่แน่ใจว่าตัวคุณจะเข้าไต้หวันได้หรือไม่ โปรดติดต่อสถานฑูตไต้หวันค่ะ แอดว่าได้คำตอบที่ชัวร์แน่นอนกว่าถามเพจอย่างแอดนะคะ

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มีน้องท่านนึงโทรไปถามสถานฑูตไต้หวันมาเเล้วนะคะ เพราะน้องต้องการไปเรียนภาษาที่ไต้หวันต่อเทอมหน้า ทางสถานฑูตตอบมาว่า ไม่รับทำวีซ่าทุกประเภทช่วงนี้นะคะ จนกว่าทางรัฐบาลจะมีประกาศทางการออกมานะคะ

     

แชร์หน้านี้

Loading...