ติดตามสถานะการณ์

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา WHO ได้เพิ่มเติมข้อมูลในแนวทางการรับมือโรค COVID-19 คือการแนะนำให้ผู้คนสวมหน้ากากอนามัยเมื่อเข้าไปในพื้นที่ที่ไวรัสกำลังแพร่ระบาดและที่ที่ไม่สามารถรักษาระยะห่างทางสังคมได้สะดวก ก่อนหน้านี้ WHO ระบุว่าไม่มีหลักฐานยืนยันว่าผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงดีสามารถป้องกันการติดเชื้อได้โดยการสวมหน้ากากอนามัย | ที่มาภาพประกอบ: Unsplash/Jérémy Stenuit (อ้างใน UN News - the United Nations) https://bit.ly/3f8JCZd

อ่านเพิ่มเติมใน 'จับตา: สถานการณ์ COVID-19 ประจำสัปดาห์ 31 พ.ค.-6 มิ.ย. 2020' https://www.tcijthai.com/news/2020/07/watch/10469

 

สมาคมการค้าพืชไร่เผยนำเข้าข้าวโพดพม่า ก.พ.-มี.ค. 2563 ปริมาณมากกว่าทั้งปี 2562

สมาคมการค้าพืชไร่เผยไทยนำเข้าข้าวโพดพม่า เดือน ก.พ.-มี.ค. 2563 ปริมาณ 692,899 ตัน สูงกว่าการนำเข้าข้าวโพดทั้งปี 2562 ที่มีปริมาณ 588,514 ตัน

https://www.tcijthai.com/news/2020/6/current/10439

 

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา แคนาดา จะลงทุนเป็นเงิน 21.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อให้มณฑลและเขตการปกครองต่าง ๆ ส่งเสริมให้ประชาชนใช้เวลาในช่วงวันหยุดพักผ่อนที่สนามหลังบ้านของตนเอง เนื่องจากแคนาดาปิดพรมแดนเพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 | ที่มาภาพประกอบ: CHRISTINNE MUSCHI/REUTERS (อ้างใน Globe and Mail) https://tgam.ca/36MAWEN

อ่านเพิ่มเติมใน 'จับตา: สถานการณ์ COVID-19 ประจำสัปดาห์ 31 พ.ค.-6 มิ.ย. 2020' https://www.tcijthai.com/news/2020/07/watch/10469

 

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา อังกฤษ เริ่มผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง แม้มีเสียงเตือนว่าเร็วเกินไป เนื่องจากสถานการณ์โรคติดเชื้อ COVID-19 ระบาดในอังกฤษยังไม่ดีขึ้น โดยอนุญาตให้โรงเรียนบางแห่งเปิดอีกครั้งหลังจากปิดไปนานถึง 10 สัปดาห์ ให้คนรวมตัวในที่สาธารณะได้ไม่เกิน 6 คน ให้เปิดตลาดนัด จัดการแข่งขันกีฬาโดยไม่มีคนดู และจะให้กลุ่มเสี่ยงที่สุดกว่า 2 ล้านคนออกไปใช้เวลานอกบ้านได้ | ที่มาภาพ: Sky News https://bit.ly/2MhyYCO

อ่านเพิ่มเติมใน 'จับตา: สถานการณ์ COVID-19 ประจำสัปดาห์ 31 พ.ค.-6 มิ.ย. 2020' https://www.tcijthai.com/news/2020/07/watch/10469

 

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ย้ำด่านพรมแดนมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 ยังปิดตามมาตรการเข้ม COVID-19 เตือนแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงาน-ยังกลับไม่ได้อย่าเชื่อเด็ดขาดกลุ่มแอบอ้างเปิดด่านแล้ว หลังพบตกเป็นเหยื่อหลายคนสูญเงินไปรายละ 1,500 บาท | ที่มาภาพ: สำนักข่าวไทย https://bit.ly/3gLQptf

อ่านเพิ่มเติมใน 'จับตา: สถานการณ์ COVID-19 ประจำสัปดาห์ 31 พ.ค.-6 มิ.ย. 2020' https://www.tcijthai.com/news/2020/07/watch/10469

 

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา อิตาลี ที่มีผู้ป่วยโรคติดเชื้อ COVID-19 เป็นประเทศแรกในยุโรป เปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวในภูมิภาคแล้วในวันที่ 3 มิ.ย. นี้ หลังจากปิดเมืองไปนาน 3 เดือน โดยหวังจะใช้การท่องเที่ยวกอบกู้เศรษฐกิจประเทศในช่วงเข้าสู่ฤดูร้อน | ที่มาภาพ: Tiziana Fabi/AFP (อ้างใน thelocal.it) https://bit.ly/3dyUijl

อ่านเพิ่มเติมใน 'จับตา: สถานการณ์ COVID-19 ประจำสัปดาห์ 31 พ.ค.-6 มิ.ย. 2020' https://www.tcijthai.com/news/2020/07/watch/10469

 

3 นาทีคดีดัง : เรื่องจริง “ลัดดาแลนด์” ดินแดนแห่งปณิธาน (คลิป)
“ลัดดาแลนด์” สถานที่เที่ยวสุดฮิตเมื่อราว 50 ปีก่อน ที่วัยรุ่นเชียงใหม่ทุกคนต้องไปสัมผัส แต่ใครจะคิด เมื่อเวลาผ่านไป คำว่า “ลัดดาแลนด์” กลับกลายเป็นคำที่ทำให้เรานึกถึงเรื่องผี..
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

โอนเยียวยาเกษตรกรแล้ว 3.5 หมื่นล้านบาท ยัน รัฐบาลเร่งช่วยแก้ปัญหาหนี้
รองโฆษกรัฐบาล เผย “จุรินทร์” เคาะ 4 แนวทางช่วยแก้ปัญหาหนี้เกษตรกร โว โอนเงินเยียวยาเกษตรกรแล้ว 7.1 ล้านราย 3.5 หมื่นล้านบาท
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

วิกฤตว่างงาน ! สวนดุสิตโพล เผย ประชาชนอยากให้มีการจ้างงานจากรัฐ

สถานการณ์ด้านแรงงานปี 2563 กรณีปัญหาการว่างงาน ตกงาน และถูกเลิกจ้าง ซึ่งคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้สาเหตุสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อปัญหาดังกล่าว นอกจากวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจที่ตกต่ำแล้ว การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญอีกประการหนึ่งเช่นเดียวกัน

เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ กรณี “ระดมความคิดแก้วิกฤตว่างงาน” จำนวนทั้งสิ้น 1,038 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 1-5 มิถุนายน 2563 สรุปผลได้ ดังนี้

ภาพโดย Leon Gerardo Cholula จาก Pixabay

The post วิกฤตว่างงาน ! สวนดุสิตโพล เผย ประชาชนอยากให้มีการจ้างงานจากรัฐ appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

หม่อมถนัดแดก ไลฟ์แจง หลังปิดตัวร้านข้าวแกงหลายสาขา เผยถูกบูลลี่หนัก

ก่อนหน้านี้ จากรณีข่าว หม่อมถนัดแดก หรือ เสก สหัสวรรษ ชอบชิงชัย เจ้าของร้านข้าวแกงถนัดแดก และ ยูทูปเบอร์ชื่อดังรายหนึ่ง ได้มีการประกาศผ่านเฟซบุ๊กปิดกิจการร้านข้าวแกงถนัดแดกถึง 6 สาขาพร้อมกัน โดยสาขาที่ยังเหลืออยู่เปิดให้บริการตามปกติ ทั้งนี้สาขาที่จำเป็นต้องปิดตัวลงได้แก่ ศาลายา ,แปดริ้ว ,สิงห์บุรี ,มหาชัย ,พารากอน และเอ็มโพเรียม

โดยล่าสุดช่วงเช้าของวันนี้ (7 มิ.ย. 63) หม่อมถนัดแดก ได้มีการไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก เพจหม่อมถนัดแดก อีกครั้งเพื่ออธิบายถึงสาเหตุของการปิดทั้ง 6 สาขาพร้อมระบุว่า สาขาที่ปิดเป็นสาขาที่อยู่ในห้างซึ่งทางร้านเองก็เปิดให้บริการไม่ทัน เพราะช่วงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ตนต้องปิดสาขาไปเยอะถึง 18 สาขา เหลือไว้เพียง 1 สาขาเท่านั้น และต้องมีการปรับปรุงร้านใหม่ ทำเมนูอาหารใหม่ ทบทวนปัญหา และสิ่งผิดพลาดต่างๆ

อีกทั้งยังมีการเทรนนิ่งบุคลากรภายในร้านใหม่ทั้งหมด รวมถึงเงินทุนที่เป็นสาเหตุให้ต้องทำการปิดแต่ละสาขาลงไปเรื่อยๆ บางสาขาก็หมดสัญญา หรือค่าเช่า ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุให้จำเป็นต้องปิดสาขาของร้านข้าวแกงถนัดแดกลงไปถึง 6 สาขาด้วยกัน

ด้านประเด็นดรามาที่เกิดขึ้นนั้น ตนเองก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร การปิดร้านอาหารแต่ละสาขาก็ทำตามระเบียบถูกต้องทั้งหมด มีการขอใบอนุญาต และประกอบธุรกิจด้วยความสุจริตมาตลอด ขึ้นทะเบียนบริษัท เสียภาษีก็ถูกต้อง

“ผมไม่ว่าเรื่องที่คนบอกว่าอร่อยหรือไม่อร่อย เพราะขึ้นอยู่กับลิ้นคน เรื่องแพงก็เช่นกัน มูลค่าไม่เท่ากันในกระเป๋า ย้ำว่าไม่ว่าในเรื่องไม่อร่อย อาหารแพง ไม่เคยว่าเรื่องนี้” นายสหัสวรรษ กล่าว

แต่กลับเกิดปัญหา “การใส่ร้ายใส่ความ พูดเกินความจริง” ซึ่งการวิจารร์ต้องอยู่บนความจริงตามหลักกฎหมาย เรื่องอร่อยหรือไม่อร่อยก็เป็นการวิจารณ์โดยปกติ ซึ่งขึ้นกับความชอบของแต่ละบุคคล แต่ส่วนที่มีการโพสต์ข้อความว่า ต้องจัดการกับพวกปากไว มือไว ขอให้เก่งอย่างที่พิมพ์ไป ก็มีคนเข้ามาด่า บูลลี่ตน อีกทั้งใส่ร้ายป้ายสีร้าน บางคนก็กล่าวว่าอาหารจานละ 200 หรือ 500 บาท ซึ่งเรื่องเหล่านี้ทำให้กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ทีไม่เคยมาต่างเกิดความสงสัย ลังเล อีกทั้งชาวเน็ตบางคนกล่าวหาว่า ที่ร้านเอาอาหารเวฟมาขาย ซึ่งเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ บางคนก็บอกว่าที่ปิดไปเพราะเจ๊ง จึงเป็นเรื่องที่ต้องจัดการให้เด็ดขาด

“ข้าวแกง 50 บาทสำหรับผมๆ ว่าไม่แพง และคนที่ขายแพงกว่าผมก็มี เพียงแต่ผมเป็นคนที่มีตัวตนในโลกโซเชียล และทำรายการอาหาร ผมเองพูดจาตรงไปตรงมา พูดจาไม่เพราะ แต่ก็ไม่เคยพูดไม่ดีกับคนไม่รู้จัก ส่วนเรื่องราคาเจ้าหน้าที่รัฐก็เคยลงมาดูเห็นว่าราคาเป็นมาตรฐาน” นายสหัสวรรษ กล่าว

ทั้งนี้ หม่อมถนัดแดก ยังกล่าวต่ออีกว่า ตนไม่ว่าหากวิจารณ์อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง เรื่องไม่อร่อย ราคาแพงไม่ว่า แต่อย่ามาบูลลี่หน้าตา รูปร่าง หรือกล่าวหาร้านเกินจริง ซึ่งมีทีมทนายดูแลอยู่ และต้องการรักษาชื่อเสียงของร้านเอาไว้

ข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก หม่อมถนัดแดก

The post หม่อมถนัดแดก ไลฟ์แจง หลังปิดตัวร้านข้าวแกงหลายสาขา เผยถูกบูลลี่หนัก appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

ไฟป่าพรุบาเจาะเหลือแค่ 5% หลังฝนตกมาช่วย รอประเมินจะใช้ ฮ.ดับไฟหรือไม่
ไฟป่าพรุบาเจาะเริ่มคลี่คลายเหลืออีกแค่ 5% หลังมีฝนกระหน่ำ ด้านรองผู้ว่าฯ นราธิวาส เผยได้ข้อสรุปเย็นนี้ว่าต้องใช้เฮลิคอปเตอร์เฉพาะกิจดับเพลิงหรือไม่ ขณะที่ จนท.ภาคพื้นดินควบคุมดูแลใกล้ชิด
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

ขนมปิ้งโบราณ สูตรพิเศษตกทอดรุ่นสู่รุ่น จากอาหารพื้นบ้านสู่โอทอปประจำจังหวัด(มีคลิป)

จังหวัดอ่างทอง เป็นจังหวัดหนึ่งที่ผลิตขนมไทยโบราณมากมาย เริ่มมาจากที่ชาวบ้านทำขึ้นเพื่อบริโภคในครัวเรือน จนปัจจุบันมีขนมไทยโบราณหลายประเภท ได้กลายมาเป็นสินค้าแนะนำประจำจังหวัดอ่างทอง

“ขนมปิ้งแม่มะลิ ” โดย นางมะลิ ส้มแก้ว หมู่ที่ 3 ตำบลตรีณรงค์ อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทองก็เป็นขนมโบราณพื้นบ้านอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับการคัดเลือกเป็นสุดยอดผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอทอป) ของอำเภอไชโย

ด้วยประสบการณ์การทำขนมปิ้ง กว่า 10 ปี จนสามารถการันตีรสชาติความอร่อยได้ การทำขนมปิ้งแม่มะลิเป็นการทำในลักษณะของครอบครัว แต่มีอุปกรณ์ครบครันโดยใช้เตาอบขนาดใหญ่ เป็นเตาแก๊สมาใช้ปิ้งขนมแทนเตาไฟ ที่ใช้ถ่านไม้ เพราะเตาอบที่ใช้แก๊สสามารถปิ้งขนมได้ครั้งละหลายถาด

นางมะลิ ส้มแก้ว เจ้าของร้าน กล่าวว่า ขนมปิ้งที่ปิ้งออกมาขายพร้อมขนมหม้อแกง ออกขายได้วันละประมาณ 200 ถาด ราคาขนมปิ้ง ถาดเล็ก 10 บาท ถาดใหญ่ 35 บาท ขนมหม้อแกง ถาดเล็ก 10 บาท ถาดใหญ่ 40 บาท และขนมบ้าบิ่น กล่องละ 20 บาท ออกขายส่งให้แม่ค้าในตลาดสดอ่างทอง และแม่ค้าศูนย์อาหารในห้างสรรพสินค้า โดยจะนำส่วนหนึ่งไปขายปลีกตามตลาดนัดในอำเภอไชโย

ซึ่งนอกจากขนมปิ้ง ขนมหม้อแกงแล้วยังมี ขนมบ้าบิ่น ที่ทำส่งแล้วติดตลาดอยู่ ทั้งนี้ขนมปิ้ง ลักษณะเหมือนมะพร้าวแก้วใส่แป้งแล้วเอามาปิ้ง ซึ่งโบราณใช้ต้นกล้วยทำเตา แล้วนำสังกะสีมารองปิ้ง
สูตรขนมปิ้งแม่มะลิ มีมะพร้าว 4 กก. หรือประมาณ 10 ลูก ใช้มะพร้าวดำเนิน หรือทึนทึก คือมะพร้าวที่เริ่มจะแก่ น้ำตาลปี๊บ 1 กก. น้ำตาลทราย 2 กก. แป้งข้าวเหนียว 2 กก. แป้งข้าวเจ้า 1 กก. น้ำมันบัว ใช้สำหรับทาถาด ได้ขนมปิ้ง 30 ถาด

หากใครสนใจอยากลองชิมขนมปิ้งแม่มะลิ ร้านตั้งอยู่ที่ หมู่ 3 ตำบลตรีณรงค์ อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง โทร.086-1335437 และโทร.084-8821057

The post ขนมปิ้งโบราณ สูตรพิเศษตกทอดรุ่นสู่รุ่น จากอาหารพื้นบ้านสู่โอทอปประจำจังหวัด(มีคลิป) appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

ชาวสหรัฐฯร่วมปล่อยลูกโป่งระลึกถึง จอร์จ ฟลอยด์ ขณะที่การประท้วงยังคงดำเนินต่อเนื่อง
ชาวอเมริกันในรัฐมินนิโซตาร่วมกันปล่อยลูกโป่งหลากสี ระลึกการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ขณะที่การชุมนุมประท้วงในหลายพื้นที่ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

คนตกงานมากขึ้น เพราะโควิด ทำหนี้สินเพิ่ม เครียดมากขึ้น อยากให้รัฐช่วย
ประชาชนซัดโควิดระบาด ตัวการทำคนว่างงาน ก่อหนี้สินเพิ่มขึ้น ทำคนเครียดมีปัญหาสุขภาพจิต อยากให้ภาครัฐเพิ่มการจ้างงาน ลดภาษี
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

‘บิ๊กตู่’ สั่งกระทรวงแรงงาน เตรียมพร้อมแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ หลังโควิด 19 คลี่คลาย

แรงงานไทย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒนา โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ทำให้ช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ประเทศต่างๆ ทั่วโลกประสบปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว

แต่คาดว่ากิจกรรมด้านเศรษฐกิจจะกลับมาสู่สภาพปกติโดยเร็ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญกับผู้ใช้แรงงาน ซึ่งแรงงานไทยเป็นประเทศลำดับต้นๆ ที่ตลาดแรงงานในต่างประเทศต้องการ ทั้งในประเทศที่เป็นคู่เจรจาเดิม และที่เป็นที่นิยมของแรงงานไทย เช่น ไต้หวัน สาธารณรัฐเกาหลี มาเลเซีย ญี่ปุ่น อิสราเอล และในภูมิภาคอื่นทั่วโลกต่างยอมรับเรื่องความมีวินัย และทักษะฝีมือของแรงงาน ประกอบกับประเทศไทยมีการบริหารจัดการโรคโควิด 19 ได้เป็นอย่างดีจนเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ

ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีผู้แทนจากประเทศต่างๆ เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี เช่น เอกอัครราชทูตคูเวต ได้แจ้งความประสงค์ต้องการแรงงานไทยไปทำงานในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ

โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานร่วมกับภาคเอกชน เร่งเตรียมความพร้อมในการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศให้ได้รับประโยชน์สูงสุด ได้ทำงานอย่างมีศักดิ์ศรี มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีโอกาสได้รับการพัฒนาทักษะฝีมือ รวมถึงทักษะด้านภาษา ซึ่งหากการเดินทางระหว่างประเทศสามารถทำได้ตามปกติ สามารถจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศได้ทันที ให้ใกล้เคียงกับเป้าหมายจำนวน 100,000 คน ตามที่ตั้งเป้าไว้ คาดว่าจะทำให้มีรายได้เข้าประเทศกว่า 140,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ขอย้ำให้แรงงานไทยที่สนใจเดินทางไปทำงานต่างประเทศ เดินทางไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เตรียมร่างกาย และทักษะฝีมือไว้ให้พร้อม รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ

The post ‘บิ๊กตู่’ สั่งกระทรวงแรงงาน เตรียมพร้อมแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ หลังโควิด 19 คลี่คลาย appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

เรื่องเล่าจากดำรง : หมอนวดไทยในดูไบ ครวญ สถานที่นวดบางแห่ง เป็นเหมือนนรก

ท่านผู้อ่านทั้งหลาย อาจจะสงสัยว่า ทำไมเรื่องเล่าของผม มักจะมีแต่เรื่องหมอนวดไทย ขอตอบได้เลยว่า หมอนวดไทยส่วนใหญ่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต่างก็เป็นแฟนหนังสือคู่สร้างคู่สม และรู้สึกคุ้นเคยกับผม ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือ หรือบางคนก็เป็นแฟนรายการโทรทัศน์ของผม พวกเธอจึงมีความรู้สึกว่า เมื่อมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ คนหนึ่งที่จะสามารถรับฟังเธอได้ ก็คือตัวผมนั่นเอง

อีกอย่างหนึ่งเพราะเธอรู้จากหนังสือคู่สร้างคู่สมว่า ผมเป็นผู้แนะนำ และบุกเบิกเมืองดูไบให้คนไทยได้รู้จัก ผ่านสื่อทั้งหมดของผม ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ และคู่สร้างคู่สม ในอดีต

เมื่อเร็วๆ นี้ มีหมอนวดแผนโบราณของไทย ได้เข้าไปทำงานเป็นหมอนวด และเป็นการไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีเอกสารสัญญากับนายจ้างอย่างเรียบร้อย

แต่พอไปทำได้ไม่นาน เธอก็ต้องกระเสือกกระสน ดิ้นรนหาทางกลับประเทศไทย ซึ่งกว่าจะกลับได้ก็แสนยากลำบากเธอเล่าให้ฟังด้วยน้ำตาว่า

อยากจะขอระบายถึงความเดือดร้อนในช่วงโควิดระบาด ทางร้านให้หน้ากากอนามัย ปิดจมูกหนึ่งผืน แต่ให้ใช้นานถึงห้าวัน แล้วรีไซเคิลเอามาใช้ใหม่

ในแต่ละวันต้องทำงานหนักมาก เงินเดือนประมาณ 26,000 บาท มีที่พักให้ เป็นห้องอยู่ร่วมกันแปดคน มีเตียงสองชั้น แต่มีห้องน้ำเพียงห้องเดียว ซึ่งมีรายจ่ายค่าห้องพัก ค่าไฟค่าน้ำ ค่าอินเทอร์เน็ต

เมืองดูไบอากาศร้อนแทบจะตับแตก แต่ในห้องพัก ห้ามเปิดเครื่องปรับอากาศ พาสสปอร์ตนายจ้างก็ยึดไว้

สรุปค่าใช้จ่ายมากกว่าเงินเดือนที่ได้รับ ต้องประหยัด ด้วยการกินข้าววันละหนึ่งมื้อ หนูเดือดร้อนมาก จำได้ว่าเคยอ่านคอลัมน์ดำรงตอบจดหมาย ที่คุณดำรงเตือนเรื่อง “ให้ระวังสัญญาที่ไม่เป็นธรรม”

บัดนี้ หนูได้มาเจอกับตัวเองว่า สัญญาที่เราทำมานั้น เนื้อหาส่วนใหญ่จะปกป้องและคุ้มครอง “นายทุน” หรือเจ้าของกิจการ เราเป็นฝ่ายเสียเปรียบทุกอย่างในสัญญา หลายอย่างนายจ้างจะอ้างว่าเป็นคำสั่งของรัฐบาลดูไบ

ผมขอเตือนคนไทยว่า อย่าได้ไปหลงใหลกับเมืองดูไบ ที่มีตึกสูงที่สุดในโลก มีความเจริญและก้าวหน้าหรูหรา น่าไปอยู่หรือน่าไปเยือน

ผมขอบอกว่าทุกวันนี้ ค่าครองชีพ ค่าภาษี ค่าเครื่องอุปโภคบริโภคนั้นมีราคาแพงมาก ต่างกันโดยสิ้นเชิงกับสมัยที่ผมไปค้นคว้าบุกเบิกเมื่อประมาณ 40 กว่าปีมาแล้ว ตอนนั้นยังไม่มีการเรียกเก็บค่าภาษี แต่ตอนนี้จะเก็บยุบเก็บยับ

ผมจึงขอเตือนคนไทยที่จะไปประกอบอาชีพหรือดำเนินธุรกิจในเมืองนี้ ขอให้ศึกษารายละเอียดอย่างเคร่งครัด และให้สอบถามหรือคุยกับคนไทยที่อยู่ในเมืองดูไบ ถ้าจะไปเป็นหมอนวดแผนไทย ก็ควรจะคุยกับหมอนวดที่มีประสบการณ์อยู่ในเมืองดูไบนั้นเสียก่อน จะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด

The post เรื่องเล่าจากดำรง : หมอนวดไทยในดูไบ ครวญ สถานที่นวดบางแห่ง เป็นเหมือนนรก appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

ฝ่ายค้านเบรก ครม. โอนงบ 8.8 หมื่นล้านเหตุ ไม่ระบุว่าใช้ได้เท่าไหร่เหมือนงบปี 63

วันนี้ (7 มิ.ย. 63) เมื่อเวลา 12:30 น. ที่รัฐสภา นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒน กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ…. ได้กล่าวถึงการพอจารณาร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวว่า มีหลายเป็นเด็นที่ยังคงเป็นปัญหา เช่น เรื่องความเห็นของกรรมการกฤษฎีกาที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ รวมถึงการล็อกนิติบัญญัติ ทำให้ไม่สามารถปรับลดงบประมาณลงได้จากวงเงินที่ได้กำหนดเอาไว้

ทั้งนี้จะมีการตัดงบที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนออก แต่ยังคงงบในการใช้จ่ายที่ไม่เกิดประโยชน์ หรือจำเป็นเอาไว้ อาทิ งบดครงการอบรมการประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นจุดสะท้อนภาพเจตนาการออกหลักเกณฑ์ที่เอื้อประโยชน์ต่อคนทที่มีศักยภาพมากกว่า โดยถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรง และอยากให้มีการติดตามต่อ ซึ่งหากเราเป็นรัฐบาลก้คงจะยอมถอยในเรื่องดังกล่าว

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า ได้มีการสอบถามภายในที่ประชุมกรรมาธิการว่า หากที่ประชุมไม่ให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านทาง ครม. จะมีการดำเนินการอย่างไร เพราะจะเท่ากับมติ ครม. 7 เมษายน เป็นโมฆะทันที และจะต้องมีการเอางบประมาณกลับมาพิจารณาตามแผนโครงการเดิมได้ทันหรือไม่ โดยทั้งนี้ มติ ครม. เองไม่ใช่กฎหมายแต่อย่างใด ต้องออกมติ ครม. โดยชอบด้วยกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ ด้วย ทั้งนี้ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณฯ ได้มีการพยายามยืนยันว่ากรรมาธิการไม่สามารถปรับลดงบประมาณได้ แต่ฟากตนเองกลับมองว่าเมื่อมีการตั้งกรรมาธิการ ก็ต้องสามารถปรับลดงบประมาณฯได้

ส่วนที่เป็นปัญหาคือ เรื่องของการการร้างกฎหมายที่ไม่ได้มีการเขียนเอาไว้แบบงบประมาณปี 63 ที่มีการระบุถึงปริมาณงบประมาณที่ต้องใช้จ่ายว่า ไม่ควรเกินเท่าไหร่ ในขณะที่ พ.ร.บ. ฉบับนี้กลับถูกเขียนขึ้นเพื่อให้ใช้เม็ดเงินทั้งหมด 8.8 หมื่นล้านบาทที่ได้โอนมา ฉะนั้นหาก พ.ร.บ. ฉบับนี้ไม่ผ่านก็เป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะต้องหาทางเอางบประมาณที่อนุมัติไปแล้วดังกล่าวกลับมา ซึ่งเรื่องนี้มองว่าเป็นการขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรค 3 ว่าด้วยกรณีที่มีการแปรญัตติเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขเพิ่มเติมรายการ หรือจำนวนรายการในร่าง พ.ร.บ. โอนงบประมาณรายจ่ายมิได้ ซึ่งเรื่องนี้อาจส่งผลให้คณะ ครม. พ้นจากตำแหน่งทั้งหมดได้ รวมถึงให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งด้วย

ทั้งนี้ นายเรืองไกร ยังกล่าวอีกว่า นายวิรนัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ได้เข้ามาสอบถามใน กมธ. ถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ว่าจะมีการพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 11 มิถุนายนหรือไม่ ตนเห็นว่ารัฐบาลสามารถกำหนดกรอบระยะเวลาในการพิจารณาได้ แต่ไม่ควรเป็นการบีบบังคับ กมธ. ให้มีการพิจารณาทันตามวันเวลาที่กำหนด จึงต้องเรียนว่าในวันที่ 11 มิถุนายนนี้จะไม่สามารถนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาในวาระ 2-3 ได้ แต่ทาง กมธ. เองจะเร่งพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวโดยเร็วที่สุด

The post ฝ่ายค้านเบรก ครม. โอนงบ 8.8 หมื่นล้านเหตุ ไม่ระบุว่าใช้ได้เท่าไหร่เหมือนงบปี 63 appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

กรมวิทย์ เผยใช้วิธี PRNT ตรวจหาภูมิคุ้มกันในหนู หลังรับ "วัคซีนโควิด" ต้นแบบจากจุฬาฯ ระบุนำเซรั่มหนูมาเจือจางในระดับต่างๆ ก่อนนำมาผสมกับไวรัสโควิด พบเจือจางเซรั่มหนูถึง 500 เท่า ก็ยังทำลายเชื้อไวรัสได้มากถึง 50% สะท้อนภูมิคุ้มกันสูง เตรียมตรวจเลือดในลิงต่อ หลังฉีดวัคซีนครบ 2 สัปดาห์
.
วันนี้ (7 มิ.ย.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการตรวจหาภูมิคุ้มกันในหนูหลังรับวัคซีนต้นแบบป้องกันโควิด-19 ว่า กรมฯ ได้ช่วยตรวจหาระดับภูมิคุ้มกันในหนูที่ได้รับวัคซีนต้นแบบ โดยวิธี plaque reduction neutralization test (PRNT) ซึ่งต้องทดสอบโดยใช้เชื้อไวรัสโควิด-19 ภายใต้ระดับความปลอดภัยทางชีวภาพระดับ 3 การทดลองโดยนำซีรั่มจากเลือดหนูที่ได้รับวัคซีนต้นแบบมาเจือจางที่ระดับต่างๆ กัน จากนั้นนำมาผสมกับไวรัสโควิด-19 ก่อนนำไปใส่ลงในเซลล์แล้วนำไปบ่มในอุณหภูมิที่เหมาะสมนาน 6 วัน แล้วจึงนำไปย้อมสีและตรวจนับจำนวนไวรัส ถ้าซีรั่มในเลือดไม่มีภูมิคุ้มกัน เซลล์ก็จะติดเชื้อ 100% แต่ถ้าเซรั่มในเลือดมีภูมิคุ้มกันสามารถป้องกันเชื้อได้ ไวรัสที่อยู่ในเซลล์ที่มีการติดเชื้อจะลดลงอย่างน้อย 50% ซึ่งภูมิคุ้มกันที่ได้ ไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่า สามารถป้องกันโรคได้ดีหรือไม่ เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนและยอมรับ
.
นพ.โอภาสกล่าวว่า การดูภูมิคุ้มกันขึ้นดีหรือไม่ดีนั้น สามารถดูได้จากการเจือจางซีรั่ม ถ้าเจือจางมากและพบการทำลายเชื้อไวรัสโดยภูมิคุ้มกันในซีรั่มลดลง 50% แสดงว่ามีภูมิคุ้มกันสูงในหนู ซึ่งวัคซีนต้นแบบของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ส่งมาให้กรมฯ ตรวจพบว่า สามารถเจือจางซีรั่มไปถึง 500 เท่า ยังสามารถทำลายเชื้อไวรัสได้ แสดงว่าในซีรั่มหนูมีภูมิคุ้มกันสูงต่อไวรัสโควิด-19 ดังนั้น วัคซีนต้นแบบนี้จึงนำไปทดลองในลิง และหากได้ผลดีก็จะทดลองในคนต่อไป
.
นพ.โอภาสกล่าวว่า ส่วนประเด็นเรื่องของการจะได้ใช้วัคซีนเมื่อไรนั้น เป็นเรื่องของอนาคตยังไม่สามารถตอบได้ ซึ่งบางประเทศรายงานเร็วที่สุดต้นปี 2564 บางประเทศรายงานปลายปี 2564 ซึ่งการวิจัยพัฒนาวัคซีนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ละขั้นตอนต้องทดสอบในสิ่งมีชีวิตทำให้ผลที่ได้มีความแปรปรวนของการทดสอบ จึงคาดการณ์ได้ยากว่าวัคซีนที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัยและมีประสิทธิผลนั้นจะสำเร็จได้เมื่อใด อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพทั้งบุคลากรและเทคโนโลยีที่ไม่ได้เป็นรองนานาชาติมากนัก โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานภาคอุดมศึกษาต่างๆมีความพร้อม เพียงแต่เราไม่สามารถดำเนินการเพียงหน่วยงานเดียวได้อย่างครบวงจร จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือกันในหลายภาคส่วน เพื่อให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาและผลิตวัคซีนโควิด-19 จนประสบความสำเร็จได้
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 7 มิ.ย. จะมีการดำเนินการเจาะเลือดลิงที่รับวัคซีนต้นแบบป้องกันโควิด ซึ่งผ่านมาแล้ว 2 สัปดาห์ เพื่อนำส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกันหลังรับวัคซีนว่า ภูมิคุ้มกันขึ้นดีหรือไม่อย่างไรต่อไป
-------------------------------
แหล่งข่าว
- https://mgronline.com/qol/detail/9630000058888
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

 

ซีเอ็นเอ็น - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯเมื่อวันพฤหัสบดี(4มิ.ย.) แชร์จดหมายเปิดผนึกฉลับหนึ่งบนทวิตเตอร์ ซึ่งเรียกการประท้วงอย่างสันติ แต่ถูกใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมบริเวณสวนสาธารณะใกล้ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ว่าเป็น "พวกก่อการร้าย"
.
จดหมายดังกล่าวเขียนโดย จอห์น โดวด์ อดีตทนายความของทรัมป์ ส่งถึง จิม แมตทิส อดีตรัฐมนตรีกลาโหม ตำหนิ แมตทิส กรณีที่เขาออกมาวิพากษ์วิจารณ์แนวทางรับมือกับผู้ประท้วงบริเวณด้านหน้าทำเนียบขาว
..
เมื่อวันพุธ(3มิ.ย.) แมตทิส กล่าวหา ทรัมป์ว่าพยายามแบ่งแยกสหรัฐฯและเป็นประธานาธิบดีคนแรกในช่วงชีวิตของเขาที่ไม่พยายามรวมรวมชาวอเมริกันให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
.
ความเห็นของ แมตทิส มีขึ้นในขณะที่ ทรัมป์ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางจากกรณีใช้กำลัง, แก๊สน้ำตาและระเบิดเพลิง เข้าสลายผู้ประท้วงอย่างสันติในสวนสาธารณะสวนสาธารณะลาฟาแยต เพียงเพื่อเปิดทางให้เขาข้ามฝั่งจากทำเนียบขาวไปโพสต์ท่าถ่ายรูปที่โบสถ์เซนต์จอห์นส์
.
"พวกผู้ประท้วงเทียมใกล้กับลาฟาแยต ไม่ได้ประท้วงอย่างสันติและไม่ใช่ผู้ประท้วงที่แท้จริง" ข้อความในจดหมายระบุ โดยไม่ได้ให้หลักฐานใดๆ "พวกก่อการร้ายใช้ความเกลียดชังยุนักศึกษาเผาและทำลาย พวกเขาทำร้ายและไม่เคารพตำรวจ ตอนที่ตำรวจกำลังตระเตรียมเพื่อนที่สำหรับเคอร์ฟิวเวลา 19.00น."
.
ทรัมป์ แชร์จดหมายนี้บนทวิตเตอร์ และระบุว่า "ผมคิดว่าจดหมายนี้จากอดีตนาวิกโยธินปลดเกษียณได้รับความเคารพและทนายความชั้นนำ จอห์น โดวด์ จะเป็นที่สนใจของประชาชนอเมริกา กรุณาอ่านมัน!"
.
ก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธ(3มิ.ย.) ทรัมป์ได้ทวีตข้อความวิพากษ์วิจารณ์ แมตทิส เรียกเขาว่าเป็นนายพลที่ได้รับการประเมินค่าสูงเกินจริงมากที่สุดในโลก และถากถางความสามารถในการเป็นผู้นำของ แมตทิส โดยระบุว่าความเข้มแข็งของ แมตทิส ที่แท้จริงไม่ใช่ความกล้าหาญด้านการทหาร แต่เป็นความสามารถในการประชาสัมพันธ์ตนเอง
.
การชุมนุมที่ทำเนียบขาวเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ เป็นส่วนหนึ่งของผู้ประท้วงหลายหมื่นคนที่ออกมาชุมนุมกันตามเมืองต่างๆทั่วสหรัฐฯ ต่อต้านการกระทำรุนแรงของตำรวจ นับตั้งแต่ จอร์จ ฟลอยด์ ชายชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันวัย 46 ปี ถูกตำรวจผิวขาวฆ่าตายในมินนีอาโปลิส เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม
-------------------------------
แหล่งข่าว
- https://mgronline.com/around/detail/9630000058575
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

 

รัฐบาลบราซิลสั่งซ่อนข้อมูลการระบาดของโควิด-19 ที่เก็บสถิติมานานหลายเดือนเพื่อไม่ให้สาธารณชนได้เข้าถึง ในขณะที่บราซิลมีการระบาดที่ใหญ่ที่สุดและหนักที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ
.
"จากมุมมองด้านสุขภาพมันเป็นโศกนาฏกรรม" ลูอีซ เอนริเก มันเดตตา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวในการออกอากาศทางเว็บเมื่อวันเสาร์ และเปรียบเทียบกรณีนี้กับการปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบในช่วงที่รัฐบาลทหารปกครองประเทศ เขาย้ำว่า "การไม่ให้ข้อมูลทำให้รัฐบาลเป็นอันตรายมากกว่าโรคเสียอีก"
.
กระทรวงสาธารณสุขของบราซิลได้นำข้อมูลออกจากเว็บไซต์เผยแพร่ระบาดของโรคทั้งข้อมูลโดยรวม ข้อมูลระดับรัฐ และเทศบาล ทางกระทรวงยังหยุดนับจำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันซึ่งสูงถึง 672,000 รายมากกว่าประเทศใดๆ ในโลกยกเว้นสหรัฐฯ และยังหยุดนับยอดผู้เสียชีวิตซึ่งแซงหน้าอิตาลีในสัปดาห์นี้ไปแล้ว โดยอยู่ที่ 36,000 รายจากตัวเลขเมื่อในวันเสาร์
.
“ข้อมูลสะสม ... ไม่ได้สะท้อนถึงสถานการณ์ที่ประเทศกำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ (และ) กำลังจะมีการดำเนินการอื่นๆ เพื่อปรับปรุงการรายงานกรณีผู้ติดเชื้อและการยืนยันการวินิจฉัย" ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารูแห่งบราซิลกล่าวผ่านทวิตเตอร์
.
แต่การกระทำครั้งนี้ทำให้หลายฝ่ายกังวลอย่างมากโดยเฉพาะบุคลากรด้านสาธารณสุขรวมถึงสื่อมวลชน
.
"ความโปร่งใสของข้อมูลเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการต่อสู้กับการแพร่ระบาด" เปาลู เฌรอนิมู จี โซซา หัวหน้าสมาคมสื่อมวลชนบราซิลกล่าว และเขายังกล่าวหารัฐบาลว่า "พยายามปิดปากสื่อมวลชนในเวลาที่สายเกินการ"
.
ที่ผ่านมาโบลโซนารูยังทำเหมือนกับการระบาดใหญ่ไม่ได้มีความรุนแรง เขาสั่งให้เจ้าหน้าที่ทหารมาทำงานแทนที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ในกระทรวงสาธารณสุข และยังท้าท้ายคำสั่งล็อคดาวน์ของรัฐต่างๆ โดยร่วมประท้วงต่อต้านการล็อคดาวน์หลายครั้ง
.
โบลโซนารูยังขู่ว่าจะถอนตัวจากองค์การอนามัยโลก (WHO) โดยกล่าวหาว่าเป็นองค์กรที่มีอคติแอบแฝง ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าผู้นำของประเทศที่มีการระบาดสูงสุดอันดับ 1 และ 2 ของโลก คือสหรัฐและบราซิลต่างก็ขู่ที่จะถอนตัวจากองค์การอนามัยโลกเหมือนกัน

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.usnews.com/news/world/a...later-partial-release-of-brazil-covid-19-data

https://m.timesofindia.com/world/re...g-soaring-death-toll/articleshow/76241250.cms

https://www.posttoday.com/world/625411
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook :
https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ