ติดตามสถานะการณ์

จะใช่คนประเภทเดียวกันหรือไม่เวลาจะช่วยพิสูจน์

.....พฤติกรรมตำรวจ ....ต่อหน้าสื่อทำท่าคุกเข่า แต่พอลับหลัง ผลักคนชราวัย 75 ปี ล้มลงหมดสติ .....

 

ความสัมพันธ์อินเดีย-จีนในมุมมองจีน
.
เมื่อวานนี้ผมเขียนเรื่องประเด็นประวัติศาสตร์ว่าด้วยสงครามจีน-อินเดีย ปี 1962 ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความเข้าใจผิด ๆ กันอยู่ในหลายประเด็น วันนี้เลยอยากเอาอีกเรื่องน่าสนใจในประเด็นความสัมพันธ์จีน-อินเดียร่วมสมัยมาแชร์กันบ้าง
.
เมื่อไม่นานมานี้ อาจารย์ผมที่อินเดียชวนเข้าร่วมสัมมนาวิชาการออนไลน์ของภาคีเครือข่ายนักวิชาการของเอเชียโดยมีผู้บรรยายคนสำคัญคือศาสตราจารย์ฮัน หัว จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ท่านทำเรื่องเอเชียใต้โดยเฉพาะ
.
แน่นอนว่างานนี้จัดโดยหน่วยงานของอินเดียทำให้มีนักวิชาการและอดีตนักการทูตของอินเดียเข้าร่วมสัมมนากันหลายคน ซึ่งสิ่งที่อาจารย์ฮาน ได้อธิบายมีประเด็นน่าสนใจเกี่ยวกับจีนกับสถานการณ์ปัจจุบัน และความสัมพันธ์จีน-อินเดียในประเด็นใหญ่ ๆ อยู่ ด้วยกันดังนี้ครับ
.
1. ปัญหาจีน-สหรัฐอเมริกา จริง ๆ แล้ว เริ่มมาตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจในปี 2008 ซึ่งเปลี่ยนดุลอำนาจทางเศรษฐกิจไปทางเอเชียมากขึ้นโดยเฉพาะการขึ้นมาของจีน แน่นอนว่าเรื่องนี้ท้าทายระเบียบโลกที่ถูกวางรากโดยอเมริกา และอเมริกาก็เป็นมหาอำนาจเดี่ยวมาตลอดหลังยุคสงครามเย็น
.
ฉะนั้นการขึ้นมาของจีนจึงท้าทายสหรัฐอย่างมาก โดยเฉพาะการขึ้นมาของทรัมป์ยิ่งทำให้เป็นปฏิกิริยาเร่งให้ความขัดแย้ง 2 ชาติแรงขึ้น อาจารย์ฮัน อธิบายว่าสงครามการค้าเกิดขึ้นแน่นอนไม่ว่าทรัมป์หรือฮิลารี ขึ้นมา แต่ว่าทรัมป์ดูทำทุกอย่างไวไปหมด
.
ปัญหาจีน-สหรัฐนี้เองส่งผลโดยตรงต่อท่าทีของจีนต่อโลกที่ต้องเปลี่ยนไป เพราะในอดีตจีนก็อยู่แบบเงียบ ๆ มุ่งหน้าพัฒนาเศรษฐกิจ อาจารย์ฮันย้ำว่า เราต้องไม่ลืมว่าจีนยังคงเป็นประเทศกำลังพัฒนา
.
2. ดังนั้นเมื่อแนวทางนโยบายของสหรัฐต่อจีนที่เป็นพันธมิตรกันมานาน เปลี่ยนไป ทั้งเรื่องสงครามการค้า และนโยบายการปิดล้อมจีน หรือยุแยงให้เกิดการแตกแยกภายใน สิ่งเหล่านี้ทำให้ท่าทีของจีนต้องเปลี่ยนตามเกมใหม่นี้ไปด้วย
.
จีนไม่สามารถทำตัวนอบน้อม หรือโลว์โปรไฟล์แบบเดิมได้อีกแล้ว เพราะทำไปก็จะรับมือกับอเมริกาไม่ได้ แต่จีนก็ยังคาดหวังว่าอเมริกาจะยอมคุยกันดี ๆ อาจารย์ฮันบอกว่าตอนนี้ยุทธศาสตร์ของจีนต่อโลกคือ หลักเลี่ยงสงคราม สานต่อการค้าและเศรษฐกิจ และสร้างสมดุลของสังคม
.
3. ในลักษณะแบบนี้จีนจึงพยายามอย่างมากที่จะรักษาคู่ค้าเดิม ๆ และพยายามอย่างมากไม่ให้ประเทศอื่น ๆ เข้ามาร่วมเกมปิดล้อมจีนของสหรัฐ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คืออินเดียนั่นเอง
.
อาจารย์ฮันอธิบายว่าจีนพยายามอย่างมากที่จะส่งสัญญาณไปยังประเทศอื่น ๆ ว่าจงปล่อยให้เรื่องจีน-อเมริกาเป็นเรื่องทวิภาคี ส่วนคนอื่นก็เดินหน้าทำการค้า ความร่วมมือกันต่อไป เพราะจีนเองก็ไม่อยากต้องมาปรับท่าทีใหม่กับประเทศอื่น ๆ ด้วย
.
หลายคนอาจบอกว่าจีนต้องการขึ้นเป็นผู้นำโลก หรือต้องการเปลี่ยนระบอบโลก อาจารย์ฮันย้ำว่า ในจีนยังไม่มีใครพูดเรื่องนี้ และจีนเองก็รู้ตัวดีว่าไม่พร้อมอย่างมาก เพราะแค่จัดการเรื่องภายในก็ไม่ไหวแล้ว จีนยังคงโอเคกับระบอบที่สหรัฐเป็นผู้นำ หรือระบอบหลายมหาอำนาจในอนาคต
.
4. มีคนถามแกขึ้นมาว่าคิดยังไงกับเรื่องการย้ายสายพานการผลิตจากจีนไปอินเดีย ซึ่งเป็นนโยบายของอินเดียตอนนี้ อาจารย์บอกว่าจีนคงไปห้ามใครไม่ได้ และสิ่งพวกนี้ก็ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้วในอนาคต บริษัทจำนวนมากของจีนก็ออกไปตั้งฐานในต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยงจากสงครามการค้าเหมือนกัน
.
อาจารย์พูดเสริมว่าในจีนเริ่มมีการคุยกันถึงประเด็นเรื่องผลิตเองใช้กันเองบ้างแล้ว เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ในอนาคตที่อาจจะเลวร้ายมากที่สุด
.
5. จีนมองว่าอินเดียยังคงเป็นเพื่อนบ้านที่สำคัญและไม่ได้ต้องการจะมีปัญหาด้วย และคาดหวังอย่างมากว่าอินเดียจะไม่กระโจนเข้าไปในเกมปิดล้อมจีนของสหรัฐอเมริกา เพราะความสัมพันธ์โดยรวมทั้งการค้า และการเมืองนั้นดีมาโดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา
.
ในประเด็นปัญหาพรมแดนปัจจุบันที่เกิดขึ้นนั้น แน่นอนว่าทางอินเดียอาจจะมองว่าจีนก้าวร้าว แต่จีนก็พยายามอย่างมากที่สุดที่จะพูดคุยเพื่อหาจุดตรงกลาง และไม่ต้องการให้เป็นข่าวใหญ่ในประเทศ ซึ่งมันก็สะท้อนว่าจีนไม่อยากมีปัญหากับอินเดียเท่าไหร่นัก
.
ประเด็นสุดท้ายมีการถามกันว่าตอนนี้จีนหนีห่างออกจากการทูตแบบโจว เอินไหล หรือไม่ อาจารย์ตอบว่าแน่นอน จีนไม่สามารถอยู่แบบเดิมได้อีกแล้ว เพราะปัจจัยแวดล้อมมันเปลี่ยนไปมาก โดยเฉพาะการแตะเส้นสีแดงของจีน อย่างเรื่องไต้หวัน ที่สหรัฐอเมริกาเปลี่ยนท่าที
.
จริง ๆ มีอีกหลายประเด็นเลยที่อาจารย์ฮัน โดนนักวิชาการอินเดียกระหน่ำถาม ถามจนแกฟังไม่ทัน เพราะต้องบอกว่านาน ๆ ทีก็จะได้ฟังคนระดับนี้มาบรรยายให้ฟังเหมือนกันครับ
.
ปล. ลิงค์บรรยายเต็มอยู่ในคอมเม้นนะครับ
.
#กระแสเอเชียใต้ #จีน #อินเดีย #ระเบียบโลก #ความสัมพันธ์ #การเมือง

 

ข้อเท็จจริงสงครามจีน-อินเดีย ปี 1962
.
เมื่อวานนี้นั่งฟังไลฟ์เรื่องปัญหาจีน-อินเดียในไทย แล้วมีประเด็นที่ผู้พูดอธิบายในเชิงประวัติศาสตร์ความขัดแย้งผิดในบางเรื่องเหมือนกัน ซึ่งคิดว่าหลายคนในไทยเชื่ออย่างนั้น แต่ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์มันเป็นอย่างนี้ครับ
.
ประเด็นแรกคือเรื่องการส่งเรือ USS Enterprise เข้ามาช่วยอินเดียของสหรัฐนั้น ไม่ได้เกิดในสงครามอินเดีย-จีนปี 1962 แต่เป็นในช่วงสงครามอินเดีย-ปากีสถานในปี 1971 ที่หนักกว่านั้นคือ USS Enterprise ที่ส่งมาในสงครามปี 1971 นั้น มาเพื่อช่วยปากีสถาน ไม่ได้มาช่วยอินเดียด้วยครับ
.
แต่เรือซึ่งคาดว่าสหรัฐจะส่งมาช่วยคือ USS Kitty Hawk แต่ก็ไม่ได้มาเพราะจีนยุติสงครามเสียก่อน (สิ้นปี 1962 เรือลำนี้ไปจอดแถวฮ่องกง และใช้เพื่อควบคุมสันติภาพในช่องแคบไต้หวันในปี 1963) เพราะในปี 1962 USS Enterprise กำลังวุ่นอยู่กับวิกฤตคิวบา
.
ประการที่ 2 คือเรื่องจีนต้องการขยายดินแดนจึงเปิดศึกกับอินเดียในบริเวณอักไซชิน และอรุณาจัล อันนี้เป็นความเข้าใจผิดอย่างร้ายแรงเพราะในข้อเท็จจริง ต้องอธิบายถึง Forward Policy ของเนห์รู ในเวลานั้นด้วย ซึ่งอินเดียเปิดก่อนจีน
.
นโยบายนี้ของเนห์รูเป็นต้นเหตุสำคัญให้จีนต้องทำสงครามกับอินเดีย เพราะเนห์รูต้องการจะสร้างบล็อกหรือด่านเพื่อไม่ให้จีนขยายอำนาจ โดยมีการใช้ทหารไปตั้งค่ายและบังเกอร์ตามแนวพรมแดนกับจีน ซึ่งปัญหามันคือทหารดันไปตั้งในเขตพื้นที่พิพาทกับจีน ที่ยังไม่ได้ตกลงกัน (ทั้งฝั่งลดาขและอรุณาจัล)
.
จีนในเวลานั้นมองว่าการกระทำของอินเดียคือต้องการขยายอาณาเขตของตัวเองเข้ามาในธิเบต ก่อนหน้านี้อินเดียช่วยคนทิเบตไว้หลังจากที่จีนยึดทิเบตได้
.
ยิ่งไปกว่าเนห์รูและทีมที่ปรึกษาไม่คิดว่าการกระทำของตัวเองจะทำให้จีนกล้าทำสงคราม แต่จริง ๆ แล้วกลับไม่ใช่ และสุดท้ายก็เกิดสงครามจริง ๆ จนทำให้อินเดียต้องขอความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และชาติโลกเสรี
.
เนห์รูเขียนจดหมายบอก เจ เอฟ เค ว่า ถ้าสหรัฐไม่ส่งเครื่องบินรบมาช่วย ลดาขทั้งหมด และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียอาจถูกจีนปกครอง มันสะท้อนว่าอินเดียสู้ไม่ได้แล้ว และเริ่มหมดหวัง เพราะทหารไม่เข้มแข็งจริง ๆ เพราะเนห์รูไม่ให้งบประมาณ
.
สุดท้ายสหรัฐตัดสินใจช่วย จีนเลยประกาศหยุดยิงฝ่ายเดียว เพราะจีนก็รู้ว่าไม่ใช่เวลาจะมารบกับอเมริกา ทำให้จีนได้อักไซชินไป ส่วนอรุณาจัลนั้นจีนถอนกำลังกลับแม้จะยึดได้แล้ว เพราะไม่มีศักยภาพจะรักษากำลังพลไว้ได้ เนื่องจากปัญหาการส่งเสบียง
.
ประการสุดท้าย อันนี้ขอเสริมเรื่องทำไมต้องแย่งอักไซชินกัน ทั้งที่ไม่มีคนอยู่ หรือหญ้าไม่ขึ้น คำตอบคือมันสำคัญทั้งทางยุทธศาสตร์ทางการทหารและการค้า เพราะอักไซชินเป็นจุดเชื่อมสำคัญของทิเบตกับซินเจียง และเป็นเส้นทางการค้าสำคัญของทิเบตเข้าสู่เอเชียกลางด้วย
.
เอาจริง ๆ นักความมั่นคงส่วนใหญ่ก็อธิบายกันว่าปัญหาสงครามจีน-อินเดีย 1962 นั้นเกิดจากความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงของนโยบายความมั่นคงและต่างประเทศของเนห์รู ที่ใช้ Forward Policy โดยหลงคิดไปว่าจีนจะไม่กล้าบุกตัวเองเพราะยังมีปัญหาภายในอยู่
.
พูดง่าย ๆ คืออินเดียรอดพ้นวิกฤตนี้มาได้เพราะมีอเมริกาช่วยนั่นเอง เพราะถ้าอเมริกาไม่มา จีนอาจตัดสินใจบุกต่อไป เนห์รู เขียนเองเลยว่า อุตตรประเทศยังอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงและถูกคุกคามอย่างยิ่ง
.
หนังสือแนะนำ JFK’s Forgotten Crisis: Tibet, the CIA and Sino-Indian War ของ Bruce Reidel
.
#กระแสเอเชียใต้ #อินเดีย #จีน #ประวัติศาสตร์ #สงคราม #ข้อเท็จจริง

 

ตรวจเข้ม 417 คนจากเยอรมนี-ปากีสถาน-ออสเตรเลีย ถึงไทยแล้ว ไข้สูง 10 คน
ตรวจเข้ม 417 คนจากประเทศ เยอรมนี ปากีสถาน ออสเตรเลีย เดินทางถึงไทยแล้ว พบผู้โดยสารคนไทยมีไข้สูง 10 คน
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

ตั้งแต่เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ พยายามหาคำตอบกันมาตลอดว่าทำไมคนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาบางคนถึงมีอาการไม่รุนแรง ในขณะที่บางคนนั้นปางตาย ก่อนหน้านี้มีปัจจัยบางอย่างที่เป็นสมมติฐานเบื้องต้น เช่น อายุ โรคประจำตัว แต่งานวิจัยล่าสุดจากยุโรป พบว่า กรุ๊ปเลือดของคนเราก็น่าจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ส่งผลต่อความรุนแรงของโควิด-19 ด้วยเช่นกัน

นักวิจัยในเยอรมนีและนอร์เวย์ ได้ทำการศึกษาและค้นพบว่า คนที่มีเลือดกรุ๊ปเอ (A+) มีความเสี่ยงที่จะติดโควิด-19 สูงกว่า และมีอาการรุนแรงมากกว่าคนกรุ๊ปเลือดอื่น ๆ โดยผลการวิจัยที่ได้ครั้งนี้ได้มาจากการทำการศึกษาผู้ป่วยโควิด-19 ประมาณเกือบ 2,000 คนในอิตาลี และสเปน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

สิ่งที่นักวิจัยค้นพบคือ ในจีโนม (genome) หรือหน่วยพันธุกรรมทั้งหมดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตอย่างปกติของมนุษย์ จะมีจุดอยู่สองจุดที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงของคนเราที่จะเกิดภาวะระบบทางเดินทางหายใจล้มเหลวหากติดโควิด-19 ซึ่งหนึ่งในจุดสองจุดนั่นคือ พันธุกรรม หรือ ยีนส์ (gene) ที่เป็นตัวบ่งบอกกรุ๊ปเลือดนั่นเอง

คนที่มีเลือดกรุ๊ป เอ จะมีโอกาสสูงกว่าคนเลือดกรุ๊ปอื่นถึง 45% ที่จะเกิดภาวะหายใจล้มเหลว ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเขามีโอกาสสูงที่จะต้องการออกซิเจน หรือต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในการรักษาโควิด-19

และข้อมูลนี้น่าจะเป็นตัวช่วยให้กับทีมหมอและพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 เพราะสาเหตุหนึ่งของการเสียชีวิตในกลุ่มผู้ป่วยโควิด-19 คือ ผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะหายใจล้มเหลว มีอาการติดเชื้อในปอด หรือกลุ่มที่มีอาการหายใจไม่ออกเฉียบพลัน

ในสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับในประเทศไทย เลือดกรุ๊ปเอเป็นหมู่โลหิตที่มีมากเป็นอันดับที่ 2 รองจากเลือดกรุ๊ปโอ ซึ่งจากการศึกษาชิ้นนี้พบกว่าคนเลือดกรุ๊ปโอ กลับมีโอกาสที่จะเกิดภาวะหายใจล้มเหลวจากโควิด-19 น้อยกว่าหมู่เลือดอื่นๆ ถึง 35%

ผลจากรายงานนี้คล้ายกับการศึกษาก่อนหน้านี้ในจีนและสหรัฐฯ ที่แสดงให้เห็นว่าคนที่มีเลือดกรุ๊ปเอ จะมีโอกาสติดโควิด-19 มากกว่ากรุ๊ปโอ นอกจากนี้ ในช่วงที่เกิดการระบาดของโรคซาร์ส เมื่อ 17 ปีก่อน ก็พบว่าคนเลือดกรุ๊ปเอ มีโอกาสที่จะติดโรคมากกว่าเช่นกัน

https://www.voathai.com/a/coronavir...nd-coronavirus-severity-06052020/5451447.html

#RoundtableThailand
roundtablethailand.com

 

John Traczyk

คำเตือน!! ซุปเปอร์พลูม (Superplume) กำลังขยายตัวออกจากการควบคุมใน Earth Mantle Transition Zone!
วิดีโอ: 4 มิถุนายน 2020 / Terral BlackStar / YouTube Channel

เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้สิ่งนี้ เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เข้าใจ ส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริง เอกสารในคัมภีร์ไบเบิลและตรวจสอบทั้งหมดนี้ แผ่นดินโลกเป็นพยานต่อทุกสิ่งที่เขียน ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์สำรองทุกอย่าง จุดจบของทุกสิ่งอยู่ใกล้แค่เอื้อม

“ เหตุการณ์ข้ามดาวฤกษ์ - ดำจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขั้วแม่เหล็กที่เกิดจากสนามแม่เหล็กซึ่งคาดการณ์ว่าจะกำจัดประชากรโลกมากกว่า 90% (เขียนไว้ในคัมภีร์ไบเบิลในหนังสืออิสยาห์บทที่ 24)

การก่อตัวของแมกมา - พลูมลึกซึ่งเป็นปรากฏการณ์วงแหวนมหาสมุทรแปซิฟิก - วงแหวนแห่งไฟทำให้จุดเชื่อมต่อพลูม / ฮอตสปอตทั่วโลกและตอนนี้เติบโตขึ้นจากการควบคุมภายในเขตเปลี่ยนโลกปกคลุม

ขั้วโลกเหนือแม่เหล็กได้ย้ายเข้าสู่ซีกโลกตะวันออกเนื่องจากการก่อตัวของแมกมา - พลูมในขณะนี้มีทางเดินลอยตัวที่กั้นขวางการลอยตัวเหมือนปลาหมึกยักษ์แขนไปสู่มหาสมุทรแอตแลนติกที่บริเวณคอนเวอร์เจนซ์อยู่ระหว่างแนวมิดแอตแลนติก

การก่อตัวของพลูมนั้นเต็มไปด้วยสนามแม่เหล็กและแทนที่แมกมาชนิดแก้ว / ซิลิกาออกจากเขตการเปลี่ยนผ่านทำให้เกิดเส้นผ่าศูนย์กลางโลกเพื่อขยายขนาดที่แยกแผ่นเปลือกโลก

สถานการณ์ทำให้เหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาดใหญ่หายไปและตัวเลขแผ่นดินไหวขนาดต่ำ (ขนาด # 2.5 - 4) ปิดแผนภูมิ

ในบางจุดอุปสรรคการลอยตัวของพลูมจะแตกออกเป็นชุดเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับพื้นดินอันหายนะซึ่งจะเปลี่ยนโลกของเรา” - Terral Croft

เหตุการณ์เหล่านี้สามารถพบได้ในหนังสืออิสยาห์บทที่ 24, วิวรณ์หนังสือบทที่ 8: 12-14, บทที่ 12: 3-4, และในบทที่ 16: 18-20

เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นระหว่างสิ่งที่เรียกว่า 7 ปีแห่งความทุกข์ยากตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ สัญญาณและข้อมูลทั้งสองแสดงเหตุการณ์เหล่านี้อยู่ใกล้มือ พวกเขากำลังมา... - เพิ่มความเข้มและความถี่

เหตุการณ์เหล่านี้เริ่มต้นที่ความภาคภูมิตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ใน 1 เธสะโลนิกา 4: 16-17, วิวรณ์ 12: 5 และอิสยาห์ 66: 7; สัญญาว่าจะบังเกิดใหม่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้เติมเต็มความเชื่อในพระเยซูคริสต์ตามที่เขียนไว้ในวิวรณ์ 3:10, 1 เธสะโลนิกา 5: 9 และลูกา 21:36 การช่วยชีวิตในนาทีสุดท้ายและการกำจัดทางกายภาพจากแผ่นดินโลกสู่สวรรค์ก่อนวันของพระเจ้า
______

ศาสดาเอเสเคียลเตือนว่ากำลังมา

"และจะเป็นเช่นไรเมื่อพวกเขากล่าวแก่เจ้าทำไมเจ้าถอนหายใจ? เจ้าจะตอบว่าเพราะข่าวคราว; มันมา: และทุกหัวใจจะละลายและมือทั้งปวงจะอ่อนแอและวิญญาณทุกคนจะอ่อนเปลี้ยและทั้งหมด หัวเข่าจะอ่อนแอเหมือนน้ำ: ดูเถิดมันมาและจะถูกนำไปผ่านไปพระเจ้าตรัสว่า " เอเสเคียล 21: 7

ดูเถิดมันมา ..

คำเตือน!! Superplume กำลังเติบโตจากการควบคุมใน Earth Mantle Transition Zone!
วิดีโอ: 4 มิถุนายน 2020 / Terral BlackStar / YouTube Channel
ลิงก์:

Warning!! Superplume Is Growing OUT OF CONTROL in Earth Mantle Transition Zone!
Video: June 4, 2020 / Terral BlackStar / YouTube Channel.

Only a handful realize this. Only a handful understand. Most don't believe this is real. The Bible documents and verifies all of this. The earth is testifying to everything written. The scientific data backs it all up. The end of all things is at hand.

“A Black Star-Earth crossing event will trigger a magnetically-induced geological pole shift projected to wipe out more than 90 percent of the global population. (Written of in the Bible in the Book of Isaiah chapter 24.)

A Deep Magma-plume Formation that was a Pacific Ocean-Ring of Fire phenomenon has made mantle plume/hotspot connections around the world and is now growing out of control within the earth mantle transition zone .

The magnetic North Pole has migrated into the Eastern Hemisphere because the Deep Magma-plume Formation now has buoyancy-barrier corridors extending like giant octopus arms into the Atlantic Ocean where the convergence region is between the Mid-Atlantic Ridge and Europe.

The plume formation is filled with magnetite and displacing the glassy/silica-type magma out of the transition zone causing earth diameter to enlarge that is separating the tectonic plates.

The scenario is causing high-magnitude earthquake events to disappear and the low-magnitude quake numbers (magnitude #2.5 – 4) to be off the charts.

At some point, the plume buoyancy barriers will break leading to a series of catastrophic terraform-related events that will transform our planet.” - Terral Croft.

These events can be found in part in the Book of Isaiah chapter 24, the Book Revelation chapter 8:12-14, chapter 12:3-4, and in chapter 16:18-20.

These events occur during what is referred to as the 7 Year Tribulation as written in the Bible. The signs and the data are both showing these events are close at hand. They are coming on as birth pains - increasing in intensity and frequency.

These events begin at the Rapture as written in the Bible in 1 Thessalonians 4:16-17, Revelation 12:5 and Isaiah 66:7; Promised to born again Holy Spirit filled believers in Jesus Christ as written in Revelation 3:10, 1 Thessalonians 5:9 and Luke 21:36. A last minute rescue and physical removal from earth to heaven before the Day of the Lord.
______

The Prophet Ezekiel warns it is coming.

"And it shall be, when they say unto thee, Wherefore sighest thou? that thou shalt answer, For the tidings; because it cometh: and every heart shall melt, and all hands shall be feeble, and every spirit shall faint, and all knees shall be weak as water: behold, it cometh, and shall be brought to pass, saith the Lord God." Ezekiel 21:7

Behold, it cometh..

Warning!! Superplume Is Growing OUT OF CONTROL in Earth Mantle Transition Zone!
Video: June 4, 2020 / Terral BlackStar / YouTube Channel.
Link:

 

การประท้วงทั่วสหรัฐดำเนินติดต่อกันมา 11 วันแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน หลังการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำ ระหว่างที่ถูกจับกุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาว ในเมืองมินนิแอโพลิส

ในกรุงวอชิงตัน เหล่าเจ้าหน้าที่ของเมืองใช้สีเขียนเป็นตัวอักษรขนาดใหญ่ว่า “Black Lives Matter” หรือชีวิตชาวผิวดำมีความหมาย บนถนนใกล้กับทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐ อันเป็นบริเวณที่ผู้ประท้วงชุมนุมกันทุกวัน

มูเรียล โบว์เซอร์ นายกเทศมนตรีสังกัดพรรคเดโมแครตกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าการใช้สีเขียนครั้งนี้เป็นการแสดงออกถึงส่วนหนึ่งของค่านิยมของเมืองนี้ ที่ผ่านมา โบว์เซอร์ไม่เห็นด้วยกับนโยบายแข็งกร้าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่มีต่อผู้ประท้วง

การปล้นและการกระทำที่ทำลายทรัพย์สินสาธารณะนั้นยุติลงเกือบทั้งหมดแล้ว

ในการแถลงข่าวที่ทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐ นายทรัมป์ตกเป็นที่วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากเขาเอ่ยชื่อนายจอร์จ ฟลอยด์ ที่การเสียชีวิตของเขาจุดประกายการประท้วงในปัจจุบัน ขณะเดียวกันก็โอ้อวดถึงตัวเลขการจ้างงานที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้

ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า “หวังว่านายจอร์จกำลังมองลงมาและพูดว่านี่เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นต่อประเทศของเรา เป็นวันที่ดีมากสำหรับเขา”

คาดว่าการประท้วงต่อต้านความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจและการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติจะยังคงดำเนินต่อไปจนถึงสุดสัปดาห์นี้

ติดตามรายละเอียดของข่าวอื่น ๆ ได้ที่นี่
https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/

 

นางโคอิเกะ ยูริโกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียวกล่าวว่าบรรดาเจ้าหน้าที่จะดำเนินงานเพื่อทำให้มหกรรมกีฬาโตเกียวโอลิมปิกและพาราลิมปิก เรียบง่ายมากขึ้น เนื่องจากมหกรรมดังกล่าวถูกเลื่อนออกไปราว 1 ปี เพราะการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

คณะกรรมการจัดการแข่งขันกำลังทบทวนแนวทางเพื่อทำให้โตเกียวโอลิมปิกประสบความสำเร็จไปพร้อมกับการปรับลดค่าใช้จ่ายลงด้วย

คณะกรรมการจัดการแข่งขันมีแผนที่จะไม่จัดงานใหญ่ในเดือนกรกฎาคม เพื่อนับถอยหลัง 1 ปีจนกว่าจะเริ่มการแข่งขันโอลิมปิก

นางโคอิเกะกล่าวที่การแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 5 มิถุนายนว่าเธอได้หารือกับนายโมริ โยชิโร ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันเมื่อวันก่อนหน้านี้ และว่าพวกตนเห็นพ้องที่จะดำเนินงานเพื่อมุ่งสู่การตัดลดค่าใช้จ่าย

เธอกล่าวว่าจำเป็นต้องศึกษาในหลายด้านเพื่อดูว่าสิ่งใดที่สามารถทำให้มีประสิทธิภาพและลดความยุ่งยากลงได้ เธอระบุว่าเรื่องนี้คือความท้าทายอันยากลำบาก

นางโคอิเกะกล่าวว่าเธอคิดว่างานโตเกียวโอลิมปิกในปีหน้าจะเป็นแสงแห่งความหวังสำหรับนักกีฬาและผู้ชมทั้งหลาย

ติดตามรายละเอียดของข่าวอื่น ๆ ได้ที่นี่
https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/

 

แบ่งปันจาก Laura Wells และ Mark Elkin
การประจุไฟฟ้าไอโอโนสเฟียเป็นไปอย่างบ้าคลั่ง !!
จับตา แผ่นดินไหว !!
การประจุที่สุดขีดกำลังอุบัติขึ้น
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่เกี่ยวกับการประจุไอออนลบ (Tec Data) และการเกิดแผ่นดินไหว -
จับตามอง!
ดูสุดขีด!
- สีเขียวแสดงปกติ (นั่นคือลักษณะก่อนที่จะเกิดการเรียกเก็บเงิน)

- ลอร่าเวลส์

 

June 6, 2020 สายการบินชื่อดังระดับโลก เตรียมปิด 3 ฐานบินต่างประเทศ กระทบพนักงานกว่า 800 ชีวิต

สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส ประกาศปิดฐานการบินในต่างประเทศ 3 จาก 4 แห่ง ได้แก่ แฟรงค์เฟิร์ตที่เยอรมนี นาริตะที่โตเกียว ญี่ปุ่น และฮ่องกง โดยมีผลวันที่ 1 ตุลาคมปีนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของกฎหมายเยียวยา ช่วยเหลือไวรัสโคโรนา และความมั่นคงทางเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐสิ้นสุดลงกฎหมายดังกล่าวเป็นการอัดฉีดเงินกู้ให้กับสายการบินบนเงื่อนไขว่าสายการบินห้ามปลดพนักงานก่อนวันที่ 30 กันยายน 2563 สำหรับนโยบายของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์สดังกล่าวนั้น ส่งผลให้พนักงานของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส ทั้ง 3 ฐานการบินจำนวน 840 คนได้รับผลกระทบจากนโยบายครั้งนี้

สาเหตุจากภาวะโรคระบาดโควิด-19 ทั่วโลก โดยเฉพาะในเส้นทางบินที่อยู่นอกสหรัฐอเมริกา ยังไม่สามารถกลับมาฟื้นตัวในระยะยาว นายจอห์น สเลเทอร์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานบริการด้านการบิน เปิดเผยว่า ส่งผลให้ธุรกิจการบินในเส้นทางต่างประเทศไม่สามสรถดำเนินการได้อย่างยั่งยืน

สำหรับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่ประจำการฐานบินใน 3 แห่งดังกล่าว จะได้รับการเสนอทางเลือกให้โอนย้ายการปฏิบัติงานไปประจำฐานการบินในสหรัฐอเมริกา ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาความสามารถของพนักงานด้วย

ทั้งนี้ สมาคมพนักงานบริการห้องโดยสารยูไนเต็ด ซึ่งมีสมาชิกพนักงานบริการบนเครื่องบินจำนวน 24,000 คน ยอมรับว่า นโยบายดังกล่าวสร้างความตกใจให้กับพนักงานทุกคน และทำให้เกิดความไม่แน่นอนสูงอย่างมาก ก่อนหน้านี้ สายการบินคาเธย์ แปซิฟิก ซึ่งเป็นสายการบินชั้นนำระดับโลกจากฮ่องกง ประกาศปิดฐานการปฏิบัติงานของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินใน 5 เมืองของอเมริกาเหนือในช่วง 14 เดือนที่ผ่านมา

#ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ #ตกงาน #ปลดพนักงาน #สายการบิน #โควิด19 #misterban #covid19 #airline

 

สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ทั่วโลก นอกจากจะทำให้อุตสาหกรรมแฟชั่นต้องหยุดชะงัก จนแบรนด์ดังต้องเปลี่ยนโรงงานมาผลิตแอลกอฮอล์หรือหน้ากากอนามัยแทน ล่าสุด ยังกระทบไปถึงผู้ผลิตไวน์ในฝรั่งเศสที่ต้องประสบปัญหาไวน์ล้นตลาด จนต้องหาทางเคลียร์สต็อกของเก่า เพื่อเตรียมรับไวน์ในฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะถึง

FranceAgriMer ตัวแทนผู้ผลิตไวน์ของฝรั่งเศสประกาศว่า ผู้ผลิตไวน์ในฝรั่งเศสเตรียมพร้อมกลั่นไวน์ที่ขายไม่ได้ในช่วงโควิด-19 ระบาดให้เป็นแอลกอฮอล์ล้างมือและเอทานอล เพื่อเตรียมรองรับไวน์ล็อตใหม่ที่จะผลิตในฤดูการเก็บเกี่ยวที่กำลังจะถึง

ในช่วงที่เชื้อไวรัสระบาดไปทั่วโลก ทำให้การจำหน่ายและส่งออกไวน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ตกฮวบ ส่งผลให้มีไวน์ที่ขายไม่ได้นับล้านลิตร โดยแอลกอฮอล์ที่ได้จากการกลั่นไวน์ จะนำไปใช้ในทางการแพทย์และอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง รวมทั้งการผลิตแอลกอฮอล์ล้างมือ

ทั้งนี้ การส่งออกไวน์ของฝรั่งเศสยังได้รับผลกระทบจากมาตรการกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ที่มีผลบังคับใช้เมื่อปีที่แล้ว ทำให้ผู้ผลิตต้องรีบเคลียร์สต็อกสินค้า เพื่อรองรับไวน์ที่กำลังจะผลิตล็อตใหม่

#roundtablethailand
Roundtablethailand.com

ที่มา https://www.posttoday.com/world/625292

 

ภัยคุกคามอีกอย่างเดินทางถึงอเมริกาอย่างเงียบๆแต่น่าขนหัวลุกไม่น้อย ถูกเผยแพร่กว้างขวางมากขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว พื้นที่รัฐวอชิงตัน ฝั่งตะวันตกของประเทศพบ “ต่อหัวเสือ”--หรือเรียกขานกันในท้องถิ่นว่า “ตัวต่อยักษ์แห่งเอเชีย” -- Asian giant hornets หรือ “ต่อเพชฌฆาต”--Murder Hornet

ช่วงเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว ทางการรัฐวอชิงตัน พบ “ต่อหัวเสือ” สายพันธุ์ใหญ่ที่สุดในโลก ลักษณะลำตัวสีดำสลับส้ม ขนาดตัวยาวเกือบ 5 ซม. จำนวน 2 ตัว ตาย 1 ตัว และตัวเป็นๆอีก 1 ตัว ก่อให้เกิดกระแสความหวั่นวิตกถึงสัตว์ชนิดนี้ไม่ได้มีเพียงแค่นั้นในรัฐวอชิงตัน

ที่มาที่ไปของ “ต่อหัวเสือ” บนดินแดนอเมริกาถือเป็นการพบครั้งแรก เชื่อกันว่า “ต่อหัวเสือ” อาจติดมากับตู้สินค้าเดินทางระหว่างประเทศ หรือไม่ก็มีผู้คนลักลอบนำเข้า

สัตว์ปีกชนิดนี้มีพิษร้ายแรงและสามารถต่อยทำร้ายมนุษย์ได้ถึงตาย ตามปกติมีถิ่นฐานบ้านเกิดอยู่ในแถบเอเชียตะวันออก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้และบางส่วนของดินแดนตะวันออกไกลแห่งรัสเซีย

“ต่อหัวเสือ” ตามปกติไม่ทำร้ายมนุษย์ แต่ถ้าใครผู้ใดบังเอิญเหยียบย่างเข้าไปในถิ่นหรือเหยียบรังของมันที่อยู่ตามพื้นดินในแนวป่า มันจะไล่รุมทำร้ายกัดต่อยอย่างไม่ปรานี ผู้เคราะห์ร้ายที่เกิดอาการแพ้พิษเหล็กในจะเสียชีวิตได้ภายในเวลาไม่นาน

“ต่อหัวเสือ” ในญี่ปุ่น เฉลี่ยสังหารผู้คนแต่ละปีมากราว 30-50 คน แม้มันถูกตามล่ากวาดล้างอย่างมากจากมนุษย์ ทั้งเป็นอาหารอันโอชะของผู้คนในหลายวัฒนธรรม

อเมริกาหวาดผวาภัย “ต่อหัวเสือ” อย่างมาก เพราะสัตว์ปีกชนิดนี้พฤติกรรมโหดเหี้ยมดุดันสามารถทำลายอุตสาหกรรมการผลิตน้ำผึ้งเสียหายย่อยยับได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว “ต่อหัวเสือ” จะโจมตีรังผึ้งกัดสังหารฝูงผึ้งทั้งรังได้ภายในเวลา 1 สัปดาห์ ทั้งนำผึ้งไปเป็นอาหารเลี้ยงดักแด้และตัวอ่อน

ทางการสหรัฐฯประกาศแจ้งผู้คนที่พบเห็น “ต่อหัวเสือ” ต้องรีบรายงานแจ้งท้องถิ่นแต่ละแห่งทราบทันที เพื่อหาทางติดตามกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ให้สิ้นซากโดยเร็วภายในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

หาไม่แล้ว ถ้า “ต่อหัวเสือ” ขยายเผ่าพันธุ์ปรับสภาพสร้างถิ่นพำนักบนดินแดนอเมริกาและขยายไปแคนาดาอย่างถาวรแล้ว ความเสียหายมากมายมหาศาลจะตามมาเยือนอเมริกาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

กระแสเสียงชาวอเมริกันบรรยายความสะพรึงกลัว “ต่อหัวเสือ” เปรียบเทียบเหมือนกับ “วันสิ้นโลก” ใกล้มาเยือนดินแดนพญาอินทรี

บ้างอารมณ์ขัน ร้องขอ “ต่อหัวเสือ” ให้แสนรู้ฉลาดเคารพมาตรการ “เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล”––Social Distancing อยู่ให้ห่างมนุษย์ในระยะ 1.5 เมตร เพื่อความปลอดภัยหลายประการ...

โหรกระแส

 

ขนส่งฯ สั่งปรับ 1 หมื่น รถทัวร์ขายตั๋วเกินราคา 2 เท่า แถมผู้โดยสารแน่น

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ร้องเรียนผ่านกลุ่ม “ขอนแก่น ร้องเรียนอะไรบอกไว้ที่นี่” เพื่อขอความเป็นธรรมหลังซื้อตั๋วรถทัวร์ไปหัวหินในราคาสุดแพง 1,300 บาท โดยทางคนขายตั๋วอ้างมาตรการเว้นระยะห่างระหว่างที่นั่ง แต่พอขึ้นรถไป กลับเจอผู้โดยสารแน่นขนัด ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

สาวโพสต์ ขอความเป็นธรรม เจอรถทัวร์ ขึ้นราคา 2 เท่าพอทนแต่เห็นคนนั่งแล้วรับไม่ได้

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้(6 มิ.ย. 63) กรมการขนส่งทางบก โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่น ได้ตรวจสอบเรื่องร้องเรียนดังกล่าวแล้ว พบดังนี้

1. ผู้ร้องได้ซื้อตั๋วรถทัวร์ คันหมายเลขทะเบียน 10-8330 ขอนแก่น ม.4 ข. (36 ที่นั่ง) ของบริษัทชาญทัวร์จำกัด (รถร่วมบริษัทขนส่ง) สายที่ 837 นครพนม – นครศรีธรรมราช ในราคา 1,300 บาท เพื่อเดินทางไปจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยรถออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดขอนแก่น แห่งที่ 3 วันที่ 6 มิถุนายน 2563 เวลา 06.30 น.

2. จากการตรวจสอบเรื่องอัตราค่าโดยสาร พบว่า ผู้ประกอบการได้เรียกเก็บค่าโดยสารเกินกว่าอัตราที่ทางราชการกำหนด จึงได้เปรียบเทียบปรับเป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท

3. สำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่น ได้กำชับผู้ประกอบการให้จำหน่ายค่าโดยสารให้เป็นไปตามอัตราที่ทางราชการกำหนด พร้อมทั้งให้ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมโดยเคร่งครัด หากฝ่าฝืนจะพิจารณาลงโทษตามกฎหมายในอัตราโทษขั้นสูงสุดต่อไป

ทั้งนี้ยังมีผู้โดยสารอีกรายระบุว่าตนได้ซื้อตั๋วมาในราคา 1,300 บาทเช่นกัน “โดนเหมือนกัน แต่คิดไว้แล้วว่าวันนึงต้องมีคนมาโพสต์ แล้วก็จิงๆ”

ที่มา : BUS & TRUCK

The post ขนส่งฯ สั่งปรับ 1 หมื่น รถทัวร์ขายตั๋วเกินราคา 2 เท่า แถมผู้โดยสารแน่น appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

ฝ่าโควิด-เข้มสอบ ม.1 สพฐ.ยืนยันมีที่เรียนทุกคน
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปลื้มจัดสอบ ม.1 ช่วงวิกฤติโควิด-19 ผ่านฉลุย ผู้เข้าสอบปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างดี
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

6 มิถุนายน 2020 19:25 - 19:29 UTC สนามแม่เหล็กโลก

June 6, 2020. 19:25 to 19:29 UTC. Earth's magnetosphere.

 

เกิดความผิดพลาดในการประกาศตัวเลขอัตราการว่างาน วันศุกร์ที่ผ่านมา

ผิดพลาดหรือจงใจ‼️

#ตลาดจะรับรู้หรือไม่ #สินทรัพย์ปลอดภัยจะเป็นอย่างไรโดยเฉพาะ #ทองคำ

สำนักข่าววอชิงตันโพสต์ได้เขียนรายงานออกมาว่า มีการรายงานอย่างเป็นทางการของรัฐบาลสหรัฐในวันศุกร์ที่ผ่านมา มีข้อความด้านล่างว่าข้อผิดพลาดที่สำคัญที่บ่งชี้ว่าอัตราการว่างงานน่าจะสูงกว่าอัตรา 13.3% ที่รายงานประกาศออกไป

ไหมเหตุพิเศษดังกล่าวแจ้งว่า“ ข้อผิดพลาดการจัดประเภทผิดพลาดนี้” ปรากฏขึ้น อัตราการว่างงานโดยรวมน่าจะสูงกว่าที่รายงานไว้ประมาณ 3%” หมายความว่าอัตราการว่างานจะอยู่ที่ประมาณ 16.3% ในเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นการปรับปรุงจากอัตราการว่างานประมาณ 14.7% ในเดือนเมษายน โดยสำนักงานสถิติรายงานแห่งชาติซึ่งเป็นหน่วยงานที่จะทำรายงานการจ้างงานรายเดือนกล่าวว่า “กำลังทำงานเพื่อแก้ไขปัญหานี้”

BLS และสำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรกำลังตรวจสอบ ในการผิดพลาดในครั้งนี้โดยเฉพาะการผิดพลาดของการจำกัดประเภทที่ยังคงเกิดขึ้นและกำลัง ดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหานี้ “ซึ่งจะมีโน๊ตดังกล่าวด้านล่างของรายงานสถิติรายงานของรัฐบาล”

นักเศรษฐศาสตร์บางสำนักกล่าวว่า BLS พยายามที่จะทำให้โปร่งใสที่สุดซึ่งมีความเป็นไปได้เกี่ยวกับข้อจำกัดในการเก็บข้อมูลในรูปแบบ Realtime ในระหว่างการระบาดของโควิด-19 ซึ่ง BLS ยอมรับว่า ผู้ทำงานบางคนได้จัดว่าเป็น “ผู้ว่างานชั่วคราว” ซึ่งอยู่ในอ่ะระหว่างบริษัทที่ปิดตัวลงแต่ผู้ทำงานบางคนอาจจะมีการแจ้งกับ BLS ว่าหยุดงานเนื่องจากเหตุผลอื่นซึ่งยังไม่ใช่ตกงานอย่างแท้จริง

ซึ่งในหมวดหมู่ “เหตุผลอื่นๆ “ ของหน่วยงาน BLS จะใช้สำหรับราพักร้อนหรือเพื่อทำหน้าที่อื่นหรือลาเพื่อดูแลบุตรหรือญาติ โดยเป็นสถานการณ์ที่ผู้ปฏิบัติงานใช้ตัดสินใจว่าเป็นเพียงแค่การลางานแต่ในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 หมวดหมู่นี้ อาจจะถูกนำไปใช้กับบางคนที่รออยู่ที่บ้านและรอการถูกเรียกกลับไปทำงานเหมือนเดิมโดยที่ยังไม่ใช่ผู้ที่ตกงานในช่วงโควิด-19

ข้อสังเกต

อย่างไรก็ตามในการประกาศอัตราการว่างาน 13.3% โดยตัวเลขที่มีข้อผิดพลาดถึง 3% ต้องติดตามว่าตลาดจะรับรู้อย่างไรในวันจันทร์นี้หรือต้องติดตามว่าการประกาศตัวเลขในครั้งนี้อาจจะไม่ผิดพลาดมากนักเพราะอยู่ในช่วงผิดปกติของโควิด-19 ดังนั้นต้องติดตามราคาการสะท้อนของตลาด

ในการติดตามราคาสะท้อนของตลาดต้องติดตามว่าทิศทางของตลาดหุ้นดาวโจนส์ฟิวเจอร์จะมีการเปิดออกมาอย่างไรรวมทั้งทิศทางของทองคำที่มีการปรับตัวลงอย่างหนักในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาหลังจากที่มีการประกาศตัวเลข อัตราการว่างานดังกล่าวซึ่งต้องติดตามว่าประเด็นนี้จะสร้างความผันผวนให้กับทองคำให้มีการดีดกลับขึ้นไปหรือไม่

แต่สิ่งที่น่าคิดก็คือการประกาศตัวเลขที่ออกมาจริงก็คือ 13.3% ในเดือนพฤษภาคม และครั้งก่อน 14.7% ในเดือนเมษายน แต่การคาดการณ์ในเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 19.7% ซึ่งถ้าประกาศออกมาจริงอยู่ที่ 16.3% ต้องรอดูว่าตลาดจะขานรับหรือไม่

ทองคำจะไปไหน #เอาสักทาง


อย่างไรก็ตามมีการแถลงในเอกสารเรียบร้อยแล้วคาดว่าหน่วยงานของรัฐบาล BLS คงอาจจะไม่มีการตั้งโต๊ะแถลงอย่างเป็นทางการแน่นอนดังนั้นต้องติดตามมากที่สุดเลยก็คือตลาดหุ้นดาวโจนส์ฟิวเจอร์จขานรับฝั่งไหน ฝั่งที่ประกาศออกไปแล้ว 13.3% หรือฟังที่มีการตีข่าวออกมาว่าเป็น 16.3% ต้องติดตามอย่างมากในวันจันทร์นี้

⭕️⭕️⭕️⭕️
หมายเหตุ #BLS คือ The Bureau of Labor Statistics (สำนักสถิติรายงานของรัฐบาลสหรัฐ)

ต้องติดตามต่อไป

ทุกกรณีจะเกิดการเคลื่อนไหวของราคาในรูปแบบ Real Time หรือรูปแบบแบบทันท่วงทีดังนั้นสิ่งที่สำคัญมากกับทุกท่านที่พร้อมที่จะจัดการกับออเดอร์ของท่านหรือเตรียมตัวรับ ปัจจัยหนุนต่างๆควรติดตามทุกสถานการณ์อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

Cr : PURICH FOREXMONDAY

แหล่งที่มาของข่าว
www.washingtonpost.com

 

6 มิถุนายน ... ผู้ติดเชื้อในภาคตะวันตกสูงเกิน 5 หมื่นคนแล้ว โดยจำนวนผู้ที่รักษาหายรายวันของทั่วประเทศเริ่มชะลอตัวลง ขณะที่ผู้ติดเชื้อใหม่กลับเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง (ทำสถิติสูงที่สุดในวันนี้) ... นับว่าสถานการณ์น่าเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่ง

 

✈ ประกาศ เรื่องการชำระค่าบัตรโดยสารของสายการบิน Saudi Arabian Airlines ✈

♦ ตามประกาศสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 เปิดรับลงทะเบียนผู้ที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทยโดยสายการบิน Saudi Arabian Airlines ซึ่งมีกำหนดเดินทางออกจากเมืองเจดดาห์ไปยังกรุงเทพฯ ในวันที่ 11 มิถุนายน 2563 และสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ประกาศรายชื่อผู้ลงทะเบียน และผลการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนไปเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม และ 3 มิถุนายน 2563 ตามลำดับ นั้น

สถานกงสุลใหญ่ฯ ขอเรียน ดังนี้

♦ 1. มีผู้ที่แจ้งขอยกเลิกการเดินทางเพิ่มเติมอีกจำนวน 5 คน ทำให้ขณะนี้ มีจำนวนผู้ที่ประสงค์จะเดินทางทั้งสิ้น 266 คน (เอกสารแนบ 1)

♦ 2. สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้รับโควตาผู้เดินทางเข้าประเทศไทยจำนวน 265 คน อย่างไรก็ดี สายการบินฯ แจ้งว่า มีผู้โดยสารชาวสิงคโปร์จะร่วมเดินทางด้วยอีกจำนวนหนึ่งเพื่อเดินทางจากกรุงเทพฯ ต่อไปยังสิงคโปร์ ซึ่งทำให้
มีจำนวนที่นั่งสำหรับผู้โดยสารชาวไทยเหลืออยู่ 262 ที่นั่ง

♦ 3.สถานกงสุลใหญ่ฯ ขอให้ผู้ที่มีรายชื่อในลำดับที่ 1 – 262 โปรดสำรองบัตรโดยสารเครื่องบินได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยสามารถสำรองบัตรโดยสารและชำระเงินได้ที่เว็บไซต์ของสายการบินฯ ขณะที่ผู้โดยสารที่เป็นนักศึกษา โปรดประสานงานกับฝ่ายเดินทางของมหาวิทยาลัยต้นสังกัดเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

❎ 4. ไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิการเดินทางสำรองบัตรโดยสารเครื่องบินในระบบในทุกกรณี โดยสถานกงสุลใหญ่ฯ จะไม่ออกหนังสือรับรองการเดินทางให้ ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถ check-in เพื่อขึ้นเครื่องบินได้ รวมทั้งจะไม่ได้รับการคืนเงินค่าบัตรโดยสารเครื่องบินที่ได้ชำระไป

♦ 5. เมื่อได้สำรองบัตรโดยสารแล้ว ขอให้ส่งสำเนาบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (eTicket) มายังสถานกงสุลใหญ่ฯ ทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ rtcg.jed@gmail.com หรือทาง chat box ของ Facebook Page ของสถานกงสุลใหญ่ฯ

♦ 6. ขอให้ผู้ที่ได้รับสิทธิเดินทางกรอกข้อมูลส่วนบุคคลลงใน “แบบฟอร์มลงทะเบียนคนไทยที่จะเดินทางกลับประเทศไทย” (เอกสารแนบ 2) โดยกรอก 1 คน ต่อ 1 แบบฟอร์ม พร้อมลงนามในเอกสารดังกล่าว และนำแบบฟอร์มดังกล่าวมายื่นต่อเจ้าหน้าที่ของสถานกงสุลใหญ่ฯ ที่ท่าอากาศยานในวันเดินทาง

♦ จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

 

ฉันไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร แต่มันผ่านดาวเสาร์ในเวลาประมาณหนึ่งวินาที ..

17 มิถุนายน 2019 เวลา 00:05:08 ถึง 00:05:09

เครดิต: โพสต์โดย Hush Puppy ช่อง YouTube 6/6/20

 

เปลวไฟโซสุริยะ คลาส B ยังคงดำเนินต่อไป
ภาพโคลสอัพของพื้นที่แอคทีฟของดวงอาทิตย์ AR2765 พ่นใยขนาดใหญ่ออกมา