ติดตามสถานะการณ์

สังคมฮ่องกงกำลังแสดงพลังบวก
.
1/ หลังจากสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนมีมติท่วมท้นเมื่อวันที่ 28 พ.ค. รับรองร่างกฎหมายว่าด้วยความมั่นคงฮ่องกง นานาประเทศมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
.
อ่านเพิ่มเติม: มติท่วมท้นสภาประชาชนแห่งชาติจีน รับรองกฎหมายความมั่นคงฮ่องกง พฤติกรรมท้าทายหลักการ ‘หนึ่งประเทศ สองระบบ’ ผิดกฎหมายร้ายแรง
.
2/ แต่ความเห็นที่สำคัญที่สุดน่าจะเป็นความเห็นจากชาวฮ่องกงเอง เพราะหลังจากสภาฯจีนรับรองร่างกฎหมาย ชาวฮ่องกงจากวงการต่างๆออกมาให้การสนับสนุน ออกมาแสดงพลังบวกผ่านกิจกรรมหนึ่ง
.
3/ กิจกรรมนั้นคือ ตลอด 8 วันที่ผ่านมา มีการเปิดให้ชาวฮ่องกง ‘ลงชื่อร่วมสนับสนุนร่างกฎหมายว่าด้วยความมั่นคงฮ่องกงจากมติสภาฯจีน’ ผ่านทางเว็บไซต์และตามจุดต่างๆทั่วฮ่องกง
.
4/ เมื่อปิดการลงชื่อ มีชาวฮ่องกงร่วมสนับสนุนมากถึง 2.92 ล้านคน (ปัจจุบัน เขตปกครองพิเศษฮ่องกงมีประชากรราว 7 ล้าน 5 แสนคน เท่ากับว่า มีชาวฮ่องกง 40% สนับสนุนร่างกฎหมาย)
.
5/ บ่ายวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา ผู้จัดกิจกรรมได้ส่งรายชื่อทั้งหมดให้กับ ‘สำนักงานรัฐบาลกลางของจีนประจำฮ่องกง’ เรียบร้อยแล้ว
.
6/ วัตถุประสงค์สำคัญของกิจกรรม นอกจากต้องการยุติความรุนแรงและความวุ่นวายในฮ่องกง ให้สังคมฮ่องกงได้แสดงพลังบวกแล้ว ผู้จัดกิจกรรมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สำนักงานรัฐบาลกลางของจีนประจำฮ่องกงจะส่งผ่านพลังบวก พลังสนับสนุนร่างกฎหมายพิทักษ์ความมั่นคงของฮ่องกงและประชาชนชาวฮ่องกงให้กับ ‘รัฐบาลกลางจีน’
.
7/ นายลั่ว ฮุ่ยหนิง ผู้อำนวยการสำนักงานรัฐบาลกลางจีนประจำฮ่องกง หลังจากรับรายชื่อ รับทราบความต้องการของชาวฮ่องกง 2.92 ล้านคนแล้ว กล่าวว่า ในระยะเวลาเพียง 8 วัน มีชาวฮ่องกงร่วมลงชื่อมากขนาดนี้ แสดงให้เห็นถึงพลังบวกของสังคมฮ่องกง
.
8/ “เรื่องนี้พิสูจน์ได้ว่า ร่างกฎหมายว่าด้วยความมั่นคงฮ่องกงจากมติสภาฯจีนนั้นสอดคล้องกับความต้องการของชาวฮ่องกงและเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องปฏิบัติ” นายลั่ว กล่าว
.
ขอบคุณภาพจาก HK people should take pride in being Chinese https://www.chinadailyasia.com/hknews/2017-03/07/content_15582365.html
.

 

เซินเจิ้นมีสุนัขราว 200,000 ตัว
90% ขึ้นทะเบียนถูกต้องเรียบร้อย
.
1/ สำนักเทศกิจของนครเซินเจิ้น ทางใต้ของจีน ระบุว่า การสำรวจจำนวนสุนัขครั้งใหม่ พบว่านครเซินเจิ้นมีสุนัขอยู่ราวๆ 200,000 ตัว
.
2/ จากจำนวน 200,000 ตัวนั้น 90% ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องกับทางการแล้ว
.
3/ ทั้งนี้เพราะ เซินเจิ้นมีนโยบายยกระดับการจัดการสัตว์เลี้ยง จึงออกกฎใช้ชาวเมืองเซินเจิ้นต้องยื่นขอใบรับรองเลี้ยงสุนัขผ่านระบบออนไลน์ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว
.
4/ การสำรวจจำนวนสุนัขครั้งใหม่ที่เกิดขึ้น ก็เพื่อบรรลุเป้าหมายจัดการสัตว์เลี้ยงให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการฝังไมโครชิปในสุนัขทุกตัว ให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2020
.
5/ ไมโครชิปนั้นมีขนาดเล็กเท่าเมล็ดข้าว มันจะถูกฝังอยู่ใต้ผิวหนังบริเวณหัวไหล่ของสุนัข
.
6/ ผู้ดำเนินการฝังไมโครชิปคือ สัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้รับผิดชอบ และการฝังไมโครชิปให้สุนัขแต่ละตัวนั้นใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที
.
7/ ไมโครชิปจะมีโค้ด เมื่อสแกนแล้วจะแจ้งข้อมูลของสุนัขตัวนั้น ได้แก่ ชื่อ สายพันธุ์ ชื่อเจ้าของ และข้อมูลสำหรับติดต่อเจ้าของสุนัข
.
ขอบคุณภาพจาก https://qz.com/1835656/china-now-classifies-dogs-as-pets-not-livestock/
.

 

June 2, 2020 ทุบ-ทำลาย-ขโมย ร้านค้าแบรนด์ดังยันห้างสรรพสินค้าหรูในสหรัฐ อาดิดาสสั่งปิดทุกสาขา ห้างทาร์เก็ตปิดยาวถึงสิ้นปีนี้

นิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก: กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงที่ใช้ความรุนแรงในนิวยอร์ก สร้างความเสียหายให้กับห้างสรรพสินค้าเมซี่ โดยเฉพาะสาขาเฮอรัลด์ สแควร์ ที่นิวยอร์ก ซึ่งเป็นสาขาสุดหรูหราและมีพื้นที่ขนาดใหญ่ ท่ามกลางการประกาศเคอร์ฟิวในนิวยอร์กตั้งแต่เวลา 23.00 น.ของคืนวันจันทร์(ตามเวลานิวยอร์ก) อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจนิวยอร์กติดตามมาถึงห้างสรรพสินค้าเมซี่สาขาดังกล่าว และสามารถจัดการกับกลุ่มขโมยรวมถึงผู้ชุมนุมที่ใช้ความรุนแรง จากสถานการณ์รุนแรงดังกล่าวที่เกิดขึ้น รวมถึงในภาพรวมทั่วนิวยอร์ก ส่งผลให้ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กประกาศใช้เคอร์ฟิวต่อเนื่องในวันอังคารเริ่มตั้งแต่เวลา 20.00 น.(ตามเวลานิวยอร์ก)

มินนิแอโพลิส รัฐมินนิโซตา: ห้างสรรพสินค้าทาร์เก็ต ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าระดับกลางชื่อดังในสหรัฐ ประกาศปิดสาขาเลค สตรีท ที่เมืองมินนิแอโพลิสยาวถึงสิ้นปีนี้ สาเหตุจากผู้ชุมนุมประท้วงที่ใช้ความรุนแรง และกลุ่มหัวขโมยจำนวนมาก เข้าทำลายทรัพย์สินและขโมยสินค้าจำนวนมากภายในห้างสรรพสินค้าดังกล่าวเมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว ผู้บริหารห้างสรรพสินค้าทาร์เก็ตตัดสินใจปิดสาขาเพื่อซ่อมแซมครั้งใหญ่ โดยจ่ายค่าจ้างรวม 14 วันตามกฎหมายให้กับพนักงานจำนวน 200 คนที่ทำงานสาขาที่ต้องปิดตัวลง และย้ายให้ไปทำงานที่สาขาอื่นๆในเมืองมินนิแอโพลิส ทั้งนี้ ห้างสรรพสินค้าทาร์เก็ตประกาศปิด 175 สาขาทั่วสหรัฐ ซึ่งเป็นสาขาที่ได้รับความเสียหายจากกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงและขโมยในเมืองต่างๆ

ชิคาโก รัฐอิลลินอยส์: อาดิดาส แบรนด์เสื้อผ้ากีฬาชื่อดังระดับโลกจากเยอรมนี ประกาศปิดสาขาทุกแห่งในสหรัฐอเมริกา หลังจากร้านสาขาอาดิดาสจำนวนมากได้รับความเสียหาย และสินค้าถูกขโมยจากกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงที่ใช้ความรุนแรง เช่น ลอส แองเจลิส ชิคาโก นิวยอร์ก ทั้งนี้ อาดิดาส ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ทั่วโลก ที่ออกมาตกต่ำ จากปัญหาจากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 และยังต้องมาเผชิญกับความเสียหายจากสถานการณ์การชุมนุมประท้วงต่อต้านปัญหาผิวสีในสหรัฐอเมริกา

ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย: อูเบอร์ ยักษ์ธุรกิจสตาร์ทอัพให้บริการร่วมเดินทางชื่อดังในสหรัฐ ประกาศยกเลิกบริการในช่วงเวลาเคอร์ฟิวอย่างน้อย 40 เมืองทั่วสหรัฐ รวมถึงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สาเหตุจากการชุมนุมประท้วงการทำเกินกว่าเหตุของตำรวจกับชายผิวสีในวงกว้างทั่วสหรัฐ เช่นเดียวกันกับ ดอร์แดช ธุรกิจให้บริการจัดส่งอาหารชื่อดังในเมืองซานฟรานซิสโก ประกาศยกเลิกบริการส่งอาหารในช่วงเวลาเคอร์ฟิวด้วย

#ประท้วงสหรัฐ #ผิวสี #สหรัฐ #อาดิดาส #อูเบอร์ #เคอร์ฟิว #misterban #usa #blm #blacklivesmatter

 

June 3, 2020 ตลาดหุ้นสหรัฐคึกคักต่อเนื่อง ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 260 จุด ราคาน้ำมันดิบปิดพุ่งกว่า 3% ส่งราคาไนเม็กซ์ปิดเหนือกว่า 36 ดอลลาร์ ราคาทองคำตลาดโลกดิ่งกว่า 10 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 25,742 จุด +267 จุด หรือ +1.05% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,080 จุด +25 จุด หรือ +0.82% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 9,608 จุด +56 จุด หรือ +0.59% สาเหตุจากนักลงทุนให้น้ำหนักกับการกลับมาเปิดภาคเศรษฐกิจ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ชุมนุมประท้วงรุนแรงในสหรัฐอเมริกา หากยืดเยื้อไปถึงฤดูร้อนที่จะถึงนี้

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 36.81 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.37 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.87% ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 39.36 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.04 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ +2.7% สาเหตุจากแนวโน้มกลุ่มโอเปกพลัสที่จะขยายเวลาการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบที่วันละ 9.7 ล้านบาร์เรล จากเดิมที่จะสิ้นสุดในพฤษภาคมหรือมิถุนายนไปเป็นกรกฎาคม หรือสิงหาคม ในการประชุมทางไกลที่จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายนนี้

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,733.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -17
ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ สาเหตุจากการทำกำไรช่วงสั้นๆ

#ลงทุน #สตาร์ทอัพ #การเงิน #หุ้น #ทองคำ #น้ำมัน #ตลาดหุ้น #เล่นทอง #ราคาทอง #ดิจิทัล #markets #business #stock #gold #oil #investment #misterban #เศรษฐกิจ #เล่นหุ้น #btimes

 

โรคเปลี่ยนโลก! โควิดสร้างชีวิตรูปแบบใหม่รับยุค New Normal ต่อกันด้วยด้านสาธารณสุข การแพทย์ ที่ต่อไปหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์จะเป็นไอเท็มหลักติดตัว อีกทั้งผู้คนจะหันกลับมาใส่ใจสุขภาพและรักษาความสะอาดกันมากขึ้น จนกลายเป็นความเคยชินในชีวิตประจำวัน
.
#NewNormal #ความปกติใหม่ #การแพทย์ #สาธารณสุข #สุขภาพ #เศรษฐกิจ #ไวรัส #Covid19 #โควิด19 #MisterBan

 

June 3, 2020 ยอดติดทั่วโลกทะลุกว่า 6.4 ล้านคน อินเดียติดทะลุกว่า 200,000 ยอดตายบราซิลพุ่งผ่าน 31,000 คน The Covid-19 infected globally toll surpassed 6.3 million

เวลา 6.20 น. รายงานสถานการณ์จำนวนผู้ติดโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลก เพิ่มเป็น 6,470,850 ราย ซึ่ง 10 อันดับแรกของโลก คือ สหรัฐอเมริกา 1,879,611 ราย บราซิล 555,383 ราย รัสเซีย 423,741 ราย สเปน 287,012 ราย สหราชอาณาจักร 277,985 ราย อิตาลี 233,515 ราย อินเดีย 207,183 ราย ฝรั่งเศส 189,220 ราย เยอรมนี 184,091 ราย และเปรู 170,039 ราย

สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มเป็น 381,639 ราย ซึ่ง 10 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 108,026 ราย สหราชอาณาจักร 39,369 ราย อิตาลี 33,530 ราย บราซิล 31,243 ราย ฝรั่งเศส 28,940 ราย สเปน 27,127 ราย เม็กซิโก 10,167 ราย เบลเยียม 9,505 ราย เยอรมนี 8,674 ราย และอิหร่าน 7,942 ราย

ในส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อในอาเซียน และเสียชีวิต(ตัวเลขในวงเล็บ) พบว่า สิงคโปร์ 35,836 ราย(24) อินโดนีเซีย 27,549 ราย(1,663) ฟิลิปปินส์ 18,997 ราย(966) มาเลเซีย 7,877 ราย(115) ไทย 3,083 ราย(58) เวียดนาม 328 ราย เมียนมา 232 ราย(6) บรูไน 141 ราย(2) กัมพูชา 125 ราย และลาว 19 ราย

#ไวรัสโคโรนา #ไวรัสอู่ฮั่น #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 #โรคปอดอักเสบ #ไวรัสโควิด19 #covid19 #Misterban #coronavirus #pneumonia #btimes #money360

 

7-Eleven โดนด้วย! ถูกปล้นสะดม, วางเพลิงเสียหายยับ
ผู้ประท้วงสหรัฐฯลุยห้างเมซีส์ก่อนเคอร์ฟิว
.
7-Eleven สาขาหนึ่งในเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี ถูกปล้นสะดมและจุดไฟเผา หลังการประท้วงต่อต้านเหยียดผิวเลี้ยวเข้าสู่ความรุนแรง เมื่อคืนวันจันทร์ (1 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ส่วนในนิวยอร์ก พวกก่อจลาจลก็ปล้นสะดมห้างเมซีส์ สาขาเฮรัลด์สแควร์ ในนิวยอร์ก และก่อความเสียหายเช่นกัน ก่อนถึงเวลาห้ามออกนอกเคหสถานตามคำประกาศเคอร์ฟิว
.
สาขาหนึ่งในเซนต์หลุยส์ของห้างค้าปลีก 7-Eleven ถูกปล้นสะดม และเกิดไฟลุกท่วมตอนเวลา 21.40 น. โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาราวๆ 20 นาที จึงสามารถควบคุมเปลวไฟเอาไว้ได้ ขณะที่สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่าต้นเพลิงน่าจะมาจากพลุไฟของพวกผู้ประท้วง
.
อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000057482
#mgronline #7-Eleven #ถูกปล้นสะดม #วางเพลิง #ผู้ประท้วงสหรัฐอเมริกา #ปล้นห้างเมซีส์

 

นิวยอร์กขยายเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน
เคอร์ฟิวเอาไม่อยู่เกิดจลาจลปล้นห้างฯทั่วเมือง
.
บิลล์ เดอ บลาสิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กในวันอังคาร (2 มิ.ย.) ขยายเวลาเคอร์ฟิวตอนกลางคืนออกไปจนถึงวันที่ 7 มิถุนายน หลังมาตรการงดออกนอกเคหสถาน ซึ่งบังคับใช้เมื่อคืนที่ผ่านมา ล้มเหลวในการสกัดความรุนแรงและปล้นสะดม ส่วนหนึ่งในการประท้วงต่อต้านเหยียดผิวที่ลุกลามทั่วสหรัฐฯ
.
อย่างไรก็ตาม นายกเทศมนตรีรายนี้ บอกว่า กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ (National Guard) ซึ่งเป็นหน่วยทหารประจำรัฐต่างๆ ยังไม่มีความจำเป็น แม้รัฐอื่นๆ หลายรัฐที่เกิดการประท้วง ได้ประจำการกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิตามเสียงเรียกร้องของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กันไปบ้างแล้ว
.
อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000057508
#mgronline #นิวยอร์ก #เคอร์ฟิวเอาไม่อยู่ #จลาจลปล้นห้าง #ขยายเวลา #ห้ามออกนอกเคหสถาน

 

ภายใต้เสียงหัวเราะ
“บอริส” ออกกฎเข้มกันโควิด-19 ระบาด
ห้ามคู่รักมีเพศสัมพันธ์
.
กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วด้วยอารมณ์ขัน เมื่อรัฐบาลอังกฤษของนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ออกกฎใหม่ในการควบคุมการระบาดไวรัสโควิด-19 ในอังกฤษ ประกาศห้ามคนรักที่อยู่แยกกันมารวมตัวกลายเป็นสิ่งที่ถูกชาวอังกฤษเรียกขานว่า “มาตรการห้ามมีเซ็กซ์”
.
RT สื่อรัสเซียรายงานเมื่อวานนี้ (2 มิ.ย.) ว่า มาตรการแก้ไขใหม่ที่เพิ่งถูกออกมานำเสนอในวันจันทร์ (1) ที่รัฐบาลอังกฤษออกคำสั่งห้ามคนตั้งแต่ 2 คน หรือมากกว่านั้นที่อาศัยต่างบ้านกันมารวมตัวที่พัก ซึ่งเป็นมาตรการที่ถูกนำเสนอ 10 สัปดาห์ หลังจากการปิดตายได้ถูกบังคับใช้
.
อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000057471
#mgronline #บอริสจอห์นสัน #นายกรัฐมนตรี #อังกฤษ #ห้ามคู่รักมีเพศสัมพันธ์ #ห้ามมีเซ็กซ์ #โควิด-19

 

ทรัมป์ลั่นพร้อมส่งทหารจัดการม็อบ
จลาจลลามทั่วสหรัฐฯ 40 เมือง ใช้เคอร์ฟิว
.
เอเจนซีส์ – “ทรัมป์” ส่งทหารปราบผู้ก่อความวุ่นวายในวอชิงตัน ดี.ซี. ขู่พร้อมระดมกำลังเข้าจัดการในรัฐที่ควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ขณะการประท้วงต้านการเหยียดผิว และความโหดเหี้ยมของตำรวจ ซึ่งลุกลามเป็นความรุนแรงทั่วสหรัฐฯมาหลายวันแล้ว ยังคงทำให้กว่า 40 เมือง ต้องประกาศเคอร์ฟิว ส่วนผลชันสูตรจากผู้เชี่ยวชาญอิสระยืนยัน “จอร์จ ฟลอยด์” เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ
.
ในคืนวันจันทร์ (1 มิ.ย.) ซึ่งนับเป็นคืนที่ 7 ติดต่อกันแล้วที่ทั่วสหรัฐฯ เกิดเหตุจลาจลรุนแรง รายงานระบุว่า พวกผู้ประท้วงจุดไฟเผาศูนย์การค้าแห่งหนึ่งในลอสแองเจลิส และห้างร้านหลายแห่งในนิวยอร์กซิตี้ ถูกฝูงชนบุกเข้าไปฉกชิงขโมยข้าวของ
.
อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000057470
#mgronline #โดนัลด์ทรัมป์ #ทหารจัดการม็อบ #ประกาศเคอร์ฟิว #40เมืองทั่วสหรัฐฯ #จลาจล #ความรุนแรง #ต้านการเหยียดผิว

 

สงครามสั่นประสาท ระหว่างผู้นำสหรัฐฯ กับผู้นำแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ อย่างทวิตเตอร์ กำลังเป็นที่สนใจจากคนทั่วโลก และนักวิเคราะห์มองว่า เป็นผลดีมากกว่าผลเสีย สำหรับ บ.ทวิตเตอร์ อิงค์ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ไปหาคำตอบด้วยกัน

 

สหรัฐ : สรุปเหตุการณ์ล่าสุดม๊อบ
บางเมืองเบาลง บางเมืองรุนแรงขึัน ซึ่งแฝงไปด้วยกลุ่มปล้นร้านค้า และมาเรียกร้องสิทธิจริง มีปะทะกับเจ้าหน้าที่ และใช้กำลำสลายในหลายรัฐ
- 26 รัฐประกาศใช้กองกำลังรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ National Guards
- 80 เมืองประกาศเคอร์ฟิว
- ม๊อบ 4400 คนถูกจับ
- National Guards เฝ้าสถานที่สำคัญในหลายรัฐ
เพราะกลัวโดนเผา ม๊อบได้เผาเสียหายบางส่วน
- National Guards 66,700 คน ได้เข้าสนับสนุนรัฐต่างๆ ถือเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าในการเรียกใช้กองกำลังมากที่สุด
- นอกสหรัฐ มีฝรั่งเศส อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี ออสเตรเลีย ออกมาชุมนุมเรียกร้องความเท่าเทียมผิวสี และการใช้กำลังที่รุนแรงของตำรวจ ในฝรั่งเศสส่อความรุนแรงเพราะ + กับเคสในประเทศที่โดนเลือกปฏิบัติ

 

ฝรั่งเศส : ปารีส คนนับหมื่นคนมารวมตัวกันที่ศาลากลางกรุงปารีส เพื่อแสดงออกถึงการรวมใจเรียกร้องความเท่าเทียม เหตุการณ์เสียชีวิตในสหรัฐ จอร์จ ฟลอยด์ แต่มี + เรียกร้องเพิ่ม
# ม๊อบปารีส ยังเรียกร้องการปฎิบัติงานด้วยความรุนแรงของตำรวจทำให้มีเหตุเสียชีวิตในฝรั่งเศสหลายครั้ง คล้ายเหตุในสหรัฐ
# ตอนนี้มีการปะทะในปารีส ตำรวจใช้แก๊สน้ำตา
สลาย

 

โรงเรียนและธุรกิจในกรุงโตเกียวกลับมาเปิดเรียนและเปิดกิจการอีกครั้ง แต่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดยังไม่นิ่ง พื้นที่คิวชูน่าห่วงที่สุดพบผู้ติดเชื้อระลอก 2 ต้องขอให้ประชาชนอยู่บ้านหยุดเชื้ออีกครั้ง
https://mgronline.com/japan/detail/9630000057100

 

ด่วน... ถนนรอบทำเนียบขาวถูกปิดกั้นตามคำร้องขอของ หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐฯ

ผู้ว่าการกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ประกาศว่า เขาได้สั่งปิดกั้นถนนสายตะวันออก ตะวันตกและทางเหนือของทำเนียบขาวตามคำร้องขอของหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐฯจนกว่าจะมีการแจ้งให้ทราบต่อไป

https://www.tasnimnews.com/fa/news/...-سفید-به-درخواست-سرویس-مخفی-آمریکا-مسدود-شدند

 

June 3, 2020 คนทั่วโลกเมินซื้อสมาร์ทโฟน ยอดขายทรุดเหว 20% ยอดขายย่ำแย่เป็นประวัติการณ์
.
การ์ทเนอร์ เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 1 ปีนี้ ยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกทรุดหนัก -20.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว โดยมียอดขาย 299 ล้านเครื่อง ในขณะที่ช่วงเวลาเดียวกันในปี 2562 มียอดขายทั่วโลกที่ 375 ล้านเครื่อง
.
การ์ทเนอร์ เปิดเผยต่อไปว่า สมาร์ทโฟนยี่ห้อจากเอเชียมียอดขายในไตรมาสที่ 1 ที่ตกต่ำมากกว่ายีาห้อจากสหรัฐอเมริกา พบว่า อันดับ 1 ยังเป็นของซัมซุงมีส่วนแบ่งตลาดที่ 18.5% ถึงแม้ว่ายอดขายสมาร์ทโฟนซัมซุงจะดำดิ่งถึง -22% อันดับ 2 คือหัวเว่ย มีส่วนแบ่ง 14.2% ท่ามกลางยอดขายทรุดหนัก -27% แอปเปิลมาเป็นอันดับที่ 3 ด้วยส่วนแบ่งที่ 13.7% แต่มียอดขายลดลงปานกลางเพียง -8%
.
สำหรับสาเหตุที่ส่งผลกระทบยอดขายสมาร์ทโฟนตกต่ำเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 1 มาจาก วิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ที่กระทบภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างรุนแรง มาตรการปิดภาคเศรษฐกิจ ทำให้โรงงานผลิตสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ที่ตั้งในเอเชียไม่สามารถผลิตได้ตามปกติ นอกจากนี้ การปิดร้านสาขาและปิดห้างสรรพสินค้าตามมาตรการปิดเมืองในตลาดสมาร์ทโฟนขนาดใหญ่ของโลก ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่ยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกในไตรมาสที่ 2 อาจทรุดหนักกว่าไตรมาสที่ 1
.
#สมาร์ทโฟน #ทั่วโลก #ตกต่ำ #Misterban #ประวัติการณ์

 

June 3, 2020ตำรวจจับม็อบประท้วงกว่า 2,700 คน ใช้กองกำลังรักษาความปลอดภัยแห่งชาติกว่า 20,000 คน กลุ่มผู้ชุมนุมยังตั้งหลักตรงข้ามทำเนียบขาว
.
เข้าสู่คืนที่ 8 สถานการณ์ชุมนุมประท้วงทั้งสงบและรุนแรงในกว่า 40 เมืองทั่วสหรัฐ ซึ่งเป็นผลจากตำรวจผิวขาวทำเกินกว่าเหตุกับนายจอร์จ ฟลอยด์ ชาวอเมริกันผิวสีถึงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ยังคงทำให้เกิดสถานการณ์สำคัญดังนี้
.
ลอส แองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย: มิเชล มัวร์ หัวหน้าตำรวจลอสแองเจลิส แถลงว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ชุมนุมประท้วงที่ทำผิดกฎหมายรวมเป็นจำนวน 2,700 คนนับตั้งแต่เริ่มมีการชุมนุมประท้วงเป็นต้นมา ในจำนวนดังกล่าว พบว่ามีมากกว่า 2,500 คนฝ่าฝืนกฎหมายเคอร์ฟิว ส่วนที่เหลือประมาณ 200 คนทำผิดกฎหมายในข้อหาขโมยสินค้า ทำลายทรัพย์สิน ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสร้างความรุนแรงอื่นๆ
.
นิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก: นายกเทศมนตรี บิลล์ เดอ บลาซิโอ แถลงใช้เคอร์ฟิวเริ่มตั้งแต่เวลา 20.00 น. ทั้งสัปดาห์นี้ โดยเน้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนิวยอร์กเป็นกำลังหลักในการควบคุมสถานการณ์การชุมนุมประท้วง โดยปฏิเสธที่ใช้กองกำลังรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กกลับตำหนิการทำงานระหว่างนายกเทศมนตรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ในคืนที่ผ่านมาได้ทั้งๆที่มีประกาศเคอร์ฟิว ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ชุมนุมประท้วงที่ฝ่าฝืนกฎหมายเป็นจำนวนเกือบ 700 คน
.
แอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย: ตำรวจแอตแลนต้า 6 นาย ถูกตั้งข้อหากระทำเกินกว่าเหตุกับวัยรุ่นชาวอเมริกัน 2 คนที่ยังเป็นนักศึกษา ด้วยการหยุดรถยนต์คันที่วัยรุ่นขับมา และใช้อาวุธปืนเล็งไปที่วัยรุ่นทั้ง 2 คน โดยที่ทั้ง 2 คนไม่ได้แสดงการต่อสู้หรือขัดขืนกับตำรวจ
.
ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ ได้ทำผลสำรวจที่ทีชื่อว่า รอยเตอร์/อิปซอส กับชาวอเมริกันเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมประท้วง และประธานาธิบดีสหรัฐ พบว่า 64% ของผลสำรวจที่เป็นผู้ใหญ่ รู้สึกเห็นอกเห็นใจกับบรรดาผู้ชุมนุมประท้วง ขณะที่ 27% ไม่เห็นอกเห็นใจ และ 9% ไม่แน่ใจ นอกจากนี้ 55% ไม่เห็นด้วยกับการแก้ปัญหาการชุมนุมประท้วงของประธานาธิบดีสหรัฐ มี 40% ไม่เห็นด้วยอย่างมาก ในขณะที่ 1 ใน 3 เห็นด้วยกับประธานาธิบดีสหรัฐ
.
#สหรัฐ #ลอสแองเจลิส #ประท้วง #จอร์จ #Misterban

 

Jun 3,2020 วีซ่าเผย 3 ใน 5 ของคนไทยใช้จ่ายแบบไร้เงินสด พร้อมพบว่าคนไทย-ทั่วมีปัญหาด้านการเงินถึง 79%
.
นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย เปิดเผยถึงผลการสำรวจที่น่าสนใจเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนด้านอุปนิสัยและพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวไทย ในยุคที่สังคมทั่วโลกกำลังปรับตัวเข้าสู่ “นิวนอร์มอล” หรือ “วิถีชีวิตใหม่” โดยผลการศึกษาครั้งนี้เกิดขึ้นจากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างใน 40 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย โดยวีซ่า
.
พบว่า 3 ใน 5 ของคนไทย หรือ 61%กำลังพัฒนานิสัยในการใช้จ่ายแบบไร้เงินสด โดยเลือกที่จะใช้จ่ายด้วยบัตรชำระเงินหรือผ่านแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนมากกว่าการใช้เงินสด นอกจากนี้ เกือบ 7 ใน 10 ของคนไทย 69 % มีแนวโน้มที่จะผูกติดกับการใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิทัลแทนการกลับไปใช้เงินสดแบบเดิมหลังสถานการณ์ปัจจุบันสิ้นสุดลง
.
แม้ว่าประชากรทั่วโลกมีความกังวลในเรื่องสุขภาพร่างกาย แต่พบว่าผู้บริโภคชาวไทยและทั่วโลกกลับมีความกังวลด้านสุขภาพทางการเงินมากกว่า โดย 4 ใน 5 หรือ 79 % ของผู้ตอบแบบสำรวจชาวไทยเห็นว่าสถานการณ์ปัจจุบันทำให้พวกเขาจำเป็นต้องมีการปฏิบัติตัวในเชิงรุกมากขึ้นกับการวางแผนด้านการเงิน เปรียบเทียบกับอีกครึ่งหนึ่งโดยประมาณ 53 %ที่บ่งชี้ถึงความกังวลของพวกเขาในเรื่องการเจ็บป่วย
.
ผู้บริโภคชาวไทยจำนวนมากเริ่มจับจ่ายใช้สอยผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซเป็นครั้งแรก และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มการซื้อสินค้าออนไลน์มากยิ่งขึ้นในอนาคต จากผลการสำรวจ 67 %ของผู้บริโภคชาวไทย ระบุว่าพวกเขาน่าจะมีการซื้อของออนไลน์เพิ่มขึ้น โดยเป็นจำนวนเกือบเท่าตัวของนักช้อปทั่วโลกหรือคิดเป็น 35 %และค่อนข้างจะมากกว่าค่าเฉลี่ย 47 % สำหรับนักช้อปในแถบเอเชียแปซิฟิก
.
เมื่อพูดถึงประสบการณ์การช้อปปิ้ง มากกว่าครึ่งหรือ 54% ของกลุ่มตัวอย่างชาวไทย กล่าวว่า การช้อปปิ้งออนไลน์ให้ประสบการณ์ที่ดีมากกว่าการช้อปปิ้ง ณ ร้านค้าแบบเดิม เปรียบเทียบกับข้อมูล 46 %ของกลุ่มตัวอย่างในเอเชียแปซิฟิก และ 37 %ของกลุ่มตัวอย่างทั่วโลก
.
การศึกษาครั้งนี้ยังแสดงให้เห็นด้วยว่าการเสริมสร้างนิสัยการใช้จ่ายแบบไร้เงินสดกำลังก่อตัวขึ้นทั่วโลก โดย 61 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างชาวไทย กล่าวว่า พวกเขาชอบที่จะชำระด้วยวิธีที่ไม่ใช้เงินสดมากกว่า ในทำนองเดียวกัน 58 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างในเอเชียแปซิฟิก และ 64 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างทั่วโลก กล่าวว่า พวกเขาก็ชอบวิธีการชำระแบบไร้เงินสดมากกว่า
.
อนึ่ง แนวโน้มด้านการชำระเงินของผู้คนทั่วโลกที่จะเกิดขึ้นในอนาคตดูจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วโลก โดยผู้บริโภคชาวไทย (69 เปอร์เซ็นต์) เอเชียแปซิฟิก (75 เปอร์เซ็นต์) และทั่วโลก (66 เปอร์เซ็นต์) เลือกที่จะใช้วิธีการชำระแบบไร้เงินสดหลังจากสถานการณ์ในปัจจุบันสิ้นสุดลง
.
ในทางตรงข้าม มีเพียง 1 ใน 4 ของผู้บริโภคชาวไทย เปิดเผยว่า จะกลับไปชำระด้วยเงินสดอีกครั้งเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น
.
อีกทั้งผู้บริโภคยังมีความคำนึงในเรื่องของราคามากขึ้นด้วย โดยเกือบ 4 ใน 5 ของคนไทย กล่าวว่า ในปัจจุบันพวกเขาให้ความสำคัญกับเรื่องราคามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ผู้บริโภคชาวไทยยังให้ความสนใจกับสินค้าลดราคา โดย 65 %จะพุ่งความสนใจไปที่สินค้าปรับราคาลง
.
ส่วนการวางแผนทางด้านการเงินก็เป็นอีกประเด็นที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญในอันดับต้นๆ โดย 79 %ของคนไทยเชื่อว่ายามนี้พวกเขาจำเป็นต้องปรับตัวและให้ความสำคัญด้านการบริหารจัดการด้านการเงินของตนเอง ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงกว่ากลุ่มตัวอย่างในเอเชียแปซิฟิก 74 %และทั่วโลก 70 %
.
#วีซ่า #คนไทย #ไร้เงินสด #Misterban

 

อาชีพเสี่ยง!! พบโควิด-19
คร่าชีวิตผู้สื่อข่าวแล้ว 20 คนในเปรู
ติดเชื้อตอนลงพื้นที่ภาคสนาม
.
มีผู้สื่อข่าวอย่างน้อย 20 คน เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ส่วนใหญ่ติดเชื้อระหว่างลงพื้นที่ภาคสนามรายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาด ซึ่งหลายเคสไม่ค่อยป้องกันตนเอง จากการเปิดเผยของสหภาพสื่อมวลชนของประเทศในวันอังคาร (2 มิ.ย.)
.
เปรู เป็นชาติที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 หนักหน่วงที่สุดเป็นอันดับ 2 ในอเมริกาใต้ รองจากบราซิล ด้วยพบผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 170,000 คนและเสียชีวิตราว 4,600 คน
.
อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000057514
#mgronline #อาชีพเสี่ยง #โควิด-19 #ผู้สื่อข่าว #เปรู #เสียชีวิต #ติดเชื้อ #พื้นที่ภาคสนาม

 

‘พฤติกรรมไม่เหมาะสมของตำรวจ’ จุดประกายการประท้วงจากสหรัฐฯ สู่ออสเตรเลีย
.
ช่วงเย็นวันอังคาร (2 มิ.ย.) ประชาชนหลายพันคนร่วมชุมนุมตามท้องถนนในประเทศออสเตรเลีย เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับการประท้วงต่อต้านตำรวจที่ใช้ความรุนแรงกับคนกลุ่มน้อยในสหรัฐฯ
.
บรรดาผู้ประท้วงเดินขบวนในเมืองซิดนีย์พร้อมเปล่งเสียงว่า "ฉันหายใจไม่ออก" และ "ชีวิตคนผิวดำก็สำคัญเหมือนกัน" เช่นเดียวกับผู้ประท้วงในสหรัฐฯ
.
การประท้วงในออสเตรเลียนั้นนอกจากจะแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับการประท้วงในสหรัฐฯ แล้ว ยังเป็นการต่อต้านพฤติกรรมไม่เหมาะสมของตำรวจในออสเตรเลียด้วย โดยมีผู้ประท้วงจำนวนมากโบกธงอะบอริจิน (Aboriginal flag) ซึ่งเป็นชนเผ่าพื้นเมืองเก่าแก่ของออสเตรเลีย เนื่องจากมีชาวอะบอริจินถูกตำรวจคุมขัง และเสียชีวิตระหว่างถูกจับกุมตัวจำนวนมาก
.
อย่างไรก็ดี การประท้วงในออสเตรเลียยังคงเป็นไปโดยสันติ ผู้ประท้วงส่วนมากสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
.
"ชาวอะบอริจินเสียชีวิตระหว่างถูกจับกุมตัวกี่คนแล้ว? และมีตำรวจกี่คนที่ลุกขึ้นสู้เพื่อพวกเรา?" ทริสทัน ฟีลด์ (Tristan Field) ชายชาวกาดิกัล (Gadigal) หนึ่งในชนเผ่าพื้นเมืองของออสเตรเลียกล่าวกับผู้เข้าร่วมการประท้วง ก่อนออกเดินขบวน
.
"ขณะนี้เราต้องการการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เราต้องยุติการสังหารคนผิวดำทั้งในประเทศนี้และทั่วโลก เพราะมันคือความอยุติธรรม"
.
แม้ว่าชาวพื้นเมืองของออสเตรเลียจะคิดเป็นเพียงร้อยละ 2 ของจำนวนประชากรออสเตรเลียทั้งหมด แต่พวกเขากลับคิดเป็นราวร้อยละ 27 ของประชากรนักโทษในเรือนจำ
.
การประท้วงครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอชาวพื้นเมืองวัยรุ่นถูกตำรวจออสเตรเลียควบคุมตัวและจับกดลงบนพื้นอย่างรุนแรงในรัฐนิวเซาท์เวลส์ และกลายเป็นประเด็นร้อน
.
ตำรวจออสเตรเลียกำลังสืบสวนเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเหตุการณ์ที่วัยรุ่นชายชาวพื้นเมืองข่มขู่เจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนจะถูกควบคุมตัวด้วยการใช้กำลัง
.
(แฟ้มภาพซินหัว : ประชาชนถือป้ายที่มีข้อความว่า "ชีวิตคนผิวดำก็สำคัญเหมือนกัน" ระหว่างเข้าร่วมการประท้วงในย่านอัปทาวน์ (Uptown) ของเมืองชิคาโก สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2020)
.
.
อ่านข่าวน่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : www.xinhuathai.com