ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตามวันเวลาท้องถิ่น ฟิโลไนส์ ฟลอยด์ พี่ชายของหนุ่มผิวสี จอร์จ ฟลอยด์ เหยื่อตำรวจโหดได้ออกมากล่าวเป็นครั้งแรก
    .
    โดยเรียกร้องให้ เมดาเรีย อาร์ราดอนโด หัวหน้าตำรวจแห่งเมืองมินนีอาโพลิส รัฐมินนีโซตา จับกุมบรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจนายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อการเสียชีวิตของน้องชายของเขา เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ก่อน
    .
    ซึ่งการเรียกร้องของฟิโลไนส์ ฟลอยด์ ข้างต้น สอดคล้องกับกระแสเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงตามเมืองต่างๆ ในสหรัฐฯ ที่ต้องการให้ทางการจับกุม และดำเนินคดีต่อบรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจนายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์
    .
    โดยกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงยังมีความเห็นว่า ดีเร็ค โชวิน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นผู้ใช้เข่ากดเข้าที่คอของ จอร์จ ฟลอยด์ จนหายใจไม่ออกเป็นเวลานานถึง 9 นาที จนถึงแก่ชีวิตนั้น ถูกดำเนินคดียังไม่สาสมต่อการกระทำของเขา โดย ดีเร็ค โชวิน ถูกดำเนินคดีใน 3 ข้อหา อาทิ ทำให้คนตายโดยไม่เจตนา และฆ่าคนตายโดยประมาท เป็นต้น พร้อมกันนี้ นายดีเร็ค ยังถูกไล่ออกจากการเป็นตำรวจอีกด้วย

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://www.hollywoodreporter.com/n...motional-interview-cnn-i-need-justice-1296616

    https://siamrath.co.th/n/159547
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันที่ 29 พฤษภาคม 2020 สำนักข่าว VICE รายงานว่า ที่เมืองมินนีโพลิส (Minneapolis) รัฐมินนีโซตา สหรัฐอเมริกา มีผู้พบเห็นเครื่องบินสอดแนมไร้คนขับ หมายเลข CPB104 ของกองกำลังป้องกันชายแดนสหรัฐฯ (U.S. Customs and Border Protection) บินอยู่เหนือน่านฟ้าของเมืองมินนีโพลิส ในช่วงที่มีการประท้วงและการก่อเหตุจลาจลทั่วเมือง
    .
    นายเจสัน พาลาดิโน (Jason Paladino) ผู้สื่อข่าวด้านการสืบสวนสอบสวน ให้ข้อมูลกับสำนักข่าว VICE ว่า เครื่องบินสอดแนมไร้คนบังคับ รุ่น MQ-9 Reaper drone (Predator drone) บินมาจากฐานทัพอากาศ Grand Forks Air Force Base แล้วบินอยู่เหนือน่านฟ้าของเมืองมินนีโพลิส โดยข้อมูลการบินจาก ADS-B Exchange เผยให้เห็นว่า เส้นทางการบินของโดรนสอดแนม หมายเลข CPB104 บินวนรอบๆเป็นรูปหกเหลี่ยม ในน่านฟ้าของเมืองมินนีโพลิส ในระยะความสูง 2 หมื่นฟุต โดยสามารถสันนิษฐานได้ว่า กองกำลังป้องกันชายแดนสหรัฐฯ ส่งโดรนมาเพื่อสอดแนมความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ประท้วง
    .
    ชาวอเมริกันจำนวนมากออกมาประท้วง หลังจากที่นายเดเรก ชอวิน (Derek Chauvin) ตำรวจชาวอเมริกันผิวขาว กระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ ทำให้นายจอร์จ ฟลอยด์ (George Floyd) ชาวอเมริกันผิวสี เสียชีวิต ซึ่งการประท้วงตำรวจอเมริกัน ที่ใช้ความรุนแรงกับคนผิวสี ได้บานปลายไปสู่การก่อเหตุจลาจลอย่างรุนแรง มีการบุกทุบทำลายห้างร้านค้าต่างๆ และยังมีการจุดไฟเผาสถานีตำรวจอีกด้วย
    .
    กองกำลังป้องกันชายแดนสหรัฐฯ ได้ออกหนังสือชี้แจงมายังสำนักข่าว VICE เกี่ยวกรณีการใช้โดรนสอดแนมในน่านฟ้าของเมืองมินนีโพลิส โดยระบุว่า หน่วยงานตำรวจภาครัฐ (federal law enforcement partners) ได้ติดต่อมายังกองกำลังป้องกันชายแดนสหรัฐฯ เพื่อขอความช่วยเหลือด้านภาพมุมสูงจากทางด้านอากาศ ซึ่งกองกำลังป้องกันชายแดนสหรัฐฯ ได้ส่งโดรนสอดแนมเข้าไปในเมืองมินนีโพลิส เพื่อแจ้งข้อมูลความเคลื่อนไหวภาคพื้นดินไปยังหน่วยงานตำรวจภาครัฐที่อยู่ภายในเมือง และเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะของเมืองมินนีโพลิส
    .
    อย่างไรก็ตาม โดรนสอดแนมรุ่น MQ-9 Reaper drone หรือ Predator drone เป็นเครื่องบินไร้คนขับ ที่ถูกใช้ในภารกิจด้านการทหารของกองทัพสหรัฐฯและกองทัพประเทศพันธมิตร ทั้งภารกิจสอดแนมด้านข้อมูลข่าวกรอง และภารกิจสังหารหรือทำลายเป้าหมายด้วยอาวุธหนัก ซึ่งการใช้ Predator drone ในน่านฟ้าของเมืองมินนีโพลิส เป็นการเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ที่ไม่มีการติดอาวุธสังหาร
    .
    แต่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ นำโดรนสอดแนม ซึ่งเป็นเครื่องจักรกลของกองทัพ มาใช้กับกลุ่มผู้ประท้วงชาวอเมริกัน เพราะในอดีตที่ผ่านมา หน่วยงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ FBI ก็เคยใช้เครื่องจักรประเภทนี้ บินอยู่เหนือน่านฟ้าของเมืองบัลติมอร์ (Baltimore) รัฐแมริแลนด์ เพื่อสอดแนมความเคลื่อนไหวของม็อบ Black Lives Matter เมื่อปี 2015 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ม็อบชาวอเมริกันผิวสีออกมาประท้วง กรณีที่นายเฟรดดี เกรย์ (Freddie Gray) เสียชีวิตจากการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุของตำรวจเมืองบัลติมอร์

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://www.vice.com/en_us/article/...ction-predator-drone-minneapolis-george-floyd

    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “ทรัมป์” หนีเข้าหลุมหลบภัยในทำเนียบขาว
    พร้อมอนุมัติให้ “เนชั่นแนล การ์ด” ใช้กำลังจัดการฝูงชน
    .
    เมื่อการชุมนุมประท้วงเข้ามาใกล้ถึงหน้าบ้านพักของประธานาธิบดีสหรัฐ ล่าสุดมีรายงานจากทำเนียบข่าวเมื่อช่วงเวลา 11.30 น. ตามเวลาในประเทศไทยว่า ได้มีการคุ้มกันตัวของ โดนัลด์ ทรัมป์ และครอบครัว เข้าไปหลบภายในห้องนิรภัยซึ่งอยู่ในชั้นใต้ดินของทำเนียบขาว หรือ "Bunker Boy" เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นจากการชุมนุมประท้วงของพลเมืองสหรัฐฯ
    .
    นับตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กำลังทหารกองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติ หรือ National Guard ปะทะกับกลุ่มผู้ประท้วงกลางกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยตำรวจใช้แก๊สน้ำตาและระเบิดแสงกับฝูงชนที่รวมตัวกันนอกทำเนียบ ขณะที่ผู้ประท้วงคนอื่นๆ ร้องตะโกนต่อต้าน และจุดไฟเผาข้าวของ และถือป้ายประท้วง
    .
    มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับกว่า 60 คนได้รับบาดเจ็บจากคืนวันศุกร์จนถึงเช้าวันอาทิตย์ใกล้ทำเนียบขาว
    .
    ส่วนผู้ว่าการรัฐวอชิงตัน ได้อนุมัติให้มีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่จากเนชั่น แนลการ์ด เพื่อกัดการฝูงชน และเข้าควบคุมสถานการณ์ทุกๆ เมืองภายในรัฐ นับเป็นรัฐล่าสุดที่ประกาศให้สามารถใช้กำลังเจ้าหน้าที่พิเศษเข้าควบคุมสถานการณ์ได้
    .
    ส่วนเมืองใหญ่อื่นๆ ของสหรัฐ ทั้ง ลอสแอนเจลิส ชิคาโก แอตแลนตา นิวยอร์ก และอีกกว่า 20 เมืองได้ประกาศเคอร์ฟิวห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานในยามวิกาล เนื่องจากมีเหตุการรุนแรงอย่างยิ่งในพื้นที่อีกด้วย

    Cr : RetorperJourney
    www.ksat.com

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ด่วน ! กลุ่มโอเปกเหมือนจะตกลงเรื่องยืดเวลาการลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีกกันได้นอกรอบแล้ว ! และอาจมีการเลื่อนประชุมในวันที่ 9 มิถุนายนนี้มาเป็นอาทิตย์นี้เลย ! หากเป็นจริง ราคาน้ำมันอาจขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

    มีข่าวรายงานด่วนมาว่ากลุ่มโอเปกและพันธมิตรได้ตกลงกันในเบื้องต้นได้แล้วว่าจะยืดเวลาการลดกำลังการผลิตออกไปอีก ! เหลือแต่ว่าจะตกลงกันที่เป็นเวลา 3 เดือนหรือ 6 เดือนดี

    ในปัจจุบันนั้นทางโอเปกและพันธมิตรทั่วโลกตกลงที่จะลดกำลังการลิตรวมกันกับที่ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ก่อนที่จะลดปริมาณการผลิตลงมาเป็น 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไปจนถึงสิ้นปี เพราะคาดว่าการใช้น้ำมันจะเริ่มทยอยกลับมาแล้วจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องลดกำลังการผลิตไปมากกว่านี้

    แต่การที่ราคาน้ำมันนั้นกำลังดีดขึ้นกลับมาอย่างรวดเร็วนั้นทำให้กลุ่มโอเปกอย่างมาก และหลายประเทศในกลุ่มโอเปกจึงต้องการจะขยายเวลาในการลดกำลังการผลิตที่ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวันนี้ออกไปอีก หากยืดออกไปอีก 3 เดือนก็คือถึงเดือนกันยายน แต่หากยืดออกไปอีก 6 เดือนก็คืนจนถึงสิ้นปี

    ไม่ว่าจะยืดเวลานานเท่าไหร่แต่หากมีการตกลังกันได้และเลื่อนเวลาการประชุมจากวันที่ 9 มิถุนายนนี้มาเป็นอาทิตย์นี้จริงๆ จะเป็นผลบวกต่อตลาดน้ำมันอย่างมาก

    ทางเพจเพิ่งเขียนบทความวิเคราะห์เจาะลึกทิศทางตลาดน้ำมันไปเมื่อเย็นวันนี้ ว่านอกจากการประชุมโอเปกแล้วมีอะไรอย่างอื่นที่ต้องติดตามกันในตลาดบ้าง ลองอ่านดูได้จากลิ้งค์ในคอมเม้นท์เลยครับ

    Cr : กิตพน กิติอำพน

    ดูกราฟราคาน้ำมัน WTI
    https://th.investing.com/commodities/crude-oil

    ดูกราฟราคาน้ำมัน Brent
    https://th.investing.com/commodities/brent-oil

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พบต้นไม้เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา จึงทำให้ผืนป่าที่นี่เก่าแก่ที่สุดในจีน
    .
    1/ การศึกษาเรื่อง ป่าไม้ผืนเก่าแก่ที่สุดในจีน เสร็จสิ้นด้วยความร่วมมือของคณะวิจัยจากจีนและสหรัฐฯ และทำการเผยแพร่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    .
    2/ และป่าไม้ผืนเก่าแก่ที่สุดในจีนก็คือ ป่าถ่าเฉิง ป่าไม้ในภูมิภาคถ่าเฉิง เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน
    .
    3/ คณะนักวิจัยนำโดย นายสวี หงเหอ ศาสตราจารย์ประจำสถาบันธรณีวิทยาและบรรพชีวินวิทยาหนานจิง ภายใต้สถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน กล่าวว่า ทีมวิจัยค้นพบซากฟอสซิลลำต้นของต้นไม้ มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 70 เซนติเมตร
    .
    4/ ต้นไม้ต้นนี้ ในอดีตเติบโตได้สูงกว่า 4 เมตร เป็นหนึ่งในต้นไม้ที่มีความเก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา จึงทำให้ผืนป่าที่นี่เก่าแก่ที่สุดในจีน
    .
    5/ ทีมวิจัยทำการสำรวจด้วยวิธีทางธรณีวิทยาเชิงละเอียด จนสามารถบอกอายุของป่าถ่าเฉิงได้ราวๆ 371 ล้านปีก่อน
    .
    6/ 371 ล้านปีก่อนนั้น ผืนป่าแห่งนี้ถูกปกคลุมด้วยสภาพอากาศอบอุ่นและชื้นแฉะ มีต้นไม้เติบโตจนสูงใหญ่
    .
    7/ แต่ปัจจุบันผืนป่าแห่งนี้กลายเป็นพื้นที่แห้งแล้งลงกว่าแต่ก่อน แตกต่างจากอดีตอย่างสิ้นเชิง
    .
    ขอบคุณภาพจาก https://www.xinhuathai.com/china/11...FM04SShd_EOMTOWybhfj1FHMpqESvR682XcMO0Okd5Soo
    .
    ที่มา: http://www.xinhuanet.com/english/2020-05/29/c_139098433.htm
    .

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘ซูเปอร์สเปรดเดอร์’ เข้ามาแพร่เชื้อในตลาดสดอู่ฮั่นด้วยความจงใจหรือไม่? คำถามนี้ ยังไม่มีคำตอบ
    .
    1/ ศูนย์ควบคุมป้องกันโรคติดต่อแห่งชาติจีน ในชื่อย่อ CDC เผยหลักฐานใหม่เกี่ยวกับต้นกำเนิดของไวรัสโควิด-19 ที่คนทั่วโลกรับรู้ว่า เริ่มมาจากตลาดสดอู่ฮั่น
    .
    2/ แต่แท้ที่จริงแล้ว ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะ CDC ได้ตัวอย่างเชื้อที่เก็บรวบรวมจากตลาดสด เมื่อนำมาวิเคราะห์แล้ว กลับไม่พบความเชื่อมโยงระหว่างสัตว์แพร่เชื้อสู่มนุษย์ จากที่นี่
    .
    3/ เชื้อที่พบในผู้ติดเชื้อรายแรกๆของจีน ไม่ได้เชื่อมโยงกับตลาดสด ไวรัสไม่ได้เริ่มกระจายหรือกลายพันธุ์จากสัตว์ไปสู่ผู้คนในตลาดสดแห่งนี้
    .
    4/ เพราะหลักฐานใหม่ระบุว่า ตลาดสดเป็นเพียงสถานที่ที่มี ‘ซูเปอร์สเปรดเดอร์’ ผู้แพร่เชื้อตัวยง คือคนที่มีเชื้ออยู่แล้ว เข้าไปแพร่เชื้อให้คนในตลาด
    .
    5/ โคลิน คาร์ลสัน นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคจากสัตว์สู่คน บอกว่า โคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ตัวนี้ ไม่มีสัตว์ชนิดใดในตลาดสด ได้ผลทดสอบเป็นผลบวกต่อไวรัสฯ
    .
    6/ ดูเหมือนว่า ซูเปอร์สเปรดเดอร์จะหมุนเวียนอยู่ในอู่ฮั่น ก่อนที่จะมีรายงานผู้ป่วยกลุ่มแรก 41 คน และก่อนที่ตลาดสดจะถูกปิดในวันที่ 1 มกราคม
    .
    7/ ซูเปอร์สเปรดเดอร์เข้ามาแพร่เชื้อตอนไหน? (เข้ามาแพร่เชื้อด้วยความจงใจหรือไม่? คำถามนี้ ยังคงไม่มีคำตอบ) CDC บอกว่า ชาวอู่ฮั่นคนแรกที่ติดเชื้อมีโอกาสที่จะติดตั้งแต่ 1 ธันวาคม จากนั้นแสดงอาการวันที่ 8 ธันวาคม
    .
    8/ ในกลุ่มผู้ติดเชื้อ 41 คนแรก ในจำนวนนี้ 13 คน ไม่มีเหตุการณ์ใดเชื่อมโยงกับตลาดสด
    .
    9/ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์จากข้อ 5. บอกด้วยว่า ตลาดสดอู่ฮั่นอาจเป็นเพียงแค่สถานที่แรกที่มีซูเปอร์สเปรดเดอร์ หมายความว่า คนหนึ่งคนสามารถแพร่เชื้อให้คนได้อีกมาก เช่นเดียวกับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โบสถ์ ในเมืองแทกู เกาหลีใต้ ที่มีผู้ติดเชื้อ 1 คน แพร่เชื้อต่อไปถึง 43 คน
    .
    10/ หลักฐานใหม่ที่หักล้างข้อมูลต้นกำเนิดไวรัสมาจากตลาดสดอู่ฮั่น เผยแพร่ในสื่อของ Live Science: https://www.livescience.com/covid-19-did-not-start-at-wuhan-wet-market.html ยังช่วยหักล้างคำกล่าวหาที่ว่า ไวรัสอาจรั่วไหลออกมาโดยบังเอิญ จากห้องปฏิบัติการ ของสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น
    .
    11/ เพราะนักวิจัยจากทั้งจีนและสหรัฐฯ เผยแพร่ข้อมูลมากมายหลายครั้งว่า ไม่มีหลักฐานสนับสนุนคำกล่าวหานี้
    .
    12/ นายหวัง หยานอี้ ผู้อำนวยการสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น ยืนยัน ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่มีความแตกต่างทางพันธุกรรมจากไวรัสทุกชนิดที่มีการศึกษาอยู่ในสถาบัน นั่นคือ ไม่ใช่ไวรัสตัวเดียวกัน
    .
    ขอบคุณภาพจาก https://www.techgenyz.com/2020/05/2...nk-covid-19-originated-from-wuhan-wet-market/
    .

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทำไม "เสียงฝน" ฟังแล้วผ่อนคลาย มีสมาธิ
    FB_IMG_1591019970709.jpg
    #mgronline #เสียงฝน #ผ่อนคลาย #มีสมาธิ

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3 รายวานนี้ เป็นเคสติดเชื้อในฮ่องกงทั้งหมด

    เมื่อวานนี้ (1 มิถุนายน 2020) ได้มีรายงานพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3 รายในฮ่องกง รวมยอดสะสมผู้ติดเชื้อ 1,087 ราย

    ผู้ติดเชื้อทั้ง 3 ราย เป็นพนักงานหญิง 2 รายและเจ้าหน้าที่การแพทย์ฉุกเฉิน 1 ราย โดยทั้งหมดมีความเกี่ยวเนื่องกับเคสผู้ติดเชื้อจากในฮ่องกง 2 รายเมื่อวันก่อนซึ่งคาดว่ามาจากโกดังของ Kerry Logistics ที่ Kwai Chung

    หากสาธารณสุขฮ่องกงไม่สามารถยืนยันต้นตอของการแพร่ระบาดครั้งนี้ จะนับเป็นครั้งที่ 2 ในฮ่องกงที่ไม่สามารถหาต้นตอได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีการระบาดครั้งหนึ่งที่ครอบครัวที่อาศัยอยู่ย่าน Tsuen Wan เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา

    ***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***
    https://www.facebook.com/119537452088669/posts/494989721210105/?d=n

    Source :https://www.scmp.com/news/hong-kong/health-environment/article/3086933/coronavirus-amid-new-hong-kong-infections?

    #ข่าวฮ่องกง #khaohongkong
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2 รายวานนี้ โดยเป็นเคสติดเชื้อในฮ่องกง

    เมื่อวานนี้ (31 พฤษภาคม 2020) ได้มีรายงานพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2 รายในฮ่องกง รวมยอดสะสมผู้ติดเชื้อ 1,084 ราย

    สาธารณสุขฮ่องกงกำลังดำเนินการสืบสวนโกดังของ Kerry Logistics ที่ Kwai Chung หลังพบว่าลูกจ้างหญิงวัย 34 ปีที่ทำงานที่โกดังส่วนนำเข้าผักและผลไม้จากอังกฤษติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวานนี้ โดยสามีของเธอก็ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อเช่นกัน

    นอกจากนี้ เพื่อนร่วมงานของเธออีก 2 ราย ก็พบว่ามีเชื้อโควิดอ่อนๆ หลังตรวจหาเชื้อ

    เพื่อนร่วมงานของเธออีก 25 ราย จะต้องถูกส่งตัวไปศูนย์กักกันเชื้อ เพื่อเฝ้าระวัง และอีกกว่า 100 รายที่ทำงานในตึกเดียวกันจะต้องได้รับการตรวจหาเชื้อต่อไป

    ในขณะเดียวกัน Dr Sara Ho Yuen-ha หัวหน้าผู้จัดการโรงพยาบาลเปิดเผยว่า มีเจ้าหน้าที่การแพทย์ฉุกเฉินสามคนที่เข้าช่วยทำการรักษาหญิงติดเชื้อรายดังกล่าวเมื่อเธอถูกส่งไปที่โรงพยาบาลครั้งแรก โดยไม่ได้สวมชุดอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้ออย่างเต็มที่ เนื่องจากเธอมีภาวะวิกฤติ โดยเจ้าหน้าที่การแพทย์ทั้ง 3 คน จะต้องถูกส่งตัวไปศูนย์กักกันเชื้อเพื่อเฝ้าระวัง 14 วัน เนื่องจากเป็นผู้ใกล้ชิดเช่นกัน

    ***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***
    https://www.facebook.com/119537452088669/posts/494989721210105/?d=n

    Source : https://www.scmp.com/news/hong-kong/health-environment/article/3086865/coronavirus-hong-kong-records-first-locally

    #ข่าวฮ่องกง #khaohongkong
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กัมพูชาตอบโต้ไทยด้วยการปิดด่าน
    .
    กัมพูชาตอบโต้ทางการไทยที่ไม่ยอมเปิดด่านให้คนเข้าออกด้วยการปิดด่านฝั่งตัวเองไม่ให้คนเข้าออกและรถขนสินค้าก็ไม่ให้เข้าด้วย(ไทยปิดด่านไม่ให้คนเข้าออกแต่ยังอนุญาตรถขนส่งสินค้า)
    โดยการปิดด่านนี้เป็นการตอบโต้เนื่องจากปัจจุบันหลังจากไทยปิดด่านไม่ให้คนเข้าออกเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด19 ทำให้ทางฝั่งของกัมพูชาขาดรายได้จำนวนมากจากคนงานกัมพูชาที่ข้ามมาทำฝั่งไทยหรือจากคนไทยที่เข้าไปเล่นคาสิโน
    ซึ่งในสัปดาห์ที่แล้วรัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องไทยเปิดด่านอีกครั้งและมีการประท้วงฝั่งกัมพูชาเพื่อเรียกร้องด้วย แต่ด้วยมาตรการป้องกันการระบาดของไทย จึงไม่มีการเปิดตามข้อเรียกร้องทำให้เมื่อ 5.00 น ของวานนี้(1 มิ.ย. 2563ตำรวจ-ทหารกัมพูชา เริ่มปฏิบัติ ปิดทางเข้าออกปิดเส้นทางด่านพรมแดนไทย ด้านด่านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และด่านย่อยอื่นๆทั้งหมด
    Yb9Fv-u9-KczUpfIANXQZEhxYU29KVsQULUNgBa95aN&_nc_ohc=vBB_81euiocAX-j8MX5&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    1f6e2.png ตลาดลือกันว่าโอเปกสามารถตกลงเลื่อนการประชุมมาเป็นวันพฤหัสนี้ได้แล้ว ! และพร้อมต่อเวลาลดการผลิตน้ำมันออกไปอีก ส่งผลให้ ราคาน้ำมันดีดขึ้นต่อเนื่องเมื่อคืนนี้

    ราคาน้ำมันดิบ Brent ดีดขึ้นต่อเนื่องและปิดตลาดไปที่ 38.32 เหรียญเมื่อคืนนี้

    สิ่งที่ตลาดกำลังจ้องจับตามองอยู่ตอนนี้คือทางโอเปกจะยืดเวลาการลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีกกันหรือไม่ โดยหากการประชุมโดนเลื่อนขึ้นมาเป็นวันพฤหัสนี้แทนวันที่ 9 มิถุนายน ก็แปลว่ามีโอกาสที่สูงทีเดียวที่ทางโอเปกสามารถตกลงกันได้แล้ว

    ถึงแม้จะยังไม่มีการยืนยันจากแหล่งข่าวอย่าง Bloomberg หรือ Reuters แต่ตลาดและเทรดเอดร์หลายคนเชื่อว่าทางโอเปกและพันธมิตรน่าจะตกลงเรื่องการลดกำลังการผลิตได้แล้วแน่ๆ และการประชุมจะโดนเลื่อนขึ้นมาเป็นวันพฤหัสนี้

    1f4cc.png แต่ที่ตลาดยังไม่แน่ใจคือการยืดเวลานั้นจะเป็นเพียงแค่ 1-2 เดือน หรือ 3 เดือนกันแน่ ?

    ทั้งหมดคงขึ้นอยู่กับฝั่ง #รัสเซีย 1f1f7_1f1fa.png เป็นหลักว่าจะยอมแค่ไหน แต่การลดการผลิตยาวไปจนถึงสิ้นปีหรือลดต่อไปอีก 6 เดือนนั้นคงไม่เกิดขึ้นแล้ว

    1f4cc.png การลดกำลังการผลิตนานขึ้นส่งผลอย่างไรต่อตลาด ?

    ในปัจจุบันนั้นทางโอเปกและพันธมิตรทั่วโลกตกลงที่จะลดกำลังการผลิตรวมกันกับที่ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ก่อนที่จะลดปริมาณการผลิตลงมาเป็น 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไปจนถึงสิ้นปี เพราะคาดว่าการใช้น้ำมันจะเริ่มทยอยกลับมาแล้วจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องลดกำลังการผลิตไปมากกว่านี้

    แต่ตอนนี้หากทางโอเปกจะยืดโควตาการลดกำลังการผลิตรวมกันกับที่ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวันออกไปนั้น ย่อมจะมีผลบวกต่อราคาน้ำมันแน่ๆ เพราะแปลว่าจะมีน้ำมันหายไปจากตลาดมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 2 ล้านบาร์เรลต่อวันไปอีก 1-2 เดือน หรือ 3 เดือน ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของโอเปก

    26d4.png ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดจากทีมงาน แนะนำให้กด Like ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของทีมเราที่อัพเดทใหม่ๆครับ 1f64f.png 1f60a.png

    #ทันโลกกับKP #OilTraderKP
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กบเลือกนาย

    China's Boycott May Extend Beyond Beef, Barley As Beijing Goes To War

    • หลังจาก 'ออสเตรเลีย' ทำตัวเป็นเหมือน 'ผู้ช่วยอเมริกันนอกคอก' ออกหน้าเป็นปากเสียงจะเช็กบิลประเทศ 'จีน' กรณีการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ก็โดนตอบโต้ทันควันโดยปักกิ่ง ซึ่งมองว่า 'ออสเตรเลีย' เล่นเกินบทบาทอย่างหุนหันพลันแล่นไม่ดูตนเองว่าอยู่ในระดับใด

    • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 'มาริส เพย์น' (Marise Ann Payne) พูดสนับสนุนการสอบสวนในระดับนานาชาติ ช่วงการออกโทรทัศน์เช้าวันอาทิตย์ในปลายเดือนเมษายน ซึ่งก็เป็นที่รู้กันว่า 'จีน' เป็นเป้าหมาย และถูกกล่าวหาโดยผู้นำทำเนียบขาว 'โดนัลด์ ทรัมป์' มาโดยตลอด

    • ไม่กี่วันหลังจากนั้น เอกอัครราชทูตจีนประจำออสเตรเลีย 'เฉิง จิ่งเย่' (Cheng Jingye) ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ออสเตรเลีย Financial Review แนะว่าคน 'จีน' อาจพิจารณาตอบโต้ออสเตรเลียด้วยการคว่ำบาตรสินค้าออสเตรเลีย

    • 'ถึงเวลาที่คน 'จีน' อาจถามตัวเองว่าทำไมต้องดื่มไวน์ออสเตรเลีย กินเนื้อวัวจากออสเตรเลีย' 'เฉิง จิ่งเย่' กล่าว

    • หลังจากนั้นไม่ถึงเดือน การรณรงค์ประชาสัมพันธ์โครงการสร้างจิตสำนึกที่ดีต่อชาติโดย 'จีนเ' เพื่อลงโทษออสเตรเลียก็ได้เริ่มเต็มที่

    • สำนักข่าว CNN รายงานว่า วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2020 จีนเลิกซื้อเนื้อวัวจาก 4 โรงฆ่าสัตว์ในออสเตรเลีย โดยอ้างว่า 'เป็นประเด็นเรื่องสุขภาพ หลังจากนั้นอีก 5 วัน รัฐบาลจีนประกาศขึ้นภาษีนำเข้าข้าวบาร์เลย์ของออสเตรเลียกว่า 80 เปอร์เซ็นต์'

    • และเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการตรวจสอบการทุ่มตลาด แค่นี้ออสเตรเลียก็หาตลาดใหม่ได้ยาก เพราะการค้าโดยรวม จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย

    • ยอดรวมของการค้าขายระหว่าง 2 ประเทศมีมูลค่า 214 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี ค.ศ. 2018 ความสัมพันธ์ด้านการค้ากับ 'จีน' เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ทำให้ 'ออสเตรเลีย' เผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession)

    • เมื่อเกิดการปะทะคารมกันในระดับกระทรวง 'สื่อจีนก็ยกระดับการนำเสนอปัญหาระหว่าง 2 ประเทศ และความร้าวฉานก็ยิ่งขยายกว้างขึ้น และยิ่งไม่มีการเจรจาหาทางออกสมานฉันท์ร่วมกัน จะเป็นการยากที่จะทำให้ 2 ประเทศมีความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน'

    • ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐศาสตร์การเมืองระหว่างประเทศมองว่า 'ออสเตรเลียอาจเป็นกรณีตัวอย่างว่าการดำรงตัวเป็นอิสระภายในระบอบประชาธิปไตยจะอยู่รอดได้หรือไม่ ถ้าต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ทางการค้ากับประเทศจีน ซึ่งถูกมองว่ามีรัฐบาลในระบอบคอมมิวนิสต์'

    • ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา 'ออสเตรเลีย' ต้องดำเนินนโยบายด้วยความระมัดระวัง เพราะความสัมพันธ์กับ 'จีน' ได้นำความมั่งคั่งสู่ออสเตรเลีย ด้านการค้า เป็นตลาดขนาดใหญ่สำหรับสินค้าออสเตรเลีย กระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัวในอัตราน่าพอใจ

    • นักศึกษาจีนหลายแสนคนเสียค่าหน่วยกิต ค่าใช้จ่ายแต่ละปีหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ 'การปิดการเดินทางระหว่างประเทศทำให้นักศึกษาจีนกลับไปเรียนต่อไม่ได้ ทำให้มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียขาดรายได้มหาศาลถึงขั้นอาจมีวิกฤตการเงิน'

    • ขณะเดียวกัน 'ออสเตรเลีย' ต้องพึ่งพา 'สหรัฐอเมริกา' ในด้านความมั่นคง และเป็นประเทศ 'หนึ่งใน 5 ตา' หรือ Five Eyes ที่พูดภาษาอังกฤษ แลกเปลี่ยนข่าวสารข้อมูล ข่าวกรองด้านความมั่นคง ร่วมกับอีก 3 ประเทศคือ 'แคนาดา อังกฤษ นิวซีแลนด์' เพื่อนบ้านใกล้เคียง

    • ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือดำเนินนโยบายผิดพลาด ต้องจ่ายในราคาแพง 'ออสเตรเลีย' ก็ต้องนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค อุปกรณ์ด้านเทคนิคจากจีน เช่นกัน

    • ในขณะเดียวกัน 'จีน' ยังต้องพึ่งพาสินค้าสำคัญจำนวนมหาศาลจาก 'ออสเตรเลีย' เช่น 'สินแร่เหล็ก ถ่านหิน ทองคำ และขนแกะ' ป้อนอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งขยายตัวพร้อมกับเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะด้านงานก่อสร้างอาคารและเครือข่ายรางรถไฟฟ้า

    • ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศเริ่มมีปัญหาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2017 หลังจากรัฐบาล 'ออสเตรเลีย' ผ่านกฎหมายใหม่ด้านความมั่นคง มีบทบัญญัติครอบคลุมกว้างขวาง เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากต่างประเทศ ซึ่ง 'จีน' มองว่าเป็นการออกกฎหมายเอาจีนเป็นเป้า

    • แม้รัฐบาล 'ออสเตรเลีย' ให้เหตุผลว่า 'กฎหมายนั้นเพื่อเป็นการรักษาความมั่นคงภายในประเทศ 'จีน' ก็มองว่า 'มีผลมากกว่านั้น' ทั้งสองประเทศเริ่มมีปัญหาความสัมพันธ์ และนั่นก็ทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 'มาริส เพย์น' เรียกร้องให้สอบสวนเรื่อง COVID-19

    • เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเปิดเกม นายกรัฐมนตรี 'สกอตต์ มอร์ริสัน' (Scott John Morrison) ก็เป็นผู้นำประเทศแรกซึ่งเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างเป็นทางการระดับนานาชาติ ถือว่าเป็นเสียงแรกนอกประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่ง 'โดนัลด์ ทรัมป์' ได้กล่าวหาทั้ง 'จีน' และองค์การอนามัยโลก (WHO)

    • นาย 'สกอตต์ มอร์ริสัน' อ้างในการแถลงข่าววันพุธที่ 29 เมษายน ค.ศ. 2020 ว่า 'มีเหตุผลเพียงพอที่โลกควรจำมีการสอบสวนโดยหน่วยงานอิสระให้เห็นต้นตอและปัญหาของการระบาด' โดยที่รู้ว่าทั้ง 'สหรัฐอเมริกา' และ 'จีน' ต่างกล่าวหากันในสงครามน้ำลายที่ยืดเยื้อและส่อแววขยายตัวต่อไป

    • สถานการณ์ระหว่าง 'จีน' และ 'ออสเตรเลีย' เลวร้ายกว่าเดิม เมื่อรัฐบาลออสเตรเลียเรียกทูตจีนเข้าไป และกล่าวหาจีนว่ากำลังใช้มาตรการทางเศรษฐกิจบีบคั้น เมื่อตัวทูตได้พูดเชิงชี้นำให้คนจีนเลิกการบริโภคไวน์และเนื้อวัวจากออสเตรเลีย เป็นการตอบโต้

    • วันอังคารที่ 28 เมษายน ค.ศ. 2020 ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศแถลงข่าว ผู้สื่อข่าวจากหนังสือพิมพ์ออสเตรเลีย บอกว่า 'ยังไม่เคยได้ยินคำพูดที่รุนแรงดังที่เอกอัครราชทูต 'เฉิง จิ่งเย่' กล่าวมาก่อนหน้านี้เลย' ก็โดนโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ นาย 'เกิ้ง ส่วง' (Geng Shuang) สวนกลับ 'อยากจะฟังตอนนี้มั้ยละ'

    • เมื่อโดน 'จีน' ใช้มาตรการตอบโต้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าออสเตรเลีย นาย 'ไซมอน เบอร์มิงแฮม' (Simon John Birmingham) แถลงว่า 'รัฐบาลจะไม่เปลี่ยนแนวนโยบายและท่าทีแม้จะมีเสียงขู่จากจีน ความพยายามจะติดต่อพูดคุยกับฝ่ายจีนไม่ได้รับการตอบสนอง และจีนอ้างว่าไม่เกี่ยวกัน'

    • โดยทั่วไป นักสังเกตการณ์เชื่อว่า 'ออสเตรเลีย' จะเป็นกรณีตัวอย่างให้ชาติอื่นได้เห็นว่าการทำตัวเป็น 'ปฏิปักษ์' กับ 'จีน' นั้นจะได้ผลอย่างไร และอาจมีผลเสียเพราะหลายชาติเริ่มต้องระวังเช่นกันว่า 'การจะดำรงความสัมพันธ์กับ 'จีน' นั้น จะมีทั้งผลดีและผลเสียอย่างไร'

    • บรรณานุกรม :

    Credit : https://www.afr.com/world/asia/chin...barley-as-beijing-goes-to-war-20200513-p54sja

    Credit : https://www.afr.com/policy/foreign-...-our-connection-to-the-region-20200504-p54pjj

    Credit : https://www.nytimes.com/2020/05/03/world/europe/backlash-china-coronavirus.html

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 2 , 2020 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยหั่นเป้า GDP ไทยปีนี้ติดลบ 6% จากเดิมติดลบ 5% พร้อมคาดกลุ่มท่องเที่ยว - รถยนต์ – อสังหาริมทรัพย์จะใช้เวลาฟื้นตัวนาน
    .
    นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า แม้จีดีพีไตรมาส 1 ของปี 2563 จะออกมาดีกว่าที่คาด แต่เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่เหลือของปี จะหดตัวลึกขึ้น และยังมีปัญหาการจ้างงาน ส่วนเศรษฐกิจต่างประเทศก็ยังน่ากังวล ทั้งในประเด็นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันยังอยู่ในระดับสูง และประเด็นการเมืองของสหรัฐฯ ทั้งในและระหว่างประเทศ ส่งผลให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยพิจารณาปรับลดประมาณการจีดีพีปี 2563 มาที่ -6%
    .
    จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน 1,000 ตัวอย่าง สะท้อนให้เห็นถึงการรับรู้จากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในอนาคต มีการปรับพฤติกรรมในการเก็บออมและระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งตอกย้ำถึงการรับรู้ด้านการใช้จ่ายครัวเรือนที่หดตัวลงกว่าที่ประเมินไว้เดิม โดยในส่วนของภาครัฐนั้น ด้วยระดับหนี้สาธารณะระยะสั้นที่ยังไม่น่ากังวล ทำให้พอมีทรัพยากรทางคลังในการพิจารณาให้ความช่วยเหลือและเยียวยาธุรกิจที่ประสบปัญหาในการฟื้นตัวหลังจากช่วงผ่อนคลายล็อกดาวน์นี้
    .
    ด้านนางสาวเกวลิน หวังพิชญสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจท่องเที่ยว รถยนต์ อสังหาริมทรัพย์ ถือเป็น 3 อุตสาหกรรมสำคัญที่คงต้องใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่าอุตสาหกรรมอื่น แต่หากมองจากมิติของการจ้างงาน ธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งมีแรงงานในห่วงโซ่มากถึง 4 ล้านคน จะเป็นธุรกิจที่ภาครัฐจะพุ่งเป้าหมายการเยียวยาไปที่ธุรกิจและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวเป็นอันดับต้น ๆ โดยต้องยอมรับว่าธุรกิจหลักของไทยอาจใช้เวลามากกว่า 1 ปีในการฟื้นตัวให้กลับสู่ระดับก่อนเกิดเหตุการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19
    .
    สำหรับนโยบายการเงินยังเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สำคัญ โดยหากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเพิ่มเติม การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายก็ยังสามารถทำได้ แต่จากสถานการณ์ปัจจุบันยังไม่ได้แย่ถึงกับมีความจำเป็นต้องดำเนินนโยบายดอกเบี้ยติดลบ
    .
    #GDP #หั่นเป้า #ติดลบ #Misterban #กสิกรไทย

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พวยน้ำ 5 สาย ที่เกิดขึ้นเหนือน่านน้ำของ Laguna de Bay ใกล้กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ในวันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม 2020 ช่วงบ่าย

    5 waterspouts formed over the waters of Laguna de Bay near Manila, Philippines on Saturday May30 2020 afternoon

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อน
    # 93A #CycloneNisarga

    ลมจะเป็นภัยคุกคามที่สำคัญสำหรับชายฝั่ง #มหาราษฏระ (Maharashtra)

    Cyclone Nisarga คาดว่าจะเกิดขึ้นในทะเลอาระเบีย ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในเขตชายฝั่งของรัฐมหาราษฏระ รวมถึงมุมไบในวันที่ 3 มิถุนายน

    IMD ได้ออกการแจ้งเตือนสีแดงโดยมีพื้นที่ราบต่ำ ได้รับคำสั่งให้อพยพ

    ทีมรับมือภัยพิบัติแห่งชาติหลายแห่งได้รับการจัดวางในสถานที่ต่าง ๆ ของรัฐ

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    June 2, 2020 แรงงานส่งเงินกลับประเทศทรุดหนักในรอบประวัติการณ์ กระตุกเรตติ้งประเทศเกิดใหม่ตกต่ำ
    .
    ซิตี้ กรุ๊ป ยักษ์สถาบันการเงินชื่อดังระดับโลกในสหรัฐ เปิดเผยว่า มูลค่าเงินที่ผู้ใช้แรงงานรวมถึงชาวต่างชาติที่ทำงานในต่างประเทศ ซึ่งต้องส่งเงินกลับประเทศต้นทางในปีนี้จะตกต่ำอย่างครั้งประวัติการณ์ ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด จะหายไปมากถึง 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3.3 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับเพิ่มขึ้นจากในเดือนเมษายนที่คาดว่าจะลดลง 28,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 924,000 ล้านบาท สาเหตุจากภาวะโรคระบาดโควิด-19 ทั่วโลก ที่กระทบต่อรายได้ของแรงงานอย่างรุนแรง
    .
    สำหรับปัญหาเงินส่งกลับประเทศตกต่ำอย่างหนักในปี 2563 นั้น จะส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อ หรือเรตติ้งของประเทศต้นทาง ที่มีแนวโน้มต้องปรับลดลง ทำให้ต้นทุนในการกู้ยืมเงินผ่านตลาดตราสารหนี้พุ่งสูงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังความเปราะบางให้กับการใช้นโยบายการคลังของประเทศเกิดใหม่ขนาดเล็กๆในเอเชีย และที่อื่นๆ เนื่องจากมีปริมาณเงินมาเสริมภาคการคลังไม่เพียงพอ
    .
    ทั้งนี้ ในเดือนเมษายนที่ผ่านไปนั้น ธนาคารโลกประเมินว่า มูลค่าเงินส่งกลับไปยังประเทศต้นทางของผู้ใช้แรงงานและชาวต่างชาติ จะมีมูลค่าดิ่งลงมากถึง 142,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลงมากกว่า 4.68 ล้านล้านบาท
    .
    #แรงงาน #ส่งเงิน #กลับประเทศ #ต่ำสุด #ประวัติการณ์ #Misterban

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    June 2, 2020 ทรัมป์กดดันผู้ว่าการรัฐ เตรียมส่งทหารติดอาวุธหนักคุมม็อบทุกรัฐ อดีตประธานาธิบดี เซเลบชื่อดัง ร่วมประนาม ชันสูตรศพจอร์จ ฟลอยด์ เสียชีวิตก่อนขึ้นรถพยาบาล
    .
    ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า เตรียมออกคำสั่งระดมทหารจำนวนหลายพันนาย พร้อมติดอาวุธหนักเข้าควบคุมสถานการณ์การชุมนุมประท้วงที่รุนแรงในรัฐที่มีการชุมนุมยืดเยื้อ พร้อมจะยุติสถานการณ์อย่างรวดเร็วทันที หากผู้ว่าการรัฐ และนายกเทศมนตรีที่กำลังเผชิญสถานการณ์ชุมนุมรุนแรง ไม่สามารถควบคุมและยุติการชุมนุมได้
    .
    ในขณะที่การประกาศภาวะเคอร์ฟิวในเมืองที่เกิดการชุมนุมประท้วงมีเป็นจำนวนมากในรอบ 52 ปี หรือตั้งแต่เหตุการณ์ประวัติศาสตร์การลอบสังหารนายมาร์ติน ลูเธอร์คิง จูเนียร์ สอดรับกับการใช้กองกำลังรักษาความปลอดภัยแห่งชาติใน 23 รัฐ และดิสทริค ออฟ โคลัมเบีย หรือ ดี.ซี
    .
    สถานการณ์ชุมนุมประท้วงในรัฐที่เกิดความวุ่นวาย ยังคงเกิดขึ้นเข้าสู่คืนที่ 7 มีเหตุการณ์ที่น่าสนใจดังนี้

    กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.: โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางไปที่โบสถ์แห่งหนึ่งที่มีอายุ 200 ปี ตั้งอยู่ใกล้กับทำเนียบขาว โบถส์ดังกล่าวได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงเข้าทำลายและวางเพลิงในสุดสัปดาห์ที่ผ่านไป ด้านตำรวจและกองกำลังป้องกันแห่งชาติยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อควบคุมพื้นที่ดังกล่าว ก่อนที่ประธานาธิบดีสหรัฐจะเดินทางไปดูสภาพความเสียหายของโบถส์นี้
    .
    มินนิแอโพลิส รัฐมินนิโซตา: คณะชันสูตรศพอิสระมีชื่อว่า Hennepin County Medical Examiner เปิดเผยว่า นายจอร์จ ฟลอยด์ อายุ 46 ปี ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน เสียชีวิตจากการฆาตกรรมด้วยการขาดอากาศหายใจ นอกจากนี้ ลงความเห็นว่า เสียชีวิตก่อนนำขึ้นรถพยาบาลเพื่อส่งไปที่โรงพยาบาล
    .
    หลุยส์วิลล์ รัฐเคนตั๊กกี้: นายกเทศมนตรีสั่งไล่ออกหัวหน้าตำรวจเมืองหลุยส์วิลล์ หลังตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้การบังคับบัญชาเกี่ยวข้องกับการยิงเจ้าของร้านบาร์บีคิวชื่อดังทำให้เสียชีวิต เนื่องจากฝ่าฝืนกฎหมายเคอร์ฟิวในเมืองหลุยส์วิลล์ ถือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ
    .
    ชิคาโก รัฐอิลลินอยส์: อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ นายบารัก โอบาม่า กล่าวประนามการชุมนุมประท้วงที่รุนแรงซึ่งมีเป็นกลุ่มจำนวนไม่มาก ทำให้ประชาชนชาวอเมริกันได้รับความเสี่ยงและอันตราย ในขณะที่การชุมนุมอย่างสงบเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ถูกต้อง
    .
    #ทรัมป์ #ทหาร #อาวุธหนัก #MISTERBAN

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โลกเหนื่อย
    “ทรัมป์” ถอนตัวจาก WHO
    ประเทศอื่นต้อง “ลงขัน” เพิ่ม
    .
    .
    ในที่สุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็อาศัยโอกาสระหว่างที่เครดิตประธานาธิบดีกำลังตกต่ำที่สุด มีการชุมนุมประท้วง มีเหตุจลาจล ทั่วประเทศจากเหตุความขัดแย้งกับชาวผิวสี ประกาศ “ตัดความสัมพันธ์” กับองค์การอนามัยโลก (World Health Organization หรือ WHO) ด้วยการหยุดสนับสนุนเงินทุนขององค์กรระหว่างประเทศแห่งนี้
    .
    ถ้อยแถลงจากทำเนียบขาวระบุว่า WHO “ผิดพลาด” ในการเตือนการระบาดของโรคโควิด – 19 WHO ประเมินโรคระบาดนี้ต่ำเกินไป และมีส่วนช่วยรัฐบาลจีน ในการ “ปิดข่าว” ต้นตอของโรคนี้ จนระบาดไปทั่วโลก ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และส่งผลเสียทางเศรษฐกิจมหาศาล
    .
    แน่นอน อเมริกา คือประเทศที่เสียหายยับเยิน ตัวเลขผู้ติดเชื้อล่าสุดพุ่งสูงกว่า 1.7 ล้านคน และตัวเลขผู้เสียชีวิตก็ผ่านหลัก 1 แสนคนไปเรียบร้อย และยังไม่มีทีท่าจะสงบลงง่ายๆ
    .
    ท่าทีของประธานาธิบดีล่าสุด เป็นบทสรุปของความขัดแย้งยาวนาน หลังจากทรัมป์ พยายาม “ปัดสวะ” เรื่องโรคโควิด – 19 มาโดยตลอด และพยายามโยนประเด็นนี้จาก “ความผิดพลาด” ของสหรัฐฯ ซึ่งมีเวลาเตรียมตัวนานกว่า 1 เดือนเศษ หลังการระบาดที่อู่ฮั่น ให้เป็นของ WHO เพียงฝ่ายเดียว
    .
    เมื่อต้นเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ทรัมป์ส่งจดหมายไปถึง เทดรอส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก โดย “ขู่” ว่าจะสนับสนุนเงินทุนให้กับ WHO หากไม่เปลี่ยนแนวทางการทำงานให้เป็น “เชิงรุก” มากขึ้น แต่สุดท้าย ทรัมป์ยืนยันว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร นำไปสู่การตัดเงินสนับสนุน อย่างที่ประกาศกร้าวไว้ก่อนหน้านี้
    .
    อย่างไรก็ตาม ความเสียหายกับ WHO ย่อมกระทบหนักอย่างแน่นอน เพราะในแต่ละปี รัฐบาลสหรัฐฯ บริจาคมากกว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.27 หมื่นล้านบาท) ให้กับ WHO ซึ่งถือเป็นประเทศ “ผู้บริจาค” รายใหญ่ที่สุด และเป็นส่วนสำคัญในงบประมาณรายปีของ WHO ระหว่างปี 2020 – 2021 ซึ่งอยู่ที่ 4,800 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.52 แสนล้านบาท)
    .
    ผู้สนับสนุนรายต่อมาสำหรับ WHO คือมูลนิธิ บิล – เมลินดา เกตส์ ของมหาเศรษฐี ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ บิล เกตส์ ซึ่งสนับสนุนในหลัก 400 ล้านเหรียญ เช่นเดียวกับรัฐบาลสหรัฐฯ ส่วนผู้บริจาครายใหญ่รายอื่น ได้แก่ พันธมิตรทั่วโลกด้านวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกันโรค (Global Alliance on Vaccine and Immunization หรือ GAVI) รัฐบาลอังกฤษ รัฐบาลเยอรมัน รัฐบาลญี่ปุ่น ธนาคารโลก คณะกรรมการยุโรป ส่วนจีน แม้จะเป็นผู้บริจาครายใหญ่ แต่ก็ยังบริจาคไม่ถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ
    .
    แน่นอน ปฏิกิริยาการ “ถอน” เงินสนับสนุนจากทรัมป์ สร้างความลำบากใจให้กับ WHO และผู้นำชาติอื่นๆ ไม่น้อย ก่อนหน้านี้ อังเกลา เมอร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมัน สะท้อนความไม่เห็นด้วยกับปฏิกิริยาของทรัมป์ เช่นเดียวกับสหภาพยุโรป ที่ออกมาแสดงความเสียใจ ที่ทรัมป์ ลาก WHO เข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องการเมือง ซึ่งแน่นอน การที่ทรัมป์ถอนตัวออกไป ก็หมายความว่าประเทศเหล่านี้ อาจต้อง “ลงขัน” กันมากขึ้น
    .
    แม้ว่าที่ผ่านมา WHO จะถูกวิจารณ์เรื่องความ “ล้มเหลว” ในการเตือนภัย เรื่องความ “ลังเล” การไม่แนะนำให้ใส่ “หน้ากาก” ในช่วงแรก แล้วเปลี่ยนให้เป็น “ใส่” ในช่วงหลัง การเมืองหยุมหยิมเรื่องกีดกัน “ไต้หวัน” ออกจากการเป็นสมาชิก และการประกาศให้โรคนี้ เป็นโรคระบาดขนาดใหญ่ หรือเป็น Pandemic ช้า
    .
    แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ หลังจากนี้ WHO จะต้องเป็น เสาหลักในการวิจัยและพัฒนาวัคซีน การอนุมัติวัคซีน การผลิตวัคซีนจำนวนมหาศาล ซึ่งคาดว่าต้องมากกว่า 6,000 – 7,000 ล้านโดส และการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปบรรเทาภัยพิบัติในพื้นที่ชายขอบ ที่มีปัญหาระบบสาธารณสุขอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะในอินเดีย ในอเมริกาใต้ หรือในแอฟริกา ซึ่งอาจต้องใช้เงินทุนมหาศาล มากกว่าช่วงเวลาปกติอย่างน้อยหลายเท่า
    .
    ริชาร์ด ฮอร์ตัน บรรณาธิการบริหารของวารสาร The Lancet วารสารด้านสาธารณสุขชื่อดังระดับโลก บอกว่าปฏิกิริยาของทรัมป์ ถือเป็นเรื่องที่ทั้ง “บ้าคลั่ง” ทั้ง “น่าสะพรึงกลัว” ในเวลาเดียวกัน
    .
    “ในเวลาฉุกเฉินด้านมนุษยธรรม ที่โลกแสวงหาความร่วมมือ และต้องการความเป็นหนึ่งเดียวกันของบรรดาผู้นำ แต่ทรัมป์กลับเล่นบทคนเกเร และหนีออกจากความร่วมมือนี้ไปดื้อๆ” ฮอร์ตันระบุผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว
    .
    ในบ้านเองก็มีปฏิกิริยาที่ไม่เห็นด้วยกับทรัมป์เช่นกัน The American Medical Association หรือสมาพันธ์แพทย์แห่งอเมริกา ได้ขอให้ประธานาธิบดี “ทบทวน” การตัดสินใจใหม่ ขณะที่ ลามาร์ อเลกซานเดอร์ สว.พรรครีพับลิกัน จากรัฐเทนเนสซี ประธานกรรมาธิการสาธารณสุข วุฒิสภาสหรัฐ ก็แสดงความกังวลว่าการถอนตัว อาจส่งผลกระทบกับการทดลอง “วัคซีน” ซึ่งกำลังเดินหน้าอยู่ทั่วโลก
    .
    ประธานกรรมาธิการสาธารณสุขระบุว่า การสอบสวน “ความผิดพลาด” ของ WHO เป็นเรื่องที่ควรทำ แต่ไม่ใช่ในจังหวะนี้ เพราะถึงอย่างไร โลกก็ต้องการ “ตัวเชื่อม” ระหว่างประเทศ ในระหว่างการหาทางต่อสู้กับโรคระบาด ซึ่งไม่มีตัวเชื่อมไหน ที่จะมีคอนเนคชัน และมีองค์ความรู้เท่ากับ WHO
    .
    แน่นอน เรื่องการถอนตัว กำลังจะเป็นประเด็นใหญ่ เมื่อฝ่ายตรงข้ามอย่างพรรคเดโมแครตจะนำเรื่องนี้เข้าไปถกในสภา พร้อมกับยืนยันว่าทรัมป์ไม่มีอำนาจถอนตัว ถอนทุน ด้วยตัวเอง หากแต่ต้องผ่านสภาก่อน เพราะมีผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่อเมริกัน อีกหลายร้อยคนที่อเมริกา ส่งไปทำงานร่วมกับ WHO ทั่วโลก และ WHO ยังมีความสัมพันธ์อันดีกับหน่วยงานอย่าง สำนักงานควบคุมโรคติดต่อสหรัฐฯ (The Centers for Disease Control and Prevention หรือ CDC) ซึ่งหากถอนตัวไปจริง อเมริกา อาจจะหลุดวงโคจร ในการป้องกัน – วิจัย เพื่อผลิตวัคซีน หรือการควบคุมโรคระบาด
    .
    ท่ามกลางความขัดแย้งและการประกาศถอนตัวของสหรัฐฯ จีนได้ประกาศเตรียม “ถมเงิน” เข้าไปเพิ่ม พร้อมให้การสนับสนุน WHO ในทุกอย่างที่สหรัฐฯ ถอนตัวออกไป แต่ก็ยังไม่รู้จะพอหรือไม่ เพราะเศรษฐกิจจีนเอง ก็ “อ่วม” จากการระบาดของโควิด – 19 ไม่แพ้กัน
    .
    หลังจากนี้ WHO จึงต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายสำคัญ คือการ “หาเงิน” เพิ่ม ไปพร้อมๆ กับการเรียก “ศรัทธา” คืนมาอีกครั้ง ว่าหน่วยงานนี้ มีความสามารถ และมีประสิทธิภาพมากพอในการจัดการกับโรคระบาด
    .
    หากทำไม่ได้ คนจะเสียชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่จำเป็น

    #covid19 #โควิด19 #องค์การอนามัยโลก #สหรัฐอเมริกา #โดนัลด์ทรัมป์

    อ้างอิงจาก
    https://www.politico.com/news/2020/05/29/us-withdrawing-from-who-289799

    https://edition.cnn.com/2020/05/29/politics/donald-trump-world-health-organization/index.html

    https://www.dw.com/en/angela-merkel-rejects-trumps-g7-summit-invite-report/a-53625373

    https://www.npr.org/sections/goatsa...-s-give-whats-the-impact-of-a-halt-in-funding

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    June 2, 2020 ยักษ์บริษัทตรวจสอบบัญชีชื่อดังระดับโลก ส่อแววปลดกว่า 2,000 คนขึ้นไป
    .
    ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ และประธานบริษัท ดีลอยท์ คอนซัลติ้ง นายแดน เฮลฟริช เปิดเผยว่าบริษัทอาจต้องปลดพนักงานราว 5% หรือ 2,500 คนจากพนักงานทั้งหมดมากกว่า 50,000 คน สำหรับพนักงานจำนวน 2,500 คนที่อาจถูกปลดในครั้งนี้ จะอยู่ในสหรัฐเป็
    .
    #ดีลอยท์ #บริษัท #พนักงาน #Misterban

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 2 , 2020 สำนักงาน กสทช. ประชุมหารือ 5 ค่ายมือถือพร้อมแอปเปิล สิงคโปร์ ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เร่งหาทางแก้ปัญหา สแปมพนันออนไลน์รบกวนประชาชน สรุปกรณีนี้ไม่เกี่ยวกับแอปพลิเคชันไทยชนะ
    .
    นายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รองเลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า วันนี้ (2 มิ.ย. 2563) สำนักงาน กสทช. ได้ประชุมหารือกับตัวแทนจาก 5 ค่ายมือถือ ได้แก่ AIS TRUE DTAC CAT และ TOT พร้อมด้วยตัวแทนจากแอปเปิล สิงคโปร์ ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อเร่งหาทางแก้ปัญหาสแปมพนันออนไลน์รบกวนประชาชน เนื่องจากสำนักงาน กสทช. ได้ติดตามข่าวสารที่มีประชาชนได้รับ สแปมพนันออนไลน์ส่งเข้า iMessage ของประชาชนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ตของแอปเปิล
    .
    โดยเป็นข้อความเชิญชวนให้เข้าไปเล่นพนันออนไลน์ผ่าน ลิงค์ ที่ส่งมาในข้อความ โดยจากการตรวจสอบของสำนักงาน กสทช. และข้อมูลจาก 5 ค่ายมือถือ พบว่า สแปมดังกล่าวเป็น iMessage ไม่ใช่ SMS ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั้ง 5 ค่ายไม่สามารถตรวจสอบต้นทางและปลายทางได้ และไม่สามารถเห็นเนื้อหาในข้อความที่ส่งได้ ข้อมูลจากการประชุมหารือดังกล่าว และจากข้อมูลในการประชุมทั้ง 2 วัน สามารถสรุปได้ว่า สแปมเชิญชวนเล่นพนันออนไลน์ดังกล่าวไม่เกี่ยวกับแอปพลิเคชัน ไทยชนะ ของรัฐบาล
    .
    นายสุทธิศักดิ์ กล่าวว่า ผู้แทนแอปเปิล สิงคโปร์ ได้ให้ความร่วมมืออย่างดีและให้ข้อมูลว่า แนวทางที่ดีที่สุดที่จะป้องกันกรณีนี้ ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์แอปเปิลจะต้องตั้งค่าฟิลเตอร์ป้องกัน iMessage จากผู้ส่งที่ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์แอปเปิลไม่ได้บันทึกในรายชื่อติดต่อ (Filter Unknown Senders) และหากได้รับข้อความที่เป็นสแปมให้กดรายงาน สแปม iMessage ไปยังแอปเปิลซึ่งแอปเปิลจะบล็อกข้อความดังกล่าวนั้น ขณะเดียวกันก็ให้ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์แอปเปิลบล็อกผู้ส่ง iMessage นั้นรวมถึงอย่ากดลิงค์ หรือกดเปิดไฟล์ใดๆ ที่อยู่ในข้อความดังกล่าวเด็ดขาด ขณะเดียวกันแอปเปิลยังบอกว่า แอปเปิลยังมีระบบจัดการกับของความที่เป็นสแปมอยู่แล้วที่ใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก
    .
    ในการประชุมครั้งนี้ สำนักงาน กสทช. ได้ขอความร่วมมือให้แอปเปิลดำเนินการเกี่ยวกับกรณีนี้เป็นพิเศษเนื่องจากประเทศไทยมีผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลเป็นจำนวนมาก ใน 3 ประเด็น คือ
    .
    1.ให้ประชาสัมพันธ์วิธีการป้องกันสแปมจาก iMessage ผ่านสื่อ และช่องทางของแอปเปิลให้กับผู้ใช้ผลิตภัณฑ์แอปเปิลในประเทศไทย
    .
    2.ให้เร่งดำเนินการบล็อก หรือจัดการกับสแปมผ่านที่ได้รับการรายงาน สแปม iMessage โดยเร็ว
    .
    3.ขอให้ทางแอปเปิลไปดำเนินการปรับปรุงระบบจัดการสแปมของ iMessage ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
    .
    ทั้งนี้ สำนักงาน กสทช. ย้ำขอความร่วมมือให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั้ง 5 ค่าย ให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์แนวทางในการป้องกันสแปมที่จะเข้ามายัง iMessage ให้กับลูกค้าของต้นเองได้ทราบ โดยตั้งแต่เมื่อวานนี้ ค่ายมือถือบางค่าย ก็ได้เริ่มมีการประชาสัมพันธ์แนะนำวิธีการป้องกันออกมาแล้ว และหลังจากนี้เมื่อแอปเปิลทำการประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลโดยตรง ก็น่าจะเป็นการป้องกันไม่ให้มีสแปมเข้ามารบกวนประชาชนผู้ใช้บริการได้
    .
    #กสทช #แอปเปิล #สิงคโปร์ #Misterban

     

แชร์หน้านี้

Loading...