ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,717
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 1 , 2020 ธปท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนพ.ค. - รวมถึง 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวดีขึ้น แต่โดยรวมยังอยู่ในระดับต่ำมาก โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่มองว่าภาวะธุรกิจในระยะข้างหน้าจะยังคงแย่ลง
    .
    ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนพ.ค. 2563 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ 34.4 โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นในเกือบทุกองค์ประกอบและ ในหลายธุรกิจ ทั้งในภาคการผลิตและภาคที่มิใช่การผลิต ยกเว้น กลุ่มผลิตยานยนต์และกลุ่มผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ดัชนีฯ ยังคงลดลงต่อเนื่องและอยู่ในระดับต่ำมาก เนื่องจากการซื้อสินค้า ราคาสูงของผู้บริโภคลดลงภายใต้ความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจ
    .
    เช่นเดียวกับผู้ประกอบการในกลุ่มโรงแรมและร้านอาหาร และกลุ่มขนส่งที่ความเชื่อมั่นลดลงต่อเนื่องและอยู่ในระดับต่ำ จากการที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังกลับมาไม่มากแม้จะเริ่มมีการผ่อนคลาย มาตรการล็อกดาวน์ และผู้ประกอบการบางรายยังปิดกิจการต่อ เพราะประเมินว่าไม่คุ้มทุนหากกลับมาเปิดเร็วเกินไป
    .
    ขณะที่ ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน มาอยู่ที่ 41.1 ตามสถานการณ์ไวรัสโควิด19 ที่มีแนวโน้มดีขึ้น แต่ดัชนีฯ ยังอยู่ต่ำกว่า 50 ในทุกธุรกิจ สะท้อนว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เห็นว่าภาวะธุรกิจในระยะข้างหน้าจะยังคงแย่ลงจากปัจจุบัน โดยเฉพาะความเชื่อมั่นในกลุ่มขนส่งที่ลดลง ต่อเนื่องและอยู่ในระดับต่ำ คาดว่าจากต้นทุนต่อหน่วยที่เพิ่มสูงขึ้น จากมาตรการเว้นที่นั่งระหว่างผู้โดยสาร ประกอบกับการเดินทางจะยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ จนกว่าจะมีการค้นพบวัคซีนซึ่งอาจใช้ เวลานานกว่า 1 ปี
    .
    ส่งผลให้คาดการณ์ผลประกอบการและ การลงทุนของธุรกิจแย่ลง ส่วนกลุ่มผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มี ความเชื่อมั่นลดลงตามคาดการณ์คำสั่งซื้อ ปริมาณการผลิตและ ผลประกอบการที่ลดลง เนื่องจากในช่วงนี้บางรายได้รับคำสั่งซื้อ เพิ่มขึ้นเพื่อทดแทนบางประเทศที่ปิดประเทศ ทำให้ความต้องการ ในระยะถัดไปมีแนวโน้มลดลง
    .
    โดยดัชนีฯ ด้านสภาพคล่องปรับสูงขึ้นแต่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ต่อเนื่อง เป็นเดือนที่ 8 สะท้อนว่าธุรกิจส่วนใหญ่ยังคงมีสภาพคล่องลดลงจาก เดือนก่อน นอกจากนี้ ธุรกิจส่วนใหญ่ยังได้รับสินเชื่อจากสถาบันการเงินไม่เพียงพอต่อการด่าเนินธุรกิจ
    .
    #ธปท #สภาพคล่อง #ผู้ประกอบการ #Misterban

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,717
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 1 , 2020 สธ.เสนอคลายล็อกระยะ 4 ก็ยังไม่ควรเปิดผับบาร์-สถานบันเทิง พร้อมแนะควรไปเปิดหลังเปิดเรียนช่วงหลังวันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป
    .
    นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า จากการหารือกันในทีมที่ปรึกษามีข้อเสนอว่า โรงเรียนต้องได้เปิดก่อนสถานบันเทิง เพราะหากเปิดสถานบันเทิงก่อนแล้วมีผู้ป่วยกลับมา โรงเรียนคงไม่ได้เปิด
    .
    จึงเสนอไปว่าสถานบันเทิงควรไปรอหลังเปิดโรงเรียน ซึ่งจะเปิดเทอมวันที่ 1 ก.ค. 2563 แต่ก็มีโอกาสที่เปิดโรงเรียนแล้วจะมีการกลับมาระบาดใหม่ ซึ่งขณะนี้มีการถกเถียงกัน 2 กลุ่ม คือ โรงเรียนเป็นแหล่งแพร่โรคเหมือนไข้หวัดใหญ่ กลุ่มนี้เชื่อว่าการเปิดโรงเรียนองเปิดอย่างระมัดระวัง และกลุ่มที่เชื่อว่าโควิดไม่เหมือนไข้หวัดใหญ่ เพราะเจอในเด็กน้อยมาก โอกาสแพร่ระบาดในโรงเรียนน่าจะน้อย
    .
    โดยโรงเรียนห่างไกล มีนักเรียนจำนวนน้อย 20-30 คน ต่อโรงเรียน หรือไม่เกิน 100 คน มีพื้นที่และห้องกว้างขวาง นั่งเรียนกันได้อย่างสบาย อากาศโปร่งเพราะไม่มีแอร์ ถ้ามีความพร้อมอาจลองทยอยเปิดก่อน วันที่ 1 ก.ค.ได้ ซึ่งได้เสนอกับทางกระทรวงศึกษาธิการ
    .
    ส่วนโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีความเสี่ยงใน กทม. หรือในเมืองใหญ่ เช่น มีนักเรียน 2-3 พันคน หรือโรงเรียนประจำที่อยู่อย่างแออัด ต้องดูแลอย่างดี เพราะเป็นที่มีคนมาอยู่กันเยอะ ก็ต้องใช้ระบบผสมผสานในการเรียน บางส่วนเรียนที่โรงเรียน บางส่วนเรียนที่บ้าน ซึ่งโรงเรียนขนาดใหญ่ส่วนใหญ่มีศักยภาพ
    .
    ดังนั้นการคลายล็อกเฟส 4 ช่วงกลางมิ.ย. จึงยังไม่ควรเปิดสถานบันเทิง แต่ควรเปิดหลังเปิดเทอมวันที่ 1 ก.ค. แต่นี่ก็เป็นเพียงข้อเสนอเท่านั้น ส่วนการจะตัดสินใจในที่ประชุมจะเป็นอย่างไรต้องมีการติดตามอีกครั้ง
    .
    #สถานบันเทิง #ผับ #ไวรัสโควิด19 #Misterban

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,717
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 1 , 2020 บขส. เปิดจองตั๋วโดยสารล่วงหน้า 7 วันเส้นทางภาคเหนือ ผ่านระบบออนไลน์ เริ่มจองได้วันนี้เป็นต้นไป
    .
    บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) แจ้งว่า บขส. พร้อมให้ผู้โดยสารที่มีความประสงค์จะเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะในเส้นทางภาคเหนือ จำนวน 7 เส้นทาง ประกอบด้วย
    .
    เส้นทางกรุงเทพฯ–เชียงใหม่ // กรุงเทพฯ–เชียงราย // กรุงเทพฯ–อุตรดิตถ์ // กรุงเทพฯ–สวรรคโลก // กรุงเทพฯ–แม่สอด // กรุงเทพฯ–หล่มสัก //กรุงเทพฯ–คลองลาน
    .
    เส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก จำนวน 8 เส้นทาง ประกอบด้วย

    เส้นทางกรุงเทพฯ–หนองบัวลำภู // กรุงเทพฯ–สกลนคร // กรุงเทพฯ–เชียงคาน // กรุงเทพฯ–สุรินทร์ // กรุงเทพฯ–บุรีรัมย์ // กรุงเทพฯ–กันทรลักษ์-อุบลราชธานี // กรุงเทพฯ–ศรีสะเกษ // กรุงเทพฯ–รัตนบุรี
    .
    สามารถจองตั๋วโดยสารล่วงหน้า 7 วัน ผ่านระบบออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 โดยมีเงื่อนไขการจองตั๋ว ดังนี้
    .
    1. ผู้โดยสาร สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 7 วัน ในเส้นทางที่บริษัทฯ กำหนด
    .
    2. สงวนสิทธิ์การจองตั๋วและเดินทางให้เฉพาะผู้โดยสารคนไทยเท่านั้น กรณีตรวจพบว่าผู้เดินทางเป็นชาวต่างชาติ บริษัทฯ จะไม่อนุญาตให้เดินทางโดยเด็ดขาด (ตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) และขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนค่าโดยสาร หรือเลื่อนการเดินทางทุกกรณี
    .
    3. ห้ามผู้โดยสารลงจากรถระหว่างทาง หรือในสถานที่ ซึ่งมิใช่ที่หยุดหรือจอด ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดไว้ โดยรถโดยสารจะจอดรับ-ส่ง ตามจุดที่กำหนดไว้เท่านั้น
    .
    4. ผู้โดยสารที่เดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่จังหวัดหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำหนดอย่างเคร่งครัด และต้อง Scan QR Code จากเว็บไซต์ http://www.xn--b3czh8ayeuf.com/ เพื่อ Check in /Check out หรือกรอกข้อมูลคำถามสุขภาพตามแบบ ต.8-คค ที่ระบุจุดเดินทางที่ออกและจุดหมายปลายทางที่เป็นประโยชน์ต่อการควบคุมโรคติดต่อ
    .
    5.จองตั๋วได้ที่ เว็บไซต์ บขส. www.transport.co.th หรือตัวแทนจำหน่ายตั๋ว www.busticket.in.th , www.pns-allthai.com , www.thaiticketmajor.com และเคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-Eleven
    .
    ทั้งนี้ บขส. ได้ดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เช่น จัดทำมาตรการเว้นระยะห่าง Social Distancing อย่างเคร่งครัด โดยเว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกัน อย่างน้อย 1 เมตร หากผู้โดยสารครบตามจำนวนที่กำหนด จะไม่รับผู้โดยสารรายใหม่เพิ่มโดยเด็ดขาด
    .
    // งดให้บริการอาหารเครื่องดื่มบนรถโดยสาร และไม่อนุญาตให้นำอาหารและเครื่องดื่มมารับประทานบนรถโดยสาร โดยจะให้รับประทานอาหารเฉพาะที่จุดพักรถเท่านั้น เพื่อป้องกันการติดต่อสัมผัส ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19
    .
    นอกจากนี้พนักงานประจำรถ พนักงานประจำสถานี และผู้ใช้บริการ ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่อเข้าใช้บริการภายในสถานีขนส่ง และต้องผ่านการคัดกรองผู้โดยสาร หากพบผู้ที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ห้ามเดินทางโดยเด็ดขาด
    .
    #บขส #รถโดยสาร #จองตั๋วล่วงหน้า #Misterban

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,717
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 1 , 2020 ทอท.พร้อมตัดโบนัสพนักงานปีนี้ หลังคาดว่าผลประกอบการจะได้รับผลกระทบจากปัญหาโควิด 19
    .
    นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย หรือทอท. เปิดเผยว่า ปัญหาโรคไวรัสโควิด-19 ที่ยังแพร่ระบาดทั่วโลก ทำให้สายการบินต้องประกาศหยุดทำการบินอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบ ต่อผลประกอบการของสนามบินทั้ง 6 แห่งของ ทอท. คือ สุวรรณภูมิ ,ดอนเมือง, ภูเก็ต, เชียงใหม่, หาดใหญ่ และแม่ฟ้าหลวง ผลประกอบการหดตัวลงจากปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญ
    .
    ดังนั้นทางคณะกรรมการหรือบอร์ด ทอท.พิจารณาประเด็นการจ่ายเงินโบนัสแล้วเห็นว่า หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายลงในระยะเวลาอันสั้น การแจกโบนัสพนักงานปีนี้น่าจะเป็นไปได้ยาก
    .
    ดังนั้น บอร์ด ทอท.จึงให้ฝ่ายบริหารไปพิจารณาและประเมินสถานการณ์ให้รอบคอบประกอบการวางแผนทางการเงินทั้งในปีนี้ และในระยะปานกลาง ส่วนตัวมองว่าปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินในระยะยาวไปถึงปี 2565 กว่าปริมาณผู้โดยสารจะกลับมาเป็นปกติเท่ากับปี 2562 ที่จำนวน 142 ล้านคน ซึ่งในปี 2562 ที่ผ่านมา ทอท.มีมติจ่ายโบนัสพนักงานในอัตรา 7.25 เท่าของเงินเดือน
    .
    ส่วนในปี 2563 คาดว่าปริมาณผู้โดยสารภาพรวมทั้งปีจะปรับลดลงจากปีก่อน 50% คือปรับลดจาก 142 ล้านคน เหลือ 70 ล้านคน ซึ่งจะส่งกระทบต่อผลประกอบการของ ทอท.อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
    .
    ส่วนสถิติขนส่งทางอากาศ ผ่าน 6 สนามบินหลักในช่วง 4 เดือนแรก ของปี 2563 พบว่า มีปริมาณผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 27 ล้านคน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอด 50 ล้านคน หรือลดลง 46.64% ส่วนปริมาณเที่ยวบินช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ รวมทั้งสิ้น 1.9 แสนเที่ยวบิน ลดลง 36.64%
    .
    #AOT #ทอท #สนามบิน #Misterban

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,717
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "อนุทิน" ตรวจเยี่ยมวิจัยวัคซีนโควิดแบบดีเอ็นเอ เผยทดสอบฉีดวัคซีนในหนูแล้ว คาดสัปดาห์หน้ารู้ผล หากดีเตรียมวิจัยในลิงต่อ ลั่นช่วยอัดงบด้านวัคซีนแน่นอน หากผลวัคซีนใช้ได้ดี หมื่นล.ก็พ้อมทุ่ม ด้านไบโอเนทเล็งหารือ อย. หากผลดี ข้ามไปวิจัยในคนได้หรือไม่

    อ่านต่อ >https://news1live.com/detail/9630000056933
    ............................................
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,717
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นายเรเชล วอร์ด ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล สหรัฐฯ ได้ออกมาแถลงต่อปฏิบัติการของตำรวจตามเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ ในระหว่างการชุมนุมประท้วงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ตำรวจสหรัฐฯ ทั่วประเทศต่างไม่ปฏิบัติตามพันธกรณีของกฎหมายระหว่างประเทศ ที่จะต้องเคารพ และอำนวยให้มีการใช้สิทธิในการชุมนุมประท้วงอย่างสงบ ส่งผลให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น

    อ่านต่อ >https://news1live.com/detail/9630000056802
    ............................................
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,717
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รมว.สธ.ย้ำใช้เงินงบฯ ต้องให้ ปชช.มีส่วนร่วมมากที่สุด ดัน 2 โครงการแรก เพิ่มค่าตอบแทน อสม.500 บาท เพิ่มศักยภาพ รพ.สต.ให้งบ 2 แสนอัพ ขอให้มั่นใจเงินกู้ใช้เพื่อสร้างความเข้มแข็งการแพทย์ เพื่อสุขภาพที่ดีคนไทย

    อ่านต่อ >https://news1live.com/detail/9630000056852
    ............................................
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,717
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยอดติดโควิดในอินเดียพุ่งกระฉูด แซงหน้าฝรั่งเศสกลายมาเป็นอันดับ 7 ของโลก
    ยอดผู้ติดเชื้อโควิดในอินเดียเพิ่มไม่หยุด ล่าสุดทะลุ 190,000 ราย แซงหน้าฝรั่งเศส กลายมาเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงที่สุดเป็นอันดับที่ 7 ของโลก
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,717
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไข้เลือดออกยังระบาดต่อเนื่อง โคราช 10 อำเภอยุงหนัก

    วันนี้ (1 มิ.ย.63) ที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา หารือแนวทางเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึง การแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา

    โดยสถานการณ์การระบาดของโรคไข้เลือดออกว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ถึงปัจจุบัน พบผู้ป่วยแล้ว 1,164 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 45.82 ต่อประชากรแสนคนและมีรายงานผู้เสียชีวิต 2 ราย โดยเป็นผู้ป่วยเพศชายมากกว่าเพศหญิง กลุ่มอายุที่พบสูงสุด ได้แก่ กลุ่มเด็กวัยเรียน อายุ 10-16 ปี จำนวน 276ราย รองลงมา อายุ 5-9 ปี จำนวน 215ราย , กลุ่มอายุ 15-19 ปี จำนวน 215 ราย และกลุ่มอายุ 20-24 ปี จำนวน 106 ราย ซึ่งจ.นครราชสีมามีการระบาดของโรคฯอยู่ในลำดับ 6 ของประเทศและพบว่า ทั้ง 32 อำเภอพบอัตราป่วยสูงสุด ได้แก่ อ.โนนไทย , อ.เฉลิมพระเกียรติ , อ.โชคชัย , อ.สูงเนิน , อ.โนนสูง , อ.ประทาย , อ.พิมาย , อ.ขามทะเลสอ , อ.เมือง และ อ.จักราช

    ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดและการป่วยจากโรคไข้เลือดออก ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้กำชับให้ทุกพื้นที่เร่งสร้างความร่วมมืออย่างเข้มข้นรณรงค์ให้ประชาชนร่วมมือกับผู้นำชุมชน หมู่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ อสม. รวมพลังตั้งการ์ดสู้ภัยไข้เลือดออก ควบคู่ไปพร้อมๆกับโควิด-19 โดยรณรงค์ 3 เก็บ สื่อสารลดความเสี่ยงโรคไข้เลือดออก อย่างต่อเนื่อง และเข้มข้น รวมถึง “เก็บบ้าน เก็บน้ำ เก็บขยะ” และปฏิบัติตาม 5 ป. 2 ข. ได้แก่ ป.ปิดภาชนะน้ำกินน้ำใช้ให้มิดชิดหลังการตักน้ำใช้ทุกครั้งเพื่อป้องกันยุงลายลงไปวางไข่ , ป.เปลี่ยนน้ำในแจกัน ถังเก็บน้ำทุก 7 วัน เพื่อตัดวงจรลูกน้ำยุงลายที่จะกลายเป็นยุง , ป.ปล่อยน้ำปลากินลูกน้ำในภาชนะใส่น้ำถาวร เช่น อ่างบัว ถังซีเมนต์เก็บน้ำขนาดใหญ่ และ ป.ปรังปรุงสิ่งแวดล้อมให้ปลอดโปร่ง โล่ง สะอาด ลมพัดผ่าน ไม่เป็นที่เกาะพักของยุงลาย

    The post ไข้เลือดออกยังระบาดต่อเนื่อง โคราช 10 อำเภอยุงหนัก appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,717
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โรงเรียน กทม.เตรียมปรับใช้ 4 รูปแบบการเรียนการสอนรับมือ “โควิด” เตรียมเปิดเทอม

    โรงเรียน กทม. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 12/2563 โดยมี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)

    วันนี้ที่ประชุมได้รับทราบการเตรียมความพร้อมการจัดการเรียนการสอนโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งสำนักการศึกษาได้เตรียมจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน 4 รูปแบบ คือ

    การสลับชั้นมาเรียนของนักเรียนแบบสลับวันเรียน การสลับชั้นมาเรียนของนักเรียนแบบสลับวันคู่ วันคี่ การสลับช่วงเวลามาเรียนของนักเรียนแบบเรียนทุกวัน และการสลับกลุ่มนักเรียนแบบแบ่งนักเรียนในห้องเป็น 2 กลุ่ม โดยแต่ละรูปแบบจะมีความเหมาะสมกับขนาดโรงเรียน และพื้นที่ที่แตกต่างกัน

    ทั้งนี้ ที่ประชุมมอบหมายให้สำนักการศึกษารวบรวมข้อเสนอแนะและแนวทางการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครซึ่งคณะผู้ปกครองและผู้ปกครองได้เห็นชอบร่วมกัน นำเสนอที่ประชุมคณะผู้บริหารในการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 8 มิ.ย.นี้

    นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการเรียนการสอนของเด็กพิเศษ ซึ่งจำเป็นต้องให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน จึงมอบหมายให้สำนักการศึกษาเตรียมเสนอแนวทางการจัดการเรียนการสอนสำหรับเด็กพิเศษที่เหมาะสมด้วย

    The post โรงเรียน กทม.เตรียมปรับใช้ 4 รูปแบบการเรียนการสอนรับมือ “โควิด” เตรียมเปิดเทอม appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,717
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เทียบวิกฤต การบินไทย ปี 63 กับ เจแปน แอร์ไลน์ ปี 53 เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ?

    จากวิกฤตการณ์ของการบินไทยในปีนี้ ที่ต้องยื่นแผนฟื้นฟูกับศาลล้มละลาย และศาลมีคำสั่งรับคำร้องแล้ว

    จึงเลี่ยงไม่ได้ที่มักจะถูกโยงไปเทียบเคียงกับสถานการณ์ของเจแปนแอร์ไลน์ สายการบินในประเทศญี่ปุ่น

    แต่ในความเป็นจริงแล้ว แม้ในภาพรวมจะคล้ายๆ แต่ก็มีความแตกต่างกันในรายละเอียด โดยเฉพาะสถานการณ์ของโลกในวันนี้ กับเมื่อ 10 ปีที่แล้ว

    สปริงนิวส์จึงขอนำสถานภาพและสถานการณ์ ของเจแปนแอร์ไลน์ ในปี 2553 กับการบินไทย ในปี 2563 มาเทียบเคียงให้เห็นภาพกันแบบชัดๆ ซึ่งก็มีทั้งคลับคล้ายคลับคลา และแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดังที่จะนำเสนอต่อไปนี้

    สิ่งที่คล้ายกัน : เคยมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ

    ก่อนจะไปยังช่วงวิกฤต เราลองมาสำรวจปูมหลังของทั้ง 2 สายการบินกันสักนิด

    ย้อนไปยังก่อนเข้าสู่แผนฟื้นฟู ทั้งเจแปนแอร์ไลน์ และการบินไทย ถือได้ว่าเป็นกิจการที่เชิดหน้าชูตา ระดับเรียกได้ว่า เป็นสายการบินแห่งชาติได้อย่างเต็มภาคภูมิ

    โดยเจแปนแอร์ไลน์ ก่อตั้งในรูปแบบบริษัทเอกชน เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2494 ซึ่งเป็นสายการบินแห่งแรกของประเทศ จากการผลักดันของรัฐบาลญี่ปุ่น

    ต่อมาในปี 2546 สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ตรากฎหมายอนุมัติให้เจแปนแอร์ไลน์ มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ

    กระทั่งในปี 2530 ได้มีการแปรรูปให้กลายเป็นบริษัทเอกชนอย่างสมบูรณ์แบบ

    ส่วนการบินไทยนั้น ก่อตั้งเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2503 แต่ถือเอาวันเริ่มดำเนินการ นั่นก็คือ 1 พฤษภาคม ในปีเดียวกัน เป็นวันครบรอบของสายการบิน

    โดยจุดเริ่มต้นของการบินไทย เป็นการร่วมลงทุนระหว่าง บริษัทเดินอากาศไทย จำกัด ของรัฐบาลไทย กับสายการบินสแกนดิเนเวียน

    กระทั่งเมื่อครบกำหนดสัญญาร่วมการลงทุน เมื่อปี 2520 สายการบินสแกนดิเนเวียน ก็ได้โอนหุ้นให้แก่กระทรวงการคลัง เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ทำให้การบินไทยมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ นับจากนั้นมา

    ก่อนมีการแปรรูปการบินไทย ให้เป็นบริษัทมหาชน เพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในปี 2534 แต่ด้วยเหตุที่กระทรวงการคลัง ยังถือหุ้นใหญ่เกิน 50 % ทำให้การบินไทยยังคงมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจอยู่

    กระทั่งในเดือนพฤษภาคมปี 2563 เมื่อกระทรวงการคลัง ที่เดิมถือหุ้นกว่า 51 % ได้ขายหุ้นประมาณ 3 % ให้กับกองทุนวายุภักษ์ ส่งผลให้การบินไทยหมดสถานะรัฐวิสาหกิจไปโดยปริยาย

    กองทุนวายุภักษ์ ที่กระทรวงการคลัง ขายหุ้นการบินไทยให้ 3 % มีที่มาอย่างไร ?

    สิ่งที่คล้ายกัน : ปัญหาด้านการบริหารจัดการ

    บทวิเคราะห์จากกูรูและสื่อหลายสำนัก ถึงสาเหตุที่ทำให้ทั้งสองสายการบินเข้าสู่ช่วงวิกฤต สิ่งที่มักตรงกันและอยู่ในปัญหาลำดับต้นๆ ก็คือ การบริหารจัดการ และการดำเนินงาน

    ในส่วนของเจแปนแอร์ไลน์ หลังจากหมดสถานะรัฐวิสาหกิจ ตั้งแต่ปี 2530 กลายเป็นบริษัทมหาชนเต็มรูปแบบ แต่ในการบริหารและดำเนินการต่างๆ ก็ยังมีขั้นตอนมากมาย ยังติดแนวคิดและการทำงานแบบรัฐวิสาหกิจ

    ทำให้การดำเนินงานและแก้ปัญหาต่างๆ เป็นไปอย่างล่าช้า เพราะต้องผ่านการกลั่นกรองหลายระดับ ยิ่งในช่วงที่สายการบินต้นทุนต่ำ (Low-Cost) เข้ามาตีตลาด สถานการณ์ของเจแปนแอร์ไลน์ก็ยิ่งเลวร้ายลงเรื่อยๆ กระทั่งต้องประกาศล้มละลาย ในปี 2553

    ซึ่งปัญหาตรงนี้ ก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลญี่ปุ่นเล็งเห็น และแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยการส่งผู้บริหารระดับปรมาจารย์ ที่มีความโดดเด่นด้านการจัดการ อย่าง “คาซูโอ อินาโมริ” ผู้ก่อตั้ง “Kyocera Corporation” เข้ามาเป็นซีอีโอของเจแปนแอร์ไลน์

    อินาโมริในเวลานั้น อายุ 78 ปีแล้ว ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการบริหารสายการบิน แต่เขาก็ใช้ทักษะด้านการจัดการในระดับขั้นเทพ บวกกับได้อำนาจบริหารอย่างเบ็ดเสร็จ ปราศจากการแทรกแซง ทำให้สามารถพลิกฟื้นเจแปนแอร์ไลน์ให้มีกำไรได้ภายในระยะแค่ปีเดียว และกลับเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ได้ในอีก 1 ปีถัดมา

    ส่วนปัญหาของการบินไทยนั้น กูรูหลายท่านมองว่า เหตุที่ไม่สามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาล เหมือนดังรัฐวิสาหกิจหลายๆ แห่ง นั่นก็เพราะเป็นธุรกิจที่ไม่อาจผูกขาด ต้องแข่งขันแบบแฟร์เกม ทำให้แต้มต่อในด้านสถานะ ไม่สามารถช่วยอะไรได้

    หนำซ้ำการบริหารแบบรัฐวิสาหกิจ (แต่ไร้อำนาจผูกขาด) ทำให้ไม่เท่าทันกับการแข่งขันในโลกธุรกิจยุคใหม่

    หลายปัญหาที่ต้องรีบเร่งแก้ไข แต่กลับถูกปล่อยปละละเลย ไม่ว่าจะเป็น การลดสัดส่วนการขายตั๋วผ่านระบบตัวแทน การลดเที่ยวบิน รวมถึงเส้นทางที่ไม่คุ้มทุน เป็นต้น

    แต่หลายครั้งกลับทำในสิ่งที่ไม่คล้องกับธุรกิจและสถานการณ์ เช่น ซื้อเครื่องบินขนาดใหญ่เพิ่มเป็นจำนวนมาก อีกทั้งนำมาใช้ในเส้นทางที่ไม่เหมาะสม จึงเกิดกรณีที่หลายไฟต์แม้จะมีผู้โดยสารกว่า 80 % แต่ด้วยต้นทุนที่สูง ทำให้ขาดทุนตั้งแต่เครื่องยังจอดอยู่ที่สนามบิน

    เจแปนแอร์ไลน์ พ้นล้มละลายได้อย่างไร? สิ่งที่ไม่ได้ระบุในแผนฟื้นฟู แต่อยู่ที่หัวใจ

    สิ่งที่แตกต่าง : สถานการการณ์ปี 2553 กับปี 2563

    แม้หลายกรณีของทั้งสองสายการบิน จะสามารถนำมาเทียบเคียงกันได้ และอาจนำวิธีของเจแปนแอร์ไลน์ มาประยุกต์ใช้เพื่อฟื้นฟูกิจการ

    แต่ก็มีบางกรณีที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะสถานการณ์ของโลกในวันนี้ ซึ่งต่อให้ได้ผู้บริหารฝีมือระดับอินาโมริ ก็ยังเป็นเรื่องยาก ที่การบินไทยจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ดังเช่นที่เจแปนแอร์ไลน์สามารถทำได้ภายใน 1 ปี

    อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี ที่ส่งผลกระทบกับสายการบินทั่วโลก แม้แต่เจแปนแอร์ไลน์ ที่ทำกำไรมาตลอดเกือบสิบปี แต่ในไตรมาสแรกของปี 2563 ก็ยังคงต้องประสบกับภาวะขาดทุน

    สถานการณ์ของการบินไทยในเวลานี้ จึงอยู่ในภาวะวิกฤตซ้อนวิกฤต ต่างจากเจแปนแอร์ไลน์เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ที่ทุกอย่างยังดำเนินไปตามปกติ ไม่ต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีแนวโน้มว่า จะยืดเยื้อไปอีกร่วมปี หรือจนกว่าจะผลิตวัคซีนป้องกันได้สำเร็จ

    16 เรื่องน่ารู้ ตลอดเส้นทาง 60 ปี ของการบินไทย ! ทั้งยุครุ่งเรือง และช่วงวิกฤต

    สิ่งที่คล้ายกัน : จำนวนหนี้สินมหาศาล

    ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ เมื่อช่วงสิ้นปี 2562 ระบุว่า การบินไทย มีหนี้สินกว่า 2.4 แสนล้านบาท ในขณะที่มีทรัพย์สินอยู่ที่ประมาณ 2.5 แสนล้านบาท

    ในขณะที่เจแปนแอร์ไลน์นั้น เมื่อยื่นขอล้มละลาย มีจำนวนหนี้สินประมาณ 7 แสนล้านบาท และมีจำนวนทรัพย์สินมากกว่าหนี้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

    หากดูจากยอดหนี้ ก็ต้องบอกว่าสถานการณ์ของเจแปนแอร์ไลน์ หนักหนาสาหัสกว่าการบินไทยเยอะ แต่ก็มีตัวแปรสำคัญ ที่พลิกผันทำให้สถานการณ์การณ์ของเจแปนแอร์ไลน์ไม่ถึงขั้นเลวร้ายนัก ดังที่จะกล่าวในหัวข้อต่อไป

    ทำความเข้าใจแผนฟื้นฟู ชัดๆ ! “การบินไทย” ไม่ได้ล้มละลาย แต่เลือกเส้นทางกอบกู้กิจการ

    สิ่งที่แตกต่างกัน : การได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล

    ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่าน หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ออกมาแถลงการณ์แบบแย็บๆ ว่า อาจจะมีการอัดฉีดเงินช่วยกู้วิกฤตให้การบินไทย ด้วยเงินมหาศาลกว่า 5 หมื่นล้านบาท

    ก็ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง เพราะภาพการบินไทยในสายตาประชาชนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นั่นก็คือ องค์กรที่มีการบริหารจัดการล้มเหลว ถูกแทรกแซงทางการเมือง จนก่อให้เกิดความไม่เชื่อมั่น

    อีกทั้งยังมีกระแสข่าวออกมาว่า เงิน 5 หมื่นล้านบาท เป็นเพียงล็อตแรกเท่านั้น เพื่อนำไปเสริมสภาพคล่อง และอาจมีการขอให้ช่วยเหลือเพิ่มอีกกว่า 8 หมื่นล้านบาท รวมเป็น 1.3 แสนล้านบาท ตามข้อมูลที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวไกล ได้นำเสนอผ่านการไลฟ์สด ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม

    กระทั่งต่อมา ครม.ก็ได้มติให้การบินไทย ยื่นแผนฟื้นฟูกับศาลล้มละลาย ซึ่งเป็นแนวทางที่กระแสสังคมส่วนใหญ่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง

    และเมื่อศาลล้มละลาย มีคำสั่งรับคำร้อง ก็ทำให้การบินไทยได้รับการคุ้มครอง พักชำระหนี้ไปโดยอัตโนมัติ

    แต่ด้วยรายจ่ายที่มหาศาลในแต่เดือน ขณะที่มีกระแสเงินสดอยู่ไม่มากนัก (เมื่อเทียบกับรายจ่าย) อีกทั้งวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้การบินไทยต้องประกาศขยายเวลาหยุดบินไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน

    จึงเป็นปัญหาเฉพาะหน้า ที่ต้องติดตามกันต่อไปว่า ผู้บริหารในปัจจุบัน จะมีวิธีจัดการอย่างไร

    ส่วนกรณีของเจแปนแอร์ไลน์นั้น แม้จะเป็นบริษัทมหาชนเต็มรูปแบบแล้ว แต่หลังจากประกาศล้มละลายแล้ว ก็ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลประมาณ 3.5 แสนล้านบาท ทำให้สถานการณ์ในช่วงเวลานั้น ยังไม่ถึงกับตีบตันนัก และยังไม่มีโจทย์ยากๆ อย่างการแพร่ระบาดของโควิด-19

    โดยเจแปนแอรืไลน์ได้นำเงินอัดฉีดไปใช้อย่างคุ้มค่า ในการนำไปพัฒนาศักยภาพที่จำเป็น เพื่อแข่งขันในธุรกิจการบินยุคใหม่ รวมถึงลดรายจ่ายอย่างสะบั้นหั่นแหลก อาทิลดจำนวนพนักงาน 30 % จาก 5 หมื่นคน เหลือ 3.5 หมื่นคน ลดจำนวนเครื่องบินขนาดใหญ่ ด้วยการขาย รวมถึงยกเลิกเส้นทางการบินที่ไม่คุ้มทุน ฯลฯ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เจแปนแอร์กลับมาผงาดได้อย่างรวดเร็ว

    สรุป

    วิกฤตของการบินไทย กับเจแปนแอร์ไลน์ มีทั้งส่วนที่คล้ายและแตกต่าง ตามที่นำเสนอมานี้ แต่ถ้าว่าการโดยภาพรวม ก็ต้องบอกว่า อาการของการบินไทยค่อนข้างหนักหนาสาหัสกว่า อันเนื่องมาจากเป็นวิกฤตซ้อนวิกฤต อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

    ส่วนปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้เจแปนฟิ้นตัวอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการของ “คาซูโอ อินาโมริ” ที่ปรับโครงสร้างและระบบต่างๆ อย่างถอนรากถอนโคน การแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด รวมถึงการลดต้นทุนอย่างมหาศาล ก็เป็นตัวอย่างที่การบินไทยสามารถนำมาเป็นแนวทางในการฟื้นฟูกิจการได้

    The post เทียบวิกฤต การบินไทย ปี 63 กับ เจแปน แอร์ไลน์ ปี 53 เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ? appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,717
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘คุ้มขันโตก’ เชียงใหม่ ประกาศหยุดประกอบกิจการ เลิกจ้างพนักงานทั้งหมด!

    ปัจจุบันการระบาดของไวรัสโควิด 19 ได้ส่งผลกระทบต่อผู้คนมากมายทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย จนทำให้รัฐบาลต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดอย่างการ ล็อกดาวน์ เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาด ทำให้ที่ผ่านมาสถานบันเทิง ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว ต้องปิดให้บริการชั่วคราว เพื่อลดความเสี่ยง ทำให้ธุรกิจในประเทศไทยได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน

    ล่าสุด 1 มิ.ย.63 เพจเฟซบุ๊ก จังหวัดเชียงใหม่ CM108.com ได้ออกมารายงานว่า คุ้มขันโตก ซึ่งเป็นร้านอาหารชื่อดังของ จังหวัดเชียงใหม่ ออกประกาศเผยแพร่แจ้งหยุดประกอบกิจการ และเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

    โดยในเอกสารระบุข้อความว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้บริศัทไม่สามารถประกอบกิจการ หรือดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ ส่งผลกระทบกับความสามารถหารายได้ บริษัทจึงไม่สามารถประกอบกิจการได้ต่อไป จำเป็นต้องหยุดประกอบกิจการ และเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป

    ที่มา : FB จังหวัดเชียงใหม่ CM108.com

    The post ‘คุ้มขันโตก’ เชียงใหม่ ประกาศหยุดประกอบกิจการ เลิกจ้างพนักงานทั้งหมด! appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,717
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘หมอมนูญ’ เตือน ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่กว้าง อันตราย-สิ้นเปลือง

    นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้โพสต์ข้อความระบุ การฉีดพ่นน้ำยาเคมีกำจัดเชื้อโรคพื้นที่กว้างใหญ่นอกอาคาร บนทางเดิน ถนน และในตัวอาคาร เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ

    ไวรัสโควิด-19 เป็นไวรัสที่มีเยื่อหุ้มชั้นนอกเป็นไขมัน เมื่ออยู่ในสิ่งแวดล้อมนอกร่างกาย ถูกทำลายได้ง่ายด้วยความร้อน แสงแดด รังสียูวี สบู่ ผงซักฟอก แอลกอฮอล์ และสารเคมีต่างๆ

    องค์การอนามัยโลก (ดูรูป) กระทรวงสาธารณสุข และสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย (ดูรูป) ได้เตือนถึงผลเสียของการใช้เครื่องพ่นและท่อขนาดใหญ่พ่นละอองน้ำยากระจายในอากาศและสิ่งแวดล้อมทั่วไปบนผิวพื้นที่ที่ยังไม่ทำความสะอาด เป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม และมีอันตรายต่อผู้สัมผัส สิ้นเปลืองไม่ได้ประโยชน์

    ไม่ควรฉีดพ่นน้ำยาใส่เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มขณะที่คนสวมใส่ และร่างกายภายนอก นอกจากไม่ช่วยลดการแพร่ไวรัสโควิด-19 แล้ว สารเคมีที่ใช้อาจเป็นอันตรายต่อผิวหนัง ตา และทางเดินหายใจได้

    น้ำยาที่ใช้ฉีดพ่นส่วนใหญ่คือ โซเดียมไฮโปคลอไรท์ ต้องระวังไม่ให้สัมผัสผิวหนัง ตา หรือเข้าปาก จมูก เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบ ปวดแสบปวดร้อนได้ นอกจากนี้ยังทำอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะคนที่เป็นโรคหอบหืด โรคปอดเรื้อรัง เกิดอาการกำเริบได้

    การฉีดพ่นควรทำเฉพาะบนพื้นผิวแคบๆที่ทำความสะอาดแล้ว โดยใช้ขวดสเปรย์ ฉีดพ่นน้ำยาเคมีกำจัดเชื้อโรคตามสิ่งของต่างๆ

    หลักการ คือต้องทำความสะอาดพื้นผิวก่อน เพราะสิ่งสกปรกจะทำให้ประสิทธิภาพของน้ำยาฆ่าเชื้อลดลง หลังจากนั้นใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดถูบนพื้นผิวที่ถูกสัมผัสบ่อย สารเคมีที่ใช้กันมากที่สุด คือน้ำและสบู่ ผงซักฟอก แอลกอฮอล์เข้มข้น 70% ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ เดทตอล น้ำยาฟอกผ้าขาว โซเดียมไฮโปคลอไรท์ ชื่อการค้า เช่นไฮเตอร์ และคลอร็อกซ์ (ดูรูป)

    ห้ามใช้น้ำยาฟอกผ้าขาวบนพื้นผิวที่เป็นโลหะ เพราะจะกัดกร่อนโลหะได้

    The post ‘หมอมนูญ’ เตือน ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่กว้าง อันตราย-สิ้นเปลือง appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,717
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เทพไท เป็นปลื้ม บิ๊กตู่ ไม่ขัดข้องตั้งกมธ.วิสามัญ ตรวจสอบการใช้เงินตาม พ.ร.ก. แก้ปัญหาโควิด

    พ.ร.ก.กู้เงิน นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการยื่นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุญัตติ ขอให้สภาฯตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตามตรวจสอบการใช้ พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ ของพรรคการเมืองต่างๆว่า

    ถ้าดูจากท่าทีการให้สัมภาษณ์ และการอภิปรายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ยืนยันว่าไม่ขัดข้องในการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ และพร้อมที่จะให้มีการตรวจสอบการใช้ พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับนั้น นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีทางการเมือง ทำให้มีผลต่อการตัดสินใจของแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งอาจจะเปลี่ยนใจยินยอมให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ขึ้นได้

    “แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีแกนนำพรรคพลังประชารัฐหลายคนออกมาคัดค้าน และขัดขวางการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ โดยอ้างเหตุผลต่างๆนานา เช่น จะเป็นการซ้ำซ้อนกับคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร หรือเป็นการสิ้นเปลืองเบี้ยประชุม หรือห้องประชุมของคณะกรรมาธิการไม่เพียงพอ รวมถึงการอ้างถึงหน่วยงานตรวจสอบอย่าง ปปช. ปปท. สตง. ว่าสามารถทำการตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น เพราะการตรวจสอบของหน่วยงานราชการ แตกต่างกับการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติ อย่างสิ้นเชิง ” นายเทพไทกล่าว

    นายเทพไท กล่าวด้วยว่า การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตามและตรวจสอบการใช้ พ.ร.ก.กู้เงินนั้น สามารถแต่งตั้ง ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ ตัวแทนองค์กรต้านคอรั่ปชั่น ตัวแทนภาคประชาสังคม ตัวแทนสื่อมวลชน เข้าร่วมได้ จะทำให้การใช้เงินกู้จำนวน 1.9 ล้านล้านบาท มีประสิทธิภาพ ป้องกันการทุจริตที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ถ้าหากรัฐบาลมีความจริงใจและบริสุทธิ์ใจในการใช้เงินกู้ดังกล่าว ก็ควรที่จะสนับสนุน ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นการพิสูจน์ความโปร่งใสในการทำงานของรัฐบาล และเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ที่กล่าวอ้างกันว่า เป็นรัฐธรรมนูญ ฉบับปราบโกง

    จึงอยากจะให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ส่งสัญญาณไปยังแกนนำพรรคพลังประชารัฐ หรือวิปรัฐบาลโดยตรง เพื่อให้มีมติสนับสนุนการเสนอญัตติ เพื่อจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตาม ตรวจสอบการใช้เงินของ พ.ร.ก.กู้เงิน3ฉบับได้ เพราะในขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค หรือแม้แต่สมาชิกพรรคพลังประชารัฐบางส่วนก็เห็นด้วยกับการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญในครั้งนี้แล้ว

    The post เทพไท เป็นปลื้ม บิ๊กตู่ ไม่ขัดข้องตั้งกมธ.วิสามัญ ตรวจสอบการใช้เงินตาม พ.ร.ก. แก้ปัญหาโควิด appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,717
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตรวจคัดกรอง COVID-19 รู้ผลใน 15 นาที ด้วยชุดตรวจพัฒนาโดยทีมนักวิจัยไทย

    ทีมนักวิจัย จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ด้วยความสนับสนุนจากภาคธุรกิจ เปิดตัวชุด ตรวจคัดกรอง PSU COVID-19 ที่จะสามารถแสดงผลได้ภายในเวลา 15 นาที

    ภาคธุรกิจดังกล่าว ประกอบด้วย บริษัททิพยประกันภัย และกลุ่มธุรกิจด้านพลังงาน คือ บริษัทพลังงานบริสุทธิ์,บริษัทโสมาภา อินฟอเมชั่น, บริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น, บริษัท บีซีพีจี, ธนาคารกรุงไทย จำกัด,การบินลาว และบริษัท พิโซน่ากรุ๊ป

    อมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ กล่าวว่า “เราอยากเห็นทุกอย่างกลับเป็นปกติและขับเคลื่อนไปเช่นเดิม แม้ภาคธุรกิจพลังงานจะได้รับผลกระทบไม่มาก แต่หากวิกฤตครั้งนี้ยังคงยาวนาน แน่นอนว่าทุกคนบนโลกและทุกภาคธุรกิจ ต่างต้องล้มลงแน่นอน และในแง่ของการเป็นมนุษย์ เราจำเป็นที่ต้องเร่งมือส่งต่อความช่วยเหลือนี้แก่สังคมให้เร็วที่สุด เพราะการก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและปลอดภัย คือสิ่งที่ดีที่สุดของโลกใบนี้”

    ผศ.ดร. ธีรกมล เพ็งสกุล คณะเทคนิคการแพทย์ หัวหน้าโครงการชุดทดสอบเพื่อตรวจคัดครองเชื้อไวรัสโควิด ระบุว่าผู้ติดเชื้อโควิด 19 แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแสดงอาการ และกลุ่มติดเชื้อไม่แสดงอาการซึ่งสามารถเป็นพาหะได้ ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาชุดตรวจนี้ โดยใช้หลักการ immunochromatography (อิมมูโนโชมาโตกราฟฟี) (ICT) ใช้เวลาในการตรวจเพียง 15 นาที มีความไวและความจำเพาะสูง ความคงตัวสูง เก็บรักษาที่อุณหภูมิห้องได้เป็นเวลาหลายเดือน ใช้เพียงตัวอย่างเลือดที่เจาะจากปลายนิ้วเท่านั้น ซึ่งตัวอย่างเหล่านี้ มีปริมาณของเชื้อไวรัสที่น้อยมาก ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์จากผู้ป่วยได้ด้วย

    ด้าน ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิพยประกันภัย กล่าวว่า หากสามารถตรวจพบผู้ติดเชื้อได้เร็วโอกาสในการรักษาก็จะเร็วขึ้น การแพร่ระบาดและจำนวนผู้ติดเชื้อก็จะน้อยลง ซึ่งเป็นผลดีกับสังคม

    ชุดตรวจคัดกรองโควิดรู้ผลภายใน15นาที

    ทีมงานวิจัยระบุว่า ชุด ตรวจคัดกรอง การติดเชื้อไวรัส PSU COVID-19 นี้ เป็นการอำนวยความสะดวกและสร้างความปลอดภัย เพื่อให้คนไข้กับบุคลากรทางการแพทย์ ใกล้ชิดกันน้อยที่สุด สัมผัสสารคัดหลั่งน้อยที่สุด เสียเลือดน้อยที่สุด จึงพัฒนาออกมาเป็นชุดตรวจเล็กๆ ในราคาที่ประชนจับต้องได้และมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการตรวจหาเชื้อไวรัสซึ่งในอนาคต คาดหวังว่าโครงการนี้จะถูกต่อยอดเพื่อพัฒนาความเร็วในการตรวจหาเชื้อและส่งออกชุดตรวจไปทั่วโลก

    The post ตรวจคัดกรอง COVID-19 รู้ผลใน 15 นาที ด้วยชุดตรวจพัฒนาโดยทีมนักวิจัยไทย appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,717
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ครูอังกฤษหวั่นโควิดระบาดในโรงเรียน ผู้เชี่ยวชาญกังวลปลดล็อกเร็วเกิน
    ครูในอังกฤษหวั่นโควิด-19 ระบาดในโรงเรียน หลังถูกกดดันให้เปิดการเรียนการสอน ในวันที่ 1มิ.ย. แม้จะจำกัดจำนวนนักเรียนต่อห้อง ด้านผู้เชี่ยวชาญกังวลทางการปลดล็อกเร็วไป
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,717
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นราธิวาส ปู่วัย 80 ติดโควิดตาย เป็นรายที่ 2 จังหวัด รายที่ 58 ของ ปท.
    "นราธิวาส" พบคุณปู่วัย 80 ปี ติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิต ถือเป็นรายที่ 2 ของจังหวัด และเป็นรายที่ 58 ของประเทศไทย ด้านผู้ว่าฯนราธิวาส แจ้งตั้งแต่วันนี้ประชาชนไม่จำเป็นต้องขอรับหนังสือรับรอง
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,717
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ดูไบเปิดหาดให้คนพักผ่อนครั้งแรกหลังล็อกดาวน์คุมโควิด นับ 2 เดือน
    สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประกาศเปิดให้ประชาชนเข้าใช้บริการบริเวณชายหาดและสวนสาธารณะเป็นครั้งแรก หลังล็อกดาวน์คุมโควิด-19 นานร่วม 2 เดือน
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,717
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันนี้ ประชาชนชาวอังกฤษหลายพันคน ได้ออกมาชุมนุมประท้วงในกรุงลอนดอน และเมืองแมนเชสเตอร์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (31 พ.ค.) เพื่อร่วมเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนาย จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสี ชาวอเมริกันที่ถูกตำรวจใช้เข่ากดคอจนขาดอากาศหายใจ และเสียชีวิต ขณะถูกจับกุมข้อหาใช้ธนบัตรปลอมในร้านค้าแห่งหนึ่งในเมืองมินนิอาโปลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา
    .
    ทั้งนี้ แม้จะได้มีประกาศห้ามชุมนุมในสหราชอาณาจักร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่กลุ่มผู้ประท้วงจำนวนหลายพันคน ก็ยังมารวมตัวกันที่จัตุรัสทราฟัลการ์ ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กของมหานครลอนดอน หลังเวลา 13.00 น. ของวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนเดินผ่านย่านเวสมินสเตอร์ สู่ถนนดาวนิง ซึ่งเป็นที่ตั้งของทำเนียบรัฐบาล พร้อมตระโกนโห่ร้องว่า "ไร้ความยุติธรรม ก็ไร้ความสงบ" ขณะที่บางส่วนชูป้ายที่เขียนข้อความว่า "ชีวิตคนดำก็มีความหมาย"
    .
    โดยสื่อต่างประเทศรายงานว่า นอกจากนี้ ผู้ประท้วงยังรวมตัวกันที่เมืองแมนเชสเตอร์ และด้านนอกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐในกรุงลอนดอนอีกด้วย ซึ่งทางตำรวจนครบาลของลอนดอนระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า ได้รับแจ้งถึงเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงนอกสถานทูตสหรัฐแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรึงกำลังอยู่บริเวณสถานที่ชุมนุม และกำลังรับมือกับผู้ชุมนุมด้วยแผนการที่เหมาะสม
    .
    ซึ่งในตอนนี้ นอกจากประเทศอังกฤษแล้ว กระแสการเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ “จอร์จ ฟลอยด์” ยังได้เกิดขึ้น ในอีกหลายประเทศ เช่น เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา และเมืองมาชาด ประเทศอิหร่าน
    .
    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://www.sbs.com.au/news/thousan...lice-brutality-following-george-floyd-s-death

    https://time.com/tag/united-kingdom/

    https://www.thansettakij.com/conten...m_medium=internal_referral&utm_campaign=world
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Facebook :
    https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,717
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มีรายงานจากสื่อต่างประเทศว่า รัฐบาลกลางของอินเดียได้ออกคำสั่งต่อทุกรัฐในประเทศ กำหนดห้ามการถ่มน้ำลาย การสูบบุหรี่ และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาสูบในสถานที่สาธารณะ
    .
    โดยรัฐมหาราษฏระ เป็นรัฐที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดในอินเดีย โดยมีสถิติผู้ป่วยโควิด-19 มากกว่า 62,000 รายและมุมไบ เมืองเอกทางการเมืองของรัฐแห่งนี้ ก็เป็นเมืองที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุดถึงเกือบ 37,000 รายแล้วเมื่อนับถึงขณะนี้ในอินเดีย
    .
    “การถ่มน้ำลายเป็นสาเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย เมื่อพิจารณาถึงเรื่องนี้เราจึงตัดสินใจบังคับใช้กฎหมายห้ามอย่างเข้มงวด โดยผู้ละเมิดจะต้องจ่ายค่าปรับ 13 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 413 บาท) สำหรับการทำความผิดในกรณีนี้ครั้งแรก 40 ดอลลาร์สหรัฐในครั้งที่สอง (ราว 1,272 บาท) และ 66 ดอลลาร์สหรัฐในครั้งต่อไป (ราว 2,066 บาท)” ราเชศ โฏเป (Rajesh Tope) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของรัฐมหาราษฏระกล่าว
    .
    เมื่อต้นเดือนนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของรัฐบาลกลางอินเดีย ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อรัฐทุกแห่งให้สั่งห้ามการขายผลิตภัณฑ์ยาสูบและถ่มน้ำลายในที่สาธารณะเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

    ข้อมูลจากโครงการสำรวจการบริโภคยาสูบในผู้ใหญ่ระดับโลก (GATS) ระบุว่า อินเดียมีผู้ใช้ยาสูบรายใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ซึ่งมากถึง 268 ล้านคน หรือคิดเป็น 28.6% ของผู้ใหญ่ทั้งหมดในอินเดีย และมีสถิติผู้ป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวกับยาสูบทุกปีอยู่ที่ 1.2 ล้านราย

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://www.timesnownews.com/bengal...-public-banned-by-karnataka-government/599569

    https://www.xinhuathai.com/high/110...vKPVmrFW-UsEOHWXANaO1qMq0ayuGFDY6ydQHyh88P1-Q

    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

     

แชร์หน้านี้

Loading...