ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "รื่นวดี สุวรรณมงคล" เขียนบทความอธิบายละเอียดเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการ ถึงความหมายและประโยชน์ ใครสามารถยื่นคำขอฟื้นฟูกิจการได้บ้าง ย้ำชัดการฟื้นฟูกิจการไม่ใช่การล้มละลาย แต่เป็นการรักษาให้กิจการยังสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ Win-Win ทั้งเจ้าหนี้ ลูกหนี้ ผู้ถือหุ้น และสังคม

    อ่านต่อ >https://news1live.com/detail/9630000051730
    ............................................
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การบินไทย ขยายเวลาหยุดบิน ต่ออีก 1 เดือน ยาวถึงต้น ก.ค.

    การบินไทย ขยายเวลาหยุดบินเพิ่มอีก โดย ฝ่ายภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า ตามที่ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) มีคำสั่งขยายเวลาห้ามอากาศยานขนส่งผู้โดยสารทำการบินเข้ามายังท่าอากาศยานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 นั้น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จึงมีความจำเป็นต้องขยายเวลาหยุดทำการบินชั่วคราวต่ออีก 1 เดือน ในเดือนมิถุนายน 2563 จากเดิมที่ได้ประกาศหยุดทำการบินเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 อย่างไรก็ตาม สำหรับในเดือนกรกฎาคม 2563 บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาและประเมินสถานการณ์ เพื่อกลับมาทำการบินทันทีเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง โดยบริษัทฯ ได้ติดตามสถานการณ์จากทั่วโลกอย่างใกล้ชิด และยังพิจารณามาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ของแต่ละประเทศ มาตรการปิดประเทศ (Lock Down) และความต้องการในการเดินทางของผู้โดยสาร ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ ได้มีแผนเตรียมความพร้อมในการให้บริการไว้แล้ว และจะแจ้งกำหนดการที่แน่นอนให้ทราบอย่างเป็นทางการต่อไป ปัจจุบัน บริษัทฯ […]

    The post การบินไทย ขยายเวลาหยุดบิน ต่ออีก 1 เดือน ยาวถึงต้น ก.ค. appeared first on ข่าวสด.

    Source : #Khaosod #KhaosodOnline #ข่าวสด

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "สนธิรัตน์" โต้ ใช้กองทุนอนุรักษ์ฯอุ้มเก้าอี้เลขา พปชร. :[UNCUT]
    “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” รัฐมนตรีพลังงาน โต้ ดึงเงินกองทุนอนุรักษ์พลังงาน อุ้มเก้าอี้เลขาธิการพรรค พปชร. แจงยิบขั้นตอนยื่นขอ งบกองทุนฯ วงเงิน 5,600 ล้านบาท เน้นโครงการกระตุ้นฐานราก รับมือผลกระทบโควิด-19 ยืนยันโปร่งใสทุกขั้นตอน พร้อมท้าให้ตรวจสอบ

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พบผู้ป่วยโควิด-19 ในไทยเพิ่ม 3 ราย เผย 2 รายติดเชื้อในที่ทำงานส่วนราชการใน กทม. กลุ่มนี้ติดแล้วรวม 6 คน ส่วนอีกรายเป็นชาวภูเก็ต เคยสัมผัสกับผู้ป่วยที่เดินทางออกจากภูเก็ตไปปราจีนบุรี กรมควบคุมโรคเร่งติดตามผู้สัมผัสเกี่ยวข้องเพิ่มเติม

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000051634
    ………………………………
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความตึงเครียดระหว่าง สหรัฐและ จีนกำลังทวีคูณ ! หลังทางสหรัฐกล่าวว่าจีนอาจตั้งใจส่งผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสบินกระจายไปทั่วโลก ✈️

    ที่ปรึกษาด้านการค้าของสหรัฐนาย Peter Navarro ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านโทรทัศน์ ABC ว่า "จีนสามารถกักไวรัสไว้ในประเทศเขาได้หากเขาต้องการ แต่พวกเขากลับปล่อยให้กระจายออกมาสู่ที่อื่นๆในโลก ทางจีนควรต้องรับผิดชอบกับการกระทำนี้"

    นี่ถือเป็นการ #ชี้นิ้วต่อว่ารัฐบาลจีนครั้งใหญ่ ของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งถึงแม้ทางทรัมป์กล่าวว่าเขาได้รวบรวมหลักฐานที่จีนจงใจปล่อยไวรัสในครั้งนี้ไว้ครบแล้วแต่ก็ยังไม่ได้มีการนำออกมาเปิดเผยแต่อย่างใด

    ติดตามความคืบหน้าของความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศมหาอำนาจต่อไป เพราะผลกระทบต่อโลกเรานั้นอาจมีมากกว่าเพียงสงครามการค้ารอบใหม่

    อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นสหรัฐยังไม่รับรู้ถึงความเสียงนี้มากเท่าไหร่ เช้านี้ดัชนีหลักอย่าง Dow Jones และ S&P ยังดีดกลับต่อเนื่องที่ +1%

    Cr : OilTradingKP
    ที่มา: Bloomberg

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เงินช่วยโควิด #แสนเยน จะเริ่มจ่ายเมื่อไหร่ จำแนกตามที่ตั้งสำนักงานเขต/เมือง โดยสำนักข่าวเคียวโด

    ไม่ครบทุกเขตนะคะ สำนักข่าวเอามาแต่หลัก ๆ บางหมู่บ้าน/เมืองเล็ก ๆ อาจเร็วกว่านั้นนะคะ

    เดือนพ.ค. ขออนุญาตข้าม เพราะคาดว่าน่าจะได้จดหมายกันหมดแล้ว

    เดือนมิ.ย. ไป: นีกาตะ ฟุคุอิ ชิซุโอกะ โอสึ (ชิกะ) โอซาก้า ทตโตริ ฮิโรชิม่า โทคุชิมะ คาโกชิมะ

    ยังไม่แน่นอน: ซัปโปโร / ไซตามะ / เขตชินจูกุ โตเกียว / โยโกฮามะ / โทยามะ / นาโกย่า / เกียวโต / โออิตะ / นาฮะ

    ✒️วะโค บ้านแอดบอกว่า จดหมายจะเริ่มส่งออก 23 พ.ค. กว่าจะได้จ่ายคงอีกนาน......... ส่วนแมสอาเบะ .... ก็ยังคงไปกับสายลมเช่นเคยค่ะ

    ✒️รุ่นน้องแอด เขตชิบุย่า โตเกียว ลงทะเบียนด้วยมายนัมเบอร์บัตรแข็งออนไลน์ได้เงินแล้ว

    ✒️เขตชินจูกุ โตเกียว ยังกำหนดวันส่งออกจดหมายไม่ได้เลย.... ใครอยู่ชินจูกุ รอกันต่อนะคะ

    ✒️แบบกระดาษยังคงรอกันต่อไป

    ✒️บางเขตแบบออนไลน์จะช้ากว่ากระดาษอีก เพราะต้องใช้คนตรวจ 2 คน ข้อมูลไม่ลิงค์กัน

    #กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เงินช่วยเหลือ

    ขอบคุณภาพจาก สำนักข่าวเคียวโด และ Line News

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐกดดันจีนหนัก ส่อลาม 'สงครามการค้า'
    : จากการที่สหรัฐพยายามให้จีนรับผิดชอบ กรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก เนื่องจากสหรัฐเชื่อว่าเชื้อไวรัสหลุดมาจากห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ของจีน ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนเกิดความตึงเครียดและรุนแรงมากขึ้น

    ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน ที่มีปมมาจากการที่สหรัฐพยายามให้จีนรับผิดชอบ กรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ต้นตอโรคโควิด-19 ที่สร้างความเสียหายไปทั่วโลก โดยสหรัฐเชื่อว่า เชื้อไวรัสชนิดนี้หลุดมาจากห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ย์ เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

    ล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าวระหว่างลงพื้นที่โรงงานผลิตอุปกรณ์การแพทย์ รวมหน้าหน้ากากอนามัย ของบริษัทโอเวนส์ แอนด์ ไมเนอร์ ที่เมืองอัลเลนทาวน์ รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อวันพฤหัสบดี (14 พ.ค.) ว่าตอนนี้เขารู้สึกผิดหวังอย่างมากกับท่าทีของจีนที่มีต่อวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคระบาดจากจีน และเขาเชื่อมั่นว่ารัฐบาลปักกิ่งปกปิดความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้

    ส่วน “ไมค์ ปอมเปโอ” รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า ขณะที่รัฐบาลวอชิงตันและบรรดาชาติพันธมิตร ร่วมมือกันอย่างโปร่งใสเพื่อปกป้องชีวิตของประชาชน จีนยังคงปิดปากเงียบ นักวิทยาศาสตร์ ผู้สื่อข่าว และพลเมือง ชาวจีนเดินหน้าเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือน ซึ่งมีแต่จะยิ่งส่งผลให้วิกฤติด้านสาธารณสุขครั้งนี้เลวร้ายยิ่งขึ้น

    ท่าทีของทรัมป์และปอมเปโอ เกิดขึ้นเพียงวันเดียว หลังสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) และสำนักงานความปลอดภัยไซเบอร์และความมั่นคงด้านโครงสร้างพื้น ฐานออกแถลงการณ์ เรื่องการตรวจพบความพยายามของแฮกเกอร์สังกัดรัฐบาลปักกิ่ง ที่พยายามจารกรรมข้อมูลจากระบบของหน่วยงานรัฐและเอกชนในหลาย ประเทศ เกี่ยวกับโครงการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19

    นอกจากสร้างแรงกดดันจีนด้วยการให้ข่าวรายวันแล้ว วุฒิสภาสหรัฐยังอนุมัติร่างกฎหมายที่เรียกร้องให้ดำเนินการที่แข็งกร้าวมากขึ้นกับกรณีที่จีนทำการกวาดล้างชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอุยกูร์ ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ-จีนมากขึ้น หลังถูกกดดันอยู่แล้วจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

    วุฒิสมาชิกรายหนึ่ง กล่าวว่า กฎหมายนโยบายสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์ปี 2563 ของสหรัฐ มีเป้าหมายเพื่อให้จีนรับผิดชอบกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงกับชาวอุยกูร์ ในเขตปกครองตนเอง ซินเจียงทางตะวันตก ของจีน

    ร่างกฎหมายฉบับนี้ต้องผ่านการอนุมัติของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ก่อนส่งต่อให้กับประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป โดยที่ผ่านมาสหรัฐได้แสดงความวิตกอย่างมากเกี่ยวกับการควบคุมตัวชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมมากกว่า 1 ล้านคนไว้ในค่ายกักกัน ซึ่งจีนเรียกอย่างเป็นทางการว่าศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมอาชีพ โดยที่ชนกลุ่มน้อยเหล่านี้ไม่ได้กระทำความผิดแต่อย่างใด

    เจ้าหน้าที่จีนระบุว่า จำเป็นต้องจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวขึ้น เพื่อรับมือกับกลุ่มก่อการร้ายและกลุ่มลัทธิศาสนาหัวรุนแรง

    ขณะที่สื่อสหรัฐรายงานว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวเรียกร้องให้ดำเนินมาตรการลงโทษเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลจีนที่รับผิดชอบในการกักกันตัวชาวอุยกูร์ และลงโทษในฐานะปฏิบัติการอย่างไร้มนุษยธรรมในรูปแบบอื่นๆ กับชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิม

    แต่ไม่ได้มีแค่สหรัฐเท่านั้นที่กดดันจีน “เกรก ฮันต์” รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลีย ก็กล่าวในนามรัฐบาลออสเตรเลีย สนับสนุนข้อเสนอของสหภาพยุโรป (อียู) ในการสอบสวน หาต้นตอการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในจีน

    ฮันต์ ระบุว่า ออสเตรเลียสนับสนุนข้อเสนอของอียูที่ให้มีการสืบสวนโดยหน่วยงานอิสระ มีการจัดระเบียบข้อบังคับกับตลาดสด รวมไปถึงจัดให้มีการตรวจสอบที่เป็นอิสระ ซึ่งท่าทีนี้ของออสเตรเลียมีขึ้นหลังจากฝ่ายบริหารของอียูออกมาเสนอให้จีนร่วมมือกับอียูในการสืบหาต้นตอการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส

    แม้เป็นที่เข้าใจกันว่าเชื้อไวรัสมีต้นตอการแพร่ระบาดจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน แต่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ระบุว่า เป็นไปได้ว่าเชื้อจะแพร่ระบาดมาจากค้างคาว ไปสู่มนุษย์ผ่านสัตว์พาหะอย่างตัวนิ่ม ซึ่งมีต้นตอมาจากตลาดค้าสัตว์ป่าในเมืองอู่ฮั่น ที่ขายเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบปรุงอาหาร

    แต่จีนระบุว่า ยังคงเร็วเกินไปที่จะเปิดให้มีการสืบสวนหาต้นตอของเชื้อไวรัส และปฏิเสธกล่าวหาที่ระบุว่าจีนล้มเหลวในการป้องกัน ไม่ให้ไวรัสแพร่ระบาดไปทั่วโลก

    โซคัลสกี้ กล่าวว่า แผนเปิดเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ทั่วโลกอย่างค่อยเป็นค่อยไปหลังจากล็อกดาวน์มานานหลายสัปดาห์ เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัว อาจจะทำไม่สำเร็จเพราะปัญหาขัดแย้งทางการเมือง

    “ขณะที่ตอนนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในหลายประเทศ ผ่านจุดพีคไปแล้ว บรรดานักการเมืองก็เริ่มหาแพะรับบาปเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป้าหมายที่ชัดเจนจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากจีน” โซคัลสกี้ กล่าว

    Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ✅ ข่าวดีของโลก ✅ ผลทดสอบวัคซีน Moderna สามารถสร้างภูมิต้านทานไวรัสโควิดได้ ! ส่งผลให้ตลาดหุ้นและน้ำมันโลกทั่วโลกสดใสคืนนี้และยังมีข่าวดีมาหนุนอีกมากมาย

    คืนนี้ ดัชนีหุ้นสหรัฐทั้ง Dow Jones และ S&P500 ดีดแรง +3% และ ราคาน้ำมันยังคงขึ้นอย่างต่อเนื่อง WTI +10% , Brent +7% โดยได้รับแรงหนุนจาก:

    1️⃣ ยาวัคซีนของ Moderna ให้ผลทดลองในรอบแรกที่ตอบสนองดีมาก ! ในการทดลองระยะที่ 1 ได้แบ่งผู้ป่วยออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 15 คน โดยแต่ละกลุ่มจะได้รับวัคซีนวัคซีน 2 โดสในปริมาณที่ต่างกันไปที่ 25 , 100 และ 250 ไมโครกรัม และได้รับผลทดลองว่า

    1) กลุ่มที่ได้รับโดส 25 ไมโครกรัม สามารถพัฒนา Antibody ต้านไวรัสได้ในระดับเดียวกับผู้ที่ฟื้นตัวจากการติดเชื้อไวรัส

    2) กลุ่มที่ได้รับโดส 100 ไมโครกรัม สามารถพัฒนา Antiboy ต้านไวรัสได้ในระดับที่สูงกว่าผู้ที่ฟื้นตัวจากการติดเชื้อไวรัสเสียอีก !

    3) กลุ่มที่ได้รับโดส 250 ไมโครกรัม ยังไม่มีข้อมูลปล่อยออกมา

    การทดลองนี้นำโดย NIAID (National Institute of Allergy and Infectious Diseases) ของสหรัฐ ถึงแม้จำข้อมูลทดลองจะยังมีน้อย แต่ก็สร้างกำลังใจให้กับเหล่านักวิจัยจำนวนมากและนักลงทุนก็มีความมั่นใจสูงขึ้นด้วย

    2️⃣ ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ออกมาแถลงว่าหากมีการผลิตวัคซีนต้านไวรัสได้สำเร็จทางจีนจะปล่อยให้วัคซีนเป็นของสาธารณะ (public good) แน่ๆ จะไม่เก็บไว้เป็นสินค้าภายในประเทศของตัวเองและทางจีนจะบริจาคเงิน 2 พันล้านเหรียญให้ WHO ต่อสู้กับไวรัส สร้างความมั่นใจและลดความกังวลเรื่องความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนให้นักลงทุน

    3️⃣ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) นาย Jerome Powell แสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดยกล่าวว่าสหรัฐจะไม่เข้าสู่ Depression ยาวเหมือนในปี 1930 แน่ๆถึงแม้ GDP ใน Q2 นี้อาจติดลบถึง -30% (เตรียมใจไว้เลย) แต่ทาง FED ยังมีกระสุนกระตุ้นเศรษฐกิจเหลือพอที่จะช่วยให้สหรัฐผ่านพ้นไปได้

    4️⃣ การใช้น้ำมันของจีนกลับมาสู่ระดับเกือบปกติแล้ว ! หลังจากหดลดลงไปเป็นเวลาเกือบ 4 เดือน และทางรัสเซียแถลงว่าจะลดกำลังการผลิตตามสัญญาที่ให้ไว้กับโอเปกอย่างเคร่งครัดแน่นอน ทั้งสองปัจจัยดันให้ราคาน้ำมันอยู่ในระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือน

    Cr : OilTradingKP
    แหล่งข่าวอ้างอิง: www.cnbc.com

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ด่วน ⚠️ สี จิ้นผิงออกมาแถลงว่าจีน ไม่ได้เป็นผู้ปล่อยไวรัสแน่ๆ ! และทางจีนจะบริจาคเงิน 2 พันล้านเหรียญเพื่อต่อสู้กับไวรัส !

    ประธานาธิบดีจีนได้แถลงต่อสมัชชาอนามัยโลก (World Health Assembly) ว่าจีนได้เปิดเผยข้อมูลการระบาดของ COVID-19 อย่างโปร่งใสมาตลอด (แก้คำกล่าวหาจากสหรัฐ) และจะสนับสนุนการสอบสวนเรื่องนี้ด้วย หากเป็นการดำเนินการในลักษณะที่เป็นกลางและเป็นธรรม

    อีกทั้งทางจีนยังสนับสนุนองค์การอนามัยโลก (WHO) อย่างเต็มที่ในการตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ทั่วโลก และจีนยังให้คำมั่นว่าจะให้เงินสนับสนุน 2 พันล้านเหรียญในช่วงสองปีข้างหน้าเพื่อช่วยผู้ที่ได้รับผลกระทบและเพื่อพัฒนาวัคซีน

    สุดท้ายทาง สี จิ้นผิง ยังกล่าวปิดท้ายว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่จีนสามารถผลิตวัคซีนต้านไวรัสได้ ทางจีนจะทำให้วัคซีนนั้นเป็นของสาธารณะ (public good) ! ไม่ใช่เก็บไว้เป็นสินค้าภายในประเทศของตัวเอง

    เรื่องประเทศไหนจะเป็นเจ้าของวัคซีนชุดแรกนั้นกำลังเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่ผู้นำของโลก โดยเราได้เขียนบทความเรื่องนี้ไว้เมื่อวานว่า #ความสามัคคีของโลกกำลังเจอบททดสอบที่สำคัญจากไวรัสโควิด ลองอ่านตามที่เราแนบในคอมเม้นท์ได้ครับ แต่วันนี้นั้นทางจีนออกมาประกาศชัดเจนแล้วว่าจะไม่เก็บวัคซีนไว้ใช้เองประเทศเดียวก่อนอย่างที่มีข่าวอยู่ว่าสหรัฐจะทำเช่นนั้น

    การแถลงนี้จะช่วยลดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนได้หรือไม่ ? หลังจากที่ทางสหรัฐเพิ่งกล่าวว่าจีนอาจตั้งใจส่งผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสขึ้นเครื่องบินกระจายไปทั่วโลกเพื่อแพร่เชื้อ ! หรือการพยายามจะทำตัวเป็นฮีโร่ของโลกของจีนจะยิ่งทำให้สหรัฐไม่พอใจ ?!?

    Cr : OilTradingKP

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ดอลลาร์ไม่สนตัวเลขทางเศรษฐกิจเมื่อตลาดมองว่าได้ผ่านจุดที่แย่ที่สุดมาแล้ว

    ข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งท้ายสัปดาห์ที่แล้วออกมาเป็นลบทั้งสิ้น ตัวเลขยอดขายปลีกลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ความสัมพันธ์และการค้าระหว่างสหรัฐฯ - จีนมีความตึงเครียดเพิ่มขึ้น เยอรมันเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างเป็นทางการ แม้จะมีปัจจัยเชิงลบมากมายแต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมายังสามารถทรงตัวอยู่ได้และกราฟ USD/JPY ก็ปรับตัวสูงขึ้น

    ข้อมูลตัวเลขการจับจ่ายใช้สอยในภาคค้าปลีกของผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือนเมษายนลดลง 16.4% จากข้อมูลนี้เราพบว่ายอดการซื้อเสื้อผ้าลดลง 78% อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกซ์ลดลง 60% และยอดขายเฟอร์นิเจอร์ลดลง 58% เมื่อเทียบตัวเลขยอดขายปลีกทั้งหมดนี้กับตัวเลขยอดขายปลีกในเดือนมีนาคมพบว่ามีการปรับลดลงมา 8.7%

    แต่ถึงอย่างนั้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มองว่าจุดเลวร้ายที่สุดได้ผ่านไปแล้วก็ส่งให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และกราฟ USD/JPY ยังทรงตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นได้ พวกเขาเชื่อว่าการที่สหรัฐฯ กลับมาเปิดเมืองเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาจะช่วยให้ตัวเลขการจับจ่ายใช้สอยค่อยๆ ดีขึ้นเอง ดังนั้นตัวเลขยอดค้าปลีกของเดือนพฤษภาคมคาดว่าจะออกมาดีขึ้นกว่าตัวเลขที่ออกมาเมื่อวันศุกร์

    ที่จริงแล้วสิ่งที่นักลงทุนในตลาดเชื่ออาจจะเป็นความจริงก็ได้ อ้างอิงข้อมูลจากดัชนีภาคการผลิตจากเอ็มไพร์ สเตตพบว่าตัวเลขมีการดีดกลับมาจาก -78.2 ขึ้นมามากถึง -48.5 เอาชนะตัวเลขคาดการณ์ -60 ไปได้

    ดัชนีวัดบรรยากาศความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยมหาลัยมิชิแกนก็มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันเมื่อตัวเลขข้อมูลที่ได้เพิ่มขึ้นจาก 71.8 เป็น 73.7 ในเดือนพฤษภาคม แต่ในเรื่องราวดีๆ ก็มีข่าวร้ายที่เป็นปัจจัยกดดันอยู่เมื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังคงออกมาข่มขู่ประเทศจีนอย่างต่อเนื่องสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนในตลาด

    ข้ามมาที่ฝั่งยุโรปตอนนี้เยอรมันกลายเป็นประเทศแรกทางยุโรปที่ออกมายอมรับว่าตัวเองเข้าสู่สภาวะการถดถอยทางเศรษฐกิจเรียบร้อยแล้ว การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรในไตรมาสที่ 1 หดตัวอย่างมีนัยสำคัญและตัวเลขนี้ในไตรมาสที่ 2 จะเป็นตัวยืนยันว่าสหราชอาณาจักรก็ได้เข้าสู่สภาพเช่นเดียวกันกับเยอรมัน

    นอกจากนี้นักวิเคราะห์มองว่าญี่ปุ่นเองก็จะมีอัตราการเติบโตในไตรมาสที่ 1 ออกมาเป็นลบเพราะในไตรมาสที่ 4 เศรษฐกิจญี่ปุ่นได้หดตัวไปแล้ว 1.8% จากข้อมูลตัวเลขเหล่านี้ไม่มีหวังสำหรับนักลงทุนเลยที่จะให้เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้นได้ในเร็ววันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทรัมป์ข่มขู่จีนว่าจะตัดความสัมพันธ์ทุกอย่าง ทุกคนรู้ว่าทุกวันนี้จีนเป็นประเทศส่งอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์และผลิตภัณฑ์ทางเภสัชกรรมให้กับสหรัฐฯ มาโดยตลอด ไม่มีใครเป็นผู้ชนะในสงครามเย็นครั้งนี้

    แม้เยอรมันจะร่วงหล่นลงสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยไปแล้วแต่สกุลเงินยูโรยังถือว่าเป็นผู้ที่ทำผลงานได้ดีเมื่อวันศุกร์ การผ่อนคลายมาตรการปิดล็อกเมืองเริ่มเกิดขึ้นไปทั่วทุกภูมิภาค อิตาลีประกาศว่าจะอนุญาตให้สามารถเดินทางไปมาเฉพาะในประเทศ้ท่านั้นได้ในวันที่ 3 มิถุนายนแต่ก็ยังมีบางพื้นที่ที่รัฐบาลขอปิดล็อกเอาไว้ก่อน เยอรมันกำลังเริ่มผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปมาอยู่ในสหภาพยุโรปรวมไปถึงพื้นที่ตามสนธิสัญญาเชงเก้นและสหราชอาณาจักร ประชาชนที่อยู่ในประเทศลิธัวเนีย ลัตเวียและเอสโตเนียก็สามารถเดินทางไปมาระหว่างกันได้ นักลงทุนมองว่ามาตรการปลดล็อกเหล่านี้คือทิศทางที่ถูกต้องของยูโรโซนและมีส่วนทำให้สกุลเงินยูโรปรับตัวสูงขึ้น แม้ตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 1 ที่ออกมาจะหดตัวไป 3.8% แต่ก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่อยู่ในการคาดการณ์ของนักลงทุนและไม่ยังไม่เลวร้ายมาก

    ในขณะที่สกุลเงินยูโรสามารถทำผลงานได้ดีกลับกันสกุลเงิน ปอนด์กลับกลายเป็นผู้ที่ทำผลงานได้แย่ที่สุด กราฟ GBP/USD ปรับตัวลดลงมากกว่า 1% และเรามองว่าสถานการณ์ขาลงของปอนด์อาจจะยังดำเนินต่อไปในสัปดาห์นี้ ความคืบหน้าของการเจรจาสถานการณ์ Brexit ระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปยังไม่มีความคืบหน้า นายไมเคิล บาร์เนียร์หัวหน้าทีมเจรจาของสหภาพยุโรปกล่าวว่า “คงจะไม่มีความคืบหน้าเกิดขึ้นเมื่อสหราชอาณาจักรปักธงไว้แล้วว่าพวกเขาต้องการออกจากสหภาพยุโรปแบบไม่มีการทำสัญญาใดๆ”

    เมื่อไม่มีปัจจัยบวกมาหนุนเราจึงเชื่อว่าข่าวตัวเลขภาคแรงงานและการใช้จ่ายเพื่อบริโภคของสหราชอาณาจักรในสัปดาห์นี้จะออกมาลดลงเช่นเดียวกันกับข่าวฝั่งสหรัฐอเมริกา สามสกุลเงินที่อ้างอิงราคากับสินค้าโภคภัณฑ์เป็นหลักอย่างนิวซีแลนด์ดอลลาร์ lออสเตรเลียดอลลาร์และแคนาดาดอลลาร์ต่างพากันปรับตัวลดลง ตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตของนิวซีแลนด์ในเดือนเมษายนปรับลดลงเหลือ 26.1 สอดคล้องกับภาพรวมทางเศรษฐกิจที่ก่อนหน้านี้ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ได้คาดการณ์ออกมาและทำให้พวกเขาตัดสินใจเพิ่มวงเงินสำหรับ QE เข้าไปอีก

    จากข้อมูลตัวเลข PMI นี้จึงทำให้เรามองว่าสัปดาห์นี้ตัวเลขยอดขายปลีกและภาคบริการจะลดลง สกุลเงินออสเตรเลียดอลลาร์ได้รับผลกระทบจากข้อมูลเศรษฐกิจของจีนทำให้ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดขายปลีกในเดือนเมษายนลดลง ส่วน แคนาดาดอลลาร์ต้องจับตาดูข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและตัวเลขยอดขายปลีกของสัปดาห์นี้

    Cr : Kathy Lien investing.com

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    – ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในเช้าวันนี้ที่ฝั่งเอเชีย ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจากก่อนหน้านี้

    สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ปรับตัวขึ้น 2.89% เท่ากับ $33.79 ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 21:43 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (2:43 น. GMT) และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้น 4.03% เท่ากับ $30.71 ต่อบาร์เรล

    ก่อนหน้านี้สัญญา WTI ทะยานขึ้นถึง 5.9% และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ปรับตัวขึ้นถึง 3.66%

    แม้ราคาน้ำมันจะปรับตัวขึ้น แต่ผู้ลงทุนก็ยังคงเฝ้าระวังวันหมดอายุสัญญา WTI ประจำเดือนมิถุนายนที่จะส่งมอบในวันพรุ่งนี้ โดยบรรดาผู้ผลิตน้ำมันต่างก็เตรียมรับมือกับความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันจะดิ่งจนติดลบเช่นเดียวกันกับสิ่งที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว

    Craig Erlam นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสจาก OANDA ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า “แน่นอนว่าบรรยากาศในตลาดน้ำมันเปลี่ยนแปลงไปเมื่อใกล้เข้าสู่วันส่งมอบของเดือนนี้ ขณะที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังลดกำลังการผลิตไม่ว่าจะเป็นการทำข้อตกลงหรือเป็นการร่วมมือแบบสมัครใจ"

    ทั้งนี้เมื่อวันศุกร์จีนได้เผยอัตราการใช้น้ำมันดิบรายวัน และอุปสงค์น้ำมันในเดือนเมษายนก็พลิกฟื้นขึ้นหลังจากจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และโรงกลั่นน้ำมันก็สามารถกลับมาดำเนินการตามปกติได้อีกครั้ง

    ดูกราฟราคาน้ำมัน WTI
    https://th.investing.com/commodities/crude-oil

    ดูกราฟกองทุนรวม Invesco DB Oil Fund (NYSE:DBO)
    https://th.investing.com/etfs/powershares-db-oil-fund

    โดย Gina Lee
    Investing.com

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Virus compounds US dollar liquidity strains for emerging markets

    ทั้งไวรัส..และสภาพคล่องของดอลลาร์ กำลังสร้างความเครียดให้กับกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่

    Global / 14-05-20 / by Felix Thompson

    เงินสกุลยูเอสดอลลาร์เป็นเส้นเลือดใหญ่ของการค้าระหว่างประเทศมานานหลายทศวรรษ ..มาถึงตอนนี้กำลังมีความกังวลกันว่า Covid-19 จะมาสร้างความตึงเครียดให้กับสภาพคล่องของเงินดอลลาร์ ที่จะกระทบกับธุรกิจทั่วโลก ..และอาจจะหนักโดยเฉพาะกับกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่

    แหล่งข่าวจากธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) ..เกือบ 90% ของธุรกรรมนานาชาติ ในปี 2019 ล้วนเกี่ยวข้องอยู่กับสกุลเงินดอลลาร์ ....ที่จริงแม้จะก่อนการระบาดของ Covid-19 แล้ว ...ธนาคารต่าง ๆ ที่จัดการกับการเงินของกลุ่มตลาดเกิดใหม่ก็พบกับปัญหาการเข้าถึงเงินดอลลาร์อยู่แล้ว

    ในการสำรวจของ Asian Development Bank (ADB) เมื่อปี 2019 ..มีการสอบถามธนาคารต่าง ๆ จาก 50 ประเทศถึงอุปสรรคอันดับต้น ๆ ของการขยายตัวทางการค้า ...เกือบ 30% ยืนยันว่าอุปสรรคอยู่ที่สภาพคล่องของสกุลเงินยูเอสดอลลาร์

    แล้วพอเป็นอย่างนั้น จึงเกิดความกลัวกันว่า โคโรน่าไวรัสนี่แหละจะเป็นตัวเร่งให้เกิดเหตุการณ์ดอลลาร์ช้อร์ตมากขึ้นอีก ....การค้าสำหรับบางประเทศก็จะลำบากขึ้นไปอีก

    The Business 20 (B20) ...ภาคที่เป็นเอกชนของ G20.. ได้ส่งเรื่องถึง G20 เมื่อเดือนเมษายน เรียกร้องให้จัดการประชุม international forum เพื่อเตรียมแผนการบรรเทาปัญหาจาก Covid-19

    ในรายละเอียด มีการเสนอมาตรการที่รวมถึงข้อเรียกร้องให้ธนาคารกลางของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ...IMF ..World Bank ..US Federal Reserve ร่วมหารือกัน..ในประเด็นสภาพคล่องของยูเอสดอลลาร์

    เหตุผลคือ "เงินสกุลยูเอสดอลลาร์มีความสำคัญในการ finance การค้าของโลก"

    Steven Beck, ผู้บริหาร ADB กล่าวว่า โคโรน่าไวรัสเป็นต้นเหตุให้เกิดความกังวลในเรื่องสภาพคล่องของดอลลาร์ เหตุผลคือธุรกิจจำนวนมากมีการเก็บสะสมเงินสดไว้มากขึ้น

    “Cash is king ในสภาพการณ์แบบนี้ ...เพราะในวงรอบของเงินสด -- ระยะเวลาที่ธุรกิจจะผลิตสินค้าส่งเข้าตลาด ..ขายและรับชำระค่าสินค้า ต้องใช้เวลามากกว่าปกติ และในขณะเดียวกัน ธุรกิจก็มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นตลอดเวลา"

    นี่ยังไม่ได้รวมถึงความจริงที่ว่า ธุรกิจจำนวนมากสามารถส่งออกได้น้อยลง ..รายรับเป็นยูเอสดอลลาร์ก็น้อยลง

    ปัญหาการติดขัดด้าน supply chains และดีมานด์ลดลงทั่วโลก ที่มันเกิดจากมาตรการ distancing นั้น อาจจะหมายถึงว่าการค้าโดยรวมของโลกร่วงลงไปถึงหนึ่งในสามในปีนี้ ...จากแหล่งข่าว World Trade Organization (WTO) เมื่อเดือนที่ผ่านมา

    หลายประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ที่มีโปรไฟล์ที่เสี่ยงมาก ก็จะมีความเปราะบางมากต่อการช้อร์ตครั้งนี้

    The European Bank for Reconstruction and Development (EBRD) ที่มีส่วนในการสนับสนุน 38 ประเทศในยุโรป เอเซีย และอัฟริกา ...เป็นอีกหนึ่งธนาคารเพื่อการพัฒนาที่กำลังสอดส่องในประเด็นของสภาพคล่องดอลลาร์อยู่ด้วย

    Rudolf Putz, ผู้บริหารฝ่าย Trade Facilitation Programme, ของ EBRD กล่าวว่าประเทศที่มีความเสี่ยงสูงนั่นแหละ จะเจ็บตัวมากที่สุด

    "เช่นในเลบานอน ผู้นำเข้าจะไม่สามารถเข้าถึงดอลลาร์ได้เลย นั่นเพราะประเทศนี้ไม่มีการส่งออกมากเพียงพอที่จะเก็บรายรับเป็นดอลลาร์ไว้ได้ อีกทั้งยังไม่สามารถหาเงินกู้ดอลลาร์จากธนาคารต่างประเทศได้อีกด้วย ตัดโอกาสการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศไปเลย"

    เลบานอนต้องทนอยู่กับการขาดแคลนเงินดอลลาร์มาหลายเดือนแล้ว จากปัญหาทางเศรษฐกิจและหนี้ที่เพิ่มใหญ่ขึ้น จนเกิดปัญหาขาดสภาพคล่องดอลลาร์มาตั้งแต่เดือนตุลาคม

    โคโรน่าไวรัสมาเพิ่มแรงกดดันเรื่องสภาพคล่อง ..Reuters รายงานว่า ธนาคารหลายแห่งได้หยุดการเบิกจ่ายเงินดอลลาร์ให้แก่บรรดาผู้ฝากมาตั้งแต่เดือนมีนาคมแล้ว

    จากแหล่งข่าวของ Putz, แห่ง EBRD ....ทุกประเทศ ดูเหมือนจะต้องการการสนับสนุนทางการเงินจากเงินตราต่างประเทศกันทั้งนั้น ..ไม่เฉพาะเงินดอลลาร์

    เขากล่าวเสริมว่า "เงินยูเอสดอลลาร์เป็นสกุลที่สำคัญที่สุด เพราะการค้าระหว่างประเทศของประเทศในกลุ่มนี้ต้องใช้ดอลลาร์ ....และเงินดอลลาร์ก็สามารถจัดหาให้ได้จากกลุ่มธนาคารขนาดยักษ์ไม่กี่แห่งเท่านั้น"

    Putz กล่าวว่าความกังวลเรื่องการเงินนี้เป็นเพียงอาการหนึ่งของประเด็นที่อยู่ลึกกว่านั้น นั่นคือ ธนาคารผู้ให้กู้ไม่เต็มใจที่จะ finance ประเทศเหล่านั้นเลย

    IMF action

    ไม่นานหลังจากที่ B20 ส่งเรื่องให้กับ G20 ...IMF ก็มีการ boost เพิ่มสภาพคล่องยูเอสดอลลาร์ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ..โดยการเปิด Liquidity Line ระยะสั้นเมื่อกลางเดือนเมษายน ...(SSL Short-term Liquidity Line)

    Geoffrey Okamoto ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ IMF ได้เขียนในบล็อกในสัปดาห์ถัดมาว่า นี่เป็นการปิดแก้ปที่อาจเป็นอันตรายต่อระบบการเงินของโลก

    เขากล่าวต่อไปอีกว่า Federal Reserve ตัดสินใจทำ swap lines เมื่อเดือนมีนาคม เพื่อเตรียมให้มีสภาพคล่องของยูเอสดอลลาร์ หลังจากที่มีแรงซื้อจำนวนมากทั่วโลกจากสถาบันการเงินต่าง ๆ ทำให้ค่าดอลลาร์สูงขึ้น

    จากการที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ทำให้ Fed กำหนดค่าของดอลลาร์ liquidity swap lines ต่ำลง ให้กับธนาคารกลางหลัก ๆ เช่น Bank of England ..the European Central Bank ..และ the Bank of Japan

    จากนั้นไม่นาน ก็มีการเปิด swap lines กับอีกหลายชาติ รวมถึงประเทศตลาดเกิดใหม่เช่น บราซิล เพื่อช่วยให้มีสภาพคล่องดอลลาร์เพียงพอ ...และนั่นจะทำให้ธนาคารกลางของประเทศเหล่านี้สามารถใช้สกุลเงินของตนแลกเปลี่ยนเป็นยูเอสดอลลาร์กับ Fed ..อย่างน้อยก็ช่วยสภาพคล่องได้ชั่วคราว

    ขณะเดียวกัน Fed ก็ยังมีโครงการชั่วคราวการซื้อคืนพันธบัตร repurchase หรือ repo ซึ่งช่วยให้สถาบันการเงินนานาชาติที่ถือพันธบัตรสหรัฐ..มาสว้อปเป็นดอลลาร์กับ Fed ได้เลย

    Okamoto ยังกล่าวอีกว่า ความเสี่ยงจากสภาพคล่องยูเอสดอลลาร์ในประเทศกำลังพัฒนาเหล่านี้ก็คือ Fed ไม่อาจทำสว้อปกับทกประเทศได้

    เขากล่าวเสริมอีกว่า "หลายชาติในตลาดเกิดใหม่ยังคงอยู่ในความเสี่ยงที่อาจเผชิญกับการชะงักกระทันหัน หลังจากการทำ swap lines ยุติไปแล้ว"

    IMF ยังบอกถึงแผน Liquidity Lines ระยะสั้น ของตนว่า มันคล้ายกับเป็นเบาะรองหลังด้านสภาพคล่อง และเข้าถึงได้ง่ายกว่าเครดิตไลน์ที่มีอยู่ (flexible credit line ..FCL)

    *************

    Virus compounds US dollar liquidity strains for emerging markets

    Global / 14-05-20 / by Felix Thompson

    The US dollar has been the lifeblood of international trade for decades, but fears are emerging that coronavirus-induced “strains” in dollar liquidity could hit businesses in emerging markets particularly hard.

    Nearly 90% of international transactions in 2019 involved US currency, according to the Bank for International Settlements. But even before Covid-19 struck, banks operating in trade finance in emerging markets had – in some instances – struggled to gain dollar access.

    In a 2019 Asian Development Bank (ADB) trade finance survey, for instance, banks from nearly 50 different countries were asked what the largest barriers to expanding trade finance operations were. Nearly 30% identified US dollar liquidity as an obstacle.

    As such, there are fears that the coronavirus will only exacerbate any dollar shortage issues, and hinder trade for some countries.

    The Business 20 (B20) – a voice for the private sector to the G20 – sent a letter to the G20 in April calling for the international forum’s members to put in place a global action plan to mitigate the shocks of Covid-19.

    The document puts forward a list of measures that could help, including a request for central banks in emerging markets, the International Monetary Fund (IMF), the World Bank and the US Federal Reserve to co-ordinate as they “may be needed to address the issue of US dollar liquidity”.

    Its reasoning was “the importance of USD currency in financing global trade flows”.

    ADB’s head of trade finance, Steven Beck, tells GTR that coronavirus is creating additional dollar liquidity concerns. One reason is that companies are hoarding cash, thereby making it more expensive.

    “Cash is king at a time like this, because the whole cash conversion cycle – the time it takes someone to produce something and get it to market, before selling it and getting paid for it – has slowed down dramatically. At the same time, companies still have expenses,” Beck says.

    He adds that the situation is compounded by the fact companies are exporting less, and so earning less in US dollars.

    The shuttering of supply chains and a drop in global demand due to distancing measures could mean trade as a whole falls by as much as a third this year, the World Trade Organization (WTO) said last month.

    Meanwhile a drop in remittances – money sent back by workers to their home countries – has also hampered US dollar liquidity in emerging markets.

    For the meantime, Beck says ADB is only seeing “some strains” on the US dollar liquidity front and is watching the situation closely.

    However, he notes that emerging markets with heightened risk profiles are more “vulnerable” to potential shortages.

    The European Bank for Reconstruction and Development (EBRD) – which provides support to 38 countries in Europe, Asia and Africa – is another development bank monitoring for potential dollar liquidity issues.

    According to Rudolf Putz, head of the EBRD’s Trade Facilitation Programme, nations with high country risk ratings are feeling the pain.

    “In Lebanon, for instance, it’s very difficult currently for importers in Lebanon to get access to US dollars, because they do not have sufficient exports to generate dollars. And they have problems in getting international banks to lend US dollars, which makes it difficult to import any merchandise,” he tells GTR.

    Lebanon has been dogged by US dollar liquidity issues for months, as underlying economic problems and growing national debt snowballed into a dollar liquidity crisis last October.

    Coronavirus has only added to those liquidity pressures, with Reuters reporting that some banks have stopped dispensing dollars to depositors since March.

    However, according to Putz, EBRD countries across the board are struggling to access trade finance support in any foreign currency – not just dollars.

    He adds: “It’s not only in US dollars, but this is the most critical currency, given that most of the foreign trade in emerging markets is done in US dollars, and US dollars can only be provided by a limited number of large international banking groups.”

    Putz says currency concerns are symptomatic of a deeper issue, which he categorises as a “general unwillingness of international lenders, exporters and foreign banks to provide [EBRD countries] with trade finance facilities”.

    IMF action

    Not long after the B20 sent its letter to the G20, the IMF moved to boost US dollar liquidity in emerging markets, launching a new short-term liquidity line (SLL) in mid-April.

    Geoffrey Okamoto, the IMF’s first deputy managing director, wrote in a blog post the following week that it was launched to fill “a critical gap in the global financial safety net”.

    He said that the US Federal Reserve’s decision to open up swap lines the month prior – in March – had done much to ease the US dollar liquidity situation after a rush by financial institutions around the globe to buy the currency sent it rising rapidly in early March.

    With the dollar rising sharply, the US Federal Reserve slashed the pricing on existing US dollar liquidity swap lines with major central banks – including the Bank of England, the European Central Bank and the Bank of Japan.

    Not long after, it opened these swap lines up to a host of other countries, including emerging nations like Brazil, to boost US dollar funding. That enabled central banks in developing markets to exchange domestic currency for US dollars from the Fed, offering a temporary boost to liquidity.

    Meanwhile, the Fed also brought in a temporary repurchase (repo) agreement. This let central banks and other international monetary authorities temporarily swap their US Treasury securities, held with the Federal Reserve, for US dollars.

    However, Okamoto said that a US dollar liquidity risk remained for developing countries, commenting: “The Fed and other central banks cannot provide swaps for all countries.”

    He added: “Many emerging market members of the IMF are still experiencing liquidity shortages or will face the risk of occasional ‘sudden stops’ for some time to come, and well after the swap lines are terminated.”

    The IMF says the new SLL is designed to act as a liquidity backstop and is cheaper to access than the existing flexible credit line (FCL).

    However, the SLL comes with the same qualification criteria as the FCL and is made for members with “very strong policy frameworks and fundamentals”.

    Colombia, Mexico and Poland are the only three countries to have used the FCL to date. Chile is set to receive approval in the coming weeks, having applied for a two-year FCL arrangement equivalent to SDR17.4bn (US$23.8bn).

    Cr : Sayan Rujiramora

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทองคำ ได้รับปัจจัยหนุนจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงในช่วงขาลง ขณะที่เฟดจะไม่ใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ ความตึงเครียดของสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีน ภายหลังสหรัฐอาจตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับจีน ความกังวลการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมทั้งกองทุน SPDR ซื้อทองคำต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 8 โดยซื้อทองคำ 32.13 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา

    ➡️นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐอาจหดตัวลงกว่า 30% ในไตรมาส 2 ของปีนี้ แต่เชื่อว่า สหรัฐจะไม่เผชิญภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในระยะยาว

    นายพาวเวลกล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ "60 Minutes" ทางสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส ในวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐ

    นายพาวเวลคาดว่า อัตราว่างงานของสหรัฐมีแนวโน้มเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับระดับในช่วงทศวรรษ 1930 ซึ่งในเวลานั้น อัตราว่างงานอยู่ที่ 25%

    อย่างไรก็ดี นายพาวเวลคาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง เมื่อพิจารณาจากพลวัตทางเศรษฐกิจและความแข็งแกร่งของระบบการของเงินสหรัฐ

    ในการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ นายพาวเวลยังกล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาด แต่กระบวนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจนั้น อาจต้องใช้เวลาจนถึงสิ้นปี 2564

    ➡️นายริชาร์ด หยู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำกลุ่มธุรกิจ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสิเนส กรุ๊ป เปิดเผยผ่านทางบัญชีวีแชทซึ่งเป็นแอปส่งข้อความของจีนว่า การที่รัฐบาลสหรัฐสั่งบริษัททั่วโลกแบนส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิปให้กับบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยีนั้น มีจุดประสงค์เพื่อให้สหรัฐครองอำนาจด้านเทคโนโลยีของโลกต่อไป ไม่ได้มีเหตุผลด้านความมั่นคงอย่างที่อ้าง

    ข้อความดังกล่าวระบุว่า "เหตุผลด้านความมั่นคงทางไซเบอร์เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น" โดยสหรัฐได้กีดกันหัวเว่ยเพราะกลัวว่าบริษัทจากจีนจะเข้ามาครองอำนาจทางเทคโนโลยีแทนบริษัทสหรัฐ

    สัปดาห์นี้ติดตามสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีน การเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ จีดีพีไตรมาส 1 ของญี่ปุ่น และการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ประเด็นที่คาดกระทบต่อราคาทองคำมากที่สุดคือสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งขึ้นอยู่กับท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ การเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในช่วงนี้ จะยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

    สรุป #หนุนทองคำปรับขึ้น

    Cr : WeAreTrader

    แหล่งข่าวอ้างอิง
    Trump Aide Accuses China of Using Travelers to ‘Seed’ Virus
    https://www.bloomberg.com/news/arti...es-china-of-using-air-travelers-to-seed-virus

    ที่มา: CNBC

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "พาวเวล"มั่นใจศก.สหรัฐฟื้นตัวจากผลกระทบโควิด แนะประชาชนอย่าคาดการณ์แนวโน้มระยะยาว
    : นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาด แต่กระบวนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจนั้น อาจต้องใช้เวลาจนถึงสิ้นปี 2564

    "หากตั้งสมมติฐานว่าไวรัสโควิด-19 จะไม่แพร่ระบาดรอบสอง ผมเชื่อว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องไปจนถึงช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ส่วนการที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่นั้น ประชาชนจะต้องมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ด้วย และนั่นอาจจะต้องรอให้มีวัคซีนต้านไวรัสต้านโควิด-19 ด้วยเช่นกัน" นายพาวเวลกล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ "60 Minutes" ทางสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส ในวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐ

    นอกจากนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า ประชาชนไม่ควรคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาว หรือแม้แต่ในระยะกลาง

    "ผมยังคงมีมุมมองเป็นบวกว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัว ซึ่งอาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง และระยะเวลาในการฟื้นตัวนั้นอาจจะยาวจนถึงปลายปีหน้า ซึ่งเราไม่อาจรู้ได้" นายพาวเวลกล่าว

    Source: อินโฟเควสท์
    แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช
    https://www.ryt9.com/s/iq27/3124909

    www.cnbc.com

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เครื่องบินของกองทัพอากาศแคนาดาประสบอุบัติเหตุตกใส่ย่านชุมชนที่รัฐบริติชโคลัมเบีย เป็นเหตุให้นักบินเสียชีวิต 1 นายและอีกคนเจ็บสาหัสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) ขณะกำลังโชว์การบินผาดโผนเพื่อสดุดีแพทย์และพยาบาลที่เป็นแนวหน้าต่อสู้การระบาดของไวรัสโควิด-19

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000051610
    ………………………………
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปตท.เตรียมออกหุ้นวงเงิน 44,000 ล้านบาทภายใน 2 ปีนี้ เพื่อคืนหนี้ที่ครบกำหนดชำระและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ยันฐานะการเงินแข็งแกร่งหลังมีลูกหนี้การค้าบางรายขอยืดเทอมชำระหนี้

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000051558
    ………………………………
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    (May 18) ญี่ปุ่นเจอเศรษฐกิจถดถอย ครั้งแรกในรอบ 4 ปีครึ่ง: จีดีพีของญี่ปุ่นเมื่อไตรมาสแรกปีนี้หดตัวมากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2558 และต่อเนื่องจากไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ด้วยผลกระทบจากวิกฤติโรคโควิด-19 และถือเป็นการเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยโดยปริยาย

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ว่าสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( จีดีพี ) เมื่อไตรมาสแรกที่ผ่านมา หดตัว 3.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และคิดเป็น 0.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สี่หรือไตรมาสสุดท้ายของปี 2562



    แม้สถิติที่ออกมาถือว่า "ดีเกินความคาดหมาย" ของบรรดานักวิเคราะห์ ซึ่งประเมินว่าจีดีพีของญี่ปุ่นประจำไตรมาสแรกของปีนี้จะหดตัวที่ระดับ 4.6% เมื่อเทียบแบบรายปี แต่ถือเป็นสถิติต่ำที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสที่สองของปี 2558 การที่จีดีพีของญี่ปุ่นหดตัวตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว เท่ากับเป็นการหดตัวทางเศรษฐกิจ 2 ไตรมาสติดต่อกัน หมายความถึงการเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยโดยปริยาย

    ด้านบริษัทยักษ์ใหญ่ในหลากหลายวงการของญี่ปุ่นรวมถึงโตโยต้า รายงานผลประกอบการที่ลดลงกันอย่างถ้วนหน้าตามปีการเงินของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าปัจจับสำคัญคือวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ที่ในญี่ปุ่นมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 700 คน จากจำนวนผู้ป่วยสะสมมากกว่า 16,000 คน



    ขณะที่รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ประกาศงบประมาณฉุกเฉินเพื่อการนี้เป็นวงเงิน 108 ล้านล้านเยน ( ราว 32 ล้านล้านบาท ) สูงที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อเยียวยาทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติด้านสาธารณสุขครั้งนี้ โดยมาตรการช่วยเหลือรวมถึงการมอบเงินให้กับทุกครัวเรือน ครัวเรือนละ 100,000 เยน ( ราว 29,789.3 บาท )

    Source: เดลินิวส์ออนไลน์

    https://www.dailynews.co.th/foreign/775107

    เพิ่มเติม

    - Japan braces for worst postwar slump as pandemic tips economy into recession: https://www.reuters.com/article/us-...o-come-as-pandemic-wreaks-havoc-idUSKBN22U001

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    May 18, 2020 ฝันร้ายเปิดเรียนรับโควิด-19 เด็กติดเพียบ 70 คน สั่งปิด 8 โรงเรียน

    เจ้าหน้าที่ทางการในเมือง Roubaix ซึ่งตั้งอยู่ใกล้พรมแดนระหว่างฝรั่งเศสและเบลเยียม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ปิดโรงเรียนจำนวน 8 แห่งในเมืองดังกล่าว สาเหตุจากตรวจพบเด็กนักเรียนติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 หลังจากโรงเรียนกลับมาเปิดการเรียนการสอนในสัปดาห์ที่แล้วเป็นครั้งแรกตามมาตรการผ่อนคลายให้เปิดสถาบันการศึกษาของรัฐบาลฝรั่งเศส ในขณะเดียวกัน รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ฝรั่งเศส เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบทั่วประเทศฝรั่งเศส พบว่า มีเด็กนักเรียนตรวจพบติดโรคโควิด-19 จำนวน 70 คน

    สำหรับการสั่งปิดโรงเรียนทั้ง 8 แห่ง ประกอบด้วยโรงเรียนรัฐบาล 7 แห่ง และโรงเรียนเอกชน 1 แห่ง เป็นเวลา 7 วันติดต่อกันนั้น นับเป็นมาตรการควบคุมเชิงรุก เพื่อค้นหาสาเหตุและเส้นทางที่เด็กนักเรียนติดเชื้อไวรัสดังกล่าว

    ทั้งนี้ โรงเรียนอนุบาล และสถานรับเลี้ยงดูแลเด็กในฝรั่งเศสจำนวนบางส่วนจากทั้งหมด 40,000 แห่ง ได้กลับมาเปิดการเรียนการสอนอีกครั้งในสัปดาห์ที่ผ่านไป โดยมีเด็กนักเรียนจำนวน 1.4 ล้านคน หรือ 1 ใน 3 ของนักเรียนทั่วประเทศ กลับไปเรียนที่โรงเรียนซึ่งกลับมาเปิดเรียน ในขณะที่ 2 ใน 3 ยังคงเลือกที่จะเรียนผ่านระบบออนไลน์จากที่บ้าน

    #ฝรั่งเศส #โควิด19 #ปิดโรงเรียน #misterban #covid19

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    May 18 , 2020 สหภาพแรงงานฯ ธนาคารออมสิน วอนคลังพิจารณาเพิ่มค่าตอบแทน 2 เท่าให้พนักงานและลูกจ้าง หลังทำงานเกินเวลา-มีเวลากับครอบครัวน้อยลง-เสี่ยงติดเชื้อโควิด 19
    .
    สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ธนาคารออมสิน เผยได้ยื่นหนังสือเรื่องขอความอนุเคราะห์พิจารณาจ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษ (เบี้ยตรากตรำ) แก่พนักงานและลูกจ้างธนาคารออมสิน ถึงนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในเนื้อความระบุถึงผลกระทบ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งในด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต พร้อมร้องขอให้กระทรวงการคลังออกมาตรการดูแลเยียวยา เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน พร้อมบรรเทาและเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับธนาคารออมสิน ประกอบไปด้วย
    .
    1. มาตรการดูแลและเยียวยา “แรงงานลูกจ้าง ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม” ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19)
    .
    1.1 มาตรการดูแลและเยียวยาแรงงานลูกจ้าง ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม หรือผู้ได้รับผลกระทบอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือเยียวยาให้กับกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวที่ได้รับผลกระทบจากการหยุดประกอบกิจการของสถานประกอบการที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีคนแออัด เบียดเสียด ง่ายต่อการแพร่เชื้อ
    .
    1.2 โครงการสินเชื่อฉุกเฉิน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องชั่วคราวในการดำรงชีวิตแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากไวรัส COVID-19 โดยไม่จำเป็นต้องมีหลักประกัน
    .
    1.3 โครงการสินเชื่อพิเศษเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มสภาพคล่องชั่วคราวในการดำรงชีวิตแก่ประชาชนที่มีรายได้ประจำ โดยมีหลักประกัน
    .
    1.4 โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับงานธนานุเคราะห์ เพื่อช่วยเหลือประชาชนฐานรากที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัส COVID-19 โดยธนาคารออมสินสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำให้แก่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในนามของสำนักงานธนานุเคราะห์ (สธค.) โดยคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 0.10 ต่อปี และ สธค. คิดดอกเบี้ยจากประชาชนในอัตราไม่เกินร้อยละ 0.125 ต่อเดือน ระยะเวลา 2 ปี
    .
    1.5 มาตรการเสริมความรู้ โดยการจัดฝึกอบรมเพื่อเพิ่มทักษะ เสริมอาชีพ เสริมสร้างความรู้ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 หรือผู้ที่สนใจ
    .
    2. มาตรการดูแลและเยียวยา “ผู้ประกอบการ” ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19)
    .
    2.1 โครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการประกอบธุรกิจ
    .
    นอกจากนี้ธนาคารออมสินยังเป็นหน่วยงานที่รับเรื่องร้องทุกข์ขอรับเงินเยียวยา 5,000 บาท พร้อมทั้งได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ธนาคารฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลของผู้ที่ยื่นขอทบทวนสิทธิ์ ตามมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบ โดยได้ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม – 29 พฤษภาคม 2563
    .
    ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการบริการประชาชนที่นอกเหนือจากงานปกติของธนาคาร ทำให้พนักงานและลูกจ้างต้องอยู่ปฏิบัติงานที่สำนักงานเกินเวลา ส่งผลให้มีเวลาอยู่กับครอบครัวน้อยลง เนื่องจากต้องปฏิบัติงานในวันหยุด (เสาร์-อาทิตย์) ทั้งยังสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการที่ประชาชนเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก
    .
    ดังนั้นจึงขอให้ทางกระทรวงการคลังพิจารณาจ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษ หรือเบี้ยตรากตรำ เป็นจำนวน 2 เท่าของเงินเดือนที่นอกเหนือจากโบนัสประจำปีให้กับพนักงานและลูกจ้างของธนาคารออมสิน เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจต่อการทุ่มเทปฏิบัติงาน
    .
    #ออมสิน #ค่าแรง #2เท่า #ไวรัสโควิด19 #Misterban

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    May 18 , 2020 ยกเลิกจัดงาน Bangkok International Auto Salon ปีนี้ จากการแพร่ระบาดโควิด 19
    .
    บริษัท คอร์โน แอนด์ แนช จำกัด, ผู้จัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ออโต ซาลอน มหกรรมแสดงและจำหน่ายยนตรกรรมพร้อมอุปกรณ์แต่งรถยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน เปิดเผยว่า งานปีนี้ซึ่งเป็นครั้งที่ 8 โดยกำหนดวันจัดงาน 24-28 มิถุนายน 2563 ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี จำเป็นต้องยกเลิกไปจัดปีหน้า จากการแพร่ระบาดของโควิด-19
    .
    แม้ทิศทางจะดีขึ้น แต่รัฐบาลยังไม่อนุญาตให้จัดงานแสดงสินค้าที่มีการชุมนุมกันเป็นจำนวนมาก และผู้จัดงานโตเกียว ออโต ซาลอน ประเทศญี่ปุ่น ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน ทำให้ไม่สามารถนำรถโมดิฟาย และรถแต่งในประเทศญี่ปุ่นมาเข้าร่วมงานได้ ขณะนี้ได้แจ้งการยกเลิกงานออโต ซาลอนไปยังค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ที่เข้าร่วมงาน ทั้งค่ายญี่ปุ่นและยุโรป เพื่อจะได้วางแผนงานกันได้อย่างชัดเจน
    .
    ทั้งนี้การยกเลิกงานออโต ซาลอน ถูกยกเลิกมาครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อคราวที่เกิดเหตุการณ์รัฐประหารปี 2557 ครั้งนี้จึงเป็นครั้งที่สองที่ยกเลิกการจัดงานประจำปี
    .
    #Bangkok #AutoSalon #รถยนต์ #Misterban

     

แชร์หน้านี้

Loading...