ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Sayan Rujiramora

    IMG_8870.JPG
    KingdomEconomics

    Baltic Dry Index: down 47% YTD!

    Don Swenson. Feb 1, 2019


    ดัชนี่ BDI ลดลง 47% YTD (ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน)

    (Baltic Dry Index ..ดัชนีค่าระวางเรือโดยเฉลี่ยของสินค้าวัตถุดิบ..ผู้แปล..)


    ตลาดโลกกำลังร่วงอย่างรวดเร็ว ดัชนี BDI ตอนนี้อยู่ที่ 668 (1/กพ.= 645) ตกไป 47.44% นับจาก 17 ธค. 2018 ที่ 1377 ...นี่เป็นเพราะการลดลงของการค้าส่วนใหญ่จากจีน ยุโรป และสหรัฐ ....แต่ตลาดหุ้นสหรัฐที่เทรดด้วยคอมพ์ กลับไม่ยักสะท้อนความจริงข้อนี้ ..ดัชนี Dow อยู่ที่ 25,150 ขึ้นมา 8% จากต้นปี การปั่นด้วย computer trading หลอกได้ทั้งคนทั่วๆไปและทั้งนักวิชาการ


    BDI Baltic Exchange Dry Index ที่ร่วงถึงขนาดนี้บอกอะไรในอนาคตได้บ้าง ตลาดโลกกำลังดิ่ง แต่สหรัฐกลับไม่รู้การ slowdown นี้เลยหรือ ...ตลาดหุ้นถึงได้ทะยานไปขนาดนั้นได้ ...ทั้งหมดจะต้องเปลี่ยนไปในไม่กี่สัปดาห์ ถ้านักลงทุนได้รู้ถึงเทรนด์ที่แท้จริง


    ทุกวันนี้ Wall Street Journal เองก็มีบทความมากมายเกี่ยวกับการ slowdown ในหลายประเทศ จีน เยอรมัน อิตาลี เอเซียเกือบทั้งหมด สหรัฐและแคนาดาก็ด้วย แต่ตลาดหุ้นกลับถูกปั่นขึ้นไปสูงลิ่ว ..นี่เป็นผลจากการที่ปล่อยให้ algorithms ยึดครองการเทรดในตลาดหุ้น ..algorithms ทำการเทรดแบบ real-time โดยใช้สมมติฐานว่าตลาดอยู่ในช่วงดีมาก ..ไม่ต้องมี human input เลย


    ตลาดกระทิงน่าจะถึงจุดสิ้นสุดได้แล้ว หลังจากผ่านไปถึง 9.5 ปี ...แต่พวก Big Boys ใน Fed ดูเหมือนจะไม่สนใจความจริง ยังคงใส่โมเดลเศรษฐกิจทุกรูปแบบยกเว้นของจริงเข้าไปให้เครื่องทำการปั่นราคาในตลาด ...แต่ตอนนี้เทรนด์ของจริงกำลังจะเห็นชัดขึ้นแล้ว


    เรียลเอสเตทก็กำลังแย่ลง รวมถึงการผลิต การบริโภค และการค้าของโลก ความเชื่อมั่นก็กำลังลดถอยลง ดัชนี Baltic Dry Index เป็นตัวบอกได้เลยถึงเศรษฐกิจโลกเวลาปัจจุบัน ..เป็นดัชนีตัวแรกที่จะบอกถึงตลาดโลก ...อย่าละเลยดัชนีตัวนี้เสียเลยถ้ายังอยากรู้ความจริง


    *****************


    KingdomEconomics

    Baltic Dry Index: down 47% YTD!

    Don Swenson. Feb 1, 2019


    Markets are slowing fast. The Baltic Dry Index (a measure of global trade activity) is now at 668…down some 47.44% for 2019. This index was 1377 on December 17, 2018. This reveals a rapid slowdown in trade mostly from China and Europe (the past 6 weeks). The USA is also starting a slowdown but our stock market refuses to reflect this reality. The Dow Index (a measure of computer trading) is now at 25,150 (as I write) up some 8% for the year. All this computer manipulation fools most pundits and the public.


    BDI Baltic Exchange Dry Index


    What does all this mean for our future? My sense is that markets are slowing globally but the USA is not recognizing this slowdown as yet. Our stock markets continue to go UP even as the Global economy slows. All this will change, however, in a few weeks as investors recognize the TREND.


    Today’s Wall Street Journal has many articles expressing the slowdown in China, Europe (Germany and Italy), and most of Asia. So far, the USA and Canada seem to be slowing but our stock markets are still being manipulated UP. This is what happens when ‘algorithms’ rule over our markets. Algorithms can trade as if all is well and without any human input (in real-time).


    My sense is that we are at the end of a BULL expansion (now some 9.5 years). Our Big Boys at the Fed and Treasury may ignore all these realities given their many econometric models and mathematical manipulations but the REAL economy defies all their manipulations. Markets are SLOWING and this trend is now obvious.


    Real estate is slowing, manufacturing is slowing, consumer spending is slowing, and global trade is slowing. Confidence is also starting to wane. The Baltic Dry Index seems to give me valid data for our global economy. It may be a leading indicator for what is emerging for all our global markets. Think for yourself to discern these realities.


     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    C3CA477C-EE79-4190-AD76-53A130124119.jpeg
    (Feb 5) นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคาดหวังว่าจะไม่มีกรณี no-deal Brexit : นาย Shinzo Abe นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวต่อนาง Angela Merkel นายกรัฐมนตรีเยอรมนีว่า ตนหวังที่จะไม่ให้มีกรณี no-deal Brexit เกิดขึ้น และญี่ปุ่นต้องการให้ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับบริษัทของญี่ปุ่นรวมถึงเศรษฐกิจอยู่ในระดับที่น้อยที่สุด


    ขณะที่นาง Merkel ระบุว่า สหภาพยุโรปต้องการที่จะดำเนินการทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจว่า no-deal Brexit จะไม่เกิดขึ้น พร้อมทั้งระบุว่า ตนมั่นใจว่าจะมีทางออกสำหรับประเด็นปัญหาเขตแดนบนเกาะไอร์แลนด์ที่ส่งผลให้การเจรจา Brexit พบกับทางตัน แต่จำเป็นต้องมีความ “creative” และรับฟังผู้อื่น


    Source: BOTSS


    - https://www.straitstimes.com/world/...-seek-to-bolster-ties-as-brexit-chaos-deepens
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    6E50C8D1-C808-483E-BEFF-84F5AF40661B.jpeg
    (Feb 5) Update: อังกฤษเผยเคยเสนอเงินช่วยเหลือนิสสัน 80 ล้านปอนด์รับมือผลกระทบ Brexit - รัฐบาลอังกฤษออกมาเปิดเผยว่า อังกฤษเคยให้สัญญาว่าจะมอบเงิน 80 ล้านปอนด์ (104 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) แก่บริษัท นิสสัน มอเตอร์ ในจดหมายที่ส่งไปยังบริษัทตั้งแต่ปี 2559 หลังการลงประชามติเรื่องการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) เพื่อสร้างความมั่นใจว่าธุรกิจของนิสสันจะไม่ได้รับผลกระทบจากการที่อังกฤษแยกตัวออกจากอียู (Brexit)


    สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รัฐบาลอังกฤษได้ออกมาเปิดเผยจดหมายที่นายเกร็ก คลาร์ก รัฐมนตรีที่ดูแลด้านธุรกิจอังกฤษมอบให้กับนายคาร์ลอส กอส์น ซึ่งดำรงตำแหน่งซีอีโอนิสสันในขณะนั้น เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2559 หรือ 4 เดือนหลังการลงประชามติ หลังจากที่นิสสันประกาศยกเลิกการผลิตรถยนต์เอสยูวี X-Trail รุ่นใหม่ ที่โรงงานในเมืองซันเดอร์แลนด์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ


    รัฐมนตรีด้านธุรกิจได้รายงานต่อรัฐสภาเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลได้ตัดสินใจเสนอเงินช่วยเหลือแก่นิสสันจำนวน 61 ล้านปอนด์เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2561 โดยอ้างถึงข้อมูลในจดหมายดังกล่าวซึ่งระบุว่า "มาตรการช่วยเหลือด้านทักษะ การวิจัยและพัฒนา รวมถึงนวัตกรรม" ที่มอบให้กับนิสสันอาจมีมูลค่าสูงถึง 80 ล้านปอนด์ พร้อมเปิดเผยว่า ในจำนวนเงินดังกล่าว รัฐบาลได้มอบเงินให้กับนิสสันไปแล้ว 2.6 ล้านปอนด์


    นายคลาร์กกล่าวว่า เงินดังกล่าวมอบให้เพื่อช่วยเหลือการผลิตรถเอสยูวีรุ่น Qashqai และ X-Trail จำนวน 440,000 คัน ซึ่งรวมถึงรถไฟฟ้าที่โรงงานในซันเดอร์แลนด์เมื่อปี 2561 ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 ของปริมาณการผลิตทั้งหมดในอังกฤษ โดยนิสสันจะต้องยื่นคำร้องต่อรัฐบาลอังกฤษใหม่อีกครั้งหากต้องการเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม


    นายคลาร์กระบุในจดหมายว่า เขาเข้าใจว่านิสสันกำลังกังวลถึงความไม่แน่นอนต่างๆนานา ในขณะที่อังกฤษเตรียมพร้อมเรื่องการถอนตัวออกจากอียู โดยหลังที่นายคลาร์กส่งจดหมายไปยังนิสสันประมาณหนึ่งสัปดาห์ นิสสันก็ออกมาประกาศแผนการสร้างรถยนต์เอสยูวีรุ่นใหม่ในโรงงานที่ซันเดอร์แลนด์


    อย่างไรก็ดี นิสสันได้ออกมาประกาศอีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่ารถรุ่น X-Trail ที่วางขายในตลาดยุโรปจะผลิตที่โรงงานในเมืองคิวชู จังหวัดฟูกุโอกะ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น โดยอ้างว่าเป็นเพราะความสัมพันธ์ในอนาคตระหว่างอังกฤษและอียูต้องเผชิญกับความไม่แน่นนอนมาอย่างต่อเนื่อง


    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พัทธนันท์ เอกนิพิตรพงศ์/สุนิตา


    **********************************

    บริษัท Nissan Motor ประกาศยกเลิกแผนการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ที่โรงงานผลิตในเมืองซันเดอร์แลนด์ของสหราชอาณาจักร :


    บริษัท Nissan Motor ประกาศยกเลิกแผนการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ที่โรงงานผลิตรถยนต์ในเมืองซันเดอร์แลนด์ของสหราชอาณาจักร โดยให้เหตุผลว่า เป็นการตัดสินใจทางธุรกิจจากยอดขายรถยนต์ดีเซลในสหภาพยุโรปที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ระบุเพิ่มเติมว่า ความไม่แน่นอนด้านความสัมพันธ์ในอนาคตระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป ส่งผลกระทบให้บริษัทมีความยากลำบากในการตัดสินใจวางแผนสำหรับอนาคต ทั้งนี้ บริษัทยังคงตัดสินใจยกเลิกแผนการผลิตดังกล่าวแม้จะได้รับคำมั่นสัญญาจากรัฐบาลสหราชอาณาจักรว่า จะช่วยส่งเสริมการลงทุนและลดผลกระทบที่อาจเกิดจาก Brexit


    สำนักข่าว Financial Times ระบุว่า ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการตัดสินใจดังกล่าวคือ ยอดขายรถยนต์ดีเซลในสหภาพยุโรปที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัทพบกับปัญหาด้านมาตรฐานการปล่อยมลพิษใหม่ และอาจทำให้บริษัทจำเป็นต้องนำเข้าเครื่องยนต์มาจากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในทางธุรกิจ


    โรงงานผลิตรถยนต์ของบริษัท Nissan Motor ในเมืองซันเดอร์แลนด์ เป็นโรงงานที่มีการผลิตรถยนต์มากที่สุดในสหราชอาณาจักร โดยมีการผลิตรถยนต์จำนวนกว่า 442,000 คัน ในปี 2018 ซึ่งคิดเป็นเกือบ 1 ใน 3 ของจำนวนรถยนต์ที่ผลิตทั้งหมดในสหราชอาณาจักร และมีการจ้างงานกว่า 7 พันตำแหน่ง รวมถึงส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานในห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้องอีกกว่า 28,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม บริษัทยืนยันว่าการตัดสินดังกล่าวจะไม่กระทบต่อการจ้างงานในปัจจุบัน แต่อาจส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในอนาคต


    The Society of Motor Manufacturers and Traders ซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ในสหราชอาณาจักร ระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า การลงทุนในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์มีการปรับลดลงกว่าร้อยละ 50 ในปี 2018 จากประเด็นความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นจาก Brexit


    Source: BOTSS


    - Nissan to cancel plans to make X-Trail SUV in UK amid Brexit: https://www.standardmedia.co.ke/article/2001311916/nissan-to-cancel-plans-to-make-x-trail-suv


    - Nissan £60m in doubt after investment U-turn: https://www.bbc.com/news/business-47120759
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    1549367808512-960x0.jpg

    กลาโหมรัสเซียชี้ต้องพัฒนาขีปนาวุธใหม่หลังฉีกข้อตกลงกับสหรัฐ
    ต่างประเทศ 5 ก.พ. 2019 18:56:53

    มอสโก 5 ก.พ.- นายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียชี้ว่า รัสเซียจะต้องพัฒนาขีปนาวุธแบบใหม่ให้ได้ภายในสองปี หลังจากประกาศถอนตัวจากสนธิสัญญาควบคุมอาวุธตามที่สหรัฐประกาศถอนตัวไปก่อน

    นายชอยกูกล่าวในการประชุมกับเจ้าหน้าที่วันนี้ว่า ช่วงปีนี้จนถึงปี 2563 รัสเซียจะต้องนำระบบขีปนาวุธคาลีเบอร์ที่ยิงจากเรือ มาพัฒนาขึ้นใหม่ให้เป็นยิงจากพื้นและติดขีปนาวุธนำวิถีพิสัยไกล เพราะพิสูจน์มาแล้วว่าได้ผลดีในการสู้รบที่ซีเรีย ขณะเดียวกันในช่วงเวลาดังกล่าวรัสเซียจะต้องสร้างระบบขีปนาวุธยิงจากพื้นที่สามารถติดขีปนาวุธพิสัยไกลความเร็วเหนือเสียงด้วย เพราะการนำขีปนาวุธยิงจากเรือและยิงจากอากาศยานมาพัฒนาเป็นยิงจากพื้นจะช่วยลดระยะเวลาการพัฒนาและงบประมาณลงได้อย่างมาก และว่าทั้งสองแผนนี้ได้รับความเห็นชอบจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแล้ว

    ประธานาธิบดีปูตินกล่าวกับนายชอยกูเมื่อวันเสาร์ว่า รัสเซียจะถอนตัวจากข้อตกลงกองกำลังนิวเคลียร์พิสัยกลาง หรือ ไอเอ็นเอฟ (INF) และจะเดินหน้าพัฒนาอาวุธแบบใหม่ ๆ หลังจากสหรัฐกล่าวหารัสเซียหลายครั้งว่าละเมิดไอเอ็นเอฟที่ทั้งสองประเทศทำไว้ตั้งแต่ปี 2530 ในช่วงสงครามเย็น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐประกาศเมื่อวันศุกร์ว่า ได้เริ่มกระบวนการถอนตัวจากไอเอ็นเอฟภายใน 6 เดินแล้ว

    ไอเอ็นเอฟห้ามการยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้และกลางจากพื้น แต่ไม่ห้ามการยิงจากเรือและอากาศยาน ผู้เชี่ยวชาญด้านกลาโหมมองว่า การพัฒนาขีปนาวุธยิงจากเรือและอากาศยานมาเป็นยิงจากพื้นจะเอื้อประโยชน์ให้รัสเซียอย่างยิ่ง เพราะจะผลิตได้เร็วกว่าและถูกกว่า และในทางทฤษฎีแล้วสามารถครอบคลุมยุโรปได้ทั้งทวีป.-สำนักข่าวไทย


    https://www.tnamcot.com/view/pGiB2x-
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Candy Bella


    สามารถ พยัคฆ์อรุณ เจ้าของฉายา "เพชฌฆาตหน้าหยก" แชมป์โลกมวยสากลอาชีพคนที่ 10 ของไทย และอดีตยอดนักมวยไทยชื่อดัง


    สามารถ มีชื่อจริงว่า สามารถ ทิพย์ท่าไม้ เกิดเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2505 ที่ตำบลคลองเขต (ปัจจุบันอยู่ในตำบลท่าข้าม) อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เริ่มหัดมวยไทยตั้งแต่อายุ 11 ขวบ โดยใช้ชื่อว่า "สามารถ ลูกคลองเขต"


    โดยสามารถมีพี่ชายแท้ ๆ ซึ่งเป็นอดีตนักมวยไทยชื่อดังด้วยคือ ก้องธรณี พยัคฆ์อรุณ ก้องธรณีเคยชกมวยสากลเหมือนสามารถ ได้มีโอกาสชิงแชมป์โลกถึง 2 ครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ โดยครั้งที่ 2 ได้ชิงแชมป์กับแชมป์โลกชาวไทยด้วยกันเองคือ เขาทราย แกแล็คซี่


    สามารถชกมวยไทยครั้งแรกที่จังหวัดชลบุรีเมื่อ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2517 ชนะคะแนนเพชรอรุณ ศิษย์นิมิต จากนั้นตระเวนชกในแถบจังหวัดภาคตะวันออกถึงร้อยกว่าครั้ง จึงได้เดินทางมาชกในกรุงเทพฯ ในปี พ.ศ. 2522 ที่สนามมวยเวทีลุมพินี โดยอยู่ในการดูแลของโปรโมเตอร์ชื่อดัง ทรงชัย รัตนสุบรรณ


    สามารถถือเป็นนักมวยชั้นเชิงแพรวพราว สายตาดี ชกได้สนุก ชนะใจคนดู และประสบความสำเร็จอย่างมากในการชกมวยไทย โดยได้แชมป์ของสนามมวยเวทีลุมพินีถึง 4 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ รุ่นพินเวท (105 ปอนด์) ชนะคะแนนก้องสมุทร ชูวัฒนะเมื่อ 14 มีนาคม พ.ศ. 2523 รุ่นจูเนียร์ฟลายเวท (108 ปอนด์) ชนะคะแนนพูนลาภ ศักดิ์นิรันดร์ เมื่อ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2523 รุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท (115 ปอนด์) ชนะคะแนน สิงห์ทอง ประสพชัย เมื่อ 31 มีนาคม พ.ศ. 2524 และรุ่นเฟเธอร์เวท (126 ปอนด์) ชนะคะแนน สมิงหนุ่ม สิทธิบุญธรรม เมื่อ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2524


    สามารถ พยัคฆ์อรุณ เริ่มหันมาชกมวยสากลอาชีพโดยได้รับการสนับสนุนจากบุคคลหลายฝ่าย เช่น ทรงชัย รัตนสุบรรณ ผู้จัดการและโปรโมเตอร์ สหสมภพ ศรีสมวงศ์ และสุชาติ เกิดเมฆ สามารถชกมวยสากลครั้งแรกเมื่อ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2526 ชนะคะแนน เนตรน้อย ศ.วรสิงห์ จากนั้น ชกชนะน็อคอีก 9 ครั้ง โดยชนะนักมวยฝีมือดีหลายคนเช่น ช่อ ห้าพลัง ทองเบิ้ม ลูกมาตุลี จากนั้นจึงได้ชิงแชมป์โลกครั้งแรกในรุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวท (122 ปอนด์) ของสภามวยโลก (WBC) กับมักมวยชาวเม็กซิกัน กัวดาลูเป้ พินเธอร์ ผลการชก สามารถชนะน็อกแชมป์โลกไปได้ในยกที่ 5 กลายเป็นแชมป์โลกคนที่ 10 ของไทย


    หลังจากได้แชมป์โลกแล้ว สามารถไปชกนอกรอบที่ฝรั่งเศส เมื่อ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2529 ชนะคะแนน ราฟาเอล กันดาริลญา จากนั้นจึงชกป้องกันตำแหน่งอีกครั้ง ป้องกันตำแหน่งกับ ฮวน คิด เมซ่า นักมวยชาวเม็กซิกัน ซึ่งเป็นอดีตแชมป์โลกรุ่นนี้ ผลปรากฏว่า สามารถก็เอาชนะน็อกไปในยกที่ 12 การชกกับฮวน คิด เมซ่า ได้รับการกล่าวขานถึงเป็นอย่างมาก เพราะสามารถพิงเชือกโยกหลบหมัดของผู้ท้าชิงด้วยสายตาอันว่องไวนับสิบ ๆ หมัด (ประมาณกันว่า 20 หมัด) และชกสวนหมัดตรงเข้าปลายคางไปเพียงหมัดเดียว ก็เอาชนะน็อกผู้ท้าชิงไปได้อย่างน่าประทับใจ โดยการชกครั้งนี้เป็นการชกร่วมรายการเดียวกับ สด จิตรลดา ป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท WBC กับกาเบรียล เบอร์นัล ด้วย


    หลังจากได้แชมป์โลก สามารถกลายเป็นนักมวยเจ้าสำราญ ฟิตซ้อมไม่เต็มที่และเริ่มมีปัญหาน้ำหนักตัว ในที่สุดเมื่อสามารถเดินทางไปป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 2 เป็นการป้องกันตำแหน่งนอกบ้านถึงประเทศออสเตรเลีย กับนักมวยเจ้าถิ่น เจฟฟ์ เฟเนค (ซึ่งต่อมาเป็นนักมวยชื่อดังระดับโลก เป็นแชมป์โลก 3 รุ่น) การชกครั้งนี้สามารถประสบปัญหาน้ำหนักตัวซึ่งต้องลดอย่างมาก จึงถูก เฟเนค น็อกในยกที่ 4 อย่างหมดรูป กระนั้นยังมีผู้ตั้งข้อสงสัยว่า สามารถล้มมวยเพราะไม่เชื่อว่าฟอร์มการชกก่อนหน้านั้น 2 ครั้ง จะทำให้สามารถแพ้อย่างง่ายดายเช่นนี้ ซึ่งสามารถได้พิสูจน์ความจริงใจของตนเองด้วยพิธีสาบานที่วัดพระแก้วจนเป็นข่าวครึกโครมในช่วงนั้น และไปบวชอยู่ระยะหนึ่ง


    หลังเสียแชมป์โลกแล้ว สามารถยังคงชกมวยสากลต่ออีก 2 ครั้งจึงกลับมาชกมวยไทย ซึ่งก็ประสบความสำเร็จด้วยการชนะนักมวยชั้นนำในสมัยนั้นหลายคน เช่น เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง เป็นต้น จนใน พ.ศ. 2531 สามารถ พยัคฆ์อรุณ ได้รับรางวัลนักมวยไทยยอดเยี่ยม จากสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬา โดยชกชนะรวดในปีนั้น ชนะทั้งพนมทวนเล็ก ศ.สิรินันท์ สำราญศักดิ์ เมืองสุรินทร์ นำพล หนองกี่พาหุยุทธ เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง แต่ต่อมาหลังชกแพ้วังจั่นน้อย ส.พลังชัยไปอย่างบอบช้ำ สามารถก็ประกาศเลิกชกมวยไทยไป


    สามารถ พยัคฆ์อรุณ กลับมาชกมวยสากลอีกครั้งใน พ.ศ. 2536 โดยมี ทรงชัย รัตนสุบรรณ เป็นผู้สนับสนุนอีกเช่นเคย สามารถชกอุ่นเครื่องชนะรวด 5 ครั้ง จึงได้ชิงแชมป์โลกในรุ่นเฟเธอร์เวท WBA กับ อีลอย โรฮาส นักมวยชาวเวเนซูเอล่า ในปี พ.ศ. 2537 ที่จังหวัดตรัง ผลการชกคือ สามารถแพ้น็อกไปอย่างสิ้นสภาพในยกที่ 8 ปิดฉากชีวิตในแบบนักมวยทันที


    ด้วยความเป็นคนหนุ่มหน้าตาดี มีบุคลิกที่โดดเด่น ประกอบกับมีนิสัยเจ้าสำราญ ทำให้มีบุคคลชักชวนเข้าสู่วงการบันเทิง ซึ่งก็ประสบความสำเร็จไม่แพ้ในวงการมวยเลยทีเดียว สามารถมีผลงานในวงการบันเทิงครั้งแรกโดยการออกเทปกับบริษัทแกรมมี่ ในชื่อชุด "ร็อกเหน่อ ๆ" มีเพลงดังที่รู้จักกันดีในยุคนั้นคือเพลง "อ่อนซ้อม" โดยเป็นการล้อเลียนการซ้อมมวยของสามารถเอง ซึ่งมักถูกกล่าวว่าเป็นมวยซ้อมน้อย และได้ออกอัลบั้มชุดต่อ ๆ มาอีกหลายชุด ไม่เพียงเท่านั้น สามารถยังได้ถ่ายแบบ แสดงหนัง ละคร หลายต่อหลายเรื่อง สามารถกลายเป็นดาราชื่อดังชั้นแนวหน้าในระยะเวลาไม่นาน และประสบความสำเร็จในวงการบันเทิงโดยได้รับรางวัลตุ๊กตาทองจากภาพยนตร์เรื่อง "ขยี้" ร่วมกับลิขิต เอกมงคล ในปี พ.ศ. 2534 เป็นครั้งแรกของไทยจวบจนถึงปัจจุบันนี้ ที่มีนักแสดงนำชายที่ได้รับรางวัลนี้พร้อมกันถึง 2 คน


    ซึ่งในระหว่างที่ยังมีชื่อเสียงอยู่นั้น สามารถมีข่าวคราวว่าคบหาอยู่กับ กันตา ดานาว นักแสดงสาวที่แสดงเรื่องขยี้อยู่ด้วยกัน


    ในปี พ.ศ. 2558 สามารถกลับมาแสดงภาพยนตร์อีกครั้ง โดยเป็นภาพยนตร์สารคดีชีวประวัติของตัวเอง ในเรื่อง มาดพยัคฆ์ ซึ่งสามารถทำหน้าที่เล่าเรื่องด้วยตนเอง โดยภาพยนตร์เรื่องนี้จัดสร้างโดย นาวสตูดิโอ ใน เครือเนชั่น และมีการนำมาตัดเป็นตอนๆ จำนวน 5 ตอน ออกอากาศทาง ช่องนาว ตั้งแต่วันที่ 15-22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559


    ปัจจุบัน สามารถยังอยู่ในวงการบันเทิง มีผลงานออกมาเป็นระยะ ๆ และในวงการมวยมีค่ายมวยเป็นของตัวเอง และบางครั้งเดินทางไปต่างประเทศเพื่อเป็นเทรนเนอร์มวยไทยด้วย ปัจจุบันสามารถเปิดค่ายมวย "สามารถ พยัคฆ์อรุณ ยิม" อยู่ที่ซอยสายไหม 31 กรุงเทพฯ และเขายังเป็นกรรมการฝ่ายต่างประเทศ สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งเป็นนายกสมาคมกีฬามวยไทยนายขนมต้มอีกด้วย


    สามารถ พยัคฆ์อรุณ มีบุตรธิดากับภรรยาเก่า 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน บุตรคนที่ 2 คือ กวิน ทิพย์ท่าไม้ และลูกสาวคนเล็ก อาศัยอยู่กับมารดาที่สหรัฐอเมริกา ส่วนบุตรคนโตช่วยงานเป็นครูสอนมวยไทยอยู่ที่สามารถพยัคฆ์อรุณยิม และหย่ากับวลัยทิพย์ ภพธีรธรรม (หญิง) แล้ว


    ... สถิติการชก ...


    ชกอุ่นเครื่อง และ ชกนอกรอบ (เฉพาะมวยสากล)

    24 สิงหาคม พ.ศ. 2525 ชนะคะแนน 10 ยก เนตรน้อย ศ.วรสิงห์ ที่ สนามมวยเวทีลุมพินี

    24 เมษายน พ.ศ. 2527 ชนะคะแนน 10 ยก ฮวนนิโต้ ปาวิล่า (ธงของประเทศฟิลิปปินส์ ฟิลิปปินส์) ที่ สนามมวยเวทีลุมพินี

    12 มิถุนายน พ.ศ. 2527 ชนะน็อกยก 1 โม โน้ด (ธงของประเทศอินโดนีเซีย อินโดนีเซีย) ที่ สนามมวยเวทีลุมพินี

    31 กรกฎาคม พ.ศ. 2527 ชนะน็อกยก 7 เนปตาลี อลามัก (ฟิลิปปินส์) ที่ สนามมวยเวทีลุมพินี

    9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2527 ชนะน็อกยก 4 ฟาลิด กาลูซ (ธงของประเทศฝรั่งเศส ฝรั่งเศส) ที่ สนามมวยเวทีลุมพินี

    6 มกราคม พ.ศ. 2528 ชนะคะแนน 10 ยก เอกลักษณ์ สิงห์นครหลวง ที่ เวทีมวยช่อง 7 สี

    22 มิถุนายน พ.ศ. 2528 ชนะคะแนน 10 ยก ไฮเม่ เอนริเกวซ (ฟิลิปปินส์) ที่ อาคารกีฬานิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ

    15 กันยายน พ.ศ. 2528 ชนะน็อกยก 6 ช่อ ห้าพลัง ที่ เวทีมวยช่อง 7 สี

    13 ตุลาคม พ.ศ. 2528 ชนะน็อกยก 8 ทองเปิ้ม ลูกมาตุลี ที่ เวทีมวยช่อง 7 สี

    17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2528 ชนะน็อกยก 6 ปาร์ค บวง ชู (ธงของประเทศเกาหลีใต้ เกาหลีใต้) ที่ เวทีมวยช่อง 7 สี

    20 มิถุนายน พ.ศ. 2529 ชกนอกรอบ ชนะคะแนน 10 ยก ราฟาเอล กันดาริญญ่า (ธงของสหรัฐ สหรัฐ) ที่ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

    8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530 ชนะน็อกยก 8 โฮกัน โนกูจิ (ธงของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น) ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา

    27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 ชนะน็อกยก 4 เฮคเตอร์ เคอร์เตส (สหรัฐอเมริกา) ที่ เวทีมวยสยามอ้อมน้อย

    8 สิงหาคม พ.ศ. 2536 ชนะคะแนน 10 ยก รูดี้ คาบิเลส (ฟิลิปปินส์) ที่ เวทีมวยชั่วคราวลานโลกดนตรี ททบ.5

    14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536 ชนะน็อกยก 5 อิกนาโซ่ ฮาโคเม่ (เม็กซิกัน) ที่ เวทีมวยชั่วคราวลานโลกดนตรี ช่อง 5

    23 มกราคม พ.ศ. 2537 ชนะคะแนน 10 ยก ไทเกอร์ อาริ (ฟิลิปปินส์) ที่ เวทีมวยชั่วคราวจังหวัดสุราษฎร์ธานี :

    13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2537 ชนะคะแนน 10 ยก โบเอ็ด แอนดาเรส (ฟิลิปปินส์) ที่ เวทีมวยชั่วคราวจังหวัดฉะเชิงเทรา :

    10 เมษายน พ.ศ. 2537 ชนะน็อกยก 5 เจอร์รี่ วิลลาคอร์เต้ (ฟิลิปปินส์) ที่ เวทีมวยชั่วคราวจังหวัดสมุทรปราการ :

    แชมป์โลกรุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวท WBC

    ชิง 18 มกราคม พ.ศ. 2529 ชนะน็อกยก 5 กัวดา ลูเป้ พินเตอร์ (ธงของประเทศเม็กซิโก เม็กซิโก) ที่ อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก

    ป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 1 : 10 ธันวาคม พ.ศ. 2529 ชนะน็อกยก 12 ฮวน คิด เมซ่า (เม็กซิโก) ที่ อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก

    เสียแชมป์ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2530 แพ้น็อกยก 4 เจฟฟ์ เฟเนค (ธงของประเทศออสเตรเลีย ออสเตรเลีย) ที่ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เซ็นเตอร์ เมืองซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์

    เคยชิงแชมป์ต่อไปนี้แต่ไม่สำเร็จ

    11 กันยายน พ.ศ. 2537 : ชิงแชมป์โลกรุ่นเฟเธอร์เวท WBA แพ้น็อกยก 8 เอลอย โรฮาส (ธงของประเทศเวเนซุเอลา เวเนซุเอลา) ที่ เวทีมวยชั่วคราวหน้าโรงแรมเรือ จังหวัดตรัง


    ที่มา : วิกิพีเดีย


     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Oil trading - ทันตลาดน้ำมันโลกกับ KP


    ทราบหรือไม่ครับ ว่าประเทศที่มีบ่อน้ำมันดิบมากที่สุดในโลกนั้นไม่ใช่เจ้าพ่อน้ำมันอย่างซาอุ แต่เป็นประเทศเวเนซุเอลานั้นเอง


    ทำให้หลายประเทศกำลังต้องการเปลี่ยน "วิกฤต" เวเนซุเอลานี้ให้เป็น "โอกาส"


    จากคอมเม้นในโพสต์ก่อนๆ เรื่องวิกฤติการเมืองในเวเนซุเอลา หลายๆ ท่านเหมือนจะตั้งคำถามว่า ทำไมทั่วโลกถึงประท้วงกันรุนแรงขนาดนี้ และสหรัฐเกี่ยวข้องยังไง ?ทำไมถึงออกหน้าออกตาเข้าไปแทรกแซงและกดดันฝ่านประธานาธิปดีที่อยู่ในอำนาจมานานหลายปี ? ถึงขนาดเข้าขู่ใช้กำลังทหารและใช้มาตรการคว่ำบาตร ทั้งๆที่ก็มีหลายประเทศในโลกที่กำลังประสบปัญหาการเมืองภายใน ทำไมสหรัฐถึงยังไม่เห็นออกตัวขนาดนี้


    ทางเพจไม่อยากออกความเห็นด้านการเมืองระหว่างประเทศเกินไป และอยากให้ข้อมูลวิเคราะห์ในเชิงของตลาดมากกว่า แต่การที่บ่อน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั้นอยู่ที่เวเนซุเอลา มันจะเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญหรือ ? ที่สหรัฐกำลังเข้าไปแทรกแซงประเทศที่มีขุมทรัพย์ ทรัพยากรธรรมชาติมากมายขนาดนี้ และทำเพื่อเพียงแค่อยากช่วยเหลือประชาชนชาวเวเนซุเอลาเท่านั้นเองหรือ ?


    โดยที่ผ่านมา รัฐบาลก่อนๆ ของเวเนได้พยายามขับไล่การลงทุนของสหรัฐออกจากประเทศ ทำให้ยากที่สหรัฐจะเข้าไปขุดน้ำมันของเวเน โดยการเปลี่ยนถ่ายอำนาจน่าจะเป็น "โอกาส" ที่ดีมากต่อสหรัฐ และประเทศที่สนับสนุนไกวโด ให้เข้าไปลงทุนอีกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจในประเทศเวเนซุเอลากำลังอ่อนแอ และต้องการเงินทุนฟื้นฟู


    ทั้งหมดนี้อาจเป็นเหตุผลเบื้องหลังที่ทำให้ทางรัสเซียและจีนไม่เห็นด้วยกับการฉวยโอกาสของสหรัฐ และอยู่ข้างฝ่ายมาดูโร


    ------------------------


    ในโพสต์นี้เราจะพูดถึง ประเทศที่มีบ่อน้ำมันเยอะ นี่ถือว่าเยอะแค่ไหน ? คุณภาพน้ำมันดิบหนักๆ เป็นอย่างไร ? และผลกระทบของวิกฤติเวเนครั้งนี้ต่อตลาดน้ำมัน ? ว่าทำไมทางเพจถึงคิดว่าความเสี่ยงที่ราคาจะขึ้นนั้นยังมีอยู่มากกว่าที่ตลาดคิด


    ------------------------


    5 อันดับประเทศที่มีบ่อน้ำมันดิบมากที่สุดของโลก


    จากข้อมูลทางวิกิพีเดีย (ดูตารางทั้งหมดได้ในคอมเม้น) เวเนซุเอลานั้นมีบ่อปริมาณน้ำมันดิบสำรอง 296.5 พันล้านบาร์เรล หรือคิดเป็นเกือบ 20% ของน้ำมันที่เรามีทั่วโลก ทำให้เวเนนั้นมีบ่อน้ำมันมากเป็นอันดับที่ 1 ของโลก นำหน้าเจ้าพ่อน้ำมันอย่างซาอุที่อยู่อันดับสองที่มี 265.4 พันล้านบาร์เรล


    หลายคนอาจจะคิดว่ามีต่างกันไม่มาก แต่เพื่อจะให้เห็นภาพง่ายๆ ว่าน้ำมันกว่า 31 พันล้านบาร์เรลที่เวเนมีมากกว่าซาอุนั้นเยอะแค่ไหน ? เราก็ลองคิดดูคร่าวว่าๆ ได้ว่า วันนึงประเทศไทยใช้น้ำมันวันละ 1 ล้านบาร์เรล แปลว่าว่าปริมาณส่วนต่างที่เวเนมีมากกว่าซาอุนั้นคือพอให้ประเทศไทยเราใช้ไปได้ถึง 85 ปีเลยทีเดียว ! หรือหากจะขุดเอาน้ำมันทั้งหมดที่เวเนมีมาใช้ ประเทศเราคงใช้ไปได้อีก 800 กว่าปีจนกว่าจะหมดครับ น่าจะทำให้เรานึกภาพออก ว่าเวเนเค้ามีทรัพยากรธรรมชาติมหาศาลแค่ไหน


    ส่วนอันดับ 3. แคนนาดา (175 พันล้านบาร์เรล) อันดับ 4. อิหร่าน (151 พันล้านบาร์เรล) และ อันดับ 5. อิรัก (143 พันล้านบาร์เรล) ทั้งสามประเทศนั้นยังมีน้ำมันรองน้อยกว่า 2 อันดับแรกอยู่เยอะมาก แต่รวมกัน 5 ประเทศทั้งหมด ก็นับเป็นปริมาณ 65% ของปริมาณทั้งโลกแล้ว ในรายละเอียดนั้นสามารถดูข้อมูลในตารางคอมเม้นได้ครับ


    ------------------------


    ถ้างั้นทำไมประเทศเวเนซุเอลา ถึงผลิตน้ำมันน้อยมากเมื่อเทียบกับซาอุ ?


    เวเนซุเอลานั้นเคยผลิตน้ำมันดิบอยู่ที่เฉลี่ย 2 - 3 ล้านบาเรลร์ต่อวัน ตั้งแต่ในช่วงปี 2000 จนถึงปี 2017 แต่ตั้งแต่นั้นมา วิกฤตเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่รุนแรง และการขับไล่เงินทุนต่างชาติออกไปของรัฐบาลในสมัย ฮูโก ชาเวซ ทำให้การผลิตลดลงมาเรื่อยๆ จนปัจจุบันเหลือเพียง 1.2 ล้านบาเรลต่อวัน (สามารถดูได้ในกราฟในคอมเม้น)


    ส่วนซาอุนั้นผลิตน้ำมันดิบอยู่ที่เฉลี่ย 9 – 11 ล้านบาเรลต่อวันมาตลอด จะมีการขึ้นหรือลดลงตามโควตาของโอเปกเท่านั้น (กราฟในคอมเม้น) ส่วนเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้สองประเทศผลิตต่างกันมากนั้นก็เพราะว่า คุณภาพของน้ำมันดิบเวเนซูเอลานั้นค่อนข้างต่ำ เป็นน้ำมันดิบที่หนักมาก (Heavy Crude) ขุดเจาะยากกว่า ต้องมีการผสมด้วยน้ำมันที่เบาอย่าง Naphtha เพื่อให้ขนส่งทางท่อได้ ทำให้ต้นทุนที่ใช้ในการขุดเจาะสูงกว่าซาอุ และยากที่จะหาโรงกลั่นที่สามารถรับน้ำมันดิบหนักนี้ไปรับกลั่นได้ หรือถ้าได้ก็ใช้ได้แค่เป็นส่วนผสม ทำให้ไม่มีความต้องการใช้มากเท่าน้ำมันดิบจากซาอุที่มีคุณภาพดีกว่า มีความหนักกลางๆ (Medium Crude) จึงเป็นเหตุให้การผลิตเวเนนั้นไม่ได้สูงไปกว่านี้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ


    ทางด้านของสัดส่วนของการผลิตน้ำมันเทียบกับปริมาณบ่อน้ำมันที่แต่ละประเทศมี สามารถอ่านเพิ่มและดูข้อมูลได้ที่นี่นะครับ





    ------------------------


    ผลกระทบของวิกฤตเวเนครั้งนี่ต่อตลาดน้ำมัน ?


    รายได้หลักของเวเนซุเอลาจากต่างชาติ 95% ได้มาจากการผลิตน้ำมัน เพราะฉะนั้นมาตรการคว่ำบาตร ของสหรัฐในครั้งนี้กำลังเป็นการพยายามปิดเส้นเลือดที่สำคัญที่สุดของฝั่งมาดูโร โดยน้ำมันที่เวเนส่งออกไปอเมริกานั้นคือ 0.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน และที่เหลือไปจีนและอินเดีย (กราฟในคอมเม้น)


    ทางเพจคิดว่าตลาดตอนนี้ยังรับรู้โอกาสและความเสี่ยงของการที่น้ำมันอาจหายออกไปจากตลาดไม่มากพอ หรือแปลง่ายๆว่าโอกาสที่ราคาอาจขึ้นไปสูงกว่านี้ยังมีอยู่ ตลาดที่ขึ้นมาทุกวันนี้คงรับรู้ว่าปริมาณน้ำมัน 0.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน จะหายไปจากตลาด แต่จริงแล้วอาจจะสูงกว่านั้นได้ เพราะหากสถานการณ์ไม่สามารถจบลงด้วยแค่การเจรจา ปริมาณการผลิตก็อาจโดนกระทบ หรือตอนนี้ทางอเมริกาก็ยังมีโอกาสที่จะเพิ่มความเข้มงวดกับการคว่ำบาตรให้มากขึ้น โดยอาจจะไปบังคับถึงปริมาณที่เวเนส่งออกไปประเทศอื่นๆ ด้วยอีก ทำให้ทางเราเชื่อว่าความเสี่ยงขาขึ้นนั้นยังมีอยู่มาก


    ส่วนตัวแปรที่สำคัญอีกอย่างในอนาคตคือการประชุมโอเปกในเดือนเมษายนนี้ ต้องจับตาดูว่าโอเปกจะมีการปรับโควตาการผลิตเพื่อรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร


    ------------------------


    สรุปเหตุการณ์เวเนต่างๆ ที่ผ่านมา แนะนำ คลิปนี้ครับ “ตอบทุกคำถามเรื่อง วิกฤติเวเนซุเอลา จาก Bloomberg TV”





     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Hot Line News ปากช่อง


    พายุฤดูร้อนถล่ม 2 ตำบล อำเภอปากช่อง


    ช่วงเย็นวันนี้ 5 กุมภาพันธ์ 2562 ในพื้นที่อำเภอปากช่อง ได้มีฝนตกหนักลมพัดแรงทำให้เสาไฟฟ้าหัก 5 ต้น และบ้านเรือนราษฎรเสียหายบางหลัง ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ได้ประสานการไฟฟ้าเข้าไปดำเนินการแก้ไข ในพื้นที่ประสบเหตุ ตำบลโป่งตาลอง ตำบลวังกะทะ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา


     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข่าวอาเซียน: สมาชิกอาบูไซยาฟเข้ามอบตัวคดีระเบิดโบสถ์คริสต์ทางตอนใต้ฟิลิปปินส์

    ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของฟิลิปปินส์ เผยว่าสมาชิก 5 รายของกลุ่มติดอาวุธอาบูไซยาฟ(Abu Sayyaf) ที่อ้างว่าอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดโบสถ์คริสต์ทางใต้ของฟิลิปปินส์ ได้เข้ามอบตัวต่อทางการเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ ทหารฟิลิปปินส์ได้สังหาร 3 ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกกลุ่มอาบูไซยาฟ พร้อมกันนี้ได้เสียทหารไป 5 นาย จากการยิงต่อสู้กันเมื่อวันเสาร์ที่เมืองในจังหวัดซูลู ระหว่างการตามล่าหาตัวคนร้ายระเบิดโบสถ์

    https://www.tcijthai.com/news/2019/2/asean/8738

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “หางกุ้ง” ประโยชน์เพียบ ไม่ควร”เด็ดทิ้ง”
    คนส่วนใหญ่จะเลือกกินเฉพาะเนื้อของมัน และจะเด็ดหัวเด็ดหางทิ้ง แต่รู้หรือไม่ว่า ส่วนที่มีประโยชน์มากที่สุด ก็คือส่วนของ”คาง” และ”หางกุ้ง” นั้นเอง
    ประโยชน์ของกุ้ง
    1.คางกุ้ง
    คางกุ้ง ก็คือส่วนของหัวกุ้ง ใครหลาย ๆ คนมักจะโยนทิ้ง เพราะไม่เห็นประโยชน์ แท้จริงแล้ว หัวกุ้งมีประโยชน์อย่างมาก ที่ให้แคลเซียม และไคโตซาน ที่สามารถช่วยดักจับไขมันที่เป็นส่วนเกินของร่างกายได้เป็ยอย่างดี
    2.มันกุ้ง
    มันกุ้ง คงเป็นที่ชื่นชอบของใครหลาย ๆ คน แต่มันกุ้งนั้น เปรียบเสมือนกับตับของคน ที่ทำหน้าที่ในการกองสารพิษ และเชื้อโรคออกจากกระแสเลือด ตับจึงเป็นที่รวมของสารพิษต่าง ๆ ที่ตกค้าง เราจะเห็นมันกุ้งอยู่ตรงบริเวณส่วนหัว เป็นจำนวนมาก มันกุ้งจึงเป็นแหล่งรวมพิษภัย และสร้างโรคภัยให้แก่ผู้รับประทานได้อย่างดี และหากรับประทานมากจนเกินไป จะเสี่ยงทำให้เกิดโรคภัยในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ และภาวะหลอดเลือดต่างตีบตัน อีกด้วย
    3.เนื้อกุ้ง
    เนื้อกุ้งมีโปนตีนในปริมาณสูง และมีแร่ธาตุ วิตามินอื่น ๆ ที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกาย และมีคอเลตเตอรอลที่ต่ำ จึงทำให้กรดอมิโนที่ได้จากกุ้ง เป็นชนิดที่ย่อยง่าย และร่างกายสามารถดึงไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่
    4.เปลือกกุ้ง
    หลาย ๆ คน ก่อนจะกินกุ้ง ก็ต้องแกะเปลือกก่อนทุกครั้ง แต่เชื่อหรือไม่ว่า เปลือกกุ้งนั้นมีประโยชน์ในหลาย ๆ อย่าง ซึ่งสามารถ ต่อต้านแบคทีเรีย และเชื้อรา รวมไปถึงยังสามารถนำมาใช้รักษาแผลไฟไม้ได้อีกด้วย
    5.หางกุ้ง
    หางกุ้ง จะมีสารไคติน ซึ่งเป็นสารพอลิเมอร์ชีวภาพ และให้ประโยชน์ในการเสริมสร้างกระดูกที่แข็งแรง เนื่องจากมีโปรตีนที่สูง และมีคอลลาเจน ที่สามารถช่วยซ่อมแซมผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวที่ตายไปแล้ว อีกทั้งยังมีกรดอะมิโนที่ร่างกายสามารถดึงไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่อีกด้วย
    สารไคติน คืออะไร
    สารไคติน เป็นสารพอลิเมอร์ชีวภาพ ซึ่งสามารถพบในสิ่งมีชีวิต ที่มีเปลือกหุ้มลำตัว เช่น กุ้ง ปู หอย แมลง รวมถึงผนังเซลล์ของเชื้อรา ยีสต์ และสาหร่าย สารนี้ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างป้องกัน และสร้างความแข็งแรงให้กัร่างกาย
    ไคตินแบ่งได้เป็น 3 ชนิดคือ
    1.อัลฟาไคติน
    มีลักษณะโครงสร้างเป็นเส้นใย เรียงซ้อนกันสลับไปมาหลายชั้นในคนละทิศ และแน่น ทำให้มีโครงสร้างแข็งแรง เช่น ไคตินในเปลือกกุ้ง ไคตินในกระดองปู เป็นต้น
    2.เบต้าไคติน
    มีลักษณะโครงสร้างเป็นเส้นใย เรียงซ้อนกันในทิศทางเดียวกันหลายชั้น แต่ไม่แน่นมาก เหมือนชนิดอัลฟาไคติน ทำให้มีโครงสร้างแข็งแรงน้อย เช่น ไคตินในปลากหมึก เป็นต้น
    3.แกมมาไคติน
    เป็นไคตินที่มีลักษณะของไคตินอัลฟา และไคตินเบต้า มีลักษณะโครงสร้างเป็นเส้นใยเรียงซ้อนกันไปมาหลายชั้นแบบไม่มีทิศทาง ทำให้มีโครงสร้างแข็งแรงน้อย เช่น ไคตินในเชื้อราเป็นต้น
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    AQI ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นวันนี้ ได้รายงานค่าสูงที่สุดในประเทศ โดยวัดได้ที่ 173

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jeerachart Jongsomchai


    ... “ในอดีตอเมริกาเคยหนุนผู้นำไม่ได้มาจากเลือกตั้งในเวเนซุเอล่า แบบไร้มนุษยชน”


    ... เหตุการณ์ในปัจจุบัน ปี 2019 ที่ “อเมริกา” พยายามแทรกแซงการเมืองเวเนซุเอล่าเพื่อจะ “ปล้นประเทศ” คนอื่นกลางแดด โดยการสนับสนุนหุ่นเชิดนายกว่ายโด่นั้น ไม่ใช่ครั้งแรกแต่อย่างใด


    ... ในช่วงหลัง “สงครามโลกครั้งที่2” นั้น “อเมริกา” ก็ได้มีความสนิมสนมอย่างมากกับ “ผู้นำเผด็จการของเวเนซุเอล่า” ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และผู้นำคนนั้นก็ได้มอบผลประโยชน์การลงทุนด้าน “น้ำมัน” ของ “เวเนซุเอล่า” ให้กับพวกอเมริกัน นั้นก็เพียงพอแล้วไม่ว่าจะมาจากเลือกตั้งหรือไม่นั้น ไม่สำคัญกับอเมริกาแต่อย่างใด


    ... “ผู้นำเผด็จการของเวเนซุเอล่า” คนนั้นคือนาย Pérez Jimenez Regime ที่ปกครองระหว่าง ปี 1953-1958 โดยเขาขึ้นสู่อำนาจหลังจาก “โค่นล้มประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งอย่างนาย Rómulo Gallegos” และยึดอำนาจในการปฏิวัติรัฐประหารเวเนซุเอลา ที่กำลังมั่งคั่งจาก “น้ำมัน” ในช่วงที่ความเจริญรุ่งเรืองนี้การลงทุนจากต่างประเทศโดยเฉพาะจาก “บริษัทน้ำมันอเมริกัน” เติบโตขึ้นพร้อมกับการสนับสนุนจาก Jimenez Regime ที่เขาเน้นการปกครองที่ต่อต้านคอมมิวนิสต์อย่างแข็งขันได้รับอนุญาตและสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของประเทศโดยอุตสาหกรรมน้ำมันอเมริกัน เช่น มาจาก บริษัท เช่นโมบิลและเอ็กซอน และทำให้เกิดผลประโยชน์ “น้ำมัน” ไหลเข้าเป็นเงินส่วนตัวของ Perez Jimenez เองด้วย และจากการสนับสนุน บริษัทน้ำมันอเมริกันเหล่านี้เขาได้รับรางวัล of Merit จากรัฐบาลอเมริกาในปี 1954


    ... ก่อนหน้านั้น คล้ายๆกับในกัมพูชาหรือหลายๆประเทศ “อเมริกา” รู้ว่าเขาเป็นนายทหารที่มีอำนาจมากในกระทรวงกลาโหมในระหว่างปี 1948-1950 ทำให้เขาถูกสนับสนุนจากหลายฝ่ายในการรัฐประหารรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ( คล้ายกับที่นายพลลอลนอลนายทหารใหญ่รัฐประหารเจ้านายตัวเองคือพระจ้านโรดม สีหนุในปี 1970 ที่เชื่อว่า “เมกา” ให้การสนับสนุนในการล้มเจ้าและตั้งหุ่นเชิดทหารขึ้นมาแทน )


    … เขาเป็นหนึ่งในรัฐบาลที่เผด็จการมากที่สุดในละตินอเมริกาในตอนนั้น “หน่วยตำรวจลับของเขา” หรือ Seguridad Nacional ได้ปราบปรามอย่างรุนแรง กับพวกนักวิจารณ์ที่พยายามโค่นล้มเขา ด้วยการวางระเบิด ตามล่าสังหารอย่างทารุณและคุมขังผู้ที่ต่อต้านการปกครองของเขา


    ... ในช่วงสมัยเขาปกครองนั้น หน่วยข่าวกรองของ “อเมริกา” ได้ทำงานร่วมมือกับหน่วย Seguridad Nacional ของรัฐบาลเวเนวุเอล่า ได้ทำงานปิดกั้นระบอบคอมมิวนิสต์และแม้แต่ “เสียงเรียกร้องประชาธิปไตย” ในสังคมเวเนซุเอลา ที่ต่อมา หน่วยตำรวจลับ หรือ Seguridad Nacional มีการพบว่ามีผู้ถูกทรมานหลายพันคนใน “เวเนซุเอลา” รวมทั้งในค่ายกักกันที่เกาะ Guasina ในป่าของ Orinoco และหลังจากรัฐประหารเวเนซุเอลาที่โค่นล้มเขาในปี 1958 มีการพบว่านักโทษ 400 ถูกขังในห้องใต้ดินของสำนักงานใหญ่ของ “หน่วยงานตำรวจลับ” Seguridad Nacional


    ... หลังปี 1958 ที่เขาลี้ภัยไปที่ โดมินิกัน และต่อด้วย “อเมริกา” ในไมอามี่นั้น สุดท้ายเขาได้หนีไปสเปน ต่อมาในปี 1961 ซีไอเอ รายงานว่ารัฐบาลของเขาได้ก่อวิกฤติให้กับประเทศเวเนซุเอล่าอย่างหนัก โดยเฉพาะเป็นยุคแห่งการสร้างหนี้ให้กับประเทศ ที่ยาวมาถึงในช่วงทศวรรษที่ 1960s หรือ 1960 – 1969 ที่บอกให้รู้ว่าแม้เขาจะไม่ได้ปกครองประเทศแล้ว แต่ มรดกบาปที่เขาก่อไว้ก็ได้สร้างปัญหาให้กับประเทศมากมาย


    … หรือ ตอนนี้ “เวเนซุเอล่า” กำลังจะเดินตามรอยความล่มจ่มแบบในอดีตที่เกิดจากการแทรกแซงจาก “อเมริกา” มาเฟียเลือกตั้งธิปไตยเจ้าเดิม


    .

    ... Pérez Jimenez Regime (1953-1958)[edit]

    After Dictator Marcos Perez Jimenez overthrew the elected president, Rómulo Gallegos, and seized power in the 1948 Venezuelan coup d'état, the Venezuelan economy experienced a boom[citation needed], born from Venezuela's great oil wealth. During this prosperity, foreign investment, particularly from American oil companies, grew along with the support from the Jimenez Regime. The staunchly anti-communist regime allowed and supported the exploitation of the country's natural resources by the American oil industry, as a portion of the profits made its way from companies like Mobil and Exxon[11] to the personal coffers of Perez Jimenez. For his support of these American companies, he received the Legion of Merit from the U.S. Government in 1954.[12]


    At the same time, United States intelligence agencies collaborated with Seguridad Nacional to silence communists and social-democrat voices in Venezuela.[citation needed] The Seguridad Nacional, headed by Pedro Estrada, disappeared and tortured thousands of Venezuelans, both in its headquarters in Caracas and in a confinement camp on Guasina Island in the jungles of the Orinoco. After the 1958 Venezuelan coup d'état, when Perez Jimenez abandoned the government and the country on January 23, 1958, more than 400 prisoners were found in the basement of the headquarters of the Seguridad Nacional.[13]


    ... As a result of the debts contracted by the dictatorship,[8] the discontent of the national private sector, the adverse position of the Catholic Church,[9] the cruelty of the dictatorship,[10] massive demonstrations against repression by the government, and the predicted economic crisis, Marcos Pérez Jiménez was deposed in a coup by disgruntled sectors within the Armed Forces of Venezuela on January 23, 1958


    ... He went into exile in the Dominican Republic and the United States from where he was extradited from the city of Miami. Finally, he resided in Spain, under the protection of the Franco regime. A CIA report in 1961 stated that his government generated the economic crisis that Venezuela experienced in the 1960s.[1


    .


    .

    https://en.wikipedia.org/wiki/Marcos_Pérez_Jiménez

    https://en.wikipedia.org/wiki/United_States–Venezuela_relations


     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    John Traczyk

    วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562

    ยังคงมีเหตุการณ์แม่เหล็กนอกโลกที่สำคัญรายวันอย่างต่อเนื่อง

    ครั้งที่ 33 และ 34 ความเร็ว มากกว่า 1,000 km / s เริ่มตั้งแต่ 5 มกราคม 2562


    มีการรบกวนทางแม่เหล็กขนาดใหญ่

    ลูกพลังงานที่รุนแรงออกมาด้านหลังโลก

    ความกดดันรุนแรง ทั้งด้านมืด และด้านสว่างของโลก (สีแดง) และเกิดการโก่งงอกับ Magnetopause


    และ Bow Shock ด้านหน้าถูกทำให้ลุกเป็นไฟ


    ความเร็วเกิน 1,000 km / s วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 03:27:05 น. (ไทย) (เวลา 20:27:05 UTC เมื่อ 2/4/2019) ที่ความเร็ว 1387 km / s

    จุดสูงสุดที่ 1498 ระยะเวลา 24 นาที


    ความเร็วเกิน 1,000 km / s วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 04:03:05 น. (ไทย) (เวลา 21:03:05 UTC เมื่อ 2/5/2019) ที่ความเร็ว 1264 km / s

    จุดสูงสุดที่ 1,349 ระยะเวลา 12 นาที


    https://iswa.ccmc.gsfc.nasa.gov/IswaSystemWebApp/


    Magnetopause คือจุดที่สนามแม่เหล็กโลกกับดวงอาทิตย์เกิดเป็นเหมือนรอยต่อของสนามแม่เหล็กโลกและสนามแม่เหล็กของลมสุริยะ ที่นั่นความดันของทั้งสองสนามนี้เท่ากันพอดีเรียกว่า ซึ่งมีการเลื่อนตำแหน่งไปมาเนื่องจากสนามแม่เหล็กของลมสุริยะที่เปลี่ยนแปลงความแรงอยู่ตลอดนั่นเอง


    bow shock คือ จุดที่สสารระหว่างดาวเคลื่อนที่ในทางตรงกันข้าม คือชะลอตัวลงเมื่อปะทะเข้ากับเฮลิโอสเฟียร์

    IMG_8877.JPG IMG_8878.JPG IMG_8879.JPG IMG_8880.JPG IMG_8881.JPG IMG_8882.JPG IMG_8883.JPG IMG_8884.JPG IMG_8885.JPG IMG_8886.JPG IMG_8887.JPG IMG_8888.JPG

    February 5, 2019.

    Continued unprecedented major daily magnetosphere events.

    Number 33 and 34 over 1000 km/s since January 5, 2019.


    Huge magnetic disturbance.

    Extreme energy balling out behind the Earth.

    Extreme on and off night side pressure (in red) and buckling.to magnetopause.

    Inflamed front Bow Shock.


    Broke 1000 km/s at 20:27:05 UTC on 2/4/2019 at 1387 km/s

    Peaking at 1498. Duration 24 minutes.


    Broke 1000 km/s at 21:03:05 UTC on 2/5/2019 at 1264 km/s

    Peaking at 1349. Duration 12 minutes.


    https://iswa.ccmc.gsfc.nasa.gov/IswaSystemWebApp/


     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เกรียน BRN


    #นิสัยไม่เคยเปลี่ยนจริง

    #จคม.

    “ผมรูสึกมึนงงกับท่าทีอุดมชัย (หัวหน้าฝ่ายสยาม)ในวันนี้ ขณะที่มาราฯเตรียมพร้อมที่จะร่วมการเจรจา แต่อุดมชัยกลับขอพบคุยแค่นายสุกรี เพียงคนเดียว...ซึ่งเราเป็นคนกลางไม่สามารถไปกดดันใครได้ ต้องรอทั้งสองฝ่ายมาประสานอีกครั้ง”


    ต้องย้ำว่าเป็นการสนทนา ไม่ใช่การเจรจา... ดังนั้น คำร้องขอนี้ เป็นสิ่งที่แปลกต่อกลุ่มแบ่งแยกดินแดนและต่อผมด้วย เป็นพฤติกรรมที่แปลกของท่านอุดมชัย ซึ่งผมตกใจ เป็นเรื่องปกติที่สมาชิกในคณะทุกคนต้องพบปะกัน รวมทั้งหัวหน้าคณะพูดคุย”


    นายราฮิม นูร์


     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    John Traczyk

    9036A1AA-F662-40C2-8872-E8B75887C809.jpeg
    วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2562 นอร์ธ (เหนือ) ค่อนข้างไม่เหมือนที่เคยเป็นมา


    การเคลื่อนที่ของขั้วแม่เหล็กทิศเหนือ "ค่อนข้างเร็ว" “ มันไม่ใช่คำถามว่ามันจะกลับกันหรือไม่คำถามคือ เมื่อมันจะกลับด้าน” ความเร็วของมันเพิ่มขึ้นจากประมาณ 9 ไมล์ต่อปี (14.48 กิโลเมตรต่อปี) เป็น 34 ไมล์ต่อปี (54.7177 กิโลเมตรต่อปี)ในที่สุดมันจะพลิกที่ขั้วเหนือและขั้วใต้เปลี่ยนขั้ว เช่นแม่เหล็กแท่งพลิก


    เหตุผลก็คือความปั่นป่วนในแกนโลกชั้นนอกที่เป็นของเหลว มีมหาสมุทรของเหลวที่ร้อนจัดที่ประกอบไปด้วยเหล็กและนิกเกิลในแกนกลางของดาวเคราะห์ ซึ่งการเคลื่อนที่จะสร้างสนามไฟฟ้า "มันเปลี่ยน...สภาพอากาศ" "เราอาจเรียกมันว่าสภาพอากาศแม่เหล็ก"


    โดยทั่วไปสนามแม่เหล็กของโลกกำลังเริ่มอ่อนแอลง Lathrop เห็นการพลิกกลับขั้วกำลังจะมาในไม่ช้า มากกว่าในภายหลัง เนื่องจากสนามแม่เหล็กที่อ่อนแรงและพื้นที่เหนือมหาสมุทรแอตแลนติกได้กลับด้านใต้พื้นผิวโลกแล้ว (an area over the South Atlantic has already reversed beneath Earth's surface.. )


    การอ่อนลงของสนามแม่เหล็กโดยรวมนั้นไม่ดีสำหรับนก มนุษย์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งดาวเทียมและนักบินอวกาศ สนามแม่เหล็กปกป้องโลกจากรังสีอันตราย


    วิวรณ์ 12: 3

    และหมายสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็ปรากฏในสวรรค์ นี่แน่ะ มีพญานาคสีแดงตัวใหญ่ตัวหนึ่ง มันมีเจ็ดหัวและสิบเขา และบนหัวทั้งเจ็ดมีมงกุฎเจ็ดอัน


    อิสยาห์ 24: 1

    (การพิพากษาโลก)

    นี่แน่ะ พระยาห์เวห์จะทรงทำให้โลกร้างเปล่า ทั้งทำให้เป็นที่รกร้าง

    พระองค์จะทรงบิดพื้นโลกและทำให้ผู้อาศัยของโลกกระจายไป


    February 4, 2019 North isn't quite where it used to be.


    The movement of the magnetic north pole "is pretty fast." "It's not a question of if it's going to reverse, the question is when it's going to reverse." Its speed jumped from about 9 miles per year to 34 miles per year. It will eventually flip, where north and south pole changes polarity, like a bar magnet flipping over.


    The reason is turbulence in Earth's liquid outer core. There is a hot liquid ocean of iron and nickel in the planet's core where the motion generates an electric field. "It has changes akin to weather." "We might just call it magnetic weather."


    In general Earth's magnetic field is getting weaker. Lathrop sees a flip coming sooner rather than later because of the weakened magnetic field and an area over the South Atlantic has already reversed beneath Earth's surface..


    An overall weakening of the magnetic field isn't good for birds, people and especially satellites and astronauts. The magnetic field shields Earth from some dangerous radiation.


    Revelation 12:3

    And there appeared another wonder in heaven; and behold a great red dragon, having seven heads and ten horns, and seven crowns upon his heads.


    Isaiah 24:1

    Behold, the Lord maketh the earth empty, and maketh it waste, and turneth it upside down, and scattereth abroad the inhabitants thereof.


    https://www.abc57.com/news/check-your-compass-the-magnetic-north-pole-is-on-the-move


     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เงินบาทไทยแข็งค่า โอนเงินกลับบ้าน 1 เหรียญไต้หวันได้น้อยกว่า 1 บาท แนะแรงงานไทยช่วงนี้โอนเงินกลับบ้านเท่าที่จำเป็น...#RtiFanpage

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กราบหัวใจ แพทย์สาวไร้ขา เดินด้วยมือ รักษาชาวบ้านในชนบทตลอด 17 ปี ปัจจุบันป่วยเป็น 'โรคเนื้องอกในสมอง'

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ขั้วเหนือแม่เหล็กของโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประมาณการทางวิทยาศาสตร์ไม่แม่นยำอีกต่อไปสำหรับการนำทาง กระตุ้นศูนย์ข้อมูลสิ่งแวดล้อมแห่งชาติต้องเผยแพร่ข้อมูลที่อัปเดตเกือบหนึ่งปีก่อนหน้านี้ ตอนนี้ขั้วเหนือแม่เหล็กเดินทางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อปี มันข้ามเส้นวันระหว่างประเทศ (international date line) ในปี 2560 ไปทางทิศตะวันออก

    polo-magnetico.gif


    เป็นผลให้นักวิทยาศาสตร์ต้องปรับปรุงเกี่ยวกับสถานะของสนามแม่เหล็กของโลกในปีก่อนหน้ากว่าที่วางแผนไว้เพื่อให้การนำทางที่แม่นยำ แก่ผู้ที่พึ่งพาเข็มทิศแทนที่จะเป็นระบบนำทาง GPS ...Arnaud Chulliat นักธรณีฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยโคโลราโดผู้เขียนหลักของแบบจำลอง Magnetic World กล่าว จีพีเอสไม่ได้รับผลกระทบเพราะมันขึ้นอยู่กับดาวเทียม การเคลื่อนที่ของขั้วเหนือแม่เหล็กในช่วงห้าทศวรรษที่ผ่านมา เครดิต: ศูนย์ข้อมูลสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ การเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งของขั้วแม่เหล็กนั้น รู้สึกรุนแรงที่สุดในอาร์กติกรอบขั้วโลกเหนือซึ่งหมายความว่าเรือใด ๆ ในภูมิภาคจะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากแบบจำลองที่ไม่ถูกต้อง

    สาเหตุเกิดจากอะไร สาเหตุที่ขั้วแม่เหล็กไม่คงที่นั้นเกิดจากการเคลื่อนที่และความปั่นป่วนในแกนกลางของเหลวของโลก เหล็กหลอมเหลวและมหาสมุทรนิกเกิลในแกนกลางของดาวเคราะห์ สร้างสนามไฟฟ้าซึ่งเคลื่อนที่แบบค่อยเป็นค่อยไป แต่บางครั้งก็คาดเดาไม่ได้ Daniel Lathrop นักธรณีฟิสิกส์ที่ University of Maryland กล่าวในแถลงการณ์ว่า: มันมีการเปลี่ยนแปลงคล้ายกับสภาพอากาศ เราสามารถเรียกมันว่าสภาพอากาศแม่เหล็ก

    ขั้วใต้ของแม่เหล็กเคลื่อนตัวช้ากว่าขั้วเหนือมาก

    การพลิกกลับของขั้วสนามแม่เหล็กของโลก

    สนามแม่เหล็กของโลกกำลังอ่อนลงรอบโลก นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำแนะนำว่าขั้วเหนือและใต้จะเปลี่ยน(กลับ)ขั้วในที่สุด เช่นแท่งแม่เหล็กที่พลิกขึ้น มันเกิดขึ้นหลายครั้งในอดีต แต่ไม่ใช่ในช่วง 780,000 ปีที่ผ่านมา

    Lathrop เสริม: มันไม่เกี่ยวกับว่าจะกลับตัวเองหรือไม่ คำถามก็คือเมื่อมันจะกลับตัวเอง " เมื่อมีการกลับขั้ว มันจะไม่กลับขั้วในทันที แต่จะใช้เวลา 1,000 ปีหรือมากกว่านั้น นักวิทยาศาสตร์เชื่อ ศาสตราจารย์ Lathrop กล่าวว่าเขาเห็นการกระโดดเร็วกว่าในเวลาต่อมา (ขั้วแม่เหล็ก) เนื่องจากการอ่อนตัวของสนามแม่เหล็กและเนื่องจากพื้นที่เหนือมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้มีการกลับด้าน เกิดขึ้นที่ข้างล่างพื้นผิวโลกแล้ว (because of the weakened magnetic field and an area over the South Atlantic has already reversed beneath Earth's surface)

    การผกผันของกระแสไฟฟ้าอาจส่งผลกระทบต่อนกบางชนิดที่ขึ้นอยู่กับสนามแม่เหล็กเพื่อการเดินเรือ และการลดลงของสนามแม่เหล็กโดยทั่วไปอาจไม่ใช่ข่าวดีสำหรับคน และเทคโนโลยี สนามแม่ เหล็กปกป้องโลกจากลมสุริยะ ซึ่งจะช่วยกำจัดชั้นโอโซน

    เส้นแบ่งเขตวันสากล(อังกฤษ: International Date Line: IDL) เป็นเส้นสมมติที่ลากในแนวเหนือ-ใต้บนพื้นผิวของโลก ผ่านใจกลางมหาสมุทรแปซิฟิกซึ่งกำหนดสถานที่ซึ่งวันตามปฏิทินเริ่มต้น เส้นดังกล่าวอยู่ที่ประมาณลองติจูด 180 องศา ตรงข้ามกับเส้นเมริเดียนแรก แต่ลากอ้อมบางดินแดนและกลุ่มเกาะบางกลุ่ม
    เวลาทางตะวันออกของเส้นแบ่งเขตวันสากลช้ากว่าทางตะวันตกอยู่ 1 วัน เมื่อข้ามเส้นดังกล่าวไปทางตะวันออกจึงต้องหักวันออกหนึ่งวัน และเมื่อข้ามเส้นดังกล่าวไปทางตะวันตกต้องเพิ่มวันเข้าหนึ่งวัน

    https://th.m.wikipedia.org/wiki/เส้นแบ่งเขตวันสากล

    บทความนี้คัดลอกมาจากเว็บไซต์https://codigooculto.com/ - คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่: https://codigooculto.com/2019/02/el-polo-norte-de-la-tierra-podria-haber-cambiado-oficially / - ไม่มีเนื้อหาที่เผยแพร่ในCodigoOculto.com สามารถคัดลอกแจกจ่ายเผยแพร่เขียนใหม่หรือนำไปใช้ในทางใด ๆ ทั้งหมดหรือบางส่วนโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก CodigoOculto.com
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Global Disaster Watch
    argentinaflood_tmo_2018342.jpg

    ในอาร์เจนตินาหลังจากผ่านไปหลายสัปดาห์ของพายุต่างๆ ทำให้เกิดฝนตก 5 เท่าของฝนที่ตกตามปกติ น้ำท่วมพื้นที่เพาะปลูกหลายล้านเฮกตาร์ ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพออกจากพื้นที่ และวัวต้องอยู่ในน้ำ บางพื้นที่ได้รับปริมาณฝนที่จะตกทั้งปี ในช่วงสองสัปดาห์ ในช่วงสองสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม น้ำท่วมทำให้เกิดความเสียหายทางการเกษตรมากกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ นั่นเป็นการเกิดน้ำท่วมที่มีราคาแพงที่สุดเป็นอันดับสองในอาร์เจนตินา ที่บันทึกไว้

    In Argentina, after several weeks of storms that dropped about 5x's MORE RAIN THAN USUAL, floods have inundated millions of hectares of farmland, forced thousands of people to evacuate, and even turned some unsuspecting cattle into swimmers. Some areas received A YEAR'S WORTH OF RAIN IN 2 WEEKS, the first two weeks of January. The flooding has caused more than $2 billion in agricultural damage, according to one estimate. That makes it Argentina’s second-most-expensive flood on record.

    https://earthobservatory.nasa.gov/i...e-LDEyEPqI9zxlkF6POaRgzK8AT66IotxOcP0FyugXMlI
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,710
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐขน M1A1 "เอบรามส์" เข้าไทยฝึกคอบร้าโกลด์ให้ได้เห็นเป็นครั้งแรก เผยแพร่: 6 ก.พ. 2562 07:28 ปรับปรุง: 6 ก.พ. 2562 07:39 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000001322801.jpg

    M1A1 เป็นรุ่นที่ใช้ในเหล่านาวิกโยธิน อาจจะเป็นการขนเข้าดินแดนไทยเป็นครั้งแรกสำหรับรถถังหลักกองทัพสหรัฐรุ่นนี้ ซึ่งทำให้การฝึกคอบร้าโกลด์ประจำปี 2562 ซึ่งควรจะเป็น ปีเบาๆ มีความคึกคักขึ้นมา.
    MGR ออนไลน์ -- หน่วยนาวิกโยธินสหรัฐได้นำรถถัง M1A1 เอบรามส์ (Abrams) เข้าไทยในสัปดาห์นี้ เพื่อร่วมในการฝึกคอบร้าโกลด์ 2019 ที่เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว และ ถึงแม้ว่าจะเป็นปีแห่งการฝึกเบา หรือ เป็น "ปีเบา" (Light Year) อีกปีหนึ่ง แต่การปรากฏตัวของรถถังหลักกองทัพสหรัฐน่าจะทำให้ Cobra Gold 2019 ไม่ต่างไปจากปีเบาอีก 2 ครั้งก่อนหน้านี้คือ คอบร้าโกลด์ 2018 และ 2517 ที่มีการซ้อมรบยิงด้วยกระสุนจริงอย่างใหญ่โต

    ดูจะเป็นครั้งแรกที่ M1A1 ถูกส่งเข้าสู่ดินแดนไทยเพื่อร่วมการฝึก ที่เป็นการฝึกซ้อมและฝึกรบระหว่างประเทศที่มีขนาดใหญ่โตที่สุดอีกเวทีหนึ่ง อย่างน้อยที่สุดก็ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

    ในสัปดาห์ปลายเดือน ม.ค. กองทัพเรือกับนาวิกโยธินสหรัฐขนยุทธสัมภาระหนักกับพาหนะต่างๆเข้าสู่ไทยเป็นจำนวนมาก ในขณะที่การฝึกจริงจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่ภาพที่เผยแพร่ในเฟซบุ๊กคอบร้าโกลด์ข้ามวันมานี้ แสดงให้เห็นการขนส่งสัมภาระอีกรอบหนึ่ง ในครั้งนี้มีรถถัง M1A1 ที่นาวิกโยธินสหรัฐใช้รวมอยู่ด้วยอย่างน้อย 7 คัน

    เฟซบุ๊กคอบร้าโกลด์ให้รายละเอียดแต่เพียงว่า การขนส่งเที่ยวล่าสุดนี้มีขึ้นระหว่าง 3-5 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากยานเกราะล้อยาง รถสายพานลำเลียงพลจู่โจม รถฮัมวี รถบรรทุกขนาดใหญ่ ฯลฯ ก็ยังมี M1A1 รวมอยู่ด้วย และ จะเคลื่อนย้ายลงสู่พื้นที่ฝึกตั้งแต่ 5 ก.พ.เป็นต้นไป

    ไม่เคยปรากฏว่า สหรัฐเคยนำรถถังหลักขนาดกว่า 60 ตัน ติดปืนใหญ่ 120 มม.ลำกล้องเกลี้ยง พร้อมปืนกลหนักและปืนกลเบา หุ้มเกราะโลหะผสมและเกราะยูเรเนียมที่เสื่อมสภาพแล้วที่มีความแข็งและเหนียวหนึบ ทนต่อแรงเจาะกระแทกทุกชนิด ติดเครื่องยนต์เทอร์ไบน์ 1,500 แรงม้ารุ่นนี้ เข้ามาร่วมการฝึกคอบร้าโกลด์มาก่อน จะมีก็เพียงข่าวลือ ที่เล่าลือกันมาหลายครั้ง บ้างก็ลือกันว่าสหรัฐอาจจะทิ้ง M1A1 ไว้ให้ไทยทดลองใช้ เพื่อระบายรถถังเก่า ที่เหลือมาจากสงครามตะวันออกกลาง บ้างก็ลือเป็น M1A2 ที่ ราคา 8 ล้านดอลลาร์ต่อคันขึ้นไป

    562000001322802.jpg


    562000001322803.jpg


    562000001322804.jpg


    562000001322805.jpg

    เป็นเรื่องแปลก -- ขนปืนใหญ่ 155 มม.มาอีก 2 กระบอก ของไทยมีเยอะแยะ แต่ดูจากขาตั้ง 4 แฉกก็น่าจะเป็น M777 ลากจูงที่นาวิกโยธินใช้ ซึ่งใหม่กว่า M168 ของไทย มีความแม่นยำสูงเกือบ 100% และ ยิงกระสุนความเร็วสูงได้ คงนำมาสาธิตให้ชม.

    562000001322806.jpg


    562000001322807.jpg


    เนื่องจากเอบรามส์สร้างออกมาในปีหลังสงครามเวียดนามยุติลง จึงไม่มีโอกาสได้แสดงบทบาทในความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ และ ในย่านนี้ก็ยังไม่มีประเทศใดใช้มาก่อน รวมทั้งญี่ปุ่นกับเกาหลี ซึ่งแม้ว่าจะเป็นพันธมิตรใกล้ชิดที่สุดของสหรัฐ แต่ก็ใช้รถถังที่ผลิตเองในประเทศ

    เมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว สหรัฐเคยเสนอขาย M1 รุ่นแรกที่ติดปืนใหญ่ 105 มม.ให้แก่ไทย ทั้งหมดเป็นรถถังที่้ใช้งานในสงครามขับไล่อิรักออกจากการยึดครองคูเวต แต่มีข้อวิจารณ์กันว่าเอบรามส์มีน้ำหนักมาก ไม่เหมาะกับผืนดินในประเทศไทยที่เป็นดินอ่อนตัวติดหล่มได้ -- อันเป็นข้ออ้างที่ทำให้กองทัพบกจัดหารถถังขนาดเบามาใช้งานรุ่นแรก

    ในการฝึกคอบร้าโกลด์ประจำปี 2558 หรือเมื่อ 4 ปีก่อน ถึงแม้ว่าจะเป็น "ปีเบา" อีกปีหนึ่ง ซึ่งมีความหมายตามนัยว่าเป็นปีที่จะไม่มีการฝึกหนัก เช่น การฝึกยกพลขึ้นบก -- แต่ก็เป็นปีที่มีการใช้ยานเกราะหลากหลายรุ่น ยิงด้วยกระสุนจริง โดยใช้รถถัง M60A3 "แพ็ตตัน" ของกองทัพบกไทยทั้งหมด ส่วนสหรัฐใช้รถจู่โจมลำเลียงพลยกพลขึ้นบกเข้าร่วม

    อีกสองปีต่อมา -- การฝึกประจำปี 2560 มีการใช้รถถังอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้เป็น T-84 โอปล็อต-M ของไทย -- ไม่มี M1A1 นาวิกโยธินสหรัฐเข้าร่วมด้วย

    อย่างน้อยที่สุด การมาของ "เอบรามส์" ในสัปดาห์นี้ กำลังจะช่วยพิสูจน์ว่า ผืนดินถิ่นนี้ไม่เหมาะกับรถถังหนักราคาคันละ 6 ล้านดอลลาร์รุ่นนี้จริงหรือไม่.

    https://mgronline.com/indochina/det...ow5kCp60AX8pf5OfWw_Ou4a1z1TIHHEBYSEYScALZ2h5o
     

แชร์หน้านี้

Loading...