ช้างเผือกในป่าอีสาน หลวงตาสมหมาย วัดป่าสันติกาวาส คำสอน/ประสบการณ์/วัตถุมงคล/ (ช่างชิต)

...สวัสดีครับพี่ๆน้องๆทุกท่าน วันนี้จะว่าถึง พระกริ่งของหลวงตารุ่นต่างๆและ"พระกริ่งกมโล 100 ปี" พร้อมเรื่องเสริมอีกเล็กน้อยให้พี่ๆน้องๆได้อ่านฆ่าเวลากัน
.
....พระกริ่งของวัดป่าสันติกาวาสมีอยู่ 3 รุ่นคือ
1.พระกริ่งกมโล(เล็ก) ที่ระลึก 60 ปีวัด
รุ่นนี้ที่มีคนในวันที่หลวงตาอธิฐานจิตมีแสงฟาดลงมากองวัตถุมงคลต่อหน้าคนนับสิบ สร้างไม่มาก ราคาไม่แพง แต่หาไม่ได้
.
2.พระกริ่งสมปราถนา ที่ระลึกกฐินปี 54หรือ55 จำไม่ได้. สร้างน้อยหายาก ใครมีเก็บหมด
.
3.พระกริ่งกมโล 100 ปี ที่ระลึกกฐินปี 59 ปัจจุบัน สร้างไม่เกิน 500 องค์ ตามเจ้าภาพกองกฐิน. อนาคตหายากแน่นอน
.
.....พระเครื่องหลวงตาแทบทุกรุ่น หลวงตาจะอธิฐานจิตเดี่ยว (มีตอน60ปีวัดเท่านั้นที่เป็นงานใหญ่นิมนต์พ่อแม่ครูบาอาจารย์มาอธิฐานจิตด้วย) เท่าที่อยู่กับท่านมา หลวงตาไม่เคยบอกว่า เอาไปให้องค์นั้นองค์นี้อธิฐานช่วยเลย สมกับท่านเกิดปี เสือ จริงๆ อย่างโบราณว่า "ชาติเสือไม่ขอเนื้อใครกิน"
.
....ช่างชิตเคยถามนะ ในหลายๆครั้งในเรื่องนี้
"หลวงตาเอาพระเข้าพิธีสวดพุทธมนต์ไหมครับ???"
"ไม่ต้อง ทำให้ดีพอแฮงแล้ว"....!!
.
"หลวงตาขอเก็บไว้กับหลวงตาตลอดพรรษานะครับ??"
"เอากลับได้เลย ดีมากแล้ว"....!!
.
"เวลาหลวงตาไม่อยู่แล้วจะอธิฐานยังไงครับ??"
"ภาษาอธิฐาน อยู่ไหนก็อธิฐานได้หรอก ไม่ต้องไปนั่งเฝ้าหรอก"....!!
.
....นี้ละครับหลวงตา ที่เขียนยกตัวอย่างมาทั้งหมดจะบอกว่า "ถ้าท่านไม่มั่นใจในพลังจิตที่ท่านฝึกฝนบำเพ็ญมาบวกกับบารมีที่ท่านสร้างสั่งสมมา ท่านจะกล่าวแบบนี้ไหม!!!!" ใครเอาอะไรไปให้ท่านอธิฐาน ถ้าเกิน 5 นาทีนิถือว่าบุญเลยนะครับ 5555++
.
...ส่วนประสบการณ์นะหรา ใครใช้ก็จะรู้เองละครับ และประสบการณ์ที่ดี คือ "การไม่มีประสบการณ์" !!!! ชอบหรามีแต่เรื่องมีแต่ปัญหา???
.
....เรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เครื่องรางของขลัง ใครไปคุยกับหลวงตาไม่โดนท่านว่าท่านก็จะเปลี่ยนเรื่องคุย ไม่งั้นก็จะ "เงียบ" นานๆจะมีคุยบ้าง นี้คือ 14 ปีที่สัมผัสมา...
.
....ช่างชิตเคยคุยกับหลวงตาว่า ทำไมถึงไม่สร้างพระเครื่องที่มาให้ดีๆ มวลสารสุดยอด อะไรแบบนั้น หลวงตาตอบ
"ที่ทำมาเพื่อให้เป็นที่ระลึกกับคนที่มาทำบุญ ไม่ได้ทำเพื่อให้คนอยากได้ของแล้วถึงมาทำบุญ"!!
เซ่อแ...กเลยไหมละ 5555++ นั้นละครับหลวงตา
.
....ภาพที่นำมาให้ชมคือ "รูปหล่อขนาดห้อยคอ พระกริ่งกมโล 100 ปี" สร้างเมื่อปี 56 พร้อมพระประธานกมโล ขนาดจะใหญ่กว่าพระกริ่งปีนี้และไม่อุดกริ่งครับ เพราะแบบนี้ไงช่างชิตจึงเรียก รูปหล่อ เจตนาจะทำเพื่อตั้งหน้ารถ แต่พอเอามาแขวนคอ ก็เข้าท่าไม่น้อย องค์นี้เนื้อทองคำ ของพี่ชายใจดี
.
.....ช่างชิตว่า พระพุทธกมโล ดูๆแล้ว ไม่ว่าจะทรงไหนแบบไหนดู "มีเสน่ห์และสง่าดีนะครับ" เอาละ เหนื่อยนิ้วละ ยาวเกิน

 

....นั่งดู คลิป isis ฆ่าตัวประกัน (จริงๆจะเรียกคลิปไม่ได้หรอก เพราะมันทำดีมากเหมือนหนังมากกว่า ฝีมือระดับฮอลลีวู้ดชัดๆ) ก็ปลงกับความตายและความโหดร้ายของมนุษย์ ดีมากก็คน ชั่วมากก็คน
.
....นั่งดูคลิปคนผู้คอตายผ่านถ่ายทอดสดในเฟส เห็นดิ้นนิดหน่อยแล้วก็นิ่งไป. ดูแล้วก็มาพิจารณาความไม่เที่ยงของ "ความคิดของคน" วันนี้อยากอยู่ พรุ่งนี้อยากตาย มันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
.
....สรุป ความอยู่เป็นของไม่เที่ยง ความตายเป็นสิ่งเที่ยงแท้แน่นอน แต่จะตายแบบไหน ตายยังไง ตายแล้วไปไหน นั้นคือ สิ่งที่แต่ละคนไม่เหมือนกัน อยู่ที่ตอนเราอยู่ เราคิด เราทำ อะไรยังไงบ้าง.
.
....มานึกถึงคำสอนหลวงตาที่เคยสอนช่างชิต เรื่องการฆ่าตัวตาย ถ้าจำไม่ผิดช่วงนั้นมีข่าว พระสงฆ์องค์เจ้าผูกคอตายกันหนาหู ช่างชิตเลยกราบเรียนถามท่านมั้ง ตัดเอาแต่ใจความสำคัญ หลวงตาสอนช่างชิตว่า
.
..."พระฆ่าตัวตายหรือเจตนาทำให้ตัวเองตาย พระพุทธเจ้าท่านก็ปรับอาบัติปราชิก เป็นกรรมหนักเพราะเป็นการกระทำที่ไม่ใช่เหตุ สมัยพุทธกาลมีพระรูปหนึ่งทำกรรมฐานก็เห็นทุกข์ของการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ก็รู้สึกเบื่อไม่อยากอยู่. อยากตายว่างั้น จริงๆมันก็เป็นอารมณ์หนึ่งในการภาวนาแต่มันเป็นส่วนเดียว ไปพิจารณาอยู่ส่วนเดียวส่วนอื่นไม่พิจารณา ไม่ใช้ปัญญาพิจารณาโดยรอบ พอภาวนาอย่างนั้นมากๆรู้สึกเบื่อหน่ายมากๆก็ไปจ้างคนลัทธิอื่นมาฆ่าตัวเองให้ตาย. พระพุทธเจ้าท่านเห็นโทษความหลงไม่ใช้ปัญญาโดยละเอียดเป็นมิจฉาทิฐิ ท่านก็ระบุในธรรมวินัยปรับอาบัติพระฆ่าตัวตายเป็นปราชิก"
.
#ภาพหลวงตาสมัยปี252กว่าๆบิณทบาตที่วัดป่าโคกใหญ่

 

"ดีๆ ของดีมาก"
หลวงปู่บุญกู้ วัดมหาธาตุ พระอริยะเจ้าศิษย์ท่านพ่อลี
.
"ครูบาอาจารย์ที่อธิฐานไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว"
พระอาจารย์ สุริยันต์ วัดฉัพพรรณรังสี ผู้มีเจโตแจ่มใส มีมโนมยิทธิที่แม่นย่ำ
.
" ไม่ใช่การเสก!! หลวงตาคุณอธิฐานเชิญบารมีพระพุทธเจ้าพระโมคลาพระสารีบุตรมาช่วย เป็นบุญฤทธิ์ สูงกว่าเสก เขาเรียกอธิฐานจิตนะ"
หลวงพ่อพิเชษ วัดโคกหม้อ พระเกจิผู้เมตตารอบรู้มากมายสรรพวิชาแห่งเมืองละโว้
.
"จับแล้วกำหนดจิตลงไป ขนลุกวาปไปหมด"
พระอาจารย์..(ขอสงวนนาม) ท่านเคยเป็นพระอุปัฐถาก พระอรหันต์เจ้าหลวงปู่เนย
.
"มหาอำนาจตั้วนิ แนวบู๊"
ครูบา...(ไม่ขอเอ่ยนาม)...ผู้เชี่ยวชาญคาถาอาคม
.
.....พอดีไปเจอรูปเหรียญเนื้อทองแดงที่พี่ชายใจดีถ่ายไว้ เลยนึกถึงคำที่ครูบาอาจารย์ พูดถึงเหรียญ ปัญญาอิทธิฤทธิ์. ที่พวกเราร่วมแรงร่วมใจสร้างถวายหลวงตา ช่างชิตเลยเอามาเล่าสู่กันฟังครับ

 

ไม่ทราบว่าเวปเป็นอะไรครับ พิมพ์อะไร โหลด ก็มาไม่ครบ ตัวหนังสือก็ไม่ขยาย สีก็ไม่มา ????

 

รบกวนถามช่างชิตครับ วันเสาร์นี้ (1 ตค.) หลวงตาท่านอยู่วัดไหมครับ คือวัดที่ไชยวานนะครับ ว่าจะพาครอบครัวไปทำบุญ จะตระเวนไปหลายวัดครับ
ขอบคุณมากครับ

 

วันที่ 1 อยู่ครับผม แต่วันที่ 2-3 ไม่น่าอยู่ครับ

 

นำประสบการณ์ความประทับใจของสมาชิกในกลุ่มเฟสมาแชร์ใก้พี่ๆน้องๆอ่านกันครับ
...............................................................................
ผมจะเริ่มต้นยังไงดีครับ ?????
เริ่มเลยนะครับ ... เรื่องมีอยู่ว่า "ลูกชายผม" ลายมือตัดฝ่า ผมเลยส่งรูปใช้พี่ชิตดู (ช่างชิต) ช่างชิต เลยแนะนำให้ผมไปหาหลวงตา ให้หลวงตาตัดผมไฟให้ ....
- ผมยังไม่เคยไปกราบหลวงตาสักครั้ง...!
- วัดหลวงตาไปยังไง....?
ผมเลยโทรหา "ก้อง" เพื่อนสนิท ที่เคยบวชกับหลวงตา ก้องเลยโทรหา "ครูบาเบียร์" เพื่อถามว่า หลวงตาอยู่ไหม ??? วันนี้ตอนเช้า...ผมออกจากบ้าน 07.00น. ถึงวัดประมาณ 09.00น. พอถึงวัด พระท่านกำลังฉันอยู่ ...เอาไงล๊ะเรา ต้องเริ่มต้นยังไง ไม่เคยมาสักที ผมต้องทำยังไงก่อน ถึงจะได้เข้าพบหลวงตา !!!!!
.... คิด คิด คิด.... เดินวนไป ผมเลยเดินเข้าไปหา คุณตาคนหนึ่ง (คนนี้คงจะเป็น มัคทายก) !!! ผมเลยเดินเข้าไปยกมือไหว้ ...แล้วเดินเข้าไปบอกว่า
"ผมพาลูกชาย มาตัดผมไฟครับ" ผมต้องทำยังบ้างครับ
คุณตาตอบ ตาพึ่งมาเหมือนกัน...หนุ่มลองเข้าไปข้างในนะ แล้วกระซิบบอก คนนั้น
ผมเลย แชทไปหาช่างชิต ช่างชิตเลยบอกว่า รอให้ท่านฉันเสร็จ ก็อุ้มลูกไปกราบเรียนท่านละ ตามที่พี่บอก เตรียม กรรไกร ไม่ก็มีดโกนไปด้วย พอหลวงตาฉันเสร็จ ผมก็อุ้มลูกเข้าไปหาหลวงตา บอกหลวงตาว่า ผมพาลูกมาตัดผมไฟครับ หลวงตาก็จับหัวลูกผม แล้วก็พูดกับลูกผมสักพัก หลวงตาก็ท่องคาถา แล้วเป่าหัวให้ 3ครั้ง ก่อนเป่า ท่องทั้ง3ครั้ง (ตอนเป่าหัว ผมนี่ขนลุกเลยครับ เหมือนได้รับอะไรบางอย่าง เส้นผม ของลูกผม เหมือนของวิเศษ) อะไรบางอย่าง พอเป่าเสร๊จ ผมเลยบอกหลวงตา ดูลายมือลูก หลวงตาเลยบอกว่าไม่เป็นไร "ที่เคยได้ยินมา คนลายมือตัดฝ่าจะตายโหง ... มันก็แค่ลายมือ เราสมมุติกันขึ้นมาเอง" หลวงตาก็เลยผูกแขนลูกให้ พร้อมบอกว่า ..."หลวงตาจะบวชให้นะ ต่อไปนี้เป็นลูกหลวงตาแล้วนะ อยู่กับหลวงตา"
หลวงตา เมตตาลูกผม และผมมาก
นี่ครั้งแรกเลยนะครับ ที่ผมได้ไปกราบหลวงตา
*ขอบคุณครูบาเบียร์
*ขอบคุณช่างชิต
*ขอบคุณก้อง
เอะลืมไปครับ....ก่อนกลับ หลวงตาแจกเหรียญด้วยครับ วันนี้โชคดีที่สุด
_/\_ สาธุ

 

.....หลายวันก่อนได้คุยกับพี่ชายที่เป็นไวยาวัจจกรและกรรมการวัด เรื่องงานบุญต่างๆของวัดเรา พี่เขาบอกช่างชิตว่า
"มีเศรษฐีลูกศิษย์หลวงตาคนหนึ่งมาขอเหมาเป็นเจ้าภาพ งานบุญ 100 ปีหลวงปู่และเป็นเจ้าภาพสร้างโบสถ์ทั้งหมด ขอให้บอกว่ายอดเท่าไร แต่หลวงตาท่านปฏิเสธ ไม่เอาแบบนั้น ท่านบอกว่า "เอาให้คนอื่นได้บุญด้วยนะ แบ่งๆช่วยๆกันทำ ได้กุศลพร้อมกันเยอะๆ" "
.
.....นี้ละครับ หลวงตาของเรา ท่านไม่ได้มองแค่งานภายนอกท่านมองงานภายในเป็นหลัก ให้ความสำคัญกับเรื่องจิตเรื่องใจเป็นสำคัญ ครั้งหนึ่ง เจ้าของสำนักข่าวยักษ์ใหญ่(ซึ่งตอนนี้รู้จักกันแล้วเป็นอีกหนึ่งพี่ชายใจดีของช่างชิต) ได้ขอถวายรถตู้ระดับพรีเมี่ยมให้หลวงตา หลวงตาท่านก็ไม่ขอรับนะครับ กระนั้นด้วยแรงศรัทธา พี่เขาก็ขอถวายให้หลวงตาเอาไว้ใช้เวลาไปงานที่ต่างๆ
.
.....ในเรื่องนี้ ช่างชิตเคยถามหลวงตานะครับว่า ทำไมหลวงตาไม่รับเอา..??? ท่านตอบช่างชิตว่า "เอาทำไม ไม่เอาหรอก"!!! ช่างชิตเลยถามต่อว่าเวลาเสียใครซ่อม..?? หลวงตาตอบว่า "ทางผู้ถวายละ เขาขอจัดการหมดแต่บางครั้งที่เสียก็ไม่ได้บอกเขา ซ่อมเอง(หมายถึงออกค่าใช้จ่ายเอง) เขาให้เอามาใช้ เสียมายังให้เขาซ่อมให้ เกรงใจเขา" !!!!!!
.
....บางครั้งช่างชิตหลุดไปเรียก "รถของหลวงตา" ท่านก็จะเมตตาบอกว่า "ไม่ใช่รถหลวงตา หลวงตาไม่มีรถ อันนี้โยมถวายมาให้ใช้งานเฉยๆ" ..... ฟังแล้วก็ทำให้คนคิดน้อยแบบช่างชิตได้คิดอยู่นะครับ ....
.
....เอาละ พอแล้ว ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณให้มากนะครับ นี้ละหลวงตาเรา. พี่ๆน้องๆไปคิดต่อเถอะ
.
.....แจ้งตอนนี้ กลุ่มเรามีผู้ร่วมบุญเจ้าภาพกฐินแล้ว 23 กอง และเจ้าภาพร่วมสร้างผนังโบสถ์อีก 2 กอง. ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านด้วยนะครับ ทุกๆบุญก็ยังสามารถร่วมบุญได้เหมือนเดิมนะครับ เรื่องราวดีๆยังมีอีกมากๆ ว่างๆจะเขียนมาให้อ่านกันนะครับผม
.
#ภาพหลวงตาท่านทักทายเมตตาปลาคราฟพิการ(มันว่ายน้ำหงายท้องเสียศูษย์)ในบ้านของพี่ชายใจดีอีกคนครับ

 

....ตอนนี้กระแสวัตถุมงคลหลวงตาค่อนข้างมาเรื่อยๆนะครับ เงียบๆไม่หวือหวาแต่ค่อยๆขยับๆทั้งเรื่องราคาเช่าหาและผู้คนที่เริ่มแสวงหามากขึ้น
.
....พระเครื่องหลวงตานิ ถ้าไม่นับที่ช่างชิตเขียนลงในโซเชี่ยลแล้ว คนอื่นไม่เคยเห็นใครเขียนนะครับแบบจริงๆจังๆ ฉะนั้น คนจะรู้คุณค่ารู้รายละเอียดพระเครื่องหลวงตาจนต้องแสวงหา ถ้าไม่รู้มาก่อนอยู่แล้วกับตามอ่านที่ช่างชิตเขียน คนทั่วไปไม่ได้อ่านไม่สนใจก็ไม่มีทางรู้หรอก
.
.... แต่แปลกนะ!!! ขนาดนั้นก็เถอะ พระเครื่องหลวงตาก็ยังเป็นที่ต้องการจากญาติโยมที่ศรัทธาอยู่ดี พระเครื่องหลวงตาไม่มีเซียนคอยปั่น ไม่มีนายทุนหน้าม้ามาคอยหนุน "แต่พระเครื่องของหลวงตาใครเอามาลงให้เช่าไม่นานก็มีคนเก็บ"
.
.....จะบอกว่าสร้างน้อยไหม ช่างชิตว่าไม่น้อยหรอกครับ ถ้านับทุกรุ่นที่สร้างๆมานับรวมกันก็หลายหมื่นองค์ แต่ไม่ว่ารุ่นไหนตอนนี้ก็หายากอยู่ดี ไม่มีล้นตลาด จริงไหมละ??
.
....ช่างชิตมาวิเคราะห์ดูนะครับ เหตุก็เพราะ"บารมีของหลวงตาท่านเองละครับ" ไม่ใช่เพราะใครคนอื่นคนใดเลย หลวงตาท่านมีแต่ความเมตตาให้กับทุกๆคน ท่านเป็นแบบอย่างที่ดีในหลายๆเรื่อง ท่านไม่เคยพูดจาโอ้อวด ท่านไม่เคยไปกล่าวหาว่าร้ายใคร อ่อนน้อมถ่อมตน มีแต่ทำกับทำและยิ้มมอบให้ หลวงตาปล่อยวางมาตลอด
.
.....ก็มีเรื่องอยากจะเล่าให้พวกเราฟังว่า กว่าจะมาเป็นหลวงตาให้เรากราบไหว้อย่างทุกวันนี้ มีบททดสอบมากมายที่เข้ามาหาท่าน นอกจากอุปสรรคภายในจากการปฏิบัติแล้ว อุปสรรคจากภายนอกมาทดสอบก็มี
.
.....ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีคนกลุ่มหนึ่งกล่าวหาหลวงตา ทั้งๆที่หลวงตามีเจตนาดีแท้ๆ แต่จะด้วยเหตุผลกลใดมิขอกล่าวถึง คนกลุ่มนั้นก็ว่าร้ายท่านเป็นเรื่องเป็นราวพอสมควร แต่เรื่องก็จบไปเพราะเค้าไม่มีหลักฐาน คราวนี้ลูกศิษย์ที่เป็นใหญ่เป็นโตที่โกรธเคืองแทนหลวงตา กราบเรียนให้ท่านเอาเรื่องคนกลุ่มนั้น หลวงตาก็ไม่เอา ช่างชิตเคยถามว่า ทำไม?? ท่านตอบว่า
.
"จะไปสร้างเวรสร้างกรรมกันต่อทำไม หลวงตาไม่เอา หลวงตาก็ไม่เคยทำแบบที่เค้าพูดอยู่แล้ว ใครอยากพูดอะไรก็พูดไป ใครทำอะไรก็ได้แบบนั้นเอง"
.
....ทุกวันนี้ผ่านมาหลายปี หลายคนที่เข้าใจผิดหลวงตา ก็ประจักษ์แล้วว่าหลวงตาไม่ได้ไปทำแบบที่โดนเค้ากล่าวหา เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์เองครับ นี้คือวิถีทางของ "อริยะบุคคล" ที่ต้องมีอุปสรรคให้ก้าวข้ามและพิสูจน์ว่าจะ"ปล่อยวาง"ได้หรือไหม??
.
...หลวงตาก้าวผ่านมาอย่างสง่างาม เป็นแบบอย่างที่ดีให้พวกเรา เวลาหลวงตาบอกสอนอะไร ใครทำตามที่ท่านบอกท่านสอนได้ช่างชิตยินดีด้วยครับ ช่างชิตเองก็ทำได้นะ แต่ไม่หมด 5555++
.
....พรุ่งนี้จะมาลงรายละเอียดวัตถุมงคลของหลวงตาอีกรุ่น ติดตามกันนะครับ
.
#ภาพเด็กน้อยน่ารักรู้จักก้มกราบหลวงตา

 

.....ต้องขออภัยด้วยครับ เมื่อกี้ที่แจ้งข่าวว่าหลวงตาจะพักกที่บ้านสายไหมวันที่ 5 ปรากฏว่าหลวงตาท่านไม่ได้พักแล้วนะครับ เลยลบโพสออกละกันจะได้ไม่สับสน
.
....ช่างชิตเลยเอาภาพประทับใจมาฝากแทนดีกว่า ช่วงเย็นวานนี้ครับ หลวงตาสมหมาย อตฺตมโน วัดป่าสันติกาวาส อุดรธานี เข้ามากราบเยี่ยมองค์หลวงปู่สิงห์ทอง วัดป่าสุนทรารามและได้บีบนวดถวายองค์หลวงปู่ ยังไ้ด้สนทนาธรรมกันพอสมควร นับว่าเป็นมงคลอย่างยิ่งครับ สาธุ

 

หลวงปู่สิงห์ทอง วัดป่าสุนทราราม บ้านกุดแห่ เลิงนกทา ยโสธรนะครับ

 

ใช่ครับ ผมลืมเขียน แก้ไข เรียบร้อยแล้วครับ ขอบพระคุณมาก

 

......สวัสดีครับพี่ๆน้องๆทุกท่าน วันนี้มีเรื่องเล่าดีๆและเรื่องเล่าสบายๆติดรอยยิ้ม มาเล่าสู่กันฟังหน่อยเกี่ยวกับ “โพธิสัตว์บุรุษและอริยะบุรุษ”
.
เรื่องแรก มีน้องสมาชิกในกลุ่มเรา น้อง จอร์จ ราชนาวี ขึ้นไปกราบครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง จังหวัด ลำพูน
*(ครูบาท่านสร้างบารมีมาทาง พระโพธิสัตว์ หลวงปู่พิศดพระอรหันต์มากฤทธิ์ศิษย์ท่านพ่อลี รับรองเองว่า ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ของจริง ครูบามีเจโตแจ่มใส่และบารมีสูงมาก)
.
....น้องจอร์จขึ้นไปธุระส่วนตัวและไปร่วมบุญสร้างเจดีย์กับครูบาท่านด้วย ในการนี้น้องได้รับมอบหมายจากแอดฌานให้นำเหรียญปัญญาอิทธิฤทธิ์ไปบรรจุในเจดีย์ให้คู่กับพระศาสนาและมีคนกราบไหว้บูชาอีกนานเท่านาน
.
....พอน้องไปถึงทำธุระส่วนตัวกับท่านเสร็จ ก็ได้กราบเรียนท่านว่าจะขอมอบเหรียญของหลวงตาไว้บรรจุในเจดีย์ ครูบาท่านรับไปแล้วซักพัก ท่านก็พูดว่า “เหรียญรุ่นนี้ พระอริยะเจ้าอธิฐานจิตนะ”
.
......น้องเลยกราบเรียนท่านไปว่าเป็นเหรียญของหลวงตาสมหมายอยู่อุดรธานี มอบให้ท่านไว้เพื่อบรรจุเจดีย์ ท่านก็พยักหน้ารับแล้วบอกว่า
“เราจะเอาไปบรรจุเจดีย์ให้” อนุโมทนากับน้องและกราบครูบาด้วยจิตนับถือครับ
.
...เรื่องที่สอง เป็นธรรมะขึ้นลึกมากกกกกกก อ่านแรกๆอาจฮา 5555++ ต้องอ่านและคิดพิจารณาซักสามตลบรับรองว่ามีธรรมแฝงไว้ในตัวแน่นอน เรื่องมีอยู่ว่า ปีที่แล้วถ้าจำไม่ผิด ช่างชิตกับแอดฌานไปอุปัฐถากหลวงตาที่วัดอโศกงานท่านพ่อลี ขากลับ แอดฌานขับหลวงตานั่งหน้าช่างชิตนั่งหลัง พอดีแอดฌานลืมของ เลยจอดรถแล้ววิ่งกลับไปเอาของเพราะถ้ากลับรถ รถติดมากเวลานั้นคงเข้าวัดไม่ได้ หลวงตาก็นั่งรอกับช่างชิตในรถ ซักพักหลวงตาท่านเห็นรูป ครูบากฤษดาในรถ ท่านก็ถามว่า
.
ลต “พระที่ไหน??” ท่านหยิบรูปขึ้นมาดู
.
ชช “รูปครูบาพระทางเหนือ ชื่อ ครูบากฤษดา ครับ”
.
ลต “อ้อ”
.
...ช่างชิตเห็นแบบนั้น ก็คิดในใจว่า "ลองถามท่านหน่อยดีกว่า หลวงตาต้องตอบอะไรเด็ดๆแน่ๆ อิอิ" ก่อนจะบอกและถามหลวงตาว่า
.
ชช “หลวงตาพิจารณาแล้วเป็นไงบ้างครับ??” ช่างชิตหยอดๆ
.
ลต “เป็นสิ..”
.
ชช “เป็นไงครับ?????” ลุ้นระทึก รอคำตอบ เพราะคิดว่าต้อง เว่อร์วัง พิเศษสุดๆ
.
ลต “เป็น เป็นพระแบบหลวงตาไง” ท่านพูดเสร็จก็หันมายิ้มแล้วส่งรูปให้ช่างชิต
.
ชช ”........!!!!!.......” เหมือนซื้อ 22 แล้ว เลขออก 33 เฮ้อออออออ ไปต่อไม่ถูก 55555++
.
......แรกๆช่างชิตก็ไม่ด้คิดอะไร แต่พอเวลาผ่านไป มานึกทบทวนดู “เป็นพระแบบหลวงตา.....” คำว่า “พระ” ถ้าตีความหมายให้ลึก ไม่ได้หมายถึงคนที่ห่มเหลืองนะ แต่หมายถึงคนที่ “คุณธรรมในใจสูงเหนือกว่าปุถุชนคนธรรมดา” เหมือนที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์หลายท่านเคยบอกว่า “ดูพระ ให้ดูที่ใจ ไม่ใช่การแต่งกาย” เช่นนั้น แสดงว่า "ครูบาท่านเองก็เป็นผู้ที่มีคุณธรรมสูงสมกับเป็นพระทั้งภายนอกและภายใน อย่างที่หลวงตาว่านั้นแหละ"
.
.......ก็ประมาณนี้ละครับ ช่างชิตก็คิดของช่างชิตอย่างนี้นะ ก็เล่าสู่กันฟัง ใครคิดยังไงก็ลองไปพิจาณาเอานะครับ
.
#เครดิตภาพเพจธรรมะฟรีมีในโลก
#ยังสามารถร่วมบุญกฐินกับสร้างโบลถ์หลวงตาได้เหมือนเดิมนะครับ

 

.....สวัสดีครับพี่ๆน้องๆทุกท่านวันนี้เอาประสบการณ์ของคนในครอบครัวช่างชิตมาเล่าสู่พี่ๆน้องๆได้อ่านกันหน่อย อ่านเพื่อความบันเทิงนะครับ ไม่ต้องไปคิดมาก เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อ3-4เดือนก่อน น้องสาวช่างชิตจะไปสอบเป็นแอร์โฮสเตส ของสายการบินต่างชาติสายการบินหนึ่ง แต่ด้วยความไม่มั่นใจเพราะมันยากมากและคนสมัครเยอะ ก็ได้ไลน์มาสอบถามช่างชิตว่าจะสอบได้ไหม (คืออารมณ์คนที่รู้จักรอบข้างช่างชิต จะคิดว่าช่างชิตมีพวกญาณวิเศษอะไรประมาณนั้น ทำนายทายทักอะไรมักถูก จริงๆคือกรูมั่ว 5555++)
.
..... พอดีตอนนั้นช่างชิตนั่งอยู่กับหลวงตาพอดี เลยกราบเรียนถามท่านหน่อยดีกว่า จะได้เป็นกำลังใจให้น้องด้วย
.
ชช “หลวงตาครับ น้องทราย(ชื่อน้องสาว)จะไปสอบแอร์จะได้ไหมครับหลวงตา??”
ลต “สอบอะไรนะ?”
ชช “สอบเป็นแอร์โฮสเตสอะครับหลวงตา เห็นว่ารับน้อยแล้วสอบยากน้องเลยไม่มั่นใจครับ”
.
.....หลวงตาท่านนิ่งซักพัก ก่อนบอกช่างชิตว่า
ลต “ได้อยู่ ไปโลด แต่งานมันเหนื่อยเด้อ บอกน้องด้วย” แล้วท่านก็พูดเรื่องอื่นกับญาติโยมคนอื่นไป
ช่างชิตก็พิมพ์บอกน้องไปว่า
ชช “หลวงตาบอกได้ แต่เหนื่อย ไปเถอะ เตรียมตัวดีๆมีสติ อย่าลืมนึกถึงหลวงตานะ”
.
....หลังจากนั้นมา 3เดือน น้องสาวสอบคัดเลือกไม่ต่ำกว่า 3-4 รอบ ก็ผ่านมาและที่ไม่น่าเชื่อที่สุดคือตอน ตรวจสุขภาพ เพราะจริงๆจะไม่ผ่านอยู่แล้ว แต่ช่างชิตก็ย้ำให้กำลังใจกับน้องว่า “หลวงตาบอกผ่าน ยังไงก็ผ่าน ตั้งสติ ระลึกถึงหลวงตา สู้เอา” และพอไปตรวจอีกครั้งก็ผ่านได้แบบไม่น่าเชื่อจริงๆ สุดท้ายก็ผ่านและได้บรรจุเป็นแอร์ สร้างความดีใจกับครอบครัวมาก
.
.....พอผ่านและบรรจุได้ ช่างชิตมานึกถึงคำพูดหลวงตาในวันนั้น คือไม่ต้องไปคิดว่ามันอภินิหารอะไรมากมายนะครับ แต่มันก็น่าแปลกใจหน่อย คือ จริงๆน้องสาวช่างชิตก็หน้าตาธรรมดานะ ไม่ได้หน้าตาดีหุ่นดีอะไร ภาษาก็พอได้ แต่เชื่อว่าหลายๆคนที่ไปสมัครย่อมดีกว่าแน่นอน และสุขภาพก็ไม่สมบูรณ์ด้วยในตอนนั้น แต่จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ “น้องก็ได้ ตามที่หลวงตาท่านได้พูดไว้จริงๆ”
.
....สำหรับช่างชิตไม่มีอะไรต้องสงสัยครับ “อนาคตังสญาณ” ของหลวงตา ช่างชิตเขียนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 เรื่อง มีเรื่องนี้เพิ่มอีกเรื่องจะเป็นไรไป (ลองไปหาอ่านดูนะครับ)
.
....ล่าสุดพ่อแม่พาน้องไปกราบหลวงตา ไปบอกหลวงตาว่าได้เป็นแอร์แล้ว (ช่างชิตไม่ได้ไปด้วยทำงาน) แม่ช่างชิตเลยขอพระให้เอาไว้ติดตัวไปบิน หลวงตาก็สอนว่า “จริงๆไม่ต้องมีก็ได้ ไม่ต้องยึดติดวัตถุ พระอยู่ในใจเรา พุทโธๆ อย่างเดียวก็พอ” พูดเสร็จ น้องสาวก็นึกว่าหลวงตาจะไม่ให้ละ แล้วหลวงตาก็หยิบๆออกมาจากย่ามละเรียกไปเอา บอกว่า “เอาอันนี้ไป พระปิดตา เวลาไปเจออะไรไม่ดี ก็ปิดตาไว้ ไม่ต้องไปรู้ ไปเห็นมัน”
น้องมาบอกตอนหลังว่า "ฟังแล้วลึกซึ้งลงใจมาก"......
.
....พอช่างชิตกลับบ้าน แม่เลยเล่าให้ฟังว่าไปกราบหลวงตามาหลวงตาให้พระน้องมาด้วย ช่างชิตเลยขอดูว่าเป็นพระรุ่นไหน พอน้องเอามาให้ดู ปรากฏว่าไม่เคยเห็นครับ ด้านลงปั้มตราดอกบัวด้วย ช่างชิตเอามาจับวางบนมือแล้วก็พูดคุยกับน้องไป อยู่ดีๆขนก็ค่อยๆลุกชันแบบไม่นึกไม่ฝัน จนช่างชิตต้องบอกน้องว่า “หลวงตาให้ของที่พิเศษจริงๆ เก็บไว้ติดตัวดีๆขึ้นเครื่องไปไหนมาไหนก็ติดตัวไปนะ” (ที่ขนลุก ไม่ได้บอกว่าตัวเองมีพลังพิเศษอะไร แต่แบบว่ามีความรู้สึกว่าพระองค์นี้ดีมากจริงๆ)
#ปัจจุบันน้องดันทำหายนั้งเสียอกเสียใจสองสามวันละ
.
.....ที่เล่ามาทั้งหมด ก็อยากจะบอกทุกท่านว่า “คำอวยพรดีๆจากครูบาอาจารย์ที่เราเคารพนับถือ” ไม่ได้ทำให้ปัญหาและอุปสรรคที่เราเผชิญมันหมดหรือหายไปหรอกครับ แต่คำอวยพรเหล่านั้นเป็น”กำลังใจ”เสริมสร้างแรงใจให้เราผ่านปัญหาและอุปสรรคที่เราเผชิญไปได้นั้นเอง อันนี้พูดกันในแง่เหตุและผลแบบปัญญาชน แต่ถ้าพูดทั้งเรื่อง”พลังแผ่เมตตาจิต”เรื่อง”บุญวาสนา” อันนี้ความสามารถช่างชิตไม่พอ เลยทิ้งไว้ในฐานที่เข้าใจและกัน ยังไงซะก็อ่านเพลินๆไม่ต้องไปคิดอะไรมากนะครับ
.
.....นอกจากธรรมะจากปากหลวงตาแบบ “ไดเร็ก” ที่สอนช่างชิตโดยตรงแล้ว ถ้ามีเรื่องราวอะไรดีๆ ช่างชิตจะนำมาฝากพี่ๆน้องๆทุกท่านนะครับ ส่วนใครมีอะไรดีๆประทับใจก็เอามาฝากช่างชิตและทีมแอดมินด้วยละ บุญกฐินบุญสร้างโบสถ์ยังรับต่อไปเรื่อยๆนะครับ ตอนนี้กฐินของกลุ่มเรา 26 กองแล้วและเจ้าภาพสร้างโบสถ์อีก 3 กอง ก็ขออนุโมทนากับทุกท่านด้วย สาธุครับ

 

.....ช่างชิตเลิกสวดมนต์ไหว้พระมาเกือบ 2 เดือนแล้วครับ เอาตรงๆเลยนะครับขี้เกียจ(นิสัยไม่ดี) 5555++
.
.....แต่เมื่อคืนได้รับข่าวไม่สู้ดีเกี่ยวกับในหลวง ทำให้ไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ในใจก็คิดไม่รู้จะทำยังไง อยากให้ท่านหาย ก็คิดจากใจประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ที่ไม่ได้ดีแต่บอกว่ารักในหลวงแต่ปาก อะไรที่พอจะทำได้นิดๆหน่อยๆขอทำเถอะ ที่คิดออก ช่างชิตคงทำได้คือการ "ตั้งจิตอธิษฐานให้ในหลวงหายจากอาการประชวรไวๆ"
.
.....ตัดสินใจกลับมาสวดมนต์นั่งสมาธิอีกครั้งความขี้เกียจหายโดยพลัน เมื่อคืนสวดพาหุงและชินบัญชรพร้อมตั้งจิตอธิษฐาน "ขอบารมีขอคุณพระรัตนตรัย เทวดาอินทร์พรหมทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15ชั้นดิน จงหนุนนำให้ในหลวงหาย ขอบุญกุศลที่ช่างชิตเคยทำมาและแม้นอายุขัยที่ตัวช่างชิตมี ถ้าสามารถน้อมถวายให้ในหลวงท่านได้จริง ช่างชิตก็ขอถวาย ไม่เสียดายชีวิต"
*(ที่เขียนนิพูดจริงนะครับ ไม่ได้เอาหล่อ สมมุติมีเทวดามาบอกจะต่ออายุและสุขภาพให้ในหลวงอยู่แข็งแรงอีก 10 ปี แลกกับชีวิตช่างชิตให้หมดไปใน 3 วัน 7 วัน จะยอมไหม?? ช่างชิตก็เอานะ เพราะเชื่อว่าท่านอยู่ มีคุณค่ากับประเทศชาติมากกว่าช่างชิตอยู่และที่สำคัญช่างชิตก็ไม่เคยประมาทกับความตายอยู่ละ งั้นจะตายทั้งทีถ้ายังเป็นประโยชน์กับชาติกษัตริย์ได้บ้างก็ ตายได้ ช่างชิตไม่มีปัญหาครับ)
.
.....พออธิฐานจบขนลุกไปทั้งตัว ช่างชิตเชื่อเหลือเกินว่าถ้าคนในชาติตั้งใจอธิฐานน้อมถวายจิตที่บริสุทธิ์อวยพรให้พระองค์ท่าน "ปาฏิหาริย์ต้องมีจริงครับ" หลวงตาสอนเสมอเรื่อง "แรงอธิษฐาน"
.
.....ช่างชิตไม่ใช่คนบ้าราชวงค์นะครับ ประเภทราชวงค์ผิดไม่ได้หรือแตะต้องไม่ได้ ปกป้องไม่ลืมหูลืมตา แต่จากที่สัมผัสมาตลอดทั้งชีวิต ช่างชิตยอมใจให้ในหลวงจริงๆ
.
....ในหลวงท่านเป็นคนดีครับ ดีมากๆ ไม่ใช่ดีสร้างภาพหรือดีเพราะตามใจใครแล้วเขาว่าดี
.....ในหลวงไม่เคยบอกว่าตัวท่านดี แต่ท่านพิสูจน์มาทั้งชีวิตให้ช่างชิตเห็นแล้วว่า "คนดีที่ควรยกย่องเป็นยังไง"
.
....ช่างชิตขอเรียนเชิญ สมาชิกพี่ๆน้องๆทุกท่านที่มีจิตรักในความดีและสิ่งที่ในหลวงท่านเสียสละทำเพื่อชาติและคนไทยเรา ขอพวกเราสวดมนต์และตั้งจิตอธิษฐานส่งพลังใจให้ในหลวงหายจากอาการประชวรในเร็ววันด้วยนะครับ
.
#ไปรับเสด็จในหลวงในวันที่5ธันวาครับไปมา5ปีติดละ
#ไม่ได้ไปชุมนุมอะไรนะ

 

....เสียใจที่สุดครับ....

 

......"ความในใจของช่างชิตกับเทวดาของพวกเรา".....
.
...ถ้ามีคนมาถามว่า "ในชีวิตคุณอยากเจอใครมากที่สุด??" ช่างชิตจะตอบไปเลยว่า "อยากกราบพระพุทธเจ้าและอยากเข้าเฝ้าในหลวง"..
.
....ตั้งแต่เด็กจนโต จำความได้ก็จะเจอภาพของผู้ชายคนหนึ่งเดินทางไปทั่วทุกหนแห่ง ทำงานไม่มีวันหยุด พอโตจะรู้เรื่องก็รู้ว่าท่านเป็น "พระเจ้าแผ่นดินของเรา" แม้จะรู้แบบนั้นก็มีคำถามนะว่า "อ้าว แล้วทำไมท่านไม่ไปอยู่สบายๆ แต่งตัวแบบในละคร มาให้ชุดธรรมดาไปนู้นไปนี่ ลำบากลำบนทำไม???"
.
....ก็เก็บความสงสัยมาจนโต และก็หาข้อมูลว่าทำไมท่านทำแบบนั้น ก็ได้ข้อมูลทั้งสองด้านนะ ด้านดีก็รู้ๆกันอยู่ ส่วนอีกด้านก็พวกที่ว่าท่านสร้างภาพ ท่านทำเรื่องไม่ดีกับ ร 8 และว่าท่านอยู่เบื้องหลังเรื่องนั้นนู้นนี้ก็ว่าไป พอรับฟังมาพอสมควรก็มาพิจารณาวิเคราะห์แยกแยะ
.
....ดูจากข้อมูลอะไรหลายๆอย่างแล้ว ต่างฝ่ายก็ว่าข้อมูลตัวเองถูกต้องข้อมูลอีกด้านผิด พวกที่ให้ร้ายท่าน มันก็พูดอย่างกับมันอยู่ในเหตุการณ์ ฟังอ่านมาพอสมควรแล้ว สุดท้ายก็มาจบ ที่จุด"ชี้ขาด" นั้นคือ "เหล่าพระอริยะเจ้าที่เป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและบางองค์มีหลักฐานชัดเจนว่าท่านเป็นผู้มีจิตบริสุทธิ์จริงๆกระดูกเป็นพระธาตุ ได้กล่าวรับรองว่า "ในหลวงของเราองค์นี้ท่านเป็นคนดีจริงๆ" ดีแบบหาไม่ได้แล้วด้วย" ที่สำคัญไม่ใช่แค่บอกรูปสองรูป แต่ที่หาข้อมูลได้และเป็นระดับ "พระอริยะเจ้าจริงๆ" มีไม่ต่ำกว่า 30 รูป!!!!
.
.....รองผู้ที่ออกมารับรอง "เป็นบุคคลที่อยู่ในหลักคุณธรรมและความดีและเป็นผู้มีจิตบริสุทธิ์"บวกกับข้อมูลต่างๆที่พวกเราได้รับมา ฉะนั้น จากการวิเคราะห์ทั้งหมด ทำให้ช่างชิตมั่นใจเลยว่า "ในหลวงท่านเป็นคนดีที่ทำเพื่อประชาชนจริงๆ"...... และพอพิจารณาดีๆจะเห็นว่าข้อมูลของอีกด้านก็เป็นข้อมูลที่ครึ่งๆกลางๆใส่ไข่และมั่วมีเจตนาใส่ร้ายท่านซะมากกว่า
.
....เมื่อมั่นใจว่าท่านเป็น "คนดีจริงๆทำเพื่อประชาชนจริงๆตามที่เห็นมาตั้งแต่เล็กๆ" ก็อยากจะเจอท่านซักครั้งในชีวิต จังหวะดีงาน60ปีครองราชย์ เมื่อปี 2549 ช่างชิตจึงชวนเพื่อนกับน้องชายไปลานพระรูป ทั้งแต่ 2 ทุ่ม ก่อนวันงาน(วันที่คนใส่เสื้อเหลืองมากันเป็นล้านอะ)
.
....คืนนั้นช่างชิตนั่งด้านหน้าติดรั้วเลย ช่วงบริเวณเลยอนุสาวรีย์ ร 5 มานิดหน่อย นั่งๆนอนๆตรงนั้นตั้งแต่สองทุ่มจนเช้า ปวดเยี่ยวก็ปวด ลุกไปไหนก็ไม่ได้ พอเช้าเท่านั้นละ คนที่มาใหม่จากด้านข้างดันรั้วที่กั้นไว้จนพังแล้วทะลักเข้าไปจนเกือบติดประตูพระราชวงค์
.
....จากมาก่อนเพื่อนกะนั่งหน้ากลับกลายเป็นกองกลางเฉยเลย แล้วคนก็ดันแย่งที่กันไปมา สุดท้ายพัดหลงกับเพื่อนและน้องชายจนได้ กลายเป็นตัวคนเดียว ง่วงก็ง่วง ร้อนก็ร้อน หิวก็หิว ปวดเยี่ยวปวดขี้ โห ทุกอารมณ์เลยละ
.
....พอในหลวงเสด็จมานะ คนก็เริ่มดันกันมั่วไปหมด คือไม่ต้องถามว่าเห็นท่านไหมนะ ตอบ "ไม่เห็น" 555++ จบงานแถมยังกลับมาด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก แต่พอกลับถึงที่พักมาเห็นภาพในทีวี อารมณ์เปลี่ยนไปทันที นึกในใจว่า "คนมากันมากขนาดนี้เลยหราเนี้ย งั้นก็ไม่แปลกใจหรอกทำไมถึงวุ่นวายขนาดนั้น" ก็ภูมิใจครับที่เป็นส่วนหนึ่งของคนที่ไปวันที่สำคัญ เกือบได้อยู่ด้านหน้าด้วย 5555++
.
....เจอแบบนั้นมา ถามว่าเข็ดไหม ตอบเลย ไม่มีทาง 555++ งานต่อมา วันพ่อ 5 ธันวาคม ปี 2555 วันนั้นชวนเพื่อนไปด้วย 2 คน ไปนั่งรอจองที่กันก่อนวันงานเหมือนเดิม เพื่อนอีกคนโอเคร อีกคนบอกจะตามไปเช้า ไปถึงลานพระรูป ช่างชิตก็กลัวจะเหตุการณ์ซ้ำรอยกับตอน 60 ปีครองราชย์ ก็นึกในใจว่าขออย่าให้เป็นแบบนั้นเลย
.
....สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดีคนยังมาเยอะเหมือนเดิมแต่กลับไม่วุ่นวาย ทุกคนมีแต่รอยยิ้มและเอื้ออาทรต่อกัน และพอในหลวงท่านเสด็จมา ช่างชิตเห็นท่านไกลมาก แต่ก็พอยกกล้องซูมถ่ายภาพท่านได้ ดีใจมากครับปีนั้น
.
....ปีต่อมาวันพ่อ 5 ธันวาคม 2556 พอทราบข่าวว่าในหลวงท่านไม่ได้มาที่ลานพระรูป ช่างชิตและเพื่อนบุกไปหัวหินเลยครับ สูตรเดิมนั่งจองที่ข้ามวัน นอนบนถนน ง่วง หิว ปวดเยี่ยว ยุ่งกัด อดเอา เช้ามา ร้อน หิว ปวดเยี่ยว ง่วง ก็อดเอา แลกกับ "เวลา 3 วินาทีที่เห็นท่านยิ้ม ในระยะไม่ถึง 5 เมตร จากตาสดๆของตัวเองบอกคำเดียวครับว่า "คุ้มที่สุด"แม้ท่านจะไม่ได้หันหน้ามาทางช่างชิต(ท่านหันหน้าไปทางขวามือท่านช่างชิตอยู่ด้านซ้าย)
.
.....แต่ก็ถือว่าได้อยู่ใกล้ท่านมากที่สุดแล้ว ภาพที่เห็นท่านสง่าดูตัวใหญ่มาก สมเป็นจอมกษัตริย์ บารมีแห่งเมตตาที่สัมผัสได้จากรอยยิ้มท่าน ทำให้พระบรมโอสาธิราชที่นั่งใกล้ๆตัวเล็กไปในพริบตา วันนั้นร้องไห้ดีใจมาก
.
.....ปีต่อมาวันพ่อ 5 ธันวาคม 2557 ในหลวงท่านไม่สบายอยู่ที่ศิริราช ช่างชิตกับเพื่อนๆก็ใช้สูตรเดิม บุกไปนอนรอที่ลานสมเด็จย่าตั้งแต่คืนก่อนวันที่ 5 แต่วันนั้น ท่านไม่ได้ลงมาครับท่านคงไม่สบายจริงๆ ได้เห็นแต่พระเทพ แต่ก็ไม่เป็นไรครับ ยังไงก็มาให้ในหลวงรู้ว่าเรารักท่าน
.
....หลังจากนั้นก็คิดเสมอว่าถ้ามีโอกาสอยากไปกราบท่านใกล้ๆอีกครั้ง คิดว่าวันที่ 5 ธันวาปีนี้ จะต้องไปเฝ้าท่านอีกครั้ง ทุกๆวันช่างชิตระลึกถึงท่านเสมอ บางครั้งก็ฝันว่าได้เข้าเฝ้าท่าน ตื่นมาก็มีความสุข วันไหนเห็นข่าวท่านนั่งรถเข็นออกไปนู้นไปนี้ก็ดีใจ อยากให้ท่านแข็งแรงและอยู่ไปนานๆ
.
....บางครั้งก็คิดว่าถ้าจะต้องตาย ขอตายก่อนท่านละกัน เพราะคิดว่าในหลวงท่านจะอยู่กับเราจนเกินอายุ 99 ช่างชิตขออยู่ฉลองครองราชย์ 80 ปี แล้วจะตายก็คงไม่มีอะไรต้องเสียใจแล้วละ ใจคิดตลอด ถ้ามีอะไรทำเพื่อท่านได้ก็อยากทำ เห็นรูปท่านแล้วสุขใจปัญหาอะไรก็ผ่านไปได้่ เพราะคิดเสมอว่าท่านเหนื่อยกว่าเรา
.
....แล้วสองสามวันมานี้ ตั้งแต่ได้รับข่าวว่าท่านไม่สบายหนัก ก็ไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้ แต่ในใจก็อยากทำอะไรเพื่อท่านบ้าง จึงขอสวดมนต์ให้ท่านหาย สวดจบก็บอกว่า "ถ้าชีวิตตายแลกกับสุขภาพที่ดีของท่านได้ ช่างชิตก็ยอม" เช้าตื่นมาก็ไปซื้อเสื้อสีชมพู ตั้งใจว่าจะใส่ในวันอังคารหน้า ตั้งใจมากๆ
.
....สุดท้ายทุกอย่างก็พังไม่เหลืออะไรเลย จริงๆเตรียมใจตั้งแต่บ่ายห้าโมงแล้ว แต่ก็คิดว่ามันต้องมีปาฏิหาริย์สิ พอได้รับข่าวที่ชัดเจน หัวใจสลาย พูดไม่ออก นั่งตัวชา นึกถึงวันเก่าๆ วันที่ตั้งใจไปหาท่านไปเข้าเฝ้าท่าน ร้องครับร้องอย่างไม่อาย
.
....ทำไม ทำไมถึงพรากท่านไปแบบนี้ ในใจก็รู้ว่าท่านเหนื่อยมาก อยากให้ท่านพัก แต่ไม่ใช่อยากให้ท่านจากไป หนึ่งทุ่มจนจะตีสองแล้ว นั่งร้องไห้จนไม่มีน้ำตา คนที่เป็นราชาเป็นกษัตริย์ ถ้าท่านใช้ชีวิตสบายๆแบบราชาที่อื่นที่เขาทำกัน ท่านคงอายุยืนกว่านี้
.
....แต่ท่านเจ็บท่านป่วยส่วนหนึ่งก็เพราะท่านใช้ร่างกายอย่างหนักมาทั้งชีวิต ในหลวงท่านมีตาที่ใช้การได้เพียงข้างเดียวคือข้างซ้าย 70ปีที่ท่านทำทุกอย่างเพื่อชาวไทยท่านมีตาข้างเดียว คนไทย70 ล้านคนเคยรู้ไหมว่า กษัตริย์ของตนนั้นพิการตาบอด เคยรู้บ้างไหม...ห๊ะ
.
....บางพวกก็จงเกลียดจงชังท่าน อย่างกับท่านไปฆ่าพ่อมัน บางพวกก็โหนท่าน ใช้ท่านเป็นเครื่องมือ ทะเลาะห่าไรกันก็ไปรบกวนแต่ท่าน พวกมึงไม่อายกันบ้างหรา ในหลวงเหนื่อยขนาดไหนแล้ว มึงยังจะตักตวงกับท่านอีก
.
....ไม่เคยคิดเลยจะต้องมาเขียนอะไรแบบนี้ เขียนไปร้องไห้ไป นอนไม่หลับ ไม่รู้จะเขียนอะไรแต่มันอึดอัดอยากระบาย ตอนที่ในหลวงท่านอยู่ ช่างชิตเชื่อเหลือเกินว่าประเทศไทยจะไม่มีสงครามกลางเมืองแบบ อิรัก ซีเรีย หรือ ลิเบีย ถ้าท่านยังอยู่ประเทศจะก้าวผ่านช่วงที่เลวร้ายไปได้ เพราะคนไทยเกิน 98 % มีท่านเป็นที่ยึดเหนี่ยวในจิตใจ บารมีท่านค้ำชาติมา 70 ปี เราถึงสงบร่มเย็นมาตลอด หลังจากนี้จะเป็นยังไง..ทั้งภัยจากตัวคน ทั้งภัยจากธรรมชาติ ..หดหู่ที่สุด
.
.... ช่างชิตไม่ใช่พวกคลั่งเจ้าครับ แม้วันนี้สถานะท่านไม่ใช่เจ้าไม่ใช่กษัตริย์ แต่ที่ท่านทำเพื่อพวกเราทั้งคนที่รักหรือเกลียดท่าน แต่ท่านก็ทำเพื่อคนไทยมากขนาดนี้ ช่างชิตก็ยังรักท่านอยู่ดี
.
...ภูมิใจครับที่เกิดในแผ่นดินท่าน เกิดในรัชกาลที่ 9 เกิดเป็นข้ารองบาทของในหลวงภูมิพล ขอตั้งสัจจะสาบานจะขอเป็นข้าเป็นประชาของในหลวงร9ไม่ว่าจะชาตินี้หรือชาติไหนๆก็ตามตลอดไป.....

 

....เมื่อวานมาทำบุญวันออกพรรษากับหลวงตา ถวายให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คนมากจริงๆ. .....ตอนกลางคืน หลวงตาพาญาติโยมทำวัตรสวดมนต์ภาวนาทั้งคืนถวายพระเจ้าอยู่หัวและมีการเทศนาอบรม พิเศษคือหลวงตาอธิฐานจิตวัตถุมงคลถึงเช้าด้วย หลักๆมี
-เหรียญหลวงพ่อ9ล้าน
-เหรียญเม็ดแตงหลวงตา
-เหรียญในหลวงบารมีเต็มแผ่นดิน (ในถุงเขียว หลวงตาอธิฐานจิตตลอดพรรษาแล้วและพิเศษปิดท้ายสวดมนต์ใหญ่วันนี้ด้วย รายละเอียดการสร้างหาอ่านเอานะ บอกเลยว่าไม่ธรรมดา)
.
....ตอนนี้บุญกฐินที่ให้ทางช่างชิตและทีมงานเป็นสะพานบุญปิดรับแล้วนะครับ เพราะเดี้ยวเหรียญในหลวงที่จะมอบให้ตั้งหากไม่พอ 5555++ เพราะจริงๆตั้งเป้าไว้แค่ 20 กองแต่ตอนนี้รวมทั้งสิ้น 35 กองแล้ว หลังจากนี้ก็จะได้ทำการจัดส่งให้พี่น้องที่ร่วมบุญกับกลุ่ม ฉะนั้น ใครจะทำต่อจากนี้ก็ทำได้ที่วัดเลยนะครับ
.
.....ช่วงกลางรายการ ญาติโยมขอโอกาสกราบขอขมาหลวงตาด้วย อนุโมทนาสาธุกันนะครับ

 

.....สวัสดีครับพี่ๆน้องๆทุกท่าน พอดีช่างชิตเปิดดูรูปในมือถือไปเรื่อยๆก็มาสะดุดภาพๆหนึ่ง เรื่องของเรื่องคือ ช่างชิตพาคุณพ่อไปเที่ยววิหารเซียนที่พัทยา แล้วก้าวขาเข้าไปในห้องๆหนึ่ง มีรูปในหลวงเต็มไปหมด ก็ดูรูปนั้นรูปนี่ไปพอเดินมาเรื่อยๆมาหยุดอยู่กลางห้อง อยู่ดีๆขนก็ลุกชันเต็มแขนไปหมด นึกแปลกใจ ก็เลยกวาดสายตารอบๆบริเวณ ก็ไปเห็นเก้าอี้ตัวหนึ่งมีป้ายเขียนประมาณเป็น เก้าอี้ที่ในหลวงท่านเคยนั่ง ครั้งเสด็จมาที่วิหารเซียน จึงถึงบางอ้อ เพราะพลังบารมีท่านแพร่ไพศาลจริงๆ แม้แต่ที่ๆท่านเคยมาก็ยังมีพลังของคุณงามความดีของท่านให้เราสัมผัสได้ เลยเอาภาพมาฝากกันครับ #รูปแรก
.
....เล่าถึงภาพนั้นแล้ว ก็นึกได้ว่าเคยคุยกับหลวงตาเรื่องในหลวงหลายปีแล้ว เคยเขียนไว้ในพลังจิต ขอนำมารีรันให้พี่ๆน้องๆได้อ่านกันหน่อยละกัน ดีกว่านั่งเฉยๆ เรื่องราวจะเป็นยังไงติดตามกันได้เลยครับ
........................................................................
ช่างชิตถามหลวงตาตอบ “หลวงตากับในหลวง”
ชช "หลวงตาเคยเห็นในหลวงไหมครับ"
ลต "เคยสมัยหลวงตาเป็นเด็ก(คิดเอาเองนะครับว่านานแค่ไหนไม่ต่ำกว่า 55 ปีครับ) จำได้ว่าท่านเดินทางมาสกลนคร ตอนนั้นโรงเรียนพานักเรียนออกมารับเสด็จท่านที่ริมถนน หลวงตาใส่หมวก...(ขออภัยจำชื่อไม่ได้)....ยืนรอรับเสด็จ หลวงตาเลยได้เห็นท่านไม่ชัดหรอกแค่แวปเดียว" หลวงตาพูดพร้อมทำท่าทำทางเหมือนจะบอกว่าหมวกที่กล่าวถึงรูปทรงเป็นยังไง
.
ชช "ในหลวงเดินทางเยี่ยมเยือนสารทุกข์สุกดิบประชาชนขนาดนี้ ท่านทำทุกอย่างเพื่อคนไทยแต่ก็ยังไม่วายมีคนบางกลุ่ม ด่าว่านินทา ท่านนะครับหลวงตา"
.
......ทันใดนั้นหลวงตาก็หัวเราะเบาๆแล้วยิ้มก่อนพูดกับช่างชิตว่า
ลต "ออยเอ้ย นับประสาอะไรในหลวงขนาดพระพุทธเจ้าก็ยังมีคนนินทาว่าร้ายเลยหรือแม้แต่พระพุทธรูป ท่านไม่เคยทำอะไรเลยแท้ๆนั่งเฉยๆ ก็ยังมีคนมาตำหนิแบบนั้นแบบนี้ พระพุทธเจ้าท่านถึงสอนให้รู้เท่าทันมัน ไม่ยึดติดกับ คำสรรเสริญ คำนินทา ต่างๆ..... " ก่อนที่หลวงตาจะว่าภาษาบาลีอีกประโยคแต่ช่างชิตจำไม่ได้
.
ชช "คือ มันแบบว่าคนที่มาว่าท่านก็ดูเป็นพวกมีความรู้ บางคนจบนอกเรียนสูง ดูเป็นปัญญาชน เขาพูดแบบมีหลักมีการ(ส่วนหนึ่ง มโนอีกหลายๆส่วน) มันทำให้ดูมีความหน้าเชื่อถือคนที่ฟังโดยไม่คิดตาม ได้แต่ดูว่าคนพูดจบนั้นจบนี้ดีกรีแบบนั้นแบบนี้ ก็พลอยหลงเชื่อตามเขาไปอีก บางบ้านเดี้ยวนี้หนักมากเอารูปท่านลงแล้วเอารูป ..(นายกไทยคนหนึ่งที่เราก็รู้ๆว่าใคร)...ขึ้นมาแทนเลยครับหลวงตา"
.
ลต "ปัญญาทางโลกนิ มันไม่ใช่ปัญญาจริงๆนะออย มันเป็นปัญญาทางโลกียะที่ยังยึดตัวกูของกูเป็นปัญญาที่วิ่งหาแต่อย่างอื่นแต่ไม่เคยค้นหาตัวเอง เป็น มิจฉาทิฐิ มันไม่ใช่เป็นปัญญาที่รู้แจ้งเห็นจริง มันเทียบกันไม่ได้กับ ปัญญาทางธรรม ก็เหมือน ......(คนนั้นละ)....จะเอามาเทียบกับในหลวงไม่ได้ ใครเอามาเทียบกันก็เป็น มิจฉาทิฐิ"
.
ชช "ครับหลวงตา แล้วได้ยินมาว่า ในหลวงท่านปราถนาพุทธภูมิ จริงไหมครับ"
.
ลต "อันนี้หลวงตาก็ไม่รู้ท่านนะ"
...............................................................
......หลังจากที่ในหลวงท่านสวรรคต ก็ขอเอาคำกล่าวของหลวงตาที่พี่ Jhumpot Soleil ได้เอามาลงไว้ในกลุ่มเสริมหน่อยนะครับ หลวงตากล่าวว่า
.
"ในหลวงท่านทำคุณประโยชน์ต่อแผ่นดินและประชาชนมามากแล้ว พวกเราก็ต้องรู้จักคุณของผู้มีพระคุณต่อแผ่นดิน และทำประโยชน์ตอบแทนผู้มีพระคุณ หรือทำถวายแด่องค์ท่าน"
.
....ทุกวันนี้ ช่างชิตก็ยังยากจะทำใจ บางครั้งก็บอกตามตรงเลยว่า มีน้ำตาไหลออกมาบ่อยๆ เอาเถอะ "แม้ไม่มีปาฏิหาริย์ในวันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา แต่เราก็มีปาฏิหาริย์ก่อนหน้านั้นมาตั้งตลอด 70 ปีแล้วละครับ"
#รูปหิ้งในหลวงที่วัดหลวงตา

 

....... “แหวนหัวพยัคฆ์ ครบรอบ 65 พรรษา หลวงตาสมหมาย”
.
.....กระทู้นี้ขอรวบรวมประสบการณ์เด็ดๆแหวนหัวเสือของหลวงตามาเล่าสู่กันฟังหน่อยครับ
.
.....เรื่องแรก (ขอไม่เปิดเผยนามและต้นเรื่องนะครับ เพราะเจ้าของเรื่องไม่สะดวกเปิดเผยตัว)
....มีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งได้รับแหวนหัวเสือหลวงตาเนื้ออัลปาก้าจากญาติที่สนิท แกเห็นสวยงามดีจึงได้เอาไปเลี่ยมแขวนคอ วันหนึ่งไปเล่นกอล์ฟกับก๊วนผู้หลักผู้ใหญ่ของกองทัพ ปรากฏว่าวันนั้นแกชนะตลอดผู้ใหญ่ในก๊วนจึงแซวว่ามีอะไรดี พอเห็นแหวนหัวเสือหลวงตาในคอ ก็ถามว่าของพระอาจารย์ที่ไหน ชื่ออะไร สวยดี ถามเสร็จไม่ว่าเปล่า สั่งให้ สห เอาแหวนหัวเสือไปทดสอบความ “ขลัง” ทันที(น่าจะรู้ๆนะครับว่า ทหารเขาจะทำกันยังไง)
.
....ปรากฏว่า....ช่างชิตจะเขียนยังไงดีละ แม้จะเป็นเรื่องจริงแต่ถ้าเขียนลงรายละเอียดเยอะ ดูแล้วมันลบมากกว่าบวกก็ไม่เขียนดีกว่า ..... เอาเป็นว่าหลังจากการทดสอบ ผู้หลักผู้ใหญ่ท่านนั้น คว้าแหวนไปแล้วบอกว่า
.
“ลื้อเอาไป 20,000 อั้วขอ”!!!!
.
ด้วยความที่ถูกผู้หลักผู้ใหญ่ขอแกก็ปฏิเสธไม่ได้ จึงต้องจำยอมมอบให้ไป
.
....หลังจากวั้นแกก็กลับมาขอแหวนหัวเสือกับญาติที่ให้แกมา แต่ญาติแกไม่มีแล้ว ญาติแกซึ่งสนิทกับช่างชิตดีจึงโทรมาถามช่างชิตว่ามีอีกไหม ช่างชิตบอกไม่มี จึงสอบถามว่าทำไม แกเล่าให้ฟังจึงได้ทราบเรื่องราวครับ
.
.....*** เรื่องนี้เกิดขึ้นจริง บุคคลในเรื่องมีชื่อเสียงตัวตนจริง มีหลักฐานแน่ชัดในการทดสอบ แต่ช่างชิตไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ ถือซะว่า อ่านเพื่อความบันเทิงก็แล้วกันนะครับ
..................................................................................
.....เรื่องที่สอง พี่ชายที่สนิทกับช่างชิตเป็นลูกศิษย์หลวงตาเหมือนกัน
ช่างชิตเห็นแกใส่แหวนหัวเสือเนื้อทองคำ จึงชมว่าสวยดี แฟนแกจึงเล่าให้ช่างชิตฟังว่า วันที่เอามาให้หลวงตาอธิฐานจิต(มีงานอะไรจำไม่ได้ละ) หลวงตากำแหวนวงนี้ในมืออธิฐานตลอดคืน จนตี 5 จึงมอบคืนให้แก
.
......แกก็ขับรถกลับบ้าน พอจะเข้าบ้านเท่านั้นละ สายตาแกก็ไปกระทบกับเงาดำทมึนลักษณะเหมือนแมวขนาดใหญ่อยู่หน้าบ้าน!!!! แกก็ตั้งสติมองดีๆ ในใจก็คิดว่าหมา แต่หมามันไม่ใช่แบบนี้แน่นอน นึกขึ้นได้ว่า แกพึ่งได้แหวนหัวเสือกลับบ้านมาด้วย คิดได้ดังนั้น แกขนลุกไปหมด รวบรวมสติขยับรถเข้าไปใกล้ๆเงาก็ค่อยๆจางหายไป
.
.....แหวนวงนี้มีคนมาให้แก 50,000 บาท แต่แกไม่ขายครับ แกบอก ทรงคุณค่าทั้งด้านจิตใจและด้านพุทธคุณเป็นที่สุด
.
....ครับ ได้อ่านกันไปแล้ว ท่านจะเชื่อไม่เชื่อจะคิดเห็นอย่างไรก็สุดแล้วแต่ ช่างชิตไม่รับรู้ด้วยหรอก เพราะเราไม่มีมาขายอยู่ละ หายากมาก ไม่รู้ไปอยู่ไหนหมด 55555++
.
.....ถ้าวัตถุมงคลรูปเสือนิ ยุคนี้มีเกจิอาจารย์ทำออกมาหลายองค์หลายที่ครับ แต่เอาส่วนตัวช่างชิตนะ ย้ำว่าส่วนตัว ช่างชิตลงใจ “หลวงปู่สุพจน์ วัดห้วยพัฒนา” ที่เจ้าพ่อเขาสมิงมาขอสร้างบารมีด้วย กับ หลวงตาเรานี้ละครับ
.
.....แม้หลวงตาเราไม่ได้มีวิชาอาคมอะไรเกี่ยวกับเสือเลยก็ตาม แต่หลวงตาท่านเกิด”ปีขาล” บวกกับ”อำนาจจิตที่สั่งสมฝึกฝนมาตลอดชีวิต” มีเท่านั้นเองละครับ
.
......กระนั้นช่างชิตว่าแม้มีแค่นั้น แต่ก็ยังมีเรื่องราวให้ระทึกใจน่าติดตามอย่างประสบการณ์ที่นำมาเล่าสู่กันฟังในครั้งนี้ได้เหมือนกันนะ ในความรู้สึกส่วนตัวนะครับ ช่างชิตคิดว่า หลวงตาคงไม่สร้างแหวนหัวเสืออีกแล้ว หรืออาจจะสร้างแต่คงอีกนาน ต่อไปจะเป็นของตำนานครับ เล่าแค่นี้พอ ค่อยมาเล่าอีกขี้เกียจพิมพ์ละ
.
***ถ้าใครเคยเห็นหลวงตาเวลาท่านทำหน้าดุ ท่านดุลูกศิษย์ลูกหาที่พูดไม่ฟัง สายตาท่านก็สายตาเสือสายตาพยัคฆ์ดีๆนี้ละครับ จ้องมาหลบกันจะไม่ทัน แต่รับประกันว่าน้อยคนจะได้เห็นเพราะ หลวงตาจะยิ้มเมตตากับญาติโยมทุกคนตลอดอยู่เสมอ
.
#รูปแหวนเนื้อทองคำ มาลงให้ชมนะครับ