คชสีห์๙บารมี๙บารมี๙แผ่นดินหลวงปู่หมุนเสก

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 30 สิงหาคม 2010.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญรุ่นแรกพิมพ์นั่งปืนหลวงปู่ปรง วัดธรรมเจดีย์

    ให้บูชา 800 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระผงรูปเหมือนหลวงปู่บุญฤทธิ์ ๙๓ ปี รุ่นแรก สร้า้ง100,000องค์เนื้อขาวมีเนื้อเขียวด้วยครับ

    ภาพพิธีอธิฐานจิต


    www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=1304]-:-

    ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ
    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2014
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    จัดส่ง

    EK 7779 5089 3 TH บางละมุง

    ขอบคุณครับ
     
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญหลวงปู่เริ่ม วัดจุกกะเฌอ

    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ


    [​IMG] [​IMG]
     
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    ประวัติครูบากองแก้ว วัดต้นยางหลวง

    ครูบากองแก้ว วัดต้นยางหลวง อำเภอสารภี เชียงใหม่ พระอริยะสงฆ์รูปสำคัญของเชียงใหม่ เป็นผู้ที่บรรดาพุทธศาสนิกชนทั้งหลายให้ความเคารพเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่ง ท่านถือกำเนิดเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2440 ณ.บ้านร้อง ต.ป่าบง อ.สารภี เชียงใหม่ เป็นบุตรคนที่ 4 ในจำนวนพี่น้อง 7 คน ของโยมบิดาชื่อมา โยมมารดาชื่อหล้า ครั้นพออายุได้ 14 ปี จึงเข้าบรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดต้นยางหลวง ต่อมา พ.ศ.2459 ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมี เจ้ากาบแก้ว ณ.เชียงใหม่ เป็นโยมอุปัฏฐาก มีครูบาสิทธิ วัดศรีคำชมภู เป็นพระอุปัชฌาย์ พระคันธวงศ์ วัดศรีคำชมภูเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอินทรส วัดไชยสถานเป็นพระอนุสาวนาจารย์ และได้รับฉายาว่า ญาณวิชโย

    ครูบากองแก้วท่านเป็นผู้มีความรู้แตกฉาน ในสมัยนั้นหาที่เรียนนักธรรมตามแบบภาคกลาง
    ได้ยาก แต่ท่านก็ได้ร่ำเรียนจนสามารถสอบนักธรรมได้ ต่อมาก็ได้เป็นครูสอนนักธรรมแก่พระภิกษุสามเณรทั้งหลายจนมีพระภิกษุสามเณร สามารถสอบกนักธรรมได้หลายรูปท่านจึงเปิดโอกาสให้ภิกษุอื่นสอนแทน
    ประมาณปี พ.ศ.2474 ได้มีภิกษุชาวอินเดียนาม พระโลกนาท ได้เข้ามาในนครเชียงใหม่ ครูบากองแก้วได้เข้าศึกษาธรรม และแนวทางการเรียนทางวิปัสสนาธุระจากภิกษุชาวอินเดีย จนทราบซึ้งในพระธรรม จึงตั้งจิตฉันมังสวิรัติเพียงวันละมื้อ นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
    ครูบากองแก้วท่านถือวัตรออกธุดงทุกปี ท่านจะะุดงค์ไปทั่วภาคเหนือ บางครั้งข้ามไป
    เวียงจันทร์ หลวงพระบาง และบางครั้งธุดงค์ไปถึงประเทศพม่า และครั้งหนึ่งในป่าครูบากองแก้วท่านก็ได้เคยพบกับพระอาจารย์มั่น ท่ามกลางป่ามาแล้ว
    ครั้งที่ท่านครูบาเจ้าศรีวิไชย ได้ริเริ่มสร้างทางขึ้นสู่ดอยสุเทพ ครูบากองแก้วก็ได้ชักชวนศรัทธาชาวบ้านเข้าร่วมสร้างทางในครั้งนั้นจนถนน ประวัติศาสตร์ได้เสร็จสมบูรณ์ในที่สุด
    สุดท้ายแห่งชีวิตครูบากองแก้ว เป็นที่รู้จักและศรัทธาแก่่สาธุชนทั้งหลาย จึงมีผู้นิมนต์ไปในงานต่างๆ อยู่่่เสมอแม้แต่ถึงกรุงเทพ ฯ การพักผ่อนมีน้อยท่านเริ่มเจ็บป่วย อาพาธเล็กๆ น้อยๆ เนื่องจากตรากตรำงาน จนกระทั้งปี พ.ศ.2522 ท่านเกิดอาพาธหนัก แพทย์วินิจฉัยว่าท่านเป็นโรคขาดอาหาร ทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง จนกระทั้งถึงวันที่ 3 กรกฎาคม 2524 ท่านก็มรณะอย่างสงบ รวมอายุได้ 84 ปี พรรษา 64

    วัตถุมงคลของครูบากองแก้ว วัดต้นยางหลวง

    วัตถุมงคลของท่านนั้นมีมากมายหลายอย่าง อาทิ เสื้อยันต์ ชานเมี่ยงเสก ตะกรุดกาสะท้อน (นิยมมาก หายาก) พระเนื้อดินเผาสร้างปี พ.ศ.2517 พิมพ์ต่างๆ 4 พิมพ์ ได้แก่ พิมพ์รูปเหมือนสี่เหลียม พระพิมพ์รูปเหมือนสามเหลียมเล็ก พิมพ์นางกวัก พิมพ์พระสีวลี เหรียญรุ่นแรกปี 2517 (ยอดนิยม) และเหรียญจตุรพรรุ่นแรกพิมพ์นั่งพานปี 2520 (นิยม เสกไตรมาสพิธีใหญ่ มวลสารเยี่ยม) และเหรียญรุ่นต่างๆ อีกหลายรุ่นด้วยกัน
    วัดถุมงคลของครูบากองแก้วดีเลิศหลายด้าน เสื้อยันต์นั้นคงกระพัน ตะกรุดกาสะท้อนนั้นดีในการป้องกันสะท้อนสิ่งร้ายต่างๆ เหรียญและวัตถุมงคลอื่นๆดีทางแคล้วคลาด มีประสบการณ์มากมาย เป็นที่เสาะแสวงหาของคนทั้งหลายครับ

    เหรียญครูบากองแก้ว

    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เบอร์บัญชีผมครับ
    เบอร์บัญชีธ.กรุงไทย KTB125-0-08923-9 supachai thu
    โอนเงินแล้วช่วยแจ้งวันเวลาที่โอนในกระทู้เพื่อง่ายในการตรวจสอบหรือทางPMแล้วจะรีบดำเนินการจัดส่งEMSไปให้โดยด่วนนะครับ..หลายรายการก็ค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    ขอความกรุณาโอนเงินภายใน 3 วันทำการหรือถ้าไม่สะดวกติดต่อมาได้ครับ

    ไม่เกิน 7 วัน หรือตามสมควรครับ

    ติดต่อได้ที่ 08..1.70..4..72..64
     
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญหลวงปู่บุญศรี วัดใหม่ศรีสุทธาวาส ผี๒๕๔๒

    (ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2014
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญหลวงพ่อมนัส วัดทุ่งจันคำ

    ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ


    [​IMG] [​IMG]
     
  10. psp1

    psp1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +461

    จองครับ
     
  11. psp1

    psp1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +461
    โอนแล้ว 350.02 แจ้งที่อยู่ใน PM ครับ
     
  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    จัดส่ง

    EK 7779 5329 9 TH สมุทรปราการ

    ขอบคุณครับ
     
  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2014
  14. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2014
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระสมเด็จหลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว

    ให้บูชา 500 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  16. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    [FONT=Tahoma,]<table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#E0E0E0" valign="top">[​IMG]
    </td></tr></tbody></table>"หลวงปู่บัว เตมิโย" หรือ "พระครูพนมสมณกิจ" อดีตเจ้าคณะตำบลธาตุพนม และอดีตเจ้าอาวาสวัดหลักศิลามงคล หมู่ 16 ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม

    เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของชาวเมืองนครพนม มีวัตรปฏิบัติอันงดงาม มีวิทยาคมอันเข้มขลัง กำราบสิ่งอัปมงคลชั่วร้ายได้อย่างราบคาบ

    หลวง ปู่บัว เป็นศิษย์สืบสายธรรมจากพระครูวิโรจน์ รัตนโนบล หรือ "หลวงปู่รอด" แห่งวัดทุ่งศรีเมือง จ.อุบลราชธานี ที่ได้มาบูรณะองค์พระธาตุพนม

    อัต โนประวัติ เกิดในสกุล ศรีอาจ เมื่อวันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม 2457 ตรงกับวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 10 ปีขาล ที่บ้านบุ่งฮี ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายสุ และนางคูณ ศรีอาจ

    ช่วงวัยเยาว์ ท่านเป็นเด็กวัดเรียนหนังสือที่วัดบุ่งฮี จนอายุ 16 ปี ได้ขออนุญาตโยมบิดามารดา เข้าพิธีบรรพชา มีพระอาจารย์ทอง เจ้าอาวาสวัดบุ่งฮี เป็นพระอุปัชฌาย์

    ในช่วงเป็นสามเณร ได้ศึกษาหนังสือธรรมใบลานและสวดมนต์บทต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ

    ครั้น อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ วัดศิลามงคล โดยมี พระเทพสิทธาจารย์ หรือ "หลวงปู่จันทร์ เขมิโย" เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์โส เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    ภาย หลังอุปสมบท ท่านได้ศึกษาพระปริยัติธรรม ศึกษาการแพทย์แผนโบราณ รวมทั้งศึกษาวิทยาคมแขนงต่างๆ จากพระอาจารย์ทอง นานกว่า 4 ปี ก่อนกราบลาพระอาจารย์ทองมาอยู่จำพรรษาที่วัดสวนตาล (วัดมรุกขาราม) บ้านหลักศิลาใต้

    ต่อมา ท่านได้ลาสิกขาไปช่วยครอบครัวทำไร่ทำนา

    "วัน หนึ่งนำกระบือออกไปไถนา เห็นมันเหนื่อยหอบ จึงเห็นภาพความทรมานและสงสาร ก่อนพูดกับตัวเองว่าไม่น่าสึกออกมาก่อกรรมทำเวรเช่นนี้เลย จึงนำเรื่องไปบอกบิดามารดา ก่อนตั้งสัจจะไว้ว่าจะขอบวชไม่ขอสึกตลอดชีวิต" เป็นคำกล่าวปรารภถึงสาเหตุที่หลวงปู่กลับมาบวชอีกครั้งหนึ่ง

    เข้า พิธีอุปสมบทครั้งที่ 2 เมื่อพ.ศ.2487 ที่วัดศิลามงคล โดยมีพระอาจารย์โส เป็นพระอุปัชฌาย์, พระมหาพรหมา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    หลังอุปสมบท ท่านได้ข้ามแม่น้ำโขงไปฝั่งลาว พออายุ 25-26 ปี ได้ขอฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่รอด ที่วัดทุ่งศรีเมือง จ.อุบลราชธานี ศึกษาวิชาช่างและวิทยาคม นาน 1 ปี ก่อนเดินทางกลับไปเยี่ยมพระอุปัชฌาย์

    ท่านสอบได้นักธรรมชั้นตรี ที่สำนักเรียนวัดศรีเทพฯ กับหลวงปู่จันทร์ เขมิโย ได้ 1 ปี

    ในเวลาต่อมา พระอาจารย์โส เจ้าอาวาสวัดศิลามงคล ได้มรณภาพ ชาวบ้านจึงนิมนต์ให้ท่านทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาสวัด

    หลังจัดงานศพพระอาจารย์โส ท่านได้ออกท่องธุดงค์ตามป่าดงดิบแถบ จ.หนองคาย ก่อนธุดงค์ไปเทือกเขาภูลังกา นมัสการพระอาจารย์วัง ฐิติสาโร

    พ.ศ.2499 ได้นำคณะพระธุดงค์ข้ามฝั่งลาว ฝึกจิตในถ้ำให้เข้มแข็งก่อนกลับมาที่วัด ขณะนั้นหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล และหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ธุดงค์มาแวะพักที่วัดเกาะแก้วอัมพวัน อ.ธาตุพนม นาน 1 เดือน ท่านจึงได้เข้านมัส การและได้รับคำชี้แนะการปฏิบัติกัมมัฏฐานขั้นสูงจากบูรพาจารย์ทั้งสองท่าน

    ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2485 เป็นเจ้าอาวาสวัดหลักศิลามงคล พ.ศ.2505 เป็นเจ้าคณะตำบลธาตุพนม-เรณูนคร-พระกลางทุ่ง (ธรรมยุต)

    งานด้านเผยแผ่ เป็นพระธรรมทูตประจำจังหวัด เป็นองค์พระธรรม กถึกแสดงธรรม เป็นอาจารย์อบรมจิตตภาวนา

    ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2511 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นโทที่ พระครูพนมสมณกิจ

    พ.ศ.2527 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นโท ในราชทินนามเดิม

    หลวง ปู่บัว นำความเจริญมาสู่วัดหลักศิลามงคล พ.ศ.2494 สร้างกำแพงวัดจนเสร็จ สร้างถนนเชื่อมระหว่างหมู่บ้านกับถนนทางหลวง รื้อสะพานไม้ถมดินสร้างศาลา ลอกบึงหน้าวัดให้เป็นสระสาธารณประโยชน์ อีกทั้งได้ขยายเขตวัดให้กว้างกว่าเดิม

    ในช่วงบั้นปลายชีวิต หลวงปู่บัว อาพาธด้วยโรคนิ่วในไต ทำให้สุขภาพร่างกายทรุดโทรมลง

    กระทั่ง วันที่ 5 พฤศจิกายน 2531 เวลา 08.00 น. ท่านได้มรณภาพอย่างสงบ ด้วยโรคหัวใจล้มเหลว ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สิริอายุ 75 ปี 53 พรรษา ท่ามกลางความเศร้าสลดของคณะศิษย์

    คณะศิษย์ได้สร้างพิพิธภัณฑ์ หลวงปู่บัว ใช้งบกว่า 3 ล้านบาท แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2553 เพื่อรวบรวมชีวประวัติ อัฐบริขาร วัตถุมงคล และรูปเหมือนหลวงปู่บัว ไว้ให้พุทธศาสนิกชน ได้ไปกราบนมัสการ

    ขอบขอบคุณท่านเจ้าของบทความที่มาข้อมูลอย่างสูงครับ
    [/FONT]

    เหรียญรุ่น๑หลวงปู่บัว เตมิโย สภาพสวยเดิมๆ

    ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ


    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2014
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    ‘หลวงพ่อจวน’วัดหนองสุ่ม พระอริยสงฆ์แห่งเมืองสิงห์บุรี : บุญนำพา

    อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี นับเป็นแหล่งเครื่องรางของดี และพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง โดยเฉพาะพระเกจิอาจารย์มีหลายท่านที่สืบเนื่องกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อาทิหลวงพ่อแจ้ วัดน้อย พระเกจิอาจารย์ยุคเก่า รุ่นเดียวกับหลวงปุ่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ท่านได้สร้างตะกรุดชุด ๓ ดอก ไว้แจกลูกศิษย์ โดยจะทำแจกเป็นรายบุคคล ตะกรุดชุดของท่านมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เลื่องลือด้านคุ้มภัยอันตรายจากศัสตราวุธทุกชนิด นอกจากนี้ยังป้องกันเขี้ยวงาและฟ้าผ่าได้ด้วย

    อีกท่านหนึ่ง คือ หลวงพ่อจอย วัดกระทุ่มปี่ ท่านได้สร้างตะกรุดปลอกลูกปืนไว้แจกลูกศิษย์ มีพุทธคุณยอดเยี่ยมทางทางด้านมหาอุด และคงกระพันเป็นเลิศและที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง คือ หลวงพ่อใย วัดระนาม ท่านได้สร้างพระปิดตาเนื้อเมฆพัด ขึ้นเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวของ จ.สิงห์บุรี มีพุทธคุณยอดเยี่ยมทางด้านคงกระพันชาตรี ชนิดแมลงวันไม่ได้กินเลือด

    นอกจากนี้ยังมีอีกหลายพระเกจิอาจารย์ที่สืบทอดวิทยายุทธอย่างต่อเนื่องกันมาตลอด

    สำหรับพระเกจิอาจารย์ ที่จะขอกล่าวถึงในฉบับนี้ คือ หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม ท่านเป็นผู้ที่ทรงวิทยาคุณทางด้านไสยเวท มีศีลาจาวัตร และวัตรปฏิบัติแบบสมถะ รักสันโดษ มีพลังจิตที่สูงส่ง และแก่กล้า เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม ให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือชาวบ้านที่มีความทุกข์มาหาท่านด้วยความเสมอภาค จนบังเกิดศรัทธาจากทั่วทุกสารทิศ เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านทั้งใกล้และไกล จนเป็นที่เลื่องลืออย่างกว้างขวาง

    วัดหนองสุ่ม ตั้งอยู่ที่ ต.ห้วยชัน อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เป็นวัดราษฎร์สังกัดสงฆ์มหานิกาย สร้างขึ้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น สภาพเดิมของวัดหนองสุ่มเป็นป่าไม้ทั้งสิ้น โดยมีต้นโพธิ์ใหญ่ ๓ ต้น อันเป็นไม้สัญลักษณ์แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าสถิตอยู่

    มองดูรอบๆ วัดแล้วจะเห็นเป็นท้องนาอันเขียวชอุ่ม ปูชนียวัตถุที่สำคัญในวัดหนองสุ่ม คือ หลวงพ่อโพล้ง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย เนื้อสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง ๑ ศอก ๑ คืบ มีความศักดิ์สิทธิ์มาก อยู่คู่กับวัดหนองสุ่มมาแต่ดั้งเดิม ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่มณฑปของหลวงพ่อจวน

    ประวัติโดยสังเขป หลวงพ่อจวน เกิดเมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๔๕๘ ตรงกับปีเถาะ วันศุกร์ ที่ ต.ห้วยชัน อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ด้วยฐานะที่ยากจน และพ่อแม่ถึงแก่กรรมตั้งแต่เยาว์วัย ท่านจึงอยู่ในความอุปการะของพี่สาว และมีโอกาสได้เรียนหนังสือจบเพียงแค่ชั้นประถมศึกษา
    ในปี ๒๔๗๓ ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดหนองสุ่ม แต่อยู่ได้ได้เพียง ๓ ปี ก็ลาสิกขา เพื่อไปช่วยครอบครัวพี่สาวประกอบอาชีพกสิกรรม

    พออายุได้ ๒๒ ปี ท่านอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดประศุก ต.ประศุก อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี โดยมีพระสมุห์จรัส เจ้าอาวาสวัดประศุก เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดหนองสุ่ม ๑ พรรษา แล้วย้ายไปอยู่ที่วัดโพธิ์ลังกา ต.ท่างาม อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม จนสามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก
    พ.ศ.๒๔๘๒ ได้ลาสิกขาประมาณ ๕ เดือน เพื่อช่วยงานพี่สาวที่อุปการะเลี้ยงดู หลังจากนั้นท่านได้อุปสมบทใหม่อีกครั้ง เมื่อปี ๒๔๘๓ ขณะอายุได้ ๒๖ ปี ณ วัดประศุก เช่นเดิม โดยมีพระครูพิศิษฐ์ศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดประศุก เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “สุจิตโต” หมายถึงว่า “ผู้มีจิตใจที่ดีงาม” ท่านได้จำพรรษาอยู่วัดหนองสุ่ม ตลอดมา จนกระทั่งละสังขาร

    หลวงพ่อจวน ได้เริ่มมุ่งศึกษาทางด้านไสยเวท โดยไปฝากตัวเป็นศิษย์ของพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิชาในยุคนั้น ได้แก่ หลวงพ่อแป้น วัดบ้านไร่ (วัดโฆสิทธาธรรม) อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี, หลวงพ่อปั้น วัดค้างคาว อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท, หลวงพ่อกอง จ.สุโขทัย และอาจารย์ที่เป็นฆราวาสอีกหลายท่าน จนมีความรู้ความเชี่ยวชาญ จึงเริ่มสร้างวัตถุมงคลขึ้น เพื่อให้ลูกศิษย์และผู้ที่เคารพศรัทธานำไปสักการบูชา

    วัตถุมงคลที่จัดสร้างมีหลายประเภท ตั้งแต่ปี ๒๕๐๐ - ๒๕๓๖ มีทั้งรูปถ่าย ตะกรุด ผ้ายันต์ ล็อกเกต พระพิมพ์สมเด็จ พระกริ่ง รูปหล่อ และเหรียญ มีทั้งหมดหลายรุ่น ที่ได้รับความนิยมในวงการพระเครื่อง อาทิ

    ๑.เหรียญใบโพธิ์ รุ่นแรก เนื้ออัลปาก้า พ.ศ.๒๕๐๕, ๒.เหรียญจักรใหญ่ ลงยา รุ่นวางศิลาฤกษ์อุโบสถ พ.ศ.๒๕๑๔, ๓.รูปหล่อรุ่นแรก เนื้อนวโลหะ พ.ศ.๒๕๑๗

    ๔.เหรียญรุ่นพิเศษ สายสิญจน์ไหม้ พิธีพุทธาภิเษก ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) กรุงเทพฯ สร้างแจกทหาร ตำรวจ พ.ศ.๒๕๑๘, ๕.พระพิมพ์สมเด็จ หลังสุ่มเงิน-สุ่มทอง พ.ศ.๒๕๑๙, ๖.พระนาคปรกใบมะขาม รุ่นแรก พ.ศ.๒๕๑๙ ฯลฯ เป็นต้น

    วัตถุมงคลของหลวงพ่อจวนแต่ละรุ่น มีกิตติคุณเลื่องลือว่าเข้มขลังยิ่งนัก มีพุทธคุณโดดเด่นทางมหาอุด คงกระพันชาตรี และแคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายต่างๆ และยังแฝงทางด้านเมตตามหานิยม ค้าขายเจริญรุ่งเรือง อีกด้วย จึงเป็นศรัทธาสนใจของบรรดานักสะสมพระเครื่อง ที่ต้องการนำไปสักการบูชาเป็นสิริมงคล
    พระเครื่องของท่าน บางรุ่นยังพอเสาะหาได้ เนื่องจากท่านได้สร้างไว้หลายรุ่น รุ่นที่มีประสบการณ์มาก คือ เหรียญรุ่นพิเศษ สายสิญจน์ไหม้ พ.ศ.๒๕๑๘ และพระพิมพ์สมเด็จ หลังสุ่มเงิน-สุ่มทอง พ.ศ.๒๕๑๙ ซึ่งมีผู้นำไปทดลองยิงด้วยอาวุธปืนแล้ว ปรากฏว่ายิงไม่ออก บางนัดยิงออก แต่ไม่ถูกเป้า
    นอกจากนี้ บางรายพกพาติดตัวไปแล้วประสบอุบัติเหตุ โดยยานพาหนะที่นั่งโดยสารไปเกิดประสานงาชนกัน หรือพลิกคว่ำตกถนน ปรากฏว่าแคล้วคลาดปลอดภัย ไม่ได้รับอันตรายใดๆ เลย

    หลวงพ่อจวน ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ ชั้นสูงสุดเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ที่ “พระครูสุจิตตานุรักษ์” และได้รับการแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะอำเภออินทร์บุรี เมื่อปี ๒๕๒๗

    ท่านได้มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๓๖ สิริอายุรวม ๗๙ ปี พรรษา ๓๕

    หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม ท่านเป็นพระเกจิดังอีกท่านหนึ่งในสิงห์บุรี ที่วัตถุมงคลของท่าน มีประสบการณ์กันมากมาย
    พระอาจารย์ที่หลวงพ่อจวนได้ศึกษาเล่าเรียน เช่น
    - หลวงพ่อแป้น วัดบ้านไร่ วิชาเครื่องรางของขลัง
    - หลวงพ่อกอง จังหวัดสุโขทัย วิชาตะกรุดโทน
    - หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ(ข่าวสด)

    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ มี 2 เหรียญตามสภาพครับเลือกพิจรณาตามใจครับ

    (ปิดรายการทั้ง2เหรียญ)

    เหรียญที่ 1

    [​IMG] [​IMG]

    เหรียญที่ 2

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2014
  18. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    หลวงปู่พระครูโสภณ จันทรังสี

    หลวงปู่เพ็ง จันทรังสี ปัจจุบันหลวงปู่ท่าน อายุ ๘๘ ปี พรรษา 68 เป็น เจ้าอาวาสวัดบ้านละทาย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสระเกษ เป็นศิษย์เอกของหลวงปู่อ้วน โสภโน แห่งวัดบ้านโนนค้อ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ พระเกจิอาจารย์ดังแห่งยุคปี พ.ศ.2500 ของจังหวัดศรีสะเกษ เป็นศิษย์น้องหลวงปู่สังข์ สุริโย วัดนากันตรม และเป็นศิษย์ผู้พี่ หลวงปู่ประสาร อรหปัจจโย วัดโนนผึ้ง ศิษย์สายสำเร็จลุนหนึ่งเดียวในจังหวัดศรีสะเกษ สายท่านธรรมบาล วัดบ้านยางขี้นก อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี หลวงปู่ท่านมีนิสัยสันโดษ เรียบง่าย เป็นกันเอง ใครแวะเวียนไปกราบท่านจะได้รับความเมตตาจากท่านเท่าเทียมกันทุกคน
    ชาติภูมิ : นามเดิมว่า นายเพ็ง พละศักดิ์ เกิดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2466 เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของบ้านละทายโดยกำเนิด โดยเป็นบุตรคนที่สองของนายผาง นางคำตา พละศักดิ์ มีพี่น้องร่วมสายโลหิตเดียวกัน 7 คน ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ นอกจากบิดามารดาได้เสียชีวิตไปแล้ว ฐานะทางครอบครัวของพ่อแม่ในอดีตจัดอยู่ในฐานะปานกลาง อาชีพหลักทำนา ทำสวน ทำไร่ เหมือนชาวชนบทในท้องถิ่นทั่วไป ดังนั้น ในอดีต นายเพ็ง พละศักดิ์ จึงมีชีวิตอยู่กับท้องทุ่งนา คลุกคลีอยู่กับกลิ่นโคลนสาบควาย เลี้ยงควายตามท้องทุ่ง สู้แดดทนฝน ตรากตรำ ฝ่าความลำบากมาด้วยความอดทน
    ครั้นพอเติบโตขึ้น เมื่อ พ.ศ.2473 ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนบ้านละทาย ( วัดบ้านละทาย ) จนจบชั้นประถมปีที่ 4 อันเป็นชั้นสูงสุดของโรงเรียนในสมัยนั้นจากการเล็งเห็นการณ์ไกลของผู้เป็น บิดามารดา และฐานะทางครอบครัวพอที่จะส่งเสียให้ลูกได้เรียนต่อสูงขึ้น ดังนั้นนายเพ็ง พละศักดิ์ จึงได้เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนช่างไม้ศรีสะเกษ เมื่อ พ.ศ. 2482 ในสมัยนั้นสภาพการศึกษาระดับสูงขึ้นจะมีเฉพาะในตัวจังหวัดเท่านั้น เรียนอยู่ชั่วระยะหนึ่ง เมื่ออำเภอกันทรารมย์ มีโรงเรียนราษฎร์ระดับมัธยม จัดตั้งขึ้น จึงย้อนกลับมาเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนมัธยมกันทรารมย์แห่งนี้ในเวลาต่อมา จนจบชั้นมัธยมปีที่ 2
    ครั้งเมื่อ พ.ศ. 2484 ได้เข้ารับราชการเป็นครูประชาบาลตำแหน่งครูโรงเรียนบ้านอาลัย ตำบลจาน อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นครั้งแรกในชีวิต อยู่ได้ไม่นานก็ลาออก
    เมื่อ พ.ศ. 2485 เข้ารับราชการเป็นครูครั้งที่ 2 อีกโดยได้บรรจุเป็นครูโรงเรียนบ้านสำอาง อำเภอธาราปริวัติ เมืองนครจำปาศักดิ์ ในชีวิตในถิ่นไกลโพ้น หลวงปู่เล่าให้ฟังว่า ต้องข้ามน้ำข้ามทะเล รอนแรมตั้งหลายวัน กว่าจะถึงนครจำปาศักดิ์ ชีวิตต้องทนอยู่กับความลำบาก โดดเดี่ยว เส้นทางคมนาคมในสมัยนั้นไม่สะดวก จิตใจก็ว้าเหว่คิดถึงบ้าน พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ประกอบกับในชีวิตไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน อยู่ได้ไม่นานนัก เนื่องจากความผันผวนทางด้านการเมืองขณะนั้น ให้อพยพข้าราชการการกลับถิ่นเดิมเมื่อกลับมาถึงถิ่นปิตุภูมิแล้ว
    อุปสมบท : แทนที่จะกลับเข้ารับการเป็นครูเหมือนเดิม นายเพ็ง พละศักดิ์ กลับเกิดความท้อแท้ ความไม่แน่นอนในทางชีวิตจึงเปลี่ยนแนวทางชีวิตใหม่ ตัดสินใจสู่ชายผ้าเหลืองใต้ร่มเงาผ้ากาสาวพัตร หวังจะเป็นทายาทสืบทอดพระพุทธศาสนา ได้สละเพศบรรพชิตเข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุในวัยที่ยังหนุ่มแน่น ที่วัดโพธิ์ศรีละทาย อันเป็นบ้านเกิด
    เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2486 เป็นภิกษุเพ็ง จันทรังสี ตั้งแต่นั้นมาจวบจนกระทั่งปัจจุบัน
    จากการได้สัมผัสชีวิตในความเป็นครูมาก่อน ครั้นมาอุปสมบท ภายใต้ร่มเงาพระพุทธสาสนา ทำให้หลวงปู่มีความสนใจในการศึกษาเล่าเรียนในพระธรรมวินัย จึงมุ่งสู่สำนักพระธรรมวินัยวัดปะอาว ตำบลปะอาว อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานีเป็นสำนักแรก ต่อมาได้ไปศึกษาสำนักพระธรรมวินัยวัดบ้านนาคำใหญ่ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี และได้ไปศึกษาคัมภีร์มูลกระจายจากสำนักพระอุปัชฌาย์อ้วน โสภโณ ที่วัดบ้านโนนค้อ ตำบลโนนค้อ อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ จนแตกฉานในหนังสือลาว ไทย ขอมท้ายสุดสอบได้นักธรรมเอก จนได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านโคกสะอาด อำเภอโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ และเป็นเจ้าคณะตำบล และเป็นอุปัชฌาย์ ตำบลโนนค้อเขต 2 ในเวลาต่อมา
    ในระหว่างครองสมณศักดิ์เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านโคกสะอาด และพระอุปัชฌาย์ตำบลโนนค้อเขต 2 อยู่นั้น หลวงปู่ได้นำชาวบ้านสร้างพระอุโบสถศาลาการเปรียญ กุฏิ ห้องน้ำ ห้องส้วม พัฒนาวัดจนสำเร็จเรียบร้อยนอกจากเสนาสนะดังกล่าวแล้ว หลวงปู่ยังได้นำชาวบ้านโคกสะอาดสร้างทำนบ ถนนหนทางเชื่อมระหว่างหมู่บ้านหลายสายให้ได้ไปมาติดต่อกันสะดวกสร้าง โรงเรียน นำชาวบ้านพัฒนาหมู่บ้าน จัดหาที่ดินสร้างอนามัยบ้านโคกสะอาด
    นับว่าหลวงปู่ได้สร้างความเจริญให้แก่ท้องถิ่นเป็นอเนกประการหลังจากพระ อุปัชฌาย์กลม ปุสโส เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีละทายคนเดิมได้มรณภาพแล้ว ตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างลง ชาวบ้าน
    ละทายเห็นพ้องต้องกันว่าเห็นควรไปกราบนิมนต์พระอุปัชฌาย์เพ็ง จันทรังสี มาเป็นเจ้าอาวาส เพราะท่านเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของชาวบ้านละทาย ท่านก็รับนิมนต์และได้สละตำแหน่งทางวัดเดิม มาเป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีละทายเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2524 ต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลละทายเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2524 เป็นพระธรรมทูตเผยแผ่อบรมสั่งสอนประชาชนในเขตรับผิดชอบ ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอกเมื่อ พ.ศ. 2533
    หลวงปู่พระครูโสภณ จันทรังสี ได้นำชาวบ้านละทายสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ขึ้น เพราะหลังชำรุด ไม่เหมาะและไม่สะดวกในการทำสังฆกิจตามยุคตามสมัย ดังที่เห็นในปัจจุบัน นอกจากนี้หลวงปู่ได้จัดหาที่ดินสร้างสถานีอนามัยของหมู่บ้าน นำชาวบ้านตัดถนนเข้าวัดอีกเส้นหนึ่งเพราะทางเดินไม่สะดวก สร้างหอระฆัง สร้างฌาปณสถาน ศาลาบำเพ็ญบุญ สร้างวัดป่าจันทรังสี ( ปัจจุบันคือวัดบ้านโอ้น ) ขยายเนื้อที่วัดให้กว้างขวางเพียงพอแก่การใช้ในศาสนกิจ
    ครั้นเมื่อ พ.ศ. 2542 หลวงปู่พระครูโสภณ จันทรังสี ได้นำชาวบ้านและผู้มีจิตศรัทธา สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง 8 เมตร สูงพร้อมทั้งฐาน 17 เมตร ตามรูปแบบองค์พระปางมารวิชัย พร้อมเสมาธรรมจักร 1 คู่ อัครสาวกสารีบุตร โมคคัลลาน์ และฉัพพันรังสี โดยใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี 1 เดือน 19 วัน ได้สำเร็จดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ นับเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในแถบนี้จากความมุ่งมั่นของหลวงปู่ในอันที่ จะเสริมสร้างและจรรโลงพระพุทธศาสนาให้เป็นศรีสง่าแก่วัดและบ้านละทาย เพื่อเป็นที่พึ่งทางใจของชาวบ้านละทาย และชาวพุทธได้เคารพสักการะบูชา นับเป็นความสำเร็จที่ควรที่ควรแก่การสรรเสริญ เชิดชูคุณงามความดีเป็นอย่างยิ่ง
    หลวงปู่เป็นนักพัฒนาทั้งในด้านวัตถุจิตใจ เป็นนักบุญที่เสียสละทุกอย่าง ใฝ่หาประสบการณ์ความรู้ มีเมตตาธรรมโอบอ้อมอารีย์ แม้หลวงปู่จะอายุมาก แต่ก็ปรับตัวทันเหตุการณ์ได้ดี สร้างคุณงามความดีไว้มากมายเป็นคุณูปการ เป็นพระเถระผู้ใหญ่ที่ชาวละทายและคนในท้องถิ่นให้ความเคารพนับถือรักใคร่ ถ้วนหน้ากัน หลวงปู่เป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังรูปหนึ่ง มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย เป็นเบ้าหล่อหลอมจิตใจของชาวละทายโดยแท้เห็นควรได้รับการเชิดชูคุณงามความดี ของหลวงปู่ พระครูโสภณ จันทรังสี ด้วยความเคารพยิ่ง

    ให้บูชา 1000 บาทครับ

    [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]
     
  19. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระผงมนุษย์เหนือโลก หลวงพ่อใหญ่ แม่ชีเมี้ยน วัดถ้ำกระบอก

    ท่านก็บรรลุธรรมเช่นกันครับจากคำบอกเล่าของผู้ที่ได้มโนยิทธิก็พบเจอท่านที่นิพพานเช่นกัน

    ครับ

    ห้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  20. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    หลวงพ่อตาบ อัตตกาโม หรือ "พระครูเวชคามคณารักษ์" วัดมะขามเรียง

    หลวงพ่อตาบ อัตตกาโม หรือ "พระครูเวชคามคณารักษ์" วัดมะขามเรียง จ.สระบุรี ตาม ประวัติหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ได้ศึกษาด้านวิทยาคมกับพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายท่าน "พระครูเวชคามคณารักษ์" หรือ หลวงพ่อตาบ อัตตกาโม แห่งวัดมะขามเรียง อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี เป็นพระเกจิดังชื่อดังที่มีวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมีเมตตาธรรมสูง มีชื่อเสียงโด่งดังในเขตจังหวัดสระบุรี วัตถุมงคลของหลวงพ่อตาบ ท่านเป็น ที่เสาะแสวงหาของบรรดาเซียนพระ ไม่ว่าจะเป็นเหรียญ รูปเหมือน พระกริ่ง พระเนื้อผง โดยเฉพาะพระชัยวัฒน์เวชคามมะขามเรียง พระกริ่งเวชคามมะขามเรียง

    ประวัติหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง (พระครูเวชคามคณารักษ์)
    อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า ตาบ คชรินทร์ เกิดวันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน 2454 ณ บ้านกระโดน ต.ไผ่ขวาง อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายโป๋และนางฟัก คชรินทร์ ท่านเป็นบุตรชายคนเดียวของครอบครัวเมื่อ หลวงพ่อตาบ เติบโตได้สมควรก็เรียนรู้ภาษาไทยพออ่านออกเขียนได้กับบิดา ก่อนเข้าเรียนชั้นประถมศึกษา ที่โรงเรียนวัดศักดิ์ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลับมาช่วยบิดา-มารดา ทำงาน ระหว่างนี้ คุณตาแจ้ง ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านอักขระ ด้านเลขยันต์ เวทมนตร์พุทธอาคม ได้สอนฝึก จนพอมีความสามารถด้านพุทธคมแต่เยาว์วัย

    ครั้นอายุครบ 21 ปี ได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดมะขามเรียง เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2476 มี พระครูศรีคณาภิบาล (โฉม) วัดดอนพุด เป็นอุปัชฌาย์, พระอธิการแซ วัดบ้านร่อม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการปลั่ง เจ้าอาวาสวัดมะขามเรียง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาในเพศบรรพชิตว่า อตฺตกาโม หลังจากอุปสมบทแล้วก็จำพรรษา ณ วัดมะขามเรียงกับพระอนุสาวณาจารย์ คือพระอธิการปลั่ง

    หลวงพ่อตาบ ท่านได้อยู่จำพรรษา ณ วัดมะขามเรียง ได้ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม พ.ศ.2480 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก นอกจากนี้ หลวงพ่อตาบ ยังได้ศึกษาวิชานักเทศน์กับครูพรหม พระนักเทศน์ที่มีชื่อเสียงแห่งวัดสามง่าม กรุงเทพฯ จนสามารถเทศน์ได้ดีเยี่ยม ท่วงทำนองลีลาแบบลมพัดชายเขา หรือ คลื่นกระทบฝั่ง เป็นที่ประทับใจแก่ญาติโยม แต่สุดท้าย ท่านได้หันกลับไปศึกษาด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน พ.ศ.2497 ท่านเดินทางไปศึกษากับพระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทธิ) วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ อาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระแห่งประเทศไทย ได้ฝึกฝนจนมีความชำนาญ จึงได้กลับมายังวัดมะขามเรียง ตั้งสำนักปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานวัดมะขามเรียง มีลูกศิษย์มากมายมาขอฝึกปฏิบัติกับหลวงพ่อเป็นจำนวนมาก

    ด้านวิทยาคม หลวงพ่อตาบ ได้ศึกษากับน้าชาย คือ พระครูประสาธน์วิทยาคม หรือ หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ พระเกจิชื่อดังด้านตะกรุดหน้าผากเสือ อีกทั้งได้ศึกษาวิชากับหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค, หลวงพ่อพิณ วัดมะขามโพรง, หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์

    พ.ศ.2489 คณะสงฆ์ได้แต่งตั้งหลวงพ่อตาบ เป็นเจ้าอาวาสวัดมะขามเรียง จากนั้น หลวงพ่อตาบ ได้ร่วมกับชาวบ้าน สร้างโบสถ์ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ ร่วมกันพัฒนาวัดมะขามเรียงบนเนื้อที่ 15 ไร่ 3 งาม 14 ตารางวา เจริญรุ่งเรืองตามลำดับ

    พ.ศ. 2509 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์
    พ.ศ.2510 หลวงพ่อตาบ สร้างตะกรุด แจกจ่ายแก่คณะศิษย์ พ.ศ.2515 ได้สร้างเหรียญรุ่นแรกจำนวน 6,000 เหรียญ เป็นรูปหลวงพ่อนั่งเต็มองค์ เนื้ออัลปาก้า
    พ.ศ. 2511 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็น พระครูสัญญาบัตร ชั้นตรี ที่ พระครูอัตถจริยนุกูล
    พ.ศ. 2513 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็น พระครูสัญญาบัตร ชั้นโท ในราชทินนามเดิม
    พ.ศ. 2527 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็น พระครูสัญญาบัตร ชั้นเอก ในราชทินนามเดิม
    พ.ศ. 2531 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็น พระครูเจ้าคณะอำเภอบ้านหม้อ ที่ พระครูเวชคามคณารักษ์

    หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง

    พุทธาคมหลวงพ่อตาบ
    หลวงพ่อตาบ กับพุทธาคมของหลวงพ่อ ตามประวัติเบื้องต้นที่ได้กล่าวมาแล้วว่า หลวงพ่อตาบ มีความรู้พื้นฐานด้านพุทธาคมมาตั้งแต่เยาว์วัยโดยได้ศึกษากับคุณตา ผู้มีความเป็นเลิศทางด้านเวทย์มนต์คาถา ครั้นมาอุปสมบทหลวงพ่อก็เริ่มศึกษาทางธรรมตลอดจนการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน นับได้ว่ารากฐานทางด้านพลังจิต อำนาจบารมีทางใจของหลวงพ่อแข็งแกร่งขึ้น กล่าวกันว่า วิชาพุทธาคมและเวทย์มนต์นั้นเป็นเพียงแผนที่ แต่จิตใจเป็นกำลังที่พาให้เดินไปตามแผนที่ เมื่อมีอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียวย่อมไม่สามารถกระทำได้สัมฤทธิ์ผลสมบูรณ์ หากมีสองสิ่งสองประการครบถ้วน ปฏิบัติการทางพุทธาคมย่อมประสบผลอย่างแน่แท้ เช่นเดียวกับหลวงพ่อตาบ หลังจากท่านได้ฝึกฝนปฏิบัติการทางจิตใจโดยวิปัสสนากรรมฐานอย่างชำนิชำนาญจนจัดว่าเป็นนายของใจได้แล้ว การปฏิบัติทางพุทธาคมและคาถาอาคมของหลวงพ่อตาบจึงมิต้องสงสัยเลยว่าจะทำได้ดีเยี่ยมขนาดไหน

    เหรียญหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง รุ่นแรก
    เหรียญหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง รุ่นแรก

    นอกจากหลวงพ่อตาบ จะศึกษาพุทธาคมกับคุณตาแล้ว ท่านยังได้ศึกษากับน้าชาย ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังในครั้งอดีต คือ พระครูประสาธน์วิทยาคม (หลวงพ่อนอ) วัดกลางท่าเรือ จ.อยุธยา ผู้กระฉ่อนชื่อด้านตะกรุดหน้าผากเสือ โดยหลวงพ่อได้ศึกษาวิชาต่าง ๆ มามากมาย และที่แน่นอนที่สุดก็คือ วิชาตะกรุดหน้าผากเสือ ซึ่งหลวงพ่อตาบทำได้ขลังไม่แพ้ของอาจารย์ทีเดียว นอกจากหลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือแล้ว หลวงพ่อยังได้ศึกษาวิชาบางประการกับ หลวงพ่อพิณ วัดมะขามโพรง และเคยเดินทางไปศึกษากับ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ ซึ่งหลวงพ่อก็ทำมีดหมอได้ขลังมากเช่นกัน สำหรับ หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค นั้น ดูเหมือนหลวงพ่อจะสนิทสนมกัน เพราะเคยเดินทางไปมาหาสู่อยู่บ่อย ๆ ได้สนทนาธรรมและวิชาความรู้ต่าง ๆ มากมาย นับได้ว่าหลวงพ่อมีความสนใจทางพุทธาคมอยู่มาก และเพียรพยายามติดตามศึกษาอย่างเจนจบ

    พระเครื่อง วัตถุมงคล หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง

    พระเครื่อง วัตถุมงคล หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง
    พระเครื่องและวัตถุมงคลของหลวง พ่อตาบ ที่จัดสร้าง อาทิ ตะกรุดโทน ตะกรุดสามพี่น้อง ตะกรุดนวโลกุตระ (9 ดอก) ตะกรุดหน้าผากเสือ เหรียญรุ่นต่างๆ เหรียญหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง รุ่นแรก พระชัยวัฒน์ พระกริ่งเวชคาม รูปเหมือนกริ่ง มีดหมอ พระผงต่างๆ ผ้ายันต์ เหรียญหลวงพ่อตาบ รุ่นทูลเกล้า 2531 แหวนถักด้วยเชือกและจีวร เป็นต้น ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์กับผู้ที่พกพาพระเครื่องและวัตถุมงคลของท่าน ไม่ว่าจะด้านเมตตาค้าขาย โชคลาภ คงกระพัน มหาอุด ก็พบเห็นกันบ่อยๆ โดยเฉพาะตะกรุดหน้าผากเสือ ของหลวงพ่อตาบ ที่ใครหลายคนต้องการ พุทธคุณไม่แพ้ หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ เลยทีเดียว

    วันที่ 31 ธันวาคม 2532 หลวงพ่อตาบ ได้ละสังขารลง สิริอายุ 78 ปี แต่ร่างกายสังขารของท่าน ไม่เน่าเปื่อย บรรดาลูกศิษย์จึงนำสังขารร่างของท่านใส่ไว้ในโลงแก้ว ตั้งไว้ให้บรรดาพุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้


    ให้บูชา 500 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ มี 2 เหรียญ2รุ่น ตามสภาพครับเลือกพิจรณาตามใจครับ

    เหรียญที่ 1

    [​IMG] [​IMG]

    เหรียญที่ 2

    [​IMG] [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...