คชสีห์๙บารมี๙บารมี๙แผ่นดินหลวงปู่หมุนเสก

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 30 สิงหาคม 2010.

  1. พฤศจิกา

    พฤศจิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +3,046
    ขอจองครับโอนให้พรุ่งนี้
     
  2. khachin

    khachin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    247
    ค่าพลัง:
    +690
    ของหลวงปู่ยังมีให้บูชามั้ยครับ ขอpmด้วยครับพี่
     
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระสมเด็จหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี อนุสรณ์สร้า้งโรงเรียน สมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน

    สร้าง ครั้งทรงสมณศักดิ์พระญาณสังวร

    สวยเดิมๆพร้อมกล่อง ........หายากครับแบบสมบูรณ์เช่นนี้ส่วนมากจะไม่มีกล่อง



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2015
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    วัดสุวรรณคูหาวารีวงศ์ หรือวัดถ้ำโพงพาง ต.หาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร เป็นสถานธรรมที่ 'หลวงปู่สงฆ์ จันทสโร' อดีตพระคณาจารย์ดังแห่งวัดเจ้าฟ้าศาลาลอย เป็นผู้สร้าง



    ปัจจุบันมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง 'หลวงปู่ บุญมา ปภากโร' สิริอายุ 86 ปี เป็นเจ้าอาวาส



    หลวงปู่บุญมามีนามเดิมว่า บุญมา คงคูณ เป็นชาวเมืองตรัง หมู่ที่ 4 ต.นาบินหลา อ.เมือง ถือกำเนิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 ธ.ค.2469 ตรงกับปีขาล ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 1 (เดือนอ้าย) อัฏฐศก จ.ศ.1288 ร.ศ.145 อธิกมาส (8 สองหน)



    เมื่ออายุ 15 ปีเข้าบรรพชาที่วัดใกล้บ้าน และตั้งใจศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยอย่างต่อเนื่อง 5 ปี จนกระทั่งได้เข้าสอบธรรมสนามหลวงในระดับชั้นนักธรรมตรี โท และเอกตามลำดับ



    เมื่อมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ต้องเข้ารับการคัดเลือกทหาร ท่านรับราชการทหารอยู่ 2 ปี หลังปลดประจำการได้ครองเรือน จนมีอายุได้ 25 ปี เมื่อปี 2494 จึงได้เข้าอุปสมบทที่พัทธสีมาวัดปากจ่า ต.ควนโส อ.รัตภูมิ จ.สงขลา มีพระครูพิทักษ์ธรรมคุณ (เลี่ยน จันทสโร) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์พร้อม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์คล้าว กตปุญโญ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า 'ปภากโร'





    หลังจากบวชแล้วได้เน้นร่ำเรียนทางกรรมฐานทั้งสมถะและวิปัสสนาโดยตรง จนเข้าพรรษาที่ 8 ในขณะมีอายุได้ 33 ปี จึงออกธุดงค์ไปตามจังหวัดต่างๆ



    หลวงปู่บุญมาท่านเล่าให้ศิษย์ฟังว่า ช่วงที่ท่านธุดงค์ไปที่เขาชัยสน จ.พัทลุง ในคืนหนึ่งขณะนั่งสมาธิได้นิมิตเห็นในบริเวณป่าเขาที่อยู่ไม่ไกลจากที่นั่งนี้มีเหวลึก ในเหวนั้นมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์และเจดีย์อยู่ รุ่งเช้าจึงเดินทางไปดูตามนิมิตก็เห็นเป็นจริงตามนั้น




    ทั้งนี้ หลวงปู่บุญมาได้เชิญพระคาถาของรัชกาลที่ 4 มาเป็นแนวปฏิบัติควบคู่ไปกับปฏิปทาของหลวงปู่สงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของประชาชนชาวเมืองชุมพร และจังหวัดใกล้เคียงทั้งชาวต่างประเทศ



    ในด้านวิชาอาคมท่านได้ศึกษาเล่าเรียน และได้รับการถ่ายทอดจากหลวงปู่สงฆ์ จากนั้นไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ แห่งวัดสวนขัน จ.นครศรีธรรมราช ท่านได้เริ่มสร้างวัตถุมงคลเมื่อปี 2532 จนได้รับความนิยมจากบรรดาศิษยานุศิษย์ทั้งไทยและชาวต่างประเทศ เช่น เสือหล่อกวัก, เหรียญเสมารุ่นแรก และรูปเหมือน เป็นต้น


    ขอบขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลและที่มาอย่างสูงครับ


    เหรียญรุ่นแรกกะไหล่ชุบนิเกิล หลวงปู่บุญมารุ่นประสบการณ์

    (ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2014
  5. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,381
    ค่าพลัง:
    +13,256
    สวัสดีปีใหม่ 2556 ครับ ท่าน Jumbo A ขอให้สุข สมหวังทุกอย่างนะครับ:cool:
     
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    วันนี้จัดส่ง

    EJ 3749 2376 5 TH มาบตาพุด

    ขอบคุณครับ
     
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อโอด วัดจันเสน นครสวรรค์

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระชุดหลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดถ้ำแฝด กาญจนบุรี เจ้าตำหรับเหล็กไหลตาแรด

    1ชุดมี 5 องค์

    ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2014
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    ปิดรายการ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มกราคม 2013
  10. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    รูปหล่อหลวงพ่อผล วัดพันท้ายนรสิงห์

    วัตถุมงคลท่านมีประสบการณืด้านคงกระพัน เขาว่าท่านเป็นศิษย์หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง

    ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    ชีวประวัติหลวงปู่อุดม ญาณรโต

    วัดป่าสถิตย์ธรรมวนาราม อ.พรเจริญ จ.หนองคาย

    ในวาระอายุ 84 ปี พรรษาที่ 60 พ.ศ. 2552

    ชาติภูมิ

    หลวงปู่อุดม ญาณรโต ท่านเกิดในตระกูลชาวนา บิดาและมารดาท่านเป็นชาวนา ที่บ้านดงเฒ่าเก่า ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม อยู่ในสกุล เชื้อขาวพิมพ์ รูปร่างสันทัด สีผิวดำแดง โดยมีโยมบิดาชื่อ นายแว่น เชื้อขาวพิมพ์ และมารดาชื่อนางบับ เชื้อขาวพิมพ์ และมีพี่น้องร่วมสายเลือดทั้งหมด 4 คน รวมหลวงปู่

    ชีวิตในสมัยเด็ก ท่านก็เหมือนเด็กชาวนาทั่วไปบิดามารดาทำนา ท่านก็ไปช่วยทำนา ท่านชอบในเพศบรรพชิตมาก ท่านเห็นพระภิกษุสงฆ์เดินผ่านมาท่านเกิดความเลื่อมใสขึ้นมาเองตั้งแต่วัยเด็ก นี่ก็เนื่องมาจาก โยมบิดามารดาของท่านได้พาปฏิบัติศาสนกิจต่อพ่อแม่ครูอาจารย์ในพุทธศาสนา เช่น ครูบาอาจารย์ในสมัยท่านพระอาจารย์มั่น บิดามารดาท่านมักพาไปปฏิบัติศาสนกิจมาโดยตลอด เช่น หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม วัดป่าสาลวัน หลวงปู่มหาปิ่น ซึ่งเป็นน้องชายของหลวงปู่สิงห์ เป็นต้น ท่านเล่าต่อว่าโยมบิดาท่านเคยได้บวชเณรอยู่ และสึกออกมามีครอบครัว ส่วนมารดาของท่านก็เข้าวัดทำบุญอยู่เป็นปกตินิสัย จึงทำให้ท่านมีความสนิทสนมและใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนามาโดยตลอดนั่นเอง
    บรรพชา
    เนื่อง จากในวัยเด็ก ท่านเห็นพระภิกษุสงฆ์แล้ว เกิดความปีติเลื่อมใสในสมณะสงฆ์ (มีความสุขเมื่อได้เห็นพระสงฆ์) ท่านคงมีความคิดที่อยากออกบวชอยู่ภายในใจมาโดยตลอด จากนั้นเมื่อท่านเริ่มโตเป็นหนุ่มท่านเคยได้อ่านหนังสือสวดมนต์และปฏิบัติ สมาธิภาวนา ของหลวงปู่สิงห์ ขัตยาคโม และพระอาจารย์มหาปิ่น ซึ่งทำให้ท่านจับจิตจับใจ มีจิตใจเข็มแข็งเด็ดเดี่ยว และมั่นใจในการที่จะได้บวชถือคลองเพศสมณะ ท่านได้ช่วยบิดามารดาทำนา หาปูหาปลาตามประสาชาวโลก ท่านเล่าว่าปูปลาสมัยก่อนหาง่ายมาก ตัวก็ใหญ่โตทั้งนั้น ท่านเคยดำน้ำเพื่อหาปลา น้ำลึกมากๆหลายเมตรอยู่ ทำให้ท่านเลือดไหลออกมาจากหู (หูหนวก) ท่านมีอาการหูหนวกอยู่แรมเดื่อนกว่าจะหายเหมือนเดิม ท่านบอกว่าชีวิตฆราวาสนั้นเป็นทุกข์ ต้องทำบาป สร้างกรรมเวรอยู่โดยตลอด จนในที่สุดเมื่อท่านมีอายุครบ ๒๓ ปี ท่านจึงได้ขอบิดามารดาของท่าน เข้าบรรพชาอุปสมบท ในปี พ.ศ. ๒๔๙๒ ซึ่งเป็นปีที่หลวงปู่มัน ภูริทัตโต วัดป่าสุทธาวาส มรณะภาพนั่นเอง โดยมีพระอุปัชฌาย์คือ พระครูอรุณสังฆกิจ (มหาเถื่อน อุชุกโร) วัดกุดเรือคำ ต.กุดเรือคำ อ. วานรนิวาส จ. สกลนคร และพระครูพิพิธธรรมสุนทร (พระคำฟอง เขมจาโร) วัดสำราญนิวาส อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และได้ฉายาทางภิกษุว่า ญาณรโต (ซึ่งแปลว่าผู้ทรงไว้ซึ้งญาณ) และในปีนั้นนั่นเอง ท่านได้เดินทางไปร่วมพิธีเผาศพหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร พร้อมทั้งพระอุปัชฌาย์ และพระกรรมวาจาจารย์ของท่านทั้งสองด้วย ท่านบอกว่างานศพหลวงปู่มั่นใหญ่โตมาก มีพระกรรมฐานมากมายเต็มไปหมด โดยสมัยก่อนวัดป่าสุทธาวาสยังคงมีสภาพเป็นป่าดงพงไพรอยู่ มีต้นไม้ใหญ่มากมายไม่เหมือนสมัยปัจจุบันที่เต็มไปด้วยหมู่บ้านเต็มไปหมด
    พรรษาที่1-2 (พ.ศ.2492-2493)
    ท่านอยู่กับพระอุปัชฌาย์ ที่วัดกุดเรือคำ ต.กุดเรือคำ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร
    พรรษาที่3-5(พ.ศ.2494-2497)
    ท่านเดินธุดงค์ไปในที่ต่างๆและกลับมา อยู่ที่วัดภูข้าวหลวง อ.สหัสขัน จ.กาฬสินธุ์
    พรรษา ที่7-15(พ.ศ.2498-2506)
    วัดบ้านนาโสก อ.นาแก ต.บ้านแก้ง จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านญาติของท่านและเป็นบ้านเกิดของท่านเองต่อจากนั้นท่านได้ไปพักอาศัยอยู่กับหลวงปู่ลี ฐิตธัมโม ตอนนั้นหลวงปู่ลี ท่านอยู่วัดศรีชมพู ต.โคกสี
    อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    พรรษาที่ 20 (พ.ศ.2507-2515)
    ท่านธุดงค์ไปอยู่ทางภาคเหนือบ้าง เช่น สุโขทัย แพร่ น่าน ลำปาง อุตรดิตถ์ พิจิตร เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ เลื่อยมา โดยท่านได้ไปพบกับ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง หลวงปูตื้อ อจลธัมโม วัดป่าอาจารย์ตื้อ จ.เชียงใหม่ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่ หลวงปู่แว่น ธนปาโล วัดถ้ำพระสบาย จ.ลำปาง หลวงปู่หลวง กตปุญโญ วัดคีรีสุบรรพต ต.พระบาท จ.ลำปาง โดย
    ช่วงระยะเวลาที่ธุดงค์ในแถบภาคเหนือ ตั้งแต่จังหวัดเพชรบูรณ์นั้น ท่านมีสหธรรมมิกที่ร่วมเดินทางไป
    ด้วยกัน คือ หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล วัดอนาลโย จ.พะเยา และหลังจากที่ท่านไปธุดงค์ที่เชียงใหม่
    กลับมาท่านจึงได้มาอยู่ที่วัดป่า สถิตย์ธรรมวนาราม ต.ศรีชมภู อ.พรเจริญ จ.หนองคาย จนกาละสมัย
    ปัจจุบันนี้ (นี้เป็นเพียงประวัติย่อๆเท่านั้น)
    ครูบาอาจารย์ที่หลวง ปู่ได้ไปพำนักอาศัย และฟังธรรม
    ครูบาอาจารย์เท่าที่หลวงปู่จำได้และเล่าให้ฟังมานั้น ในอดีตที่ผ่านมาแล้วทั้งหลาย ในบางคราวท่านก็ลืมไปบ้าง ซึ่งอาจจะไม่ละเอียดมากนัก เท่าที่ท่านพอจะจำได้นั้น มี ดังนี้
    1. หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
    2. หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม วัดป่าอาจารตื้อ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
    3. หลวงปู่สิม พุทธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
    4. หลวง ปู่แว่น ธนปาโล วัดถ้ำพระสบาย จ.เชียงใหม่
    5. หลวงปู่สาม อกิญจโน วัดป่าไตรวิเวก สุรินทร์
    5. หลวงปู่ลี ฐิตธัมโม วัดเหวลึก ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    6. เจ้า คุณแดง วัดป่าประชานิยม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์
    7. หลวงปู่เอี่ยม วัดภูข้าวหลวง อ.สหัสขัน จ.กาฬสินธุ์
    การ เดินธุดงค์
    ท่านเล่าว่าตั้งแต่โยมบิดาของท่านเสีย ชีวิตด้วยโรคชรา ตอนอายุ ได้ 73 ปี ก่อนท่านออกเดินธุดงค์ และมารดาท่านก็เสียชีวิตด้วยโรคชราเช่นกัน เมื่อตอนอายุได้ 79 ปี หลังจากที่ท่านธุดงค์กลับมาจากจ.เชียงใหม่ ท่านเล่าว่าตอนที่ท่านได้ไปพำนักอยู่ เพื่อฟังธรรมกับหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ที่วัดดอยแม่ปั๋งนั้น ท่านเกิดความประทับใจมาก ท่านเล่าว่าหลวงปู่แหวนท่านเทศแบบง่ายๆ สั้นๆ แต่มีคุณภาพมากๆ คำพูดของท่านลึกซึ้งกว้างขวางมากนัก น่าเลื่อมใสมากๆ ซึ่งในเวลานั้นหลวงปู่ลี วัดเหวลึก ท่านก็ได้ไปร่วมฟังธรรมกับหลวงปู่แหวน กับท่านด้วย ท่านอยู่ฟังธรรมกัน ประมาณ๒-๓ คืน
    จากนั้นท่านได้เดินทางไปจังหวัดลำปาง และเพชรบูรณ์ โดยเดินเท้าไป บางทีฆราวาสเห็นก็อาสาพาไปส่งเป็นบ้าง ท่านใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 เดือนเศษ โดยท่านเดินทางผ่านจังหวัด สุโขทัย แพร่ น่าน ลำปาง อุตรดิถต์ พิจิตร และเพชรบูรณ์ และใช้เวลาเดินทางจากเพชรบูรณ์ไปเชียงใหม่ ใช้เวลาเดินทางประมาณอีก 2 เดือน ท่านเล่าว่าตอนเดินทางผ่าน จ.สุโขทัย ได้พบฆราวาสที่กินเจ มักใส่ขนมปัง และน้ำตาลอ้อย โดยบางครั้งเขาจะนำขนมกับข้าวสุกใส่ให้เต็มบาตรเลย ไม่มีกับข้าวคาวเลย ท่านฉันทีแรกๆก็อร่อยดี แต่หลายวันเข้ามันชักไม่อร่อย โดยในตอนนั้นท่านได้เดินเท้าธุดงค์ร่วมกับพระอาจารย์ไพบูรณ์ สุมังคโล วัดอนาลโย จ.พะเยา ซึ่งท่านทั้งสอง สนิทสนมมักคุ้นกันอยู่
    การปฏิบัติธรรม
    โดยปกติหลวงปู่อุดมท่านชอบเดินจงกรม และนั่งสมาธิภาวนาเพื่อปฏิบัติทางจิตของท่านอยู่โดยตลอด ท่านบอกว่าถ้าวันไหนไม่ได้เดินจงกรมแล้วหล่ะก็ เดือดร้อนไม่ได้เลยนะ จิตจะเศร้าหมองทันที สมัยที่ท่านอยู่ที่เชียงใหม่ ท่านปฏิบัติธรรมอยู่นั้น จิตของท่านเกิดความสว่าง มีความสุขมาก จิตตกถึงฐานของจิต เข้าสู่พื้นเดิม ท่านเปรียบเหมือนการสักผ้า ถ้าผ้ามันลาย พื้นเดิมของจิตมันก็ลาย ถ้าผ้ามันดำ จิตพื้นเดิมมันก็ดำ (สำนวนของหลวงปู่อุดม) ท่านบอกว่ามันถึงฐานของมัน มีความสุขมากไม่มีอะไรจะมีความสุขเท่า มันมีความปีติอิ่มอกอิ่มใจมาก ท่านจึงเอาตรงนี้มาเป็นอารมณ์ และค้นหาเข้าไปในจิตต่อจนถึงที่สุดของใจ ท่านเล่าว่ามันมีปัญญามากมายหลายอย่างเกิดขึ้นมา ท่านบอกว่าท่านอดนอน อดอาหารเพื่อทำความเพียรภาวนา อยู่ ๕ วัน ๕ คืน ท่านบอกว่า อดนอนนี่ทุกข์ยิ่งกว่าอดอาหารอีก แต่เพราะว่ามีปีติอยู่ ท่านจึงสามารถทำได้ ภายหลังจาก ๕ วันผ่านไป จิตของท่าน ก็เบาสบายได้กำลังใจ และกำลังกายยังแข็งแรงดีอยู่ เวลาธรรมเกิดขึ้นมา ๑๐๐ % ท่านนั่งสมาธิไปได้จนถึงแจ้งเลย(เช้าเลย) การปฏิบัติของท่านในเวลา ๖ โมงเย็น จนถึง ๕ ทุ่ม ท่านมักจะเดินจงกรม และในเวลา ๕ ทุ่มขึ้นไป ท่านจะนั่งสมาธิภาวนาไปเรื่อยจนบางทีถึงสว่างก็มี ในคราวที่ใจของท่านรวมลงจนถึงสภาวะเดิมของจิต ท่านเล่าว่ามีความสุขมากๆ ธรรมะของพระพุทธเจ้าที่เกิดขึ้นนั้น เหมือนกับอยู่ตรงหน้า สามารถยื่นมือแทบจะจับได้ต่อหน้านี้เลยทีเดียว จิตมันไม่ท้อไม่ถอย กระจ่างหมดทุกอย่าง มันหาใจ แก้ใจตัวเองได้หมดทุกอย่าง ในเวลาฟังธรรมพ่อแม่ครูบาอาจารย์ เพียงนิดหน๋อยเท่านั้นจิตท่านก็สว่างโพรงเลย ท่านบอกว่าจิตท่านเห็นธรรมที่วัดป่าอาจารย์ตื้อ จ.เชียงใหม่ ซึ่งขณะนั้นท่านพำนักอาศัยอยู่กับ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโมนั่นเอง ท่านยังเล่าต่ออีกว่า หลวงปู่ตื้อนั้น ท่านจะเป็นพระที่เทศตรงไปตรงมามาก จนในบางครั้งดูแล้วอาจจะไม่ไพเราะ แต่ท่านก็บอกว่า ผู้มีปัญญาก็ต้องเลือกฟังให้ถูกกับจิตของตนเอง อันไหนดีก็นำมาปฏิบัติให้ถูกกับจิตของตน ในยามที่ท่านเข้าไปนวดแขน นวดขาให้กับหลวงปู่ตื้อนั้น หลวงปู่ตื้อท่านจะเทศให้หลวงปู่อุดมฟัง หลวงปู่อุดมท่านเล่าว่าจับจิตจับใจมาก เลยทีเดียว ทำให้เกิดความเลื่อมใสในองค์ของหลวงปู่ตื้อมากมายยิ่งขึ้นเลยทีเดียว องค์หลวงปู่ตื้อนั้น ท่านขุดดิน ฟันต้นไม้ ต้นกล้วยได้ ซึ่งจริงๆแล้ว สำหรับพระต้องปรับเป็นอาบัติ ส่วนองค์หลวงปู่ตื้อนั้นท่านคงอยู่เหนือสมมุติไปแล้ว เพราะในคราหนึ่งหลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง ท่านห้ามหลวงปู่ตื้อไม่ให้ทำเช่นนี้ แต่หลวงปู่ตื้อกลับหันมากล่าวกับหลวงปู่แหวนว่า ไม่ต้องมาสอนหรอกน่า เราพ้นแล้ว(จิตท่านหลุดพ้นไปแล้วนั่นเอง)


    ล็อคเก็ตหลวงปู่

    ให้บูชา 2000 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  12. noppornl

    noppornl เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,602
    ค่าพลัง:
    +8,010
    ขอบูชาครับคุณเอ
     
  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระผงรูปเหมือนเนื้อผงน้ำมันยุคต้นหลวงพ่อสุนทร วัดหนองสะเดา

    ค่อนข้างหายากครับไม่ค่อยเจอ

    ให้บูชาุ 600 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    [​IMG]

    [​IMG]




    หลวงพ่อเกลื่อน วัดรางฉนวน อ่างทองครับ ลองหาประวัติท่านอ่านดูนะครับ สายอ่างทอง

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่ง EMS 50 บาทครับ
    [​IMG] [​IMG]

    ประวัติหลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา จ.ปราจีนบุรี [​IMG]
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="boldTXT" align="center" valign="top">[​IMG]


    </td> </tr> <tr> <td class="mMenu" align="center" valign="top">
    หลวงพ่อจาด
    วัดบางกระเบา อ.บ้านสร้าง ปราจีนบุรี​
    </td> </tr> <tr> <td class="boldTXT" valign="top"> หลวงพ่อจาด หรือ พระครูสิทธิสารคุณ เดิมชื่อ จาด วงษ์กำพุช เกิดเมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2415
    ตรงกับวันอังคาร เดือนสี่ ปีวอก แรม 6 ค่ำ ที่บ้านดงน้อย อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทราบิดาชื่อนายปอ (บางตำราว่าชื่อ นายเป๊อะ) วงษ์กำพุช ส่วนมารดานั้นไม่ทราบชื่อ เนื่องจากถึงแก่กรรมตั้งแต่ท่านยังเยาว์ ต่อมาบิดาได้ยกท่านให้เป็นบุตรบุญธรรมของ
    นายถิน และนางหลิน สีซัง คหบดีชาวบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งทั้งสองท่านได้ให้ความรัก และความเมตตาแก่ท่านมาก เพราะไม่มีลูกเป็นของตนเอง ประวัติในวัยเยาว์ของท่านมิได้บันทึกไว้ แต่เมื่อท่านอายุครบ 20 ปีบิดาบุญธรรมของท่านได้นำท่านไปฝากกับพระอาจารย์ที่วัดบ้านสร้าง เพื่อเรียนการขานนาค การอยู่กับพระภิกษุรูปอื่น และการปรนนิบัติอาจารย์ เมื่อฝึกอบรมได้เป็นเวลาพอสมควรแล้วก็ถือเอาวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2436 ทำพิธีอุปสมบท
    ณ พัทธสีมา วัดบ้านสร้าง อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี โดยมีท่านพระครูปราจีนบุรี แห่งวัดหลวงปรีชากุล เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์อ้วน วัดบ้านสร้าง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอาจารย์หลี วัดบางคาง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อท่านอุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้วก็ได้เดินทางไปโปรดบิดา คือนายปอ ที่วัดเกาะแก้วเวฬุวัน ตำบลดงน้อย อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา แล้วได้จำพรรษาที่วัดนี้ ขณะที่ท่านจำพรรษาที่วัดเวฬุวันนั้น ท่านได้มีโอกาสศึกษาวิชาจากพระอาจารย์จัน (บางตำราว่าชื่อ พระอาจารย์จีน) ซึ่งเป็นพระเถระที่มีชื่อเสียงมากในสมัยนั้น และยังเป็นผู้สอนภาคปฏิบัติ พระภิกษุจาดจึงได้ฝึกกรรมฐานจนแก่กล้า ครั้นพรรษาที่สอง จึงได้ติดตาม พระอาจารย์อ้วน ไปศึกษาพระปริยัติธรรม กับ
    พระอาจารย์อยู่ วัดไกรสีห์ บางกะปิ กทม. และเมื่อพรรษาที่สี่ ท่านจึงได้กลับมาจำพรรษาที่ วัดบางกระเบา
    หลังจากนั้นท่านได้ออกธุดงค์อยู่ในป่าเป็นเวลาหลายปี ได้พบพระภิกษุมากมาย อาทิ หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
    หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลวงพ่อแช่มวัดตาก้อง จังหวัดนครปฐม ฯลฯ
    พระภิกษุจาดได้ศึกษาวิชาหลายแขนง เช่น คาถาการปล่อยคุณไสย เมตตามหานิยม และอยู่ยงคงกระพัน
    เมื่อพระภิกษุจาด อายุประมาณ 40 ปี ท่านได้เดินทางกลับไปจำพรรษา ณ วัดบางกระเบา อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี
    หลวงพ่อจาดเป็นพระที่เก่งทางด้านคาถาอาคม ทั้งวิชาบังไพรล่องหน หายตัว และวิชามหาอุดอยู่ยงคงกระพัน แต่จะไม่แสดงตนว่าเป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์ โดยท่านจะใช้วิชาดังกล่าวก็ต่อเมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น ยุคสมัยนั้นประเทศไทยตกอยู่ในภาวะสงครามมหาเอเชียบูรพา วัตถุมงคลของหลวงพ่อจาด
    ได้มีการจัดสร้างกันหลายครั้ง แต่ครั้งที่ยิ่งใหญ่ และสร้างกันเป็นจำนวนมากนั้น เห็นจะได้แก่เมื่อคราวเกิด
    สงครามมหาเอเชียบูรพา ปี2483 ซึ่งพระคณาจารย์ ผู้ทรงคุณ วิทยาคม ต่างๆ ทั่วประเทศ
    ก็ได้จัดสร้างวัตถุมงคลแจกเหล่าทหารหาญกัน ในปีนี้เป็นจำนวนมาก หลวงพ่อจาดก็ได้รับอาราธนาจากจอมพล ป . พิบูลสงคราม ให้ไปปลุกเสกเครื่องรางของขลังเพื่อแจกจ่ายให้กับทหารตำรวจและประชาชน จังหวัดปราจีนบุรี หลวงพ่อจาด สร้างเป็นเหรียญ นั่งเต็มองค์ ด้านหลังเป็นพระมหาอุตม์ นั่งอยู่กลางดอกบัว มีทั้งเนื้อเงินลงยา และ ทองแดง เกียรติคุณแห่งเหรียญหลวงพ่อจาดได้มาประจักษ์ขึ้นเมื่อ มีเครื่องบินฝรั่งเศสมาทิ้งระเบิด ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเกิดปาฏิหาริย์เลื่องลือไปทั่ว จนได้รับสมญานามว่าเทพเจ้าแห่งภาคตะวันออก
    หลวงพ่อจาดก็ได้รับนิมนต์ให้ปลุกเสกของขลังมากมาย แต่ที่สำคัญ คือ แหวนมงคล 9 ที่ทำขึ้นเพื่อแจกจ่ายแก่ทหารที่ออกรบ จนเกิดเหตุอัศจรรย์เป็นที่น่าเกรงขามต่อศัตรูคือทหารไทยอยู่ยงคงกระพันชาตรี จนทำให้ชาวต่างชาติตั้งชื่อเรียกขานทหารไทยว่า
    ทหารผี หลวงพ่อจาดดำรงสมณเพศเป็นแบบอย่างที่ดีแก่พระภิกษุทั่วไป และเป็นที่เคารพนับถือของพระเถระผู้ใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมเด็จพระสังฆราช (แพ)
    คุณความดีของท่านเป็นที่ทราบไปถึงทางการจึงได้รับสมณศักดิ์ ตามลำดับดังนี้
    พ.ศ.2447 ได้รับสมณศักดิ์ที่ พระครูจาด
    พ.ศ.2457 เป็นเจ้าคณะแขวง อ.บ้านสร้าง
    พ.ศ.2461 เป็นพระอุปัชฌาย์
    พ.ศ.2470 รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ พระครูสิทธิสารคุณ ระดับชั้นโท

    หลวงพ่อจาดมรณะภาพเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน (บางตำราว่า มิถุนายน) พ.ศ. 2499 สิริอายุรวม 85 ปี
    </td> </tr> <tr> <td class="boldTXT" valign="top">
    </td> </tr> <tr> <td class="boldTXT" align="center" nowrap="nowrap" valign="top">
    </td></tr></tbody></table>

    ขออขบคุณที่มาข้อมูลอย่างสูงครับ


    www.watmaikumon.com/history_002.php

    พระผงประจำวัน หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา ครูบาอาจารย์ยุค2484 จาด จง คง จัน

    (ปิดรายการ)



    [​IMG]

    [​IMG]

    พระผงหลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน

    ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2014
  14. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    ล็อคเก็ตหลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง ปี๒๕๑๗

    ยุคแรกๆ ภาพจางไปนิดแต่พุทธคุณไม่ได้จางตามครับ พระเถราจารย์ อายุกาลพรรษา

    นับ๑๐๐ปี ........

    ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    [​IMG]

    ....พระราชอุทัยกวี (พุฒ สุทตฺโต) อดีตเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี พ.ศ. 2469-2533
    ชาติภูมิ ท่านมีชื่อเดิมว่า พุฒ แจ้งอิ่ม เกิดเมื่อ 9 ธันวาคม 2439 ตรงกับวันพุธ ขึ้น 5 ค่ำเดือน 1 ปีวอก ณ. บ้านหนองเต่า ต.ทุ่งใหญ่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี

    ในวัยเยาว์ท่านต้องช่วยบิดามารดาทำนาและเลี้ยงน้อง แต่ท่านมีความสนใจในการปฏิบัติธรรม คือชอบสวดมนต์ก่อนนอนตามบิดาของท่านทุกๆ คืน ทำให้สวดมนต์ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย พ.ศ.2453 บิดาจึงนำท่านมาฝากพระสุนทรมุนี (ใจ) เจ้าอาวาสวัดมณีธุดงค์สงฆ์มูลิกาวาส ( พ.ศ.2456 สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สกลมหาสังฆปรินายก ได้ประทานนามใหม่ว่า “วัดทุ่งแก้ว” ) และเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนวัดมณีธุดงค์เชลยศักดิ์ ได้เรียนวิชา ภาษาไทย ภาษาขอม เลขะ วิชาลงรักปิดทอง

    ....บรรพชา – อุปสมบท

    พ.ศ.2454 ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดทุ่งแก้ว
    6 มีนาคม พ.ศ.2458 ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดทุ่งแก้ว โดยมีพระสุนทรมุนี(ใจ คงฺคสโร) เป็นพระอุปัชฌาจารย์ พระมหายอด อกฺกวํโส เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และได้รับฉายาว่า “สุทตฺโต”

    ....การศึกษา
    เมื่อได้บรรพชาเป็นสามเณรแล้ว ได้ศึกษาธรรมบทและมูลกัจจายน์ตลอดจนธรรมพื้นฐานต่าง ๆ และเมื่อได้อุปสมบทแล้ว ในปี พ.ศ.2459 สอบได้นักธรรมตรี จากสำนักเรียนวัดทุ่งแก้ว
    พ.ศ.2460 พระสุนทรมุนี(ใจ) เจ้าสำนักเรียนวัดทุ่งแล้วและพระอุปัชฌาย์ ได้ส่งท่านไปศึกษาต่อในสำนักเรียนวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ สอบได้นักธรรมโท
    พ.ศ.2463 สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค
    พ.ศ.2464 สอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค
    พ.ศ.2465 สอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค

    ในระหว่างศึกษาอยู่ที่สำนักเรียนวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์นี้ ท่านได้รับความเมตตาจาก สมเด็จพระวันรัต(เฮง เขมจารี) อบรมสั่งสอนธรรม จนมีความรู้ ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง แตกฉาน และมีโอกาสปรนนิบัติรับใช้ สมเด็จพระวันรัต(เฮง) อย่างใกล้ชิด เนื่องจากความที่เป็นคนอุทัยธานีเหมือนกัน ประกอบกับท่านเป็นผู้มีความวิริยะอุตสาหะและปฏิบัติกิจทางศาสนาได้อย่างเข้ม แข็ง มีศีลาจารวัตรงดงาม จึงเป็นที่ชื่นชอบของสมเด็จพระวันรัต(เฮง)เป็นอย่างยิ่ง นับว่าท่านเป็นศิษย์ที่สมเด็จพระวันรัต(เฮง) ให้ความเมตตาและไว้ว่างใจมากที่สุด

    นอกจากการศึกษาด้านปริยัติธรรมแล้ว พระราชอุทัยกวี(พุฒ) ยังมีความสนใจด้านวิปัสสนากรรมฐาน เป็นอย่างมาก ดังนั้น ในปี พ.ศ.2496 จึงได้ไปศึกษาวิปัสสนากรรมฐานกับ พระภัททันตะ อาสภเถระ ธัมมาจริยะ พระชาวพม่าที่เดินทางมาเผยแผ่ธรรมะด้านวิปัสสนากรรมฐานในประเทศไทย และได้นำความรู้มาอบรมสั่งสอนให้แก่ลูกศิษญ์ชาวอุทัยธานีและจังหวัดใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก โดยเริ่มทำการสอนตั้งแต่ พ.ศ.2497 เป็นต้นมา และได้จัดตั้งวิปัสสนามูลนิธิวัดมณีสถิตกปิฏฐารามขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบำเพ็ญทานและการกุศลในพุทธศาสนา ได้แก่การบำรุงสำนักวิปัสสนา และสำนักเรียนปริยัติธรรมวัดมณีสถิตกปิฏฐาราม และส่งเสริมกิจการการกุศลสาธารณประโยชน์ทั่วไป

    ....ด้านการปกครอง
    พ.ศ.2469 เป็นผู้รักาการแทนเจ้าอาวาสวัดทหุ่งแก้ว
    พ.ศ.2471 (19 กันยายน) เป็นเจ้าอาวาสวัดทุ่งแก้ว
    พ.ศ.2476 (6 พฤศจิกายน) เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี
    พ.ศ.2476 (26 กุมภาพันธ์) เป็นพระอุปัชฌาย์
    พ.ศ.2477 เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี
    พ.ศ.2478 เป็นเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี

    ....สมณศักดิ์
    6 พฤศจิกายน 2476 เป็นพระครูสัญญาบัตรที่”พระครูศรีรัตนาภิรม”
    19 กันยายน 2478 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ “พระสุนทรมุนี อุทัยธานี วรนายก สังฆปาโมกข์”
    5 ธันวาคม 2500 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้น ราชที่ “พระราชอุทัยกวี สมาธินทรียสุนทร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี”

    ....ความรู้ด้านพุทธาคม
    เป็นอีกส่วนหนึ่งที่อยู่ในความสนใจของพระราชอุทัยกวี (พุฒ) จึงได้แสวงหาและศึกษาจากผู้มีวิทยาคุณอีกหลายองค์ เท่าที่มีการบันทึกไว้มีดังนี้
    1.พระธรรมไตรโลกาจารย์ (ยอด) วัดเขาแก้ว อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์
    2.หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์
    3.หลวงพ่อเคน วัดดงเศรษฐี อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี
    4.หลวงพ่อสิน วัดหนองเต่า อ.เมือง จ.อุทัยธานี
    5.หลวงพ่อพลอย วัดห้วยขานาง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี
    6.หลวงพ่อจิ๋ว วัดเนินเหล็ก อ.เมือง จ.อุทัยธานี
    7.พระวิบูลวชิรธรรม(สว่าง) วัดท่าพุทรา จ.กำแพงเพชร
    8.หลวงพ่อจ้อย วัดอมฤตวารี(หนองน้ำคัน) อ.เมือง จ.อุทัยธานี
    9.พระอุดมธรรมภาณ(หลวงพ่อสม) วัดทัพทัน อ.เมือง จ.อุทัยธานี

    .มรณภาพ
    พระราชอุทัยกวี (พุฒ สุทตฺโต) สภาพสังขารโดยทั่วไปมีสุขภาพอนามัยดี ปราศจากโรคภัยไขเจ็บประจำตัว โดยปรกติท่านจะใช้เวลาปฏิบ้ติวิปัสสนากรรมฐานในกุฏิเสมอ บางครั้งจะปฏิบัติติดต่อกันเป็นเวลานาน 1-2 วัน โดยไม่ออกมาฉันภัตตาหารเลย ท่านเป็นแม่แบบและเป็นที่เคารพ เป็นความภาคภูมิใจของชาวอุทัยธานีมาโดยตลอดทั้งทางด้านปกครองและทางด้านเป็นพระวิปัสสนา ผิวกายของท่านมีราศียิ่งนักมีผิวกายสีชมพู ดูแล้วงามตาและประทับใจเป็นอย่างยิ่ง และในวันที่ 24 เมษายน พ.ศ.2533 เมื่อฉันภัตตาหารเช้าแล้ว ท่านก็ได้เข้ากุฏิปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเหมือนเช่นเคย จนกระทั่งเวลาประมาณ 10.00 น.เศษ มีผู้เข้าไปพบท่านได้มรณภาพอย่างสงบภายในกุฏิสนทรประมุข สังขารของท่านได้พระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุลอย บริเวณหน้าโรงเรียนพระปริยัติธรรม “อุทัยธรรมสภา” เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2534 ยังความเศร้าโศกเสียใจ อาลัยยิ่งแก่เหล่าศิษยานุศิษย์และชาวอุทัยธานีทั้งปวง

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลอย่างสูงครับ




    เหรียญเจ้าคุณพุฒิมี2เหรียญให้บูชา

    เหรียญที่ 1

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ





    เหรียญที่ 2

    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2014
  16. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    หลวงปู่สรเดช เตชวโร วัดคีรีธรรมาราม ลพบุรี อ่านประวัติข้อมูลได้ในเวปพลังจิตนี้ครับ

    http://palungjit.org/threads/%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89@%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%8A-%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%A3-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1-%E0%B8%A5%E0%B8%9E%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B5.296375/

    เหรียญรุ่นแรกพิมพ์พระพุทธชินราชหลังหลวงปู่สายอาจารย์ท่าน สภาพสวยเดิม

    (ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2015
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    ประวัติ หลวงพ่ออบ อินทวิริโย เป็นชาวบ้านหนองช้างปลัก ตำบลหัวสะพาน อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี เกิดปีระกา ตรงกับวันพฤหัสบดี แรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๑ พุทธศักราช ๒๔๕๒ นามบิดา ผึ่ง กลีบจงกล นามมารดา เพี้ยน กลีบจงกล มีพี่น้องร่วมกัน ๖ คน หลวงพ่ออบเป็นคนหัวปี หลวงพ่ออบอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ อุโบสถวัดถ้ำแก้ว มีพระอุปฌายย์ คือหลวงพ่อทิม วัดโคก หลวงพ่อเช้า วัดเวียงคอย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่ออยู่ วัดถ้ำแก้วเป็นพระนุสาวนาจารย์ เมื่ออุปสมบทแล้ว หลวงพ่ออบก็จำพรรษาอยู่วัดถ้ำแก้ว ศึกษาวิปัสสนาธุระ และพุทธคมกับหลวงพ่ออยู่ ด้วยความพากเพียรเป็นเวลาถึง ๕ พรรษา จากนั้นจึงเดินออกธุดงค์อยู่ทุกปี ร่ำเรียนวิชากับพระอาจารย์ต่าง ๆ คือ อาจารย์วัดลาดบัวขาว จังหวัดปราจีนบุรี หลวงปู่นาค วัดหัวหิน อาจารย์อยู่ อาจารย์หยอย เจ้าอาวาสวัดถ้ำแก้ว และปู่แสง(โยมพระอาจารย์หยอดญ)ซึ่งเป็นฆราวาสถือศีบกินเพล ซึ่งเรืองวิทยาคมและมีชื่อเสียงดังมากในจังหวีดเพชรบุรีสมัยนั้น วัตถุมงคลที่ท่านทำนั้น มี ตระกรุด ผ้ายันต์ เหรียญมี ๓ รุ่น
    หลวงพ่ออบ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์เมืองเพชรบุรีที่มีวิทยาคมเก่งกล้าด้านคงกระพันชาตรี จากประวัติคำบอกเล่ามีว่า...ครั้งหนึ่งมีคนบ้าถือมีดพร้าเข้ามาฟันท่านในวัด เสียงดัง บึกๆ แต่ไม่ระคายผิวท่านเลยแม้แต่น้อย ซึ่งสอดคล้องกับที่หลวงพ่อแดงเคยบอกผู้ที่ไปกราบท่านว่า"ถ้าจะเอาเหนียว ต้องไปหาท่านอบ วัดถ้ำแก้ว"หลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้ว พระเถระที่ประพฤติปฏิบัติ ดี ตามพระธรรมวินัย เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากการมรณภาพของท่าน ที่มี ผู้รู้มั่งไม่รู้มั่งนำไปพูดจาไม่ดี ทำให้หลวงพ่ออบ ท่านเงียบหายไปกับสายลม นั่นคือท่านมรณภาพด้วยการที่ซุงบนรถบรรทุก หล่นลงมาทับร่างของท่านจนถึงแก่มรณะภาพ ทั้งนี้เนื่องมาจากโซ่ที่ใช้รัดซุงดังกล่าวขาด แต่ที่น่าแปลกคือ ก่อนเกิดเหตุนั้น ท่านได้บอกกับคนอื่นที่ต้องไปช่วยงานท่านในการตีตราซุงเหล่านั้นให้หลบออกไป จากบริเวณดังกล่าวให้หมด รวมทั้งภายหลังที่เกิดเหตุแล้ว เมื่อไปพบร่างท่าน ปรากฏว่า ร่างกายท่านแทบไม่มีเลือดออกเลย มีเพียงเลือดเล็กน้อย ที่บริเวณปากท่านเท่านั้น นี่เองที่ทำให้พวกปากไม่ดีนำไปพูดว่า ขนาดท่านยังมรณภาพแบบนี้เลย แล้วพระท่านจะดีได้อย่างไร รวมทั้งผู้ที่ใช้ก็อาจจะตายไม่ดีเช่นนี้อีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นคำพูดที่ผิดอย่างมาก รวมทั้งเป็นคำพูดของคนที่เต็มไปอวิชชาแท้ๆอย่าลืมว่า ในอดีตยุคพุทธกาลนั้น พระสาวกที่ทรงด้วยอิทธิฤทธิ์ เช่น พระโมคคัลานะ ก็มรณภาพด้วยการถูกตีจากกลุ่มโจร ก่อนที่ท่านจะเข้าสู่นิพพาน และจากกรณีที่เครื่องบินตก แล้วมีพระเถราจารย์ มรณภาพ อาทิเช่น พระอาจารย์วัน ,พระอาจารย์จวน เป็นต้นนั้น เวลาก็เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า ท่านเป็นผู้บรรลุธรรมชั้นสูงทั้งนั้น นั่นคือ อัฐิของท่านเหล่านี้ ได้แปรสภาพเป็นพระธาตุไปจนหมด ดังนั้น จึงไม่อยากให้มองข้ามของดีๆไปหลวงพ่อ แดง วัดเขาบันไดอิฐ พระเกจิอาจารย์ผู้ลือนามแห่ง จ.เพชรบุรี ท่านได้กล่าวไว้ว่า "หากฉันตายให้ไปหาหลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้ว เขาสามารถแทนฉันได้ " นี่เป็นคำกล่าวยืนยันจากหลวงพ่อแดงท่านได้กล่าวไว้ปัจจุบันเหรียญของท่านหา ค่อนข้างยากแล้วมีประสบการณ์ดี

    ขอขอบคุณที่มาและข้อมูลอย่างสูงครับ

    พระผงรูปเหมือนหลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้ว

    ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  18. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    [​IMG]

    หลวงปู่เพชร ฐานธัมโม
    วัดสิงห์ทอง บ้านตูม ตำบลม่วงใหญ่
    อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี
    ชาติกำเนิด
    หลวงปู่เพชร ฐานธัมโม เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ ๓ กรกฎาคม ๒๔๕๘ ในหมู่บ้านตูม หมู่ที่ ๖ ตำบลม่วงใหญ่ กิ่งอำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี โยมพ่อชื่อหมี โยมแม่ชื่อ คำบาง นามสกุล แดงกัณหา ประกอบอาชีพทำนา มีพี่น้องด้วยกัน ๔ คน หลวงปู่เป็นบุตรคนที่ ๓
    ปฐมวัย
    เมื่อสมัยเด็กๆ ท่านได้เข้าเรียนในโรงเรียนประชาบาล ประจำหมู่บ้าน จนจบชั้นประถม ๔ จากนั้นท่านจึงออกมาช่วยบิดามารดาทำนาทำไร่ ท่านจึงชาชินกับความลำบากมาตั้งแต่เล็ก และรู้ถึงความลำบากของผู้อื่น จึงเป็นเหตุให้ท่านมีจิตคิดช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความลำบากกว่าตน
    อุปสมบท
    หลวงปู่เพชรท่านอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่ออายุครบบวช ที่วัดโพธิ์พฤกษาราม ในหมู่บ้านเจียด อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งอยู่ห่างไกลจากบ้านตูม ประมาณ ๓ กิโลเมตร โดยท่านอุปสมบทเมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๔๗๘ โดยมี พระอาจารย์ผึ้ง พันธสาโร เจ้าอาวาสวัดสิงห์ทองในอดีตเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เคน ญาณกโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์บุศร์ ไม่ทราบฉายา เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลวงปู่ศึกษาวิชามูลกัจจายน์ จากพระอาจารย์ที่วัดนาขนำ ตำบลขามป้อม อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ศึกษาวิชาอาคมและสรรพวิชาต่างๆจากหลวงพ่อเกตุ ซึ่งเป็นพระชาวเขมรที่มีวิชาอาคมสูงยิ่งในถิ่นนั้น เมื่อชำนาญแล้วจึงกราบลาหลวงพ่อเกตุเดินทางข้ามไปยังฝั่งลาว เพื่อศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เพราะในยุคนั้นฝั่งประเทศลาวนั้นมีพระอาจารย์ที่มีวิชาอาคม ตลอดจนการปฏิบัติที่ถือเคร่งมาก จุดแรกที่หลวงปู่เพชรไปศึกษาคือ สำนักวัดบ้านละหาน้ำ แขวงสุวรรณเขต ประเทศลาว หลวงปู่เพชรตั้งใจเรียนอย่างจริงจัง โดยเฉพาะวิชาด้านเมตตามหานิยม หลังจากนั้นท่านก็ธุดงค์ไปยังนครเวียงจันทน์อันเป็นดินแดนที่มีความเจริญรุ่งเรืองในอดีต หลวงปู่เล่าว่าที่เวียงจันทน์มีภิกษุสามเณรชาวไทยไปเรียนหนังสือกันมาก เพราะเป็นต้นตำรับของภาษาบาลีที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองมาก่อน โดยหลวงปู่ได้เรียนภาษาบาลีที่วัดสระเกศ เมืองเวียงจันทน์ เมื่อถึงเวลาสอบก็เกิดสงครามอินโดจีนขึ้นก่อนท่านจึงไม่ได้สอบ พระเณรชาวไทยต่างก็หนีข้ามมายังฝั่งไทยกันโกลาหล ซึ่งท่านเองก็นั่งรถจากเวียงจันทน์มายังเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน แล้วต่อมาที่สุวรรณเขต ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับจังหวัดมุกดาหารของประเทศไทยของเรา เมื่อถึงฝั่งท่านก็พำนักอยู่ที่วัดนาดี ในตัวเมืองมุกดาหาร แล้วเดินทางโดยรถยนต์มายังอำนาจเจริญ แล้วตัดไปยังอำเภอตระการพืชผล จนกระทั่งถึงบ้านตูมอันเป็นบ้านเกิดของท่านอีกครั้งหนึ่ง ?นับเป็นการผจญภัยที่ร้ายแรงมากในชีวิตของอาตมา ที่ได้ผ่านมาอย่างทุลักทุเลแทบเอาชีวิตไปทิ้งที่ประเทศลาวเสียแล้ว? หลวงปู่เพชรท่านกล่าว หลังจากข่าวคราวหลวงปู่เพชรเดินทางกลับมายังวัดสิงห์ทอง บ้านตูม ประชาชนจากทุกสารทิศต่างก็เดินทางมาถามข่าวคราวจากท่านมิได้ขาด เพราะความห่วงใยและเลื่อมใสในตัวท่าน บางคนเดินทางมาจากอำเภอเขมราฐ และอำเภอโขงเจียม ซึ่งอยู่ห่างไกลจากกิ่งอำเภอโพธิ์ไทรมาก จากนั้นหลวงปู่เพชรก็ถูกญาติโยมขอร้องไม่ให้ไปไหนอีก เพราะชาวบ้านเห็นว่ามีเพียงท่านที่เป็นที่พึ่งของพวกเขาทุกคน หลวงปู่เพชรท่านอยู่วัดสิงห์ทองไม่นาน ได้มีประชาชนมาหาท่านมิได้ขาด บ้างก็มาเป็นทัวร์จากกรุงเทพฯ ทำให้ท่านไม่มีเวลาปฏิบัติธรรม ทำให้ท่านคิดที่จะหนีไปอยู่ป่าเขา และต่อมาท่านก็ได้หนีไปหาความวิเวกอยู่ที่ภูเขาควาย (ไม่ใช่ภูเขาควายที่อยู่ฝั่งลาว) เป็นภูเขาเล็กๆอยู่ในเขตกิ่งอำเภอโพธิ์ไทร ซึ่งเป็นป่าดงดิบสงบสงัด และมีสิ่งอาถรรพ์ลี้ลับอยู่มาก จนพระธุดงค์หลายรูปต้องมามรณภาพที่ป่าแห่งนี้ มีสัตว์ป่าดุร้าย และที่สำคัญคืองูเห่า ซึ่งมีจำนวนมากกว่าสัตว์ประเภทอื่นๆ
    การสร้างวัตถุมงคล
    เหรียญรุ่น ๑ ลายเซ็น สร้าง พ.ศ. ๒๕๑๘
    เนื้อทองคำ ๔ เหรียญ
    เนื้อเงิน ๙๙ เหรียญ
    เนื้อทองแดง ๑,๙๙๙ เหรียญ (รมมันปู) ปลุกเสกเดี่ยว และนำเข้าพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม โดยมี ๑๑๙ พระเกจิอาจารย์นั่งบริกรรม
    พระสมเด็จจำปาสัก
    บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ๒,๕๐๐ องค์
    ไม่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ๒,๕๐๐ องค์
    (เข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกหลายแห่ง)
    พระปิดตามหาลาภ สร้าง พ.ศ. ๒๕๒๐
    เนื้อรากต้นหิ่งหาย ๑,๙๙๙ องค์
    (ปลุกเสกเดี่ยวจนเคลื่อนไหวได้ ตามตำราโบราณาจารย์ ผู้ศรัทธาบูชาหมดภายใน ๓ วัน)
    พระนางพญาประทานพร สร้าง พ.ศ.๒๕๒๐ (ปลายปี)
    นางพญาปิดทอง ๕๐๐ องค์
    นางพญาไม่ปิดทอง ๒,๕๐๐ องค์
    (ศิษย์บูชาหมดภายในปีนั้น)
    เหรียญทองแดง สร้าง พ.ศ.๒๕๒๑
    จัดสร้างโดยนายอำนาจ ส่งเสริม นายอำเภอเขมราฐ เนื้อทองแดงอย่างเดียว ไม่ทราบจำนวน
    (แจกจ่ายหมดภายในปีนั้น)
    เหรียญรูปใบโพธิ์ สร้าง พ.ศ. ๒๕๒๘
    เนื้อเงิน ๓,๐๐๐ องค์
    เนื้อนวะโลหะ ๓,๐๐๐ องค์
    เนื้อผง ๓,๐๐๐ องค์
    (สร้างเนื่องในโอกาสฉลองอายุ ๗๐ ปี หลวงปู่ปลุกเสกเดี่ยวตลอดไตรมาส)
    พระสังกัจจายน์ สร้างพร้อมกับเหรียญรูปใบโพธิ์
    เนื้อผง ๓,๐๐๐ องค์
    เหรียญเสมา สร้าง พ.ศ. ๒๕๔๒
    เนื้อทองคำ ๙ เหรียญ
    เนื้อเงิน ๘๔ เหรียญ
    เนื้อทองแดง (รมมันปู) ๕,๐๐๐ เหรียญ
    (สร้างเนื่องในโอกาสฉลองอายุ ๘๔ ปี ๗ รอบ) พร้อมด้วยกุมารทองอุ้มทรัพย์เนื้อผง จำนวน ๒,๕๔๒ องค์ เพื่อมอบแก่ศิษย์ที่ไปกราบนมัสการหลวงปู่

    ( ข้อมูลจากนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ ปีที่ ๑๙ ฉบับที่ ๔๓๘ วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๔๔)

    ขอขอบคุณที่มาและข้อมูลอย่างสูงครับ

    พระผงรูปเหมือนรุ่นแรกปี๒๕๑๘ ของหลวงปู่ครับ

    ให้บูชา 800 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  19. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    สมเด็จพระครูไพบูลย์วิริยะคุณ รุ่นแรก ปี14 วัดชากมะกรูด ระยองหลวงปู่ทิม ร่วมเสก

    ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาท

    [​IMG] [​IMG]


    ประวัติหลวงปู่ทัต วัดช่องแสมสาร

    http://www.watchong.net/index.php?mo=3&art=658239


    เหรียญปี2514สภาพผ่านการบูชา

    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2013
  20. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,778
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เบอร์บัญชีผมครับ
    เบอร์บัญชีธ.กรุงไทย KTB125-0-08923-9 supachai thu
    โอนเงินแล้วช่วยแจ้งวันเวลาที่โอนในกระทู้เพื่อง่ายในการตรวจสอบหรือทางPMแล้วจะรีบดำเนินการจัดส่งEMSไปให้โดยด่วนนะครับ..หลายรายการก็ค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    ติดต่อได้ที่ 08..1.70..4..72..64
     

แชร์หน้านี้

Loading...