**กริยาการล้าง** ล้างด้วยเมตตา ๑ ล้างด้วยโทสะ ๑ เลือกกันเอาเองว่าต้องการแบบไหน เมื่อมีสิทธิ์เลือก ก็จงใช้สิทธิ์นั้นให้เป็นประโยชน์สูงสุด..
**การล้าง** ล้างเพื่อทำความสะอาด ๑ ล้างเพื่อทำลาย ๑
ตามหากันมานาน เฝ้ารอกันมานาน วุ่นวายมาหลายปี.. ปัจจุบันนี้ ของจริง ล้วนๆ..
เราไม่ได้มาเกิด มาตาย เล่น เช่นคนอื่นทั่วไป.. เราไม่ได้มาเกิด เกิดมา เพื่อหาความสุขทางโลก เช่นคนอื่นๆ.. เราอธิษฐานมาเกิด เรามีหน้าที่ต้องทำ...
ถ้าจะแนะนำ ตักเตือนผู้คน เกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติ ก็ให้ทำไป แต่ อย่าให้มีข้อความที่ขัดแย้ง หรือ ลบล้างคำสอนพระพุทธเจ้า แบบที่ผ่านมาอีก.....
ถ้าจะเอาเชิงวิทยาศาสตร์ มา กล่าวก็ให้เป็นวิทยาศาตร์ล้วนๆ.. อย่าให้มีข้อความขัดกับคำสอนพระศาสดา แบบนี้อีก.. จิตจักรวาลดวงใหญ่ ใหญ่มาจากไหน...
ไม่ต้องมาตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จเลย.. แก้ไขตนเองได้ ให้รีบแก้ไขเสีย.. เลิกตามลัทธิมาร "จิตจักรวาล" ได้แล้วก่อนที่จะสายเกินไป..
เราบอกแล้ว เราเตือนแล้ว.. ถ้ายังไม่หยุด ก็ให้เป็นไปตามกรรม.. เสร็จหน้าที่ท่านเมื่อไหร่ ก็ กลับไปยังที่ที่ท่านจากมาได้เลย..
อายุก็ปาเข้า50ปีละ ยังโง่ให้เขาหลอก ให้เขาลากจูงไปได้.. คำสอนพระพุทธเจ้าไม่ศึกษา ไม่น้อมนำมาประพฤติ ปฏิบัติ กลับไปตาม...
จิตดวงไหนล่ะ จิตจักรวาลดวงใหญ่.. ชี้ตรงไปที่ดวงจิต หรือตัวบุคคลดูซิ.. อย่าอ้างลอยๆ อย่าสมคบคิด..
ลัทธิมาร เอาธรรมเข้าตัว.. ลัทธิมาร ลบล้างคำสอนพระพุทธเจ้า.. ลัทธิมาร ปลุกระดมและล้างสมองคนเพื่อประโยชน์แห่งตน..
ให้ "ฟ้ามี" กลับมาทางสายกลาง ที่พระพุทธเจ้า ทรงสั่งสอน ดีกว่า.. ก่อนที่ "ฟ้ามี" จะกลายเป็น "อบายภูมิมี"
ใครเป็นคนสื่อกับจิตจักรวาล เปิดเผยตัวดูซิ.. เก่งกว่าพระพุทธเจ้า รู้แจ้งกว่าพระพุทธเจ้า ลบล้างคำสอนพระพุทธเจ้า นี่ อยาก เจอ ตัว จัง เลย...
ลบล้างคำสอนพระพุทธเจ้า ชัดๆ.. ลัทธิมาร แท้ๆ..
ก็ตามหากันมาหลายปีแล้ว ไม่ใช่เหรอ.. "มาตามสัญญา" มาตามหัวใจเรียกหาแล้วนี่ไง.. พอ มา แล้ว ทำ เป็น รับ ไม่ ได้:D
แรงแต่ปาก แต่จิตไม่เคลื่อนไปเสวยอารมณ์ จิตไม่แส่ส่าย พอเข้าใจใหมจ๊ะ..
เมื่อมีธรรมเป็นเครื่องอยู่ ทุกข์จะมีมาแต่ไหน.. "บันเทิงในธรรม"
มีเวลาจำกัด นะ บอกไว้ก่อน.. ถ้าไม่พร้อม ก็กลับไปยังที่ที่จากมาซะ จะได้ไม่เสียเวลาคนอื่น.. หน้าที่สำคัญกว่าการมา แนะนำทางให้ท่าน นั้นมีอยู่.....
"ฮูขี้กูนี่"
อยากได้เรื่องราวตื่นเต้นใช่มั๊ย เดี๋ยวจะบอกให้รู้ไว้.. "พระยาธรรมิกราช" ใกล้ประจักษ์แก่โลกมนุษย์แล้ว แค่รอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น.....
ว่าจะไม่คุยแนวๆนี้ เสือก โง่ อยู่ได้.. จำเป็นต้องยกเอาเรื่องภัย มาอ้างอิง..
จิตที่สะอาดบริสุทธิ์แล้ว ย่อมมีพลังงานบวก พลังแห่งความบริสุทธิ์ พลังแห่งกระแสธรรม แผ่ ออกมา ให้โลกได้ชุ่มเย็น..
ผู้ที่รู้อะไรเป็นอะไร เขาก็ทำมาหลายปีแล้ว ก่อนที่เราจะเข้ามาเวปนี้ซะอีก.. การช่วยโลกได้ มีทางเดียว คือ ปฏิบัติ สมาธิจิตตภาวนา เท่านั้น.....
อย่าวิ่งตามโลกอยู่เลย อย่าหวาดกลัวภัยพิบัติอยู่เลย อย่าสนใจสิ่งภายนอกอยู่เลย อย่ามัวโปรดสัตว์ภายนอกอยู่เลย.. สิ่งภายนอก มันเป็น อนิจจัง ทุกขัง...
ภัยทั้งหลายทั้งปวง ภัยพิบัติอันน่ากลัวที่สุด คือ "ภัยแห่งการเกิด" ที่ใด ยังมีการเกิด ที่นั้นมีทุกข์ล้วนๆไม่จบสิ้น.. ภัยทั้งหลายทั้งปวง...
กายสังขาร มีไว้ให้ดวงจิตมาอาศัย.. กายสังขาร มีไว้ให้ดวงจิต ได้เรียนรู้.. จิตที่รู้แจ้ง ในกายสังขาร ก็รู้แจ้งโลก รู้แจ้งในจักรวาล รู้แจ้งในวัฏฏะ..
ร่างกายสังขาร มันเป็นสมมุติ มันเป็นมายา มันไม่มีอยู่จริง.. เรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลก มันเป็นมายา.. เพราะหลงติดอยู่ในมายา.. เพราะหลงยึดมายา...
แค่โพสต์เดียวกัน ยังขัดแย้งกันเอง แล้ว.. เมื่อยังวิ่งตามโลก ก็ยากจะเห็นโลกอย่างแจ่มแจ้ง.. เมื่อไม่เห็นโลกอย่างแจ่มแจ้ง ก็ยากจะอยู่เหนือโลก..
พระพุทธเจ้าสอนให้พิจารณา ปัจจัย4 ยังไง ทำไมไม่ศึกษา.. จะมาด้นเดาเอาเองทำไม ผู้สอนตายไปหลายรุ่น ละ นับได้ก็ 2,500 กว่าปี.. ปัญญามีก็ศึกษา แล้ว...
ให้รู้ไว้ว่า ทุกอย่างที่เกิด ทุกอย่างที่ประสบอยู่ ไม่มีความบังเอิญ.. ทุกอย่างที่เกิด เกิดโดย "กรรม" ทุกอย่างที่เกิด เกิดโดย "ธรรม"
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา