4นร.เซนต์โยฯเจ็บฟรี"จิตรลดา"ป่วยทางจิตเรื้อรัง!

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายอนุทิน ชาญวีระกูล รมช.สาธารณสุข </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตร หน.ส่วนจิตเวช </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>น.ส.จิตรลดา ตันติวานิชกุล ผู้ต้องหา</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ผลตรวจสอบอาการผิดปกติทางจิต ของน.ส.จิตรลดา มือมีดแทง 4 นักเรียนโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ออกมาแล้ว ปรากฏว่า เจ็บป่วยด้วยอาการทางจิตเรื้อรังมานานกว่า 10 ปี หมอยังไม่ให้รับตัวไปดำเนินคดี เพราะยังไม่สามารถให้ข้อมูลต่อขบวนการยุติธรรมได้

วันนี้ ( 29 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ นายอนุทิน ชาญวีระกูล รมช.สาธารณสุข พร้อมนพ.มล.สมชาย จักรพรรดิ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต นพ.ศิริศักดิ์ นิติดิลกรัตน์ ผอ.สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ และนพ.กัมปนาท ตันสิถบุตร หน.ส่วนจิตเวช ร่วมกันแถลงผลการตรวจวินิจฉัยน.ส.จิตรลดา ตันติวานิชกุล ผู้ต้องหาคดีใช้อาวุธมีดบุกเข้าไปแทง4เด็กนักเรียนโรงเรียนเซนต์โยเซพคอนเวนต์ โดยคณะกรรมการตรวจวินิจฉัยทางจิตเวช

นายอนุทินกล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ ทางพนักงานสอบสวนสน.ทุ่งมหาเมฆ ได้ส่งตัว น.ส.จิตรลดา มารับการตรวจสภาพจิต ตามประมวลกฏหมายพิจารณาความอาญามาตรา 24 ซึ่งผลการตรวจโดยคณะกรรมการตรวจวินิจฉัยทางจิตเวช โดยผู้บริหารกรมสุขภาพจิต ผอ.สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ และผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านจิตเวช ได้สรุปผลว่า น.ส.จิตรลดา มีความผิดปกติทางจิต โดยมีความเจ็บป่วยเรื้อรังมานานมากกว่า 10 ปี ขาดการรักษาอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ การพูดจายังไม่ต่อเนื่องเป็นเรื่องราว รวมทั้งยังมีแนวความคิดที่ผิดปกติมากๆ ไม่สามารถให้ข้อมูลต่อขบวนการยุติธรรมได้ คณะกรรมการตรวจวินิจฉัยทางจิตเวช จึงมีความเห็นว่า น.ส.จิตรลดายังไม่สามารถต่อสู้ทางคดีได้ ควรได้รับการบำบัดรักษาทางจิตเวช โดยทีมนิติจิตเวชอีกระยะหนึ่ง ซึ่งในขณะนี้ น.ส.จิตรลดา ยังรับการบำบัดรักษาอยู่ในสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ โดยมีทีมนิติจิตเวชให้การดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยของสังคม และเพื่อเป็นการพิทักษ์สิทธิของผู้ต้องหา ในกรณีที่มีความเจ็บป่วยทางจิต

ด้าน นพ.กัมปนาท กล่าวว่า น.ส.จิตรลดา ป่วยผิดปกติทางจิต แต่จะเป็นโรคอะไรยังไม่ขอเปิดเผย เนื่องจากเพิ่งตรวจในเบื้องต้นเท่านั้น ส่วนจะระบุว่า เป็นโรคอะไรนั้น ต้องใช้เวลาอีกระยะ ค่อยๆเก็บข้อมูลไป ขณะนี้จากการตรวจสุขภาพจิตเท่าที่เจอ น.ส.จิตรลดา ยังพูดจาและให้ข้อมูล ไม่ต่อเนื่องเป็นเรื่องเป็นราว ส่วนสาเหตุที่ น.ส.จิตรลาด ก่อคดีขึ้น ยังไม่สามารถสรุปได้ เนื่องจากมีปัญหาการสื่อสารกับผู้ป่วย จึงยังไม่ได้ข้อมูลตรงนั้น ว่าสาเหตุที่ลงมือเกิดจากอะไร

"ระยะเวลาในการรักษา จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป เนื่องจากผู้ป่วย มีอาการเจ็บป่วยทางจิต มาเป็นเวลานานมาก ประมาณ 14-15 ปีแล้ว ทำให้ต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานาน โดยในระยะเวลา 3 เดือนนั้น จะพยายามรักษาอย่างเต็มที่ให้ผู้ป่วยสามารถให้ปากคำ หรือให้ข้อมูลต่างๆได้ แต่จะหายขาดหรือไม่นั้น คงไม่สามารถตอบได้อยู่ที่การรักษา ซึ่งตอนนี้ ต้องปรับยามากพอสมควร ต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาอีกระยะ

ผู้สื่อข่าวถามว่า สภาพความเป็นอยู่ของน.ส.จิตรลดา เป็นอย่างไร นพ.กัมปนาทตอบว่า มีห้องแยกอยู่ต่างหาก มีทีวีวงจรปิดคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง แต่บางช่วงในชีวิตประจำวัน จะต้องลงมาอยู่รวมกับผู้ป่วยคนอื่นบ้าง เช่นการลงมารับประทานอาหารร่วมกัน แต่ก็จะมีเจ้าหน้าที่จากเรือนจำมาคอยดูแลร่วมกับพยาบาลอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัย และป้องกันไม่ให้หลบหนี

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์

</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ต้องวางอุเบกขา สำหรับเรื่องนี้ครับ
เพราะนางสาวจิตลดา ยังไม่หายป่วยจากโรคจิต
เอาไปขังคุก โรคจิตยิ่งกำเริบใหญ่
รักษาให้หายแล้วไปรับโทษ ก็ไม่เสียหายอะไร

สมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าก็ยกโทษให้พระที่ทำความผิดตอนเป็นบ้า
เรียกว่า การให้อมูฬหวินัย คือทำความผิดขณะไม่รู้ตัว
ตามอ่านได้ที่

http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/prawinai/6.4.html

ความว่า
๓. อมูฬหวินัย
ภิกษุชื่อคุคคะ เป็นบ้า ได้ทำความผิดหลายประการ มีผู้โจทฟ้อง พระผู้มีพระภาคจึงทรงแนะให้ระงับด้วยอมูฬวินัย โดยให้ผู้ถูกฟ้อง (ซึ่งหายแล้ว) ขออมูฬหวินัย และให้สงฆ์สวดประกาศให้อมูฬหวินัย เป็นอันระงับด้วยยกให้เป็นบ้าในขณะทำความผิด. แต่ก็ทรงวางเงื่อนไขไว้ว่า ถ้าทำความผิดขณะที่รู้สึกตนและไม่เป็นบ้า แต่แก้ตัวว่าไม่รู้สึกตน หรือรู้สึกเหมือนฝัน หรือแก้ตัวอ้างความเป็นบ้าสงฆ์ให้อมูฬหวินัยแก่เธอ ดังนี้ เรียกว่าไม่เป็นธรรม ถ้าตรงกันข้าม คือทำไปในขณะเป็นบ้าไม่รู้สึกตัวจริง ๆ การให้อมูฬหวินัยจึงเป็นธรรม.

................................................................................................................