เรื่องเด่น “เสืออ้วน”แคล้วคลาดด้วยตะกรุด”หลวงพ่อโม”แม้แต่ขุนพันธ์ฯยังต้องตะลึง

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย montrik, 26 พฤศจิกายน 2019.

  1. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,126
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,087
    “เสืออ้วน”แคล้วคลาดด้วยตะกรุด”หลวงพ่อโม”แม้แต่ขุนพันธ์ฯยังต้องตะลึง
    7Untitled-1-1.png
    วันนี้ได้นำเรื่องราวของ “เสืออ้วน”แคล้วคลาดด้วยตะกรุด”หลวงพ่อโม”แม้แต่ขุนพันธ์ฯยังต้องตะลึง นำมาให้ทุกท่านได้อ่านศึกษา ไปชมกันเลย
    U15404946355682514627934011.jpg
    หากกล่าวถึง ขุนพันธรักษ์ราชเดช ในปีพ.ศ.๒๔๘๙ ท่านย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท ได้ปะทะปราบปรามเสือร้ายหลายคนเช่น เสือฝ้าย เสือย่อง เสือผ่อน เสือครึ้ม เสือปลั่ง เสือใบ เสือดำ เสือไหว เสือมเหศวร กรมตำรวจได้พิจารณาเห็นว่าผู้ร้ายในเขตจังหวัดชัยนาทและสุพรรณบุรีชุกชุมมากขึ้นทุกวันยากแก่การปราบปรามให้หมดสิ้นจึงได้ตั้งกองปราบพิเศษขึ้น

    โดยคัดเลือกเอาเฉพาะนายตำรวจที่มีฝีมือในการปราบปรามรวมได้๑กองพันโดยแต่งตั้งให้ พ.ต.ต.สวัสดิ์ กันเขตต์เป็นผู้อำนวยการกองปราบและพ.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดชเป็นรองผู้อำนวยการกองปราบพิเศษได้ประชุมนายตำรวจที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๔๘๙ เพื่อวางแผนจับเสือฝ้ายแต่ล้มเหลวรู้ตัวเสียก่อน ขุนพันธ์ฯได้รับคำสั่งด่วนให้สกัดบรรดาเสือที่จะแตกแถวพากันเข้ามาในจังหวัดชัยนาท

    เสืออ้วนเสือชื่อดังแถบบ้านห้วยกรดเป็นที่หมายหัวของทางการในยุคปี ๒๔๘๘ เคยสร้างวีรกรรมอุกอาจถึงขึ้นยกพวกบุกปล้นปืนปลัดอำเภอสรรคบุรีมาแล้วและรอดจากคมกระสุนของเจ้าหน้าที่ไปได้ทุกครั้ง ฟันแทงไม่เข้าปืนยิงกระหน่ำไม่มีโดนตัว ด้วยมีของดีคาดติดเอวตลอดเวลาทั้งตื่นและหลับคือ”ตะกรุดโทน” หลวงพ่อโมวัดจันทนาราม เมื่อพล.ต.ต.ขุนพันธ์ได้ถูกส่งมาเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาทเพื่อปราบปรามชุมเสือเขต ชัยนาท สุพรรณ จึงตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้นมาร่วมกับผู้ใหญ่ฉ่างร่วมกันล่าเสืออ้วน เมื่อปะทะกันทุกครั้งแม้เจ้าหน้าที่จะระดมยิงเท่าไหร่ก็ไม่เคยถูกหรือระคายผิวเสืออ้วนผู้นี้เลยสักครั้ง

    คาถาแคล้วคลาดมหาอุตม์ หลวงพ่อโม วัดห้วยกรด “นะอุดโมอุด พุทโธนะโมพุทธายะ อิดตาริอิดอะกะอะอุ อัดถิพิดสะตัง ยาคะยานะ นะอุดโมอัด พุทโธ นะโมพุทธายะ พุทธังคงเนื้อ ธัมมังคงหนัง สังฆังคงกระดูก กรีเพชรชะคงคง” เป็นที่สงสัยยิ่งนักว่าเสืออ้วนมีของดีอะไรติดตัวครั้นสอบถามจึงรู้ว่าเสืออ้วนมีตะกรุดติดกายอยู่ดอกเดียวเป็นของหลวงพ่อโมวัดห้วยกรด เจ้าหน้าที่เค้าเรียกแบบนั้นท่านจึงเดินทางไปกราบหลวงพ่อโมเพื่อขอคำแนะนำจึงได้ทราบว่าต้องถอดตะกรุดเสียก่อนจึงจะจับเสืออ้วนได้
    image_big_5b96277b6adcd.jpg
    พล.ต.ต.ขุนพันธ์ จึงวางแผนปลดตะกรุดโทนเสืออ้วนเพื่อปราบให้ได้ด้วยระยะเวลาล่วงเลยมาเป็นเดือนแล้ว สุดท้ายโอกาสจึงเป็นของทางการหรือไม่ก็เป็นด้วยชะตาถึงคาดของเสืออ้วนเอง ขณะทำการล้อมจับกุมนั้นสายคาดตะกรุดโทนที่ทำมาจากเชือกควั่นนั้น เปื่อยจนยุ่ยด้วยการใช้งานมาโดยไม่มีเวลาตรวจสอบ หล่นจากเอวเสืออ้วนขณะต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ กระสุนจึงทะลุร่างเสืออ้วนแบบนับไม่ถ้วน เมื่อสิ้นเสียงปืน เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบร่างเสืออ้วนที่สิ้นลมหายใจไปแล้ว ไม่มีตะกรุดติดกายแต่อย่างใดซึ่งตะกรุดนั้นตกอยู่ห่างออกไปอีกหลายวา ตะกรุดดอกนั้นเล่าสืบต่อกันมาบ้างว่าท่าน พล.ต.ต.ขุนพันธ์ได้นำกลับไปด้วย บ้างก็บอกว่า ผู้ใหญ่ฉ่างขอติดตัวกลับไปหลังจากเหตุการณ์ในปีนั้น คนต่างพื้นที่ จ.ชัยนาท ต่างก็รู้จักในชื่อ หลวงพ่อโม วัดห้วยกรด(วัดจันทนาราม)จ.ชัยนาท
    38009473_953199738217118_5189651052961464320_n.jpg
    บทความที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเรื่องราวที่เป็นตำนานเล่าขานที่เล่าสืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่นและมีบันทึกไว้ นำมาเผยแพร่บารมีของครูบาอาจารย์เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ทุกๆท่าน สาธุ สาธุ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

    ขอบคุณ เวบ นักเลงโบราณ
    69217545_2491291440930596_8190969487827140608_n.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...