เรื่องเด่น ในเรื่องของการทำบุญ ต้องมีปัญญาประกอบ

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 16 มิถุนายน 2020.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,465
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,372
    97814047_3012430002176108_565320049519230976_o.jpg

    พระอาจารย์กล่าวว่า "ในเรื่องของการทำบุญ ต้องมีปัญญาประกอบ รู้จักเลือกเนื้อนาบุญ อย่างท่านอังกุรเทพบุตร สร้างโรงทาน ๘๐ โรง เลี้ยงคนทั้งกลางวันกลางคืนเป็นเวลาสองหมื่นปี ไปเกิดเป็นเทวดามีบุญน้อยที่สุดในดาวดึงส์ เทวดาองค์ไหนมาก็ต้องหลีกให้เขา เพราะว่าท่านเกิดในช่วงว่างจากพระพุทธศาสนา ช่วงนั้นคนไม่ได้อยู่ในศีลในธรรม

    พระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นไปโปรดพุทธมารดา อินทกเทพบุตรและอังกุรเทพบุตร มากราบพระพุทธเจ้าพร้อมกัน ท่านนั่งอยู่ซ้ายและขวา เมื่อเทวดาที่มีศักดานุภาพใหญ่กว่ามาถึง อังกุรเทพบุตรต้องหลีกให้เขา ท่านก็ถอยไปเรื่อย..ถอยไปเรื่อย แต่อินทกเทพบุตรนั่งอยู่ที่เดิม

    ท้ายสุดพอประชุมเทวดาครบถ้วน อังกุรเทพบุตรอยู่สุดขอบจักรวาลพอดี แต่อินทกเทพบุตรยังนั่งอยู่ที่เดิม แม้แต่พระอินทร์มา อินทกเทพบุตรยังไม่ต้องหลีกให้เลย พระพุทธเจ้าจึงถามบุรพกรรม ทั้ง ๆ ที่พระองค์รู้ แต่ทรงถามให้เจ้าตัวเล่าเอง

    อังกุรเทพบุตรจึงได้เล่าให้ฟังว่าในอดีตชาติ ท่านเกิดมาในช่วงที่มนุษย์มีอายุขัย ๘๐,๐๐๐ ปี ช่วงวาระสุดท้ายบั้นปลายชีวิตตั้งโรงทาน ๘๐ โรง เนื่องจากเป็นมหาเศรษฐี ท่านเลี้ยงคนทั้งกลางวันกลางคืนเป็นเวลา ๒๐,๐๐๐ ปี แต่ก็มีบุญอยู่แค่นี้ เพราะอยู่ในช่วงโลกว่างจากศาสนา คนไม่ได้อยู่ในศีลในธรรม

    พอพระพุทธเจ้าถามอินทกเทพบุตร อินทกเทพบุตรเล่าว่าในชีวิตทำบุญครั้งเดียว ท่านเป็นชาวป่ามีอาชีพตัดฟืนขาย อยู่กับแม่และน้องสาว หลังคาบ้านก็รั่ว ผ้าก็ขาด วันหนึ่งมีพระธุดงค์ผ่านไป ๖ องค์ อินทกเทพบุตรเห็นเข้าก็ดีใจ ได้ข่าวว่ามีพุทธศาสนาเกิดขึ้นมานานแล้ว มีพระสงฆ์มานานแล้ว

    อยากทำบุญแต่ติดด้วยเรื่องทำมาหากิน เพราะว่าท่านตัดฟืนขาย กว่าจะได้ฟืนก็หมดไปครึ่งค่อนวัน กว่าจะไปถึงตลาด กว่าจะขายฟืนหมด ไหนจะต้องซื้ออาหารกลับมาเลี้ยงแม่และน้องก็หมดวันพอดี ไม่มีโอกาสไปกราบพระพุทธเจ้าเพื่อฟังธรรม ไม่มีโอกาสไปกราบพระสงฆ์เพื่อฟังธรรม

    พอเห็นพระเข้าก็เลยดีใจ นิมนต์พระขอถวายอาหาร อินทกเทพบุตรก็เอาอาหารแค่ในส่วนที่มี ส่วนใหญ่ก็เป็นข้าว กับข้าวก็เป็นพวกผัก ถวายอาหารแด่พระสงฆ์ ๖ รูป ถือเป็นสังฆทานเพราะว่าครบองค์สงฆ์คือเกิน ๔ รูปขึ้นไป

    อินทกเทพบุตรถวายอาหารครั้งเดียวในชีวิต เกิดเป็นเทวดามีศักดานุภาพเกินเจ้านาย (พระอินทร์) เสียอีก เพราะว่าพระทั้ง ๖ องค์นั้นเป็นพระอรหันต์ทั้งหมดเลย

    ดังนั้น..ในเรื่องของการทำบุญ ถ้ารู้จักเลือกเนื้อนาบุญ อานิสงส์บุญก็จะได้มากกว่าปกติ ถ้าถามว่าทำบุญแล้วยังอยากได้บุญอยู่ ก็ถ้าไม่อยากได้แล้วทำไปทำซากอะไรวะ ? เพียงแต่ว่าอย่าหลงในบุญ เรารู้ว่าบุญนั้นดีเราก็ทำ เรารู้ว่าบาปนั้นชั่วเราก็ละ ทำไปเรื่อย ๆ โดยไม่ยึดเกาะทั้งดีทั้งชั่ว ท้ายสุดก็จะพ้นบุญพ้นบาปไปเอง อาจจะยากหน่อยแต่ว่าทำได้แน่"
    __________________

    คัดลอกข้อความมาจาก
    https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php…
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...