เมืองไทยรายสัปดาห์ป่วน คนดูปะทะกันชุลมุน

<!-- CENTER ZONE -->
เวที "เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร" ป่วน ชาวบ้านจากเชียงรายร่วม 100 คนยกขบวนป่วน อ้างว่ามาชมรายการ พยายามเข้าใกล้เวทีเกิดลงไม้ลงมือกับฝ่ายกองเชียร์ สนธิลั่น อย่ามาทะลึ่งที่นี่จะไม่รับรองความปลอดภัย ยุส่งอยู่ใกล้ใครที่จะทำร้ายหรือโวยวายให้ "ตื้บ" ได้เลย

หลังจากเปิดเวทีตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้นมาหลายครั้งด้วยความสงบเรียบร้อย แม้จะมีผู้เข้าชมหลายหมื่นคน ปรากฏว่าเวที "เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร" ครั้งล่าสุดที่สวนลุมพินี ถึงคราวถูกก่อกวนเสียแล้ว


สนธิเดินหน้าแฉไม่เลิก
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งที่ 13 ว่า เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 23 ธันวาคม ประชาชนทยอยเดินทางมาร่วมฟังประมาณ 1 หมื่นคน ท่ามกลางการอารักขาของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 500 นาย นายสนธิกล่าวโจมตีรัฐบาลที่นำป่าเชิงดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ นับหมื่นไร่มาใช้ทำหลายโครงการ อาทิ ไนท์ซาฟารี กระเช้าลอยฟ้า ปางช้าง เหมือนคิดว่าป่าดังกล่าวเป็นของตระกูลตัวเอง ขณะเดียวกัน ทราบว่ามีการทำพิธีที่ไม่เหมาะสมของคนในรัฐบาล ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ โดยมีการเข้าไปในสถูป นำไก่ไปเชือด ซึ่งเรื่องนี้มีหลักฐานเพราะมีคนถ่ายวิดีโอไว้ได้
นายสนธิ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันมีการอนุมัติให้เช่าที่ดินสร้างร้านอาหารในสวนสัตว์เชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดที่มีวิวสวยที่สุด แต่คิดค่าเช่าต่ำมาก คือพื้นที่ 100 ไร่ ให้เช่าในราคาเพียงไร่ละ 1,000 บาท ระยะเวลาเช่านานถึง 30 ปี คนที่ได้สัมปทานเช่าไปเป็นเพื่อนของนายภูมิธรรม เวชยชัย รมช.คมนาคม
นอกจากนี้ งานก่อสร้างรับเหมาใน จ.เชียงใหม่ หลายโครงการก็ยังมีพ่อตาของรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลได้รับสัมปทาน โดยมีการประมูลราคากลางในราคา 98% ของราคากลาง ซึ่งแสดงว่ามีการล็อกกันไว้เรียบร้อยแล้ว
นายสนธิ บอกด้วยว่า หลังวันที่ 13 มกราคม 2549 ตนจะขอฉันทามติจากประชาชนอีกครั้ง เพื่อนำจดหมายมาอ่าน ซึ่งเป็นจดหมายถวายฎีกาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยยื่นผ่าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อขอให้มีการปฏิรูปการเมืองใหม่ ในระหว่างนี้จึงอยากเรียกร้องให้ประชาชนมาร่วมกันลงชื่อกันเยอะๆ
นอกจากนี้นายสนธิยังแฉเรื่องการจัดซื้อเครื่องบิน ซู-30 จากรัสเซีย อย่างต่อเนื่องหลังจากเปิดประเด็นนี้มาแล้ว ขณะเดียวกันเรื่องการลดค่าเงินบาทที่มีผู้ได้รับผลประโยชน์ก็ยังเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่นายสนธิเกาะติด

อดีตส.ส.ไทยรักไทยเชียงรายนำชาวบ้านชมรายการ

ขณะที่บนเวทีกำลังมีการตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น ได้มีชาวบ้านจาก อ.พาน และ อ.ป่าแดด จ.เชียงราย กว่า 100 คน ที่อ้างตัวว่าเป็นเครือข่ายรักชาติ นำโดยนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ปัจจุบันทำหน้าที่ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี พาชาวบ้านมาร่วมชุมนุมรับฟังรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ทั้งนี้ กลุ่มดังกล่าวได้เดินทางตั้งแต่เวลา 17.00 น. โดยรถบัส 3 คัน ต่อมาเวลาประมาณ 19.00 น. ก็ได้นั่งรับประทานอาหาร เมื่อรับประทานเสร็จได้ประกาศว่ากินข้าวให้อิ่มแล้วจะเคลื่อนไปหน้าเวทีเพื่อฟังรายการใกล้ๆ และยังประกาศด้วยว่า สนธิเลิกเวทีแล้วเจอกัน
นายพิเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์ว่า การชุมนุมครั้งนี้มากันส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับนายยงยุทธ ติยะไพรัช รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่อย่างใด พวกเรามากันด้วยความรับผิดชอบประเทศ ข้อมูลของนายสนธิไม่ได้ชี้แจงข้อเท็จจริง ของจริงคือของจริง พวกตนจะมาทุกวันศุกร์ และยืนยันว่าการมารับฟังของตนจะไม่มีการปะทะกัน
ขณะที่ชาวบ้านรายหนึ่งที่มากับกลุ่มดังกล่าวพูดว่า สนธิเล่นการเมืองนอกสภา ชั่วที่สุด เป็นคู่มือของฝ่ายค้าน เห็นได้จากการที่นายสนธิโอบไหล่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

บุกเวทีปะทะฝ่ายกองเชียร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเวลา 19.15 น. กลุ่มดังกล่าวซึ่งอยู่บริเวณรั้วด้านหน้าลุมพินีสถาน ได้พยายามเคลื่อนตัวไปยังหน้าเวที โดยขอเข้าไปในห้องประชุม แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เทศกิจสกัดกั้นไว้ แต่กลุ่มดังกล่าวก็ยังพยายามจะเคลื่อนขบวนจนทำให้เกิดการปะทะกับประชาชนที่มาฟังรายการถึงขั้นมีการลงไม้ลงมือต่อยตี ขว้างก้อนหิน รองเท้า และกระโดดถีบ จนรถจักรยานและจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ได้รับความเสียหาย ขณะที่กลุ่มผู้มาฟังรายการได้ตะโกนด่าว่า ไอ้พวกนี้รับเงิน พวกมันเลว ให้ไสหัวออกไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะได้ดำเนินต่อไปอย่างชุลมุนเป็นเวลาประมาณ 10 นาที เจ้าหน้าที่จึงสามารถเคลียร์ให้เหตุการณ์สงบลงได้ และเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้การจัดรายการเมืองไทยฯ หยุดชะงักลงประมาณ 20 นาที ก่อนจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ตำรวจบอกไม่มีปัญหา
จากนั้น พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์ ผบก.น.5 เปิดเผยว่า เรื่องนี้คงไม่มีปัญหาอะไร เจ้าหน้าที่มีประมาณ 100 นายคอยรักษาความสงบ เหตุการณ์ไม่มีความรุนแรง เพราะรายการของนายสนธิวิจารณ์รัฐบาลตามปกติ และจากการสังเกตการณ์ของตนพบว่าประชาชนมาฟังรายการน้อยลง ตนจึงลดกำลังเจ้าหน้าที่ลง แต่ไม่คิดว่าจะมีฝ่ายตรงข้ามเข้ามาในวันนี้
เมื่อถามว่า ตำรวจพอจะทราบข่าวความขัดแย้งระหว่างนายสนธิกับนายยงยุทธตั้งแต่เที่ยงแล้ว ทำไมไม่มีการป้องกัน พล.ต.ต.โกสินทร์ ตอบว่า ประชาชนที่มาฟังมีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ตำรวจมีหน้าที่ป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะกัน แต่ตนเชื่อว่าประชาชนที่มาฟังรายการเป็นฝ่ายรักสันติ
ขณะที่นายชัยวัฒน์ ฉลองพันธรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเทศกิจ กทม. กล่าวว่า พื้นที่สวนลุมฯ เป็นพื้นที่เทศกิจรับผิดชอบ หากเกิดการกระทำผิดกฎหมายเป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องระงับเหตุ เทศกิจมีหน้าที่หากเกิดการปะทะกันก็ต้องเปิดประตูระบายฝูงชนออกไปเพื่อบรรเทาการปะทะกัน ตนเชื่อว่าประชาชนทุกคนมีสิทธิเข้ามาในสวนลุมฯ ซึ่งเทศกิจจะป้องกันไม่ให้ใครเข้ามาในสวนลุมฯ คงทำไม่ได้ ตนทราบมาว่ากลุ่มดังกล่าวมากัน 3 คันรถ เหตุที่เกิดเนื่องจากคนกลุ่มนี้พยายามจะเข้าไปหน้าเวทีจนเกิดการปะทะกัน หากคนกลุ่มนี้จะมาฟังรายการนายสนธิทุกครั้ง ตนจะจัดพื้นที่เพื่อไม่ให้เกิดการปะทะ
สนธิโต้ดุเดือดลั่น "อย่าทะลึ่ง"
จากนั้นเวลา 19.45 น. นายสนธิ ได้ขึ้นพูดบนเวทีรอบที่ 2 โดยนายสนธิกล่าวว่า ระหว่างที่ตนพูดอย่าลุก เมื่อกี้มีหลายคนก่อกวนแทรกเข้ามาในห้องนี้ ตนขอเตือนว่าพวกคุณไม่อับอายบรรพบุรุษคุณแม้แต่นิดเดียวหรือ ประชาชนมาชุมนุมฟังการพูดความจริง แต่พวกคุณไปรับเงินเขามาเพื่อก่อกวน แทรกซึมมานั่งฟังไม่ว่าเผื่อจะได้ปัญญา แต่ถ้าหวังก่อกวนขอเตือนว่าไม่รับประกันความปลอดภัยของคุณ พวกเจ้านายคุณไปหลอกคนแก่จากเชียงราย ข้าวก็ไม่ได้กิน และเอาพวกคุณ 7-8 คนมาถือโทรโข่ง คนต่อต้านการขาย กฟผ.เขาจำพวกคุณได้ว่าเป็นพวกก่อกวนที่บางกรวย อย่ามาทะลึ่งในนี้ ถ้าเจ้านายพวกคุณไม่อยู่ พวกคุณจะถูกพวกเราเช็คบิลทุกคน ขอให้นั่งเฉยๆ ถ้าจะโวยวายหรือทำร้ายให้ลุกขึ้นมา ใครที่นั่งอยู่ใกล้ให้ตื้บไปเลย
"ยงยุทธ" ประกาศเป็นศัตรู "สนธิ"
ก่อนหน้านั้นเมื่อเวลา 10.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายยงยุทธ ติยะไพรัช ให้สัมภาษณ์กรณีเวบไซต์ของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการของนายสนธิ ลิ้มทองกุล นำเสนอข่าวว่าเป็นผู้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ทั่วประเทศมาชุมนุมกัน เพื่อก่อกวนเวทีเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ที่สวนลุมพินี ว่า การเรียกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทั่วประเทศมาชุมนุมกันที่ กทม.เพื่อมาทำแผนปฏิรูปป่าทั้งประเทศ โดยได้เตรียมการล่วงหน้ามานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาเรียกประชุมกัน

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หวิดตะลุมบอน!!! ม็อบเชียงใหม่ครึ่งพันยกพวกป่วน "สนธิ" </TD><TD vAlign=baseline align=right width=85></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>23 ธันวาคม 2548 20:52 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> <CENTER></CENTER>

เกิดเหตุกลุ่มคนที่อ้างตัวเป็นม็อบจากจังหวัดเชียงใหม่ มูลนิธิธรรมนาถ จำนวน 400-500 คน รวมตัวเดินทางมายังรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งที่ 13 ที่สวนลุมพินี พร้อมตะโกนด่า "สนธิ" จวกคนมาฟังรับ 300 บาท ด้านกลุ่มผู้ฟังรายการสุดเคือง ฮือเข้าปะทะจนหวิดเกิดเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาสกัดทัน

วันนี้ (23 ธ.ค.) เวลาประมาณ 19.30 น. ที่เวทีลีลาศ สวนลุมพินี ในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ สัญจร ครั้งที่ 13 โดยมี นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และนางสาวสโรชา พรอุดมศักดิ์ พิธีกรคู่ขวัญในรายการวิพากษ์การเมือง นั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานด่วนเข้ามาว่า ได้เกิดเหตุกลุ่มผู้ชุมนุมที่อ้างว่าเป็นกลุ่มม็อบมูลนิธิธรรมนาถ อ.จอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ และจาก จ.เชียงราย จำนวนประมาณ 400-500 คน โดยม็อบกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนที่หนุน พ.ร.บ.ป่าชุมชน เดินทางมาร่วมรายการ และแกนนำของกลุ่มม็อบได้ปราศรัยโจมตีผู้มาร่วมฟังรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ โดยได้ตะโกนด่าทอผู้ที่มาร่วมฟังรายการ ว่า เป็นคนรับจัดตั้ง รับจ้างมาฟัง ได้เงินหัวละ 300 บาท ส่งผลให้ผู้ที่ตั้งใจมาฟังรายการเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก และได้ลุกฮือขึ้นหวิดเกิดการตะลุมบอน เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรุดเข้าดูแลความสงบ และได้กันกลุ่มม็อบเชียงใหม่ออกไปนอกประตูสวนลุมพินี

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้สถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่แล้ว แต่ก็ยังมีกลุ่มม็อบตะโกนด่าทอเข้ามาเป็นระยะๆ โดยผู้สื่อข่าวได้ตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มผู้ชุมนุมที่อ้างตัวเป็นกลุ่มม็อบเชียงใหม่ มีการจัดตั้งมาอย่างดี เป็นระบบ มีผู้นำกลุ่ม และมีการแจกข้าวกล่องกันในกลุ่ม เหมือนมีการจัดระบบกันเป็นอย่างดีก่อนจะมีป่วนรายการ

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า กลุ่มม็อบที่มาก่อกวนครั้งนี้ มีชาวบ้านที่ตั้งใจจะมาชมงานโอท็อปที่เมืองทองธานีเดินทางมาด้วย โดยส่วนใหญ่เป็นคนแก่และถูกชักชวนมาโดยไม่ทราบว่าให้มาทำอะไร เมื่อถูกเชิญออกจากบริเวณจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ เห็นได้ชัดว่ามีอาการหวาดกลัว ส่วนกลุ่มแกนนำ 7-8 คนที่ถือโทรโข่งส่งเสียงรบกวนนั้น กลุ่มแกนนำกฟผ.ที่มาร่วมรายการเมืองไทยรายสัปดาห์จำได้ว่าเป็นพวกที่เคยไปก่อกวนการชุมนุมของพนักงานกฟผ.ที่บางกรวยมาแล้ว

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ได้จบลงด้วยดีเมื่อตำรวจสามารถกันกลุ่มคนเหล่านั้นออกไปได้ และกลุ่มแฟนรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ไม่ได้ออกไปใช้ความรุนแรงตอบโต้</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>