เด็ก"ปลอดประสพ" ไล่ทุบคู่ปรับนายหลังรายการ"สรยุทธ์"

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>23 ธันวาคม 2548 12:15 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายนิคม พุทธา ผู้ประสานงานมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชในพระบรมราชินูปถัมภ์ ภาคเหนือ </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายปลอดประสพ สุรัสวดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้อำนวยการสำนักงานบริหารโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> รายการถึงลูกถึงคน คืนพฤหัสฯที่ผ่านมา มีลูกแถม เมื่อ คณะผู้ติดตาม"ปลอดประสพ" รุมทำร้าย 2 เอ็นจีโอ ต่อหน้า "สรยุทธ์" และทีมงานหลังรายการเลิก "ชัยพันธ์" แถลงข่าวบ่ายนี้ ก่อนเข้าแจ้งความ

นายนิคม พุทธา ผู้ประสานงานมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืช ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ภาคเหนือ เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันพฤหัสบดี ที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา ตนกับ นายชัยพันธ์ ประภาสะวัต ผ.อ.สถาบันสิทธิชุมชน ได้รับเชิญจากรายการ ถีงลูกถึงคน ดำเนินรายการโดย นายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา ทางช่อง 9 อ.ส.ม.ท. และมี นายปลอดประสพ สุรัสวดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานะผ.อ.โครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ร่วมรายการ เพื่อสนทนาปัญหาที่ประเทศเคนย่าระงับการส่งสัตว์มาไทยชั่วคราว

ปรากฏว่า ในระหว่างรายการได้มีการถกเถียงอย่างดุเดือด จนกระทั่งจบรายการ หลังจากที่ นายสรยุทธ์ ได้ประกาศปิดรายการไปแล้วก็ยังมีการถกเถียงกันระหว่าง นายชัยพันธ์ กับ นายปลอดประสพ ต่อ หลังจากนั้น ได้มีผู้ติดตามของนายปลอดประสพ รูปร่างสูงใส่แว่น สวมเสื้อสีทึบ ได้เข้ามาทำร้ายร่างกายของนายชัยพันธ์ ขณะที่ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ออกรายการโทรทัศน์ ขณะที่ตนกำลังจะลุกขึ้นไปห้ามก็มีชายฉกรรจ์ ผู้ติดตามของนายปลอดประสพ เข้ามากระชากจนหงายหลังไปพร้อมกับเก้าอี้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นต่อหน้านายสรยุทธ์ และทีมงานถ่ายทอดสด

เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ของรัฐทำร้ายร่างกายและแสดงท่าทีข่มขู่คุกคามอย่างชัดเจน ซึ่ง ในบ่ายวันนี้ (23ธ.ค.) นายชัยพันธ์ กับ ตนจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่สำนักงานมูลนิธิ คุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืช กรุงเทพฯ และ จะเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป

ทางด้าน ภาคีคนฮักเจียงใหม่ ซึ่งเป็นองค์กรประชาชน ที่ทั้ง มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืช ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ภาคเหนือ และ สถาบันสิทธิชุมชน เข้าร่วมเครือข่ายอยู่ด้วยนั้น ได้ออกแถลงการณ์ สรุปได้ดังนี้คือ

1.ขอประณามการกระทำของ ชายฉกรรจ์-คณะผู้ติดตามนายปลอดประสพ สุรัสวดี รวมถึง ผู้บงการ ที่ได้ใช้กำลังทำร้ายร่างกาย การข่มขู่คุกคาม ตัวแทนของภาคีคนฮักเจียงใหม่อย่างอุกอาจ เสมือนว่า สังคมอยู่ในยุคการปกครองแบบเผด็จการ

2.ขอแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรง กับท่าทีการตอบโต้ด้วยท่วงทำนองดูหมิ่น เหยียดหยาม และ ใช้ถ้อยคำที่ไม่สุภาพไม่เหมาะสม ของ นายปลอดประสพ สุรัสวดี ซึ่งดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งยังเคยดำรงตำแหน่งข้าราชการระดับปลัดกระทรวงมาแล้ว ทั้งนี้เพราะ ปัญหาความคิดเห็นไม่ตรงกันในโครงการสาธารณะนั้น เป็นเรื่องปกติธรรมดาสังคมประชาธิปไตย ในฐานะของ ฝ่ายประชาชนย่อมมีสิทธิตรวจสอบ-ซักถาม ขณะที่ เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบเอง ก็มีหน้าที่ต้องชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริง แต่ไม่ใช่ ด้วยท่วงทำนองของการตอบคำถามแบบเสียดสี หรือ คิดเอาผลแพ้-ชนะ

3.ขอเรียกร้องให้ คณะทำงานของ รายการถึงลูกถึงคน มีจิตใจยึดมั่นต่อข้อเท็จจริงโดยไม่กังวลต่อแรงบีบคั้นภายนอกใด ๆ ที่จะให้การ หรือ ส่งมอบเทปรายการที่ได้ถ่ายทำเอาไว้หลังจากพิธีกรประกาศจบรายการ เพื่อเป็นวัตถุพยานในการดำเนินคดีครั้งนี้ต่อไป

4.ภาคีคนฮักเจียงใหม่ ขอยืนยันที่จะ เป็นองค์กรประชาชนที่มุ่งจะร่วมการแสวงหาหนทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนแบบมีส่วนร่วม ด้วยวิถีทางสันติ ต่อไป

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right height=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

NGOโร่แจ้งตร.เด็ก"ปลอดประสพ"ทำร้าย"ชัยพันธ์"



แกนนำเอ็นจีโอ เข้าแจ้งความตำรวจ เด็ก"ปลอดประสพ" ทำร้ายร่างกาย"ชัยพันธ์" ขณะที่"ยงยุทธ"ปัดไม่รู้เรื่อง

ที่มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งประเทศไทย (23 ธ.ค) ราชูปถัมภ์ นายนิคม พุทธา ผู้ประสานงานมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าภาคเหนือ พร้อมด้วยนาย.นายขวัญชัย โชติพันธ์ ทนาย ความ ได้เปิดแถลงกรณีนายชัยพันธ์ ประภาสะวัต ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อสิทธิชุมชน ตัวแทนภาคีฮัก เชียงใหม่ ถูกคนของนายปลอดประสพ สุรัสวดี ผช.รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อม ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานบริหารโครง การเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ทำร้ายร่างกาย กลาง รายการ “ถึงลูกถึงคน”ของนายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา เมื่อคืนวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา
นายนิคม เล่าเหตุการณ์ว่าสาเหตุที่ทำให้นายปลอดประสพ ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่เกิดจาก การสอบถามกรณีเรื่องการส่งออกเสือ 100 ตัวไปประเทศจีน ซึ่งนายปลอดประสพ เคยถูกสอบสวน เมื่อ 2 ปีก่อน และการอ่านบทกลอนไนท์ซาฟารี ซึ่งเขียนโดยนายศักดิ์ศิริ มีสมสืบ ลงในหนังสือพิมพ์ ข่าวสด ซึ่งกลอนดังกล่าวมีถ้อยคำค่อนข้างรุนแรง ทำให้นายปลอดประสพ อาจคิดว่าเป็นการด่าตนเอง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าตลอดการซักถามในรายการก็มีการถกเถียงในประเด็นต่างๆกันอย่างดุเดือดมา โดยตลอด ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นการถามข้อเท็จจริง ไม่ได้ต้องการให้เกิดการปะทะ และต้องการให้คนที่ ชมตัดสินเอาเองว่าจริงหรือไม่จริง
นายนิคม กล่าวต่อว่า จนกระทั่งเกือบจบรายการนายปลอดประสพ ก็ถอดสูท และเดินมาหานายชัย พันธ์ ว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งนายสรยุทธ์ ก็ได้พยายามกันทั้งสองฝ่ายออกจากกัน แต่ยังไม่ทันทำอะไร ก็ มีผู้ชายวัยกลางคนเดินมาชก นายชัยพันธ์ ไป 1 ครั้ง ชุลมุนกันสักพัก จนทีมงานถึงลูกถึงคนได้เข้ามา แยกกันออก ส่วนตัวเองก็มีชาย 2 คนกระชากตนเองจนตกเวที ซึ่งหลังจากนั้นทีมงานก็มาห้ามและคนที่ มาชกต่อยทำร้ายร่างกายก็ออกไป และทางทีมงานเห็นสถานการณ์ไม่ดี จึงขอให้อยู่ต่อในสถานี ประมาณอีก 1 ชั่วโมงจนเดินทางกลับเพราะนายปลอดประสพ มีคนติดตามมาในรายการนับ 10 คน ซึ่ง หลังจากนี้ทางมูลนิธิฯจะเดินทางไปแจ้งความที่สน.ห้วยขวาง ในข้อหาทำร้ายร่างกาย จากนั้นก็คงเป็น เรื่องของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตนจำคนที่เข้ามาชกต่อยและกระชากตนได้เป็นอย่างดี สามารถชี้ตัวได้
“ การมารายการถึงลูกถึงคนครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้วและทุกครั้งนายปลอดประสพ มีคน ติดตามมาจำ นวนมากกว่า 10 คนแต่ 2 ครั้งที่ผ่านมาก็ไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น แต่ในหนนี้เป็นการคุก คามและทำร้ายร่างกายกัน เป็นการแสดงออกถึงสถานการณ์ที่ตึงเครียด การนำเสนอข้อมูลโครงการ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เป็นเพราะความไม่ชัดเจน ความไม่โปร่งใสที่อยากให้มีการเคลียร์ประเด็นให้ ชัดเจน เพราะถึงปัจจุบันก็ยังมีการนำเสนอโครงการอื่นๆในพื้นที่ดอยสุเทพ-ปุย ไม่ว่าจะเป็นโครงการ ธีมปาร์ค อุทยานช้าง แต่นายปลอดประสพ กลับตอบไม่ตรงประเด็นและอ้างข้อมูลที่เรานำมาเสนอว่าไม่ ใช่ข้อเท็จริง ทั้งที่ได้มาจากเวปไซต์ของไนท์ซาฟารีเอง และโครงการนี้ใช้งบประมาณจำนวนมาก หาก ไม่คุ้มทุนในอนาคตใครจะรับผิดชอบ” นายนิคม กล่าว
ด้านนายสุรพล ดวงแข เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าฯ กล่าวว่า โครงการนี้ยังมีความไม่ พร้อมในหลายจุด โดยเฉพาะการนำเข้าสัตว์จากเคนย่า และออสเตรเลีย ซึ่งถูกต่อต้านจนกระทั่งมีแนว โน้มว่าทั้งสองประเทศจะไม่ส่งสัตว์มาให้ไทย และประเด็นนี้ในอนาคตจะนำไปสู่การลักลอบค้าสัตว์ป่า เพื่อให้ได้สัตว์มาแสดงโชว์ในโครงการ ขณะที่การทำรายงานผลบกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ก็ ยังไม่ได้ทำทั้งที่อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ มีการเข้าไปก่อสร้างขัดต่อกฎหมาย และยังไม่มีการเพิกถอนอุทยานฯ โดยมูลนิธิฯทำหนังสือไปยังสำนัก งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อให้ตอบคำถามในประเด็นเหล่านี้ให้ ชัดเจน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกลอนที่สร้างความเคืองใจต่อนายปลอดประสพ มีเนื้อหาว่า “ตอนกลางคืนทำอะไรล่ะไอ้สัตว์ สารพันสารพัดสัตว์หน้าขน ตอนกลางคืนทำอะไรล่ะไอ้คน สาระวุ่นสาระวนมาทั้งวัน... ซึ่งในกลางรายการ นายปลอดประสพ ก็นั่งหน้าบึ้งตึงในระหว่างที่นายชัยพันธ์ อ่านกลอนดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อสัมภาษณ์นายปลอดประสพ แต่ปรากฏว่าเลขาฯนายปลอดประสพ อ้างว่ากำลังเดินทางไปต่างจังหวัด และไม่ยอมให้รายละเอียดใดๆ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการแถลงข่าว กลุ่มองค?กรพัฒนาเอกชน โดย นายชัยพันธ์ ประภาสะวัต ไปแจ้งความถูกทำร้ายร่างกายที่ สน.ห้วยขวาง เพราะถือเป็นการคุกคาม
ส่วนนายยงยุทธ ติยะไพรัช รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่อง ดังกล่าวเลย เนื่องจากติดงานที่ทำเนียบรัฐบาล แต่หากมีเหตุการณ์คนของนายปลอดประสพ ทำร้ายคน อื่นจริง ก็จะตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

ที่มา : คมชัดลึก

 

ถ่อยใน"ถึงลูกถึงคน" สมุน"ปลอด"ชกผู้ร่วมรายการ

ฉุนกลอนซีไรต์"ซาฟารี""ชัยพันธุ์"เหยื่อถึงมือถึงตีน

สมุน"ปลอดประสพ"สุดถ่อย หมาหมู่รุมทำร้าย"ชัยพันธุ์ ประภาสะวัต"คารายการ"ถึงลูกถึงคน" ฉวยจังหวะทีเผลอขณะที่ลูกพี่ออกอาการฉุนไม่พอใจคำถามเรื่องไนท์ซาฟารี และได้ยินคำกลอนแต่งโดย"ซีไรต์ศักดิ์สิริ"ตีพิมพ์ใน"ข่าวสด" ผู้ดำเนินรายการ"สรยุทธ"ทำอะไรไม่ถูกจนผ่านไป 10 นาที ผู้ช่วยรมต.ทรัพยากรธรรมชาติฯกับลูกสมุนนับ 10 ก็ยกขบวนออกจากช่อง 9 เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น "ชัยพันธุ์"พาทนายขึ้นโรงพักแจ้งความฐานทำร้ายร่างกาย องค์กรท้องถิ่นฮักเชียงใหม่กับสมัชชาคนจนออกแถลงการณ์ประณามปลอดประสพกับสมุน ระบุพฤติกรรมข่มขู่คุกคามเลวร้ายยิ่งกว่ายุคเผด็จการทมิฬ จี้นายกฯตรวจสอบพฤติกรรมและดำเนินการลงโทษ

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 23 ธ.ค. ที่มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ นายสุรพล ดวงแข เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าฯ นายนิคม พุทธา ผู้ประสานงานมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อมภาคเหนือ และ 1 ในผู้ที่เข้าร่วมรายการ "ถึงลูกถึงคน" และนายขวัญชัย โชติพันธุ์ ทนายความประจำมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าฯ ร่วมกันแถลงข่าวกรณีนายนิคม พุทธา และนายชัยพันธุ์ ประภาสะวัต ผอ.สถาบันสิทธิชุมชน ถูกผู้ติดตามนายปลอดประสพ สุรัสวดี ผู้ช่วย รมต.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะ ผอ.โครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ทำร้ายร่างกาย หลังจากไปออกรายการ "ถึงลูกถึงคน" เมื่อคืนวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา

นายนิคมกล่าวว่า จากกรณีหนังสือพิมพ์หลายฉบับลงข่าวศาลสูงของเคนยา มีคำสั่งชะลอการส่งสัตว์ป่า 175 ตัวมายังประเทศไทย รายการ "ถึงลูกถึงคน" ทางช่อง 9 อสมท ติดต่อตนและนายชัยพันธุ์มาเป็นผู้ร่วมอภิปราย โดยผู้ร่วมอภิปรายอีกฝ่ายคือนายปลอดประสพ ระหว่างพูดคุยในรายการมีหลายประเด็นที่ตนและนายชัยพันธุ์หยิบยกมาถาม บางเรื่องนายปลอดประสพตอบชัดเจน แต่บางประเด็นคลุมเครือ และหลายครั้งที่ตนและนายชัยพันธุ์ถามหรือชี้แจงยังไม่จบนายปลอดประสพก็พูดขัดจังหวะขึ้นมา กระทั่งประมาณกลางรายการตนพูดขึ้นว่าจากข้อมูลที่ได้รับจากกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่าของเคนยา ทางเคนยาต่อต้านไม่ให้ส่งสัตว์ป่า 175 ตัวมายังไนท์ซาฟารี เพราะสัตว์ที่จะส่งมามีบางชนิดหายากและใกล้สูญพันธุ์ บางชนิดอยู่ในบัญชี 1 หรือ 2 ของอนุสัญญาไซเตส และมีหลายชนิดที่อยู่ในภาวะถูกคุกคามอย่างหนักจากการค้าเนื้อสัตว์ป่า และพูดถึงว่าการขนย้ายสัตว์ต้องมีมาตรฐานชัดเจน เช่น ต้องตรวจเชื้อโรค ต้องอาศัยผู้ชำนาญการ เท่าที่ดูยังไม่มีความมั่นใจว่าฝ่ายรัฐบาลเตรียมพร้อมในเรื่องนี้ พูดถึงกรณีที่คัดค้านเพราะตอนนี้ภาพพจน์ของไทยตกต่ำลง หลังจากที่เคยถูกประณามว่าหากำไรจากการใช้ประโยชน์จากสัตว์ป่า เช่น กรณีเปิบเมนูสัตว์ป่า ซึ่งยกเลิกไปแล้ว และยังคุยถึงเรื่องลิงอุรังอุตังและเสือ

นายนิคมกล่าวต่อว่า เมื่อพูดถึงเสือนายชัยพันธุ์กล่าวเสริมว่า เรื่องเสือ ช้าง อุรังอุตัง ยังมีความคลุมเครืออยู่ นายปลอดประสพเริ่มมีอารมณ์และเกิดการถกเถียงกันขึ้น โดยเฉพาะช่วงท้ายรายการนายชัยพันธุ์นำบทกลอนแต่งโดยนายศักดิ์ศิริ มีสมสืบ ลงในหนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับวันที่ 4 ธ.ค. 48 ทำให้เกิดการถกเถียงรุนแรงมากขึ้น นายปลอดประสพขอให้นายชัยพันธุ์ยกเลิกการอ่านบทกลอน นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการ ไม่สามารถควบคุมรายการได้ แต่สุดท้ายนายชัยพันธุ์ก็อ่านจนจบ การอ่านบทกลอนดังกล่าวไม่แน่ใจว่านายปลอดประสพฟังแล้วคิดอย่างไรไม่ทราบ หรือคิดไปเอง ว่านายชัยพันธุ์อ่านบทกลอนว่านายปลอดประสพ กระทั่งปิดรายการแล้วนายปลอดประสพลุกขึ้นยืนและถอดเสื้อสูท ก่อนเดินมาหานายชัยพันธุ์ และพูดทำนองว่า "จะเอาอย่างไรกัน" "คุณกับผมต้องเคลียร์กัน" ขณะนั้นมีชายวัยกลางคนประมาณ 10 คน สวมชุดดำเดินเข้ามา

นายนิคมกล่าวอีกว่า จากนั้น 1 ในกลุ่มชายกลางคนชกหน้านายชัยพันธุ์ ตนจึงเข้าไปขวางไว้ แต่ก็ถูกชายอีก 2 คนกระชากลงมาจากเวทีจนไมค์หลุด จากนั้นชายคนดังกล่าวก็เดินหนีไป นายสรยุทธเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยเหตุการณ์ ส่วนชายที่ชกนายชัยพันธุ์หายไปตอนไหนตนไม่ได้ทันสังเกต จากนั้นคณะของนายปลอดประสพก็ยกขบวนกลับ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ในห้องส่งบอกตนกับนายชัยพันธุ์ว่าอย่าเพิ่งกลับดีกว่าเพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย จึงรอจนเกือบตี 1 เจ้าหน้าที่บอกว่าน่าจะปลอดภัยแล้ว ตนกับนายชัยพันธุ์จึงกลับ

"การไปถกกันในรายการเช่นนี้เป็นเรื่องธรรมดา ข้อมูลจะผิดถูกอย่างไร ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเอง แต่ระหว่างถกกันอยู่ก็ควรปล่อยให้แต่ละฝ่ายพูดคุยชี้แจงด้วยดี วิธีการแบบนี้เหมือนข่มขู่คุกคาม ตั้งแต่เริ่มมีการถกกันรุนแรงแล้ว กลุ่มชายฉกรรจ์ที่เดิมนั่งเก้าอี้อยู่ห่างไปประมาณ 20 เมตร ต่างมายืนรุมอยู่หน้าเวทีเป็นการคุมเชิงลักษณะคุกคาม และใช้วาจาไม่เหมาะสมจนถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ลักษณะข่มขู่เช่นนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 แล้วในการไปออกรายการลักษณะนี้ ครั้งแรกมีผู้ติดตามเกือบ 50 คนมายืนดูใกล้ๆ ระหว่างอัดรายการ และเดินไปเดินมา คิดว่าประเด็นหลักที่ทำให้นายปลอดประสพควบคุมอารมณ์ไม่อยู่น่าจะเป็นการพูดถึงกรณีเสือ 100 ตัวว่ามีความคืบหน้าถึงไหนแล้ว รวมทั้งกรณีนายชัยพันธุ์อ่านบทกลอน

ด้านนายขวัญชัย โชติพันธุ์ ทนายความ กล่าวว่า ช่วงเย็นวันนี้จะเข้าแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง พื้นที่เกิดเหตุ หากอีกฝ่ายจะแจ้งความด้วยก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่เราต้องมาดูประจักษ์พยานที่มีอยู่ด้วย กรณีนี้มีพยานคือนายสรยุทธ เทปในรายการ รวมถึงกล้องบางตัวที่อาจเปิดอยู่หลังอัดรายการจบ คิดว่าหลักฐานที่มีอยู่แน่นหนาพอสมควร ส่วนข้อหาที่จะแจ้งคือ ทำร้ายร่างกาย ดูเหมือนไม่ใช่ข้อหาร้ายแรงแต่ที่แจ้งเพราะเราเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่เพื่อประชาชนส่วนรวม เมื่อถูกข่มขู่เช่นนี้ก็น่าจะต้องทำอะไรบ้าง

จากนั้นเวลาประมาณ 17.00 น. นายชัยพันธุ์ ประภาสะวัต เดินทางจาก จ.เชียงใหม่ มาถึงมูลนิธิ โดยกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ แล้วน่าจะเป็นเรื่องของเหตุผล แต่เมื่อตนพูดเรื่องเสือขึ้นมานายปลอดประสพก็เริ่มมีอารมณ์ โดยเฉพาะเมื่ออ่านกลอนก็ยิ่งถกเถียงหนักขึ้นและเกิดเรื่องขึ้นจนคนในห้องส่งพากันตกตะลึง การอ่านกลอนตนก็อ่านไปตามเนื้อหา จริงๆ แล้วถ้าอ่านกลอนบทนี้ให้ดีจนจบจะพบว่าไม่ได้ด่าใครแค่เปรียบเทียบชีวิตของคนว่าเป็นอย่างไร สัตว์ก็มีชีวิตจิตใจแบบนั้นเหมือนกัน จบรายการนายปลอดประสพเข้ามาหาตน แต่ลูกชายมาห้ามไว้ จากนั้นมีพวกอีก 7-8 คนเข้ามา ยังไม่ทันตั้งตัวอีกกลุ่มก็ชกหน้า ถูกบริเวณแก้มและจมูก แม้จะไม่มีรอยฟกช้ำแต่รู้สึกชา นายนิคมก็เข้ามาขวางไว้

นายชัยพันธุ์กล่าวต่อว่า นี่เป็นเวทีระดับสาธารณะยังทำกันขนาดนี้ แล้วชาวบ้านตาสีตาสาที่ต้องเผชิญหน้าในลักษณะเช่นนี้จะทำอย่างไร เรื่องนี้ต้องแจ้งความแน่นอน แม้จะไม่แจ้งข้อหาร้ายแรงแต่มองว่าเป็นเรื่องที่สังคมควรได้รับรู้บ้างและควรมีผู้รับผิดชอบ เรื่องจะไม่จบเพียงแค่นี้คงเดือดร้อนไปถึงนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล เพราะต่อไปคงมีหลายกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวในประเด็นถูกคุกคามแบบนี้

"เหตุการณ์ลักษณะที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วแต่ไม่รุนแรงเท่านี้ นั่นคือครั้งที่ไปอัด "รายการกรองสถานการณ์" ทางช่อง 11 โดยพูดกันหัวข้อ "เปิบเมนูพิสดาร" ก็มีผู้ติดตามมารุมดูขณะถกประเด็นกัน แบบนี้ไม่ทราบว่าจะเรียกว่าคุกคามหรือเปล่า ขณะนี้ยังยืนยันฟ้องร้องกับศาลปกครองขอให้ระงับเปิดไนท์ซาฟารีอย่างเป็นทางการไว้ก่อน ส่วนตอนนี้เปิดให้ชมฟรีชั่วคราวไม่ว่ากัน เรากำลังอยู่ในขั้นรวบรวมข้อมูลเมื่อเสร็จสิ้นแล้วจะฟ้องร้องแน่ สำหรับวันที่ 26 ธ.ค.นี้จะมีการจัดเสวนาเรื่องไนท์ซาฟารีขึ้น โดยจะพูดคุยจากทั้งภาคีคนฮักเจียงใหม่ มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าฯ" นายชัยพันธุ์กล่าว

ต่อมาเวลา 18.30 น. นายชัยพันธุ์ ประภาสะวัต อายุ 55 ปี ผอ.สถาบันเพื่อสิทธิมนุษยชน ผู้แทนมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าฯ อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 6 ต.บึงบา อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี พร้อมทนายความ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพ.ต.ต.ชลิต รักการค้า พนักงานสอบสวนสน.ห้วยขวาง กรณีถูก 1 ในกลุ่มผู้ติดตามนายปลอดประสพ สุรัสวดี ผู้ช่วยรมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ทำร้ายร่างกาย โดยนายชัยพันธุ์ให้การว่า หลังจบรายการ"ถึงลูกถึงคน" เจ้าหน้าที่รายการปิดไฟและนำไมโครโฟนเคลื่อนที่ออก มีกลุ่มชายฉกรรจ์ 7-8 คน ซึ่งเป็นคนติดตามนายปลอดประสพ โดย 1 ในกลุ่มชายดังกล่าวปรี่เข้ามาชกจมูกด้านซ้าย จากนั้นมีคนมาห้าม นายนิคม พุทธา เข้ามาห้ามก็ถูกดึงล้มลงไปด้วย ตนไม่เจ็บมากมาย แต่อยากใช้สิทธิ์ของประชาชนจึงเข้าแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ

ด้านพ.ต.ต.ชลิตกล่าวว่า หลังจากสอบปากคำนายชัยพันธุ์แล้ว จะเรียกผู้เห็นเหตุการณ์รวมทั้งนายสรยุทธ ผู้ดำเนินรายการมาให้ปากคำด้วย เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป

นายนิคมให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า หลังจากถกเถียงกันจนจบรายการ"ถึงลูกถึงคน" นายปลอดประสพลุกขึ้นจากเก้าอี้และถอดสูทออก พร้อมพูดกับนายชัยพันธุ์ทำนองต้องมาเคลียร์กันให้รู้เรื่อง จากนั้นมีชายฉกรรจ์สวมเสื้อคล้ายสูทสีดำปรี่ขึ้นมาบนเวทีและชกหน้านายชัยพันธุ์อย่างจัง และมีอีกหลายคนกรูกันขึ้นมาด้วย เมื่อตนจะเข้าไปห้ามถูกชาย 2 คนสวมชุดสีดำกระชากคอเสื้อจนเสียหลักตกลงจากเวที และสายไมโครโฟนตกลงมา จากนั้นชุลมุนกันประมาณ 10 นาที กลุ่มชายฉกรรจ์จึงเดินออกไปพร้อมกับนายปลอดประสพ ทั้งนี้ระหว่างที่ชายฉกรรจ์ทำร้ายร่างกายนายชัยพันธุ์อยู่นั้น นายปลอดประสพไม่ได้ห้ามปรามผู้ติดตาม แต่กลับตะโกนด่าตลอดเวลา

"ผมจำหน้าคนพวกนี้ได้ โดยเฉพาะคนที่ชกนายชัยพันธุ์ และคนที่กระชากคอผม ถึงผมจะไม่รู้จักชื่อแต่จำหน้าได้ ซึ่งในที่เกิดเหตุดร.สุรเชษฐ์ เชษฐมาศ อดีตอาจารย์คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรฯ อยู่ด้วยและพยายามเข้ามาห้ามด้วย เรื่องนี้ผมมองว่าแม้นายปลอดประสพจะเกลียดชังใครก็ตาม ก็น่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว เพราะตอนนี้คุณกำลังทำหน้าที่ซีอีโอ เมื่อประชาชนสงสัยในงานที่คุณทำ ก็ตอบเท่านั้นก็จบ แต่กลายเป็นว่าแยกแยะไม่ออกระหว่างตัวตนกับหน้าที่ ผมอยากทราบว่าอย่างนี้ยังมีวุฒิภาวะ เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งนี้ต่อไปหรือไม่ โดยเฉพาะตำแหน่งหน้าที่ในระดับสูงของรัฐบาล" นายนิคมกล่าว

วันเดียวกันกลุ่มภาคีคนฮักเจียงใหม่ออกแถลงการณ์ว่า ประณามการกระทำของชายฉกรรจ์-คณะผู้ติดตามนายปลอดประสพ รวมถึงผู้บงการใช้กำลังทำร้ายร่างกาย การข่มขู่คุกคาม ตัวแทนของภาคีคนฮักเจียงใหม่อย่างอุกอาจ และความไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรงกับท่าทีการตอบโต้ด้วยท่วงทำนองดูหมิ่น เหยียดหยาม ใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ และไม่เหมาะสมของนายปลอดประสพ ผู้ช่วยรมต.ทรัพยากรธรรมชาติฯ เพราะปัญหาความคิดเห็นไม่ตรงกันในโครงการสาธารณะเป็นเรื่องปกติธรรมดาของสังคมประชาธิปไตย และขอเรียกร้องคณะทำงานของรายการ"ถึงลูกถึงคน" ยึดมั่นต่อข้อเท็จจริงโดยไม่กังวลต่อแรงบีบคั้นภายนอกใดๆ ที่จะให้การ หรือส่งมอบเทปรายการที่ถ่ายทำเอาไว้หลังจากพิธีกรประกาศจบรายการ เพื่อเป็นวัตถุพยานในการดำเนินคดีต่อไป

กลุ่มสมัชชาคนจนก็ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของชายฉกรรจ์และคณะผู้ติดตามนายปลอดประสพ ซึ่งกระทำผิดยุคผิดสมัยลักษณะป่าเถื่อนเหมือนสังคมไทยอยู่ในยุคเผด็จการทมิฬ มิใช่ยุคสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ เรียกร้องนายกฯตรวจสอบ สืบสวนพฤติกรรมของนายปลอดประสพ

หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อสัมภาษณ์นายปลอดประสพ ปรากฏว่ามีหญิงสาวรับโทรศัพท์แทนบอกว่า นายปลอดประสพไม่สะดวกคุย เพราะกำลังเดินทางไปต่างจังหวัด

ขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกฯ กล่าวถึงกรณีศาลเคนยาระงับไม่ให้รัฐบาลเคนยาส่งสัตว์มาประเทศไทยว่า ไม่ได้เป็นเรื่องซีเรียสอะไร แต่ประชาชนเคนยาซีเรียสเป็นเรื่องขององค์กรเอกชนเคนยากับรัฐบาล เราคุยกับเคนยาเมื่อครั้งมาเยือนไทย ซึ่งรับปากจะส่งสัตว์มาให้ จึงไม่อยากเสียคำพูด ถึงวันนี้ถือว่าไทยไม่มีปัญหา หากเคนยาส่งสัตว์เข้ามาถูกต้อง เราก็รับได้ แต่ถ้าส่งมาแบบไม่ถูกต้อง ในฐานะที่ไทยเป็นสมาชิกไซเตสก็รับไม่ได้ เพราะมีพันธกรณีกับนานาชาติ และคิดว่าหากเคนยาไม่ส่งสัตว์มาก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรกับสวนสัตว์ไนท์ซาฟารี เพราะปัจจุบันมีสัตว์อยู่มากพอสมควร และมีอีกหลายประเทศที่จะส่งมาให้

"บางครั้งอาจจะเข้าใจผิดเพราะสัตว์ในเคนยามีมาก จึงเสนอที่จะส่งมาให้ เพราะสัตว์เหล่านี้หากมากเกินไปเคนยาจำเป็นต้องฆ่าทิ้ง จึงต้องควบคุมจำนวนสัตว์ แทนฆ่าทิ้ง ก็ใช้วิธีส่งมาให้ไทยดูแล เพราะเรามีสถานอนุบาลสัตว์อย่างดี และที่ผ่านมาทำวิจัยร่วมกัน ไทยไม่ได้ทำอะไรเสียหาย เพียงแต่พวกเราอย่าไปโอเวอร์รีแอ๊คมาก สบายๆ ปัจจุบันที่สวนสัตว์ไนท์ซาฟารี แต่ละวันมีคนเข้าไปชมกว่า 90,000 คน รวมยอดแล้วถึงปัจจุบันกว่า 1 ล้านคนแล้ว" นายกฯกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าสวนสัตว์ไนท์ซาฟารีจะเปิดได้ทันตามกำหนดการเดิมหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ความจริงเปิดได้แล้ว เพียงแต่ตนอยากให้เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมเรื่องการทำงานให้คล่อง เมื่อเปิดอย่างเป็นทางการแล้วเก็บค่าเข้าชมทุกอย่างจะได้สมบูรณ์ ขณะนี้ยังไม่เก็บค่าเข้าชม และเดือนม.ค. 2549 มีหลายเทศกาลทั้งปีใหม่ วันเด็ก วันครู จะเปิดให้ดูฟรีก่อน วันที่ 1 ก.พ.จึงจะเปิดอย่างเป็นทางการ ทุกอย่างมีความพร้อมหมด

วันเดียวกันน.พ.ประเสริฐ ทองเจริญ ที่ปรึกษาด้านไวรัสวิทยา องค์การอนามัยโลก กล่าวถึงการนำเข้าสัตว์ป่าจากต่างประเทศโดยเฉพาะจากต่างทวีปว่า ถือเป็นสิ่งที่ต้องระวังและน่าห่วงในเรื่องพาหะนำเชื้อไวรัสหรือเชื้ออื่นๆ เข้ามาในประเทศ เมื่อเกิดขึ้นจะเป็นปัญหาเพราะเราไม่รู้จักเชื้อโรคทุกสายพันธุ์ ไม่รู้ว่าในสัตว์เหล่านั้นที่นำเข้ามามีโรคอะไรติดมาด้วย ยิ่งเป็นสายพันธุ์ข้ามทวีปยิ่งต้องเฝ้าระวังและจับตามอง

"เชื้อโรค เชื้อไวรัส ที่อยู่ในสัตว์ป่า หรือสัตว์นำเข้าจากต่างประเทศ มักจะชอบสภาพภูมิอากาศต่างถิ่นอาศัยเดิม ทำให้โอกาสเกิดการแพร่ระบาดเกิดขึ้นได้สูง เพราะไม่มีภูมิต้านทานโรค ทำให้เป็นห่วงเรื่องนำเข้าสัตว์ป่า รวมถึงสัตว์แปลกๆ ที่เป็นที่นิยมนำมาเลี้ยง โรคจากสัตว์นั้นมีอยู่แล้วสัตว์อาจไม่ตายแต่เมื่อคนไปใกล้ชิดสัตว์มากกว่าปกติ เมื่อเชื้อเปลี่ยนสภาพแวดล้อมก็เกิดอาละวาดได้ เช่น โรคเอดส์ที่มีอยู่ลิง ก็สามารถอยู่กับลิงได้โดยไม่เป็นอันตราย แต่กลับร้ายแรงเมื่อคนติดเชื้อ" น.พ.ประเสริฐกล่าว

ค่ำวันเดียวกันนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา กล่าวระหว่างดำเนินรายการ "คุยคุ้ยข่าว" ทางช่อง 9 อสมท ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า พร้อมไปให้ปากคำกับตำรวจกรณีเหตุการณ์ดังกล่าว โดยยอมรับว่าจำหน้าชายที่ชกหน้านายชัยพันธุ์ไม่ได้ แต่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และต้องขอโทษผู้ที่เกี่ยวข้องในฐานะผู้ดำเนินรายการ

ที่มา : matichon.co.th

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เตรียมเรียก " สรยุทธ " ให้ปากคำ กรณี 7 ชายฉกรรจ์รุมยำ เอ็นจีโอ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>24 ธันวาคม 2548 15:52 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>สรยุทธ สุทัศนะจินดา </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ตำรวจห้วยขวาง เตรียมเรียกสรยุทธ - ปลอดประสพ เข้าให้ปากคำ กรณี 7 ชายฉกรรจ์รุมทำร้ายเอ็นจีโอมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่า

จากกรณีที่ นายชัยพันธุ์ ประภาสะวัต ตัวแทนกลุ่มมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่า เข้าแจ้งความว่าที่ สน.ห้วยขวางว่า ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 7 คน สวมชุดซาฟารี ซึ่งคาดว่าเป็นลูกน้องของ นายปลอดประสพ สุรัสวดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าทำร้ายหลังจากที่ไปบันทึกรายการถึงลูกถึงคน โดยเหตุเกิดช่วงกลางดึกของวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น

วันนี้ (24 ธ.ค.) พ.ต.ต.ชวลิต รักการค้า พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เจ้าของคดี เปิดเผยความคืบหน้าของคดีว่า เบื้องต้นได้ทำการสอบปากคำพยานไปแล้ว 2 ปาก โดยทั้ง 2 ปากนั้นเป็นพยานฝ่ายผู้เสียหาย ส่วนทางด้านพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่และพนักงานของทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ที่ร่วมจัดรายการ ถึงลูกถึงคน รวมถึงนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการ คงจะต้องนัดมาสอบปากคำในช่วงหลังปีใหม่ โดยตนเองจะเป็นผู้เดินทางไปสอบปากคำเองที่สถานีโทรทัศน์ชอง 9 ในวันที่ 2 ม.ค.49

ทั้งนี้หลังจากสอบพยานแวดล้อมครบทุกปากแล้ว ก็จะเชิญตัวนายปลอดประสพ ที่ผู้เสียหายมีการกล่าวอ้างถึงมาทำการสอบปากคำอีกด้วย ซึ่งหากพบว่า ลงมือเป็นใครก็จะดำเนินการออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ มีโทษปรับไม่เกิน 1 พันบาท ซึ่งในข้อหานี้ทางผู้เสียหายและผู้ต้องหาสามารถเจรจรายอมความกันได้

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right height=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>