คชสีห์๙บารมี๙บารมี๙แผ่นดินหลวงปู่หมุนเสก

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 30 สิงหาคม 2010.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,770
    ค่าพลัง:
    +21,343
    [​IMG]

    เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อสุภาพ วัดทุ่งสว่าง สกลนคร

    ให้บูชา250 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,770
    ค่าพลัง:
    +21,343
    [FONT=Tahoma,]
    คอลัมน์ มุมพระเก่า
    อภิญญา


    <table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#E0E0E0" valign="top">[​IMG]
    1.เจดีย์บรรจุสังขารหลวงพ่อ

    2.หลวงพ่อชื่นสมัยยังหนุ่ม

    4.สมเด็จทรงสิงห์

    3.เหรียญรุ่นแรกปี2506

    </td></tr></tbody></table>วัด กลางคูเวียง เป็นวัดราษฎร์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน ในเขต ต.สัมปทวน อ.นคร ชัยศรี จ.นครปฐม เป็นวัดเก่าแก่มาแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ถิ่นฐานเดิมบริเวณบ้านสัมปทวน ในละแวกวัดเป็นชาวลาวที่อพยพมาจากเมืองเวียงจันทน์ ที่รัชกาลที่ 2 กวาดต้อนชาวลาว มาตามลุ่มแม่น้ำท่าจีน จนถึงบ้านสัมปทวน ชาวลาวที่อพยพมาในครั้งนี้มีเจ้านายคนสำคัญร่วมขบวนมาด้วย คือเจ้าเมืองซ้าย และพระชายาหม่อมเจ้าโสภี

    หลังจากที่ตั้งถิ่นฐานเรียบ ร้อยแล้ว เจ้าเมืองและพระชายา เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการบูรณะวัดร้างที่ชาวบ้านเรียกว่า "วัดกลาง" ที่อยู่ในละแวกชุมชนที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ เพื่อให้ชาวลาวที่อพยพมาประกอบกิจกรรมทางพุทธศาสนาตามประเพณีของชาวลาว แต่เพราะเหตุที่วัดอยู่ท่ามกลางชาวลาวที่อพยพมา จึงเรียกชื่อวัดที่บูรณะใหม่ว่า "วัดกลางลาว" โดยอาราธนา "พระครูบุญชูโต" มาเป็นเจ้าอาวาสองค์แรก ในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี

    เปลี่ยน ชื่อเป็น "วัดกลางคูเวียง" ตามลักษณะภูมิประเทศที่มีคูน้ำล้อมรอบบริเวณวัด ลำดับเจ้าอาวาสวัดกลางคูเวียงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน 1.พระอาจารย์บุญชูโต 2.พระอาจารย์ปลี 3.พระอาจารย์น้อย 4.พระอาจารย์มี 5.พระอาจารย์โลง 6.พระอาจารย์อ่อน 7.พระอาจารย์อ่อนตา 8.พระอาจารย์เทียน 9.พระอาจารย์จั่น 10.พระครูโสภณสาธุการ (ชื่น เขมจารี) 11.พระครูโสภณสาธุการ (เชิญ โกสโล)

    วัด กลางคูเวียง เป็นวัดหนึ่งที่มีตำรับตำรายาแผนโบราณหรือยาต้ม ที่ใช้รักษาอาการเจ็บป่วยให้กับผู้ที่มาขอรับการรักษา ตำรับตำรานี้เป็นมรดกตกทอดกันมานานแล้ว และเริ่มแพร่หลายเมื่อสมัยหลวงพ่อชื่น ท่านรักษาให้กับคนทั่วไปโดยไม่ได้เรียกร้องค่ายาแต่ประการใด สุดแล้วแต่คนไข้จะถวายเพื่อช่วยค่ายา ซึ่งท่านได้รักษาคนไข้จนหายเป็นปกติหลายร้อยหลายพันคน จึงนับได้ว่าท่านเป็นที่พึ่งของคนเจ็บป่วยอย่างแท้จริง และตำรับตำราเหล่านี้ท่านถ่ายทอดให้กับ หลวงพ่อเชิญ โกสโล เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันซึ่งเป็นหลานชาย เป็นผู้สืบทอดภารกิจที่ต้องรักษาคนเจ็บป่วยต่อไป

    หลวงพ่อชื่น เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม 2445 ปีขาล ที่บ้านกลาง หมู่ 3 ต.สัมปทวน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เป็นบุตรของนายฝอย นางวัน นามสกุล ทุยเวียง ประกอบอาชีพทำนา เมื่ออายุ 21 ปี บรรพชาอุปสมบทที่วัดสัมปตาก ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับวัดกลางคูเวียง เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2465 โดยมี พุทธวิถีนายก (หลวงปู่บุญ ขันธโชติ) วัดกลางบางแก้ว เป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดหล่อ วัดกลางบางแก้ว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอธิการมา วัดลานตากฟ้า เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า "เขมจารี"

    หลังจากนั้นท่านได้มาจำพรรษาอยู่ยังวัดกลางคูเวียง โดยได้ศึกษาพระปริยัติ ธรรม พร้อมวิชาแพทย์แผนโบราณ

    ต่อ มาได้ไปศึกษาภาษาขอมและวิชาอาคมต่างๆ กับหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว โดยได้เรียนคู่กับ หลวงพ่อเพิ่ม วัดกลางบางแก้ว นอกจากนั้น ท่านยังมีความรู้พิเศษในทางวิปัสสนาธุระเป็นอย่างดียิ่ง ต่อมาเมื่อวันที่ 12 เม.ย.2472 ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดกลางคูเวียง

    เริ่ม ก่อสร้างบูรณปฏิสังขรณ์สิ่งต่างๆ รวมทั้งเริ่มรักษาโรคต่างๆ ชาวบ้านที่ได้รับความเจ็บป่วย โดยมิได้เรียกค่ารักษาใดๆ สำหรับตำรับตำรายารักษาโรคเหล่านั้น ท่านศึกษาเล่าเรียนจาก "หมอเทียนสาลีเวียง" หมอโบราณที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องการรักษาโรค และเวทมนต์คาถา การดูฤกษ์ยาม ทำนายโชคชะตา

    ครั้นถึง พ.ศ.2479 ท่านได้หาเงินสร้างพระอุโบสถใหม่แทนหลังเดิม ซึ่งเป็นโบสถ์ที่ทำด้วยไม้ หลังคามุงจาก ฝาเป็นไม้กระดานชำรุดจนไม่สามารถใช้ทำสังฆกรรมได้ พร้อมกับสร้างพระประธานองค์ใหม่ พระอัครสาวก พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร นอกจากนั้นยังได้สร้างกำแพงแก้วรอบพระอุโบสถ ส่วนทางด้านเหนือพระอุโบสถได้สร้างพระวิหารเล็กไว้เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อ บุญชูโต ซึ่งถือกันว่าเป็นเจ้าอาวาสองค์แรก และเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ศักดิ์สิทธิ์มีอภินิหารต่างๆ

    จนเป็นที่เคารพสักการะนับถือของบรรดาสาธุชนโดยทั่วกัน

    [FONT=Tahoma,]ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมุลอย่างสุงครับ

    [/FONT]
    [FONT=Tahoma,][FONT=Tahoma,]เหรียญหลวงพ่อชื่น วัดกลางคูเวียง ปี ๒๕๑๘

    [/FONT]
    [/FONT]
    [/FONT]
    ให้บูชา250 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ
    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2015
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,770
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญไตรมาสหลวงปู่บุญ วัดบ้านนา ระยอง ปี๒๐ สภาพสวยเดิมๆครับ

    ให้บูชา 500 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ


    [​IMG] [​IMG]
     
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,770
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญหลวงปู่ครูบาคำแสน วัดป่าดอนมูล

    ให้บูชา 150 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ


    [​IMG] [​IMG]
     
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,770
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญหลวงปู่บุญ วัดวังมะนาว ราชบุรี

    (ปิดรายการ)


    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2015
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,770
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญหลวงปู่เกลี้ยง วัดวิสุทธิโสภณ ศรีสะเกษ ปี๑๖

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,770
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เบอร์บัญชีผมครับ
    เบอร์บัญชีธ.กรุงไทย KTB125-0-08923-9 supachai thu
    โอนเงินแล้วช่วยแจ้งวันเวลาที่โอนในกระทู้เพื่อง่ายในการตรวจสอบหรือทางPMแล้วจะรีบดำเนินการจัดส่งEMSไปให้โดยด่วนนะครับ..หลายรายการก็ค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    ติดต่อได้ที่ 08..1.70..4..72..64
     
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,770
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญหลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า ระยอง

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ
    [​IMG] [​IMG]
     
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,770
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญหลวงปู่เริ่ม ปรโม ชลบุรี

    ให้บูชา 150 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ
    (ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กุมภาพันธ์ 2015
  10. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,770
    ค่าพลัง:
    +21,343
    <center>[​IMG]</center>

    พระปิดตามหาโภคทรัพย์ เนื้อผงผสมว่านเป็นพระปิดตารุ่นแรกที่พ่อท่านแปลกสร้างขึ้นจากเนื้อว่านทางโชคลาภมากมาย ผสมผงพุทธคุณทางเมตตา มหาเสน่ห์ สร้างน้อย ปัจจุบันหายากครับน่าใช้ครับ : พ่อท่านแปลก” แปลกที่ว่าพระเกจิอาจารย์สายเขา-อ้อ องค์นี้เก่งจริง แต่ไม่มีใครรู้จักมากนัก ท่านแอบเร้นสงบวิเวกอยู่ที่วัดปากปรน กิ่งอำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง ทั้งวัดมีท่านอยู่เพียงองค์เดียว สมถะ วิเวก เรียบง่าย น่านับถือ มองดวงตาของท่านแจ่มใสเป็นประกาย แสดงให้เห็นถึงญาณสมาบัติอันกล้าแกร่ง มีเพียงคนในจังหวัดตรังและใกล้เคียงไม่มากนักที่รู้ว่าท่านมีอภินิหาร และแก่กล้าพุทธาคมอย่างยิ่งยวด หลายครั้งหลายหนที่ผู้คนประสบพบเห็นอภินิหารของท่านอย่างน่าอัศจรรย์ ท่านเดินไปท่ามกลางสายฝนแต่ไม่เปียก “พ่อท่านแปลก” เกิดในสกุล “ชูเท้า” ที่บ้านร่มเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2478 บิดาชื่อ นายปาน ชูเท้า มารดาชื่อ นางคุ้ม ชูเท้า เมื่อวัยเยาว์ได้ช่วยบิดา-มารดาประกอบอาชีพทำนาอยู่ที่บ้านตำบลร่มเมือง จนมีอายุครบบวชจึงได้อุปสมบทที่วัดกลาง อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ศึกษาธรรมและได้เรียนรู้วิชาไสยศาสตร์ จึงเกิดความสนใจวิชาเวทมนต์ คาถาอาคม และไสยศาสตร์แขนงต่างๆ มาก พยายามเสาะหาครูบาอาจารย์ศึกษาจนไปพบอาจารย์ปาน วัดเขาอ้อ ได้เรียนวิชาการต่างๆ มามากมาย เมื่อออกพรรษาบิดา-มารดาให้ลาสิกขามาช่วยงานทางบ้านทำนาต่อไป จึงต้องสละเพศบรรพชิตทั้งที่จิตใจฝักใฝ่จะอยู่ต่อ เมื่อมาช่วยงานทางบ้านมีเวลาว่างๆ ก็หันไปแสวงหาอาจารย์เรียนรู้วิชาทางไสยศาสตร์อยู่เสมอ จนได้พบกับพระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ ที่บ้านควนขนุนได้รับการชี้แนะแนวทางเวทมนต์วิทยาคมมากมาย ต่อมามีครอบครัวและเมื่ออายุได้ 33 ปี เกิดความเบื่อหน่ายชีวิตทางโลก เพราะมีจิตใจใคร่ทางธรรมอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก จึงตัดสินใจลาครอบครัวออกอุปสมบทตามความตั้งใจอีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2510 โดยมี พระครูมุทิตานุรักษ์ วัดท่าแค เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระครูนิเทศน์ธรรมวินัย วัดท่าแค เป็นพระ-กรรมวาจาจารย์ พระมหาผัน วัดโคกโพธิ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ปุสฺสเทโว” ณ พัทธสีมาวัดควนขี้แรด แล้วจำพรรษา ณ วัดควนขี้แรด พัทลุง ได้หนึ่งพรรษาจึงไปอยู่วัดควนปรัง แล้วไปจำพรรษาที่วัดควนโตนด จากนั้นไปอยู่วัดบางขัน ต.ห้วยไทร อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เพื่อค้นคว้าเรียนวิชาสายเขาอ้อกับหลวงพ่อปานอีกครั้งหนึ่ง จนเรียนรู้ชำนาญ สามารถปฏิบัติได้เห็นจริง จึงธุดงค์ ข้ามจังหวัดจากพัทลุงหาความสงบวิเวกบนเขาพับผ้า อยู่ในป่าเพื่อฝึกจิตให้กล้าแข็ง ปฏิบัติธรรมจนถึง พ.ศ.2512 จึงธุดงค์มาถึงวัดปากปรน กิ่งอำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง พบว่าเป็นวัดร้างไม่มีพระอยู่ มีกุฏิเก่าๆ และศาลาผุพังกับป่ารกทึบสงบวิเวก จึงได้จำพรรษาปฏิบัติธรรมอยู่ ณ วัดปากปรนเพียงองค์เดียว วัดปากปรนครั้งนั้นเป็นป่าที่สงบตรงกับความต้องการของท่าน มีสัปปายะที่ดีในการบำเพ็ญภาวนา ระหว่างจำพรรษาอยู่วัดปากปรน เริ่มมีชาวบ้านผ่านมาเข้าไปกราบนมัสการ และเริ่มรู้จักท่านมากขึ้น เพราะนอกจากวิชาคาถาอาคมและไสยศาสตร์แล้ว ท่านมีความชำนาญในตำรารักษาโรคด้วยสมุนไพรอีกด้วย ทั้งนี้เนื่องจากระหว่างที่ท่านธุดงค์อยู่บนเขาพับผ้านั้น มีชาวบ้านซึ่งพบตำรารักษาโรคและตำรับเวทมนต์ในถ้ำวัดในเขา นำเอาตำราทั้งหมดมาถวายท่านเอาไว้ เพราะเอาไว้ในบ้านแล้ว พบสิ่งอัศจรรย์มากมาย เอาไว้ไม่ได้จึงเอามาถวายท่าน ท่านได้ศึกษาตำรับตำราเหล่านั้นอยู่นานหลายปีจนมีความเข้าใจแจ่มแจ้ง ดังนั้น นอกจากวิชาที่ท่านได้เรียนมาจากสำนักเขาอ้อแล้ว วิชาบางส่วนท่านได้มาจากตำราที่ชาวบ้านพบในถ้ำแล้วเอามาถวายท่าน ด้วยใจที่สนใจไสยศาสตร์มาแต่เดิมจึงทำให้ท่านมุ่งมั่นฝึกฝนจนสามารถปกิบัติได้จริง มีลูกศิษย์ของท่านหลายคนยืนยันว่า เคยเดินไปกับท่าน ฝนตกลงมาคนที่ร่วมเดินไปพร้อมกับท่านทุกคนเปียกฝนชุ่มโชก แต่ตัวท่านไม่มีฝนตกถูกจีวรเลยแม้แต่เม็ดเดียว สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคน “ไม่สรงน้ำมาหลายปี” ในบรรดาผู้เคารพเลื่อมใสพ่อท่านแปลกจะทราบกันดีทุกคนว่าท่านไม่สรงน้ำ ไม่เคยเห็นท่านสรงน้ำ ถามท่านว่า “พ่อท่านไม่สรงน้ำมากี่ปีแล้ว” ท่านตอบว่าจำไม่ได้ แต่แปลกที่ว่าเมื่อเข้าไปนั่งใกล้ท่านกลับไม่มีกลิ่นกายแต่ประการใด วรรณะ ราศี ผิวพรรณของท่านกับผ่องใสเปล่งปลั่งและดูสะอาดตามาก “พ่อท่านอาบน้ำในกา” ลูกศิษย์หลายคนของท่านเล่าว่า เคยเห็นท่านนั่งอยู่แต่ตัวเปียกน้ำ ทั้งๆ ที่วัดของท่านไม่มีห้องน้ำ และเมื่อสังเกตก็เห็นกาน้ำที่วางข้างตัวท่าน รอบๆ กามีน้ำเปียกอยู่โดยรอบ ฝากาเปิดอยู่ จึงถามท่านว่า พ่อท่านไปอาบน้ำที่ไหนมา ท่านหัวเราะแล้วหันไปมองที่กาน้ำ โดยไม่เอ่ยปากพูดอะไร ลูกศิษย์จึงเข้าใจว่าท่านคงอาบน้ำในกา เพราะหลายคนทราบดีว่าพ่อท่านมีวิชาสามารถ ย่นหนทางและย่อกายได้อย่างน่าอัศจรรย์ “ปืนยิงไม่ออก” หลายปีมาแล้ว ชาวบ้านรอบๆ วัดแอบเข้ามาเล่นการพนันในเขตวัด โดยใช้ศาลาเป็นสถานที่ เมื่อเล่นไปก็มีคนเสียเงินบ้าง คนได้เงินบ้าง คนที่เสียมากคนหนึ่งเป็นนักเลงในท้องถิ่นนั้น เมื่อไม่มีเงินจะเล่นต่อจึงเข้าไปขอเงินพ่อท่านแปลกที่กุฏิ ท่านรำคาญจึงหยิบเงินส่งให้ไป ชายผู้นั้นหายไปพักหนึ่งก็กลับมาอีก คราวนี้มีอาการเมาเหล้าบอกว่าเงินพ่อท่านหมดแล้วขออีก ท่านจึงบอกว่าไม่มี ให้ไปหมดแล้ว ชายผู้นั้นก็เซ้าซี้จะเอาเงินให้ได้ พ่อท่านไม่มีให้ จึงเกิดโมโห ชักปืนขนาด .38 ขึ้นขู่พ่อท่าน เพื่อจะเอาเงิน ท่านก็ตอบว่าไม่มีเพราะให้ไปหมดแล้ว จึงลั่นไกปืนยิงท่าน นัดแรกเสียงดัง “แช็ก” นัดสอง นัดสาม ก็เป็นเช่นเดิมลูกปืนไม่ลั่น พ่อท่านจึงบอกว่าให้ไปไกลๆ ไปยิงนอกวัดโน้น ชายผู้นั้นจึงเดินออกไปยิงที่หน้ากุฏิของท่านอีก 1 นัด ก็ไม่ออก จึงออกไปยิงขึ้นฟ้าที่หน้าวัด ปรากฏว่ายิงออกทุกนัด เรื่องนี้มีชาวบ้านร่วมเห็นเหตุการณ์หลายคนเล่าให้ฟังตรงกัน “พ่อท่านแปลก” เกจิอาจารย์ผู้เข้มขลังและปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ท่านถือสันโดษและปฏิบัติธรรมด้วยการพิจารณา “อสุภะกรรมฐาน” เป็นเนืองนิตย์ มีกระแสจิตแก่กล้า แต่มีความเมตตาเป็นเลิศ นับเป็นเกจิอาจารย์อีกองค์หนึ่งของภาคใต้ ที่น่าเคารพและศรัทธายิ่ง

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    พระปิดตารุ่นแรกพ่อท่านแปลก วัดปากปรน จ.ตรัง สวยเดิมๆครับ

    ให้บูชา 500 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ(ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กุมภาพันธ์ 2015
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,770
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เบอร์บัญชีผมครับ
    เบอร์บัญชีธ.กรุงไทย KTB125-0-08923-9 supachai thu
    โอนเงินแล้วช่วยแจ้งวันเวลาที่โอนในกระทู้เพื่อง่ายในการตรวจสอบหรือทางPMแล้วจะรีบดำเนินการจัดส่งEMSไปให้โดยด่วนนะครับ..หลายรายการก็ค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    ติดต่อได้ที่ 08..1.70..4..72..64
     
  12. แปดเหลี่ยม

    แปดเหลี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2013
    โพสต์:
    831
    ค่าพลัง:
    +559
    จองพระปิดตารุ่นแรกหลวงพ่อแปลก วัดปากปรนครับ
     
  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,770
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญหลวงพ่อทบ หลังยันต์เพชรกลับ ออกวัดชนแดน เพชรบูรณ์ ปี๑๖ เป็นเหรียยรุ่นแรกและรุ่นเดียวของท่านที่ใช้ยันต์เพชรกลับ นอกจากวัตถุงมงคลรุ่นอื่นๆที่มีก็คือแหวน
    พิมพ์นิยมบล๊อคการรันต์ องค์นี้ของผมเองสมัยก่อนแขวนบูชาอยู่เลี่ยมเก่าสมัยก่อน เกือบ25ปีได้ ผมไม่ได้ทุบเลี่ยมเพื่อถ่ายรูปครับสภาพเหรียญจริงสวยเดิมๆครับ วัตถุมงคลศิษย์ท่านสายเพชรบูรณ์ยังมีอัตราบูชาสูงๆ แต่นี้ของอาจารย์ของท่านนั้นๆในเพชรบูรณ์ ต้นตำหรับ เรียกง่ายๆในเพชรบูรณ์เบอร์หนึ่งคือหลวงพ่อทบครับ

    ให้บูชา 9000 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  14. แปดเหลี่ยม

    แปดเหลี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2013
    โพสต์:
    831
    ค่าพลัง:
    +559
    วันนี้โอนเงิน 550 บาทให้แล้วครับเวลา 16.37 น.ส่งที่เดิมครับขอบคุณ
     
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,770
    ค่าพลัง:
    +21,343
    ประวัติหลวงพ่อพิมพ์

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความที่มาข้อมูลอย่างสูงครับ

    พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อพิมพ์ วัดวิหารทอง วัดเดิมท่านก่่อนมาวัดสนามชัยบ้านเกิด

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2015
  16. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,770
    ค่าพลัง:
    +21,343
    [FONT=Tahoma,][​IMG][/FONT]

    ประวัติ หลวงพ่อเฮ็น สิริวังโส วัดดอนทอง

    "หลวงพ่อเฮ็น สิริวังโส" หรือ พระครูอรรถธรรมาทร วัดดอนทอง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี เป็นพระเถราจารย์มีเชื้อสายเขมร ที่มีวิทยาคมแก่กล้ารูปหนึ่ง เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาจากสาธุชนและคณะศิษยานุศิษย์อย่างยิ่ง

    อัตโนประวัติ หลวงพ่อเฮ็น เกิดในสกุล ศิริวงษ์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับปีกุน ที่หมู่บ้านจางคาง เมืองปาดวง กำปงธม ซึ่งเป็นเมืองชายแดนขึ้นอยู่กับไทย ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ประเทศไทยเสียดินแดนแถบนั้นไป โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายอยู่และนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งเป็นชาวกัมพูชาอยู่หมู่บ้านจางคาง

    เมื่ออายุครบ 20 ปี ตรงกับ พ.ศ.2474 ได้เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดพรรณราย เมืองกำพงธม มีหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณราย เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์กุ่ย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์หมั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า สิริวังโส

    หลังอุปสมบท ได้ศึกษาพุทธาคมและพระธรรมวินัยและไสยาคมกับหลวงพ่อแก้ว เมื่อเรียนวิชาจนสำเร็จแล้ว ท่านได้ออกธุดงค์มายังเมืองไทย

    ระหว่างการเดินธุดงค์ตามป่าเขา ได้พบพระธุดงค์ด้วยกันหลายรูป จึงแลกเปลี่ยนวิชากัน อาทิ หลวงปู่สอน วัดเสิงสาง จ.นครราชสีมา, พระอาจารย์ต่วน วัดกล้วย จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นต้น

    หลวงพ่อเฮ็น เคยปรารภว่า ได้ออกท่องธุดงค์รอนแรมตามป่าเขาลำเนาไพร เพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติวิปัสสนาระหว่างทางในป่าเขาให้ถ้ำบ้าง ขุนเขาบ้างเป็นที่พำนัก รักษาศีล และเจริญวิปัสสนา ได้พบกับความยากลำบากต่างๆ นานา พบกับภัยธรรมชาติก็อาศัยสรรพวิชาที่ได้ร่ำเรียนมากับอาจารย์สามารถปัดเป่าไปได้ ระหว่างทางพบกับความลี้ลับมหัศจรรย์มากมาย

    "สมัยเมื่อ 40-50 ปีที่แล้ว ระหว่างชายแดนด้านประเทศเขมร มีแต่ป่าดงดิบทั้งนั้น ใครไม่แน่จริง เดินเข้าไปก็ไม่สามารถออกมาได้ กลายเป็นผีเฝ้าป่าไปเท่านั้น"

    หลวงพ่อเฮ็น เล่าว่า ในป่าดงดิบแถบนั้น การเอาตัวรอดจากภัยธรรมชาติ เป็นเรื่องมิใช่ง่าย นอกจากต้องมีพลังจิตกล้าแข็งแล้ว การผจญกับสัตว์ป่านานาชนิด บางครั้งต้องใช้วิชาไสยศาสตร์แก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าไปด้วย

    ท่านใช้เวลาธุดงค์ยาวนานหลายปีวนเวียนอยู่ในป่าเขา จนการปฏิบัติวิปัสสนาก้าวหน้ากล้าแข็งดีแล้ว จึงธุดงค์เข้ามาในเขตประเทศไทย ได้พบพระคณาจารย์ต่างๆ ของไทยหลายรูปที่ธุดงควัตรอยู่ในป่า ได้ศึกษาสนทนาธรรมแลกเปลี่ยนกัน และธุดงค์เรื่อยเข้ามาผ่านเข้ามาทาง ทุ่งนาบ้าง บ้านคนบ้าง จนกระทั่งถึงเมืองสระบุรี ท่านเดินทางไปถึงบ้านดงตะงาว กิ่งอำเภอดอนพุด ได้พบวัดดอนทอง เห็นเป็นวัดที่มีความสงบวิเวกดี มีบ้านเรือนชาวบ้านอยู่ไม่มากนัก

    จากนั้นจึงได้อยู่จำพรรษาที่ "วัดดอนทอง" เมื่อปี พ.ศ.2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพ ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา

    พ.ศ.2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ "พระครูอรรถธรรมทร"

    ในชีวิตหลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ท่านจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

    กล่าวกันว่า ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ หลวงพ่อเฮ็นนั้น มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง โดยเฉพาะในทางเมตตามหานิยมเป็นเลิศ มีกิตติคุณกว้างไกล ท่านสร้างขึ้นตามตำรับโบราณ ด้วยพุทธาคมและพลังจิตอันกล้าแข็ง ด้วยได้รับการถ่ายทอดวิชาจากหลวงพ่อแก้ว แห่งวัดพรรณราย

    หลวงพ่อเฮ็น เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านดอนทองอย่างยิ่ง แม้กระทั่งทหารนักรบที่อาสาไปรบในสงครามเวียดนาม ต่างมาขอวัตถุมงคลจากท่าน เพื่อคุ้มครองป้องกันภยันตราย

    หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

    แม้วันนี้หลวงพ่อเฮ็นจะละสังขารไปนานแล้ว แต่คุณงามความดียังคงปรากฏอยู่สืบไป

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความที่มาข้อมูลอย่างสูงครับ

    พระผงเหรียญหลวงพ่อเฮ็น วัดดอนทอง สระบุรี องค์ด้านซ้ายกระเทาะแตกบิ่นด้านล่าง1องค์

    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2015
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,770
    ค่าพลัง:
    +21,343
    วันนี้จัดส่ง

    EN 7179 4836 2 TH อ่าวอุดม

    EN 7179 4651 7 TH บางนา

    ขอบคุณครับ
     
  18. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,770
    ค่าพลัง:
    +21,343
    [​IMG]

    ประวัติ พ่อท่านหีต ปภังกโร วัดคีรีรัตนาราม (วัดเผียน)

    พ่อท่านหีต ปภังกโร วัดคีรีรัตนาราพ่อท่านหีต ปภังกโร วัดคีรีรัตนาราม (วัดเผียน) อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช พระเกจิชื่อดังแห่งขุนเขาแดง ที่ชาวนครศรีฯ ให้ความเลื่อมใสศรัทธา และรู้จักชื่อเสียงเป็นอย่างดี

    อัตโนประวัติ เกิดในสกุล "บุญมา" เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม 2459 ที่ ต.ถ้ำทอง อ.ทับปุด จ.พังงา โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายนอง และนางเหลื่อม บุญมา

    ด้วยความที่เป็นบุตรชายคนเดียว จึงเป็นกำลังหลักของครอบครัว ที่ต้องช่วยพ่อ-แม่ทำนา จนอายุได้ 19 ปี จึงไปอยู่ที่วัดโคกลอย บิดาพาไปฝากเป็นศิษย์ของ 'พ่อท่านรักษ์ วัดโคกลอย' แล้วให้บวชเป็นสามเณร โดยพระครูภาณีศรีระวัฒน์ แล้วจำพรรษาศึกษาธรรมและอักขระเลขยันต์ทางวิทยาคม ตลอดจนวิปัสสนาธุระกับ "พ่อท่านรักษ์" ได้ 2 ปี

    จนกระทั่งมีอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2479 ณ อุโบสถวัดชนาธิการาม (สำนักปรุ) ต.นพปริง อ.เมือง จ.พังงา โดยมี พระปฏิภาณพังงารัฏฐ์ เจ้าคณะจังหวัดพังงา วัดประภาสประจิมเขต เป็นพระอุปัชฌาย์, พระวินัยธรรักษ์ (รักษ์ สิริวัฑฒโน) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้ฉายาว่า ปภังกโร

    หลังจากอุปสมบทแล้ว กลับไปจำพรรษาที่วัดโคกลอยอีก 1 พรรษา จึงออกธุดงค์ไปจนถึงภูเก็ต ในปี พ.ศ.2480 และเข้าจำพรรษาที่วัดโฆษิตวิหาร เพื่อศึกษาธรรมะกับพระครูสีลรัตนสมณคุณ วัดมงคลนิมิตร

    ครั้นถึงปี พ.ศ.2483 จึงย้ายไปจำพรรษาที่วัดพิชิตสังฆาราม ต.สินไนย อ.เมือง จ.ภูเก็ต จนสามารถสอบนักธรรมเอกได้ในปี พ.ศ.2486

    เมื่อศึกษาธรรมะจนมีความรู้แจ้งแตกฉานดีแล้ว จึงออกธุดงค์เรื่อยไปเพื่อฝึกฝนการปฏิบัติตามขุนเขาลำเนาไพรระหว่างทางพบถ้ำ เขาแดง สงบวังเวงเหมาะแก่การปฏิบัติธรรมจึงเข้าพักปฏิบัติภาวนาอยู่นาน 12 ปี

    กระทั่งถึงปี พ.ศ.2500 ชาวบ้านมาพบท่าน เห็นมีศีลาจารวัตรน่าศรัทธาเลื่อมใส ปฏิบัติธรรมอยู่ในถ้ำอย่างวิเวก จึงร่วมกันนิมนต์ให้ท่านลงจากถ้ำมาอยู่ วัดเผียน ตรงบริเวณเชิงเขาแห่งนั้นแล้วช่วยกันจัดแจงปรับปรุงวัดร้าง ให้มีสภาพคืนมาสู่วัดอีกครั้งตั้งแต่ พ.ศ.2500 เป็นต้นมา

    พ่อ ท่านหีต เป็นพระเถราจารย์ผู้ทรงกิตติคุณ แต่ท่านนี้มีรูปร่างผอมสูง ผิวดำแดงกร้าน แฝงไว้ด้วยความทรหดอดทน มือเท้าใหญ่โตที่แสดงถึงการออกธุดงค์รอนแรมตามป่าเขาลำเนาไพรมาหนัก สังเกตได้ที่ตาตุ่ม-ข้อเท้าทั้งสองของท่านด้านหนา อันเป็นสิ่งที่บ่งบอกให้ทราบว่าท่านนั่งสมาธิมานานมาก

    อีกทั้งสายตาของท่านแข็งกล้ามีขอบสีฟ้ารอบตาดำเป็นประกายแวววาว แสดงถึงภาวนาสมาธิ จากอำนาจ บารมีญาณของท่านสูงส่งมีอำนาจในตัวเอง การเจรจาแฝงไว้ด้วยเมตตาเป็นที่ตั้ง ศีลาจารวัตรสังเกตดูบริสุทธิ์ผุดผ่อง เพราะไม่มีสมบัติมากมาย มีเพียงเสื่อเก่าๆ และหมอนไม้แข็ง เป็นที่พำนักหลับนอนเท่านั้น

    ซึ่งพ่อท่านหีต บอกว่า "ความสบายกาย ทำให้เกิดทุกข์ เกิดกิเลส เกิดตัณหา มีอุปาทาน ไม่สามารถหลุดพ้นจากสภาวจิต เข้าสู่สภาวธรรมได้"

    เคยมีคำร่ำลือกันจากศิษย์ผู้ใกล้ชิดท่าน ว่า ครั้งหนึ่ง พ่อท่านหีตได้รับกิจนิมนต์ ตอนขากลับ ฝนกำลังจะตกลงมา ลูกศิษย์จึงได้ชวนพ่อท่านขึ้นรถจะไปส่ง แต่พ่อท่าน หีตจะขอเดินกลับกุฏิเอง

    หลังจากพ่อท่านหีตเดินลับทางโค้งไปแล้ว ลูกศิษย์ได้ขึ้นรถสตาร์ตเครื่องแล้วรีบขับตามทันที แต่พอขับรถไปถึงทางโค้ง ชั่วเวลาเพียงลัดนิ้วมือเดียว ปรากฏว่าไม่เห็นร่างพ่อท่านแม้แต่เงาจึงขับรถตามไปยังกุฏิ ปรากฏว่าเห็นพ่อท่านนั่งอยู่ที่กุฏิแล้ว ศิษย์คนนั้นรีบทักพ่อท่าน ว่า "พ่อท่านเดินเร็วจังเลย" พ่อท่านตอบว่า "ต้องเดินเร็วๆ เพราะเดี๋ยวฝนจะตกแล้ว"

    เรื่องราวทำนองนี้ ผู้ที่เคยเป็นศิษย์ใกล้ชิดของพ่อท่าน ยังมีเรื่องราวอัศจรรย์ของท่าน ที่เล่าขานไม่รู้จบ จนกลายเป็นความศรัทธาของคณะศิษย์ที่มีต่อพ่อท่าน

    พ่อท่านหีต ได้ละสังขารจากไปด้วยวัย 74 ปี ในปี พ.ศ.2533 เป็นปูชนียบุคคลที่ชาวนครศรีธรรมราชกราบไหว้บูชาสืบมาจนทุกวันนี้

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความที่มาข้อมูลอย่างสูงครับ

    เหรียญโภคทรัพย์ขวัญถุงพ่อท่านหีต วัดเผียน นครศรีธรรมราช เก่าเก็บครับมีเอกสารแจ้งบอกไว้ไม่มีโค๊ตไม่มีเครื่องหมายใดๆ ทำให้หายากถ้าไม่มีที่มาที่ไปและรู้ที่มาที่ไปเป็นเหรียญ๒๕สต.ปี๒๕๓๓ครับ หายากจริงแท้แน่นอนครับ

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2015
  19. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,770
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระสมเด็จหลังยันต์มหาอุตย์หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม ปี๐๙ สภาพสวยเดิมๆครับ

    ให้บูชา 3500 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  20. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,770
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระละสังขารร่างกายเป็นสีเขียวมรกต - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมุลที่มาเวปไซท์อย่างสูงครับ
    เหรียญกลม รุ่นเเรก พ.ศ.04 หลวงปู่วรพรต วัดจุมพล ประวัติ หลวงปู่วรพรตวิธาน “หลวงปู่วรพรตเหยียบรถเดี่ยง” .. นามเดิมท่านชื่อ “พันธ์ ทับงาม” เกิดวันพุธที่ 1 ธันวาคม 2444 ที่บ้านน้ำอ้อม อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด (ที่จริงแล้วท่านเกิดในปี พ.ศ 2437 แต่แจ้งวันเกิดช้ากว่ากำหนดโดยวันเดือนเกิดไม่ทราบแน่ชัด) บิดาชื่อ พ่อศิลา มารดาชื่อ แม่ทอง ทับงาม ชีวิตเยาว์วัยท่านเป็นคนเรียนหนังสือเก่งมาก จนขุนเกษตรวิสัยเจ้าเมืองร้อยเอ็ดเอาไปรับราชการเป็นเสมียนประจำตัวท่าน รับราชการจนอายุได้ 16 ปี จึงลาบวชเป็นสามเณร ณ.วัดบ้านน้ำอ้อม จนอายุได้ 21 ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระต่อโดยมีพระครูธรรมสังฆบาลเป็นพระอุปัชณาย์มีฉายาว่า “ติสโส” ท่านเป็นพระหนุ่มที่เรียนหนังสือเก่งมากท่องปฏิโมกข์ได้ตั้งแต่พรรษาแรก และปี พ.ศ 2472 หลวงปู่ ท่านสอบนักธรรมชั้นเอกได้ ในปีนั้นหลวงปู่สอบนักธรรมเอกได้เพียงองรูปเดียวเท่านั้นทั่วมณฑลร้อยเอ็ด (รวมกาฬสินและมหาสารคามด้วย) จนได้รับรูปท่านเจ้าคุณพระโพธิวาศจารย์แม่กองธรรมอุบลเป็นรางวัล หลวงปู่ได้มาเรียนเทศนากับท่านเจ้าคุณกัณหา ณ วัด หนองทุ่ม อ.พล จ.ขอนแก่น (เจ้าคุณกัณหาเจ้าคณะ จังหวัดขอนแก่น ในสมัยนั้น พ.ศ 2473) ปี พ.ศ 2475 บ้านเมืองได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเจ้าคุณกัณหาจึงได้ส่งหลวงปู่วรพรตมา เป็นเจ้าอาวาสวัดจุมพล บ้านก้านเหลือง อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น อายุการสร้างวัดจุมพล ประมาณ 150 ปี ในสมัยรัชกาลที่ 5 พ.ศ 2480 หลวงปู่ได้สร้าง อุโบสถขึ้นมาใหม่ เสร็จเอาปี พ.ศ 2483 ค่าก่อสร้างเป็นเงิน 2,500 บาท ปูนชีเมนต์สมัยนั้นถุงละ 1.50 บาท ปี พ.ศ. 2482 หลวงปู่ได้ขอพระราชทาน พระปรมาภิไธย์ย่อ ของรัชการที่ 8 แต่พระองค์ท่านได้พระราชทานเหรียญพระฉายาลักษณ์ของท่านให้หลวงปู่วรพรต หลวงปู่ท่านเอาเหรียญนั้นติดไว้หน้าพระอุโบสถต่อจากนั้นมาหลวงปู่ก็ได้พัฒนา วัดจุมพลมาเรื่อยๆ ตลอดจนวัดต่างๆ ในอำเภอแวงน้อย และอำเภอพล (แต่ก่อนอำเภอแวงน้อยเป็นตำบล ขึ้นอยู่กับอำเภอพล) ในการสร้างพระอุโบสถและกุฎิ รวมทั้งศาลาการเปรียญ รวมทั้งสิ้น ประมาณ 30 หลัง ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 ได้มีการขยายการปกครองออกไปอีก ทางการจึงตั้งตำบลแวงน้อยขึ้นเป็นอำเภอแวงน้อย หลวงปู่วรพรตวิธานจึงได้เป็นเจ้าคณะอำเภอแวงน้อยรูปแรก หลวงปู่ท่านเป็นผู้มีวิชาอาคมขลังมาก ได้เรียนวิชาอาคมมาจาก 5 อาจารย์ด้วยกัน เช่น หลวงศรีธรรมศาสตร์ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม หลวงปู่ศึกษาวิชาไสยศาสตร์ จากอาจารย์ครีธรรมศาสตร์ จนเรียนจบเรียบร้อยแล้วก็ได้เดินทางไปศึกษาวิชาอาคมจาก พระอาจารย์ขันวัดท่าสะแบง ต.มะบ้า อ.ธวัชบุรี จ. ร้อยเอ็ด พระอาจารย์ขันวัดท่าสะแบงนี้ท่านเป็นผู้มีวิชาอาคมรูปหนึ่งในภาคอีสานในสมัย นั้น ไม่ว่าจะเป็นวิชาอาคมทางด้านเมตตามหานิยม, คงกระพันชาตรี, แคล้วคลาด, มหาอุต ป้องกันขับไล่ คุณไสย คุณผี คุณคน หลวงปู่วรพรตท่าน ก็ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมจากพระอาจารย์ขันจนหมดสิ้น แล้วหลวงปู่ก็ได้ไปศึกษากับอาจารย์บ้านฟ้าเหลี่ยม อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด เกจิอาจารย์ดังองค์หนึ่งในสมัยนั้น ขนาดท่านปัสสาวะรดต้นไม้ เอาปืนยิงต้นไม้ ยังยิงไม่ออกแต่ก็ยังไม่พอความต้องการของหลวงปู่ หลังจากนั้นท่านก็ได้มุ่งหน้าไปศึกษากับ หลวงปู่ชม ฐานธัมโม แห่งวัดกู่ พระโกนา อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของท่าน หลวงปู่ชมรูปนี้ท่านมีวิชาอาคมแก่กล้าสามารถมาก มีอิทธิปาฏิหาริย์นานัปการ ท่านสามารถล่องหนหายตัวได้ หลวงปู่ชมท่านได้สร้าง วัดขึ้นบริเวณใกล้กับกู่โกนาอยู่ทางจะไป อ. ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะมุ้งไปเขมรต่ำ (ประเทศกัมพูชาในปัจจุบัน) หลวงปู่ท่านได้ศึกษาวิชาอาคมและวิปัสนากัมมัฏฐาน อยู่ 2 ปี เมื่อ พ.ศ. 2479 ท่านได้กราบลาหลวงปู่ชม ออกมุ่งหน้ามายัง จ. ขอนแก่น เพื่อกับวัดจุมพลของท่าน หลังจากที่ท่านได้เล่าเรียนวิชาอาคมจากพระอาจารย์ ต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านก็ได้ออกเดินธุดงค์ไปกับหลวงพ่อผาง จิตฺตคุตฺโต และได้แยกทางกันที่ อ. มัญจาคีรี จากนั้นหลวงปู่วรพรตท่านก็ได้เดินผ่านดงพญาเย็น-พญาไฟ ผ่านไปประเทศลาว พม่า เขมร เรื่องราวตอนที่ท่านเดินธุดงค์ ไปนั้นมีมากมาย ผจญทั้งสัตว์ร้ายและภูตผีปีศาจ แต่ท่านก็ผ่านอุปสรรคนั้นมาได้ หลวงปู่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ในสมัยรัชการที่ 8 มีพระราชทินนามว่า “พระครูวรพรตวิธาน” เราจึงเรียกติดปากว่า “หลวงปู่วรพรต” ตั้งแต่นั้นมาหลวงปู่ได้แสดงปาฏิหาริย์ให้ปรากฏแก่สายตาของผู้คนเป็นครั้ง แรก ก็คือ เรื่องหลวงปู่เหยีบรถกระดก (ลอยขึ้น) เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ 2503 หลวงปู่จะออกเดินทางจาก อ. พล จ. ขอนแก่น ด้วยรถโดยสารเพื่อจะไป จ.ร้อยเอ็ด รถคันที่หลวงปู่จะขึ้นเป็นรถสองแถวขนาดใหญ่ ตามธรรมดาโดยทั่วไปแล้วพระเณรจะต้องนั่งด้านหน้าติดกับคนขับ เพื่อจะได้ไม่ปะปนกับผู้โดยสารคนอื่น แต่รถคันนี้มีผู้หญิงนั่งเต็มอยู่ด้านหน้าแล้ว ด้านหลังรถยังพอมีที่นั่งได้ คนขับรถจึงบอกให้หลวงปู่ขึ้นทางท้ายรถ หลวงปู่ก็ได้ปฏิบัติตามโดยดี แต่ก่อนจะขึ้นรถหลวงปู่ได้พูดกับคนขับรถว่า “รถจะไม่เดี่ยงหรือ”(เดี่ยงเป็นภาษาไทยอีสานแปลว่า “ กระดก”) คนขับก็บอกว่า “ไม่เดี่ยงแน่เพราะรถรับน้ำหนักได้หลายตัน” พอคนขับพูดจบ หลวงปู่ก็ก้าวเท้าขึ้นรถ ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นทันที ด้านหน้ารถลอยขึ้น เหมือนมีมือยักษ์มาจับยกขึ้น คนขับรถเห็นเช่นนั้นถึงกับตกตะลึงจึงกราบนิมนต์หลวงปู่มานั่งด้านหน้า โดยให้พวกผู้หญิงไปนั่งด้านหลัง ตั้งแต่นั้นมาสมญานาม “หลวงปู่วรพรตเหยียบรถเดี่ยง” จึงเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นในเขตขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา ต่างก็รู้เรื่องกันดี เคยมีญาติโยมที่อยู่ไกลถึง จ. กระบี่ เดินทาง มากราบขอคาถาเหยียบรถกระดกจากท่าน ท่านก็มอบคาถานะโมพุทธายะให้ไป แต่จะทำได้เหมือนหลวงปู่หรือเปล่าไม่ทราบ

    เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่วรพรตวิธาน ขอนแก่น ปี๒๕๐๔ สภาพผ่านการบูชาครับ
    ให้บูชา 3500 บาทครับ

    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2015

แชร์หน้านี้

Loading...