คชสีห์๙บารมี๙บารมี๙แผ่นดินหลวงปู่หมุนเสก

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 30 สิงหาคม 2010.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญสมเด็จพุฒาจารย์โต วัดไก่จ้น วัดบ้านเกิดท่านครับ เลี่ยมพลาสติคกันน้ำพร้อม

    ให้บูชา 150 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ


    [​IMG] [​IMG]
     
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    หลวงพ่อภัททันตะ อาสภมหาเถระ วัดมหาธาตุ

    รูปถ่ายหลังเจดีย์ชเวดากองและรูปสมมุติพระพุทธองค์ ลองหาประวัติท่านอ่านกันดูนะครับ

    ครูบาอาจารย์ผู้สอนกรรมฐานแนวสติปัฐานสี่ ยุบหนอ พองหนอ

    ให้บูชาใบละ 300 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ มี 2 ใบครับ

    ใบที่ 1

    [​IMG] [​IMG]

    ใบที่ 2

    [​IMG] [​IMG]
     
  3. psp1

    psp1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +461
    โอนแล้ว 350.50 บาท ที่อยู่จัดส่งตามเดิมครับ
     
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    จัดส่ง

    EK 7777 6624 8 TH อุดรธานี

    ขอบคุณครับ
     
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    หลวงปู่ศรี (สีห์) พินทสุวัณโณ (บำรุงกิจ)
    ที่มา : หนังสือพรหมปัญโญเถระ
    pra31

    เกิดเมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๓๗ ตรงกับวันอาทิตย์ แรม ๕ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะเมีย ณ บ้านดอนกลาง ตำบลกระจิว อำเภอภาชี พระนครศรีอยุธยา โยมบิดาชื่อ ‘ก้าน’ โยมมารดาชื่อ‘เล็ก’มีพี่น้องร่วมบิดามารดา ๖ คน ท่านเป็นบุตรคนโต

    การศึกษา
    เมื่อท่านอายุ ๘ ปี โยมบิดานำไปฝากให้เรียนหนังสือไทยและหนังสือขอมที่วัดสุทัศน์ กรุงเทพ โดยอยู่ในความปกครองของพระเถระผู้ใหญ่ระดับเจ้าคุณ การศึกษาเบื้องต้น ท่านมีความเชี่ยวชาญในอักขระวิธีภาษาขอมเป็นอย่างดี

    บรรพชา/อุปสมบท
    ท่านอายุ ๑๔ ปี บรรพชาสามเณร ในระหว่างเป็นสามเณรนั้น ท่านได้ศึกษาทางคันถะธุระแผนกบาลี (เรียนมูลกัจจายนะ) จนสามารถแปลภาษาบาลีได้เชี่ยวชาญ ท่านครองเพศสามเณรจนอายุได้ ๒๓ ปี จึงกลับมาอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดสะแก โดยการแนะนำของญาติผู้ใหญ่ ท่านเข้าสู่พัทธสีมาวัดสะแก เมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๐ ตรงกับวันพุธ แรม ๔ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะเส็ง โดยมีหลวงพ่อกลั่นเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการแด่ วัดสะแก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์พุฒิ วัดสะแก เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา ‘พินฺทสุวณฺโณ’ เมื่อท่านอุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้ว มิได้เรียนต่อทางปริยัติอีก ท่านหันมาศึกษาทางพุทธาคม โดยมีหลวงพ่ออุปัชฌาย์ ‘กลั่น’ วัดพระญาติการาม เป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทให้ และยังเที่ยวศึกษากับเกจิอาจารย์อีกหลายที่เช่น ที่วัดประดู่ทรงธรรม พระนครศรีอยุธยา กระทั่งอาจารย์ที่เป็นคฤหัสถ์คนล่าสุดก็คือ อาจารย์เฮง ไพรวัลย์ การเรียนพุทธาคมปฏิบัติได้เข้มแข็งมาก เรียนกระทั่งหมอยารักษาโรค เช่น โรคพยาธิ และเรียนหมอดูทำนายทายทักได้แม่นยำมากทีเดียว กระทั่งทางวัตถุมงคล ท่านเป็นพระอภิญญา ชาวบ้านและข้าราชการผู้ใหญ่ เช่น นายควง อภัยวงศ์ กับอธิบดีต่างๆ มาเป็นลูกศิษย์ จนถึงราชครูวามเทพมุนี ซึ่งได้มาขอเรียนต่อกับท่าน ท่านได้สร้างวัตถุมงคลล้วนแต่ศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่างเช่น รูปท้าวมหาพรหม พรหมสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ปิดตา พระพิมพ์ และรูปเหมือนต่างๆ เป็นต้น ท่านเป็นพระสุปฏิปัณโณรูปหนึ่งที่สามารถรู้กาลข้างหน้า ในชีวิตเป็นสมณเพศ ท่านไม่ค่อยอาพาธบ่อยนัก มีอาพาธหนักอยู่ครั้งหนึ่งเมื่ออายุ ๘๔ ปี ถึงวันที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๖ เวลาจวนจะรุ่งอรุโณทัย ท่านอาพาธหนักด้วยโรคลม แม้บรรดาศิษย์จะพยายามเยียวยารักษาเป็นอย่างดี อาการโรคของท่านไม่ดีขึ้นเลย และในที่สุด วาระสุดท้ายของท่านก็มาถึง คือวันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๖ เวลา ๖.๐๕ น. ก็ถึงกาลมรณภาพ ด้วยการนั่งเข้าที่สมาธิ ณ กุฏิของท่าน สิริรวมอายุได้ ๘๘ ปี พรรษา ๖๕ พรรษา

    วัดสะแก ได้รับการพัฒนา ปรับปรุง และมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับมาโดยลำดับ เพราะมีคณาจารย์ที่มีความสามารถหลายท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลวงปู่ใหญ่ ติณณสุวัณโณ ท่านมีความสามารถในการปกครองและการบริหาร จะเห็นได้ว่า ในช่วงเวลาที่ท่านปกครองวัดสะแกในฐานะเจ้าอาวาส ในระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๘๑-๒๕๒๕ นั้น ท่านได้พัฒนา ปรับปรุง ซ่อมแซม และดำเนินการก่อสร้างอาคาร ศาสนสถานต่างๆ ของวัดไว้อย่างมากมาย อีกทั้งท่านเป็นผู้ที่ดำริให้มีการจัดสร้างวัตถุมงคลของวัดสะแก อย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. ๒๔๙๓ โดยท่านได้มอบหมายให้ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งในปีดังกล่าว วัดสะแก ได้จัดสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลเนื้อผงพุทธคุณและเนื้อดินเผามากมายหลาย แบบพิมพ์ ส่วน หลวงปู่ศรี (สีห์) พินทสุวัณโณ นั้น ท่านเป็นคณาจารย์ที่เป็นที่ยอมรับกันในด้านพุทธาคม หมอยารักษาโรค หมอดูทำนายทายทักที่รู้กาลล่วงหน้าจนเป็นที่ยอมรับของลูกศิษย์ อย่างมากมาย ด้านวัตถุมงคลที่ท่านสร้างขึ้นนั้น บรรดาลูกศิษย์ได้ประจักษ์และยอมรับถึงพุทธานุภาพและความศักดิ์สิทธิ์ และ หลวงปู่ดู่ ท่านได้มีโอกาสร่วมกับหลวงปู่ศรี จัดสร้างวัตถุมงคลของวัดสะแกหลายวาระ อีกทั้ง หลวงปู่ดู่ ยังได้นำแบบพิมพ์พระ โดยเฉพาะพิมพ์ที่เป็นรูปพระพรหมแบบต่างๆ ของหลวงปู่ศรีมาจัดสร้างเป็นวัตถุมงคลของท่านไว้มากมายเช่นกัน จะเห็นว่า คณาจารย์ทั้งสองท่าน มีความสำคัญต่อวัดสะแกและมีความสัมพันธ์โดยตรงต่อ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ดังที่กล่าวมาแต่ต้น

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของที่มาข้อมูลอย่างสูงครับ

    เหรียญหลวงปู่สี วัดสะแก อยุธยา ออกวัดสนามชัย

    ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่ง EMS50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2014
  6. MooDam

    MooDam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,604
    ค่าพลัง:
    +4,845
    ท่านเอ ผมจองรายการนี้ไว้ก่อนนะครับ เดี๋ยวรอดูรายการอื่นเพิ่มเติมอีกหน่อย
     
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    ประวัติ หลวงปู่วรพรตวิธาน “หลวงปู่วรพรตเหยียบรถเดี่ยง”
    .. นามเดิมท่านชื่อ “พันธ์ ทับงาม” เกิดวันพุธที่ 1 ธันวาคม 2444 ที่บ้านน้ำอ้อม อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด
    (ที่จริงแล้วท่านเกิดในปี พ.ศ 2437 แต่แจ้งวันเกิดช้ากว่ากำหนดโดยวันเดือนเกิดไม่ทราบแน่ชัด) บิดาชื่อ พ่อศิลา มารดาชื่อ แม่ทอง ทับงาม ชีวิตเยาว์วัยท่านเป็นคนเรียนหนังสือเก่งมาก จนขุนเกษตรวิสัยเจ้าเมืองร้อยเอ็ดเอาไปรับราชการเป็นเสมียนประจำตัวท่าน รับราชการจนอายุได้ 16 ปี จึงลาบวชเป็นสามเณร ณ.วัดบ้านน้ำอ้อม จนอายุได้ 21 ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระต่อโดยมีพระครูธรรมสังฆบาลเป็นพระอุปัชณาย์มีฉายาว่า “ติสโส” ท่านเป็นพระหนุ่มที่เรียนหนังสือเก่งมากท่องปฏิโมกข์ได้ตั้งแต่พรรษาแรก และปี พ.ศ 2472 หลวงปู่ ท่านสอบนักธรรมชั้นเอกได้ ในปีนั้นหลวงปู่สอบนักธรรมเอกได้เพียงองรูปเดียวเท่านั้นทั่วมณฑลร้อยเอ็ด (รวมกาฬสินและมหาสารคามด้วย) จนได้รับรูปท่านเจ้าคุณพระโพธิวาศจารย์แม่กองธรรมอุบลเป็นรางวัล
    หลวงปู่ได้มาเรียนเทศนากับท่านเจ้าคุณกัณหา ณ วัด หนองทุ่ม อ.พล จ.ขอนแก่น (เจ้าคุณกัณหาเจ้าคณะ จังหวัดขอนแก่น ในสมัยนั้น พ.ศ 2473) ปี พ.ศ 2475 บ้านเมืองได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเจ้าคุณกัณหาจึงได้ส่งหลวงปู่วรพรตมา เป็นเจ้าอาวาสวัดจุมพล บ้านก้านเหลือง อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น อายุการสร้างวัดจุมพล ประมาณ 150 ปี ในสมัยรัชกาลที่ 5
    พ.ศ 2480 หลวงปู่ได้สร้าง อุโบสถขึ้นมาใหม่ เสร็จเอาปี พ.ศ 2483 ค่าก่อสร้างเป็นเงิน 2,500 บาท ปูนชีเมนต์สมัยนั้นถุงละ 1.50 บาท ปี พ.ศ. 2482 หลวงปู่ได้ขอพระราชทาน พระปรมาภิไธย์ย่อ
    ของรัชการที่ 8 แต่พระองค์ท่านได้พระราชทานเหรียญพระฉายาลักษณ์ของท่านให้หลวงปู่วรพรต หลวงปู่ท่านเอาเหรียญนั้นติดไว้หน้าพระอุโบสถต่อจากนั้นมาหลวงปู่ก็ได้พัฒนา วัดจุมพลมาเรื่อยๆ ตลอดจนวัดต่างๆ ในอำเภอแวงน้อย และอำเภอพล (แต่ก่อนอำเภอแวงน้อยเป็นตำบล ขึ้นอยู่กับอำเภอพล) ในการสร้างพระอุโบสถและกุฎิ รวมทั้งศาลาการเปรียญ รวมทั้งสิ้น ประมาณ 30 หลัง ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 ได้มีการขยายการปกครองออกไปอีก ทางการจึงตั้งตำบลแวงน้อยขึ้นเป็นอำเภอแวงน้อย หลวงปู่วรพรตวิธานจึงได้เป็นเจ้าคณะอำเภอแวงน้อยรูปแรก
    หลวงปู่ท่านเป็นผู้มีวิชาอาคมขลังมาก ได้เรียนวิชาอาคมมาจาก 5 อาจารย์ด้วยกัน เช่น หลวงศรีธรรมศาสตร์ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม หลวงปู่ศึกษาวิชาไสยศาสตร์ จากอาจารย์ครีธรรมศาสตร์ จนเรียนจบเรียบร้อยแล้วก็ได้เดินทางไปศึกษาวิชาอาคมจาก พระอาจารย์ขันวัดท่าสะแบง ต.มะบ้า อ.ธวัชบุรี จ. ร้อยเอ็ด พระอาจารย์ขันวัดท่าสะแบงนี้ท่านเป็นผู้มีวิชาอาคมรูปหนึ่งในภาคอีสานในสมัย นั้น ไม่ว่าจะเป็นวิชาอาคมทางด้านเมตตามหานิยม, คงกระพันชาตรี, แคล้วคลาด, มหาอุต ป้องกันขับไล่ คุณไสย คุณผี คุณคน หลวงปู่วรพรตท่าน ก็ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมจากพระอาจารย์ขันจนหมดสิ้น แล้วหลวงปู่ก็ได้ไปศึกษากับอาจารย์บ้านฟ้าเหลี่ยม อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด เกจิอาจารย์ดังองค์หนึ่งในสมัยนั้น ขนาดท่านปัสสาวะรดต้นไม้ เอาปืนยิงต้นไม้ ยังยิงไม่ออกแต่ก็ยังไม่พอความต้องการของหลวงปู่ หลังจากนั้นท่านก็ได้มุ่งหน้าไปศึกษากับ หลวงปู่ชม ฐานธัมโม แห่งวัดกู่ พระโกนา อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของท่าน หลวงปู่ชมรูปนี้ท่านมีวิชาอาคมแก่กล้าสามารถมาก มีอิทธิปาฏิหาริย์นานัปการ ท่านสามารถล่องหนหายตัวได้ หลวงปู่ชมท่านได้สร้าง วัดขึ้นบริเวณใกล้กับกู่โกนาอยู่ทางจะไป อ. ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะมุ้งไปเขมรต่ำ (ประเทศกัมพูชาในปัจจุบัน) หลวงปู่ท่านได้ศึกษาวิชาอาคมและวิปัสนากัมมัฏฐาน อยู่ 2 ปี เมื่อ พ.ศ. 2479 ท่านได้กราบลาหลวงปู่ชม ออกมุ่งหน้ามายัง จ. ขอนแก่น เพื่อกับวัดจุมพลของท่าน
    หลังจากที่ท่านได้เล่าเรียนวิชาอาคมจากพระอาจารย์ ต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านก็ได้ออกเดินธุดงค์ไปกับหลวงพ่อผาง จิตฺตคุตฺโต และได้แยกทางกันที่ อ. มัญจาคีรี จากนั้นหลวงปู่วรพรตท่านก็ได้เดินผ่านดงพญาเย็น-พญาไฟ ผ่านไปประเทศลาว พม่า เขมร เรื่องราวตอนที่ท่านเดินธุดงค์ ไปนั้นมีมากมาย ผจญทั้งสัตว์ร้ายและภูตผีปีศาจ แต่ท่านก็ผ่านอุปสรรคนั้นมาได้

    หลวงปู่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ในสมัยรัชการที่ 8 มีพระราชทินนามว่า “พระครูวรพรตวิธาน” เราจึงเรียกติดปากว่า “หลวงปู่วรพรต” ตั้งแต่นั้นมาหลวงปู่ได้แสดงปาฏิหาริย์ให้ปรากฏแก่สายตาของผู้คนเป็นครั้ง แรก ก็คือ เรื่องหลวงปู่เหยีบรถกระดก (ลอยขึ้น) เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ 2503 หลวงปู่จะออกเดินทางจาก อ. พล จ. ขอนแก่น ด้วยรถโดยสารเพื่อจะไป จ.ร้อยเอ็ด รถคันที่หลวงปู่จะขึ้นเป็นรถสองแถวขนาดใหญ่ ตาม ธรรมดาโดยทั่วไปแล้วพระเณรจะต้องนั่งด้านหน้าติดกับคนขับ เพื่อจะได้ไม่ปะปนกับผู้โดยสารคนอื่น แต่รถคันนี้มีผู้หญิงนั่งเต็มอยู่ด้านหน้าแล้ว ด้านหลังรถยังพอมีที่นั่งได้ คนขับรถจึงบอกให้หลวงปู่ขึ้นทางท้ายรถ หลวงปู่ก็ได้ปฏิบัติตามโดยดี แต่ก่อนจะขึ้นรถหลวงปู่ได้พูดกับคนขับรถว่า “รถจะไม่เดี่ยงหรือ”(เดี่ยงเป็นภาษาไทยอีสานแปลว่า “ กระดก”) คนขับก็บอกว่า “ไม่เดี่ยงแน่เพราะรถรับน้ำหนักได้หลายตัน” พอคนขับพูดจบ หลวงปู่ก็ก้าวเท้าขึ้นรถ ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นทันที ด้านหน้ารถลอยขึ้น เหมือนมีมือยักษ์มาจับยกขึ้น คนขับรถเห็นเช่นนั้นถึงกับตกตะลึงจึงกราบนิมนต์หลวงปู่มานั่งด้านหน้า โดยให้พวกผู้หญิงไปนั่งด้านหลัง ตั้งแต่นั้นมาสมญานาม “หลวงปู่วรพรตเหยียบรถเดี่ยง” จึงเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นในเขตขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา ต่างก็รู้เรื่องกันดี เคยมีญาติโยมที่อยู่ไกลถึง จ. กระบี่ เดินทาง มากราบขอคาถาเหยียบรถกระดกจากท่าน ท่านก็มอบคาถานะโมพุทธายะให้ไป แต่จะทำได้เหมือนหลวงปู่หรือเปล่าไม่ทราบ
    .
    พระผงรูปเหมือนหลวงปู่วรพรต เสาร์๕

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่ง EMS50 บาทครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2014
  8. แปดเหลี่ยม

    แปดเหลี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2013
    โพสต์:
    831
    ค่าพลัง:
    +559
    วันนี้โอนเงินค่าพระ 1150 บาท หลวงพ่อแช่ม วัดหนองกรับ 500 บาท หลวงพ่อเปลื้อง วัดบางแก้วผดุงธรรม 300 บาท หลวงพ่อแสวง วัดสว่างภพ 300 บาท เวลา 16.33 น. ส่งที่อยู่เดิมครับขอบคุณ
     
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    EK 7778 6758 1 TH สมุทรปราการ

    ขอบคุณครับ
     
  10. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    วันนี้จัดส่ง

    EK 7777 7273 9 TH บางนา

    ขอบคุณครับ
     
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระครูอภัยโสภณ (แดง) วัดโคกทราย อดีตท่านเป็นเจ้าคณะอำเภอ จะนะ จังหวัดสงขลา เป็นชาวกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อครน วัดบางแซะ

    พระปิดตาพ่อท่านแดง วัดโคกทราย

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่ง EMS50 บาทครับ(ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2014
  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระสมเด็จวัดหัวนา เพรชบุรี พิธีใหญ่หลวงพ่อกวยร่วมเสกองค์นี้ฐานบิ่นหายไปครับ
    เนื้อผงน้ำมัน ให้บูชาตามสภาพครับ

    ให้บูชา 150 บาทค่าจัดส่ง EMS50 บาทครับ(ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2014
  13. แปดเหลี่ยม

    แปดเหลี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2013
    โพสต์:
    831
    ค่าพลัง:
    +559
    จองครับ
     
  14. แปดเหลี่ยม

    แปดเหลี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2013
    โพสต์:
    831
    ค่าพลัง:
    +559
    จองครับ
     
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระครูรัตนสราธิคุณ หรือ หลวงพ่อทอง รัตนสาโร (15 พฤษภาคม พ.ศ. 2449 - 19 มิถุนายน พ.ศ. 2523) อดีตเจ้าคณะอำเภอสระแก้ว พระอาจารย์ผู้บุกเบิกวัดสระแก้วด้วยความลำบากตรากตรำอย่างยิ่ง ท่านได้บูรณะซ่อมแซมปฏิสังขรณ์วัดเมื่อครั้งสมัยสงครามอินโดจีนติดต่อกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงเวลาที่ข้าวยากหมากแพง ชาวบ้านยากจน มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน ท่านได้ให้พระภิกษุในวัดถางไร่เพื่อปลูกข้าวและปลูกพืช จนได้ข้าวปลาอาหารเลี้ยงพระภิกษุสามเณรในวัด เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของชาวบ้าน ปัจจุบันท่านได้เกณฑ์พระภิกษุ สามเณร เด็กวัด และ ชาวบ้านร่วมกันปลูกอ้อย ปลูกข้าวโพด และพืชยืนต้นต่าง ๆ ในสวนที่นายเว่าและนางตื้อถวายแก่วัด เพื่อนำผลประโยชน์มาบำรุงวัดต่อไป
    ประวัติ

    พระครูรัตนสราธิคุณ หรือ หลวงพ่อทอง รัตนสาโร ท่านเกิดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2449 ตรงกับปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ถือกำเนิดที่บ้านท่ามะเดื่อ ตำบลสระแก้ว จังหวัดปราจีนบุรี เป็นบุตรของนายบุตร และ นางแกลบ มีอาชีพทำนา ได้ศึกษาเล่าเรียนกับพระอาจารย์นวล เจ้าอาวาสวัดท่ามะเดื่อและกับพระอาจารย์โปย ขันติโย ทางด้านภาษาขอม ภาษาไทยและเทศน์มหาชาติซึ่งท่านเทศน์ได้เสนาะเพราะพริ้งเป็นอย่างมาก เมื่ออายุครบ 21 ปี ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2470 ณ พัทธสีมาวัดรีนิมิตร บ้านท่ามะเดื่อ ตำบลบ้านแกง อำเภอสระแก้ว จังหวัดปราจีนบุรี โดยมีพระครูศีลวิโรจน์ วัดกลางเมืองเก่า เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูบรรหารกบินทรเขต เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูธรรมสันทัศกาจารย์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ จากนั้นท่านได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดเขาฉกรรจ์ เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยและศิลปศาสตร์ 2 พรรษา ในปี พ.ศ. 2486 สอบนักธรรมชั้นเอกได้ จึงกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดมะเดื่อ ในระยะนี้ท่านเริ่มฝึกกรรมฐานกับพระอาจารย์หมึก ที่ป่าช้าบ้านท่ามะเดื่อและบ้านลัดกะสัง ก่อนจะกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดสระแก้วได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดสระแก้วและได้รับสมณศักดิ์เป็น พระครูรัตนสราธิคุณ ท่านละสังขารเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2523 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน รวมสิริอายุได้ 74 ปี 53 พรรษา

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความที่มาข้อมูลอย่างสูงครับ


    พระผงรูปเหมือนรุ่นแรกของท่าน ให้บูชาตามสภาพองค์พระแตกซ่อมติดกาวไว้ครับ จากเจ้าของเดิม
    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่ง EMS50 บาทครับ


    [​IMG] [​IMG]
     
  16. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม นครปฐม รุ่นนี้แจกพร้อมหนังสือลานโพธิ์ปี๒๕๓๐

    ตอนนั้นมีเหรียญหลวงปู่ทวด กระโดบาตร หลวงปู่ดู่เสกและเข้าพิธีหลายองค์

    หลวงปู่ศุข วัดปากคลอง หลวงพ่อมหาโพธิ์ วัดคลองมอญเสก และเหรียญหลวงพ่อแช่ม

    27 ปีล่วงเลยมาแล้ว............

    ให้บูชาเหรียญละ150 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2014
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญขวัญถุงหลวงพ่อแช่ม

    ให้บูชาเหรียญละ 150 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  18. MooDam

    MooDam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,604
    ค่าพลัง:
    +4,845
    รุปนี้ออกที่วัดไหนครับ
     
  19. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    ออกวัดโฆษิตาราม วัดท่าน ไปทำบุญมาเมื่อปีใหม่ แล้วเอามาจ้างเขาเลี่ยมเอง

    จากวัดมาแต่รูป
     
  20. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญพระพุทธที่ระลึกฉลอง ฌาปนสถาน วัดทำนบ หลวงพ่อเล็ก อ่างทอง

    ตามสภาพครับได้มาแบบนี้

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่ง EMS 50 บาทครับ (ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...