คชสีห์๙บารมี๙บารมี๙แผ่นดินหลวงปู่หมุนเสก

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 30 สิงหาคม 2010.

  1. psp1

    psp1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +461
    จองครับ
     
  2. psp1

    psp1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +461
    โอนแล้ว 650.25บาท ที่อยู่จัดส่งตามเดิมครับ
     
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    ประวัติความเป็นมา

    หลวงพ่อลือ หลวงพ่อลือ เป็นพระพุทธที่มีพุทธลักษณะงดงาม สร้างราวปี พ.ศ. 2461 โดยหลวงพ่อบุญลือ เจ้าอาวาสวัดสามประทุม อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง ซึ่งธุดงค์ผ่านมาพักที่วัดวังกลม เห็นว่าในโบสถ์ยังไม่มีพระประธาน จึงรับอาสาสร้างให้ เนื่องจากเป็นผู้มีฝีมือในการปั้น โดยให้เรียกนามพระประธานว่า “หลวงพ่อลือ” อันหมายถึงชื่อทีลือกระฉ่อนขจรไกล

    ปัจจุบันประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ในอุโบสถวัดวังกลม ตำบลบ้านบุง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร

    พระสมเด็จหลังเหรียญหลวงพ่อลือ วัดวังกลม พิจิตร


    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ


    [​IMG] [​IMG]
     
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญไร้ห่วง หลวงปู่คำแสน ลงรูปให้ท่านที่แจ้งความสนใจพิจรณาครับ(ปิดรายการ)

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2014
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญขวัญถุงหลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย

    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ


    [​IMG]

    [​IMG]
     
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญหลวงปู่เปลี้ย วัดชอนสารเดช ลพบุรี
    วัตถุมงคลท่านมีประสบการณืทั้งปืนแตกและโดนแทงไม่เข้า ลงหน้งสือพระหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นลพบุรี เหรียญพิม์เจ้าสัว รุ่นที่มีประสบการณ์ลงหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นลพบุรีครับ

    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    จัดส่ง

    EK 7779 8711 1 TH สมุทรปราการ

    EK 7779 8712 5 TH นครราชสีมา

    EK 7779 8713 9 TH พัทลุง

    Track And Trace : EMS : Thailand Post : Spider

    ขอบคุณครับ
     
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระอาจารย์จันทร์เพ็ญ ขันติโก

    วัดป่าวิปัสสนาทรงธรรม บ.หนองเซียงซุย ต.ป่าหวายนั่ง อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น

    พระวิปัสสนาจารย์ พระนักพัฒนา พระผู้มีแต่ให้

    พระอาจารย์จันทร์เพ็ญ ขันติโก เกิดเมื่อวันที่ 15 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 พ.ศ. 2503 อายุ 50 พรรษา 26

    อุปสมบทเมื่ออายุ 24 ปี วันที่ 7 กรกฏาคม พ.ศ.2527 ที่ วัดเกาะแก้ว ต.หนองบัว อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น

    พระครูญาณสารโกวิท อดีตเจ้าคณะอำเภอบ้านฝาง เป็นพระอุปัชฌาย์

    หลังจากบวชแล้วญาติโยมได้นิมนต์ให้ท่านไปจำพรรษาที่วัดบ้านหนองบัวเงิน อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

    แต่ท่านได้ตั้งปณิธานไว้ก่อนบวชว่าจะธุดงค์เพื่อเจริญภาวนาตามแนวทางสายพระป่า วิปัสสนากรรมฐาน

    ท่านได้ออกธุดงค์ไปเรื่อยๆจนถึงประเทศลาว เรียนวิชากรรมฐานกับหลวงปู่จอมมณี ประเทศลาว อยู่ 28 วัน

    หลวงปู่บอกว่า ให้ไปที่จังหวัดเลยเด้อไปหาหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ท่านเก่งเรื่องกรรมฐาน ไปแล้วเจ้าจะได้

    กระจ่างแจ้งเห็นจริงในสิ่งที่ประสงค์ หลังจากนั้น ท่านก็เดินทางไปกราบรับฟังธรรมกับหลวงปู่ชอบ ฐานสโม และหลวงปู่ได้เทศน์เรื่อง ไตรสรณคมน์หรือศีล 5 ซึ่งดูเผินๆ เหมือนเป็นหญ้าปากคอก แต่ท่านว่านี่แหละคือ รากฐานของการบำเพ็ญเพียรภาวนาถ้าไม่มีฐานไม่มีศีลรองรับ ก็ยากจะดำเนินความเพียรได้ เพราะ อาทิ สีลํ ปติฎฺฐา จ กลฺยาณญฺจ มาตฺกํ ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
    ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
    เป็นประมุขของธรรมทั่วไป เพราะฉะนั้นความชำระศีลให้บริสุทธิ์ หลวงปู่จะเทศน์ เป็นวลีสั้นๆ ประโยค

    สั้นๆ แต่ก็เป็นธรรมที่ลึกซึ้ง ถ้าปฏิบัติได้ ปฏิบัติจริง ปฏิบัติถูก ปฏิบัติตรง ปฏิบัติชอบ และพิจารณาได้ พิจารณาจริง พิจารณาถูก พิจารณาตรง พิจารณาชอบ...แน่นอน มรรคผลนั้นคงอยู่แค่เอื้อมนั่นเอง
    เทศน์ที่สั้นที่สุด วาง พิจารณาตน วางตัวเจ้าของ จิตตะในอิทธิบาท 5 เอาใจใส่
    มรณานุสฺสติ ให้พิจารณาความตาย... นั่งก็ตาย นอนก็ตาย ยืนก็ตาย เดินก็ตาย

    หลังจากรับฟังธรรมกับหลวงปู่ชอบ ฐานสโม แล้วท่านก็ได้ธุดงค์ไปทั่วประเทศไทย เพื่อหาคำตอบว่า

    คนเราเกิดมาทำไม เกิดมาเมื่อไร ตายแล้วไปไหน จะเกิดอีกหรือไม่ ถ้าเกิดอีกจะเกิดอีกกี่ชาติ เดินธุดงค์

    กว่า 14 ปี จนได้พบกับพระครูปภัศรคุณ (หลวงปู่ญาท่าน) วัดป่าสามัคคีศิริพัฒนา ต.โพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ความสงสัยเหล่านั้นจึงหมดลง ด้วยคำสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์ สายกรรมฐาน ท่านจึงได้มุ่งปฏิบัติกรรมฐานเรื่อยมา จนได้มาจำพรรษาที่วัดเขาช่องชาด

    อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี เป็นที่สงบและเหมาะที่จะวิปัสสนากรรมฐาน เมื่อได้อยู่ที่นี่แล้วท่านก็ได้เห็นความเดือนร้อนของชาวบ้านที่ต้องขึ้นเขามาเพื่อถวายภัตตาหาร และเดินทางผ่านเขาช่องชาดที่เป็นถนน

    ลูกรัง ท่านจึงดำริให้ชาวบ้านร่วมกันสร้างถนนข้ามเขาช่องชาดระยะทาง 3 กิโลเมตร โดยศิษยานุศิษย์ได้

    ร่วมกันบริจาคทรัพย์เพื่อก่อสร้างถนนจนแล้วเสร็จ หลังจากสร้างถนนเสร็จแล้ว พระอุปัชฌาย์ได้ให้ท่าน

    เปิดศูนย์วิปัสสนากรรมฐานในเขตอำเภอบ้านฝาง ในปีพ.ศ.2541 ท่านก็ได้มาตามคำบอกของพระอุปัชฌาย์

    และได้มาปักกรดที่ป่าช้าบ้านหนองเซียงซุย และเกิดนิมิตว่าที่นี่แหละเหมาะแก่การวิปัสสนากรรมฐาน

    จึงได้สร้างวัดขึ้นมาเป็นวัดป่าวิปัสสนาทรงธรรม ในปัจจุบัน

    เหรียญรุ่น๒ พระอาจาร์จันทร์เพ็ญ

    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    ประวัติหลวงปู่ธรรมรังษี " ท่านเจ้าคุณสองแผ่นดิน "
    วัดพระพุทธบาทพนมดิน อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์
    “ ฉบับสมบูรณ์ ”

    หลวงปู่ธรรมรังษี “ พระมงคงรังษี ” มีนามเดิมว่า นายสุวัฒน์ เซ็ง เกิดเมื่อวันที่ ๖ เมษายน ๒๔๖๒ ณ ตำบลเกีย อำเภอโมงฤษี (อำเภอโมงรือแซ็ย ในปัจจุบัน) จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา เมื่อปฐมวัยได้ศึกษาจนจบการศึกษาภาคบังคับ (เทียบเท่าชั้น ป.๔ ของไทย) เมื่ออายุได้ ๑๔ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ๑ พรรษา แล้วลาสิกขาออกมาช่วยบิดา-มารดา ทำงานจนอายุครบ ๒๐ ปี บริบูรณ์ จึงได้อุปสมบทเมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๘๑ ณ วัดเวฬุวนาราม ตำบลเกีย อำเภอโมงรือแซ็ย จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา โดยมีพระสุวัณณเถระเป็นพระอุปัชฌาย์ พระสุวัณณปัญโญเป็นพระกัมวาจาจารย์ พระจันทัตตเถระเป็นพระอนุสาวนาจารย์ มีฉายาธรรมว่า “ ธรรมรังษี ” หลวง ปู่ธรรมรังษีเป็นพระที่มีใจใฝ่ปฏิบัติสมาธิภาวนา และกรรมฐาน ได้ศึกษาวิปัสสนากรรมฐานควบคู่กับการศึกษาพระเวทวิทยาคมจากพระเกจิอาจารย์ หลายรูปในประเทศกัมพูชาตลอด ๓๕ พรรษา จนมีวิชาแก่กล้าแตกฉานและเชี่ยวชาญหลายแขนงเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน และจังหวัดใกล้เคียงในประเทศกัมพูชาในสมัยนั้นเป็นอย่างมาก ในขณะนั้นหลวงปู่ได้รับสมณศักดิ์ เป็น “ พระครูธรรมรังษี “ เป็นเจ้าคณะอำเภอโมงรือแซ็ย

    เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๘ ขณะที่สงครามกลางเมืองในประเทศกัมพูชาร้อนระอุถึงขั้นวิกฤตนั้น หลวงปู่ธรรมรังษีในฐานะทายาทผู้สืบต่ออายุพระพุทธศาสนาตกอยู่ในฝ่ายตรงข้าม เขมรแดง เนื่องจากวัดวาอารามในจังหวัดใกล้เคียงจังหวัดพระตะบอง ถูกทำลายเสียหายและถูกยึดเป็นค่ายทหาร พระสงฆ์องค์ใดไม่อ่อนน้อมยอมลาสิกขาเข้าเป็นพวกจะถูกทรมานถึงชีวิต ที่หนีรอดก็กระจัดกระจายไม่ทราบชะตากรรม

    คืนวันหนึ่ง ในขณะที่หลวงปู่ท่านนั่งเจริญสมาธิภาวนาในกลางดึกสงัด เกิดนิมิตทางหู ได้ยินเสียงประกาศกึกก้องมาแต่ไกล และใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา ท่านยังคงนั่งนิ่งดำรงสติมั่น และเกิดภาพนิมิตเบื้องหน้าปรากฏชัดเจน คือองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ของชาวไทย เสด็จยืนอยู่ใต้ร่มโพธิ์ใหญ่ มีข้าราชบริพารนั่งคุกเข่าเฝ้าถวายความเคารพอยู่เนืองแน่น หลวงปู่ท่านเพ่งมองภาพนั้นอยู่นานจนกระทั่งเลือนหายไป ภาพดังกล่าวยังคงติดตาหลวงปู่ธรรมรังษีมาโดยตลอด วันรุ่งขึ้นหลวงปู่ท่านได้เล่ามงคลนิมิตให้บรรดาญาติโยมและพระลูกวัดฟัง และเอ่ยบอกว่าประเทศไทยนี้ปลอดภัยที่สุด เพราะอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภารพระบารมีองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะพาญาติโยมและพระลูกวัดทั้งหลายอพยพหนีร้อนมาพึ่งเย็น ข่าวนี้แพร่กระจายไปทั่วจากนั้นหลวงปู่จึงพาคณะและพระ ๔ รูป เดินทางเช้าตรู่ วันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๑๘ คล้อยหลังเพียงหนึ่งวันอำเภอโมงรือแซ็ย ได้ถูกเขมรแดงยึดไว้ได้ใน วันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๑๘

    หลวงปู่ธรรมรังษีและคณะใช้เวลาเดินทางธุดงค์มา ๕ วัน จนถึงด่านปอยเปต อยู่ติดกับชายแดน อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เข้าพำนักที่วัดป่าเลไลย์เพื่อขออนุญาตเข้าประเทศไทย ในที่สุดก็ได้รับการอนุญาตจากทางการไทย หลวงปู่ท่านโดยสารรถไฟจากสถานีอรัญประเทศเข้าสู่กรุงเทพมหานคร เมื่อเช้า วันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๑๘ หลังจากกรุงพนมเปญถูกเขมรแดงยึดได้เพียง ๑ วัน ระหว่างอยู่บนรถไฟหลวงปู่นั่งภาวนาขอพระบารมีองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นที่พึ่งตลอดเวลาทุกลมหายใจเข้าออก

    เมื่อถึงกรุงเทพมหานคร ได้เข้าพำนักอยู่กับพระอาจารย์วิโรจน์ เจ้าอาวาสวัดราชสิงขร ซึ่งเป็นสหธรรมิกกันมาก่อน และด้วยความที่หลวงปู่ธรรมรังษีมุ่งมั่นและใฝ่ในด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน พระอาจารย์วิโรจน์จึงได้พาหลวงปู่ให้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดเพลงวิปัสนา กรุงเทพมหานคร หลวงปู่ท่านได้ศึกษาปฏิบัติธรรมเพิ่มเติมจากสำนักวัดเพลงวิปัสสนา และวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎ์ เพราะสมัยอยู่ที่ประเทศกัมพูชานั้น หลวงปู่ธรรมรังษีท่านมุ่งเน้นเรื่องด้านวิทยาคมเป็นหลัก ในพรรษาถัดมาหลวงปู่ธรรมรังษีท่านจึงได้ปรารภกับสหธรรมิกรูปหนึ่งที่วัดเพลงวิปัสสนา ว่าการปฏิบัติสมาธิวิปัสสนาอยู่ในเมืองหลวงนั้นก้าวหน้าไปได้ช้าเพราะยังไม่สงบสงัดเพียงพอ น่าจะมีสถานที่อื่นที่จะไปบำเพ็ญเพียรให้ประสบความสำเร็จได้ สหธรรมิกรูปนั้นจึงนำพาหลวงปู่ท่านจาริกสู่ชนบทบ้านเกิดที่ อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ได้พบกับ “ พระอาจารย์สิงห์ สุธัมโม ” (พระครูภาวนาประสุต) เจ้าอาวาสวัดบ้านขี้เหล็ก ตำบลหนองบัวทอง อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นพระนักปฏิบัติ เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของสาธุชนทั่วไปในละแวกนั้น เมื่อท่านได้พบอาจารย์สิงห์ก็รู้สึกต้องในอัธยาศัยไมตรี จึงได้พำนักอยู่ ณ วัดบ้านหนองเหล็ก ตามคำชักชวน ช่วงเวลาแห่งการได้อยู่จำพรรษา ณ วัดบ้านหนองเหล็กนี้เอง ทำให้หลวงปู่ธรรมรังษีได้มีโอกาสพบกับพระอาจารย์สายวิปัสสนาจากสำนักต่างๆ มากขึ้นได้เปิดตัวให้เป็นที่รู้จักเลื่อมใสศรัทธาของสาธุชนและเป็นที่ยอมรับ ในหมู่พระสงฆ์ที่สนใจการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานเป็นอย่างมาก

    พ. ศ. ๒๕๒๑ หลวงปู่ธรรมรังษี ท่านได้รู้จักกับพระครูปลัดขาว ฐิตธมฺโม เจ้าอาวาสวัดบุญศรีมุนีกร กรุงเทพมหานคร พระครูปลัดขาวยอมรับและนับถือหลวงปู่ธรรมรังษีเป็นอย่างมาก หลวงปู่ธรรมรังษีเป็นพระนักปฏิบัติที่กอรปด้วยคุณธรรมเปลี่ยมล้น และมีอภิญญาญาณสูง จึงได้อารธนาให้หลวงปู่ธรรมรังษีร่วมเป็นพระวิปัสสนาจารย์ ในสำนักของท่านซึ่งรับฝึกปฏิบัติธรรมให้กับพระภิกษุ สามเณร และคฤหัสถ์ผู้สนใจทั่วประเทศหลวงปู่ธรรมรังษีเห็นเป็นโอกาสที่จะได้เผยแพร่ แนวทางปฏิบัติให้กว้างขวางได้มากยิ่งขึ้น จึงได้รับปากไปปฏิบัติภารกิจในช่วงที่มีการฝึกอบรมที่สำนักวัดบุญศรีมุนีกร เป็นเวลา ๒ ปี จึงกลับมาจำพรรษาอยู่กับพระครูภาวนาประสุต อีกครั้ง

    พ.ศ. ๒๕๒๓ พระมหาพันธ์ สีลวิสุทโธ ( พระครูภาวนาวิสุทธิญาณ ) เจ้าอาวาสวัดนิรมิตวิปัสสนา รองเจ้าคณะอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ซึ่งเดินทางมาเยี่ยมบ้านเกิดที่อำเภอรัตนบุรี โดยการแนะนำของพระครูภาวนาประสุต หลวงปู่ธรรมรังษีจึงได้มีโอกาสธุดงค์กัมมัฏฐาน ในป่าเขาที่อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย โดยลำพังสมดั่งที่ตั้งใจไว้ ได้มีโอกาสเพิ่มพูนบารมีให้แกร่งกล้ายิ่งขึ้นเป็นเวลาเกือบ ๓ ปี
    พ.ศ. ๒๕๒๕ เจ้าคณะอำเภอคูเมือง ที่พยายามเสาะแสวงหาพระวิปัสสนาจารย์ที่มีอภิญญาญาณเพื่อไปอบรมเผยแผ่ธรรมให้กับคณะสงฆ์ในอำเภอคูเมือง จึงได้มาพบกับหลวงปู่ธรรมรังษี ก็เกิดความเลื่อมใสศรัทธาจึงได้อาราธนาให้ท่านมาเป็นพระวิปัสสนาจารย์ดังกล่าว นับเป็นโอกาสดี และประจวบเหมาะอย่างยิ่งท่านพิจารณาเห็นว่าการปฏิบัติธรรมตามแนวทางวิปัสสนา กัมมัฏฐาน หากไม่มีการเผยแผ่ก็จะไม่สามารถสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนถาวรได้เลย เมื่อมีความคิดเห็นเช่นนี้หลวงปู่ธรรมรังษีท่านจึงรับคำอาราธนา ของท่านเจ้าคณะอำเภอคูเมือง โดยได้มาพำนักประจำที่สำนักวิปัสสนากัมมัฏฐานของอำเภอคูเมือง ณ วัดบ้านปะเคียบ อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ในเวลาต่อมาทั้งคณะสงฆ์ และชาวบ้านต่างได้สัมผัสและรับปฏิบัติตามแนวทางของหลวงปู่ธรรมรังษี เกิดความเลื่อมใสและศรัทธามาฝึกปฏิบัติกันไม่ขาดสาย

    พ.ศ. ๒๕๒๖ ท่านพระครูประภัศร์คณารักษ์ (จันทร์ ปภัสสโร) เจ้าคณะอำเภอท่าตูมในสมัยนั้น ได้พบหลวงปู่ธรรมรังษี หลังจากรู้จักกันไม่นานท่านพระครูประภัศร์คณารักษ์จึง นิมนต์หลวงปู่ท่านไปดูสถานที่ป่าหนาทึบแห่งหนึ่งห่างจากอำเภอท่าตูมไม่ไกลนัก เมื่อหลวงปู่ธรรมรังษีได้เดินทางมาถึงดูสถานที่แห่งนี้ท่านเกิดความปิติ โสมนัสเป็นอย่างมาก หลวงปู่ได้เอ่ยว่า “ สถานที่แห่งนี้มีความคุ้นเคยกันมาก่อน “ แล้วท่านก็ยิ้มแล้วพูดอีกครั้งว่า “ ฤาษีธรรมรังษี อาตมาเป็นฤาษีพนมดิน “ หลวงปู่ธรรมรังษีจึงรับปากกับพระครูประภัศร์คณารักษ์ โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะบุกเบิกสร้างป่าหนาผืนนี้ให้เป็น วัดพระพุทธบาทพนมดิน สถานที่ปฏิบัติธรรมให้รุ่งเรือง หลวงปู่ธรรมรังษีจึงได้อำลาญาติโยมชาวคูเมืองท่ามกลางความอาลัยของชาวบ้าน และจังหวัดใกล้เคียงเป็นอย่างมาก หลวงปู่ธรรมรังษีขอให้ความสัมพันธ์ของพี่น้องชาวบ้านอำเภอคูเมืองกับพี่น้อง อำเภอท่าตูม จงอย่าได้ขาดจากกันหลวงปู่ท่านขอเป็นผู้เชื่อมโยงสายสัมพันธ์ของพี่น้องทั้งสองนี้ การจากมาของหลวงปู่ธรรมรังษีในครั้งนั้นมีภิกษุสามเณร แม่ชี พราหมณ์ และอุบาสกอุบาสิกาติดตามมาด้วยความผูกพันเลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก แม้จะไม่มีกุฏิให้พักอาศัยเลยแม้สักหลัง จะมีก็เพียงผืนป่าที่มีงูและยุงมากมาย ศิษยานุศิษย์ทั้งหลายเหล่านั้นเต็มใจอยู่ปรนนิบัติรับใช้ปฏิบัติธรรม ร่วมเป็นร่วมตายกันต่อไป แม้กุฏิหลวงปู่ธรรมรังษีเองท่านก็ไม่มี ในสมัยนั้นยามค่ำคืนวันหนึ่งมีสามีภรรยาวัยชราคู่หนึ่งอาศัยอยู่หมู่บ้านลุงปุง ได้เดินทางตามถนนหลัก ท่าตูม-สุรินทร์ สองข้างฝั่งเป็นป่าหนาทึบ ได้เกิดสีลำแสงสว่างจ้าสีฟ้าครามบนท้องฟ้าพุ่งลงมาสู่ป่าหนาทึบนั้น ทั้งสองจึงตัดสินใจเดินเข้าไปดูที่ลำแสงนั้นที่ส่องลงมา บริเวณตำแหน่งที่ลำแสงส่องลงมาจากท้องฟ้านั้นมีพระสงฆ์รูปหนึ่งนั่งสมาธิ อยู่บนแคร่ไม้ไผ่เล็กๆ อยู่ในท่ามกลางป่าหนาทึบ ไม่มีอะไรเลยนอกจากเครื่องอัฏฐะบริขารเพียงน้อยนิด จึงทราบภายหลังว่าพระสงฆ์รูปนั้นท่านมีชื่อว่า หลวงปู่ธรรมรังษี ด้วยบารมีธรรมอันแกร่งกล้า และด้วยเมตตาธรรมอันเปี่ยมล้นของหลวงปู่ธรรมรังษี สามารถทำให้วัดพระพุทธบาทพนมดินได้สำเร็จดังเจตนารมณ์ของคณะสงฆ์ ข้าราชการ พ่อค้า และประชาชนอำเภอท่าตูม ได้ดังที่หวังไว้หลวงปู่ธรรมรังษีท่านได้ตั้งใจอยู่พัฒนาบุกเบิกเป็นสำนักวิปัสสนากรรมฐานสร้างศาลาการเปรียญ เสนาสนะและสิ่งก่อสร้างต่างๆ เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมจนเจริญรุ่งเรืองดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน หลวงปู่ท่านได้ปรับปรุงก่อสร้างกุฏิสงฆ์ โดยมีกุฏิสงฆ์และผู้มาปฏิบัติธรรมไม่น้อยกว่า ๕๐ หลัง หอสวดมนต์ พระอุโบสถ รั้วคอนกรีตรอบวัด ประตูวัด บูรณปฏิสังขรณ์อาคารต่างๆ ทั้งของวัดและของส่วนราชการอีกมากมาย บริเวณวัดสะอาดเป็นระเบียบและดูร่มรื่นและสวยงาม

    เป็นที่ทราบกันดีโดยทั่วไปในคนชาวสุรินทร์และจังหวัดใกล้เคียง เมื่อสงครามสงบทางการประเทศกัมพูชา ได้นิมนต์ขอให้หลวงปู่ธรรมรังษี กลับไปเป็นพระสังฆราช ประเทศกัมพูชา แต่ท่านได้ปฏิเสธไป เพราะหลวงปู่ท่านต้องการอยู่ที่ประเทศไทย และหลวงปู่ธรรมรังษีเป็นที่เลื่อมใสและศรัทธาของชาวอีสานใต้และภาคใกล้เคียง เป็นอย่างมาก หลวงปู่ธรรมรังษีท่านจึงขอรับสมณศักดิ์ทางการประเทศกัมพูชา ในพระยศสมณะศักดิ์ชั้นธรรมเพียงเท่านั้น

    วันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๔๕ หลวงปู่ธรรมรังษี เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช พระสมเด็จพระมหาสุเมธาธิบดี ที่ประเทศกัมพูชา รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะชั้นธรรม ที่ “ พระธรรมวิริยาจารย์ กัมพูชา ”

    คณะสงฆ์จังหวัดสุรินทร์ โดยพระเดชพระคุณพระเทพปัญญาเมธี เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ ได้เกื้อกูลหลวงปู่ธรรมรังษีอันเป็นเนื้อนาบุญของจังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดใกล้เคียง จึงได้มอบความไว้วางใจให้กับหลวงปู่ธรรมรังษีเป็นพระฐานานุกรรมเจ้าคณะจังหวัด “ พระครูสังฆรักษ์ สุวัฒน์ จันทสุวัณโณ ”
    วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๕ เนื่องในวโรกาสอันเป็นวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลเดชมหาราช ด้วยความเมตตาของพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ หลวงปู่ธรรมรังษีได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตร ที่ “ พระครูมงคลธรรมวุฒิ ” โดย สมเด็จพระพุฒาจารย์ เกี่ยว อุปเสโน

    วันที่ ๘ เมษายน ๒๕๔๗ สถาบันราชภัฏสุรินทร์ ขอพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์ครุศาสตร์บัณฑิต โปรแกรมวิชาจิตวิทยาและการแนะแนว ถวายแด่ พระครูมงคลธรรมวุฒิ ในปีการศึกษา ๒๕๔๖

    วันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๗ เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๖ รอบ ๗๒ พรรษา ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ “ พระมงคลรังษี ” สร้างความปลาบปลื้มใจให้แก่บรรดาศิษยานุศิษย์และผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาอย่างมาก

    วันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๔๙ เวลา ๒๒.๔๘ น เป็นวันที่ทุกคนต้องเศร้าสลดในการจากไปของท่านก็มาถึง หลวงปู่ท่านละสังขารด้วยโรคชรา ที่ รพ.วิชัยยุทธ ขณะเข้ามารักษาอาการอาพาธ สิริอายุ ๘๗ ปี ๖๘ พรรษา สังขารของหลวงปู่ธรรมรังษี บรรจุโลงแก้ว ในปราสาทศิลปะเขมร ณ วัดพระพุทธบาทพนมดิน อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ สังขารหลวงปู่ท่านไม่เน่าเปื่อย แม้สังขารของท่านจะดับขันธ์ไปแล้วก็ตามแต่ “ พระมงคลรังษี ” ยังคงส่องแสงรังสีธรรมแห่งมงคลอยู่ในใจของญาติโยมศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศตลอดไป

    จริยาวัตร หลวงปู่ธรรมรังษีเป็นผู้มีจิตใจดี ใฝ่ร่ำเรียนอยากที่จะศึกษาเรียนรู้เรื่องการปฏิบัติจิตอยู่เสมอ นอนน้อย ฉันน้อย เคร่งครัดในการปฏิบัติ ศึกษาพระธรรมวินัยสิกขาบทเจริญกรรมฐานอย่างสม่ำเสมอ หลวงปู่ท่านจึงมีชื่อเสียงในด้านวิปัสสนาเป็นอย่างมาก หลวงปู่ธรรมรังษีท่านเป็นพระที่เปรียบได้ว่ามีเมตตาธรรมชั้นสูง ไม่เลือกชั้นวรรณะ คนรวย คนจน ต่ำหรือสูงศักดิ์ ให้ความเมตตาเท่าเทียมกัน หลวงปู่ธรรมรังษีท่านฉันเจ มาตลอดทั้งชีวิตของท่าน มีจริยาวัตรอันงดงาม ตลอดชีวิตหลวงปู่ท่านไม่เคยดุว่ากล่าวผู้ใดแม้ต่อหน้าหรือลับหลัง ไม่รับเงินไม่ถือเป็นของท่าน ปฏิบัติดั่งสายวัดป่าอย่างเคร่งครัด ชาวบ้านและเหล่าศิษยานุศิษย์ต่างทราบกันดี รวมถึง สมเด็จพระพุฒาจารย์ เกี่ยว อุปเสโน ท่านมีความเคารพและศรัทธาเลื่อมใสในหลวงปู่ธรรมรังษีเป็นอย่างสูง เป็นพระสุปฏิปัณโณอย่างแท้จริง

    เหรียญพระอุปคุต วัดโพธิพฤกษาราม จ.สุรินทร์ ๒๕๓๘
    ออกวัดโพธิ์พฤกษาราม ได้นิมนต์พระเกจิดังในสุรินทร์และหลวงปู่ธรรมรังษีเป็นหนึ่งในพระที่มาปรกในวันนั้น ทั้งหมดต้องนั่งปรกในแพเล็กๆ กลางแม่น้ำมูลที่ อ.ท่าตูม สร้างขึ้นเพื่อรองรับพระ 1 แพ ต่อ 1 รูป เหตุการณ์ปรกพระเป็นปกติจนกระทั่งถึงรอบที่หลวงปู่ธรรมรังษีนั่งปรก ในเวลานั้นมีพระดังมากๆในสุรินทร์นั่งปรกด้วย ปรากฎว่า แพที่หลวงปู่ธรรมรังษีนั่งปรกนั้นมีปลากระโดดอยู่รอบๆแพเต็มไปหมด ตลอดจนหลวงปู่นั่งปรกเรียบร้อย

    ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ


    [​IMG] [​IMG]
     
  10. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า ลำพูน

    (ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มีนาคม 2014
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญขวัญถุงครูบาคำแสน เชียงใหม่

    ให้บูชา 100 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญหลวงปู่คำคะนิง จุลมณี ถ้ำคูหาสวรรค์ อุบลราชธานี

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญรุ่น 2 หลวงพ่อสร้อย วัดเลียบ กรุงเทพ หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน ร่วมเสก

    เหรียญสภาพสวยเดิมๆ

    (ปิดรายกร)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2014
  14. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    หลวงพ่อดัด พุทธิสาโร วัดท่าโบสถ์ อ.หันคา จ.ชันาท ท่านเกิด 30 ธันวาคม 2463 ที่บ้านหนองแซง อ.หันคา จ.ชัยนาท ครอบท่านมีด้วยกัน7 คน ท่านเป็นคนโต ท่านบวชที่วัดสะคู่ ต.หนองแซ อ.หันคา.จ.ชัยนาท
    ท่านเคยมาปลุกเสกพระที่กรุงเทพและท่านไม่มาอีกเลย ด้วยความสงสารชาวบ้านที่เจ็บป่วยไข้ซึ่งมารอท่านที่วัดเป็นเวลาสี่วัน เพราะตอนนั้นการเดินทางไปกรุงเทพลำบากจริงๆต้องใช้เวลาหลายวัน

    ท่านสามารถเรียกฝนให้ตกได้ ตำราที่เรียนมาจากหลวงปู่เฒ่านั้นเป็นของหลวงปู่ศุข วัดมะขาบเฒ่า ตำราบางอย่างส่วนมากยังอยู่กับศิษย์ของท่านที่วัดอรัญยวาลี ท่านพระครูชัยศณาทร เจ้าคณะอำเภอหันคา
    ท่านเป็นหนึ่งในพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงของชัยนาท แม้แต่หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ยังเคารพนับถือ
    วัดที่ท่านจะสิ้นใจท่านถามศิษย์ว่าวันนี่ฝนตกหรือยัง ศิษย์บอกว่าฝนตั้งเค้ามาแล้ว
    ท่านบอกว่าวันนี่ท่านต้องจากไปแล้ว แล้วท่านก้นอนจำวัด ก่อนนอนท่านให้พระสวดมนต์ บูชาพระ ตอนบ่ายฝนตกอย่างหนักจนถึงเย็นพอฝนหายท่านก็สิ้นใจท่ามกลางศิษย์ที่ดูแล เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2527


    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญล้อแม็กเล็กหลวงปู่บุดดา

    (ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2014
  16. psp1

    psp1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +461
    จอง
     
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญหน้าครูบาอินทรจักรหลังครูบาพรหมจักร


    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ


    [​IMG] [​IMG]
     
  18. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญหลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม รุ่นมูลนิธิ

    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  19. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญหลวงพ่อแพ หลังหลวงพ่อสุข วัดหลวงปี๑๙
    อยุ่ในถุงซีล บอกตรงๆขี้เกียจแกะมาถ่ายรูป


    ให้บูชา 150 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  20. supachaipnu

    supachaipnu ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,370
    ค่าพลัง:
    +7,312
    ปิดครับ

    เหรียญหน้าครูบาอินทรจักรหลังครูบาพรหมจักร
    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...