คชสีห์๙บารมี๙บารมี๙แผ่นดินหลวงปู่หมุนเสก

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 30 สิงหาคม 2010.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระปิดตาชุตินธโร วัดซับลำใย พิธีใหญ่หลวงปู่หมุน หลวงปู่ละมัย หลวงปู่ทิม หลวงพ่อพูล

    หลวงพ่อรวย หลวงพ่อเพี้ยน และครูบาอาจารย์อีกหลายท่าน ร่วมพิธีปลุกเสกอธิฐานจิต

    (ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2013
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อกวย เนื้อผงชมพูนุช วัดซับลำใย

    พิธีใหญ่หลวงปู่หมุน หลวงปู่ละมัย หลวงปู่ทิม หลวงพ่อพูล

    หลวงพ่อรวย หลวงพ่อเพี้ยน และครูบาอาจารย์อีกหลายท่าน ร่วมพิธีปลุกเสกอธิฐานจิต

    ให้บูชา 1100 บาทครับ
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    ทอดกฐินปีนี้ผมตั้งใจจะหาปัจจัยถวายวัดให้ได้พอสมควรหน่อย

    จะนำวัตถุมงคลของวัดซับลำใยออกให้บูชาและพระสมเด็จแหวกม่านปี2539หลวงพ่อกวย

    วัดบ้านแค จะมีพระปิดตาชมพูนุช พระสิวลีหลังพระแม่ธรณี เหรียญอาร์มหลวงพ่อกวย

    ธงแขวนหน้ารถ รูปหลวงปู่หมุน พระลีลากำแพงที่หลวงพ่อกวยหลวงปู่หมุนเสก

    พระรอดหลวงปู่หมุนเสก พระยอดธง อัตราให้บูชาอาจจะสูงหรือพอดีๆ เงินถวายวัดไม่ใช้

    ถวายผม ถือว่าได้ร่วมทำบุญ วัตถุมงคลมีทั้งของส่วนตัวผมและพี่ๆที่มีใจร่วมบุญมอบวัตถุมงคลให้

    มาครับ
     
  4. athithan_p

    athithan_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +452
    จองพระผงรูปเหมือนหลวงพ่อกวย ครับ โอนแล้วจะแจ้งครับ
     
  5. boy1715

    boy1715 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2011
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +319
    รบกวนขอราคาเบาๆ พระผงดวงเศรษฐี องค์ 1 และ 2 ด้วยครับ^_^

     
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญหลวงปู่บุญ วัดบ้านนา ไตรมาส๒๕๒๐ นับเป็นรุ่น ๓ ของท่าน

    อ่านประวัติเรื่องราวท่านได้คร่าวๆจากเวปนี้ครับ

    หลวงปู่บุญ สุสฺมโณ วัดบ้านนา อ.แกลง จ.ระยอง : บทความ - เรื่องราวน่ารู้

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาเวปอย่างสูงครับ

    (ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2013
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระอรุณธรรมโสภณ
    (แจ้ง ฉินฺนมนฺโท)
    อดีตเจ้าคณะอำเภอกิตติมศักดิ์อำเภอโนนสูง
    และเจ้าอาวาสวัดใหม่สุนทร


    ชื่อ แจ้ง ดวงกลาง
    ชาติภูมิ บ้านขาม ตำบลขามสะแกแสง อำเภอโนนสูง (ปัจจุบันเป็นอำเภอขามสะแกแสง) จังหวัดนครราชสีมา
    ชาติกาล วันอังคาร ที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ.๒๔๔๐ ขึ้น ๔ ค่ำ เดือนยี่ ปีระกา ฉศก จุลศักราช ๑๒๕๔
    บิดา นายอ้าย ดวงกลาง
    มารดา นางเทศ ดวงกลาง
    ญาติพี่น้อง ร่มสายโลหิต ๙ คน
    ๑. นายเพ็ชร
    ๒. นายทุย
    ๓.นางบุญ
    ๔.นางดวล
    ๕. นายแสง
    ๖. นายสวน
    ๗. นางสุก
    ๘. นางใส
    ๙. พระอรุณธรรมโสภณ (หลวงปู่แจ้ง)


    อาชีพ
    ท่านเจริญรอยตามวงศ์ตระกูลซึ่งเป็นชาวนา เลี้ยงสัตว์ เป็นเจ้าของวัวฝูงใหญ่ มีฐานะปานกลาง เป็นศิลปินเจ้าของวงมโหรีดนตรีพื้นบ้านของชาวโคราช


    อุปนิสัย
    ท่านมีนิสัยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่โอบอ้อมอารี มีเมตตาสงสารคนตกทุกข์ได้ยาก ชอบตักบาตรทำบุญ อ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง บุหรี่ไม่สูบ สุราไม่เสพ การพนันไม่เล่น ตั้งสัจจะไม่ยอมตนเป็นลูกเขยใคร มีใจน้อมไปในการบวชตั้งแต่อายุได้ ๑๗ ปี


    การศึกษาในวัยเยาว์
    เมื่อเป็นเด็กเรียนหนังสือวัด มีทั้งพระและฆราวาส ผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้สอนทั้งภาษาไทยและภาษาขอม อาศัยเป็นคนที่มีนิสัยดี สติปัญญาดี เรียนเก่ง จึงเป็นที่ชอบของครูอาจารย์ ประกอบกับเป็นคนมีความตั้งใจสูงไม่ยอมอยู่หลังใคร จึงอ่านเรียนเขียนเลขจบการศึกษาแบไม่มีประกาศนียบัตรก่อนใครๆ


    ชีวิตในวัยหนุ่ม
    เมื่อสำเร็จการศึกษาออกจากวัดมาประกอบอาชีพช่วยบิดามารดา เสร็จหน้านาก็รับงานมโหรีดนตรีปี่พาทย์ไปในงานพิธีตามสถานที่ต่างๆ บางครั้งไปถึงจังหวัดขอนแก่น หมดหน้างานก็ช่วยเลี้ยงวัวและทำนาด้วยความขยันขันแข็ง เป็นที่หมายตาของสตรีและผู้ใหญ่ในหมู่บ้าน แต่ท่านยังไม่ใฝ่ใจคิดในเรื่องของการครองเรือน อยู่จนมารดาถึงแก่กรรม ท่านก็ยังอยู่ช่วยบิดาทำกิจการในครอบครัว เมื่อบิดาแบ่งทรัพย์สินไร่นาทรัพย์สมบัติให้พี่ทั้ง ๘ คนแล้ว ที่เหลือส่วนใหญ่ยกให้ท่าน แต่ท่านมีจิตใจน้อมไปในการบวช จึงยกทรัพย์สินไร่นาและสมบัติส่วนของท่านให้พี่ๆ และส่วนหนึ่งยกให้สาธารณสมบัติ ส่วนเครื่องมฆรีปี่พาทย์ยกให้แก่ลูกวงตามถนัดและความต้องการแล้วไปบอกกับน้าให้พาไปหาอุปัชฌาย์


    บรรพชาอุปสมบท
    วันเสาร์ ที่ ๑๓ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๖๘ (แรม ๘ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลู)
    ณ พัทธสีมาวัดบ้านขาม
    พระครูมัชฌิมานุรักษ์ (ทอง) วัดบ้านขาม เป็นพระอุปัชฌาย์
    พระอาจารย์บุญ วัดบ้านขาม เป็นพระกรรมวาจาจารย์
    พระอาจารย์จันทร์ วัดบ้านขาม เป็นพระอนุสาวนาจารย์
    ประชุมสงฆ์ ๒๕ รูป
    ได้นามฉายาว่า “ฉินฺมนฺโท”

    เมื่ออุปสมบทแล้วปฏิบัติรับใช้อุปัชฌาย์อาจารย์ที่วัดบ้านขาม พร้อมกับตั้งใจเรียนหนังสือสวดมนต์ คัมภีร์เทศนาต่างๆ ซึ่งล้วนแต่อยู่ในภาษาขอมทั้งสิ้น ท่านจึงต้องเรียนหนังสือใหญ่สูตรมูลกัจจายน์จนจบสิ้นแล้ว ต้องการเรียนรู้ปริยัติธรรมควบคู่กับการปฏิบัติให้สูงขึ้น แต่ที่วักบ้านขามมี ท่านจึงขออนุญาตให้ครูบาอาจารย์ฝากเข้าไปเรียนต่อในสำนักวัดบึง ในเมืองนครราชสีมา ซึ่ง ณ ที่นั้นมีพระผู้ใหญ่หลานรูปที่เคยเรียนร่วมกัน อาทิ เช่น สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร) วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ พระอรรถจารีสีมาจารย์ (คง) วัดบูรพ์ อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา และพระปทุมญาณมุนี (หลวงปู่เขียว) วัดบึง นครราชสีมา เป็นต้น ภายหลังท่านย้ายไปอยู่วัดบูรพ์ เพื่อช่วยแล่งเบาภาระงานภายในวัด ซึ่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดเป็นเจ้าอาวาส
    ต่อมาท่านได้จำพรรษาอยู่กรุงเทพฯ ระยะหนึ่ง ตามวัดที่เพื่อนสหธรรมิกคุ้นเคยกัน เช่น วัดพระเชตุพน วัดมหาธาตุ วัดชำนิหัตถการ วัดปากน้ำ ฯลฯ แล้วท่านเจ้าคุณ พระอรรถจารสีมาจารย์ ก็มีจดหมายนิมนต์กลับมาอยู่ช่วยงานอีกครั้งหนึ่ง
    ระหว่างที่กลับมาอยู่วัดบูรพ์ครั้งหลังนี้ ท่านเป็นผู้รู้จักโดยทั่วไปของหมู่สงฆ์และญาติโยมในฐานะที่เป็นพระนักเทศน์ ทั้งเทศนาโวหาร เทศน์ปุจฉา เทศน์อานิสงส์ รวมทั้งเทศน์แหล่ทำนองเสนาะเพราะพริ้ง เป็นที่ชื่นชอบของผู้ฟังทั่วไป
    นอกจากนั้น ได้เป็นที่ปรึกษาในการหาฤกษ์พานาทีช่วยเจ้าคณะจังหวัด ในการทำน้ำมนต์เสกเส้นฝ้าย ทำพระผงดำรูปกลีบบัวถวายเจ้าคุณอรรถฯ และหลวงพ่อคง วัดถนนหักใหญ่ด่านขุนทด เพื่อนำไปแจกจ่ายทหารทหารที่ไปสงครามอินโดจีน
    ต่อมาพระอุปัชฌาย์ทอง วัดบ้านขาม มรณภาพลง ชาวบ้านขามจึงนิมนต์ท่านไปอยู่ช่วยบูรณะวัดที่ชำรุดทรุดโทรม ซึ่งท่านได้บูรณปฏิสังขรณ์ให้กลับคืนสู่สภาพที่ดีดังเดิม แล้วได้ย้อนกลับไปเรียนทางปฏิบัติกัมมัฏฐานในสำนักอาจารย์ที่มีชื่อหลายวัด เช่น หลวงพ่อมี (ภายหลังได้เป็นพระครูญาณโสภิต) วัดป่าสูงเนิน และพระภาวนาโกศล (หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ) เป็นต้น
    ต่อมา ทางอำเภอโนนสูงขาดพระผู้ใหญ่ เจ้าคระจังหวัดจึงมีจดหมายนิมนต์ให้ท่านลับคืนมาอยู่ที่โนนสูง เมืองโคราชบ้านเกิด เพื่อให้รับตำแหน่งพระสังฆาธิการ บริหารการวัดและการคระสงฆ์


    ตำแหน่งหน้าที่การงาน การปครอง
    พ.ศ.๒๔๘๒
    - เป็นเจ้าอาวาสวัดใหม่สุนทร ตำบลโนนสูง อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา

    พ.ศ.๒๔๘๔
    - เป็นเจ้าคณะอำเภอโนนสูง

    พ.ศ.๒๔๘๖
    - เป็นพระอุปัชฌาย์

    พ.ศ.๒๕๒๐
    - เป็นเจ้าคณะอำเภอกิตติมศักดิ์อำเภอโนนสูง


    งานศึกษา
    พ.ศ.๒๔๘๒
    - เป็นเจ้าสำนักเรียนวัดใหม่สุนทร
    - เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม
    - เป็นกรรมการตรวจนักธรรมสนามหลวง

    พ.ศ.๒๔๘๔
    - เป็นกรรมการสอบธรรมสนามหลวง


    งานเผยแผ่
    พ.ศ.๒๔๗๐
    - เป็นพระธรรมกถึก

    พ.ศ.๒๔๘๔
    - เป็นพระอาจารย์ฝึกสอนพระธรรมกถึก

    พ.ศ.๒๕๐๘
    - เป็นหัวหน้าพระธรรมทูต ฝ่ายอำนวยการอำเภอโนนสูง


    งานพัฒนาวัด
    ที่วัดบ้านขาม ตำบลขามสะแสง (อำเภอขามสะแกแสง ในปัจจุบัน) จังวัดนครราชสีมา
    พ.ศ.๒๔๗๘
    - บูรณปฏิสังขรณ์กุฎีสงฆ์และศาลาการเปรียญที่ชำรุดทรุดโทรมให้อยู่ในสภาพที่ใช้การได้ดี

    พ.ศ.๒๔๘๔
    - ขุดสระน้ำขนาดใหญ่ และสร้างสวนป่า สวนผลไม้

    พ.ศ.๒๔๙๐
    - ก่อสร้างกุฎีสงฆ์

    พ.ศ.๒๔๙๔
    - ก่อสร้างศาลการเปรียญ

    ที่วัดใหม่สุนทร ตำบลโนนสูง อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา
    พ.ศ.๒๔๘๒
    - ก่อสร้างเสนาสนะถาวรวัตถุตามลำดับต่อเนื่องดังนั้น
    ๑.กุฎีสงฆ์
    ๒.หอสวดมนต์
    ๓.ศาลการเปรียญ
    ๔.ศาลปฏิบัติธรรม
    ๕.ศาลาปริวาสกรรม
    ๖.ลานปฏิบัติธรรม
    ๗.เจดีย์ที่บรรจุสังขาร
    ๘.ศาลโรงช้างโรงเสือ ที่ปฏิสันถาร
    ๙.อุโบสถ
    ๑๐.ฌาปนสถาน
    ๑๑.ซุ้มประตูวัด
    ๑๒.กำแพงวัด
    ๑๓.ปลูกต้นไม้และสร้างสวนป่าภายในวัด
    ๑๔.สร้างถนนภายในวัด
    ๑๕.ขุดสระน้ำขนาดใหญ่


    งานสังคมสงเคราะห์
    พ.ศ.๒๔...
    - บริจาคที่ดินสำหรับสร้างโรงเรียนมัธยมขามสะแกแสง โรงพยาบาลขามสะแกแสง และที่ว่าการอำเภอขามสะแกแสง

    พ.ศ.๒๕๓๔
    - จัดตั้งมูลนิธิศรัทธาพระครูพินิจยติกรรม (หลวงปู่แจ่ง ฉินฺมนฺโท) จดทะเบียนด้วยเงินทุนเริ่มต้น ๑,๐๑๖,๐๐๐ บาท หนึ่งล้านหนึ่งหมื่นหกพันบาทถ้วน) โดยพลตรีเรวัต บุญทับ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ ๓ เป็นประธานมูลนิธิ

    พ.ศ.๒๕๓๕
    - สร้างตึกสงฆ์อาพาธ และเครื่องมือแพทย์โรงพยาบาลโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา สิ้นเงิน ๔,๕๐๐,๐๐๐ บาท (สี่ล้านห้าแสนบาทถ้วน)


    สมณศักดิ์

    พ.ศ.๒๔๘๐
    - เป็นพระสมุห์ ฐานานุกรมพระอรรถจารสีมาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา

    พ.ศ.๒๔๙๐
    - เป็นพระครูที่ พระครูพินิจยติกรรม เจ้าคณะอำเภอชั้นตรี

    พ.ศ.๒๔๙๘
    - เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นโท ในราชทินนามเดิม

    พ.ศ.๒๕๐๑
    - เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ในราชทินนามเดิม

    พ.ศ.๒๕๑๓
    - เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม

    พ.ศ.๒๕๓๕
    - เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระอรุณธรรมโสภณ

    เกียรติคุณ
    - ตามชีวประวัติบอกถึงความเป็นศิลปินสาขามโหรีปี่พาทย์
    - มีอุปนิสัยใฝ่เรียน ใฝ่รู้ ใฝ่ดู ใฝ่เห็น สิ่งที่ประคุณเป็นประโยชน์
    - เป็นพระนักเทศน์นักสอน ฝีปากคมคารมกล้า เจ้าบทเจ้ากลอน
    - เป็นพระนักสร้างสรรค์พัฒนาศาสนา วัดวาอาราม และสังคม
    - เป็นพระชื่นชมยินดีในสมณเพศ สมณธรรม และสมณวิสัย
    - เป็นพระใจถึง เข้าถึงวิปัสสนาวิชาธรรมกาย สามารถถอดกายทิพย์ได้ตามที่หลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญพร่ำสอน
    - เป็นพระเกจิอาจารย์ สร้งเสกวัตถุมงคลมากรุ่นมากชนิดมีชื่อเสียง มีลูกศิษย์เคารพนับถือบูชาทั้งพระสงฆ์ คหบดี พ่อค้า ประชาชน ครูอาจารย์ ข้าราชการ พลเรือน ทหาร ตำรวจ ทั่วราชอาณาจักร


    อาพาธ
    ปกติเป็นคนมีสุขภาพแข็งแรง มาค่อยเจ็บไข้ได้ป่วยถึงล้มหมอนเสื่อ มีบ้างก็เล็กน้อยธรรมดา
    พ.ศ.๒๕๒๐ เริ่มอาพาธด้วยโรคชรา
    พ.ศ.๒๕๓๐ อาพาธด้วยโรคชรา
    พ.ศ.๒๕๓๒ อาพาธถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลผ่าตัดใส้ติ่งอักเสบ
    พ.ศ.๒๕๓๓ อาพาธด้วยโรคปวดเมื่อยตามข้อ
    พ.ศ.๒๕๓๕ อาพาธหนักด้วยโรคชรา


    มรณภาพ
    วันที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๕ เวลา ๐๑:๒๐ น.
    ณ โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา
    สิริรวมอายุ ๙๕ ปี พรรษา ๖๗
    ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก ประวัติเจ้าคุณอำเภอโนนสูง สำนักงานเจ้าคณะอำเภอโนนสูง วัดหนองหว้า
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาเวปอย่างสูงครับ

    เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่แจ้ง ตามสภาพเหรียญที่เห็นครับ

    ให้บูชา 1000 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ
    [​IMG] [​IMG]
     
  8. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,985
    ค่าพลัง:
    +5,394
    ขอจองครับ----------------
     
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระหลวงพ่อพาน'พุทธคุณ-ปาฏิหาริย์'ที่ไม่รู้จับ
    พระหลวงพ่อพาน สุขกาโมเรื่องเล่าของ'พุทธคุณ-ปาฏิหาริย์'ที่ไม่รู้จบ : เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู

    หลวงพ่อพาน สุขกาโม อดีตเจ้าอาวาสวัดเฉลิมราษฎร์ (โป่งกะสัง) ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ท่านเป็นพระที่ถ้าคุณได้ศึกษาประวัติของท่านแล้ว คุณจะยอมรับว่านี้คือพระที่เก่งจริงๆ ของเมืองไทยเราอีกรูปหนึ่ง ก็ขนาดหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ก็ยังเคยกล่าวยกย่องท่านไว้

    เรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณ พ.ศ.๒๕๓๕ ขณะนั้นหลวงพ่อพาน ยังมีชีวิตอยู่ ชาวบ้านโป่งกะสังได้เหมารถบัสใหญ่ เพื่อไปนมัสการหลวงพ่อคูณที่วัดบ้านไร่ หลวงพ่อคูณได้เห็นเหรียญที่ห้อยคอของผู้ที่ไปนมัสการท่าน จึงได้ถามว่าหลวงพ่ออะไร ได้รับคำตอบว่า เป็นเหรียญของหลวงพ่อพาน วัดโป่งกะสัง หลวงพ่อคูณจึงกล่าวกับผู้ไปนมัสการว่า "พวกเองไม่ต้องมาหาข้าถึงที่นี่ด๊อก มันไกล พ่อพานมึงเก่งยิ่งกว่ากูอีก หรือแม้กระทั่งหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ยังต้องยอมท่าน และยังให้ลูกศิษย์ของตนเองไปเอาของดีจากท่าน"

    ด.ต.วิรัตน์ อาจสัญจร ผบ.หมู่งานจราจร สน.บางยี่ขัน กทม. ผู้สะสมพระหลวงพ่อพาน อธิบายให้ฟังว่า หลวงพ่อพานสร้างวัตถุมงคลไว้ไม่มาก เพราะท่านเป็นพระที่ไม่ยอมให้ใครสร้าง ก็ขนาดหนังสือมหาโพธิ์ ของใหญ่ ท่าไม้ จะมาขอสร้างวัตถุมงคลของท่าน ท่านยังไม่ยอมให้สร้างเลย วัตถุมงคลของท่านมีดังนี้

    ๑.พระเนื้อผงรุ่นแรก สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๔ ตามประวัติที่หลวงพ่อพานท่านได้เล่าให้ นายอรรตภูมิ สร้อยทอง ซึ่งป็นเด็กวัดและบีบนวดท่านเป็นประจำ ฟังว่า พระผงรุ่น ๑ นี้ พอท่านได้เรียนวิชากับหลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวงแล้ว ท่านได้นำผงพุทธคุณไปให้อาจารย์ปลุกเสก แต่หลวงพ่อทองศุขกลับบอกว่า ไหนๆ ก็เรียนวิชาจบหมดแล้วก็มาปลุกเสกด้วยกันสิ ท่านจึงได้ปลุกเสกร่วมกับหลวงพ่อทองศุข

    ส่วนรุ่นที่ ๒ เป็นพระสมเด็จเนื้อผงอีกเช่นกัน จัดสร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๑ โดยได้นำผงพุทธคุณรุ่นแรกมาผสมด้วย สังเกตให้ดีมวลสารคล้ายกันมาก 2 รุ่นนี้ โดยรุ่นนี้ได้ปลุกเสกร่วมกับศิษย์ผู้พี่ หลวงพ่อเพลิน ที่วัดหนองไม้เหลือง ต่อมา พ.ศ.๒๕๒๓ ท่านได้ย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสที่วัดโป่งกะสัง และได้นำสมเด็จรุ่นนี้มาแจกที่วัดโป่งกะสัง ชาว อ.กุยบุรี จึงจัดรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกของวัดโป่งกะสัง ส่วนเหรียญรุ่นแรกของท่าน จัดสร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๙ จำนวนไม่เกิน ๑ หมื่นเหรียญ เพราะบล็อกแตกเสียก่อน

    ด.ต.วิรัตน์ ยังบอกด้วยว่า ตามประวัติ เหรียญรุ่นนี้ ท่านก็ได้เล่าให้ นายอรรตภูมิ สร้อยทอง ฟังเช่นกัน เพราะนายอรรตภูมิถามท่านว่า หลวงพ่อเขาลือกันว่า เหรียญหลวงพ่อมีปลอมและเสริมด้วยหรือ เห็นเขาลือกัน ท่านจึงเล่าให้ฟังว่า วันที่สร้างเหรียญรุ่นนี้ตัวท่านอยู่กับหลวงพ่ออินทร์ วัดยาง จ.เพชรบุรี หลวงพ่ออินทร์ได้สร้างเหรียญของท่าน ทางผู้สร้างได้มาที่วัด ออกแบบ กำหนดจำนวน หลวงพ่ออินทร์ จึงถามหลวงพ่อพาน ว่าไม่สร้างเหรียญหรือ หลวงพ่อพานตอบ ไม่สร้างหรอก วัดเราจน แต่ถ้าได้ราคา ๑ บาทต่อเหรียญ ก็จะทำ ผู้สร้างตอบตกลง จึงได้จัดสร้าง เมื่อสร้างเสร็จก็นำเหรียญมาไว้ที่วัดยาง หลวงพ่อพานก็ทยอยนำเหรียญนั้นกลับวัดโป่งกะสัง ส่วนเหรียญรุ่น ๒ สร้างจำนวน ๕,๐๐๐ เหรียญ มีเนื้อเดียวเช่นกัน

    ส่วนรุ่น ๓ สร้าง ๓ เนื้อ ประกอบด้วย เนื้อทองคำ ๘๒ เหรียญ เนื้อเงิน ๘๒ เหรียญ เนื้อทองแดงรมดำ ๖,๐๐๐ เหรียญ รุ่น ๔ เป็นเหรียญหล่อ ทองคำ ๘๔ เหรียญ เงิน ๕๐๐ นวะและทองเหลืองรวม ๕,๐๐๐ เหรียญ เหรียญหล่อนี้หลวงพ่อพานมาโรงหล่อที่พรานนกด้วยตนเอง โดยได้นำตะกรุด แผ่นทองแดงที่จารแล้ว จำนวนมาก และเงินพตด้วง สตางค์รู

    "สมัยก่อน ที่ท่านไปหามาด้วยตัวท่านเองกับ คุณครูพจนรินทร์ มุสิกเจียรนันท์ ผู้ขับรถไปกับหลวงพ่อพาน ท่านได้เทโลหะ ตะกรุด แผ่นทองแดงจาร เป็นปฐมฤกษ์ ด้วยตัวท่านเอง หลวงพ่อพานเป็นพระที่ปลุกเสกวัตถุมงคลของท่านตลอดไม่มีวาระ ถ้าท่านไม่มีกิจนิมนต์หรือไม่ได้จำวัดที่วัด พลบค่ำท่านจะเข้าห้องพระปลุกเสกตลอด" ด.ต.วิรัตน์กล่าวทิ้งท้าย

    หลวงพ่อพานมรณภาพเมื่อ วันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๙ รวมอายุ ๘๔ ปี สรีระของท่านไม่เน่าเปื่อย ถูกเก็บไว้ในโลงไม้ เพื่อลูกศิษย์ได้ชมบารมี


    ปาฏิหาริย์ที่ไม่รู้จบ


    "ในสมัยก่อน วัดโป่งกะสัง มีหลวงพ่อพานอยู่รูปเดียว คอมมิวนิสต์ชุกชุมมากจริงๆ จึงไม่มีพระรูปใดกล้าอยู่ ชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดบอกว่า ถ้าได้ยินเสียงปืนมาจากทางวัดรู้ได้ทันทีว่าหลวงพ่อพานโดนยิงอีกแล้ว เพราะว่า ตชด.จะต้องสับเปลี่ยนกำลังพลเป็นประจำ จึงไม่รู้ว่ามีพระเดินจงกลมอยู่"

    นี้เป็นส่วนหนึ่งเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อพาน

    พระครูโสภิตวชิรธรรม เจ้าอาวาสวัดหนองไม้เหลือง รูปปัจจุบัน เล่าให้ฟังว่า ท่านเป็นคนที่นี่ สมัยท่านเป็นเด็กวิ่งเล่นอยู่แถววัดนี้เป็นประจำ หลวงพ่อเพลิน และหลวงพ่อพาน อยู่ที่วัดหนองไม้เหลืองนี้ด้วยกัน กุฎิติดกันโดยมีบันไดทางขึ้นวัด เป็นสิ่งที่กั้นกุฎิไม่ให้ติดกัน และได้ร่วมกันสร้างวัดหนองไม้เหลืองมาด้วยกัน โดยหลวงพ่อเพลิน เป็นผู้สร้างกุฏิสงฆ์ ส่วนหลวงพ่อพานนั้นสร้างศาลาการเปรียญ

    ทั้งหลวงพ่อเพลิน และหลวงพ่อพานนั้น ไม่ใช่พี่น้องกันเหมือนอย่างที่ทุกคนเข้าใจกัน หลวงพ่อเพลินแก่กว่าหลวงพ่อพาน ๑๑ พรรษา โดยหลวงพ่อเพลินเล่าให้ฟังว่า สมัยที่หลวงพ่อเพลินยังเป็นพระลูกวัด หลวงพ่อพานยังเป็นเด็กวัด หลวงพ่อพานจะเรียก หลวงพ่อเพลินว่า “หลวงพี่” จนมรณภาพ ในปี พ.ศ.๒๕๑๓ คนบ้านแค จ.เพชรบุรี ไปทำมาหากินที่หมู่บ้านโป่งกะสัง ชื่อว่า โยมพลอย น้อยสำราญ โดยโยมพลอยได้ชื่นชอบหลวงพ่อพาน เพราะท่านเป็นพระเด็ดเดี่ยว เด็ดขาด จึงไปขอกับหลวงพ่อเพลินให้ไปเป็นเจ้าอาวาสที่วัดโป่งกะสัง

    โดยในปีแรกที่หลวงพ่อพานมาเป็นเจ้าอาวาสที่วัดโป่งกะสังหลวงพ่อเพลินได้ไปทอดกฐินให้ ได้เงินจำนวน ๓,๐๐๐ บาท โดยหลวงพ่อพานก็ยังไปๆ มาๆ และมาร่วมงานกับหลวงพ่อเพลินเป็นประจำ คนที่หนองไม้เหลืองศรัทธาหลวงพ่อพานมาก เวลาที่วัดโป่งกะสังมีงานครั้งใดๆ ก็จะเหมารถใหญ่หลายคัน ไปช่วยงานหลวงพ่อพาน มีอยู่ครั้งหนึ่ง ซึ่งหลวงพ่อพานได้เล่าให้เจ้าอาวาสวัดหนองไม้เหลืองรูปปัจจุบันฟังว่า ตัวท่านได้ออกธุดงค์ไปกับหลวงพ่อเพลิน ถึงที่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นถ้ำ หลวงพ่อพานได้บอกกับหลวงพ่อเพลินว่า “หลวงพี่ฉันเอาตรงนี้นะ” เสร็จแล้วทั้ง ๒ รูป ก็ได้ปักกลดในถ้ำแห่งนั้น

    โดยคืนนั้น หลวงพ่อพานไม่ได้นอนทั้งคืนเลย มีมดขี้มาเข้ากลดเต็มไปหมด นอนไม่ได้เลยทั้งคืน ส่วนหลวงพ่อเพลินหลับสบาย แต่ก็แปลกพอตอนเช้าแม้แต่ตัวเดียวก็ไม่เห็น หลวงพ่อพานจึงมาเล่าให้หลวงพ่อเพลินฟัง หลวงพ่อเพลินจึงบอกว่า “นั้นแหละเป็นเพราะคุณยินดีต่อสถานที่”

    เจ้าอาวาสวัดหนองไม้เหลืองกล่าวต่ออีกว่า งานที่หลวงพ่อพานไม่ไปเด็ดขาดคืองานศพที่ผู้ตายฆ่าตัวตาย ท่านจะไม่ไปโดยเด็ดขาด และในสมัยก่อนมีงานที่วัด จะมีการทำโคมไฟ ส่วนพระก็ทำตะไล ส่วนหลวงพ่อพานได้ทำโคมไฟ ซึ่งเป็นโคมไฟแขวน เสร็จแล้วท่านก็ให้ชาวบ้านที่ทำตะไล เอาตะไลที่ทำมายิงโคมไฟแขวนของท่าน ใครยิงโคมไฟถูกมารับรางวัลจากท่าน ผลปรากฏว่าชาวบ้านที่ทำตะไลมา เอาตะไลที่ทำมายิงโคมไฟ ยิงเท่าไรก็ยิงไม่ถูก ยิงจนหมดปัญญายิง

    นอกจากนี้แล้วหลวงพ่อพานยังบอกให้ไปเอาพลุมายิง ชาวบ้านก็ช่วยกันแบกกระบอกยิงพลุ เอาพลุใส่เล็งไปที่โคมไฟแขวน เสร็จแล้วจุดพลุ เสียงระเบิดดัง ตูมๆๆที่กลางอากาศหาถูกโคมไฟไม่ จนชาวบ้านต้องยอมหลวงพ่อพาน “มันก็แปลก โคมไฟแขวนอยู่กับที่ ทำไมยิงไม่ถูกกัน อุตส่าห์เล็งอย่างดี”

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาเวปอย่างสูงครับ
    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ มี 9 เหรียญครับสภาพสวยๆแบบนี้ครับ
    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2013
  10. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,985
    ค่าพลัง:
    +5,394
    ได้โอนเงิน ๕๕๐ บาท เมี่อ ๑๖ กย. เวลาประมาณ๑๐.๒๓ น. เป็นค่าพระ ๑.เหรียญ ลป.บุญ วัดบ้านนารุ่น๓
    ที่อยู่ ดูในpmครับ
     
  11. athithan_p

    athithan_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +452
    โอนแล้วครับตาม pm ครับ
     
  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เบอร์บัญชีผมครับ
    เบอร์บัญชีธ.กรุงไทย KTB125-0-08923-9 supachai thu
    โอนเงินแล้วช่วยแจ้งวันเวลาที่โอนในกระทู้เพื่อง่ายในการตรวจสอบหรือทางPMแล้วจะรีบดำเนินการจัดส่งEMSไปให้โดยด่วนนะครับ..หลายรายการก็ค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    ขอความกรุณาโอนเงินภายใน 3 วันทำการหรือถ้าไม่สะดวกติดต่อมาได้ครับ

    ไม่เกิน 7 วัน หรือตามสมควรครับ

    ติดต่อได้ที่ 08..1.70..4..72..64

    วันนี้จัดส่ง

    EK207934776THอุดรธานี

    Track And Trace : EMS : Thailand Post : Grasshopper

    ขอบคุณครับ
     
  14. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียยหลวงพ่อกวยหลวงปู่หมุนหลวงปู่ละมัยและครูบาอาจารย์อีกหลายท่านร่วมปลุกเสกอธิ

    ฐานจิตปลุกเสกพิธีใหญ๋สมปราถนาวัดซํบลำใย

    (ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2013
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระนาคปรกสุริยะมุนี หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติครับก้นอุดปูนแดง องค์นี้อุดหนามาก
    พิมพ์ใหญ่ พระปี๒๕๐๓ นะครับ

    ให้บูชา 600 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  16. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เบอร์บัญชีผมครับ
    เบอร์บัญชีธ.กรุงไทย KTB125-0-08923-9 supachai thu
    โอนเงินแล้วช่วยแจ้งวันเวลาที่โอนในกระทู้เพื่อง่ายในการตรวจสอบหรือทางPMแล้วจะรีบดำเนินการจัดส่งEMSไปให้โดยด่วนนะครับ..หลายรายการก็ค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    ขอความกรุณาโอนเงินภายใน 3 วันทำการหรือถ้าไม่สะดวกติดต่อมาได้ครับ

    ไม่เกิน 7 วัน หรือตามสมควรครับ

    ติดต่อได้ที่ 08..1.70..4..72..64
     
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระอรุณธรรมโสภณ
    (แจ้ง ฉินฺนมนฺโท)
    อดีตเจ้าคณะอำเภอกิตติมศักดิ์อำเภอโนนสูง
    และเจ้าอาวาสวัดใหม่สุนทร


    ชื่อ แจ้ง ดวงกลาง
    ชาติภูมิ บ้านขาม ตำบลขามสะแกแสง อำเภอโนนสูง (ปัจจุบันเป็นอำเภอขามสะแกแสง) จังหวัดนครราชสีมา
    ชาติกาล วันอังคาร ที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ.๒๔๔๐ ขึ้น ๔ ค่ำ เดือนยี่ ปีระกา ฉศก จุลศักราช ๑๒๕๔
    บิดา นายอ้าย ดวงกลาง
    มารดา นางเทศ ดวงกลาง
    ญาติพี่น้อง ร่มสายโลหิต ๙ คน
    ๑. นายเพ็ชร
    ๒. นายทุย
    ๓.นางบุญ
    ๔.นางดวล
    ๕. นายแสง
    ๖. นายสวน
    ๗. นางสุก
    ๘. นางใส
    ๙. พระอรุณธรรมโสภณ (หลวงปู่แจ้ง)


    อาชีพ
    ท่านเจริญรอยตามวงศ์ตระกูลซึ่งเป็นชาวนา เลี้ยงสัตว์ เป็นเจ้าของวัวฝูงใหญ่ มีฐานะปานกลาง เป็นศิลปินเจ้าของวงมโหรีดนตรีพื้นบ้านของชาวโคราช


    อุปนิสัย
    ท่านมีนิสัยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่โอบอ้อมอารี มีเมตตาสงสารคนตกทุกข์ได้ยาก ชอบตักบาตรทำบุญ อ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง บุหรี่ไม่สูบ สุราไม่เสพ การพนันไม่เล่น ตั้งสัจจะไม่ยอมตนเป็นลูกเขยใคร มีใจน้อมไปในการบวชตั้งแต่อายุได้ ๑๗ ปี


    การศึกษาในวัยเยาว์
    เมื่อเป็นเด็กเรียนหนังสือวัด มีทั้งพระและฆราวาส ผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้สอนทั้งภาษาไทยและภาษาขอม อาศัยเป็นคนที่มีนิสัยดี สติปัญญาดี เรียนเก่ง จึงเป็นที่ชอบของครูอาจารย์ ประกอบกับเป็นคนมีความตั้งใจสูงไม่ยอมอยู่หลังใคร จึงอ่านเรียนเขียนเลขจบการศึกษาแบไม่มีประกาศนียบัตรก่อนใครๆ


    ชีวิตในวัยหนุ่ม
    เมื่อสำเร็จการศึกษาออกจากวัดมาประกอบอาชีพช่วยบิดามารดา เสร็จหน้านาก็รับงานมโหรีดนตรีปี่พาทย์ไปในงานพิธีตามสถานที่ต่างๆ บางครั้งไปถึงจังหวัดขอนแก่น หมดหน้างานก็ช่วยเลี้ยงวัวและทำนาด้วยความขยันขันแข็ง เป็นที่หมายตาของสตรีและผู้ใหญ่ในหมู่บ้าน แต่ท่านยังไม่ใฝ่ใจคิดในเรื่องของการครองเรือน อยู่จนมารดาถึงแก่กรรม ท่านก็ยังอยู่ช่วยบิดาทำกิจการในครอบครัว เมื่อบิดาแบ่งทรัพย์สินไร่นาทรัพย์สมบัติให้พี่ทั้ง ๘ คนแล้ว ที่เหลือส่วนใหญ่ยกให้ท่าน แต่ท่านมีจิตใจน้อมไปในการบวช จึงยกทรัพย์สินไร่นาและสมบัติส่วนของท่านให้พี่ๆ และส่วนหนึ่งยกให้สาธารณสมบัติ ส่วนเครื่องมฆรีปี่พาทย์ยกให้แก่ลูกวงตามถนัดและความต้องการแล้วไปบอกกับน้าให้พาไปหาอุปัชฌาย์


    บรรพชาอุปสมบท
    วันเสาร์ ที่ ๑๓ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๖๘ (แรม ๘ ค่ำ เดือน ๗ ปีฉลู)
    ณ พัทธสีมาวัดบ้านขาม
    พระครูมัชฌิมานุรักษ์ (ทอง) วัดบ้านขาม เป็นพระอุปัชฌาย์
    พระอาจารย์บุญ วัดบ้านขาม เป็นพระกรรมวาจาจารย์
    พระอาจารย์จันทร์ วัดบ้านขาม เป็นพระอนุสาวนาจารย์
    ประชุมสงฆ์ ๒๕ รูป
    ได้นามฉายาว่า “ฉินฺมนฺโท”

    เมื่ออุปสมบทแล้วปฏิบัติรับใช้อุปัชฌาย์อาจารย์ที่วัดบ้านขาม พร้อมกับตั้งใจเรียนหนังสือสวดมนต์ คัมภีร์เทศนาต่างๆ ซึ่งล้วนแต่อยู่ในภาษาขอมทั้งสิ้น ท่านจึงต้องเรียนหนังสือใหญ่สูตรมูลกัจจายน์จนจบสิ้นแล้ว ต้องการเรียนรู้ปริยัติธรรมควบคู่กับการปฏิบัติให้สูงขึ้น แต่ที่วักบ้านขามมี ท่านจึงขออนุญาตให้ครูบาอาจารย์ฝากเข้าไปเรียนต่อในสำนักวัดบึง ในเมืองนครราชสีมา ซึ่ง ณ ที่นั้นมีพระผู้ใหญ่หลานรูปที่เคยเรียนร่วมกัน อาทิ เช่น สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร) วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ พระอรรถจารีสีมาจารย์ (คง) วัดบูรพ์ อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา และพระปทุมญาณมุนี (หลวงปู่เขียว) วัดบึง นครราชสีมา เป็นต้น ภายหลังท่านย้ายไปอยู่วัดบูรพ์ เพื่อช่วยแล่งเบาภาระงานภายในวัด ซึ่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดเป็นเจ้าอาวาส
    ต่อมาท่านได้จำพรรษาอยู่กรุงเทพฯ ระยะหนึ่ง ตามวัดที่เพื่อนสหธรรมิกคุ้นเคยกัน เช่น วัดพระเชตุพน วัดมหาธาตุ วัดชำนิหัตถการ วัดปากน้ำ ฯลฯ แล้วท่านเจ้าคุณ พระอรรถจารสีมาจารย์ ก็มีจดหมายนิมนต์กลับมาอยู่ช่วยงานอีกครั้งหนึ่ง
    ระหว่างที่กลับมาอยู่วัดบูรพ์ครั้งหลังนี้ ท่านเป็นผู้รู้จักโดยทั่วไปของหมู่สงฆ์และญาติโยมในฐานะที่เป็นพระนักเทศน์ ทั้งเทศนาโวหาร เทศน์ปุจฉา เทศน์อานิสงส์ รวมทั้งเทศน์แหล่ทำนองเสนาะเพราะพริ้ง เป็นที่ชื่นชอบของผู้ฟังทั่วไป
    นอกจากนั้น ได้เป็นที่ปรึกษาในการหาฤกษ์พานาทีช่วยเจ้าคณะจังหวัด ในการทำน้ำมนต์เสกเส้นฝ้าย ทำพระผงดำรูปกลีบบัวถวายเจ้าคุณอรรถฯ และหลวงพ่อคง วัดถนนหักใหญ่ด่านขุนทด เพื่อนำไปแจกจ่ายทหารทหารที่ไปสงครามอินโดจีน
    ต่อมาพระอุปัชฌาย์ทอง วัดบ้านขาม มรณภาพลง ชาวบ้านขามจึงนิมนต์ท่านไปอยู่ช่วยบูรณะวัดที่ชำรุดทรุดโทรม ซึ่งท่านได้บูรณปฏิสังขรณ์ให้กลับคืนสู่สภาพที่ดีดังเดิม แล้วได้ย้อนกลับไปเรียนทางปฏิบัติกัมมัฏฐานในสำนักอาจารย์ที่มีชื่อหลายวัด เช่น หลวงพ่อมี (ภายหลังได้เป็นพระครูญาณโสภิต) วัดป่าสูงเนิน และพระภาวนาโกศล (หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ) เป็นต้น
    ต่อมา ทางอำเภอโนนสูงขาดพระผู้ใหญ่ เจ้าคระจังหวัดจึงมีจดหมายนิมนต์ให้ท่านลับคืนมาอยู่ที่โนนสูง เมืองโคราชบ้านเกิด เพื่อให้รับตำแหน่งพระสังฆาธิการ บริหารการวัดและการคระสงฆ์


    ตำแหน่งหน้าที่การงาน การปครอง
    พ.ศ.๒๔๘๒
    - เป็นเจ้าอาวาสวัดใหม่สุนทร ตำบลโนนสูง อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา

    พ.ศ.๒๔๘๔
    - เป็นเจ้าคณะอำเภอโนนสูง

    พ.ศ.๒๔๘๖
    - เป็นพระอุปัชฌาย์

    พ.ศ.๒๕๒๐
    - เป็นเจ้าคณะอำเภอกิตติมศักดิ์อำเภอโนนสูง


    งานศึกษา
    พ.ศ.๒๔๘๒
    - เป็นเจ้าสำนักเรียนวัดใหม่สุนทร
    - เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม
    - เป็นกรรมการตรวจนักธรรมสนามหลวง

    พ.ศ.๒๔๘๔
    - เป็นกรรมการสอบธรรมสนามหลวง


    งานเผยแผ่
    พ.ศ.๒๔๗๐
    - เป็นพระธรรมกถึก

    พ.ศ.๒๔๘๔
    - เป็นพระอาจารย์ฝึกสอนพระธรรมกถึก

    พ.ศ.๒๕๐๘
    - เป็นหัวหน้าพระธรรมทูต ฝ่ายอำนวยการอำเภอโนนสูง


    งานพัฒนาวัด
    ที่วัดบ้านขาม ตำบลขามสะแสง (อำเภอขามสะแกแสง ในปัจจุบัน) จังวัดนครราชสีมา
    พ.ศ.๒๔๗๘
    - บูรณปฏิสังขรณ์กุฎีสงฆ์และศาลาการเปรียญที่ชำรุดทรุดโทรมให้อยู่ในสภาพที่ใช้การได้ดี

    พ.ศ.๒๔๘๔
    - ขุดสระน้ำขนาดใหญ่ และสร้างสวนป่า สวนผลไม้

    พ.ศ.๒๔๙๐
    - ก่อสร้างกุฎีสงฆ์

    พ.ศ.๒๔๙๔
    - ก่อสร้างศาลการเปรียญ

    ที่วัดใหม่สุนทร ตำบลโนนสูง อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา
    พ.ศ.๒๔๘๒
    - ก่อสร้างเสนาสนะถาวรวัตถุตามลำดับต่อเนื่องดังนั้น
    ๑.กุฎีสงฆ์
    ๒.หอสวดมนต์
    ๓.ศาลการเปรียญ
    ๔.ศาลปฏิบัติธรรม
    ๕.ศาลาปริวาสกรรม
    ๖.ลานปฏิบัติธรรม
    ๗.เจดีย์ที่บรรจุสังขาร
    ๘.ศาลโรงช้างโรงเสือ ที่ปฏิสันถาร
    ๙.อุโบสถ
    ๑๐.ฌาปนสถาน
    ๑๑.ซุ้มประตูวัด
    ๑๒.กำแพงวัด
    ๑๓.ปลูกต้นไม้และสร้างสวนป่าภายในวัด
    ๑๔.สร้างถนนภายในวัด
    ๑๕.ขุดสระน้ำขนาดใหญ่


    งานสังคมสงเคราะห์
    พ.ศ.๒๔...
    - บริจาคที่ดินสำหรับสร้างโรงเรียนมัธยมขามสะแกแสง โรงพยาบาลขามสะแกแสง และที่ว่าการอำเภอขามสะแกแสง

    พ.ศ.๒๕๓๔
    - จัดตั้งมูลนิธิศรัทธาพระครูพินิจยติกรรม (หลวงปู่แจ่ง ฉินฺมนฺโท) จดทะเบียนด้วยเงินทุนเริ่มต้น ๑,๐๑๖,๐๐๐ บาท หนึ่งล้านหนึ่งหมื่นหกพันบาทถ้วน) โดยพลตรีเรวัต บุญทับ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ ๓ เป็นประธานมูลนิธิ

    พ.ศ.๒๕๓๕
    - สร้างตึกสงฆ์อาพาธ และเครื่องมือแพทย์โรงพยาบาลโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา สิ้นเงิน ๔,๕๐๐,๐๐๐ บาท (สี่ล้านห้าแสนบาทถ้วน)


    สมณศักดิ์

    พ.ศ.๒๔๘๐
    - เป็นพระสมุห์ ฐานานุกรมพระอรรถจารสีมาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา

    พ.ศ.๒๔๙๐
    - เป็นพระครูที่ พระครูพินิจยติกรรม เจ้าคณะอำเภอชั้นตรี

    พ.ศ.๒๔๙๘
    - เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นโท ในราชทินนามเดิม

    พ.ศ.๒๕๐๑
    - เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ในราชทินนามเดิม

    พ.ศ.๒๕๑๓
    - เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม

    พ.ศ.๒๕๓๕
    - เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระอรุณธรรมโสภณ

    เกียรติคุณ
    - ตามชีวประวัติบอกถึงความเป็นศิลปินสาขามโหรีปี่พาทย์
    - มีอุปนิสัยใฝ่เรียน ใฝ่รู้ ใฝ่ดู ใฝ่เห็น สิ่งที่ประคุณเป็นประโยชน์
    - เป็นพระนักเทศน์นักสอน ฝีปากคมคารมกล้า เจ้าบทเจ้ากลอน
    - เป็นพระนักสร้างสรรค์พัฒนาศาสนา วัดวาอาราม และสังคม
    - เป็นพระชื่นชมยินดีในสมณเพศ สมณธรรม และสมณวิสัย
    - เป็นพระใจถึง เข้าถึงวิปัสสนาวิชาธรรมกาย สามารถถอดกายทิพย์ได้ตามที่หลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญพร่ำสอน
    - เป็นพระเกจิอาจารย์ สร้งเสกวัตถุมงคลมากรุ่นมากชนิดมีชื่อเสียง มีลูกศิษย์เคารพนับถือบูชาทั้งพระสงฆ์ คหบดี พ่อค้า ประชาชน ครูอาจารย์ ข้าราชการ พลเรือน ทหาร ตำรวจ ทั่วราชอาณาจักร


    อาพาธ
    ปกติเป็นคนมีสุขภาพแข็งแรง มาค่อยเจ็บไข้ได้ป่วยถึงล้มหมอนเสื่อ มีบ้างก็เล็กน้อยธรรมดา
    พ.ศ.๒๕๒๐ เริ่มอาพาธด้วยโรคชรา
    พ.ศ.๒๕๓๐ อาพาธด้วยโรคชรา
    พ.ศ.๒๕๓๒ อาพาธถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลผ่าตัดใส้ติ่งอักเสบ
    พ.ศ.๒๕๓๓ อาพาธด้วยโรคปวดเมื่อยตามข้อ
    พ.ศ.๒๕๓๕ อาพาธหนักด้วยโรคชรา


    มรณภาพ
    วันที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๕ เวลา ๐๑:๒๐ น.
    ณ โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา
    สิริรวมอายุ ๙๕ ปี พรรษา ๖๗
    ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก ประวัติเจ้าคุณอำเภอโนนสูง สำนักงานเจ้าคณะอำเภอโนนสูง วัดหนองหว้า
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาเวปอย่างสูงครับ

    เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่แจ้ง ตามสภาพเหรียญที่เห็นครับ

    ให้บูชา 1000 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ
    [​IMG] [​IMG]
     
  18. athithan_p

    athithan_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +452
    ได้รับแล้วครับ ขอบคุณครับ
     
  19. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระสมเด็จพุทธสิหิงค์ คลอง๑๘พิมพ์ปิดทองเดิมๆครับ พระดีพิธีดีครับ

    ด้านหน้าบล็อคเดียวกับสมเด็จวัดไร่วารีหลวงปู่ทิมครับ บางสายก็เล่นหากันนว่าเป็นหลวงปู่

    ทิมเสก เท็จจริงเช่นใดไม่ทราบข้อมูลครับ

    อั้นนี้ข้อมูลที่ค้นหาได้มาครับ

    ลพ.แดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี ปลุกเสกเดี่ยว 3 เดือน

    ลพ.เอีย วัดบ้านด่าน ปราจีนบุรี ปลุกเสกเดี่ยว 3 เดือน

    ลพ.ทบ วัดชนแดน เพชรบูรณ์ ปลุกเสกเดี่ยว 3 เดือน

    ลพ.สงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ชุมพร ปลุกเสกเดี่ยว 3 เดือน

    ลพ.เกษม ลำปาง อธิษฐานจิตนาน 35 นาที(ปกติท่านจะเสกแค่ไม่เกิน 5 นาที)

    ลพ.ทอง วัดก้อนแก้ว

    ลป.โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี

    ลป.ฝั้น อาจาโรและศิษย์สาย ลป.มั่นทุกองค์ ในพิธีวัดอโศการาม

    ให้บูชา 1200 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  20. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    แสดงกระทู้ - หลวงปู่บุดดา ถาวโร • ลานธรรมจักร

    อ่านประวัติท่านได้ที่นี้ครับ

    ปกติหลวงปู่บุดดาท่านมักจะพกกระป๋องแป้งติดตัวอยู่เสมอเพื่อประทานให้แก่ญาติโยมที่ไปกราบนมัสการ เมื่อหลวงปู่บุดดาและหลวงพ่อต่างกราบกันและกันเสร็จเรียบร้อยแล้วหลวงปู่บุดดาท่านได้ประทานแป้งใส่มือหลวงปู่ดู่ หลวงปู่ดู่ท่านรับมาแล้วนำมาทาบนศรีษะ

    มีญาติโยมที่นั่งอยู่ด้วยเรียนถามหลวงปู่ดู่ว่า ทำไมจึงนำแป้งไปทาบนศรีษะ

    ท่านตอบว่า

    "ของพระอรหันต์ให้ แกจะให้เอาไปทาที่ไหนละจึงจะสมควร เดี๋ยวจะกลายเป็นความไม่เคารพ นอกจากบนหัวของเรา"

    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน กล่าวไว้ว่า “...หลวงพ่อบุดดานี่เป็นพระสำคัญอยู่นะ ทางด้านจิตใจสำคัญอยู่...พอเชื่อแน่ในใจแล้ว ผู้เฒ่านี่เป็นพระสำคัญ ในสำนวนโวหารพูดอะไรออกมามันก็แปลกๆ อยู่ มันแปลกมาจากใจนั่นละ จะแปลกมาจากไหน ใจไม่แปลกมันก็ไม่แปลกถ้าใจแปลก มันแปลกทั้งนั้น กิริยาแสดงออกมามันแปลก มันแปลกออกมาจากหัวใจ ผู้เฒ่าสำคัญอยู่องค์หนึ่ง...”

    ที่สรุปไว้อย่างรวบรัด ชัดเจนที่สุดมาจาก หลวงปู่สิม พุทธาจาโร

    “ยอดเยี่ยมที่หนึ่งเลย แก่ทั้งอายุ แก่ทั้งพรรษา แก่ทั้งมรรคผลนิพพาน”

    ที่ว่าแก่ทั้งอายุ เพราะสิริรวมอายุมากถึง 100 ปี 7 วัน

    แก่ทั้งพรรษา เพราะนับได้ 73 พรรษา

    แก่ทั้งมรรคผลนิพพาน เพราะท่านบรรลุมรรคผลนิพพานมาตั้งแต่ยังหนุ่ม

    �������˵� ��ǧ���ش�� ����� �¾ط�ǧ��

    อ่านเรื่องราวดีๆของหลวงปู่ได้ที่เวปนี้ครับ

    ...........พระปิดตาแป้งเสก หลวงปู่บุดดา ถาวโร............พิธีใหญ่วัดบวรและหลวงปู่

    เมตตาอธิฐานจิตให้องค์เล็กจิ๋วน่าบูชาอย่างยิ่งให้เด็กเล็กๆสตรีหรือชายชาตรีแขวนได้ดีครับ

    เลี่ยมทองก็เบาๆครับ มี50องค์ครับ ปัจจุบันบางเวปให้บูชากันองค์ละ300-700บาทแล้ว

    ก็มีคนบูชาด้วย ผมเก็บไว้เยอะ เก็บไว้มากก็ขลังอยู่แต่ทีี่เก็บเลยนำมาแบ่งให้บูชา

    ให้บูชาเป็นคู่นะครับ คู่ละ 200 บาท ค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG]

    พระปิดตารุ่นนี้ เสกตั้งแต่ยังเป็นแป้งนะครับ ดูในรูปจากหนังสือเก่าๆที่ผมเก็บไว้

    หลวงปู่บุดดาท่านเมตตอธิฐานจิตตั้งแต่ยังเป็นแป้ง และนำไปเข้าพิธีที่วัดบวร

    โดยสมเด็จพระสังฆราช องค์ปัจจุบัน สมัยท่านยังทรงมีสุขภาพแข็งแรง

    และในพิธีก็มีหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ร่วมอธิฐานจิตด้วย ..........พระเก่า

    ร่วม20ปี มวลสารดีพิธีดี น่าบูชาและคุ้มค่าเงินบาทแน่นอนครับ

    [​IMG] [​IMG]

    .......
    เอ่ยถึงพระหลวงปู่บุดดา คนเล่นพระอาจมองข้ามไปอย่างรวดเร็ว เนื่องด้วยเหตุผล พระท่านไม่ดัง พระท่านไม่แพง หรือห้อยแล้วไม่เท่ โชว์ไม่ได้ หรือไม่มีข่าวคราวปาฏิหาริย์อะไร อย่างฟันไม่เข้าหรือยิงไม่เข้าตามหน้าหนังสือพิมพ์ อันนี้ ขอท่านได้พิจารณาให้รอบคอบ
    อันศักดิ์ศรีของหลวงปู่บุดดานั้น แม้จะดูธรรมดาในสายตาชาวโลก แต่สายของเหล่ากองทัพธรรมนั้นสูงสุดจะบรรยาย

    ครั้งหนึ่งท่านได้เดินทางไปสนทนาธรรมกับหลวงปู่ดู่ วัดสะแก หลวงปู่บุดดาได้เทแป้งเสกลงในมือหลวงปู่ดู่ และทันทีทันใดเหมือนกัน หลวงปู่ดู่รีบเทแป้งเหล่านั้นลงบนศรีษะท่านจนขาวโพลนไปหมด ท่ามกลางความ ตกตะลึง ของเหล่าลูกศิษย์ท่านมากๆ เพราะปกติหลวงปู่ดู่ท่านมีกิริยาที่เรียบร้อยเอามากๆ จนเมื่อหลวงปู่บุดดากลับไป ลูกศิษย์ท่านหนึ่ง ถามหลวงปู่ทันที

    " หลวงปู่ทำไมเทแป้งอย่างนั้นล่ะครับ" ท่านตอบทันที

    "ก็ผง พระอรหันต์ ท่านให้ จะให้เอาไว้ตรงไหนนอกจากบนศรีษะของเรา ไม่งั้นจะเป็นการไม่เคารพ"

    และที่สำคัญในพิธีเปิดโลกที่แสนสะโด่งดังนั้น หลวงปู่ดู่ท่านยังเชิญบารมีขององค์หลวงปุ่บุดดามาร่วมเสกด้วย (ทางญาณนะครับ)

    แม้แต่องค์หลวงปุ่ชา วัดหนองป่าพง พระเถระที่ปกติไม่สรรเสริฐพระองค์ไหนง่ายๆ ในวันหนึ่ง เมื่อท่านทราบว่าหลวงปุ่บุดดา นั่งอยุ่บนรถบัส ท่านถึงพูดกับลูกศิษย์ว่า

    " ไม่ให้ท่านลงมานะ เราจะขึ้นไปกราบหลวงปุ่บุดดาบนรถเอง"

    แล้วท่านก็ขึ้นไปทั้ง กราบ ทั้ง ไหว้ อย่างเคารพและเรียบร้อยที่สุด

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุงท่านเคยบอกให้ลูกศิษย์ไปกราบ หลวงปู่บุดดา ตั้งแต่ที่ท่านยังอยุ่ที่วัดอาวุธ ฝั่งธน กทม. โดยให้เหตุผลว่า " รีบไปกราบท่านนะ หลวงปู่องค์นี้ ท่านเป็นพระทองคำ ท่านจะไม่มาเกิดอีกแล้วนะ " และยกย่องหลวงปุ่บุดดาอีกหลายครั้ง และหากท่านสงสัยในกัปกริยาที่ค่อนข้างจะแหวกแนว และ ล่อแหลมขององค์หลวงปู่ ที่มักทำอะไรที่คนทั่วไปมองว่าผิดปกติ ขอให้คิดเอาเสียใหม่ นี่คือเนื้อนาบุญของแท้

    ซึ่งแม้แต่หลวงปู่สิม แห่งสำนักสงฆ์วัดถ้ำผาปล่อง ยังขอถวายสังฆทานและจีวร เป็นการเฉพาะ และบอกว่า " หลวงปู่บุดดา ยอดเยี่ยมที่หนึ่ง แก่ทั้งอายุ แก่ทั้งพรรษา และแก่ทั้งมรรคผลนิพพาน"

    หากท่านสงสัยในพุทธคุณที่หลวงปู่บรรจุไว้ในองค์พระแล้ว โปรดอ่าน

    ครั้งหนึ่งมีคนนำพระไปให้ท่านเสก ส่งไปแล้วท่านก้อส่งกลับ ทำอย่างนี้ถึง 3 ครั้ง โดยไม่แสดงอาการ เสก แต่อย่างใด ท่ามกลางความงุนงงของผุ้นั้นมาก จนหลวงพ่อองค์หนึ่งที่นั่งอยุ่ที่นั้นบอก " พระองค์นี้ออกรบได้แล้วล่ะโยม " เต็ม ตั้งแต่ที่ส่งมาให้แล้ว ........ตกใจไหม...... และเมื่อมีคนนำพระไปให้ครูบาสร้อย วัดมงคงคีรีเขต จ.ตาก พระอาคมขลัง ที่ผู้อ่านศักดิ์สิทธิ์คงรุ้จักกันดี ช่วยเสกซ้ำอีกที ท่านได้ปฏิเสธและให้เหตุผลว่า

    "เต็มแล้ว เสกไม่ได้แล้ว" แม้แต่องค์หลวงพ่อพุธ ยังปฏิเสธเหมือนกัน และบอก " จะให้เสกทับไปได้อย่างไร หลวงปู่บุดดาก็เป็นครูบาอาจารย์องค์หนึ่งของเราเหมือนกัน" สุดยอดจิงๆ

    ทุกวันนี้เราหาพระที่จะมาห้อยคอนั้น ง่ายเหลือเกิน แต่จะหาพระแท้ มาห้อยนั้น ยากครับ หากท่านเล่นพระ บูชาพระที่พุทธคุณ ไม่ใช่เล่นที่ค่านิยม อันเป็นเรื่องของทางโลกแล้ว พระหลวงปู่บุดดาเป็นอีกองค์หนึ่งซึ่งผม ขอฝากไว้ในใจท่านทั้งหลายครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...