เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

เทยฺยํ ททนฺตยมฺมิยตฺ ตปสนฺนจิตฺตา

ทตฺวา นรา ผลมุลํ รตนํ สรนฺติ

ตํ สพฺพทา ทสพเล นปิ สุปฺปสฏฺฐํ

สงฺฆํ นมสฺสถ สทา มิตปุญฺญเขตฺตํ

ชนทั้งหลายมีจิตเลื่อมใสแล้วในความที่พระสงฆ์ผู้สืบวงศ์จากพระอรหันต์ผู้ไม่มีความยึดถือ

พากันถวายสิ่งที่ควรถวาย ครั้นถวายแล้วต่างก็ระลึกถึงพระรัตนะอันเป็นต้นเดิมแห่งผล(พระพุทธรัตนะ พระธรรมรัตนะ)

ขอเชิญท่านทั้งหลายนมัสการพระสงฆ์นั้น ซึ่งแม้พระทศพลก็ทรงตรัสสรรเสริญเป็นอันดีในกาลทั้งปวงว่า เป็นบุญเขตอันหาที่เปรียบมิได้ทุกเมื่อเทอญ

(บทระลึกถึงพระสังฆรัตนะ จากศิลาจารึกเนินสระบัว ดงศรีมหาโพธิ ปราจีนบุรี ประพันธ์โดย พระพุทธสิริ เมื่อ พ.ศ.๑๓๐๔)

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่ทรง หลวงปู่บุญศรีครับ

สวัสดีครับพี่พีและทุกท่าน ตอนนี้มหากาพย์บทใหม่กำลังเริ่มต้น ดีใจจังได้มีอะไรอ่านสนุกยามว่างครับ

 

จะรออ่านคับลุงผมก็ศรัทธาหลวงปู่คับแต่หาอ่านประวัติของท่านยากเหมือนกันนะคับ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ
กราบ กราบ กราบ หลวงปู่พระครูบุญศรีครับ

สวัสดีครับพี่พี พี่น้องบ้านเหรียญบินทุกๆท่าน<!-- google_ad_section_end --> ครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

ขอความช่วยเหลือนิดครับ ทำอย่างไรผมจะเปลี่ยนหรือดัดแปลง ชื่อกระทู้ได้ครับ ลองกดดูไม่ได้ผลครับ

 

รอติดตามประวัติหลวงปู่บุญศรีครับ

 

​

ประวัติวัดใหม่ศรีสุธทาวาส​

วัดใหม่ศรีสุทธาวาส เดิมชื่อ “ วัดใหม่กฐินราย “ ตั้งอยู่ที่ หมู่ ๑ ตำบล น้ำทรง อำเภอ พยุหคีรี จังหวัดนครสวรรค์ โดยอยู่ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทางทิศตะวันตก เป็นวัดที่ตั้งห่างไกลจากตัวอำเภอประมาณ 7 - 8 กิโลเมตร อยู่คนละฟากแม่น้ำ มีบ้านเรือนอยู่รอบวัดประมาณ 100 หลังคาเรือน วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อใด ใครเป็นผู้สร้าง ไม่ปรากฎหลักฐาน เพียงอนุมานว่า สร้างขึ้นในยุครัตนโกสินทร์ ราวปี พ.ศ.2469 มีเจ้าอาวาสปกครองวัดประมาณ 4 องค์ ก็ขาดพระภิกษุดูแล วัดชำรุดทรุดโทรมและกลายเป็นวัดร้างไปตามกาลเวลา​

หมายเหตุ : เดิมชาวบ้านเรียกวัดใหม่ เฉยๆ พอหลวงปู่มาอยู่ ผมถามท่านเอง ท่านบอกว่าฉันตั้งชื่อเอง เป็น วัดใหม่ศรีสุทธาวาส ( ชื่อนี้ไม่เป็นชื่อแบบเป็นทางการ ) คำว่า ศรีมาจากชื่อท่าน ส่วนคำว่า สุทธาวาส พวกท่านคงทราบดี ว่าเป็นที่อยู่ของพรหมชั้นสูงสุด มาถึงตอนนี้ หลวงปู่ท่านก็ล่ะสังขารไปแล้ว ผมบอกตามความเชื่อของผมเลยว่า ที่ท่านมาแล้วตั้งว่าคำว่า สุทธาวาสต่อ ก็คือที่ที่ท่านอยู่ในตอนนั้นนั่นเอง ส่วนจะที่ไหน พวกท่านกรุณาคิดกันเอาเอง​

จนกระทั่งเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันคือ พระครูบุญศรี อินฺทวณฺโณ อายุประมาณ ( อย่างน้อย ) ๙๖ ปี จากการประเมินตามคำบอกเล่าของหลวงปู่ว่าท่านเกิดในสมัยรัชกาลที่ ๕ อันนี้มีผู้ได้ยินหลายคน มีพยานอยู่ และท่านว่าท่านเกิดวันอาทิตย์ปีมะเส็ง และท่านบอกเองว่าว่าใบสุทธิลงปีผิด แต่ท่านไม่สนใจ ปล่อยเลยตามเลย เมี่อคำนวนดูว่าสิ้นสมัยรัชกาลที่ ๕ เมี่อ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๓ ปีจอ​

หมายเหตุ : ผมเคยพาหลวงปู่อาจารย์ ไปตรวจปากและทำฟัน ( ปลอม ) ที่นครสวรรค์ ฟันท่านร่วงหมดปากแล้ว ไม่มีแม้แต่ซี่เดียว แต่ร่างกายแข็งแรงมาก เดินเหินตัวปลิว ไม่ต้องมีไม้เท้า ไม่ต้องมีพยุง ( จะเข้าไปพยุงท่านจะปัดมือออก เป้นที่รู้กันในหมู่ศิษย์ใกล้ชิด หมอฟันเมื่อตรวจหลวงปู่บนเตียงทำฟันแล้ว ฉงนมาก ว่าหลวงปู่อายุเท่าไหร่ เพราะคนจะฟันร่วงหมดปากนี่ อายุ แบบว่า ใกล้ร้อยเข้าไปแน่ๆ พอหมอถามหลวงปู่ ว่าหลวงปู่อายุเท่าไหร่ ท่านยกมือซ้ายกางนิ้วมือมา ๕ นิ้ว แล้วยกให้ดูสองครั้ง หมายถึง เกิดรัชกาลที่ ๕ อยู่มา ๕ แผ่นดิน ( หายากแล้วล่ะครับ ) และที่ไม่น่าแปลกใจ หวยงวดนั้น ออก ๕๕ ครับ​

หลวงปู่ ท่านเคยบอกว่า ท่านชาตะ วันอาทิตย์ และเคยบอกอีก ต่างเวลาและเหตุการณ์กันว่าปีมะเส็ง ผมเอามาผูกกัน ถ้าท่านเกิดปีมะเส็งที่ทันรัชกาลที่ ๕ ก็ต้องเป็นปี พ.ศ. ๒๔๔๘ ท่านจะมีอายุก่อนละสังขารไม่ต่ำกว่า ๙๖ ปี ( ๑๘ มกราคม วันเกิดหลวงปู่ ) แต่ถ้าเกิดก่อนอีกรอบจะมีอายุประมาณ ๑๐๘ ปี!!! ( พ.ศ. ๒๔๓๖ ถ้า เกิด พ.ศ. นี้ จะมีอายุใกล้เคียงกับ หลวงปู่บุดดา ถาวโร ครับ ) แต่จากใบสุทธิหลวงปู่จะมีอายุประมาณ ๘๔ ปี ตอนล่ะสังขารหลวงปู่ได้มาจำพรรษาที่วัดใหม่ศรีสุทธาวาส เมื่อประมาณ ปี พ.ศ.๒๕๐๓ จนละสังขารเมี่อ วันพุธที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๔๔ เวลาประมาณ ๙ โมง ๑๕ นาที ด้วยอาการอันสงบ​

หมายเหตุ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี. ชาตะเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๐


( จะมีอายุอ่อนกว่า หลวงปู่ บุญศรี ๑๒ ปี คนล่ะรุ่นกันครับ )

ตามประวัติ พระเดชพระคุณ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ และ หลวงพ่อฤาษีลิงเล็ก เป็นรุ่นเดียวกัน ไปเป็นทหารพร้อมกัน คนจะเกณฑ์ทหาร รุ่นเดียวกัน ยศเดียวกัน ถ้าผมจำไม่ผิดคือยศ เรือตรี จะมีอายุใกล้เคียงกัน จะอายุแก่ อ่อนกว่ากัน ๑๒ ปี เป็นไปไม่ได้ครับ เมื่อมาบวชก็มาพร้อมๆกัน และผมมีหลักฐานมาพิสูจน์อีกว่า พระเดชพระคุณหลวงปู่พระครูบุญศรี ไม่ได้เกิดปี ๒๔๖๐ ตามที่เข้าใจกัน


หมายเหตุ หลวงปู่บุดดา ถาวโร กำเนิด วันเสาร์ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะเมีย ตรงกับวันที่ 5 มกราคมพ.ศ. 2437

( จะมีอายุ แก่กว่าหลวงปุ่บุญศรี ๑๑ ปี คนล่ะรุ่นกันอีกเหมือนกันครับ )

ที่อัญเชิญชาตะ หลวงปู่บุดดามาก็เพราะว่ายุคหนึ่ง คนก็เชื่อกันว่า ท่านคือ ฤาษีลิงขาว ดูจากวัยแล้ว หลวงปู่บุดดาอาวุโสกว่าหลวงพ่อฤาษีลิงดำมาก ไม่มีทางเป็นรุ่นเดียวกันได้

​

ประวัติหลวงปู่พระครู บุญศรี อินฺทวณฺโณ
​

จากคำบอกเล่าของหลวงปู่เอง และจากคุณน้าสมพงษ์ บูรณานันท์ ( หลานหลวงปู่อายุ ๖๕ ปี เกิด พ.ศ. ๒๔๗๖)

ครูเพชร แพ่งเกษร ครูเจริญ วัดใหม่ฯ และจากใบสุทธิ ของท่าน

จากใบสุทธิ

ชื่อ บุญศรี นามสกุล สังขะพานิช

วิทยฐานะ ชั้นมัธยม ๓ ( จัดว่าสูงมากในยุคนั้น ) อาชีพ พานิชกรรม

บิดา นาย ทองหยู่ ( ซีปู้ แซ่เตีย แต้จิ๋ว ) มารดา นาง ทิน ( ทับทิม ลูกครึ่งไทย จีน )

เกิด วันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๐ ตรงกับ วัน พุธ แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๒ ปี มะเส็ง ( หลังรัชกาลที่ ๕ สวรรคต )

แต่ในใบสุทธิเขียน เกิดวัน ๑ ฯ ๒ ค่ำ ปี มะเส็ง ๒๔๖๐ ซึ่งหลวงปู่บอกว่าผิด

ตำบล ตลุก อำเภอ สรรพยา

จังหวัด ชัยนาท

สีเนื้อ ขาวเหลือง สัณฐาน สูง

ตำหนิ แผลเป็นใต้ศอกขวา

บรรพชา

ชื่อ สามเณร บุญศรี ฉายา อินฺทวณฺโณ

พระครูอุทิศธรรมวินัย เป็นอุปัชฌายะ

บรรพชาเมื่ออายุ ๒๑ ปี

วันที่ ๑๙ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๓

ณ วัดทุ่งหลวง ตำบล ทุ่งพงษ์ อำเภอ หนองฉาง จังหวัด อุทัยธานี

อุปสมบท

ชื่อ พระ บุญศรี ฉายา อินฺทวณฺโณ

พระครูอุทิศธรรมวินัย เป็นอุปัชฌายะ

พระอาจารย์ ทรง กรรมวาจาจารย์

พระอาจารย์ ปิ่น อนุสาวนาจารย์

อุปสมบทเมื่ออายุ ๒๑ ปี

วันที่ ๑๙ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๓

( น่าจะบรรพชาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๑ การบันทึกผิดไปรอบหนึ่ง หลวงปู่ท่านบอกว่า ใบสุทธิมาทำใหม่ทีหลัง และผิด แต่ถ้าเรารู้นิสัยท่าน ท่านจะเป็นคนนิ่งๆ เฉยๆ และเลยตามเลย )

ณ วัดทุ่งหลวง ตำบล ทุ่งพงษ์ อำเภอ หนองฉาง จังหวัด อุทัยธานี

ชื่อ พระบุญศรี

ฉายา อินฺทวณฺโณ

วัด สะพานหิน

ตำบล หาดทะนงค์

อำเภอ เมืองอุทัยธานี จังหวัด อุทัยธานี

วันที่ ๑๙ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๓

เจ้าอาวาส พระครูอุทิศธรรมวินัย เจ้าคณะอำเภอเมืองอุทัยธานี

สำนักที่จำพรรษา (จากคำบอกเล่าของหลวงปู่ )

๑) วัดสพานหิน ( หลวงปู่เล่าว่า ได้ฝากตัวเรียนวิชา พระคาถาอาคมกับพระอาจารย์ บุญธรรม วัดทุ่งหลวง โดยมีข้อแม้ว่าต้องบวช ในรุ่นท่านมีอยู่ ๕ คนที่บวชเข้ามาเรียนวิชา เมื่อกราบเรียนถามท่านว่า พระอาจารย์ บุญธรรมเก่งไหม ท่านตอบว่า เก่ง แต่ไม่ปรากฏว่าสร้างพระเครื่องรางของขลังไว้ )

๒) วัดโบสถ์ ๑ พรรษา

๓) วัดไชโย ๑ พรรษา เคยเดินไปเที่ยววัดพิกุลทอง สิงห์บุรี พระครูพุทธพิมพ์ภิบาล เป็นเจ้าอาวาสและเป็นเจ้าคณะอำเภอ มีเรือยนตร์ ๒ ลำ

๔) วัดที่จังหวัดอุตรดิตย์ ตรงข้ามวัดท่าเสา ๑ พรรษา

๕) วัดทุ่งหลวง หนองฉาง อุทัยธานี ๓ พรรษา เป็นเจ้าอาวาส ครูเจริญครูโรงเรียนวัดใหม่เคยคุยกับคนส่งที่เคยจัดส่งปิ่นโตให้หลวงปู่

๖) วัดสพานหิน ? วัดบ้านกล้วย?

๗) วัดสำโรง พยุหคีรี

๘) วัดใหม่ศรีสุทธาวาส เป็นเจ้าอาวาส ประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๓ ถึง ๒๕๔๔ จนล่ะสังขาร


ประวัติส่วนตัว

เกิดที่อำเภอวัดสิงห์ คุณยายอยู่สรรพยา คุณยายเป็นผู้บวชให้ ( จากคำบอกของหลวงปู่ บวชเมื่ออายุ ๒๓ ปี )

มีพี่น้อง ๕ คน เป็นอันดับต่อไปนี้

๑) คุณยาย กิมยู้ เสียชีวิต ตอนเสียชีวิตอายุ ๘๐ กว่า เสียมา ๑๐ กว่าปี ( จากคำบอกเล่า นับตอน พ.ศ. ๒๕๔๐ ) คุณยาย กิมยู้ น่าจะเกิด ประมาณ พ.ศ. ๒๔๔๐ กว่า

๒) หลวงปู่ ( ตี้ ) ซึ่งเกิดตามมา ผมเชื่อว่าท่านเกิด พ.ศ. ๒๕๔๘ ครับ และน่าจะบวชเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๑ ครับ

๓) คุณปู่เท้า

๔) คุณยาย กิมเอง เสียชีวิตแล้ว ( ๒๕๔๐ )

๕) คุณยาย ละมูล แซ่ ลี เกิดปีวอก ( ๒๔๖๑ ) อายุ ๘๐ ปี ตอนปี ๒๕๔๐

ไม่เคยเป็นทหารมาก่อน จากคำบอกเล่าของหลวงปู่เองว่า เกือบโดนเกณท์เป็นทหารม้าที่สระบุรีเพราะขี่ม้าเป็น ท่านแสดงรอยสักที่ท้องแขน ว่าข้างขวาเป็นรอยสักทับรอยสักเดิมสมัยเป็นเด็กสักเล่นๆ ส่วนบนท้องแขนข้างซ้ายเป็นรอยสักฉายา อินฺทวณฺโณ

หลวงปู่ละสังขารเมี่อวันพุธที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๔๔ เวลาประมาณ ๙ โมง ๑๕ นาที ด้วยอาการอันสงบ

ข้างบนเป็นบันทึกมาจากใบสุทธิ และจากคำบอกเล่า กว่าผมจะรู้แค่นี้ใช้เวลาเป็นปีๆ สาเหตุเพราะท่านเป็นคนไม่พูดมาก ถามคำตอบคำ และ ไม่ชอบเล่าประวัติ พอคุยๆไป วกมาถาม ท่านก็บอกที พอรู้ว่าเราจะถามประวัติ ท่านก็หยุด คราวนั้นเป็นอันว่าอด ต้องรอไปอีกสักหลายเดือน เป็นสองสามเดือน รอท่านไม่ระวังตัว คุยๆไปคุยมา วกมาถามต่ออีกที ก็ได้อีกหน่อย เหตุการณ์ก็เป็นแบบเก่า ต้องเผลอๆ แอบถามไปเรื่อยๆ แล้วเอามาปะติดปะต่อกัน

ผมจดไว้ กันลืม ผมจะเล่าไปเรื่อยๆ แต่พอมาถึงยุคที่ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ท่านแล้ว ท่านเมตตารับไว้ พอผมสนิทๆกับท่าน รู้แกวว่าจะถามอะไรลึกๆ ต้องอยู่กันแค่สองคน

ครั้งสำคัญคือผมถามที่สงสัยว่า หลวงปู่คือหลวงพ่อฤาษีลิงเล็ก หรือปล่าวครับ ท่านยกมือปฏิเสธทันที และบอกว่า ไม่ใช่ เขาเข้าใจกันผิด และผมทราบนิสัยว่า เมื่อท่านบอกไม่ใช่แล้ว พวกก็ยังมาตื้อให้ใช่อีก ( ด้วยเหตุผล ต่างๆ ตามความเชื่อส่วนตัว ) ท่านก็จะเฉยซ่ะ ปล่อยเลยตามเลย

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง

เห็นด้วยอีก1เสียงครับ

 

ใบสุทธิ หลวงปู่ และบัตรประจำตัว คุณยายละมูล

จากประวัติหลวงปู่ที่สอบถามท่านและ คุณป้าสมพงษ์ที่เป็นหลานมาคอยปรนนิบัติหลวงปู่เมื่อตอนท่านป่วยมาก หลวงปู่มีพี่น้อง ๕ คน หลวงปู่ท่านเป็นคนที่สอง และคุณยายละมูลเป็นคนสุดท้อง คุณยายละมูล เกิดเมื่อปี ๒๔๖๑ ห่างจากหลวงปู่ สาม คน เพราะฉนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่หลวงปู่จะชาตะ ในปี ๒๔๖๐ ปีเดียวกับหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ในใบสุทธิ จะเห็นลายมือหลวงปู่ไว้ด้วยว่า พระบุญศรี เป็นคนมีความรู้สูง ลายมือสวย ม.๓ สมัยนั้น ท่านอ่านและพูดภาษาอังกฤษได้ดี ยังเคยแปลให้ผมฟัง เมื่อผมเอาเอกสารภาษาอังกฤษไปหาท่าน จะเล่าให้ฟังทีหลัง

นอกจากนั้นยังมีลายนิ้วมือของหลวงปู่กดไว้ด้วยครับ

ใบสุทธิ หายไปนาน เมื่อโรงเรียนวัดใหม่ อยู่ติดกับวัดใหม่ มีขยะเยอะ ครู ( เจริญ ) เลยเอาขยะไปเผาส่วนใหญ่จะเป็นกระดาษ ขยะใหม้ไฟ แต่ใบสุทธิไม่ไหม้ เป็นเรื่องแปลกมาก ครูเลยเขี่ยเอามาดู เห็นเป็นใบสุทธิ ของหลวงปู่ เลยเอามาคืนหลวงปู่ ผมเคยเห็นใบสุทธิอันนี้ และ ถ่ายซีร็อคไว้ ตอนนี้ไม่ทราบหายไปไหน

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง หลวงปู่บุญศรีครับ

 

มาตามอ่าน.. ตอนต่อไป
พระใน(ดวง)ใจ พี่พี เสาวภา ครับ

 

กราบหลวงพ่อทรง หลวงปู่พระครู บุญศรี
สวัสดีครับ พี่พี และพี่น้องบ้านเหรียญบินทุกท่าน
เข้ามารายงานตัวครับ
ขอบารมีหลวงพ่อทรง และ หลวงปู่พระครู บุญศรี คุ้มครองทุกท่านครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

พี่พีเล่าเรื่องหลวงปู่ได้ละเอียดถี่ยิบเลยครับ สมกับการรอคอยทีเดียว โดยเฉพาะคำยืนยันที่ว่าหลวงปู่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหลวงปู่ฤาษีลิงเล็กครับ สาธุ...

 

กาบ กราบ กราบหลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรงครับ

 

ครับเดี๋ยวผมเขียนต่อไปเรื่อยๆตามสไตล์ของผม

แต่ที่ต้องเข้าใจคือ ผมไม่มีอะไรกับใครส่วนตัว แต่ชื่อเสียงของ หลวงปู่ บุญศรี และ หลวงพ่อ ฤาษีลิงดำ ใช้ถูกหากินมานานและผมไม่อยากให้เอาชื่อ อาจารย์ของผม ในเรื่องไม่จริงมาหากิน เอาเรื่องมาผูกกัน ว่าเป็นศิษย์หลวงปู่ ปาน วัดบางนมโค ว่าเรื่องให้ยาว แต่ลงท้ายก็ขายของ เป็นตั้งแต่สมัยหลวงปู่ยังอยู่ ศิษย์ใกล้ชิด ชาวบ้าน ก็ใช้ช่องว่างความเชื่อตอนนี้ เอามาหล่อรูปฤาษีลิงเล็กขาย ใส่กล่องเสร็จ องค์ล่ะ ร้อยบาท

ผมไปที่วัดตอนหนึ่ง เจอท่านท่านรีบเล่าเลยว่า หลวงพี่ อนันต์ ( เจ้าอาวาสวัดท่าซุง ) ปัจจุบันมาหาท่านและมาถามว่า หลวงปู่คือ ท่านฤาษีลิงเล็กหรือไม่ หลวงปู่ก็ตอบแบบเดียวกับบอกผมคือ ไม่ใช่ เขาเชื่อกันไปแบบนั้น

แต่ผมไม่ปฏิเสธ เรื่องความเกี่ยวข้องของทั้งสองท่าน จะเป็นทางใดผมไม่ทราบ เพราะเกิดไม่ทัน สมัยท่านยังหนุ่มๆกัน แต่จะให้ข้อคิดไว้ว่า เจ้าอาวาสองค์ต่อมาของวัดบางนมโคก็ชื่อ เล็ก และ หลวงปู่บุญศรีสมัยยังไม่บวช ท่านค้าขาย ทางเรือ จัดว่ามีฐานะ และเคยไปเรียนอยู่ที่ อ่างทอง มาหลายปี และแม้แต่บวชแล้วก็ยังไปจำพรรษาอยู่ที่อ่างทอง เช่นวัด เกษไชโย ในยุคนั้นหลวงปู่ปาน มีชื่อเสียงมาก การที่หลวงปู่บุญศรีจะไปมาหาสู่ หลวงปู่ปานก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะแค่นั่งเรือไปจากอ่างทอง ไม่ใช่สิ่งสุดวิสัย และหลวงปู่ปานมีศิษย์ เข้าป่าไปก็เยอะ และศิษย์แต่ล่ะรุ่นก็ไม่จำเป็นจะต้องเคยเจอกันหรือ รู้จักกัน หลายรุ่น และสมัยหนุ่มๆ หลวงปู่บุญศรีชอบเรียนวิชา คาถาอาคม การที่ท่านจะไปหาอาจารย์เก่งๆเพื่อเรียนวิชาก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย ในยุคนั้น อาจารย์เก่งๆ แถวอ่างทอง สุพรรณ อยุธยา มีเพียบ

แต่อาจารย์หลักๆของท่าน จะเป็นหลวงปู่ บุญธรรม เป็นพระมอญ หลวงปู่บุญศรี บอก หลวงปู่ บุญธรรมเก่งมาก และผมไม่เคยได้ยินท่านชมใครให้ได้ยินอีก

หลวงปู่บอกผมเองว่าไปบวชเพราะอยากเรียนวิชา คาถา อาคม และ ข้อแม้ของหลวงปู่บุญธรรมคือต้องบวช แต่ ท่านไม่ได้ บรรยายว่าต้องบวชไม่สึก และหลวงปู่ก็บวชจนล่ะสังขารในผ้าเหลือง ส่วนจะเป็นวิชาอะไร เด็ดๆ ให้อดใจรอ...แหะๆ แต่จะบอกใบ้ว่า หลวงปู่เรียนมาเยอะ ทั้ง คาถาอาคม การลงเลขยันต์ การเป็นหมอว่านยา หมอสัก และ หมอน้ำมนต์

แต่ตอนที่ผมไปพบท่าน ท่านเลิกหมดทุกอย่างแล้ว เข็มสักก็โยนลงแม่น้ำ และท่านบอกผมเองว่าไม่ได้ทำมานาน มันลืม...แหะๆ ผมไม่ชอบสักเลย เจออาจารย์มาหลายองค์ ไม่สนใจ แต่พอเป็นหลวงปู่ ผมก็ไปตื้อท่านอยู่หลายรอบ จน ท่านบอกให้นอนลง แล้วท่านเอาปากกาแมจิกลงหน้าอกให้ และบอกว่าเหมือนกัน ผมเลยได้มาแค่นั้น

 

เข้ามาติดตามครับพี่พี

ถ้าอย่างนั้นก็จริงอย่างที่พ่อผมบอก

หลวงพ่อฤาษีลิงเล็ก ก็คือ หลวงพ่อ ยงยุทธ ชื่อวัดป่าไม้แดงรึป่าวไม่แน่ใจ อยู่ที่ชลบุรี

ผมเองก็งงๆ ที่เขาบอกกันว่า หลวงพ่อบุญศรีคือ ฤาษีลิงเล็ก

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง หลวงปู่อั๊บ ครับ

 

สิ่งนี้ผมไม่กล้าวิจารณ์น่ะครับ เพราะไม่รู้จริง แต่ข่าวเรื่อง หลวงปู่ฤาษี ลิงเล็ก ฤาษีลิงขาว มีการพูดจากันหลายเรื่องและ พระเดชพระคุณท่านผู้มีบุญใหญ่วัดท่าซุงไม่เคยออกมารับรองด้วยประการใดๆแบบเป็นทางการ

ลูกศิษย์วัดท่าซุงมีมาก มีงานทีรถติดเป็นกิโล ลูกศิษย์ เองก็มีหลายกลุ่ม ไม่ได้รู้จักกันหมด มีหลายรสนิยม หลายความเชื่อ แต่มีสิ่งเดียวที่เหมือนกันคือรักและเคารพ พระเดชพระคุณ หลวงพ่อวัดท่าซุงเหมือนกัน นอกเหนือจากนั้น อาจจะเชื่อไม่เหมือนกันเลยก็ได้ครับ

ตามประวัติ หลวงพ่อ ฤาษีลิงขาว และ ลิงเล็ก พระเดชพระคุณ หลวงปู่ปานสั่งไว้ให้อยู่ในป่า เพราะมีอภิญญาสูง เป็นพระแนว ฉฬภิญโญ มีฤทธิ์มากเป็นพิเศษ การมีฤทธิ์มากจะอยู่ร่วมกับคนลำบากเพราะคงไม่มีความสุข สงบ คนคงไปรบกวน พระเดชพระคุณหลวงปู่ปานเลยสั่งไว้ให้ไปอยู่ในป่า เมื่อเป็นคำสั่งอาจารย์ผู้สร้างชีวิตรองมาจากบุพการี พระเดชพระคุณทั้งสององค์คงอยู่ในป่าครับ

และผมเชื่อตามนั้นครับ เพราะหลวงพ่อผู้มีบุญสูงวัดท่าซุงบอกไว้ และสมเหตุสมผลทุกประการ

การมีข่าวลือ หลวงพ่อฤาษี ลิงเล็ก ลิงขาว มีมานาน ผมได้ยินมาหลายที และบอกตามตรง ขี้เกียจไปตามครับ มีบุญมีบุพกรรมกับท่านมา คงจะเจอเองครับ ไม่ได้เจอก็ไม่มีบุญพอครับ

แต่แค่หลวงพ่อวัดท่าซุง ก็ไม่ต้องไปตามหาครูบาอาจารย์ที่ไหนอีก ยังมี หลวงปู่ครูบาธรรมชัย หลวงปู่คำแสน เล็ก ใหญ่ หลวงปู่ปัญญาโสภิต ( หลานหลวงปู่ปาน ศิษย์รุ่นพี่ หลวงพ่อวัดท่าซุง ผมเคยเห็นกับตา เมื่อมีงานวัดท่าซุง หลวงพ่อฤาษีลิงดำก้มลงกราบ หลวงปู่ปัญญาโสภิต - องค์นี้ว่างๆผมจะเขียนให้อ่าน ของท่านมีเยอะพอสมควรและเป็นของวิเศษ ของดี ราคาถูก ) หลวงปู่วัดสามพระยา หลวงพ่อวัดเทพศิรินทร์ หลวงปู่วัดพระบาทตากผ้า ยังมีอีก แต่ที่กล่าวมา ตามไปกราบก็เหลือกินแล้วครับ

 

รบกวนคุณพี เสาวภา ช่วยดูด้วยครับ
เหรียญเต่าหลวงพ่อทรง ได้มาก่อนท่านมรณภาพครับ

ขอบคุณครับ

 

เมื่อปลายเดือน พ.ย ผมไปเที่ยวแถวสยามแล้วบังเอิญทราบก่อนหน้านั้นว่านาฬิกายี่ห้อหนึ่งจะเปิดขายนาฬิการุ่น limited มีขายแค่ 22 เรือน โดยให้ผู้ร่วมงานลงชื่อจับฉลาก พอดีผมผ่านไปก็เลยไปร่วมสนุกโดยไม่เคยเล่นนาฬิกายี่ห้อนี้มาก่อนครับ คิดว่าได้มาถ้ามีราคาคงจะปล่อยต่อเอากำไรนิดหน่อย(คิดแค่นั้นจริงๆ) ตอนจะจับรายชื่อผมกับแฟนลงไว้คนละชื่อ แล้วตามประสาคนชอบของขลังผมก็นึกถึงแม่พิม กลายเป็นว่าผมไม่ได้พกไปวันนั้น(ผมจะติดไว้กับกุญแจบ้าน) ถามหาของแฟนก็ไม่ได้พกมาเหมือนกัน กำลังจะรู้สึกเสียดายก็พลันนึกขึ้นได้ว่า เรามีอยู่ที่หน้าขานี่หว่าเคยลงน้ำมันไว้ ตอนจะเริ่มจับฉลากผมก็สวดบทบูชาแม่พิมเลยครับ ตอนนั้นรู้สึกจิตมั่นมากบวกกับบรรยากาศในงานสนุกสนานเลยพลอยทำให้ผมตื่นเต้นไปด้วย

ผลสุดท้ายผมถวายสี่สิบดีกรีให้แม่พิม 15 ขวดตามคำสัจ หุหุ แล้วนาฬิกานั้นก็ขายไปแล้วครับได้ค่าขนมมาตามระเบียบ

ลืมบอกไปว่า 22 ชื่อ จากคนทั้งหมด 178 ชื่อครับ