เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.

  1. มาด ชุมพร

    มาด ชุมพร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +47
    <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:595.3pt 841.9pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:35.4pt; mso-footer-margin:35.4pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]สวัสดีครับ ทุกท่าน ผม มาด ชุมพรมาอีกแล้วครับวันนี้มีเรื่องเล่ามาฝากนะครับ เป็นประสบการณ์กับตัวผมเองตรงๆเลย โปรดใช้วิจารณญาณประกอบการอ่านด้วยนะครับ วันที่ [/FONT]27[FONT=&quot] พ.ย. [/FONT]51[FONT=&quot] ผมได้นัดลูกค้าที่ อ.กระบุรี จ.ระนอง เอาไว้ว่าจะไปหา แต่วันนั้นปรากฏว่าลูกค้าผมเค้าติดธุระ ผมก็เลยไปเยี่ยมชาวสวนทุเรียนสวนที่ผมดูแลอยู่ เพราะว่าระยะนี้ไรแดงกำลังระบาดในสวนทุเรียน(ลูกศิษย์หลวงปู่ทรงทุกท่านที่เป็นชาวสวนทุเรียน หากมีปัญหาเรื่องการดูแลสวนทุเรียนแล้วแก้ไม่ตกปรึกษาผมได้นะครับ ผมมาด ชุมพร ยินดีให้คำปรึกษาโดยไม่คิดตังค์) ราวๆบ่าย [/FONT]2[FONT=&quot] โมงผมก็ได้เข้าเยี่ยมสวนทุเรียนของพี่ใจเพราะเห็นว่า สวนของพี่ใจต้นทุเรียนดูจะมีใบสีซีดๆ คาดว่าโดนไรแดงกินแน่ๆเลย แต่ปรากฏว่าพี่ใจแกไม่อยู่ อยู่แต่เจ้าจอย ลูกสาวพี่ใจ ผมก็เลยชวนเจ้าจอยเข้าไปดูต้นทุเรียนในสวน หากแม่เค้ากลับมาก็จะได้บอกแม่ได้ถูก ว่าต้นทุเรียนมีปัญหาอะไรแล้วจะได้บอกวิธีแก้ไขได้ทัน (เพราะอีกไม่นานทุเรียนก็จะออกดอกออกผลได้ตังค์แล้ว หากแก้ไขไม่ทันใบทุเรียนจะร่วง และดอกผลที่ออกมาก็จะร่วงตามใบ แล้วจะอดได้ตังค์ไปอีก [/FONT]1[FONT=&quot] ปี นี่แหละชีวิตชาวสวน) ผมเดินนำเจ้าจอยเข้าไปในสวนทุเรียนตาก็มองต้นทุเรียน ปากก็พูดอธิบายไปเรื่อยๆตามสไตล์อาจารย์มาด ก็พอดีเดินไปเห็นทุเรียนต้นหนึ่งมีอาการใบซีดอย่างแรง ผมก็เลยย่างสามขุมเข้าไปที่ทุเรียนต้นนั้นโดยไม่ได้ระวังตัวแต่อย่างใด เพราะว่าหญ้าในสวนไม่ได้รกมากนัก(หญ้าสูงไม่ถึงครึ่งแข้ง งูเงี้ยวเขี้ยวขอก็ไม่น่าจะมี) พอผมก้าวเท้าซ้ายเข้าหาต้นพร้อมกับยื่นมือไปจับใบทุเรียนต้นนั้นเพื่อดึงใบเข้ามาดูใกล้ๆ เพื่อจะดูว่ามีไรแดงตัวการกินใบอยู่หรือไม่เท่านั้น ตาก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างเลื้อยแผลบๆอยู่ข้างหน้าราวๆซัก [/FONT]2[FONT=&quot] เมตรได้ก็เลยกวาดตามองดู นึกว่าจิ้งเหลนวิ่งไล่แมลง เพราะผมเคยตกใจกับเจ้าจิ้งเหลนนี่หลายครั้งแล้วเวลาเข้าสวน นึกว่างู แต่มองดูคราวนี้ก็ไม่เห็นมีตัวอะไรนี่หว่า ก็เลยหันมาดูใบทุเรียที่รั้งไว้เอามาดูใกล้ๆ กำลังมองหาไรแดงอยู่ดีๆ ไม่รู้ได้ยินเสียงตัวอะไรมาร้องอยู่ใกล้ๆเท้าผมเสียงดัง อู้ฟ อู้ฟ [/FONT]2[FONT=&quot] ที ผมก็เลยก้มลงดูที่เท้าผม แทบเป็นลมครับพ่อแม่พี่น้อง งูเห่าครับท่านตัวเท่าแขนเลย ตัวมันสีออกเทาๆ นอนแผ่คออยู่ห่างเท้าผมไม่ถึง [/FONT]2[FONT=&quot] คืบครับ ขนาดตัวมันเหมือนเอาแขนมาวางบนพื้นแล้วกางมือออกเต็มๆ นั่นแหละครับขนาดมัน มีวงสีเหลืองอยู่หลังคอตรงกลางมีตัว[/FONT] [FONT=&quot]ข.ไข่สองหัวอยู่ด้วย แค่นั้นแหละครับพอรู้ว่าไม่ใช่ท่อนไม้แน่ๆ ผมก็กระโดดเขย่งเก็งกอยออกมาอย่างไว ไม่รู้ว่าเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เจ้าจอยเดินตามหลังผมมาเห็นผมกระโดด ก็ถามผม พี่มาด เป็นไรเหรอพี่ พอผมบอกก็งูอะเด่ะ โอ้โหเจ้าจอยมันวิ่งหนีไวกว่าผมอีก พอวิ่งออกมาห่างจุดที่เจองู ก็มายืนหอบลิ้นห้อย หัวใจงี้ดูมันหวิวๆยังไงชอบกล ผมก็เลยรีบกลับขึ้นรถ(ไม่ดงไม่ดูมันแล้วนะสวนทุเรียน)ตั้งสติแล้วก็ขับรถกลับ พอผมกลับมาถึงที่พักก็มานอนนึกๆดู เออมันก็แปลกดีนะ ได้ยินแต่เค้าบอกว่าพอเจองูเห่าแบบจวนตัว หรือเข้าไปใกล้มันแบบกระทันหัน งูมันจะชูคอแผ่แม่เบี้ยขึ้นมาแล้วขู่ฟ่อ ฟ่อ แต่ที่ผมเจอมามันไม่เห็นจะชูคอเหมือนที่เค้าพูดกันเลย ถึงมันจะไม่ชูคอ หรือชูคอไม่ขึ้น แต่มันก็ยังอุตส่าห์นอนแผ่แม่เบี้ยตัวเหยียดยาวเชียว(ดีนะที่มันไม่กัดเอา ไม่งั้นหละงานเข้าแน่เลยโรงพยาบาลก็อยู่ห่างตั้งหลายโล) เนี่ยแหละครับครั้งแรกและครั้งเดียวของผม ขออย่าได้พบพานกันอีกเลย ผมหัวใจจะวาย จริงๆนะ[/FONT]<o:p></o:p>
    [FONT=&quot]ส่วนอะไรน่ะเหรอครับที่ผมพกติดตัวไปวันนั้น เหลือแค่ตะกรุดเทพรัญจวนแขวนกับสร้อยกะลาอยู่บนคอ กับเบี้ยแก้(ที่หลวงปู่ทรงท่านเสก)ที่เพิ่งได้มา อยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านซ้ายเท่านั้นเองแหละครับ ที่ผมบอกว่าเหลือติดตัวอยู่ก็เพราะว่า ผมได้ถอดเอาพระที่ปกติช่วงนี้จะแขวน พระแหวกม่าน พระนักธรรม ร่วมกับเหรียญนะโมตาบอดหลวงพ่อกวยติดตัวอยู่ แต่ว่าก่อนหน้านั้นหนึ่งวันผมถอดเอาพระทั้ง [/FONT]3[FONT=&quot] องค์ เอาไปให้ช่างเค้าเลี่ยมพลาสติกกันน้ำให้ ก็เลยมีเหลือติดตัวอยู่แค่ตะกรุดกับเบี้ยเท่านั้น ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าวันนั้นหลวงปู่ทรงท่านไม่ช่วยเอาไว้ แหะ แหะ ผมก็คงไม่ได้มาเล่าให้พวกท่านฟังอยู่ตรงนี้แน่เลย ถ้าไม่เป็นโรงพยาบาลก็คงเป็นวัดแหงๆเลย เขียนมาซะยาวเลย ท่านที่มีของที่หลวงปู่ทรงได้เสกเอาไว้ ขอความกรุณาเลยนะครับ ช่วยอาราธนาติดตัวเอาไว้ เป็นอะไรก็ได้ที่ผ่านมือหลวงปู่ทรงท่านเสก แล้วสักวันเมื่อท่านตกอับ จวนตัว หาทางออกไม่เจอแล้ว ท่านก็จะได้รู้ว่าหลวงปู่ท่านช่วยลูกศิษย์ท่านได้ให้รอดได้ไม่เป็นรองใคร[/FONT]<o:p></o:p>
    [FONT=&quot]ขอบคุณครับที่อ่านจนจบ [/FONT]<o:p></o:p>
    [FONT=&quot]รูปตะกรุดเทพรัญจวนกับเบี้ย ผมจะโพสให้ดู เพราะเบี้ยมีที่มาไม่ธรรมดา [/FONT]<o:p></o:p>
    [FONT=&quot]มาด ชุมพร<o:p></o:p>[/FONT]
     
  2. มาด ชุมพร

    มาด ชุมพร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +47
    นี่แหละครับเบี้ยแก้ที่ผมพกติดตัววันนั้น แต่ว่าตอนนี้ผมเลี่ยมพลาสติกเรียบร้อยแล้ว ที่ผมบอกว่าเบี้ยตัวนี้ไม่ธรรมดาก็เพราะว่า ท่านที่ให้ผมมาท่านบอกว่าเดิมทีเป็นเบี้ยของหลวงพ่อคำ วัดโพธ์ปล้ำ แต่ว่าพอชันนะโรงที่อุดปรอทเกิดแห้งและเก็บปรอทไว้ไม่อยู่ ปรอทเดิมจึงหนีออกมาหายหมด ท่านจึงทำการกรอกปรอทลงไปใหม่ แล้วขอให้หลวงปู่ทรงท่านเสกให้ใหม่ แล้วจึงนำมมาถักเชือกลงรักสีดำ เพื่อเก็บไว้ใช้ติดตัวในย่ามของท่าน แต่ว่าท่านก็ได้เมตตาส่งมาให้ผมอีกทีหนึ่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMGP6196.JPG
      IMGP6196.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      141
    • IMGP6198.JPG
      IMGP6198.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.5 MB
      เปิดดู:
      115
    • IMGP6199.JPG
      IMGP6199.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      126
    • IMGP6200.JPG
      IMGP6200.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      117
    • IMGP6201.JPG
      IMGP6201.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.7 MB
      เปิดดู:
      149
    • IMGP6204.JPG
      IMGP6204.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      100
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2008
  3. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    ภาพประกอบเรื่อง

    IMG_0160.JPG IMG_0161.JPG IMG_0165.JPG

    เบี้ยหัวม่วง ถักเชือกสอดตะกรุดทองแดง โค้ด วศด


    ขอบคุณ คุณมาดที่เล่าซ่ะยาว เรื่องเบี้ย ของทีเด็ดวัดมอญ สายอ่างทอง

    ผมออกตัวนิดว่าไม่โม้ ผมเกิด และโตในสวนงูน่ะครับ ที่สถานเสาวภา เห็นงูมาตั้งแต่จำความได้ เห็นมาหลายชนิด หลายขนาด งูจงอางขนาดยักษ์ ตัวเท่าโคนขาผู้ใหญ่ผมก็เห็นมา งูเห่าน่ะ เห็นมาเป็นพันๆ งูสามเหลี่ยม เห็นเป็นฝูง ตอนผมเด็กๆยังมีอาชีพ จับงูเขียวปากจิ้งจกขาย ตัวล่ะประมาณ ๕ ถึง ๗ บาท เขาเอาไปเลี้ยงดูเล่นน่ะครับ ไม่ได้ฆ่า กับเพื่อนอีกคน ตอนนี้ที่ไปทำโรงแรมเป็นเสี่ยอยู่ภูเก็ต คุณ อ้อย เสาวภา ( ตอนนี้โดนพิษเศรษฐกิจเข้าเต็มๆ )

    ธรรมชาติของงูมีพิษ เช่นงูเห่า หรือ งูจงอาง มันจะตั้งคอ และแผ่แม่เบี้ย ยิ่งงูจงอางตัวโตๆ พอเห็นมันแผ่แม่เบี้ย ประมาณบาตรพระ บางคนอาจจะตกใจหัวใจวายได้เพราะน่ากลัวโคตรๆ งูพวกนี้พอแผ่แม่เบี้ยแล้วมันจะตั้งคอ แล้วขู่ฟ่อๆ สาเหตุเพราะมันต้องการเนื้อที่ในการโยกหัวเพื่อขบกัด พอมันกัดเต็มเขี้ยวมันจะปล่อยน้ำพิษเป็นน้ำขุ่นๆสีขาวออกมา มากน้อยตามขนาดงู พิษงูเห่าเทียบตามน้ำหนักเท่ากันแล้ว แรงกว่าพิษงูจงอางซ่ะอีก แต่งูจงอางมีปริมาณพิษมากกว่าเยอะเพราะตัวโตกว่าเยอะ พิษงูนี้ ขนาด ม้า วัว ควาย หรือ ช้างเอง ถ้าโดนเข้าเต็มๆ และถ้าผ่านหนังหนาๆไปได้ ไม่รอดครับ

    ส่วนงูที่ไม่ตั้งคอ แต่ขดตัวเหมือนขดเชือก เพื่อดีดหัวเข้าใส่เพื่อขบกัด จะเป็นงูเล็กๆเช่น งูกะปะ งูแมวเซา โดนเข้าเต็มๆ ตายแน่นอนเหมือนกันถ้าไปไม่ถึงมือหมอทัน

    กรณีคุณมาดเป็นเรื่องแปลก ที่มันไม่ตั้งคอ ไม่ขู่ฟ่อๆ อันนี้ถ้าเล่าตามความเชื่อ คุณพ่อผมเป็นศิษย์โตมาในกุฏิ หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบผู้โด่งดัง หลวงพ่ออี๋ ท่านสอนคาถาให้หลายบท ถ่ายทอดมายังผม แบบต่อปาก คนโบราณจะสัก ตัว ฆ กับ ตัว ง มี อุ ข้างบน ภาษาขอมไว้ที่น่อง และมีคาถากำกับ ผมบอกตรงๆไม่ได้ แต่มีบทหนึ่งจะว่า .....ยกคอไม่ขึ้น เอาไว้กันและสะกดงู

    คาถาและการสักนี้ เต็มๆคือการสะกด งูไม่ให้ยกคอขึ้น อ้าปากไม่ได้ แล้วจึงกัดไม่ได้ เพราะคนโบราณกลัวงูมาก สาเหตุ เพราะยังไงก็ไปหาหมอไม่ทัน อาจจะมีพระในละแวกน่ะแหละเป็นหมอ ส่วนหมอปัจจุบันพร้อมเซรุ่มน่ะลืมไปได้ แม้แต่สมัยนี้ก็เถอะ รับรองว่ามีไม่ทุกที่ และมีไม่ครบพิษงูทุกชนิด อาจจะเป็นแบบเซรุ่มพิษรวม หรือ แบบพระเอกหน่อยก็งูเห่า งูจงอาง งูสามเหลี่ยม ( ชนิดนี้โคตรน่ากลัว ) งูกะปะ หรืองูแมวเซา

    การสะกดนี้พอสะกดได้ งูจะยกคอมาตั้งแม่เบี้ย และอ้าปากไม่ได้ ทำให้กัดไม่ได้ครับ

    กรณีคุณมาดก็แปลกที่ งูนอนแผ่แม่เบี้ย แทนที่จะตั้งคอ และแทนที่จะขู่ กับร้องอูฟๆ ซ่ะอีก ...แหะๆ

    สงสัยโดนสะกดไปเต็มๆ และยิ่งขนาดเท่าแขนผู้ใหญ่ด้วย และสำคัญที่ตอนวิ่งหนีก็ไม่โดนไล่ด้วย

    ปกติงูเป็นสัตว์ขี้อายน่ะครับ และรักสงบ ผมยืนยัน ถ้าเราเดินเสียงดัง เข้าป่า เอาไม้หวดหญ้าไประหว่างทาง เขาได้ยินเสียงจากการสั่นสะเทือน เขาจะหนีไปครับ ยืนยันเพราะผู้ใหญ่ที่เป็นหมองูสอนผมมา ผมใช้มาตั้งแต่หนุ่มตนแก่ ผมทำงานตามป่าตามเขามาหลายสิบปี เพราะเป็นอาชีพ เจองูหลายสิบครั้ง ขนาดจอดรถ แล้วปีนไปบนหน้าหม้อรถจี้บ ดูงูสามเหลี่ยมมันเลื้อยผ่านไปใกล้ๆ เพราะชอบดูมันแปลกดี ผมไม่ฆ่างูเด็ดขาดครับ จะทำเสียงไล่เท่านั้น เพราะทางใครทางมัน

    งูจะดุร้าย และเข้าจู่โจม มีสามสาเหตุครับ

    ๑) เขาตกใจ เราโผล่พรวดเข้าไปมันตกใจก็จะขู่แล้วกัดเอา หรือ เขาเจ็บครับ เช่นเดินเหยียบเอาเข้า เขาจะแว้งกัดเอาแน่นอน แม้เป็นงูไม่มีพิษก็ตาม

    ๒) เขาหวงไข่ครับ ถ้าเป็นรังเขา หรือ ส่วนใหญ่จะเป็นรู เขากกไข่อยู่ เราไปป้วนเปี้ยนโดนแม่งูไล่กัด แน่นอน อันนี้เข้าใจไม่ยาก แม่ไหนๆก็หวงลูกทั้งนั้น พึ่งออกหน้าโทรทัศน์เรื่องนักร้องกับหมอดูไปแหม่บๆ ความรักของแม่ นั้นไพศาลนัก การหวงลูกจึงเป็นเรื่องธรรมชาติ ที่รุนแรงมาก อาจจะถึงขั้น ตายเป็นตาย แทนลูกก็ได้แบบไม่ต้องคิดเมื่อเห็นลูกมีอันตราย เรื่องงูหวงไข่นี้มีเรื่องเล่ามามาก

    ๓) งูเขาติดสัตว์ อันนี้พวกคุณอาจจะไม่เคยเห็นงูเขาจีบกัน หรือ เมคเลิฟ เขาจะพัน กอดรัดกัน ตั้งคอด้วยกัน เหมือนคนเรากอดกัน ม้วนไปม้วนมา แต่ธรรมชาติงูเป็นสัตว์ขี้อาย ไม่เหมือนหมา พอเขารักกันเขาจะแอบไปซ่อนๆสายตาคนอื่นๆ ทีนี้ถ้าใครซวยไปเจอเข้าตอนกำลังเข้าด้าย เข้าเข็ม เขาจะอาย และโมโหมาก และอาจจะเข้ามาทำร้ายผิดวิสัยรักสงบไปได้ครับ

    กลับมาที่คุณมาด ถ้าวิเคราะห์แล้ว ฉิวเฉียด อาจจะหนึ่งคือความดีในตัวคุณเอง การไม่มีกรรมต่อกัน ทำให้พระท่านคุ้มครอง และของที่น่าจะ ออกแนวป้องกันเด่นชัดที่สุดคือ เบี้ยแก้ครับ ส่วนตะกรุดเทพรัญจวนน่ะหนักไปทางค้าขาย หรือ อาชีพเซลล์ที่คุณมาดกำลังทำอยู่ แต่ระวัง รถไฟชนกันน่ะครับ...แหะๆ เป็นห่วงกลัวจะผอม

    ทำให้งูยกคอไม่ขึ้นตามตำรา คราวหน้าเข้าป่า หาไม้ยาวๆ ประมาณ สองเมตร ติดมือไปทุกครั้ง เดินหวดหญ้านำหน้าไปพอไปเจอหญ้ารกๆ ถึงเจองู ถ้าสติไม่แตก ก็ยังมีไม้ไว้ขู่งู ไม่ให้เขาเข้าใกล้ได้ครับ

    ขอบคุณสำหรับเรื่องนี้ พอคุณโทรมาเล่าน่ะ ผมขนลุก เพราะเรื่องูนี่ไม่เข้าใครออกใคร และหลวงพ่อไม่เคยพูดว่าลงเรื่องกันงูไว้ให้ และผมก็มั่นใจว่ากันอย่างอื่นได้ซ่ะด้วย เบี้ยเห็นรูปแล้ว เก็บไว้ให้ดี เพราะเป็นเบี้ยสองหลวงพ่อทีเดียวแบบว่า อาจารย์และศิษย์ แต่เบี้ยนี้นานๆไปดูยากแน่อน พอรักแห้ง คงอีกหลายสิบปี เขาคงตีเป็นหลวงปู่คำ แน่นอน เพราะสูตรเดียวกัน คือเขย่าแล้วดังแซ็กๆ

    ใครมีเบี้ยโดยเฉพาะได้มาแบบของฟรีแล้วไม่ใช้น่ะ เหมือนวานรได้แก้วจริงๆ ที่ไม่รู้ค่า ของๆวิเศษครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2008
  4. cc5922

    cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +16,973
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ
    อนุโมทนากับประสบการณ์ทุกเรื่องราวครับ
     
  5. cc5922

    cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +16,973
    [​IMG]
    [​IMG]
    เป็นชุด 4 มหาอำนาจที่ลุงพีเคยบอกว่าเป็นชุดที่ทำจากวัด แล้วแนะนำให้ผมไปเลี่ยมกันน้ำเพื่อรักษาให้เก็บไว้ใช้ได้นานๆ ผมก็เลยนำไปให้ช่างทำครับ (ตามกำลังก่อน) ดังรูป
    [​IMG]
    [​IMG]
    ติดกายไม่ห่างครับ สาธุ...............
     
  6. cc5922

    cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +16,973
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 9 คน ( เป็นสมาชิก 7 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>cc5922, benay, ศนิวาร, hanada9, อาทิ, ซักวันจะคิดออก, พี เสาวภา </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อยู่กันเพียบเลยครับ
     
  7. hanada9

    hanada9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,056
    ค่าพลัง:
    +9,853
    อืม ๆ ๆ งั้นต้องขยัยท่อง ขยันสวดแล้ว
    เบี้ยแก้ ตะกรุด ตะโพน ๆ ๆ ๆ

    สาธุ หลวงพ่อทรง โปรดเมตตา
    (ให้มีการแบ่งปันถึงมือผมด้วย.. เถิด)
     
  8. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295

    สวยงามมากครับ ดูก็ทราบแล้วว่าขลัง วันหนึ่งในอนาคตคงจะเปลี่ยนวัสดุที่เลี่ยมจากเงินหรือ สแตนเลสไปเป็นทองได้แน่นอนครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2008
  9. sacrifar

    sacrifar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +3,221
    ชอบจัง สิงอยู่กระทู้นี้ได้แต่ความรู้แฮะ ครบทุกรส

    เรื่องงูๆป่าๆ นี่ชอบมากครับ บ้าตั้งแต่อ่านเพชรพระอุมา แต่ไม่ค่อยมีโอกาสเข้าป่าเท่าไหร่

    เรื่องแม่รักลูกนี่กระจ่างมากครับ (เรื่องข่าววันนี้พี่ที่ทำงานก็เปิดดูคลิปกัน มีแต่คนสม...) เพราะตอนเด็กๆ ผู้ใหญ่กินเลี้ยงตั้งวงสุรา ญาติคนหนึ่งแกเมามาถีบน้องชายผมเพราะโดนเด็กแหย่เล่นแบบไม่ประสา แม่ผมขึ้น เอาขวดเบียร์ทุบพื้นเป็นปากฉลามจะแทงให้ได้
     
  10. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    ชอบเรื่องนี้มากกว่า
     
  11. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143

    ผมดูจากในข่าว
    หมอดูบอกดาวปุตตะ หมายถึงบุตร ถ้าฟังแค่นี้ ผมก็ไม่เอาแล้วครับ
    ปุตตะ จะหมายถึงบริวารก็ได้ หรือบางครั้ง ผมยังหมายถึงสัตว์เลี้ยงที่เรารักเหมือนลูกเลย
    หมอดูคนนี้ เป็นคนไม่มีสัมมาคารวะ ไม่น่าเอามาออกรายการให้เป็นตัวอย่างเยาวชน
    ถ้าอยากเด่นอยากดัง ไปปลูกต้นไม้เหมือนดาบวิชัย มีประโยชน์กว่าเยอะ

    หมอดูที่ดี ต้องเหมือนจิตแพทย์ ที่ให้กำลังใจ และแนะทางออกครับ
     
  12. sacrifar

    sacrifar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +3,221
    "เป็นคนไม่มีสัมมาคารวะ ไม่น่าเอามาออกรายการให้เป็นตัวอย่างเยาวชน
    ถ้าอยากเด่นอยากดัง ไปปลูกต้นไม้เหมือนดาบวิชัย มีประโยชน์กว่าเยอะ"

    ชอบครับตรงประเด็น ฮา ๆ ๆ
     
  13. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    ภาพประกอบเรื่อง

    IMG_0166.JPG IMG_0167.JPG IMG_0168.JPG
    เบี้ยจั่น เบี้ยมหาลาภ ถักเชือก สอดตะกรุดทองแดง

    วันนี้ที่เอามาโชว์เป็น เบี้ยจั่นที่หลวงพ่อทรงตอนนอนอยู่ในโรงพยาบาล ครั้งสุดท้าย ท่านบอกใบ้ให้ใช้ติดตัว ตามที่เล่าให้ฟังมาแล้วน่ะครับ ใครได้ไว้ ผมจัดว่า เฮง ๆ ๆ ติดตัวแล้วมีประสบการณ์อะไรก็ไม่ต้องเล่าให้ใครฟังน่ะครับ เขาอาจจะไม่เชื่อ หรือ จะมาหักคอเอาไปกินซ่ะ

    ตัวนี้ขนาดกลาง ถักเชือก และสอดตะกรุดทองแดง ไม่มีอะไรจะบรรยายมากน่ะครับ บรรยายด้วยภาพก็แล้วกัน
     
  14. ซักวันจะคิดออก

    ซักวันจะคิดออก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,556
    ค่าพลัง:
    +6,330
    หมอเดาคนนี้ วิชาดี แต่อยากดังจนเกินจริต

    วิชาเค้าเอาไว้ช่วยคน ดันเอามาทำร้ายซะได้
     
  15. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    เขาเอาแต่รากศัพท์มา คือ ปุตตะ หรือ บุตร ( แนะอวดรู้ด้านภาษาอีก ) ปุตตะมีหลายนัยยะ ตามอีตาหนุ่มทิพย์ท่านว่า หมายถึงคน หรือ ชีวิต ในปกครอง คนหรือ สัตว์

    หมอดูที่มี จรรยาบรรณ สุภาพบุรุษ ของจริง ( เป็นโหรคนหนึ่ง ที่พยากรณ์ ถวายเจ้าชีวิต จอมคนด้วย ) แต่ไม่เคยโม้ แต่ผมดันไปแอบรู้มาเอง ภูมิแน่นปึ้ก อ่านตำรามากว่าพันเล่ม ท่านผู้นี้คือ พลตรี ประยูร พลอารีย์ ปรมาจารโหร ยูเรเนี่ยน ผู้ล่วงลับไปแล้ว น่าเสียดายมาก

    ถ้าหมอดูทุกคนเป็นแบบท่าน บ้านเมืองจะไม่วุ่นวาย ที่วุ่นวาย เพราะพวกโหน พวก ห้อยน่ะ มันทายพวก นักการเมือง ทายผู้ใหญ่ ทายกระทั่งบ้านเมือง จะเป็นอย่างไร เดาร้ายๆ เดาดีๆ ไม่ทราบว่าไปเรียน รัฐศาสตร์ การเงิน การปกครอง หรือ การอื่นๆ มาหรืออย่างไร ทายมันได้ทุกเรื่อง และที่สำคัญ ดันมีคนไปเชื่อซ่ะอีก เอาคำคนพวกนี้มาปกครองบ้านเมือง แทนที่จะใช้หลักวิชาการ แบบฝรั่ง แบบมีเหตุผล ว่าอย่างนี้ดี สำหรับบ้านเมือง อย่างนั้นดีสำหรับท่านผู้นำ

    สมัยโบราณ อาจารย์เล่าเรื่องท่านโหรทายหนู พระยาโหราธิปดี เจ้าของตำราโหรทายหนู อันอัศจรรย์ สมัยพระเจ้าปราสาททอง ( ถ้าจำชื่อผิด กราบขออภัยเพราะนานจัด แต่จำเรื่องได้ ) สมัยนั้น โหรหลวง มีศีลสัตย์ ไม่มั่ว นอกจากบ้าน ท่านไปวัง ก่ะไปวัด ที่อื่นไม่ไป เพราะอโคจร ถือศีลเคร่งครัด ภูมิแน่น เพราะทายผิด อาจจะตายได้ ทายผิด ทายมั่ว ทายไม่ดี อาจจะไม่ตายดี ตายคนเดียวไม่พอ พาลญาติมิตรตายไปด้วย แบบเจ็ดชั่วโตคร

    ท่านพระยาโหราธิปดีนี้ ท่านแม่นมาก แม่นยิ่งกว่าตาเห็น เพราะตาเห็นน่ะเห็นทีเดียว แต่ถ้าท่านพระยาโหราทายน่ะ ท่านจะทายลวงหน้าไปเลย และไม่มีผิดแม้จะรายละเอียด ในทุกฉาก

    ทุกคนทราบดีในความสามารถของท่านพระยาโหราธิปดี ทั้งพระเจ้าแผ่นดินด้วย บ้านเมืองก็สงบดี ว่างๆไม่มีอะไรมันส์ๆทำ พอดีมีหนูตัวหนึ่ง ไต่ที่หลังคาท้องพระโรงแล้วพลาด ตกลงมากลางท้องพระโรง นอนจุกอยู่ เหล่าข้าราชบริพาลและพระเจ้าแผ่นดิน เห็นกันทั่ว ขณะที่ตกใจมองอยู่ กำลังจะมีมหาดเล็กมาหยิบเอาไปทิ้ง

    ท่านพระเจ้าแผ่นดินก็ปิ้งไอเดีย จะหาอะไรแกล้งพระยาโหราธิปดีเล่นๆ เลยให้เอาขันสัมริดใบใหญ่ครอบหนูไว้ แล้วให้ไปตาม พระยาโหราธิปดีมาเข้าเฝ้า

    พอพระยาโหราธิปดีมา เข้าที่ กราบถวายบังโคมพระเจ้าปราสาททองเสร็จ พระเจ้าปราสาททองก็ชวนคุย ถามนั่นถามนี่สักพัก ก็ถามพระยาโหราธิปดี ดื้อๆว่า

    ท่านพระยาโหราฯ เราอยากรู้ว่าในขันสัมริดใบนั้นน่ะมีอะไรอยู่

    ท่านพระยาโหราฯ ก็ทำตามหน้าที่ ไม่พูดมาก ก็ล้วงกระดานโหรมา เขียนขยุกขยิก คำนวนตามวิธีการของท่านแล้วตอบว่า

    เป็นสัตว์จตุบาทพระเจ้าข้า

    ทุกคนในท้องพระโรงที่ ทราบดี ต่างฮือฮา พระยาโหราฯนี่เก่งช่างสมคำร่ำลือจริงๆ

    พระเจ้าปราสาททองเลยทรงถามต่อ

    แล้วมีกี่ตัวล่ะท่านพระยาโหราฯ

    ท่านพระยาโหราฯจับยาม คำนวนดู แล้วตอบว่า

    ห้าตัวพระเจ้าข้า เป็นตัวเมีย เท่านี้ตัว และเป็นตัวผู้เท่านี้ตัว ( ผมลืมจำนวน )

    ทีนี้ทุกคนเงียบ เพราะเห็นกับตาว่ามีตัวเดียว ที่ขันครอบไว้ พระเจ้าปราสาททองก็ทรงอึ้ง ถามย้ำอีก

    ท่านแน่ใจน่ะ

    พระยาโหราฯ ยกมือพนมแล้วตอบว่า แน่ใจพระพุทธเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้ายินดีเอาศรีษะเป็นประกัน

    อื้อฮือ เล่นถึงแบบนั้น เพราะท่านมีตาใน แน่ใจแบบ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ทีนี้พระเจ้าปราสาททอง ท่านทรงอึ้งล่ะ เพราะจะเอาแค่หยอกพระยาโหราฯเล่น แต่พระยาโหราฯท่านเอาจริงตามหน้าที่ เอาถึงตาย ไม่มีมั่วๆ แต่เลยตามเลย เพราะเป็นเจ้า ก็ไม่คืนคำเหมือนกัน เลยสั่งมหาดเล็กให้เปิดขันสัมริดขึ้น

    พอเปิดขันออกมา ทุกคนตกตลึง เพราะในนั้น มีหนูอยู่ ห้าตัว เนื่องจาก แม่หนูท้องแก่ อุ้ยอ้าย เลยพลาดตกลงมาจากหลังคา การตกนี้ ทำให้แท้งลูก จึงคลอดออกมาอีกสี่ตัว การคลอดนี้คลอดเมื่อถูกขันครอบแล้วจึงไม่มีใครเห็น และเมื่อนับ เป็นตัวผู้เท่านั้นตัว เป็นตัวเมียเท่านั้นตัว ตรงตามที่พระยาโหราธิปดี ทำนายไว้พอดี

    การเห็นของคนเห็นหน้าเดียว ที่ตาเห็น แต่การเห็นของพระยาโหราธิปดี เป็นการเห็นแบบทุกหน้า มีคำตอบเสร็จ

    ทุกคนจึงยกย่องท่านพระยาโหราธิปดีเป็นอย่างมาก จนสิ้นอายุขัยของท่าน แล้วท่านได้ฉายาว่าโหรทายหนู ท่านได้เขียนตำรา โหรทายหนูมา แล้วถ่ายทอด ต่อๆกันมา

    ผมฟังอาจารย๋เล่า แล้วอ่านมาบ้าง จำได้แบบกระท่อนกระแท่นแค่นี้แหละครับ

    แต่ประเด็นคือ หมอดูสมัยก่อน เขามีเกียรติ ไม่พูดมั่วๆ เมื่อทายแล้ว ผิดก็ยอมตาย ...แหะๆ สมัยนี้ไม่มีแล้วครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2008
  16. ซักวันจะคิดออก

    ซักวันจะคิดออก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,556
    ค่าพลัง:
    +6,330
    ใช่ครับ โหราจารย์ที่ดี ไม่ทายมั่ว เอาหัวเป็นประกัน
     
  17. cc5922

    cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +16,973
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ
    อนุโมทนากับเรื่องโหราจารย์ เป็นอุทาหรณ์สอนว่า
    รู้อะไรรู้จริง ดีที่สุด แต่บางอย่างถึงจะรู้จริงแต่พูดไปแล้ว
    ไม่เกิดประโยชน์ก็สู้นิ่งเสียดีกว่า เพราะทุกอย่างมีกรรมและวาระของมันอยู่แล้ว สาธุ.....
     
  18. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    เห็นเบี้ยจั่นพี่พีแล้ว อยาก อดใจไม่ไหว
    ขอเอาเบี้ยแก้แลกได้มั้ยครับ ...... นี่ 555

    คนบ้านเดียวกัน นะครับพี่... เดี๋ยวจะให้แม่ไปขอ ไม่รู้เรียกขันหมากเท่าไร ไปขอเบี้ยนะครับ . . . ไม่ได้ขออย่างอื่น 55

    อย่าถือนะครับ เห็นเอาเรื่องเครียด ๆ มา ลง เลยขอคั่นรายการ

    จริง ๆ ผมก็ไม่ได้รู้จักหลวงพ่อทรงมาแต่แรก . . ก็เห็น ๆ พี่พี โพสอยู่ตั้งแต่หน้าแรกก็ไม่ได้เข้าไปอ่าน จนปาเข้าไป 50 กว่าหน้า มีน้องที่รู้จักให้ลองเข้าไปอ่าน . .ก็ติดตามมาตลอด ไล่อ่านตั้งแต่หน้าแรก แต่ไม่ครบทุกหน้า อ่านเฉพาะที่สนใจประสบการณ์ด้านวัตถุมงคลครับ ก็ มีแต่ประสบการณ์ที่ดีตามมาเยอะเลยครับ ...

    กราบขอบพระคุณหลวงพ่อทรง และขอบพระคุณพี่พีครับ
     
  19. sacrifar

    sacrifar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +3,221
    วิชาลูกเสือก็มีสอน

    เสียชีพอย่าเสียสัตย์

    แล้วยอมเสียเข็มขัดแต่อย่าเสียกางเกงนะเออ ^ ^
     
  20. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    IMG_0170.JPG IMG_0172.JPG IMG_0173.JPG
    IMG_0174.JPG

    หลวงพ่อทวดพิมพ์ห้าเหลี่ยม

    ท่านเห็นพิมพ์นี้คงจะแปลกใจ ว่ามีด้วยเหรอ ผมเจอทีแรกก็งง แต่คนรับมา รับต่อมาอีกที และยืนยันว่าได้รับจากหลวงพ่อ ผมส่องดูแล้ว อยากได้ทันทีเลยขอซื้อ เขาไม่ขายแต่ขอแลกกันมา แบบว่าชอบพอกัน

    ผมเอามาเช็คกับหลวงพี่โรจน์ ท่านว่ามี เคยเห็นเหมือนกัน แต่มีน้อยมาก มีคนทำมาให้หลวงพ่อเสก แล้วแบ่งถวายไว้ อาจจะนานพอสมควร และพระมีน้อยมาก ไม่แพร่หลาย เขาคงทำมาไม่มาก มวลสารแก่ปูน รูปแบบแปลกดี พระนี้น่าสนใจมาก

    ผมกั้กพิมพ์นี้ไว้เกือบปีกลัวไก่ตื่น หาๆๆๆๆ อยากได้อีกสัก ๑๐ องค์...แหะๆ ไม่เคยเจออีกแม้แต่เงา แม้เพียงองค์เดียว เลยต้องปลงซ่ะ

    เอามาเปิดเผยเลย ใครได้ไว้ บอกได้ว่าเฮง ๆ ๆ เอามาขายผมได้ ผมรับซื้อ ราคามาคุยกันได้น่ะจ้ะ

    ด้านหลังยังแปะ รูปหลวงพ่อไว้อีกสองรูปแบบจิ๋วๆ แล้วกลัวจะไม่แปลก แปะ เกศาหลวงพ่อไว้ให้อีก ใช่เกศาท่านแน่นอน

    ใครมี และมีข้อมูลที่แตกต่าง เลิกกั้กน่ะครับ เอามาเปิดเผยกันได้แล้ว

    ปล. โปรดสังเกตุอย่างว่า หลวงพ่อปลุกเสกพระรูปหลวงพ่อทวดไว้เยอะพอสมควร บางทีเป็นพระเขาทำมาแล้วมาถวายหลวงพ่อเสกให้ บางทีเป็นพระที่ท่านไปซื้อเขามาออก เช่นรูปหล่อ ๔ นิ้ว และโปรดสังเกตุอย่างว่า หลวงพ่อเสกอะไรจะเป็นอย่างั้น ผมเคยมีโครงการณ์จะหล่อพระหลวงพ่อทวด เตารีด และ รูปหล่อ หลวงพ่อโสธรถวายหลวงพ่อ ในปี ๕๐ ให้ท่านเททองเอง ก่ะจะขอท่านเสกหนึ่งไตรมาส แต่ท่านมาล่ะสังขารซ่ะก่อนครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ธันวาคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...