เรื่องเด่น ความเบื่อเป็นของดี ต้องรักษาให้เป็น

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 1 พฤษภาคม 2020.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,540
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,538
    ค่าพลัง:
    +26,373
    CB86CB65-DCB2-4CAA-8531-95A047E3B3B2.jpeg

    ถาม : ผมเบื่อ ๆ เมื่อไรจะไปสักที พิจารณามาตั้งแต่ตอนบวช ตอนนี้ไม่เห็นเข้าใจเหมือนเดิมเลย ?
    ตอบ : แสดงว่ารักษาเอาไว้ไม่ได้ #ความเบื่อเป็นของดี #แต่ต้องรักษาให้เป็น #ก้าวพ้นไปได้ก็สบาย ถอยหลังลงมาก็เป็นหมาเหมือนเดิม นิพพิทาญาณไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นง่าย เกิดขึ้นแล้วส่วนใหญ่คนจะเบื่อสุด ๆ แล้วก็ผลักไสไปเรื่อย ความจริงแล้วต้องรักษาเอาไว้

    #รักษาอารมณ์ให้คงตัวเอาไว้ ถ้ามีโอกาสสัก ๓ วัน ๗ วัน พิจารณาไปเรื่อยว่า “ถึงเบื่ออย่างไรเราก็ยังมีชีวิตอยู่ ในเมื่อชีวิตนี้ถ้าตายลงไปแล้วเราไปพระนิพพาน ก็เป็นการตัดชาติตัดภพทั้งหมด ถ้านับการเวียนว่ายตายเกิดที่นับกัปไม่ถ้วน กับการดำรงชีวิตอยู่ไม่ถึงร้อยปีแล้วตาย ก็แค่ชั่วแวบเดียวเท่านั้น ทำไมเราจะอยู่ไม่ได้” #สภาพจิตจะก้าวข้ามไป #กลายเป็นสังขารุเปกขาญาณ #จะเห็นว่าธรรมดา ช่างมัน ธรรมดาเป็นอย่างนั้น เห็นเด็กซนก็ธรรมดาเพราะเด็กต้องซน เห็นผู้ใหญ่ทะเลาะเบาะแว้งกันก็ธรรมดา คนไม่มีปัญญา ไม่รู้โทษก็เป็นอย่างนั้นแหละ พอปล่อยได้ เห็นอะไรเป็นธรรมดาหมดก็อยู่ได้อย่างสบาย กลายเป็นมีความสุข แต่ตอนแรกเบื่อจนอยากจะมุดดินหนี

    (สมัยฆราวาส)นิพพิทาของอาตมาดันไปขึ้นกลางห้างพอดี ...(หัวเราะ)... กำลังเดินหอบของตามสาวอยู่ พาสาวไปช็อบปิ้ง เขามีหน้าที่ซื้อของ อาตมามีหน้าที่หอบของ ถุงหนึ่งก็แล้ว สองถุง สามถุง สี่ถุง แทบจะต้องเอาปากคาบยังไม่หยุดซื้ออีก อยู่ ๆ เกิดคำถามกับตัวเองว่า “นี่เอ็งกำลังทำอะไรอยู่ ? ทำไมเหลวไหลไร้สาระอย่างนี้” ความเบื่อพุ่งขึ้นสุดขีดเลยตอนนั้น ถ้าเป็นไปได้ก็คือดำดินหนีไปเลย คราวนี้ผู้หญิงเขาความรู้สึกไว หันขวับมาถามว่าเป็นอะไร ? “เป็นอะไรก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้เบื่อหน้าเธอฉิบหา..เลย” เขาก็เลยบอกว่า ถ้าอย่างนั้นก็กลับ

    กลับไปอาตมาก็ “โหย..ทำไมเบื่ออย่างนี้” อยากจะหนีเข้าป่าไปเดี๋ยวนั้นเลย พยายามพิจารณาว่าจริง ๆ แล้ว อารมณ์อย่างนี้เป็นอารมณ์ที่เราต้องการ แล้วเราจะไปผลักไสไล่ส่งได้อย่างไร ก็พยายามประคับประคองไว้ไปเรื่อย ท้ายสุดก็มาสรุปลงตรงที่ว่า “ถ้าเอ็งยังเกิดอยู่ชีวิตก็น่าเบื่อหน่ายอย่างนี้แหละ แต่ถ้าเราตายไปพระนิพพานได้ ชาตินี้ดำรงชีวิตอยู่อย่างไรก็ไม่เกิน ๑๒๐ ปี เปรียบกับการเวียนว่ายตายเกิดนับกัปไม่ถ้วน ก็แค่แวบเดียวเท่านั้นเอง เหมือนอย่างกับหลับตาลงแล้วลืมตาขึ้น ทำไมเราจะอยู่ให้ดีไม่ได้” พอคิดมาถึงตรงนี้สภาพจิตก็ปลดออกหมด เห็นอะไรเป็นธรรมดาหมด

    ปกติจะเป็นคนเบื่ออะไรที่ได้มามาก ๆ เบื่อชนิดประกาศเลยว่า ถ้าเกิดใหม่นี่จะไม่ทำบุญอีกแล้ว ...(หัวเราะ)... เพราะทำแล้วได้เยอะ ในเมื่อเห็นธรรมดาก็ทน ๆ นั่งไป เป็นเนื้อนาบุญให้เขาหน่อย แปลงจากโลกียทรัพย์เป็นโลกุตรทรัพย์ เป็นอริยทรัพย์ให้กับเขาไป อาตมาเองเดี๋ยวก็หาทางไปให้คนอื่นเขาต่อ วัดอื่นมีที่เขาต้องการอีกตั้งเยอะตั้งแยะ

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมกราคม ๒๕๕๘
    ที่มา : www.watthakhanun.com


    #ชุมชนคุณธรรม #วัดท่าขนุน
    #ชุมชนคุณธรรมฯวัดท่าขนุน
    #ชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขับเคลื่อนด้วยพลังบวร
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...