ติดตามสถานะการณ์

ไลอ้อนแอร์ส่งหนังสือแจ้ง "เลิกจ้าง" ถึงพนักงาน บอกจำเป็นมากเพราะวิกฤต #โควิด19
ตอนท้ายหนังสือยังอวยพรให้มีความสุข และได้งานใหม่เร็ววัน
#โควิด19เราต้องรอด
#เราไม่ทิ้งกัน

 

โลกร้อน ทำให้ปากแม่น้ำที่ออสเตรเลียอุณหภูมิสูงขึ้นกว่า 2C ในช่วงเวลา 12 ปี

นักวิทยาศาสตร์พบว่า น้ำในปากแม่น้ำของออสเตรเลียฝั่งตะวันออกเฉียงใต้มีอุณหภูมิสูงขึ้นมากกว่า 2C ในช่วง 2007-2019

อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ชายฝั่ง ป่าชายเลน และการประมง

นักวิทยาศาสตร์ตรวจสอบปากแม่น้ำกว่า 166 แห่งตลอดความยาว 1100 กม.ของชายฝั่ง New South Wales ปากแม่น้ำทุกแห่งล้วนมีสภาวะเป็นกรด บริเวณทะเลสาบ อุณหภูมิสูงขึ้นกว่าเดิม 3.65 C และแม่น้ำบางแห่ง อุณหภูมิสูงขึ้นกว่า 2.79C ในเวลา 12 ปีที่ผ่านมา

Dr. Elliot Scanes นักชีววิทยาทางทะเลจาก University of Sydney ผู้ทำการศึกษาครั้งนี้เชื่อว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้นมาจากภาวะโลกร้อน

New South Wales ไม่มีปีไหนที่อุณหภูมิต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเลยนับตั้งแต่ปี 1997 เป็นต้นมา และปีที่ร้อนที่สุดในบันทึกคือปี 2018,2019 , นอกจากอากาศที่ร้อนขึ้นแล้ว ปริมาณฝนที่ลดลงในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา ทำให้ปากแม่น้ำตื้นขึ้น อุณหภูมิน้ำเพิ่มสูงได้ง่ายขึ้น

งานวิจัยยังพบว่าน้ำมีสภาพเป็นกรดมากขึ้น ค่าpH ลดลง 0.5 ในช่วงเวลาปี 2013-2019 นอกจากนี้ อุณหภูมิน้ำที่สูงขึ้น ทำให้ระดับออกซิเจนในน้ำตำ่ลง ทำให้ปลาตายมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ต้องมีการติดตามต่อไปในอนาคตว่าอุณหภูมิจะยังคงเพิ่มขึ้นในอัตรานี้หรือไม่

ไม่ใช่แค่ออสเตรเลียเท่านั้น มีงานวิจัยที่พบว่าแม่น้ำและทะเลสาบบริเวณ North Sea ในเยอรมัน , Hudson River ในนิวยอร์ก และ Chesapeake Bay ที่ Maryland มีอุณหภูมิที่สูงขึ้นเช่นกัน

https://www.theguardian.com/environ...-coast-has-warmed-by-more-than-2c-study-finds

https://www.theguardian.com/environ...-coast-has-warmed-by-more-than-2c-study-finds

 

แน่นอนว่าสถานการณ์Covid-19 ทำให้ขยะทางการแพทย์และขยะมูลฝอย plastic single use ต้องเพิ่มขึ้นอยากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขยะทางการแพทย์ในจีนพบว่าสูงขึ้นกว่าเดิม 6 เท่า ในฐานะของพลเมือง เราสามารถช่วยได้โดยการแยกขยะจำพวก mask หรือขยะที่คิดว่าเสี่ยงต่อการปนเปื้อนในการทิ้ง และถ้าเป็นไปได้ ปฏิเสธsingle use บางอย่างเท่าที่ทำได้ เช่นช้อนส้อมจาก delivery

 

ยืนยันชาวเขาใช้ภูมิปัญญาทำไร่หมุนเวียนและดับไฟป่า ภาพมุมสูงชุดพยัคฆ์ไพรบิดเบือนให้เกิดความเข้าใจผิดว่าชาวบ้านอมก๋อยจุดไฟเผาป่า ทั้งที่กะเหรี่ยงมีภูมิปัญญาจัดการไฟทำไร่หมุนเวียนไม่ให้ไฟลามเข้าป่า
.
พฤ โอ่โดเชา แกนนำเครือข่ายกะเหรี่ยงจากบ้านป่าคา อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวชี้แจงภาพมุมสูงการเผาทำลายป่าที่ ต.นาเกียน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ได้นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ดังกล่าวและมีการสื่อสารออกมาในทำนองว่าชาวไทยภูเขาเผาป่าขยายที่ทำกิน
.
ความเป็นจริงอีกมุมในกรณีนี้จาก พฤ คือว่า ภาพมุมสูง (เผยแพร่โดยเพจพยัคฆ์ไพรและเพจคุยกับอธิบดีกรมป่าไม้ เมื่อวันที่ 14 เม.ย.2563) พยายามจะสื่อให้มีความเข้าใจบิดเบือนว่าชาวบ้านใช้ไฟในแปลงเกษตรสวนผสมผสาน บนพื้นที่สูงหรือไร่หมุนเวียน ชาวบ้านอมก๋อยไปจุดไฟเผาป่า ทั้งที่ชาวกะเหรี่ยงมีภูมิปัญญาจัดการไฟ ไร่หมุนเวียนไม่ให้ไฟลามเข้าป่า และไม่ให้ไฟไหม้ป่าได้อย่างไร
.
ภาพข่าวที่เผยแพร่ออกมาในลักษณะฟ้องด้วยภาพถ่ายมุมสูงเสมือนเป็นการโยนความผิดใส่แพะที่ต้องตกเป็นเหยื่อจำเลยของไฟป่า และนำไปสู่การไล่จับชาวบ้านตามมา
.
"เพราะต้องการตอบคำถามให้ได้บางคำตอบได้ว่า สาเหตุไฟไหม้มาจากอะไร ใครทำ จึงพานักข่าวไปถึงพื้นที่ไร่หมุนเวียนของชาวกะเหรี่ยงถึง ต.นาเกีย อ.อมก๋อย ซึ่งอยู่กันมาก่อน 700 ปี คู่ล้านนาล้านช้างก่อนจะเกิดรวมชาติประเทศไทยเสียอีก
.
"ชาวกะเหรี่ยงก็ปลูกข้าวกินโดยทำไร่หมุนเวียนอาศัยปัจจัยจากภูมิศาสตร์ ฝนฟ้าอากาศอย่างนี้เลี้ยงชีพมาหลายชั่วอายุคนแล้ว และกลายเป็นวิถีวัฒนธรรมที่สืบต่อกันมา
.
"ปรากฏชัดว่า การทำไร่หมุนเวียนนั้นยังมีผืนป่าธรรมชาติควบคู่ไปกับชุมชนจนถึงวันนี้ เกิดเป็นศาสตร์ภูมิปัญญาในการทำการเกษตรสวนผสมบนภูเขา และเป็นพื้นที่ในการเรียนรู้การจัดการไฟที่สืบทอดความมั่นคงทางอาหารและความมั่นคงความเข้าใจในการที่จะเรียนรู้ธรรมชาติดิน น้ำ ลม ไฟ ตามฤดูกาล ต่างๆ"
.
พฤ ระบุอีกว่า จากดอยสุเทพ ถึงอมก๋อย ระยะทางเกือบ 200 กว่ากิโลเมตร ใช้เวลา 4 ชั่วโมง คาดว่ากะเหรี่ยงเจอหนักที่ยังต้องพึ่งพาการเกษตรสวนผสม 1 ไร่ป่านี้ เพราะเจ้าหน้าที่และคนในเมืองไม่เข้าใจ กำลังโยนความผิดให้กับวิถีชีวิตนี้อยู่ในตอนนี้หลังไฟไหม้ป่า
.
"ในขณะที่เขาใช้ภาพถ่ายฟ้อง และกล่าวหาว่าการเผาไร่หมุนเวียน ทำให้ไฟลามเข้าไปในผืนป่า ซึ่งไร่หมุนเวียนนั้น เราจะทิ้งไว้อย่างน้อย 7 ปีแล้วแต่ แต่ละพื้นที่ว่าจะทิ้งไว้ 7-8 ปีหรือ 10 กว่าปี
.
"แต่ในขณะเดียวกันภาพนี้ก็เป็นภาพพยานหลักสะท้อนกลับบอกและยืนยันว่า ชาวบ้านสามารถจัดการไฟอย่างไรไม่ให้ลามเข้าไปในป่าและยังเหลือพื้นที่ป่าที่ไฟไม่ไหม้จากข้างนอกเข้ามา
.
"นั่นแสดงว่า ชาวบ้านที่นี่อยู่มาหลายร้อยปีแต่ก็ยังสามารถมีพื้นที่ป่าและพื้นที่ทำกินหมุนเวียนอย่างนี้อย่างยั่งยืนบนภูเขา แต่ขอติคนที่พยายามจะสื่อให้มีความเข้าใจบิดเบือนว่าชาวบ้านใช้ไฟในแปลงเกษตรสวนผสมผสาน บนพื้นที่สูงหรือไร่หมุนเวียน นี้นั้น ทำให้เกิดไฟไหม้นั้นไม่จริงตามภาพที่ผมใส่ลูกศรให้ดูเพิ่มเติมดังกล่าวจากเพจและหลายสำนักข่าวที่โพสต์ลง
.
"ซึ่งผมพยายามจะยกตัวอย่างให้เห็นว่ามีความไม่ชอบมาพากลในการสื่อสารหรือการใช้ภาพเพื่อบิดเบือนความจริงแต่เพียงฝ่ายเดียวของเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งจะนำไปสู่การใช้ความรุนแรงกับชาวบ้านต่อไป ในการจับกุมและดำเนินการในหลายพื้นที่ที่ชาวกะเหรี่ยงกำลังต้องปลูกข้าวทำไร่หมุนเวียน และสืบทอดการเป็นวิถีวัฒนธรรมมาช้านาน
.
"ซึ่งข้าวที่ได้จากไร่หมุนเวียนคือความมั่นคงทางอาหารที่ทำให้ชุมชนสามารถพึ่งตัวเองอยู่ได้ และมีมติ ครม. 3 สิงหาคม 2553 ที่ฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงและให้ฟื้นฟูไร่หมุนเวียนของชาวกะเหรี่ยง
.
"ปัจจุบันไร่หมุนเวียนได้จดทะเบียนเป็นภูมิปัญญามรดกไทยแล้ว การกระทำดังกล่าวถือว่าไม่ถูกต้องและปิด เหมือนซ้ำเติมความลำบากของประชาชนที่ต้องเผชิญกับโรคร้ายและไฟป่า ที่ชาวบ้านพยายามดับไฟกันเองและเดือดร้อนกันทั่วพื้นแผ่นดินและทั่วโลกในขณะนี้" พฤ ระบุ
#ไฟป่าภาคเหนือ #พยัคฆ์ไพร #กรมป่าไม้ #คุยกับอธิบดีกรมป่าไม้

 

ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย
แต่งตั้ง ’มหาเศรษฐีและนักธุรกิจดัง’
ช่วยแผนฟื้นเศรษฐกิจหลังวิกฤตไวรัสสิ้นสุด

นายเกวิน นิวซอม (Gavin Newsom) ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ออกแถลงการณ์ แต่งตั้งนาย ทอม สตีเยอร์ (Tom Steyer) มหาเศรษฐีเจ้าของธนาคารยักษ์ใหญ่ พร้อมผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทชื่อดังอีกจำนวนมาก ในคณะทำงานชุดฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐแคลิฟอร์เนีย

คณะทำงานดังกล่าวประกอบด้วยสมาชิกประมาณ 70 คน โดยมีผู้บริหารระดับสูงของหลายบริษัท รวมถึงอดีตผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียหลายราย เช่น ทิม คุก (Tim Cook) ผู้บริหารบริษัทแอปเปิ้ล, บ็อบ ไอเกอร์ (Bob Iger) ผู้บริหารระดับสูงของ Walt Disney

อดีตผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย 4 ราย ประกอบด้วย เจอร์รี่ บราวน์ (Jerry Brown), อาร์โนลด์ ชวาซเซเนกเกอร์ (Arnold Schwarzenegger), เกรย์ เดวิส (Grey Davis) และ พีท วิลสัน (Pete Wilson), นอกจากนี้ยังมี แอน โอเลย์รี่ (Ann O’Leary) อดีตที่ปรึกษาอาวุโสของ ฮิลลารี คลินตัน และหัวหน้าคณะทำงาน (Chief of Staff) ของนายนิวซอม ร่วมอยู่ในคณะทำงานดังกล่าวด้วย

“ในแคลิฟอร์เนีย หลักการสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนถือเป็นเรื่องหลัก แต่ในขณะเดียวกันมันก็ได้ทำร้ายเศรษฐกิจของเราไปด้วย” นายสตีเยอร์กล่าวระหว่างแถลงการณ์ต่อสื่อ พร้อมยังระบุว่า ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นเวลาที่ยากลำบากสำหรับชาวอเมริกัน ดังนั้นแผนการฟื้นฟูจึงต้องถูกดำเนินการอย่างให้ความสำคัญและเร่งด่วน

ด้านนายนิวซอม ผู้ว่าการรัฐฯ ระบุว่า ความเข้าใจเกี่ยวทุนนิยมและตลาดเสรีของนายสตีเยอร์ เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เขาเหมาะสมสำหรับการเป็น ‘ผู้ได้รับการเสนอชื่อในอุดมคติ’ เพื่อมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจหลังช่วงวิกฤตไวรัสโคโรนา

คณะทำงานดังกล่าวจะประชุมกันเดือนละ 2 ครั้ง ตลอดทั้งปี เพื่อช่วยวางแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กับรัฐแคลิฟอร์เนีย หลังหมดวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

#roundtablethailand
Roundtablethailand.com


ที่มา:
- https://www.forbes.com/sites/angela...ead-californias-economic-recovery-task-force/
- https://www.cnbc.com/2020/04/16/2020-election-tom-steyer-shuts-down-need-to-impeach-operation.html
- https://www.nbcbayarea.com/news/politics/tom-steyer-on-the-economic-recovery-task-force/2275077/

 

เสธ.แมว เกิดคำถาม งบกลาง 5 แสนล้านหายไปไหน ต้องส่งจดหมายถึงเจ้าสัว

วันนี้ (19 เม.ย.) พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วิกฤติโควิด-19 ทำทุกฝ่ายหดหู่ใจที่ต้องมาเห็นภาพประชาชนเข้าแถวรอรับอาหารและเงินบริจาค บางคนยอมทำผิดติดคุก ยอมเจ็บป่วย เพื่อจะได้มีข้าวกิน มันสะท้อนความสิ้นหวังในชีวิต ทั้งที่ประเทศนี้เป็นอู่ข้าวอู่น้ำครัวโลก

พล.ท.ภราดร กล่าวต่อว่า จากวิกฤติสาธารณสุขลุกลามมาสู่วิกฤติเศรษฐกิจ และพึงระวังว่าจะลุกลามน่าสะพรึงกลัวมาเป็นวิกฤติสังคม เกิดการฉกชิงวิ่งราวปล้นทรัพย์ ก่อความไม่สงบจนบานปลายสู่การจลาจลใหญ่เกินวิสัยที่รัฐบาลจะควบคุมสถานการณ์ได้ การแก้ไขวิกฤติโควิดนี้เพียงแค่ยึดหลักประชาธิปไตยให้ประชาชนมามีส่วนร่วม รัฐบาลก็จะได้รับรู้ความทุกข์ยากและข้อเสนอแนะการแก้ไขปัญหาจากพวกเขาโดยผ่านกลไกสภาฯ ปัญหาก็จะถูกแก้ไขได้อย่างแม่นตรง

แต่การที่ไม่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ยึดตัวกูเป็นใหญ่ของผู้นำสืบทอดอำนาจ เพราะมีรากเหง้ามาจากเผด็จการ ยิ่งมาแสดงความน่าสมเพชประกาศว่าจะทำจดหมายเปิดผนึกถึงเหล่าเจ้าสัวให้มาเสียสละช่วยแก้วิกฤติของประเทศ เลยถูกสังคมออนไลน์ถล่มเละว่าเป็นรัฐบาลขอทาน ถูกประจานตัวตนว่าเป็นคนที่ไม่มีภาวะผู้นำ ประชาชนไม่ศรัทธา สร้างวิกฤติใหม่ซ้อนวิกฤติเดิม

“จนถึงเวลานี้ก็ยังตอบสังคมไม่ได้ว่าเงินงบกลาง 5 แสนล้านบาทที่เพิ่งผ่านสภามามันหายไปไหนหมด ความฉ้อฉลการจัดหาหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ทางการแพทย์จนขาดแคลน มีต้นตอมาจากใครก็ยังทำความกระจ่างไม่ได้ เงินยังชีพฉุกเฉิน 5 พันบาทก็พูดกลับกลอกไปมา พฤติการณ์ภาวะผู้นำเฮงซวยไม่น่าไว้วางใจแบบนี้ ไม่มีใครเขาอยากมาร่วมมือด้วยหรอก จะหวังให้คนแบบนี้แสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่งก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้ายังขืนปล่อยให้ลอยนวลเป็นผู้นำอยู่ก็ล่อแหลม ที่จะเป็นเงื่อนไขพาประเทศสู่กลียุค พรรคร่วมฝ่ายค้านจำต้องเป็นหัวหอกการนำสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างทางเลือกใหม่ให้แก่ประชาชน” พล.ท.ภราดร กล่าว

ติดตามข่าว ล่าสุด “COVID-19”

กดที่ลิ้งค์นี้ —> https://bit.ly/2UxjSwR

#โควิด19 #Covid_19 #COVID19 #ข่าวจริง #สปริงนิวส์ #Springnews #COVID2019 #coronavirus #ไวรัสโคโรนา #โควิท19

The post เสธ.แมว เกิดคำถาม งบกลาง 5 แสนล้านหายไปไหน ต้องส่งจดหมายถึงเจ้าสัว appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

WHO ห่วงทวีปแอฟริกาเป็นศูนย์กลางระบาดของโควิด-19 แห่งใหม่
พญ.มัตชิดิโซ โมเอติ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำทวีปแอฟริกา กล่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดเข้าสู่ทวีปแอฟริกามานานระยะหนึ่งแล้ว และแพร่ระบาดในพื้นที่อย่างรวดเร็
Source : เกาะติดสถานการณ์ #ManagerOnline #ผู้จัดการ #ผู้จัดการออนไลน์ #ข่าว #ข่าวออนไลน์

 

สถานการณ์โควิด 19 วันที่ 19 เม.ย. ผู้ป่วยรายใหม่ 32 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต

โควิด วันนี้(19เม.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า วันนี้ผู้มีป่วยโควิด-19 รายใหม่ 32 ราย หายป่วยกลับบ้าน 111 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ทำให้มีผู้ป่วยสะสมรวม 2,765 ราย หายกลับบ้านรวม 1,928 ราย เสียชีวิตรวม 47 ราย ยังรักษาอยู่ใน รพ. 790 ราย ทำให้การใช้ทรัพยากรทางการแพทย์ อุปกรณ์ต่างๆ ลดน้อยลง

สำหรับคนหายป่วยแล้วหากมีความประสงค์จะบริจาคพลาสมา ก็สามารถไปบริจาคได้ที่สภากาชาดไทย เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ดูแลผู้ป่วยรายอื่นต่อไป

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้ป่วยรายใหม่ 32 ราย พบว่า เป็นกลุ่มผู้ป่วยสัมผัสผู้ป่อนก่อนหน้า 18 ราย ไปสถานที่ชุมชน 2 iาย อาชีพเสี่ยง 3 ราย อยู่ระหว่างสอบสวนโรค 3 รา และกลับมาจากต่างประเทศโดยอยู่ในสถานที่กักตัวของรัฐ 4 ราย ประกอบด้วย อินโดนีเซีย 1 ราย รวมทั้งหมด 62 ราย สหรัฐอเมริกา 1 ราย รวม 3 ราย และอังกฤษ 2 ราย โดยผู้ป่วยมาจาก กทม.มากสุด 24 ราย ยังคงเดิม 9 จังหวัดที่ไม่มีผู้ป่วยรายงาน สำหรับจังหวัดที่ไม่มีผู้ป่วยรายงาน 14 วัน เพิ่มเป็น 33 จังหวัด โดยมีจังหวัดใหม่ 4 จังหวัด คือ ประจวบคีรีขันธ์ พระนครศรีอยุธยา สกลนคร และสุรินทร์

“แนวโน้ม กทม.และนนทบุรี แนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งอย่าชะล่าใจ เพราะประชากรรวมกันกว่า 10 ล้านคน ออกมาจากบ้านแล้วยังเจอคนเยอะ ไปติดบนท้องถนน ตลลาดนัด ห้างสรรพสินค้า เป็นตัวชี้วัดด้านหนึ่งว่าเราจะคงตัวเลขการติดเชื้อได้ต่ำสุดที่เท่าไร ส่วนต่างจังหวัดยังขึ้นๆ ลงๆ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ลดลง” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กลุ่มอายุ 20-39 ปี และ 30-39 ปี มีการพบการป่วยมากที่สุด โดยคนกลุ่มนี้ป่วยรวม 1,334 ราย เสียชีวิต 3 ราย กระจายตัวใน 3 จังหวัด คือ กทม. 732 ราย ภูเก็ต 108 ราย และนนทบุรี 68 ราย ปัจจัยเสี่ยงพบว่า อยู่ในสถานบันเทิง โรงแรม ร้านอาหาร ร้านนวด ขับรถโดยสาร 19% รับจ้างทั่วไป 18% พนักงานบริษัทและโรงงาน 14% โดย ม.ค. – 14 มี.ค. จะเป็นคนเดินทางมาจากต่างประเทศ 36% สถานบันเทิง 20% อาชีพเสี่ยง 16% ส่วน 15 มี.ค. – 18 เม.ย. เป็นสัมผัสผู้ปวยก่อนหน้า 36% โดยเฉพาะครอบครัว สถานที่งาน และเพื่อน เดินทางจากต่างประเทศ 14% และเกี่ยวข้องสถานบันเทิง 11%

The post สถานการณ์โควิด 19 วันที่ 19 เม.ย. ผู้ป่วยรายใหม่ 32 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

ทำไมค่าไฟฟ้าถึงแพงขึ้น ? เพจวิชาการ อธิบาย เพราะคิดเงินแบบอัตราก้าวหน้า

ทำไมค่าไฟฟ้าถึงแพงขึ้น?

ทำไมค่าไฟฟ้าถึงแพงขึ้น? ในช่วงที่หลายคนต้องอยู่บ้าน Work From Home แม้จะประหยัดค่าเดินทางไปทำงาน แต่รายจ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นๆ ก็คือค่าไฟ แม้เราต่างรู้ดีกันว่า ในสถานการณ์ที่ต้องอยู่บ้านแบบทั้งวันทั้งคืนเป็นแรมเดือนอย่างนี้ ยังไงๆ ค่าไฟก็ต้องสูงขึ้นแล้ว แต่หลายคนก็รู้สึกว่า มันแพงขึ้นในระดับที่ไม่ควรจะเป็น

เพื่อเคลียร์ข้อสงสัยดังกล่าวให้ชัดเจน เพจด้านวิชาการ “น้องปอสาม” ได้อธิบายอย่างละเอียดไว้ดังนี้

ทำไมค่าไฟฟ้าถึงแพงขึ้น ? มาดูคำตอบแบบเปิดใจกันหน่อย

1. การไฟฟ้า คิดเงินแบบอัตราก้าวหน้ามาตลอด ใช้เยอะจ่ายเยอะ (ผู้ใช้ไฟสามารถดูรายละเอียด ตามอัตราค่าไฟฟ้าด้านล่าง)

2. ตัวแปรของค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น คือ หน่วยการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น พูดง่ายๆ ก็คือ คุณใช้ไฟฟ้ามากขึ้นเลยทำให้ราคามันก้าวกระโดด

3. หลายคนคงสงสัย ทำไมหน่วยการใช้ไฟฟ้าถึงขึ้นได้มากขนาดนี้ ? ไฟฟ้ามาทำอะไรกับมิเตอร์รึเปล่า ?

คำตอบคือ ไฟฟ้าไม่มีใครไปทำอะไรกับมิเตอร์ลูกค้าหรอก

ทีนี้เราต้องมาดูพฤติกรรมของลูกค้าและคนในบ้าน ที่บอกว่าใช้ไฟเท่าเดิม ลองคิดนะ เปิดแอร์ เวลาเดิมทุกวัน 8.00 – 12.00 คุณเย็นเท่าเดิมจริง แต่ตัวที่ทำให้มิเตอร์ขึ้นหน่วยไวแค่ไหน อยู่ที่คอมเพลสเซอร์ข้างนอก

ถ้าอากาศข้างนอกร้อนแค่ไหน หน่วยการใช้ไฟก็ขึ้นไวเท่านั้น เพราะคอมเพลสเซอร์คุณทำงานหนัก ยิ่งถ้าเปิดแอร์พร้อมกันนะ เสียงคอมดังนานแค่ไหนนั่นแหละคือ ทำใจไว้เลย มิเตอร์กำลังหมุนอย่างแรง และนั่นคือ เงินที่คุณต้องจ่ายไป

เครื่องฟอกอากาศอีก แทบทุกยี่ห่อกินไฟ ลองตรวจสอบดูนะ ที่บอกประหยัดไฟ คือไม่ประหยัดเลย ยิ่งเปิดพร้อมแอร์ คูณกำลัง 2 ไปเลย

ตู้เย็น เห็นตั้งนิ่งๆ แบบนั้น กินไฟเราแบบเงียบๆ นะคะ หน้าที่ของตู้เย็นคือต้องทำความเย็นในช่องแช่อาหาร ตามอุณภูมิที่เรากำหนด เช่น เราตั้งไว้ที่ 1 องศา หลักการทำงานคือ ต้องทำยังไงก็ได้ให้ 1 องศาตลอดเวลา นั่นก็คอมเพลสเซอร์หลังตู้เย็นไงที่เป็นตัวทำงาน

– เปิดตู้เย็นบ่อยๆ เปลืองไฟจริง เพราะตู้เย็นสูญเสียอุณภูมิตอนเปิด
– แช่ของแบบไม่คิด ยัดๆ เข้าไป ก็เปลืองไฟจริง ต้องจัดระเบียบตู้เย็นกันบ้าง

บ้านที่มีปัญหาเรื่องค่าไฟฟ้าส่วนมาก จะมีเครื่องใช้ไฟฟ้าดังนี้
1. แอร์ พร้อม คอมเพลสเซอร์
2. เครื่องฟอกอากาศ
3. พัดลมไอน้ำ
4. ตู้เย็น ยิ่งอัดของเยอะ คอมเพลสเซอร์ตู้เย็นที่ดังตลอดเวลานั่นแหละคือ กำลังกินไฟคุณ

ตู้เย็นที่ประหยัดไฟคือตู้เย็นที่แช่แค่เครื่องดื่มไม่เกิน 5 ขวดเท่านั้น ถึงจะได้จ่ายราคาต่อปีตามที่ร้านโฆษณา

สรุปคือ ไฟฟ้าไม่ได้ปรับ หรือ ทำอะไรทั้งนั้น ไม่ได้ฉวยโอกาสอะไรทั้งนั้น ไฟฟ้าการรันตีราคาให้แบบนี้

– ใช้ไปหน่วยที่ 0- 150 หน่วย จ่ายราคาหน่วยละ 3.2484 บาท
– ใช้ไปหน่วยที่ 151 – 400 หน่วย จ่ายราคาหน่วยละ 4.2218 บาท
– ใช้ไปหน่วยที่ 400 ขึ้นไป จ่ายราคาหน่วยนะ 4.4217 บาท

ตัวอย่างที่ 1
ใช้ไฟฟ้าไป 200 หน่วย เราจะคิดค่าไฟแบบนี้
150 หน่วยแรก × 3.2484 = 487.26 บาท
50 หน่วยที่เหลือ × 4.2218 = 211.09 บาท
รวมเป็นเงิน = 698.35 บาท
(ราคายังไม่รวม vat 7 % , ค่าบริการ , หักส่วนลดค่า FT)

ตัวอย่างที่ 2
ใช้ไฟฟ้าไป 400 หน่วย เราจะคิดค่าไฟแบบนี้
150 หน่วยแรก × 3.2484 = 487.26 บาท
250 หน่วยที่เหลือ × 4.2218 = 1,055.45 บาท
รวมเป็นเงิน = 1,542.41 บาท
(ราคายังไม่รวม vat 7 % , ค่าบริการ , หักส่วนลดค่า FT)

ตัวอย่างที่ 3
ใช้ไฟฟ้าไป 600 หน่วย เราจะคิดค่าไฟแบบนี้
150 หน่วยแรก × 3.2484 = 487.26 บาท
250 หน่วยถัดมา × 4.2218 = 1,055.45 บาท
200 หน่วยที่เหลือ × 4.4217 = 884.34 บาท
รวมเป็นเงิน = 2,427.05 บาท
(ราคายังไม่รวม vat 7 % , ค่าบริการ , หักส่วนลดค่า FT)

ตัวอย่างที่ 4
ใช้ไฟฟ้าไป 1,000 หน่วย เราจะคิดค่าไฟแบบนี้
150 หน่วยแรก × 3.2484 = 487.26 บาท
250 หน่วยถัดมา × 4.2218 = 1,055.45 บาท
600 หน่วยที่เหลือ × 4.4217 = 2,653.02 บาท
รวมเป็นเงิน = 4,195.73 บาท
(ราคายังไม่รวม vat 7 % , ค่าบริการ , หักส่วนลดค่า FT)

พอจะเห็นภาพชัดเจนกันขึ้นไหมครับ ว่าทำไมค่าไฟถึงได้สูงขึ้น

ภาพโดย mohamed Hassan จาก Pixabay

ภาพโดย Clker-Free-Vector-Images จาก Pixabay

The post ทำไมค่าไฟฟ้าถึงแพงขึ้น ? เพจวิชาการ อธิบาย เพราะคิดเงินแบบอัตราก้าวหน้า appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

รวยไม่รู้เรื่อง! ชายสหรัฐฯ ถอนเช็คช่วยโควิด พบเงินในบัญชีเกือบ 250 ล้านบาท
: นักผจญเพลิงจากรัฐอินเดียนา กลายเป็นเศรษฐีชั่วข้ามคืน หลังจากไปถอนเงินเช็คเยียวยาผู้ประสบภัยจากโควิด ก่อนจะพบว่ามียอดเงินคงเหลือในบัญชีมากกว่า 8.2 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 250 ล้านบาท

นายชาร์ลส คาลวิน นักผจญเพลิงในรัฐอินเดียนา กลายเป็นคนดังในพื้นที่ หลังจากภาพที่เขาโชว์สลิปเอทีเอ็มที่เพิ่งไปถอนเงินมา พบว่ามียอดเงินในบัญชีคงเหลือ 8.2 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 250 ล้านบาท ตามรายงานของเว็บไซต์ CNBC

นายคาลวิน บอกว่า ตอนแรกเขาไปกดเงินเพียงแค่ 200 ดอลลาร์ และรู้สึกประหลาดใจมากที่พบว่าตนมียอดเงินคงเหลือในบัญชีระดับเศรษฐี จึงพยายามจะเช็คยอดเงินในบัญชีอีกครั้ง ก็ยังคงระดับ 8.2 ล้านดอลลาร์อยู่ดี ด้วยความกังวลใจเขานำใบเสร็จดังกล่าวไปปรึกษาเพื่อนร่วมงาน ซึ่งทุกคนก็ไม่เชื่อว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น

เขาจึงตัดสินใจไปถามเจ้าหน้าที่ที่ธนาคารในวันถัดไป ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารก็ไม่พบความผิดปกติในบัญชีของนายคาลวิน แต่ก็ไม่ค่อยเชื่อนักว่านักผจญเพลิงคนนี้จะมีเงินติดบัญชีหลักล้านดอลลาร์ นายคาลวินก็ยืนกรานว่าต้องมีปัญหาที่ระบบอย่างแน่นอน เพราะเขาไม่ใช่คนร่ำรวยอะไรและมีรายได้แบบเดือนชนเดือน

ต่อมานายคาลวินจำเป็นต้องถอนเงินอีก 800 ดอลลาร์มาจ่ายค่าเช่าบ้าน ก็พบเงินในบัญชีกว่า 8 ล้านดอลลาร์เหมือนเดิม ด้วยความกังวลใจเขาได้ปรึกษาเพื่อนที่เป็นตำรวจท้องถิ่นอีกราย ซึ่งได้เตือนว่าอย่าแตะต้องเงินเหล่านั้นและให้ติดต่อธนาคารอีกครั้ง

จนกระทั่งวันจันทร์ที่ผ่านมา ชีวิตมหาเศรษฐีข้ามคืนของนายคาลวินก็จบลง เหลือไว้เป็นเช็คเยียวยาโควิดจากสรรพากรสหรัฐฯที่เข้าบัญชีมาช่วยชีวิตเขาได้พอดี ตามรายงานของ NBC Chicago และเมื่อสืบสาวราวเรื่องก็พบว่าปัญหามาจากตู้เอทีเอ็มที่เขาไปกดเงินในตอนแรกมีปัญหา

โดยนายคาลวินทิ้งท้ายไว้ว่า มันน่าเศร้าที่จู่คุณกลายเป็นเศรษฐีบนกระดาษและก็ถูกดึงกลับมาให้กลายเป็นคนถังแตกอย่างรวดเร็ว แต่เขาคิดว่าเมื่อคุณยากจนแล้ว คุณไม่มีทางจะไปไหนได้อีกนอกจากการทำชีวิตให้ดีขึ้นไปกว่านี้ และหวังว่าทุกคนบนโลกจะได้มีเงินในบัญชี 8.2 ล้านดอลลาร์แบบนี้บ้าง

ตอนนี้สรรพกากรสหรัฐฯ เร่งส่งเช็คเยียวยาชาวอเมริกันสู้โควิด-19 ตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งผู้มีคุณสมบัติจะต้องเป็นผู้เสียภาษีในปี 2018 และ 2019 โดยจะได้รับเช็คสูงสุด 1,200 ต่อคน สำหรับผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 99,000 ดอลลาร์ต่อปี และ 2,400 ดอลลาร์ สำหรับคู่สมรสที่ยื่นภาษีด้วยกันและมีรายได้ต่ำกว่า 198,000 ดอลลาร์ต่อปี ส่วนครอบครัวที่มีบุตรอายุต่ำกว่า 16 ปี จะได้เงินช่วยเหลือเพิ่มอีกคนละ 500 ดอลลาร์

Source: VOA Thai
https://www.voathai.com/a/indiana-m...efore-his-stimulus-check-arrives/5376793.html

www.cnbc.com

 

ประกาศใช้ พรก.เงินกู้1ล้านๆ!
.
มีพระบรมราชโองการ ประกาศใช้พระราชกำหนด ให้อำนาจคลังกู้เงินไม่เกิน 1 ล้านล้าน แก้ไขปัญหาเยียวยาผลกระทบจากโรคโควิด-19 ภายใต้3 แผนงาน ได้แก่
- ด้านแพทย์สาธารณสุข 45,000ล้าน
- เยียวยา ประชาชน เกษตรกร ผู้ประกอบการ 555,000ล้าน
- ฟื้นฟูเศรษฐกิจ 400,000ล้าน

 

คนประท้วงที่ Texas ให้เปิดเมืองและจะไม่ยอมใส่หน้ากาก พี่ว่าจะเอาอยู่จริงๆ เหรอ

 

ค่าไฟพุ่ง รมว.พลังงานนั่งไม่ติด นัดหารือ "กกพ." ด่วน

 

ชาวอเมริกันชุมนุมต้านล็อกดาวน์ต่อ ยอดเหยื่อโควิดพุ่งทะลุ 40,000 ศพแล้ว
ในวันอาทิตย์ ชาวอเมริกันยังคงออกมาชุมนุมประท้วงเรียกร้องให้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขณะที่ผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐฯ ทะลุ 40,000 ศพแล้ว
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

กระบะซิ่งกลับบ้าน เสียหลักชนขอบกั้นทาง พุ่งข้ามคู่ขนาน เสยเสาไฟดับ
หนุ่มขับกระบะรับ-ส่งพนักงาน รีบกลับบ้านกลัว "เคอร์ฟิว" เกิดเสียหลักชนขอบกั้นทาง พุ่งข้ามคู่ขนานเสยเสาไฟฟ้าแรงสูงดับ ตำรวจคาดผู้ตายขับมาเร็ว
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

สั่งเด้ง 2 ร.ต.อ.ฉาว พิษรีดเงินวงหมูกระทะ อ้างนั่งฝ่าฝืนเคอร์ฟิว
เด้ง 2 รอง สวป.สภ.สำโรงใต้ หลังไปรีดเงินวัยรุ่นนั่งกินหมูกระทะ 9 คน รวม 3 หมื่นบาท โทษฐานมั่วสุมและฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ผู้เสียหายโพสต์ประจาน พฤติกรรมตำรวจนอกรีต ส่วนผู้การฯปากน้ำฉุน
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

เลิกไม่เลิกฉุกเฉิน รอมติ ศบค. โฆษกแย้มติดเชื้อต้องตํ่าสิบ (คลิป)
โฆษก ศบค.ขอคนบริจาคแจกจ่ายของช่วยประสานรัฐจัดระเบียบเหตุหลายแห่งเบียดเสียดแย่งรับวุ่น ไม่สนเว้นระยะ ส่วนจะยุติหรือจะต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่นั้น ต้องรอมติที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

สิงคโปร์ติดโควิดอีก 596 ราย แซงอินโดฯ ขึ้นอันดับ 1 อาเซียน
สิงคโปร์พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 596 รายในวันอาทิตย์ ทำให้ยอดสะสมเพิ่มจนแซงหน้าอินโดนีเซียขึ้นมาเล็กน้อย กลายเป็นชาติอาเซียนที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดแล้ว
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

John Traczyk

ดาวอังคารกำลังละลาย



ยานสำรวจอวกาศ Mars Reconnaissance Orbiter ของสหรัฐได้หมุนรอบดาวเคราะห์แดงตั้งแต่ปี 2549 และได้พบเห็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าทึ่งของการยุบตัวของน้ำแข็งขั้วโลกบนดาวอังคาร ภาพที่ออกใหม่ที่น่าทึ่ง (ก.พ. 2020) แสดงการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ที่รุนแรงที่ขั้วโลกเหนือของดาวเคราะห์ ทีมกล้อง HiRise ของ orbiter สร้าง GIF ที่โดดเด่นทั้งก่อนและหลังแสดง“ ทุ่งน้ำแข็ง” ที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังเนื่องจากการตกแต่งดาวเคราะห์ที่น่าทึ่ง

เครดิต, NASA / JPL / UArizona

“ ขอบที่สูงชันของหมวกขั้วโลกเหนือพังทลาย” นักธรณีวิทยาดาวเคราะห์ Alfred McEwen อธิบาย “ อนิเมชั่นนี้แสดงให้เห็นว่าส่วนใดของความลาดชันทางด้านขวาทรุดตัวลงตั้งแต่สามปีดาวอังคารที่ผ่านมา และฝากทุ่งน้ำแข็งไว้ 1 ปีบนดาวอังคารมีอายุเกือบ 1.88 ปีโลกดังนั้นภาพต้นฉบับจึงถูกจัดเก็บในช่วง 5.5 ปีที่ผ่านมา ยานอวกาศจับภาพที่สองเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2019 และปล่อยการเปรียบเทียบที่ทรงพลังเมื่อวันศุกร์ ด้วยกล้องที่ใหญ่ที่สุดและทรงพลังที่สุดชิ้นหนึ่งที่เคยส่งไปยังอวกาศยาน Mars Reconnaissance Orbiter ได้ส่งข้อมูลกลับ 371 เทราบิตบนพื้นผิวเอเลี่ยนของดาวอังคาร

The steep edge of the north polar cap is falling apart,” planetary geologist Alfred McEwen explained. “This animation shows where a section of the slope at right has collapsed since three Mars years ago and deposited a field of ice blocks.” A Mars year lasts almost 1.88 Earth-years, so the original image was snapped over 5.5 years ago. The orbiter captured the second image on December 25, 2019, and released the powerful comparison on Friday. Equipped with one of the largest and most powerful cameras ever sent into space, the Mars Reconnaissance Orbiter has sent back 371 terabits of data on Mars’ alien surface.
ลลลลลลล

บทความเครดิตไปที่: The Big Wobble

Mars Is Melting.

The US space agency’s Mars Reconnaissance Orbiter has been spinning around the Red Planet since 2006 and has managed to witness a dramatic natural phenomenon of a polar ice collapse on Mars. Remarkable, freshly released images (Feb 2020) show a radical landscape change at the planet’s north pole. The orbiter’s HiRise camera team created a striking before-and-after GIF showing a “field of ice blocks” that were left behind in the wake of the stunning planetary redecorating.

Credit, NASA/JPL/UArizona

“The steep edge of the north polar cap is falling apart,” planetary geologist Alfred McEwen explained. “This animation shows where a section of the slope at right has collapsed since three Mars years ago and deposited a field of ice blocks.” A Mars year lasts almost 1.88 Earth-years, so the original image was snapped over 5.5 years ago. The orbiter captured the second image on December 25, 2019, and released the powerful comparison on Friday. Equipped with one of the largest and most powerful cameras ever sent into space, the Mars Reconnaissance Orbiter has sent back 371 terabits of data on Mars’ alien surface.

Article credit to: The Big Wobble.

 

John Traczyk

17 เมษายน 2020 การอัปเดตการกลับขั้วสนามแม่เหล็กโลก: ขั้วเหนือสนามแม่เหล็กโลกยังคงวิ่งต่อไปยังไซบีเรียซึ่งจะเพิ่มขึ้นอีก 3.59 ไมล์ใน 30 วันที่ผ่านมา

maverickstar ถูกโหลดใหม่
เผยแพร่เมื่อ 17 เมษายน 2020
วิดีโอ:

April 17, 2020. Pole Shift Update: The magnetic North Pole continues racing toward Siberia advancing another 3.59 miles in the last 30 days.

maverickstar reloaded
Published on April 17, 2020
Video: