เรื่องเด่น อดีตที่ผ่านพ้น ตอนที่ ๒๘ : ผีบังตา

ในห้อง 'อดีตที่ผ่านพ้น' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 2 สิงหาคม 2019.

  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,465
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,372
    28.jpg
    อดีตที่ผ่านพ้น ตอนที่ ๒๘ : ผีบังตา

    ในอารกสูตร สัตตกนิบาต อังคุตรนิกาย กล่าวถึงศาสดานอกพระพุทธศาสนาชื่อว่าอารกะ ได้สอนศิษย์ของตนว่า ชีวิตเป็นของน้อยไม่ควรประมาท ได้เปรียบเทียบไว้ว่า...

    - ชีวิตเหมือนหยาดน้ำค้าง คือ มีแต่จะระเหยแห้งหายไปโดยเร็ว
    - ชีวิตเหมือนต่อมน้ำ คือ ผุดขึ้นมาก็แตกทำลายไปโดยพลัน
    - ชีวิตเหมือนรอยไม้ขีดลงในน้ำ คือ ปรากฏวูบก็หายวับไป
    - ชีวิตเหมือนลำธารไหลลงจากภูเขา คือ มาโดยฉับพลัน แล้วผ่านไปทันที
    - ชีวิตเหมือนก้อนเขฬะ คือเหมือนน้ำลาย ที่มีแต่จะถูกเขาถ่มทิ้ง
    - ชีวิตเหมือนชิ้นเนื้อนาบไฟ คือ จะถูกเผาไหม้หมดไปในเวลาไม่นาน
    - ชีวิตเหมือนโคที่เขานำไปฆ่า คือ ต้องตายอย่างแน่นอน ไม่มีทางหลบพ้น

    ขนาดศาสดานอกพระพุทธศาสนา ยังสอนธรรมได้น่าฟังขนาดนี้ แต่เขาเห็นแค่อนิจฺจํ ความไม่เที่ยง และทุกฺขํ ความเป็นทุกข์เท่านั้น ไม่มีปัญญารู้ถึงอนตฺตา ความไม่มีอะไรเป็นเรา เป็นของเรา อย่างที่พระพุทธเจ้าทรงรู้....

    ชีวิตของอาตมาเลียบเลาะขอบเหวแห่งความตายมาหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการหมดลมเพราะท็อฟฟี่อุดคอ เป็นมัยโคพลาสม่านิวมอเนีย สลบไปสองวันสองคืน กระดูกคอเคลื่อนทับเส้นประสาท อาเจียนจนตัวซีดเป็นจิ้กจก ฉันข้าวไม่ได้แม้แต่เม็ดเดียวตั้งหกวัน...!

    นั่นมันเป็นเรื่องปกติธรรมดา (แล้วไอ้ที่ไม่ธรรมดามันเป็นอย่างไง...?) แต่ถ้าท่านเจอเรื่องราวประหลาดที่ชาวบ้านเชื่อกันว่า เป็นเพราะผีบังตาเพื่อจะเอาชีวิตท่าน แล้วท่านจะทำอย่างไร...? ถึงชีวิตเป็นของน้อย แต่มันไม่ได้ตายแบบปกตินี่ขอรับพระคุณท่าน...!

    ตอนเด็ก ๆ มีเรื่องเล่ากันว่า เด็กที่เล่นซ่อนหาตอนกลางคืนถูกผีบังเอาไว้ หายไปเป็นเวลานานกว่าจะตามกันเจอ ต้องเดือดร้อนทั้งหมอพระ หมอผี หลายต่อหลายรายที่เจอดี แต่อาตมาแคล้วคลาดไปทุกที เลยได้แต่ฟังเขาเล่าว่าตลอดมา...

    คุณประเสริฐ โตทัพ เพื่อนบ้านที่แสนดี ขับรถตกถนนขาหักหลายท่อน ตอนไปเยี่ยมท่านได้ถามว่า “ทำไมเกิดอุบัติเหตุ...?” ท่านบอกว่า “ผมก็ขับไปตามปกตินี่แหละ เห็นถนนใหญ่ ๆ โล่ง ๆ มารู้ตัวอีกทีตอนลงไปอัดกับจอมปลวกแล้ว…!”

    ทุกคนลงความเห็นว่า “ผีบังตา” ตามเคย สรุปได้ความว่า คนที่เคราะห์ร้ายดวงตก หรือจะต้องตายโหงแล้วไซร้ ผี (ไอ้ตัวเสือก…!) จะบังตาให้เกิดอันตรายนานาประการ จะหนักเบาตามแต่เคราะห์กรรม แต่อาตมาไม่เคยเจอเลยไม่ยอมเชื่อ...!

    ตอนเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ แล้ว อาตมาจึงเจอเข้าเต็ม ๆ ถึง ๒ วาระ ทำให้เชื่อสนิทเลยว่า คนเราที่เกิดอุบัติเหตุนั้นมองไม่เห็นจริง ๆ ส่วนจะเป็นผีบังตาอย่างโบราณว่าหรือไม่นั้น ขอมอบเป็นการบ้านให้ท่านไปวินิจฉัยเอง...

    ครั้งแรก...อาตมาข้ามถนนที่ปากซอยหน้าบ้าน มองขวามองซ้ายเห็นถนนว่างดี อาตมาก็รีบข้ามทันที เสียงเบรกดังสนั่นหวั่นไหว...! ปิ๊กอัพสีเขียวขี้ม้าคันหนึ่ง พุ่งเข้ามาถึงตัว แรงส่งที่มาด้วยความเร็วสูงทำให้เบรกไม่อยู่...!

    เหมือนมีใครกระชากคอเสื้อ อาตมาปลิวถอยไปข้างหลัง ปิ๊กอัพคันนั้นเฉียดไปอย่างหวุดหวิด เมื่อครู่ก็ดูดีแล้วว่าถนนว่าง แล้วเจ้าปิ๊กอัพมหาภัยมาได้อย่างไร..? จะไม่เชื่อเรื่องผีบังตาก็ไม่ได้ สายตาไม่ได้มีปัญหา แล้วทำไมถึงมองไม่เห็น...?

    ครั้งที่สอง...อาตมาเดินอยู่ข้างสะพานลอยพระโขนง อเมริกันโฮลเด้นคันมหึมา ทื่อเข้ามาถึงตัว อาตมากระเด็นไปข้างหน้าเหมือนถูกถีบ พ้นจากการโดนบี้ชนิดเส้นยาแดงผ่าสิบหก คนขับรถนั่งปากอ้าตาค้าง คงจะเพิ่งเห็นอาตมาเหมือนกัน...!

    ไอ้ผีร้ายนี้บังได้แสบมาก...มันเล่นบังทั้งคนขับทั้งอาตมาเลย ดีที่บารมีครูบาอาจารย์ยังคุ้มหัว เพราะอาตมาพกธงมหาพิชัยสงคราม และเหรียญกูผู้ชนะของ "หลวงพ่อ" ทำให้รอดพ้นจากเคราะห์กรรมไปอย่างหวุดหวิด...

    เรื่องพิสดารเหล่านี้ ควรรับฟังเอาไว้บ้าง พอเป็นเครื่องประดับความรู้ ที่สำคัญที่สุดคือ ต้องเร่งการปฏิบัติให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ถ้าถึงระดับหนึ่งแล้ว ความตายก็ไม่ใช่ของน่ากลัวเลยแม้แต่น้อย กล้ากวักมือเรียกมันให้มาเสียด้วยซ้ำไป...!

    ๓ มีนาคม ๒๕๓๓
    พระใบฎีกาเล็ก สุธมฺมปญฺโญ

    ที่มา www.watthakhanun.com
    ภาพประกอบโดย สำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี
    #๖๐ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...