ติดตามสถานะการณ์

ภาพน่ากลัว! ทอร์นาโดเกรี้ยวกราดซัดเครื่องบินลำยักษ์เคลื่อน-รถบัสพลิกตะแคงบนลานบิน (ชมคลิป) เผยแพร่: 30 ม.ค. 2562 04:00 ปรับปรุง: 30 ม.ค. 2562 10:53 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เดลีเมล์ - สื่อต่างประเทศเผยแพร่วิดีโอน่าขนลุก นาทีที่ทอร์นาโดลูกหนึ่งกำลังฟาดงวงอย่างกราดเกรี้ยวตอนที่เคลื่อนตัวข้ามรันเวย์ของสนามบินแห่งหนึ่ง ซัดเครื่องบินขนาดใหญ่หลายลำเคลื่อนไหวตามกระแสลมและรถบัสสนามบินพลิกคว่ำ ส่งผลให้ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ 12 คน

พวกผู้โดยสารที่สนามบินอันตัลยาในตุรกี เฝ้ามองสถานการณ์จากภายในอาคารผู้โดยสารขาออกด้วยใจระทึก โดยเครื่องบินหลายลำถึงกับเคลื่อนตัวเนื่องจากทานกระแสลมแรงลมแรงไม่ไหว ขณะเดียวกัน ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักก็ทำให้เที่ยวบินหลายเที่ยวประสบปัญหาเดินทางล่าช้า



ในวิดีโอพบเห็นทอร์นาโดลูกหนึ่งหมุนตัวด้วยความเกรี้ยวกราดเคลื่อนผ่านเครื่องบิน 3 ลำ ทำให้เครื่องบินเหล่านั้นถึงกับเคลื่อนตัวไปตามแรงลม และระหว่างที่มันมุ่งสู่เครื่องบินลำที่ 4 นั้น พบเห็นรถบัสรับส่งผู้โดยสารจอดอยู่คั่นกลางและมันถูกซัดหมุนติ้วตะแคงข้าง ก่อนภาพจะถูกตัดไป

มูนีร์ คาราโลกรู ผู้ว่าการจังหวัดอันตัลยา เผยว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 12 คนบนรถบัสที่จอดรถส่งผู้โดยสารขึ้นเครื่อง ขณะที่สำนักข่าวอาร์ทีนิวส์รายงานว่า มีเครื่องบิน 2 ลำ, รถบัส 2 คัน, รถมินิบัส 2 คัน, บันไดเทียบเครื่อง 1 อัน และเฮลิคอปเตอร์ตำรวจ 1 ลำได้รับความเสียหายจากพายุลูกนี้

https://mgronline.com/around/detail/9620000010221

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jan 29) นายกฯ ชี้ปฏิทินงานพระบรมราชาภิเษกเริ่ม 6 เม.ย.ถึง พ.ค. ให้ 6 พ.ค.หยุดราชการ : วันนี้ (29 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงหมายกำหนดการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ว่าถือเป็นงานพระราชพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ของคนไทยซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 6 เมษายน มีพิธีพลีกรรมตักน้ำทุกจังหวัด โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน จากนั้นวันจันทร์ที่ 8 ถึงวันอังคารที่ 9 เมษายน พิธีเสกน้ำที่ต่างจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และวันพฤหัสบดีที่ 18 ถึงวันศุกร์ที่ 19 เมษายน พิธีเสกน้ำรวมที่วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เรื่องของน้ำนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับสั่งว่าขอให้เป็นน้ำที่สะอาด โดยต้องมีการพิสูจน์ คัดกรองต่างๆ ให้ดี ให้บริสุทธิ์ สะอาด ถือเป็นมงคล เพราะใช้สำหรับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และวันจันทร์ที่ 22 ถึงวันอังคารที่ 23 เมษายนจะเป็นพิธีจารึกพระสุพรรณบัฏ ทั้งหมดนี้คือกิจกรรมในเดือนเมษายน

นายกฯ กล่าวต่อว่า จากนั้นในวันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จพระราชดำเนินมาทรงบวงสรวง

และวันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคมจะเป็นพิธีเชิญพระสุพรรณบัฏเข้าวัง และประกาศการบรมราชาภิเษก ซึ่งจะมี ครม.และคู่สมรสไปร่วมด้วย

ส่วนวันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม ช่วงเช้าจะเป็นพิธีบรมราชาภิเษก ช่วงบ่าย ถวายพระพร ช่วงเย็นพิธีประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก และพิธีสักการะพระบรมอัฐิ ส่วนช่วงค่ำจะเป็นพิธีเถลิงพระแท่นบรรจถรณ์

จากนั้นวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม ช่วงเช้ามีพิธีเฉลิมพระปรมาภิไธย ช่วงเย็นพิธีเลียบพระนคร

ส่วนวันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม ช่วงเย็นเสด็จออกให้ประชาชนเฝ้าฯ และรับคณะทูต ซึ่งในวันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคมนี้ ได้มีการหารือแล้วเห็นควรให้เป็นวันหยุดราชการ ต่อเนื่องตั้งแต่วันเสาร์ อาทิตย์ และจันทร์ ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินการต่างๆ เป็นไปด้วยดี

นายกฯ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม กิจกรรมที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ยังมีอีกพอสมควร เป็นกิจกรรมถวายเพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่พระองค์ท่าน มีตั้งแต่เรื่องการเปิดโครงการในเรื่องของคลองเปรมประชากร ในต่างจังหวัดก็มีเรื่องของคู คลองทั่วประเทศ เรื่องของการทำจิตอาสา การจัดสวดมนต์ และกิจกรรมของหลายศาสนา โดยจะมีกิจกรรมตลอดทั้งเดือน

Source: ผู้จัดการออนไลน์
https://mgronline.com/politics/detail/9620000010063

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jan 29) ห่วงเงินเฟ้อต่ำทำคนสับสน - ธปท.มองเงินเฟ้อต่ำเป็นผลจากโครงสร้างเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป พร้อมทบทวนเป้าใหม่หากประชาชน ขาดความเข้าใจ

นายปิติ ดิษยทัต ผู้อำนวยการสถาบันวิจัย สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ เปิดเผยว่า การปรับกรอบเงินเฟ้อนั้น สามารถที่จะทบทวน หากอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำและหลุดกรอบเป้าหมายเป็นระยะเวลานาน หรือประชาชนยังไม่มีความเข้าใจว่าอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำสวนทางกับราคาสินค้า เป็นผลมาจากปัญหาเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจไทย อย่างราคาน้ำมัน การแข่งขันทางด้านราคาในธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ก็อาจจะมีการทบทวนพร้อมทำความเข้าใจกับประชาชนมากขึ้น

ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ดำเนินนโยบายการเงินภายใต้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อแบบยืดหยุ่น เชื่อว่าแม้ปัจจุบันเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับต่ำ แต่หากผ่านพ้นไปได้ในระยะข้างหน้าอัตราเงินเฟ้อก็จะกลับมาอยู่ในกรอบเดิมที่ทางด้าน ธปท.และกระทรวงการคลังได้กำหนดไว้

"เชื่อว่าหากมีการสื่อสารที่ดีกับประชาชนเรื่องอัตราเงินเฟ้อต่ำว่ามาจากปัจจัยเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจ ทำให้เงินเฟ้อหลุดกรอบ จนมีความเชื่อมั่นก็ไม่น่า จะมีการปรับเงินเฟ้อ แต่หากประชาชน คิดว่า ธปท.คุมเงินเฟ้อไม่ได้ ก็จะต้อง กลับมาหารือให้ชัดเจนมากขึ้น" นายปิติ กล่าว

นายปิติ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาหลายประเทศได้ปรับเป้าหมายเงินเฟ้อน้อยลง ซึ่งมาจากหลายเหตุผล เพราะหากเงินเฟ้อหลุดเป้าหมายนานจะทำให้การสื่อสารไปยังสาธารณชนทำได้ยากขึ้น การดำเนินนโยบายอาจจะผิดเพี้ยนตามไปด้วย จึงทำให้มีการปรับลดกรอบเงินเฟ้อลงเพื่อให้สอดคล้องกับกรอบเงินเฟ้อระยะปานกลางแทน เช่น ประเทศเกาหลี

น.ส.พิม มโนพิโมกษ์ หัวหน้า กลุ่มงานวิจัย สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ เปิดเผยผลการวิจัยเรื่อง การเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อไทยในยุคดิจิทัล ว่า การแข่งขันในธุรกิจอี-คอมเมิร์ซทำให้ราคาสินค้าลดลง ซึ่งอาจจะมีผลต่ออัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำในอนาคตได้

ดังนั้น ในนโยบายการกำหนด เป้าหมายกรอบเงินเฟ้อจะต้องยืดหยุ่น ขึ้น ที่เชื่อว่าน่าจะส่งผลดี ทั้งในส่วน ของคนดำเนินนโยบาย ประชาชนทั่วไป ให้เข้าใจว่าเงินเฟ้อที่ต่ำมาจากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง สภาวะเศรษฐกิจที่ไม่สามารถควบคุมได้ ขณะที่การดำเนินนโยบายจะต้องตระหนักถึงความยืดหยุ่น มีการใช้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ยาวขึ้น

"การที่ธนาคารกลางต่างๆ ได้ตั้งกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อไว้ เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวการคาดการณ์ของสาธารณชนได้รู้ว่า ไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะมีความผันผวนอย่างไร ธนาคารกลางก็จะทำหน้าที่เพื่อให้เงินเฟ้อกลับเข้าสู่เป้าหมายในระยะยาวได้ ดังนั้น หากมีการปรับเป้าหมายกรอบเงินเฟ้อไปมาก็จะเป็นการส่งสัญญาณต่อตลาดว่า ธนาคารกลางไม่จริงต่อการรักษาเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบ ซึ่งจะบั่นทอนความเชื่อมั่นต่อกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ ดังนั้นการดำเนินนโยบายที่ดีและเหมาะสมคือจะต้องรักษาเป้าและยืดหยุ่นมากขึ้น"

Source: Posttoday

อ่านบทความ เรื่องเงินเฟ้อไทยในยุคดิจิทัล: 5 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับราคาสินค้าออนไลน์ในประเทศไทย
วิเคราะห์พฤติกรรมการตั้งราคาสินค้าออนไลน์ด้วย Big Data
https://www.pier.or.th/?post_type=abridged&p=6388

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Jan 29) Update: รัสเซียคาดเวเนฯ จะมีปัญหาคืนหนี้เพราะถูกสหรัฐคว่ำบาตรน้ำมัน- รัสเซียคาดว่า เวเนซุเอลาจะมีปัญหาในการชำระคืนหนี้รัสเซีย เพราะถูกสหรัฐคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันของรัฐหวังกดดันให้ประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโรลงจากตำแหน่ง

นายเซอร์กี สตาร์ชัก รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังรัสเซียตอบข้อถามผู้สื่อข่าวว่า การที่รัฐบาลสหรัฐประกาศมาตรการกับบริษัทพีดีวีเอสเอของเวเนซุเอลาหวังจำกัดการส่งออกน้ำมันดิบมาสหรัฐน่าจะมีผลต่อความสามารถของเวเนซุเอลาที่จะชำระคืนหนี้รัสเซีย 3,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 99,281 ล้านบาท) คงยากที่จะประเมินออกมาในภาพอื่น ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นกับกองทัพและทหารเวเนซุเอลาแล้วว่า จะซื่อสัตย์ต่อหน้าที่และคำสัตย์ปฏิญญาณอย่างไร

นายสตาร์ชักเผยว่า เวเนซุเอลามีกำหนดชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายครึ่งปีจำนวน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,153 ล้านบาท) ให้แก่รัสเซียในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ หลังจากชำระครั้งหลังสุดเมื่อสิ้นเดือนกันยายนปีก่อน และยังไม่เคยผิดนัดชำระแม้แต่ครั้งเดียว รัสเซียและรอสเนฟต์ ผู้ผลิตน้ำมันใหญ่ที่สุดของรัสเซียให้เงินกู้และวงเงินสินเชื่อแก่เวเนซุเอลาอย่างน้อย 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 535,763 ล้านบาท) มาตั้งแต่ปี 2549

รัฐบาลรัสเซียประณามสหรัฐในวันนี้ว่า แทรกแซงกิจการภายในของเวเนซุเอลาอย่างผิดกฎหมาย และดูเหมือนจะพยายามริบทรัพย์สินของทางการเวเนซุเอลา ก่อนหน้านี้รัสเซียกล่าวหาสหรัฐว่า พยายามยึดอำนาจเวเนซุเอลาและเตือนสหรัฐว่าอย่าใช้กำลังทหารแทรกแซง ด้านนายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวเมื่อวานนี้ว่า มาตรการใหม่จะทำให้นายมาดูโรสูญเสียรายได้จากการส่งออกน้ำมัน 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 346,626 ล้านบาท) ในปีหน้า และไม่สามารถเข้าถึงสินทรัพย์มูลค่า 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 220,552 ล้านบาท) ของบริษัทพีดีวีเอสเอได้

Source: สำนักข่าวไทย

- Russia tells Venezuela it must repay its debt to Moscow on time: https://www.reuters.com/article/us-...qUERwR-LSdpVEb_DCEUFWIbRgvzDrWqrpfuEkv5M5MrbE

*******************************
เปิดเบื้องหลังผู้สนับสนุน 'มาดูโร-กวยโด'

ทั่วโลกกำลังจับตาเวเนซุเอลา ประเทศร่ำรวยน้ำมันแห่งละตินอเมริกาหลังจาก "ฮวน กวยโด" ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วัย 35 ปี ประกาศ ตัวเป็นประธานาธิบดีรักษาการ ขณะที่ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ยังอยู่ในตำแหน่ง ทั้งคู่ไม่ได้ประจันหน้ากันอย่างโดดเดี่ยว ต่างฝ่ายต่างมีแบ็คอัพแข็งแกร่ง ชวนให้เทียบสรรพกำลังกันแบบหมัด ต่อหมัด

มาดูโร
-กองทัพ : กองทัพเวเนซุเอลาเรียกได้ว่าเป็นกระดูกสันหลังรัฐบาลได้เลย เมื่อวันพฤหัสบดี (24 ม.ค.) นายทหารระดับสูงต่างยืนยันเหนียวแน่นว่าสนับสนุนมาดูโร

ความแนบชิดระหว่างกองทัพกับมาดูโรยังเห็นได้จากคณะรัฐมนตรี 32 คน เป็นทหาร9 คน ดูแลกระทรวงสำคัญอย่างกลาโหม มหาดไทย เกษตร และสำนักงานข่าวกรอง รวมถึงรัฐวิสาหกิจน้ำมัน "พีดีวีเอสเอ"ที่สร้างรายได้เข้าประเทศ 96% เวเนซุเอลาเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน "โอเปก" ไม่เพียงเท่านั้นทหารยังดูแลสถานีโทรทัศน์ ธนาคารและโรงงานประกอบรถยนต์อีกอย่างละ 1 แห่ง ในบรรดาบริษัทจำนวนมากที่กองทัพดูแล

แต่ดูๆ ไปแรงสนับสนุนจากทหารก็ ส่อเค้าไม่แน่ไม่นอนเมื่อ พ.อ.โฮเซ ลูอิส ซิลวา ทูตทหารประจำกรุงวอชิงตัน ประกาศ เมื่อวันเสาร์ (26 ม.ค.) ไม่ยอมรับมาดูโร เป็นประธานาธิบดีอีกต่อไป พร้อมเรียกร้อง ให้พี่น้องทหารสนับสนุนกวยโดแทน

-เจ้าหนี้นานาชาติและพันธมิตร จีน เจ้าหนี้รายใหญ่สุดของเวเนซุเอลาวงเงินราว 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ประกาศต่อต้านการแทรกแซงจากภายนอก หลังสหรัฐและพันธมิตรยอมรับว่ากวยโดเป็นประธานาธิบดีรักษาการ

ส่วนรัสเซีย เจ้าหนี้ใหญ่อันดับ 2 ก็หนุนกองทัพเวเนซุเอลา ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ถึงกับต่อสายตรงโทรไปให้กำลังใจกับมาดูโร ประเทศอื่นๆ อาทิ ตุรกี คิวบา โบลิเวีย อุรุกวัยเม็กซิโก อิหร่าน เกาหลีเหนือ ยังคงยอมรับผู้นำวัย 56 ปีรายนี้เช่นกัน

-ศาล ผู้พิพากษาศาลชุดปัจจุบันได้รับการแต่งตั้งจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่สนับสนุนรัฐบาล เมื่อเดือน ธ.ค.2558 หรือไม่กี่วันก่อนที่ฝ่ายค้านจะได้ครองสภา และตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมาศาลฎีกาประกาศว่าสภาที่ฝ่ายค้านควบคุมเชื่อถือไม่ได การกระทำ ทุกอย่างของสภาถือเป็นโมฆะ ล่าสุดศาลฎีกา ยืนยันว่าสนับสนุนมาดูโรต่อไป แม้แต่ ตาเร็ก วิลเลียม ซาบ อัยการสูงสุด ก็ภักดีต่อมาดูโร

-สภาร่างรัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติโดยพฤตินัย ที่ฝ่ายค้านวิจารณ์ว่า ทำแต่เรื่องผิดกฎหมาย

-คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ซีเอ็นอี)ทิบิเซย์ ลูเซนา ประธานซีเอ็นอีออกตัวชัดเจนว่า สนับสนุนรัฐบาล เธอเคยประกาศให้ พรรคฝ่ายค้านขาดคุณสมบัติไปแล้วหลายพรรค

เมื่อปี 2559 ฝ่ายค้านพยายามจัดลงประชามติถอดถอนมาดูโร แต่ถูกผู้พิพากษาที่หนุนรัฐบาลและซีเอ็นอีสกัดไว้ พรรคฝ่ายค้าน จีงพากันไม่สังฆกรรมกับการเลือกตั้งครั้งล่าสุด รวมถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือน พ.ค.2561 ที่มาดูโรได้รับเลือกตั้ง กลับมาอีกครั้ง โดยให้เหตุผลว่า ไม่เป็นกลาง ที่มาดูโรชนะเลือกตั้งก็เพราะโกง

กวยโด

-นานาชาติ ตอนที่กวยโดประกาศตนเองเป็นประธานาธิบดีรักษาการ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ยอมรับอย่างรวดเร็ว ตามด้วยบราซิล โคลอมเบีย อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย อิสราเอล โดยสเปน ฝรั่งเศส เยอรมนี อังกฤษ โปรตุเกส และเนเธอร์แลนด์ เรียกร้องให้เวเนซุเอลาจัดเลือกตั้งภายใน 8 วัน ไม่เช่นนั้นแล้วพวกตนจะยอมรับให้ กวยโดเป็นประธานาธิบดีรักษาการ แต่กรีซยังหนุนมาดูโร

ขณะที่ประธานองค์กรนานารัฐอเมริกัน (โอเอเอส) "ลูอิส อัลมาโกร" ชาวอุรุกวัย สนับสนุนกวยโด

-สภานิติบัญญัติแห่งชาติ แนวร่วมฝ่ายค้านชนะเลือกตั้งมาเมื่อปี 2558 ถือเป็นความปราชัยครั้งใหญ่สุดของรัฐบาลฝ่ายซ้าย ครั้นกวยโด รับตำแหน่งประธานสภาในวันที่ 5 ม.ค. เขาเริ่มกดดันให้มีรัฐบาลช่วงเปลี่ยนผ่านรอจัดเลือกตั้งใหม่ และขอให้กองทัพเลิกหนุนรัฐบาลแล้วจะได้รับการนิรโทษกรรม

-ผู้พิพากษาที่ลี้ภัยในต่างแดนต่างสนับสนุนให้กวยโดรักษาการณ์รอการเลือกตั้งใหม่

ดูผู้สนับสนุนต่างฝ่ายต่างปึ้กทั้งคู่ กวยโดเรียกร้องให้จัดเลือกตั้ง ขณะที่มาดูโรไม่สนใจ แน่นอนว่าความขัดแย้งทางการเมืองครั้งนี้จะส่งผลต่อเศรษฐกิจและสังคมให้ลากยาวต่อไป

Source: กรุงเทพธุรกิจ

- Guaido versus Maduro: Who is backing Venezuela's two presidents
https://www.reuters.com/article/us-...a5wWCd2Hj-ejDFb8Mkq6XetVKqvSzDRELnQ0y4T7iKUYg

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jan 29) จีนโวยสหรัฐฟ้องหัวเว่ยครั้งใหญ่ ชี้เป็น "คดีการเมือง": รัฐบาลปักกิ่งแสดงความไม่พอใจอย่างหนัก และกล่าวว่าเป็น "คดีการเมือง" ต่อการที่สหรัฐประกาศดำเนินคดีอาญากับบริษัทหัวเว่ยมากถึง 23 กระทง ด้านรัฐบาลวอชิงตันยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นความขัดแย้งระหว่างภาครัฐกับองค์กรเอกชนของจีนเท่านั้น

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ว่านายเกิ่ง ส่วง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวเมื่อวันอังคาร 1 วันหลังกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐประกาศฟ้องร้องคดีอาญาต่อบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยีและบริษัทในเครืออีก 2 แห่ง คือ "หัวเว่ย ดีไวซ์ ยูเอสเอ" กับ "สกายคอม" ในคดีอาชญากรรมการเงินรวมทั้งสิ้น 23 กระทง ทั้งการฉ้อโกง ขัดขวางกระบวนการยุติธรรมและการจารกรรมข้อมูลของบริษัทคู่แข่ง ตลอดจนการลักลอบทำธุรกรรมกับอิหร่าน ว่า "เป็นคดีการเมือง" และเรียกร้องรัฐบาลวอชิงตันยุติการ "ใช้อำนาจรัฐอย่างเกินขอบเขตและไร้เหตุผล" ในการ "กวาดล้าง" หัวเว่ย และบริษัทด้านเทคโนโลยีอีกหลายแห่งของจีนด้วย

ด้านกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐออกแถลงการณ์ตอบโต้ว่า คดีความครั้งนี้เป็นกรณีพิพาทระหว่างรัฐบาลวอชิงตันกับบริษัทหัวเว่ยเท่านั้น ไม่ใช่ระหว่างรัฐบาลวอชิงตันกับรัฐบาลปักกิ่ง อย่างไรก็ตาม สหรัฐหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทางการจีนจะกำชับให้ผู้ประกอบการจากประเทศของตัวเองซึ่งเข้ามาลงทุนในสหรัฐ ปฏิบัติตามกฎหมายของรัฐบาลวอชิงตัน ในเวลาเดียวกัน สำนักงานใหญ่ของหัวเว่ยที่เมืองเซินเจิ้น ในมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐซึ่งร่วมกับสำนักงานสอบสวนกลาง ( เอฟบีไอ ) ซึ่งยื่นคำร้องทันภายในกำหนดคือวันที่ 30 ม.ค. เพื่อขอให้รัฐบาลแคนาดาพิจารณาส่งตัวผู้ต้องหาคนสำคัญซึ่งมีเพียงคนเดียว คือ น.ส.เมิ่ง หว่านโจว ผู้บริหารระดับสูงของหัวเว่ยและทายาทคนโตของนายเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งบริษัท เกิดขึ้นในเวลาเดียวกับที่คณะผู้แทนเจรจาการค้าขุดใหญ่จากรัฐบาลปักกิ่งเดินทางถึงกรุงวอชิงตัน นำโดยนายหลิว เฮ่อ รองนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษาด้านนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และนายอี้ กัง ประธานธนาคารประชาชนจีน ( พีบีโอซี ) ซึ่งนายวิลเบอร์ รอสส์ รมว.กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ หวังว่าจีนจะ "แยกแยะ" เรื่องนี้ได้

Source: เดลินิวส์ออนไลน์

- China says US indictment against Huawei is ‘unfair’ and ‘immoral’:
https://www.cnbc.com/2019/01/29/chi...4q8jJX4wExzXFHcAfpZGj1S8GG2R8vKDTnl_Su0w5_3Y4

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jan 29) เศรษฐกิจสหรัฐเสียหาย 3,000 ล้านดอลลาร์จากการปิดรัฐบาล 35 วัน : สำนักงานวิเคราะห์งบประมาณของรัฐสภาสหรัฐหรือ CBO ให้ตัวเลขว่าการปิดที่ทำการรัฐบาลกลางสหรัฐซึ่งใช้เวลายาวนานที่สุดคือ 35 วันสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจในช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้ว 3,000 ล้านดอลลาร์และอีก 8,000 ล้านดอลลาร์สำหรับเดือนมกราคม

แต่จากการที่ข้าราชการราวแปดแสนคนได้รับเงินเดือนย้อนหลังเมื่อหน่วยงานรัฐบาลกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ความสูญเสียทางเศรษฐกิจสุทธิจากความขัดแย้งทางการเมืองดังกล่าวนี้จะคิดเป็นมูลค่าราว 3,000 ล้านดอลลาร์

นอกจากนั้น CBO ยังประเมินด้วยว่าเงินงบประมาณของรัฐบาลกลาง 18,000 ล้านดอลลาร์ซึ่งได้รับการจัดสรรแล้วแต่ต้องล่าช้าลงเพราะการปิดรัฐบาลกลางจะถูกนำมาใช้จ่ายได้ตามปกติ นอกเสียจากว่าจะมีการปิดรัฐบาลกลางสหรัฐอีกครั้งในสามสัปดาห์ต่อจากนี้

หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ยอมลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณเพื่อเปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐอีกครั้งเมื่อสุดสัปดาห์ ได้มีการตั้งคณะกรรมการจากสองพรรคขึ้นเพื่อเจรจาและพยายามหาข้อสรุปเกี่ยวกับความต้องการของผู้นำสหรัฐที่จะสร้างกำแพงตามแนวพรมแดนระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโก

โดยประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการงบประมาณ 5,700 ล้านดอลลาร์เพื่อสร้างกำแพงดังกล่าวเพื่อป้องกันผู้อพยพข้ามพรมแดนอย่างผิดกฎหมายตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามพรรคเดโมแครตปฏิเสธคำขอเรื่องการนำเงินไปสร้างกำแพง และกล่าวว่ายินดีสนับสนุนงบประมาณเพิ่มมากขึ้นสำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยลักษณะอื่น เช่น การควบคุมตรวจตราที่จุดเข้าประเทศ การเพิ่มเจ้าหน้าที่ตรวจพรมแดน และการใช้เทคโนโลยีเพื่อตรวจจับผู้ลักลอบข้ามพรแดนอย่างผิดกฎหมาย เป็นต้น

ถึงกระนั้นก็ตามประธานาธิบดีทรัมป์ได้กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่าตนคิดว่ามีโอกาสไม่ถึง 50% ที่คณะกรรมการร่วมจากสองพรรคจะสามารถทำข้อตกลงซึ่งตนยอมรับได้ภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ และว่าการปิดรัฐบาลกลางสหรัฐอีกครั้งหนึ่งนั้นมีความเป็นไปได้หากไม่มีข้อตกลงใดใดซึ่งตนพอใจ หรือมิฉะนั้นตนก็อาจประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติเพื่อดึงงบประมาณจากส่วนอื่นไปใช้สร้างกำแพงโดยไม่จำต้องขออนุมัติงบประมาณหรือผ่านกระบวนการทางรัฐสภาแต่อย่างใด

CBO หรือสำนักงานวิเคราะห์งบประมาณของรัฐสภาสหรัฐยังคาดด้วยว่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจ 3,000 ล้านดอลลาร์จากการปิดรัฐบาลกลางครั้งล่าสุดนี้จะส่งผลให้ผลผลิตจีดีพีของสหรัฐซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 19 ล้านล้านดอลลาร์ต้องหดตัวลงราว 0.02% อย่างไรก็ตาม CBO ชีว่าผลกระทบที่สำคัญมากกว่าต่อเศรษฐกิจของสหรัฐโดยรวมคือเรื่องที่เกิดกับสถานะทางการเงินของข้าราชการแต่ละคน รวมทั้งต่อบริษัทต่างๆ ในภาคเอกชนซึ่งต้องเสียโอกาสทางธุรกิจไป และว่าธุรกิจเอกชนบางแห่งอาจพบว่าไม่มีทางที่จะเรียกคืนรายได้หรือโอกาสทางธุรกิจที่เสียไปแล้วนี้กลับคืนมาได้เลย

Source: VOA Thai

- Government Shutdown Cost U.S. Economy $11 Billion, C.B.O. Says:
https://www.nytimes.com/2019/01/28/...wLlTolQ_qbDcJACvJSivE2J6vCIzo2DgzqPmH57sggTzU

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jan 29) 3 แบงก์อาหรับจับมือควบกิจการขึ้นแท่นแบงก์ใหญ่อันดับ 5 ในตะวันออกกลาง : อาบู ดาบี คอมเมอร์เชียล แบงก์ (ADCB), ยูเนียน เนชั่นแนล แบงก์ (UNB) และแบงก์ อัล ฮิลัล ประกาศผนวกกิจการกันในวันนี้ ส่งผลให้เกิดธนาคารใหญ่อันดับ 5 ในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ขณะที่มีสินทรัพย์รวม 1.14 แสนล้านดอลลาร์

การผนวกกิจการดังกล่าวถือเป็นครั้งที่ 2 ในอาบู ดาบีในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ธนาคารที่เกิดจากการควบรวมกิจการในครั้งนี้จะมีลูกค้ารวม 1 ล้านคน และครองสัดส่วนตลาดจำนวนมากในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีสินทรัพย์ 15% ส่วนแบ่งด้านสินเชื่อรายย่อย 21% และเงินฝาก 16%

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
- UAE firms tie up in three-way mega merger to create $114 billion banking giant: https://www.cnbc.com/2019/01/29/uae...u5DEZUneQNTHsLxW-J_Z_DseaZyEmylzVpjGxMl5qlmfw

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Jan 30) รัฐสภาอังกฤษไฟเขียวร่างแก้ไข Brexit ค้านแยกตัวแบบไม่มีข้อตกลง: รัฐสภาอังกฤษทำการลงมติต่อร่างแก้ไขข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ที่มีการเสนอมาจากสมาชิกรัฐสภาในวันนี้ เพื่อบ่งชี้แนวทาง Brexit ที่รัฐสภาต้องการ หลังจากที่ได้ลงมติอย่างถล่มทลายคว่ำร่างข้อตกลง Brexit ที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ทำไว้กับผู้นำสหภาพยุโรป (EU) ก่อนหน้านี้

การลงมติของสมาชิกรัฐสภาในวันนี้ ไม่ใช่เป็นการลงมติต่อร่างข้อตกลง Brexit ฉบับใหม่ของนางเมย์ แต่เป็นร่างแก้ไขข้อตกลง Brexit ของนางเมย์ที่มีการเสนอมาจากสมาชิกรัฐสภา ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 7 ฉบับ

ผลการลงมติของสมาชิกสภาสามัญชนปรากฎว่า สมาชิกรัฐสภาลงมติรับร่างแก้ไข 2 ฉบับ และคว่ำร่างแก้ไข 5 ฉบับ โดยมีรายละเอียดดังนี้:-
--ร่างแก้ไขข้อตกลง Brexit ที่มีการเสนอจากนางแคโรไลน์ สเปลแมน/นายแจ็ค โดรมีย์ ได้รับเสียงสนับสนุนด้วยคะแนนเสียง 318-310 โดยร่างแก้ไขดังกล่าวจะคัดค้านการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีการทำข้อตกลง

--ร่างแก้ไขข้อตกลง Brexit ที่มีการเสนอจากเซอร์เกรแฮม เบรดี ได้รับเสียงสนับสนุนด้วยคะแนนเสียง 317-301 โดยร่างแก้ไขดังกล่าวเรียกร้องให้มีการเสนอทางเลือกต่อนโยบาย Backstop ซึ่งเป็นนโยบายในการค้ำประกันว่าจะไม่มีการกลับไปใช้มาตรการควบคุมชายแดนอย่างเข้มงวดระหว่างไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นรัฐสมาชิกของสหภาพยุโรป

--ร่างแก้ไขข้อตกลง Brexit ที่มีการเสนอจากนายเจเรมี คอร์บิน ผู้นำพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ถูกคว่ำด้วยคะแนนเสียง 327-296
--ร่างแก้ไขข้อตกลง Brexit ที่มีการเสนอจากนายเอียน แบล็คฟอร์ด ถูกคว่ำด้วยคะแนนเสียง 327-39
--ร่างแก้ไขข้อตกลง Brexit ที่มีการเสนอจากนายโดมินิค กรีฟ ถูกคว่ำด้วยคะแนนเสียง 321-301
--ร่างแก้ไขข้อตกลง Brexit ที่มีการเสนอจากนายอีเวตต์ คูเปอร์ ถูกคว่ำด้วยคะแนนเสียง 321-298
--ร่างแก้ไขข้อตกลง Brexit ที่มีการเสนอจากนางราเชล รีฟส์ ถูกคว่ำด้วยคะแนนเสียง 322-290
ร่างแก้ไขข้อตกลง Brexit ที่ผ่านการรับรองจากรัฐสภาในวันนี้ จะเป็นสิ่งที่ทำให้นางเมย์ทราบว่ารัฐสภาต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงในประเด็นใดในข้อตกลง Brexit ฉบับที่นางเมย์ทำไว้กับผู้นำ EU โดยคาดว่าหากนางเมย์นำร่างแก้ไขที่ผ่านการรับรองจากรัฐสภาในวันนี้ ไปเปลี่ยนแปลงร่างข้อตกลงของตน ก็จะช่วยให้ร่างข้อตกลง Brexit ฉบับใหม่ของนางเมย์ผ่านการรับรองจากรัฐสภา หากมีการยื่นครั้งใหม่

หลังจากที่รัฐสภาลงมติรับรองร่างแก้ไขข้อตกลง Brexit จากสมาชิกรัฐสภาในวันนี้แล้ว นางเมย์ก็จะนำเนื้อหาในร่างแก้ไขดังกล่าวมาปรับปรุงเป็นร่างข้อตกลง Brexit ฉบับใหม่เพื่อนำไปเจรจาครั้งใหม่กับผู้นำ EU

ทั้งนี้ นางเมย์มีเวลาจนถึงวันที่ 26 ก.พ.ที่จะต้องนำร่างข้อตกลง Brexit ฉบับใหม่ของตนผ่านการอนุมัติจากรัฐสภา มิฉะนั้นรัฐสภาจะทำการลงมติว่าจะเรียกร้องให้ EU ชะลอกำหนดเวลาในการที่อังกฤษจะแยกตัวจาก EU จากกำหนดเดิมวันที่ 29 มี.ค.หรือไม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญกับภาวะการแยกตัวออกจาก EU โดยไม่มีการบรรลุข้อตกลงในวันดังกล่าว

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

เพิ่มเติม

Amendment ข้อตกลง Brexit อื่นๆ ประกอบด้วย

- นาย Jeremy Corbyn หัวหน้าพรรค Labour ต้องการให้รัฐบาลสหราชอาณาจักรระบุอย่างชัดเจนว่าจะไม่เกิด no-deal Brexit และให้สภาลงมติในทางเลือกอื่นๆ นอกเหนือจากข้อตกลงของรัฐบาล ซึ่งได้แก่ การเป็นสมาชิก customs union และ single market

- พรรค SNP ของสกอตแลนด์ ต้องการให้ขยายระยะเวลาของ Article 50 ออกไป และต้องการกำหนดให้รัฐบาลระบุอย่างชัดเจนว่าจะไม่เกิด no-deal Brexit

- นาย Dominic Grieve สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรค Conservative ต้องการให้รัฐบาลจัดให้สมาชิกรัฐสภาสหราชอาณาจักรมีการหารือกันในประเด็นข้อตกลง Brexit ในรูปแบบอื่นๆ นอกเหนือจากที่รัฐบาลเสนอ และให้สภาสามารถลงมติรับรองข้อตกลงรูปแบบใดๆ หรือแม้กระทั้งลงมติให้จัดการลงประชามติ Brexit ขึ้นใหม่ได้

- นาง Yvette Cooper สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรค Labour ต้องการให้รัฐบาลขอขยายระยะเวลา Article 50 ออกไปจนถึงปลายปีนี้ หากสภาไม่สามารถรับรองข้อตกลง Brexit ใดๆ ได้ภายในปลายเดือน ก.พ. นี้ ซึ่งคล้ายกับ Amendment ที่นาง Rachel Reeves สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรค Labour เสนอให้ขยายระยะเวลาออกไปโดยไม่ระบุว่ายาวนานเพียงใด

- นาง Caroline Spelman สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรค Conservative ต้องการให้รัฐบาลระบุว่าจะไม่เกิด no-deal Brexit

อย่างไรก็ตาม Amendment ที่มีการลงมติในวันนี้ ไม่มีข้อผูกมัดทางกฎหมายต่อรัฐบาล แต่จะเป็นการสร้างแรงกดดันต่อรัฐบาลให้ปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าวเพื่อให้ได้ข้อตกลง Brexit ที่ได้รับการรับรองจากสภา

Source: BOTSS

- U.K. Parliament Rips Up Theresa May’s Brexit Deal
https://www.bloomberg.com/news/arti...2UBT-EuV7HSTp0YBjzasXJXR-Q-Essg-j3hElA9K3T9nk

- สภาอังกฤษให้อำนาจ “เทเรซา เมย์” เจรจา EU ใหม่ มุ่งหารือพรมแดน “ไอร์แลนด์”
https://www.prachachat.net/world-news/news-283979

- ค่าเงินบาทแข็งค่า เหตุตลาดรอความคืบหน้าสงครามการค้า ด้านรัฐสภาอังกฤษมีมติให้นายกฯเมย์เจรจาข้อตกลง Brexit กับสหภาพยุโรปอีกครั้ง
https://www.prachachat.net/finance/news-283986

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jan 30) ข้อพิพาททางการค้ากับจีนจะไม่กระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ : นาย Steven Mnuchin, U.S. Treasury Secretary ซึ่งมีกำหนดการที่จะพบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในการเจรจาการค้าของจีน ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในสัปดาห์นี้ ให้สัมภาษณ์ต่อ Fox Business Network ระบุว่า หากทางการจีนแสดงความจำนนในเรื่องการเจรจาการค้าต่อประธานาธิบดี Trump มากเพียงพอ ก็มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลสหรัฐฯ จะยกเลิกมาตราการด้านภาษีกับสินค้าจีนทั้งหมด

นอกจากนี้ นาย Mnuchin ยังได้เน้นย้ำว่าการฟ้องร้องบริษัท Huawei Technologies Co. ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ วานนี้ เป็นประเด็นที่แยกกับเรื่องการเจรจาการค้า ซึ่งตนมิได้รับรู้เรื่องดังกล่าวมาก่อน ในเรื่องของเศรษฐกิจ นาย Mnuchin ระบุว่าตนไม่คิดว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจยุโรปและจีนจะกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ

Mnuchin ยังได้กล่าวเสริมว่าข้อพิพาททางการค้ากับจีนจะไม่กระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่นกัน โดยตนมองว่ายังมีโอกาสสูงที่เศรษฐกิจจะเติบโตได้ร้อยละ 3 ในปีนี้ อนึ่ง ความเห็นของนาย Mnuchin สวนทางกับการประมาณการณ์ของ the Congressional Budget Office ที่เผยแพร่ออกมาวานนี้ โดยคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะสามารถเติบโตได้ที่ร้อยละ 2.3 และ 1.7 ในปี 2019 และ 2020 ตามลำดับ

Source: BOTSS

- Treasury Secretary Mnuchin: Expecting ‘significant progress’ on China trade talks this week: https://www.cnbc.com/2019/01/29/tre...3d8IScUM8v7XchveUgkvazgKG5-a7JLzEadgFXiDFlQJc

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Jan 30) จีนและสหรัฐไม่น่าจะทำข้อตกลงกันได้ คาดอย่างเก่งอาจตกลงหยุดขึ้นภาษีในเดือนมีนา - ตลาดจับตาการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐในวันที่ 30-31 มกราคมนี้ต่อ หลังโล่งใจที่ทรัมป์หยุดภาวะชัตดาวน์ อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ไม่คาดว่าสองฝ่ายจะทำข้อตกลงกันได้ และส่วนใหญ่คาดว่าอย่างเก่งอาจจะหยุดขึ้นภาษีในต้นเดือนมีนาคม

รองนายกรัฐมนตรีหลิว เหอ ของจีน จะเดินทางไปเยือนวอชิงตัน เพื่อเจรจาการค้ารอบต่อไปในวันที่ 30-31 มกราคมนี้ สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐกล่าวว่า การเจรจาในระดับสูงที่วอชิงตันจะรวมถึงการหารือเกี่ยวกับการปฏิบัติเรื่องค่าเงินของจีน

มนูชินได้โจมตีการอ่อนค่าของเงินหยวนในอดีต แต่ในช่วงไม่กี่วันมานี้ ความเชื่อมั่นในทางบวกที่มีต่อการเจรจาได้ทำให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์

ไต้ หุย หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดเอเชียแปซิฟิกของ เจ.พี.มอร์แกน แอสเซ็ต แมเนจเมนต์ ในฮ่องกง มองการเจรจาการค้าที่จะเกิดขึ้นว่า แม้ว่ายังยากที่จะได้ข้อตกลง แต่ทั้งสองฝ่ายมีแรงจูงใจน้อยลงที่จะทำให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น ตลาดคาดการณ์ว่า อย่างน้อยจะมีการหยุดขึ้นภาษีในช่วงต้นเดือนมีนาคม ในขณะเดียวกันจะยังคงมีการหารือในปัญหายาก ๆ มากขึ้น

ขณะเดียวกันมีรายงานจากรอยเตอร์ว่า ทั้งสองฝ่ายอาจรายงานความคืบหน้าที่จะนำไปสู่การทำข้อตกลง แม้ว่าการเกิดภาวะชะงักงันอีกครั้งเกี่ยวกับปัญหาโครงสร้างสำคัญ จะทำให้มีการมองว่าเป็นสัญญาณลบที่จะได้ข้อตกลงภายในเดือนมีนาคม และนักลงทุนก็จะเตรียมตัวรับภาษีที่จะสูงขึ้น

อย่างไรก็ดี การเจรจาการค้ามักทำกันจนนาทีสุดท้าย ดังนั้นไม่น่าจะได้ผลลัพธ์สุดท้ายก่อนปลายเดือนกุมภาพันธ์ และข้อตกลงใด ๆ จะต้องผ่านความเห็นชอบจากประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง หากมีความคืบหน้าเพียงพอ ทั้งสองฝ่ายอาจตัดสินใจยืดเส้นตายและเจรจาต่อไปเหมือนที่มักเกิดขึ้นในระหว่างการเจรจาในปีที่แล้วเพื่อเปลี่ยนข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (นาฟตา)

วิษณุ วราธัญ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์และเศรษฐกิจของมิซูโฮ แบงก์ กล่าวว่า มีความหวังค่อนข้างมากที่จีนส่งรองนายกรัฐมนตรีหลิว เหอ มาเจรจาในครั้งนี้ และคาดว่าจะมีการหารืออย่างเปิดกว้างและสร้างสรรค์โดยคำนึงถึงการลดการขาดดุลการค้า แต่ไม่น่าจะได้ข้อตกลงการค้าที่ครอบคลุม

วราธัญยังคาดว่าอาจจะมีการซื้อเวลาในการขึ้นอัตราภาษีที่จะเก็บต่อสินค้าจีน 200,000 ล้านดอลลาร์จาก 10% เป็น 25% แต่ก็ไม่น่าจะลดภาษีลง

ก่อนที่จะมีการเจรจาการค้าตามที่คาด มนูชิน กล่าวว่า เขาคิดว่าทั้งสองฝ่ายได้สร้างความคืบหน้ามากในการเจรจาการค้าและเขารอที่จะหารือกับหลิว

ความเห็นของมนูชินมีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่วิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐกล่าวกับซีเอ็นบีซีว่า สหรัฐยังไม่ใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงกับจีน

ไซมอน แบ็บติสต์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ดิ อีโคโนมิกส์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต กล่าวว่า จีนยังไม่เต็มใจที่จะอ่อนข้อเกี่ยวกับการลงทุนและสนามในการเล่นในระดับที่บริษัทสหรัฐต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงกดดันที่มีต่อบริษัทหัวเหว่ย อาจเป็นเหตุผลให้รัฐบาลปักกิ่งปฏิเสธที่จะเปลี่ยนแปลงท่าทีต่อบริษัทต่างชาติได้

นิวยอร์กไทม์รายงานว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กดดันพันธมิตรของอเมริกาให้ห้ามหัวเหว่ยและบริษัทเทคโนโลยีจีนรายอื่น ๆ สร้างอินฟราสตรัคเจอร์ที่จำเป็นต่อการสร้างมาตรฐานเครือข่ายไร้สาย 5 จี รุ่นต่อไป

ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงในวันจันทร์ โดยตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงทันทีที่เปิดตลาดตามตลาดในเอเชียเนื่องจากนักลงทุนรอบการเจรจาการค้ารอบใหญ่ของจีนและสหรัฐ ขณะเดียวกัน ตลาดยังรอดูการลงมติของรัฐสภาอังกฤษในวันอังคารที่ 29 มกราคมว่าจะรับรองร่างกฎหมายที่จะแยกตัวออกจากอียูของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ หรือไม่ นอกจากนี้ยังรอการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 29-30 มกราคมนี้ด้วย

Source: ข่าวหุ้น

เพิ่มเติม
- Here Are Three Scenarios for U.S.-China Trade Talks This Week
https://www.bloomberg.com/news/arti...nWulU-6Rdsze8wyIFJw0o41oHG7n9blFm3QFG0kjysjNk

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jan 30) สหรัฐประกาศเตือนพลเมืองเลี่ยงไปเวเนซุเอลา : นอกจากออกประกาศเตือนแล้ว กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐยังเพิ่มระดับการเตือนภัยด้านการเดินทางไปยังเวเนซุเอลาเป็นระดับสูงสุดด้วย

กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ออกประกาศเตือนพลเมืองอเมริกัน ไม่ควรเดินทางไปสหรัฐ เพราะสถานการณ์การเมืองในเวเนซุเอลาที่กำลังวุ่นวายในขณะนี้และมีความเสี่ยงสูงที่ชาวอเมริกันจะถูกจับกุมโดยไม่มีเหตุผล รวมทั้งการถูกลักพาตัว การปล้นสะดมภ์ และการเป็นเหยื่อความรุนแรงจากการชุมนุมประท้วงโดยไม่รู้ตัว

ท่ามกลางวิกฤตทางการเมืองในเวเนซุเอลา ความไม่พอใจของประชาชนในประเทศทวีคูณด้วยภาวะเงินเฟ้ออย่างรุนแรง การตัดไฟฟ้าที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และการขาดแคลนอาหารและยา ซึ่งมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตประมาณ 26 คนจากการชุมนุมประท้วงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และสหประชาชาติ (ยูเอ็น)ได้ออกแถลงการณ์เตือนว่า การชุมนุมประท้วงของชาวเวเนซุเอลาอาจนำไปสู่ความรุนแรงที่รัฐบาลไม่อาจควบคุมได้

Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

- United States Warns Americans Not To Travel To Venezuela As Tensions Rise
https://www.npr.org/2019/01/29/6897...ZVV4AaY2hpGYtcd0EURd0lSqJPkvS8VpR-qPCLJ0Bt8j8

-- ศาลเวเนฯอายัดบัญชีเงินฝาก“กุยโด”
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/825618

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Jan 30) ฝุ่นวิกฤตหนัก! สั่งด่วนปิดทุกโรงเรียน 2 วัน ทั้งกทม.-ปริมณฑล : นที่ 30 ม.ค. นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ เปิดเผยว่า ตนได้หารือร่วมกับผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ. เพื่อพิจารณาสั่ง ปิดโรงเรียน เนื่องจากสถานการณ์ปัญหา ฝุ่นพิษ PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีปริมาณสูง เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ฝุ่นค่อนข้างรุนแรง

โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ประสานให้ ศธ.ว่าถ้าปิดโรงเรียนอย่างน้อย 2 วันจะมีผลกระทบใดหรือไม่ ซึ่งตนได้หารือกับผู้บริหารองค์กรหลัก ศธ.แล้วเห็นร่วมกันว่าสามารถทำได้ ไม่มีผลกระทบ

ศธ.จึงประกาศปิดการเรียนการสอนเป็นเวลา 2 วัน ตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. 2562 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลในพื้นที่ที่มีปัญหาค่าฝุ่นละอองสูง ทั้งระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน อาชีวศึกษา ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.)

ส่วนระดับอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ศธ. ไม่มีอำนาจไปสั่งการได้แต่จะประสานแจ้งไปยังมหาวิทยาลัยเพื่อขอความร่วมมือในการปิดการเรียนการสอนในช่วงเวลาดังกล่าวโดยล่าสุดทราบว่ากรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ประกาศสั่งให้โรงเรียนปิดเรียนตั้งแต่เวลา 12.00 น.ของวันที่ 30 มกราคม ทั้งนี้

ในวันที่ 2-3 ก.พ.จะมีการจัดทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-Net) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สอบในวันที่ 2 ก.พ. และนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สอบในวันที่ 2-3 ก.พ. ตรงนี้จะยังดำเนินการตามปกติ ไม่สามารถเลื่อนการจัดสอบได้

“ส่วนสัปดาห์หน้าจะประกาศปิดการเรียนการสอนต่อหรือไม่ ศธ.จะประเมินสถานการณ์ก่อนโดยจะดูวันต่อวัน ถ้าจำเป็นต้องปิดก็ปิด และรัฐบาลจะมีมาตรการออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องฝุ่นออกมา และจะดูภาพรวมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งภายในวันนี้ถ้าแต่ละหน่วยงานสามารถแจ้งโรงเรียนแล้วมีความพร้อม สามารถปล่อยเด็กกลับบ้านได้ก็ให้กลับได้เลย”นพ.ธีระเกียรติ กล่าว

Source: ข่าวสดออนไลน์

https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_2154350

 

สำนักข่าวไทย

กทม.เตรียมบินโดรน 50 ตัว พ่นน้ำหวานดักจับฝุ่น หวังลดฝุ่นจิ๋วพรุ่งนี้!

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. เผยมาตรการในการแก้ไขปัญหาลดฝุ่นละอองในพื้นที่กทม. ล่าสุดได้มีการประสานงานร่วมกับชมรมโดรนของนครราชสีมา นำโดรนขนาดเล็ก 50 ตัว พร้อมคนบังคับ 50 คน ที่สามารถบรรทุกน้ำได้ ตัวละ 10 ลิตร มาพ่นเพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองโดยน้ำที่จะนำมาใช้ในการลดปัญหาฝุ่นละออง จะเป็นโมลาสหรือกากน้ำตาล จะเริ่มบินตั้งวันพรุ่งนี้ (31 ม.ค.) แต่ละตัวจะบินในระยะรัศมี 4 กิโลเมตร

ส่วนสาเหตุที่ทำไมต้องเป็นน้ำหวานโมลาสได้คำตอบว่าน้ำหวานจะเป็นตัวช่วยจับฝุ่นละอองในอากาศซึ่งจะตกลงมาบนพื้นเป็นหยดน้ำสีดำ

กทม.ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมรถน้ำไว้ล้างถนนและล้างรถยนต์ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการดำเนินการในวันพรุ่งนี้(31 ม.ค.) ซึ่ง กทม.จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายและค่าที่พักให้กับอาสาสมัครทีมงานทั้งหมด
ยอมรับแม้สิ่งที่ทำอาจจะไม่ได้ช่วยลดปัญหาได้ 100% แต่ยังดีกว่าไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย

#PM25 #ฝุ่นละอองPM25 #ฝุ่นละออง #ฝุ่นกรุงเทพ

คลิก>>https://www.tnamcot.com/view/l6OZ2aoC3

 

สถานการณ์โลก ด้านความมั่นคง

นายจอร์น โบลตัล ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของสหรัฐให้สัมภาษณ์กับFox Newsเกี่ยวกับสถานการณ์เวเนซูเอลา โดยวิจารณ์รัฐบาล"มาดูโร"ว่าเป็นหนึ่งในสาม"ทรราชย์"(วาทกรรมใหม่ล่าสุดที่สหรัฐใช้โจมตีเรียก,เวเนซูเอลา-คิวบา-และนิการากัว)เผด็จการสังคมนิยมกดขี่ประชาชน สหรัฐต้องเข้าไปช่วยประชาชนเวเนซูเอลาช่วยปกป้อง"ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน"(เครื่องมือบุกเบิกทำมาหากิน)/ สัมภาษณ์ไปสัมภาษณ์มา นายจอร์น โบลตัล ทนความอยากที่เก็บไว้ในใจไม่ไหว ก็เลยวกเข้าสู่เรื่องพลังงาน โบลตัลบอกว่าสหรัฐมีเดิมพันสูงมากในเวเนซูเอลา(ช็อตเด็ดอยู่ตรงนี้)"ถ้าสหรัฐได้สัมปทานน้ำมัน"ในเวเนซูเอลา จะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของสหรัฐมาก รัฐบาลสหรัฐเริ่มเจรจากับบริษัทน้ำมันแล้วด้วย/.........
-------------------------------
แสดงว่าแผนการฮุบบ่อน้ำมันคงเดินเกมมาสักระยะหนึ่งแล้ว ดังมีข่าวลือเรื่อง"นายกุยโด"กับสหรัฐแอบติดต่อกันเงียบๆมาสักพักหนึ่งแล้ว ก่อนที่จะได้ความมั่นใจประกาศตัวเป็นประธานาธิบดี พอประกาศตัวปุ๊ปสหรัฐ+ลูกหาบรีบประกาศรับรองปั๊ป และเริ่มแผนฮุปบ่อน้ำมันป้าป...
(คลิปจอร์น โบตัลให้สัมภาษณ์)
https://video.foxbusiness.com/v/5993599263001/#sp=show-clip

 

ImpactoVisión Noticias

สหรัฐอเมริกาจะได้รับคลื่นขั้วโลกที่เลวร้ายที่สุด ปรากฏการณ์นี้เป็นอันตรายถึงชีวิตที่อุณหภูมิอาร์กติกมาก น้ำค้างแข็งที่รุนแรงมากถึง -80 (ฟรอสท์ a-80) จะต้องอธิษฐานเผื่อพี่น้องของเราที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาในสภาพอากาศเลวร้ายเช่นนั้น
Estados unidos recibira la peor onda polar Mortal este fenomeno es Mortal con temperaturas Muy Articas Extremadamente Muy fuertes la heladas a -80 hay que orar por nuestros hermanos que Viven en estados unidos por Ese mal tiempo

 

ImpactoVisión Noticias



มันหนาวมากในSaskatchewan's, Canada สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ... ว้าว! มกราคม 2562

 

ImpactoVisión Noticias



สหรัฐอเมริกาต้องการที่จะบุก #Venezuela สำหรับน้ำมัน ความมั่งคั่งทางธรรมชาติ และพลังงาน: Nicolás Maduro ภัยคุกคามต่อเวียดนามใหม่

 

ImpactoVisión Noticias

เพื่อให้คุณทราบถึงสิ่งที่เรากำลังรออยู่ในชิคาโก!

บริการอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติได้เตือนว่าอุณหภูมิต่ำ ระหว่างบ่ายวันอังคาร วันพุธ และวันพฤหัสบดีสามารถทำให้เกิด "น้ำแข็งกัด" ผิวที่สัมผัสกับความเย็น และในชั่วโมงที่รุนแรงที่สุดในเวลาน้อยกว่า 5 นาที ถ้าเราไม่ใช้ความระมัดระวังที่จำเป็น

ตามศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคการแช่แข็ง "น้ำแข็งกัด" เป็นแผลในร่างกายที่เกิดจากความเย็นจัด โดยทั่วไปจะมีผลต่อจมูก หู แก้ม คาง นิ้วมือ หรือเท้า การแช่แข็งอาจทำให้เกิดความเสียหายถาวรต่อร่างกายได้ ดังนั้นโปรดระมัดระวัง

มีช่วงเวลาที่ดีและถ้าคุณไม่ต้องออกจากบ้านอย่าทำมัน!
#NP ข่าว

 

ImpactoVisión Noticias

ALERT สีแดง

เมืองของมิดเวสต์ของสหรัฐอเมริกา จะเย็นกว่าทวีปแอนตาร์กติกา ถ้าคุณไม่หาพักพิงที่ดี คุณสามารถถูกแช่แข็งในไม่กี่นาที ...

 

ImpactoVisión Noticias

#World | ความหนาวเย็นเกือบตายที่กระทบต่อสหรัฐอเมริกา

มิดเวสต์ และบางส่วนของสหรัฐอเมริกา จัดการกับอุณหภูมิที่เข้าใกล้ -50 องศา!