ช้างเผือกในป่าอีสาน หลวงตาสมหมาย วัดป่าสันติกาวาส คำสอน/ประสบการณ์/วัตถุมงคล/ (ช่างชิต)

เช้าวันที่ 13 พฤษภาคม ที่ลานธรรมแม่กลอง คนมากมาย ครูบาอาจารย์มากมี วุ่นๆมันส์ๆดีครับ 55555++. เอาภาพบรรยากาศและเอาบุญมาฝากทุกท่านครับ

 

วันที่ 14 พฤษภาคมเช้าที่บ้านใจยินดี พร้อมกับมีเหตุการณ์น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟังเพลินๆ คือ ตอนช่างชิตขับรถออกมาช่วงตีห้า เห็นกลุ่มเมฆดำทมึนแล้วหวั่นใจจริงๆครับกลัวฝนจะถล่มงาน แต่ในใจก็มั่นใจว่าบารมีครูบาอาจารย์"ของเราระดับนี้" เทวดาต้องช่วยแน่นอน
.
....พอไปถึงงานก็ดำเนินงานไปเรื่อยๆ จนมาถึงตอนถวายอาหาร ฝนก็เริ่มลง รอบแรกมาแบบทักทาย ช่างชิตก็คิดว่ายังไงก็ไม่ตก แต่พอรอบสองเหมือนจะเริ่มทักหนักละ 5555++ คนในงานก็รีบย้ายของจ้าละหวั่น คือ ถ้าฝนลงหนักๆตอนนั้นนะ งานพังเลยละ เพราะไม่มีที่ไปแล้ว ทั้งคนทั้งของ พระก็อยู่ยากหลังคานิดเดียว
.
....แล้วจู่ๆพระอาจารย์จิระวัตน์ท่านก็ประกาศออกไมค์ว่า "ฝนไม่ตกหนักหรอก หลวงตาสมหมายบอกเทวดามารดน้ำมนต์ให้เฉยๆ" ช่างชิตได้ยินก็คิดว่าคงเป็นประโยคปลอบใจคนในงาน ช่างชิตจังหวะนั้นไม่ค่อยอยากจะเชื่อว่าไม่ตกละเพราะทรงมันน่าจะหนัก เตรียมใจเปียกว่างั้นเถอะ 5555++
.
...แต่ไม่นานฝนหยุด!! เออ เอาสิเอา จนงานราบรื่นจนจบ พระกลับ คนเก็บของ ล้างถ้วยเสร็จ เท่านั้นละ ฟ้าขาดทันที ลงแบบอั้นมานาน คือ ถ้าฝนลงแบบนี้กลางงานนะ มีวงแตก 5555++ มาคิดตาม ไม่เชื่อก็ไม่น่าเชื่อเนาะ. เอ้าๆ อ่านเพลินๆนะครับไม่ต้องคิดมาก
.
...ส่วนครูบาอาจารย์มาวันนี้ เอาที่จำได้นะ
ลป บุญมา
ลป บุญกู้
ลป ก้าน
ลป สมหมาย
ลป บุญเรือง
ลป มงคล
ลป ไม
ลต สมหมาย
ลต วิโรจน์
พอจ จิระวัตน์
ลต สมเกียรติ
ลต บุญลั่น
ลต สาท
พอจ มหาประกอบ
พอจ เขียว
พอจ สำเร็จ
....และอีกมากมายครับ วันนี้เอาภาพและบุญมาฝากทุกท่าน ไม่ค่อยมีภาพสวยๆนะ เพราะช่างชิตกับทีมงานทุกคนวุ่นน่าดู อนุโมทนาสาธุครับ

 

.....สวัสดีครับพี่ๆน้องๆทุกท่าน จากงานบุญทั้ง 5 วันที่ผ่านมาก็ผ่านไปด้วยดีครับ ต้องบอกว่าพี่ๆของช่างชิตผู้จัดงานมีบุญและวาสนามากๆที่นิมนต์พระป่าระดับครูบาอาจารย์มาได้ขนาดนี้ นี่ขนาดไปตรงกับวันพระราชทานเพลิง หลวงปู่ใหญ่หลวงปู่จันทร์ศรี พ่อแม่ครูบาอาจารย์ก็ยังเยอะอยู่ เอาคราวๆที่มางานใน 5 วันก็มี
ลป บุญมา/ลป ทองอินทร์/ลป บุญกู้/ลป ก้าน/ลป สมหมาย/ลป สุวัจน์/ลป บุญส่ง/ลป บุญเรือง/ลป มงคล/ลป ไม/ลป บุญทัน/ลต สมหมาย/ลต วิโรจน์/พอจ จิระวัตน์/พอจ จำรัส/ลต สมเกียรติ/ลต บุญลั่น/ลต สาท/พอจ เจน/พอจ ชัยนาด/พอจ มหาประกอบ/พอจ เขียว/พอจ สำเร็จ เป็นต้น
.
....งานหลวงปู่ใหญ่วันนี้หลวงปู่ก้านกับหลวงตาเราท่านไม่ได้ไปร่วมงานพระราชทานเพลิงครับ หลวงปู่ก้านท่านก็บอกว่าเสียดายไม่ได้ไปให้ลูกศิษย์แจ้งกลับไปแล้วว่าไม่ได้ไปเพราะติดนิมนต์ทางนี้ก่อน ช่างชิตได้ถามเรื่องการนิมนต์พระว่าหลักการเป็นยังไงบ้าง หลวงปู่ตอบว่า “ถ้ารับนิมนต์เขาแล้วก็ต้องมาโปรดเขา แม้จะมีงานใหญ่เข้ามาทีหลังวันเวลาตรงกัน เรารับนิมนต์ทางนี้ไว้แล้วก็ต้องปฏิเสธไป งานหลวงปู่จันทร์ศรีมานิมนต์ทีหลัง(พึ่งมีกำหนดการใหม่) หลวงปู่รับนิมนต์ทางนี้แล้วถ้าเรามาได้ก็ต้องมา”
.
....พอคุยถึงหลวงปู่ก้าน ก็อดจะคุยเรื่อง “ตะกรุดครอบจักรวาล” ของท่านมิได้ จริงๆเมื่อปีที่แล้วช่างชิตได้เคยเขียนเกี่ยวกับตะกรุดท่านไปแล้วรอบหนึ่ง แต่วันนี้จะขอเขียนทั้งรายละเอียดของตัวตะกรุดซะหน่อยให้เป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ไว้ วันข้างหน้าจะได้มีข้อมูลอ้างอิงกัน ต้องบอกก่อนนะครับว่าที่จะเขียนต้องไปนี้ “ออกจากปากหลวงปู่ทั้งหมด” ช่างชิตและทีมงานนั่งฟังกันแล้วช่วยกันจำ จึงมาคุยกันว่ามีอะไรบ้างที่ท่านเล่าเพราะมันเยอะ แล้วช่างชิตจะเอามาตัดสรุปใจความที่สำคัญลงให้อ่านกัน เคยถามหลวงปู่ว่าตะกรุดหลวงปู่เรียกตะกรุดอะไร ท่านไม่ตอบบอกว่า “ดีทุกอย่าง” งั้นช่างชิตจะขอเรียกว่า “ตะกรุดครอบจักรวาล” เป็นอันเข้าใจกันนะครับ
.
...........................................
.....ตะกรุดครอบจักรวาล...หลวงปู่ก้าน *(ยาวหน่อยแต่อร่อยแน่)
.
...หลวงปู่ก้าน จิตธัมโม วัดถ้ำเป็ด ท่านเป็นศิษย์ หลวงปู่วัน หลวงปู่ฝั้น ทั้งชีวิตทำกรรมฐานวิปัสนาธุดงค์ในป่าในเขาตลอด ท่านบุกเบิกขึ้นไปสร้างวัดถ้ำเป็ด(ผีและรุกขเทวดาดุมาก)ให้เจริญอย่างทุกวันนี้ ปัจจุบันหลวงปู่ อายุ 76 พรรษาที่ 56 แต่ท่านแข็งแรงมากกกกกกกกกกกกก เนื้อแน่น กล้ามเป็นลูกๆ ฟันอยู่ครบ สุดยอดจริงๆ ช่างชิตรู้เท่านี้นะครับ เอาพอเกริ่นนำจะได้อ่านต่อได้ อรรถรส
.
.....ตะกรุดของหลวงปู่นั้นที่จะกล่าวถึง หลวงปู่จารเองทุกดอกจะเป็นเนื้ออะไรก็ตามท่านจะจาร 2 แผ่น แล้วเอามาม้วนเข้าหากัน มีทั้งดอกเล็กดอกใหญ่ ท่านลงสูตรเดียวกันคาถาเดียวกันหมด มีแบบถักเชือกและไม่ถักเชือก อยู่ที่มีวัสดุครบไหมในตอนนั้น แล้วถักเชือก ท่านก็ถักเองนะ ทั้งสวยและประณีต สุดยอดไหมละ คนแก่ถักได้แข็งแรงกว่าคนหนุ่มอีก ที่แตกต่างกันสำหรับดอกเล็กดอกใหญ่ คือ ดอกเล็กท่านจะเขียนตัวคาถาเล็ก ดอกใหญ่ท่านก็จะเขียนตัวคาถาใหญ่ เท่านั้น แล้วดอกเล็กส่วนมากท่านจะให้ผู้หญิงกับเด็ก นี่คือหลวงปู่บอกช่างชิตจากปากท่านนะครับ ฉะนั้นช่างชิตจะไม่เชื่อข้อมูลจากที่อื่น ที่บอกว่าดอกเล็กลงไม่ครบสูตรหรือลงแค่ครึ่งบท (แอบดูตอนท่านเขียนก็เขียนเหมือนกันนะ ดอกเล็ก ดอกใหญ่ ฉะนั้น จบ ครับประเด็นนี้)
.
....ส่วนการเขียนอักษระเลขยันต์ของหลวงปู่ถามท่านถึงที่มา ท่านเคยว่าตัวคาถาให้ฟังจำไม่ได้ละ แต่ตัวคาถามาจากคาถาหลายๆบท ท่านว่า คาถาในตะกรุดนี้มาจากหลายอาจารย์ของท่านๆเอามารวมกัน ก็มีคาถาที่ท่านได้มาจากหมอธรรม(หมอผีพื้นบ้าน) หลวงปู่วัน อุตตโม หลวงปู่พร สุมโน หลวงปู่คำ บ้านเศรษฐี(ศิษย์หลวงปู่มั่นหลวงปู่เสาร์ ทั้งสามองค์) เป็นต้น
.
.....ท่านว่า ท่านได้มาแล้วท่านก็เอามาเขียนรวมกันให้ขลัง แต่ที่ได้จากหมอธรรมนี่ไล่ผีดีมาก หมอธรรมคนนี้(ท่านไม่ได้บอกชื่อ)ไล่ผีมาทั่วแถวๆสกลไล่ได้หมด แล้วมีโอกาสได้มากราบหลวงปู่มาเล่าให้หลวงปู่ฟัง หลวงปู่เลยถามใช้คาถาบทไหน หมอธรรมเลยท่องให้ฟัง ท่านฟังรอบเดียวจำได้ทันที(ไม่รู้หลวงปู่จำได้ไง หลวงปู่ท่องให้ช่างชิตฟังกับทีมงานและครูบาอาจารย์ที่นั่งอยู่ด้วยกัน ไม่มีใครจำได้เลย 555++) ท่านจึงเอามาเขียนรวมในตะกรุดของท่าน
.
.....ที่พอจะจำได้นอกจากคาถาไล่ผีแล้วในตะกรุดก็จะมี คาถานะโมตาบอด คาถาพญานกยูงทอง คาถาอื่นจำไม่ได้แล้วมีประมาณ 5 บทครับ ตะกรุดท่านๆบอกว่า ท่านจารให้แล้วทำดีแล้ว(หลวงปู่เพ่งพลังจิตตอนจารเรียบร้อย) ไม่ต้องสวดไม่ต้องเสกก็ขลัง ให้มาสวดมาเสกเป็นวันๆก็สู้ท่านเขียนแบบนี้ไม่ได้ ประสบการณ์มีกันมากมายเล่าก็ไม่จบ จะหนักไปทาง คุ้มครอง ป้องกัน ซะส่วนใหญ่
.
....โดยเฉพาะ เรื่องผีเรื่องมนต์ดำ คุณไสย ท่านจะมั่นใจมาก จะขอเล่าพอเรียกน้ำย่อยนิดๆ บางคนเจอผีเจ้าที่มากวน มาแบบเห็นๆตัวเลยนะมาชี้หน้าจนพากันอยู่ไม่ได้ พอมาเอาตะกรุดหลวงปู่ไป เงียบกริบ บางคนฝันร้ายตลอดพอแขวนตะกรุดหลวงปู่ก็ไม่ฝันแบบนั้นอีกเลย คนเป็นปอบมีของต่ำมนต์ดำมาอยู่ใกล้คนมีตะกรุดท่านจะอยู่ไม่ได้ร้อนกระวนกระวายต้องหนีไป
.
....ทางอุบัติเหตุอุบัติภัย เอาสั้นๆ รถประสานงานกัน เสียเงินซ่อมแต่รถคนไม่ได้เสียเงินซักบาท ทางบู๊แนวนักเลง วัยรุ่นตีกันโดน .38จ่อๆ ยิง 2 นัดแรกได้ยินแต่เสียง เชี้ยะๆ พอหันขึ้นฟ้า ปัง!! หันกับมายิงอีกก็ “เชี้ยะ” อีก จนคนยิงตกใจ ไอ้คนที่ถูกยิงก็ตกใจแต่ได้สติก่อนจึงรีบวิ่งหนี ไม่งั้นหน้าจะโดนรุมกระทืบแทนตายแน่ๆ 5555++ พอเช้ามาเท่านั้นละ แห่กันไปวัดไปขอตะกรุดหลวงปู่ จนท่านต้องบอกคนพามาว่า ไม่ต้องพามาอีก ท่านไม่ได้ทำให้คนเอาไปตีไปฆ่ากันไปรังแกคนอื่น ท่านทำให้ป้องกันตัวเองเท่านั้น เอาเท่านี้พอนะครับ ประสบการณ์ ไม่ต้องเชื่อช่างชิตหรอกให้มีแล้วก็เอามาแขวนดูนะ
.
....ความนิยมตะกรุดหลวงปู่นั้นมีมาก ส่วนมากจะปากต่อปากไม่ได้มีสื่อโฆษณาหรือปั่นกระแสอะไร เพราะท่านทำแจกด้วยเมตตา ไม่ได้ทำขายเป็นการพานิชย์ แล้วก็ทำให้ยากมากๆเสียด้วย พูดทั้งความนิยมของตะกรุดต่อ ท่านไปอเมริกา คนมารุมท่านให้เขียนให้ ทั้งคนไทย คนลาว คนฝรั่ง จนแผ่นทองร้านทองในเมืองที่ท่านไปหมดร้าน ท่านต้องเขียนให้เขา 2 วัน 2 คืน ไม่ได้หลับได้นอน ขนาดต้องไปเขียนตะกรุดให้ตรงฐานยิงจรวดมิสซายด์ท่านยังต้องทำเลย 5555++ ฝรั่งจากสาธารณะรัฐเช็กบินโดยตรงมาที่วัดเพื่อมาให้หลวงปู่จารตะกรุดให้คิดเอาเถอะได้ไปดีใจหลายหลวงปู่ว่า 5555++ แผ่นทองแผ่นเงินที่เอามาให้ท่านจารที่วัด 3 ปีก็เขียนไม่หมด เยอะมาก บางคนมาไกลก็ไม่เจอท่าน บางคนมาไกลมากๆจากต่างประเทศมาเจอท่าน แต่ท่านไม่ว่างก็ไม่ได้ไป ต้องทิ้งแผ่นไว้ให้ท่านจาร บางคนเป็นปีก็ยังไม่ได้เลย จึงกล้าพูดเลยว่า ตะกรุดหลวงปู่ก้าน ใครได้ไป “วาสนาจริงๆ” ครับ
.
.... ปีนี้หลวงปู่ 76 พรรษาแล้ว ท่านอายุมาก ถึงหลวงปู่จะแข็งแรงยังไงท่านก็คือคนแก่คนหนึ่ง วันหนึ่งท่านก็ต้องโรยราและเลิกเขียนไป ท่านว่าท่านอยากสอน สอนให้คนที่เรียนได้ อนุรักษ์เอาไว้ช่วยคนต่อ แต่ถ้าท่านตายจากไป ไม่มีใครเรียนได้ก็ถือว่าจบกัน ช่างชิตอยากจะเสริมหน่อยว่า “ตะกรุดหลวงปู่ หลวงปู่ตั้งใจทำให้มากๆ ขออย่าเอาไปขาย ไปหากินเลยนะครับ” ท่านเคยบอกช่างชิตถึงพวกขายวัตถุมงคลของท่านว่า “ปู่ยังไม่ตาย ก็พากันขายปู่กินแล้ว ปู่ทำให้ไปป้องกันตัว ก็เอาไปขายกิน” ฟังแล้วเจ็บในดวงใจไหมละครับ
.
.....ฉะนั้น ใครอ่านบทความนี้แล้ว อยากได้ตะกรุดครอบจักรวาลของท่าน อย่าขอช่างชิตเพราะไม่มีให้ ใครอยากได้ ให้เตรียมแผ่นโลหะจารเนื้ออะไรก็ได้ กรรไกร ปากกา ไปขอท่านที่วัดเอง ถ้าเจอท่านตามงานต่างๆให้ดูความเหมาะสม ดูกาลเทศะ อย่าไปขอท่านสุ่มสี่สุ่มห้า จะโดนด่าเอานะครับ 5555++ วาสนาใครมีก็คงจะได้เองละ ได้มาแล้วให้รู้ค่า ถ้าจะมาขอท่านแล้วเอาไปขาย เชื่อช่างชิตเถอะครับว่าไม่คุ้มหรอก ท่านจารให้คนละดอกเท่านั้น อย่างมากก็ 2-3 ดอก ตามแต่เหตุผลของผู้ขอและเวลาที่ท่านมี ช่างชิตคิดว่าไม่นานหลวงปู่จะเลิกเขียนแล้วละครับ ถึงตอนนั้นใครไม่รู้ค่าจะเสียใจทีหลังอย่างแน่นอน
.
....เห็นถามกันมามาก ข้อห้ามตะกรุดท่าน เอาที่หลวงปู่ท่านบอกช่างชิตกับปากท่านนะครับ ท่านบอกว่า
“ห้ามกินของดิบ ให้ถือศีล 5 ให้ครบ อย่าใส่ไปสถานที่อโคจร อย่าไปด่าพ่อด่าแม่กันครับเวลามีเรื่อง” นี้คือที่ท่านห้ามและบอก แต่เชื่อเถอะครับ ถ้าเรามีเหตุจำเป็นจริงๆไม่ได้ทำด้วยความประมาทหรือลบหลู่ครูบาอาจารย์ “ของพระอริยะเจ้าทำ ยังไงก็ไม่มีเสื่อม” ท่านว่า “เด็กน้อยใส่ไปไหนก็ไปโลด ลอดราวลอดอะไรก็ลอดโลด”
.
.....สุดท้าย ก็ขอจบบทความเกี่ยวกับ “ตะกรุดครอบจักรวาล” ของหลวงปู่ ใครมีก็ดีใจด้วย ใครไม่มีก็ให้มีความตั้งใจและศรัธทาจริง ไปกราบขอท่าน ยังไงวาสนามีร่วมกับท่านก็ต้องมีครับ ลิ้งค์ด้านล่างเป็น บทความเกี่ยวกับตะกรุดท่านของปีที่แล้ว ใครอยากอ่านก็ลองเข้าไปอ่านประกอบกับบทความนี้ดูนะแต่ต้องเป็นสมาชิกกลุ่มหลวงตาถึงจะเห็น แล้วตอนหน้าช่างชิตจะมาเขียนอะไรก็ติดตามกันนะครับ
.
https://www.facebook.com/groups/938981642780598/permalink/1177480558930704/?match=4LiV4Liw4LiB4Lij4LiUIOC4q%2BC4peC4p%2BC4hyDguJvguLnguYgg4LiB4LmJ4Liy4LiZLOC4leC4sOC4geC4o%2BC4uOC4lCzguJXguLDguIHguKPguJQs4LiB4LmJ4Liy4LiZLOC4q%2BC4peC4p%2BC4hyzguJvguLnguYg%3D

 

....เมื่อวานนั่งดูคลิปงานหลวงปู่จันทร์ศรีกับหลวงตา
.
"หลวงตานั้นนกอะไรครับ"
.
"นกหัสดีลิงค์ เป็นสัตว์ในป่าหิมพานต์ เป็นพาหนะพาผู้มีบุญใหญ่ขึ้นสวรรค์"
.
"อ๋อ"
.
"ดูซะ ทำมาสวยมาดีขนาดไหน สุดท้ายก็เผาก็สลายลงไปอยู่ดี"
.
#คุยกับหลวงตาจะมีสัจจะธรรมและธรรมมะแทรกมาอยู่ด้วยเสมอ
.
....วันนี้หลวงตายังอยู่สายไหม 30 นะครับ ใครว่างอยากไปกราบไปทำวัตรเย็นกับท่านเชิญเลยนะครับ

 

...ครั้งหนึ่งนั่งนวดหลวงตาอยู่ก็ปลดตะกรุดที่เอวแบบเนียนๆ หวังให้ท่านอธิฐานให้
.
"หลวงตาจับตะกรุด(จะให้เสกให้)ให้หน่อยครับ"
.
"บ่ ของบ่ดี"
.
"ดีอยู่ครับของทางพุทธจารคาถาอาวุธพระพุทธเจ้า"
.
"บ่ ดียังไงก็ไม่สู้ทำใจเจ้าของให้ดีหรอก ของดีให้ไม่เคยเอาสอนให้ทำจิตทำใจให้มีสมาธิให้จิตมีสติให้กล้าแข็งไม่เคยอยากทำ พึ่งแต่อย่างอื่น พึ่งแต่คนอื่น พระพุทธเจ้าสอนให้เราพึ่งตัวเองไม่ได้สอนให้พึ่งคนอื่น"
.
...เงียบ เลยแก้เขินโดยการเอาตะกรุดมากดมาคลึงเส้นหลวงตาแทน 5555++
#ช่วงหลังดูเหมือนหลวงตาอยากให้ละทางวัตถุมาทางด้านภาวนาแทนแล้ว จะขอท่านเมตตาอะไรด้านนี้มักไม่สมหวัง
.#ภาพเก่าแล้วครับ

 

กราบหลวงตาครับ คิดถึงหลวงตา อยากไปกราบหลวงตาครับ

 

คิดถึงหลวงตา อยากไปกราบหลวงตาครับ

 

เรื่องเล่าจากน้องที่ไปงานหลวงปู่เจือ
.
ที่วัดอโศการาม มีงานถวายเพลิงหลวงปู่เจือ สุภโร ในงานนี้มีพ่อแม่ครูอาจารย์พระเถรานุเถระที่ได้รับฏีกานิมนต์มาร่วมงานมากมายหลายรูป แต่มีครูอาจารย์พระเถระอยู่หนึ่งรูปที่ไม่ได้หนังสือฏีกานิมนต์ หากแต่ท่านมีความประสงค์ที่จะมาร่วมงานครั้งนี้ด้วย

ถึงแม้นท่านเป็นครูบาอาจารย์พระเถระ แต่ท่านไม่มีฏีกานิมนต์ เมื่อท่านมาถึงบริเวณงานแล้ว ท่านก็ได้เดินหลีกเร้นไปนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ปะปนอยู่กับพระหนุ่ม เณรน้อย ที่มาร่วมงานครั้งนี้โดยมิได้เข้าไปบริเวณอาสนะที่นั่งเพราะท่านมิได้รับฏีกานิมนต์ในงานนี้

พอดีว่าผมได้หันไปพบกับพระเถระรูปนั้นโดยบังเอิญ ก็เลยได้มีโอกาสวาสนาเข้าไปกราบนมัสการท่านก่อน แล้วผมก็ได้เดินไปนมัสการนำเรียนพระที่เป็นเจ้าหน้าที่ ว่ามีครูบาอาจารย์ นั่งหลีกเร้นอยู่ด้านหลังแนวต้นไม้ เมื่อท่านทราบดังนั้นท่านจึงรีบเดินไปกราบอาราธนานิมนต์ครูบาอาจารย์พระเถระรูปนั้น เพื่อมานั่งในบริเวณปรัมพิธีเพื่อความเหมาะสมและสมควรในองค์ท่านครับผม

 

...เรียนเชิญพี่ๆน้องๆญาติธรรมทุกท่าน ร่วมงานบุญประจำปีบ้านพี่สาวใจดีของช่างชิต เจ้าของที่พักสงฆ์พระกรรมฐานสายไหมซอย 30 งานนี้เป็นงานเปิดนะครับ เจ้าภาพยินดีต้อนรับญาติธรรมที่จะมาร่วมบุญกับพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทุกท่าน.
.
...ปีนี้จะจัดในวันที่10มิย. สวดมนต์เย็น และทำวัตร เวลา 18.30น. และวันที่11มิย. ตักบาตรเวลา7.30น รายชื่อพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่มาเมตตาในงานบุญครั้งนี้. 1.หลวงปู่บุญมา. วัดป่าสีพนม
2.หลวงตาเลื่อน. วัดธาตุฝุ่น
3.หลวงตาสมหมาย วัดสันติกาวาส
4.หลวงตาวิโรจน์ วัดป่าภูวังงาม
5.หลวงตาสาท วัดป่าหนองแวง
6.หลวงพ่อเสือ วัดป่าศิลารัตน์
7.พอจ.สำเร็จ วัดป่าหนองกุง
8.พอจ. อัม วัดป่าแก้วชุมพล
9.พอจ.สอ วัดป่าภูวังทอง
10พอจ.บัญชา วัดป่าศรีกมโล
11.พอจ แดง วัดป่าหนองกุง
และพระติดตาม และจะทอดผ้าป่าเพื่อซื้อที่ดินถวายวัดป่าหนองแวง.
.
ใครว่างมาะครับ แล้วเจอกัน

 

...สวัสดีครับพี่ๆน้องๆทุกท่าน ช่วงนี้ไม่ได้มาโพสอะไรเลย เพราะต้องเตรียมงานจะทำโรงทานงานหลวงปู่วันเสาร์อาทิตยืนี้ครับ ในกลุ่มเฟสกำลังบอกบุญและประมูลของกันมันส์เลย แต่ในนี้บอกบุญอะไรไม่ได้ ก็เดี้ยวจะมารายงานให้ฟังละกันนะครับ 5555++

 

.สวัสดีครับพี่ๆน้องๆพึ่งมาถึงกรุงเทพประมาณตีสอง สภาพเหมือนวิญญาณจะหลุดจากร่าง 5555++. สำเร็จไปได้ด้วยดีครับสำหรับ "มหาบุญมหาทานในครั้งนี้" ยอดปัจจัยที่บอกบุญมอบของที่ระลึกและมีพี่ๆน้องๆร่วมบุญมาทั้งหมด
.
93,000 บาท.....
.
...อนุโมทนาสาธุกันด้วยนะครับ รายละเอียดการกระจายบุญทั้งหมด เดี้ยวโพสหน้าช่างชิตจะมาชี้แจงให้ฟัง โพสนี้เอาภาพบรรยากาศวันงานมาให้ชมกันครับ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ก็มากันมากมายเหรือเกิน นำโดย
-หลวงปู่ศรี
-หลวงปู่ดำ
-หลวงตาจิตจำลอง
-หลวงตาเฉลิม
-หลวงตาวิโรจน์
-หลวงตาบุญลั่น
-หลวงตาสาท
-พระอาจารย์สำเร็จ
-พระอาจารย์สอ
-พระอาจารย์ลี
.
เป็นต้น
..โรงทานกลุ่ม ส.บารมี ศิษย์หลวงตา ก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน มี
ขนมเบเกอรี่ 1,000 ชิ้น
น้ำเกล็ดหิมะ 1,000 แก้ว (รวมของพี่ต้อย)
น้ำผลไม้ 420 ขวด (ญาติธรรมฝากมาร่วม)
น้ำเปล่า 600 ขวด
.
...เปิดแจกน้ำตั้งแต่คืนวันที่ 17 ให้นักปฏิบัติธรรมยันเช้าวันที่ 18 ปรากฏว่า เหลือ ครับ. "เหลือแต่ถังกับน้ำแข็ง" 5555++ หมดจดไปแบบชื่นใจกัน ก็ปิติกันไป ขอบพระคุณพี่ๆน้องๆที่มาช่วยกันและใส่เสื้อทีมมากันมากมาย เยี่ยมจริงๆ
....โพสนี้ก็ดูภาพไปก่อนนะครับ รายละเอียดทุกอย่างจะเป็นโพสถัดไป

 

.....สวัสดีครับพี่ๆน้องๆทุกท่าน หายไปหลายวัน ยังมีใครเข้ามาบ้านหลังนี้ไม่หน้อก็นึกๆตลอด จนวันนี้ได้เข้ามาดูยังเห็นพี่ๆน้องๆสมาชิกมาไลค์อนุโมทนาให้อยู่ ก็ใจชื้นแสดงว่ายังมีคนเข้ามาอ่าน นึกว่าจะร้างซะละ 5555++ งั้นมาว่าก่อนต่อเลยครับ
.
....จากที่เกริ่นไว้ว่าจะมาแจ้งรายละเอียดงานบุญที่ได้ทำไป ก็ขอแจ้งเลยแล้วกันนะครับ
ยอดทั้งหมดทั้งที่รับของที่ระลึกและไม่รับของทั้งโอนเข้ามาและให้กันสดๆรวมประมาณ 92,000 บาท ช่างชิตจึงใส่ให้เป็นเลขสวยๆร่วมบุญทับไปอีกจะได้ไม่ตกหล่นเป็น 93,000 บาท นี้คือยอดสุทธิครับ รายละเอียดแบ่งเป็น 3 หมวดใหญ่ๆพร้อมภาพประกอบ ทุกรายการ มีดังนี้
***งานบุญ***
1.ถวายทำบุญซื้อที่ดินถวายวัดป่าหนองแวง หลวงตาสาท 20,000 บาท
2.ถวายทำบุญงานละสังขารหลวงปู่ประไพร วัดป่าไพรวัตนาราม 4,000 บาท
3.ถวายทำบุญงานเทฐานรากนำฤกษ์เจดีย์หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด 4,000 บาท
4.ถวายสร้างโบสถ์ประจำวัดป่าสันติกาวาสกับหลวงตาสมหมาย 5,000 บาท
5.ถวายค่าน้ำค่าไฟวัด 2,000 บาท
6.ถวายร่วมบุญกับหลวงตาส่วนตัวใช้จ่ายตามอัธยาศัย 5,000 บาท
7.ถวายค่ารักษาพยาบาลหลวงปู่เล็ก วัดทำนพ 14,000 บาท
8.ร่วมบุญกองทุนบุญอุดร108 ใช้ในการศาสนา โดยคุณลุงนก เริงลม 5,000 บาท
รวมทำบุญทั้งหมด 59,000 บาท
***งานทาน***
1.โรงทาน ส.บารมี ศิษย์หลวงตา
-.ค่าขนมเบเกอรี่ 1,000 ชิ้น 8,000 บาท
-.ค่าน้ำเกล็ดหิมะ 300 แก้ว 900 บาท
-.ค่าน้ำแข็ง 7 ถุง 230 บาท
-.ค่านำดื่มประมาณ 25 แพ็ค 1,000 บาท
รวม 10,130 บาท
2.ค่าร่วมโรงทานอาหารคาวเซียนเต่า 4,000 บาท
3.บริจาคของใช้จำเป็นบ้านพักคนชรา จังหวัด อุดรานี 10,000 บาท
รวมทำทานทั้งหมด 24,130 บาท
***ค่าใช้จ่าย***
1.ค่าจัดส่งของที่ระลึก 2,000 บาท
2.ค่าน้ำมันในการทำกิจกรรมรถ 2 คัน จากกรุงเทพ 6,000 บาท
รวม 8,000 บาท
.
.....รวมทั้ง 3 หมวด 59,000+24,130+8000 = 91,130 บาท
93,000-91,130 บาท คงเหลือ 1,870 บาท เดี้ยวยอดคงเหลือจะเอาไปต่อบุญอะไรจะแจ้งนะครับ ตอนนี้คิดไม่ออก 5555++
.
สรุป พี่ๆน้องๆทุกท่านที่ได้ร่วมบุญกับช่างชิต จุดประสงค์หลักคือออกโรงทานแต่ถ้ามียอดเกินก็จะเอาไปต่อยอดบุญอื่นๆให้ครบถ้วน ก็ได้สำเร็จตามเป้าหมายเรียบร้อยแล้ว สิ่งใดที่ช่างชิตและทีมงานทุกท่านได้ ล่วงเกินหรือทำอะไรให้ท่านทั้งหลายไม่พอใจไม่สบายใจ ก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วย วันไหนที่สมาชิกในกลุ่มเฟสครบ 2,000 จะมีของดีมาแจกแน่นอนครับรอได้เลย ส่วนพรุ่งนี้จะเขียนเรื่องเก็บตกในช่วงไปงานมาเล่าสู่กันฟังนะครับ
.
...สุดท้าย ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย เทพยดาในสามโลกธาตุ คุณพระพุทธเจ้าโคดม คุณพระธรรมคำสอน คุณพระสงฆ์สาวกอรหันต์ทุกพระองค์ และบารมีพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย หลวงปู่บุญจันทร์ กมโล หลวงตาสมหมาย อัตตมโน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วในแดนสามโลกธาตุ จงอำนวยอวยชัยให้พี่น้องทุกๆท่าน ที่ร่วมบุญก็ดีที่ไม่ร่วมก็ดีที่อนุโมทนาด้วยก็ดี จงมีสิริมงคลในทุกๆด้าน ให้แคล้วคลาดคงกระพันกันอาวุธหยุดลูกปืน เป็นเมตตามหาเสน่ห์มหานิยม เป็นตบะมหาอำนาจแก่บริวารและผู้พบเห็น มีโชคมีลาภ ร่ำรวยเงินทอง หมดโรคหมดภัยคุณสงคุณไสยผีสางนางไม้อย่าได้กล้ำกลาย กินอย่าให้บ๊ก จ๊กอย่าให้ลง อย่าให้เขินเป็นหาด อย่าให้ขาดเป็นวัง สรรพการังยังสมบูรณ์พูลสุข ดีกว่าเก่า โอมอุอะมุมะมูลมา ขอจงไหลมาเข้ามาเรื่อยบ่อเซา เงินคำแก้ว อย่าให้ขาดเขินโถง ขอให้โฮงๆ ใสดังทองในเบ้า ขอให้เงินไหลมาเข้าเต็มกระเป๋าอึงตึง"....สาาาาาาาาาธุ

 

ไม่ได้เล่นfacebookไม่ค่อยรู้ข่าวช่องทางร่วมทำบุญด้วยเลยครับ ช่างชิต

 

ในนี้ก็มาบอกบุญไม่ได้ครับ น่าเสียดาย 555++

 

ชช "หลวงตาครับ คนที่มีฌานมีฤทธิ์เมื่อชาติก่อน มาชาตินี้จะมีเลยไหมครับ"
.
ลต "ไม่มี ก็ต้องมาฝึกมาทำฟื้นใหม่"
.
ชช "อ้าว แล้วที่พูดกันบ่อยๆว่า ของเก่า วาสนาเก่า คืออะไรครับ"
.
ลต "ของเก่า ก็นิสัยความชอบในทางนั้นๆที่ติดมาด้วย เมื่อมาเรียนรู้ก็จะได้เร็วหรือทำได้ดีกว่าคนอื่นๆ".
.
ฉะนั้นเราจะเห็นว่าหลายคนก็ชอบและถนัดความสามารถไปคนละแบบ และบางคนก็ทำได้ดีจนเป็นจุดเด่นเป็นสิ่งอัศจรรย์สำหรับตัวเขา นั้นก็เพราะเหตุเกิดจาก นิสัยเก่า ที่ติดตัวมาจากชาติก่อนๆนั้นเอง
.
#หลวงตาอัดพลังใส่ไม้มงคล
#วันเสาร์นี้ที่วัดหลวงตามีงานมุทิตาจิตหลวงตานะครับ ใครว่างเรียนเชิญครับ

 

....สวัสดีครับพี่ๆน้องๆในบ้านหลังนี้ ไม่ได้เข้ามานาน ยังจะมีคนเล่นเวปไหมหน้อ 555++ วันนี้เอาประสบการณ์ดีๆของสมาชิกในกลุ่มเฟสหลวงตา มาฝากกันครับ ช่วงนี้ช่างชิตยุ่งๆอาจไม่ค่อยได้มาอัพเท่าไร ยังไงถ้ายังมีพี่ๆน้องๆติดตามเรื่องราวของหลวงตาอยู่ก็มาทักทายกันด้วยนะครับ
.............................................................................
สวัสดีครับ พี่น้องสมาชิกทุกท่าน

วันนี้ผมขอเล่าประสบการณ์เล็กน้อยของเหรียญเม็ดแตงครับ (ตามที่แอดมินขอ)
*ขออนุญาตใช้รูปของแอดมินนะครับ

...หลังจากที่ผมได้ร่วมบุญกับทางกลุ่ม ผมจึงบอกบุญให้คุณแม่ได้อนุโมทนาบุญ และได้เล่าว่าเหรียญเม็ดแตงที่ได้รับมานี้ หลวงตาอธิษฐานให้เหลือกินเหลือใช้ พอคุณแม่ได้ฟังแล้วจึงขอดูรูปเหรียญ ปรากฏว่าเป็นที่ถูกอกถูกใจเป็นอย่างมาก จึงเอ่ยปากขอเหรียญเม็ดแตงเพื่อเอาไว้บูชา

...เมื่อวานนี้ได้แวะไปหาคุณแม่ และมอบเหรียญไว้ให้ตามที่ท่านอยากได้ หลังจากนั้นไม่ถึงชั่วโมง คุณแม่ได้บอกว่ามีรายรับเข้ามาเป็นเงินสดหลักหมื่นบาท ท่านแปลกใจมาก เลยตั้งใจว่าจะขอเลี่ยมทองขึ้นคอ

จะด้วยความบังเอิญหรืออย่างไรไม่ทราบ สำหรับคุณแม่ผม ท่านว่าเป็นเรื่องน่าแปลกใจมากทีเดียว เพราะเงินเข้ามาไม่ใช่น้อย

ใครมีเก็บให้ดีนะครับ มีมากแบ่งผมบ้างก็ได้ ฮ่าๆ ตอนนี้เหลือแต่ห่วงกับเชือกไว้เป็นที่ระลึก เหรียญโดนยึดไปเป็นที่เรียบร้อยครับ

 

…สวัสดีครับพี่ๆน้องๆทุกท่าน มาวันนี้ช่างชิตมีเรื่องอยากมาคุยกับพี่ๆน้องๆหน่อย เรื่องที่ช่างชิตได้สัมผัสพบเจอมาและรู้สึกว่ายังมีหลายๆท่านยังไม่เข้าใจตรงจุดนี้ซักเท่าไร วันนี้เลยจะขอมาแชร์ข้อมูลในเรื่องนี้กัน เรื่องที่จะกล่าว คือ “ร่างกายสังขารกับจิตของพระอรหันต์”
.
....เรื่องของเรื่องคือ มีหลายท่านที่ช่างชิตเคยเจอนะ ยังเข้าใจว่า “พระอรหันต์จะไม่เจ็บไม่ปวดจะไม่มีความรู้สึกแสดงอาการทางกายออกมา” ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ใช่นะครับ เคยคุยเรื่องนี้กับหลวงตา ท่านสอนช่างชิตว่า “พระอรหันต์ก็เจ็บก็ปวดก็รู้สึกกับเรื่องของสังขารของกายเหมือนคนธรรมดา แต่จิตของท่านไม่ได้ไปยึดไปผูกกับกายแล้ว ฉะนั้น ท่านเจ็บท่านปวด ท่านมีอาการหลงๆลืมๆ นั้นเป็นเรื่องของกายร่างสังขารที่มันเสื่อมถอยลงไป ไม่ได้เกี่ยวกับดวงจิตดวงใจของท่าน ต้องแยกออกจากกันนะ”
.
.....อย่าง หลวงปู่ขาว หลวงปู่แหวน หรือแม้แต่องค์ หลวงตามหาบัว ช่วงบั่นปลายสังขารท่าน ท่านก็มีอาการหลงๆลืมๆตามธรรมชาติของคนแก่อายุเกือบร้อย อย่างหลวงปู่ขาว หลวงตาเล่าให้ฟังว่า ท่านนอนไม่สบายแต่ต้องฉันเช้าพระอุปัฏฐากก็กราบเรียนท่านให้ท่านฉันจะได้ฉันยา ท่านก็ว่าฉันไม่ได้มันดึกมันมืดแล้ว มาฉันได้ไงตอนกลางคืน(ท่านหลง) พระอุปัฏฐากบอกไม่ใช่ ตอนนี้ช่วงเช้า ท่านก็ว่าท่านฉันไปแล้ว ฉันอีกไม่ได้ พระอุปัฏฐากก็ต้องบอกว่า หลวงปู่ยังไม่ฉัน 5555++ ก็ต้องอธิฐายต้องคุยกว่าจะเข้าใจ (ช่างชิตเคยดูยายป่วยเป็นอัลไซเมอร์ เข้าใจดีครับ 555++) หลวงตาบอกนี้ก็เป็นเรื่องของสังขารไม่ได้เกี่ยวกับภูมิใจภูมิธรรมของท่าน
.
.....หรือแม้อย่างหลวงตาเอง ท่านเป็นโรคภูมิแพ้หายใจติดๆขัดๆ ท่านต้องใช้เครื่องพ่นยาทุกๆวัน ที่ตรงไหนที่อากาศไม่ถ่ายเทคับแคบก็จะมีผลกับร่างกายท่านเสมอ อย่างมีครั้งหนึ่ง ท่านขึ้นลิฟต์ไปงานที่ไหนไม่ทราบแล้วลิฟต์มันติดเปิดไม่ได้ พอเริ่มนานเข้าหลวงตาก็มีอาการหายใจไม่ออกก็มีปฏิกิริยาทางกายออกมาเหมือนคนหายใจไม่ออก ถ้าใครเห็นแบบนั้นอาจเข้าใจว่าท่านกลัวความตาย จริงๆอยากถามว่า เฮ้ย!!คิดได้ไง 555++
.
.....คือ ท่านไม่ได้กลัวตาย!! นั้นก็เป็นอาการของกายครับ มันไม่ใช่เรื่องของภูมิจิตภูมิธรรมเลย ถ้าแบบ“ท่านร้องห่มร้องไห้กลัวจะต้องตาย ร้องขอพระเจ้าให้ลิฟต์เปิดไวๆเพื่อให้มีชีวิตอยู่” เออ ถ้าแบบนั้นก็ว่ากันไปอีกอย่าง ใครที่เห็นอาการทางสังขารของครูบาอาจารย์แล้วก็ไปตีความว่า “ท่านเป็นพระกรรมฐานยังไงถึงกลัวตาย” ช่างชิตว่า “คนๆนั้นโลกแคบบวกอคติไปนิดหนึ่งนะครับ”
.
...พระอริยะเจ้าหรือพระอรหันต์ไม่ใช่ โรโบคอป ที่จะไม่รู้ร้อนรู้หนาวไม่มีความรู้สึกอะไรเลย ใครเข้าใจแบบนี้ให้เข้าใจเสียใหม่นะ มีเรื่องๆหนึ่งช่างชิตอ่านมานานแล้วในกูเกิ้ลนี่ละแต่ยังพอจำได้ จะเอามาเล่าประกอบในสิ่งที่ช่างชิตเขียนหน่อย นั้นคือ เคยมีบาทหลวงมาถามหลวงปู่ตื้อเรื่องร่างกายกับจิตเป็นอันเดียวกันไหม หลวงปู่บอกว่า “ไม่ แยกจากกัน” พอตอบเสร็จ แล้วหลวงปู่เผลอ บาทหลวงคนนั้นก็เอาไฟไปลนขนหน้าแข้งหลวงปู่ หลวงปู่รู้สึกก็เตะสวนไปทันทีเข้าเต็มปากบาทหลวง บาทหลวงคนนั้นจึงต่อว่าหลวงปู่ว่า “ไหนว่าจิตกับกายแยกกันไง ท่านก็ต้องไม่รู้สึกสิ แล้วท่านมาเตะปากผมทำไม” หลวงปู่ตอบว่า “ก็เพราะมันแยกจากกันนะสิ กูเลยสั่งมันไม่ได้ มึงเอาไฟมาลนตีนกู มันรู้สึกร้อน มันก็ต้องเต้นต้องถีบออก ถ้าจิตกับกายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กูก็คงบอกมันไม่ให้ถีบมึงแล้ว”
.
.....ครับ ... สุดท้ายก็อยากฝากพี่ๆน้องๆทุกท่านไว้ว่า พระอรหันต์ไม่ใช่X-men ที่จะมีพลังวิเศษเหนือคนธรรมดาไปซะหมด เพราะพระอรหันต์บางประเภท(มี 4 ประเภทไปหาข้อมูลเอานะ)ก็ไม่ได้จะมีอภิญญามีฤทธิ์มีเดชอะไร และพระอรหันต์ก็ไม่ใช่ คนเหล็กTerminator ที่จะไม่เจ็บไม่ปวด ไม่หลง ไม่ลืม ไม่มีอาการ ไม่มีความรู้สึก พระอรหันต์ท่านก็คนธรรมดาเหมือนเรานี้ละครับ ร่างกายก็มีเสื่อมมีพังเป็นธรรมดา ท่านก็ดูธาตุขันต์ของท่านไปตามเหตุตามปัจจัยเพียงแค่นั้น แต่ในจิตในใจท่านไม่ได้ยินดียินร้ายกับการเกิดหรือการตายแล้ว
.
.....ฉะนั้น ถ้าเราเข้าใจแบบนี้ เราก็จะได้ไม่ไปคาดหวังอะไรที่มันเกินธรรมชาติอย่างที่ควรจะเป็น และที่สำคัญมากๆคือ “อย่าไปประมาทท่าน” ซึ่งมันจะเป็นกรรมกับเราเปล่าๆ ก็ถ้าคิดว่าท่านป่วยท่านหลงๆลืมๆ ก็ให้ทำบุญรักษาธาตุขันต์ท่านตามกำลังตามศรัทธาถนอมธาตุขันต์ท่าน
.
....สุดท้าย ช่างชิตขอฝากคำสอนหลวงตาที่คมคายอย่างมากที่กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
“เอายาพิษให้พระอรหันต์กินท่านก็ตาย เอาเหล้าให้พระอรหันต์กินท่านก็เมาเด้อ”
.
....วันนี้แค่นี้ก่อนเดี้ยวจะบอกเรื่องของแจกในกระทู้หน้านะครับ

 

ยังติดตามเรื่องราวของหลวงตาจากช่างชิตเสมอครับ...สอบถามช่างชิตว่าข้อห้ามในการแขวนวัตถุมงคลของหลวงตามีข้อห้ามอะไรหรือเปล่ารบกวนช่างชิตด้วยครับ ส่วนตัวผมแขวนรูปหล่อหลวงตรุ่นแรกอยู่ครับ

 

ท่านให้ถือศีล 5 ครับ ทำได้ก็จะสุดยอดเลย 5555++

 

ผมขอขอบคุณช่างชิตมากครับที่ทำให้ผมได้รู้จักหลวงตาแม้นว่า จะไม่เคยเจอองค์ท่านมาก่อน แต่วันนี้ผมได้มีโอกาสพบกับหลวงตาครับ ที่วัดพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช ผมดีใจมากผมได้ยกมือพนมไหว้และถามว่าหลวงตาสมหมายใช่มั้ยครับท่านยิ้มและบอกว่าใช่ ท่านบอกว่าลูกศิษย์นำพาท่านมา ท่านยิ้มมีเมตตามาก ผมยังบอกกับพี่ที่ติดตามองค์ท่านที่เป็นฆราวาส รูปร่างอ้วนท้วนที่มากับท่านว่า ผมรู้จักหลวงตาเพราะช่างชิตครับ ท่านหลวงตาท่านยิ้มและได้เดินทางต่อไป ผมดีใจมากครับที่เจอหลวงตา(ผมเป็นทหารที่สุราษฎร์ วันนี้ผมพาครอบครัวไปกราบไหว้องค์พระบรมธาตุมาครับ ผมดีใจมากที่มีวาสนาเจอองค์ท่านหลวงตาที่ นครศรีธรรมราช ขอขอบคุณช่างชิตมาก ๆ ครับผม