ช้างเผือกในป่าอีสาน หลวงตาสมหมาย วัดป่าสันติกาวาส คำสอน/ประสบการณ์/วัตถุมงคล/ (ช่างชิต)

....กระทู้นี้ ภาพบรรยากาศช่วงเย็นวันที่17 เจริญพระพุทธมนต์ถวาย หลวงตามหาบัวและหลวงปู่บุญจันทร์ พระมหาเถระพระเถระ 200 กว่ารูป ยิ่งใหญ่จริงๆ. เอาแต่ที่หัวๆและช่างชิตจำได้นะ
ลป สมพาร
ลป โพธิ์
ลป บุญมา
ลป คำบ่อ
ลป เจริญ
ลป ศรี
ลป ก้าน
ลป สมหมาย
ลป ดำ
ลป บุญทัน
ลป สุธรรม
พอจ สุชิน
ลต ศิริ
ลต สาท
ลต สมเกียรติ
ลต วิโรจน์
ลต เฉลิม
มากมายจำไม่หมด 5555 สุดๆครับงานนี้ คนก็เยอะสุดๆ เอาภาพบรรยากาศและช่วงหลวงปู่บุญมาให้พรมาฝากพี่ๆน้องๆก่อนนอนครับ แต่ที่วัด เทศน์และสวดมนต์ทั้งคืน พรุ่งนี้มาว่ากันใหม่ครับ

 

...สวัสดีครับพี่ๆน้องๆทุกท่าน ผ่านไปแล้วครับกับงาน 100ปี. งานแบบนี้ต้องบอกว่า "ยากจะมีอีกแล้วในวัดป่าสันติกาวาส" เพราะอะไรเดี้ยวมาคุยกันโพสหน้า
.
....ในส่วนของกิจกรรมกลุ่มเรา เหนื่อยมากกกกครับแต่ก็ผ่านไปและจบด้วยดี ปิติทั้งผู้ให้ผู้รับ รายละเอียดคุยกันในโพสน่าอีกเช่นกัน 55555++. พี่ๆน้องๆคงนึกในใจ "แล้วไอ้ชิตเอ็งจะมาโพสอะไร.!!!!"
.
....ที่โพสเพราะเรื่องนี้ครับ. แจกแล้ว!!!! แจกแล้วครับ. "เหรียญในหลวง รุ่น บารมีล้นแผ่นดิน โค้ต ส.บารมี เลี่ยมพร้อม 1,500 เส้น หลวงตาเมตตากลุ่มเรามากๆ. ท่านเอามาแจกญาติโยมในวันที่สำคัญแบบนี้
.
....ในฐานะผู้ที่ได้รับฟังปฐมเหตุจากปากหลวงตาก่อนจะคิดสร้างเหรียญรุ่นนี้. และการตัดสินใจที่เด็ดขาด คิดลงมือทำก่อนที่ในหลวงท่านจะจากเราไป(ทั้งๆที่ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนั้น). มันเป็นอะไรที่ดีใจมากๆครับ ที่ทุกอย่างแม้จะทำด้วยความยากลำบาก(หลายเรื่อง เช่น ก็รู้ๆว่าหลวงตาขอยากมากกับเรื่องพวกนี้)
.
..... แต่ช่างชิตและทีมงานก็ทำจนเสร็จและถวายหลวงตาก่อนเข้าพรรษาได้สำเร็จ ที่สำคัญคือหลวงตา "เลือก" มาแจกในงานมหามงคลแบบนี้. อยากให้พวกเรา ปลื้มและยินดีที่หลวงตาเมตตา "วัตถุมงคลอีกรุ่นในนาม กลุ่ม ส.บารมี เราด้วยนะครับ"(รุ่นแรกเหรียญปัญญาอิทธิฤทธิ์)
.
....ที่บอกให้ดีใจเพราะแม้ช่างชิตจะเป็นคนคิดเป็นคนจัดการแต่มันไม่มีทางสำเร็จหรอกครับถ้าไม่มีคำว่า "เรา" ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมอะไรก็เถอะ ฉะนั้น อะไรที่ทำในนาม "ส.บารมี ศิษย์หลวงตา" นั้นคือสิ่งที่"พวกเรา"ทำครับ
.
...ใครได้รับไปวันนี้ช่างชิตยินดีด้วยจริงๆครับ พุทธานุภาพสุดจะประมาณ บารมีพระอริยะบวกบารมีพระโพธิ์สัตว์ไม่ใช่ปริมาณของสิ่งของที่จะหาเครื่องมือมาวัดได้ อย่าได้ดูถูกว่า "แค่เหรียญ 50 สตางค์" หึ.... ใครคิดแบบนั้นจะเสียใจทีหลังแน่นอน
.
....ช่างชิตเอาภาพตอนหลวงตาแจกมาฝาก พร้อมนายแบบสุดเท่ 5555++ โพสน่าจะมาคุยเรื่องอะไรอย่าลืมติดตามกันนะครับ

 

...กระทู้นี้ช่างชิตจะชี้แจงรายละเอียดการทำบุญงาน100ปีหลวงปู่ในนามกลุ่ม ส.บารมี ศิษย์หลวงตา นะครับ ปัจจัยผู้ที่ร่วมบุญในครั้งนี้รวมแล้วยอด 64,000 บาท รายละเอียดเราทำอะไรบ้างมาดูกัน
.
1.โรงทานเพื่อญาติโยมที่มาร่วมงาน
-ขนมเบเกอรี่ อย่างดี แบรนด์ชั้นนำของอำเภอกุมภวาปี 2,190 ชิ้น . 17,568 บาท
- น้ำเปล่าทั้งแบบขวดและแบบแก้ว 2,000 ที่ 3,840 บาท
- น้ำเกล็ดหิมะ 500 แก้ว. 1,500 บาท
รวม 22,908 บาท
.
2.โรงทานปรมัตถ์พระ
-เนยปั่น 500 แก้ว
-ยำเนย 200 จาน
-ค่าเครื่องมือ
รวม 9,000 บาท
.
3.ทำบุญโรงทานของคาวเซียนเต่า 3,000 บาท
4.ทำบุญโรงทานอื่นๆ 10 โรงทาน = 5,000 บาท
5.ชำระหนี้สงฆ์ ค่าน้ำค่าไฟ 500 บาท
6.ร่วมทำบุญค่าห้องน้ำสาธารณะสำหรับญาติโยมในงาน 3,100 บาท
7.ทำบุญผ้าป่าซื้อที่ดินสร้างวัดที่อังกฤษกับหลวงปู่ทองอินทร์ วัดป่ากุ่ง 4,000 บาท
8.ทำบุญถวายพระราชกุศลแด่ในหลวงกับหลวงปู่ทองอินทร์ วัดป่ากุ่ง 3,000 ยาท
9.ทำบุญถวายหลวงตาใช้ในการส่วนตัว 2,000 บาท
10.ร่วมทำบุญถวายเสื้อโปโล100ปีถวายหลวงตาแจกญาติโยม 2,000 บาท
11.ทำบุญผ้าห่มถวายพระเถระ 1,000 บาท
12ทำบุญถวายพระอาจารย์แสง ศิษย์อุปถากหลวงปู่ชอบ 1,000 บาท
.
-.ค่าน้ำมันในการดำเนินงาน(ช่างชิต) 1,500 บาท
-ค่าใช้จ่ายในการเดินทางทีมงาน(3 คน) 5,000 บาท
-ค่าจัดส่งของที่ระลึก 1,500 บาท
รวม 64,508 บาท
.
….อย่างที่บอกงานนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มี “น้ำใจของพี่ๆน้องๆในกลุ่มเรา” วันแรกที่บอกบุญ ช่างชิตใจออกไปแล้วครับ 555++ แต่เพราะพี่ๆน้องๆในกลุ่มเราไม่ทอดทิ้งกันเพราะพ่อแม่ครูบาอาจารย์ยังเมตตากลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างพวกเราที่กำลัง “สร้างบารมี”งานนี้จึงสำเร็จไปด้วยดีครับ
.
....ทีมงานเหนื่อยกายกันทุกคนเพราะทุกคนมีงานมีการทำที่ยุ่งยากแต่ก็ต้องจัดสรรเวลาเพื่องานตรงนี้อย่างเต็มใจ แต่ถามว่าเหนื่อยใจไหม ตอบดังๆเลยครับว่า “ไม่” ปิติและอิ่มบุญที่สุด
.
....งานนี้จบได้แบบสมบูรณ์ทุกอย่างลงตัวหมดทุกเรื่องไม่มีปัญหาอะไรค้างคา ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่มาร่วมบุญและเป็นกำลังใจให้ลูกหลาน ขอบคุณเพื่อนสมาชิกในกลุ่มที่มาช่วยกันด้วยใจจริง
....กระทู้นี้ขอปิดรายละเอียดการทำบุญงานนี้นะครับ กระทู้หน้าจะมาเก็บตกเรื่องราวน่าสนใจต่างๆในงาน
.
.....แต่ก่อนอื่นขอให้พี่ๆน้องๆเราร่วมอนุโมทนาสาธุ เพื่อรับอานิสงค์จากการทำบุญและทำทานในครั้งนี้ด้วยครับ
.
นับถือ
ช่างชิตและทีมงาน

 

.....เก็บตกงาน100ปีหลวงปู่บุญจันทร์....
"ความในใจของคนที่ไม่ทันกราบหลวงปู่"
.
...วันนี้ก็มาขอเล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในงานหน่อยครับ ตามที่ช่างชิตเคยเกริ่นไว้ว่า "งานใหญ่แบบนี้คงจะไม่มีง่ายๆอีกแล้วสำหรับวัดป่าสันติกาวาส"
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นนะหรือ?? เพราะตั้งแต่ช่างชิตเป็นลูกศิษย์หลวงตากว่า 13 ปี บอกเลยครับว่าพึ่งเคยเห็นงานใหญ่แบบนี้ครั้งแรกจริงๆ
.
....ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่นับบุญกฐินกับงานทำบุญครบรอบวันละสังขารหลวงปู่นะครับ เพราะทั้งสองงานก็แค่ทำบุญปรกติทั่วไปไม่ได้จัดงานอะไร เพียงแต่ช่วงหลังๆโรงทานลูกศิษย์ลูกหาดันมากและมากขึ้นทุกปี.....
.
...ยิ่งงานอะไรก็ตามที่เป็นงานส่วนตัวของหลวงตา เช่น งานมุทิตาจิต(วันเกิด) นั้นขอบอกว่า "ไม่มี" งานที่จัดขึ้นที่วัด ล้วนเป็นงานที่จัดเพื่อเคารพบูชาคุณครูบาอาจารย์ คือ องค์หลวงปู่บุญจันทร์ผู้ที่ก่อตั้งวัดสร้างวัดขึ้นมาเท่านั้น งานที่เกี่ยวกับหลวงตาเอง ท่านไม่ทำ ไม่ให้มี.....
.
....ช่างชิตเคยถามหลวงตาครับ นานละ ถามว่าหลวงตาทำไมไม่จัดงานวันเกิดหน่อยครับ หลวงตาตอบว่า "ไม่จัดหรอก ยุ่งยาก" เมื่อมีคำตอบแบบนี้และนำมาคิดวิเคราะห์กับปัจจุบันมันก็จะมีคำถามกลับมาว่า แล้วงานต่างๆที่ผ่านมาเช่นงาน100ปี ยุ่งยากทำไมถึงจัด???
.
...ช่างชิตก็ขอตอบจากสมองที่กลั่นกรองผ่านวันเวลาที่สัมผัสกับหลวงตามานานบวกจิตใจที่ไม่ได้มีอคติหรือชื่นชมจนคิดไม่เป็นเลยว่า หลวงตาทำเพื่อ "เชิดชูคุณครูบาอาจารย์เท่านั้นจริงๆ" ถ้าใครศึกษาประวัติหลวงตามาลึกซะหน่อยจะรู้ว่า "หลวงตาผูกพันกับหลวงปู่มากขนาดไหน"
.
....หลวงตามาบวชและอยู่กับหลวงปู่ตั้งแต่เป็นเณรอายุ13(พ.ศ2507)จนบวชเป็นพระและอุปัฏฐากหลวงปู่จนหลวงปู่ละสังขารไปในปี 2538 หลวงตาแทบไม่เคยห่างกับหลวงปู่เลย จะมีก็ช่วงเวลาที่ท่านออกธุดงค์ช่วงหนึ่งและช่วงที่หลวงตาไปสร้างวัดโคกใหญ่เท่านั้นเอง(ซึ่งก็มีเหตุให้ท่านต้องไป อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่เล่าจะยาว)
.
....ช่างชิตเคยคุยกับหลวงตาครับ จำได้ว่าคุยกันเรื่องครูบาอาจารย์องค์อื่นที่ไปฝากตัวเป็นศิษย์พ่อแม่ครูบาอาจารย์องค์นั้นองค์นี้ไปเรื่อยๆ ช่างชิตก็ถามว่า "ทำไมหลวงตาไม่ทำแบบนี้บ้าง?" หลวงตาตอบว่า "หลวงปู่ไม่ให้ไป หลวงปู่บอกว่าถ้าไปก็ตัดขาดจากกัน"!!!!
.
....ช่างชิตก็มาคิดนะ หลวงปู่ท่านเป็นพระระดับไหน อันนี้ไม่ต้องสงสัยหมดสงสัยแล้ว(จากคำรับรองของพ่อแม่ครูบาอาจารย์และดูกระดูกท่านสิ ชัดยิ่งกว่าชัด)การที่ท่านกล่าวแบบนั้นย่อมมี "เหตุผลที่ลึกซึ้งเกินกว่าคนจะคาดเดา"
.
....และนานมาอีกนั้นแหละ ช่างชิตก็เคยถามอีกว่า หลวงตาทำไมต้องมารับเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าสันติกาวาสอีก เพราะตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดหลวงตาสร้างวัดที่โคกใหญ่จำพรรษาที่นั้นแล้ว หลวงตาตอบว่า "ตอนหลวงปู่ป่วยหนักหลวงปู่สั่งให้คนไปตาม แล้วหลวงปู่สั่งไว้ว่าให้หลวงตากลับมาดูแลวัด"
.
....ครับ จากที่เอ้ยมาสองสามเรื่องก็พอจะนึกออกนะครับ ว่าทำไมถึงมีงานนี้เกิดขึ้น ก็เพราะความผูกพันของหลวงตากับหลวงปู่... เพราะความที่หลวงตามีความกตัญญูเป็นที่ตั้ง
.
.....งานที่เกี่ยวข้องกับหลวงปู่ อะไรที่ทำเพื่อเชิดชูหลวงปู่ในโอกาสสำคัญ แม้จะยุ่งขนาดไหน หลวงตาก็ต้องทำ...ไม่ได้ทำเพราะอยากจัดให้มันใหญ่ จัดเพราะเอาเงิน หรือจัดเพื่อให้ตัวท่านเองดีเด่นอะไร....พอจะเข้าใจที่ช่างชิตสื่อไหมครับ
.
....หลวงตาเคยเล่าให้ช่างชิตฟังว่า สมัยหลวงปู่ยังอยู่ หลวงปู่ไปกิจนิมนต์ต่างๆไม่ค่อยอยู่วัด หลวงตาก็บ่นนึกในใจว่า "ทำไมหลวงปู่ไม่ค่อยอยู่วัดเลย???" หลวงปู่ก็ได้บอกหลวงตาว่า "วาแต่ผูอื่นถ่าเบิ่งย่ามเจ้าของเด้อ"(ว่าแต่คนอื่นค่อยดูตัวเองละกัน) ว่าเรื่องนี้ทีไรหลวงตาก็หัวเราะ 555++ มาปัจจุบันคงไม่ต้องถามนะครับว่าสิ่งที่หลวงปู่บอกจริงหรือไม่จริง..
.
....หลวงปู่โพธิ์ ศิษย์รุ่นใหญ่หลวงปู่ดุล เทศน์วันงานคืนวันที่ 17 ช่างชิตนั่งจะหลับอยู่นอกศาลาแต่ต้องสะดุ้งเพราะประโยคที่หลวงปู่เทศน์มาประโยคหนึ่งว่า
.
"มาคืนนี้หลวงปู่ได้มาวัดป่าสันติกาวาสรู้สึกอัศจรรย์ใจยิ่งนัก ไม่นึกว่าพระอาจารย์สมหมายจะสามารถเชิญครูบาอาจารย์พระเถระณุเถระมาร่วมงานได้มากมายขนาดนี้"
.
....ทำไมต้องสะดุ้ง ทำไมต้องตื่น เพราะช่างชิตคิดไงครับคิดตาม จริงอยู่ไม่เถียงเลยว่าที่วัดป่าสันติกาวาสสมัยหลวงปู่อยู่ก็มีลูกศิษย์ลูกหามากมายอยู่แล้วจึงเป็นเหมือนมรดกสืบทอดมาถึงหลวงตา
.
...แต่!!! แต่.....พอยุคสมัยหลวงตาแล้ว หลวงตาเองท่านทำตัวไม่ดี ทำตัวแย่ไม่เป็นไปตามแนวทางครูบาอาจารย์ คนก็คงจะค่อยๆหาย วัดก็คงจะเงียบและเลือนหายตามกาลเวลาไปในที่สุด แต่นี้มันตรงกันข้าม.....
.
.... นับแต่วันที่หลวงปู่จากไป ลูกศิษย์ลูกหาที่วัดก็มากขึ้นมากขึ้น วัดยังคงสร้าง "จิตสำนึกให้คนคิดได้" วัดยังคง"สร้างคนให้เป็นคนได้" วัดยังคง"ถ่ายทอดคำสอนขงระพุทธเจ้าได้อย่างดีเยี่ยม" และที่สำคัญวัดยังคง"หล่อหลอมความเป็นอันนิ่งอันเดียวกันได้" เพราะอะไรครับ.. เพราะหลวงตาท่านทำให้ดู ท่านพาพวกเราทำ ท่านทำเป็นตัวอย่างไงครับ
.
...ช่างชิตเป็นคนเชื่อคนยากครับ ดื้อ ขี้สงสัย ใจกล้า หน้าด้าน มีเรื่องบางเรื่องของหลวงตาที่ช่างชิตได้ข่าวมาแบบคาใจ ช่างชิตสงสัย เมื่อมีโอกาส ช่างชิตก็กราบเรียนถามหลวงตาตรงๆ และก็ได้คำตอบที่ชัดเจน มาคิดวิเคราะห์ทวนดู มันก็จริงตามนั้น เรื่องที่สงสัยก็หายสงสัย
.
...และก็พอจะเข้าใจละครับว่า"คนที่กล่าวว่ากล่าวหาหลวงตาจะเป็นคนเช่นไร" และที่สำคัญเวลาพิสูจน์ทุกสิ่งครับ ถ้าหลวงตาท่านไม่ดีจากข้างในจริงๆ ท่านแพ้ภัยแพ้แรงกรรมไปนานแล้ว ไม่มีทางจะเป็นแบบทุกวันนี้มีลูกศิษย์ลูกหาเพิ่มขึ้นแบบนี้ได้แน่นอน มันเป็นเพราะบารมีครับ บารมีที่หลวงตาท่านค่อยๆสร้างมาและบวกบารมีหลวงปู่ จึงหนุนนำให้ทุกอย่างออกมาสำเร็จ เช่น งาน100ปีชาตกาลหลวงปู่บุญจันทร์ ที่ผ่านมา
.
...ช่างชิตไม่เคยกราบหลวงปู่ ไม่รู้หรอกครับว่าหลวงปู่ท่านดียังไงแบบไหน แต่ช่างชิตได้กราบหลวงตาได้มีโอกาสรับใช้หลวงตา เห็นหลวงตาจากที่หลวงตาเป็น ก็พอรู้ว่า "หลวงปู่อบรมหลวงตามาดีขนาดไหน" แม้ไม่เคยกราบหลวงปู่แต่ก็รักนับถือท่านเพราะหลวงปู่เป็นคนที่หลวงตารักและเคารพอย่างสูงสุด
.
...ในงานตั้งแต่วันที่17สวดมนต์จนเช้า และงานของวันที่18ทั้งวันจนกระทั้งบ่าย หลวงตาท่านไม่ได้นอนเลยครับ ช่างชิตเห็นหลวงตาแล้วสงสารท่านมาก แม้หน้าตาท่านจะยิ้มแย้มรับญาติโยมไม่แสดงให้เห็นความอ่อนล้า แต่หลวงตา 66 แล้วครับ เป็น ปู่เป็นตาคนได้แล้ว ท่านเป็นคนแก่ ช่างชิตเห็นคนแก่ไม่ได้หลับได้นอนเพราะต้องอยู่ดูแลงานตลอด 2 วัน 2 คืน แบบนี้ แม้ไม่ได้เป็นครูบาอาจารย์กันก็อดสงสารไม่ได้จริงๆ
.
....บ่ายโมงครึ่งวันที่ 18 ญาติโยมกลับหมด ช่างชิตไปส่งหลวงตาจำวัดกับศิษย์อีกจำนวนหนึ่ง พอหลวงตานอนพัก ช่างชิตนวดถวายหลวงตา นวดไปก็หาวไป ตาก็จะหลับ ใจจะขอหนีกลับก่อน แต่ก็ไม่อยากทิ้งหลวงตา อยากนวดให้หลวงตาหายเหนื่อยอยากให้ท่านสบายสังขารบ้าง ก็นวดแบบหลับๆตื่นๆจนถึงถึงบ่ายสองครึ่ง หลวงตาเลยบอกกลับซะ ไปพักผ่อน ช่างชิตและน้องๆศิษย์อีก 3 คนก็กราบลาท่านกลับ
.
....ช่างชิตเป็นคนสุดท้ายที่อยู่จากกุฏิล็อกกุฏิเรียบร้อย เดินมาก็คิดเพลินๆถึงคำคมที่ใช้ในเกมลูกหนังว่า "การจะเป็นแชมป์ว่ายากแล้ว แต่การรักษาแชมป์และเป็นแชมป์ใหม่ๆยากกว่าหลายเท่านัก" ถ้านำมาใช้กับเรื่องราวตรงนี้ก็คงจะกล่าวได้ว่า "การสร้างศรัทธาให้เกิดว่ายากแล้ว แต่การรักษาศรัทธาเก่าบวกสร้างศรัทธาใหม่ยากกว่าหลายเท่านัก" พระดีๆหายากครับสมัยนี้ แต่มันก็ไม่ยากเกินที่จะหาหรอกครับ
.
....อ้าว จะเทียงคืนละ ดูจะยาวเกิน ขออภัยๆ ตอนหน้าจะสั้นๆนะ 5555 คืนนี้ราตรีสวัสดิ์ครับ

 

....เก็บตกวันงาน100ปี....
"ส.บารมี ศิษย์หลวงตา Team"
.
...นำภาพพี่ๆน้องๆที่ใส่เสื้อ ส.บารมี ทั้ง2รุ่นมาฝากครับ. วันงานที่ 17 ช่างชิตมองกลุ่มชายวัยกลางคนที่ใส่เสื้อขาวมาเป็น 10 แล้วที่หน้าอกมีเลข9. มองแล้วก็นึกในใจนะ "ทำไม เหมือนเสื้อที่กรูออกแบบเลยว่ะ???"
เลยเดินเข้าไปดูใกล้ๆ. อุทานทันที "อ้าว เสื้อกลุ่มกรูนิหว่า" 555555
.
...เห็นหลายคนใส่แล้วดูดี ก็ดีใจครับดีใจ นายแบบเราแต่ละคนระดับเสี่ยร้อยล้าน ระดับเจ้าของกิจการทั้งนั้น. แบบหาเช้ากินค่ำก็มีช่างชิตกับแอดฌานละ 5555 เอ้า!! ใครเป็นใครดูกันเอาเองนะครับ

 

.....เก็บตกงาน100ปีหลวงปู่......
"ฤาษีก็มา???"
.
....วันงานวันที่ 18 ช่วงเกือบบ่าย หลังจากที่ญาติโยมต่อแถวรับของที่ระลึกจากหลวงตา. ก็มีบุรุษท่านหนึ่งปรากฏตัว สะกดสายตาผู้คนรอบด้าน บุคคลๆนั้นคือ. ชายที่แต่งตัวแบบฤาษี ช่างชิตก็จับตาดูตลอดว่าจะมาทำอะไรแปลกๆไหม.เพราะที่วัดเราไม่เคยมีอะไรแบบนี้ทางนี้อยู่แล้ว ถ้าทำคงจะต้องคุยกันหน่อย. 5555++
.
....หลังจากนั่งดูมองท่าทีแววตาของฤาษีแล้วปรากฏว่า ช่างชิตเห็นแววตาแห่งความนอบน้อมและศรัทธาในหลวงตา ทุกครั้งที่เขามองหลวงตาแววตามันบอก
.
....ซักพักฤาษีก็ก้มเข้าไปกราบและร่วมทำบุญกับหลวงตา
"ฤาษีกะมาติ??" (ฤาษีก็มาหรา)
ว่าแล้วหลวงตาก็ยิ้ม ^.^
"หลวงตาเมตตาจับไม้เท้าให้แนผม". (หลวงตาเมตตาจับไม้เท้าเพื่อเป็นสิริมงคลให้หน่อยขอรับ)
"เอ้า!!! ไม้เท้าฤาษีกะดีป่านนั่นตั้วซิให้จับหยั่งอีก" (พอละไม่แปลละ เหนื่อยพิมพ์ 555)
.
....หลวงตาว่าแบบนั้นก็จริง แต่ท่านก็เมตตาจับและหยุดซักพักหนึ่งก่อนส่งคืนให้ฤาษี "เอ้า ดีๆ"
ฤาษีรับพร้อมรอยยิ้มก่อนจะกราบและคลานออกไป
.
.....เห็นฤาษีทำแบบนี้แล้ว รู้สึกดีครับ รู้จักวางตัว รู้สถานะตน รู้ว่าอะไรควรไม่ควร ไม่ใช่มานั่งเสมอพระ มานั่งเหนือพระ มาเป่าหัวพระปูดๆป้าดๆ แบบนั้นไม่ใช่!!! คนมีฤทธิ์แสดงฤทธิ์ได้(โลกิยะฤทธิ์)ไม่ใช่จะมีศีลเยอะกว่าหรือมีจิตที่บริสุทธิ์กว่าพระสงฆ์
.
....ถึงแม้บุคคลนั้นในเพศฆราวาสจะมีจิตที่บริสุทธิ์กว่าพระสงฆ์ "เขาก็เคารพกันภายใน" จะไม่มาแสดงออกให้พระให้เจ้ากราบตัวเองหรอก เพราะยังอยู่กับโลกสมมุติต้องเล่นตามบทสมมุติ
.
....ยกตัวอย่าง "คุณยายจันดี โลหิตดี" "คุณยายแก้ว เสียงล้ำ" สิ คุณธรรมขนาดไหน ฤทธิ์ขนาดไหน พระบวชได้วันเดียว คุณยายๆยังเคารพยังก้มกราบเลย คุณยายๆพอตาย เกสา กระดูกเป็นพระธาตุหมด ฉะนั้นอย่ามาอ้างเรื่องคุณธรรม
.
.....เอาละ พูดแล้วจะยาว เดี้ยวก็มีคนมาเถียงด้วยอีก พอละ. 5555 ไปศึกษาให้ดีเถอะนะ. ก่อนจากไปนอน. ช่างชิตขอชื่นชมฤาษีตนนี้ครับ ไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามนะ แต่ถือว่า "ผ่านครับ"

 

.....เก็บตกงาน100ปีหลวงปู่......
"ควันหลงพระผู้ใหญ่"
.
.....ในงาน100ปีต้องบอกว่ามีพ่อแม่ครูบาอาจารย์พระเถระผู้ใหญ่มางานมากมายเหลือเกิน เช่น หลวงปู่สมภาร หลวงปู่โพธิ์ หลวงปู่บุญมา หลวงปู่คำบ่อ หลวงปู่เจริญ หลวงปู่ทองอินทร์ หลวงปู่ดำ หลวงปู่ศรี หลวงปู่หลอ หลวงปู่ก้าน เอาระดับหัวแถวและที่ช่างชิตจำได้นะครับ จริงๆเยอะกว่านี้มาก
.
....วันนี้ขอถ่ายทอดที่พระผู้ใหญ่ได้กล่าวถึงหลวงตาในการจัดงาน100ปีทั้งเป็นทางการและการส่วนตัวหน่อยนะครับ
.
.....องค์แรกเลยคือ หลวงปู่โพธิ์ วัดบูรภาราม 85 พรรษา ศิษย์ในองค์หลวงปู่ดูลย์ พระอรหันต์ใหญ่แห่งเมืองสรุินทร์ ได้กล่าวออกไมค์ตอนเทศน์ในวันงานเลยว่า
"มาคืนนี้หลวงปู่ได้มาวัดป่าสันติกาวาสรู้สึกอัศจรรย์ใจยิ่งนัก ไม่นึกว่าพระอาจารย์สมหมายจะสามารถเชิญครูบาอาจารย์พระเถระณุเถระมาร่วมงานได้มากมายขนาดนี้"
.
....องค์ที่สองคือหลวงปู่คำบ่อ วัดใหม่บ้านตาล 85 พรรษา ศิษย์หลวงปู่แหวน หลวงปู่สิม หลวงปู่ตื้อ ท่านได้กล่าวกับญาติโยมที่มากราบท่านที่กรุงเทพ ท่านเล่าเรื่องสมัยก่อน ตอนหลวงปู่บุญจันทร์ท่านอาพาธมารักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ไม่มีใครรู้จักท่าน หลวงปู่คำบ่อเลยบอกหมอว่าเป็นครูบาอาจารย์ของท่าน ท่านว่าตอนนั้นท่านสมหมายยังเป็นพระน้อยอยู่ ตอนนี้คงพรรษามากแล้วล่ะ หลวงปู่ยังกล่าวทิ้งท้ายเรื่องไปร่วมงาน๑๐๐ปี หลวงปู่บุญจันทร์ ท่านชมว่า
"สมหมายจัดงานเรียบร้อยดี รู้จักเคารพพ่อแม่ครูบาอาจารย์ มันรู้จักกตัญญูพ่อแม่ครูบาอาจารย์ มันดีอยู่นะ ตอบแทนบุญคุณครูบาอาจารย์มันดีนะ"
(***ที่หลวงปู่เรียกหลวงตาว่า "มัน" เพราะหลวงปู่ท่านมีความสนิทสนมกับหลวงตาเป็นอย่างดีและมองหลวงตาด้วยความเมตตาเหมือนเป็นเณรน้อยเสมอ)
.
....องค์ที่สามหลวงปู่ทองอินทร์ 78 พรรษา ศิษย์ในองค์หลวงปู่ศรี มหาวีโร พระอรหันต์ใหญ่แห่งเมืองร้อยเอ็ด หลวงปู่ทองอินทร์ท่านมีปฏิปทาไม่เหมือนใครนะครับ เรียบง่ายแบบคนส่วนมากคาดไม่ถึง ใครสัมผัสจะรู้ดี เช่น ห้ามนำดอกไม้มาเสียบแจกันถวายพระ ไหว้พระห้ามจุดธูปจุดเทียน วัดมีงานโรงทานใช้ใบตองให้เตรียมช้อนมากันเอง 5555 เป็นต้น ถ้าภาษาวัยรุ่นก็ประมาณ Indy ครับ 555 วันงานท่านได้กล่าวเทศน์ผ่านไมค์ว่า
"อาจารย์สมหมาย โรงทานเยอะมากนะ โรงทานมากแล้ว ญาติโยมก็พากันทำแต่โรงทาน บุญบ่ทำเด้อ บุญทำง่ายๆมาเบาๆกลับเบาๆ มาวัดให้เย็นกายเย็นใจไม่พากันทำ พากันทำแต่ของหนักของแบกมา เดี้ยวมีปัญหากะทุกข์อกทุกข์ใจ มันเป็นบาปเด้อ" ท่านว่าท่านก็หัวเราะ
.
....สุดท้าย คำถามสำหรับคนหน้าด้านอย่างช่างชิตเท่านั้น ความที่เห็นหลวงตาท่านสนิทและเคารพหลวงปู่จันทร์เรียนมาก ช่างชิตเลยกราบเรียนถามหลวงตาว่า "หลวงตาไม่ได้นิมนต์หลวงปู่จันทร์เรียนหราครับ??" หลวงตาตอบว่า "ก็รู้อยู่ว่าท่านมีนิสัยยังไงจะไปนิมนต์ท่านให้ท่านลำบากใจทำไม เดี้ยวท่านก็ว่า "หาจัดงานอยากได้เงินเขาติ"(อยากจัดงานอยากให้โยมมาถวายเยอะๆหรา) ว่าแล้วหลวงตาก็หัวเราะ ^.^
.
....***ประมาณ 5 ปีก่อน น้องชายช่างชิตได้ติดตามหลวงตาขึ้นไปกราบหลวงปู่จันทร์เรียน แล้วหลวงปู่จันทร์เรียนท่านกล่าวต่อหน้าญาติโยมที่มากราบท่านมากมาย จับใจความได้ว่า "สมหมายดี มีลูกศิษย์ลูกหามาก จะเป็นที่พึ่งในภายภาคหน้านะ"
.
....เนื่องจากน้องชายเล่าให้ช่างชิตฟังตั้งนานแล้ว ผิดที่ช่างชิตเองละที่จำไม่ค่อยได้ 5555 ตอนนั้นน้องเล่าให้ฟังแต่ช่างชิตก็ไม่กล้าเขียน(ท่านพูดเยอะกว่านี้อีก) ถ้าเขียนช่วงนั้นเดี้ยวจะหาว่ายกยออาจารย์ตัวเองโดยอ้างชื่อเสียงของพระผู้ใหญ่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปอะไรหลายๆอย่างก็เป็นตามที่หลวงปู่ท่านพูด จึงนำมาถ่ายทอดสู่กันฟังครับ
.
#ขอบคุณภาพบางส่วนจากกูเกิ้ลและพี่Jhumpot Soleilครับ

 

เปลี่ยนบอร์ดใหม่ รูปภาพหายหมดเลย

 

...2017 หรือ 2560 ก็เป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากของเดิมปีที่แล้ว ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่นี้ ช่างชิตในฐานะผู้ดูแลกลุ่มหลวงปู่อ่อนสาและหลวงตาสมหมาย
.
...ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรมคำสอนที่โปรดสัตว์โลก พระอริยะสงฆ์เจ้าผู้นำคำสอนมาเผยแพร่ หลวงปู่มั่น หลวงปู่เสาร์ หลวงตามหาบัว หลวงปู่บุญจันทร์ หลวงปู่อ่อนสา หลวงตาสมหมาย และพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ตลอดจน พระพรหม เทพเทวา ทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน คุณบูรพามหากษัตริย์ เสด็จพ่อ ร5 พ่อหลวง ร9
.
....หนุนนำพี่ๆน้องๆทุกท่าน ให้มีอายุ วัณนะ สุขขะ พละ ปัจจัย5ครบครั้น คิดดีทำดีให้ได้ดี คิดไม่ดีถ้าไม่ทำก็แล้วไป แต่ถ้าทำก็ตัวใครตัวมัน
.
....กรรมอันใดที่ช่างชิตทำให้พี่ๆน้องๆเคืองใจไม่สบายใจ ก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วย ขอให้พี่ๆน้องๆมีความสุขตลอดปีและอยู่เป็นขวัญกำลังใจในบ้านหลังน้อยหลังนี้อีกนานเท่านานนะครับ

 

.....เก็บตกเดินสายปีใหม่......
"เรื่องเล่าวัดถ้ำสหาย"
....สวัสดีครับพี่ๆน้องๆทุกท่าน มาแล้วครับมาแล้ว งานวุ่นวายมาก ประชุมทีโดนด่าจนอยากลาออก แต่ออกไม่ได้หนี้เยอะ 5555 มากคนมากความ อำนาจก็มีอย่างกับหนอนชาเขียว รู้ว่าต้องแก้ต้องทำยังไงให้ดีขึ้นก็ทำไม่ได้ เฮ้ออออ บ่นมากละ ยังไงขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านในการทำงานด้วยนะครับ
.
....วันนี้ช่างชิตมีเรื่องอยากจะมาเล่าสู่กันฟังกับพี่ๆน้องๆหน่อยตามชื่อเรื่องเลย คือ วันที่ไปตักบาตรหลวงปู่จันทร์เรียน วัดถ้ำสหาย ช่างชิตตั้งใจและมีความปิติอย่างมากในการไปทำบุญครั้งนี้. นั่งปลอกไข่ต้มถึงตีสอง ตีห้าเดินทางขึ้นถ้ำสหาย
.
....ทุกอย่างก็ผ่านไปราบรื่นโดยดีจนกระทั้ง ถึงตอนถวายอาหารพระ แล้วญาติโยมที่มาตักบาตรจะนั่งรอรับอาหารต่อจากคณะสงฆ์และร่วมรับประทานอาหารในศาลา ในระหว่างที่ทุกคนนั่งรอโดยความปิติที่ได้ตักบาตรหลวงปู่และจะได้รับประทานอาหารก้นบาตรจากคณะสงฆ์
.
....จังหวะที่เจ้าหน้าที่วัด เข็นกะบะอาหารมาให้ญาติโยมที่นั่งเรียงแถวรออยู่. อยู่ๆก็มีผู้หญิงคนหนึ่งกางถุงขนาดใหญ่ที่เตรียมมาไว้อย่างดี แล้วรีบกวาด ขนม นม เนย ที่อยู่ในกะบะอย่างบ้าคลั่งโดยไม่สนใจคนรอบข้างเลย ฟังไม่ผิดครับ "บ้าคลั่งสุดๆ"
.
....ญาติโยมที่นั่งใกล้ๆถึงกับผงะและพูดไม่ออก ทุกคนมองผู้หญิงคนนั้นด้วยความ "สมเพช เวทนา" กะบะแล้วกะบะเล่าที่เธอโกย กับข้าว ของกิน ลงถุงขนาดใหญ่ 2-3ถุง อย่างเมามันส์ เธอทำเหมือนกับไม่สนใจว่าจะมีคนนั่งต่อจากเธอ หรือจะคิดถึงคนที่นั่งต่อจากเธอจะกินอะไร จะมีของดีๆกินไหมต่อจากเธอ (ดูภาพประกอบ)
.
....ช่างชิตนั่งดูพฤติกรรมที่น่าหดหู่ พร้อมคิดในแง่ดีว่า เธอคงจะห่อไปให้ลูกให้หลานหรือคนในครอบครัวเธอกิน แต่แม้จะคิดบวกอยู่บนทุ่งดอกลาเวนเดอร์ซักปานได้ สิ่งที่เห็นมันก็ตรงข้ามเสียจริงๆ เพราะการกระทำแบบนั้น "ไม่ใช่ห่อเพื่อเอาไปกินอย่างแน่นอน"
.
....สุดท้ายก็ได้แต่ละสายตาหนี เพราะใจเริ่มหมอง และคิดถึงคำสอนหลวงปู่อ่อนสาที่บอกคุณลุงนกกับเหตุการณ์ทำนองนี้ว่า "มึงจะไปอิจฉาทำไมกับฝูงเปรต" และคำสอนหลวงตาที่บอกช่างชิตว่า "คนเข้าวัดใช่ว่าจะดีทุกคนนะออย". ก็มาเล่าสู่กันฟังครับ ใครเจอคนประเภทนี้ก็ให้คิดถึงคำสอนของหลวงปู่หลวงตาก็แล้วกันจะได้ไม่ต้องไปสนใจให้ใจขุ่นหมอง
.
....หลังจากออกจากศาลาก็ขึ้นไปรอถวายของหลวงปู่ที่บนถ้ำ ช่างชิตเห็นหลวงปู่แจกอมยิ้มเด็ก เราก็อยากได้แต่จะขอก็กลัวโดนด่า 5555++ พอคนถวายของหมดหลวงปู่ท่านก็สอนขึ้นมาว่า "คนถ้าไม่มีศีล5มันก็เหมือนสัตว์ เผลอๆเลวยิ่งกว่าสัตว์เสียอีก" ฟังแล้วก็คิดตาม มันก็จริงตามท่านว่านะ
.
....แล้วก็มีแม่ชีคนหนึ่งกราบเรียนท่านว่า "ขอบารมีหลวงปู่คุ้มครองลูกนะเจ้าค่ะ" หลวงปู่ท่านก็ตอบ "บารมีก็สร้างเอาตั้ว ของใครของมัน สร้างแทนกันมาขอกันไม่ได้เด้อ" ท่านว่าแล้วก็หัวเราะและบอกให้แยกย้ายกันกลับ
.
....อยู่ตั้งนาน อยู่ดีๆหนังจะเลิกเสียแล้ว ช่างชิตมีความในใจที่เก็บไว้นานแต่ไม่กล้าพูด เพราะกลัวท่านจะว่าเอา แต่ก็ขอลองซักครั้งเถอะก่อนจาก อยู่ดีๆจังหวะนั้นก็พูดออกมา "หลวงปู่ครับขอโอกาสกราบที่เท้าหลวงปู่เนื่องในวันเกิดด้วยนะครับ" ว่าแล้วก็ก้มกราบที่ฝ่าเท้าท่าน
.
....ท่านก็พูดพร้อมยิ้มว่า "รู้จักอยู่หราวันเกิด รู้จักด้วยหราวันเกิดตัวเอง" ใจตอนนั้นปิติมาก มือสัมผัสเท้า หน้าผากแตะหลังเท้าท่าน ในใจก็อธิฐานว่า "ขอบารมีหลวงปู่แผ่เมตตาช่วยลูกหลานด้วยนะครับ".
.
....ขนลุก น้ำตาจะไหล เดินลงถ้ำมายังปิติดีใจพูดไม่ออก ช่างชิตรู้จักหลวงปู่จันทร์เรียนเพราะหลวงตาพูดถึงเสมอ หลวงตานับถือท่านมาก หลวงตาเคยบอกช่างชิต "หลวงปู่จันทร์เรียน พลังจิตท่านสูงมาก ท่านเพ่งหินภูเขาให้ระเบิดได้เลยนะ"
"ครั้งหนึ่งหลวงปู่ท่านไปตรวจเจอเนื้องอก ท่านก็ใช้จิตท่านเพ่งจนเนื้องอกฝ่อไปเอง ไปตรวจอีกก็ไม่มี" และอีกหลายๆเรื่องเล่าไม่จบ
.
....ครับ ก็นำเรื่องราวเก็บตกในหลายๆอารมณ์มาแชร์กับพี่น้องทุกท่าน เขียนมายาวมากละ เดี้ยวตอนต่อไปจะมาเขียนถึง "หลวงตาสมเกียรติ ชิตมาโร" วัดป่าถ้ำผาเทพนิมิตร. ต้องบอกว่าน่าสนใจมากๆ. คืนนี้ราตรีสวัสดิ์ครับ
.
#ขอบคุณภาพหลวงปู่จากเนต

 

......สวัสดีครับ พี่ๆน้องๆทุกท่าน หายหน้าหายตาไปหลายวันชีวิตวุ่นวายมาก ทำไมวุ่นขนาดนี้ นึกถึงตอนบวชแล้วจิตใจสงบดีจริงๆไม่ต้องมาปวดหัวกับมนุษย์มนา ไปอยุ่กับผีที่วัดสบายใจกว่า 5555++
.
....วันนี้ก็มีเรื่องมาแจ้งและเล่าสู่กันฟังหน่อยนะครับ ตอนนี้หลวงตากลับจากอินเดียแล้ว ใครอยากไปกราบท่านก็ลองสอบถามดูเช็คกิจนิมนต์ท่านดีๆจะได้ไม่พลาดนะครับ
.
.....ครับ มาต่อกันกับเรื่องราวดีๆ จากตอนที่แล้วที่ว่าจะมาเขียนถึงเรื่องราวของหลวงตาสมเกียรติ ชิตมาโร ครูบาอาจารย์ที่น่ากราบสักการะอีกองค์ในยุคนี้ แต่พอดีมีเหตุ "อัศจรรย์ใจ" เรื่องหนึ่งเกิดขึ้นมาแบบกระทันหันจึงต้องขอมาเขียนเรื่องนี้ก่อน เรื่องเป็นดังนี้
.
....พี่ Jhumpot Soleil พี่ชายใจดีของช่างชิตอีกท่าน ได้มอบเหรียญปัญญาอิทธิฤทธิ์กับเพื่อนไปให้ไปนานแล้ว สภาพเหรียญบรรจุในซองพลาสติกอย่างดี ไม่มีรูรั่ว จนเมื่อ3-4วันที่ผ่านมา เพื่อนคนที่ได้รับเหรียญได้ส่งรูปมาให้แกดูพร้อมบอกว่า "ไม่รู้มีเกร็ดอะไรใสๆขาวๆเกิดขึ้นบนเหรียญ" เพื่อนพี่แกจึงทำการเคาะเกร็ดใส่พระอบ(ตามภาพ)เอาไว้ ก็เป็นที่ฉงนใจเป็นอย่างมากว่า "สิ่งนั้นคืออะไร??"
.
.....เมื่อพี่ชายใจดีมาเล่าให้ช่างชิตฟังพร้อมส่งรูปให้ดูก็ทำให้ช่างชิตประหลาดใจไม่ใช่น้อย และช่างชิตเองก็มองแบบวิทยาศาสตร์นะ พยายามหาเหตุผลมาประกอบ
.
.....ถ้าจะบอกว่าเป็น Oxide ของโลหะพวกทองแดง ก็ไม่น่าจะมีลักษณะสีสันแบบนี้ (มันต้องเป็นสีเขียวๆสิ) หรือจะบอกว่าเกิดจากความชื่นก็ดูสภาพเหรียญสิครับ ที่สำคัญเหรียญอยู่ในซองแบบนั้นจะไปเอาความชื่นจากไหน ถ้ามีความชื่นจริงๆ สภาพเหรียญไม่ได้เป็นแบบนี้แน่(ไม่ได้ล้างเหรียญนะ)
.
....ก็เลยถามพี่ชายไปว่าลักษณะมันเป็นยังไง พี่ชายใจดีจึงส่งรูปพระดูกอัฐิธาตุของพ่อแม่ครูบาอาจารย์มาให้ดู แล้วบอกว่า "ลักษณะจะเหมือนเศษอัฐิธาตุที่ร่วงจากชิ้นใหญ่ๆ จะเป็นผงเล็กๆลักษณะเดียวแบบเดียวกับที่เกิดขึ้นบนเหรียญ!!!!!"
.
....ก็นั้นละครับคุณผู้ชม เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจและยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนสำหรับเรื่องนี้ ช่างชิตก็เอามาเขียนให้พี่ๆน้องๆได้อ่านกัน เอาเป็นว่าจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม อ่านให้สบายใจไม่ต้องไปเครียด อย่างน้อยที่สุดเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องจริง บุคคลที่ถ่ายทอดก็มีความน่าเชื่อถือสูง พี่ๆน้องๆพิจารณาเอาเองนะครับ
.
...แต่สำหรับช่างชิตเหรียญปัญญาอิทธิฤทธิ์ ตั้งแต่ได้รับมอบจากหลวงตา ช่างชิตก็ไม่เคยให้ห่างคอเลย การันตีว่าเหรียญรุ่นนี้"เจตนาดีเป็นที่ตั้ง" องค์ประกอบอื่นๆก็สมบูรณ์แบบใครอารธนาติดตัว
"ไม่มีทางหนักคอเปล่าแน่นอนครับ"

#ขอบคุณภาพหลวงตาจากอินเดียของพี่ชายต้นเรื่องด้วยครับ

 

....สวัสดีพี่ๆน้องๆทุกท่านในวันเด็กแห่งชาติครับ วันเด็กปีนี้ ก็อยากบอกหนูๆน้องๆว่า "โตขึ้นอยากสบายอย่าเรียน วิศวะโยธา" งานมันลำบากรายได้ก็ไม่สมกับความรับผิดชอบ เอา!!!... เดี้ยวจะว่าช่างชิตมีแต่บ่น เข้าเรื่องดีกว่า วันนี้ช่างชิตมีประสบการณ์สดๆร้อนๆอีกเรื่องมาเล่าสู่พี่ๆน้องๆฟังครับ เรื่องมีอยู่ว่า
.
....พี่สาวที่ช่างชิตรู้จักได้โทรมาเล่าให้ช่างชิตฟังครับถึงเรื่องน่ายินดีปนอัศจรรย์ใจ หลายอาทิตย์ก่อนพี่แกฝันถึงเพื่อนที่รู้จักกันคนหนึ่ง ในฝันเพื่อนคนนี้นอนอยู่บนพื้นแบบหมดอาลัยตายอยากมีปลอกแขนสีดำที่ข้อมือขวาสภาพเหมือนกับศพก็ไม่ปาน และข้างๆก็มีพระที่สวดให้อยู่9รูป และหนึ่งในนั้นนั่งเป็นองค์ประธานก็คือ ....หลวงตา
.
....ในฝันพี่เขาเห็นหลวงตาสวดให้เพื่อนที่นอนอยู่ แล้วซักพักหลวงตาก็เดินมารูดปลอดแขนสีดำที่ติดอยู่กับข้อมือของเพื่อนออก หลังจากนั้นพี่เขาก็สะดุ้งตื่น ดูนาฬิกาก็ประมาณ ตี5 ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนมาก พี่แกเลยรีบส่งข้อความทางไลน์ไปหาบอกว่าฝันประมาณนี้นะ เผื่อเป็นอะไรหรือเปล่า
.
....รุ่งเช้าเพื่อนก็ได้โทรกลับมา แล้วบอกพี่แกว่า "ฝันแม่นมาก ช่วงนี้ทุกข์เหลือเกิน งานก็โดนโกง โดนฟ้องร้อง ไม่มีเงินจ่ายคนงาน30กว่าคน จนคิดอยากจะฆ่าตัวตาย" ได้ยินดั่งนั้นพี่แก่ก็รีบปลอบใจเพื่อนและบอกว่า ใจเย็นๆ ในฝันเห็นหลวงตาสวดมนต์กับช่วยรูดปลอกแขนสีดำออกให้อยู่ เดี้ยวจะสอบถามท่านให้นะ เผื่อจะมีทางออก
.
....พอมีโอกาส พี่แกก็รีบกราบเรียนหลวงตาเรื่องนี้ทันที หลวงตาก็เมตตาตอบว่า "ให้หยุดคิดถึงอดีตที่โดนโกงที่โดนฟ้อง และให้เลิกคิดถึงเรื่องอนาคตว่าจะมีเงินมาจ่ายหนี้จ่ายสิ้นไหม ให้สติระลึกอยู่กับปัจจุบัน หมั่นสวดมนต์ไหว้พระ ให้ท่องพุทโธในใจให้มีสติสมาธิ มันเป็นวิบากกรรมต้องเผชิญอยู่ ต้องรับมือให้ดี ถ้าทำแบบหลวงตาว่าไม่นานจะดีขึ้น ให้ทำแบบนี้นะไปบอกเพื่อน"
.
.....พี่สาวของช่างชิตได้ฟังคำตอบชี้ทางสว่างจากครูบาอาจารย์ เสมือนรถที่กำลังจะตกหน้าผา จังหวะที่รถล่วงใจสลาย ก็มีซุปเปร์ฮีโร่อย่าง The Hulk กระโดดมาคว้ารถแล้วเอากลับมาวางบนพื้นก็ไม่ปาน แกจึงรีบโทรไปบอกเพื่อน อย่างละเอียดพร้อมกำชับว่า หลวงตาท่านบอกไว้ให้ทำตามนะอย่าลืม หลังจากนั้น.............
.
....เวลาก็ผ่านไป 2-3 อาทิตย์ เพื่อนพี่สาวก็โทรกลับมาหาแกด้วยความดีใจ ใจความที่พูดคุยประมาณ "ตอนนี้หลวงตาอยู่ที่ไหน อยากไปกราบหลวงตามาก" พี่สาวก็ถามว่าทำไมหรา เพื่อนก็ตอบว่า หลังจากที่ได้รับคำแนะนำไปก็เอาไปปฏิบัติตามอย่างจริงๆจังๆ หลังจากนั้นไม่นานก็มีออเดออร์เข้ายอดรวมเกือบ 3,000,000!!!!!!... ปัญหาต่างๆก็ค่อยๆแก้ไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ เลยอยากไปกราบหลวงตาท่านมากตอนนี้ พี่สาวก็ดีใจกับเพื่อนและได้นัดหมายกันจะไปกราบหลวงตา
.
.....ครับ พี่ๆน้องๆทุกท่าน อย่างที่ช่างชิตพูดไว้เสมอ 14 ปีที่เป็นลูกศิษย์บวชกับหลวงตาและอุปัฐฏากหลวงตามา ถ้าหลวงตาไม่ใช่"ของจริง" ช่างชิตโดนออกมานานแล้วละครับ เพราะความลับไม่มีในโลกและถ้าเข้านอกออกในได้แบบช่างชิต เรื่องใต้พรมยังไงก็ต้องได้เจอ ไม่งั้นก็ต้องได้กลิ่น เซ้นส์วิศวกร เชื่อยาก คิดมาก ต้องพิสูจน์ยังไงก็ต้องมีมา "แทงใจ"
.
....แต่กับหลวงตาที่สัมผัสมา"ไม่มี" แม้จะมีบางเรื่องที่มีคนพยายามใส่ไข่ขยายความให้มันเป็นเรื่อง ช่างชิตก็หาข้อมูลและได้ค้นหาความจริงจนเป็นที่ประจักษ์ ก็ไม่เห็นจะเป็นตามที่ใครมาพูดมาใส่ความ นอกจากความ "ไม่ชอบส่วนตัว" และ "อคติล้วนๆ"(ธรรมดาโลกมนุษย์ พระพุทธเจ้ายังมีคนไม่ชอบตำหนินินทาท่าน)
.
....ฉะนั้นที่อยากจะสื่อก็คือว่า หลวงตาท่านเป็นครูบาอาจารย์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจริงๆ ช่วงที่เร่งภาวนาเพื่อให้รู้แจ้ง ท่านก็ทำจนสุดทาง ธรรมวินัยก็ถืออย่างเคร่งครัด ทุกอย่าง Everything ล้วนยึดตามหลักพระพุทธเจ้าและพ่อแม่ครูบาอาจารย์มาโดยตลอด จนปัจจุบันท่านก็โปรดเมตตาญาติโยมตาม"จริตและนิสัยวาสนาเดิม" ในแบบที่ท่านเป็น เหมือนพ่อแม่ครูบาอาจารย์รูปอื่นๆที่เมตตาญาติโยมแต่ต่างก็ตามจริตและนิสัยของแต่ละองค์ ก็จะแสดงออกไม่เหมือนกัน
.
....ผลจากการที่หลวงตาบำเพ็ญสร้างบารมีมาขนาดนี้ ใครมีวาสนาเกี่ยวข้องกับท่าน "ไม่ว่าจะชาติไหนๆ" ท่านก็เป็นที่พึ่งให้พวกเราได้แน่นอนครับ เช่น เพื่อนของพี่สาว ที่แม้จะไม่ได้รู้จักมักคุ้นกับหลวงตา(เคยกราบไกลๆครั้งเดียว) ไม่ได้มากราบบ่อยๆหรือมาทำบุญด้วยบ่อยๆ
.
.....แต่เมื่อได้รับวิบากกรรมที่ติดตามมา ในเวลาที่สิ้นหวัง แม้ชีวิตก็ไม่อยากจะมี หลวงตาก็ยังเมตตามาชี้ทางสว่างให้ สมกับในฝันที่ท่านปลดปลอกแขนสีดำอันเปรียบเสมือนวิบากกรรมจากเพื่อนพี่สาวไม่มีผิด
.
.....ราตรีสวัสดิ์ครับ
.
...******* อ๋อ ลืมบอกไป ล่าสุด เพื่อนพี่สาวรับออเดอร์อีก 4,000,000 ครับ อิจฉาเด้ ถ้าคนต้นเรื่องมาอ่าน ยังไงช่างชิตก็ยินดีด้วยนะครับ

....#ในภาพหลวงตาเมตตาเคาะหัวให้วิศวกรที่ไปทำงานต่างแดนนับ10ปี

 

.....ปฐมบทวันครู....
10 ปีก่อนเข้าใจว่าหลวงตาเป็นพระที่ดีเป็นพระที่เคร่งครัด แต่ไม่รู้ว่าหลวงตา "ขลัง" หรือ "มีอิทธิฤทธิ์" หรือเปล่า???
.
.....แต่หลังจากปี 56 ขลังไม่ขลังไม่รู้?? อิทธิฤทธิ์จะมีไม่มีไม่รู้?? รู้อย่างเดียวว่า
...........พระอย่างหลวงตา!!!!!
..................ครูบาอาจารย์แบบหลวงตา!!!!
.
...นับเป็นบุญวาสนาของช่างชิตแล้วครับที่ท่านดุด่าพร่ำสอนมาเสมอ หลายคนบอกว่า อยู่กับพ่อแม่ครูบาอาจารย์ระดับนี้ บาปก็บาปมาก บุญก็บุญมาก ช่างชิตก็คงว่าจริง ส่วนตัว ถ้าจะมีบาปที่เกิดขึ้นกับการที่อยู่ใกล้ชิดท่านก็ "บาปแบบไม่รู้ไม่ได้ตั้งใจ" ถ้าจะตกนรกก็จะบอกยมฑูตเองครับว่า "ไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น ถ้ารู้คงไม่ทำ"
.
....แต่ยังไงเสียก็ สุดแสนจะภาคภูมิใจที่ชาตินี้ได้เป็นศิษย์มีครูบาอาจารย์และมีหลวงตาเป็น "บรมครู" เพราะช่างชิตมั่นใจเกิน 100,000,000% ว่า "ชาติหน้าช่างชิตจะไม่ได้เจอกับหลวงตาอีกแล้ว" (เขียนๆไปเศร้าอะ)T.T
.
#ขอบคุณภาพหลวงตาจากพี่ชายใจดี
#ขอบคุณภาพเกศาจากแอดฌาน

 

.....ติดคดี??....
.
....สวัสดีครับพี่ๆน้องๆ ห่างหายไปนานกับช่วง "ช่างชิตกราบถาม หลวงตาเมตตาตอบ" (ชื่ออย่างกับรายการข่าวการเมืองเนาะ 55555) ช่างชิตมีเรื่องที่มีความสงสัยมานานแล้วในเรื่อง "คนมีคดีแล้วมาบวชจะสามารถบวชได้ไหม???" ช่วงวันงานหลวงปู่ ช่างชิตอุปัฐฏากหลวงตามีโอกาสได้กราบเรียนถามหลวงตาเรื่องนี้ว่า
.
ชช "หลวงตาครับ คนที่มีคดีสามารถบวชได้ไหมครับ?"
.
ลต "ถ้าโดนตัดสินให้ต้องรับโทษแล้วก็บวชไม่ได้" (คดีร้ายแรง คดีอาญา ถ้ารับโทษเรียบร้อยแล้วไม่มีพันทะก็บวชได้)
.
ชช "อ้าว แล้วทำไมองคุลิมาลบวชได้อะครับ ฆ่าคนมีความผิดขนาดนั้น"
.
ลต "มีวาสนาเก่าไง พระพุทธเจ้าท่านเล็งเห็นด้วยญาณแล้วว่า ยังมีเชื้ออยู่ ท่านถึงไปโปรด ไปช่วย และก่อนจะให้องคุลิมาลบวช ท่านก็ไปคุยกับเจ้าเมืองแล้ว ว่าจะให้องคุลิมาลไปบวชนะ"
.
ชช "แสดงว่าคนที่มีความผิดแต่ยังมีวาสนามาทางนี้อยู่ ก็บวชได้ใช่ไหมครับ"
.
ลต "มีลูกศิษย์พระโมคัลลานะองค์หนึ่ง สมัยบวชอยู่กับพระโมคัลลานะ ก็ฝึกสมาธิจนได้ฌาน ได้อภิญญา แต่เพราะมีบุพกรรมเก่า วันหนึ่งก็สึกออกมาแล้วไปเป็นโจร เป็นโจรก็ลืมหมดสมาธิฌานหายหมดเสื่อมหมด เป็นโจรได้ไม่นานก็โดนจับได้ วันที่เขาจะประหารเอาท่านไปผูกไว้กับหลัก พระโมคัลลานะเห็นด้วยญาณว่า ลูกศิษย์ของท่านคนนี้ยังมีวาสนาทางธรรมอยู่ ท่านก็เหาะไปหาลูกศิษย์ ไปบอกให้ระลึกถึงการปฏิบัติสมัยที่บวช แล้วท่านก็เหาะจากไป"
"ลูกศิษย์ท่านเมื่อได้ฟังแบบนั้นก็นึกถึงตอนตัวเองบวช นึกถึงตอนปฏิบัติ เท่านั้นละ ฌานก็เกิดฤทธิ์ก็กลับมา ท่านก็ปลดโซ่แล้วเหาะตามพระโมคัลลานะไป ก็ไปบวชอีกรอบ สุดท้ายก็สำเร็จอรหันต์ นี้ละที่บอกว่า ยังมีเชื้ออยู่ยังมีวาสนาอยู่ ท่านเล็งเห็นแล้วก็ให้บวชได้"
.
ชช "อ่อ ครับ หลวงตา"
.
......ครับ ใครที่สงสัยในข้อนี้ ใครที่ยังคิดสับสนอยู่ ก็ลองเอาเรื่องนี้ไปพิจารณาด้วยก็คงจะเป็นประโยชน์ไม่น้อย ใครคิดว่าไม่ได้ประโยชน์ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ก็ไม่ต้องคิดอะไรมากครับ คิดซะว่านั่งอ่านนิทานอิงศาสนาเพื่อผ่อนคลายเท่านั้นก็พอ คืนนี้่ง่วงละ ราตรีสวัสดิ์ครับ

#ภาพสวยๆจากพี่ Jhumpot Soleil ครัช

 

....วันที่ลาสิกขาในการบวชรอบที่ 2 ช่างชิตคลานเข้าไปหาหลวงตาพร้อม ขัน 5 แล้วกราบขอขมาท่าน เพราะตอนนั้น "ผ้าเหลืองร้อน" อยากสึกกะทันหัน เลยขอท่านสึกแบบเร่งด่วน (คนมันบุญในผ้าเหลืองหมดครับ) ท่านก็เอ่ยมาคำ กินใจจนถึงทุกวันนี้
"ตอนทุกข์ใจก็อยากบวช พอบวชให้แล้ว อยากสึกก็จะไปเลยเนาะ"
นึกแล้ว โอ้ย เจ็บใจตัวเองคนอะไรจะแมนกาก 5555++(คนอะไรไม่ได้เรื่อง แปลซับ)
.
....ตอนขอขมาหลวงตาแล้วเสร็จ หลวงตาก็มอบ "....(หาอ่านในบทความแรกๆนะครับ)...." หลวงตากำลังจะมอบให้ หลวงตาก็เอ่ยมาว่า "ต้องมีอะไรมาแลกกัน" ช่างชิตก็ถามว่าหลวงตาจะเอาอะไร ท่านก็บอกว่า
.
ลต "ศีลมี5ข้อถ้าจะถือไม่ได้(คิดดูละกันว่าก่อนบวช จะ..เ..ี้ยขนาดไหน55555)หลวงตาขอแค่2ข้อนะ"
.
ชช "ข้อไหนครับหลวงตา"
.
ลต "อย่ากินเหล้ากับอย่าไปหาเล่นเมียคนอื่น!!!!!!"
.
ได้ฟังก็สตั้นไป 3 วิ หลวงตามาห้าม เซเลปหนุ่มเจ้าสังคมคนหน้าตาดีแบบนี้ แล้วเราจะดำรงชีวิตยังไง 55555 เขียนขำๆนะครับ มาเข้าเรื่องดีกว่า จริงๆ คือ ช่างชิตฉงนและสงสัยตั้งหาก?? จึงถามหลวงตากลับไปว่า
.
ชช "ทำไมต้องเป็น 2 ข้อนี้ละครับ????
.
ลต "คนเราจะทำบาปส่วนมากก็เพราะขาดสติหรือมีสติน้อย กินเหล้ามันทำให้ขาดสติ เมื่อขาดสติไม่มีสติ ศีลอีก4ข้อก็ขาดได้หมด"
"แล้วอย่าไปผิดลูกผิดเมียคนอื่นจำไว้ ของๆใครใครก็รักไปแย่งไปพรากเขามาก็สร้างความเสียอกเสียใจ โกรธแค้นความพยาบาทไม่รู้จบสิ้น"
.
.....ครับ นั้นคือ สิ่งที่หลวงตาขอช่างชิตในวันนั้น ช่างชิตก็รับปากท่านไป ขอเลิกเหล้าก็บอกแค่ว่าจะงดช่วงเข้าพรรษา แต่นับจากวันนั้นจนวันนี้ก็ 4 ปี แล้วครับที่ไม่กินอีกเลย(เพื่อนๆก็พากันงึด ช่างชิตก็งึดตัวเองเหมือนกัน) ....ส่วนข้อเล่นชู้ผิดลูกผิดเมียก็รับปากว่าจะไม่ทำ และก็ไม่เคยทำ ถ้าชอบใคร เขาบอกว่ามีแฟนแล้วหรือรู้ว่าเขามีแฟน ช่างชิตจะถอยทันที
.
...จริงๆวันนี้อยากเน้น "ศีลข้อกาเม" ทำไม หลวงตาถึงกำชับช่างชิตนักช่างชิตหนา ถ้าจะพอทบทวนความจำในสมองน้อยๆ ครั้งหนึ่งหลวงตาเคยสอนช่างชิต เอาที่จับใจความได้นะ ท่านว่า
.
"ศีลข้อ3สำคัญมาก หลวงตาจะเล่าให้ฟัง มีเถ้าแก่ไร่อ้อย(ขอสงวนชื่อ)...ไปหาเล่นลูกเล่นเมียเค้า แรกๆก็ดี แต่พอหมดบุญเก่า กรรมมันเข้าซัดก็ล้มละลาย ทำอะไรก็ไม่ขึ้นทุกอย่างแย่หมด อย่าไปหาทำเด้อ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ"
.
"มีเมียฝรั่งทำอะไรก็ไม่ขึ้นมีแต่ปัญหา เพราะเล่นชู้เล่นบ่าว ผัวอยู่เมืองนอกให้เงินมาเท่าไรก็ไม่เหลือ(เป็นสิบๆล้านนะถ้าจำไม่ผิด) ติดหนี้ติดสิน สุดท้ายก็เลิกลากันไป ชีวิตก็ตกระกำลำบากไม่เหมือนตอนอยู่กับผัวฝรั่ง นี้ละจำไว้"
.
....พอดีนั่งดูข่าวไปเพลินๆ เห็นข่าวฟ้องร้องเรื่องชู้สาวของ...........แล้วมันบั่นทอนจิตใจ ไม่น่าเชื่อเลย เฮ้ออออออ ดูแล้วก็ปลง ดูแล้วก็เป็นธรรมมะสอนตัวเอง ก็เลยนึกถึงคำสอน หลวงตา เลยมาแชร์ให้พี่ๆน้องๆได้อ่านกันครับ

 

...สวัสดีครับพี่ๆน้องๆทุกท่าน วันนี้ช่างชิตนำบทความของคุณฌานกรในกลุ่มเฟสมาฝากครับ เป็นไงลองอ่านกันดู
.
@@## ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา หลายๆ ท่านอาจจะได้ข่าวอาการอาพาธของหลวงปู่สรวง ที่มีการทรุดหนักไปช่วงหนึ่งนะครับ ในวันที่ 16 ม.ค. ซึ่งเป็นวันครูที่ผ่าน แอ๊ดฌาน...ก็ได้มีโอกาสไปกราบองค์หลวงตาที่บ้านพี่ชายลูกศิษย์อุปัฏฐากหลวงตา ก็เลยได้มีโอกาสสอบถามอาการของหลวงปู่ด้วยเพราะว่าหลวงตาท่านก็ไปเยี่ยมหลวงปู่สรวงด้วย หลวงตาเล่าว่าวันนั้นท่านไปกิจนิมนต์นอกวัด พอกลับมาถึงวัด ได้รับโทรศัพท์จากพระอาจารย์ที่ดูแลหลวงปู่สรวง แจ้งว่า ลป.ท่านอาการหนักแล้วไม่ฉันอะไรเลยนอนนิ่งไม่พูดไม่คุยกับใครเลย ด้วยความเป็นห่วงครูบาอาจารย์ ทั้งที่หลวงตาท่านเหนื่อยมาก (เนื่องจากติดกิจนิมนต์ตลอด) แต่ท่านก็ต้องไปท่านจึงบอกให้พี่อ๊อดคนขับรถรีบขับไปที่วัดป่าศรีฐานใน จ.ยโสธร เพื่อดูอาการหลวงปู่สรวง

หลวงตาเล่าว่าไปถึงวัดญาติโยมมาเต็มวัดเลย ท่านก็นึกว่าหลวงปู่ท่านละสังขารแล้ว เห็นว่าผู้นำหมู่บ้านดันไปประกาศว่าหลวงปู่ท่านละแล้ว คนก็เลยทยอยเข้ามาที่วัดพร้อมกับดอกไม้พวงมาลัยกันเต็มวัดไปหมด หลวงตาเลยขึ้นไปบนศาลาเห็นพระลูกศิษย์นั่งอยู่เต็มรอบเตียงหลวงปู่ท่านก็เลยเข้าไปกราบ หลวงตาเลยเข้าไปกราบที่เท้าหลวงปู่สรวง แล้วอธิษฐาน (อธิษฐานอะไรไม่ทราบนะครับ) ปรากฏว่าหลวงปู่สรวงท่านขยับเท้าเหมือนรู้สึกตัว แล้วหลวงตาท่านก็ไปจับดูที่ตัวที่แขนหลวงปู่ หลวงตาท่านว่าหลวงปู่ตัวร้อนมาก ท่านคิดว่าหลวงปู่น่าจะมีไข้สูงแน่ๆ ด้วยความที่ท่านเคยอุปัฏฐากหลวงปู่บุญจันทร์และอยู่กับหลวงปู่บุญจันทร์มาตลอด ท่านก็จะรู้วิธีการดูแลและปฏิบัติต่อครูบาอาจารย์เป็นอย่างดี ด้วยความห่วงใยในครูบาอาจารย์และความละเอียดอ่อนของหลวงตา ท่านจึงให้ลูกศิษย์พระไปหากะละมังใส่น้ำและเอาผ้ามาเช็ดตัวหลวงปู่ โดยให้แยกเป็น 3 ใบ ใบที่ 1 ให้เช็คส่วนบน ใบที่ 2 เช็ดส่วนกลาง และใบที่ 3 ให้เช็ดส่วนล่าง เพราะท่านละเอียดอ่อนในเรื่องการดูแลครูบาอาจารย์มาก แต่ด้วยจังหวะนั้นเร่งรีบต่างคนต่างหาไม่ได้ก็เลยได้ถังมาแค่ใบเดียวพร้อมกับผ้า หลวงตาท่านก็บอกว่าไม่เป็นไรให้รีบเช็คตัวหลวงปู่ให้ไข้ลงเร็ว พระลูกศิษย์ก็ช่วยกันเช็ดตัวกันจนตัวหลวงปู่เย็นลง จนไม่มีไข้ หลังจากนั้นสักพักหลวงปู่ท่านก็ขยับตัวได้และเหมือนมีเสียงพูดขึ้นมา หลวงตาท่านก็เริ่มเบาใจ ก็เลยให้หมอที่อยู่ด้วยตรวจวัดความดัน และหัวใจหลวงปู่ หมอบอกว่าปกติแล้ว หลวงตาท่านเลยบอกว่าถ้าหมอบอกปกติแบบนี้ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว และในวันนั้นหลวงปู่อุ่นหล้า วัดป่าแก้วชุมพล ท่านก็มา หลวงตาก็เลยกราบเรียนอาการหลวงปู่สรวงให้หลวงปู่ฟัง และจะขอตัวกลับก่อนเพราะว่าอาการหลวงปู่สรวงดีขึ้นแล้ว หลวงตาท่านเห็นว่าญาติโยมเตรียมดอกไม้พวงมาลัยกันมาแล้ว ก็เลยกราบขอโอกาสให้หลวงปู่อุ่นหล้า พาญาติโยมกราบขอขมาต่อหลวงปู่สรวงด้วย เพื่อให้ทุกคนสบายใจด้วย

พอหลังจากวันนั้นหลวงปู่สรวงท่านก็อาการดีขึ้น และท่านก็อยากไปกราบหลวงปู่ใหญ่ ที่วัดโพธิสมภรณ์ ด้วยความเป็นห่วงสุขภาพของหลวงปู่ พระอาจารย์ที่ดูแลก็ได้โทรศัพท์มากราบเรียนถึงความประสงค์หลวงปู่ให้หลวงตาท่านฟัง หลวงตาเลยให้ทำตามความประสงค์หลวงปู่ไป พระลูกศิษย์จึงได้จัดหารถเพื่อนำหลวงปู่มากราบสรีระสังขารหลวงปู่ใหญ่ และในตอนบ่ายท่านก็ไปงานพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงปู่บุญมี ฐิตปุญโญ ที่จ.สกลนครต่ออีกงาน

ที่นำเรื่องนี้มาเล่าให้ทุกท่านอ่านก็เพราะอยากให้เห็นว่าครูบาอาจารย์เราท่านมีความเคารพรักต่อครูบาอาจารย์ท่านเป็นอย่างสูง ไม่ว่าท่านจะเหนื่อยล้าแค่ไหนท่านไม่ติดอะไรท่านจะต้องไปดูแล และเป็นขวัญกำลังใจให้กับพระและญาติโยมตลอด และยิ่งข้อวัตรปฏิบัติที่ท่านปฏิบัติต่อครูบาอาจารย์ท่านจะมีความละเอียดอ่อนมาก (ลืมบอกไปว่าคืนนั้นหลวงตากลับมาถึงวัดตี 1 ครับได้พักผ่อนแค่นิดเดียวจริงๆครับ)

 

....จำได้ว่าครั้งหนึ่งหลวงตาสอนช่างชิตว่า สมัยที่หลวงปู่อยู่ เวลามีญาติโยมเข้ามาทำบุญถวายสิ่งของนู้นนั้นนี้เป็นประจำ หลวงปู่ท่านก็เมตตาอบรมสั่งสอนตลอด แต่มีครั้งหนึ่งท่านสอนญาติโยมที่มาว่า
.
...."พากันถวายแต่ของไม่ดี ของดีไม่พากันมาถวาย"
.
....อ่านผ่านๆอาจนึกตำหนิท่านได้ ฉะนั้นอ่านใหม่ แล้วลงไปดูความหมายของประโยคที่กล่าว คือ
.
** พากันถวายแต่สิ่งของภายนอกแต่"หัวใจ"การตั้งใจภาวนาละกิเลสฆ่ากิเลสกับไม่ยอมถวายให้กับพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์
.
....บางทีครูบาอาจารย์ท่านสอนอะไร เหมือนท่านยื่นดอกไม้ให้ แต่ถ้าเราไม่พิจารณาดีๆ อาจตีความหมายผิด เข้าใจว่าท่านยื่นสิ่งที่ไม่ดีให้ เราก็เสียโอกาสเปล่าๆ. ก็เอามาเล่าสู่กันฟังครับ

 

นำเรื่องเล่าดีๆมาฝากพี่ๆน้องๆในพลังจิตครับ
......................................................................................
#ขออนุญาติแอ็ดมินครับ
ดินแดนเมืองสกลนครไม่สิ้นพระอรหันต์
เห็นเกิดเมื่อวันที่9ธันวาคม พ.ศ.2559
ณ.วัดป่ามงคลธรรม
บ้านขุนภูมิ ต.เดื่อศรีคันชัย อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร
คือโยมแม่ของพระอาจารย์รุ่ง พุทธสีโล
ได้เสียชีวิตไปด้วยโรคชราและเป็นที่อัจรรย์คือโยมแม่ของพระอาจารย์รุ่ง พุทธสีโล
อัฐิได้กลายเป็นพระธาตุสีสดใส่ดั่งแก้ว
และล็อกเก็ตที่โยมแม่พระอาจย์รุ่ง พุทธสีโล
ได้ห้อยติดตัวไปกับกองเพลิงปรากฎว่าเผาไม่ไหม้ครับและที่สำคัญพระอาจารย์รุ่งท่านเป็นศิษย์หลวงปู่บุญจันทร์ กมโลและเป็นศิษเอกหลวงตาสมหมายครับ

 

....เขียนเรื่องหลวงตามาทั้งหมดน่าจะเกือบ 100 เรื่อง ถ้าคัดแต่ประโยคเด็ดๆที่หลวงตาสอนช่างชิตมาลงแต่ละประโยคต้องบอกว่า "กินใจเหลือหลาย" เห็นหลายเพจไปเอาคำสอนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์มาทำประกอบกับรูปภาพเอามาลงก็สวยงามดี
.
....ช่างชิตเห็นก็คิด "หลวงตาสอนช่างชิตมามีแต่ธรรมะสุดยอดๆ บ้างลึกซึ้ง บ้างเข้าใจง่าย บ้างคมคาย บ้างกินใจ บ้างจุกอกสตั้นไปก็มี แถมเราก็จดบันทึกไว้เกือบทั้งหมด ทำไมไม่คัดมาทำแบบเขาบ้าง???"
.
.....คิดได้ดังนั้น นับจากวันนี้เป็นต้นไป จะนำภาพคำสอนหลวงตามาลงเรื่อยๆนะครับ 95%เป็นคำสอนที่ไดเร็กกับช่างชิตโดยตรง บางเรื่องไม่ได้สอนในที่สาธารณะ บางเรื่องก็เฉพาะจริงๆ
.
....ช่างชิตจะคัดสรรและนำมาถ่ายทอดให้พี่ๆน้องๆได้อ่านกัน พร้อมบอกที่มาของประโยคคำสอนนั้นๆด้วย แต่ช่างชิตมีฝีมือในการแต่งโปรแกรมภาพระดับ ป.3 ภาพอาจไม่สวยงามเท่าเพจหรือกลุ่มอื่นนะครับ 5555++
.
....ยังไงก็ขอกำลังใจจากพี่ๆน้องๆให้กันไปตลอดนะครับ คืนนี้ฝันดี ราตรีสวัสดิ์ครับ

 

...เรื่องราวดีๆของหลวงตา กิจกรรมดีๆยังมีอีกเยอะนะครับ เดี้ยวว่างๆจะมาเขียนให้อ่าน ช่วงนี้เห่อทำรูปคำสอน 55555++ ทำแล้วก็ได้สติทุกครั้ง กราบหลวงตาครับ