เรื่องเด่น หลวงตาอ๋อยเทพฤทธิ์ย่ามแดง .... พยายมราชองค์ปัจจุบัน

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย ยมราชาโณ, 9 ธันวาคม 2016.

  1. ยมราชาโณ

    ยมราชาโณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    44
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +183
    กระทู้นี้ ...
    ขอนำเสนอประวัติของพ่อแม่ครูบาอาจารย์
    องค์หลวงตาอ๋อยเทพฤทธิ์ย่ามแดง

    a.jpg

    ก่อนหน้านี้หลายคนคงจะสงสัย
    ว่า องค์หลวงตาอ๋อย ท่านคือใคร
    ทำไมเวลาหลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะท่านนำแผ่เมตตา
    มักจะกล่าวถึงพระนามอันเป็นมงคลนี้ทุกครั้ง

    ก่อนหน้านี้เรื่องราวขององค์ท่านมิได้เคยนำมาเปิดเผยแต่ประการใด
    เนื่องจากองค์ท่านทรงห้ามมิให้เผยแพร่เรื่องราวของท่าน
    ในสมัยที่ท่านยังทรงดำรงค์ธาตุขันธ์

    กระทู้นี้ขอนำเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับองค์ท่านมาให้พวกเราทุกคนได้รับรู้
    และได้โมทนากันนะครับ

    กาย วาจา ใจ หากลูกประมาทพลาดพลั้งต่อองค์หลวงตา ลูกกราบขออโหสิกรรม ขอองค์หลวงตาจงอดโทษลูกน้อยผู้ประมาทพลาดพลั้งนี้ด้วยเถิด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3904.JPG
      IMG_3904.JPG
      ขนาดไฟล์:
      80.6 KB
      เปิดดู:
      59,402
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2016
  2. ยมราชาโณ

    ยมราชาโณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    44
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +183
    [​IMG]

    ประวัติองค์หลวงตาย่ามแดง
    จากหนังสือที่ระลึกสมโภชน์มหารัตนเจดีย์ศรีไตรโลก

    พระเดชพระคุณพ่อแม่ครูอาจารย์ หลวงตาย่ามแดง หรือหลวงตาอ๋อยนั้นเป็นชื่อที่ลูกหลาน ศิษยานุศิษย์เรียกถึงท่านด้วยความเคารพเป็นสามัญ ชื่อของหลวงตานั้นปรากฏตามทะเบียนราษฎร์ว่า สวาสดิ์ ศีลอุดมทรัพย์

    ที่ชื่อว่าหลวงตาย่ามแดงนั้นเป็นเพราะหลวงตาท่าน ใช้ย่ามสีแดงอยู่เป็นประจําไม่เคยวางห่างกาย ว่าไป แล้วในช่วงหลังๆนั้นจะเห็นหลวงตาใส่ชุดแดงทั้งชุด พร้อมผ้าคลุมไหล่สีแดงเป็นภาพชินตา ท่านว่าสีแดง นั้นเป็นเครื่องหมายของพวก ”เล่นฤทธ์ิ” รวมไปถึง เหล่าเทวดาในชั้นจาตุมหาราชิกาอันเป็นเทวดาที่มี ฤทธ์ิท้ังหลาย ท้ังสอดคล้องกับสีของธาตุไฟ ซึ่งกสิน ไฟเป็นกองกสินที่หลวงตามีความโปรดปรานในการ ทําฌาณเป็นพิเศษ

    ที่สําคัญท่ีสุด สีแดงน้ันเป็นสีประจําตัวทั้งของ”พญายมราช” พระผู้เป็นอธิบดีในนิรยภูมิ คือภูมินรก กับ ”ท้าวเวสสุวัณ” เจ้าแห่งยักษ์ เจ้าแห่งภูติผีจิต วิญญาณและโชคลาภความมั่งคั่ง ท้ังยังเป็น อธิบดี ในหมู่จตุโลกบาลท้ัง ๔

    พูดถึงพญายมเลยทําให้นึกถึงว่าเคยมีเหตุการณ์ที่มี อาม่าคนจีนท่านหนึ่ง ทํากับข้าวกับปลาจํานวนมาก มาถวายหลวงตาแต่เช้า แกไหว้หลวงตาปะหลกๆ ปากก็เรียกหลวงตาว่า “เหงี่ยมหล่ออ๊วง ๆ”

    [​IMG]


    อาม่าเล่าเป็นภาษาไทยกระท่อนกระแท่นว่า

    คืนก่อนนอนหลับไป ตกดึกรู้สึกเหนื่อยหายใจรวยริน พักหนึ่งรู้สึกลมค่อยๆอ่อนลงๆ จนเหมือนขาดใจไป จิตตนก็ล่องลอยออกจากร่าง อาม่าว่าตนเองได้ท่อง ไปยังสถานที่แปลกประหลาดแห่งหนึ่งมีบรรยากาศ ยะเยือกวังเวง ระหว่างที่ยังรู้สึกงุนงงสับสนอยู่ก็มี เสียงดังก้องขึ้นมาว่า

    “ตอนเป็นมนุษย์เคยทําบุญ อะไรมาบ้างล่ะ”

    อาม่าเลยเงยหน้าขึ้นมองไปทางต้นเสียง ก็ได้เห็นหลวงตากําลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ตัวใหญ่ แวดล้อมด้วยบริวารท่าทางขึงขังน่าเกรงขาม แม้หลวงตาจะมีรูปร่างและเครื่องแต่งตัวสวยงาม ผิดแผกไปจากเดิมมากอาม่าก็ยังจําหลวงตาได้เป็นอย่างดี ความดีใจแกเลยร้องเรียกออกไปสุดเสียงว่า

    “หลวงตาๆ” พร้อมรีบระล่ำระลักพูดต่อว่า “อั๊วก็ เคยเอาข้าวหลามถวายอาหลวงตายังไงล่ะ หลวงตา จําไม่ได้เหรอ”

    อาม่าเล่าต่อว่า หลวงตาบอกให้อาม่า กลับไปที่บ้านก่อน ให้กลับไปบ้านแล้วตั้งอกตั้งใจ ทําบุญทํากุศลเพิ่มเติม และให้เล่าให้ลูกให้หลานฟัง ว่าบุญบาปนั้นมีจริงนรกสวรรค์น้ันมีจริง ให้พากัน ทําความดีให้มากอย่าได้ประมาทมัวเมาทําผิดศีลผิดธรรมกัน หลังจากน้ันอาม่าก็เลยกลับฟื้นข้ึน เช้า วันรุ่งขึ้นแกก็รีบลุกขึ้นมาทํากับข้าวกับปลาสํารับใหญ่มาถวายหลวงตา อาม่าบอกว่าเอามาถวาย “เหงี่ยมหล่ออ๊วง ”
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpeg
      image.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      224.7 KB
      เปิดดู:
      33,339
    • image.png
      image.png
      ขนาดไฟล์:
      5.5 MB
      เปิดดู:
      37,329
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2016
  3. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,047
    ขออนุญาติร่วมถ่ายทอดด้วยนะครับ
    หากเห็นว่าไม่เหมาะสมก็บอกได้
    จะมาลบให้ภายหลังครับ (^_^)
    ส่วนตัวแม้ไม่ทราบประวัติอะไรท่าน
    แต่มาทราบภายหลังจากประสบการณ์ส่วนตัว
    หลังจากที่ท่านสิ้นไปแล้วหลายปี....


    พอจำได้ว่าได้ไปงานวันฝั่งลูกนิมิตรพอดีครับ
    หลวงตาท่านนี้ถ้าด้านสมุนไพรและการใช้
    กำลังจิตในการรักษาโรค ถ้าหากท่านยังอยู่
    เชื่อว่าไม่เป็นสองรองใครในประเทศนี้ครับ

    นี่คือได้ยินมากับหูจากพระอาจารย์จิตไวท่านหนึ่ง
    ที่ วัดป่าที่ขึ้นต้นด้วย ฉ ลงท้ายด้วยษี ที่ จ.ชัยภูมิ
    ที่กุฏิท่านปัจจุบันก็มีรูปถ่ายคู่กันครับ(ชัยภูมินะครับ)
    และก็ได้มีโอกาสไปฝึกต่อยอดกรรมฐานบางอย่าง
    ที่วัดแห่งนี้หน้าพระพุทธรูปองค์สีดำ
    จากการแนะนำจากพระจิตไวที่ ชัยภูมิ
    หลังจากท่านได้แนะนำอะไรไปก่อนหน้านั้นหลายอย่างแล้ว...
    และเชื่อว่าที่สามารถฝึกต่อยอดได้ในครั้งนั้น
    เพราะได้หลวงตาท่านนี้ แนะดลใจให้ขณะที่กำลัง
    พยายามที่จะต่อยอดเชิงเทคนิคในครั้งนั้นครับ


    แต่ที่ส่วนตัวทราบจริงๆ คือการได้พบ พระพุทธรูปองค์สีดำ
    ในนิมิตร ซึ่งเป็น ๑ ใน ๓ องค์ที่มีพระสงฆ์องค์หนึ่ง
    ถือมาให้พระมารดาเลือกตอนที่ข้าพเจ้าจะกำเนิด
    ซึ่งมาทราบภายหลังว่าท่าน คือ องค์ที่อยู่ภายในวัด
    ที่หลวงตาอ๋อย ท่านสร้างนั่นเอง..
    ซึ่งก่อนหน้านั้นส่วนตัวพอทราบแล้ว ๒ องค์ครับ

    แล้วถึงมาทราบว่า หลวงตาอ๋อย ท่านเป็นผู้สร้างวัดแห่งนี้
    ที่ไปวัดครั้งแรกหลังจากที่สร้างเสร็จเรียบร้อย ยังไปถาม
    หาหลวงตาอ๋อยท่านนี้อยู่เลยครับ
    ก็พึ่งมาทราบว่าท่านเสียชีวิตไปนานแล้ว...
    วันที่ไปวัดตอนที่สร้างเสร็จแล้วนั่นหละครับ
    และวันนั้นเหมือนคุยถูกชะตากับท่านเจ้าอาวาส
    ท่านเลยมอบพระพุทธรูปแทนองค์สีดำในวัด
    ไว้ให้ด้วยองค์หนึ่งครับ

    ปล.ประมาณนี้ ขอบคุณสำหรับพื้นที่ตรงนี้ครับ

     
  4. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,654
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,134
    ค่าพลัง:
    +70,504
    เมตตาครูบาอาจารย์ที่ไม่มีประมาณ

    " ถ้าช่วยใครแล้วคุ้ม คือคนที่ข้าช่วยนั้นมีคุณธรรม
    มีคุณค่าต่อสังคมประเทศชาติและต่อพระศาสนา


    .... ข้าก็ยินดีเสียสละเอาบุญบารมีและ ชีวิตของข้าสงเคราะห์ให้ "



    https://www.facebook.com/photo.php?...227.1073741828.100007168483571&type=3&theater



    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 ธันวาคม 2016
  5. ยมราชาโณ

    ยมราชาโณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    44
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +183
    a.3765580.jpg

    วัยหนุ่ม
    จากหนังสือที่ระลึกงานสมโภชน์มหารัตนเจดีย์ศรีไตรโลกธาตุ

    ในยามว่างจากภารกิจ เราจะเห็นหลวงตานั่งพักบน เก้าอี้หนังสีแดงตัวใหญ่ในอิริยาบทผ่อนคลายเป็นภาพชินตา และเป็นช่วงเวลาท่ีพวกเราจะหาโอกาส ล้อมวงนั่งฟังท่านเล่าประสบการณ์ชีวิตในหนหลังให้ฟัง ทําให้เราได้รู้ว่าท่านเกิดมาในตระกูลคหบดีใน จังหวัดขอนแก่น ท่านมีสติปัญญาและปฏิภาณดีเลิศ มาตั้งแต่เล็ก มีนิสัยกล้าหาญเป็นผู้นํา ท่านสนใจ และฝึกฝนวิชาทางจิตมาตั้งแต่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น นับ เป็นส่วนหนึ่งนอกเหนือไปจากวาสนาเดิมของท่านที่ ทําให้ท่านมีความสามารถทางด้านฤทธิ์(ทําฌาณได้แคล่วคล่อง)

    ในเวลาต่อมาช่วงชีวิตในวัยหนุ่มของท่านนั้นโลดโผนเต็มไปด้วยสีสัน ไม่ว่าเรื่องการเป็นส่วนหนึ่งของเหล่าตัวละครท่ีพากันโลดแล่นร่วมโต้อยู่บนคลื่นของกระแสสังคม และการเมืองที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนในบางกอกยุคน้ัน จนทุกวันนี้ ผู้เขียนยังคงเห็นภาพถ่ายขาวดําภาพ หนึ่งในกรอบรูปอย่างดี เป็นภาพของผู้ใหญ่ที่ท่าน เคารพและเล่าถึงความสัมพันธ์แต่หนหลังให้ฟังวางอยู่บนโต๊ะบูชาที่แยกออกมาต่างหากจากโต๊ะหมู่พระขนาดใหญ่ภายในห้องพระของท่าน สิ่งที่ท่านเล่านั้นฉายให้เห็นถึงคุณธรรมเรื่องความกตัญญูของท่านว่ามีความสูงส่งมากมายเพียงใด ทั้งอดนึกถึงกลิ่นไอและสีสันร่วมสมัยในยุคที่ว่านั้น ของท่านไม่ได้ในทุกครั้งที่นึกถึงภาพยนตร์ไทย เรื่อง”๒๔๙๙ ฯ” หรือเรื่อยไปถึงการเป็นผู้นําภาคสังคมในพื้นดินถิ่น เกิดของท่านในช่วงเวลาต่อมาท่านได้เล่าให้ฟังถึง หลากหลายเหตุการณ์ที่ท่านต้องใช้เชาวน์ปัญญา ตลอดจนความสามารถพิเศษต่างๆในการช่วยเหลือ ญาติมิตรบริวารและชุมชนให้รอดพ้นจากความอยุติธรรมต่างๆที่เกิดขึ้นในสังคมยุคนั้น ท่านเล่าถึง ฉายาของท่านที่ผู้คนกล่าวขานถึง และหลากหลายเรื่องราวล้วนเป็นเรื่องแสนสนุกและน่าประทับใจใน ขณะเดียวกัน เสียแต่บังเอิญทั้งหมดเป็นเรื่องที่ถูกจัดเข้าอยู่ในหมวด “โครงกระดูกในตู้” (Skeleton in the closet)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpeg
      image.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      72.7 KB
      เปิดดู:
      5,765
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2016
  6. ยมราชาโณ

    ยมราชาโณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    44
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +183
    a.3765595.jpg

    จิตกลับ
    จากหนังสือที่ระลึกงานสมโภชน์มหารัตนเจดีย์ศรีไตรโลกธาตุ

    เมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ ๔๐ ปี หลวงตาก็หันหลังให้กับ ชีวิตแบบวิถีทางโลกทั่วไป มีมูลเหตุท่ีท่านเล่าให้ฟังว่า...

    มีอยู่วันหน่ึงท่านเห็น “แม่ออก” (ภริยา : ผู้ให้กําเนิดบุตร – ภาษาถิ่นอีสาน) ง่วนอยู่กับการทํางาน ภายในบ้าน ท่านเกิดระลึกถึงความเหนื่อยยากของภรรยาคู่ชีวิตที่คอยปรนนิบัติดูแลตัวท่านมาช้านานไม่เคยขาดตกบกพร่องไม่เคยปริปากบ่นว่า ท่านก็บังเกิดความรู้สึกเมตตาสงสารขึ้นมาจับจิตจับใจโดยกระทันหัน จึงเดินเข้าไปในครัวซึ่งมีหลังคากันแดดกันฝนคุ้มไว้ไม่สูงนัก ตั้งใจจะช่วยหางานอะไรทําเพื่อแบ่งเบาภาระหน้าท่ีแม่บ้านให้ เหลือบเห็นกองจาน ชามที่แช่น้ํายาล้างภาชนะอยู่ในอ่างก็ตัดสินใจหยิบขึ้นมาหมายช่วยล้างให้ มือซ้ายท่านจับเอาจานไว้ ส่วนมือขวาท่านก็ใช้ผ้าเช็ดถูไป ท่านว่าถูจานเป็นรูปวงกลมไปเรื่อยๆทีละใบพร้อมกับกําหนดจิตจดจ่อ อยู่กับอิริยาบทที่กระทําอยู่ไปด้วย

    สักพักหนึ่งจิตท่านก็เกิดรวมลง เกิดเป็นสมาธิใหญ่ได้เองเป็น อัศจรรย์ รู้สึกว่ากายตนเบาหวิวราวกับว่าลอยขึ้นจากพื้นได้ทั้งๆท่ีมือยังล้างจานอยู่อย่างนั้น เหมือนตัวลอยขึ้นลอยลงสลับไปมา เป็นอยู่เช่นน้ีพักหนึ่งก็ กังขาว่าตนเองลอยขึ้นได้จริงหรือว่าเผลอหลับฝันไป ท่านจึงคิดหาอุบายพิสูจน์ให้รู้แน่ชัด คร้ันพอตัวลอยกลับลงมาอีกทีขาหยั่งถึงพื้นได้ก็เลยเอามือกอบฟอง สบู้ไว้รอให้ตัวลอยขึ้นไประยะมือพอเอื้อมถึงขื่อได้ก็เอาฟองสบู่ในมือลูบท่ีขื่อให้เป็นรอยไว้ คร้ังน้ีตั้งใจเพ่งดูก็ประจักษ์เห็นว่าเป็นรอยสบู่เปียกอยู่จริงๆมิได้ฝันไป ท่านว่ารู้สึกแปลกใจอย่างมาก ทําให้จิตพาลถอนออกจากสมาธิอย่างกระทันหัน ปรากฏว่าตัว ท่านตกลงมาพร้อมกับป่ายเอากองจานชามตกหล่นลงพื้นแตกเสียหายหมด แล้วคุณสมบัติการรู้เห็นแปลกๆก็ผุดขึ้นในจิตของ ท่านตามมาอีกหลายประการ......

    หลวงตาเรียกอาการหยั่งรู้ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นว่าเป็น อาการ “จิตกลับ” คือญาณหยั่งรู้เรื่องต่างๆปรากฏ ขึ้นในจิตของท่าน เป็นความสามารถอันเป็นบารมี “ของเก่า”ที่ท่านทําได้มาแล้วในหลายภพชาติก่อนหน้า ได้ “กลับ”มาส่งผลให้ใหม่อีกครั้งในชาติภพนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการหยั่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า การอ่านจิตใจคน การมองเห็นจิตวิญญาณสิ่งลี้ลับต่างๆ ฯลฯ สุดท่ีบุคคลธรรมดาทั่วไปจะเข้าใจหรือกระทํา ได้

    ในช่วงต้นๆท่ีท่าน “จิตกลับ” ท่านว่ามองเห็นเทวดา ผีสางนางไม้ทั้งหลายมาสนทนากับท่านอยู่เกือบตลอดเวลา ทั้งหลับท้ังตื่น แม้จะทดสอบดูถึงเรื่อง ราวและข้อมูลที่ “สนทนา”กับจิตวิญญาณเหล่านั้น ก็พบว่ามีหลักมีฐานมีมูลความจริงอยู่ ท่านก็ยัง สงสัยว่าตนนั้นเกิดวิปลาสไปจนกระทั่งต้องพาตัวเองไปปรึกษากับแพทย์ทางจิตเวชที่โรงพยาบาลใน จังหวัดขอนแก่น

    ท่านว่านายแพทย์ที่เป็นเจ้าของไข้ของท่านนั้น บังเอิญกําลังสะสมตุ๊กตาคริสตัลอยู่ที่บ้านพักนาย แพทย์ซึ่งตั้งอยู่ภายในเขตโรงพยาบาลใกล้กับที่ ทํางานนั่นเอง นายแพทย์นั่นมัวแต่กังวลว่าคริสตัลชุดใหม่ที่เพิ่งจัดเข้าตู้โชว์นั้นมันขาดหายไปบางส่วน นึกไม่ออกว่าวางหลงไว้ที่ไหน รู้สึกอาลัยเกรงว่าจะทําสูญหาย จิตมัวแต่พะวงในเรื่องดังกล่าวจนไม่มีแก่ใจจะใส่ใจว่าที่คนไข้พิเศษที่นั่งรอความชรวยเหลืออยู่ ที่เบื้องหน้าของตน

    “ใส่ใจตรวจรักษาให้ผมหน่อยเถอะหมอ” ท่านเริ่มต่อว่า

    “มัวแต่คิดถึงไอ้คริสตัลของหมออยู่ได้ คริสตัลมันไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไรหรอกหมอ มันก็อยู่ที่หลังตู้เย็นของ มันดีๆนั่นแหละ” ท่านบอกกับคุณหมอด้วยความรู้สึกระอา แล้ววกล่าวต่อว่า

    “ผมต่างหากที่ทุกข์ใจจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว...เห็นแต่ ผีสางเทวดามาพูดมาคุยอยู่ด้วยท้ังวันท้ังคืน”

    คุณหมอที่ว่าชะงัก จ้องมองหน้าว่าที่คนไข้พิเศษ อย่างแปลกใจ

    “รอหมอสักเดี๋ยวนะครับ” สายตาหมอมีแววตา ครุ่นคิด รีบผลุนผลันออกจากห้องตรวจไปสักพัก หนึ่งก็กลับมาที่ห้องตรวจอีกครั้ง

    “คุณน่ะไม่บ้าหรอกครับ” คุณหมอละล่ำละลักบอกกับว่าท่ีคนไข้ทั้งที่อยู่ในอาการหอบ

    “ถ้าคุณเป็นบ้า หมอก็คงเป็นยิ่งกว่าบ้า....บ้า คริสตัล” น้ําเสียงหมอแกมความดีใจ ของรักของ หวงไม่สูญหายไปไหน ซ้ำยังอยู่ในท่ีที่หลวงตาว่าจริง ทั้งสีหน้าและแววตาก็เจือไปด้วยความพิศวงในตัวว่าท่ีคนไข้อย่างเห็นได้ชัด

    “รู้ได้อย่างไรนะ” เสียงคําถามของหมอน้ันดังก้องอยู่ภายในใจ หลวงตาได้แต่ถอนหายใจ..........งานนี้ใครสงเคราะห์ ใครกันแน่!

    บุคลากรทางวิทยาศาสตร์คงไม่สามารถให้คําตอบ อะไรท่านได้เป็นแน่ หลังจากนั้นเป็นต้นมา หลวงตาจึงเทียวไปกราบ ครูบาอาจารย์องค์ต่างๆในภาคอีสานอย่างจริงจัง โดยมากเป็นพระสุปฏิปันโนในสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เพื่อขอความรู้ในเรื่องทางจิต เรื่องการปฏิบัติ กรรมฐาน และยังอุทิศตนเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงช่วยเหลือครูบาอาจารย์ในกิจการต่างๆของวัดเท่าที่จะทําได้ ผู้เขียนเองยังเคยได้ติดตามท่านไปกราบครูบา อาจารย์ในบางครั้ง เช่นครั้งสุดท้ายเฉพาะในส่วนของผู้เขียนคือการได้ไปกราบนมัสการหลวงปู่แนน สุภัทโท วัดซําขามถ้ำยาว จ.ขอนแก่น ยังจําได้ถึงการปฏิสันถาร ความเมตตาที่ท่านทั้งสองได้มอบให้แก่กันเป็นท่ีน่าซาบซึ้งใจ หลังจากนั้นราวปีเศษก็ได้ยินข่าวว่าหลวงปู่แนนได้ละสังขารเสียแล้ว ภายหลังหลวงตาเลยประกาศไม่ไปตามเยี่ยมเยียน ครูบาอาจารย์ที่มีอายุมากๆด้วยตัวเองอีกด้วยเหตุผลพิเศษบางประการ พร้อมสั่งห้ามลูกศิษย์ใกล้ชิดของท่านบางคนไว้ด้วย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpeg
      image.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      82.1 KB
      เปิดดู:
      6,352
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2016
  7. ยมราชาโณ

    ยมราชาโณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    44
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +183
    หลวงตาม้าเมตตาเล่าถึงเรื่องหลวงตาอ๋อย

    http://youtu.be/tY3556YkYMU
     
  8. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,654
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,134
    ค่าพลัง:
    +70,504
    <iframe width="653" height="423" src="https://www.youtube.com/embed/tY3556YkYMU" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  9. meephoo

    meephoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +2,133
    หลวงตาอ๋อย หลังจากท่านละสังขาร พี่ชายผมได้ดทรบอกว่าท่านเป็นพระยายมราชองค์ปัจจุบัน ครับ
    โมทนาสาธุ
     
  10. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    พึ่งทราบประวัติท่าน ถึงว่าตอนไปที่วัดแห่งหนึ่ง ณ.ซุ้มพระยายมราช เห็นมีรูปท่านตั่งอยู่ที่ฐานพระยายม ยังนึกสงสัยว่าใครหนอ??? ขอบคุณที่ทำให้รู้ค่ะ
     
  11. ยมราชาโณ

    ยมราชาโณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    44
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +183
    วันนี้จะขอนำเสนอ สิ่งที่พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านสร้างไว้ให้เป็นสมบัติของพระพุทธศาสนา

    a.3765975.jpg

    a.3765974.jpg

    a.3765973.jpg

    " สวรรค์บนดิน "

    มหารัตนเจดีย์ศรีไตรโลกธาตุ วัดทุ่งเศรษฐี
    จังหวัดขอนแก่น

    มหารัตนเจดีย์ที่ซึ่งพระมหาโพธิสัตว์ สมัญนาม องค์เทพฤทธิ์ย่ามแดง ได้ทรงสร้างขึ้นเพื่อ

    1. สถาปนามหารัตนเจดีย์ฯ ไว้เป็นพุทธบุชา และเป็นที่ระลึกถึงมหาเจดีย์องค์สำคัญสามองค์ในสามโลก คือ เจดีย์จุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ นาคเจดีย์ในนาคพิภพ และมหารัตนเจดีย์ศรีไตรโลกธาตุ (มหาเจดีย์รัตนะ) แห่งนี้ ผู้มาสักการบูชาย่อมเท่ากับได้กราบบูชาเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ 3 แห่ง ในสามโลกพร้อมกัน

    2. เพื่อน้อมเอาบุญเอาคุณความดีแห่งการสร้างมหาเจดีย์ฯ นี้ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และราชวงศ์จักรีที่ท่านเทิดทูนยิ่ง

    3. ให้ลูกหลานศิษย์และประชาชนทั่วไปใช้เป็นนาบุญแห่งการทำกุศลบำเพ็ญคุณความดี

    นับเป็นมหากุศลที่พวกเราได้ไปกราบนมัสการ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_4187.JPG
      IMG_4187.JPG
      ขนาดไฟล์:
      252.6 KB
      เปิดดู:
      5,015
    • IMG_4168.JPG
      IMG_4168.JPG
      ขนาดไฟล์:
      472.8 KB
      เปิดดู:
      4,433
    • IMG_4174.JPG
      IMG_4174.JPG
      ขนาดไฟล์:
      185.3 KB
      เปิดดู:
      4,473
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2016
  12. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,654
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,134
    ค่าพลัง:
    +70,504
    ขออนุญาตท่านเจ้าของกระทู้เล่าเกี่ยวกับท่านบางเรื่องครับ

    หลวงตาม้าท่านให้เกียรติหลวงตาอ๋อยท่านมากครับ
    ถึงกับกล่าวว่า " หลวงตาอ๋อย บารมีเยอะกว่าหลวงตาอีก "....


    ส่วนหลวงตาอ๋อย ท่านก็ให้เกียรติกับหลวงตาม้ามาก
    เคยกล่าวกับหมู่ศิษย์หลวงตาม้าว่า...

    " พวกเอ็งโชคดีที่เป็นศิษย์หลวงตาม้าท่าน
    อย่าให้เจอพวกเอ็งข้างล่างนะ โทษจะหนักกว่าหลายเท่า " ( ประมาณนี้ )

    คล้ายจะเตือนและปราม ประมาณว่า " มีครูอาจารย์ดีแล้ว อย่าทำตัวไม่ดี รู้แล้วยังทำ
    ก็ต้องโดนหนัก "
     
  13. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,560
    หลวงตาฮ้อ ฐิติโก และ หลวงปู่สา วัดป่าสวนมอน ท่านเกี่ยวข้องยังไงกับหลวงตาอ่อยครับ
     
  14. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,047
    a.3767088.jpg

    ขออนุญาต ร่วมแจมด้วยซักภาพในอีกมุมครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3833.JPG
      IMG_3833.JPG
      ขนาดไฟล์:
      96.4 KB
      เปิดดู:
      3,515
  15. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,654
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,134
    ค่าพลัง:
    +70,504
    ทุกครั้งที่กระทำกุศลน้อยใหญ่ แล้วแผ่อุทิศบุญกุศล ท่านสอนให้รำลึกถึงหลวงตาอ๋อยและบริวาร ทุกครั้ง เพื่อให้ท่านและคณะรับทราบเป็นพยาน สำหรับผู้มีวาสนาเดิมเกี่ยวพันธ์กันมากับท่าน ก็เป็นการถวายกุศลเป็นเครื่องสักการะต่อความเป็นบุพการี ครูอาจารย์ และผู้มีคุณนานาประการอีกด้วย
     
  16. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,047
    a.3767581.jpg
    ขออนุญาตลงภาพกลางคืนที่วัดอีกภาพครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3831.JPG
      IMG_3831.JPG
      ขนาดไฟล์:
      85.7 KB
      เปิดดู:
      3,278
  17. ยมราชาโณ

    ยมราชาโณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    44
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +183
    IMG_5513.jpg
    หมอยา(1)


    หลวงตาท่านเทียวไปมาในจังหวัดต่างๆทางภาค อีสานอยู่หลายปีช่วยเหลือพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทํานุ บํารุงพระศาสนาทั้งทางตรงทางอ้อม ใช้ทั้งอิทธิฤทธ์ิ และบุญฤทธิ์ชักจูงให้ชาวบ้านเกิดศรัทธาเข้าวัด ทําบุญปฏิบัติธรรมได้เป็นจํานวนมาก ซึ่งเป็นปกติ วิสัยของพระโพธิสัตว์ทั้งหลายที่มีจุดมุ่งหมายในการ สร้างเสริมบารมี สั่งสมบริวาร เพื่อไปสู่เป้าหมาย ใหญ่ท้ายท่ีสุดคือพุทธภูมิ

    เรื่องราวอิทธิฤทธิ์และบุญฤทธิ์ที่ท่านได้สงเคราะห์ผู้คนทั้งหลายนั้นมีมากมายหลายหลากเหลือคณานับ ท่านใช้ความสามารถหลายด้านประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นทางพุทธานุภาพ อิทธิวิธี การแพทย์ และ ยาพื้นบ้าน ฯลฯ เป็นที่ประจักษ์ซาบซึ้งแก่ใจของ ศิษยานุศิษย์ที่ล้วนมีประสบการณ์ตรงจากท่านโดยมิต้องสงสัย

    ผู้เขียนโชคดีเคยติดตามท่านไปหา “ของดี” และหา สมุนไพรในป่าในบางครั้ง นอกจากประสบเหตุการณ์ลี้ลับต่างๆที่เหลือเชื่อในสายตาคนที่เรียนจบมาในสายวิทย์อย่างตนเองแล้ว สิ่งที่ประทับใจในตัวหลวง ตาอีกประการก็คือ ท่านมีความรู้เรื่องการแพทย์และ สมุนไพรดีมาก ระหว่างเดินป่าท่านก็จะคอยสอนลูกศิษย์บางคนให้รู่จักสมุนไพรและสรรพคุณไปด้วย สงสัยตลอดมาว่าท่านสามารถจําชื่อสมุนไพรต่างๆ มากมายได้อย่างไร

    ในบางคราท่านก็ให้คําแนะนําถึงการใช้ยาสมัยใหม่มาประกอบไปด้วยในกรณีที่โรคนั้นมีความเฉียบพลัน หรือเหมาะสมที่จะต้องใช้

    แต่ถ้าโรคร่ายที่เกี่ยวพันกับวิบากกรรมอย่างมะเร็ง หรือภูมิคุ้มกันบกพร่องนั้น ดูเหมือนท่านใช้แต่สมุนไพรเป็นหลักพร้อมกับการอธิษฐานจิตท่านไม่เคยเรียกร้องเอาอามิสใดๆจากคนไข้ นอกจากให้คนไข้นั้นตอบแทนโดยการตั้งอยู่ในศีลในธรรมและ เร่งทําบุญสร้างความดี เพื่อให้การรักษาน้ันประสบ ผลได้โดยเร็ว

    บางคร้ังมีโรคภัยใหม่ๆ เรายังเคยเห็นท่านอธิษฐาน นําเอาโรคนั้นๆมาใส่ในตัวเองจนตนเองป่วยบางครั้งก็ป่วยหนักจนเหล่าลูกหลานอดเป็นห่วงไม่ได้ ท่านว่าเพื่อจะได้รู่อาการและพฤติกรรมของโรคจะ ได้หาทางปรุงยารักษาได้ถูกต้อง

    น่าอัศจรรย์เวลาท่านวินิจฉัยโรค ท่านสามารถบอก สมุฏฐานของโรค ตลอดจนตําแหน่งอวัยวะที่เป็นปัญหาได้อย่างละเอียดและแม่นยําราวกับว่ามีดวงตาเอ็กซเรย์ หลายครั้งยังถูกต้องกว่าคําวินิจฉัยของนายแพทย์แผนปัจจุบันเสียอีก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2017
  18. ยมราชาโณ

    ยมราชาโณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    44
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +183
    อยากเห็นพระพุทธรูปองค์ที่ได้รับมอบมาครับ
     
  19. ยมราชาโณ

    ยมราชาโณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    44
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +183
    หมอยา (2)

    หลวงตามี “มีดหมอ” เล่มย่อมๆติดย่ามแดงของท่านอยู่ตลอดเวลา บางครั้งก็เห็นท่านนำมาบริกรรม ประกอบการสงเคราะห์ผู้คน เป็นการรักษาด้วยอำนาจจิต ลูกศิษย์น้อยใหญ่รวมถึงหลายคนที่เป็นบุคคลใน ระดับนำของสังคมก็เคยรับการรักษาด้วยมีดหมอของท่านมากต่อมาก เช่นคนที่ท่านลงมีดหมอ “ผ่าตัด” เพื่อรักษาโรค หัวใจให้จะรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดแผลและต้องพักฟื้น (สั้นๆ ๒-๓ วัน) ไม่ต่างไปจากการผ่าตัดจริงทางการแพทย์แผนปัจจุบัน เพียงแต่ไม่เห็นรอยแผลจากภายนอกด้วยตาเปล่า หลายคนเมื่อกลับไปหาแพทย์ประจำตัวก็มีอันต้องแปลกใจทั้งคนไข้และ หมอว่ามีรอยแผลผ่าตัดปรากฏในภาพเอกซเรย์จริง อาการของโรคที่เคย “เรื้อรัง” ก็อันตรธานไป เพื่อนนักข่าวชาวญี่ปุ่นของผู้เขียนเองก็เคยลิ้มรส มีดหมอของหลวงตาด้วยเช่นกัน เจ้าตัวนั้นร้องลั่น ตอนที่ท่านปักมีดลงกลางหลัง เพื่อนเล่าให้ฟังใน ภายหลังว่า เหมือนมีดนั้นปักทะลุหลังเข้าไปในทรวงอก คิดว่าเลือดคงสาดเลอะเต็มศาลาเสียแล้ว หลวงตาว่าการผ่าตัดด้วยมีดหมอแผนปัจจุบันนั้น ท่านก็มีความรู้เคยมีประสบการณ์ช่ำชองมาก่อน แต่ข้อเสียของการผ่าด้วยมีดธรรมดารอยแผลจะ ใหญ่และสร้างความบอบช้ำให้กับอวัยวะข้างเคียง มีอันตรายมากไม่เหมือนผ่าด้วยมีดแห่งอำนาจจิต หากไม่นับความรู้เรื่องสมุนไพรที่ท่านเคยเล่าให้ลูก หลานใกล้ชิดฟังว่า เป็นความรู้แค่แขนงหนึ่งที่ “มีพระในป่ามาสอนให้” ในสมัยที่ท่านยังเที่ยวจาริกไป ตามป่าเขาแล้ว เวลาลูกหลานถามว่าท่านมีความรู้ ทางการแพทย์สาขาต่างๆจากไหนมากมาย ท่านก็ จะตอบเรียบๆว่า “ไปเรียนที่จีนที่รัสเซีย” แล้วก็ต่อด้วยคำว่า “จริงเป็นเท็จ เท็จเป็นจริง” เหมือนทุกๆ ครั้งที่ท่านเล่าอะไรให้ฟังและมักจะปิดท้ายด้วยวลีคุ้นหูว่า “ให้ฟังเป็นนิทาน”
     
  20. ยมราชาโณ

    ยมราชาโณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    44
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +183

แชร์หน้านี้

Loading...