วัตถุมงคล.คณาจารย์ทั่วไทย..พุทโธน้อย..หลวงปู่จรัญ.วัดอัมพวัน.คุณแม่บุญเรือน..หลวงปู่ดู่..วัดสะแก..อื่นๆๆ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ญาณวโร นามะ, 18 เมษายน 2015.

  1. jotaro4s

    jotaro4s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2012
    โพสต์:
    2,121
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ขอราคาด้วยครับ ขอบคุณครับ
     
  2. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,712
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่206 เหรียญแจกแม่ครัวย้อนยุค หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ พิธีใหญ่ ปี 2537 พร้อมซองเดิมๆ ให้บูชา 500 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,712
    ค่าพลัง:
    +4,635
    มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ:cool::cool::cool::cool:
     
  4. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,712
    ค่าพลัง:
    +4,635
    ให้บูชาพระเครื่อง วัตถุมงคล หลากหลายรายการ ค่าจัดส่ง50บาททั่วประเทศครับรับประกันแท้ยินดีคืนเงินเต็มจำนวน โดยไม่มีเงื่อนไขครับ (พระต้องกลับมาสภาพเดิมครับ)
    ท่านที่สนใจจองได้ไม่เกิน3วัน โอนเงินได้ที่รายละเอียดที่อยู่ด้านล่าง หลังจากโอนแล้ว รบกวนโทร.หรืออีเมล์มาบอกชื่อที่อยู่สำหรับจัดส่งด้วยครับ
    ติดต่อสอบถามได้ที่
    - Pm
    - เบอร์โทร 0817933946
    ชำระเงินได้ที่
    ธ.กรุงไทย สาขา ศรีย่าน
    ชื่อบัญชี นายวรัญญู เล้ารัตนอารีย์
    เลขที่บัญชี 012-0-14398-4
     
  5. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,712
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่ 207 เหรียญหลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว ปี 2523 สวยมากครับเหรียญนี้อีกหนึ่งพระเกจิดัง ศิษย์เอกหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ จ.นครสวรรค์ ให้บูชา 500 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_7344.JPG
      SAM_7344.JPG
      ขนาดไฟล์:
      69.5 KB
      เปิดดู:
      64
    • SAM_7346.JPG
      SAM_7346.JPG
      ขนาดไฟล์:
      74.2 KB
      เปิดดู:
      63
  6. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,712
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่208 เหรียญหลวงพ่อทองคำ วัดท่าทอง รุ่นนั่งพาน ปี 41 สภาพสวย ให้บูชา 500 บาทมีผู้รบนิมนต์แล้วครับ

    เหรียญนั่งพาน รุ่นแรก หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง สร้างปี๒๕๔๑ คณะศิษย์ธนาคารกรุงไทย สาขาอุตรดิตถ์ นำโดยคุณจุมพล เขมานุรักษ์และเพื่อน เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้าง โดยมีการจัดสร้างดังต่อไปนี้

    ๑. เนื้อทองคำ สร้างจำนวน ๑๙ เหรียญ

    ๒. เนื้อเงิน สร้างจำนวน ๔๐๐ เหรียญ

    ๓. เนื้อนวโลหะ สร้างจำนวน ๑,๐๐๐ เหรียญ

    ๔. เนื้อทองเหลือง สร้างจำนวน ๕,๐๐๐ เหรียญ

    ๕. เนื้อทองแดง สร้างจำนวน ๑๐,๐๐๐ เหรียญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_7348.JPG
      SAM_7348.JPG
      ขนาดไฟล์:
      84.1 KB
      เปิดดู:
      66
    • SAM_7349.JPG
      SAM_7349.JPG
      ขนาดไฟล์:
      77.6 KB
      เปิดดู:
      66
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2015
  7. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,712
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่209 เหรียญมหาชัยมหาโชคลาภ "หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค" หลังยันต์เกราะเพชร ปี ๒๕๒๕ พร้อมสายสิญจ์เดิมๆ ให้บูชา 500 บาท**มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ**

    * ประวัติ พระครูวิหารกิจจานุการ (หลวงพ่อปาน โสนันโทเถระ)

    ชาติภูมิของโสนันโทเถระ ท่านได้ถือกำเนิดที่ย่านวัดบางนมโค เมื่อวันที่ 16กรกฎาคม 2418 โยมบิดาชื่อ อาจ โยมมารดาชื่อ อิ่ม นามสกุล สุทธาวงศ์ โดยอาชีพทางครองครัว คือ ทำนา สาเหตุที่โยมบิดาขนานนามท่านว่า "ปาน" เนื่องจากท่านมีสัญลักษณ์ ประจำตัวคือปานแดงอยู่ที่นิ้วก้อยมือซ้ายตั้งแต่โคนนิ้วถึงปายนิ้วคล้ายปลอกนิ้ว

    หลวงพ่อปานในวัยเด็ก

    พระมหาวีระ ถาวโร หรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านได้เล่าไว้ในหนังสือประวัติหลวงพ่อปานว่า"...ท่าน (หลวงพ่อปาน) บอกว่า สมัยท่านเป็นเด็กอายุสัก 3-4 ขวบ ท่านวิ่งเล่นใต้ถุนบ้าน หลวงพ่อปาน ท่านเป็นคนบางนมโค และเป็นคนตำบลนั้น ไม่ใช่คนที่อื่น เป็นคนที่มีฐานะค่อนข้างจะมั่งคั่งอยู่สักหน่อย สมัยนั้น เขามีทาสกันที่บ้านท่านก็มีทาส ท่านบอกว่า ท่านวิ่งเล่นอยู่ใต้ถุนบ้านย่าของท่าน ก็ปรากฏว่าย่าของท่านกำลังป่วยหนัก ใกล้จะตาย เวลานั้นก็เห็นจะเป็นเวลาบ่ายสัก 2-3 โมงกว่า ท่านว่าอย่างนั้นโดยประมาณ คนทุกคนเขามาเยี่ยมย่า พ่อแม่ของท่านก็ไป เมื่อคนทุกคนขึ้นไปแล้วท่านบอก เห็นร้องดังๆ บอก แม่แม่ อรหันนะ อรหัน ภาวนาไว้ อรหัน พระอรหัน จะช่วยแม่ ก็ร้องกันเสียงดังๆ ท่านอยู่ใต้ถุน ท่านยืนฟังเขาว่าอรหันกันทำไม พอท่านสงสัยก็ย่องขึ้นไปที่หน้าบันไดชานเรือนพอท่านขึ้นไปแล้วก็ปรากฏว่า ผู้อยู่เขาเอาปากกรอกไปที่ข้างหูของคุณย่าท่าน บอกแม่ แม่อรหันนะ อรหัน แต่ว่าพอผู้ใหญ่เขามองเห็นท่านเข้าไป เขาก็ไล่ท่านไปเขาจะหาว่า ไอ้เจ้าเด็กมันรุ่มร่าม ท่านก็เลยไปเล่นใต้ถุนบ้านอื่น พอมาถึงตอนเย็นเวลากินข้าว ท่านแม่ก็ป่าวหมู่เทวฤทธิ์คือ เรียกลูกกินข้าว

    เมื่อทุกคนมาพร้อมกันแล้วท่านแม่ก็จัดกับข้าวมาวางกลาง สำหรับตัวท่านเองเป็นเด็ก เขาเอาข้าวใส่จานมาให้แล้วเอาแกงเผ็ด ท่านบอกว่า ไอ้แกงฉู่ฉี่แห้ง ท่านชอบ เขาใส่มาให้เรียกว่า ไม่ต้องหยิบกับข้าว กินแบบประเภทข้าวราดแกง เวลาที่ท่านกินเข้าไปแล้วมานั่งนึกว่า กับข้าวมันอร่อยถูกใจ ก็เกิดความชุ่มชื่น พอจิตมันนึกขึ้นได้ว่าเอาบอก อรหัง อรหัง นึกถึงคำว่า อรหัง ขึ้นมาได้ ท่านก็เลบปลื้มใจอย่างไรชอบกล เลยเปล่งวาจาออกมาดังๆ ว่า อรหัง อรหัง ว่า 2- 3 คำ

    ท่านแม่ที่มองตาแป๋วลุกพรวดจับชามข้าวที่ท่านถืออยู่วางไว้ จับตัวท่านวางปังออกไปนอกชาน แล้วร้องตะโกนสุดเสียง เอ้า มึงจะตายโหง ตายห่าก็ตายคนเดียว มันจะมาว่าอรหังที่นี่ได้รึ? คำว่า อรหัง พุทโธ นี่คนเขาจะตายเท่านั้นแหละเขาว่ากัน นี่ดันมาว่า อรหังที่นี่ ทำเป็นลางร้ายให้คนอื่นเขาพลอยตายด้วย" ท่านแปลกใจคิดว่า นี่เราว่าดีๆ นี่แม่ดุเสียงเขียวปัด นี่มันเรื่องอะไรกันในเมื่อถูกแม่ดุอย่างนั้น จะขืนว่าอีกก็เกรงไม้เรียว ก็เลยไม่ว่า พอท่านพูดถึงตอนนี้แล้ว ท่านก็หัวเราะบอกว่า คุณแม่ฉันน่ะโง่นะ ไม่ได้ฉลาดหรอก อีตอนใหม่นั้น ตอนฉันมาบวชได้แล้ว อรหันหรือพุทโธนี้ ถ้าใครภาวนาไว้ เป็นวาจาที่กล่าวถึงคุณงามความดีของพระพุทธเจ้า และพระอริยสงฆ์ทั้งหมด ถ้าใครภาวนาคำนี้ได้ตกนรกไม่ได้...แต่ว่าแม่ของฉันนี่ท่านไม่รู้ ก็เป็นโทษเพราะไม่ได้รับการศึกษา แต่ว่าไม่เป็นหรอก ตอนหลังที่ฉันบวชแล้วนี่นะ ฉันกลับใจแม่ของฉันได้ ฉันแนะนำให้ท่านทราบแล้ว เวลาท่านตายท่านก็ยึดพุทธโธ อรหันเป็นอารมณ์ แต่ไม่ได้ยึดเวลาตาย ฉันให้ท่านว่าทุกวัน....

    สมัยก่อน เมื่อลูกชายมีอายุครบบวช ก็จะทำการอุปสมบท ทางบิดามารดาจะต้องส่งบุตรของตนไปอยู่วัดเพื่อรับการอบรม และท่านขานนาคเป็นเวลาประมาณ 3 เดือน เป็นอย่างน้อยท่านเองมีความสงสัยในใจว่า เหตุไฉนสตรีเพศจึงดึงดูดบุรุษเพศมากมายนัก ทำให้หลงใหลใฝ่ฝัน ตัวท่านเองก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงมาก่อน จึงคิดว่าจะหาวิธีลองของจริงดูว่าเป็นอย่างไรถ้าดีจริงบวชครบพรรษาจะสึกออกมา ถ้าไม่เป็นจริงตามวิสัยโลกก็จะไม่สึก ที่บ้านของท่านมีคนรับใช้อยู่คนหนึ่ง เรียกกันว่า ทาส ชื่อว่า พี่เขียว อายุประมาณ 25 ปี ตอนกลางวันอยู่ด้วยกันสองคน ท่านเกิดสงสัยเนื้อผู้หญิงขึ้นมา บอกว่าตั้งแต่เกิดมานอกจากเนื้อแม่กับเนื้อพี่แล้ว ไม่เคยจับเนื้อใคร ท่านคิดว่าเนื้อผู้หญิงมันดียังไงผู้ชายถึงได้อยากกันนัก บางทีถึงกับฆ่ากันเลย ก็สงสัยว่าจะบวชแล้วนี่

    ถ้ามันดีจริงแล้วก็จะสึก ถ้าไม่ดีก็จะไม่สึกละ เมื่อคนว่างก็เข้าไปหาพี่เขียว พี่เขียวแกอยู่ในครัวทาส แต่ว่าท่านเรียกพี่ในฐานะที่เขาแก่กว่าตัว ยกมือไหว้บอกว่า "พี่เขียว ขออภัยเถอะ ฉันขอจับเนื้อพี่เขียวดูหน่อยได้ไหมว่า เนื้อผู้หญิงน่ะมันดียังไง เขาถึงชอบกันนัก" พี่เขียวก็แสนดี อนุญาต ท่านก็เลือกจับเนื้อกล้าม เขาเรียกว่า กล้ามเนื้อที่หน้าอก ผู้หญิงนี้มีกล้ามเนื้อพิเศษ อยู่ที่กล้ามเนื้อ 2 กล้ามที่หน้าอก แต่ไม่ได้จับมาหรอก จับตรงนั้น แต่ก็ไม่ได้ลวนลามไปถึงไหน จับๆ แล้วก็มาจับน่อง เอ๊! มันคล้ายกัน บอกพี่เขียวว่านี่มันคล้ายกันนี่ พี่เขียวแกก็บอกว่าเป็นอย่างนั้นมันก็คล้ายกัน แล้วท่าน ก็ถามพี่เขียวว่า ทำไมผู้ชายเขาถึงชอบเนื้อผู้หญิงนัก ดันไปถามผู้หญิงได้ นี่ว่ากันอย่างเราๆนะ แล้วเขาจะตอบอย่างไร เขาก็บอกไม่รู้เหมือนกัน แล้วท่านก็ยกมือไหว้ขอขมาพี่เขียวบอกว่า "ขอโทษ ที่ขอจับเนื้อนี่ไม่ได้ดูถูกดูหมิ่น อยากจะพิสูจน์เท่านั้นว่ามันดีอย่างไร" เมื่อท่านหมดความสงสัยในใจแล้วก็ตกลงใจว่าจะบวช คราวนี้จะไม่ขอสึกหาลาเพศ ก็สมจริงกังที่ท่านตั้งใจทุกประการ

    สู่ร่มกาสาวพัสตร์

    หลังจากที่โยมมารดาบิดาได้นำท่านมาฝากไว้กับหลวงปู่คล้าย ให้ฝึกหัดขานนาคให้คล่องแคล่วแล้ว ท่านก็ได้เข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดบางนมโค เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2438 ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 5 ปีมะแม โดยมี หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์จ้อย วัดบ้านแพ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์อุ่ม วัดสุธาโภชน์ เป็นอนุสาวนาจารย์ มีฉายาว่า "โสนันโท"




    หลวงพ่อปานเรียนวิชา

    หลังจากที่ได้อุปสมบทแล้วหลวงพ่อปานท่านก็ได้ติดตามพระอุปัชฌาย์คือ หลวงพ่อสุ่น ด้วยความสนใจใคร่ศึกษา เพราะว่าในสมัยนั้นหลวงพ่อสุ่นท่านเป็นพระที่แก่กล้าทางคาถาอาคมและรักษาโรคภัยไข้เจ็บ เมื่อตามไปเล่าเรียนเป็นศิษย์แล้ว หลวงพ่อสุ่นเห็นลักษณะของหลวงพ่อป่านว่ามีลักษณะดี จะได้เป็นครูบาอาจารย์ต่อไป ภายภาคหน้า จึงได้ให้สติหลวงพ่อปานเบื้องต้นในหน่ายกิเสลว่า

    1. อย่าอยากรวย อยากมีลาภได้ ทรัพย์มาแล้วดีใจ ตั้งหน้าสะสมทรัพย์

    2. เป็นอย่างต้นแล้ว เมื่อทรัพย์หมดก็เป็นเหตุให้เสียใจ

    3. อยากมียศฐาบรรดาศักดิ์ ได้นศมาแล้วปลื้มใจ

    4. เมื่อหมดยศไปแล้วก็เสียใจ

    5. ได้รับคำสรรเสริญแล้วยินดี

    6. มีความสุขความเพลิดเพลินในกามารมณ์

    8. เมื่อมีความทุกข์ก็หวั่นไหวท้อแท้ใจ

    จากเพศฆราวาสมาสู่เพศบรรพชิตแล้วอย่าหวังรวย ถ้ารวยแล้วไม่ใช่พระ พระต้องรวยด้วยบุญญาบารมี เงินที่ได้มาอย่าติด จงทำสาธารณประโยชน์เสียให้สิ้น เหลือกินเหลือใช้แต่พอเลี้ยงอาตมาอย่าหวังในยศ ถ้าหลีกเลี่ยงไม่รับยศไม่ได้แล้ว ก็อย่าเมายศฐาบรรดาศักดิ์ มันเป็นเครื่องถ่วงกิเลส ยศลาภสรรเสริญ ความสุข ในกามารมณ์ มันเป็นตัวกิเลส มันเป็นโลกธรรม ต้องตัดออกให้หมด ถ้าพอใจในสี่สิ่งนี้ก็ไม่ใช่พระ จะพาให้สู่ห้วงนรก จ้องระลึกอยู่เสมอว่า เราบวชเพื่อนิพพาน อย่างที่กล่าวในตอนขออุปสมบทครั้งแรกว่า "นิพพานัสะ สัจฉิกิริยายะ เอตัง กาสาวังคะ เหตะวา" อันหมายความว่า เราขอรับผ้ากาสาวพัตร์เพื่อให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน

    จากนั้นหลวงพ่อสุ่นก็สั่งให้ท่องสวดมนต์ตลอดจนคาถาธาตุทั้งสี่ คือ นะ มะ พะ ทะ ให้ว่า ถอยหลังแล้วเป่า ให้กุญแจหลุด ถ้าเจ้าเป่าหลุดแล้วบอกพ่อ จะให้วิชาต่างๆ ให้หมดไม่ปิดบัง นี่คือการฝึกสมาธิจิตที่หลวงพ่อสุ่นสอนหลวงพ่อปานทางอ้อม คือถ้าจิตไม่มีสมาธิแล้วอย่าหวังเลยว่า ด้วยคาถาเพียงสี่ตัวจะดีกว่าลูกกุญแจได้ หลวงพ่อปานท่านก็มีความอดทน หมั่นฝึกเป่ากุญแจนานเป็นเดือน เป่าเท่าไหร่ก็ไม่หลุด มาหลุดเอาตอนที่ท่านทำใจสบายเป็นสมาธิ นึกถึงคาถาเป่ากุญแจได้ จึงลุกขึ้นมาเป่ากุญแจ คราวนี้กุญแจหลุดหมด ทดลองกับลูกอื่นๆ ก็หลุด เพิ่มกุญแจขึ้นเรื่อยๆ จนถึง 40 ดอก แขวนไว้บนราว ก็หลุดหมด แล้วจึงทดลองให้หลวงพ่อสุ่นดูจนพอใจ หลังจากนั้นหลวงพ่อสุ่นก็สอนวิปัสสนาให้แก่หลวงพ่อปาน ตั้งแต่ชั้นต้นจนถึงที่สุด ด้วยความเมตตา หลวงพ่อปานในตอนท้ายว่า เมื่อมีฤทธิ์แล้วอย่าแสดงให้คนอื่นเขาเห็นเป็นการอวดดี จะเป็นโทษตามที่พระพุทธองค์ทรงห้ามไว
    จบจากวิปัสสนาแล้วหลวงพ่อสุ่นยังได้ถ่ายทอดวิชาแพทย์แผนโบราณให้ ซึ่งหลวงพ่อปานก็ได้อาศัยใช้ช่วยชีวิตผู้ได้รับทุกข์ทรมานให้หายมามากต่อมาก จนท่านได้ชื่อว่าเป็น "พระหมอ" หลวงพ่อสุ่น สอนว่า "การเป็นหมอนั้น บังคับไม่ได้ให้คนตายไม่ได้หมอเป็นเพียงช่วยระงับทุกข์เวทนาเท่านั้น" จากนั้นหลวงพ่อสุ่นก็ถ่ายทอดกสิณต่างๆ ให้หลวงพ่อปานจนกระทั่งสิ้นความรู้

    พระคาถา

    (ว่า "นะโม ฯลฯ " ๓ จบ )

    พระคาถาบทนำ ว่าครั้งเดียว

    พุทธะ มะอะอุ นะโมพุทธายะ

    พระคาถาพระปัจเจกะโพธิ์ ว่า ๓ จบ หรือ ๕ จบ หรือ ๗ จบ หรือ ๙ จบ ก็ได้ แต่ต้องสม่ำเสมอ จึงจะเกิดผล

    " วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา

    วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มาณี มามะ พุทธัสสะ สวาโหม "

    คาถามหาพิทักษ์

    จิตติ วิตัง นะกรึง คะรัง

    ใช้ภาวนาขณะใส่กุญแจ ปิดหีบ ปิดตู้ ปิดประตูหน้าต่างฯ

    คาถา มหาลาภ

    นะมามีมา มะหาลาภา อิติพุทธัสสะ สุวัณณังวา ระชะตังวา ธะนังวา พึซังวา อัตถังวา ปัตถังวา

    เอหิ เอหิ อาคัจเฉยยะ อิติมึมา นะมามิหัง

    ใช้สวดภาวนาก่อนนอน ๓ จบ และตื่นนอนเช้า ๓ จบ เป็นการเรียกทรัพย์เรียกลาภ

    พระคาถา ๓ บทนี้ เป็นคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์มาก หากผู้ใดนำไปใช้จะเกิดโชคลาภมั่งมีเงินทองอย่างมหัศจรรย์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_7338.JPG
      SAM_7338.JPG
      ขนาดไฟล์:
      80.4 KB
      เปิดดู:
      88
    • SAM_7336.JPG
      SAM_7336.JPG
      ขนาดไฟล์:
      71.6 KB
      เปิดดู:
      74
    • SAM_7340.JPG
      SAM_7340.JPG
      ขนาดไฟล์:
      70 KB
      เปิดดู:
      83
    • SAM_7341.JPG
      SAM_7341.JPG
      ขนาดไฟล์:
      68 KB
      เปิดดู:
      66
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2015
  8. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,712
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่210 พระกรุ วัดคลองขอม พระชุดนี้จัดสร้างเมื่อปี 2454 โดยหลวงพ่ออุ่ม เจ้าอาวาสวัดคลองขอม ปลุกเสกร่วมกับ หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า (อายุการสร้างร่วม 100ปี) แล้วฝังกรุไว้มี่ฐานพระประธานเจดีย์หลังโบสถ์ครับ ให้บูชา 500 บาทครับมีผู้รบนิมนต์แล้วครับ
    แบบพิมพ์ของพระในกรุวัดคลองขอม สุพรรณบุรีนี้มีหลายแบบด้วยกัน
    1. เหรียญหล่อ เนื้อโลหะผสม แก่ทองเหลือง เป็นสมเด็จสี่เหลี่ยมทรงครุฑ มีหลายพิมพ์ เนื้อโลหะนี้รู้จักกันในวงกว้าง เพราะส่วนหนึ่งหลวงปู่ศุขท่านนำติดตัวไปแจกที่ชัยนาทด้วย
    2. พระเนื้อผงใบลาน เนื้อแห้งสนิท สีออกเทาดำ ทำเป็นพิมพ์สมเด็จรัศมีแขนสอบ ขนาดเท่าพระหลวงปู่ศุขทั่วๆไป หรือเท่ากับพระคะแนนของวัดต่างๆ พุทธลักษณะจะผอมเห็นองค์เป็นลายเส้น พระเศียรเป็นรูปข้าวหลามตัด หูเป็นแบบบายศรี มีเส้นรัศมีเล็กๆโดยรอบ ครอบด้วยซุ้มระฆัง และประทับบนฐาน 3 ชั้น มีด้วยกันหลายบล็อค เพราะสร้างพิมพ์นี้เป็นพิมพ์หลัก ที่เป็นพระปิดตาเนื้อดำลงรักทับ มีน้อยมาก
    3. พระเนื้อผงขาว มีหลายพิมพ์ด้วยกัน ได้แก่
    - พิมพ์สมเด็จรัศมีแขนสอบ มีหลายบล็อค
    - พิมพ์สมเด็จรัศมีแขนกลม (องค์พระต้อกว่า เศียรกลม และเส้นสายใหญ่ วงแขนเป็นรูปวงกลม)
    - พิมพ์ปิดตา มีทั้งขนาดใหญ่และเล็ก
    - พิมพ์พิเศษ หรือพิมพ์พระประธาน มีขนาดใหญ่เท่ากับสมเด็จพิมพ์ใหญ่ และที่ขนาดใหญ่มากเกือบคืบก็มีแต่พบน้อย มีด้วยกัน 3-4 พิมพ์ เนื้อหาเหมือนกับพระพิมพ์เนื้อขาวปกติทุกประการ บางองค์ปิดทองด้วย หาคนรู้จักได้น้อย ปัจจุบันหาชมยากมาก
    4. พระเนื้อผงสีชมพู เป็นเนื้อที่ผสมว่านสบู่เลือด ซึ่งมีสีแดง ว่านนี้มีผลทางอยู่ยงคงกระพัน เมื่อผสมกับผงพระพุทธคุณแล้วทำให้มีสีขาวเจือชมพู ที่พบทำเป็นพิมพ์สมเด็จรัศมีแขนสอบ ลักษณะเหมือนๆกันแต่ก็มีหลายบล็อค พิมพ์แขนกลมมีเป็นส่วนน้อยมาก

    ปัจจุบันพระกรุคลองขอมจำนวนมากๆ ก็ยังอยู่ในความครอบครองของเซียนหลายท่าน เจ้าละมากๆ ทำให้ไม่เป็นที่แพร่หลายหรือรู้จักเท่าที่ควรเพราะ ไม่มีให้เล่น ที่มีออกมาให้เห็นโดยมากเป็นของเก็บเก่าของชาวบ้าน หรือผู้ศรัทธาในองค์หลวงปู่ศุข ได้ไปเช่าหาเก็บไว้เมื่อครั้งกรุแตก อย่างไรก็ตามหากท่านผู้อ่านคิดจะเก็บพระกรุของแท้ล้านเปอร์เซ็นต์ไว้ศึกษา หรือเพื่อนำมาบูชาติดตัวถือได้ว่าไม่ผิดหวังในเรื่องของพุทธคุณ ดังที่เคยปรากฏเป็นข่าวบ่อยๆ ทั้งเรื่องแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุ หรือยิงฟันไม่เข้า มีหลายคนที่มีปัญหาเดือดร้อนเรื่องการเงิน เอาไปบูชาสวดขอพรทุกคืนก็ประสบผลสำเร็จ หากถ้าคิดจะเก็บจะหาไว้บูชาก็ช่วงนี้ละครับ เพราะราคายังไม่แพง เป็นพระหลักร้อยพุทธคุณหลักแสน ก็ว่าได้!!
    พระชุดนี้แม้แต่ต่างชาติที่นับถือหลวงปู่ศุข อย่างชาวสิงค์โปร์ มาเมืองไทยทีก็จะกว้านซื้อไปครั้งหนึ่งเยอะๆเหมือนกัน และถ้าพูดถึงในระดับวงการ ประกวดก็มีงานประกวดกันมานานแล้วนะครับ
    ค่านิยมปัจจุบันยังไม่สูงนักเมื่อเทียบกับคุณค่า แต่เชื่อว่าเมื่อผู้คนได้ทราบข้อมูลว่าหลวงปู่ศุขท่านได้ปลุกเศก ไว้และเป็นพระเก่ามีอายุเกือบร้อยปี เพราะเนื้อพระท่านเก่าจริง ไม่เชื่อลองหาพระเนื้อผงหรือเนื้อว่านอายุสัก 20-30 ปี มาเทียบดูจะพบว่าพระกรุคลองขอมนั้นมีความแห้งกว่ากันอย่างมาก
    ปัจจุบันพระกรุคลองขอมเริ่มเป็นที่นิยมกันมาก แม้แต่เซียนใหญ่ๆ หลายท่านยังกว้านหาสะสมและบูชาติดตัว ทั้งนี้เพราะมีพุทธคุณเข้มขลัง เอกอุเหลือคณานับ มีประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์มาตลอด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • BVD13.jpg
      BVD13.jpg
      ขนาดไฟล์:
      100.3 KB
      เปิดดู:
      99
    • BVD23.jpg
      BVD23.jpg
      ขนาดไฟล์:
      100.2 KB
      เปิดดู:
      83
    • 220245_PkC09.jpg
      220245_PkC09.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.9 KB
      เปิดดู:
      162
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2015
  9. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,712
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่211 เหรียญเจ้าคุณนรฯ น.ว.ม.ดอกบัว2ข้าง ปี2515 หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ร่วมเสก สภาพสวย ผิวหิ้ง ให้บูชา 650 บาทมีผู้รบนิมนต์แล้วครับ

    เหรียญรูปเหมือนท่าน ธมมวิตกโกภิกขุ น.ว.ม.ดอกบัว2ข้าง วัดเทพศิรินทร์ทราวาสที่ระลึกวันเสด็จพระราชกุศลเปิดอาคารโรงเรียน น.ว.ม.ราชานุสรณ์ พ.ศ.2515พิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ที่วัดบวรนิเวศวิหารกรุงเทพ โดยมีสมเด็จพระวันรัต(ปุ่น ปุณณสิริ)เป็นประธานสงฆ์ท่านเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหารจุดเทียนกะบะมุกและมีคณาจารย์จำนวนมากร่วมปลุกเสก เช่นหลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี ท่านเจ้าคุณโพธิวรคุณวัดโพธินิมิตร พระพุทธโฆษาจารยื(วาส) องค์สมเด็จพระสังฆราช หลวงพ่อเส่งวัดกัลยานิมืตร พระธรรมไตรโลกกาจารย์รองเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์ร่วมทำพิธีพุทธาภิเษกเมื่อวันจันทร์ที่3ก.ค.2515ตอกโค๊ดตัว อุ ด้านหลังขวา

    นอกจากนี้ยังได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกอีกถึง 9 พิธีเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น

    ครั้งที่1 วันเสาร์ที่24ก.พ.2516โดยท่านพระศีลขันธ์โสภณ(สนิท)เจ้าคณะอำเภอโพธิ์ทอง จ.อ่างทองเป็นผู้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษก ณ.พระอุโบสถวัดเทพศิรินทร์ทราวาสเนื่องในงานฉลองพัดยศเจ้าอาวาสจากพระธรรมทัตชมุนีเป็นพระสาศนโสภณ

    ครั้งที่2 วันเสาร์ที่7เม.ย.2516ตรงกับวันขึ้น5ค่ำเดือน5นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกโดยท่านเจ้าคุณศีลขันธ์โสภณ ที่วัดศีลขันธารามอ.โพธิ์ทองจ.อ่างทอง

    ครั้งที่3 วันพุธที่11เม.ย.2517คุณถนอมศักดิ์ อนุกุลได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดเจดีย์หลวงจ.เชียงใหม่ ที่ระลึกในงานหล่อรูปปั้นพระอาจารย์ มั่น โดยท่านเจ้าคุณเทพสารวาทีอนุญาตให้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกพร้อมกับเหรียญหลวงปู่แหวน สุจินโณ อายุครบ7รอบ ซึ่งมีพระคณาจารย์จำนวนมากร่วมทำพิธี เช่นหลวงพ่อสิม,หลวงปู่คำแสน,หลวงปู่คำมี,หลวงพ่อตื้อ ประจำ4ทิศ(ตอกโค๊ดตัว จล ด้านหน้าซ้าย)

    ครั้งที่4 วันพุธที่23และวันพฤหัสที่24ต.ค.2517คุณถนอมศักดิ์ อนุกุลได้นำเข้าพิธีปลุกเสกเป็นพิเศษองค์เดียวโดยหลวงพ่อสิม พุทธาจาโรรวม2คืน ที่สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่องอ.เชียงดาวจ.เชียงใหม่ (ตอกโค๊ดตัว ส ด้านหลังซ้าย)

    ครั้งที่5 วันเสาร์ที่30พ.ย.2517ได้ร่วมเข้าพิธีปลุกเสกเป็นพิเศษองค์เดียวพร้อมกับพระปิดตาอุตตะมะ โดยหลวงพ่อเมือง อุตตมภิกขุ วัดท่าแหวนอ.แม่ทะจ.ลำปาง ที่ระลึกในงานฉลองอายุหลวงพ่อครบ7รอบ(ตอกโค๊ดตัว อุ ด้านหน้าขวา)

    ครั้งที่6 วันพุธที่25-วันศุกร์ที่27ธ.ค.2517คุณทวีดวงดาราได้นำเข้าพิธีปลุกเสกเป็นพิเศษองค์เดียวโดยท่านเจ้าคุณพระโพธิวรคุณ วัดโพธินิมิตร ตลาดพลู ก.ท.ม.รวม3คืน

    ครั้งที่7 วันศุกร์ที่14ก.พ.2518ท่านเจ้าอาวาสวัดน้อย(เป้า)อ.เมืองจ.ชลบุรีได้นำเข้าพิธีปลุกเสกองค์เดียวดัวยพระคาถาชินบัญชรโดยหลวงพ่อไพศาลวิสุทธิคุณ(สาลี)เจ้าอาวาสวัดห้วยยางอ.พานทองจ.ชลบุรี

    ครั้งที่8 วันเสาร์ที่15ก.พ.2518 ท่านเจ้าอาวาสวัดน้อย(เป้า)อ.เมืองจ.ชลบุรี ได้นำเข้าพิธีปลุกเสกเป็นพิเศษองค์เดียวโดยหลวงปู่ทิม อิสรโก วัดละหารไร่อ.บ้านค่ายจ.ระยอง

    ครั้งที่9 วันอาทิตย์ที่16ก.พ.2518 ท่านพระครูบรรณกิจสุนทร ผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดหนองหญ้าปล้องอ.บ้านโป่งจ.ราชบุรี ได้นำเข้าพิธีปลุกเสกเป็นพิเศษองค์เดียว โดยหลวงพ่อหอม จันทโชโต วัดชานหมากอ.เมืองจงระยอง นี้คือความพิเศษของเหรียญนี้แล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 170237_UNH6C.jpg
      170237_UNH6C.jpg
      ขนาดไฟล์:
      62.8 KB
      เปิดดู:
      78
    • BVD4881.jpg
      BVD4881.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78.8 KB
      เปิดดู:
      94
    • BVD4882.jpg
      BVD4882.jpg
      ขนาดไฟล์:
      71 KB
      เปิดดู:
      98
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2015
  10. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,712
    ค่าพลัง:
    +4,635
    5555555555
     
  11. basket

    basket เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +136
    จองรายการ 210 ครับ
     
  12. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,712
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รับทราบการจองครับ
     
  13. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,712
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่212 ขุนแผนบ้านกร่าง พลายคู่ตัดเดี่ยว หน้ายักษ์ แท้ดูง่าย สภาพน่ารัก สภาพช้ำๆไม่หักไม่ซ่อม พุทธคุณสุดยอด ให้บูชา พีเอมหรือโทรถามครับมีผู้รบนิมนต์แล้วครับ

    ในบรรดาพระเครื่องชั้นนำของเมือง สุพรรณบุรี มักมีชื่อของ “พระขุนแผน” รวมอยู่ในพระกรุยอดนิยมต่างๆ จำนวนมาก หนึ่งในจำนวนนั้น คือ พระขุนแผน กรุบ้านกร่าง เมืองสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นพระกรุโบราณ มีอายุการสร้าง มาหลายร้อยปี กล่าวกันว่าความงดงามของพุทธศิลปะ นั้นโดดเด่นยิ่งนัก ส่วนพุทธคุณนั้น ก็เลิศล้ำเกินคำบรรยาย ทั้งเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ ตลอดจน คงกระพันชาตรี ยากที่จะหาพระพิมพ์ใดเสมอเหมือน จัดเป็นพระยอดนิยมชั้นแนวหน้าของวงการ มานาน

    พระกรุวัดบ้านกร่าง พระดี พระดังแห่งเมืองสุพรรณบุรี

    วัดบ้านกร่าง อันเป็นแหล่งกำเนิด “พระขุนแผน กรุบ้านกร่าง” อัน เลื่องชื่อนี้ ตั้งอยู่ที่ ตำบล ศรีประจันต์ จังหวัด สุพรรณบุรี อยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำท่าจีน หรือ แม่น้ำสุพรรณบุรี ตรงข้ามกับที่ว่าการอำเภอศรีประจันต์ วัดนี้เป็นวัดโบราณ ที่สร้างมาตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา พระเครื่อง กรุวัดบ้านกร่าง แตกกรุจากเจดีย์หลังพระวิหารเก่าในบริเวณ วัดบ้านกร่าง เมื่อราว พ.ศ. 2447 มีเรื่องเล่ากันว่า ตอนที่พระแตกกรุออกมาใหม่ๆ พวกพระสงฆ์และชาวบ้าน ได้นำพระทั้งหมด มากมายหลายพิมพ์ มาวางไว้ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ใกล้วิหาร เด็กวัดในสมัยนั้นได้นำ พระที่วางไว้มาเล่นร่อนแข่งขันกันในลำน้ำสุพรรณบุรี เป็นที่สนุกสนาน เนื่องจากว่า ในสมัยนั้น พระวัดบ้านกร่าง ยังไม่มีมูลค่า และ ความนิยมมากมายเหมือนดังเช่นปัจจุบัน

    ที่มาแห่งชื่อ “พระขุนแผน”

    ชื่อ ”พระขุนแผน” ทั้งของเมืองสุพรรณ หรือ ขุนแผน เมืองไหนก็ตาม เป็นการเรียกชื่อ พระของคนสมัยหลัง เพราะคนโบราณ สร้างพระพิมพ์ ไม่เคยพบหลักฐาน ว่ามีการตั้งชื่อพระเอาไว้ด้วย มีแต่คนรุ่นหลังที่ไปขุดพบพระพิมพ์เป็นผู้ตั้งชื่อให้ทั้งสิ้น พระกรุวัดบ้านกร่าง ก็เช่นเดียวกัน เมื่อแตกกรุใหม่ๆ ก็ไม่มีชื่อ คนสุพรรณบุรี ยุคนั้นเรียกกันเพียงว่า “พระวัดบ้านกร่าง” คือถ้าเป็นพระองค์เดียวก็เรียก “พระบ้านกร่างเดี่ยว” ถ้าเป็นพระ 2 องค์คู่ติดกันก็เรียก “พระบ้านกร่างคู่” ต่อมาจึงมีการตั้งชื่อให้เป็น พระขุนแผน บ้าง พระพลายเดี่ยว บ้าง พระพลายคู่ บ้าง ที่มาของชื่อ พระพิมพ์ ขุนแผน เหล่านี้ เชื่อว่าคนตั้งชื่อคงต้องการให้คล้องจองกลมกลืน กับตัวละครในวรรณคดีเรื่อง ขุนช้าง-ขุนแผน ที่โด่งดัง อันมีถิ่นกำเนิดในย่านสุพรรณบุรี คำว่า พระบ้านกร่าง จึงค่อยๆ เลือนหายไป หรืออีกนัยหนึ่ง ชื่อของ พระขุนแผน อาจได้มาจากการที่มีผู้บูชากราบไหว้ หรือ อาราธนานำติดตัวไปไว้ป้องกันอุบัติภัย ต่างๆ แล้วได้ประจักษ์ ความศักดิ์สิทธิ์ ในอำนาจพุทธคุณ ที่มี่คุณวิเศษ เหมือน ขุนแผนในวรรณคดี โดยเฉพาะ ด้านเสน่ห์ เมตตามหานิยม อาจด้วยเหตุนี้ จึงเรียกขื่อว่า พระขุนแผนสืบมา

    การจำแนกพิมพ์ทรงพระกรุวัดบ้านกร่าง

    พระกรุวัดบ้านกร่าง เข้าใจว่ามีจำนวนถึง 84,000 องค์ตามคติการสร้าง พระพิมพ์ในสมัยโบราณ เมื่อพระแตกกรุขึ้นมาก็ได้มีผู้แยกแบบ แยกพิมพ์ต่างๆ ตามความแตกต่างของพุทธลักษณะ ซึ่งมีจำนวนกว่า 30 พิมพ์ขึ้นไป บางแบบ ก็เรียกว่า “พระขุนแผน” ซึ่งมีพิมพ์ยอดนิยม เช่น พิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใหญ่ พิมพ์ห้าเหลี่ยมอกเล็ก พิมพ์ทรงพลใหญ่ พิมพ์ทรงพลเล็ก พิมพ์พระประธาน พิมพ์เถาวัลย์เลื้อย พิมพ์แขนอ่อน ฯลฯ บางแบบก็เรียกว่า “พระพลาย” อันหมายถึงลูกของขุนแผน ซึ่งมีทั้งที่พิมพ์เป็นคู่ติดกัน เรียกว่า “พระพลายคู่” และองค์เดี่ยวๆ เรียกว่า “พระพลายเดี่ยว” ซึ่งแต่ละพิมพ์ก็ยังแบ่งแยกออกไปอีกเป็นสิบๆ พิมพ์ เช่น พลายคู่หน้ายักษ์ หน้ามงคล หน้าฤาษี หน้าเทวดา พลายเดี่ยวพิมพ์ชะลูด พิมพ์ก้างปลา ฯลฯ
    การที่คนรุ่นเก่า เลือกที่จะตั้งชื่อ พระพิมพ์นั้นว่า ขุนแผน พิมพ์นี้เรียกพลาย คนรุ่นใหม่ คงไม่ทราบหลักเกณฑ์ หรือ ที่มาชัด ซึ่งคงเดาใจว่า คนที่ตั้งชื่อ ขุนแผน คงจะดูรูปร่างศิลปะในองค์พระ ถ้าพระองค์ ใดมีรูปแบบศิลปะสวยงามสะดุดตา ก็เรียกว่า พระขุนแผน ไว้ก่อนส่วนพระพิมพ์ใดหย่อนคุณค่าทางด้านศิลปะความงาม ความอ่อนช้อยก็ตั้งชื่อเรียกว่า พระพลาย เพื่อให้แตกต่างกันไป…

    อายุการสร้างของ พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง

    พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง สุพรรณบุรี เมื่อพิจารณาจากศิลปะแล้ว บอกให้รู้ว่าเป็น พระในสมัยอยุธยาตอนกลาง โดยมีศิลปะที่อ่อนช้อยสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ที่สำคัญที่สุด คือ ในจำนวนพระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่างนี้ มีอยู่พิมพ์หนึ่งนั่นคือ “พระขุนแผน พิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใหญ่” มีลักษณะและศิลปะเหมือนกับ “พระขุนแผนเคลือบ” ที่แตกกรุออกมาจากเจดีย์ วัดใหญ่ชัยมงคล พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเจดีย์องค์นี้มีบันทึกไว้ในพงศาวดาร ว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราช โปรดให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2135 ตามคำทูลแนะนำของสมเด็จพระวันรัตน์ วัดป่าแก้ว เพื่อเฉลิมพระเกียรติ แห่งชัยชนะในการทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา แห่งพม่า พระเจดีย์องค์นี้ชื่อว่า “พระเจดีย์ชัยมงคล” แต่ชาวบ้านเรียกว่า “พระเจดีย์ใหญ่” เพราะเป็นเจดีย์ ที่ใหญ่ที่สุดในอยุธยา ซึ่งตามประเพณีมาแต่โบราณว่า เมื่อสร้างพระเจดีย์แล้ว จะสร้างพระพิมพ์บรรจุไว้ด้วย

    เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา ถือกันว่าได้กุศลแรง พระขุนแผนเคลือบคงสร้าง เพื่อบรรจุไว้ในเจดีย์ วัดใหญ่ชัยมงคลในครั้งนั้น
    ความคล้ายคลึงกันของพุทธศิลป์ ของ พระขุนแผน เคลือบกรุวัดใหญ่ชัยมงคล กับ พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง สุพรรณบุรี โดยเฉพาะพิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใหญ่นี้ เมื่อนำพระทั้งสองมาเปรียบเทียบกัน จะเห็นความแตกต่างกันน้อยมาก โดยเฉพาะเส้นสายและลวดลายการแกะของแม่พิมพ์ ทำให้น่าเชื่อว่า ช่างที่แกะสมัยนั้น คงเป็นคน คนเดียวกัน หรือ สกุลช่างศิลปะในสำนักเดียวกัน อายุการสร้างอาจไม่แตกต่างกันมากนัก หรืออาจแกะในคราวเดียวกัน และพิมพ์ในคราวเดียวกัน แต่ได้มีการแยกบรรจุเจดีย์ ต่างกัน ดังนั้น จึงพอที่จะสันนิษฐานได้ว่า พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง คงมีอายุอยู่ในราวรัชกาล สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือ ประมาณ 400 ปีล่วงมาแล้ว

    ลักษณะธรรมชาติ พระกรุวัดบ้านกร่าง

    พระกรุวัดบ้านกร่าง โดยทั่วไปไม่ว่า จะเป็น พิมพ์พระขุนแผน พระพลายเดี่ยว พระพลายคู่ นั้นเป็นพระเนื้อเดียวกัน คือ เนื้อดินเผาผสมว่านและเกสรดอกไม้ นานาชนิด ไม่ปรากฏว่ามีเนื้อประเภทอื่น ลักษณะเนื้อพระ มีทั้งชนิด เนื้อละเอียด และ เนื้อหยาบ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นประเภทเนื้อหยาบที่มีส่วนผสมของกรวดทรายมาก มีทั้งแดง สีพิกุล สีเขียว และสีดำ ตามความอ่อนแก่ของความร้อนในขณะเผาไฟ แต่ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหยาบหรือละเอียด สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ ต้องมี ว่านดอกมะขาม มี แร่ทรายเงิน แร่ทรายทอง และ “รอยว่านหลุด” อยู่ด้วยทุกองค์ รอยว่านหลุด ดังกล่าว เป็นร่องเล็กๆ สัณฐานไม่แน่นอน เป็นรูปแท่งสี่เหลี่ยม บ้าง สามเหลี่ยม บ้าง และเป็น ร่องลึก ร่องตื้น ก็ได้ รอยว่านหลุด นี้ ถือเป็นเอกลักษณะของเนื้อพระกรุวัดบ้านกร่างที่จะขาดเสียมิได้ในการพิจารณา

    นอกจากนี้ พระกรุวัดบ้านกร่าง ยังเป็นพระกรุที่ผิวสะอาด เนื่องจาก กรุพระมีสภาพดี ไม่จมดินหรือถูกน้ำท่วมขัง ดังนั้น จึงไม่มีคราบขี้กรุเกาะติดหนาให้เห็น จะมีเพียงแต่ฝ้ากรุบางๆ ฉาบติดอยู่ แต่ถ้าผ่านการใช้หรือการสัมผัสก็จะเหลือผิวฝ้ากรุตามซอกองค์พระ เท่านั้น พระกรุวัดบ้านกร่าง เป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ไม่ว่าจะเป็น พระขุนแผน พระพลายเดี่ยว พระพลายคู่ ล้วนแต่เป็นพระกรุที่มีอายุหลายร้อยปี และมี พุทธคุณสูงส่ง ทางด้าน เมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ แคล้วคลาด และ คงกระพันชาตรี เป็นเลิศ จึงเป็นที่นิยมเสาะหากันมานานแล้ว แม้ปัจจุบันความนิยมก็ไม่ได้ลดลงน้อยลงไปเลย……..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 15817.jpg
      15817.jpg
      ขนาดไฟล์:
      108.2 KB
      เปิดดู:
      81
    • 15818.jpg
      15818.jpg
      ขนาดไฟล์:
      111.5 KB
      เปิดดู:
      74
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2015
  14. basket

    basket เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +136
    รายการที่ 210 โอนเงินให้แล้วครับ 550 บาท เวลา 10.55 น. วันที่ 22 ก.ค. 58 จัดส่งตาม pm. ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,712
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รับทราบครับ:cool::cool::cool:
     
  16. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,712
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่213 เหรียญรัชกาลที่ 5 หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี ปี 2530
    มีผู้รบนิมนต์แล้วครับ
    หลวงพ่อจรัญ หรือ พระธรรมสิงหบุราจารย์ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี ปัจจุบันท่านเป็นเจ้าคณะจังหวัด อายุท่านได้ประมาณ 82 ปีแล้ว หลวง พ่อจรัญ เป็นพระที่ปฏิบัติดีโดยเฉพาะในสายวิปัสสนาแบบสติปัฏฐานสี่ ในปัจจุบันหลวงพ่อจรัญ มีชื่อเสียงดังไปทั่วไประเทศในฐานะอาจารย์ผู้สอนกรรมฐาน ท่านเขียนตำราธรรมะมากมาย ก่อนที่ท่านจะเริ่มปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานกับเจ้าคุณโชดก วัดมหาธาตุ หลวงพ่อจรัญ ก็เหมือนพระเกจิทั่วไปในสมัยนั้น คือศึกษาพระเวทย์วิทยาคมกับหลวงพ่อดังๆในอดีต หลวงพ่อจรัญ เคยไปเรียนวิชากับหลวงพ่อเดิมเป็นเวลาหลายเดือนก่อนที่หลวงพ่อเดิม จะมรณะภาพ นอกจากนี้ท่านยังได้เรียนวิชากับหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อจาด วัดบางกะเบา เป็นต้น
    เนื่อง จากหลวงพ่อจรัญ มีลูกศิษย์นับถือมากมาย ประกอบกับท่านอายุมากแล้ว ตอนหลังเข้าใจว่าท่านไม่ปลุกเสกวัตถุมงคลแล้ว ดังนั้นทำให้พระเครื่องของหลวงพ่อจรัญ ที่หลวงพ่ออธิษฐานจิตจึงถูกลูกศิษย์ตามเก็บ ทำให้พระของท่านเริ่มหายากและมีราคาสูงขึ้นเื่รื่อยๆ โดยเฉพาะพระที่สร้างก่อนปี 2520 หลายรุ่นราคาสูงมาก
    ขอแนะนำเหรียญรัชกาลที่ 5 เป็นรุ่นแรกของหลวงพ่อจรัญ ที่ท่านอธิษฐานจิตในคราวสร้างพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 องค์ใหญ่ของวัดอัมพวันเมื่อปี 2530 เหรียญรุ่นนี้สร้างโดยกองกษาปณ์ ออกแบบสวยงามมาก ด้านหลังเป็นดวงมงคลเพื่อเสริมดวงชาตาให้แก่ผู้ที่บูชา เหรียญที่นำเสนอสวยงามมากในสภาพเดิมๆ สวยไม่แพ้ใคร แท้ ดูง่าย รีบเก็บตั้งแต่ตอนนี้นะครับ เพราะพระของหลวงพ่อจรัญ เริ่มหายากแล้ว

    **องค์นี้สวย เดิม ซองเดิมๆๆ เป็นเหรียญสุดท้ายแล้วครับ ให้บุชา เหรียญละ300 บาท**
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2015
  17. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,712
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่214 พระผง เกศาหอม พิมพ์พระสังกัจจายน์ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ปี 2543 ให้บูชา 500 บาทมีผู้รบนิมนต์แล้วครับ
    พระผงรุ่นนี้ผสมมวลสารศักสิทธิ์ เช่น เกศาหลวงพ่อ ดอกไม้ที่สักการะหลวงพ่อและอื่นๆครับ พระผงรุ่นเกศาหอมนี้มี พิมพ์ใหญ่บูชา และพิมพ์เล็ก มีพิมพ์พระสังกัจจายน์ด้วย เนื้อหาพระผง เกศาหอม หลวงพ่อจรัญ มีเนื้อผงสีขาว สีเทา สีออกน้ำตาล (ขึ้นอยู่กับมวลสารที่จัดทำครับ) พระอาจารย์ทองสุกเป็นผู้สร้างและแจกให้ลูกศิษย์หลวงพ่อจรัญครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2015
  18. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,712
    ค่าพลัง:
    +4,635
    ให้บูชาพระเครื่อง วัตถุมงคล หลากหลายรายการ ค่าจัดส่ง50บาททั่วประเทศครับรับประกันแท้ยินดีคืนเงินเต็มจำนวน โดยไม่มีเงื่อนไขครับ (พระต้องกลับมาสภาพเดิมครับ)
    ท่านที่สนใจจองได้ไม่เกิน3วัน โอนเงินได้ที่รายละเอียดที่อยู่ด้านล่าง หลังจากโอนแล้ว รบกวนโทร.หรืออีเมล์มาบอกชื่อที่อยู่สำหรับจัดส่งด้วยครับ
    ติดต่อสอบถามได้ที่
    - Pm
    - เบอร์โทร 0817933946
    ชำระเงินได้ที่
    ธ.กรุงไทย สาขา ศรีย่าน
    ชื่อบัญชี นายวรัญญู เล้ารัตนอารีย์
    เลขที่บัญชี 012-0-14398-4
     
  19. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,712
    ค่าพลัง:
    +4,635
    **มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ:cool::cool::cool:
     
  20. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,712
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่215 เหรียญแสตมป์ ร.๕ รุ่นนะหน้าทอง พ.ศ.๒๕๓๖ หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง มีโค๊ต กล่องเดิมๆ ห้บูชา 300 บาท มีผู้รบนิมนต์แล้วครับ
    **องค์จริงมีโค๊ตครับ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3344188-1.JPG
      3344188-1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      114.9 KB
      เปิดดู:
      76
    • 3344188-2.JPG
      3344188-2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      86.5 KB
      เปิดดู:
      87
    • 181612_BeWqG.JPG
      181612_BeWqG.JPG
      ขนาดไฟล์:
      61.9 KB
      เปิดดู:
      78
    • 195545_kL43t.JPG
      195545_kL43t.JPG
      ขนาดไฟล์:
      54.1 KB
      เปิดดู:
      99
    • 5883627-3.jpg
      5883627-3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78.6 KB
      เปิดดู:
      69
    • 15900 copy.jpg
      15900 copy.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.9 KB
      เปิดดู:
      82
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2015

แชร์หน้านี้

Loading...