ช้างเผือกในป่าอีสาน หลวงตาสมหมาย วัดป่าสันติกาวาส คำสอน/ประสบการณ์/วัตถุมงคล/ (ช่างชิต)

อ่านประสบการณ์เรื่องเล่าของพี่ช่างชิต เรื่องความฝันถึงหลวงตา ต้องรีบมาเล่าเดี๋ยวจะลืมซะก่อนครับ (ช่วงนี้อาจจะคิดถึงหลวงตาท่านเลยเก็บเอาไปนอนฝันถึง 555)

พอดีเมื่อคืนผมก็ปฏิบัติกิจวัตรประจำวันของผมประจำก่อนนอน คือ สวดมนต์/นั่งสมาธิภาวนา แต่ก่อนนั่งสมาธิสิ่งที่ผมทำก่อนทุกครั้งคือ ตั้งจิตอธิษฐานคุณพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ ซึ่งเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เคารพศรัทธาซึ่งรวมถึงหลวงตาสมหมายของเราด้วยครับ หลังจากนั้นนั่งภาวนาพุทโธไปเรื่อยๆ จนกว่าใจจะสงบนิ่ง บางคืน 30 นาทีบ้าง บางคืน 1 ชั่วโมงบ้างแล้วแต่ว่าจิตจะนิ่งนานได้แค่ไหน แต่เมื่อคืนผมรู้สึกง่วงนอนมากนั่งภาวนาไปได้ไม่ถึง 20 นาทีก็ออกจากสมาธิและแผ่เมตตาเสร็จแล้วก็นอนเลยครับ ปรากฏว่าฝันถึงหลวงตาสมหมาย และพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายกรรมฐานหลายรูป เรื่องราวประมาณนี้นะครับ

ผมฝันว่าหลวงตาท่านไปโปรดที่บ้านงานทำบุญบ้านผม (ในฝันรู้สึกว่าจะเป็นทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ญาติผู้ล่วงลับ) พอผมรู้ว่าหลวงตาท่านมาที่งาน ผมก็ได้ไปเรียกญาติๆ พี่น้อง ให้มากราบหลวงตา และรอฟังธรรมจากท่านกันเต็มบ้านเลย แต่ในงานรู้สึกว่าอะไรก็ไม่เรียบร้อยสักอย่าง เครื่องเสียงไมค์ก็มีปัญหาไม่ดังบ้าง หลวงตาก็ยังเทศน์ไม่ได้เพราะไม่มีไมค์ กลัวคนในงานจะไม่ได้ยินกันทั่ว ผมก็ไปกราบเรียนท่านว่าเครื่องเสียงยังไม่ดังเลยครับหลวงตา ท่านก็ยิ้มให้แล้วท่านเมตตาบอกว่าค่อยๆ แก้ปัญหาไปหลวงตาไม่รีบ จากนั้นท่านก็หยิบรูปออกมาจากย่าม เพื่อจะเอามาแจกให้ญาติโยมที่มาร่วมงานบุญ ท่านบอกว่าเป็นรูปที่ไปอินเดียมา ผมก็ตะโกนบอกคนที่อยู่ไกลในมากราบทำบุญกับท่านและรับรูปไปบูชา ในฝันผมปลื้มปิติมากที่หลวงตาเมตตาให้ผมและครอบครัว

หลังจากนั้น ก็ตัดฉากไปที่หลวงตาต้องไปอีกงานหนึ่ง ซึ่งเป็นงานบุญเหมือนกัน ผมก็ขอตามท่านไปด้วย และได้ถือย่ามไปให้ท่านด้วย พอไปถึงงาน ก็ได้เจอพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายกรรมฐานมากกันเยอะมากครับ แต่ในฝันโฟกัสไปที่หลวงปู่ท่อนกำลังเดินมา ซึ่งผมก็ขอโอกาสในการประครองท่านเดินเพื่อไปขึ้นธรรมาสน์ ซึ่งท่านจะแสดงธรรม พอท่านนั่งเสร็จผมก็ได้กราบเรียนถามถึงอาการท่านๆ ก็ตอบแบบธรรมะครับว่าก็ตามสังขารนั่นแหละ แก่แล้ว หลังจากนั้นรู้สึกว่าในงานก็ไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ เหมือนท่านจะสั่งให้หลวงปู่จันทร์เรียนจัดการงานให้เรียบร้อยที ผมหันไปเจอหลวงปู่จันทร์เรียนกำลังเดินเข้ามาในงาน ผมก็รีบเข้าไปกราบแทบเท้าท่าน (องค์นี้ผมอยากไปกราบท่านที่วัดมากครับแต่ยังไม่มีโอกาสเลย) พอกราบท่านเสร็จท่านก็ยิ้มให้ แล้วท่านก็เดินไปจัดการงานในวัดให้เรียบร้อย หลังจากนั้นผมก็สะดุ้งตื่นมาประมาณตี 5 แบบงงๆ ว่าทำไมตัวเองฝันแบบนี้ไปได้ แต่รู้สึกปลื้มปิติมากที่ได้ฝันเห็นพ่อแม่ครูบาจารย์ครับ เอาเท่านี้ก่อนละกันนะครับสำหรับเรื่องความฝัน 5555

 

หลังจากที่มีหลายท่านบอกว่าน่าจะทำกลุ่มใน Facebook ด้วยเพื่อความรวดเร็วในข่าวสาร ช่างชิตพิจารณาแล้วว่าก็เป็นอีกช่องทางที่เพยแผร่กิตติคุณของหลวงตาและคนจะได้รู้จักพระอริยะสงฆ์ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเพิ่มขึ้น จึงทำกลุ่มขึ้นมาใครเล่นเฟสอยู่แล้วฝากเข้าไปติดตามเข้ากลุ่มด้วยนะครับ ขอบพระคุณมาก
https://www.facebook.com/groups/938981642780598/

 

หลวงปู่จันทร์เรียนคือเป้าหมายนะครับ ต้องไปกราบท่านให้ได้ สู้ๆ 555

 

เยี่ยมครับ 5555 อย่าลืมตามไปในเฟสนะครับ

 

ตามไปแน่นอนครับ ว่าแต่สมาชิกกลุ่มเฟสเป็นร้อยเชียว เห็นแล้วตกใจ อิอิ

 

โดนผมยัดเยียดไปเกินครึ่งครับ 5555

 

สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ช่างชิตเอาภาพหลวงตาไปนั่งอธิฐานจิต
งานพุทธธาพิเสก ณ.วัดโนนสังกา อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี มาฝากครับ
ที่เห็นหลักๆเลยก็มี
1.หลวงตาเรา
2.พระครูวินัยกิตติคุณ องค์หลวงตาสาท(ภาพที่หาดูยากมากครับ)วัดป่าหนองแวง อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี
3.พระครูสมาธิวิริยะปัญญาพร องค์หลวงตาวิโรจ วัดป่าภูวังงาม อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี
และก็สวดอิติปิโสตลอดทั้งคืน

 

สวัสดีครับทุกๆท่าน หายไปไม่กี่วัน กลับมาบ้านเราเงียบได้ใจจริงๆ
เมื่อ เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาหลวงตาขึ้นมากรุงเทพ ช่างชิตเข้าไปดูแลอุปฐากท่าน
มีเรื่องมาเล่าให้ฟังเยอะแยะเลยครับ แต่ขอเวลาเรียบเรียงก่อนนะครับ
หลักๆก็จะมี
1.เรื่องอาจารย์หมอและคาถาอาคม
2.ธรรมของพระพุทธเจ้าในทางโลก(โลกียะ)
3.การดูแลพระผู้ใหญ่
4.ช่างชิตขอไปคุยกับผี
5.เรื่องอดีตมันผ่านไปแล้วก็ให้ผ่านไป
6.พระธรรมวินัยกับพระอริยเจ้า
คราวๆก็ประมาณนี้ ยังไงจะรีบมาเล่าส่กันฟังนะครับผม วันนี้เอาภาพหลวงตาอธิฐานจิต พระวิษณุกรรมหลังพ่อแก่ ที่มีลูกศิษย์มาขอให่ท่านเมตตาให้ก่อนเขาจะเอาไปแจกงานไหว้ครู ช่างชิตเอามาให้ชมกันครับ

 

ช่างชิตถามหลลวงตาตอบตอน “พระอาจารย์หมอและคาถาอาคม”
คืนวันศุกร์ที่ผ่านมาช่างชิตรีบนั่งรถจากจันทร์มากรุงเทพเลย เพราะในใจคิดถึงแต่ครุบาอาจารย์ของตน นั้นคือหลวงตานั้นเองครับ แล้วคืนนั้นช่างชิตก็อยู่อุปฐากท่านจนประมาณตีหนึ่ง ก่อนออกมานอนหน้าพระประธานให้ยุงหามเกือบตีสาม ดีพระอาจารย์สำเร็จ(ศิษย์หลวงตาองค์นึ่ง)ท่านลงมาปิดประตู ช่างชิตเลยได้ขอเต็นท์ท่านมากางนอน เช้าตื่นตีห้ากว่าๆมาอุปฐากหลวงตากับพระอาจารย์อู๋ เอาสิแม่คุณ 55555 ตาเป็นหมีแพนด้าเลย ก่อนจะพากันออกไปฉันเช้าบ้านโยมที่นิมนต์กัน
ช่วงคืนวันศุกร์ตอนที่ช่างชิตนวดขาหลวงตาอยู่นั้น ก็ได้มีโอกาสกราบเรียนท่าน เรื่องที่เกิดขึ้นกับพระอาจารย์หมอ บวกกับไปบ้านโยมเช้าวันเสาร์ โยมก็ได้ถามอีก ได้ใจความดังบทสนทนาต่อไปนี้ ครับ

ชช “หลวงตาครับ ทำไมพระอาจารย์หมอถึงโดนแบบนั้นละครับ”

ลต “มันเป็นกรรมของท่าน หลวงพ่ออินทวายท่านก็กล่าว มันเป็นการให้ผลของกรรมแม้จะเป็นพระไปแล้วบรรลุธรรมขั้นไหนก็ตาม ก็ต้องได้รับผลของกรรมอยู่ดี การให้ผลของกรรมนั้นละเอียดซับซ้อนมากเกินปัญญามนุษย์จะเข้าใจได้ พระพุทธเจ้าท่านจึงบอกว่าการให้ผลของกรรมนั้นเป็น อจินไตย ดูอย่าง วิฑูพะกับศากยวงศ์สิ (เคยเขียนไปแล้วนะครับรายละเอียดลองหาอ่านดู) พระพุทธเจ้าทรงไปห้ามทัพตั้ง 3 ครั้ง จนท่านมาพิจารณาถึงรู้ว่าเป็นกรรมของศากยวงศ์ที่เคยร่วมกัน เอายาเบื่อไปวางฆ่าสัตว์ในแม่น้ำในอดีตส่งผล สุดท้ายรอบที่ 4 ท่านก็ไม่ได้เสด็จไปห้าม”

ชช “พระอาจารย์หมอท่านน่าจะมีคาถาอาคมนะครับ อาจรอดก็ได้”

ลต “โอ้ยออย (หลวงตากล่าวพร้อมหัวเราะ) มีคาถาอะไรก็ต้องตาย ดูพระโมคลานะ ท่านสิ จะเอากี่ฤทธิ์กี่คาถา ท่านก็ยังโดนโจร 500 คนทุบจนกระดูกแหลกจนท่านละสังขาร มันเป็นกรรม กรรมที่ท่านเคยฆ่าแม่ตาบอดชาติก่อนอาจารย์หมอยังโดนแค่คนเดียวมาฆ่าดีกว่าพระโมคลานะอีก ”
แล้วหลวงตาก็เล่าประวัติอาจารย์หมอให้ฟัง (ประมาณที่ช่างชิตเคยเอาข้อมูลมาลงนั้นละครับ)

ชช “แล้วประเด็นการสังหาร ตอนนี้ออกข่าวว่าจับได้แล้ว บอกเป็นประเด็นชู้สาวเพราะผัวหึงเมียที่มาวัดบ่อยๆ มันยังไงครับแล้วประเด็นที่ดินรอบวัดละ”

ลต “หลวงตาก็ไม่รู้หรอกว่าจริงๆสาเหตุเพราะมันอะไร แต่มันก็มีนะ เคยเกิดขึ้นหลายที่ ที่ผัวตบตีเมียต่างๆนาๆ จนเมียอยู่ไม่ได้หนีมาบวชมาเข้าวัดเข้าวา ผัวก็มาตามเมีย ก็มาด่ามาว่าพระ และอีกอย่างก็คือ เมียมาวัดพอเข้าวัดมาปฏิบัติ เมียก็เริ่มละในกามคุณ กลับไปบ้านไปนอนกับผัวก็ไม่มีความใคร่ความอยาก ผัวก็มองว่าเมียเปลี่ยนไป บางคนก็มาบวชชีพราหมณ์เป็นเดือนๆจึงทำให้คิดว่าเมียไปติดพระติดเจ้าก็มี ก็มาตามเมียตามอาฆาตพระทั้งๆที่พระท่านไม่รู้เรื่อง มองว่าถ้าพระตาย เมียจะได้ไม่มาวัด”

ชช “อ้าว ซะงั้น แล้วมันกลับไม่เคยโทษตัวเองเลยนะครับ ว่าที่เมียเปลี่ยนไปเพราะอะไร”

ลต “กิเลสตัณหาบังตา มั่วแต่พิจารณากล่าวโทษคนอื่น ตัวเองไม่เคยพิจารณาไม่เคยโทษ นั้นละจึงเป็นแบบนั้น พระพุทธเจ้าท่านจึงสอนให้เราพิจารณาตัวเอง”

ครับช่างชิตฟังแล้วก็ปลงในหลายๆอย่าง การให้ผลของกรรมมันเป็นอะไรที่ อจินไตย จริงๆแต่ยังไงเสีย มีโยมถามหลวงตาว่า “พระอาจารย์หมออัฐิเป็นพระธาตุหลวงตารับรองไหม ว่าท่านใช่จริงเปล่า” หลวงตากล่าวสั้นๆตอบกลับไปแบบมั่นใจแฝงในน้ำเสียงว่า “หลวงตารับรอง” อ่านแล้วก็ไปพิจารณากันเองนะครับสำหรับเรื่องนี้
ที่หายไปนานๆก็ไม่ได้ไปไหนหรอกนะครับ บางทียุ่งบางที่ไม่สะดวกเขียน จึงเงียบไป พวกเราก็เข้ามาทักทายกันบ้างนะ ยังไงช่างชิตยังรักบ้านหลังนี้อยู่เสมอ
เพราะเป็นหลังแรกของช่างชิตในการเขียนเรื่องราวของหลวงตา แม้จะสร้างหลังที่สองที่สาม แต่ช่างชิตก็จะไม่ทิ้งบ้านหลังนี้แน่นอน ขอเพียงทุกๆท่านยังมาเยี่ยมมาเยือนมามอบกำลังใจให้กันและกันแบบที่ผ่านๆมา บ้านหลังนี้แม้ไม่ใหญ่ไม่มากคนแบบใครเขา แต่ช่างชิตก็อบอุ่นใจและมีความสุขที่ทุกท่านยังอ่านยังติดตามอยู่นะครับ พรุ่งนี้เดี้ยวจะมาเล่าต่อในตอนอื่นๆ คืนนี้ ฝันดีราตรีสวัสดิ์ครับผม

 

ถ้าหลวงตาท่านได้รับรองแล้ว ถือว่า "ใช่" เป็นแน่แท้ สาธุครับ

 

ติดตามอ่านอยู่เสมอ แต่ไม่ค่อยล็อกอิน เป็นกำลังใจให้นะครับ

และขออนุโมทนาบุญทุก ๆ ประการกับช่างชิตและเพื่อนสมาชิกด้วยครับ
อนุโมทนา สาธุครับ...

 

สวัสดีครับทุกๆท่าน มาต่อกันดีกว่าครับ ไม่เรียงลำดับนะเอาที่นึกตอนไหนได้ก่อนละกัน 555 "การดูแลพระผู้ใหญ่" ในคืนวันอาทิตย์หลังจากหลวงตากลับมาจากกิจนิมนต์ ช่างชิตกับพระอาจารย์อู๋และคุณฌานกรก็เตรียมน้ำให้หลวงตาสท่านสรง สรงน้ำท่านเสร็จท่านก็เอ่ยปากถามช่างชิตทันที ดังบทสนทนาต่อไปนี้

ลต "ออยรู้จักหลวง.......ไหม" หลวงตาพูดพลางเช็ดตัวไป

ชช "รู้จักครับหลวงตา เคยอ่านประวัติท่านแต่ไม่เคยไปกราบท่านเลยครับ"

ลต "หลวงตาเห็นคนดูแลจัดการท่านเป็นแม่ชีที่สั่งการนู้นสั่งนี่ทุกอย่าง ดูแล้วก็ไม่สบายใจ" ท่านกล่าวด้วยสีหน้าแบบ.....เรียกอะไรดีละ นึกไม่ออก เอาเป็นว่า สีหน้าไม่ใช่ถูกอกถูกใจชอบใจว่างั้นเถอะ

ชช "อ้าว แล้วไม่มีใครไปบอกไปเตือนเขาละครับ" ช่างชิตทำหน้าฉงน

ลต "บอกไม่ได้หรอกมันเป็นจะโทษ"

ชช "อะไรคือเป็นโทษครับหลวงตา"

ลต "เป็นโทษก็คือ บอกไปแล้วเขาก็จะเคืองจะชังจะอาฆาตเอาได้ เพราะเขาถือว่าเขาเข้ามาดูแลตั้งนานแล้ว เขาก็จะบอกว่าเขาทำมานานแล้ว พอหลวง........ดังจะมาไล่เขาได้ไง ทำไมแต่ก่อนไม่มีใครดูแล ก็จะเข้าใจกันไปแบบนั้นอีก"

ชช "แล้วหลวง.......ท่านไม่บอกไม่พูดหราครับว่ามันไม่เหมาะสม"

ลต "ท่านแก่แล้ว คนเราพอแก่แล้ว ให้ด่าให้ว่าใครก็ไม่อยากจะทำหลวงตาก็เป็น"

ชช "หลวงตาสบายใจเถอะครับกับหลวงตาออยไม่ให้ผู้หญิงเข้ามาทำแบบนี้หรอกครับ ออยรู่ว่ามันดูไม่ดี ถ้าออยเห็นว่าใครมาทำเกินเลยดูแล้วไม่เหมาะสม เดี้ยวออยด่าให้ครับหลวงตา" ช่างชิตกล่าวแบบมีอารมณ์เพราะเรื่องนี้ก็ไม่ชอบใจมานานละ แต่ไม่เคยได้กล่าวกับท่านเท่านั้น

ลต "ของแบบนี้เราต้องบอกเขาตั้งแต่เขาเข้ามาแรกๆต้องปราม ต้องห้ามกันตั้งแต่ตอนนั้นละ จะได้ไม่เกิดปัญหาตามหลัง"

ชช "ครับหลวงตา"

..........ช่างชิตเองส่วนตัวเห็นหลายวัดครับ ที่แม่ชีชี้นิ้วสั่งการพระสงฆ์องค์เจ้า
สั่งควบคุมทุกอย่างในวัดมีอำนาจเหนือพระไปซะงั้น ดูแล้วไม่เหมาะสมมากๆ ไม่เหมาะสมยังไงคงไม่ต้องบอกนะครับแม้จะไม่ได้ไปจับไปต้องกายพระท่านก็เถอะ (แม้แต่วัดครูบาอาจารย์ใหญ่ๆอย่างวัดหลวงตามหาบัวก็มีเคสนี้เกิดขึ้นครับ เหตุเพราะหลวงตามหาบัวท่านอาพาธ แล้วแม่ชีคนหนึ่งก็ถือวิสาสะจัดแจงจัดการนั้นนี้เกี่ยวกับท่าน คนเขามองมาก็เกิดไม่พอใจจนเป็นเรื่องเป็นราว คนในวัดพากันรวมตัวไล่ ช่างชิตดูเคสนี้เป็นเคสตัวอย่างก็บอกกับตัวเองว่า ถ้าเป็นไปได้ถ้าตัวเองได้มีส่วนได้รับผิดชอบเรื่องอะไรแบบนี้จะปรามและไม่ให้มันเกิดขึ้น ที่ยกเรื่องนี้มาเป็นตัวอย่าง เนื่องจากไม่ใช่ความลับอะไร มีคลิปวันขับไล่ วิพากษ์วิจารณ์ในเนตมานานแล้วครับ เห็นแล้วสงสารพ่อแม่ครูบาอาจารย์ครับที่ต้องมาโดนคนตำหนิเพราะคนทำไรไม่คิดไม่กี่คน)
ก็อยากฝากกันไว้นะครับผม อะไรควรไม่ควร เหมาะสมไม่เหมาะสม ทั้งผู้ชายและผู้หญิงดูแล้วไม่สมควรก็อย่าไปทำ มันจะเสื่อมจะเสียตัวครูบาอาจารย์เราเองนั้นแหละครับ ถ้าเป็นสตรีเพศไม่ว่าจะเป็นโยมหรือแม่ชี อยากอุปฐากดูแลครูบาอาจารย์ก็ให้เหมาะสมกับเพศของตนให้มีขอบเขตและดูวินัยข้อห้ามของพระท่านด้วย บางเรื่องมันไม่ผิดธรรมวินัยก็จริง แต่ถ้าดูไม่สมกาลเทศะก็ทำให้ชาวโลกติเตียนเอาได้ เขาว่าใครละครับ!! ถ้าไม่ว่า หลวงปู่ หลวงตา หลวงพ่อ ที่ตนไปทำแบบนั้นด้วย ช่างชิตเชื่อครับว่า 90% ก็หวังดีต่อครูบาอาจารย์ที่ตนนับถือละ แต่ถ้าเราขาดสติ มันก็จะเป็นดาบกลับมาแทงตัวเราและครูบาอาจารย์ท่านอีกด้วย ฝากไว้ครับ

 

หลวงปู่ใหญ่(บุญจันทร์) วัดป่าสันติกาวาส เรางดงามมากครับเรื่องนึ้ ตลอดชีวิตท่านถือวินัยและพรหมจรรย์บริสุทธิ์ วัดป่าสันติแห่งนึ้จึงไม่พ้นพระอริยเจ้าครับ

 

สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน และท่านช่างชิตนะครับ

หายไปหลายวันเพราะต้องไปปฏิบัติภารกิจที่ต่างจังหวัด ตั้งใจจะมาเขียนเรื่องราวความประทับใจต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่หลวงตาท่านมากิจนิมนต์ในกรุงเทพฯ วันที่ 13 - 16 มี.ค.ที่ผ่านมาครับ

ผมได้มีโอกาสไปกราบหลวงตาวันที่ 14-15 ที่บ้านพักสงฆ์สายไหมซอย 30 ตอนแรกตั้งใจจะไปตั้งแต่เย็นวันศุกร์แต่เช็คคิวหลวงตาแล้วว่าท่านกลับมาดึก เพราะไปกิจนิมนต์ข้างนอกกลับมาถึงที่พักก็ 4 ทุ่มแล้วก็เลยต้องใจว่างั้นไปกราบท่านวันเสาร์ละกัน

วันเสาร์ที่ 14 ตื่นเช้ามาผมก็โทรหาช่างชิตเลยครับ เพราะได้ข่าวว่าเมื่อคืนแอบไปนอนกะหลวงตาที่บ้านพักสงฆ์ พี่ชิตก็แจ้งทางเฟสบอกใครจะมากราบหลวงตาให้มาเวลา 12.00 -14.00 น. ผมก็ได้โอกาสเตรียมตัวไปกราบหลวงตาด้วยความตั้งใจเลย ตอนแรกก็เข้าออฟฟิศไปทำงานฆ่าเวลาไปก่อน ใจก็นึกขึ้นมาว่าจะหาอะไรไปถวายหลวงตาและคณะดีนะ เลยโทรไปปรึกษาพี่ชิตว่าจะเอาอะไรไปถวายหลวงตาดี (เพราะผมเองกังวลเรื่องของการผิดวินัยพระด้วยเลยต้องเช็คก่อน) พี่ชิตบอกว่าหลวงตาท่านชอบฉันน้ำผึงมะนาวโซดา บอกว่ามาทำถวายท่านที่บ้านก็ได้ ผมก็เลยรีบไปตลาดจัดแจงซื้อหาวัตถุดิบมาเพื่อจัดทำถวายหลวงตา ซื้อมะนาว+น้ำผึง+โซดา และน้ำแข็งไปเรียบร้อยเลย (แต่ในใจคิดอยู่ทำยังไงว่ะ ทำไม่ค่อยเป็นด้วยสิ 555)

พอไปถึงที่พักสงฆ์พี่ชิตออกมารับแล้วก็บอกกับพระอาจารย์อู๋ว่าผมซื้อของจะมาทำน้ำปานะถวายหลวงตาและคณะ พระอาจารย์บอกว่าให้พี่ชิตพาผมไปกราบหลวงตาก่อนแล้วกัน เพราะหลวงตาท่านจะได้พักผ่อน ก็เลยเข้าไปกราบท่านในห้องพัก ท่านก็ถามไถ่ว่ามาจากไหน ผมก็เรียนท่านไปตามปกติพูดคุยสนทนากับหลวงตาไปเรื่อยๆ หลวงตาท่านก็เหมือนเดิม ท่านเน้นหนักให้พวกเราพากันภาวนา เอาพุทโธให้มันได้ ผมก็นำเรียนท่านไปว่าก็ภาวนาอยู่ครับแต่ยังไปไม่ถึงไหน ใจมันไม่ค่อยสงบเลย
ลต. ก็ต้องพยายาม ภาวนาไปเรื่อยๆ อย่าไปคิดอะไร พุทโธๆ ไปเดี๋ยวก็สงบเอง
ผม. ครับผมหลวงตา

แล้วจู่ๆ พี่ชิตก็บอกหลวงตาไปว่า

ชช. น้องเค้าโชคดีกับหลวงตา หลวงตาให้แหวนไป เค้าถูกหวยเลยครับ
ลต. ถูกหวยอะไร หวยมันเป็นกิเลสมันหลอกให้เราเล่นเด้

แล้วหลวงตาก็ถามว่าไหนเอามาดูสิ ผมก็เลยยื่นแหวนให้ท่านดู เป็นแหวนที่่ท่านมอบให้ แหวนครบรอบอายุ 64 ปีของท่าน ท่านพิจารณาอยู่เฉยๆ ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร ท่านเห็นอีกวงท่านทักว่า อีกวงหนึ่งของหลวงปู่ไมเบาะ ผมตอบครับ ท่านว่าโห้แหวนเต็มนิ้วเลย 555

แล้วก็เปลี่ยนเรื่องคุย แล้วผมก็ถวายใบปวารณาต่อหลวงตา ท่านก็หยิบขึ้นมาอ่าน "ผมเขียนประมาณว่า โต้ง และครอบครัว น้อมถวายปัจจัยหลวงตาฯ " ท่านก็ถามว่ามีครอบครัวแล้วเบาะ ผมก็เรียนท่านไปว่ามีแล้วครับ เคยพาแฟนมากราบหลวงตาครั้ง 1 อยู่ที่นี่ แต่วันนี้เค้ามาไม่ได้เค้าแพ้ท้องครับ

ลต.ท้องแล้วเบาะ กี่เดือนแล้ว
โต้ง. 2 เดือนแล้วครับหลวงตา อืม
ลต. คนแพ้ท้องนี่เค้าจะอยากกินโน่นกินนี่เด้ บางคนชอบกินของเปรี้ยว
โต้ง. แฟนผมกินไม่ค่อยได้เลยครับหลวงตา กินแล้วก็จะคลื่นไส้อาเจียน
ลต. เออมันเป็นแบบนั้นแหละคนเราแพ้ไม่เหมือนกัน อย่างเช่นในสมัยพุทธกาล พระนางเวเทหิเมียของพระเจ้าพิมพิสาร แม่ของพระเจ้าอชาตศัตรู นางแพ้ท้อง อยากกินเลือดของพระสวามี ด้วยความรักเมียและลูกในท้อง พระเจ้าพิมพิศาลจึงเอาเลือดของตัวเองไปให้เมียกิน พอได้กินเลือดของผัวก็หายแพ้ทอง ที่นี้เค้าก็ให้โหรมาทำนายดวงชะตาของลูกในท้องว่าจะเป็นยังไง โหรทำนายว่า พระกุมารในท้องเมื่อโตขึ้นมาจะทำการปิตุฆาต คือ ฆ่าพ่อ พระนางเวเทหิทราบเรื่องก็พยายามทำทุกอย่างให้แท้ง แต่ถูกพระเจ้าพิมพิสารห้ามไว้ไม่ให้ทำ ให้ลูกเกิดมาโดยปกติ เพราะไม่เชื่อว่าลูกจะฆ่าพ่อตัวเอง เมื่อคลอดแล้วจึงตั้งชื่อว่า "อชาตศัตรู" (แปลว่า ผู้ที่ไม่เป็นศัตรู) แต่เมื่อโตมา พระเจ้าอชาตศัตรู ก็เริ่มเห็นผิดไปเชื่อในพระเทวทัต ยุ่งยงส่งเสริมให้ฆ่าพ่อ เพื่อที่พระเจ้าอชาตศัตรูจะได้ขึ้นเป็นพระราชาแทน ท่านจึงเชื่อในพระเทวทัตก็เลยจับพ่อไปขังและฆ่าพระเจ้าพิมพิสาร เป็นดังคำทนาย แต่เรื่องนี้หลวงตาว่าเป็นเพราะความเห็นผิดและกรรมที่กระทำต่อกันมาแต่ชาติปางก่อน และท่านก็เล่าเรื่องชาดก และตำนานอีก 2-3 เรื่องผมก็จำไม่ค่อยได้ครับ ก็คุยกับหลวงตาไปท่านก็บอกว่านั่นแหละแต่ละคนแพ้ไม่เหมือนกันหรอก ผมก็เลยหัวเราะบอกกับหลวงตาว่า ขออย่าให้ลูกผมเป็นแบบพระเจ้าอชาตศัตรูนะครับ

อีกสักพักเมื่อคุยกับหลวงตาไปสักพัก พวกเราก็ออกมาเพื่อให้หลวงตาท่านได้พักผ่อน เพราะบ่าย 2 ท่านต้องไปกิจนิมนต์อีก หลังจากนั้นผมก็ออกมา เพื่อเตรียมตัวทำน้ำผึ้งมะนาวโซดาถวายพระ ผมก็ทำไปเรื่อยๆ เปิดหาสูตรในเน็ตทำเลย ทำไปผสมไปพอได้ที่ก็นำไปถวายพระอาจารย์อู๋และคณะให้ท่านฉัน แล้วก็มาชงแจกญาติโยมที่มากราบท่านและลูกศิษย์ที่ตามคณะหลวงตามา พอประมาณบ่ายโมงเกือบบ่ายสองหลวงตาออกมานั่งรับแขก มีน้องจากจันทบุรีมาพร้อมภรรยา มากราบหลวงตา ผมก็เลยชงน้ำผึ้งมะนาวโซดาไปถวายหลวงตา ท่านก็ถามก่อนเลยว่าได้กรองหรือป่าว (ผมไม่แน่ใจว่าท่านกลัวผิดเรื่องพระวินัยหรือป่าว) ผมก็ตอบท่านว่ากรองครับหลวงตา ท่านก็หยิบขึ้นมาฉัน หลวงตาบอกโอ้ยเปรี้ยวหลาย เอาน้ำผึ้งมาเติม (ผมก็ยิ้มดีใจที่หลวงตาท่านฉันที่เราทำไปถวาย แต่อาจจะเปรี้ยวไปสำหรับวัยอย่างหลวงตาครับ แต่สามารถแก้ได้ด้วยน้ำผึ้ง อิอิ) หลวงตาท่านก็สนทนาคุยกับน้องที่มาจากจันท์ น้องเค้าบอกหลวงตาว่า ไปตรวจเรื่องการเตรียมพร้อมมีบุตรมา หลวงตาท่านก็เลยเล่าเรื่องการมีบุตร ไม่มีบุตรเป็นเพราะบุญสัมพันธ์กัน คนที่มีบุญสัมพันธ์กันหรือกรรมที่กระทำร่วมกันมาก็ต้องเวียนว่ายตายเกิดกันไปอย่างนี้ แต่บางคนที่ไม่มีบุตรเพราะทำกรรมเก่าไว้เยอะ เค้าเลยไม่อยากมาเกิดด้วย แล้วท่านก็เล่าว่าวิธีการคุมกำเนิดในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าท่านให้ถือศีล 8 ไม่ให้ยุ่งกัน เป็นการคุมกำเนิดแบบธรรมชาติ แต่สมัยนี้เป็นวิธีการที่ไม่ธรรมชาติ เป็นวิธีการทางการแพทย์สมัยใหม่ ถือว่าเป็นบาป บาปทั้งผู้ทำและหมอด้วย (ผมกับพี่ชิตและคณะถือว่าเป็นความรู้ใหม่เลยครับ) หลวงตาท่านว่าธรรมชาตินั้นต้องมีเกิดแก่เจ็บตาย เวียนวายตายเกิดอยู่อย่างนี้ แต่เราไปห้ามไม่ให้เกิดถือว่าผิดธรรมชาติจึงเป็นบาปครับ



หลวงตาท่านก็เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟังค่อนข้างเยอะเหมือนกัน ผมเองก็จำใจความได้ประมาณนี้ก่อนที่คณะสงฆ์เตรียมตัวจะออกไปกิจนิมนต์ข้างนอกกัน หลวงตาสาท ท่านก็เดินลงมาจากห้องพัก ผมจึงได้โอกาสกราบถวายพวงมาลัยต่อท่าน สักพักก่อนคณะสงฆ์จะออกไปกิจนิมนต์น้องที่มาจากจันท์ ก็เลยขอของดีจากหลวงตา เป็นจังหวะดีสำหรับผมด้วย พี่ชิตบอกเค้าไปเอาของดีกับหลวงตาด้วย ท่านก็เลยเรียกผมเข้าไปเอา ท่านบอกว่าเอาไป พุทโธ ธัมโม สังโฆ เอาไปฝากเมีย และลูกในท้องด้วยนะ ท่านเมตตาหยิบเหรียญธรรมจักรให้ผม 3 เหรียญตามที่ท่านบอกครับ แล้วท่านก็เคาะหัวผม ก่อนจะถอยหลังออกมาแล้วกราบลาท่านพร้อมกับพี่ชิต แล้วบอกหลวงตาว่าพรุ่งนี้จะมากราบท่านอีกวัน ท่านบอก เออๆ โชคดีๆ

จบวันแรก เรื่องราวที่นึกขึ้นได้ประมาณนี้ครับ หลวงตาท่านเมตตามากๆ ครับ อยู่ใกล้แล้วเย็นสบายใจ

เดี๋ยวเรื่องราววันที่ 2 จะมาเล่าต่อนะครับ อันนี้มีประสบการณ์เกิดขึ้นอีกแล้ว เรื่องโชคลาภ (คนชอบเล่นหวย)

 

สวัสดีครับทุกท่าน ขอบคุณคุณลูกศิษย์วัดท่าซุงมากครับ เราเห็นพ้องต้องกันในเรื่องนี้
และขอบคุณคุณฌานกรด้วยครับที่มาแชร์ความรู้สึกดีๆ อย่าลืมนะครับ มีประสบการณ์อะไรก็เอามาเล่าสู่กันฟัง พร้อมกับแบ่งโชคลาภมาให้ด้วยเด้อ อิอิ
.......วันนี้ มีอะไรที่แปลกใจมาฝากกันครับ คือ มีดารานักแสดงชื่อดังมากราบหลวงตาท่านถึงวัด ที่แปลกใจเพราะ ช่างชิตไม่ค่อยเห็นพวกดารานักแสดงมากราบพระสายนี้ ส่วนมากจะไปสายคาถาอาคม ลงนะ ลงทอง มากกว่า แต่ผู้จัดการเขาคงพามาละครับ ช่างชิตเชื่อว่าตัวเขาเองไม่รู้จักหรอก 5555 (แต่ก็ดีละเพราะถ้าดารานักแสดงมาขึ้นท่านมากๆ พวกพุทธพานิชย์หากินกับครูบาอาจารย์ก็จะวิ่งเข้ามาผลประโยชน์อีก) ส่วนดาราคนนี้เป็นใครก็ดูจากภาพได้เลยครับ ยังไงก็อนุโมทนากับน้องเขาด้วยละกัน เขาจะเจตนาไม่เจตนามาก็ถือว่าเขามีบุญละ ที่ได้เข้าไปกราบท่านโดยไม่ได้นัดหมายเอาไว้ สาธุครับ

 

มาต่อกันวันที่ 2 นะครับ คือวันที่ 15 มี.ค.2558 ผมก็นัดกันกับพี่ชิตแล้วว่าจะเข้าไปกราบหลวงตาและคณะประมาณ 6 โมงเย็น โดยวันนี้พี่ชิตไปถึงก่อนผม ผมเองก็ตามไป ก่อนเข้าไปก็แวะซื้อน้ำผลไม้ไปถวายหลวงตาและคณะตามปกติ พอไปถึงก็ได้เจอญาติโยมหลายคนมากราบหลวงตา ผมกราบท่านเสร็จก็นั่งฟังหลวงตาท่านสนทนากับญาติโยมที่มากราบท่าน แล้วพี่ชิตก็แนะนำให้รู้จักพี่ท่านหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ที่ถวายหลวงตาให้เป็นที่พักสงฆ์ ชื่อพี่ตุ่น แกก็เข้ามาคุยกับพี่ชิตและผม บอกว่าปีนี้ต้องมาช่วยงานกฐินกันนะ ออยเป็นประธาน (ออยคือพี่ชิต) ส่วนโต้งเป็นรองประธาน พวกเราก็ทำหน้างงๆ กันไป 555 รับคำเชิญชวนจากพี่ตุ่นกันไปแบบงง ว่าจะช่วยงานกฐินปีนี้เต็มที่ 55555

หลังจากนั้นพี่ตุ่มเจ้าของบ้านแกก็ปรึกษาหลวงตาว่าจะกำหนดวันทอดกฐิน ซึ่งเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายน ส่วนวันที่แน่นอนคงจะแจ้งกันมาอีกทีครับ หลวงตาท่านก็พูดคุยกับญาติโยมต่อแล้วท่านก็บอกว่าวันนี้จะทำวัตรสวดมนต์ประมาณ 2 ทุ่มให้อยู่สวดมนต์กันนะ เสร็จแล้วหลวงตาก็ขอตัวไปสรงน้ำ ซึ่งพี่ชิตและพระอาจารย์อู๋ก็ได้เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับสรงน้ำให้หลวงตา แล้วก็เป็นบุญผมอย่างยิ่ง เมื่อพระอาจารย์อู๋เรียกผมเข้าไปสรงน้ำหลวงตาด้วย ท่านเมตตาแนะนำการปฏิบัติในขั้นตอนต่างๆ ต่อครูบาอาจารย์ทุกอย่าง ซึ่งก่อนหน้านี้ ผมเองก็ไม่เคยได้ปรนนิบัติรับใช้พ่อแม่ครูบาอาจารย์รูปใดเลย ตอนแรกก็เกรงๆ แต่พระอาจารย์ท่านเมตตาแนะนำก็ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากครับ นับว่าเป็นบุญวาสนาของผมจริงๆ ผมสรงน้ำให้หลวงตาเสร็จก็มาเช็ดเท้าให้ท่านก่อนท่านจะเข้าห้อง แล้วพระอาจารย์ก็เรียกผมไปหาแล้วบอกว่า เอาจะให้บุญท่านยื่นอังสะและผ้าอาบน้ำของหลวงตาให้ผมแล้วบอกซักผ้าให้ตานะ ท่านแนะนำผมเสร็จผมก็ทำตามทุกอย่างแบบไม่ขาดตกบกพร่องซักตอนเดียวเลย (ปลื้มปิติมากๆครับ) เมื่อซักผ้าให้หลวงตาและนำไปตากเรียบร้อยแล้ว ผมก็กลับเข้าไปในห้องหลวงตาอีก ช่วงนั้นพี่ชิตกับพี่อีกท่านหนึ่งกำลังนวดถวายหลวงตาอยู่ หลวงตาให้นวดเส้นบริเวณข้อพับเข่าให้ ท่านว่ามันปวด ผมเลยขออนุญาตท่านนวดขาอีกข้าง ระหว่างนั้นหลวงตาก็สอนไปเรื่อย พี่ชิตก็ถามคำถามที่ตัวเองสงสัยหลายๆ เรื่องหลวงตาท่านก็ตอบคำถามอย่างมีหลักการและเหตุผลตามที่ท่านรู้ท่านปฏิบัติมาทำให้เราเข้าใจมากขึ้น เรื่องไหนที่ท่านไม่เคยพบหรือเคยเห็นท่านก็จะบอกเพียงแค่ว่าเห็นเค้าว่าอย่างนั้น แต่หลวงตาไม่เคยเห็น จนมีช่วงหนึ่งพี่ชิตก็พูดถึงหลวงปู่สนั่น วัดป่าคลองกุ้ง ขึ้นมาแล้วผมก็ถามว่าหลวงตาเคยเจอหลวงปู่ไหมครับ

ลต. เคยเจอสิ ไปเจอท่านที่อินเดีย ท่านเป็นพระผู้เฒ่า (อาวุโส) แต่ท่านแข็งแรงนะ
ชช. ท่านเดินขึ้นเขาคิชกูฎนะ
โต้ง. คิชกูฏที่เมืองจันท์หรอพี่
ชช. ไม่ใช่ คิชกูฎที่อินเดีย ท่านว่ามีคนดูถูกว่าท่านแก่แล้วเดินไม่ไหว ท่านเลยเดินขึ้นให้ดู (ท่านเล่าให้ฟังนะ)
ลต. ท่านอายุ 92 แล้วนะหลวงปู่น่ะ
โต้ง. ครับผม (ผมกับงงว่าหลวงตาท่านบอกอายุหลวงปู่หรือว่าท่านใบ้หวยเราหว่า แอบเก็บข้อมูลไว้ในหัวเลย 92 ห้ามพลาด 555) แต่จังหวะนั้นคิดเรื่องนี้มากไม่ได้ ต้องโดนหลวงตาเอ็ดเอาแน่ๆ
ลต. แล้วหลวงปู่สนั่นท่านอยู่ที่วัดป่าคลองกุ้ง ท่านอยู่ตรงไหน
ชช. พี่ชิตก็อธิบายบริเวณกฏิที่หลวงปู่สนั่นพักให้หลวงตาฟัง (ผมจำรายละเอียดไม่ได้ครับ แต่หลวงตาท่านเข้าใจเพราะท่านเคยไปวัดป่ากุ้งครับ)

พอสนทนากันไปสักพักหลวงตาก็บอกว่าพอแล้ว ให้พากันไปเตรียมตัวทำวัตรสวนมนต์นะ ผมกับพี่ๆ ก็ออกมาเตรียมพร้อมกัน พี่ชิตของตัวไปกินข้าวหน้าปากซอย ส่วนผมนั่งรอคณะสงฆ์ลงมาทำวัดพร้อมกัน สักพักพี่ตุ่นกับน้องสาวก็เดินมาจากบ้านใกล้ๆ ในซอยเดียวกัน เพื่อมารอทำวัด จู่ๆ แกก็มากระซิบ สวดชัยยะนะ (เห็นเค้าว่าเป็นบทสวดของหลวงปู่ขาว) ถูกล็อตเตอรี่แน่ หลวงตาบอกพี่ ผมก็ได้แต่ยิ้มๆ แล้วก็สวดมนต์ไปพร้อมกับพระสงฆ์ ก็สวดกันไปเรื่อยๆ แล้วหลวงตาก็พาสวดบทชัยยะ ผมก็เปิดหนังสือสวดตาม ไม่คล่องปากเพราะไม่เคยสวดเลยในชีวิต และก็สวดอีกหลายบทตามที่หลวงตาท่านนำสวด จนจบการทำวัตร หลวงตาท่านก็หันมาสนทนากับญาติโยมต่อ ผมกับพี่ชิตก็ขอตัวออกมาสูดอากาศด้านนอกเพราะวันนั้นร้อนมากๆ ก็เลยมาสนทนาธรรมและเรื่องประวัติวัตถุมงคลของหลวงตากับพระอาจารย์อู๋ จนถึงประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง หลวงตาท่านก็ขอตัวจากญาติโยมเข้าไปพักในห้องพักของท่าน เพราะท่านรู้สึกเหนื่อย ผมก็เลยร่ำลาพี่ๆ ญาติโยมที่มาสวดมนต์กับหลวงตา แล้วก็เดินเข้าไปกราบลาหลวงตาในห้อง ท่านก็ให้พรบอกโชคดี ผมกราบลาพระอาจารย์อู๋ และอีกรูป (ผมจำชื่อท่านไม่ได้) และพี่ชิต ซึ่งตอนนั้นกะลังนวดถวายหลวงตาอยู่บอก แล้วขับรถกับบ้านด้วยความปลื้มปิติ อิ่มบุญมากๆ ก็แอบคิดในใจว่าหลวงตาพูดถึงอายุหลวงปู่สนั่น ท่านให้หวยหรือป่าวน๊า แต่ไม่น่าใช่เพราะปกติหลวงตาจะสอนเราให้เอาแต่พุทโธตลอด แต่ในใจผมก็บอกว่าเอาหน่อยน่ะ ผมมีโชค 5555

ตอนเช้าวันที่ 16 ผมต้องเดินทางไปจังหวัดสงขลา ต้องออกแต่เช้าตรู่ไปขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ เพราะเครื่องที่ดอนเมืองเต็มทุกสายการบิน เลยต้อนไปถึงโน้น ผมเลยรีบออกมาจากบ้านเพื่อไปขึ้นรถแท็คซี่ (กลัวรถติดจะไม่ทันเครื่อง) ก่อนขึ้นรถแอบแวะแผงล็อตเตอรี่ซะหน่อย จัด 92 ไปสองใบ (ไม่กล้าซื้อมากกว่านั้นกลัวตังค์ไม่พอค่ารถแท็คซี่เพราะในกระเป๋ามีอยู่ประมาณ 500 โดยค่าล็อตตารี 220 บาท) พอไปถึงสนามบินด้วยความรีบเพราะอีก 5 นาทีเค้าเตอร์ปิดแล้ว สุดท้ายได้วิ่งขึ้นเครื่องเป็น 2 คนสุดท้านในเครื่องบินลำนั้น ไปถึงเครื่องก็รีบไลน์บอกแฟนว่า ฝากแม่ยายซื้อหวยใต้ดินหน่อย จัด 92 เป็นอีก 100*100 และตัวอื่นอีกนิดหน่อย คิดในใจทำงานเสร็จค่อยลุ้นว่าหวยออกไร

พอไปถึงสงขลาก็ทำงานตามปกติจนถึงบ่าย 3 ครึ่ง ช่วงนั้นก็ไปสำรวจสถานที่สำหรับจัดประชุมอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ไลน์เด้งขึ้นมาเป็นแฟนผมเอง ร้องกรี้ดบอกว่าดีใจถูกหวย ผมก็เลยถามว่าถูกตัวไหนเค้าบอก 92 ผมนี่นึกถึงหลวงตาคนแรกเลย แล้วยกมือขึ้นสาธุ ๆๆ ขอบคุณหลวงตาครับ คนที่สองคือ พี่ตุ่น นึกถึงที่แกบอกว่า สวดชัยยะ จะถูกล็อตตารี ผมก็ยกมือสาธุ เป็นครั้งแรกที่ ถูกทั้งใต้ดินและบนดิน จำนวนเงินก็ไม่ได้มากอะไร แต่รู้สึกว่าอานิสงส์แห่งการทำบุญต่อพระอริยสงฆ์นี่ส่งผลเร็วมาก เป็นครั้งที่ 2 ที่ผมได้ทำบุญกับท่านและได้ปฏิบัติต่อท่านแล้วมีโชคลาภด้านลาภลอยนะครับ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะบุคคลนะครับ

ผมเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้พี่ตุ่นฟัง แกก็บอกผมว่าคนที่มากราบหลวงตาวันนั้นถูกกันหลายคนเหมือน คนหนึ่งถูก 2 แสน อีกคนถูก 6 หมื่น รถป้ายแดงของพี่ตุ่นก็ทะเบียน 92 แต่แกไม่ถูกเพราะแกไม่เล่นหวย แกบอกผมว่าหลวงตาเมตตาต่อแกและครอบครัวมากแล้ว ส่วนเรื่องโชคลาภจะมาในรูปแบบของงานที่แกทำมากกว่า สาธุ สาธุ สาธุ ขอจบแค่นี้ก่อนนะครับ

 

นี้ละครับเรื่องขอโชคลาภนั้นเป็นเรื่องเฉพาะคนนั้นๆจริงๆ คุณฌานกรไปกับช่างชิตทุกครั้ง ช่างชิตกับไม่เคยถูกแต่อีกคนถูกเอาถูกเอา 5555
หลวงตาท่านเมตตาคุณพ่อป้ายแดงครับรายจ่ายมาก ประกอบกับบุญให้ผลโชคลาภพอดีท่านเลยเมตตา คนจังหวะโชคลาภไม่มีไปด้วยกันก็ไม่ได้ครับ 5555

 

สาธุครับ

 

สวัสดีครับทุกท่านวันนี้เอารูป หลวงตาพร้อม พ่อแม่ครูอาจารย์พระเถรานุเถระ
..เมตตาออกรับบิณฑบาตเช้านี้ที่วัดขององค์หลวงปู่ทองพูล ณ.จังหวัดบึงกาฬ
มาฝากครับ

 

สาธุสาธุ!!! อนุโมทนาคราฟ....ว่าแต่หลวงตาขอรับ งวดนี้บนเด่นหรือล่างดับครับ ^___^