คชสีห์๙บารมี๙บารมี๙แผ่นดินหลวงปู่หมุนเสก

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 30 สิงหาคม 2010.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    หลวงปู่ทวดเนื้อผงว่าน พระอาจารย์เหล็กดำ วัดเนินพัฒนา จ.เพชรบูรณ์ ประวัติไปหาอ่านเอาตามเวปครับ ศิษย์ท่านมากครับ

    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ มี 2 องค์ให้เลือก

    องค์ที่1
    [​IMG] [​IMG]

    องค์ที่2

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2014
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญหลวงพ่อเฮ็น วัดดอนทอง สระบุรี

    ให้บูชา 150 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    หลวงปู่หยอด วัดแก้วเจริญ ศิษย์หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ ไหมห้าสี สมัยก่อนท่านดังมากปัจจุบันคนไม่ค่อยรู้จักรู้จักแต่พระลูกศิษย์ท่าน

    ให้บูชา 150 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญหลวงพ่อเกรียง วัดหินปักใหญ่ ลพบุรี ท่านธุดงด์ร่วมกับหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ หนังสือพระเครื่องสมัยก่อนลงประวัติท่านเล่าไว้ วัตถุมงคลท่านประสบการณ์สูง

    ให้บูชา 150 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญฉลุหลวงปู่มัง วัดเทพกุญชร ลพบุรี พระป่ากรรมฐานสายเจ้าคุณอุบาลี หลวงปู่มั่น
    สายธรรมยุต สมัยก่อนท่านมีชื่อเสียงมากปัจจุบันคนก็ไม่ค่อยรู้จัก ลองค้นหาประวัติท่านตามเวปอ่านดูครับท่านสรา้งวัตถุมงคลตั้งแต่ยุค249กว่าๆครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  6. แปดเหลี่ยม

    แปดเหลี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2013
    โพสต์:
    831
    ค่าพลัง:
    +559
    จองครับ
     
  7. แปดเหลี่ยม

    แปดเหลี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2013
    โพสต์:
    831
    ค่าพลัง:
    +559
    จองครับ
     
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    ขุนแผนหลวงพ่อเดช วัดสังฆมณฑล

    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  9. atoom

    atoom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +174
    ขอจองครับ
     
  10. atoom

    atoom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +174
    ขอจองครับ
     
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    รับทราบครับ ขอบคุณครับท่านใดบูชาวัตถุมงคลช่วงนี้ผมจะแจกพระของครูบาคำเป็ง พิมพ์พระโพธิสัตย์เจ้าแม่กวนอิมให้ทุกๆท่านนะครับมี 10 องค์เนื่องด้วยแจกไปให้กับหลายท่านแล้ว........เป็นของขวัญปีใหม่ไทยครับ เพื่อความเป็นสิริมงคลไม่ต้องกลัวว่าผมจะไปลักไปขโมยตามวัดตามวามาแจกนะครับ ผมก็บูชามาอีกต่อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2014
  12. แปดเหลี่ยม

    แปดเหลี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2013
    โพสต์:
    831
    ค่าพลัง:
    +559
    วันนี้โอนเงินค่าพระ4รายการ 650 บาทให้แล้วครับส่งที่เดิมครับขอบคุณ
     
  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    ประวัติหลวงพ่อปุ๊ก จันทสโร วัดพุดซา ตำบลพะเนา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา

    หลวงพ่อปุ๊ก จันทสโร ท่านเป็นคนบ้านพุดซา เกิดเมื่อวันจันทร์เดือนเก้า ปีจอ พ.ศ. ๒๔๑๗ นามสกุล " โทนบุญ" บิดาท่านชื่อโทน มารดาชื่อสิน มีพี่น้องด้วยกัน ๕ คน หลวงพ่อเป็นคนที่ ๒ อุปสมบทเมื่อท่านอายุ ๒๒ ปี ตรงกับ พ.ศ. ๒๔๓๙ ณ วัดพุดซา หลวงพ่อนิล วัดทับช้าง เป็นพระอุปฌาย์ หลวงพ่ออยู่ วัดทับช้าง เป็นพระกรรมวาจาร์

    หลวงพ่อปุ๊กท่านเป็นอาจารย์รูปหนึ่งที่แก่กล้าอาคมขลังมาก เป็นศิษย์หลวงพ่อเหล็ก อดีตเจ้าอาวาส และเดินธุดงค์ไปตามที่ต่าง ๆ ได้พบกับอาจาร์กระบองใหญ่ เรียนวิชาในถ้ำ ท่านธุดงค์ไปตามที่ต่าง ๆนานเป็นเวลานานถึง ๓๓ ปีเศษ ถึงขนาดญาติพี่น้องคิดว่าท่านตายไปแล้ว หลังท่านรับเป็นเจ้าอาวาสแล้วก็เตรียมการจัดสร้างพระเครื่องขึ้น ด้วยท่านทราบถึงภัยสงครามโลกครั้งที่่สองจะเกิดขึ้น ท่านรวบรวมเอาว่านต่าง ๆ มากมายที่หาเอาตามป่า และที่ปลูกไว้ ท่านสร้างพระเครื่องขึ้น ๑๖ พิมพ์ เป็นพระเครื่องเนื้อผงผสมว่าน และผงยันต์ทั้งร้อยแปด ท่านเขียนยันต์และลบเองเอาผสมในพระเครื่อง หลวงพ่อเป็นที่พึ่งของชาวบ้านมาช้านาน ในด้านน้ำมนต์ ท่านขลังอย่างยิ่ง และเป็นพระอาจารย์รูปหนึ่งของชาวเมืองโคราชที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก

    เหรียญรุปเหมือนของท่านสรา้งขึ้นรุ่นแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๗ โดยหลวงปู่นาค โสภโน วัดระฆังโฆษิตารามให้ พระสมบูญ เป็นผู้จัดการเรื่องการจัดสร้าง ลักษณะทรงสี่เหลี่ยม ด้านหน้าเป็นรูป พระสมเด็จ ตามแบบอย่างของพระสมเด็จ วัดระฆัง ฯ ด้านหลัง เป็นรูปหลวงพ่อปุ๊กนั่งเต็มองค์ ใต้รูปหลวงพ่อมีอักษรว่า หลวงพ่อพระอุปชฌาย์ปุ๊ก วัดพุดซา เป็นเรียญเนื้อทองแดงรมดำ ที่ค่อนจะหาอยากอีกเหรียญหนึ่ง
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของขทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญหลวงพ่อป๊ก สภาพสวยๆครับ


    (ปิดรายการ)


    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 เมษายน 2014
  14. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    .

    ...หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ

    เกิด วันอังคารที่ 31 มกราคม 2435 ตรงกับขึ้น 14 ค่ำ เดือน 3 ปีมะโรง ณ บ้านศาลาลอย อ.ท่าเรือ เป็นบุตรของ นายสวน นางพุฒ งามวาจา

    บรรพชา อายุ 17 ปี ณ วัดกษัตราธิราช

    อุปสมบท ปี 2458 ณ วัดศาลาลอย

    มรณภาพ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2521 ตรงกับขึ้น 9 ค่ำ เดือน 3 ปีมะเมีย

    รวมสิริอายุ 86 ปี 63 พรรษา

    โยม บิดาตั้งนามว่า "นอ" อายุได้ 7 ขวบ ได้เข้าเล่าเรียนอักขระสมัยกับพระสวย ที่เป็นหลวงลุงที่วัดกษัตราธิราช และได้บรรพชาเป็นสามเณรที่นั่น อายุครบบวชจึงได้อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดศาลาลอย และได้เล่าเรียนวิชาอาคมกับพระอาจารย์นาค และพระอาจารย์วงษ์ ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ที่มีอาคมแก่กล้าเป็นที่นับถือในหมู่คนทั่วไป โดยพระอาจารย์วงษ์เก่งทางด้านคงกระพัน พระอาจารย์นาคเก่งทางด้านมหาอุด โดยได้ศึกษามาจากสำนักวัดประดู่ทรงธรรมพระนครศรีอยุธยา

    ท่านได้มา เป็นเจ้าอาวาสวัดกลางท่าเรือเพราะญาติโยมที่เคยเห็นสรรพคุณของท่านมาก่อนได้ นิมนต์มาช่วยสร้างวัด เพราะตอนนั้นวัดกลางท่าเรือเป็นวัดที่แทบจะเป็นวัดร้าง หลวงพ่อนอจึงได้ตั้งใจเด็ดเดี่ยวกับกรรมการวัดว่า ไม่เป็นไรหรอก เมื่อไว้ใจให้ฉันมาช่วยสร้างวัด คอยดูนะ ฉันจะจารตะกรุดสร้างวัดให้พวกแกดู การก็เป็นความจริง หลวงพ่อนอลงตะกรุดโทนตะกรุดหนังหน้าผากเสือหาเงินเข้าสร้างโบสถ์และเสนาสนะ ปรากฏว่าตะกรุดของท่านท้ายิงได้ทุกดอก ยิงออกไม่ต้องเอาเงินทำบุญ

    หนังสือเครื่องรางยุคเก่าจัดลำดับให้หนังหน้าผากเสือหลวงพ่อนอ อยู่ในลำดับยอดนิยมอันดับ ๕ ครับ // แต่ปัจจุบันหลวงพ่อนอ น่าจะอยู่ในอันดับที่ 4 ครับ ตามลำดับ ดังนี้...หลวงปู่นาค - หลวงปู่บุญ - หลวงพ่อหว่าง - หลวงพ่อนอ - หลวงพ่อเต๋ - หลวงพ่อตาบ - หลวงพ่อคง จันทบุรี ฯลฯ >>> ฟอร์มมาตรฐาน ถักหุ้มหัวท้าย (หรือเรียกว่าลายกระสอบ) =>> ราคาทำบุญจากวัดดอกเล็ก 500 บาท (ประมาณปี 2480 - 2495 ถือว่าแพงมากในสมัยนั้น และที่สำคัญมีการลองยิงในวัดทีเดียว ขลังมากครับ) //
    หนังหน้าผากดีทางมหาอำนาจสูงมาก แต่ทั้งนี้เสือนั้นมีดี 3 อย่าง => (1)...เป็นเจ้าป่า มีตบะเดชะมหาอำนาจ แค่เพียงกลิ่นสาปเสือโชยไปกระทบสัตว์อื่นเป็นต้องหวาดกลัว (2)...ถึงแม้เสือจะเป็นสัตว์ที่ดุและน่ากลัวแต่คนก็อยากเห็นและอยากเจอเสือ ข้อนี้ท่านว่าเป็นเมตตามหานิยมครับ (3)...หากินคล่องไม่มีฝืดเคืองเรื่องอาหาร // หลวงพ่อนอท่านลงตะกรุดหนังหน้าผากเสือ ถวายพระเจ้าอยู่หัว เมื่อปี 2495 (จากบันทึกของสำนักราชเรขาธิการ ลงวันที่ถวาย 10 สิงหาคม 2495 //และพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯให้จัดไตรครองนำมาถวายหลวงพ่อนอ 1 ชุด ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2495
    ขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือ สนามพระ ครับ
    แต่เดิมหลวงพ่อสร้างจะใช้แต่หนังเสือเพียงอย่างเดียวมาทำการปลุกเสกเมื่อ เสร็จ ก็ทำการแจกจ่ายให้ชาวบ้านและลูกศิษย์ลูกหาที่อยู่ในระแวกนั้นนำไปใช้พกติก ตัวทำกิจวัตรประจำวัน ทำให้ตระกรุดโดนเหงื่อโดนน้ำโดนฝน ก็ทำให้ตระกรุดเกิดความเสียหาย ยุ่ยเปื่อย เสียรูปทรงง่าย หลวงพ่อคงทราบจากชาวบ้านหรือลูกศิษย์ ก็จึงคิดพัฒนาโดยการนำไม้ไผ่มาเหลาไว้เพื่อใช้เป็นแกนกลางก่อนที่จะนำหนัง เสือมาพันไว้รอบแกนไม้ไผ่อีกทีจากนั้นจึงนำมาถักเชือกลงรัก ซึ่งต่อมายุคหลังๆแกนกลางจะใช้ทองแดง คงไม่มีใครปฏิเสธ เมื่อถ้ามีโอกาสเที่ยวสวนสัตว์ หรือคนสมัยก่อนเมื่อเข้าป่า ก็อยากเห็นหรือเจอเสือ ในทางกลับกันในใจเมื่อเห็นก็กลัวสุดๆ การสร้างตระกรุดต่างๆมีการนำวัตถุหลายๆอย่างหลายประเภทมาสร้าง หนังเสือก็เป็นส่วนหนึ่งเพราะเป็นอาถรรพณ์วัตถุศักดิ์สิทธิในตัวมีทั้ง เมตตามหานิยม พลังมหาอำนาจ และแคล้วคลาด บวกกับขั้นตอนในการบรรจุวิทยาคม ของหลวงพ่อนอซึ่งขั้นตอนในการปลุดเสกไม่มีอาจารย์ท่านใดเหมือนแน่นอน ก่อนปลุกเสกท่านจะใช้เหล้าเพื่อบูชาครู จากนั้นตัวของท่านจะแดงมาก ท่านจะปิดกุฏิปลุกเสกเงียบๆคนเดียวอยู่ในกุฏิ ช่วงเวลาปลุกเสก ลูกศิษย์จะได้กลิ่นสาปเสืออบอวลทั่วทั้งบริเวณตลอดจนเป็นเรื่องเล่าขานสืบ ต่อมาไม่รู้จบของพิธีกรรมปลุกเสกที่เข้มขลังในยุคนั้น ตระกรุดหนังเสือเป็นเครื่องรางที่มองดูผิวเผินก็ดูจะธรรมดาๆ แต่จริงๆแล้วทุกท่านก็คงประจักษ์กันมานักต่อนักแล้วแม้นจะเป็นเรื่องเล่าขาน สืบต่อหรือประสบการณ์กับตนเองในเรื่องของพุทธคุณไม่เป็นรองวัตถุมงคลใดๆเลย โดยจะเห็นได้จากปัจจุบันตระกรุดหนังเสือสำนักนี้มีราคาค่างวดสูงมากยิ่งขึ้น แรงแซงทางโค้งเนื่องจากเจตนาการสร้างดี พุทธคุณเป็นที่ประจักษ์ ความมาตรฐานนิยม ความหายากและจะเป็นเช่นนี้ต่อไปจวบจนนิรันดร์ ....

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของขทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ


    เหรียญหลวงพ่อนอ วัดกางท่าเรือ ออกวัดยางสุทธารามปี2517

    พิธีใหญ่ครับมีเหรียญคณาจารย์ในพธีอีกหลายท่าน เหมือนกับวัดรัตนชัย

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่ง EMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2014
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญหลวงพ่อปาน อัดกรอบแบบ3ห่วง

    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่ง EMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]

     
  16. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    หลวงพ่อมา วัดโคกสูง สระแก้ว

    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่ง EMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  18. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระครูประสาธน์ขันธคุณ หรือที่พุทธศานิกชนชาวศรีสะเกษและชาวไทยรู้จักโดยทั่วไปในนาม หลวงปู่มุม หรือ หลวงพ่อมุม เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดปราสาทเยอเหนือ อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ บรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่ยังเด็กและอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่ออายุ 20 ปี แล้วดำรงอยู่ในสมณเพศตลอดชีวิตจนมรณภาพ เป็นพระภิกษุผู้ถือเคร่งทางธรรมปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐาน ได้ฝึกเดินธุดงค์ไปตามป่าเขาในบริเวณเทือกเขา พนมดงเร็ก เขตจังหวัดทางภาคอีสานตอนล่าง ของประเทศไทย และเดินธุดงค์เข้าไปในประเทศกัมพูชาจำพรรษาอยู่ในประเทศกัมพูชาหลายปี หลังจากนั้นจึงได้กลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดปราสาทเยอเหนือ บ้านเกิด ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีกลุ่มชาติพันธุ์เยอ ตั้งถิ่นฐานอยู่ จากความสมถะ มักน้อย สันโดษและเคร่งครัดในวัตรปฏิบัติของสงฆ์ ทำให้เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของพุทธศานิกชนทั่วไป และที่โด่งดังเป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วประเทศก็คือความศรัทธาในวัตถุมงคลกลุ่มที่ชื่อ พระหลวงพ่อมุม ซึ่งท่านได้เคยสร้างและทำพิธีปลุกเสกด้วยตัวเอง โดยพิธีพุทธาภิเษกแบบเขมรโบราณ ทั้งยังเป็นผู้มีส่วนร่วมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในบวรพระพุทธศาสนาและเพื่อสังคมไว้มหาศาล ถือป็น ปูชนียบุคคล ที่ควรกราบไหว้บูชาสักการะของปวงชนทั่วๆ ไป

    หลวงปู่มุม ยังเป็นหนึ่งในพระเถระผู้ร่วมประกอบพิธีพุทธาภิเษก พระกริ่งมหาราช ระหว่างวันที่ 3 ธันวาคม - 4 ธันวาคม พ.ศ. 2512 ซึ่งวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เนื่องในวโรกาสมหามงคลที่ทรงได้รับการเทิดทูนอย่างสูงสุดจากปวงชนชาวไทย โดยการถวายพระบรมราชสมัญญานาม มหาราช ต่อท้ายพระปรมาภิไธย [1]

    อนึ่ง วัดปราสาทเยอเหนือ เป็นวัดโบราณมีอายุเก่าแก่ที่สุดวัดหนึ่งของจังหวัดศรีสะเกษหรือจังหวัดขุขันธ์ ในอดีต วัดแห่งนี้ได้รับการก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 1313[2] หรือราวต้นพุทธศตวรรษที่ 14 ตั้งแต่สมัยทวารวดีและสมัยขอม อันเป็นช่วงเวลาก่อนการตั้งเมืองศรีนครลำดวน (ต้นเค้าเมืองขุขันธ์ที่พัฒนามาเป็นจังหวัดขุขันธ์และจังหวัดศรีสะเกษ) ใน พ.ศ. 2302 [3] ถึง 989 ปี ปัจจุบัน ภายในวัดยังคงปรากฏซากปราสาทหินสมัยขอมซึ่งมีสภาพชำรุดมากแล้วคือ ปราสาทเยอ[3]

    วัดปราสาทเยอเหนือ ยังเป็นวัดแห่งแรกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเพื่อนมัสการพระครูประสาธน์ขันธคุณ และทรงทอดพระกฐินเป็นการส่วนพระองค์หรือกฐินต้นถวาย เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2514 ทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชทรัพย์ให้กับทางราชการ เพื่อสร้าง ศาลา ภ.ป.ร. ถวาย ทดแทนศาลาวัดหลังเดิมที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรม เหล่าพสกนิกรชาวจังหวัดศรีสะเกษและจังหวัดใกล้เคียง มีโอกาสเฝ้ารับเสด็จ ทั้งสองพระองค์ อย่างล้นหลามเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางสายฝนที่โปรยลงมาอย่างหนัก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ก็ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรท่ามกลางสายฝนเช่นเดียวกัน ยังความปลาบปลื้มยินดีแก่พสกนิกรอย่างล้นพ้
    หลวงปู่มุม หรือ พระครูประสาธน์ขันธคุณ มีนามเดิมว่า มุม นามสกุล บุญโญ ชาตะ ในต้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2429 ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ปีกุน ณ บ้านปราสาทเยอ ตำบลปราสาทเยอ อำเภอไพรบึง (เดิมคือท้องที่อำเภอขุขันธ์) จังหวัดศรีสะเกษ (เดิมคือจังหวัดขุขันธ์) ซึ่งเป็นชุมชนที่มีกลุ่มชาติพันธุ์ดั้งเดิมเป็นชาวเยอตั้งถิ่นฐานอยู่ หลวงปู่มุมจึงเป็นชาวเยอ มีโยมมารดาชื่อนางอิ่ม บุญโญ โยมบิดาชื่อนายมาก บุญโญ มีพี่น้องร่วมมารดาและบิดาเดียวกันจำนวน 5 คน เป็นชายจำนวน 3 คน หญิงจำนวน 2 คน พื้นฐานครอบครัวเป็นชาวนาชาวไร่ มรณภาพเมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2522 ในรัชกาลปัจจุบัน จึงเป็นพระสมณเจ้าที่มีชีวิตอยู่เป็นเวลายาวนานถึง 5 รัชกาลหรือ 5 แผ่นดิน (ตั้งแต่รัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 9) ศิริอายุรวม 93 ปี โดยอยู่ในเพศบรรพชิต 73 พรรษา
    ชีวิตวัยเด็ก
    ด้วยความที่ถือกำเนิดในครอบครัวเกษตรกรที่มีฐานะลำบาก เมื่อเจริญวัยถึงระยะที่สามารถช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวได้แล้ว ตั้งแต่อายุ 5-6 ขวบ เด็กชายมุม ได้ช่วยเหลือบิดามาดาทำไร่ทำนา แต่เมื่อว่างเว้นจากภารกิจดังกล่าว ก็มักจะคลุกคลีอยู่กับวัดเป็นส่วนใหญ่ โดยเจริญรอยตามบิดามารดาซึ่งเลื่อมใสและเคร่งครัดในพระพุทธศาสนา เด็กชายมุมจึงใช้เวลาว่างส่วนมากในการสนทนากับพระภิกษุ สามเณร รวมทั้งเข้าโบสถ์เพื่อไหว้พระสวดสวดมนต์ ตลอดจนฟังพระสวดมนต์ ทำวัตรเย็น อยู่เป็นนิจ

    ครั้นเมื่อเข้าสู่วัยเรียน พระอาจารย์พิมพ์ เจ้าอาวาสวัดปราสาทเยอเหนือ ในขณะนั้น เห็นว่าเด็กชายมุมมีอุปนิสัยศรัทธาในพระศาสนา จึงได้ปรารภกับนายมาก ผู้เป็นบิดา เพื่อให้เด็กชายมุมมาอยู่ที่วัดเป็นการถาวร บิดาเห็นพ้องกับพระอาจารย์พิมพ์ จึงได้นำบุตรชายมาฝาหให้อยู่ในความอุปการะของวัดตั้งแต่นั้นมา เพื่อศึกษาเล่าเรียนขั้นมูลฐานตามแบบโบราณ (ในขณะนั้นยังไม่มีโรงเรียน) เจ้าอาวาสได้ให้ความเอ็นดูเด็กชายมุม ด้วยความชื่นชมในปฏิภาณ ไหวพริบและสติปัญญาที่เฉลียวฉลาด เด็กชายจึงได้รับการถ่ายทอดความรู้ต่างๆ จากเจ้าอาวาส ทั้งการเขียน-อ่านภาษาไทย ภาษาขอม ภาษาบาลี ควบคู่ไปกับความรู้ทางพระธรรม โดยการเรียนร่วมกับพระภิกษุและสามเณรในวัดด้วยความตั้งใจเอาใจใส่ ทำให้มีความแตกฉาน ชำนาญในอักขรวิธีทางภาษาต่างๆและพระธรรม โดยเฉพาะภาษาขอมและภาษาบาลีเป็นอย่างดี จนกระทั่งบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 12 ปี

    การธุดงค์ครั้งแรก
    เมื่อเจริญพรรษามากขึ้นตามลำดับแล้ว ท่านได้ออกธุดงค์ตามแบบรุกขมูลกับเพื่อนภิกษุจำนวน 6 รูป ค่ำที่ไหนปักกลดจำวัดที่นั่น จากเมืองขุขันธ์ผ่านไปตามเส้นทางและพื้นที่ต่างๆ จนถึงวัดโคกมอญ เมืองกบินทร์บุรี[5] จึงได้จำพรรษาที่วัดนี้เป็นเวลา 3 พรรษา ได้พัฒนาความเจริญปลูกสร้างปฏิสังขรณ์ไว้กับวัดแห่งนี้หลายประการ เช่น สร้างโบสถ์ จากสำนักสงฆ์เล็กกลายเป็นวัดที่เจริญ ขณะนั้นมีพระอุปัชฌาย์โทเป็นเจ้าอาวาสที่วัดโคกมอญ

    การธุดงค์ครั้งที่สอง
    หลังจากออกพรรษาแล้วท่านจึงธุดงค์จากวัดโคกมอญกลับบ้านเกิดและจำพรรษาอยู่ที่วัดปราสาทเยอใต้หลายปีจึงเริ่มออกธุดงค์เป็นครั้งที่สอง โดยผ่านทางเมืองขุขันธ์ข้ามภูเขาพนมดงรัก มุ่งไปยังเมืองสาเก ในเขตจังหวัดพระตะบอง[6] และได้พบกับอาจารย์บุญมี ผู้เรืองวิชา พระอาจารย์บุญมี ได้นำท่านเดินธุดงค์ไปในที่ต่างๆ จนทั่วประเทศเขมร โดยใช้เวลาในการธุดงค์นานแรมปี จึงได้แยกกันออกเดินธุดงค์ไปคนละเส้นทาง พระมุมได้ผ่านมาทางกบินทร์บุรีข้ามภูเขาสองพี่น้อง อันเป็นทิวเขาดงพญาไฟ (ปัจจุบันคือดงพญาเย็น) จนกระทั่งมาถึงบ้านหวายได้ศึกษาวิชาอาคมกับหลวงพ่อโฮม ซึ่งเก่งทางว่านสมุนไพร แก้อาถรรพ์และแก้คุณไสยต่างๆ

    เมื่อศึกษากับหลวงพ่อโฮมจนแตกฉานแล้วจึงออกออกธุดงค์ต่อไปอีก ผ่านป่าดงดิบไปสู่เขตจังหวัดสระบุรี เพื่อกราบสักการะรอยพระพุทธบาท พระพุทธฉาย ที่วัดพระพุทธบาท แล้วล่องต่อมาจนถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าจำพรรษาอยู่หลายวัด ก่อนจะต่อไปยังจังหวัดสุพรรณบุรี เข้าสู่เขตอำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ต่อเนื่องไปยังพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดเลย อาณาจักรล้านช้าง เมืองเวียงจันทน์ ท่าแขก และสุวรรณเขต ตลอดระยะเวลาและเส้นทางในช่วงที่ท่านธุดงค์มานั้นก็ได้พบกับพระอาจารย์ที่มีวิชาอาคมเก่งกล้าหลายๆท่าน พระมุมได้ปวารนาตนเป็นศิษย์ ขอศึกษาเล่าเรียนและแลกเปลี่ยนความรู้วิชาต่างๆมากมาย จนได้รับคำแนะนำจากพระอาจารย์เหล่านั้น ให้ไปหาสมเด็จลุน เกจิอาจารย์แห่งนครจำปาศักดิ์ ประเทศลาว ท่านจึงธุดงค์ต่อไปเพื่อไปหาสมเด็จลุน แต่ต้องผิดหวังเพราะสมเด็จลุนเดินทางไปยังจังหวัดอุบลราชธานี พระมุมจึงได้ตามไปที่จังหวัดอุบลราชธานี จนพบกับสมเด็จลุนและฝากตัวเป็นศิษย์ติดตามกลับเข้าไปนครจำปาศักดิ์อีกครั้ง ได้ศึกษาความรู้ทางอาคมขลัง เลขยันต์ต่างๆ สมเด็จลุนยังได้มอบตำราวิทยาคมไสยเวทย์ให้กับท่านเพื่อนำมาศึกษาเพิ่มเติม จากนั้น พระมุมได้ลาสมเด็จลุนออกจากจำปาศักดิ์เดินทางกลับมาทางจังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างนั้นได้พบพระอาจารย์ดีๆในตัวเมืองอุบลราชธานีระยะหนึ่ง แล้วจึงเดินทางต่อไปยังเมืองขุขันธ์ จนกลับถึงบ้านเกิดอีกครั้ง

    การจาริกธุดงค์ของท่านแต่ละครั้งได้เดินทางเข้าป่าหาวิเวกแสวงธรรมไปตามป่าเขา ตามถ้ำ จนทั่วประเทศไทย และประเทศใกล้เคียง ทั้งลาว พม่า เขมร และมาเลเซีย ใช้เวลาธุดงควัตรอยู่ 10 พรรษา หลายครั้งของการออกเดินทางธุดงค์ต้องประสบกับความยากลำบากและอันตรายจึงเกือบถึงแก่ชีวิต เพราะต้องเดินด้วยเท้าเปล่า บางครั้งต้องเดินผ่านป่าดงดิบนับสิบๆวัน โดยมิได้พบหมู่บ้านเลย สาเหตุที่หลวงพ่อมีความอดทนอดกลั้นได้นั้น เนื่องจากท่านมีสมาธิจิตที่แข็งกล้าและอาศัยอำนาจของ พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ อันยึดมั่นอย่างแน่วแน่อยู่เสมอนั่นเอง จึงทำให้ท่านอยู่ได้โดยปราศจากความหิว ปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง

    หน้าที่เจ้าอาวาส : พระมุมได้เดินทางกลับถึงบ้านปราสาทเยอและเข้าจำพรรษาอยู่ที่วัดปราสาทเยอใต้ ซึ่งเป็นวัดอีกแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน เป็นช่วงเวลาหลังจากหลวงพ่อปริม เจ้าอาวาสวัดปราสาทเยอเหนือ รูปเดิมได้มรณภาพ ส่งผลให้วัดปราสาทเยอเหนือว่างเว้นจากการมีเจ้าอาวาสลงเป็นเวลานานถึง 5 ปี เมื่อประชาชนในหมู่บ้านทราบข่าวการกลับจากเดินทางธุดงควัตรของท่าน จึงได้พร้อมใจกันไปอาราธนานิมนต์ท่านให้ย้ายไปอยู่ประจำ ณ วัดปราสาทเยอเหนือ หลวงพ่อก็ได้สนองศรัทธาของสาธุชน โดยการรับไปจำพรรษาถาวรอยู่ที่วัดปราสาทเยอเหนือ เป็นเจ้าอาวาสวัดตั้งแต่นั้นมา ระหว่างอยู่วัดนั้น สิ่งที่ปฏิบัติอยู่เป็นนิจคือ การเดินจงกรม ทำกรรมฐานและทบทวนวิชาต่างๆในยามว่างจากผู้คนหรือกิจนิมนต์ นอกจากนั้น พระยาขุขันธ์ภักดีฯ เจ้าเมืองขุขันธ์ ยังได้นำเอาคัมภีร์สมุดข่อยไปถวายและตำราต่างๆไว้อย่างครบถ้วน ให้แก่หลวงพ่อมุมอีกด้วย บรรดาคัมภีร์และตำราดังกล่าวบรรจุศาสตร์ความรู้นานาประการ ทั้งวิชาอาคม และโหราศาสตร์
    ความศักดิ์สิทธิ์ของเหรียญรูปหล่อ แหวน และเครื่องรางของหลวงพ่อมุม ได้รับการกล่าวถึงอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะที่กล่าวถึงกันมากที่สุดคือในช่วงสงครามอินโดจีนหรือสงครามเวียดนาม ซึ่งทหารนาวิกโยธิน ประจำกองทัพสหรัฐอมเมริกา ได้มาตั้งฐานทัพอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเป็นฐานกำลังในการสู้รบระหว่างสงครามดังกล่าว และเนื่องจากมีทหารบางนายได้นำวัตถุมงคลที่หลวงพ่อมุม ปลุกเสกไปทดลองยิง แต่ปรากฏว่ายิงไม่ออกจึงเกิดความศรัทธาในตัวหลวงพ่อมุม จนนำไปสู่การขอจัดสร้างเหรียญหลวงพ่อมุมขึ้นในรุ่น พ.ศ. 2516 มีทั้งเหรียญภาษาอังกฤษ PAPAMUM , สมเด็จภาษาอังกฤษ และเนื้อผงพิมพ์จันทร์ลอยภาษาอังกฤษ รุ่นนี้ได้รับการเรียกกันโดยทั่วไปว่ารุ่น PAPAMUM
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของขทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    เหรียญหล่อฉีดหลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอ สภาพสวยเดิม

    ให้บูชา 500 บาทค่าจัดส่ง EMS 50 บาทครับ(ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 เมษายน 2014
  19. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระสมเด็จวัดช้าง นครนายก พิธีใหญ่ครับ

    ให้บูชา 150 บาทค่าจัดส่ง EMS 50 บาทครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  20. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,773
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญขวัญถุงหลวงพ่อแช่ม

    ให้บูชาเหรียญละ 150 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG]

    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...