คชสีห์๙บารมี๙บารมี๙แผ่นดินหลวงปู่หมุนเสก

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 30 สิงหาคม 2010.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญยืนหลวงพ่อกวย วัดซับลำใย ปี๒๕๔๖

    (ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2013
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343
    หลวงพ่อน้อย วัดทุ่งนางโอก

    ประวัติพระอุปัชฌาย์น้อย สุวโจ*****

    หลวงปู่อุปัชฌาย์น้อย สุวโจ เป็นพระภิกษุที่ชาวบ้านทุ่งนางโอก ชาวบ้านผือฮี และ ประชาชนในเขตอำเภอเมือง อำเภอทรายมูล ให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก เหตุเพราะท่านหลวงปู่ เป็น พระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ พร้อมกับเป็นพระสงฆ์ที่สงบเยือกเย็นมีเมตตาธรรมสูง จึงเป็นที่เคารพสักการะของคนในพื้นที่และนอกพื้นที่ ซึ่งได้ทราบถึงเกียรติคุณของท่าน หลวงปู่อุปัชฌาย์น้อย สุวโจ ท่านดำรงอยู่ในสมณเพศตั้งแต่เป็นสามเณรจนถึงมรณภาพท่านเป็นพระสงฆ์ที่ทรง ปริยัติ ปฏิบัติและปฏิเวก ครบทั้ง สามประการ สมดังคำว่า สุปฏิปันโน ภควโต สาวกสังโฆ พระสงฆ์สาวกของพระผู้พระภาคเจ้าเป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว หรือ อีกประการหนึ่งหลวงปู่เป็นผู้เพียบพร้อมไปด้วยความบริสุทธิ์แห่งศีลอย่างยอด ยิ่ง ท่านเป็นผู้สำรวมแล้วในกาย วาจา ใจ ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบแล้ว ในศีลาจารวัตร เป็นพหุสูตร และอยู่ ในฐานะ ควรแก่การกราบไหว้ ตามรอยแห่งองค์ สมเด็จพระบรมศาสดา ดังจะเห็นได้ในทุกวันนี้ ที่เหรียญรูปเหมือนของท่าน เป็นที่ต้องการของประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเหรียญรุ่นแรกของท่าน ถึงแม้หลวงปู่จะมิได้อธิฐานจิตทำพิธีเองก็ตามชาติกำเนิด
    หลวงปู่ อุปัชฌาย์น้อย สุวโจ เป็นชาวบ้านทุ่งนางโอกโดยกำเนิดจากการบอกเล่าของพ่อใหญ่อ้วน โสมณวัฒน์ และ แม่ใหญ่โม่ โสมณวัฒน์ ซึ่งเป็นบุตรของนางเกี้ยง โสมณวัฒนน้องสาวของหลวงปู่ เล่าว่า บิดาของหลวงปู่ ชื่อนาย สิงห์ หรือ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เขียว ส่วนมารดาของท่านไม่รู้จักชื่อ หลวงปู่เกิดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๗ มี พี่น้องร่วมบิดามารดา ๔ คนตามลำดับดังนี้
    ๑. หลวงปู่พระอุปัชฌาย์น้อย สุวโจ (โสมณวัฒน์)
    ๒.นายตุ่น โสมณวัฒน์หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า พ่อใหญ่สีหราช
    ๓.นายอ่อน โสมณวัฒน์
    ๔. นางเกี้ยง โสมณวัฒน์
    ทั้ง ๔ คนนี้ได้เสียชีวิตไปนานแล้ว แม้แต่พ่อใหญ่อ้วน แม่ใหญ่โม่ โสมณวัฒน์ ซึ่งเป็นลูกของนางเกี้ยง ผู้ให้ข้อมูลนี้ ปัจจุบัน ได้เสียชีวิตแล้ว


    ***การบรรพชาและอุปสมบท****

    หลวง ปู่ เป็นผู้เลื่อมใสในบวรพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่งได้บวชเป็นสามเณรเมื่ออายุ ๑๙ ปี กับพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในละแวกนี้ คือ พระปลัดอ่อนตา ( ไม่ทราบนามฉายา ) โดยไป บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดบ้านทรายมูล ( ในปัจจุบัน คือ วัดบูรพารามใต้ มีท่านเจ้าคุณหลวงพ่อพระราชสุตาลงกรณ์ ( เดือน สิริธมฺโม ป.ธ. ๔ ) เป็นเจ้าอาวาสและรองเจ้าคณะจังหวัดยโสธร ) และ คาดว่า ท่านหลวงปู่คงจะเป็นศิษย์ใกล้ชิด ของอาจารย์ เหตุเพราะหลวงปู่เคยเล่าให้ พ่อใหญ่จารย์ครูอ่อน คำศรี ขณะที่ท่านบวชอยู่นั้นฟังว่า เมื่อครั้งหลวงพ่อเป็นสามเณรได้ธุดงค์ไปกับพระอาจารย์ คือ พระปลัดอ่อนตา เพื่อปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ไปที่ประเทศพม่า แล้วเข้าสู่ประเทศอินเดียต่อเมื่อถึงอินเดียแล้ว อาจารย์ของท่าน ได้ฝากท่านไว้ กับพระภิกษุที่คุ้นเคยกัน ส่วนอาจารย์ของท่าน ได้ธุดงค์ต่อไปเมืองลังกา หลวงปู่ได้พักคอยอาจารย์ของท่านที่อินเดียนานประมาณ ๔ เดือน อาจารย์จึงได้มาและพาท่านกลับประเทศในเส้นทางเดิม ต่อเมื่อกลับถึงวัดแล้ว ไม่นานท่านก็อุปสมบท เป็นพระภิกษุ ท่านหลวงปู่มีอายุ ประมาณ ๒๐ ปี โดยในการอุปสมบทนั้น ท่านพระปลัดอ่อนตา คงจะได้พาหลวงปู่ไปบวชกับอาจารย์ของ พระปลัดอ่อนตา อีกชั้นหนึ่ง นั้นก็ คือ สมเด็จลุน หรือ สำเร็จลุน พระอริยสงฆ์แห่งเมืองจำปาสัก ประเทศลาว โดยมีท่านพระปลัดอ่อนตา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ขณะที่ท่านอุปสมบท คงจะเป็น ปี พ.ศ. ๒๔๓๘ และได้รับนามฉายาว่า สุวโจ ( ผู้ว่ากล่าวสอนได้โผง่าย ) สมเด็จลุน หรือ สำเร็จลุน๑
    ดังได้กล่าวแล้วว่า พระอุปัชฌาย์ของหลวงปู่ท่าน คือ สำเร็จลุน แห่งนครจำปาสัก ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์ต่าง ๆ เช่น ในเรื่องของ ท่านพระครูพิศาลสังฆกิจ ( โทน ) ซึ่งเป็นศิษย์อีกรูปหนึ่งของสำเร็จลุน ได้กล่าวถึง สำเร็จลุนว่า เป็นที่ทราบกันดีของพุทธศาสนิกชน ทั้งชาวไทยและ ชาวลาวว่า ท่านสำเร็จลุน สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ และ ย่อระยะทางได้ สามารถเดินจากเวินชัย ประเทศลาว มาหาซื้อน้ำปลาไทยที่พาหุรัดในชั่วพริบตา หรือ แม้แต่การบิณฑบาตรอีกประการหนึ่ง ท่านคงเป็นพระอรหันต์ปฏิสัมพิทาญาณ เป็นแน่แท้ บางทียังเรียกท่านว่า เป็นพระครูขี้หอม ด้วย เหตุเพราะอุจจาระของท่านนั้นประชาชนจะแย่งกันเก็บไว้เป็นเครื่องรางของขลัง
    อนึ่ง ผู้เขียนได้สอบถามจาก ท่านหลวงปู่สวน อิสิญาโณ เจ้าอาวาสวัดบ้านหนองซองแมวซึ่งเป็นศิษย์ผู้ใกล้ชิดของหลวงปู่อีกรูปหนึ่ง ท่านก็เล่าว่า สำเร็จลุน เป็นพระอุปัชฌาย์ของหลวงปู่เฒ่า ( หลวงปู่อุปัชฌาย์น้อย ) จริง
    หลวงปู่อุปัชฌาย์น้อย สุวโจ พระสุปฏิปันโน ผู้ควรแก่การกราบไหว้
    เมื่อ หลวงปู่อุปัชฌาย์น้อย สุวโจ ได้อุปสมบทแล้ว คงจะศึกษาข้อวัตรปฏิบัติ และ หัวข้อพระกรรมฐาน การเจริญสมณธรรม ธรรมะต่าง ๆ จากพระอุปัชฌาย์ ก็คือ สำเร็จลุนจากนั้นคงจะปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ธุดงค์ไปตามสถานที่อันสงัด กับพระอุปัชฌาย์ และพระอริยสงฆ์รูป อื่น ๆ เพื่อแสวงหาโมกขธรรม จนเป็นที่พอใจแล้ว ภายหลังจากนั้นจึงมาอยู่ประจำที่วัดบ้านทรายมูล กับ ท่านพระปลัดอ่อนตา ผู้เป็นอาจารย์ ต่อมาเมื่อวัดบ้านผือฮีว่างเจ้าวัด ( เจ้าอาวาส ) ชาวบ้านผือฮี จึงได้พากันมาขอหลวงปู่ กับ ท่านพระปลัดอ่อนตา เพื่อไปเป็นเจ้าวัดปกครองดูแลต่อ ท่านพระปลัดอ่อนตา จึงได้อนุญาตตามที่ขอนั้น หลวงปู่อุปัชฌาย์น้อย จึงได้มาเป็นเจ้าวัดที่วัดบ้านผือฮี (ปัจจุบันอยู่ในเขตตำบลนาสะไมย์ อำเภอเมืองยโสธร ) และท่านได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ ตามลำดับ รับผิดชอบในเขตตำบลทรายมูล และ ตำบลไผ่ ตามลำดับ ( ปัจจุบันเป็นอำเภอทรายมูล เมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๗ ) โดยเป็นที่เคารพของประชาชนทั้งใกล้และไกล แต่ละวันจะมีประชาชนมาให้หลวงปู่รดน้ำมนต์ ให้ทุกวัน หรือแม้แต่มาขอรับวัตถุมงคลจากหลวงปู่ท่าน ท่านก็เมตตาสงเคราะห์ให้ทุกคน แต่หลวงปู่ก็จะกล่าวสอนให้ทุกคนตั้งมั่นอยู่ในความดี ไม่ประมาทในการดำรงอยู่ และให้ประพฤติในทางที่ชอบ
    พระภิกษุสิงห์ รตินฺธโร ( ผิวแดง ) และในปัจจุบันท่านมีอายุ ๖๘ ปี ได้เล่าถึงข้อวัตรของหลวงปู่ท่านอย่างหนึ่งว่า ขณะที่ท่านบวชตอนเป็นหนุ่ม เมื่อหลวงพ่อพระอุปัชฌาย์น้อย สุวโจ มาที่วัดบ้านทุ่งอีโอก ก่อนที่ท่านจะเดินทางกลับทุกครั้ง หลวงพ่อ จะเรียกประชุมสงฆ์ เพื่อกล่าว ขอขมาลาโทษ ที่อาจจะเกิดโดยไม่ตั้งใจ ถึงแม้ท่านจะเป็นพระผู้ใหญ่ แต่ก็ไม่รังเกียจที่จะกระทำต่อผู้อ่อนกว่าเลยและเป็นข้อวัตรที่หลวงพ่อกระทำ ทุกครั้งเมื่อมาที่วัดบ้านทุ่งอีโอก
    อีกตัวอย่างหนึ่งพ่อใหญ่จารย์ครู อ่อน คำศรี และ พ่อใหญ่ทองหล่อ บุญศรี และ พ่อ-ใหญ่เสริม ไชยรักษ์๑ เล่าให้ฟังตรงกันว่า แม้แต่ผักที่มีผู้นำมาถวาย หากยังมีรากติดอยู่สามารถนำไปปลูกได้อีก หากยังไม่ได้ทำ กัปปิยะ๒ ท่านก็จะไม่ฉัน และ พ่อใหญ่ทองหล่อ บุญศรี กับ พ่อใหญ่เสริม ไชยรักษ์ ได้เล่าต่อไปอีกว่า หลวงปู่ท่านจะชอบทำบั้งไฟจุด และจะบอกว่า บั้งไฟบั้งนี้ จะไปตกตรงน้ำสร้าง ( บ่อน้ำ ) นั้นนะ บั้งไฟก็ไปตกตรงนั้น จริง ๆ หลายต่อหลายครั้งที่ท่านบอกก็เป็นไปตามนั้น และยังเล่าต่อไปอีกว่า หลวงปู่ท่านเป็นผู้มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ ในการกล่าว
    เมื่อศิษย์ทั้งบรรพชิต และคฤหัสถ์ ได้ซักถามถึงคาถาอาคม หลวงปู่จะบอกว่าให้ทุกคนยึดมั่นในความดี ปฏิบัติดี มีอยู่ครั้งหนึ่ง ท่านเล่าว่า เมื่อท่านเดินทางมาจากยโสธร มาบ้านทุ่งอีโอกได้พบกับฝูงควาย ซึ่งสมัยก่อนจะไม่ผูกเชือกและเจ้าของปล่อยให้หากินเป็นฝูง เมื่อพบกับพระภิกษุควายมักไล่ขวิดเพราะสีของจีวรนั่นเอง ควายฝูงนี้ก็เหมือนกันได้วิ่งโถมเข้าหาท่าน ท่านเล่าให้ศิษย์เหล่านั้นฟังมีจารย์ครูอ่อน อยู่ด้วย ว่าท่านได้แผ่เมตตาให้ฝูงควายฝูงนั้นแต่ฝูงควายยังวิ่งวนเวียนอยู่รอบตัว ท่านอย่างประสงค์ร้าย โดยไม่ยอมหนีไปจากท่านเลย ท่านจึงท่องคาถาว่า
    นะจังโง โมจังงัง นะบ่ไป โมมาบ่ได้
    พุทโธ นะนะกัตตัง อะหังพุทโธ สาธุ สาธุ สาธุ ฯ
    ปรากฏ ว่าฝูงควายได้หยุดวิ่งและเดินจากไป คาถาบทนี้ หลวงปู่ท่านได้ใช้อีกต่อเมื่อท่าน ได้เข้าปริวาส ในบริเวณที่เป็นป่าและมีงูจงอางตัวขนาดแขน เลื้อยมาแผ่แม่เบี้ยตรงหน้าท่าน ท่านหลวงปู่ ได้แผ่เมตตา และ ท่องคาถาบทนี้ เป็นเวลาพอสมควร งูได้เลื้อยหนีไปไม่ทำอันตรายต่อหลวงปู่เลย
    พ่อใหญ่ทองหล่อ บุญศรี ชาวบ้านผือฮี ได้เล่าให้ฟังเรื่องหนึ่งว่า เมื่อคราวที่บ้านนาโป่งจัดงานบุญพระเวส ได้มานิมนต์หลวงปู่ไปร่วมงานด้วย พอถึงวันงาน พ่อใหญ่ทองหล่อ ท่านจึงได้ไปนิมนต์หลวงปู่ให้ไปพร้อมกัน แต่หลวงปู่ได้บอกว่าให้เดินทางไปก่อน จะไปกับเณรน้อย ทีหลังให้ไปพบกันที่วัดบ้านนาโป่งเลย โดยท่านหลวงปู่จะตามไปกับเณรทีหลัง แต่พอพ่อใหญ่ทองหล่อ ไปถึงวัดบ้านนาโป่ง กับพบหลวงปู่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว โดยที่มีสามเณรกำลังนวดขาให้ท่านอยู่ แต่พอเข้าไปถามท่านก็บอกว่า เดินมาพร้อมกันแล้วก็หัวเราะ ตามประสาคนแก่
    หลวงปู่อุปัชฌาย์น้อย สุวโจ โดยมากท่านจะจำพรรษาที่วัดบ้านผือฮีเป็นหลัก หรือ บางปี ท่านหลวงปู่ ก็จะไปจำพรรษาที่วัดบ้านทรายมูล หรือ วัดบ้านนาโป่ง และ วัดบ้านไผ่ ตามลำดับ ส่วนวัดบ้านทุ่งอีโอกนั้น ท่านไม่ได้จำพรรษาอยู่เลย แต่ท่านก็ได้เป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำในการก่อสร้างพระอุโบสถ ( หลังเก่า ) จนแล้วเสร็จ หลวงปู่อุปัชฌาย์น้อย สุวโจ ท่านได้สร้างระฆัง ทองเหลืองไว้หลายลูก โดยมอบถวายให้แก่วัดหลายวัดด้วยกันที่วัดทุ่งอีโอกก็ได้รับ ( แต่ได้เอาไปหล่อเป็นพระประธานในอุโบสถหลังเก่าแล้ว เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๗ ) ที่วัดบ้านผือฮี ในปัจจุบันนี้ยังเหลืออยู่


    ***มรณภาพ***


    มื่อหลวงปู่ อุปัชฌาย์น้อย สุวโจ ได้เกิดอาพาธในวัยชรา ชาวบ้านทุ่งอีโอก จึงได้ไปกราบอาราธนานิมนต์ท่าน จากวัดบ้านผือฮี มาอยู่ที่วัดบ้านทุ่งอีโอก โดยเอารถไปรับท่านมาและมีเหตุอัศจรรย์ในวันไปรับนั้น โดยเป็นการบอกเล่าของ พ่อใหญ่ทองหล่อ บุญศรี พ่อใหญ่มี ไชยรักษ์ และ พ่อใหญ่เสริม ไชยรักษ์ ให้ฟังว่า ครั้นพอรถมาถึง ท่านหลวงปู่ก็ได้ขึ้นไปนั่งเรียบร้อยแล้ว พอจะออกเดินทางรถคันนั้นกับไม่สามารถสตาร์ทติดได้ จึงได้ไปเก็บดอกไม้มานิมนต์หลวงปู่ท่าน อีกครั้งหนึ่ง รถจึงสตาร์ทติด ครั้นพอหลวงปู่อุปัชฌาย์น้อย สุวโจ มาอยู่ที่วัดบ้านทุ่งอีโอก แล้ว โดยเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านทุ่งอีโอกทุกครัวเรือน และในวันที่หลวงปู่มรณภาพนั้น ได้มีเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างเกิดขึ้น ท่านหลวงปู่มาอยู่ที่วัดบ้านทุ่งอีโอก ประมาณ ๑ อาทิตย์ ท่านก็ได้มรณภาพลง ในปี พ.ศ. ๒๕๐๔ รวมสิริอายุได้ ๘๗ ปี ๖๔ พรรษาในสมณเพศ ที่กุฎีหลังเก่า ( อยู่ตรงด้านหน้าห้องสมุดในปัจจุบัน ) นับเป็นการสูญเสีย พระอริยสงฆ์ ผู้สุปฏิปันโน ผู้ปฏิบัติชอบ ผู้ดำเนินตามรอยพระบาทขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างแท้จริง

    ****ยันต์หลังเหรียญ****

    เหรียญนี้คนมักนำไปอ้างว่าปลุกเสกโดยหลวงปู่แดง วัดเขาบันไดอิฐ ซึ่งจริงๆแล้วไม่เป็นความจริงเลยท่านไม่ได้เคยพบและรู้จักหลวงพ่อแดงวัดเขาบันไดอิฐเลยเป็นการสร้างข้อมูลเท็จเพื่อจะขายได้ง่ายได้ราคาดีขึ้นเท่านั้น มูลเหตุที่ใช้ยันต์เดียวกับหลวงพ่อแดง นั้น ที่พอรับฟังได้มี 2 สาเหตุ

    1. ข่าวด้านหนึ่งบอกว่าลูกศิษย์ท่านที่สร้างจำพรรษาอยู่วัดหนึ่งในกรุงเทพ พอดีมีงานพุทธาภิเษกและหลวงพ่อแดงท่านได้มาร่วมงานด้วย ซึ่งช่วงนั้นหลวงพ่อแดงกำลังดังมาก ลูกศิษย์ท่านองค์นั้นเลยขออนุญาตหลวงพ่อแดงขอใช้ยันต์หลวงพ่อแดงไว้หลังเหรียญ ซึ่งหลวงพ่อแดงท่านก็อนุญาต

    2. อีกข่าว ว่า ทางวัดได้ว่าจ้างโรงงานที่ทำเหรียญหลวงพ่อแดงทำเหรียญแต่ไม่มีรูปแบบ พอดีไปเห็นรูปเหรียญหลวงพ่อแดงที่ทางโรงงานเขาได้ ใส่กรอบโชว์ไว้ จึงให้ทำตามแบบเหรียญหลวงพ่อแดง โดยใช้ยันต์ตามแบบเหรียญหลวงพ่อแดงทั้งหมดไว้ด้านหลัง

    ****ตามความคิดผมข่าวตามข้อที่ 1. น่าเชื่อถือที่สุดครับ..เพราะผู้เล่าเป็นเหลนของท่านเล่าให้ฟัง****



    ยันต์ หลังเหรียญใช้ยันต์ของหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐตรงกลาง เป็นยันต์ครู เป็นตัว นะครอบจักรวาล มีอักขระล้อมรอบอ่านได้ว่า เม อะ มะ อุ
    อักขระใต้หูเหรียญ
    เม อะ มะ อุ เป็นหัวใจปาติโมกข์ ย่อมาจากปาราชิก4
    เม ย่อมาจาก เมถุนัง ( เสพเมถุน)
    อะ ย่อมาจาก อทินนา ( ลักทรัพย์)
    มะ ย่อมาจาก มนุสสะวิคคะหัง ( ฆ่าคน)
    อุ ย่อมาจาก อุตตะริมนุสสะธัมมัง ( อุตริมนุสธรรมคือ อวดมีธรรมวิเศษ)
    ปาอิอะปะ เป็นหัวใจบริสุทธิ์ เป็นเมตตา ที่มาของคาถาคือ
    ปา ย่อมาจาก ปาติโมกขสังวร
    อิ ย่อมาจาก อินทรียสังวร
    อะ ย่อมาจาก อาชีวะปาริสุทธิ
    ปะ ย่อมาจาก ปัจจะยะปัจจเวกขณะ
    พุทธะสังมิ เป็นหัวใจพระไตรสรณาคมน์ ดีทางคงทน แคล้วคลาด
    นะชาลีติ เป็นหัวใจพระฉิมพลี ที่พระพุทธเจ้า ทรงโปรดประทานให้ พระอานนท์ เป็นคาถาป้องกันภัยและเมตตา เรียกลาภ
    เอหิมาเรหิ เป็นคาถาเฉพาะของหลวงพ่อ
    นะโมพุทธายะ เป็นหัวใจพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ เป็นคาถาหลักเสริมให้คาถาและยันต์อื่นเกิดปาฏิหาริย์ เป็นอักขระวิเศษเรืองอานุภาพสูงสุด
    มะ อะ อุ เป็นหัวใจพระไตรปิฎก

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ให้บูชา 1200 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พ่อท่านจันทร์ สุเมโธ วัดทุ่งเฟื้อ
    รูปพ่อท่านจันทร์ สุเมโธ วัดทุ่งเฟื้อ

    พ่อท่านจันทร์ สุเมโธ วัดทุ่งเฟื้อ ตามประวัติ หลวงพ่อจันทร์ ท่านเป็นผู้มีวิชาอาคมแก่กล้า เครื่องราง ควายธนู พ่อท่านจันทร์ ถือเป็นควายธนูหนึ่งเดียวของเมืองใต้ ด้วยเอกลักษณ์และรูปแบบโดยเฉพาะ ประวัติพระเกจิอาจารย์ชื่อดังเมืองใต้

    ประวัติหลวงพ่อจันทร์ สุเมโธ วัดทุ่งเฟื้อ เกิดวันพฤหัสบดี ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2453 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน6ปีชวด ณ บ้านหลาแก้ว อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช บิดาชื่อนายเขียว มารดาชื่อนางพุดแก้ว นามสกุล ทองแก้ว หลวงพ่อจันทร์ ท่านเป็นบุตรชายคนโต มีพี่น้อง4คน มีอาชีพทำสวนทำไร่ ตอนเยาว์วัยได้ศึกษาในสำนักของ พระครูสังฆรักษ์ วัดหลาแก้ว ได้ศึกษาอักขระสมัยและวิชาอาคมต่างๆ เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นก็ศึกษาพุทธาเวทจากตำราต่างๆ มีวิชาอาคมพอตัวเลยทีเดียว นักเลงหัวไม้ต่างกลัวท่าน เนื่องจากท่านหนังเหนียวยิ่งนัก เมื่ออายุครบ 20ปี ก็ได้อุปสมบทที่วัดศาลาแก้ว มีพระครูพนังศรีวิสุทธิพุทธิภักดี เป็นพระอุปัชฌาย์ อาจารย์เห้ง วัดศาลามีแก้ว เป็นพระกรรมาวาจารย์ หลวงพ่อจันทร์ ได้ฉายาว่า "สุเมโธ"

    อักขระปรากฏแก่ พ่อท่านจันทร์ คราวหนึ่ง พ่อท่านจันทร์ สุเมโธ ท่านเดินทางธุดงค์อยู่ในป่าช้าจังหวัดพัทลุงขณะที่ท่านเข้าพักแขวนกลดไว้กับกิ่งไม้ในป่าช้าวัดแห่งหนึ่งบริเวณใกล้ริมคลองป่าเรียบร้อยแล้ว “หลวงพ่อจันทร์”ท่านก็เดินจงกลมคลายความเหน็ดเหนื่อยพอสมควรแล้ว ท่านก็นั่งสมาธิภาวนาในกลด เพราะเป็นช่วงพลบค่ำพอดี

    ความอัศจรรย์เกิดขึ้นแก่จิต ขณะที่นั่งสมาธิจนจิตค่อยสงบลงแล้วสติสัมปชัญญะสมบูรณ์แจ่มใสมาก “หลวงพ่อจันทร์”ท่านได้เล่าให้บรรดาศิษย์ฟังภายหลังว่าจิตสงบดีแล้วเหตุการณ์การอันอัศจรรย์ก็ปรากฏขึ้น ทำให้เห็นอักขระแบบภาษาขอมลอยขึ้นเด่นชัด จากริมแม่น้ำลำป่า ไปอยู่ในท่ามกลางอากาศก็ได้กำหนดอักขระเหล่านั้นมาพิจารณา แล้วทำอุบายเพ่งเป็นกสิณ โดยอาศัยอักขระโบราณที่ปรากฏมาเป็นนิมิตรหมายแห่งการบำเพ็ญเพ่งเป็นองค์กสิณยิ่งนานวัน ความสงบยิ่งแนบแน่นตามลำดับ

    พยัคฆามาเยี่ยม เมื่อความมืดมาปกคลุมไปทั่วลุ่มน้ำลำป่า จังหวัดพัทลุง บริเวณภายนอกกลดอากาศเย็นเป็นพิเศษ ขณะ"พ่อท่านจันทร์"และหมู่คณะของท่านนั่งกำหนดจิตอยู่ ทันใดนั้นความเงียบก็ถูกทำลายด้วยอำนาจเสือโคร่งตัวโต เสียงร้องของมันขู่ข่มขวัญ ทุกคนที่ได้ยิน มันเดินไปวนมาข้างๆกลดเพราะได้กลิ่นมนุษย์ พระธุดงค์ดังกล่าวได้ปฏิบัติตามคำเตือนให้อยู่ในความสงบ นั่งปฏิบัติกันโดยปกติ เสือเหมือนมาทดสอบจิตใจเมื่อพระธุดงค์ทุดท่านมีมานะอดทนที่แน่วแน่ พร้อมทั้งแผ่เมตตาไปยังเสือตัวนั้นในที่สุดเสือโคร่งก็สิ้นความพยายามผละหายกลับไปในป่าลึก

    หลวงพ่อจันทร์ พบดินแดนสงบ จากการเดินธุดงค์ไปทั่วทั้ง 14จังหวัดภาคใต้ ต่อมาในปี พ.ศ.2491 พ่อท่านจันทร์ สุเมโธ ท่านได้จำพรรษาที่ วัดทุ่งเฟื้อ เพราะเล็งเห็นว่าเหมาะแก่การเจริญวิปัสสนาสมาธิเป็นอย่างยิ่ง จากอดีต วัดทุ่งเฟื้อ ที่เคยมีสภาพทรุดโทรม ก็ได้รับการพัฒนาเปิดป่า เปลี่ยนเป็นศาลาโรงธรรม หอระฆัง พระอุโบสถและกุฏิสงฆ์ขึ้นมาตามลำดับ ต่อมา พ่อท่านจันทร์ ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส วัดทุ่งเฟื้อ อย่างสมบูรณ์ พระสงฆ์ต่างจังหวัดและชาวบ้านต่างมาฝากตัวเป็นศิษย์ท่านเป็นจำนวนมาก เพื่อศึกษาตำราพิชัยสงคราม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องวิชาคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด มหาอุด แต่งคนเลิศดีนักแลฯ ถือเป็นวิชาสุดยอดทั้งนั้นและ หลวงพ่อจันทร์ ก็เคยเดินทางไปศึกษาวิชากับ อาจารย์เอียดดำ วัดในเขียว อีกด้วย

    ความศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อจันทร์
    ความศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ
    ข้อมูลจากคุณศิวเวทย์ (๏..ตรังนิสิงเห...๚ะ๛)

    พุทธคุณพระเครื่อง “พ่อท่านจันทร์”
    ในเรื่องอิทธิมงคลวัตถุของพ่อท่านจันทร์ นั้นมีอานุภาพดีเด่นในทางพุทธคุณสูง อานุภาพสูงส่งจากประสบการณ์ผู้นำติดตัวไปใช้ก็มีมากมาย จึงเป็นที่หวงแหนของผู้ที่ครอบครองไว้ สำหรับความรู้สึกของศิษยานุศิษย์ที่ได้เรียนวิชาคงกระพัน วิชาชาตรี วิชาแคล้วคลาด วิชามหาอุด วิชาแต่งคน และรับมอบอิทธิวัตถุมงคลของหลวงพ่อจันทร์ พูดได้ว่ายอดเยี่ยมเลยทีเดียว

    หลวงพ่อจันทร์ มรณภาพตามกำหนด
    กฎแห่งไตรลักษณ์มีอย่างไรความจริงก็ย่อมปรากฏเช่นนั้น หลวงพ่อจันทร์ ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติจนเกิดฌานจนแก่กล้า สามารถรู้เหตุการณ์ต่างๆแม้แต่วันตาย ดังบันทึกของคณะศิษย์วัดทุ่งเฟื้อ ทุกๆสาย คืนวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ.2532 ท่านเข้าสมาธิภาวนาตั้งแต่หัวค่ำด้วยอิริยาบถอันสงบ แม้อาการป่วยกระเสาะกระแสะมาตลอดท่านก็ไม่ ทอดธุระเรื่องภาวนา ตลอดคืนจนได้เวลา 05.00น. อันเป็น เวลาใกล้สว่าง หลวงพ่อจันทร์ ท่านได้ให้บรรดาศิษย์ช่วยกันพยุงกายท่านให้ลุกขึ้น เพราะท่านนั่งสมาธิมาตั้งแต่หัวค่ำ เรี่ยวแรงก็น้อยลง เมื่อพระสมุห์พิงค์ ขึ้นแล้ว ท่านได้เปลี่ยน สบง จีวร สังฆาฏิ ใหม่หมดเสร็จแล้วท่านได้บอกให้ลูกศิษย์ประคองให้นั่งลงทำสมาธิต่อไปหลังจากฉันอาหารเช้าแล้ว หลวงพ่อจันทร์ท่านก็หลับตาลง และได้สั่งให้พระสมุห์พิงค์ ผู้เป็นศิษย์จุดเทียนไว้เบื้องหน้าหนึ่งเล่ม พร้อมทั้งไม่ให้ใครมาส่งเสียงบริเวณนั้นจะทำสมาธิครั้งสุดท้ายหลังจากกล่าวแก่ศิษย์ทุกคนแล้ว หลวงพ่อจันทร์ ท่านก็หลับตาลงเป็นครั้งสุดท้ายกำหนดจิตเข้าสู่สมาธิ เป็นลำดับเวลา 08.30น.บรรดาลูกศิษย์ ที่เฝ้าดูอาการของ พ่อท่านจันทร์ เห็นผิดสังเกต เพราะศีรษะของท่านโน้นเอียงลงมาเล็กน้อย ซึ่งปกติท่านจะนั่งตัวตรงไม่ไหวติง ศิษย์ที่อยู่ใกล้ชิดท่านย่อมรู้ดี จึงทราบว่า พ่อท่านจันทร์ สุเมโธ วัดทุ่งเฟื้อ ท่านได้มรณภาพแล้ว วันที่ 10 พฤศจิกายน 2532

    หลวงพ่อจันทร์ เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน
    ชาวบ้านที่ศรัทธา หลวงพ่อจันทร์

    ร่างกายไม่เน่าเปื่อย
    การนั่งมรณภาพของ หลวงพ่อจันทร์ เมื่อวันที่10 พฤศจิกายน 2532 ได้ลือกระฉ่อนไปทั่วสารทิศเมืองนครศรีธรรมราช สังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย สังขารของท่านแข็งดุจหินแม้เวลาล่วงเลยมาหลายปี

    พระเครื่องพ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ วัตถุมงคล เครื่องรางของขลังต่างๆ
    ล้วนเป็นที่นิยมอย่างมากเนื่องจาก หลายคนมีประสบการณ์แบบบอกต่อๆกันไม่ว่าจะเป็น เหรียญรุ่นแรก รูปหล่อรุ่นต่างๆ พระบูชาหลวงพ่อจันทร์ รวมทั้งเครื่องรางควายธนู

    ข้อมูลจาก...นิตยสารศูนย์พระเครื่อง ปี 2535


    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ


    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ(ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ธันวาคม 2013
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343
    ประวัติ หลวงพ่อเฮ็น สิริวังโส วัดดอนทอง

    "หลวงพ่อเฮ็น สิริวังโส" หรือ พระครูอรรถธรรมาทร วัดดอนทอง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี เป็นพระเถราจารย์มีเชื้อสายเขมร ที่มีวิทยาคมแก่กล้ารูปหนึ่ง เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาจากสาธุชนและคณะศิษยานุศิษย์อย่างยิ่ง

    หลวงพ่อเฮ็น อัตโนประวัติ หลวงพ่อเฮ็น เกิดในสกุล ศิริวงษ์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับปีกุน ที่หมู่บ้านจางคาง เมืองปาดวง กำปงธม ซึ่งเป็นเมืองชายแดนขึ้นอยู่กับไทย ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ประเทศไทยเสียดินแดนแถบนั้นไป โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายอยู่และนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งเป็นชาวกัมพูชาอยู่หมู่บ้านจางคาง

    เมื่ออายุครบ 20 ปี ตรงกับ พ.ศ.2474 ได้เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดพรรณราย เมืองกำพงธม มีหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณราย เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์กุ่ย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์หมั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า สิริวังโส

    หลังอุปสมบท ได้ศึกษาพุทธาคมและพระธรรมวินัยและไสยาคมกับหลวงพ่อแก้ว เมื่อเรียนวิชาจนสำเร็จแล้ว ท่านได้ออกธุดงค์มายังเมืองไทย

    ระหว่างการเดินธุดงค์ตามป่าเขา ได้พบพระธุดงค์ด้วยกันหลายรูป จึงแลกเปลี่ยนวิชากัน อาทิ หลวงปู่สอน วัดเสิงสาง จ.นครราชสีมา, พระอาจารย์ต่วน วัดกล้วย จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นต้น

    หลวงพ่อเฮ็น เคยปรารภว่า ได้ออกท่องธุดงค์รอนแรมตามป่าเขาลำเนาไพร เพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติวิปัสสนาระหว่างทางในป่าเขาให้ถ้ำบ้าง ขุนเขาบ้างเป็นที่พำนัก รักษาศีล และเจริญวิปัสสนา ได้พบกับความยากลำบากต่างๆ นานา พบกับภัยธรรมชาติก็อาศัยสรรพวิชาที่ได้ร่ำเรียนมากับอาจารย์สามารถปัดเป่าไปได้ ระหว่างทางพบกับความลี้ลับมหัศจรรย์มากมาย

    "สมัยเมื่อ 40-50 ปีที่แล้ว ระหว่างชายแดนด้านประเทศเขมร มีแต่ป่าดงดิบทั้งนั้น ใครไม่แน่จริง เดินเข้าไปก็ไม่สามารถออกมาได้ กลายเป็นผีเฝ้าป่าไปเท่านั้น" เหรียญหลวงพ่อเฮ็น

    หลวงพ่อเฮ็น เล่าว่า ในป่าดงดิบแถบนั้น การเอาตัวรอดจากภัยธรรมชาติ เป็นเรื่องมิใช่ง่าย นอกจากต้องมีพลังจิตกล้าแข็งแล้ว การผจญกับสัตว์ป่านานาชนิด บางครั้งต้องใช้วิชาไสยศาสตร์แก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าไปด้วย

    รูปหล่อหลวงพ่อเฮ็นท่านใช้เวลาธุดงค์ยาวนานหลายปีวนเวียนอยู่ในป่าเขา จนการปฏิบัติวิปัสสนาก้าวหน้ากล้าแข็งดีแล้ว จึงธุดงค์เข้ามาในเขตประเทศไทย ได้พบพระคณาจารย์ต่างๆ ของไทยหลายรูปที่ธุดงควัตรอยู่ในป่า ได้ศึกษาสนทนาธรรมแลกเปลี่ยนกัน และธุดงค์เรื่อยเข้ามาผ่านเข้ามาทาง ทุ่งนาบ้าง บ้านคนบ้าง จนกระทั่งถึงเมืองสระบุรี ท่านเดินทางไปถึงบ้านดงตะงาว กิ่งอำเภอดอนพุด ได้พบวัดดอนทอง เห็นเป็นวัดที่มีความสงบวิเวกดี มีบ้านเรือนชาวบ้านอยู่ไม่มากนัก

    จากนั้นจึงได้อยู่จำพรรษาที่ "วัดดอนทอง" เมื่อปี พ.ศ.2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพ ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา

    พ.ศ.2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ "พระครูอรรถธรรมทร"

    ในชีวิตหลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ท่านจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

    กล่าวกันว่า ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ หลวงพ่อเฮ็นนั้น มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง โดยเฉพาะในทางเมตตามหานิยมเป็นเลิศ มีกิตติคุณกว้างไกล ท่านสร้างขึ้นตามตำรับโบราณ ด้วยพุทธาคมและพลังจิตอันกล้าแข็ง ด้วยได้รับการถ่ายทอดวิชาจากหลวงพ่อแก้ว แห่งวัดพรรณราย

    หลวงพ่อเฮ็น เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านดอนทองอย่างยิ่ง แม้กระทั่งทหารนักรบที่อาสาไปรบในสงครามเวียดนาม ต่างมาขอวัตถุมงคลจากท่าน เพื่อคุ้มครองป้องกันภยันตราย

    หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

    แม้วันนี้หลวงพ่อเฮ็นจะละสังขารไปนานแล้ว แต่คุณงามความดียังคงปรากฏอยู่สืบไป

    เปิดประวัติ'หลวงพ่อเฮ็น'(จบ) วัตถุมงคลดังขลังดี-หลากรุ่น

    มุมพระเก่า
    อภิญญา



    เมื่อปี 2537 "หลวงพ่อเฮ็น" วัดดอนทอง ต.ตะงาว อ.ดอนพุด จ.สระบุรี ได้เป็นประธานอธิษฐานจิตวัตถุมงคล รุ่นฉลองอายุครบ 7 รอบ 84 ปี มีทั้งเหรียญ รูปเหมือน และวัตถุมงคลอีกหลายรายการ ในวันดังกล�าวพิธีปลุกเสกเกิดปาฏิหาริย์มหัศจรรย์ขึ้นหลายอย่าง

    งานพิธีตรงกับวันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม 2537 ซึ่งเป็นวันที่มีการจัดพิธีการปลุกเสกวัตถุมงคลหลวงพ่อเฮ็น วัดดอนทอง จ.สระบุรี ขณะที่พิธีได้เริ่มขึ้นโดยพระสงฆ์ผู้ทรงคุณวุฒิ เริ่มพิธีสวดธัมมจักกัปปวัตนสูตร ท้องฟ้าที่มีแสงแดดจ้าร้อนแรง ปราศจากเมฆหมอก ไม่มีวี่แววที่จะส่อเค้าว่าจะมีฝนเลย

    แต่เมื่อพระสงฆ์ได้สวดธัมมจักกัปปวัตนสูตรได้ประมาณ 5 นาที ผ่านไปได้เกิดละอองฝนโปรยปรายลงมาเปรียบดั่งน้ำทิพยมนต์ทั่วบริเวณของวัดดอนทอง ทั้งๆ ท้อง ฟ้าโปร่งและมีแสงแดดจ้า ละอองฝนได้ พรมอยู่จนใกล้พระสงฆ์สวดเสร็จจึงหยุดตก ขณะที่ท้องฟ้าคงอยู่สภาพเดิม คือมีแสงแดดกล้าและปราศจากเมฆหมอกแต่อย่างใด ว่ากันว่าเป็นเพราะเทพยดา ฟ้า ดิน ร่วมอนุโมทนาในพิธีนี้



    ด้วยปรากฏการณ์ครั้งที่ 2 ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อพระเถรานุเถระที่ได้รับนิมนต์มา เพื่อนั่งปรกปลุกเสกได้เริ่มประจำที่ เวลาได้ผ่านไปประมาณ 10 นาที ท้องฟ้าที่สว่างมีแสงแดดจ้า กลับมืดครึ้มพร้อมทั้งมีเสียงฟ้าร้องติดต่อกันเป็นระยะๆ อยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงโดยไม่มีฝนตกแต่อย่างใด ท่ามกลางสายตาผู้ที่ไปร่วมพิธีหลายร้อยคน

    เหตุการณ์อัศจรรย์ทั้ง 2 ครั้งของวันพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลหลวงพ่อเฮ็น วัดดอนทอง นับเป็นเหตุ การณ์ที่มีนิมิตหมายอันเป็นมหามงคลที่แสดงให้เห็นถึงความสุข สงบร่ม เย็น ความอุดมสมบูรณ์ และความเจริญรุ่งเรือง อันมีพร้อมสรรพในวัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็น รุ่นฉลองอายุครบ 7 รอบ 84 ปี อย่างหาที่สุดมิได้



    รายนามพระเถระที่ร่วมพิธีนั่งภาวนาปลุกเสก มีนามเป็นมงคลคือ 1.หลวงปู่วันนา วัดคลองเกตุ จ.ลพบุรี 2.หลวงปู่มัง วัดเทพกุญชร จ.ลพบุรี 3.หลวงพ่อเฮ็น วัดดอนทอง จ.สระบุรี 4.หลวงพ่อผัน วัดราษฎร์เจริญ (แปดอาร์) จ.สระบุรี 5.หลวงพ่อวันนา วัดดอนพุด จ.สระบุรี 6.หลวงพ่อแหร่ม วัดมะขามเรียง จ.สระบุรี 7.หลวงพ่อทิม วัดพระขาว จ.พระนครศรีอยุธยา 8.หลวงพ่อหอม วัดท่าอิฐ จ.อ่างทอง 9.หลวงพ่อหมอ วัดโคกกระต่ายทอง จ.พระนครศรีอยุธยา 10.หลวงพ่อนาค วัดหนองโปร่ง จ.สระบุรี 11.หลวงพ่อทองใบ วัดอบทม จ.อ่างทอง 12.หลวงพ่อเพชร วัดไผ่หลิ่ว จ.พระนครศรีอยุธยา 13.หลวงพ่อรวย วัดตะโก จ.พระนครศรีอยุธยา 14.หลวงพ่อดี วัดพระรูป จ.สุพรรณบุรี 15.หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม 16.หลวงพ่อถม วัดเชิงท่า จ.ลพบุรี

    วัตถุมงคลรุ่นนี้มีเหรียญทองแดงรุ่นวาสนา, รุ่นเงินดี มีสุข เหรียญล�อแม็กซ์ทองเหลือง ทุกองค์ตอกโค้ด เนื้อทองคำทุกองค์มีหมายเลขรหัส และใบกำกับ เฉพาะพระกริ่งตอก 3 โค้ด โค้ดที่ 1 ตอกโดยคณะผู้สร้าง โค้ดที่ 2 ตอกโดยกรรมการวัด โค้ดที่ 3 ตอกโดยคณะครูและนักเรียนวิทยาลัยเทคนิคสระบุรี

    เพื่อให้เป็นไปตามเฉพาะตำรับครบสูตรหลวงพ่อเฮ็น หลังจากอธิษฐานภาวนาปลุกเสกใหญ่ในวันที่ 15 ตุลาคม 2537 แล้ว หลวงพ่อเฮ็นได้อธิษฐานจิตตภาวนาปลุกเสกเดี่ยวพิเศษต่ออีก 9 วัน 9 คือ เรียกว่าหรคุณสรรเสริญคุณ พระพุทธเจ้าและจะอธิษฐานจิตตภาวนาปลุกเสกเดี่ยวสรรเสริญคุณพระศรีรัตนตรัย ต่อไปอีกถึงวันเพ็ญ เดือน 12 (วันลอยกระทง) เพื่อความสว่างไสวในชีวิตตามตำรับสมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์ อีกคำรบหนึ่ง

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความที่มาข้อมูลอย่างสูงครับ

    ให้บูชาเหรียญละ 150 บาท มี 3 เหรียญ 3 รุ่น ค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ



    [​IMG] [​IMG]

    1

    [​IMG] [​IMG]


    2


    [​IMG] [​IMG]

    3
     
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระสมเด็จเกษารุ่นแรกหลวงปูพวง วัดสหกรณ์รังสรรค์ สระบุรี

    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญจอบหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน ปี2528 ที่หลวงปู่ดู่อธิฐานจิตครับ

    เหรียญจอบ(รุ่นสายสิญจน์) หลวงพ่อเงิน บางคลาน พิจิตร ปี2528 เนื้อทองฝาบาตร (หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ร่วมปลุกเสก) สวยเดิมๆ น่าเก็บครับ
    ***เหรียญหลวงพ่อเงิน รุ่นนี้สร้างขึ้นโดย นิตยสารสายสิญจน์ เมื่อปี ๒๕๒๘ เพื่อแจกให้แก่ผู้อ่าน โดยสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองเหลืองผสมชนวนแผ่นยันต์มากมาย แล้วขอความเมตตาจากพระเถราจารย์จำนวน ๗ รูปอธิษฐานจิตปลุกเสก ดังรายนามต่อไปนี้
    พระพุทธวรญาณ วัดกวิศราราม ลพบุรี เมื่อครั้งยังเป็น พระธรรมญาณมุนี
    หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี
    หลวงปู่ดู่ วัดสะแก พระนครศรีอยุธยา
    หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า ระยอง
    หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง สระบุรี
    หลวงพ่อเฮ็น วัดดอนทอง สระบุรี
    และ หลวงพ่อสนิท วัดพระเชตุพน กทม.

    ให้บูชา 700 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ออกวัดบ้านน้อย กาญจนบุรี ปี๒๕๑๔ พิมพ์ใหญ่

    (ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2013
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343
    จัดสร้างโดย “ ท่านพระครูอนุกูลปริยัติกิจ ” และนับแต่ “ พระอาจารย์ทิมมรณภาพ ” ไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 ที่วัดช้างให้ก็ไม่ได้มีการสร้างหลวงพ่อทวดขึ้นอีกเลย จนมาสร้างอีกครั้งเมื่อ พ.ศ. 2522 ในครั้งนั้นมีพระเครื่องหลวงพ่อทวดสร้างขึ้นหลายแบบด้วยกัน เช่น พระเนื้อว่าน แบ่งออกเป็น พิมพ์กรรมการ , พิมพ์ใหญ่ , พิมพ์กลาง และ พิมพ์พระรอด สำหรับหลวงพ่อทวดเนื้อว่านปี พ.ศ. 2522 วงการจะเรียกกันว่า “ หลวงพ่อทวดปี 24” ทั้งนี้ก็เพราะว่าเมื่อสร้างและปลุกเสกเสร็จแล้ว ทางวัดได้เปิดให้ทำบุญไประยะหนึ่งแล้วยังมีพระเหลืออีกจำนวนมาก ทางวัดจึงได้ไปว่าจ้างโรงงานทำกล่องพลาสติกบรรจุพระเมื่อ พ.ศ. 2524 ที่กล่องพลาสติกใส่ระบุปีเป็น พ.ศ. 2524 เอาไว้ จึงทำให้มีการเข้าใจผิดและเรียก ” หลวงพ่อทวด รุ่นนี้ว่า “ ปี 24 ” ดังกล่าว นอกจากหลวงพ่อทวดเนื้อว่านแล้ว ครั้งนั้นยังได้สร้างวัตถุมงคลหลวงพ่อทวดแบบอื่นๆด้วย เช่น รูปเหมือนลอยองศ์เนื้อโลหะ , รูปเหมือนพิมพ์สามเหลี่ยม , เหรียญเสมา , เหรียญหัวแหวน , เหรียญหยดน้ำ และเหรียญเม็ดแตง เป็นต้น ส่วนเหรียญเม็ดแตงและหยดน้ำ จะมีส่วนที่ลงยาและไม่ลงยา เป็นต้น คณาจารย์ที่เข้าร่วมพุทธาภิเษก เหรียญปี 2522 ประกอบด้วย 1.หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดงตะวันออก จ.พัทลุง 2.หลวงพ่อวัดคลองท่อม จ.พัทลุง 3.หลวงพ่อสอน วัดปิยาราม จ.ปัตตานี 4.หลวงพ่อวัดโคกหมัน จ.ปัตตานี 5.หลวงพ่อวัดทุ่งคา ยะหริ่ง จ.ปัตตานี 6.ท่านอาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี 7.หลวงพ่อดำ วัดตุยง จุดเทียนชัย 8.ท่านเจ้าคุณวัดนาประดู่ ดับเทียนชัย กล่าวกันว่าเหรียญหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ พิมพ์ต่างๆเหล่านี้ แต่ก่อนไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าที่ควร เนื่องจากคนส่วนใหญ่ไปสนใจแต่พวกเนื้อว่านกัน มาปัจจุบันก็มีคนหันมาสนใจกันมากกว่าแต่ก่อน เพราะเนื่องด้วยว่า “ ประสบการณ์ที่เป็นกล่าว ขวัญกันมาก ” นั่นเอง และ โดยได้แยกพระเนื้อโลหะ หากว่าเป็นเหรียญ พิมพ์เสมา และเหรียญเม็ดแตง แบบต่างๆ ตลอดจนถึง พิมพ์หยดน้ำ ว่าเป็น ปี “ 2522 ” แต่หากว่าเป็นหลังหนังสือ ก็จะเรียกว่า ปี “ 2524 ”
    1.หลวงพ่อทวดเนื้อว่าน ปี 2522 (2524) พระชุดนี้ถือเป็นพระเครื่องเนื้อว่านรุ่นที่ 3 ของวัดช้างให้ ดำเนินการจัดสร้างโดยท่านพระครูอนุกูลปริยัติกิจ เจ้าอาวาสวัดช้างให้ มี 4 พิมพ์ คือ พิมพ์กรรมการ/ พิมพ์ใหญ่ /พิมพ์กลาง /พิมพ์พระรอด จำนวนการสร้าง พิมพ์กรรมการ 2,000 องค์ และอีกสามพิมพ์รวมกันประมาณ 300,000 องค์ พระหมดจากวัดเมื่อปี 2535
    2.เหรียญหลวงพ่อทวดเสมา ปี 2522 เนื้อทองคำ.เงิน.ทองแดงและเคลือบลงยาแดง.เขียว.ม่วง
    3.เหรียญหลวงพ่อทวดกลมรูปไข่ ปี 2522 เนื้อนวะ.เนื้อนิกเกิ้ล
    4.เหรียญเม็ดแตงหลวงพ่อทวด ปี 2522 เนื้อทองคำ.เงิน.ชุปนิกเกิ้ล.เคลือบลงยาแดง.เขียว.ม่วง(แบ่งได้เป็น 2 บล็อก บล็อก 3 ซายและ 5 ซาย)
    5.เหรียญหลวงพ่อทวดหยดน้ำ ปี 2522 เนื้อทองคำ.เงิน.เงินลงยา.เคลือบลงยาแดง.เขียว.ม่วง.เนื้อทองแดงและเนื้อนิกเกิ้ล
    6.เหรียญหัวแหวน ปี 2522 เนื้อทองคำ.เงิน.เนื้อนิกเกิ้ล

    ให้บูชา 1300 บาทครับ


    [​IMG] [​IMG]
     
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343
  10. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญเสมาหลวงปู่เี่อี่ยม วัดหนังปี๒๕๑๙ พิธีใหญ่หลวงปู่โต๊ะปลุกเสก

    ให้บูชา 800 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระผงรูปเหมือนเกษาเนื้อว่านผสมเทียนชัยครูบาบุญขุ่ม รุ่นแรก หาไม่ยาก มีเยอะแต่ไม่ค่อยมีคน

    เอาออกมาให้บูชาส่องดูองค์พระเห้นเกษาชัดเจนครับ
    ให้บูชา 800 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ(ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ธันวาคม 2013
  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่บุญวัดบ้านนา ระยอง สภาพผ่านการบูชาครับ สวยๆก็แพงและหายาก

    ไม่สวยไม่แพงหาง่ายกว่า

    (ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2013
  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เบอร์บัญชีผมครับ
    เบอร์บัญชีธ.กรุงไทย KTB125-0-08923-9 supachai thu
    โอนเงินแล้วช่วยแจ้งวันเวลาที่โอนในกระทู้เพื่อง่ายในการตรวจสอบหรือทางPMแล้วจะรีบดำเนินการจัดส่งEMSไปให้โดยด่วนนะครับ..หลายรายการก็ค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    ขอความกรุณาโอนเงินภายใน 3 วันทำการหรือถ้าไม่สะดวกติดต่อมาได้ครับ

    ไม่เกิน 7 วัน หรือตามสมควรครับ

    ติดต่อได้ที่ 08..1.70..4..72..64
     
  14. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,986
    ค่าพลัง:
    +5,394
    ขอจองตามpmครับ--------------
     
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343
    http://watthakhanun.com/webboard/showthread.php?p=17833

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    เหรียญนำไปล้างหน่อยก็สวยขึ้นครับ


    [​IMG] [​IMG]
     
  16. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญสายสิญจ์ไหม้หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม สิงห์บุรี

    รุ่นนี้รุ่นนิยมของท่านครับกะไหล่เงิน แจกทหารตำรวจ

    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    (ปิดายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2013
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญหลวงปู่บุญศรี วัดใหม่ศรีสุทธาวาส นครสวรรค์

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    (ปิดายการ)
    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2013
  18. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญหลวงพ่อเก็บ วัดดอนเจดีย์ สุพรรณบุรี

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  19. ภคทัศ

    ภคทัศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2010
    โพสต์:
    702
    ค่าพลัง:
    +1,015

    จองครับ
     
  20. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343
    เหรียญรุ่น๑หลวงปู่บัว เตมิโย สภาพสวยเดิมๆ

    ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ


    [​IMG] [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...