เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

วิหาร ลพ.ฤาษี แม่ชี ขอขมา

บรรยากาศภายในวิหาร ซึ่งเป็นที่นำร่างของแม่ชี ที่ไม่เน่า บรรจุไว้ในโลงแก้ว เพื่อให้ผู้มากราบไว้ ได้สักการะ

 

โคตรเศรษฐี 2

หลังจากรุ่นที่ 1 ได้หมดลง แต่วิหารยังไม่เสร็จสิ้น ท่านแม่ชีประทุม โชติอนันต์ จึงได้นำเศษ แร่ศักดิ์สิทธิ์ ไปบรรจุไว้ในพระเนื้อผง สร้างเมื่อปี ๒๕๓๙ นำให้เช่าบูชา องค์ละ ๒,๐๐๐ บาท ปัจจุบันในปี ๒๕๕๕ ตำรวจ ทหารจาก ๓ จังหวัดชายแดน ได้มาเช่าบูชาที่สำนักแม่ชีประทุม ปากช่อง หนองสาหร่าย และได้แกะเอาแร่กายสิทธิ์ออกจากเนื้อพระ แล้วนำไปฝังเอาไว้ใต้ท้องแขน เช่นเดียวกับตะกรุดของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์ไม่ต่างกัน

 

กราบ คุณแม่ประทุม และ ย่าโมครับ

โชโย ๆ ๆ ย่าโมออกศึก

คาถาที่ หลวงพ่อคุณให้รัตนพล ส. วรพิน ท่องก่อนชกทุกครั้ง

ไม่สงวนลิขสิทธิ์

 

ประเ้พณีสงกรานต์: เพชรบุรี

ปิดทอง รดน้ำ

ทำบุญ ตักบาตร เรียบร้อยแล้ว ปิดทองพระ รดน้ำพระบรมสาริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

 

เลี้ยงดูเจ้าที่

ทำบุญไหว้พระ เสร็จแล้ว สิ่งที่จะขาดเสียมิได้ คือการเลี้ยงดู เทพเจ้าเหล่า เทวดดา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหลาย จิตเรานึกถึุงท่าน ท่านก็นึกถึงเรา เปรียบเสมือนหากเราไม่เปิดวิทยุทรานซิสเตอร์ สัญญาณ วิทยุก็ไม่สามารถมาที่วิทยุของเราได้ เราต้องเปิดดวงจิตของเราเสียก่อน สิ่งศัีกดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจึงจะสามารถสื่อสารมาถึงเราได้

 

ขออนุโมทนาด้วยครับพี่ Change ^___^

 

ขอบพระคุณครับ โมทนาบุญกุศล ด้วยกันนะครับ

 

ไหว้กระดูก

ชาวเพชรบุรี ถือว่าวันสงกรานต์ เป็นวันรวมญาติ ไม่ว่าจะไปทำงานที่ไหน อยู่ที่ใด ต้องกลับมาทำบุญที่บ้านเกิด หลังจากทำบุญ ไหว้พระ ไหว้เทพเจ้าเหล่าเทวดา แล้ว ประเพณีของชาวเพชรบุรี อีกอย่างหนึ่งก็ คือ การเข้าป่าช้า ไหว้กระดูกของบรรพบุรุษ และผู้มีพระคุณ พรมน้ำอบ น้ำหอม เปลี่ยนผ้า นิมนต์พระมาติกา บังสุกุล เพื่อเป็นการระลึกนึงถึงดวงวิญญาณของบรรพบุรุษ รวมถึงผู้มีพระคุณทั้งหลาย ซึ่งจากการเข้าไปที่ป่าช้า ก็พบว่าบางคนตายตอนแก่ บางคนก็ตายตอนสาว บางคนยังหนุ่มอยู่เลยตายเสียแล้ว ความตายนั้นทำหน้าที่ได้เที่ยงตรงเสมอ ดังนั้นจงตั้งอยู่ในความไม่ประมาท อย่าคิดว่าอีกนานกว่าจะตาย ความตายอยู่รอบตัวเรานี่เอง เร่งสร้างบุญ สร้างกุศลเอาไว้ให้มากที่สุด ตายแล้วไม่มีโอกาสได้ทำ

 

ขอบพระคุณครับ ได้เห็นเป็นบุญตาแล้วครับ

ความตายไม่เลือกเวลาสุดแล้วแต่บุญใครสร้างทำมา โมทนาบุญด้วยครับ สาธุๆ

 

ที่เห็นเขาเขียนกัน


พุทธังปัจจักขามิ
ธัมมังปัจจักขามิ
สังฆังปัจจักขามิ

นอกนั้น ใช้ถอนพิษ แมลงสัตว์ กัดต่อย พิษงู ไม่เคยลอง ถ้าจวนตัวก่อนไปถึงหมอคงต้องลองใช้ ไล่ของ ไล่เสนียดจัญไร ที่ไปในสถานที่ไปเข้ามา ใช้ภาวนาให้จิตสบายๆได้ อุปเท่ห์ ยาวเหยียด มีบทเดียว ....เอาอยู่

 

กราบนมัสการหลวงพ่อทรง และหลวงปู่บุญศรีครับ

สวัสดีครับ พี่ีพี พี่ช้าง พี่sansiri และพี่น้องบ้านเหรียญบินทุกท่าน

ช่วงนี้ยุ่งๆนิดหน่อย ช่วงวันหยุดก็มีการบ้านจากลูกค้าอีก แต่ดีครับปกติก็ไม่ไปเที่ยวช่วงเทศกาลอยู่แล้ว ขอให้ทุกท่านเดินทางปลอดภัยนะครับ

 

หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด :เหตุเกิด วัดโคกแก้ว ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี

ปู่ทวด วัดโคกแก้ว

หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด เหตุเกิดวัดโคกแก้ว
เมื่อประมาณปี ๒๕๓๐ มีอยู่วันหนึ่ง ข้าพเจ้าได้นิมิตไปว่า ข้าพเจ้าห้อยพระหลวงปู่ทวด เป็นเนื้อผงสีขาว และเลี่ยมทอง ห้อยอยู่องค์เดียวกับสร้อยคอทอง น้ำหนักน่าจะประมาณ ๑๐ บาท ในนิมิตขณะนั้นฝนกำลังตกหนักมากและทันใดนั้น ก็ได้เกิดฟ้าผ่าลงมากลางศีรษะของข้าพเจ้า เสียงดังสนั่นหวั่นไหว พร้อมกับแสงไฟฟ้าสว่างจ้าจนแสบตา ในนิมิตตกใจมาก นึกว่าจะไม่รอด จึงได้รีบจับสร้อยพระหลวงปู่ทวด และพระหลวงปู่ทวดมากำเอาไว้ในมือ ปรากฏว่าพระยังอยู่ที่คอ ในนิมิต ข้าพเจ้าได้อุทานออกมาว่า“กูไม่ตายแล้ว หลวงปู่ทวดยังอยู่กับกู ๆ ” ก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา แต่รุ่งเช้าข้าพเจ้าก็ต้องสะดุ้ง ตกตะลึงอีกครั้ง เมื่อได้รับกล่องไปรษณีย์ เมื่อเปิดภายในปรากฏพบพระสมเด็จหลวงปู่ทวดเนื้อผง สีขาว เหมือนกับในนิมิต เต็มกล่องจำนวน ๕๐ องค์ และอีกกล่องเป็นแบบสี่เหลี่ยมพิมพ์สมเด็จ อีก ๕๐ องค์ ซึ่งข้าพเจ้าได้บริจาคเงินซื้อที่ดินถวายวัดร้างชื่อวัดโคกแก้ว ทางวัดจึงส่งพระมาให้จากหลวงพ่อสวย วัดโคกแก้ว ต.บางงา อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี เมื่อนึกถึงในนิมิตแล้ว ทำให้ข้าพเจ้าต้องรีบนำไปเลี่ยมทอง แล้วนำมาห้อยคอ ส่วนสร้อยน้ำหนักประมาณ ๑๐ บาท ไม่มีปัญญา จึงนำสร้อยแบบแสตนเลส นำมาห้อยแทน ปัจจุบันยังห้อยอยู่ องค์เดียว ส่วนที่เหลือได้นำไปแจก ผู้ร่วมทำบุญ ทอดกฐิน ทอดผ้าป่าเพื่อนำเงินไปถวายวัดโคกแก้ว บางส่วนนำไปถวายหลวงปู่บุญศรี อินทวัณโณ สร้างแพโบสถ์น้ำ จนหมด มาทราบประวัติเอาภายหลังจากหลวงพ่อสวย แทบลมใส่
หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า ท่านจบการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นลูกคนมีเงินแถวจันทบุรี ได้อุปสมบทแล้วเกิดศรัทธาในพระพุทธศาสนา จึงได้ออกธุดงค์ไปที่ต่าง ๆ จนมาปักกลดอยู่ที่วัดร้างชื่อวัดโคกแก้ว และได้นิมิตไปว่า หลวงปู่ทวด สั่งให้อยู่และบูรณะวัดร้างแห่งนี้ เนื่องจากในสมัยอยุธยา หลวงปู่ทวดเคยเดินธุดงค์มาและจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ หลายพรรษา ในนิมิตหลวงปู่ทวดสั่งให้นำผงวิเศษจากเจดีย์ร้างไปทำเป็นพระเนื้อผง เนื่องจากผงวิเศษมีลักษณะขาว พระจึงออกมาลักษณะขาว และสั่งว่าให้นำไปแจก ไม่ได้ให้เช่า เพื่อหาเงินมาบูรณะวัด ซึ่งขณะนั้นเป็นวัดร้างมีเนื้อที่ประมาณ ๓ งาน และมีซากเจดีย์เก่าเหลืออยู่ ๑ เจดีย์ เท่านั้น ข้าพเจ้าก็ไม่เคยไปที่วัดดังกล่าว ทราบการขอรับบริจาคทางหนังสือพิมพ์ ก็ส่งเงินทาง
ธนาณัตย์ ไปร่วมซื้อที่ดิน จำได้ว่าพอเงินเดือนออกมาก็ส่งทีหนึ่ง ๗๐๐ บาท ทำอยู่อย่างนี้หลายครั้ง แต่ไม่ทุกเดือน ทำอยู่ ๓ ปี จึงได้มีโอกาสได้พบหลวงพ่อสวย จากนั้นก็ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า หาเงินมาซื้อที่ดินกลับคืนให้วัด และบูรณะ อยู่จนถึงวันนี้ ปัจจุบันพระรุ่นนี้คงมีอายุประมาณ ๒๐ ปี ที่วัดจะมีเหลืออยู่หรือไม่ ต้องไปถามหลวงพ่อสวย วัดโคกแก้ว ต.บางงา อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี นอกจากนั้นทราบจากหลวงพ่อสวย วัดโคกแก้ว หลังจากได้ผงวิเศษของหลวงปู่ทวดมาแล้ว ทางใต้จะเป็นวัดช้างไห้หรือเปล่า ไม่ทราบ ก็ได้มาขอผงวิเศษนำไปเป็นส่วนผสม การสร้างพระหลวงปู่ทวด ติดต่อกันมาหลายรุ่น เหตุใดทางใต้จึงทราบว่าหลวงพ่อสวย มีผงวิเศษอยู่ ในครอบครองต้องไปสอบถาม หลวงพ่อสวย

 

กราบหลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง หลวงปู่อั๊บ

สวัสดีปีใหม่พี่พี พี่ช้าง พี่สัณห์สิริ และ พี่ๆ เพื่อนๆ สมาชิกทุกท่านค่ะ

 

ปู่ทวดธุดงค์ วัดโคกแก้ว พระหลวงปู่ทวด รุ่นหาเงินซื้อที่ดิน

ที่ำนำมากล่าวซ้ำอีกครั้งก็เนื่องจากว่า เมื่อเช้าวันนี้ เหมือนมีบางสิ่งดลใจให้ต้องออกไปตลาดนัด ก็ไปเจอหลวงปู่ทวด (ตามภาพองค์ ขวามือ )มีเศษทองติดอยู่เล็กน้อย พอดูปั๊บก็ใช่เลยว่าเป็นหลวงปู่ทวด วัดโคกแก้ว
รุ่นนี้สร้างมาจากผงวิเศษของหลวงปู่ทวด จากเจดีย์ร้าง ส่วนองค์ทางซ้ายมือ เป็นของดั้งเดิมเก็บรักษาเอาไว้อย่างดี นำมาเปรียบเทียบหากเจอที่ไหน ลักษณะเช่นนี้ก็เก็บเอาไว้เลยครับ ถึงแม้พระจะชำรุดแต่ที่สำคัญ มวลสารมาจากผงวิเศษจากเจดีย์ร้าง ตั้งแต่สมัยหลวงปู่ทวดธุดงค์มาอยุธยา และมาพักค้างแรมที่วัดแห่งนี้

 

การแผ่เมตตา การอุทิศส่วนบุญ: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ปู่ ธุดงค์ ลพ.ฤาษีลิงดำ
แต่ไม่ว่าจะไปทำบุญที่ไหน หรือไปต่างที่ต่างถิ่น หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านจะสอนเอาไว้ว่า ให้แผ่เมตตา หรืออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับเจ้าที่ เจ้าทาง เรานึกถึงเขา เขาก็นึกถึงเรา เราไปที่วัด ทำบุญค่าน้ำ ค่าไฟ ชำระหนี้สงฆ์ ค่าอาหาร และสร้างพระอุโบสถ์ ทอดผ้าป่า แล้วตั้งจิตอธิษฐาน “ บุญใด กุศลใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำมาแล้วแต่ อดีต จนถึงปัจจุบันในวันนี้ และที่จะได้กระทำต่อไปในอนาคต จะยังเกิดประโยชน์ ความสุข แก่ข้าพเจ้าเพียงใด ข้าพเจ้า ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลทั้งหลายเหล่านั้นให้กับ พระพรหมเจ้าที่ พระภูมิเจ้าหน้าที่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ดวงวิญญาณทั้งที่สถิตอยู่ ณ ........... ขอจงร่วมรับรู้ ร่วมโมทนา ร่วมเป็นเจ้าภาพ ร่วมถวาย ร่วมรับ ร่วมได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าจะพึงได้รับเทอญ อิทธิ ฤทธิ พุทธนิมิตตัง ขอเดชะ เดชัง ขอเดช เดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่ มะ อะ อุ นี้ ด้วยเถิด สอดคล้องกับคำสอนหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ในประเด็นที่ว่า “ ทำบุญอยู่เป็นนิจ ภาวนาอยู่เป็นนิจ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ย่อมคุ้มครอง “

 

สงกรานต์เป็นประเพณีไทยที่น่ารักที่สุดอีกประเพณีหนึ่ง ธรรมเนียมบวงสรวงพรหมเทพและสื่งศักดิ์สิทธิ์นี้สำคัญมากจริงค่ะ

 

แต่ก่อนไปป่าช้าก็อุทิศ ให้กับเฉพาะญาติของเรา แต่มานึกดูอีกที แล้วดวงวิญญาณ ดวงอื่นที่ญาติเขาไม่ได้มากราบมาไหว้ ก็จะกลายเป็นผีั ไม่มีญาติตั้งแต่นั้น ข้าพเจ้าไปป่าช้าไหน ก็ตามจะอุทิศให้ดวงวิญญาณทั้งหลาย ทั้งป่าช้า รับได้ก็รับเอาไป รับไม่ได้ก็แล้วแต่เวร แต่กรรม สาธ

 

อยู่อย่างไรใน "กาลียุค"

ไปต่อกระทู้ “จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ” นำมาให้อ่านเล่น เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว
อยู่อย่างไร ใน “กาลียุค” ก่อนอื่นต้องขอโมทนากับท่าน ภูทยานฌาน2 เป็นอย่างมาก ที่กล้าจุดประเด็ำนเรื่องนี้ขึ้นมา ขอโมทนาด้วย และขอเสริมแนวความคิดท่าน ภูทยานฌาน2 ดังนี้
ในปัจจุบันของเรา โบราณเขาเรียกว่า “เป็นกาลียุค” กาลี เป็นชื่อของพระแม่กาลี ว่ากันว่า พระแม่กาลี ท่านดุร้าย มีแต่ความตาย และทุกข์เวทนา คนโบราณเคยวาดภาพ กาลียุคเอาไว้ เป็นภาพของการฆ่าฟันกันอย่างไร้ความปรานี คนในยุคนั้น ไม่มีคำว่าเมตตา ปรานี ไม่มีคำว่า คุณธรรม หรือศีลธรรม ซึ่งพวกเราก็คงได้เห็นภาพลางๆ ปรากฏขึ้นมาแล้วในยุคของเรา อีกทั้ง ขอให้นำภัยพิบัติในปี 2554 บางคนบอกว่าเป็นแค่ลางบอกเหตุ ยังไม่ใช่ของจริง แต่อย่างไรก็ตาม ครั้งนั้นถือเป็นบทเรียน กลับมาทบทวนกันอีกครั้งว่าปี 2554 เรายังเตรียมพร้อมได้มากน้อยแค่ไหน ยังขาดอะไร ยังบกพร่องอะไร คราวหน้าปีหน้า 2555 และปี ต่อ ๆ ไปเราจะเตรียมการณ์อย่างไร และภัยวิบัติยังคงเป็นเรื่องของน้ำ อยู่หรือไม่ ถ้าเป็นเรื่องของ “น้ำ” ก็ถือเป็นเรื่องของโชค ถือว่าดี น้ำลดยังมีเหลือ ถ้าเป็น “ไฟ” เผาผลาญสิ้นไม่มีชิ้นดี เหลือแต่ซาก ถ้าเป็น “ดิน” แผ่นดินไหว สั่นสะเทือน พินาศย่อยยับ ก็มีตัวอย่างให้เห็น เหลือแต่ซากอีก ไม่มีชิ้นดีอีก นำมาใช้ประโยชน์อีกไม่ได้ กว่าจะฟื้นตัวยาวนาน แต่เสียหายน้อยกว่าไฟ ถ้าเป็นลม ก็มีตัวอย่างให้เห็น พายุ ทอร์นาโด ก็ถล่มทะลาย แต่ยังเหลือซาก ใช้ประโยชน์ไม่ได้อีกเหมือนกัน แต่ไอ้ที่น่ารำคาญมากที่สุด ก็เรื่องการเมือง การขัดแย้งทางการเมือง สร้างความฉิบหายให้กับประเทศไทยมากที่สุด มากกว่าภัยพิบัติทั้งปวง อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ “ฟ้าเป็นผู้กำหนด“ ถามตัวท่านเองก่อนว่า จะยอมจำนนโดยไม่สู้ หรือจะสู้โดยไม่ยอมจำนน ถ้าจะสู้ต้องคิดเตรียมการณ์ เอาปัจจุบันเป็นบทเรียน “ปฎิวัติ รัฐประหาร” “น้ำท่วมภัยธรรมชาติ” มองปัญหาก็ต้องมองกันเอาปี 2554 เป็นบทเรียน ทั้งภัยจากความโลภ ความโกรธ ความหลวง มาในรูปของ”ธรรมชาติ” และภัยจาก โลภะ โทสะ โมหะ ในรูปแบบ”การแตกแยกทางการเมือง” คนไทยลืมง่าย บางคนอาจจะลืมปี 2554 ไปแล้วก็ได้ ขอนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระองค์เป็นศิษย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เหมือนกันกับพวกเรา พระราชทานไว้เมื่อปีใหม่ “อย่าประมาท มีสติ” ถ้าไม่ประมาทก็ควรเตรียมการณ์ไว้อย่างไร โดยนำเอาปี 2554 เป็นบทเรียน
๑.ที่พักอยู่อาศัยไม่ได้ โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ ปฏิวัติ รัฐประหาร มีแต่ความตาย ความวุ่นวาย ทางแก้ ต้องหาที่พักสำรองที่ ๒ อย่าหวังเป็นผู้พักพิง อย่ายืมจมูกคนอื่นหายใจ และต้องเตรียมการณ์ ตามข้อ ๓- ข้อ ๙ เช่นเดียวกัน
๒.ที่พักต่ำเกินไป ทางแก้ ต้องหาที่สำรองที่สูง หรือไปจังหวัดอื่น
และต้องเตรียมการณ์ ตามข้อ ๓- ข้อ ๙ เช่นเดียวกัน
๓.ขาดน้ำสะอาด อาหารแห้ง ทางแก้ ต้องเตรียมสำรองอาหารแห้ง น้ำสะอาด โดยจะต้องอยู่รอดให้ได้ไม่น้อยกว่า ๖๐ วัน ถ้าสมาชิกมากก็เตรียมเอาไว้ให้มาก
๔.ขาดแสงสว่าง ทางแก้ เตรียมตะเกียงน้ำมันก๊าซ ไม้ขีด ไฟฉาย แก๊สหุงต้ม
๕.อาหารเป็นพิษ เจ็บป่วย เตรียมยาธาตุน้ำขาว สามัญประจำบ้านพื้นฐาน โดยดูตัวของท่านเองเป็นหลัก ว่าท่านมีโรคประจำตัวอะไร และต้องใช้ยาอะไรอยู่เป็นประจำ
๖.เครื่องมือสื่อสาร อุปกรณ์สื่อสารในครอบครัว ทางแก้ติดต่อกันให้ได้ ไปด้วยกันทั้งครอบครัว อย่าแยกกัน กำหนดจุดนัดพบหรือจุดรวมตัวเอาไว้ล่วงหน้า
๗.ถ้ามีรถ เติมน้ำมันให้เต็มถังอยู่เสมอ อย่าหวังน้ำบ่อหน้า ก่อนเข้าบ้านทุกครั้งเติมน้ำมันให้เต็มถังอยู่เสมอ ถ้านึกจะใช้รถอย่าไปเสียดายเงิน
๘.มุ้ง ถุงนอน อุปกรณ์กันฝน เครื่องนุ่งหุ่ม ให้เพียงพอในครอบครัว
๙.เตรียมอาวุธ หรืออุปกรณ์ป้องกันตัว
๑๐.ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ข้อสำคัญ อย่าประมาท พร้อมที่จะทำตามแผน ที่วางเอาไว้
๑๑.หมั่นทำบุญ ทำกุศล ใช้ปัญญาพิจารณาว่า ตัวเรานั้นเกิดมาชาตินี้ ยัง
มีบุญ มีกุศลใด ที่เรายังไม่เคยสร้างหรือเคยกระทำ ก็จงทำตามกำลังความสามารถ บุญกุศลจะเป็นเกราะป้องกันภัยให้กับเราและครอบครัวแล้วใช้จิตเป็นตัวเลือกว่า “อันว่าความชั่ว อย่าทำเลยเสียดีกว่า”
________________________________________

 

สวัสดีครับ พี่พี พี่ช้าง และทุกๆท่าน...มีเหรียญบาท ร.9 มีโค้ต อ ด้านหน้า... หลวงปู่บุญศรี เสก ...รุ่นพี่ใจดีมอบให้มา แต่ลืมถามว่าคณะใดสร้างถวาย...