เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

<TABLE id=threadslist class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY id=threadbits_forum_127><TR><TD id=td_threadtitle_122347 class=alt1 title="">เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงปู่พระครูบุญศรี น. ๑๒๗๗ (6 คน กำลังดูอยู่) ( 1234567891011121314151617181920 ... หน้าสุดท้าย)
พี เสาวภา



</TD><TD class=alt2 title="จำนวนตอบ: 27,859, จำนวนอ่าน: 779,563">วันนี้ 11:20 PM

โดย พี เสาวภา​

</TD><TD class=alt1 align=middle>27,859</TD><TD class=alt2 align=middle>779,563</TD></TR></TBODY></TABLE>
ตอนนี้มีผู้เข้าชมกระทู้เข้าใกล้ 800,000 ครั้งไปทุกที่นะคับอีกไม่นาผมว่าถึงแน่คับเพราะเนื้อหาเริ้มเข้มข้นขึ้นทุกที

 

แหะๆ....ส่วนใหญ่น่าจะเป็นพี่น้องแฟนเก่าๆ จากบ้านเหรียญบินมา

ผมอยากจะขอพวกน้องๆอย่าง ในการช่วยอนุรักษ์ภาษาไทย ผมเองก้เขียนผิดเยอะเหมือนกัน แต่อยากจะให้ช่วยกันทักท้วง

อยากจะให้เขียนว่า ครับ พูดว่าครับ มี ร เรือ น่ะจ้ะ...แหะๆ

 

พระกริ่ง พระชัยวัฒน์

โค้ด พระแพโบสถ์น้ำ นี่ก็เหมือนกัน ถ้ามีการปลอมแปลงพระและโค้ดข้างหน้า ซึ่งผมคาดการณ์มาตั้งแต่รู้จักหลวงปู่เป็นอย่างดี มั่นใจว่าวัตถุมงคลของหลวงปู่ต้องแสดงความศักสิทธิ์ออกมาให้ผู้คนเห็นแน่นอน และเป็นของที่แสวงหากัน ชัวร์ใจยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น เพราะ เพชร พลอย ย่อมเป็นเพชรพลอยเสมอ ไม่มีทางเป็นก้อนหิน เลยตั้งใจว่าทำโค้ดมาก็เพื่ออนาคต กันช่าง กันพระโรงงานตามออกมา กันพระปลอม แต่บอกตามตรงว่าพระรุ่นนี้ปลอมยาก มีเอกลักษณ์หลายอย่าง ไม่มีทางทำให้เหมือนได้ ถึงผมทำเองอีกทีก็ไม่มีทางเหมือน จัดว่ามีรุ่นเดียว รุ่นแรกที่เททองที่วัด รุ่นเดียวที่เสกบนแพ และมีโค้ดซ้ำ ถ้าเล่นหากัน ไม่น่ายากครับ ถ้าเผยแพร่และรู้จุด

 

โค้ดพระชุดแพโบสถ์น้ำ

พระชุดนี้มีโค้ด สองตัวที่ผมไปสั่งทำมา ต่างเวลากันน่ะครับ โค้ด ตัวนะ สั่งทำมาก่อน ใช้ตอก วัตถุมงคลหลายอย่าง เช่นรุปถ่าย ชุดลูกแก้ววิเศษ ( น่าจะเล่าไปแล้ว แต่เล่าอีกๆได้ ) มีดหมอ รุ่นแรก ( ทำสามสิบเล่ม ) และมีดรุ่นต่อๆมา พวกปลัด และเหรียญรุ่น สารวัตรสร้างรุ่นนี้



เรื่องประวัติยังไม่เล่ามาก สารวัตรมาขอโค้ดไปตอก ผมได้มาหลายเหรียญเหมือนกัน สารวัตรถวายหลวงปู่ไว้ จำได้ว่าใครทำบุญ ห้าสิบ บาทเอาไปหนึ่งเหรียญ แต่หลวงปู่คงแจกฟรีซ่ะมากกว่า นอกนั้น เอาไปทำบุญสายสารวัตรสำหรับพวกทำบุญ กฐิน ผ้าป่ามา

เล่าแค่นี้ก่อน มาคุยกันแต่เรื่องโค้ด



โค้ด นะ แล้วขึ้นยอด ห้า ขยัก ( นะโมพุทธายะ ) จุดเด่นคือมีสองตา



โค้ด รูปแพโบสถ์น้ำ ยังไม่ได้เล่าเรื่องแพเลย เรื่องค่อนข้างยาวแต่เป็นมูลเหตุที่มีพระชุดนี้ โค้ดตัวนี้ค่อนข้างใหญ่และมีรายละเอียดมาก ไม่มีทางทำปลอมได้ แต่เนื่องจากใหญ่ เมื่อตอกบนเนื้อที่จำกัดแบบพระกริ่ง จะติดไม่เต็มบ้าง ไม่ชัดบ้างแล้วแต่คนตอก แต่พอมาตอกบนพื้นที่เรียบแบบเหรียญ ร.๕ นี้ติดชัดเจนดีมากครับ

คนตอกโค้ดนี้ก็สารวัตรตอกเอง...แหะๆ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่บุญศรี หลวงปู่ทรง
สวัสดีพี่ พี และเพื่อนสมาชิกครับ
มาติดตาม เรื่องราวกำลังเข้มข้นมากครับ ความลับต่างๆตีแผ่ จากมืดเป็นสว่างขึ้นเรื่อยๆ
แล้วพักยก ที่สีผึ้ง โอ้ เอาใจๆ แฟนพันธุ์แท้ทุกคนจริงๆ ครับ
แต่พ.ศ.นี้มีน้อย น่าจะเอามาขยาย จากหัวเชื้อนะครับ อิ อิ อิ
อนุโมทนาบุญด้วยครับ

 

ไอเดียดีครับ

ให้ผมว่างหน่อย

ผมจะขยายจากหัวเชื้อ

๑) สีผึ้ง
๒) น้ำมนต์ อันนี้หลวงปู่สั่งไว้เลยว่า เอาน้ำเปล่ามาเอาน้ำมนต์ใส่ ใช้ได้เลย
๓) น้ำมันงา - - ของทีเด็ดอีกอย่าง

จะแจกฟรีครับ แต่ยังไม่ว่างให้งานเข้าที่ก่อน นิ่งก่อน จะเผยแพร่ครับ

 

กราบหลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรงครับ ของดีรอได้ครับพี่

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง หลวงปู่อั๊บ ครับ

ของดีและของฟรี รอได้เหมือนกันครับ พี่พี แฮ่ๆ

 

แค่เปรยๆ พี่ พียังแอบเห็น อิ อิ อิ
เมื่อไหร่ก็รอ ครับ ของแท้ ดีๆ ต้องใจเย็นๆ
รอเผยแผ่ ถึงผมด้วยนะครับ ฮ่า ๆๆ

 

รอรับของฟรี ของดีในโลกครับ

 

กราบหลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง หลวงปู่อั๊บ

สวัสดีพี่พี และ เพื่อนๆสมาชิกทุกท่านค่ะ

.........................................

 

<CENTER>ขยายสีผึ้ง

</CENTER>


<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>ผมมีประสบการณ์จากการขยายสีผึ้งจากคุณxxxxxx ช่วงที่ผ่านมาได้รับมอบหมายให้ทำประมาณ 860 กว่าตลับ ทำจริงๆไม่ง่ายเลยนะครับพี่

เริ่มแรกยังไม่มีประสบการณ์ ใส่หัวเชื้อลงไปกับขี้ผึ้งแท้ที่จะขาย ใส่ขี้ผึ้งเยอะไปหน่อย ใช้หม้ออลูมิเนียมใหม่ตั้งบนเตาไฟฟ้าที่มีน้ำธรรมดา เพราะถ้าเคี่ยวสีผึ้งโดยตรงบนเตาจะทำให้ไหม้ได้ ผมเล่าอาจจะไม่ปะติดปะต่อนะครับ พอทุกอย่างละลายเป็นน้ำดีแล้ว ก็ใส่หัวน้ำหอมกลิ่นที่ชอบลงไป ไม่รอให้เย็นหรอกครับ เพราะพอเริ่มเย็นก็จะเป็นไขข้นแล้ว คนให้เข้ากันแล้วใช้ช้อนตักใส่ตลับสีผึ้งเลย พอเย็นตัวลงแข็งโป๊กยิ่งกว่ายาหม่องเลยครับ

ลองทำใหม่อีกรอบ คราวนี้ใส่สีผึ้งที่ผสมหัวเชื้อแล้ว 1 ส่วน ใส่น้ำยาพาราฟีนลงไปประมาณ 5 ส่วน ยิ่งใส่น้ำยาพาราฟินมากยิ่งทำให้สีผึ้งอ่อนตัว ถ้าอยากให้หอมกลิ่นไหนก็หัวน้ำหอมกลิ่นที่ชอบน้ำสักช้อนชา บางคนว่าใส่น้ำมันมะพร้าวก็หอม แต่ระยะยาวน่าจะมีกลิ่นหืน

หม้ออลูมิเนียมที่ผมใช้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางจากนิ้วกลางมากลางฝ่ามือ สมมุติว่าครึ่งหม้อ จะได้สีผึ้งประมาณ 200 ตลับ ถ้าจะทำจริงต้องมีคนช่วย ผมนั่งทำกับสมาชิก กว่าจะได้สัก 400 ตลับก็เมื่อยไปเหมือนกัน ถ้าพี่พีมีอะไรจะถามเพิ่มเติมมาก็ได้ครับเพราะเพิ่งทำเสร็จไปสดๆร้อนๆเมื่อไม่กี่วันนี้

ขอบคุณสำหรับความรู้ประสบการณ์น่ะครับ

อันนี้ผมยังไม่ทราบเจตนา ถ้าทำขายก็ทำไปตามเจตนารมณ์น่ะครับ

แต่ถ้าทำแจก ก็ขออนุโมทนา ครับ

ผมมีประสบการณ์ทำสีผึ้งแจกมาหลายปี ไม่เคยทำขายใคร อนาคตไม่ทราบ...แหะๆ สูตรชาววังก็ไปศึกษามา แต่ไม่เคยทำเพราะขาดวัสดุบางอย่าง และต้องเคี่ยวสีผึ้งเป็นวันๆครับ

ผมทำมาใช้สีผึ้งหลายสิบกิโล ถ้าจะนับเป็นตลับน่าจะหลายพันตลับ ไม่แน่อาจจะเป็นหมื่น มีคำแนะนำมาจากหลวงปู่และรุ่นพี่ๆ เสี่ย ท ในการมาทำ สีผึ้งสูตรผม ถ้าทำถูกต้องตอนเย็น จะมีลายดอกพิกุล ( สีผึ้งตกผลึก ) ทุกตลับ ทำมาจนชัวร์ แน่ใจไม่ต้องลุ้น

ที่จริงมีเคล็ดหลายอย่าง ของดีๆ ในสมัยก่อนก็สีผึ้งนี่แหละครับ

ว่าเรื่องแรก คือ ความร้อน อันนี้เป็นเรื่องจริงถ้าใช้ เตาที่มีเชื้อเพลิง สีผึ้งอาจจะร้อนมากและติดไฟลุกได้ เจอมาเองเลยครับ อันตรายมากน่ะครับ ถ้าทำในบ้าน แต่อยากจะแนะนำว่า ใช้เตาถ่าน ( ถ้าสดวก ) หรือ เตาแก็สจะดีกว่าเตาไฟฟ้าครับ เพราะเตาแก็ส หรือ เตาถ่าน เพราะสามารถควบคุมความร้อน มากน้อย ได้ดีกว่า ได้ง่ายกว่า เตาไฟฟ้า และ ให้พลังความร้อนได้รวดเร็วมากกว่าไฟฟ้า

ที่ใช้หม้อต้มในนำร้อนก็น่าจะถูกแล้วครับ แต่ช้าครับ...ใช้ตอนเทสีผึ้งครับไม่ใช่ตอนผสมมวลสาร คนล่ะขั้นตอน

สีผึ้งที่ถูกต้องมีส่วนผสมที่พอดี ที่ว่าพอดี คือ พอสีผึ้งเย็นตัวแล้ว เอามือบี้เบาๆต้องแตกพอดี สามารถเอามือบี้ ถูและ ทาปากได้ ถ้าแข็งโป้กแสดงว่าสัดส่วนของขี้ผึ้งมีมากกว่าตัวทำละลายครับ ทาปากยาก

ส่วนการขยาย คงแล้วแต่หัวเชื้อ มีมาก็คงใส่มาก แบบน้ำมนต์ ใส่ลงในน้ำก็น่าจะเป็นน้ำมนต์แล้ว

ส่วนหม้อ ผมจะแนะนำว่าใช้กาต้มน้ำ อลูมิเนียม ขนาดพอเหมาะจะดีกว่า พออุ่นสีผึ้งพอร้อนจนเหลวแล้ว ใช้เทลงในตลับเลยง่ายกว่าครับ การตักด้วยช้อนช้าและใช้แรงงานและเวลามากครับ

ที่จริงมีเคล็ดอีกเยอะพอสมควร ในส่วนสัดและตัวทำละลาย และน้ำหอม ถ้าคุณทำแจก ฟรี แล้วสัญญาตามนั้น ผมยินดีแนะนำเคล็ดลับ เอาไปทำแจกครับ ผมจะได้กุศลตามครูบาอาจารย์

แต่ถ้าทำขายก็ว่ากันไปครับ ขออนุโมทนาด้วยครับ

 

กราบหลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง ... ครับ
เข้ามาพบพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ และรับข้อมูลดีๆ ของพี่ พี

 

วันนี้เดี๋ยวออกไปทำบุญหน่อย ค่อยกลับมาถ่ายรูปน่ะครับ

 

ขอส่งจิตไปร่วมอนุโมทนากับพี่พีด้วยนะคะ

วันนี้อย่าลืมไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันนะคะ.....:VO

 

ไปใช้มาแล้วครับ

แต่คร้งนี้ยอมรับว่าเป็นครั้งที่ อยากนอนบ้านที่สุด เพราะไม่ว่าผลจะออกมาจะเป็นอย่างไร บ้านเมืองคงจะวุ่นวายแน่

 

คนไม่ถึง10คน ทะเลาะกัน
แต่ดึงเอาประเทศ และ คนไทยอิก60ล้านคน มาติดร่างแหด้วย
มันน่า..........

 

ชอบใจรูปเซ็งเป็ดครับ อิอิ

 

พระกริ่งแพโบสถ์น้ำ

มาเจาะลึกกันถึงรูปพรรณสันฐาน ขอบันทึกไว้เพื่อ เป็นหลักฐาน

ผมวัดโดยใช้เวอร์เนียร์ มิทุโตโย้ ไม่ได้ใช้มานาน ซื้อมาตั้งแต่หนุ่ม ร่วมสามสิบกว่าปี ตอนหนุ่มๆตามันดีหน่อย มองช่องแบ่งเห็น แก่แล้วต้องใช้แว่นขยาย ถ้าไม่ลืมวิธีใช้...ก็น่าจะไม่พลาด...แหะๆ ใช้แบ่งเป็นนิ้วก็แล้วกันน่ะครับ

พระกริ่งนี้แม้จะเป็นพระกริ่งใหญ่ ปั้นหุ่นมาใหม่ ให้มีขนาดกระทัดรัด เหมาะแก่การห้อย พระกริ่งใหญ่จริงๆจะใหญ่ว่ากริ่งแพโบสถ์น้ำเยอะ มีน้ำหนัก เผอิญผมไม่มีที่ชั่ง ถ้าจะต้องไปหามาสักเครื่อง

เคยอ่านเซียนใหญ๋ท่านหนึ่ง ท่านเป็นช่างทองเก่า ท่านชั่งพระรูปหล่อ หลวงพ่อเงิน ทั้งพิมพ์นิยม และ พิมพ์ขึ้ตา ผมลืมน้ำหนักแล้ว แต่น้ำหนักจากทองเบ้าเดียวกัน หล่อครั้งเดียวกัน ช่างเดียวกัน พิมพ์เดียวกัน จะมีน้ำหนัก ใกล้เคียงกัน ไม่เท่ากันเป้ะ ผมอ่านแล้วทึ่ง เป็นการเล่นพระแบบวิทยาศาสตร์จริงๆ เพราะของที่จุดเริ่มต้นเดียวกัน คล้ายกัน น.น. น่าจะใกล้เคียงกันได้ เอามาประกอบการตัดสินใจได้

ผมเคยฝันว่าวันหนึ่ง เราคงมีเครื่องสแกนพระ เมื่อสแกนพระแท้ รูปพรรณ ส่วนสูง ปริมาตร นน. วิเคราะห์มวลสารแบบเบื้องต้น หา คาร์บอน ธาตุหลัก และ ธาตุอื่น ในพระผง หรือ พระโลหะ ก็หา ธาตุอื่นๆ เมื่อได้ก็เก็บไว้ในฐานข้อมูล มากองค์ยิ่งดี เพราะจะทำให้ รู้ถึง discrepancy ( ความคลาดเคลื่อน ) ได้ ของที่ทำมาจากแหล่งเดียวกัน น่าจะ คล้ายๆกัน เพราะเราดูด้วยตา เราก็วิเคราะห์แบบเดียวคือ มีองค์ครู องค์แท้ เมื่อเจอองค์ แท้ก็เก็บข้อมูลไว้ ดูองค์ที่เราเจอ เปรียบกับองค์แท้ ไปเจอองค์แปลกๆก็ใช้ตรรกกะ จุดตายของๆเดิม มาวิเคราะห์ การที่มีข้อมูลมากเพื่อ ถ่างความคลาดเคลื่อน จาก ส่วนที่น้อยที่สุดไปหามากที่สุด เก็บไว้ในฐานข้อมูล รวมทั้งสี ผิว ( ผิวสามารถวิเคราะห์ถึงความหนาของผิวได้เหมือนความหนาของสี เป็นการวิเตราะห์ ๕ จุดแบบ วิเคราะห์ความหนาสี แล้วเอามาเป็นความหนาเฉลี่ยเฉลี่ย ) นอกจากนั้น คราบสนิม คราบขี้เบ้า คราบกรุก็น่าจะวิเคราะห์ได้ แบบวิเคราะห์แนวเชื่อม รวมทั้งน้ำหนักก็เก็บข้อมูลไว้

และการตรวจหา คาร์บอน อาจจะสร้าง softwear ที่วิเคราะห์ ความเก่าของมวลสาร ผิว สนิมได้ด้วย

เมื่อเจอพระที่เป็นเป้าหมาย ก็สแกน ด้วยเครื่องคล้ายๆสแกนเอกสาร ซึ่งชั่งได้ทั้ง น.น. รูปพรรณสันฐาน ตรวจผิว แล้ว เอาข้อมูลในเป้าหมาย มาวิเคราะห์ เปรียบเทียบกับข้อมูลของแท้ในเครื่อง รวมทั้งตาเนื้อดูประกอบ น่าจะดูพระง่ายขึ้น และถ้าไปถึงจุดนั้นได้ จะได้เลิกง้อเซียนใหญ่ ให้มาตัดสินซ่ะที ที่บางที ตัดสินแท้ เก็ จาก เหตุผลส่วนตัว ( เงิน ) ผมเคยเห็นเซียนใหญ่ เอาเบี้ย แก้ หลวงพ่อซำ เก็ มาขาย ผมดูก็เห็นว่าเก็ มีพวกไปซื้อมา เชื่อว่าแท้ เพราะยี่ห้อ ประกัน เอามาอวด ผมสงสารแต่พูดไม่ออก กลัวถูกเตะ

เครื่องแบบนี้ เมื่อเป็นลักษณะ คอมพิวเตอร์ เราสามารถ จะ calibrate เป็น ระยะ ได้ เช่น ทุก หนึ่งปี หรือ update ข้อมูลได้ให้ทันสมัย จาก internet ตัวเครื่องสามารถ รับรองได้ตามกฎหมาย โดย มี party ที่สาม ที่เป็นแนววิทยาศาตร์ เอาข้อมูลวิทยาศาสตร์มา ผสมกับ ความชำนาญของตาเนื้อ มาตรฐานของวงการพระเครื่องน่าจะดีกว่าปัจุบัน และข้อมูลอ้างอิง ตามวิทยาศาสตร์ ตามกฎหมายได้ ขึ้นศาลก็ฟันธงง่ายขึ้น

วันหนึ่งการดูพระและของเก่าจะเป็นวิทยาศาตร์มาขึ้น เมื่อเป็นแบบนั้น การซื้อขายก็จะเป็นกลางมากขึ้น เก็บของเก่ากับแบบเก็บ สแตมป์ เก็บหุ้น เก็บไว้เป็นของมีค่า เดือดร้อนก็เอามาหมุนได้ เพราะมีรการดูที่เป็นกลาง มีราคากลางที่ยุติธรรม ขึ้นลงตามกลไกตลาด ทำให้ตลาดพระเป็นตลาดที่ลงทุนได้ประเภทหนึ่งที่จะซื้อของบางชนิด เก็บสะสมไว้ ได้ทั้ง พุทธคุณ และ การลงทุน อาจจะดีกว่าการเอาไปฝากรอดอกเบี้ยแบงค์ที่ถูกแสนถูก

ไม่ทราบฝันไปหรือไม่...แหะๆ

มาต่อที่พระกริ่งแพโบสถ์น้ำต่อ


ส่วนสูง ประมาณ ๑.๔๙๒ นิ้ว


ส่วนกว้างที่ฐาน ๐.๗๙๒ นิ้ว


ส่วนหนาที่ฐาน ๐.๖๐๗ นิ้ว

จะเจาะเรื่องผิวพระต่อไปน่ะครับ

 

เนื้อเหลือง

เนื้อพระชุดนี้จะเป็นโลหะผสมน่ะครับ อย่างที่บรรยายไป แต่เนื่องจากเทพระประธานด้วย จึงใช้โลหะทองเหลืองมากหน่อย จากทองห้าเบ้า พระจะแก่ทองเหลือง อย่างที่ว่าถ้าผมเทใหม่ได้ จะเอาแก่ทองเเดงครับ จะได้ออกแนวสัมริด ให้สวยงาม

พระทุกองค์หลังจากทุบจากเบ้า จะขัดมันและชุบด้วยน้ำยา จากโรงงาน การชุบมีทั้ง หนาและบาง ( พระกริ่งวัดสุทัศน์ก็ชุบน้ำยาน่ะครับ ตามที่เขาเล่า สมเด็จพระสังฆราชแพท่านมีสูตร น้ำยาลับของท่าน )



ที่ชุบบาง วรรณะพระจะออกสี เหลืองๆ ครับ



บางองค์จะมีคราบเบ้า เป็นปูนขาวหลงอยู่ตามซอก



ผิวพระจะเป็น ผิวมะระ ย่นๆทุกองค์น่ะครับ เป็นพระไม่ขัดปอกผิว