เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

น้ำ

เพื่อนๆตกงาน ไม่เกี่ยงงานหนัก ไม่ลูกแหง่ ไม่เรียกร้องมาก โทรหาเน้อ

 

ให้กรรมการสรุปมาน่ะครับ

ผมแจกให้อย่างเดียว

 

กราบหลวงพ่อทรง...ครับ
วันนี้มาตอกบัตรช้าไปนิดๆ... เนื่องจากต้องรอการย้ายน้องโฟสต์จากชั้น 9 แผนกเด็ก ซึ้งทั้งคุณหมอและพยาบาลเห็นรูปร่างแล้วไม่คิดว่าจะเป็นเด็ก เพราะว่าสูง 180 ซม. หนัก 80 กก. ตอนนี้ย้ายมาอยู่ชั้น 6 แผนกศัลยกรรม เนื่องจากอาการต่างๆ ปรกติดีแล้ว เหลือแต่แผลที่เท้าซ้าย ซึ้งคว้านเนื้อที่ตายจากการอักเสบ... คงต้องใช้เวลาในการรักษามากพอสมควรครับ ถ้ามีอะไรก็จะนำมารายงานให้รู้ครับ....
ขอขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกบ้านเหรียญบินทุกๆท่าน ด้วยนะครับ ที่เป็นกำลังใจให้น้องโฟสต์หายป่วย.....

 

สวดมนต์ให้ทุกวันน่ะครับ

 

น้ำ แสวงหา 086-5886541 xabaha67@hotmail.com

ได้ครับจะลอง สอบถามให้

เอาสุฒิอะไร มั้งครับ

แล้วเรื่องอายุ

น้ำหนัก

ขอ รายละเอียด ทาง PM ก็ได้ ครับพี่ แฮะๆ

 

ยินดีด้วยครับที่อาการทุเลาแล้ว เรื่องแผลที่ขาคงไม่มีปัญหากระมังเพราะเด็กมีโอกาสดีกว่าผู้ใหญ่เพราะอยู่ในวัยที่กำลังเจริญเติบโต เซล์เนื้อเยื่อสามารถซ่อมแซมตัวเองได้อย่างรวดเร็ว

ขอบารมีคุณพระรักษาขอให้หายไว ๆ นะครับ

 

...


โทรมาคุย...น่ะ

 

จะไปนอนแล้วครับ... พรุ่งนี้ต้องไปเฝ้าแทนคุณยายน้องโฟสต์ ช่วงมืดค่อยกลับมาบ้าน ช่วงนี้เพื่อนๆ สมาชิกอาจจะประสบปัญหาอะไรก็แล้วแต่.... เมื่อล้มก็ต้องลุก แต่จะลุกขึ้นยืนอย่างไรให้มั่นคง.... ผมว่าข้อความที่จะลงมาให้อ่านนี้ก็เป็นสิ่งที่ดี เป็นแนวทางได้ ลองอ่านดูนะครับ.... สู้ สู้..... ( ราตรีสวัสดิ์ )

สูตรเพิ่มความสำเร็จให้ชีวิต ด้วยวิธีสร้าง...กำลังใจ

หลายๆ ครั้งในชีวิตเราเคยประหลาดใจไหมว่า ทำไมบางคนประสบเคราะห์กรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่า หรือเป็นโรคร้ายจนหมอบอกว่าไม่มีทางรอด แต่เขาเหล่านั้นกลับสามารถยืนหยัดต่อสู้จนประสบความสำเร็จในชีวิตหรือมี อายุขัยที่ยืนยาวต่อมาได้ หรือทำไมพระมหาชนกจึงมีความเพียรพยายามที่จะว่ายน้ำข้ามมหานทีวันแล้ววัน เล่า แม้จะยังมองไม่เห็นฝั่ง หรือทำไมนักกีฬาพิการจึงสามารถเอาชนะความไม่สมประกอบของตนจนคว้าเหรียญทองมา ได้ อะไรคือสิ่งที่ทำให้คนเรามีความมานะบากบั่น และมีความตั้งมั่นที่จะฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ จนไปสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จได้ ถ้าจะบอกว่าสิ่งนั้น คือ 'กำลังใจ' ของแต่ละคน เชื่อว่าหลายคนอาจจะนึกไม่ถึงหรือไม่ทันคิด

'กำลังใจ' แม้ จะเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ทุกคนก็สัมผัสได้ถึงพลังอันสำคัญนี้ หลวงวิจิตรวาทการได้เขียนในหนังสือชื่อ 'กำลังใจ' ว่าการที่คนเราจะเผชิญชีวิตหรือฟันฝ่าอนาคตให้ลุล่วงไปด้วยดีได้นั้น เราจะต้องมีกำลังถึง 3 ประการด้วยกัน คือ กำลังกาย กำลังความคิด และกำลังใจ

กำลังกาย หมายถึง ความเป็นผู้มีอนามัยดี ร่างกายแข็งแรงซึ่งเป็นความสำคัญเบื้องต้น

กำลังความคิด หมายถึง วิชาความรู้ และมันสมองที่ดี

ส่วนกำลังใจ หมายถึง สมรรถภาพ(ความสามารถ)ของดวงจิต ที่เป็นเครื่องส่งเสริมและควบคุมให้ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปโดยเรียบร้อยเหมาะสม

กำลัง กายเป็นเรื่องของร่างกาย กำลังความคิดเป็นเรื่องของมันสมอง และกำลังใจเป็นเรื่องของดวงจิตโดยตรง กำลังทั้งสามนี้มีความสำคัญเท่าๆ กัน ผู้ใดก็ตามมีพร้อมทั้งสามกำลัง นาวาชีวิตของผู้นั้นย่อมแล่นไปได้ดีและบรรลุถึงที่หมายได้ไม่ยาก แต่ หากจะขาดหรือบกพร่องในเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้วท่านว่า ขออย่าให้เป็นเรื่องขาดกำลังใจ เพราะถ้าขาดกำลังใจแล้วจะเอากำลังกายหรือกำลังความคิดมาทดแทนกำลังใจไม่ได้ เลย

ยกตัวอย่างเช่น ชายคนหนึ่งทำการค้าล้มเหลว มีหนี้สินล้นพ้นตัว เมียตีจาก ชายคนนี้หากขาดกำลังใจเขาก็จะรู้สึกท้อแท้ แม้จะยังมีกำลังกายดี มีกำลังความคิดที่จะใช้ความรู้ความสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้อีกครั้ง แต่เขาก็จะไม่ทำและปล่อยชีวิตให้จมปลักกับความทุกข์และความโศกเศร้าอยู่ตลอด เวลา ตรงกันข้ามหากชายคนนี้เกิดเป็นโรคร้ายซ้ำแต่เขายังไม่หมดกำลังใจ เขาก็ยังสามารถใช้สมอง สติปัญญา และพลังที่เหลืออยู่ ฮึดสู้กับโรคร้ายและโชคร้ายอย่างไม่ย่อท้อ ที่สุดเขาก็จะสามารถเอาชนะชะตากรรมได้

หรือถ้าหากเขาขาดกำลังความคิด คือไม่มีความรู้ในธุรกิจจนต้องล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ถ้าเขายังมีกำลังใจอยู่ เขาก็จะมีใจไปขวนขวายหาความรู้เพิ่ม และมุ่งมั่นจนชนะอุปสรรคทั้งหลายได้ อีกตัวอย่างที่เห็นได้ง่าย คือ เรื่องของความรัก เราจะเห็นได้ว่าชายหนุ่มหรือหญิงสาวหากอกหัก มักจะการขาดกำลังใจที่จะดำรงชีวิตอยู่ แม้จะมีความรู้ หน้าตาดี ร่างกายแข็งแรง แต่หลายคนกลับคิดไม่ตก หันไปทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตายในที่สุด ในทางตรงกันข้ามผู้ที่สมหวังในรักก็จะมีแรงใจที่จะสร้างเนื้อสร้างตัวจนเป็น ปึกแผ่น ดังนั้นจะเห็นได้ว่า 'กำลังใจ' เป็นพลังที่สำคัญยิ่ง และมีส่วนช่วยขับเคลื่อนการดำเนินชีวิตของเราให้ไปสู่ความสำเร็จได้นานัปการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน การทำงาน หรือความรัก ดังที่กล่าวมาแล้ว

โดยทั่วไปกำลังใจของคนเรานั้นจะมี 2 แบบ คือ

1. กำลังใจแบบที่เกิดขึ้นเอง มักเกิดในสภาพจิตที่รุนแรง หรือเกิดจากความสะเทือนใจอย่างหนัก และมักให้โทษมากกว่าคุณ เนื่องจากเป็นกำลังใจที่เกิดจากอารมณ์ต่างๆ เช่น ความโกธร ความกลัว ความตกใจ ความเกลียด และความหึงหวง เป็นต้น กำลังใจที่ว่านี้ท่านว่าเป็นกำลังใจที่โลดโผน เกิดขึ้นชั่วแล่นแล้วก็ดับหายไป เช่น ภริยาบางคนกลัวสามีมาก แต่เมื่อถูกทำร้ายมากๆ เข้าก็อาจโกรธจนลืมตัว และเกิดกำลังฮึดสู้จนแทงสามีตายได้ หรือในเวลาไฟไหม้ ความตกใจก็สามารถทำให้บางคนยกของหนักได้ทั้งๆ ที่ยามปกติทำไม่ได้ เป็นต้น กำลังเหล่านี้ถือเป็นรูปแบบหนึ่งของกำลังใจที่เกิดขึ้นในชั่วขณะนั้น ซึ่งมักอยู่ไม่นานและไม่ค่อยให้คุณ

2. กำลังใจแบบที่เราก่อให้เกิดขึ้นหรือสร้างขึ้น จะเป็นกำลังใจที่ให้คุณและมีความยั่งยืนกว่า เพราะเกิดจากดวงจิตที่ตั้งมั่นจะมีชีวิตอย่างเป็นตัวของตัวเอง ไม่ปล่อยไปตามยถากรรม อีกทั้งเป็นเครื่องมือที่จะช่วยแก้ปัญหาความยากลำบากในชีวิต และยังช่วยเพิ่มพูนกำลังกายและกำลังความคิดได้อีกด้วย

ตามธรรมดาการ ที่จะรู้ว่าใครมี 'กำลังใจ' หรือไม่ ย่อมต้องมีเหตุแสดงให้เห็น เช่น เมื่อเกิดปัญหาชีวิต เกิดโรคภัยไข้เจ็บ ฯลฯ คนที่มีกำลังใจจะไม่กลัวและพร้อมจะต่อสู้เพื่อให้อุปสรรคเหล่านี้หมดไป หรือสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้โดยไม่ย่อท้อ ผิดกับคนที่ขาดกำลังใจมักจะมีอาการตรงข้าม อันเนื่องมาจากเกิดความกลัว ความขลาดที่จะเผชิญปัญหา จึงเกิดวิตกจริต รู้สึกหดหู่ซึมเศร้าอยู่เป็นนิตย์ มองเห็นแต่ปัญหา หาทางออกไม่เจอ อย่างไรก็ดีกำลังใจเป็นสิ่งที่สร้างให้เกิดขึ้นได้ และทำได้หลายประการดังที่กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม จะได้ยกตัวอย่างบางวิธีมาเสนอดังต่อไปนี้

ขจัดความกลัว โดย ทั่วไปคนจะกลัว 4 เรื่อง คือ กลัวผี กลัวคน กลัวภัยเฉพาะหน้า และกลัวเหตุร้ายจะมาถึง คนที่มีความกลัวอยู่ในนิสัยหรือที่เรียกว่า 'คนขลาด' นั้น ยากที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต แม้จะมีความพร้อมในด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ หรือทรัพย์สินเงินทอง ดังนั้นเราอาจจัดความกลัวได้ 2 วิธีคือ วิธีของพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทรงสอนว่าสิ่งที่ขจัดความกลัวได้ผลที่สุดคือ การแผ่เมตตาจิต ปลูกฝังไมตรีให้เป็นธรรมะประจำใจ เพราะทันที่ที่เรามีเมตตาจิตเราจะไม่กลัวสิ่งใดมาทำอันตราย เพราะเราจะคิดดีต่อผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา จึงเสมือนมีเครื่องคุ้มกันภัยและคุ้มกันใจให้หายกลัว

ส่วนอีกวิธี คือ วิธีแบบจิตวิทยา เป็นการสอนวิธีขจัดความกลัวโดยให้เชื่อในความเป็นจริง คือ ให้รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร เช่น เรากลัวบางคนเพราะเราไม่รู้ว่าเขาเป็นอย่างไร แต่หากศึกษาให้รู้ประวัติ รู้นิสัยใจคอของเขา ก็จะหายกลัว เป็นต้น ความกลัวเป็นศัตรูร้ายแรงของกำลังใจ การฝึกขจัดความกลัวจะเป็นหนึ่งในวิธีสร้างกำลังใจโดยตรง ยิ่งเรากลัวน้อยลงเท่าไร เราก็ยิ่งมีกำลังใจมากขึ้นเท่านั้น

ขจัดความหวาดวิตก ซึ่ง เป็นภัยร้ายที่ทำลายทั้งสุขภาพและความคิด ดังนั้นเราจะต้องแก้โดยหัดมองโลกในแง่ดี คิดในทางบวก คิดว่าต้อง 'ทำได้' อยู่เสมอ เพราะหากเรามัวแต่กลัวปัญหาอุปสรรค และคิดว่าทำไม่ได้ ก็จะเกิดปริวิตกและทอนกำลังใจตนเอง อีกทั้งจะต้องหาอะไรทำอยู่เสมอ อย่าปล่อยตัวปล่อยใจให้ว่าง ความวิตกก็จะหมดไปเพราะมัวแต่ทำงานไม่มีเวลาไปคิดฟุ้งซ่าน ไร้สาระ

การเป็นตัวของตัวเอง คือ มีความคิดอ่านเป็นของตนในทางที่มีเหตุมีผล มีความถูกต้องเหมาะสม หรือพูดง่ายๆ ว่ามีหลักการของตนเอง ไม่ยอมให้ใครชักจูงให้ผันผวนไปจากแนวคิดของตน คนเหล่านี้คือผู้ที่มีกำลังใจแท้ คือ มีกำลังใจที่จะต่อสู้ และกำลังใจที่จะหักห้ามตนเองไม่ให้ทำผิดจากหลักการที่ตั้งไว้

การสร้างนิสัยสดชื่น ความ สดชื่น เป็นสิ่งที่แสดงออกถึงความสามารถที่จะมีชีวิตอยู่ และพร้อมเติบโตก้าวหน้าต่อไป ทำให้ผู้อยู่ใกล้มีความสุขสดชื่นไปด้วย แม้ว่าในความเป็นจริงเราอาจจะมีทุกข์ แต่หากเราเอาแต่โศกเศร้าทุกข์ร้อน นอกจากจะทำให้เรารู้สึกอ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจแล้ว ผู้คนก็จะพากันหนีห่าง ดังนั้นเราจึงควรสร้างนิสัยสดชื่นไว้อยู่เสมอ ด้วยการสร้างสิ่งแวดล้อมรอบตัวให้สดชื่นแจ่มใส เช่น ปลูกไม้ดอกในบ้าน หัดมองโลกในแง่ดี/ขบขัน ประกอบคุณงามความดี เช่น ทำบุญ จะทำให้รู้สึกอิ่มเอิบสดชื่นเช่นกัน

นอกจากวิธี การข้างต้นแล้ว เรายังสามารถเพิ่มพูนกำลังใจให้มากขึ้นด้วยการนำข้อคิด คำคม คำสอนที่เป็นคติจากหนังสือ คำพูด หรือการดำรงชีวิตที่ดีของผู้อื่นมาเป็นแบบอย่างได้ เช่นคำคมที่ว่า อัจฉริยะมีเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ นอกนั้นเกิดจากหยาดเหงื่อและความเพียรพยายาม /อย่าทำความชั่วเพราะคิดว่าผิดนิดเดียว และอย่าละเว้นทำดีเพราะคิดว่าได้กุศลน้อยนิด เป็นต้น

การส ร้าง กำลังใจด้วยวิธีการต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว แม้จะต้องฝืนใจทำบ้างในเบื้องต้น แต่เชื่อว่าถ้าเราฝึกบ่อยๆ ให้เกิดความเคยชินจนเป็นนิสัย ก็จะทำให้เรากลายเป็นคนเข้มแข็งและมี 'กำลังใจ' อันเป็นพลังผลักดันให้ชีวิตประสบความสำเร็จในทุกๆ ด้านต่อไป

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง ครับ

เพิ่งถึงบ้าน ครับ

 

กราบหลวงพ่อทรงครับ สวัสดียามเช้าทุกท่านและขอบารมีหลวงพ่อคุ้มครองทุกๆคนครับ

 

กราบพระเดชพระคุณหลวงพ่อทรง
สวัสดีพี่น้องบ้านเหรียญบินทุกท่าน

เมื่อวานเป็นอีกวันที่รู้สึกสบายใจครับ คือ ได้นำพระแหวกม่าน ไปเลี่ยมพลาสติก ซะที หลังจาก พยายามมาเกือบเดือน
เพราะตั้งใจจะให้กับเพื่อนที่รักกันชอบกันไว้บูชาเนื่องจาก ผมเห็นเขาลำบากจึงอยากช่วยเหลือ

และวันนี้ผมจะนำไปให้เขา เดิมทีเพื่อนคนนี้ จบจากนอกความคิดเป็นฝรั่งจ๋า
แต่เนื่องจากเขาคอยสังเกตุ ความเปลี่ยนแปลงของผมตลอดช่วงหนึ่งปีที่ผ่าน
แล้วค่อนข้างแปลกใจ ที่ผมมักจะได้รับความเมตตา จากผู้ใหญ่อย่างต่อเนื่อง
และบางครั้งปัญหาที่ผมได้รับ เหมือนจะไม่มีทางแก้ แต่ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี อย่างน่าประหลาดใจ
เขาจึงสอบถามว่า แขวนพระอะไร เพราะเขารู้มานานว่า ผมชอบสะสมพระเครื่อง
และผมไม่ลังเลเลย ที่จะบอกว่า แขวนพระแหวกม่าน ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทรง
เล่าจนเขาศรัทธา ผมจึงสัญญาว่าจะมอบให้เขา 1 องค์ แต่มีสัญญาใจว่า
หาก วันใดไม่ศรัทธา หรือ ไม่อยากแขวนแล้ว จะต้องส่งคืนให้ผม เพราะผมรู้สึกว่าพระของ หลวงพ่อ นั้นเป็นสิ่งมีค่ามากสำหรับผม

วันนี้ผมจะเดินทางไป เพชรบูรณ์ แล้วแวะพักที่พิษณุโลก ที่พิษณุโลก มีอะไรอร่อยให้ทานบ้างครับ เพื่อนๆ ที่อยู่ที่นี่ แนะนำด้วยครับ

นายตั้น สัมภาษณ์เป็นยังไงบ้างครับ

 

คิดถึงพระหลวงพ่อทรง

ผมก็คนนึงที่รับรู้ถึงคุณค่าและความมีค่าของวัตถุมงคลของหลวงพ่อทรง ก่อนนี้ก็เก็บไว้หลายชิ้น แต่ช่วงที่ผ่านมาต้องจำใจ เพราะการเงินครอบครัวไม่ดี ผมหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียว ค่าใช้จ่ายและค่าเทอมลูกอีก 2 คน จำเป็นต้องขายออกไปหลายชิ้นทั้งที่รักและหวงมาก ตอนนี้คิดถึงแต่ละชิ้นใจจะขาด

....................

เบี้ยแก้เข้าฝัน

อ่านไม่ผิดครับ เบี้ยแก้เข้าฝัน เดิมผมมีเบี้ยแก้หลวงพ่อทรง 2 องค์ แบบมีโค๊ด ท แผ่นทองแดงกับ แผ่นตะกั่ว ตอนนี้ขายแบบมีโค๊ดไปแล้ว แต่โชคดีได้เบี้ยจั่นโค๊ดไม่มีหัวมาอีก 1 องค์

ประมาณ 2 อาทิตย์ที่แล้วความสะเพล่าของผมคือ ผมชอบพกเบี้ยแก้ แต่ไม่ชอบเลี่ยมพลาสติก ก็เลยพกแบบเปลือย ๆ ใส่กระเป๋ากางเกงไปทำงาน ตอนเข้างานไม่เป็นไรเพราะเขาไม่ได้ตรวจตอนเข้าโรงงาน แต่ตอนเลิกงาน รปภ.เขาจะค้นตัว ผมต้องเอาของในกระเป๋ากางเกงออกทั้งหมด ทั้งเบี้ยแก้ก็จะเอาใส่กระเป๋าเสื้อ เพราะเขาไม่ค้นกระเป๋าเสื้อ 55

ปรกติจะไม่ลืมเอาออกจากกระเป๋าเสื้อ มาที่บ้านก็จะวางบนพานหน้า พระบูชา

แต่วันนั้นดันลืมครับ เอาของในกระเป๋าเสื้อออกหมดแต่ดันลืมเบี้ยแก้วันนั้นผมก็ดันแช่ผ้าในเครื่องซักผ้า เพื่อปั่นผ้าตอนเช้า ก่อนไปทำงาน ตกกลางคืน ฝันถึงเบี้ยแก้ว่าปากเปิดออก ชันเปิดหมด เบี้ยไหลออกมาหมด เห็นแต่ปลอทเปล่า ๆ เลย ก็ตกใจตื่น ก็ไม่ได้คิดอะไร

ทีนี้ตื่นเช้ามา คิด ๆ ตั้งแต่ตื่น รีดผ้า ยันอาบน้ำ เราฝันถึงเบี้ยทำไมหว่า งงงง

ทีนี้ก็แต่งตัว พกหลวงพ่อต่าง ๆ พอมาถึงจะหยิบเบี้ยแก้มาอารธนา เท่านั้นโอย เรา ลืมเบี้ยแก้ไว้ไหนหว่า ก็ หาตามที่ต่าง ๆ ก่อน ไม่เจอ หัวนอน พานวางพระ อื่น ๆ ไม่เจอ ก็มายืนนึก ตามในฝันก็วิ่งตรงไปที่เครื่องซักผ้า ความเสื้อทำงานออกมาทีละตัว จนเจอ หัวใจแทบวาย แต่พอเห็นเบี้ยแก้ ชันแช่น้ำจะซีดมากเลย ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ยังไม่ได้พกมาทำงานเลยครับ เพราะชันยังไม่แห้งดี แต่โชคดีที่เบี้ยยังมีสภาพดีไม่เป็นไร

เล่าให้ฟังในความศักสิทธิ์ของเบี้ยหลวงพ่อทรง และความสะเพล่าของผม 555 ขอบคุณครับ ปรกติจะตามอ่าน แต่วันนี้ขอโม้หน่อย

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่ทรงครับ

สวัสดีครับทุกท่าน

พี่ ransang มีเรื่องเล่าเช้านี้ด้วย อิอิ

น้องตั้นเป็นไงบ้างเจอเพื่อนเยอะยัง เล่าประสบการณ์สัมภาษณ์ให้ฟังด้วยนะ

 

แฟนพันธ์แท้............

 

เรื่องนี้แม้จะความรู้สึกเฉพาะตัว แต่ฟังแล้วดีจังครับ

 

ขออภับ ข้อความ รีบพิมพิ์ไปหน่อย เขาตามไปทำงาน เลย พิมพิ์ผิดเยอะเลย

 

การสอบสัมพาษณ์ที่นี้ เป็นภาษาอังกฤษ ครับ ก่อนวันไปสอบนี้ผมกังวลมาก เพราะ กลัวตอบอาจารย์ไม่ไ้ด้ แหะๆ
วันที่ 11 ตอน ผมซักซ้อม แนวคำถามและคำตอบ เป็นอย่างดี แต่ก็เครียดมากครับ ก่อนออกจากบ้าน ขอหลวงปู่บุญศรี หลวงปู่ทรง บอกว่า ขอให้เจออาจารย์สอบสัมพาษณ์ใจดี ไม่ถามมาก ไม่ถามเยอะ ไวๆเร็วๆ

ตกดึก ผมฝันเห็นหลวงปู่ทรง ครั้งนี้ท่านยืนมา สูง สง่า ความรู้สึกผมก็บอก หลวงปู่ทรง (ปกติผมฝันเห็นหลวงปู่ท่านจะนั่งมานะครับ นั่งในท่าชราธรรม)
ผมกราบหลวงปู หลวงปู่ก็รับ ท่านก็ว่า ฯลฯ จนมาสุดท้ายว่า ไปต่อกับแม่เอ็ง แม่เอ็งฝากมา..
เช้าวันที่ 12 เวลา 5.55 ผมตื่น การตื่นครั้งนี้ความตื่นเต้นหายไปครับ แหะๆ ผมเวลาผมมีเรื่องเดือนร้อนอะไร ถ้าแบบตื่นเต้น หรือ เดือนร้อนสุดๆ ขอหลวงปู่ ถ้าหลวงปู่มาหานี้ เรื่องนั้นจะเงียบ หรือ เป็นไปอย่างที่ผมอธิฐานขอหลวงปู่ไว้ครับ

ถึงเวลาสอบสัมพาษณ์ อื้อหื้อ เพื่อนที่เขาไปก่อนหน้านั้น คนล้ำไม่ต่ำกว่า 5-7 นาที บางคน 10 นา ผมก็คิดในใจ เขาถามอะไรนานจัง(ว่ะ) ผมจะรอดมั้ย เริ่มตื่นเต้นนิดๆ พอถึงคิวผม 21 เข้าไป อาจารย์ว่า ให้แนะนำตัว ถามพ่อ แม่
ทำงานอะไร ทำไมถึงเรียนที่นี้ ที่นี้ไกลมาก พ่อแม่ไม่ห่วง เหรอ ทั้งหมดราวๆ 3นาที ไวมาก อาจารย์ก็ยิ้มแย้ม อาจารย์ฝรั่ง ก็ไม่ถาม แล้วก็บอก เสร็จแล้ว ไปได้ ผมก็มาก็งงๆนะครับ เอ ทำไมของเรามันเร็ว จัง แต่ก็ีดีแล้ว ถ้าถามเยอะ จะไปไม่รอดเอา


กลับมาบ้าน เมื่อเช้า 6.00 นอนใหม่อีกรอบ นั่งรถทัวร์ สุดยอดจริงๆเสียง เพลีย นอนต่อ ตื่นมาเล่าให้แม่ฟัง แม่หลวงปู่มาหา ตอนวันที่ก่อนจะสอบสัมพาษณ์
แม่ก็บอก แม่ก็อธิฐาน ตอนตั้นไปให้หลวงปู่ช่วยลูกศิษย์ ช่วยนิวตั้นด้วย

ผม อึ้ง แหะๆ

 

แหมได้ฟังเรื่องเล่าๆ จากหลายๆคน ทำให้รู้สึกซึ้งใจกับความเมตตาของหลวงพ่อทรงที่ต่อศิษย์ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หลวงพ่อก็ตามไปคุ้มครองได้ทั่วทุกสารทิศ.....ขอกราบหลวงพ่อทรงค่ะ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง

 

ขอชี้แจ้งเรื่องลำดับนะครับ

ลำดับในตารางนี้ เป็นลำดับ ที่จัดทำขึ้นมาใหม่ โดยการตรวจสอบของพี่หมู น้อย และ ผม

โดยเรียงจากการที่พี่ๆทำครบกติกาก่อนหลังนะครับ

ต้องเล่าย้อนความไปนานมากตอนกระทู้ที่ 800 กว่าๆ ณ ตอนนั้น ตางรางผมได้ชี้แจ้งเรื่องลำดับก่อนหลัง โดยถือว่า ท่านที่ทำการลงชื่อก่อน ในตอนต้นๆ ที่ยังทำไม่ครบกติกา ผมได้อนุโลมให้ลงตารางได้ ต่อมา พี่บี้ ได้เข้ามาแ้ย้ง ว่าลำดับนั้นไม่ได้ลงท้ายด้วยเลขเป็นอย่างที่คิดไว้(1และ9) ผมได้ปรึกษาพี่เอม พี่อิน พี่บุดดา ก็เห็นในทางเดียวกันด้วยความเสมอภาค และเพื่อกันคน แทงกั่ก เอาเลขที่ 1 และ 9 จะไม่ทำการขึ้นตารางให้ และชี้แจ้งว่า

ต่อไปนี้จะไล่เรียงลำดับใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มประกาศให้ลงชื่อ และ กติกา ใคร ที่ยังทำไม่ครบกติกา จะไม่ลงตารางให้
คนที่ทำครบกติกาจะมีสิทธิ์ลงตาราง และผมกับพี่เอม ก็ได้เตือนไว้บ่อยๆให้ท่านที่ทำไม่ครบ ทำให้ครบ แล้วจึงลงตาราง ดังนั้น ลำดับ จึงเกิดการเปลี่ยนแปลง ครับ

อย่างของพี่K_P ตอนแรกเป็นลำดับที่ 11 แต่เนื่องจากผมกับพี่เอม ได้ทำการตรวจสอบย้อนหลัง พี่K_P ยังทำไม่ครบกติกา และได้มาทำให้ครบกติกาในภายหลังจึงลง ลำดับที่ 30 ครับ
พวกพี่ๆสามารถตรวจสอบในตาราง จะมีหมายเลขกระทู้ให้พี่ๆ เอาไปตรวจสอบได้ การบันทึกลงตารางได้ เพราะผมและพี่เอม ไม่ได้มั่ว ในการลงลำดับ
*หมายเหตุ เลขที่ตารางอาจจะไม่ตรงกับ ณ ปัจจุบัน เนื่องจากมีผู้ลบกระทู้บางกระทู้ออก แต่ก็ตรวจสอบได้ เพราะ จะบวกลบกันไม่น่าจะเกิน 10-15 กระทู้ครับ