ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

วันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6864 ข่าวสดรายวัน


มุทิตาหลวงปู่สุภา-อายุ115ปี



รายงานข่าวจากวัดสีลสุภาราม ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต แจ้งว่า ทางวัดกำหนดจัดงานมุทิตาสักการะอายุวัฒนมงคล 115 ปี พระมงคลวิสุทธิ หรือ หลวงปู่สุภา กันตะสีโล วัดสีลสุภาราม ซึ่งท่านเป็นศิษย์สายตรงหลวงปู่สีทัตต์ แห่งประเทศลาว และหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ได้ถ่ายทอดวิทยาคมให้หลวงปู่สุภาอย่างไม่ปิดบัง เมื่อสิ้นหลวงปู่ศุขแล้ว หลวงปู่สุภาได้ธุดงค์แสวงหาวิชาอาคมจากครูบาอาจารย์ต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศมากมาย อีกทั้งยังได้สร้างวัดเพื่อสืบสานพุทธศาสนาถึง 30 กว่าวัดและวัดสีลสุภารามเป็นวัดล่าสุด

นอกจากนี้จะจัดพิธีสวดภาณยักษ์และสวดนพเคราะห์ปล่อยนก 119 ตัว กำหนดการ วันพุธที่ 16 ก.ย.2552 เวลา 16.00 น.พิธีสวดมหาสมัยสูตร โดยพระสงฆ์สมณศักดิ์จากวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เวลา 17.30 น.พิธีสวดธัมมจักกัปปวัตนสูตร เวลา 19.00 น.พิธีสวดภาณยักษ์และสวดนพเคราะห์โดยพระสงฆ์สมณศักดิ์ วันที่ 17 ก.ย.เวลา 06.09 น.พิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เวลา 08.19 น.พิธีบายศรีสู่ขวัญถวายหลวงปู่สุภา เวลา 09.00 น.พระสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนา โดย พระเทพปริยัติเมธี เจ้าคณะภาค 17 เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ เวลา 09.30 น.พระสงฆ์สมณศักดิ์ 9 รูปเจริญพระพุทธมนต์ เวลา 10.00 น.หลวงปู่สุภาปล่อยนก 119 ตัว เวลา 11.00 น.ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์-สามเณร 200 รูป เวลา 12.00 น.หลวงปู่สุภามอบเงินที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จำนวน 100,000 บาท เพื่อใช้ในกิจการตึกสงฆ์อาพาธโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต พิธีรับพระราชทานเสาเสมาธรรมจักรจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระสงฆ์แสดงมุทิตาสักการะ เวลา 13.00 น.มอบทุนการศึกษานักเรียนจำนวน 139 ทุน เวลา 14.00 น.ศิษยานุศิษย์มุทิตาสักการะหลวงปู่สุภา เป็นอันเสร็จพิธี

สำหรับท่านเจ้าคุณพระมงคลวิสุทธิ หรือที่ทุกท่านรู้จักกันเป็นอย่างดียิ่งในนาม หลวงปู่สุภา ได้เจริญอายุยั่งยืนนานมาถึง 115 ปี นับได้ว่า หลวงปู่สุภา ท่านเป็นคณาจารย์อาวุโส ที่มีอายุยืนที่สุดองค์หนึ่งในยุคนี้เลย

น.พ.มงคลณสงขลา ชวนคนไทยปฏิวัติสุขภาพ

เมธาวี มัชฌันติกะ



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>ถึงวันนี้เชื่อว่าทุกคนคงรู้จักและเตรียมตัวรับมือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 กันแล้ว

สถานการณ์ที่ดูเหมือนว่าจะสงบลง ความจริงยังเต็มไปด้วยความวิตกกังวลจากฝ่ายต่างๆ ว่าสถาน การณ์ระบาดระลอก 2 จะกลับมาในเร็ววัน

ช่วงที่การระบาดในเมืองใหญ่เริ่มชะลอตัว การดูแลตัวเองของคนไทยก็เริ่มลดลง ต้องมีการรณรงค์ให้เตรียมรับมืออย่างต่อเนื่อง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ มอบหมายให้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือสสส. ทำหน้าที่รณรงค์ ประชาสัมพันธ์อีกหน่วยงานหนึ่ง

โดยมีคณะอนุกรรมการสนับสนุนการป้องกันควบคุมและการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งมี น.พ.มงคล ณ สงขลา อดีตรมว.สาธารณสุข รับหน้าที่ประธานคณะอนุกรรมการ ทำหน้าที่ร่วมขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ

น.พ.มงคล ณ สงขลา เปิดใจถึงการกลับมาทำงานในแวดวงสาธารณสุขและเป็นกำลังสำคัญในการรณรงค์ให้คนไทยห่างไกลไข้หวัดว่า

ก่อนหน้าที่จะเข้ามารับงานนี้ การสื่อสารกับประชาชนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจจะยังมีความสับสนอยู่บ้าง เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่ และมีข้อมูลวิชาการเพิ่มขึ้นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

คนทำงานต้องทำงานหนักและเหนื่อยเป็น 2 เท่า จำเป็นที่ทุกฝ่ายต้องเข้ามาร่วมมือกันแก้ไขปัญหา เพื่อให้เกิดเอกภาพและไม่ใช่หน้า ที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นของทุกคนที่ต้องช่วยกัน

คณะอนุกรรมการ เป็นเสมือนผู้ทำหน้าที่เชื่อมประสานหน่วยงานต่างๆ ให้ร่วมกันเข้ามารับผิดชอบ และช่วยกันทำงานเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนอย่างสูงสุด <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

หน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ทำได้แค่ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ แต่การจะป้องกันโรคไข้หวัดได้นั้น ถือเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคลที่มีสอนกันมาตั้งแต่เด็ก

หากทราบแต่ไม่ปฏิบัติตามก็ไม่สามารถป้องกันโรคได้อยู่ดี

การต่อสู้ครั้งนี้จึงเป็นเรื่องการต่อสู้กับพฤติกรรมของคน ทุกคนต้องดูแลตัวเองไม่ใช่เพียงแต่รอให้หมอมาให้บริการ

เพราะหากทุกคนป่วยพร้อมๆ กันหมด ต่อให้เตรียมความพร้อมของบุคลากร ของโรงพยาบาลไว้มากเพียงใด ก็ไม่สามารถให้บริการได้ทัน

แม้ว่าจะมียารักษา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถช่วยชีวิตได้ทุกราย เพราะโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ มักจะเล่นงานที่ปอดก่อน

หากรักษาช้า หรือมีโรคประจำตัวก็จะมีความเสี่ยงสูง

ประธานคณะอนุกรรมการสนับสนุนการป้องกันควบคุมและการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อธิบายต่อว่า การสร้างพฤติกรรมของประชาชนก็เหมือนเกราะป้องกันโรค

ทุกหน่วยงานต้องทำงานร่วมกัน ไม่มีใครสามารถทำงานได้เพียงลำพัง การทำงานของสสส.ถือเป็นการช่วยเสริมให้การรณรงค์เข้าถึงประชาชนมากยิ่งขึ้นด้วยการอาศัยเครือข่ายต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วประเทศด้วยภาษาคำพูดที่เข้าใจง่าย ตรงกลุ่มเป้าหมายที่สุด

พื้นที่ห่างไกล ชุมชนต่างๆ ถือว่ามีความน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะตามลักษณะของโรคระบาดจะเริ่มจากเขตเมือง ก่อนกระจายไปสู่ต่างจังหวัด

แต่ประชาชนในชุมชนต่างๆ อาจเข้าไม่ถึงข้อมูลที่มี จึงจำเป็นอย่างยิ่งในการเร่งสร้างความรู้ให้ประชาชนกลุ่มนี้ โดยจะมีการเข้าไปทำงานร่วมกันกับอบจ. อบต.ต่างๆ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ซึ่งชุมชนต่างๆ ถือเป็นรากฐานที่สำคัญในการป้องกันโรค และถือเป็นตัวอย่างให้ชุมชนต่างๆ ได้เรียนรู้และนำไปปฏิบัติ

ต่อจากนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ การทำงานไม่ได้หวังเพียงแก้ปัญหาเรื่องไข้หวัดใหญ่เท่านั้น แต่หากประชาชนหันมาดูแลตัวเอง เปลี่ยนพฤติกรรม ก็จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

ถือเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันระยะยาว สถานการณ์อะไรที่ยังคิดไม่ตก ยังขัดแย้งกันอยู่ หากไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ก็อยากให้หันมาดูแลครอบครัว ดูแลซึ่งกันและกัน

ทำให้สุขภาพแข็งแรงก็จะเกิดความสุขขึ้นได้

ต่อจากนี้โลกจะต้องเจอกับโรคใหม่ๆ และแปลกๆ อีกมาก ถ้าประชาชนไม่มีความรู้ ไม่มีภูมิคุ้มกันทางปัญญา ก็จะต้องพบปัญหาแบบเดิมเกิดความตื่นตระหนกและเกิดความเสียหายขึ้นอย่างมาก

ซึ่งรัฐบาล องค์กรต่างๆ ก็สามารถให้ได้แค่ความรู้สนับสนุนเครื่องมือ อุปกรณ์เครื่องใช้ แต่ถ้าประชาชนไม่เปลี่ยนพฤติกรรมยังไอจามในที่สาธารณะ ไม่สบายแล้วยังอยู่ในที่ชุมชน ใช้ของร่วมกันโดยไม่แยก ก็ไม่ สามารถหยุดการแพร่เชื้อโรคได้

รัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข คงไม่สามารถทำอะไรได้มาก ถ้าทุกคนไม่ร่วมกันตระหนักถึงหน้าที่ตัวเอง ตระหนักถึงความรับผิดชอบว่าต้องดูแลตัวเองอย่างไร

ท่ามกลางสถานการณ์การระบาด ที่มีโรคใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลาคง ไม่มีใครสามารถช่วยเราได้ดีเท่าตัวเราเอง

แม้ว่าจะมีโรงพยาบาลใหญ่โต แต่ความจริงแล้วการดูแลสุขภาพ โรงพยาบาลดูแลเราได้เพียง 20%

แต่อีก 80% ที่เหลือจะเกิดขึ้นจากการดูแลตัวเองโดยการกินดี อยู่ดี นอนดี ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่น้อยมากหากเทียบกับ 20% ที่ต้องจ่ายในการ รักษาระยะสุดท้ายที่โรงพยาบาล

ถึงเวลาปฏิวัติสุขภาพครั้งใหญ่และไม่ได้เริ่มต้นที่ไหนไกล นอกจาก หันมาดูแลตัวเองŽ น.พ.มงคลกล่าวฝากในที่สุด



จิตนิ่ง-ยิ้มก่อนนอน

ในฐานะต้องเป็นผู้นำในการดูแลสุขภาพสังคม น.พ.มงคล ณ สงขลา ในวัย 60 กว่า เผยถึงเคล็ดรักษาสุขภาพว่า ตื่นนอน 04.45 น. ไปวิ่งที่สวนรถไฟวันละประมาณ 5 กิโลเมตร มากหรือน้อยกว่านี้ขึ้นกับร่างกาย พักผ่อนให้เพียงพอ นอน 21.00 น. เพื่อให้ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

คุณหมอมงคลรับประทานมังสวิรัติสัปดาห์ละ 2 วัน คือ วันจันทร์ และวันพฤหัสบดี ไม่เน้นเนื้อเพราะย่อยยาก รับประทานสัตว์เล็กอย่างปลาไก่แทน ครั้งละน้อยๆ เพื่อให้ระบบร่างกายทำงานไม่หนักเกินไป เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ดื่ม ดื่มน้อยๆ เฉพาะออกงานเท่านั้น

การทำงานเป็นวิธีการผ่อนคลายอย่างหนึ่ง ทำให้ชีวิตสดชื่นขึ้น โดยถือว่าการทำงานเป็นการปฏิบัติธรรม เมื่อทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดแล้ว จะรู้สึกว่างานที่ทำอยู่ไม่ได้หนักหนาหรือเป็นภาระ

ที่ทำให้สุขภาพดีทั้งกายใจ คือการปฏิบัติธรรม ฟังธรรมะ ทำให้จิตใจสงบ ได้คุยกับตัวเอง คุณหมอจะนั่งสมาธิทุกวันก่อนนอน เป็นการใช้เวลาเล็กน้อยที่จะหยุดอยู่กับตัวเองให้เกิดความนิ่ง สงบ ซึ่งในชีวิตปกติ จะทำให้เกิดความเหนื่อยล้า ทั้งกายและใจ

การออกกำลังกาย การพักผ่อน อาจทำให้หายเหนื่อยกายได้ แต่จิตใจนั้นหากไม่หยุด ทำให้จิตใจเกิดความนิ่งสงบบ้าง ก็จะเกิดความเหนื่อยล้า

เตือน4จว.อีสาน-น้ำป่าถล่มอุทยานฯ เผยพื้นที่"โคราช-ชัยภูมิ"เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน



นครราชสีมา - นายวัลลภ เทพภักดี ผอ.ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 5 นครราชสีมา ประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบทั้ง 4 จังหวัดอีสานตอนล่าง ประกอบด้วย สุรินทร์ บุรีรัมย์ ชัยภูมิ และนครราชสีมา ให้ระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยดินโคลนถล่มและน้ำป่าไหลหลากใน 2 จังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่ราบเชิงเขา ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ คือ จ.นครราชสีมา ซึ่งมีอุทยานแห่งชาติอยู่ 2 แห่งคือ อุทยานแห่งชาติทับลาน และอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.วังน้ำเขียว อ.ครบุรี อ.เสิงสาง อ.ปากช่อง อ.สีคิ้ว และในพื้นที่ 4 อุทยานแห่งชาติ จ.ชัยภูมิ คือ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม, อุทยานแห่งชาติไทรทอง, อุทยานแห่งชาติตาดโตน และภูแลนคา ครอบคลุมพื้นที่ 9 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เกษตรสมบูรณ์ อ.คอนสาร อ.จัตุรัส อ.เทพสถิต อ.บ้านเขว้า อ.ภักดีชุมพล อ.เมือง อ.หนองบัวแดง และ อ.หนองบัวระเหว โดยทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 5 นครราชสีมา ออกประกาศเตือนไปยังปภ.จังหวัด ทั้ง 4 จังหวัด ให้มีการแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยที่ราบเชิงเขาระวังดินโคลนถล่มในช่วงนี้

ทั้งนี้ ศูนย์ปภ.เขต 5 นครราชสีมา จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและโคลนถล่ม รวมทั้งเตรียมเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องมือและอุปกรณ์เพื่อคอยให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ประสบภัย หากประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัย ติดต่อขอรับความช่วยเหลือที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 5 นครราชสีมา และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทุกจังหวัด หรือทางโทรศัพท์สายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

โรคฉี่หนูกาฬสินธุ์ป่วย160ตาย7



กาฬสินธุ์ - น.พ.พิสิทธิ์ เอื้อวงศ์กูล นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ช่วงฤดูฝนทุกๆ ปีมักมีการระบาดของโรคไข้เลือดออก ซึ่งพื้นที่จ.กาฬสินธุ์ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค-7 ก.ย. พบผู้ป่วยแล้ว 396 ราย เสียชีวิต 1 ราย แนวทางการป้องกันและควบคุมโรคนั้น ทางสำนักงานฯ จัดให้มีการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตัว การป้องกันและการควบคุมโรค โดยเฉพาะการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย

น.พ.พิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์ของโรคเลปโตสไปโรซีส หรือโรคฉี่หนู ในช่วงนี้ในพื้นที่จ.กาฬสินธุ์ มักพบผู้ป่วยจำนวนมากและมากที่สุดในภาคอีสาน ถือเป็นโรคประจำถิ่นไปแล้ว เนื่องจากพื้นที่จ.กาฬสินธุ์ค่อนข้างมากน้ำท่วมขังตลอดทั้งปี จากข้อมูลขณะนี้พบผู้ป่วยแล้ว 160 ราย จากข้อมูลอย่างเป็นทางการมีผู้เสียแล้ว 3 ราย และข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการซึ่งอยู่ระหว่างการยืนยันอีก 4 ราย รวมเสียชีวิต 7 ราย อย่างไรก็ตาม อยากฝากเตือนประชาชนควรสวมรองเท้าหรือถุงมือที่ป้องกันการเกิดแผล เพราะหากเป็นแผลจะทำให้ติดเชื้อง่าย และหากเป็นแผลควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำ ดินเปียกชื้น โคลน หากจำเป็นควรสมรองเท้าบู๊ตและถุงมือขณะทำงานในไร่นา ไม่ควรแช่น้ำนานเกิน 6 ชั่วโมง และเมื่อกลับจากทำงานในไร่นาให้อาบน้ำและล้างมือทันที ทั้งนี้ เมื่อมีอาการไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ตาแดง ให้เดินทางไปพบแพทย์ทันที

น้ำล้น"เขื่อนห้วยติ๊กชู"ทะลักศรีสะเกษ ขุนหาญอ่วมจม4หมู่บ้าน-ผู้ว่าฯประกาศเตือนน้ำถล่ม



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
น้ำท่วม - บ้านเรือนประชาชนในเขต อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ โดนน้ำท่วมหนัก หลังเกิดน้ำล้นเขื่อนห้วยติ๊กชูทะลักท่วมบ้านเรือนและไร่นาข้าวจมน้ำนับพันไร่ โดยผวจ.ศรีสะเกษประกาศเตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลันแล้ว

</TD></TR></TBODY></TABLE>ศรีสะเกษ - น้ำล้นเขื่อนห้วยติ๊กชูท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน 3 ตำบลในเขต อ.ขุนหาญ ไร่นาข้าวจมน้ำนับพันไร่ พ่อเมืองศรีสะเกษเตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน ให้เก็บทรัพย์สินของมีค่าและสัตว์เลี้ยงไว้ในที่สูง

จากภาวะที่ฝนตกอย่างต่อเนื่องในระยะสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับปริมาณน้ำป่าที่ไหลหลากจากเทือกเขาตามพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านตอนใต้ของศรีสะเกษ ได้ส่งผลให้ระดับน้ำที่กักเก็บที่อ่างเก็บน้ำห้วยตาจู ต.กันทรอม อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ที่มีปริมาณกักเก็บน้ำได้มากกว่า 22 ล้านลูกบาศก์เมตร ได้เอ่อล้นสปริงเวย์สูงกว่า 50 เซนติเมตร ได้ถูกระบายไปตามลำห้วยจันทร์และลำห้วยตาจู กระแสน้ำที่ไหลพัดแรงได้ทำลายทำนบดินป่าอ้อ ที่บริเวณสะพานข้ามลำห้วยขาด และทำให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมหมู่บ้านรวม 4 หมู่บ้านในเขตพื้นที่ 3 ตำบลของ อ.ขุนหาญ โดยเฉพาะที่บ้านและวัดบ้านกระเบา ต.โนนสูง อ.ขุนหาญ น้ำท่วมสูงกว่า 50 ซ.ม. และได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่ทำนาเป็นบริเวณกว้างมากกว่า 500 ไร่ โดยเฉพาะพื้นที่ทำนาที่ติดกับแนวถนนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 24 ซึ่งกั้นทางน้ำ ทำให้น้ำเอ่อล้นท่วมที่นาของเกษตรกรเสียหายเป็นบริเวณกว้าง

นายระพี ผ่องบุพกิจ ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้ง สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้สะสมและเอ่อล้นเข้าท่วมหมู่บ้านและพื้นที่ทำนาของชาวบ้าน ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษได้รับรายงานว่าในบางหมู่บ้านถนนถูกตัดขาด ซึ่งขณะนี้ตนได้สั่งการให้ทางอำเภอเข้ามาตรวจสอบความเสียหาย และเร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างเร่งด่วน

ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อไปอีกว่า ส่วนปัญหาทำนบดินกั้นทางน้ำห้วยตาจูที่ขาดนั้น จังหวัดศรีสะเกษได้ประสานงานกับกรมชลประทาน เพื่อจัดสร้างฝายน้ำล้น เพื่อให้การระบายน้ำได้รวดเร็ว และป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ทำนา และบ้านเรือนของประชาชน อย่างไรก็ตาม ภาวะน้ำท่วมในระยะนี้ ยังไม่ถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤต ตนขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เช่น ตามพื้นที่ที่มีภูเขาได้เตรียมการและระมัดระวังน้ำป่าไหลหลาก โดยให้เตรียมอพยพเคลื่อนย้ายสิ่งของไว้บนที่สูง รวมทั้งสัตว์เลี้ยงต่างๆ และบ่อเลี้ยงปลาที่อาจเกิดน้ำเอ่อล้นเข้าท่วม จนได้รับความเสียหายได้

 

นพ.ประเวศ ชี้คนไทยจิกตีกันเอง เหมือนไก่อยู่ในเข่งรอวันถูกเขาเชือด ​

​

รร.รามาการ์เด้นส์ 11 ก.ย.- สถาบันพระปกเกล้าร่วมกับสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ประเทศไทย องค์กรในเครือข่ายหยุดทำร้ายประเทศไทย เครือข่ายทางปัญญา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยและสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ จัดประชุมวิชาการ เพื่อทำข้อเสนอต่อรัฐบาลและสังคม เรื่อง “ทางรอดของประเทศไทย ครั้งที่ 1 “นพ.ประเวศ” แนะทางออกประเทศไทยต้องปฏิรูป 10 เรื่อง หลุดจากหลุมดำทางปัญญา

ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ทางรอดประเทศไทย การปฏิรูปประเทศ” ว่า ปัญหาของประเทศไทยมีมานานแล้ว ซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง มีความขัดแย้งเกิดขึ้นหลายครั้ง ทำให้สะท้อนว่าสังคมพยายามดิ้นรนหาจุดลงตัวใหม่ ปัจจุบันหลายคนเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวิกฤตสุดๆ แล้ว ไม่มีองค์กรใดสถาบันใดจะแก้ไขได้ ดังนั้นต้องมาดูว่าวิกฤตสุดทางไปแล้วจริงหรือ

นพ.ประเวศ กล่าวว่า วิกฤตเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง สิ่งแวดล้อม ซึ่งแต่ละวิกฤตเป็นความซับซ้อนและมีความยากอยู่ หากจะออกจากความซับซ้อนได้ต้องใช้ปัญญา แต่บังเอิญปัญญามีน้อย เพราะตกหลุมดำทางปัญญา ที่มาจาก

1.พฤติกรรมสังคมแนวดิ่ง ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ระหว่างคนข้างบนที่มีอำนาจกับคนข้างล่างไม่มีอำนาจ ทำให้สังคมขาดศีลธรรมพื้นฐาน เมื่อขาดศีลธรรมพื้นฐานสิ่งดีงามต่าง ๆ ก็เกิดขึ้นไม่ได้

2.ระบบอำนาจรัฐรวมศูนย์ เป็นระบบที่ใช้อำนาจ ไม่ใช้ปัญญา ซึ่งก่อให้เกิดความขัดแย้ง เป็นสาเหตุความรุนแรง เช่น ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้

3.ระบบเศรษฐกิจบริโภคนิยม ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยให้ห่างกันมากขึ้น ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม เกิดความขัดแย้งทางการเมืองที่กำลังจะนำไปสู่ความรุนแรง

4.ระบบการศึกษาที่ไม่มีพลังทางปัญญา มีกำแพงกั้นอยู่ ทำให้คนไทยเหมือนไก่อยู่ในเข่งรอวันเขาเชือด ซึ่งเข่งดังกล่าวมีความคับแคบเปรียบเสมือนโครงสร้างของสังคม ทำให้ไก่ต้องจิกกันเอง และ สุดท้ายไม่ว่าตัวไหนชนะก็ถูกเชือด ดังนั้นการแก้ปัญหาได้ต้องรวมตัวกันบินออกจากเข่ง เพื่อความอยู่รอด

นพ.ประเวศ กล่าวว่า สภาพวิกฤตขณะนี้ดูเหมือนสุดทางไป เมื่อสุดทางก็จะมีการบังเกิดของปรากฎการณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ เกิดมิคสัญญีกลียุค ฆ่าฟันกันเองล้มตายกันยกใหญ่ จนคนตายมากพอที่สังคมจะเกิด จิตสำนึกใหม่ หรืออีกทาง สังคมเกิดจิตสำนึกใหม่ โดยไม่ต้องผ่านมิคสัญญีกลียุคแล้วปฏิรูปตัวเอง

นพ.ประเวศ กล่าวว่า การปฎิรูป คือ กลไกเพื่อความอยู่รอด ต้องทำอย่างเชื่อมโยงกัน 10 เรื่อง ประกอบด้วย

1. การสร้างจิตสำนึกใหม่
2. มีระบบเศรษฐกิจใหม่โดยสร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่ สร้างความมั่นคงให้ชีวิตอย่ามีอาชีพเดียว
3. ความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่น
4. สร้างระบบการศึกษาที่พาชาติออกจากวิกฤต
5. ธรรมาภิบาลของการเมืองการปกครองระบบความยุติธรรม สันติภาพ
6. ระบบสวัสดิการ
7. ระบบพลังงานและสิ่งแวดล้อมทีมีดุลยภาพ
8. การปฏิรูประบบสุขภาพเพื่อสุขภาวะของคนทั้งมวล
9. การวิจัยยุทธศาสตร์ชาติ
10. สร้างระบบการสื่อสารที่ผสานการพัฒนาทุกเรื่อง

อย่างไรก็ตาม หากทำทั้งหมดได้เชื่อมโยงกันประเทศไทยจะมีพลังออกจากหลุมดำไปสู่จุดลงตัวใหม่ได้ ซึ่งแต่ละเรื่องเป็นเรื่องใหญ่และยาก ต้องการบุคคลกลุ่ม องค์กร สถาบัน มาร่วมสร้างความเข้าใจและขับเคลื่อนเหตุการณ์เฉพาะหน้า ขณะนี้ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันสร้างกรอบกติกาและกลไก ที่สังคมจะเข้ามามีส่วนร่วมในการควบคุมการชุมนุมทางการเมือง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรง.-สำนักข่าวไทย

2009-09-11 18:37:10

ที่มา http://news.mcot.net

 

เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 6.4 ริกเตอร์ที่เวเนซุเอลา​

​

คารากัส 13 ก.ย. - เจ้าหน้าที่รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ขนาด 6.4 ริกเตอร์ สะเทือนแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ของเวเนซุเอลา ในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนในกรุงคารากัส และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 7 คน หลังบ้านเรือนแถบชานเมืองพังถล่มลงมา

แผ่นดินไหวซึ่งนับว่ารุนแรงที่สุดในรอบหลายปีที่เวเนซุเอลา เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 15.40 น.วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 03.40 น.เช้าวันอาทิตย์ตามเวลาในไทย และยังทำให้ไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ ผู้อำนวยการศูนย์ฉุกเฉินของเวเนซุเอลา กล่าวว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้สะเทือนไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่รัฐฟัลกอง ได้รับผลกระทบมากที่สุด ทำให้ประชาชนบาดเจ็บ 7 คน และอาคารบางแห่งเสียหาย ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างไปทางเหนือถึงตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเปอร์โต กาเบลโล หนึ่งในแหล่งน้ำมันหลักของเวเนซุเอลาราว 36 กิโลเมตร และอยู่ใต้ทะเลลึก 10 กิโลเมตร แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายกระทบโรงกลั่นน้ำมัน

ส่วนที่กรุงคารากัส ประชาชนหลายคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เนื่องจากผู้ที่ไปจับจ่ายซื้อของหลายพันคนในศูนย์การค้าใหญ่หลายแห่งต่างตื่นตระหนกเหยียบกันเพื่อหาทางออก ส่วนพื้นที่ชานเมือง กำแพงบ้านที่ทำจากดินและอิฐพังลงมา สถานีโทรทัศน์รายงานแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหว หรืออาฟเตอร์ช็อค ที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ เครือข่ายโทรศัพท์มือถือล่มเพราะผู้คนต่างใช้โทรศัพท์หลังเกิดแผ่นดินไหว และไฟฟ้าดับบางพื้นที่ในกรุงคารากัส .- สำนักข่าวไทย

2009-09-13 09:21:21

น้ำท่วมฉับพลันที่ตุรกี-จนท.เร่งช่วยเหลือประชาชน​

​

ตุรกี 13 ก.ย.-ตุรกี ยังคงกับเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันทำให้ผู้คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งให้ความช่วยเหลือ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้ยานยนต์ทหาร และรถแทรกเตอร์ เข้าให้การช่วยเหลือชาวบ้านในย่านกัมแบ็กทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วม ฝนที่ตกหนักมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ได้คร่าชีวิตชาวตุรกีในนครอิสตันบูลไป 31 คน และจนถึงขณะนี้ยังคงมีผู้สูญหายอีก 9 คน นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมในอีกหลายจุด เป็นเหตุให้สะพานอย่างน้อย 1 แห่งพังถล่มในเมืองเคซานใกล้ชายแดนกรีซ และบ้านเรือนในนครอิสตันบูลอีกหลายสิบหลังยังคงจมอยู่ใต้น้ำ.-สำนักข่าวไทย

2009-09-13 11:10:15

น้ำท่วมฉับพลันในกรีซคร่าชีวิตชาวบ้าน 1 ราย​

​

กรีซ 13 ก.ย. - เกิดน้ำท่วมฉับพลันบนเกาะทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของกรีซ คร่าชีวิตชาวบ้านอย่างน้อย 1 ราย รถยนต์เสียหายหลายคัน

เหตุน้ำท่วมฉับพลันเกิดขึ้นบนเกาะอีเวีย ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของกรีซ กระแสน้ำรุนแรงพัดรถยนต์หลายคันตกถนน เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบผู้เสียชีวิต 1 ราย เหยื่อเคราะห์ร้ายเป็นชายอายุ 39 ปี นอกจากนั้น ผู้ประสบภัยน้ำท่วมหลายคนต้องได้รับการช่วยเหลืออพยพออกจากพื้นที่ประสบภัยด้วยเฮลิคอปเตอร์ ขณะที่บ้านเรือนราษฎรและธุรกิจการค้าได้รับความเสียหายมากมาย ถนนหนทางถูกตัดขาด สะพานถูกกระแสน้ำพัดเสียหาย

ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา พื้นที่ดังกล่าวเพิ่งเผชิญสภาพไฟไหม้ป่า ทางการต้องใช้เครื่องบินบรรทุกน้ำหลายลำมาช่วยดับไฟ. - สำนักข่าวไทย

2009-09-13 03:22:10

อินเดียเตือนภัยน้ำท่วมในกรุงนิวเดลี​

​

อินเดีย 12 ก.ย.- ทางการอินเดีย เตือนภัยน้ำท่วมกรุงนิวเดลี หลังระดับน้ำในแม่น้ำยะมุณาเพิ่มสูงเกือบถึงขีดอันตราย

ชาวกรุงนิวเดลี โดยเฉพาะที่อาศัยอยู่บริเวณที่ลุ่ม ได้รับคำสั่งเริ่มอพยพและเตือนภัย เตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วม หลังระดับน้ำในแม่น้ำยะมุณา เพิ่มระดับสูงเกือบถึงขีดอันตราย กระแสน้ำอาจพังแนวเขื่อนริมแม่น้ำได้เร็วๆ นี้ เนื่องจากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่กรุงนิวเดลีมาตั้งแต่ช่วงวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ ทำให้ระดับน้ำบริเวณสะพานเก่ากลางกรุงเดลี เพิ่มสูงขึ้นมาก ชาวบ้านได้รับผลกระทบกันแล้วบางส่วน โดยเฉพาะการจราจรในเมืองหลวงติดขัดอย่างหนัก ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับคำสั่งเตรียมพร้อมเรือและอุปกรณ์ความช่วยเหลือ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างทันท่วงที.- สำนักข่าวไทย

2009-09-12 23:06:21

เกิดเหตุเหยียบกันตาย 18 คน ในระหว่างการแจกอาหารในปากีสถาน​

ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

​

การาจี 14 ก.ย. – ตำรวจปากีสถานรายงานว่า เกิดเหตุเหยียบกันตายในระหว่างการแจกแป้งทำอาหารในนครการาจี ศูนย์กลางทางการเงินของปากีสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 คน เป็นผู้หญิงและเด็กที่กำลังรอคิวรับการแจกจ่ายอาหาร

นอกจากนี้ ยังมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบคน ตำรวจ กล่าวว่า การเสียชีวิตเกิดจากการขาดอากาศหายใจ เหตุเกิดขณะที่มูลนิธิการกุศลแห่งหนึ่งกำลังแจกจ่ายแป้งทำอาหารให้แก่ผู้หญิงและเด็กหลายร้อยคนในช่วงเดือนแห่งการถือศีลอดของชาวมุสลิม. -สำนักข่าวไทย

2009-09-14 18:33:19

เซียร์ราลีโอนฝังศพผู้ประสบภัยเรือล่ม 120 คน​

​

ฟรีทาวน์ 13 ก.ย. - เซียร์ราลีโอนประกอบพิธีฝังศพประชาชน 120 คน ที่เสียชีวิตจากเหตุเรืออับปางในแม่น้ำสัปดาห์นี้ แต่ยังมีผู้โดยสารอีกหลายคนที่สูญหายไป

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ศพ 120 ราย ถูกฝังแล้ว และบางรายต้องฝังรวมกันเนื่องจากมีสภาพเน่าเปื่อยมาก ศพหลายรายถูกน้ำซัดออกไปจากที่เกิดเหตุเรือล่ม จึงเป็นไปได้ว่าศพอาจลอยไปไกลยังที่อื่นแล้ว ทางการเซียร์ราลีโอนประกาศให้วันจันทร์เป็นวันไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาต่อไปและให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์แก่ผู้รอดชีวิต คาดว่าผู้โดยสารบนเรืออาจมีประมาณ 268 - 300 กว่าคน .- สำนักข่าวไทย

2009-09-13 09:28:43

บิน ลาดิน ชี้การที่สหรัฐสนับสนุนอิสราเอลทำให้เกิดวินาศกรรม 11 ก.ย.​

​

วอชิงตัน 14 ก.ย. - นายอุซามะห์ บิน ลาดิน ผู้นำเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ กล่าวในวิดีโอเสียงล่าสุดที่ถูกเปิดเผยว่า การที่สหรัฐสนับสนุนอิสราเอลทำให้เขาก่อเหตุวินาศกรรม 11 ก.ย. 2544

อินเทลเซ็นเตอร์ กลุ่มเฝ้าติดตามการก่อการร้ายที่มีสำนักงานในสหรัฐ ระบุว่า อัส-ซาฮับ สื่อของอัลกออิดะห์ เปิดเผยวิดีโอที่ชื่อ “สารถึงคนอเมริกัน” เป็นภาพนิ่งของนายบิน ลาดิน ประกอบเสียงพูดของเขา ว่า “ในบรรดาความอยุติธรรมทั้งหลาย การที่สหรัฐสนับสนุนอิสราเอล ได้จุดชนวนให้อัลกออิดะห์ก่อเหตุวินาศกรรม 11 ก.ย. 2544 พร้อมชี้ว่า สงครามในอิรัก และอัฟกานิสถานถูกผลักดันโดยกลุ่มวิ่งเต้นที่สนับสนุนอิสราเอลในทำเนียบขาว รวมทั้งผลประโยชน์ร่วมกัน ไม่ได้มีต้นเหตุมาจากกลุ่มติดอาวุธ

นอกจากนี้ ผู้นำอัลกออิดะห์ ระบุว่า หากสหรัฐคิดให้ดีก็จะเห็นว่า ทำเนียบขาวถูกยึดครองโดยกลุ่มผลประโยชน์ต่าง ๆ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ไม่มีอำนาจพอที่จะเปลี่ยนแปลงแนวทางของสงครามทั้งในอิรัก และอัฟกานิสถาน นายบิน ลาดิน เรียกร้องให้คนอเมริกันกดดันผู้นำทำเนียบขาวให้เลิกทำสงครามในอิรัก และอัฟกานิสถาน ตลอดจนให้เลิกสนับสนุนอิสราเอล

การเปิดเผยวิดีโอดังกล่าวมีขึ้นเพียง 2 วันหลังจากวาระครบรอบ 8 ปีเหตุวินาศกรรม 11 ก.ย. 2544 ซึ่งอัลกออิดะห์อยู่เบื้องหลังการโจมตี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตไปเกือบ 3,000 คน อินเทลเซ็นเตอร์ ระบุ นายบิน ลาดิน มักออกวิดีโอเสียงในช่วงเดือน กันยายน หรือตุลาคม สำหรับเทปเสียงครั้งหลังสุดที่ถูกเผยแพร่คือเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน มีเนื้อหาตำหนิการที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย บ้านเกิดของนายบิน ลาดิน พร้อมเตือนถึงความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในอีกหลายสิบปีข้างหน้า -สำนักข่าวไทย

2009-09-14 11:47:40

รัสเซียให้เวเนซุเอลากู้เงินซื้ออาวุธ 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ​

​

การากัส 14 ก.ย. - ประธานาธิบดีฮิวโก ชาเวซ ของเวเนซุเอลา เผยว่า รัสเซียตกลงให้เวเนซุเอลากู้เงิน 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 74,800 ล้านบาท) เพื่อซื้ออาวุธ อาทิ รถถัง และขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน

ประธานาธิบดีชาเวซ กล่าวผ่านรายการโทรทัศน์ประจำสัปดาห์ว่า การซื้ออาวุธที่ทำข้อตกลงระหว่างการเยือนกรุงมอสโก ของรัสเซีย เมื่อสัปดาห์ก่อน รวมทั้ง รถถัง 92 คัน และระบบขีปนาวุธ เอส-300 ซึ่งมีขีดความสามารถยิงเครื่องบินขับไล่ และขีปนาวุธนำวิถี พร้อมกันนี้ ผู้นำเวเนซุเอลา กล่าวขอบคุณรัฐบาลรัสเซียที่อนุมัติเงินกู้ 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 74,800 ล้านบาท) เพื่อใช้ในการซื้ออาวุธเหล่านี้ แต่ไม่ได้ระบุถึงราคาของอาวุธที่ซื้ออย่างชัดเจน

เวเนซุเอลาซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ ประสบปัญหาการเงินในปีนี้จากราคาน้ำมันตกต่ำ ซึ่งประธานาธิบดีชาเวซ กล่าวว่า จำเป็นต้องกู้เงินจากรัสเซียเพื่อใช้จ่ายด้านการป้องกันตนเอง และเพื่อไม่ต้องตัดลดลงประมาณด้านการศึกษา และสาธารณสุขของประเทศ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เวเนซุเอลา ซื้ออาวุธจากรัสเซีย มูลค่ากว่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 136,000 ล้านบาท) ในจำนวนนี้รวมทั้งเครื่องบินขับไล่ซูคอย 24 ลำ นักวิจารณ์ระบุว่า เวเนซุเอลา ทำให้เกิดการแข่งขันด้านอาวุธในภูมิภาคละตินอเมริกา แต่ประธานาธิบดีชาเวซ กล่าวว่า ปฏิรูปกองทัพเพื่อการป้องกันตนเอง. -สำนักข่าวไทย

2009-09-14 07:27:06

นักสอนศาสนาในเลบานอนประกาศฟัตวาห้ามสถาปนาความสัมพันธ์กับอิสราเอล​

​

เบรุต 13 ก.ย.- นักสอนศาสนาอิสลามนิกายชีอะท์คนสำคัญในเลบานอนประกาศคำสั่งทางศาสนาหรือฟัตวาห้ามการสถาปนาความสัมพันธ์ระดับปกติกับอิสราเอล

โมฮัมเหม็ด ฮุสเซน ฟัดดลาลาห์ ประกาศว่าการสถาปนาความสัมพันธ์ระดับปกติไม่ว่ารูปแบบใดก็ตามกับศัตรู ซึ่งเป็นกลุ่มสนับสนุนการอพยพชาวยิวไปอยู่ในปาเลสไตน์ เป็นสิ่งต้องห้ามตามกฎหมายอิสลาม คำสั่งทางศาสนาดังกล่าวเป็นสิ่งที่ชาวมุสลิมทุกคนต้องยึดถือปฏิบัติ

รัฐบาลสหรัฐเรียกร้องรัฐบาลประเทศอาหรับเริ่มต้นสถาปนาความสัมพันธ์กับอิสราเอล ขณะเดียวกันขอให้อิสราเอลระงับการสร้างนิคมในเขตเวสต์แบงก์ เพื่อปูทางไปสู่การเจรจาสันติภาพอิสราเอล-ปาเลสไตน์ที่ชะงักงันมาตั้งแต่เดือนธันวาคม รัฐบาลอาหรับหลายประเทศแสดงท่าทีว่า จะพิจารณาเรื่องนี้ต่อเมื่ออิสราเอลยุติการสร้างนิคมอย่างสิ้นเชิงเท่านั้น ปัจจุบันมีเพียงอียิปต์และจอร์แดนเป็นสองประเทศในตะวันออกกลางที่ลงนามสนธิสัญญาสันติภาพกับอิสราเอล.-สำนักข่าวไทย

2009-09-13 18:19:14

เกาหลีใต้ไม่แสดงความเห็นเรื่องเกาหลีเหนือจะทดลองนิวเคลียร์อีก​

​

โซล 13 ก.ย.- เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ไม่แสดงความเห็นต่อข่าวที่ว่า นายคิม จองอิล ผู้นำเกาหลีเหนือ จะทดลองนิวเคลียร์ ครั้งที่ 3 เพื่อประท้วงที่สหประชาชาติดำเนินมาตรการลงโทษเกาหลีเหนือ

กระทรวงรวมชาติ และสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติของเกาหลีใต้ สองหน่วยงานที่ดูแลความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือไม่ให้ความเห็นต่อการที่ โอเพ่น เรดิโอ ออฟ นอร์ธ โคเรีย กลุ่มสิทธิในกรุงโซล ของเกาหลีใต้ อ้างแหล่งข่าวในเกาหลีเหนือเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า นายคิม แจ้งกองทัพและเจ้าหน้าที่พรรครัฐบาลเตรียมพร้อมสำหรับการทดลองนิวเคลียร์ครั้งใหม่ หลังจากที่ได้ทดลองไปเมื่อปี 2549 และเดือนพฤษภาคมปีนี้ ทำให้คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นออกมาตรการลงโทษ

กลุ่มโอเพ่น เรดิโอ ออฟ นอร์ธ โคเรีย เผยกับสถานีวิทยุพีบีซี ในกรุงโซลว่า นายคิม กล่าวระหว่างไปเยือนเมืองวอนซาน ทางฝั่งตะวันออก เมื่อวันที่ 26 สิงหาคมว่า จำเป็นต้องทดลองนิวเคลียร์ ครั้งที่ 3 เพื่อกระตุ้นให้สหรัฐเจรจาทวิภาคีกับเกาหลีเหนือ และเพื่อประท้วงที่ยูเอ็นลงโทษเกาหลีเหนือ การทดลองนิวเคลียร์ ครั้งที่ 3 น่าจะเป็นการทดลองยูเรเนียมเสริมสมรรถนะ ไม่ใช่พลูโตเนียมเสริมสมรรถนะเหมือน 2 ครั้งแรก คาดว่าจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 20 กันยายน-10 ตุลาคม เนื่องจากวันที่ 20 กันยายนเป็นวันสิ้นสุดมาตรการ 150 วัน กระตุ้นเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือ ส่วนวันที่ 10 ตุลาคม เป็นวันครบรอบก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ เพราะที่ผ่านมาเกาหลีเหนือมักเลือกทดลองนิวเคลียร์ในวันที่มีความหมายเชิงสัญลักษณ์.- สำนักข่าวไทย

2009-09-13 14:50:29

สหรัฐเตรียมฉีดวัคซีนหวัดใหญ่ 2009 ต.ค.นี้​

​

สหรัฐ 14 ก.ย. - รัฐมนตรีสาธารณสุขสหรัฐ เผยจะสามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ให้กับประชาชนได้เร็วกว่าที่คาดไว้

นางแคทเธอรีน เซเบเลียส รัฐมนตรีสาธารณสุขสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐอาจได้รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ล็อตแรกอย่างเร็วที่สุดในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนหน้า ซึ่งถือว่าเร็วกว่าที่คาดไว้หลายสัปดาห์ ซึ่งจะสามารถฉีดให้กับประชาชนได้หลังจากนั้นทันที คาดว่ากลุ่มแรกที่จะได้รับวัคซีนคือ เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์และบุคคลที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1

นางเซเบเลียสยังมั่นใจว่า วัคซีนชุดแรกที่สหรัฐจะได้รับจะยังสามารถยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคหวัดตามฤดูกาลที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ด้วย ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ในหลายประเทศเพิ่งออกมายืนยันว่า สามารถค้นพบวัคซีนที่สามารถป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จากการฉีดเพียงเข็มเดียว อีกทั้งยังป้องกันโรคได้ทันทีหลังฉีดวัคซีนเพียง 10 วัน. -สำนักข่าวไทย

2009-09-14 02:03:49

จีนอพยพคนแล้วกว่าล้านหลีกทางสร้างเขื่อนยักษ์​

​

ปักกิ่ง 13 ก.ย. – จีนอพยพประชาชนแล้วราว 1.27 ล้านคน เพื่อสนับสนุนโครงการก่อสร้างเขื่อนสามผา อันเป็นเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ที่สุดของโลก

นอกเหนือจากตัวเลขผู้อพยพ 1.27 ล้านคน จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทางการจีนยังประกาศจะบังคับอพยพคนอีก 1.4 ล้านคน จากพื้นที่จมน้ำหรือคาดว่าจะจมน้ำในบริเวณภาคกลางแต่ยังไม่ระบุกำหนดเวลาอพยพประชาชนที่เหลือ และว่าเมื่อปี 2550 ทางการได้ประกาศจะสนับสนุนให้ประชาชนอีกราว 4 ล้านคน อพยพจากพื้นที่โครงการภายในปี 2563 แต่ย้ำว่าการอพยพไม่เกี่ยวข้องกับโครงการเขื่อน

แผนอพยพประชาชนในการก่อสร้างเขื่อนที่ผ่านมาเต็มไปด้วยเรื่องอื้อฉาวทั้งปัญหาการทุจริต ตามที่คาดว่ามีการยักยอกเงินระหว่างปี 2547-2548 ไม่น้อยกว่า 37 ล้านดอลลาร์ (กว่า 1,250 ล้านบาท) รวมทั้งปัญหาผู้อพยพไม่ได้รับการฝึกงานและค่าย้ายถิ่นตามที่สัญญาไว้ อนึ่ง เขื่อนสามผาที่มณฑลหูเป่ยมีความกว้าง 2,309 เมตร และสูง 185 เมตร ปัจจุบันเขื่อนเริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าแล้วและคาดว่าจะเริ่มการผลิตเต็มกำลังได้อย่างเร็วภายในปีนี้.-สำนักข่าวไทย

2009-09-13 12:34:43

ที่มา http://news.mcot.net

 

น้ำป่าทะลักท่วม 4 อำเภอศรีสะเกษ​

​

ศรีสะเกษ 15 ก.ย. - สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดศรีสะเกษ ยังน่าเป็นห่วง ล่าสุดน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ ชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายสิ่งของไปอยู่ที่ปลอดภัย

น้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรักไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ทำการเกษตร เขตอำเภอขุขันธ์ ปรางค์กู่ วังหิน และอุทุมพรพิสัย บ้านเรือนชาวบ้านถูกน้ำท่วมเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 5,000 คน โรงเรียนถูกน้ำท่วมจนต้องสั่งปิด 3 แห่ง คือ โรงเรียนทุ่งสิมวิทยาคม โรงเรียนบ้านโปร่งสามัคคี และโรงเรียนบ้านโคก

นอกจากนี้ น้ำยังพัดถนนขาด 18 สาย โดยเฉพาะถนนโชคชัย-เด่นอุดม น้ำท่วมสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ. -สำนักข่าวไทย

2009-09-15 02:01:55

ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษห่วงผู้ประสบภัยน้ำท่วมเร่งนำสิ่งของช่วยเหลือ​

​

ศรีสะเกษ 14 ก.ย.- นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ลงพื้นที่ ต.โคกจาน อ.อุทุมพรพิสัย ซึ่งเป็น 1 ใน 5 อำเภอประสบภัยน้ำท่วมจากฝนตกหนักมาหลายวัน พร้อมนำเครื่องอุปโภคบริโภคมาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่ราษฎร และฟังสรุปความเสียหายเบื้องต้นจากนายอำเภอ ซึ่งมีผู้เดือดร้อน 10 หมู่บ้าน 1,040 ครัวเรือน 5,315 ราย ถนนเสียหาย 18 สาย สถานที่ราชการ-โรงเรียนปิด 6 แห่ง รวมถึงพื้นเกษตรกรรม

นอกจากนี้ ยังเตือนประชาชนในพื้นที่ให้เตรียมรับมือจากฝนตกหนักในระยะนี้ เพราะอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน หากเห็นว่าระดับน้ำขึ้นสูงมากให้รีบขนย้ายทรัพย์สินไปอยู่ที่ปลอดภัยไว้ล่วงหน้า ส่วน อ.ปรางค์กู่ หน่วยกู้ภัย อปพร.ศรีสะเกษ ส่งชุดประดาน้ำช่วยชาวบ้านหมู่ 19 ต.หนองเชียงทูน ค้นหานายสาคร ก่อสิน อายุ 21 ปี จมน้ำหายไปในฝายบ้านฮ่องระกำ ท่ามกลางกระแสน้ำไหลเชี่ยว เมื่อเช้าที่ผ่านมา (14 ก.ย.) หลังจากนายสาคร นั่งดื่มสุรากับเพื่อน 4 คน แล้วลงเล่นน้ำหายไป ล่าสุด (12.00 น.) ยังไม่พบตัว คาดว่าเสียชีวิตแล้ว.-สำนักข่าวไทย

2009-09-14 14:04:28

แม่น้ำมูลล้นตลิ่งท่วมบ้านริมสองฝั่งแม่น้ำกว่า 60 หลัง​

​

อุบลราชธานี 14 ก.ย.-ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.อุบลราชธานี ว่า หลังมีฝนตกและน้ำเหนือไหลมาบรรจบ ทำให้ระดับน้ำแม่น้ำมูลที่สะพานเสรีประชาธิปไตย เริ่มล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่ปลูกอยู่สองฝั่งแม่น้ำในเขต อ.เมือง และ อ.วารินชำราบ

โดยเฉพาะบริเวณชุมชนหาดสวนสุขและหาดสวนยา ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 60 หลังคาเรือน โดยประชาชนประมาณ 10 ครอบครัว ได้อพยพหนีน้ำท่วม มาสร้างเพิงพักชั่วคราวรอบชุมชนเกตุแก้ว ถ.สถลมารค ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ ด้านสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯ ได้เตรียมความพร้อมย้ายอุปกรณ์การเรียน รวมทั้งจะพิจารณาเลื่อนการสอนหรือการสอบกลางปีในกรณีเกิดน้ำท่วมด้วย.-สำนักข่าวไทย

2009-09-14 16:26:38

ลำปางฝนตกชุกเฝ้าระวัง อ.เมืองปาน เสี่ยงน้ำป่า​

​

ลำปาง 14 ก.ย.- นายอุดม จันตาใหม่ นายอำเภอเมืองปาน จ.ลำปาง เปิดเผยว่า ระยะนี้มีฝนตกหนักในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวัดได้ 73 มิลลิเมตร ซึ่งสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปางระบุว่า เป็นปริมาณฝนที่ตกลงมาสูงสุดใน จ.ลำปาง และภาคเหนือตอนบน

จึงประสานให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งเตือนราษฎรในพื้นที่เสี่ยงบริเวณเชิงเขาและริมฝั่งน้ำติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพราะอาจล้นตลิ่งฉับพลัน เนื่องจาก อ.เมืองปาน เคยประสบภัยธรรมชาติน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมมาแล้วทุกปี เนื่องจากมีแหล่งต้นน้ำหลายแห่งบนเขาและเป็นต้นน้ำของน้ำตกแจ้ซ้อน เมื่อมีฝนตกติดต่อกันหลายวัน จึงจะต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด อีกทั้งสภาพอากาศในวันนี้ยังมีฝนฟ้าคะนองกระจายกว่าร้อยละ 60

ส่วน จ.ศรีสะเกษ ค้นหาร่างนายสาคร ก่อศิลป์ อายุ 21 ปี ที่สูญหายไปในลำห้วยในพื้นที่หมู่ 19 ต.หนองเชียงทูน อ.ปรางค์กู่ ขณะตั้งวงดื่มสุรากับเพื่อนและลงเล่นน้ำจมหายไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ อพปร.ระดมชุดประดาน้ำจากพื้นที่ใกล้เคียงช่วยกันค้นหา แม้ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวมาก แต่ล่าสุดพบศพนายสาคร แล้ว โดยลอยไปติดอยู่กับรากของต้นยูคาลิปตัส ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร.-สำนักข่าวไทย

2009-09-14 16:53:49

พิจิตรเตือนภัยน้ำป่า-ดินโคลนถล่ม 4 อำเภอ หลังฝนตกหนัก​

ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

​

พิจิตร 14 ก.ย.-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น.ที่ผ่านมา ได้เกิดลมพายุพัดกระโชกอย่างรุนแรง และมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ในหลายอำเภอของ จ.พิจิตร ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังถนนสายต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองพิจิตร รวมทั้งสถานที่ราชการหลายแห่ง โดยเฉพาะที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิจิตร มีน้ำท่วมขังระดับน้ำสูง 20-40 ซม. สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนที่มาติดต่อราชการอย่างมาก

ล่าสุด นายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ออกประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะใน อ.สากเหล็ก อ.วังทรายพูน อ.ทับคล้อ และ อ.ดงเจริญ ซึ่งอยู่ติดกับเทือกเขาเพชรบูรณ์ ให้ระมัดระวังอันตรายจากอุทกภัยน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มในระยะนี้ เนื่องจากมีฝนตกสะสมบนเทือกเขา อาจทำให้น้ำป่าบนภูขาไหลหลากลงมาสู่พื้นที่ลุ่มต่ำ รวมทั้งให้ติดตามพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดด้วย.-สำนักข่าวไทย

2009-09-14 18:15:04

ปภ.น่านยังเฝ้าระวังบ้านห้วยมอญหวั่นน้ำป่าทะลักอีกรอบ​

​

น่าน 14 ก.ย.- นายธวัช เพชรวีระ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน ยังคงกำชับหน่วยงานท้องถิ่นและมิสเตอร์เตือนภัยเฝ้าระวังหมู่บ้านห้วยมอญ ม.8 ต.เรือง อ.เมือง ไว้ตลอด 24 ชั่วโมง และห้ามเด็กเล็กลงเล่นน้ำในระยะนี้อย่างเด็ดขาด

เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำสาขาเพิ่มสูงและไหลเชี่ยว อีกทั้งสภาพอากาศยังมืดครึ้มด้วยเมฆฝน อาจมีฝนตกหนักอีกระลอก หลังจากเมื่อเย็นวานนี้ (13 ก.ย.) เกิดน้ำป่าทะลักอย่างรวดเร็วจนชาวบ้านตั้งตัวไม่ทันถูกน้ำท่วมบ้านเรือน 128 หลังคาเรือน และพัดสะพานขาดอย่างไรก็ตาม ขณะนี้ระดับน้ำลดลงคืนสู่ภาวะปกติแล้ว และให้ อบต.เรือง เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือเบื้องต้น.-สำนักข่าวไทย

2009-09-14 10:27:41

ที่มา http://news.mcot.net

 

ข่าวสารจากจิตจักรวาล​

​

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ดูท่านอยู่นะครับ<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2428512", true); </SCRIPT> สมาชิก

(รายงานสรุปการบรรยาย ของ อ.ปริญญา ตันสกุล “ตุลาอาถรรพ์ วันมหาสงคราม เจ้ากรรมนายเวร” ในวันพุธที่ 12 สิงหาคม 2552 ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 6 ตึกทองบริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ถ.พระราม 3 กรุงเทพฯ)

ประมาณปี 2012 กรุงเทพฯ น้ำท่วม 3 เดือน

ปี 2015 ด้ามขวานหัก กม. ที่ 346 ประมาณ ตี 2

ปี 2018 จะมีเขื่อนในไทยแตกเป็นแห่งแรกทางภาคใต้<!-- google_ad_section_end -->

ปี 2012 พายุใหญ่ที่จะเข้ากรุงเทพฯ จะคล้ายๆ พายุนากิสของพม่าจะเข้าที่อ่าวไทย เริ่มจากชลบุรีเรื่อยมา เข้่าแม่น้ำเจ้าพระยา สะพานแขวนอาจขาด จะมีคนตายประมาณ 9 หมื่นคน ที่เหลือจะถูกช่วยเหลือโดย เฮริคอปเตอร์เท่านั้น ดูแผนที่สีแดงเอาเองครับ

เศรษฐกิจจะได้รับพิษจากทางสหรัฐอีกรอบ คราวนี้รุนแรงมากกว่าทุกครั้ง จากแค่คนๆ เดียวเท่านั้นสามารถทำให้ทั้งโลกมีปัญหา น่าจะเกี่ยวกับระบบธนาคารครับ หมายถึงคนที่เป็นผู้นำเกี่ยวกับการเงินละครับประมาณปี 2012 นี้ละครับ<!-- google_ad_section_end -->

ตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นไป ทั้งโลกจะเจอกับภัยธรรมชาติทุกรูปแบบ แต่ละประเทศก็จะเจอแบบหนักๆกันทั้งนั้น จนไม่มีเวลามาช่วยคนอื่นอีกต่อไป ให้พยามคิดถึงความดีงามของตนเองและผู้อื่นเข้าไว้ คิดให้มากๆ ใครจะชั่วจะเลวยังไงปล่อยเขา ให้เรานึกถึงแต่ความดีงามของตัวเองและคนอื่นตลอด โดยเฉพาะเวลานั่งสมาธิ ไม่ต้องไปนึกไปภาวนาอะไร ให้นึกถึงความดีงามที่บอกนี้อย่างเดี่ยว คำภาวนาใดๆจะไม่สามารถช่วยได้เลยครับ นึกถึงพระอาทิตย์ดวงใหญ่ สื่อจิตถึงสิ่งที่ดีงามเข้าไว้ครับ

จาก 1 ตุลาคม 2009 ถึง 31 ตุลาคม 2012 เห็นการณ์วุ่นๆทางการเมืองของเมืองไทย จะมีเห็นการณ์ที่จะเล่าขานไปอีกนานครับ ผมไม่สามารถนำมาพิมพ์ให้อ่านได้ครบครับ อาจารย์บอกไว้ทุกอย่างล่ะครับ ทุกสีที่ออกมาอยู่นี้ ล้วนเกิดจากบุคคลเก่าๆ ของเมืองไทยและศัตรูเก่ากันทั้งนั้นแหละครับ ส่วนคนที่ออกมาสนับสนุน ก็ล้วนเป็นกองกำลังเก่าของเขาทั้งนั้นครับ พอมาภพชาตินี้ก็ละวางความโกรธแค้นไม่ได้ ก็เลยยิ่งแค้นกันไปใหญ่ สุดท้ายก็หยุดที่ความตาย จองจำ ตัดคอให้ตายไปข้างหนึ่งถึงจะหยุดกันครับ จงภาวนาให้พวกเขาหยุดกันเถิด

3 อ. ที่กล่าวไว้ข้างต้น อารมณ์ อาวุธ อามิสสินจ้าง

สีแดง คือสีแห่ง......
สีเหลือง คือ สีแห่ง.....
น้ำเงิน คือ.............

ตัวละครต่างๆ ท่านก็ลองวิเคราะห์กันเองนะครับ ผมคงให้รายละเอียดมากกว่านี้ไม่ได้ครับ แต่ขอภาวนาให้พวกเขารู้จักการให้อภัย ลดความแค้นลง<!-- google_ad_section_end -->

ช่วง 11- 31 ตุลาคม 2552 จะหนักอีกรอบ อาจจะมีท็อปบูชออกมา ช่วง 11 ธันวาคม 2552 ถึง 18 มกราคม 2553 จะเป็นยกที่ 2 ยกนี้ต้องจบเพราะจักรวาลจะไม่ยอมให้ทำลายประเทศไปมากกว่านี้ เพราะปี 2011 จะต้องเจอภัยที่หนักยิ่งขึ้น เลข 11 จักรวาลถือว่าอันตรายสุดๆ<!-- google_ad_section_end -->

สำหรับปีนี้หน้าหนาวประมาณ พฤศจิกายน 2009 ไทยจะมีเชื้อโรคใหม่ที่รุกรามมาจากทางมาเลเชีย ตายภายใน 24 ชั่วโมง ถ้าจะรอดอย่าเป็นคนขี้ใจน้อย อย่าโมโห อย่าแค้น เพราะเชื้อโรคจะกินเม็ดเลือดแดงเป็นหลัก ใครมีเยอะก็จะโดนก่อน ทันที<!-- google_ad_section_end -->

ส่วนท่านใดที่ต้องการฟังแบบละเอียดให้ซื้อ วีซีดี ชุด ตุลาอาถรรณ์ วันมหาสงคราม เจ้ากรรมนายเวร มาดูนะครับ โทร ติดต่อที่ 025123176 หรือ 025113260 ชมรมจิตจักรวาลครับ<!-- google_ad_section_end -->

ที่มา http://palungjit.org/threads/วันสิ้นยุคเป็นปี-2030-56วัน7ราตรีจะเกิดในช่วงนี้2012-2015-2018-เกิดอะไรหน้า14-แจ้งข่าวไม่ใช้พยากรณ์.117174/page-15

 

วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2552 เวลา 16:22 น. ข่าวสดออนไลน์


ลิงแสมหิวโซบุกร.ร.กรุงเก่าแยกเขี้ยวขู่นร.กระเจิง

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 15 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยอยุธยารวมใจ ว่ามีลิงแสมบุกเข้าไปในโรงเรียนยอแซฟอยุธยา เลขที่ 30 11 ม. ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จะทำร้ายนักเรียน จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบลิงแสมป่า เพศผู้ ขนาดใหญ่ น้ำหนักประมาณ 10 ก.ก.นั่งอยู่บนหลังคาโรงอาหารความสูงประมาณ 5 เมตร มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงเรียนยืนสังเกตการณ์ และพยายามกันเด็กนักเรียนที่อยู่ระหว่างพักกลางวันไม่ให้เข้าใกล้ลิง อาจารย์ต้องช่วยกันพาเด็กนักเรียนเข้าอยู่ในโรงอาหารเพื่อรับประทานอาหารท่ามกลางความโกลาหลเพราะเด็กนักเรียนบางส่วนจะพยายามจะดูลิงแสม เมื่อลิงแสมเห็นนักเรียนจำนวนมาก จึงกระโดดปีนป่ายขึ้นต้นไม้พร้อมกับแยกเขี้ยวขู่ทำให้นักเรียนแตกตื่น ทางโรงเรียนต้องใช้เครื่องขยายเสียงประกาศให้นักเรียนทั้งหมดกลับเข้าห้องเรียนทันที เกรงว่าลิงจะทำร้ายเด็กนักเรียนได้

นายทองสุข เครือฟอง อายุ48ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กล่าวว่าเมื่อช่วงเย็นวานพบเห็นลิงตัวดังกล่าวมาอยู่ที่บริเวณโบสถ์นักบุญยอแซฟที่อยู่ติดกับโรงเรียน กระทั่งวันนี้จึงเห็นว่าเจ้าลิงแสมได้บุกเข้ามาภายในโรงเรียน และเป็นช่วงจังหวะนักเรียนกำลังลงมาจากอาคารเรียนส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว ทำให้ลิงแสมตกใจวิ่งจะเข้าทำร้ายเด็กนักเรียน คาดว่าลิงตัวดังกล่าวน่าจะหลุดมาจากวัดบริเวณใกล้เคียงกับโรงเรียน ดูลักษณะท่าทางน่าจะหิวโหย คาดว่าคงจะมาหาอาหารกิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพยายามที่จะปีนขึ้นไปจับลิง แต่กลับถูกลิงไล่กัดลงจากต้นไม้แทบไม่ทัน เจ้าลิงแสมยังปีนป่ายต้นไปภายโรงเรียนไปทั่วบริเวณโดยมีเจ้าหน้าที่คอยติดตามใกล้ชิด ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ใช้ยาสลบผสมในแอปเปิ้ลให้ลิงกินเพื่อให้สลบและจับกุมแต่ปรากฎว่าลิงไม่สลบจึงต้องปล่อยไปตามธรรมชาติ

เผยฟาร์มปลาไฮเทค "อควาพ็อด"ลดมลพิษทะเล



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>เว็บไซต์ข่าวเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก รายงานว่า นักวิจัยสถาบันเอ็มไอทีและบริษัทเอกชนในสหรัฐอเมริกา จับมือสร้างต้นแบบฟาร์มเลี้ยงปลาไฮเทค "อควาพ็อด" ช่วยลดปัญหามลพิษจากการเลี้ยงสัตว์ทะเลตามริมชายฝั่ง และได้ปลาที่มีคุณภาพ สะอาด ปราศจากโรค

คลิฟ กอดี้ ผู้อำนวยการศูนย์วิศวกรรมสัตว์น้ำนอกชายฝั่ง สถาบันเทคโนโลยีรัฐแมสซาชูเส็ตต์ (เอ็มไอที) และบริษัท โอเชียนฟาร์มเทคโนโลยี รัฐเมน ร่วมกันพัฒนาต้นแบบ อควาพ็อด ซึ่งมีลักษณะเหมือนกรง หรือกระชังเลี้ยงปลาทรงกลม แต่มีขนาดใหญ่กว่ามาก โครงสร้างหลักทำจากไวนิลและเหล็ก มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 8-28 เมตร และกระชังส่วนที่อยู่ใต้น้ำยังมีมอเตอร์คอยควบคุมทิศทางการขับเคลื่อนของกระชัง

กอดี้ กล่าวว่า อควาพ็อดช่วยให้ธุรกิจประมงลากปลาไปเลี้ยงในเขตน้ำลึกที่มีแหล่งอาหารดีกว่าและเปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อยๆ ตามความเหมาะสมเหมือนฝูงปลาตามธรรมชาติ ขณะเดียวกัน การระบายถ่าย เทของเสียออกจากกระชังก็ดีกว่าฟาร์มเลี้ยงปลาเขตน้ำตื้น เพราะเกิดโรคระบาดยากกว่า อีกทั้งปลาในกระชังไฮเทคยังมีโอกาสแหวกว่ายในน้ำเหมือนปลาจริงๆ ทั้งหมดนี้ช่วยให้ปลาแข็งแรง แพร่พันธุ์ได้ดี เมื่อนำมาบริโภครสชาติย่อมดีกว่าปลาเลี้ยงตามกรรมวิธีปกติ

วิธีใช้งานอควาพ็อด เรือประมงจะทำหน้าที่ลากกระชังรุ่นนี้ ซึ่งติดระบบบอกพิกัดจีพีเอสเข้าไปสู่เขตทะเลเปิด หรือเขตน้ำลึก แต่ตัวกระชังเคลื่อนตัวไปตามทิศทางต่างๆ โดยอิสระผ่านการควบคุมด้วยระบบรีโมตคอนโทรลบนตัวเรือ ส่วนแหล่งพลังงานกำลังอยู่ในขั้นตอนศึกษาว่าระหว่างดึงพลังงานจากแสงอาทิตย์ พลังงานคลื่น รวมถึงพลังงานทางเลือกอื่นๆ อย่างไหนจะมีประสิทธิภาพสูงสุด

โลก"พัง"ด้วยมือเรา

หมุนก่อนโลก

วิทยา ผาสุก wittayapasuk.wordpress.com



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>แค่มองไปรอบๆ ตัวเราให้ละเอียดสักหน่อย

เชื่อว่าทุกท่านคงเห็นความเปลี่ยนแปลงทางระบบนิเวศ-สภาพแวดล้อมไม่มากก็น้อย

โดยเฉพาะความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากวิกฤต "โลกร้อน" ด้วยฝีมือมนุษย์

เกี่ยวกับประเด็นนี้ "คณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ" (ไอพีซีซี) ซึ่งเป็นองค์กรภายใต้ร่มธงสหประชาชาติ เคยเผยแพร่รายงานนำข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาประเมินสถานการณ์ในอนาคตไว้เรียบร้อย

ขอยกตัวอย่างไล่เรียงฉายภาพไปเรื่อยๆ คราวละประมาณ 10 ปี หรือ 1 ทศวรรษ

เริ่มจากปี ค.ศ.2020 (พ.ศ.2563) : ทวีปยุโรปเผชิญภัยน้ำท่วมเฉียบพลันบ่อยขึ้น

ฝนจะตกน้อยลง ทำให้ผลผลิตการเกษตรในบางภูมิภาคของโลกเราลดฮวบหายไปถึง 50 เปอร์เซ็นต์

ปี ค.ศ.2030 (พ.ศ.2573) : สภาพบรรยากาศ-อุณหภูมิโลกเปลี่ยนแปลงและความผันผวนทางธรรมชาติอื่นๆ ส่งผลให้แนวปะการังกว่า 18 เปอร์เซ็นต์ ทั่วโลกสาบสูญ

ปี ค.ศ.2040 (พ.ศ.2583) : ธารน้ำแข็งในเขตทะเลอาร์กติก ขั้วโลกเหนือ ช่วงฤดูร้อนจะหายเกลี้ยงไม่เหลือหลอ

เมื่อถึงฤดูหนาว ปริมาณน้ำแข็งจะลดหายไปจนน่าวิตก

ปีค.ศ.2050 (พ.ศ.2593) : ธารน้ำแข็งขนาดเล็กบนเทือกเขาอัลไพน์จะสาบสูญ ส่วนขนาดใหญ่จะมีขนาดหดเล็กลงจากปัจจุบัน 30-70 เปอร์เซ็นต์

สภาพอากาศในทวีปเดียวกันจะแตกต่างกันสุดขั้ว เช่น แถบเอเชียตะวันออก-ตะวันออกเฉียงใต้ ปลูกพืชพันธุ์ได้ผลผลิตดี แต่ในแถบเอเชียกลาง-ใต้ ผลผลิตจะติดลบ

ปี ค.ศ.2070 (พ.ศ.2613) : น้ำแข็งขั้วโลกลดน้อยถอยลงทุกขณะ โดยมีภาวะแห้งแล้งเข้าแทนที่

การผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำในยุโรปและเขตเมดิเตอร์เรเนียน ประสบความยากลำบาก

ปี ค.ศ.2100 (พ.ศ.2643) : ภาวะโลกร้อนบวกปัจจัยตกต่ำด้านสิ่งแวดล้อมอาจเดินมาถึงจุดตกต่ำสุดๆ ทำให้ระบบนิเวศบางพื้นที่ของโลกปรับตัวให้สอดรับกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงต่อไปอีกไม่ไหว, ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ต้นตอโลกร้อนที่สะสมในชั้นบรรยากาศจะทะลุจุดแตก พุ่งสูงสุดในรอบ 6.5 แสนปี

และสายพันธุ์สิ่งมีชีวิตในโลก 25-30 เปอร์เซ็นต์ อาจจะต้องสูญพันธุ์!?!

มรณภาพ



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>ศิษยานุศิษย์ นำสรีระร่างหลวงปู่กาหลง เตชะวัณโณ มาบำเพ็ญกุศลที่วัดเขาแหลม อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว หลังมรณภาพด้วยอาการสงบที่ร.พ.เปาโล กทม. โดยจะสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 100 วัน เพื่อรอพระราชทานเพลิงต่อไป เมื่อวันที่ 14 ก.ย.

 

*** เหนือโลก ****

เมื่อศาสนาพระโคดม เหมือนไฟแดงฉานร้อนรน...
โลกุตตระธรรมปรากฏ....ตามผู้ทำได้ให้กลับมาทำ
สัจจะทำพระพุทธเจ้า...ทำคนให้เป็นพระอรหันต์

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

มีผู้เสียชีวิตเกือบ 40 คนจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันในอินโดนีเซีย​

​

จาการ์ตา 15 ก.ย.-โฆษกสำนักงานรัฐบาลท้องถิ่นอินโดนีเซีย แถลงว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 38 คนจากน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นในพื้นที่ห่างไกลของจังหวัดสุมาตราเหนือของอินโดนีเซียวันนี้

เจ้าหน้าที่อินโดนีเซีย กล่าวว่า ข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานเขตท้องถิ่นระบุว่า ล่าสุดพบศพ 38 ศพจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันเมื่อเช้ามืดวันนี้ในเขตแมนเดลิง นาทาล บริเวณชายฝั่งห่างไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเมดานราว 275 กิโลเมตร ภารกิจสำคัญในเวลานี้คือการช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันในหมู่บ้าน 6 แห่ง ที่มีชาวบ้านราว 2,200 คน กระแสน้ำทำให้ต้นไม้หักโค่น และบ้านเรือนพังเสียหาย การให้ความช่วยเหลือมีอุปสรรคเนื่องจากสะพานเข้าหมู่บ้านพัง จึงทำให้ต้องใช้เรือเร็วช่วยกู้ภัย แต่เนื่องจากสภาพอากาศไม่ดี การช่วยเหลือจึงเป็นไปอย่างยากลำบาก.-สำนักข่าวไทย

2009-09-15 18:04:45

ไต้ฝุ่นคอปปุถล่มทางตอนใต้ของจีน​

​

จีน 15 ก.ย. - ไต้ฝุ่นคอปปุเคลื่อนเข้าถล่มทางตอนใต้ของจีนแล้ว หลังทำให้มีผู้บาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหายบนเกาะฮ่องกง

ไต้ฝุ่นคอปปุเคลื่อนเข้าถล่มมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีนแล้ว ด้วยกำลังลมถึง 126 กม./ชม. ความรุนแรงของไต้ฝุ่นคอปปุ ส่งผลให้โรงเรียนหลายแห่งในเมืองเสิ่นเจิ้นต้องหยุดการเรียนการสอน

ที่มณฑลไห่หนาน เรือประมงกว่า 26,000 ลำ ต้องรีบกลับเข้าฝั่ง รวมทั้งมีการอพยพคนงานนับร้อยคนที่กำลังขุดเจาะน้ำมันอยู่นอกชายฝั่งไปยังพื้นที่ปลอดภัย คาดว่าไต้ฝุ่นคอปปุจะเคลื่อนตัวต่อไปทางเหนือ และจะทำให้มีฝนตกหนักในช่วง 2 วันนี้

ส่วนที่ฮ่องกง ความรุนแรงของไต้ฝุ่นคอปปุ ยังผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้วอย่างน้อย 28 คน แต่อาการไม่สาหัส พื้นที่หลายแห่งมีน้ำท่วมขัง. - สำนักข่าวไทย

2009-09-15 15:13:54

อัล-กออิดะห์โซมาเลียขู่แก้แค้นสหรัฐ ที่สังหารผู้นำคนสำคัญ​

​

โมกาดิชู 15 ก.ย.-กลุ่มนักรบมุสลิมสุดโต่งในโซมาเลีย ให้คำมั่นจะแก้แค้นให้กับผู้นำเครือข่ายอัล-กออิดะห์คนสำคัญที่ถูกทหารสหรัฐ สังหารทางใต้ของโซมาเลีย

ผู้นำระดับสูงของกลุ่มเชบับ ขบวนการของกลุ่มสุดโต่งซึ่งคาดว่าเกี่ยวข้องกับอัล-กออิดะห์ กล่าวกับสำนักข่าวต่างประเทศว่า มุสลิมจะตอบโต้ต่อการโจมตีที่ยั่วยุ สหรัฐคือศัตรูของอิสลามซึ่งจะไม่มีทางให้ความปราณี

คำประกาศของกลุ่มสุดโต่งในโซมาเลียมีขึ้นหลังจากมีรายงานทหารสหรัฐสังหาร นายซาเลห์ อาลี ซาเลห์ นาบัน ชาวเคนยาเมื่อวันจันทร์ที่ภาคใต้ของโซมาเลีย สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ (เอฟบีไอ) ต้องการตัวนายนาบัน ด้วยเชื่อว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีโรงแรมและเครื่องบินโดยสารของอิสราเอลที่เมืองมอมบาซา ประเทศเคนยา ในปี 2545 ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย

2009-09-15 16:42:15

กลาโหมสหรัฐหนุนขายจรวดแพทริออตให้ตุรกีเพื่อป้องกันอิหร่านโจมตี​

​

วอชิงตัน 15 ก.ย.-กระทรวงกลาโหมสหรัฐแจ้งต่อรัฐสภาว่า พร้อมขายระบบจรวดแพทริออตมูลค่า 7,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่ตุรกี เพื่อเพิ่มความสามารถในการป้องกันตนเองของตุรกี ซึ่งเป็นสมาชิกขององค์การนาโตเพียงชาติเดียวที่มีชายแดนติดอิหร่าน

ทบวงความร่วมมือความมั่นคงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐเสนอเอกสารถึงรัฐสภา ระบุว่าระบบที่จะขายให้ตุรกีประกอบด้วยหน่วยยิง 13 หน่วย จรวดแพทริออตรุ่นแพค-3 จำนวน 72 ลูก และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ทบวงแห่งนี้ระบุว่ามีความจำเป็นที่จะต้องขายระบบนี้ให้แก่ตุรกีเพื่อดำรงความเข้มแข็งและพร้อมป้องกันตนเองเพื่อนำไปสู่ดุลยภาพทางทหารในภูมิภาคนี้

คำชี้แจงต่อรัฐสภามีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดเพิ่มขึ้นระหว่างอิหร่านกับสหรัฐ ในกรณีอิหร่านมีโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โดยรัฐบาลวอชิงตันสงสัยว่าอิหร่านต้องการมีระเบิดนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง แต่อิหร่านปฏิเสธที่จะระงับการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม แม้ 5 ชาติมหาอำนาจในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเรียกร้องให้อิหร่านเลิกกระทำการดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

2009-09-15 16:01:30

กองทัพเกาหลีใต้หยุดซ้อมรบเพื่อไม่รบกวนการสอบของเด็ก​

​

โซล 15 ก.ย. – กองทัพเกาหลีใต้ ประกาศวันนี้ว่า จะระงับการซ้อมรบเสมือนจริง และกิจกรรมของอากาศยานส่วนใหญ่ลงชั่วขณะ ในช่วงที่เด็กนักเรียนหลายล้านคนสอบทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษในเดือนนี้

กองทัพเกาหลีใต้ แถลงว่า ทหารเกาหลีใต้ 655,000 นาย และทหารอเมริกัน 28,500 นาย จะพยายามลดเสียงลงในช่วงที่เด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และตอนปลาย จำนวนกว่า 3 ล้านคน เข้าสอบวัดทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษ ระหว่างวันที่ 23-25 ก.ย.นี้

คณะเสนาธิการทหารร่วม แถลงว่า กองทัพจะห้ามเครื่องบินทหารทั้งหมดขึ้นบิน หรือลงจอดวันละอย่างน้อย 20 นาที ในช่วงที่มีการสอบ ยกเว้นในกรณีฉุกเฉิน ส่วนเครื่องที่จำเป็นต้องขึ้นบินจะต้องบินที่ระดับความสูงอย่างน้อย 3 กม. ขณะที่การซ้อมรบทางภาคพื้นจะระงับลงชั่วขณะเพื่อไม่ให้เกิดเสียงดังรบกวนการสอบวัดทักษะการฟังของเด็กนักเรียน

เกาหลีใต้ ให้ความสำคัญกับการศึกษามาเป็นอันดับต้น ๆ และจะดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้การสอบของเด็กนักเรียนดำเนินไปอย่างราบรื่น โดยเฉพาะการสอบวัดความรู้เข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งจัดขึ้นประจำทุกปีในเดือน พ.ย. จะมีการเปลี่ยนแปลงตารางการเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วนเพื่อบรรเทาปัญหาจราจรติดขัด ทั้งยังมีการเลื่อนการลงจอดของเครื่องบินพลเรือนเพื่อลดเสียงรบกวน. -สำนักข่าวไทย

2009-09-15 13:50:22

อินโดนีเซียแจกอุปกรณ์อนามัยป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009​

​

จาการ์ตา 15 ก.ย.-เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซียกำลังแจกจ่ายชุดอุปกรณ์ป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช1 เอ็น1 ขณะที่ประชาชนหลายล้านคนเดินทางกลับบ้านเพื่อฉลองสิ้นสุดเทศกาลถือศีลอด

รัฐบาลอินโดนีเซียและองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติเริ่มแจกจ่ายชุดอนามัยแบบพกพา 50,000 ชุด ซึ่งประกอบด้วยเจลล้างมือ และกระดาษชำระ สำหรับผู้เดินทางกลับบ้านเพื่อฉลองเทศกาลวันหยุดอีดิ้ล ฟิตริ และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเอช1 เอ็น1ไม่ให้กระจายไปยังพื้นที่ห่างไกลอื่นๆ ทั้งนี้อินโดนีเซียมีรายงานผู้ติดเชื้อกว่า 1,000 คน และเสียชีวิต 10 คน นับตั้งแต่พบการระบาดในประเทศเมื่อเดือนมิถุนายน.-สำนักข่าวไทย

2009-09-15 19:42:09

ที่มา http://news.mcot.net

 

*** ธรณีวิทยา ****

เขาใหญ่

---สภาพภูมิประเทศ----

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้รับการการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไทยเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2505 มีเนื้อที่ทั้งสิ้นประมาณ 2,168 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 1,356,500 ไร่ ครอบคลุมเนื้อที่ 4 จังหวัด คือ สระบุรี นครราชสีมา ปราจีนบุรี และนครนายก

ลักษณะทั่วไปของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน มีระดับความสูงแตกต่างกัน ตั้งแต่ระดับความสูงใกล้ระดับน้ำทะเลตามแนวเขตอุทยานด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้จนถึงระดับความสูง 1,351เมตร จากระดับน้ำทะเล ในบริเวณตอนกลางของพื้นที่ ทางด้านทิศตะวันออก ภูมิประเทศมีลักษณะเป็นที่ลาดต่ำ ส่วนทางทิศเหนือความลาดชันน้อยจนถึงปานกลาง ทิศทางความลาดชันส่วนใหญ่มุ่งสู่ถนนมิตรภาพ ในขณะที่ทางทิศใต้และทิศตะวันตกมีลักษณะเป็นภูเขาสูงชันโดดเด่นขึ้นมาจากที่ราบ ซึ่งใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตรนอกเขตอุทยานฯ ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือมีลักษณะคล้ายเป็นกำแพงภูเขาตามแนวเขตอุทยานฯ จึงเรียกว่า เขากำแพง และเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาพนมดงรัก โดยมียอดเขาที่สำคัญอยู่ 6 ยอดด้วยกัน คือ เขาแหลม (1,326 เมตร) บริเวณทิศเหนือ เขาร่ม (1,351 เมตร) และเขาเขียว (1,292 เมตร) บริเวณตอนกลางเขากำแพง (875 เมตร) บริเวณทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และเขาสามยอด (1,142 เมตร) กับเขาฟ้าผ่า (1,078 เมตร) บริเวณทิศตะวันตกเฉียงเหนือของอุทยานฯ

--- ธรณีวิทยา ----

โครงสร้างทางธรณีวิทยาของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นับว่าเก่าแก่มากแห่งหนึ่งของประเทศ การสร้างตัวทางธรณีวิทยาเป็นหลมาจากวัฏจักรของการทับถมของตะกอน การยกตัวของเปลือกโลกและการกัดเซาะพังทลายของดินและหิน สลับกับการระเบิดของภูเขาไฟในยุคพาลีโอโซอิค (Palaeozoic) หรือประมาณ 300-400 ล้านปีมาแล้ว หินที่เป็นรากฐานพบว่า เป็นหินชุดโคราช ชุดกาญจนบุรี และชุดราชบุรี ซึ่งมีทั่งหินปูน หินทราย หินดินดาน และหินไดโอไรท์

ในยุคพาลีโอโซอิค พื้นที่บริเวณเขาใหญ่ได้รับการทับถมของตะกอนขนาดหนัก ตะกอนเหล่านี้ถูกพัดพามาตามลำน้ำ แล้วไปทับถมตามบริเวณที่ราบชายฝั่งจนมีความสูงถึง 3,000 เมตร ซึ่งเป็นจุดเริ่มแรกของการเกิดชุดกาญจนบุรี และนับว่าเป็นหินชั้นล่างสุดของหินที่ปรากฏในพื้นที่เขาใหญ่ เมื่อพื้นที่รอบๆหยุดการผลิตตะกอน การชะล้างพังทลายในบริเวณนี้ก็เกิดขึ้นแทน ควบคู่ไปกับการยกตัวของเปลือกโลก ทำให้น้ำทะเลซึ่งมีอยู่ในบริเวณนี้ไหลไปสู่จุดอื่นพร้อมกับการชะล้างพังทลายแบบรุนแรงอีกด้วย ต่อมาภายหลังน้ำทะเลท่วมถึงพื้นที่อีก การพัดพาตะกอนมาทับถมก็ตามมาอีกครั้งหนึ่ง น้ำทะเลบริเวณนี้มีอุณหภูมิค่อนข้างสูง ระดับน้ำไม่ลึกและคล้ายคลึงกับบริเวณอ่าวไทย ตลอดจนมีทัศนียภาพใกล้เคียงพัทยาในปัจจุบัน หินปูนและหินดินดานเริ่มทับถมอยู่ตอนบนของหินกาญจนบุรีและถูกเรียกชื่อใหม่ว่า เป็นหินชุดราชบุรี ซึ่งสังเกตได้จากการมีซากสิ่งมีชีวิตทางทะเลผสมอยู่ในเนื้อหินซึ่งมีอายุประมาณ 250 ล้านปี ที่เรียกกันว่า เปอร์เมียน (Permian) ในพื้นทีบางแห่งพบว่าตะกอนที่ทับถมเป็นหินราชบุรีนี้มีความสูงถึง 2,300 เมตร

ต่อมาของเหลวที่สะสมอยู่ใต้เปลือกโลกมีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงซึ่งนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งต่างๆที่ผิวโลก สสารขนาดใหญ่มีความแข็งและผิวหยาบ โผล่ออกมาจากพื้นผิวของชั้นตะกอนตอนบน ทำให้พื้นผิวมีการม้วนตัวบิดเบี้ยวและแตกเป็นร่อง หินดินดานถูกเปลี่ยนไปเป็นหินชนวนและฟิลไลท์ หินทรายเป็นควอทไซต์ และหินปูนชุดราชบุรีกลายเป็นหินอ่อน หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า หินอ่อนสระบุรีนั่นเอง

เมื่อทุกอย่างสงบลง การชะล้างพังทลายก็เข้ามาแทนที่อีกครั้งหนึ่ง โดยที่เปลือกโลกในส่วนที่มีการม้วนตัวถูกทำลายลง ภูมิอากาศเริ่มเปลี่ยนแปลง พื้นที่บนที่ราบสูงกลายเป็นเขตกึ่งแห้งแล้ง มีลักษณะคล้ายเขตแห้งแล้งของโลกปัจจุบัน พบว่ามีหินทรายสีแดง และหินดินดานผสมกับตะกอนยิบซั่มและเกลืออยู่ทั่วไป สารต่างๆ เหล่านี้พบว่าสลายตัวมาจากชุดหินกาญจนบุรี ดังนั้น หินชุดโคราชซึ่งพบทั่วไปในบริเวณที่ราบสูงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงเกิดจากการทับถมและก่อตัวของสิ่งต่างๆ เหล่านี้จนสูงมากกว่า 4,500 เมตร และที่ฐานของหินชุดโคราช จะพบว่ามีหินชุดกาญจนบุรีและราชบุรีอยู่ทั่วไป

การทับถมของตะกอนยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเกิดการระเบิดของภูเขาไฟที่เขาใหญ่ ลำธารของหินภูเขาไฟที่เรียกว่า ไรโอไลท์ (Rhyolite flows) ไหลผ่านและซึมลงในเนื้อหินชุดต่างๆ จนเกิดเป็นหินไดโอไลท์ (Diorites) บางแห่งจะพบว่ามีหินชนิดนี้โผล่ขึ้นมาให้เห็น โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

ต่อมาการชะล้างพังทลายเริ่มเกิดขึ้นอีก และเป็นอยู่จนกระทั่งปัจจุบัน ตะกอนที่มีขนาดเล็กถูกน้ำพัดพาไปทับถมกันในบริเวณที่ราบระหว่างภูเขา ซึ่งการทับถมลักษณะนี้จะพบเห็นได้ทั่วไปตั้งแต่ที่ราบบริเวณทิศตะวันตก ของที่ราบสูงโคราชไปจนถึงที่ราบภาคกลางของประเทศ อันเป็นแหล่งเกษตรกรรมและการปลูกข้าวที่เป็นหัวใจของประเทศ

ที่มา
Foundation for Khao Yai National Park Protection

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รอยเตอร์ชี้ "4 ความเป็นไปได้" จากการประท้วงของ "เสื้อแดง"วันเสาร์นี้</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 กันยายน 2552 05:31 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต​

เอเจนซี-รัฐบาลไทยประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงอันเข้มงวดอีกครั้งหนึ่งเมื่อวานนี้ (15) เพื่อเปิดโอกาสให้ทหารสามารถเข้ามาควบคุมการชุมนุมของกลุ่มผู้สนับสนุน พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ และสำนักข่าวรอยเตอร์ได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ที่อาจจะเป็นไปได้สืบเนื่องจากการประท้วงครั้งนี้

กฏหมายความมั่นคงฉบับดังกล่าว เปิดทางให้ใช้ทหารเพื่อจำกัดความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง และสามารถดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุมได้อย่างรวดเร็ว หากมีเหตุรุนแรงระหว่างการประท้วงซึ่ง “กลุ่มคนเสื้อแดง” จัดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 3 ปีที่ พ.ต.ท. ทักษิณถูกยึดอำนาจ โดยที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศจะดำเนินการชุมนุมขับไล่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันโดยสงบ และไม่ใช้ความรุนแรงเพื่อยั่วยุให้เกิดเหตุวุ่นวายก็ตาม

สำนักข่าวรอยเตอร์ โดยนายมาร์ติน เพตตี้ ได้จัดทำรูปแบบสถานการณ์ที่อาจจะเป็นไปได้รูปแบบต่างๆ สืบเนื่องจากการชุมนุมในวันเสาร์(19)นี้ รวมทั้งสิ้น 4 รูปแบบ ดังนี้คือ

**เกิดการประท้วง แต่ผ่านพ้นไปโดยไม่มีเหตุรุนแรง**
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ระบุว่า การชุมนุมประท้วงโดยสงบน่าจะมีความเป็นไปได้มากที่สุด เนื่องจากในเวลานี้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งเข้ามาบริหารประเทศได้9เดือน กำลังประสบกับปัญหาความแตกแยกภายในอย่างหนัก ทั้งจากบรรดาพรรคร่วมรัฐบาล และความแตกแยกจากภายในพรรคประชาธิปัตย์ของตัวนายกรัฐมนตรีเอง ทำให้นักวิเคราะห์มองว่าลำพังปัญหาภายในของรัฐบาลชุดนี้ก็ได้ทำให้อนาคตของรัฐบาลง่อนแง่นอย่างถึงที่สุดแล้ว ขณะที่ทางกลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งมีชื่อเรียกตัวเองอย่างเป็นทางการว่า กลุ่ม “ แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ ” ก็ได้ตระหนักถึงความผิดพลาดของตนจากการยั่วยุให้เกิดเหตุรุนแรงเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งทำลายความน่าเชื่อถือของกลุ่มคนเสื้อแดงไป ดังนั้นการชุมนุมในวันเสาร์นี้น่าจะผ่านไปโดยความเรียบร้อย รูปแบบความเป็นไปได้เช่นนี้จะเป็นรูปแบบที่แทบไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินเลย

**การประท้วงรุนแรง ทหารกระโดดเข้ามา**
พวกวิพากษ์วิจารณ์ “ทักษิณ” รวมทั้งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ “ กลุ่มคนเสื้อเหลือง ” ระบุว่า อดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้จะต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดความรุนแรงจากการชุมนุมในวันเสาร์นี้เพื่อโค่นล้มรัฐบาลของ นายอภิสิทธิ์ลงให้ได้ เพราะเวลาของเขาเหลือน้อยเต็มทีแล้ว

ขณะเดียวกันปัญหาความขัดแย้งระหว่างนายอภิสิทธิ์ กับพวกนายตำรวจระดับสูงหลายรายจากกรณีการสั่งปลดพล.ต.อ. พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก่อนการเกษียณอายุราชการเพียงไม่กี่วัน ก็อาจทำให้ต้องดึงทหารต้องเข้ามามีบทบาทในการควบคุมสถานการณ์การชุมนุม ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยที่ได้รับการสนับสนุนจากพ.ต.ท. ทักษิณ และทำหน้าที่เป็นกลไกทางรัฐสภาให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงก็ได้ออกมาเตือนว่า การประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงของรัฐบาลอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความรุนแรง เนื่องจากอาจมีผู้ประท้วงที่หัวรุนแรงบางกลุ่มไม่พอใจ หรืออาจมีกลุ่มคนที่ถูกว่าจ้างให้เข้ามาเป็นมือที่ 3 เพื่อก่อความวุ่นวายจนทางทหารอาจต้องสลายการชุมนุมหรือแม้กระทั่งการทำรัฐประหาร ถ้าหากสถานการณ์ออกมาในรูปแบบนี้จริงๆ ตลาดหลักทรัพย์ และเงินบาทของไทยน่าจะถูกการเทขายอย่างรุนแรง

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า ไม่น่าจะมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น เนื่องจากการปะทะกันจะไม่เป็นผลดีกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง “ในปัจจุบัน ไม่มีกลุ่มพลังทางการเมืองสำคัญๆ ของประเทศกลุ่มใดเลย ที่มีความสามารถหรือกระทั่งเจตนารมณ์ เพื่อสร้างความสับสนให้แก่สถานการณ์น่าเป็นห่วงที่เราเผชิญอยู่ในทุกวันนี้” โรแบร์โต ฌอร์เรรา-ลิม นักวิเคราะห์แห่งยูเรเชียกรุ๊ป ให้ความเห็น “ในทัศนะของเราแล้ว นี่จะเป็นแค่เกมแห่งการรอคอย(ว่าใครจะอดทนกว่ากัน)”

**มีการปะทะเกิดขึ้น อภิสิทธิ์ประกาศยุบสภา**
จากปัญหาแรงกดดันนานัปการที่มีต่อรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ ทั้งจากกลุ่มคนเสื้อแดง,ความแตกแยกในพรรคร่วมรัฐบาล, ความไม่พอใจของประชาชนต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ, วิกฤตทางการเมือง , การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009, และปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้เกิดกระแสข่าวเรื่องการยุบสภาหนาหูขึ้น ถึงแม้ 2 แกนนำพรรครัฐบาล คือ ประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย ซึ่งน่าจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบในการเลือกตั้ง จึงคงพยายามหลีกเลี่ยงไม่เลือกวิธีนี้

นักวิเคราะห์มองว่า การยุบสภาจะไม่ส่งผลดีต่อตลาด อีกทั้งอาจมีผลทำให้ความขัดแย้งทางการเมืองของไทยรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจของไทยที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีมูลค่าโดยรวมกว่า 260,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

**เกิดการปะทะกันรุนแรง ทหารทำรัฐประหาร**
แม้ข่าวลือเรื่องที่ทหารจะยึดอำนาจกำลังก่อตัวขึ้น แต่สำหรับประเทศไทยซึ่งเคยเกิดการทำรัฐประหารมาแล้ว 18 ครั้งตลอดระยะเวลา 77 ปี นับตั้งแต่ที่ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงการปกครองเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย จึงถือว่าเรื่องนี้ “ไม่ใช่เรื่องใหม่” แต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ไม่ได้มีความบาดหมางกับทางกองทัพ และทางกองทัพเองก็ยังไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆ ว่า จะก่อรัฐประหารอีกรอบทำให้นักวิเคราะห์เชื่อว่าจะไม่เกิดการยึดอำนาจ เพราะทหารคงจะไม่เสี่ยงที่จะทำให้เสถียรภาพของประเทศไทยต้องถูกทำลายในภาวะเช่นนี้

แต่ถ้าเกิดการรัฐประหารขึ้นอีกครั้ง ก็จะถือเป็นรูปแบบความเป็นไปได้ที่เป็นมิตรกับตลาดน้อยที่สุด และอาจทำให้เกิดปรากฏการณ์ของการดิ่งอย่างสุดขั้วของตลาด เช่นเดียวกับช่วงหลังเกิดการรัฐประหารครั้งก่อนซึ่งจะส่งผลกระทบต่อมาตรการแก้ปัญหาเศรษฐกิจต่างๆ และจะถือเป็นความล้มเหลวของรัฐบาลไทยที่เคยให้คำมั่นจะสร้างความแข็งแกร่งให้กับประชาธิปไตยในประเทศและจะขจัดการคอร์รัปชั่น

ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000107797

 

ประโคมข่าว ภัยพิบัติ แล้วขายของ
จิตจักรวาล มัวหมอง ขายได้มั๊ย?
ขายจิน- ตนาการ นั่นปะไร
มั่วซั่วไป เดามั่วๆ เหมือนอย่างเคย

วันๆครุ่น คิดแต่เรื่อง ภัยพิบัติ
แล้วก็ดัก ขายของ ไม่นิ่งเฉย
นั่งนับเงิน นับทอง อย่างเสบย
อยู่เฉยๆ ก็มีมา สมน้ำหน้ามัน ... ที่เกิดมาโง่ .... เชื่อหมอดูอย่างตรู .. ฮ่าๆๆๆๆ

 

*** พิจารณา ****

เราเห็นด้วยอะไร...
เราไม่เห็นด้วยอะไร....
ปัญญา...เกิดเมื่อเราตั้งใจตัด ตั้งใจลด
นิสัยเรามันเป็นอย่างไร เราถึงได้เป็นอย่างทุกวันนี้

พี่น้องรบกันเอง บ้านถิ่นอาศัยอยู่ไม่ได้ พ่อถูกยิงตาย น้องพลัดถิ่นสูญหาย แม่หนีไปต่างชาติ ชีวิตไม่เหลืออะไร สุดท้ายบวชชีอาศัยวัด...แบบหนังเกากลี
เพราะ ....ไปหลงเชื่อผิดๆ สาบานเพื่อทำประโยชน์ให้เขา จนถอนตัวไม่ขึ้น

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

16 ก.ย. 52

อีกสามวันมีลุ้น

เรื่องที่เกิด ให้ฟ้า ท่านตัดสิน
อยู่ นิ่ง นิ่ง อย่าแวะข้อง ตัวปัญหา
ความสงบ ความสุข จะคืนมา
อย่ารอช้า รีบกระทำ ย้ำตัวเอง

 

วันนี้ ผมขึ้นเรือข้ามฟากทางท่าน้ำสี่พระยา เวลาประมาณ 17.45 น. พบว่า นอกจากอากาศที่ค่อนข้างแปรปรวนมากแล้ว


น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ไหลย้อนกลับด้วยอัตราความเร็วที่สูงพอสมควร ชนิดที่เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า ห้ามไม่ให้คนขึ้นเรือมีจำนวนแน่นเกินไป แบบปกติ


ที่น่าเป็นห่วงคือ คนทั่วไปที่ ข้ามเรือทุกวัน ไม่มีใครสังเกตุความผิดปกติเลยซักคน

ว่าน้ำไหลย้อนกลับ

หากพิจารณาดู จะพบว่า น้ำทะเลหนุนสูงและ มีปริมาณมากเพราะหากน้ำทะเลหนุนปกติ จะมาไกลไม่มาก ประมาณ พระประแดง แต่ครั้งนี้ ที่ คลองสาน น้ำก็ยังไหลย้อนแรงมาก และน้ำในแม่น้ำเต็มฝั่ง ระดับปริ่มเขื่อนแล้ว

หากปีนี้น้ำมากก็คงไม่แปลก

แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ น้ำมามากกว่าปกติและเยอะเกินคาด อาจเกินรับมือ


และการที่คนส่วนใหญ่ ไร้ สัญชาติญาณ หรือความละเอียด ความเกี่ยวพันกับธรรมชาติไปมากมายแล้ว


หากเกิดภัยพิบัตินี่ คงไม่อาจใช้สัญชาติญาณ หรือสติได้ง่ายๆเลย

มาฝึกจิตฝึกสมาธิกันดีกว่าครับ

 

วันนี้ ผมขึ้นเรือข้ามฟากทางท่าน้ำสี่พระยา เวลาประมาณ 17.45 น. พบว่า นอกจากอากาศที่ค่อนข้างแปรปรวนมากแล้ว


น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ไหลย้อนกลับด้วยอัตราความเร็วที่สูงพอสมควร ชนิดที่เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า ห้ามไม่ให้คนขึ้นเรือมีจำนวนแน่นเกินไป แบบปกติ


ที่น่าเป็นห่วงคือ คนทั่วไปที่ ข้ามเรือทุกวัน ไม่มีใครสังเกตุความผิดปกติเลยซักคน

ว่าน้ำไหลย้อนกลับ

หากพิจารณาดู จะพบว่า น้ำทะเลหนุนสูงและ มีปริมาณมากเพราะหากน้ำทะเลหนุนปกติ จะมาไกลไม่มาก ประมาณ พระประแดง แต่ครั้งนี้ ที่ คลองสาน น้ำก็ยังไหลย้อนแรงมาก และน้ำในแม่น้ำเต็มฝั่ง ระดับปริ่มเขื่อนแล้ว

หากปีนี้น้ำมากก็คงไม่แปลก

แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ น้ำมามากกว่าปกติและเยอะเกินคาด อาจเกินรับมือ


และการที่คนส่วนใหญ่ ไร้ สัญชาติญาณ หรือความละเอียด ความเกี่ยวพันกับธรรมชาติไปมากมายแล้ว


หากเกิดภัยพิบัตินี่ คงไม่อาจใช้สัญชาติญาณ หรือสติได้ง่ายๆเลย

มาฝึกจิตฝึกสมาธิกันดีกว่าครับ

 

เรียนคุุณคณานันท์ เมื่อวันจันทร์ที่มา ผมกดน้ำดื่มใส่ถ้วยมาดื่มได้สักครึ่งถ้วย เหลือน้ำดื่มอีกครึ่งถ้วยวางบนโต๊ะทำงาน ไม่ถึง 3 นาทีปรากฏว่ามดตัวเล็กๆ(แถวระยองเรียกมดเหม็น)มาตอมเต็มถ้วยน้ำเพื่อมากินน้ำ ซึ่งปกติผมไม่เคยเจอ แต่ในความรู้สึกผมนั้นเหมือนมีอะไรมาบอกว่าระวังน้ำจะมาแรงมากๆ ก็ฝากไว้เป็นข้อมูลครับ ไม่ทราบมีใครเจอแบบนี้บ้างหรือเปล่า

 

เรื่องน้ำไหลย้อน ขึ้นมา และมีกระแสเร็ว เห็นมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม แล้วครับ แต่เห็นแถวๆ วัดมะขาม จ.ปทุมธานี บังเอิญว่า ไปให้อาหารปลา กับปล่อยปลา มาครับ

 

พบซากวาฬหนักกว่า 3 ตันเสียชีวิตเกยตื้น <table width="626" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td width="14" bgcolor="#414141"></td> <td valign="top"> <table width="599" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr><td width="599" valign="top"> <table width="599" border="0" cellpadding="5" cellspacing="5"> <tbody><tr><td class="text4">16 กย. 2552 20:51 น.

<dd> พ.ต.ท.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผกก.( ป )สภ.บางปู สมุทรปราการ พร้อมด้วย จ.ส.อ.นิเวศน์ ชูปาน เจ้าหน้าที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ 3 ต.บางปู อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ว่าพบซากปลาโลมา ขนาดใหญ่เสียชีวิตมาเกยตื้นอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลด้านหลังบ่อเลี้ยงปลานาง ทิพย์วรรณ แซ่ตั้ง อายุ 45 ปี หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
</dd><dd> ในที่เกิดเหตุพบซากปลาวาฬ ขนาดใหญ่มีความยาวประมาณ 10 เมตร น้ำหนักประมาณ 3 ตัน และซากปลาโลมามีความยาว 137 เซนติเมตร เสียชีวิตในสภาพเน่าขึ้นอึดคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 วันลอยมาติดอยู่ที่ริมฝั่งด้านหลังบ่อเลี้ยงปลา ดังกล่าว จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่โครงการอนุรักษ์โลมาในพื้นที่อ่าวไทยตอนใน เข้าตรวจสอบ
</dd><dd> นางสาว สายสุนีย์ จักรสุอินทร์ ผู้จัดการโครงการ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าซากปลาวาฬดังกล่าวเป็นปลาวาฬสายพันธ์บูลดา ซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี มีความยาวตั้งแต่หัวจรดหางยาวกว่า 10 เมตร น้ำหนักกว่า 3 ตัน ซึ่งเป็นปลาที่หากินอยู่ในแถบน้ำลึกซึ่งในปัจจุบันเป็นสัตว์น้ำสงวนหาดูได้ ยากในประเทศไทย ส่วนซากปลาอีกตัวหนึ่งที่พบเป็นซากปลาโลมาหัวบาตรหลังเรียบ วัดความยาวตั้งแต่หัวจรดหางมีความยาว 137 เซนติเมตร มีน้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัมคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ และถูกกระแสน้ำพลัดเข้ามาติดชายฝั่ง ดังกล่าว เบื้องต้นจะได้นำซากปลาทั้งสองตัวกลับไปยังศูนย์วิจัยของโครงการเพื่อตรวจ สอบหาสาเหตุการเสียชีวิตของสัตว์น้ำทั้งสองชนิดว่าเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด </dd></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>

 

งั้นน่าเป็นห่วงครับ หากน้ำทะเลไหลย้อนขึ้นไปได้ถึงปทุมธานี

แสดงว่าหากระดับน้ำทะเลสูงมากๆนี่ ไปได้อีกไกลมากเลยทีเดียว

ลองช่วยกันสังเกตุดูกันครับ

แต่สำหรับผมเอง เคยพบเป็นครั้งแรกๆในชีวิตครับ จากที่เด็กๆก็เรียนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ต้องข้ามเรือบ่อยมาก แต่ครั้งนี้น้ำไหลแรงมากครับ

และที่สำคัญไหลย้อนขึ้นเหนือครับ