ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,703
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** เชื่อหรือไม่ ****

    เหตุการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี...เมื่อสัจจะเข้าสู่จิตใจคนไทยทุกคน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ไข้หวัด 2009 กทม.ทรงตัว เตรียมหามาตรการรับมือระบาดรอบ 2

    [​IMG]

    กรุงเทพฯ 10 ก.ย.- สถานการณ์แพร่ระบาดไข้หวัด 2009 พื้นที่ กทม.ทรงตัว ในรอบเดือนที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน ยกเลิกหน่วยบริการคัดกรอง 50 เขต คงหน่วยคัดกรองที่ศูนย์บริการสาธารณสุข และ รพ.สังกัด กทม.เตรียมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดือนหน้ารับมือการระบาดรอบ 2 ช่วงปลายฝนต้นหนาว

    พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ภายหลังการประชุมติดตามผลการป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในพื้นที่ กทม.ว่า ยอดผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. 2552 - 9 ก.ย. 2552 มียอดผู้ป่วยสะสม 4,566 ราย ยอดผู้เสียชีวิต 23 ราย เพิ่มขึ้น 1 คน ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา ส่วนสถานการณ์แพร่ระบาดของไข้หวัด 2009 ล่าสุดอยู่ในช่วงทรงตัว สามารถควบคุมการแพร่ระบาด ยอดผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ รวมถึงยอดผู้ใช้บริการในหน่วยคัดกรองที่ กทม.จัดไว้ที่สำนักงานเขต ศูนย์บริการสาธารณสุข และโรงพยาบาลในสังกัด กทม. ลดลงต่อเนื่อง บางเขตแทบไม่มีผู้ใช้บริการ

    กทม.จึงยกเลิกหน่วยคัดกรองที่สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต แต่ยังคงหน่วยคัดกรองที่ศูนย์บริการสาธารณสุข และ รพ.สังกัด กทม.ไว้ โดยเน้นให้เจ้าหน้าที่ 3 หน่วยงาน ทำงานร่วมกับมิสเตอร์ 2009 ที่มีกว่า 10,000 คน ซึ่งได้รับฝึกอบรมความรู้เกี่ยวกับไข้หวัด 2009 ลงพื้นที่ให้ความรู้ในชุมชนมากขึ้น เน้นพื้นที่ประชาชนอาศัยหนาแน่น และสถานศึกษา เนื่องจากสถิติผู้ป่วยที่ผ่านมา พบว่าอยู่ในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ถึงร้อยละ 50

    สำหรับการป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัด 2009 รอบ 2 ช่วงปลายฝนต้นหนาวที่หลายฝ่ายวิตกกันนั้น พญ.มาลินี กล่าวว่า กทม.ไม่กังวล เพราะเชื่อมั่นว่าจะรับมือได้ แต่ไม่ได้นิ่งนอนใจ เตรียมเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมใหญ่หามาตรการรับมือในเดือน ต.ค.นี้ และเตรียมประสานกรมปศุสัตว์ ร่วมหารือป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัด 2009 จากคนสู่สัตว์ รวมถึงโรคระบาดอื่น ๆ ด้วย ที่จะมาในช่วงหน้าฝนนี้ ทั้งโรคฉี่หนู และไข้หวัดนก เป็นต้น.- สำนักข่าวไทย

    2009-09-10 11:06:45

    สธ.เตรียมรับมือไข้หวัด 2009 ระบาดระลอก 2 ยอดตายเพิ่มอีก 12 ราย

    [​IMG]

    สธ. 9 ก.ย.- สาธารณสุข เตรียมรับมือการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ระลอก 2 เตรียมจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจกระจายทุกโรงพยาบาล ให้ทันการระบาดระลอก 2 พร้อมวางมาตรการรับมือนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่นเดือนตุลาคม ส่วนยอดผู้เสียชีวิตในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่ม 12 ราย รวมยอดเสียชีวิตสะสม 142 ราย

    นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงการณ์ติดตามการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ประจำสัปดาห์ว่า แม้การระบาดในไทยขณะนี้ ดูเหมือนชะลอตัวลง แต่องค์การอนามัยโลกและประเทศในแถบตะวันตกได้เตรียมเฝ้าระวังเกี่ยวกับการระบาดของไข้หวัด 2009 ระลอก 2 ซึ่งคาดการณ์ว่าจะรุนแรงกว่าระลอกแรก ดังนั้น ตนได้ตั้งคณะทำงานประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาและไวรัสวิทยา โดยมี ศ.นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ เป็นที่ปรึกษา เพื่อประเมินสถานการณ์การระบาดระลอก 2 อย่างใกล้ชิด

    นายวิทยา กล่าวอีกว่า จากการคาดการณ์คนไทยติดเชื้อไข้หวัด 2009 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านคน ดังนั้น อีก 62 ล้านคนยังไม่มีภูมิคุ้มกัน จึงอยากฝากถึงประชาชนว่า กระทรวงสาธารณสุข ยังพบผู้ป่วยไข้หวัด 2009 ทุกวัน และทุกสัปดาห์ยังมีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ 2009 จึงยืนยันได้ว่า ไข้หวัด 2009 ยังระบาดอยู่ในประเทศไทย ประกอบกับสภาพอากาศจะเริ่มหนาวเย็น จึงต้องคงมาตรการรักษาสุขอนามัยอย่างเต็มที่ต่อไป เพื่อไม่ให้การระบาดระลอก 2 รุนแรง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ให้งบประมาณเพื่อจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้นกว่า 200 เครื่อง ให้ทันการระบาดระลอก 2 และให้เฝ้าระวังในพื้นที่จังหวัดที่เคยมีการระบาดของไข้หวัดนกมาก่อน

    ด้าน นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการปรับเปลี่ยนนโยบายในการเข้าถึงยารักษาไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่รวดเร็วขึ้น จาก 7 วัน เป็น 5 วัน ทำให้สถานการณ์ของไข้หวัดใหญ่ 2009 ในไทยดีขึ้น สำหรับเครื่องช่วยหายใจที่จะจัดซื้อให้ทุกจังหวัด ประกอบด้วยเครื่องช่วยหายใจผู้ใหญ่ เครื่องช่วยหายใจเด็ก และเครื่องช่วยหายใจแบบเคลื่อนที่กับรถฉุกเฉิน เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ป่วยไข้หวัด 2009 ในรายที่อาการรุนแรง ปอดบวมได้ทันกาล

    ด้าน นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไป จะเป็นฤดูท่องเที่ยว ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า นักท่องเที่ยวจะหนีไข้หวัด 2009 จากประเทศในแถบตะวันตกมาเที่ยวในประเทศแถบเอเชีย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะจัดเตรียมมาตรการรับมือนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในไทย และประสานบริษัทท่องเที่ยวให้มีการตรวจดูแลนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด หากพบมีอาการต้องสงสัย จะเข้าสู่ระบบการรักษาตามมาตรการที่กำหนด ซึ่งการมีมาตรการรับมือกับการระบาดของไข้หวัด 2009 ระลอก 2 จะทำให้นักท่องเที่ยวมีความมั่นใจมากขึ้นด้วย

    สำหรับจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่เสียชีวิต ในช่วงวันที่ 30 สิงหาคม - 5 กันยายน 2552 มีเพิ่มอีก 12 ราย เป็นชาย 3 ราย หญิง 9 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ 2009 ในไทย 142 ราย.-สำนักข่าวไทย

    2009-09-09 14:03:49

    สสจ.เชียงรายห่วงไข้เลือดออกระบาดปีนี้สูง 2 เท่าตัว

    [​IMG]

    เชียงราย 11 ก.ย.- นพ.ชำนาญ หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า สถานการณ์ไข้เลือดออกในปีนี้พบการระบาดมากกว่าปีที่ผ่านมา 2 เท่าตัว

    จึงกำชับให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งฉีดพ่นหมอกควันกำจัดลูกน้ำยุงลายทุกชุมชน เพื่อตัดวงจรการระบาดของโรค เพราะตั้งแต่ต้นจนถึงขณะนี้มีผู้ป่วยแล้ว 686 ราย เสียชีวิต 2 ราย เฉพาะเดือนสิงหาคมพบผู้ป่วยมากถึง 190 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุต่ำกว่า 18 ปี อีกทั้งในเดือนกันยายนนี้ยังมีฝนตกต่อเนื่อง อาจทำให้มีน้ำท่วมขังตามพื้นที่กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย สำหรับพื้นที่พบการแพร่ระบาดมากที่สุดคือ อำเภอแม่จัน อำเภอเมือง อำเภอเชียงของ อำเภอพาน อำเภอเวียงแก่น และอำเภอเวียงชัย.-สำนักข่าวไทย

    2009-09-11 10:51:34

    แก๊งต่างชาติฉกทองแท่งเสี่ยร้านแอร์ 55 บาท

    [​IMG]

    กรุงเทพฯ 10 ก.ย. - แก๊งชาวต่างชาติก่อเหตุฉกกระเป๋าบรรจุทองคำแท่ง น้ำหนักรวม 55 บาท มูลค่าเกือบ 900,000 บาท จากรถยนต์เสี่ยร้านจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องทำความเย็น

    นายสมชาย นันทนาชัย อายุ 68 ปี เจ้าของร้านจำหน่ายอะไหล่แอร์ ตู้เย็น และอุปกรณ์เครื่องทำความเย็นทุกชนิด ย่านประเวศ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ หลังถูกแก๊งคนร้ายชาวต่างชาติฉกกระเป๋าบรรจุทองคำแท่ง น้ำหนัก 55 บาท มูลค่ากว่า 880,000 บาท จากรถยนต์ที่จอดไว้ในลานจอดรถของห้างซีคอนสแควร์ สาขาศรีนครินทร์

    นายสมชาย ให้การว่า ถอนเงินจากธนาคารแห่งหนึ่ง จำนวน 900,000 บาท นำไปซื้อทองคำแท่ง มูลค่า 880,000 บาท ที่ร้านทองฮั่วเซ่งเฮง ใส่กระเป๋าหิ้วเดินออกจากร้านไปลานจอดรถ ขณะถึงประตูชั้น 1 ซึ่งเป็นทางออกติดกับธนาคารกรุงเทพ มีชายชาวต่างชาติพ่นสีใส่ทางด้านหลัง แต่ไม่เอะใจ เมื่อเดินไปถึงรถยนต์ได้วางกระเป๋าใส่ทองไว้เบาะนั่งข้างคนขับ แล้วอ้อมไปเปิดประตูหลัง เพื่อหยิบกระดาษชำระ ระหว่างนั้นมีชาวต่างชาติ 2 คน เดินตรงมาทางตน แล้วทำเหรียญหล่นประมาณ 10 เหรียญ เพื่อให้ตนสนใจ โดยไม่ทันสังเกตว่า ชายอีกคนเดินอ้อมไปเปิดประตูด้านที่นั่งคนขับ แล้วหยิบกระเป๋าใส่ทองคำแท่ง ก่อนวิ่งหลบหนีไป

    จากการตรวจสอบภาพจากกล้องซีซีทีวี หน้าธนาคารกรุงเทพ พบชายต่างชาติลักษณะศีรษะล้าน สวมเสื้อยืดสีฟ้า กางเกงยีนส์ เป็นผู้ฉีดสีใส่หลังนายสมชาย และจากการตรวจสอบบริเวณลานจอดรถ ยังพบรองเท้ายี่ห้อรีบ็อกและลิปสติกสีแดงตกอยู่ ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน รวมทั้งเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามไล่ล่าคนร้ายมาดำเนินคดี. - สำนักข่าวไทย

    2009-09-10 01:42:48

    สมาคมค้าทองคำเตือนระวังแก๊งฉกทองและเปลี่ยนทองปลอม

    [​IMG]

    กรุงเทพฯ 11 ก.ย.-นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า สมาชิกสมาคมค้าทองคำได้มีการหารือเรื่องแก๊งโจรฉกทองและเปลี่ยนทองปลอมที่กำลังออกอาละวาดตามร้านทองในย่านต่าง ๆ รวมทั้งที่เยาวราช เพื่อเตือนร้านทองให้มีความระวังมากขึ้น

    นายจิตติ กล่าวว่า แก๊งโจรเหล่านี้มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติร่วมด้วย ซึ่งที่ผ่านมามีร้านทองที่ตกเป็นเหยื่อหลายร้านแล้ว พฤติกรรมของแก๊งโจรมีทั้งทำทีเข้ามาซื้อทองคำแล้วใช้ความไวขโมยสร้อยคอทองคำ รวมทั้งมาขอดูสร้อยคอทองคำในลวดลายต่าง ๆ และอาศัยทีเผลอนำสร้อยคอทองคำเก๊ที่มีลวดลายเดียวกันมาสับเปลี่ยน เป็นต้น

    “มีการคุยกันมาประมาณ 2-3 เดือนแล้ว แก๊งพวกนี้จะทำทีเข้ามาดูสร้อยทองหลาย ๆ เส้น และอาศัยทีเผลอสับเปลี่ยนทองเก๊ และฉกเอาทองจริงไป ซึ่งสมาคมฯได้มีการเตือนสมาชิกให้เพิ่มความระวังมากขึ้น” นายกสมาคมค้าทองคำ

    นายจิตติ ยังกล่าวถึงราคาทองคำในเช้าวันนี้ (11 ก.ย.) ว่า มีการปรับราคาขึ้น 150 บาท จากวานนี้ ( 10 ก.ย.) โดย ทองคำแท่งรับซื้อ 15,950 บาท ขายออก 16,050 บาท และทองรูปพรรณรับซื้อ 15,720.92 บาท ขายออก 16,450 บาท ตามราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับขึ้น ซึ่งในระยะนี้ราคาทองคำอาจมีการปรับฐานบ้าง แต่ระยะยาวราคาทองคำยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่วนบรรยากาศร้านทองคำนั้น ประชาชนเริ่มขายทองคำลดลงแล้ว หลังจากที่ทยอยขายทองคำตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา และนักลงทุนบางส่วนเปลี่ยนไปลงทุนในตลาดโกลด์ฟิวเจอร์.- สำนักข่าวไทย

    2009-09-11 10:43:06

    กรมทรัพยากรธรณีประกาศเตือนภัยดินถล่มน้ำป่าไหลหลาก

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    กรมทรัพยากรธรณี 10 ก.ย.- กรมทรัพยากรธรณีประกาศแจ้งเตือนภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก 5 จังหวัดทางภาคใต้ คือ พังงา ระนอง สุราษฎร์ธานี ชุมพร และกระบี่

    นายอดิศักดิ์ ทองไข่มุกต์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอให้เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มในจังหวัดพังงา ระนอง สุราษฎร์ธานี ชุมพร และกระบี่ โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอคุระบุรี กะปง จังหวัดพังงา อำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง เนื่องจากมีฝนตกหนักและตกต่อเนื่องตลอดทั้งวัน วัดปริมาณน้ำฝนสะสมได้มากว่า 100 มิลลิเมตร และเริ่มมีน้ำล้นตลิ่งในบางพื้นที่แล้ว ทั้งนี้ ได้เตรียมแผนพร้อมปฏิบัติเฝ้าระวังไว้แล้ว โดยให้อาสาสมัครเครือข่ายฯ ของกรมทรัพยากรธรณี เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก หากเกิดเหตุให้แจ้งเตือนและเปิดไซเรนแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที.- สำนักข่าวไทย

    2009-09-10 18:04:58

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    แม้ผมไม่ใช้คุณ เกษม แต่ผมจะตอบให้งิ การสำรวมกาย วาจา ใจ ไม่อะไรเจือด้วยอกุศลให้ผู้อื่นได้รับความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือ ลองภูมิแม้เบียดเบียนสิ่งต่างรอบตัว จะอยู่ที่ใด ยอมสุขสบายทั้งกายวาจาและใจแบบนั้นเหมือนตนเองรู้อยู่กับตน หากยังไม่เห็นตนอย่เช่นเดิมนานวันไปแม้เป็นพื้นที่สรรค์ชั้นใดก็ไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแก่ผู้ที่อวิชชาได้รับประทานเขาผู้นั้นนไปเรียบร้อยแล้วย่อมได้รับการเคลื่อนเป็นปกติ อืมๆๆ แค่นี้แหละครับ บอกเล่าเก้าสิบ
    เหอๆๆๆ
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    สาส์นจากปู่ใหญ่ (หลวงปู่เทพโลกอุดร)

    [​IMG]

    ผ่านทางทิพย์นิมิต พระอาจารย์เพลิน นนทโก ให้แจ้งต่อผู้ศรัทธาในปู่ใหญ่ หลวงปุ่เทพโลกอุดร ว่าในอีก ประมาณ 2 ปีข้างหน้านี้ จักเกิดภัยพิบัติอันใหญ่หลวงต่อมวลมนุษยชาติทั่วโลก ขอให้ลูกหลานทุกคนจงพากันเตรียมตัว ร้บสถานการณ์ให้ดี โดยให้มีสติอันมั่นคงอย่าวิตกกังวล จงพากันเร่งบำเพ็ญภาวนาทำสมาธิฝึกฝนพลังจิตให้เข้มแข็ง และให้พากันหาสถานที่อันสงบในป่าเขาแหล่งที่ห่างไกลความเจริญ ​

    ปลูกต้นไม้ให้มาก ๆ ล้อมรอบที่พักอาศัย แล้วบำเพ็ญภาวนา เก็บกักตุนเสบียงไว้ใช้ในยามขัดสน อันมีปัจจัยสี่ เช่น เครื่อง นุ่งห่ม อาหารแห้ง ยารักษาโรค หากผู้ใดมีเงินขอให้เปลี่ยน เป็นของมีค่าอย่างอื่น เช่น ทองคำเป็นต้น อย่าฝากธนาคาร อย่าซื้อหุ้น ให้ฝังดินไว้ทำแผนที่ลายแทงไว้ในพื้นที่ที่ห่างไกล กรุงเทพฯ เชื้อเพลิงให้พากันกักตุนแบตเตอรี่แห้งเป็นต้น อย่าห่วงทรัพย์ในเมืองหลวง จงพากันไปหาที่ปลูกสร้างที่พักไว้ ตามวัดป่า วัดเขาในชนบท ตามถ้ำต่าง ๆ จึงจะพากันรอด จากภัยพิบัติ จงเร่งบำเพ็ญภาวนา​

    ผ่านกระแส เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2539 ณ ธรรมสถานวงษ์จิต บ้านนาคำน้อย หมู่ 7 ตำบลบ้านก้อง อาเภอนายูง จ้งหวัดอุดรธานี 41380​


    ควรเก็บทองไว้ที่ไหนดีครับ....สำหรับนักสะสมทองคำ ?

    SAMURAI 20-11-2008, 22:35:28

    คือว่าอยากจะขอคำแนะนำครับผม.......ว่านักสะสมทองคำควรจะเก็บรักษาทองคำไว้ที่ไหนดีครับ....ที่คิดว่าน่าจะเหมาะและปลอดภัย

    หัวตาหลิว 20-11-2008, 22:38:45 ​

    เซฟแบงค์​

    chalee522 20-11-2008, 23:07:02 ​

    เซฟแบงค์ หาว่างยากครับใส่ตุ่มฝังใต้กรงร็อตไวเลอร์หรือโดเบอร์แมนดีกว่า ​

    SAMURAI 20-11-2008, 23:23:35​

    ขอบคุณครับที่ตอบ..........ว่าแต่เคยมีปัญหาว่ามีคนำไปฝากแล้วของหายและทางแบงค์ก็ไม่รับผิดชอบ ไปแจ้งความตำรวจก็มาเก็บลายนิ้วมือแต่ก็ไม่ชัดไม่สามารถเอาผิดใครได้ ก็เลยคิดว่ามันจะปลอดภัยจริงหรือเปล่า​

    วันก่อนอ่านหัวข้อในนี้ ตำรวจยังโดนเลยครับ หมาร็อตไวเลอร์ตายเรียบ โดนลูกชิ้นใส่ยาซะงั้น​

    Gummy 21-11-2008, 07:32:48 ​

    เก็บในบ้านที่ที่คาดไม่ถึงแต่ปลอดภัยเพียงพอ(ในเซฟปลอดภัย แต่โจรเข้ามามันก็หาเซฟก่อน ดังนั้นควรซื้อเซฟมาแค่ล่อโจรแต่เก็บไว้ที่อื่น เกิดฉุกเฉินสามารถฉวยได้ทัน และเป็นที่ที่คนในบ้านควรจะรู้(ไม่ใช่ตายไปแล้วไม่มีใครรู้เอาไปบริจาควัดให้เกิดข่าวฮือฮา...) ​

    Putnana 21-11-2008, 09:29:56 ​

    ทำห้องลับไว้ แบบในหนัง เอากุญทำเป็นล็อกเก็ตให้ลูกใส่ แล้วมีคำปริศนาให้ทายที่ซ่อน​

    Gold is God 21-11-2008, 11:19:40​

    ถ้าขโมยเข้าบ้านได้ แล้วมันมีเวลา รับรองได้ว่า มันริ้อหมดทุกอย่าง ที่เห็น เป้าหมายแรก ตู้เซฟ หัวเตียง เตียง ตู้เย็น ตู้ทุกใบ ตู้เสื้อผ้า กระจาย เพราะบางคนชอบซ่อนไว้ตามกระเป๋าเสื้อกางเกง โต๊ะทำงาน กระเดินทาง ​

    อันไหนมันเปิดไม่ได้ ก็เอาชะแลงงัด ตู้เซฟของเพื่อนผมขนาดสูงประมาณ 1 เมตร มันยังงัดจนเอาของไปได้หมด ถ้าเป็นออฟฟิศ มันจะเข้าคืนวันศุกร์ หรือเสาร์ ของผม (อย่าบอกใคร) ซ่อนไว้ใต้ฝ้าเพดาน แบบเรียบ ไม่มีช่องเซอร์วิส มีเชือกดึง (หวังว่าคงไม่มีขโมยมาอ่านน๊ะ)​

    แมงโก้ 21-11-2008, 09:14:36 ​

    เคยแนะนำลูกค้า ที่ห่วงของกรณีจะไม่อยู่บ้านหลายวัน ติดตัวไปก็ไม่ได้ เอาไปฝากร้านทอง ที่รู้จัก ขอฝากบาทละ 1,000 ก็ได้ ของอยู่ในเซฟร้านทอง ดีกว่าที่บ้านแน่นอน และถูกกว่าฝากแบ้งค์อีก ค่าเช่าจ่ายเป็นดอกเบี้ยแทน ได้เงินสดไปเที่ยวอีก กลับมาก็เบิกแบ้งค์มาเอาคืน ไม่ต้องกดเงินสด เสียค่ากด​

    sammaster 21-11-2008, 12:13:24 ​

    อ่า ผมว่า การเก็บของในกรณีที่เป็นบุคคลทั่วไป(ไม่ได้เปิดร้านทอง/มีห้องเซฟส่วนตัว) อาจจะทำได้ค่อนข้างลำบากเหมือนกันครับ อย่างลูกค้าผมเเกมีทองรูปพรรณหลายสิบบาท เป็นเเม่ค้าเนื้อในตลาด เเกยังต้องเเบกติดตัวเกือบตลอดเวลาเลยครับ น่ากลัวระหว่าง ไว้ที่บ้านเเล้วโจรขึ้น กับโดนฆ่าชิงทรัพย์จะเจอเเบบไหนก่อน​

    ก่อนที่ๆบ้านผมจะเปิดร้านทอง ใช้วิธีไปฝากไว้กับร้านทองที่รู้จักครับ จริงๆเเล้ว การเก็บของมีค่าไว้ภายในบ้าน อาจจะดูเหมือนทั้งง่ายเเละยาก เช่น สามารถออกความเห็นได้ว่า ซ่อนไว้ตรงนั้น ตรงนี้ ฝังตรงนี้ ซุกตรงนั้น เเต่เอาเข้าจริงๆเเล้วการที่จะมีใครกล้าทำเเบบนั้น "หายาก" พอสมควรครับ เพราะว่า นอกจากจะ "ปลอดภัย" เเล้ว ยังต้อง "สะดวก" ในการเอาออกมาด้วย อยากเเรกจะหาคนกล้าเอาทอง ซัก 100-200 บาทไปฝังไว้สนามหญ้าหน้าบ้านนี่ก็หายากเเล้วครับ คือ เป็นผมๆคงไม่กล้าทำอ่ะครับ ไหนจะถ้าทองขึ้น ต้องไปไล่ขุดขึ้นมากอีก คิดมั่วไปหมดล่ะเวลาไม่อยู่บ้าน​

    ผมว่า เกือบ 100% ล่ะครับ ถ้าไม่ได้เก็บไว้ในตู้เซฟล็อคเเล้วล็อคอีก ไม่กล้าทิ้งบ้านไปไหนหรอกครับ นอนไม่หลับ การเก็บทรัพย์สินที่มีค่าของตนไว้ ย่อมต้องการให้อยู่ในที่ๆปลอดภัยที่สุด ที่เราจะสามารถไว้ใจได้ ผมว่าเอาไปฝากไว้กับร้านทองหรือว่าธนาคารดีกว่าครับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความมั่นใจในการเก็บของเจ้าของด้วยครับ ว่าถ้าสามารถเก็บได้ปลอดภัยกว่า ก็ตามวิธีที่เห็นสมควรเลยครับ เพราะว่าอย่างธนาคารที่ว่า เอาไปไว้เเล้วหาย เเล้วเค้าไม่ได้มีการประกันเอาไว้ เเต่ถ้าเราเก็บไว้เองเเล้วหาย ก็ไม่มีใครมาประกันให้เราเหมือนกันเเหละครับ อันนี้ผมพูดในกรณีบุคคลทั่วไปนะครับ ถ้าอย่างเป็น ร้านทอง/บริษัท/โรงงาน คงมีตู้เซฟหรือวิธีการเก็บของตัวเองอยู่เเล้วล่ะครับ​

    ปล.ผมชอบความเห็นของคุณเเมงโก้มากเลยอ่ะ เอาไปฝาก(จำนอง)ไว้กะร้านทอง เป็นจำนวนเงินน้อยๆ เเล้วจ่ายดอกเป็นค่าเก็บรักษา สุดยอดคิดได้ไงเนี่ย เเต่ที่ร้านผมไม่ได้รับประกันเหตุเหนือความคาดหมายไว้เหมือนกันอ่ะ(โจรกรรม/อัคคี) ความคิดเห็นของเฮีย Gummy ก็ดีครับ ควรเก็บในที่ๆเจ้าของรู้เป็นการส่วนตัว หยิบได้ง่ายเพื่อที่เวลามีเหตุการณ์คาดไม่ถึงจะสามารถนำมาติดตัวได้โดยง่าย )​

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กันยายน 2009
  5. panseak

    panseak Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +30


    2ปีที่ว่านี่นับจากวันที่ส่งกระแสจิตมาหรือจากปีนี้ไปอีก2ปีหรือครับ?
     
  6. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    [​IMG] <table style="" width="80%" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr> <td class="c1" width="4" height="4">
    </td> <td style="border-top: 1px solid gray;" width="97%"> <table width="100%"><tbody><tr><td height="1">
    </td></tr></tbody></table> </td> <td class="c2" width="4">
    </td> </tr> <tr> <td colspan="3" style="border-left: 1px solid gray; border-right: 1px solid gray;" width="100%" align="center"> [SIZE=+1]ประกาศเตือนภัย
    "พายุหมุนเขตร้อน “มูจีแก (Mujigae)”"
    [/SIZE]
    ฉบับที่ 2 (126/2009) ลงวันที่ 11 กันยายน 2552
    </td> </tr> <tr> <td colspan="3" style="border-left: 1px solid gray; border-right: 1px solid gray; padding: 10px;" width="100%" align="center"> พายุโซนร้อน “มูจิแก (Mujigae)” เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ มีศูนย์กลางอยู่บริเวณอ่าวตังเกี๋ย ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม ประมาณ 250 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 19.6 องศาเหนือ ลองจิจูด 107.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้จุดศูนย์กลาง ประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้เคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว ประมาณ 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งในแนวเมืองทันหวา ประเทศเวียดนาม ในวันพรุ่งนี้ (12 ก.ย.52) ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบาง พื้นที่ในระยะ 2-4 วันนี้ โดยที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2552 เป็นต้นไป
    สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหล ผ่าน ที่ลุ่มของจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนที่ตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ในระยะ 2-3 วันนี้ ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย </td></tr></tbody></table>
     
  7. doodee1

    doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6861 ข่าวสดรายวัน


    แมวติดใต้ซาก26วันรอด




    [​IMG]เอพีรายงานวันที่ 10 ก.ย. ว่า แมวในสหรัฐรอดชีวิตหลังติดอยู่ในซากอาคารไฟไหม้นานถึง 26 วัน ทำให้นางแซนดี้ ลาปิแอร์ เจ้าของดีใจอย่างที่สุด หลังจากทำใจว่า แมวของตนชื่อเจ้าสโมกก้า เพศเมีย วัย 1 ปีตายไปแล้ว ในเหตุการณ์ไฟไหม้เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่เมืองแฟรงกลิน รัฐโอไฮโอ จากนั้นบริษัทรับจ้างพังตึกมาเคลียร์พื้นที่ในหนึ่งวันหลังเกิดเหตุ และกลับมาอีกครั้งในวันที่ 4 ก.ย. จึงเห็นหัวเจ้าเหมียวโผล่จากซากอาคารที่ลึกลงไปเกือบ 5 เมตร


    ครบ8ปี11กันยาฯ แผนฟื้นตึกขยับช้า

    สกู๊ปพิเศษ



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    ภาพจำลองอาคารชุดล้อมรอบจุดวินาศกรรม

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ครบรอบ 8 ปี เหตุการณ์วินาศกรรมสะท้านโลก 11 กันยาฯ ศูนย์กลางของเรื่องราวยังคงอยู่ที่ "กราวด์ ซีโร่" พื้นที่เคยเป็นฐานตึกแฝด "เวิลด์ เทรด เซ็นเตอร์"

    แต่ศูนย์กลางของประเด็นข่าวเปลี่ยนจากการมองย้อนอดีต เป็นมุมมองการพัฒนาในอนาคต

    ในที่นี้รวมถึงอาคารใหม่ที่จะขึ้นมาแทนที่ตึกเวิลด์เทรด

    สำนักข่าวเอพีรายงานว่า นับจากหลังเหตุ การณ์ในปี 2544 ถึงวันนี้ แผนการสร้างตึกใหม่ 5 หลังในพื้นที่ 16 เอเคอร์ หรือราว 40 ไร่ เริ่มขึ้นโครงตึกไปแค่อาคารเดียว

    ทั้งที่แผนงานดังกล่าวริเริ่มมานานกว่า 6 ปีครึ่งแล้ว และกะเก็งไว้คร่าวๆ ว่า จะตระหง่านในทศวรรษหน้า กลับยังไม่เป็นรูปเป็นร่างให้เห็น

    อาคารอีก 4 หลังยังไม่ได้กำหนดเวลาเลยด้วยซ้ำ ว่าจะเริ่มและจะเสร็จเมื่อใด

    หลังการเจรจากับรัฐบาลมานานหลายเดือนอึมครึมไม่เกิดผลใดๆ โพลสำรวจความเห็นเมื่อเดือนก่อน พบว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของชาวนิวยอร์กเห็นว่า แผนการฟื้นฟูพื้นที่ถูกวินาศกรรมดำเนินไปอย่าง "แย่" <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    บน-ตึกแฝดเวิลด์เทรดถูกเครื่องบินชน เมื่อ 11ก.ย.2544

    ล่าง-โครงตึกฟรีดอม ทาวเวอร์ ขึ้นแล้ว

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ร้อยละ 60 ไม่เชื่อว่าโครงการก่อสร้างที่มีมูลค่าสูงสุด คือตึกฟรีดอม ทาวเวอร์ สูง 1,776 ฟุต หรือราว 541 เมตร จะเสร็จสิ้นตามกำหนด

    ทั้งปัญหาซับซ้อนทางการเมือง ทางวิศว กรรม ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ล้วนสั่นสะเทือนแผนการฟื้นฟูให้ถอยหลัง ทั้งทำให้มูลค่าการก่อสร้างและการฟื้นฟูต่างๆ ที่คิดคำนวณกันไว้พุ่งกระฉูดเป็นพันๆ ล้าน

    การท่าเรือนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์ เจ้าของที่ดิน เลื่อนกำหนดเวลาแผนงานก่อสร้างต่างๆ ออกไป หลังจากเมื่อปลายปีก่อน เปิดแผนออกมาว่า อาคารฟรีดอม ทาวเวอร์ และเส้นทางการขนส่งใต้ดิน ทรานสิต ฮับ จะเปิดใช้งานได้ระหว่างปี 2554-2557

    ส่วนศูนย์แสดงศิลปะที่อยู่ในแผนด้วยก็ยังไม่ได้ออกแบบตกแต่งใดๆ ไม่มีเงินหรือแรงกดดันจากสาธารณชนเข้าไปกระตุ้น

    คริส วอร์ด ผู้อำนวยการการท่านิวยอร์ก กล่าวว่า ไม่แปลกใจที่ชาวนิวยอร์กกังขากำหนดเวลาที่จะสร้างตึกให้เสร็จสิ้น แต่ผู้ก่อสร้างก็เร่งทำกันอยู่ โดยมีคนงานกว่า 1,000 คนอยู่ในเขตก่อสร้าง

    โครงตึกฟรีดอม ทาวเวอร์ ขึ้นมาเหนือพื้นดินแล้ว พร้อมกับเส้นทางเดินใต้ดิน ทรานสิต ฮับ มูลค่า 3,200 ล้านดอลลาร์

    ขณะเดียวกัน สระรำลึกที่สร้างจากหลุมลึก 24 เมตรก็เริ่มสร้าง กำหนดแนวไว้หมดแล้ว

    "มันไม่ใช่แค่หลุม มันเป็นความรู้สึกของการเกิดใหม่" ผู้อำนวยการการท่า กล่าว

    ตามแผนการก่อสร้างจะมีอาคารสำนักงาน 4 หลัง ในจำนวนนี้ 3 หลัง ดำเนินการโดยแลร์รี่ ซิลเวอร์สไตน์ นักพัฒนาที่เป็นผู้เช่าที่ดินก่อนเกิดเหตุวินาศกรรม

    ทางการแจ้งว่า ตึกจะเริ่มสร้างเมื่อมีแรงเศรษฐกิจผลักดัน เพราะดูจากสถานการณ์ตอนนี้ มีอาคารพาณิชย์หลายหลังในตัวเมืองที่ยังว่างอีกมาก

    แต่ซิลเวอร์สไตน์ กล่าวโทษว่า เป็นทางการท่ายืดเยื้อแผนงาน จนทำให้ประชาชนเสียความเชื่อมั่นในโครงการก่อสร้าง

    สําหรับผังอาคารที่ชนะการประกวดเมื่อปี 2546 จุดที่เป็นฐานตึกเดิมของอาคารเวิลด์ เทรด จะเป็นส่วนที่ปล่อยไว้ให้เหมือนเดิม เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์และเป็นเกียรติแก่เหยื่อผู้เสียชีวิต 2,800 ราย เมื่อปี 2544 หลังผู้ก่อการร้ายขับเครื่องบินชนตึกสองหลัง ถล่มลงมาภายในเวลา 2 ชั่วโมง

    แม้ว่าอาคารโดยรอบจะเต็มไปด้วยธุรกิจร้านค้า ภัตตาคาร ห้องแสดงศิลปะ ฯลฯ

    แดเนียล ลิเบสไคนด์ สถาปนิกผู้ชนะการออกแบบ กล่าวว่า เท่าที่ดูการก่อสร้างไปตอนนี้ หากอาคารสร้างเสร็จสิ้น ก็คงเป็นไปตามที่ตนตั้งใจออกแบบไว้

    "ความหวังและวิสัยทัศน์ของผมยังคงไม่เปลี่ยน ศูนย์กลางของพื้นที่ตรงนี้จะเป็นสถานที่บันดาลใจถึงคุณค่าอเมริกัน"

    ออสซี่ขอพระราชทาน"ฝนหลวง" แก้ภัยแล้งรัฐ"ควีนสแลนด์"



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อวันที่ 8 กันยายน ศาสตราจารย์อานนท์ บุณยะรัตเวช เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) แถลงความคืบหน้ากรณีหลายประเทศให้ความสนใจและแจ้งความจำนงที่จะขอนำกระบวนการทำ "ฝนหลวง" ซึ่งเป็นสิทธิบัตรของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและประเทศของตน ว่า ล่าสุดออสเตรเลียได้ส่งหนังสือแจ้งความจำนงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอใช้กระบวนการทำฝนหลวงในรัฐควีนสแลนด์

    ศ.อานนท์ ระบุว่า วช. จะทำหน้าที่ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ โดยเฉพาะสำนักพระราชวัง ท้ายที่สุดอยู่ที่พระบรมราชานุญาตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นอกจากนี้ ยังมีนิวซีแลนด์ติดต่อมาเช่นกัน การที่ต่างประเทศให้ความสนใจทำฝนหลวงแสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่แผ่กระจายไปทั่วโลก

    "การจะทำฝนหลวงจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญในการดำเนินการ ที่จะคอยเช็กความแม่นยำของปริมาณเมฆ น้ำ กระทั่งการคำนวณแรงลม เพื่อกำหนดให้ฝนตกในพื้นที่ที่ต้องการได้โดยต้องประสานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักฝนหลวงด้วย การที่ต่างประเทศจะขอใช้กระบวนการทำฝนหลวงนั้นต้องศึกษาในรายละเอียดว่าประเทศของเขามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน หรือทางประเทศไทยจะต้องจัดส่งผู้เชี่ยวชาญให้โดยตรง เรื่องนี้ต้องมีการจัดทำรายละเอียดที่ชัดเจน ก่อนจะทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตัดสินพระทัยว่าจะมีพระบรมราชานุญาตอย่างไร" ศ.อานนท์ กล่าว

    เลขาธิการ วช. เผยด้วยว่า นอกจากสิทธิบัตรฝนหลวงที่แสดงถึงพระอัจฉริยภาพของพระองค์ท่านแล้ว วันที่ 9 กันยายน เวลา 17.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ มีกำหนดการนำผู้แทนสมาพันธ์นักประดิษฐ์นานาชาติ สมาคมส่งเสริมการประดิษฐ์เกาหลีใต้ และองค์กรนักประดิษฐ์แห่งรัสเซีย เข้าเฝ้าฯเพื่อทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลนักประดิษฐ์โลกแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชวังไกลกังวล เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และชื่นชมในพระปรีชาสามารถการประดิษฐ์ โดยเฉพาะผลงานกังหันน้ำชัยพัฒนา และยังถวายพระราชสมัญญาจากองค์กรการประดิษฐ์นานาชาติว่าเป็น "พระบิดาแห่งการประดิษฐ์โลก"
    กฎหมายไฟเขียว18ปีผ่าตัดแปลงเพศ

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวในการประชุม เพื่อเตรียมความพร้อมและให้ความรู้ ความเข้าใจกับแพทย์ที่ทำการผ่าตัดแปลงเพศ เกี่ยวกับหลักเกณฑ์และข้อปฏิบัติอย่างถูกต้อง ในการรักษาเพื่อแปลงเพศให้กับประชาชนที่มีความต้องการทำศัลยกรรมแปลงเพศ ว่า ขณะนี้คณะกรรมการแพทยสภาได้พิจารณาเห็นชอบ ข้อบังคับแพทยสภา เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การรักษาเพื่อแปลงเพศ แล้วและได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับประกาศทั่วไป เล่ม 126 ตอนพิเศษ 77 ง วันที่ 29 พ.ค. 2552 แล้ว โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 25 พ.ย.นี้

    นพ.สมศักดิ์ กล่าว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม แพทยสภาจึงได้เชิญศัลยแพทย์ที่เกี่ยวข้องมารับทราบถึงหลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับแพทยสภาได้อย่างถูกต้อง ที่สำคัญ เมื่อทำการผ่าตัดแปลงเพศให้กับประชาชนที่มีความต้องการแล้ว มีความเชื่อมั่นต่อแพทย์ผู้รักษา และเชื่อมั่นต่อแพทยสภาว่าจะคุ้มครองสวัสดิภาพความปลอดภัยของประชาชนเป็นภารกิจหลักของแพทยสภา

    “ปัจจุบันได้มีประชาชนจำนวนหนึ่งที่มีความประสงค์จะทำศัลยกรรมผ่าตัดแปลงเพศ เพื่อให้เป็นไปตามสภาพจิตใจที่ตรงกับตนเอง แต่เนื่องจากกระบวนการในการผ่าตัดแปลงเพศนั้น อาจจะมีผลกระทบต่อร่างกาย จิตใจ และสังคม ของตัวผู้ป่วยเอง และยังส่งผลกระทบในข้อกฎหมายด้วย

    นพ.สัมพันธุ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า ได้ทำความเข้าใจกับศัลยแพทย์เกี่ยวกับข้อบังคับของแพทย์สภาที่จะบังคับใช้ในปลายปีนี้ มี 4 ขั้นตอนหลัก คือ1.การประเมินคนไข้ ว่ามีความพร้อมสมควรได้รับการผ่าตัดหรือไม่ ทั้งร่างกายและจิตใจ 2.การเตรียมคนไข้ ซึ่งต้องทำอย่างน้อย 1 ปี ดูเรื่องของสภาพจิตใจเป็นหลัก 3.การผ่าตัด และ4.การติดตามผลหลังการผ่าตัด สำหรับแพทย์ที่สามารถดำเนินการผ่าตัดแปลงเพศได้นั้น ต้องได้รับการขึ้นทะเบียนจากแพทยสภา และต้องเป็นศัลยแพทย์เท่านั้น

    “ส่วนการผ่าตัดแปลงเพศ กำหนดให้ทำให้ผู้ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี และผู้ที่มีเกณฑ์อายุระหว่าง 18-20 ปี การผ่าตัดต้องมีหนังสือยินยอมจากผู้ปกครอง ส่วนการแก้ไขข้อกฎหมายเพื่อเพิ่มสิทธิให้กับผู้ที่ผ่าตัดแปลงเพศแล้วนั้น หรือการผลัดกันพ.ร.บ.เพศที่ 3 นั้นถือเป็นหน้าที่ของกรรมการสิทธิ์มนุษย์ชน โดยทางแพทยสภายินดีให้ความคิดเห็นเรื่องการผ่าตัดที่ในอนาคตอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนทั้งการทำบัตรประชาชน หนังสือเดินทาง การเกณฑ์ทหาร”

    ไทยพบผู้ป่วยมาลาเรียพันธุ์ใหม่แล้ว 3 ราย

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>

    จากกรณีที่นักวิจัยมหาวิทยาลัยมาเลเซีย ซาราวัก ได้ค้นพบเชื้อมาลาเรียสายพันธุ์ใหม่ที่ติดต่อจากปรสิต Plasmodium knowlasi ซึ่งปกติเป็นโรคติดต่อในลิงโดยเฉพาะลิงกัง และลิงแสม อยู่แล้ว แต่กลับแพร่เชื้อสู่คน ซึ่งมีความรุนแรงหากไม่ได้รับการรักษา ทำให้เสียชีวิตได้ภายใน 24 ชั่วโมง โดยมีชาวมาเลเซียป่วยแล้ว กว่า 100 คน และเสียชีวิตแล้ว 2 คนนั้น

    นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึง ว่า ได้สั่งการให้กรมควบคุมโรค เร่งตรวจสอบการระบาดของโรคมาลาเรียสายพันธุ์ใหม่ ว่ามีการแพร่เชื้ออย่างไร การแพร่เชื้อรุนแรงหรือไม่ และสามารถรักษาได้อย่างไร เพราะเป็นโรคติดต่อใหม่ เพื่อให้เตรียมการป้องกันและรักษาได้อย่างรวดเร็ว โดย เชื้อพลาสโมเดียม โนซี่ นี้ นับเป็นเชื้อมาลาเรียชนิดที่ 5 ที่พบในคน พาหะนำโรคมาจากยุงก้นปล่องเช่นเดียวกับเชื้ออีก 4 ชนิดที่พบมาก่อน ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่อยู่ตามแนวชายแดน ซึ่งเป็นพื้นที่พบมาลาเรียมาก เฝ้าระวังเชื้อนี้เป็นพิเศษ

    นายวิทยา กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทย เบื้องต้น ได้รับรายงานว่า ในปีนี้มีคนไทยติดเชื้อและมีอาการป่วยแล้ว 3 ราย คือ ยะลา 2 ราย และจันทบุรี 1 ราย โดยทีมแพทย์ได้เจาะเลือดเพื่อตรวจพิสูจน์หาเชื้อปรสิตจึงทราบว่าติดเชื้อมาลาเรียนสายพันธุ์ใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาโดยให้ยารักษาตามปกติ และอาการหายเป็นปกติแล้ว อย่างไรก็ตาม แต่จากการสอบสวนโรคยังไม่ทราบว่าผู้ป่วยทั้ง 3 รายติดเชื้อมาลาเรียสายพันธุ์ใหม่ได้อย่างไร ทั้งนี้ โรคนี้ป้องกันได้ด้วยการป้องกันไม่ยุงก้นปล่องกัด โดยนอนในมุ้ง ทายากันยุง หลีกเลี่ยงการเข้าป่าเขาโดยไม่จำเป็น และหากมีไข้หนาวสั่น ปวดศีรษะ หลังกลับออกจากป่าหรือพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคมาลาเรีย ให้รับพบแพทย์ทันที

    นพ.วิชัย สติมัย ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อนำโดยแมลงกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคมาลาเรียสายพันธุ์ใหม่ เป็นโรคระบาดในเกาะบอร์เนียว ประเทศมาเลเซียมานานหลายปีแล้ว และประเทศไทยเคยมีผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคนี้รายแรกเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว อยู่ที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ และเข้ารักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ แต่หลังจากนั้นก็ไม่พบผู้ป่วยโรคนี้อีก จนกระทั่งในปีนี้ พบผู้ป่วย 3 ราย ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมที่ผ่านมา และจากการคัดกรองโรคโดยการเจาะเลือดของผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ป่วยทั้ง 3 ราย ก็ไม่พบว่ามีผู้ป่วยเพิ่มอีก ทั้งนี้ โรคมาลาเรียสายพันธุ์ใหม่ที่ติดเชื้อจากลิงมาสู่คนนั้นโดยมียุงก้นปล่องเป็นพาหะนั้น เรียกว่าเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนเท่านั้นยังไม่ถือว่าเป็นการกลายพันธุ์ ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมอย่างละเอียด

    “โรคมาลาเรียชนิดใหม่นี้ มีความแตกต่างจากสายพันธุ์เดิม คือ เมื่อเชื้อปรสิตเข้าสู่ร่างกายแล้ว สามารถแบ่งตัวในกระแสเลือดเพิ่มจำนวนปริสิตได้ในเวลารวดเร็วขึ้น จากเดิมที่เมื่อคนติดเชื้อจะมีการฟักตัวใช้เวลา 7-14 วัน จึงจะแสดงอาการ ป่วยไข้สูง หนาวสั่น แต่มาลาเรียสายพันธุ์ใหม่ เมื่อติดเชื้อแล้วจะแสดงอาการภายใน 7 วัน แต่หากปล่อยทิ้งไว้ไม่รีบรักษา อาจทำให้เกิดภาวะไตวาย ตับวายได้ เพราะเชื้อปริสิตที่ฟักตัวในร่างกายจะเติบโตและไปอุดตันอยู่ตามเส้นเลือดฝอยบริเวณไต ตับ ทำให้อวัยวะเหล่านี้ทำงานไม่ได้ และเสียชีวิตในที่สุด อย่างไรก็ตาม ไม่ถือว่ารุนแรง เพราะหากเริ่มมีอาการป่วย หนาวสั่นให้รีบพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยด้วยการเจาะเลือด ส่วนการรักษาสามารถใช้ยารักษาโรคมาลาเรียที่มีอยู่เดิมรักษาได้ โดยทานยาติดต่อกัน 3 วัน ก็จะหายป่วย” นพ.วิชัย กล่าว

    ทำบุญตักบาตรหนังสือ ภูมิใจทั้งผู้ให้-ถูกใจทั้งผู้รับ



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>"หนังสือ" ถือได้ว่าเป็นอาหารสมองชั้นเยี่ยมแก่ผู้อ่าน ทุกเพศทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ ด้วยหนังสือ เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญที่เพิ่มพูนความรู้ในด้านต่างๆ ให้กับผู้อ่านได้เป็นอย่างดี

    โดยเฉพาะกับพระภิกษุ ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้สืบทอดและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ที่เปรียบเสมือนแสงสว่างแห่งปัญญาให้กับสังคมไทยมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

    ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว ได้ริเริ่มจัดกิจกรรม "ใส่บาตรหนังสือ" โดยเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญ ใส่บาตรหนังสือ ให้พระภิกษุ นักการศึกษา กว่า 100 รูป ได้เลือกหนังสือตามที่ต้องการตามอัธยาศัย ได้เริ่มทำครั้งแรก เมื่อครั้งเปิดศูนย์หนังสือจุฬาฯ สาขาจัตุรัสจามจุรี เมื่อ 28 สิงหาคม 2551

    การจัดกิจกรรมในครั้งนั้นได้รับการตอบรับจากชาวไทย ตลอดจนสำนักพิมพ์ต่างๆ ที่ร่วมกันทำบุญใส่บาตรหนังสือกันเป็นจำนวนมาก

    "ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" จึงได้จัดครั้งที่ 2 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2551 <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    และในโอกาสวันครบรอบ 1 ปี ของศูนย์หนังสือจุฬาฯ-จัตุรัสจามจุรี จึงได้จัดกิจกรรม "ทำบุญ 9 วัด ใส่บาตรหนังสือ" ขึ้นอีกครั้ง โดยเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมทำบุญให้พระภิกษุ นักการศึกษา และสาม เณร ได้เลือกหนังสือแบบภูมิใจทั้งผู้ให้ ถูกใจทั้งผู้รับ

    รศ.ดร.ดนุชา คุณพนิชกิจ รองอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะประธานกรรมการบริหารศูนย์หนังสือจุฬาฯ กล่าวว่า "กิจกรรมนี้ เราได้จัดมาแล้ว 2 ครั้ง และได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากทั้งผู้ให้และผู้รับเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดครั้งที่ 3 โดยเน้นรูปแบบเหมือนเดิม คือ การเปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเป็นปัจจัย และเราก็จะจัดทำเป็นคูปองเพื่อถวายพระภิกษุสงฆ์ในวันงาน ซึ่งเรานิมนต์มาจาก 9 วัด จำนวน 90 รูป จุดเด่นที่สำคัญ คือ ให้พระท่านได้มีโอกาสเลือกหนังสือที่สนใจ ตามความต้องการของท่าน ถ้าถวายเองก็อาจจะไม่ตรงตามความต้องการ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งในการมอบของสิ่งใดก็ตาม หากตรงความต้องการของผู้รับมอบแล้ว ก็ย่อมจะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง"

    พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) พระนักเทศน์ชื่อดัง กล่าวว่า "ทุกวันนี้ชาวพุทธไทยนิยมถวายปัจจัย 4 แก่พระภิกษุสงฆ์เยอะมาก จนกระทั่งบางวัดเรียกได้ว่าเหลือกินเหลือใช้ แต่เราลืมไปว่าบางสิ่งบางอย่างที่เราควรจะถวาย แต่เราไม่ได้ถวายท่านนั้น คือ การถวายความรู้ เราต้องช่วยกันถวายความรู้แก่พระภิกษุสงฆ์ สามเณร ถ้าหากพระภิกษุสงฆ์ของเรามีความรู้มาก ท่านก็จะกลายเป็นพระที่ประ พฤติดี ปฏิบัติดี มีศักยภาพในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา"

    "เราสร้างพระที่เป็นปัญญา ชนขึ้นมาหนึ่งรูป มีอานิสงส์ยิ่งกว่าสร้างโบสถ์ สร้างวิหาร เราควรหันมาช่วยกันสร้างพระเป็นๆ ที่เทศน์ได้สอนได้และจุดตั้งตัวที่สำคัญที่สุดนั่นคือการถวายความรู้แก่ท่านก่อน ถ้าท่านมีความรู้ ท่านจะได้นำองค์ความรู้นั้นเองมาเผยแพร่ออกสู่สังคม สาธารณชน ให้สังคมไทยของเราเป็นสังคมอุดมปัญญา"

    สอดคล้องกับ พระมหา ดร.คลองธรรม ธัมมาโภ จากวัดชลประทานรังสฤษฏ์ จบการศึกษาระดับเปรียญธรรม 9 ประโยค และระดับปริญญาเอก ได้มาร่วมเลือกหนังสือในกิจกรรมนี้ กล่าวในฐานะผู้รับว่า "นอกจากหนังสือธรรมะ ที่ต้องใช้ศึกษาแล้ว อาตมายังชอบอ่านหนังสือนิยายอีกด้วย เพราะในนิยายจะให้ข้อคิดแง่มุมต่างๆ จากนิสัยของตัวละคร ซึ่งเราสามารถนำมาตีความและเป็นคำสอนแก่ประชาชนได้ เพราะฉะนั้น การถวายหนังสือ ถือเป็นการถวายโลกแห่งจินตนาการ ความหมายของหนังสือ คือ ทะเลสาบแห่งตัวอักษร มหานครแห่งการสื่อสาร สะพานแห่งความรู้ เป็นครูที่จริงใจ เป็นฟืนแห่งไฟปัญญา พระที่ได้รับความรู้จากหนังสือ ก็จะเป็นสื่อกลางไปถ่ายทอด ใส่สมองให้กับคนถวาย ให้กับประชาชนทั่วไป"

    การทำบุญใส่บาตรหนังสือ ถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ เป็นการถวายอาหารสมองแก่พระภิกษุอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใส่บาตรหนังสือโดยการให้ท่านได้เลือกสรรหนังสือตามที่ท่านต้องการ ตามอัธยาศัยนั้น ย่อมจะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด เพราะความรู้จากหนังสือที่พระภิกษุสงฆ์ได้เลือกเพื่อนำไปศึกษาปฏิบัตินั้น และนำมาเผยแพร่ เป็นคำสั่งสอน เตือนใจ ให้พุทธศาสนิกชนได้ถือเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ

    นำไปช่วยกันจรรโลงสังคมไทยให้ยั่งยืนสืบไป

     
  8. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775

    เห็นด้วยในประเด็นเรื่อง ที่เกิดถกกันนั้น ทำให้เกิดการถกเถียงกันไม่รู้จบครับ

    เพราะบางครั้งประเด็น การตีความในธรรมนั้น

    บางท่านใช้หลักปริยัติจากตำรา

    บางท่านใช้หลักจากการปฏิบัติ

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติ ที่ "ใจ"

    อันไม่อาจตัดสินจากภายนอกได้ นอกจากท่านผู้มี เจโตปริยญาณ หรือภูมิจิตภูมิธรรมครับ


    ดังนั้นขอให้ระงับประเด็นนี้ ในกระทู้นี้และหาก มีผู้สนใจในประเด็นดังกล่าว ก็ขอให้ลองขึ้นกระทู้ ในห้องพระพุทธศาสนาได้ครับ

    เพื่อให้ได้นำเสนอ ข้อมูลเรื่อง ภัยพิบัติกันต่อครับ
     
  9. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    มาดูประเด็นในส่วนที่กระทู้นี้ช่วยมีส่วนเตือนไม่ให้ผู้คนไม่ประมาทใน

    -ความไม่เที่ยงของสรรพสิ่ง

    -ความไม่เที่ยงของชีวิต

    -ความแปรปรวนเป็นนิจในธรรมชาติ

    และที่สำคัญ เห็น เหตุแห่งการเกิดภัยพิบัติ ความทุกข์ สงคราม การเบียดเบียนกัน อันเกิดขึ้น จากความเสื่อมแห่งศีลธรรมและความโลภ ความโกรธ ความเกลียดชังกัน ความหลงในวัตถุ จนลืมเลือน

    ศีลธรรม คุณธรรม เมตตาธรรมกัน

    แม้ในธรรมมะเอง หากเรามุ่งให้ ตนเองและผู้อื่น เจริญในธรรมยิ่งขึ้นไป การแสดงออกก็จะนุ่มนวลอ่อนโยน

    เห็นความเอื้อเฟื้อในธรรมซึ่งกันและกันครับ
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    [​IMG]

    2 ปีที่ว่านี้ก็คือปี ค.ศ.1998-1999 ตามที่นอสตราดามุส ได้ทำนายเอาไว้นั่นแหละครับ เพราะสาส์นของหลวงปู่ใหญ่ฉบับนี้ สื่อสารมาในปี ค.ศ.1996 ครับ แต่ว่าเหตุการณ์นี้ได้ถูกเลื่อนออกมาประมาณ 15 ปี ตามที่ผู้รู้หลายๆท่านได้บอกมา จึงหมายถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในปี ค.ศ.2012-2014 นี้ครับ

    ถ้าพิจารณาดูจากปฏิทินของชาวมายา ที่บอกว่าอารยธรรมของมนุษย์จะสิ้นสุดลงในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ.2012 หรือแกนขั้วแม่เหล็กโลกจะพลิกกลับด้าน ในปี ค.ศ.2012 หรือเศษของดาว Planet X NIBIRU จะมาชนโลกในปี ค.ศ. 2012 หรือเรื่องที่มนุษย์ต่างดาวมาเตือนว่าในปี ค.ศ.2012 จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบสุริยะจักรวาลของเรา ก็มีความเป็นไปได้สูงมากว่าเหตุการณ์ที่หลวงปู่เทพโลกอุดร ท่านได้เตือนมานั้น ก็อาจจะหมายถึงปี ค.ศ.2012-2014 นี้ก็เป็นได้ครับ

    ข้อมูลเรื่องของดาว Planet X NIBIRU
    (ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ)

    หลายท่านอาจเคยทราบเรื่องราวนี้มาแล้ว ผมแน่ใจว่าอีกหลายๆท่านยังไม่เคยจะได้ยินได้ฟังเรื่องนี้มาก่อน ก่อนอื่นผมขอถามท่านผู้อ่านว่า ถ้าหากเราทราบว่าวันสุดท้ายของเรามาถึงเราจะทำอะไรในวันเวลาที่เหลืออยู่....

    สำหรับผม ผมขอบอกว่าผมจะอยู่กับคนที่ผมรัก ครอบครัวของผม.....ถ้าถึงวันที่สิ้นโลกเราก็จะอยู่ด้วยกันจนชั่ววินาทีแห่งกัลปวสาน... หลายวันมานี้ผมเข้าไปอ่านเรื่อง 2012 The end of the earth.....ตามลิ้งค์ข้างล่างนี้
    http://www.youtube.com/watch?v=OW6jtcl0xkU

    อ่านและชมไปหลายลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง จับใจความพอคร่าวๆได้ว่า... ขณะนี้ดาวที่ชื่อว่า Planet X NIBIRU ที่มีวงโคจรตัดกับวงโคจรของโลกเรา จะตัดผ่านมาใกล้โลกอีกครั้ง ดาวดวงนี้จะผ่านมาที่วงโคจรของเราทุกๆ 3,600 ปี นั่นอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ทวีปแอตแลนติกหายไป นั่นอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดเรื่องโนอาร์กับเรือสมัยน้ำท่วมโลก

    ดาวดวงนี้จะเข้ามาใกล้โลกเรื่อยๆ ปี 2009 จะสามารถมองเห็นทางขั้วโลกใต้ด้วยกล้องส่องดาว ปี 2011 จะสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ขนาดเท่าดวงจันทร์ของเรา ดาวดวงนี้เป็นสีแดง ปี 2012 จะเริ่มมีปฏิกริยาต่อมวลสภาพอากาศบนโลก เศษหินในอวกาศที่มากับดาวนิบิรุจะตกลงมาบนพื่นโลก เป็นฝนดาวตกอันตรายต่อมวลชีวิตทั้งโลก

    วันที่ 21 ธันวาคม 2012 หายนะครั้งยิ่งใหญ่จะเกิดบนพื้นแผ่นดิน อย่างใครไม่เคยคาดคิดมาก่อน วัน14 กุมภาพันธ์ 2013 วันนั้นเป็นวันที่ โลก +นิบิรุ+ดวงอาทิตย์ โคจรมาอยู่แนวแกนเดียวกัน แกนแม่เหล็กโลกจะเปลี่ยนไป

    โลกจะหยุดหมุนรอบตัวเอง 3 วัน แผ่นดินจะแยกตัวเป็นเสี่ยง น้ำทะเลจะเป็นคลื่นมหาอภิสึนามิ ถล่มตามเมืองชายทะเลทุกแห่ง เมื่อแผ่นดินเคลื่อนตัวตามเปลือกโลก ลาวาก็จะทะลักขึ้นมาเกิดเป็นภูเขาไฟระเบิดมากมาย แผ่นดินที่เคยอยู่ใต้ท้องน้ำก็จะโผล่มาอยู่เหนือน้ำ ที่เคยเป็นยอดเขาอาจจะยุบตัวลงไปเบื้องล่าง แน่นอนผู้คนหลายล้านชีวิตต้องจบลง บ้านเมืองถล่มทลายไม่เหลือหลอ เราจะไปหลบภัยที่ไหนได้?.........

    เหตุการณ์ที่เลวร้ายเกินกว่าเราจะสามารถบรรยายถึงได้ จะเกิดขึ้นจนถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2014 ดาวนิบิรุก็เริ่มเคลื่อนตัวห่างจากโลกเราไปเรื่อยๆ โลกเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ......ถึงเวลานั้นจะเหลือผู้รอดชีวิตสักกี่คน? ปี 2014 เป็นจุดเริ่มต้นของมนุษชาติอีกครั้งหนึ่ง เรื่องนี้จะเป็นจริง จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ อีกไม่นานเกินรอ ไม่เกินสามปีดาวที่มีชื่อว่า นิบิรุ NIBIRU ก็จะโผล่มาให้เห็นแล้ว ถ้ามันโผล่มาให้เห็นจริง เริ่มที่ขั้วโลกใต้ แสดงว่าคำทำนายของนักดาราศาตร์นั้นเป็นจริง....เข้าแล้ว

    ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องรักกันให้มาก เวลามีเหลืออยู่น้อย ใครจะทะเลาะกันเรื่องอำนาจบารมีอะไรก็ช่างเขาเถอะครับ ถึงวันแห่งโลกาวินาศมาถึง อำนาจบารมี เงินทอง ก็ไม่สามารถปกป้องใครได้....

    จาก นายหิน

    ที่มา http://www.weekendhobby.com/offroad/trip/Question.asp?ID=3469
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2009
  11. jho7799

    jho7799 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +71
    ขอย้ำนะครับ ผมมิได้มีเจตนาใดที่จะทำให้ผู้อื่นเดือดเนื้อร้อนใจหรือลองภูมิ
    อย่าตัดสินที่ตัวหนังสือนะครับตัดสินที่ตัวเจตนาแล้วคุณจะมารู้ดีกว่าจิตใจของผมได้ยังไง ผมถามเพราะผมไม่รู้ถึงได้ถาม
    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ ผมเพ่งโทษตัวเองอยู่เสมอขณะพิมพ์มีสติอยู่เสมอไม่เคยคิดเอาบาปมาใส่ตัว ผมรู้อย่างเดียวนะครับว่าทำอย่างไรก็ต้องได้รับผลอย่างนั้น ไม่ใช่อารมณ์มาอยู่เหนือจิต ขอขอบคุณ คุณเกษมด้วยนะครับ
    ที่ให้คำแนะนำ
     
  12. panseak

    panseak Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +30
    เท่าที่ผมคิดออกเผ่ามายันเป็นเผ่าที่มีความสามารถในเรื่องการคำนวณที่แม่นยำมาก
    แล้วก็ชำบาญเรื่อง ดาราศาสตร์ซึ่งแม่นยำและใช้อ้างอิงได้เป็นแสนๆปีที่ฏิทิยมายานับ
    ถอยหลังอาจจะเป็นเพราะเมื่อดาวแดงผ่านไปผู้ที่รอดชีวิตก็ได้บันทึกเป็นปฏิทินไว้โดย
    นับถอยหลังว่ามันจะมาอีกเมื่อไหร่เพื่อบอกให้เผ่าพันธุ์ในรุ่นหลังได้เตรียมตัวรับมือ
    หลังจากที่พวกเขาได้ประสบกันมาแล้ว
    ปล.ขออนุโมทนาคุณเกษมและคนอื่นๆที่ให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการเตือนภัยเสมอมาครับ
     
  13. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,703
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** เราน่าจะเริ่มต้นกันใหม่ ****

    คนไทยด้วยกันแท้ๆ ....ไม่น่าต้องแตกแยกความคิด
    ถ้าเราใช้ความจริง... เราก็จะไม่แตกแยกเป็นหลายฝ่าย
    ประเด็นปัญหาของศาสนา....อยู่ที่ความเห็นบางอย่าง เรากลับคิดว่ามันคือความจริง
    แต่ พระพุทธเจ้ายังสอนเอาไว้... อย่าพึ่งเชื่อคำพูดของพระองค์ ต้องพิจารณาพิสูจน์ก่อนว่า มันจริงไหม

    สาเหตุหลัก....ที่ทำให้ศาสนาแตกแยกไปหลายส่วน
    มาจาก...อดีตครั้งหนึ่ง ผู้มีอำนาจบางกลุ่มไม่อยากทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
    เพราะ ....พระพุทธเจ้า สอนให้ตัดลดกิเลสนิสัยด้วยสัจจะ
    แต่ เขาทำไม่ได้ เพราะเสียดายสิ่งที่สะสมเอาไว้
    เขาจึงเริ่มเปลี่ยนแปลงคำสอน ไม่เอาสัจจะที่พระพุทธเจ้าสอน
    แต่หันกลับไปใช้ถือศีล ที่มีมานานก่อนพระพุทธเจ้าประสูติ
    จากนั้นมา สัจจะคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็เริ่มหดหายไป
    เหลือให้เห็นอยู่เพียง หนึ่งในบารมีสิบ
    แต่สัจจะทำที่พระพุทธเจ้าสั่งสอน ยิ่งใหญ่กว่าที่ชาวพุทธยุคนี้เข้าใจ
    เพราะ สัจจะ สามารถเปลี่ยนแปลงนิสัย ลดนิสัยสันดานมนุษย์ได้จริง
    ทุกท่านต้องพิจารณา และพิสูจน์ด้วยตนเอง ว่าจริงไหม
    ถ้าเราเถียงกันด้วยตำรา ก็ไม่มีวันจบสิ้น
    ต้องนำไปทดลองเอง จึงจะพบได้เอง
    ในเรื่องสัจจะทำของพระพุทธเจ้า

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กันยายน 2009
  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,703
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** เหตุหลังปรินิพาน ****

    เหล่ากษัตริย์ยุคนั้น กับ พระอรหันต์...ใครจะมีอิทธิพลในสังคมมากกว่ากัน !!!!
    ใครเป็นผู้มีอำนาจควบคุมกฎระเบียบบ้านเมือง....ประชาชนจะต้องทำตามใครก่อน !!!
    การสังคยานา จึงเกิดขึ้นมา...พระที่ยังคงปฏิบัติตามสัจจะทำพระพุทธเจ้า ก็ต้องถอยแยกหนีออกมา เข้าไปอยู่ตามป่าตามเขา

    น่าสงสาร ศาสนาพระโคดม
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ปภ.เตือน 15 จังหวัดรับมือภาวะฝนตกหนัก ระหว่างวันที่ 12-15 ก.ย.นี้

    [​IMG]

    กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเตือน 15 จังหวัด เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ภาวะฝนตกหนัก ระหว่างวันที่ 12-15 กันยายนนี้ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย 15 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร เลย หนองบัวลำภู หนองคาย แพร่ น่าน สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ เชียงราย และพะเยา

    เตรียมรับมือภาวะฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ในระหว่างวันที่ 12-15 กันยายน 2552 พร้อมประสานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง และจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์พร้อมให้ความช่วยเหลือทันทีที่เกิดภัย หากประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถติดต่อแจ้งเหตุได้ทางสายด่านนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

    11 ก.ย. 52 17.05 น

    ที่มา http://news.sanook.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • -rain.jpg
      -rain.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.7 KB
      เปิดดู:
      1,430
    • 34139.jpg
      34139.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31.8 KB
      เปิดดู:
      74
  16. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ไทยพบผู้ป่วยมาลาเรียสายพันธุ์ใหม่แล้ว3ราย


        • [​IMG] 11 ก.ย. 52 14.58 น.
        • [​IMG] อ่าน <script type="text/javascript" src="http://app.sanook.com/weblog/counter/js/?site_id=71&weblog_id=21&entry_id=825119"></script>1,200 ครั้ง
      • เลือกขนาดตัวอักษร : [​IMG] [​IMG]
    • [​IMG] สนับสนุนเนื้อหา
    [​IMG]
    ไทยพบผู้ป่วยมาลาเรียสายพันธุ์ใหม่แล้ว3ราย
    เผยเกิดจากเชื้อ พลาสโมเดียม โนวซี ที่ก่อโรคในลิงก่อนแพร่มาสู่คน ด้าน วิทยา ระบุ รักษาหาย
    ที่กระทรวงสาธารณสุข วันนี้(11 ก.ค.) นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่ มีรายงานนักวิจัยมหาวิทยาลัยมาเลเซีย ค้นพบเชื้อมาลาเรียสายพันธุ์ใหม่ 'พลาสโมเดียม โนวซี่' ที่เดิมติดต่อเฉพาะในลิงเท่า นั้น แต่กลับพบติดต่อมาสู่คน ว่า กรณีดังกล่าวได้สั่งการให้สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งเฝ้าระวังผู้ป่วยในประเทศ ซึ่งพบว่าที่ผ่านมาประเทศไทยมีผู้ป่วยด้วยเชื้อมาลาเรียสายพันธุ์ใหม่ 3 ราย โดย 2 รายพบที่ อ.เบตง จ.ยะลา และอีก 1 รายเป็นผู้ป่วยใน จ.จันทบุรี ซึ่งทั้งหมดได้หายป่วยเป็นปกติแล้ว และไม่พบวงจรการแพร่ระบาดอีก
    ทั้งนี้ โรคมาลาเรียสายพันธุ์ใหม่นี้ มียุงก้นปล่องเป็น พาหะ มีอาการไม่แตกต่างจากเชื้อมาลาเรียปกติทั่วไป คือมีอาการหนาว สั่น เพียงแต่จะปรากฏอาการที่เร็วกว่า ภายใน 24-48 ช.ม. โดยมียุงก้นปล่องเป็นพาหะเช่นกัน อย่างไรก็ตาม หากใครที่มีอาการเหมือนโรคมาลาเรียให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
    'แม้ว่าจะมีการพบเชื้อมาลาเรียสายพันธุ์ใหม่ แต่ยืนยันว่าในประเทศไทยไม่มีการแพร่ระบาด และขาดช่วงพบผู้ป่วยไปนานแล้ว อย่างไรก็ตาม โรคนี้ไม่ร้ายแรง และมียาสามารถรักษาให้หายขาดได้' รมว.สาธารณสุข กล่าว และว่า ทั้งนี้ประชาชนควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ยุงกัด โดยการทายากันยุง และสวมใส่เสื้อที่ปกปิดร่างกายป้องกันยุงกัด.
     
  17. k_isara

    k_isara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +119
    11 ก.ย. 52

    ข้อสังเกตุ

    5 ก.ย.47 3 ปลายักษ์
    จะเกิดภัยทางน้ำ 3 ครั้ง

    26 ธ.ค. 47 เกิดซึนามิครั้งแรก

    2 ม.ค. 48 ปลาอานนท์ 2 อยู่ใต้ไข่ดาว
    ภัยทางน้ำครั้งที่ 2 จะเกิดกับพื้นดินที่มีน้ำล้อมรอบ

    27 ก.พ. 50 ตามหลังปลายักษ์ ตัวที่ 2
    เมื่อเกิดภัยทางน้ำครั้งที่ 2 ให้รีบหนีขึ้นที่สูง

    16 ก.ย. 51 เรื่องเล่าจากภาพ การทะเลาะวิวาท ผู้นำจากคนนอกที่เก่งการเงิน
    แผ่นดินไหว

    เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ให้ระวังจะเกิดแผ่นดินไหวตามมา

    อย่าอยู่ที่สูง เพราะคิดว่าที่สูงจะปลอดภัยเสมอไป ต้องอยู่ในที่ๆมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองท่านได้ ท่านต้องมีความดีพอด้วยถึงจะปลอดภัย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2009
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เค้าลางของสงครามกลางเมือง....เริ่มเกิดขึ้นแล้ว

    ผู้ดำเนินรายการขอให้วิเคราะห์สถานการณ์ ที่กำลังจะมีการชุมนุมของเสื้อแดงในวันที่ 19 ก.ย.นี้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวว่า จะเป็นเหตุการณ์ที่ร้อนแรงที่สุดช่วง 15-30 ก.ย.เป็นต้นไป อาจจะร้อนแรงกว่าช่วงเมษาฯ เพียงแต่จะร้อนแรงรูปแบบไหน ขณะนี้เป็นกระบวนการกฐินสามัคคีแล้ว บางฝ่ายไม่ชอบขี้หน้ากัน ก็จะร่วมมือกัน เพื่อไม่ให้พวกเขาตาย แม้แต่ตอนนี้ยังมีข่าวกระบวนการยิงผมขึ้นอีกครั้ง ก็จากคนสีเขียวนั่นล่ะ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทราบว่ามือวางระเบิดจากใต้ขึ้นมาหลายคนแล้ว ตนเองก็มีการข่าวเหมือนกัน เอเอสทีวีก็เป็นเป้าที่เขาจะบุก แต่เป็นโอกาสสุดท้ายของเขา

    ที่มา http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9520000105943

    คำทำนายของหมอนิด

    แต่ในเร็วๆนี้อยากจะให้ระวัง.. “สีเขียวเสียดสี”...กันอย่างรุนแรงจะเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดและผลจากการเสียดสีกันในครั้งนี้จะเกิด “ประกายไฟ” ขึ้นอย่างน่ากลัว...บ้านเมืองคงต้องบอบช้ำที่เกิดจากการ “เสียดสี” กันของ “สีเขียว”...เศรษฐกิจช้ำหนักขึ้น...ตลาดหุ้นสะเทือนอย่างรุนแรง... “คนเป็นใหญ่”จะเสียชีวิต... “ตะขาบเหล็ก”จะวิ่งพล่านทั่วเมือง...เสียงปืนดังไปทั่ว...เสียงระเบิดเกิดขึ้นเป็นแห่งๆ กองกำลังไม่ปรากฏสัญชาติจะร่วมกับแดงไม่ธรรมดา...ผู้คนจะล้มตาย...บุคคลระดับ VIP จะบินออกนอกประเทศ...ความชุลมุนวุ่นวานจะเกิดไปทั่ว...มองหาคน “รูปหล่อ” ไม่เห็นไม่รู้ใครเป็นใคร...หากมัวแต่ทะเล่อทะร่าก็จบสิ้นทั้งอินทรีย์...ตาอินกะตานา...มัวแต่ทะเลาะกัน...ตาอยู่มาเดี๋ยวเดียวคว้าพุงปลาไปกิน

    ที่มา http://forum.serithai.net/viewtopic.php?f=2&t=9556&start=0

    คำทำนายของ อ.ปริญญา ตันสกุล

    “ตุลาอาถรรพ์ วันมหาสงคราม เจ้ากรรมนายเวร” มั่นใจเหตุร้ายเกิดแน่ แนะสร้างสมาธิ<WBR>หมู่เตรียมรับมือ

    บรรยายเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2552 ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 6 ตึกทองบริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ถ.พระราม 3 กรุงเทพฯ


    ********************************************
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อุตุฯเตือนภัยอิทธิพลจากพายุมูจิแกทำให้ตอนบนของไทยมีฝนตกหนักบางพื้นที่</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>12 กันยายน 2552 05:41 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนภัย ลงวันที่ 11 กันยายน 2552 พายุโซนร้อน “มูจิแก (Mujigae)” เมื่อเวลา 22.00 น. วันนี้ มีศูนย์กลางอยู่บริเวณอ่าวตังเกี๋ย ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม ประมาณ 200 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 19.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 107.2 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้จุดศูนย์กลาง ประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    พายุนี้เคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งในแนวเมืองทันหวา ประเทศเวียดนาม ในเสาร์ (12 ก.ย.52) ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในระยะ 2-4 วันนี้ โดยที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2552 เป็นต้นไป

    สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ที่ลุ่มของจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนที่ตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ในระยะ 2-3 วันนี้ ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย

    ที่มา http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9520000106040
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SEch2.jpg
      SEch2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.3 KB
      เปิดดู:
      1,264
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    วิเคราะห์ข่าว.....

    [​IMG]

    แก๊งต่างชาติฉกทองแท่งเสี่ยร้านแอร์ 55 บาท

    กรุงเทพฯ 10 ก.ย. - แก๊งชาวต่างชาติก่อเหตุฉกกระเป๋าบรรจุทองคำแท่ง น้ำหนักรวม 55 บาท มูลค่าเกือบ 900,000 บาท จากรถยนต์เสี่ยร้านจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องทำความเย็น

    นายสมชาย นันทนาชัย อายุ 68 ปี เจ้าของร้านจำหน่ายอะไหล่แอร์ ตู้เย็น และอุปกรณ์เครื่องทำความเย็นทุกชนิด ย่านประเวศ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ หลังถูกแก๊งคนร้ายชาวต่างชาติฉกกระเป๋าบรรจุทองคำแท่ง น้ำหนัก 55 บาท มูลค่ากว่า 880,000 บาท จากรถยนต์ที่จอดไว้ในลานจอดรถของห้างซีคอนสแควร์ สาขาศรีนครินทร์

    นายสมชาย ให้การว่า ถอนเงินจากธนาคารแห่งหนึ่ง จำนวน 900,000 บาท นำไปซื้อทองคำแท่ง มูลค่า 880,000 บาท ที่ร้านทองฮั่วเซ่งเฮง ใส่กระเป๋าหิ้วเดินออกจากร้านไปลานจอดรถ ขณะถึงประตูชั้น 1 ซึ่งเป็นทางออกติดกับธนาคารกรุงเทพ มีชายชาวต่างชาติพ่นสีใส่ทางด้านหลัง แต่ไม่เอะใจ เมื่อเดินไปถึงรถยนต์ได้วางกระเป๋าใส่ทองไว้เบาะนั่งข้างคนขับ แล้วอ้อมไปเปิดประตูหลัง เพื่อหยิบกระดาษชำระ ระหว่างนั้นมีชาวต่างชาติ 2 คน เดินตรงมาทางตน แล้วทำเหรียญหล่นประมาณ 10 เหรียญ เพื่อให้ตนสนใจ โดยไม่ทันสังเกตว่า ชายอีกคนเดินอ้อมไปเปิดประตูด้านที่นั่งคนขับ แล้วหยิบกระเป๋าใส่ทองคำแท่ง ก่อนวิ่งหลบหนีไป

    จากการตรวจสอบภาพจากกล้องซีซีทีวี หน้าธนาคารกรุงเทพ พบชายต่างชาติลักษณะศีรษะล้าน สวมเสื้อยืดสีฟ้า กางเกงยีนส์ เป็นผู้ฉีดสีใส่หลังนายสมชาย และจากการตรวจสอบบริเวณลานจอดรถ ยังพบรองเท้ายี่ห้อรีบ็อกและลิปสติกสีแดงตกอยู่ ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน รวมทั้งเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามไล่ล่าคนร้ายมาดำเนินคดี. - สำนักข่าวไทย

    2009-09-10 01:42:48

    ****************************************************

    วิเคราะห์ข่าว....

    ข่าวนี้อ่านผ่านๆ ก็ดูเหมือนข่าวธรรมดาทั่วไป แต่ถ้าลองมาพิจารณาดูให้ดีจะเห็นเรื่องผิดสังเกตุอยู่บางอย่าง เพราะธรรมดาอาเสี่ยของห้างร้านต่างๆ มันจะไม่เก็บทองคำจำนวนมากเอาไว้กับตัวเอง ส่วนมากมักจะฝากตู้นิรภัยตามธนาคารต่างๆ แต่นี่ถึงกับถอนเงินออกมาจากธนาคารจำนวนมากเพื่อซื้อทองคำแท่งมาเก็บไว้กับตัวเอง

    แสดงให้เห็นว่าอาเสี่ยเหล่านี้ต้องได้รับข่าวในเชิงลึกบางอย่าง ที่รู้เฉพาะในวงการเหล่าพ่อค้าด้วยกันเองว่า บ้านเมืองกำลังจะเกิดเหตุร้ายแรงบางอย่างเกิดขึ้น จึงได้ไปซื้อทองคำแท่งมาเก็บไว้กับตัวเป็นจำนวนมากเช่นนี้ หรือถ้าจะมองว่าเป็นนักเก็งกำไรจากราคาทองคำธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้นก็ไม่น่าจะใช่ เพราะปัจจุบันมีการเก็งกำไรจากทองคำต้วยตราสารที่เป็นเอกสารกันแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปซื้อทองคำแท่งมาเป็นจำนวนมากเช่นนี้

    ถ้าเรื่องที่ผมวิเคราะห์มานี้เป็นเรื่องจริง มันก็น่าคิดว่าคนที่มีเงินฝากในธนาคารจำนวนมากเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีทองคำเก็บไว้กับตัวเองเลย จะมีสภาพเป็นอย่างไร เมื่อเกิดเหตุการณ์จลาจลขึ้นในเมืองหลวง จนกลายเป็นสงครามกลางเมือง ธนาคารทั้งหลายจำเป็นต้องปิดตัวเองเพื่อไม่ไห้พวกก่อจลาจลบุกเข้ามาปล้นทรัพย์สินเงินทอง ที่เป็นของตัวเองและที่เป็นของลูกค้าที่ฝากเอาไว้ คนที่มีเงินฝากก็ไม่สามารถจะถอนเงินออกมาใช้ได้ ต่างคนต่างก็ต้องหนีเอาชีวิตรอดจากสงครามกลางเมือง

    สิ่งที่ผมวิเคราะห์มานี้อาจจะกำลังเกิดขึ้น หรืออาจจะไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้ แต่ถ้าท่านเป็นแฟนประจำของกระทู้นี้จริง คงจะรู้ดีนะครับว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจริงจะต้องทำตัวอย่างไรบ้าง เพราะผมก็ได้แนะนำเอาไว้หมดแล้ว......
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2009

แชร์หน้านี้

Loading...