เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

สวัสดีครับ คุณอา wanwi และ พี่ๆนักขุดฯทุกท่าน
ได้รับพระเรียบร้อยแล้วครับ


ตอนแรกผมว่าจะทักคุณอา wanwi ว่า
โพสต์เรื่องเล่านักขุดฯ ใกล้จะครบ 4,000 หน้า
น่าจะเอาพระปิดตาเนื้อผงวัดรวกฯ(ถ้ายังมีเหลือ)
มาให้ร่วมทำบุญกัน เพราะที่ผมเคยได้มา 4 องค์
ผมเอาให้หลาน 4 คนไปหมดแล้ว ของตัวเองยังไม่มีเลย

พอดีว่าคุณอา wanwi เอาลงให้ร่วมทำบุญพอดี

ขอบคุณครับ

 

พระเมืองกำแพง
พุทธพิมพ์ปาง
"ทรมานกาย"!
===========

หนังสือชั้นครูเมืองกำแพง ให้คำจำกัดความถึงพระเมืองกำแพงเพชรไว้ลึกซึ้งเห็นภาพว่า...

☆☆ พระเมืองกำแพงเพชรโดยเฉลี่ยแล้วถือว่าเป็นพระสุดยอดของประเทศไทยเหนือกว่าจังหวัดอื่นๆ เพราะแม้แต่พระพิมพ์ "องค์เล็กขนาดไหน" ก็ยังยึดอยู่กับศิลปะของแต่ละยุคแต่ละสมัย การสร้างก็ยังอาศัยรูปแบบของพระพุทธประวัติทุกพิมพ์

ดังนั้นพระของเมืองกำแพงเพชร จึงเป็นแบบอย่างมาตรฐานในการสร้างเพื่อสืบพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง เป็นการสร้างที่มีจิตเป็นกุศล และก็เป็นเช่นเดียวกันทุกยุคทุกสมัยที่มีการสร้างพระพุทธรูปบูชาและพระพิมพ์ จึงเป็นสิ่งที่มีค่าควรหวงแหน เพราะนอกจากจะเป็นพระที่มีพุทธานุภาพสูง สะอาดบริสุทธิ์

ยังเป็นมงคลวัตถุตามพระพุทธประวัติที่จะหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว เหมาะสำหรับพุทธศาสนิกชนที่มีจิตเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาด้วยความบริสุทธิ์

ซึ่งหากนำมาเทียบกับการสร้างพระในสมัยนี้ จะแตกต่างกันราวฟ้าและดิน เพราะในปัจจุบันได้เลิกสร้างโดยอาศัยพุทธประวัติแล้ว ยังลอกเลียนแบบพระที่ดังๆที่คนนิยม เพียงแค่ต้องการขายง่ายหาเงินง่ายจนกลายเป็นสินค้าตามตลาดทั่วๆไปอย่างหนึ่ง มีการโฆษณาขายตามสื่อมวลชนไม่ผิดกับการขายคอนโดมิเนียม ☆☆

นี่คือหนึ่งในพุทธพิมพ์ที่ถอดรูปแบบพุทธประวัติออกมาอย่างแยบยล ปาง"ทรมานกาย" ที่พบเจอเพียง 1 ในพันหรือ 1 ในหมื่น มีหนึ่งเดียวในแต่ละกรุ พระเนื้อดินเผาที่ "แม่เหล็กดูดติด" องค์สวยงามน่ารัก ทำปฏิกิริยาน่ารัก น่าเหลือเชื่อ

เคยนำมาขียนให้ชมนานแล้ว วันนี้นำมามอบให้ร่วมบุญเพื่อเป็นศิริแห่งชีวิตว่า ก่อนพระพุทธองค์จักทรงค้นพบวิถีธรรมอันประเสริฐสุดแล้วนำมาสอนสั่ง ชี้ทางเวไนยสัตว์ให้เดินตามไปสู่การพ้นทุกข์นั้น

พระองค์ทรงผ่านการทดลองผิด ลองถูกหลายวิธี หนึ่งในนั้นคือการทรมานกาย ก่อนพบ"ทางสายกลาง"

องค์เดียวในปฐพี จากกรุฝั่งทุ่งเศรษฐี "มีกูไว้ไม่จน" เป็นกรุพระบรมธาตุที่ใหญ่สุด พบพระมาก และมีความพิเศษอยู่อย่างสำหรับพระกรุนี้ คือ ไม่มีราดำ หากไม่เจอกับมือตัวเองไม่มีวันพานพบ...

=======3,500=======

พุทธศิลปอันเป็นเอกลักษณ์พระเมืองกำแพงคือ ส่วนใหญ่จะมีรัตนะบัลลังก์หรืออาสนะเป็นขีดใต้องค์พระ เว้นแต่จะมีอาสนะเป็นอย่างอื่น โอกาสที่จะเห็นองค์พระลอยๆอย่างพระเมืองอื่นๆ เช่น พระนางพญาของพิษณุโลก พระผงสุพรรณของสุพรรณบุรี มีน้อยมาก

องค์นี้เส้นอาสนะเป็นขีดหยัก เรียบง่ายแต่สวยงามแปลกตา

ทรวดทรงพระองค์ท่าน ผอม แขนขาเล็กเรียว ตรงตามพุทธประวัติ ใบหน้าซูบตอบ จมูกโง้งรับกับกายที่ทรมานขาดอาหาร ช่างเป็นสุดยอดจินตนาการตามพุทธประวัติที่ไร้เทียมทานหาชมยากยิ่ง โดยเฉพาะกับพระเนื้อดินเผาผสมเกสร องค์แค่ปลายข้อนิ้วก้อย

สวยสมบูรณ์ครบทุกอณู ไม่มีชำรุดอุดซ่อม ฝ้านวลดินนวลกรุขึ้นตามซอกเรื่อรำไร ดูไม่เบื่อ...!

หลังอูมเล็กน้อย ลายนิ้วมือกดทิ้งไว้ใหเป็นแนวทางศึกษา จะว่าไปเป็นลายมือองค์ครูปู่ฤาษีผู้ทรงฤทธิ์ทั้งสิ้น ยิ่งในกรุในไหมีเพียงหนึ่งองค์ ย่อมพิเศษสุดสำหรับผู้กดประทับพระองค์นี้

แลข้างอย่างเท่
สุดสวยงามที่สุด
คราบกรุบางเบา
เส้นสายลายพิมพ์
ครบจบสิ้นกังขา !

ไม่เล็กนักและไม่ใหญ่เกิน
ชมเป็นความรู้ตามสบาย
บูชาเป็นศิริมงคลก็เยี่ยม!

 

อ้อ...น้องภาสช่างสังเกตุ ผมก็เขียนไปเรื่อยไม่ยอมเมื่อยนิ้ว ไม่เห็นจริงๆว่า ใกล้สี่พันหน้าเข้าไปแล้วนะแม่ยอดยาหยี

แต่การนำพระปิดตาพิมพ์เม็ดบัวที่สวยสูสี เนื้อหาชั้นดีเหมือนกับพระปิดตาอาจารย์เปิงมาลงครั้งนี้ ก็เหมือนมี "พรายกระซิบ" เปิดตู้แล้วเห็นว่ายังมีอีกจำนวนหนึ่งที่ผมเก็บไว้เพื่อแจกหลานๆบ้าง เพราะพระองค์เล็กเลี่ยมเป็นลูกอม เด็กๆห้อยได้เท่ ไม่น่าเกลียด ผู้ใหญ่แขวนไว้ติดหลังคอก็เยี่ยม ของดีมีสกุลรุนชาติไม่หนักคอ!

ท่านเดินทางถึงเรียบร้อยก็สบายใจ ขอบคุณน้องภาสที่แจ้งและเล่าเหมือนใจตรงกันว่า แจกหลานๆไปหมด ผมก็จะแจกแต่ยังไม่ได้ทำ สงสัยต้องรีบ เดี๋ยวจะหมดกรุเสียก่อน-ฮ่า

 

รับครับ

 

เรียน พี่ wanwi
ได้โอนร่วมบุญและแจ้งคุณน้ำฝน แล้วครับ
ขอบคุณครับ

 

ยังไม่ทันปิดเครื่องหรือเอ่ยราตรีสวัสดิ์สำหรับค่ำคืนนี้ คุณศรีฯก็คว้าปาง "ทรมานกาย" พระกำแพงฝั่งทุ่งเศรษฐีที่มีหนึ่งเดียวเข้ากรุเรียบร้อย

บางท่านอาจคิดว่า ปางทรมานกายคงมีความหมายอดอยากไม่บริบูรณ์ ไน่น่านำบูชา ก็ต้องขอเรียนว่า เป็นความ "คิดลบ" อย่างมาก

เพราะตามพุทธประวัติของจริง ของแท้ปาง"ทรมานกาย" คือจุดสุดท้ายที่ทำให้พระพุทธองค์ทรงค้นพบเส้นทางแห่งการพ้นทุกข์ ดับทุกข์ เป็นเสมือนหนึ่งพลังบันดาลใจค้นพบความสำเร็จสูงสุด

ปางทรมานกาย จึงจุดประกายก่อนไปพบความสำเร็จยิ่งใหญ่ ความหมายของพระพุทธพิมพ์นี้ ก็เปรียบดั่งการข้ามห้วงน้ำใหญ่ ก้าวพ้นอุปสรรคยิ่งใหญ่ที่สุด จนบังเกิด "พระพุทธเจ้า" มหาศาสดาโลกยืนยงยาวนานกว่า 2,500 ปี

เป็นยอดคติและยอดแห่งหมุดหมาย เหมาะสำหรับการนำบูชาก้าวข้ามอุปสรรคทั้งปวง ต่อให้ใหญ่หลวงเพียงใดก็ข้ามพ้น!!!

โมทนาคุณศรีฯ จัดส่งท่านพรุ่งนี้ครับ

 

ผมไม่เอ่ยราตรีสวัสดิ์โพสท์ก่อนหน้า เพราะรู้ว่าคุณศรีฯต้องเป็นเสือปืนไวต่อให้ดึกดื่นเที่ยงคืนหรือเช้าตรู่ก็จัดไว เคลมไว

เก็บคำราตรีสวัสดิ์มาเอ่ยโพสท์นี้ แต่ไม่ลืมขอบคุณและโมทนาคุณศรีฯอีกครั้ง รวมทั้งสมาชิกทุกท่าน...จงฝันดีมีเฮง มีชัย พบแต่ความสำเร็จราบรื่น อุปสรรคศัตรูมลายหายสูญไม่เข้ามาแผ้วพาน กู้ดไนท์ครับ!

 

วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๗ ตรงกับวันพุธ แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

ได้รับพัสดุแล้วครับ พระลีลาเข็มจิ๋ว องค์จิ๋วมากครับ

 

บุญยามเช้ามาให้ร่วมอนุโมทนาตามปกติ คิดว่าฝนแรงน้ำมากคงบรรเทา กำลังจะข้าช่วงอากาศเย็น อย่ามีน้ำมาขัดจังหวะอากาศดีๆ

 

จิ๋วแจ๋วเจาะโลกองค์จริงครับ ระวังอย่าทำหล่น อาจหาท่านไม่เจอ ส่วนพระปิดตาเม็ดบัวปู่โต๊ะ พระมักจะมีรอยรานเล็กๆตามความเก่าของเนื้อหา แต่ไม่แตก ขอบคุณการแจ้งและโมทนาคุณเทพอีกหน มีแต่ความราบรื่นก้าวหน้าดั่งลีลา จิ๋วแต่แจ๋วที่ผ่านกาลเวลามาอย่างคงทนยั่งยืนน่าอัศจรรย์

 

เรื่องเล่า..."ผีหวงบ้าน"
"อาถรรพ์ธรณีสงฆ์"!!!
===============
(9).
ผมเข้าวัดแวะกราบหลวงตาอีกหน คราวนี้ไม่ได้ทำบุญแต่เล่าเรื่องป้านุ่มให้ฟังย่อๆ

ใบหน้าเรียบเฉยของหลวงตา ปรากฏรอยยิ้มน้อยๆ บอกผมเสียงเรียบว่า...

"นุ่มมาลาเหมือนกัน เขาไปเสวยบุญบ้างแล้ว ตอนนี้อยู่ชั้นจาตุมหาราชิกา ด้วยกระแสบุญที่ทำไว้ อีกอย่างการมอบเรื่องตัวเองให้ลูกนำไปช่วยสอนเด็กๆ ถือเป็น 'วิทยาทาน' การเสียสละชั้นสูง ทำให้บุญวิ่งมาอยู่ข้างหน้าบาปที่เบาบางเพราะเขาได้ชดใช้มากตามสมควร"

ผมขนลุกซู่ หลวงตาเป็นภิกษุสงฆ์ผู้มีญาณแก่กล้ารูปหนึ่งแน่ๆ ไม่เสียแรงและเป็นบุญที่ได้มากราบท่าน

"ลุงชิดเป็นอย่างไรบ้างครับหลวงตา"?

ประสาปุถุชนผมก็อดใจที่จะซอกแซกอยากรู้อยากเห็น คราวนี้หลวงตาส่ายหน้า ถอนใจเบาๆ...

"ท่าทางจะอีกนานทั้งนรกกระทะทองแดง สลับกับไฟนรกแผดเผาร่าง ฟื้นมาก็ถูกธรณีสูบจากการเบียดบังธรณีสงฆ์ วนเวียนไปเช่นนั้น ไม่รู้เหมือนกันจะชดใช้กรรมอีกกี่อสงไขย พวกเราคงตาย-เกิดอีกหลายชาติ ตาชิดก็ยังใช้ไม่หมด"...!

กราบลาหลวงตาพร้อมด้วยสมองที่โปร่งโล่ง เข้าใจลึกซึ้งถึงวิถีบาปบุญคุณโทษ ความผิดบาปมากมายชดใช้ทางโลกด้วยกฏหมาย แต่หลายอย่างที่อาศัยมือกฏหมายไม่ได้ ก็มีมือที่มองไม่เห็น ทั้งหัตถ์สวรรค์กับมือนรก "กฏแห่งกรรม" ติดตามเฝ้ามอง เฝ้าดูเป็นเงาตามตัว

หลวงตาย้ำข้อคิดว่า เป็นเรื่องน่าเศร้าที่คนทำผิดบาป มักไม่คิดว่าตนเองทำอะไรผิด ด้งนั้นการแก้ไขจึงมักจะสายเกินไปเสมอ

ผมกราบลาหลวงตากลับห้องตั้งใจอ่านบันทึกเล่มน้อยให้จบ แต่พออ่านไปอีก 2-3 หน้า พบว่าการเขียนแต่ละหน้าถัดไปล้วนเต็มไปด้วยความว้าวุ่น ขีดฆ่าบ้าง บางหน้าตัวเท่าหม้อแกงเขียนตัวสองตัวเต็มหน้า เห็นชัดว่า ป้านุ่มเริ่มสติแตกไม่เป็นผู้เป็นคน ซึ่งคงมีสาเหตุจากบาปเคราะห์บางประการกระหน้ำซ้ำเติม ทำให้ป้านุ่ม "หลุด" !!!

ผมเอาบันทึกเล่มน้อยเคาะกับฝ่ามือ ตรองดูว่าจะตามเรื่องต่อให้จบหรือพอแค่นี้ ถ้าตามให้จบก็ง่ายมาก เอาบันทึกให้ลุงสิทธิ์ดู เรื่องที่เหลือก็อาจจะได้รับการบอกเล่าจากญาติสนิทผู้นี้

เหมือนดูหนังดูละครแล้วมันค้างคาใจไม่จบเรื่อง ผมตัดสินใจถือบันทึกลงไปมอบให้ลุงสิทธิ์อ่าน โดยเล่ารื่องคร่าวๆนำร่อง

แน่ละ ลุงสิทธิ์ย่อมอยากรู้พี่สาวตนเองเขียนอะไรไว้บ้าง ก็ตั้งอกตั้งใจอ่านรวดเดียว แต่มีบางจังหวะที่หยุดเงยหน้าสูดลมหายใจแรงๆเข้าปอด หลังมือป้ายน้ำตา สะเทือนใจกับชะตากรรมที่พี่สาวคลานตามกันมาต้องพบเจอ

"ไม่น่าเชื่อ หลายอย่างผมก็เพิ่งรู้ สงสารพี่นุ่ม น่าเศร้าใจเหลือเกิน"...!

ลุงพูดเสียงเครือสะท้อนสะเทือนอารมณ์สุดขั้ว ทำเอาผมเองพลอยมีอารมณ์ร่วม แต่ก็ยังอดยิงคำถามไม่ได้

"ตอนท้าย ป้าเขียนไม่เป็นตัวหนังสือเลย ลุงพอทราบไหมครับ เกิดอะไรขึ้น"?

ลุงสิทธิ์เม้มปากเหมือนคิดว่าจะพูดดีหรือไม่ดี แต่ท้ายสุดก็หลุดเล่าออกมา คงคิดว่าผมรู้เรื่องถึงขนาดนี้แล้ว เล่าต่อก็ไม่เสียหลาย

"คงเป็นช่วง 2 ปีก่อนเสียชีวิต หลังจากสงบสุขอยู่ได้สัก ปีเศษ ลูกสาวคนเล็กจู่ๆก็หัวใจวายนอนหลับหรือที่เรียกว่า 'ไหลตาย' ไปดื้อๆอีกคน"!!!

โอ้...คุณพระช่วยด้วยเถิด ผมร้องอุทานในอกสงสารโศกนาฏกรรมชีวิตป้านุ่มจับใจ ใครที่สามารถทนทานรับมือกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดกับตนเองได้โดยไม่เป็นอะไร ถือว่าแกร่งกว่าเพชร ทรหดยิ่งกว่าเหล็กกล้า

ผมหูอื้อตาพร่ามีน้ำตารื้น ในขณะที่เสียงลุงสิทธิ์เล่าเหมือนแว่วมาจากที่ห่างไกล...

"คราวนี้พี่นุ่มสติแตกจริงๆ ไม่ยอมกินไม่ยอมนอน ไม่ยอมอาบน้ำ ขี้เยี่ยวเขลอะเกรอะกรังอยู่บนเตียง ห้องนอนเหม็น โสโครกสุดๆ ลูกสาวคนโตก็ทนไม่ไหวเพราะมีลูกยังเล็กที่ต้องดูแล ไปขอร้องให้ผมมาอยู่ช่วย ไอ้ผมก็เต็มใจทำให้พี่แท้ๆตัวเองอยู่แล้ว ก็มาช่วยสุดกำลัง"

" ผมลากเตียงกับตัวพี่นุ่มออกมาอยู่ห้องโถงเพื่อดูแลง่าย ปิดตายห้องนอน ลูกสาวคนโตช่วยดูแลไม่ไหว ขอย้ายไปอยู่บ้านเช่าบางบัวทองที่หมดสัญญาเช่าพอดี เขาบอกว่าอยู่บ้านหลังนี้ เขากับลูกคงไม่รอด"

เงื้อมมืออำมะหิตของกงกรรมช่างน่าสะพรึงกลัวเหนือสิ่งอื่นใด!!!

"ผมกัดฟันดูแลพี่นุ่มที่หมดสภาพไปแล้ว ถ้าเผลอก็ไปเอาของดิบของคาวในครัวมากิน ไข่ดิบนี่ไม่ได้เลย ตอกดูดกินเป็นของหวานทีเป็นสิบๆ ลูกสาวคนโตก็อุ้มหลานมาเยี่ยมอาทิตย์ละหน ทุกชีวิตดิ้นรนลำบากแทบเลือดตากระเด็น"

" เล่ารวบรัดแล้วกัน ที่สุดพี่นุ่มก็จากไปอย่างที่รู้กัน แต่ก็ไม่ไปไหน วนเวียนอยู่ในบ้านอยู่ที่เตียงตัวเอง เพราะสติสัมปชัญญะสุดท้ายอยู่กับเตียง ไม่คิดถึงเรื่องอื่น"

เสียงลุงสิทธิ์สั่นเครือ จนผมต้องปลุกปลอบใจด้วยการเล่าเรื่องที่หลวงตาบอก

"จริงหรือ หลวงลุงยืนยันว่าพี่นุ่มได้วาระเสวยบุญบ้างแล้ว"?

ผมยืนยันหนักแน่นว่า "จริง"...ลุงสิทธิ์ยกมือสาธุท่วมหัวปากพึมพัมฟังไม่ได้ศัพท์ คงขอบคุณเทวดาฟ้าดินคุณพระคุณเจ้า เป็นข่าวดีที่สุดในรอบหลายปีแห่งความทุกข์ทรมาน

ผมยังคงอยู่ห้องเช่าอาถรรพ์ที่คลายอาถรรพ์นั้นอีกหลายปี ลุงสิทธิ์ให้อภิสิทธิ์ผม ไม่ขึ้นราคาเช่าตามสภาพเศรษฐกิจ ทำให้ผมมีเงินเหลือพอที่จะส่งตัวเองเรียนต่อมหาวิยาลัย ว่างในวันหยุดก็เข้าไปทำบุญฟังธรรมจากหลวงตา

ลุงสิทธิ์กับลูกสาวคนโต ร่วมมือกันทำหนังสือยืนยันว่าบ้านและที่ดินผืนนี้เป็นของวัด เมื่อไหร่สามารถไถ่ถอนจำนองได้ก็จะมอบโฉนดเป็นสมบัติวัดทันที

เงื้อมมือแห่งชะตากรรม ปลดปล่อยการคุกคามชีวิตครอบครัวที่เหลือเพียง ลูกสาว หลานสาว และน้องชายป้านุ่ม พวกเขาคงต่อสู้ชะตาชีวิตต่อไป ในกระแสธารแห่งโลกและสังคม

กฏแห่งกรรมที่กระหน่ำครอบครัวนี้ยับเยินแทบเป็นผ้าขี้ริ้วถอยห่างวางมือไม่เป็นดาบซ้ำเติม

ผมได้ทำตามที่ป้านุ่มอนุญาต พยายามเรียบเรียงดัดแปลงเรื่องนี้สอนเด็กๆในห้องเรียน เล่าทีไรเด็กๆล้วนอ้าปากหวอ แต่ก็ไม่ใส่บทรุนแรงให้ตกใจ เพียงเล่าให้ "ตระหนัก" ถึงกฏแห่งกรรม และเกรงกลัวบาป

ส่วน "เรื่องเล่า" ที่เผยแพร่เป็นโอกาสแรกในที่นี้ หากคุณงามความดีพลังบุญแห่งวิทยาทานพอมี ก็ขออุทิศให้คุณป้านุ่ม ซึ่งป่านนี้คงเป็นนางฟ้าเทวีอยู่ชั้นจาตุฯ(หลวงตาบอก) และคงมีโอกาสเลื่อนลำดับชั้นสูงขึ้นไปอีก...!

=======จบ=======

 

เลขจัดส่งวันนี้

--ED 8290 3266 4 TH ราษฏร์บูรณะ